Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนโครงการคุณธรรม-รร.วัดเทพพิทักษ์_compressed

แผนโครงการคุณธรรม-รร.วัดเทพพิทักษ์_compressed

Published by Guset User, 2021-12-24 05:12:42

Description: แผนโครงการคุณธรรม-รร.วัดเทพพิทักษ์_compressed

Search

Read the Text Version

คำนำ ดว้ ยความมุ่งม่นั ท่ีจะดําเนนิ งานตามพระราชกระแสรบั ส่ังของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิ พลอดลุ ยเดช ที่ว่า“ช่วยกันสร้างคนดีให้บา้ นเมือง” โรงเรยี นวัดเทพพิทักษ์ สาํ นกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา ประถมศกึ ษาสุพรรณบรุ ี เขต 2 ไดจ้ ัดทาํ แผนพัฒนาโรงเรยี นคุณธรรม” เลม่ นข้ี ้ึน เพื่อพัฒนาศกั ยภาพครูให้ ตระหนกั ในบทบาทหน้าท่ี ความรับผดิ ชอบของอาชพี ครู การสรา้ งเสรมิ คุณธรรม จริยธรรมในโรงเรยี น และ เป็นตน้ แบบทด่ี ีงามของนักเรียนตลอดท้งั การพฒั นาคุณธรรมจริยธรรม นกั เรียนแบบองค์รวม เน้นกระบวนการ มสี ว่ นร่วมท่พี ฒั นากระบวนการคดิ เชงิ ระบบ และใชโ้ ครงงานคุณธรรม (Moral Project) เป็นเครอื่ งมือในการ เรียนร้คู วามดคี วามงามจากการลงมือปฏบิ ตั จิ ริง และมคี วามรู้สกึ เป็นเจา้ ของกจิ กรรมด้วยความภาคภมู ใิ จ พฒั นากระบวนการมสี ว่ นร่วมจากทุกภาคส่วน ในการสง่ เสรมิ และพัฒนาคุณธรรมจรยิ ธรรมนักเรยี น ลด พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในโรงเรียน ส่งเสรมิ การสรา้ งพฤตกิ รรมที่พึงประสงคเ์ พม่ิ ขึ้น เพือ่ เปา้ หมายการสร้าง คนดสี ู่สังคม รวมท้งั การพัฒนาโรงเรียนคณุ ธรรมให้เป็นตน้ แบบ และเปน็ ศูนย์การเรยี นรู้ของโรงเรียนคุณธรรม เพอ่ื เป็นการกําหนดทศิ ทางในการดําเนินงานของผูบ้ รหิ าร ครู และผู้ทมี่ ีส่วนได้สว่ นเสยี คณะครโู รงเรียนวัดเทพพิทักษ์

สำรบญั ๑ ๑-๔ เนือ้ หำ หน้ำที่ ๕-๖ ๖ สว่ นที่๑ ๖-๗ ๑.ข้อมลู ทั่วไป ๗-๘ ๒.ข้อมลู ด้านการบริหาร ๙ สว่ นท๒่ี ๙ ๑.ความเป็นมา ๙ ๒.จดุ มุ่งหมายของกิจกรรม ๑๐ ๓.หลักการจดั กจิ กรรม ๑๐- ๔.องค์ประกอบของกิจกรรม ๑๒ ส่วนท๓ี่ ๑.วสิ ยั ทศั น์ ๑๓ ๒.เปา้ ประสงค์ ๑๓ ๓.วัตถปุ ระสงค์ ๑๓ ๔.ยุทธศาสตรก์ ารดาํ เนินงาน ๑๓ ๕.แผนพฒั นาโรงเรียนคุณธรรม ๑๔- ๑๑ ๖.ผลลัพธ์/ผลพลอยได้ ๑๖ ส่วนท๔ี่ ๑.การวางแผนการดําเนนิ งาน ๒.การปฏบิ ตั ติ ามแผน ๓.การประเมินผลและการตรวจสอบการดาํ เนนิ งานตามแผน ๔.การแกไ้ ขปรบั ปรงุ การดาํ เนินงาน สว่ นท๕ี่ การกาํ กับตดิ ตามประเมินผลตรวจสอบและรายงาน ๑๕ ภำคผนวก

สว่ นท่ี ๑ ขอ้ มูลพ้นื ฐำน ๑. ข้อมูลทั่วไป ๑.๑ ชอ่ื สถานศึกษา : โรงเรยี นวัดเทพพิทกั ษ์ ตั้งอยู่ที่ : เลขที่ ๒๗๘ หมู่ ๒ ตําบล ทงุ่ คอก อําเภอสองพนี่ ้อง จงั หวดั สุพรรณบุรี รหัสไปรษณีย์ ๗๒๑๑๐ โทรศัพท์ ๐๓๕- ๔๔๐๐๔๗ สํานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสพุ รรณบุรี เขต ๒ ๑.๒ เปดิ สอนตง้ั แต่ระดับช้ันอนุบาล ๒ ถึงระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ๑.๓ เขตพืน้ ที่บริการ : หมู่ ๒ ตําบล ทุ่งคอก อาํ เภอ สองพ่ีนอ้ ง จังหวัด สุพรรณบุรี ๒. ข้อมูลด้ำนกำรบรหิ ำร ๒.๑ ประวัตโิ ดยย่อของสถำนศกึ ษำ โรงเรยี นวัดเทพพิทกั ษ์ สร้างขึน้ บนเนือ้ ท่ีดินจาํ นวน ๑๒ ไร่ ๑ งาน โดยได้รบั บรจิ าคทดี่ ินจาก นายสนิท คนผวิ เกลย้ี ง ได้รับอนญุ าตเปดิ สอนอย่างเปน็ ทางการ เมอื่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๑๒ ภายใตก้ ารนํา ของพระอธกิ ารทองหล่อ ฆรมุตฺโต (เจ้าอาวาสวดั เทพพิทกั ษข์ ณะนั้น) พรอ้ มด้วย นายประมวล สุวรรณเกดิ (นายอาํ เภอสองพนี่ อ้ งขณะนั้น) และนายพราหมณ์ เรืองสกลุ (ศกึ ษาธิการอําเภอสองพี่น้องขณะน้นั )เปน็ ผนู้ าํ ในการก่อสร้างโดยใชช้ อื่ โรงเรียนว่า “โรงเรยี นบา้ นเทพพิทักษ์” ใช้ศาลาการเปรยี ญวดั เทพพทิ กั ษเ์ ป็นท่ีเรยี น ช่วั คราว มผี ูบ้ รหิ ารโรงเรียนคนแรก ชอ่ื นายทองใบ สมบูรณ์ดี (ตําแหนง่ ครูใหญ่) เปิดสอนชั้นประถมศึกษา ปีท่ี ๑ เพยี งชนั้ เดยี วกอ่ น วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๑๒ นาวาโทอดุ มศักดิ์ ราชรตั นรักษ์ พร้อมดว้ ยกองพนั สารวัตรทหารเรือ ไดจ้ ดั สร้างอาคารเรียนแบบ ป.๑ ก ขนาด ๓ หอ้ งเรียน จํานวน ๑ หลัง งบประมาณ ๕๐,๐๐๐ บาท ต่อมา นายอาํ เภอสองพนี่ ้อง จดั สรรงบประมาณให้สรา้ งต่อเติมอกี ๑ ห้องเรยี น จึงครบ ๔ ห้องเรยี น ปี พ.ศ.๒๕๑๘ ไดร้ บั งบประมาณทางราชการ มาก่อสร้างอาคารเรยี นถาวร แบบ ป.๑ ข ขนาด ๔ ห้องเรยี น ใต้ถนุ สูง งบประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ บาท สรา้ งเสร็จเม่ือเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ปี พ.ศ.๒๕๒๐ เปลี่ยนชอ่ื โรงเรียน เปน็ “โรงเรยี นวดั เทพพิทักษ์” ปี พ.ศ.๒๕๒๑ เปิดทําการสอนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึง ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ ๒.๒ วิสยั ทศั น์ โรงเรียนวดั เทพพิทักษ์ ม่งุ พัฒนาผูเ้ รียนทกุ คนให้มคี วามรู้คู่คณุ ธรรม มสี ุขภาพร่างกายแข็งแรง มี คณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา ส่งเสริมวิชาการและเทคโนโลยี มนี สิ ัยรกั การอ่าน สืบสานงานประเพณี วฒั นธรรมไทย มใี จรักสงิ่ แวดล้อม น้อมนําหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดาํ เนินชีวิต เน้น ประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ๒.๓ เป้ำหมำย ๑. ผเู้ รียนทกุ คนมคี ุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา ๒. ผู้เรยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมท่ดี งี าม และค่านยิ มท่ีพึงประสงค์ ๓. ผูเ้ รียนทุกคนมสี ขุ ภาพร่างกายท่ีแข็งแรง มีสุขภาพจิตท่ีดี มีอารมณ์ร่าเรงิ แจ่มใส ๔. ผเู้ รยี นทกุ คนนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการดาํ รงชีวิต

๒.๔ จดุ เนน้ ในกำรบรหิ ำรของสถำนศกึ ษำ เน้นใหผ้ ู้เรยี นมสี ขุ ภาพกาย สุขภาพจิตทดี่ ี มีวนิ ัย มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยมทพ่ี ึงประสงค์ เพอ่ื ให้สถานศึกษามปี ระสทิ ธิผลของการจดั การเรยี นการสอนทีเ่ น้นผู้เรียนเป็นสําคัญ รวมทงั้ มรี ะบบการบรหิ าร จดั การและพฒั นาสถานศึกษาตลอดจนระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศกึ ษาท่ีเปน็ ระบบ การ พฒั นาสถานศึกษาใหบ้ รรลตุ ามปรชั ญา ปณิธาน วิสัยทศั น์ พันธกิจ ผลการพัฒนาตามจดุ เน้นและจุดเด่นที่ ส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา ตลอดจนผลการดาํ เนนิ งานโครงการพเิ ศษเพอ่ื สง่ เสรมิ บทบาท ของสถานศกึ ษา ๒.๕ วัตถปุ ระสงค์เฉพำะของสถำนศึกษำ ๑. เพอ่ื พัฒนาคุณธรรม จริยธรรมนกั เรยี นแบบองคร์ วมภายใตก้ ระบวนการมสี ่วนร่วม ๒. เพื่อสรา้ งความตระหนักถึงความรูส้ กึ เป็นเจ้าของกจิ กรรมด้วยความภมู ิใจ โดยการพัฒนา กระบวนการคดิ เชิงระบบ ๓. เพื่อร่วมกันจดั ทําโครงงานคุณธรรม โดยสรา้ งเป็นเคร่ืองมอื ในการเรียนรคู้ วามดีความงามจากการ ลงมือปฏบิ ตั จิ รงิ ๔. เพอื่ พฒั นากระบวนการมีส่วนรว่ มจากทกุ ภาคสว่ น ในการสง่ เสรมิ และพฒั นาคณุ ธรรมจริยธรรม นักเรยี น โดยมเี ปา้ หมายสร้างคนดีสูส่ ังคม ๕. เพื่อเฉลมิ พระเกยี รตฯิ ในหลวงรัชกาลท่ี ๑๐ และถวายเปน็ พระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลท่ี ๙ ๒.๖ ขอ้ มูลนักเรียน ปัจจบุ นั โรงเรียนมขี ้อมลู เกยี่ วกับจํานวนนกั เรียน (ข้อมูล ณ วนั ที่ ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๓) ดงั นี้ จำนวนนักเรียนปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๖๓ รวม ๑๕๔ คน ระดบั ชั้น จำนวนห้อง เพศ รวม ชำย หญิง อ.๒ ๑ ๕ ๑๓ ๑๘ อ.๓ ๑ ๗ ๑๓ ๒๐ รวม ๒ ๑๒ ๒๖ ๓๘ ป.๑ ๑ ๕๓ ๘ ป.๒ ๑ ๑๖ ๘ ๒๔ ป.๓ ๑ ๘ ๑๔ ๒๒ ป.๔ ๑ ๑๐ ๖ ๑๖ ป.๕ ๑ ๑๒ ๗ ๑๙ ป.๖ ๑ ๙๙ ๑๘ รวม ๖ ๖๐ ๔๗ ๑๐๗ รวมทั้งหมด ๘ ๗๒ ๗๓ ๑๕๕

๒.๗ ข้อมูลบคุ ลำกร ประเภท เพศ ระดบั กำรศึกษำสูงสุด บุคลำกร ชำย หญงิ ตำ่ กว่ำ ปรญิ ญำตรี สูงกวำ่ ปริญญำ ผอู้ ํานวยการ ปริญญำตรี ตรี รองผอู้ าํ นวยการ ๑- ครปู ระจาํ การ -- - -๑ พนักงานราชการ ๒๗ ครพู เ่ี ลย้ี งเด็กพิการ -- --- ลูกจ้างชวั่ คราว -- ครจู า้ งสอน -- - ๘๑ นักการภารโรง ๑- รวม -- --- ๔๗ --- --- --- --- - ๘๒ ๒.๘ สภำพชุมชนโดยรวม ๑. สภำพชุมชน สภาพชุมชนมลี กั ษณะเป็นชมุ ชนชนบท ประชาชนสว่ นใหญต่ ง้ั บ้านเรือนกระจายอยู่ ในที่ดนิ ของตนเอง มปี ระชากรทัง้ หมู่บา้ นประมาณ ๑,๒๐๐ คน สถานท่ีสําคัญบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ โรงเรียนไดแ้ ก่ วดั เทพพิทักษ์ โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพประจาํ ตําบลทุ่งคอก องคก์ ารบริหารสว่ นตาํ บลทุง่ คอก อาชีพหลักของชมุ ชน คือ ทาํ ไร่และรับจา้ งทั่วไป ประชาชนส่วนใหญน่ ับถือศาสนาพุทธ ประเพณ/ี ศลิ ปวัฒนธรรมท้องถิ่นทเ่ี ปน็ ที่รจู้ ักโดยทั่วไป คือ การอปุ สมบท ประเพณตี รุษสงกรานต์ ทําบุญวันธรรมสวนะ ตรุษจนี สารทจนี ผู้ปกครองสว่ นใหญ่ จบการศึกษาระดบั ตา่ํ กว่าปรญิ ญาตรี ประกอบอาชีพรับจ้าง คิดเปน็ รอ้ ยละ ๘๐ นับถอื ศาสนาพุทธ คดิ เป็นร้อยละ ๑๐๐ ฐานะทางเศรษฐกิจ /รายไดโ้ ดยเฉลีย่ ต่อครอบครัว ตอ่ ปี น้อยกวา่ ๓๐,๐๐๐ บาท จํานวนคนเฉลย่ี ต่อครอบครวั ๔ คน ๒. ผูป้ กครองส่วนใหญ่ ๒.๑ จบการศึกษาระดบั ชน้ั ต่ํากว่าปริญญาตรี ๒.๒ ประกอบอาชีพหลกั คือ เกษตรกรรม ๒.๓ สว่ นใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ๒.๔ ฐานะทางเศรษฐกจิ /รายได้โดยเฉลยี่ ตอ่ ครอบครวั ตอ่ ปี ๒๐,๐๐๐ - ๓๐,๐๐๐ บาท ๒.๕ จํานวนคนเฉลย่ี ตอ่ ครอบครวั ๓ – ๔ คน

๓. โอกำสและข้อจำกดั ของโรงเรียน สถานศกึ ษามีแหลง่ เรยี นรู้ท่ีหลากหลาย ชมุ ชนเขา้ มามบี ทบาทในการบริหารจดั การ สถานศึกษา และชว่ ยจดั หาทุนการศึกษาให้สาํ หรับเด็กทีเ่ รียนดี แตย่ ากจน หนว่ ยงานและองคก์ รต่างๆใหก้ าร สนับสนนุ ในกิจกรรมทุกๆดา้ น แต่เนอ่ื งจากชมุ ชนอยหู่ า่ งไกลจากตัวอาํ เภอ จงึ สง่ ผลให้ดา้ นการคมนาคม ค่อนข้างทจี่ ะลาํ บาก ผปู้ กครองสว่ นใหญไ่ ปทํางานตา่ งจงั หวัด

ส่วนท่ี ๒ แนวทำงกำรจัดกจิ กรรมกำรพฒั นำโรงเรยี นคณุ ธรรม ๑. ควำมเป็นมำ ในปี ๒๕๕๙ น้ีกระทรวงศกึ ษาธิการจะเดินหน้าผลักดันการสรา้ งโรงเรยี นคุณธรรมอยา่ งจริงจังโดย ขณะนี้มสี ถานศกึ ษาเข้าร่วมโครงการแล้วจํานวนมาก คือ โรงเรยี นในสงั กดั สพฐ. จํานวน ๓๖๗ แหง่ , สถาบนั อาชวี ศึกษา ๕๐๐ แห่ง และโรงเรยี นเอกชน ๒๕๐ แหง่ จากน้ันจะขยายผลไปยังสถานศกึ ษาจาํ นวน ๓,๐๐๐ แห่ง ภายในสิ้นปี ๒๕๕๙ และภายในปี ๒๕๖๐ จะขยายผลใหค้ รอบคลุมโรงเรยี นกวา่ ๓๐,๐๐๐ แหง่ ทว่ั ประเทศ สําหรับการดาํ เนนิ งานท่ผี ่านมา กระทรวงศึกษาธิการไดด้ ําเนินโครงการโรงเรยี นคุณธรรมใหเ้ กิดเปน็ รูปธรรม โดยมีสถานศกึ ษาที่ได้ดาํ เนนิ การมาแล้วกว่า ๓๐๐ แหง่ ซ่งึ ไมใ่ ชก่ ารนาํ ร่องแตท่ าํ จริง นอกจากน้ี โรงเรียนที่นํา รูปแบบโรงเรยี นคุณธรรมไปปรบั ใช้ กม็ คี ณุ ภาพการศึกษาดขี น้ึ ตามลาํ ดับดว้ ยรปู แบบของโรงเรียนคณุ ธรรมนนั้ เป็นรูปแบบท่ดี าํ เนินการได้งา่ ยกล่าวคือ ทุกโรงเรยี นสามารถนํารูปแบบโรงเรยี นคุณธรรมน้ไี ปใช้ได้และสามารถ ใช้ได้กบั โรงเรยี นในทุกศาสนา อกี ทั้งยังสง่ เสริมใหท้ ุกภาคส่วนได้เขา้ มามสี ว่ นร่วมไมว่ า่ จะเปน็ โรงเรยี น ผบู้ ริหาร สถานศึกษา ครู และนักเรยี น โดยเริม่ จากการระดมความคิดเพอ่ื กําหนดแนวทางไว้ ๒ บัญชี คือ บญั ชี ก. พฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงค์ ซง่ึ ทกุ คนต้องการลด ละ เลิก และบัญชี ข. พฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ ซง่ึ ทกุ คนจะ รว่ มกนั ส่งเสรมิ ใหเ้ กิดขน้ึ แล้วจงึ กําหนดคุณธรรมหลัก ๓ ประการ เพ่ือแกป้ ัญหาพฤติกรรมในบญั ชี ก. พรอ้ มท้ัง สง่ เสรมิ พฤติกรรมบญั ชี ข. จากน้ันจะมีการประเมนิ ผลหลังดําเนินการครบ ๑ ปี ซงึ่ ได้พิสูจน์มาแล้วว่าเปน็ การ ดาํ เนินการทีส่ ามารถทําไดแ้ ละได้ผลดี อีกทั้งยงั ส่งผลให้องค์กรต่างๆ ทไี่ ม่ใช่โรงเรยี นเกดิ ความสนใจและนํา หลักการของโรงเรียนคุณธรรมไปปรับใช้ เช่น โรงพยาบาลคุณธรรม จงั หวดั คณุ ธรรม อําเภอคณุ ธรรมเปน็ ตน้ นอกจากน้ีกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายกําหนดให้โรงเรียนคุณธรรมเป็นหน่ึงในตัวชี้วัด (Key Performance Indicators: KPI) ในการประกันและการประเมินคุณภาพภายใน (Internal Quality Assessment: IQA) เพื่อเป็นหลักประกันให้กับชุมชนและผู้ปกครองได้มั่นใจวา่ โรงเรยี นท่ีบุตรหลานเรียนนัน้ มี คุณภาพ โดยสถานศึกษาท่ีนํารูปแบบนี้ไปใช้ จะถือเป็นหลักประกันพื้นฐานว่าสถานศึกษาน้ันสามารถ ดาํ เนนิ การสร้างคนดใี ห้กับบ้านเมืองได้ ซึ่งต้องดําเนินการตามรูปแบบอยา่ งจริงจังและเป็นทย่ี อมรบั ได้ อยา่ งไร ก็ตาม โรงเรียนคุณธรรมเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งเท่านั้น หากสถานศึกษาใดมีรูปแบบอ่ืนในการสร้างคุณธรรม ให้กับเด็กก็สามารถดําเนินการได้ และจะได้รับการประกันคุณภาพด้วยเช่นกัน แต่จะต้องมีมาตรฐานท่ีทําให้ นักเรียนเป็นคนดี รมช. ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า การขยายผลโครงการโรงเรียนคุณธรรมให้กับสถานศึกษาทัง้ 30,000 แห่งนั้น สามารถทําได้แน่นอนเพราะสถานศึกษาแต่ละแห่งสามารถศึกษาวิธีการหรือแนวทางการ ดาํ เนนิ งานไดจ้ ากสื่อและหนังสือคมู่ ือโรงเรียนคุณธรรม หรือศึกษาจาก DVD ก็ได้ ซ่ึงจะทําใหโ้ รงเรยี นน้ันๆ นาํ แนวทางไปปฏิบตั ไิ ดเ้ อง จึงเชอื่ มั่นว่าทกุ สถานศึกษาจะเขา้ ร่วมเปน็ โรงเรียนคณุ ธรรมได้ แม้แตโ่ รงเรียนที่อยู่หาง ไกล เช่น บริเวณชายแดน ก็สามารถสร้างโรงเรียนคุณธรรมได้ด้วยการนําคู่มือโรงเรียนคุณธรรมไปประยุกตใ์ ช้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย กล่าวว่า โรงเรียนคุณธรรมได้เริ่มดําเนินการมาต้ังแต่ปี พ.ศ.2553 สืบเน่ืองมาจากการท่ีโรงเรียนบางมูลนากภมู ิวิทยาคม จ.พิจิตร ได้นําหลักคุณธรรมมาใช้แก้ปัญหา ยาเสพติด นักเรียนมีผลการเรียนต่ํา รวมทั้งการตั้งครรภ์ของเด็กนักเรียนหญิง และเมื่อประสบความสําเร็จใน การแก้ไขปัญหา จงึ ได้กลายเป็นรูปแบบ (Model) ในการนําไปแก้ไขปัญหาในโรงเรยี นอน่ื ๆ อีก ๑๙ แห่ง

จากนั้นใน พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งถือเป็นระยะท่ี ๑ ของการสร้างโรงเรียนคุณธรรม โดยพระบาทสมเดจ็ พระ เจ้าอย่หู วั ฯ ได้พระราชทานพระราชทรัพย์สว่ นพระองค์เพื่อตงั้ กองทุนการศึกษา โดยมวี ตั ถุประสงค์เพื่อ “สรา้ ง คนดีให้แก่บ้านเมือง” ในครั้งน้ันมีคณะองคมนตรี ข้าราชการเกษียณ และอาสาสมัครเข้ามาช่วยกันสร้าง รูปแบบโรงเรียนคุณธรรม ต่อมาระยะที่ ๒ (ปี พ.ศ. ๒๕๕๗) สํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ก่อตั้ง มลู นิธิยุวสถริ คณุ เพือ่ ดาํ เนินงานโครงการโรงเรียนคณุ ธรรมเร่อื ยมาจนกระทัง่ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ นี้ ถอื เปน็ ระยะ ที่ ๓ ของการสร้างโรงเรียนคุณธรรม ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายขยายแนวทางการสร้างโรงเรียน คณุ ธรรมให้กบั สถานศึกษาท่วั ประเทศ ในส่วนของรูปแบบของโรงเรียนคุณธรรมน้ัน เป็นเร่ืองที่ไม่ซับซ้อนและทําได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นการ ประหยัดงบประมาณเพราะลงทุนตํ่าแต่ได้กําไรมาก และสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียนได้ จริง โดยหลักการของโรงเรียนคุณธรรมสามารถนําไปใช้ได้กับโรงเรียนในทุกศาสนา ไม่ผูกขาดกับศาสนาใด ศาสนาหน่ึง เปรียบเสมือนเป็นคุณธรรมสากล ท้ังนี้ หลังจากดําเนินการโรงเรียนคุณธรรมแล้ว ๑ ปี จะต้องทํา การวัดผลการดําเนนิ งานว่าพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในโรงเรียน \"ลดลง\" หรือไม่ และพฤติกรรมที่พึงประสงค์ \"เพ่ิมขึ้น\" อย่างไร ซ่ึงอาจจะจัดให้มีการนําเสนอผลการดําเนินงานของแต่ละโรงเรียนด้วย และจากการ ดําเนินงานท่ีผ่านมาผลการเรียนและผลการสอบของนักเรียนในโรงเรียนคุณธรรมดีขึ้น ทําให้เกิดประโยชน์แก่ เยาวชน ผ้ปู กครอง และชมุ ชน นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น โรงเรียนคุณธรรมจะต้องมีคุณภาพด้วย เพ่ือให้ทุกคนในโรงเรียนและ ชุมชนมีความสุขทั้งกายและใจ โดยจะต้องนําระบบธรรมาภบิ าล และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ สําหรับกระทรวงศึกษาธิการนั้น ต้องคํานึงถึงระบบการบริหารงานท่ีเน้นความโปร่งใส (Transparency), ตรวจสอบได้ (Audit), มีการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) และหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับ ซ้อน (Conflict Interest) เพอ่ื ใหก้ ารดาํ เนินงานก้าวหน้าตอ่ ไปในอนาคตได้ ๒. จดุ มุ่งหมำยของกิจกรรม ๒.๑ เพือ่ พฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรมนักเรยี นแบบองค์รวมภายใต้กระบวนการมสี ว่ นรว่ ม ๒.๒ เพื่อสร้างความตระหนักถึงความรู้สึกเป็นเจ้าของกิจกรรมด้วยความภูมิใจ โดยการพัฒนา กระบวนการคิดเชิงระบบ ๒.๓ เพื่อร่วมกันจัดทําโครงงานคุณธรรม โดยสร้างเป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้ความดีความงามจาก การลงมอื ปฏิบัตจิ ริง ๒.๔ เพอ่ื พฒั นากระบวนการมสี ่วนรว่ มจากทุกภาคสว่ น ในการสง่ เสรมิ และพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม นกั เรียน โดยมเี ป้าหมายสรา้ งคนดีสสู่ งั คม ๒.๕ เพื่อเฉลิมพระเกียรตฯิ ในหลวงรชั กาลที่ ๑๐ และถวายเป็นพระราชกุศลแดใ่ นหลวงรัชกาลท่ี ๙ ๓. หลกั กำรจัดกจิ กรรม กจิ กรรมการพัฒนาโรงเรียนคุณธรรมจริยธรรมของโรงเรยี นวัดเทพพิทกั ษ์ ยดึ หลกั การสําคญั ดังน้ี ๑. กจิ กรรมท่มี งุ่ สรา้ งการมีส่วนรว่ ม เป็นกิจกรรมการเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งปฏิบตั ริ ว่ มกันทังโรงเรยี นสรา้ งเสรมิ คุณลักษณะของการทาํ งานร่วมกนั สรา้ งสรรค์ค่านิยมท่ีดงี ามของกลุ่ม มีการชว่ ยเหลอื เก้ือกูล มีความสามคั คี มี น้ําใจท่ดี ีต่อกัน และมุ่งสรา้ งประโยชนส์ ว่ นรวมมากกว่าตน

๒. กิจกรรมมงุ่ เพิ่มพูนทักษะการคิดวิเคราะหเ์ ชิงเหตุผล เป็นการเรยี นรู้ที่ใชป้ ญั หาเป็นตัวกระตุ้นให้ นกั เรียนใฝห่ าความร้เู พอื่ แก้ไขปญั หา ได้คดิ เป็น มีการตัดสินใจทด่ี ีภายใตเ้ หตุผลท่สี ืบเสาะคน้ หามา เน้นให้ นักเรยี นเกิดการเรยี นร้ดู ้วยตนเอง สามารถนําทักษะจากการเรียนรมู้ าใชแ้ กป้ ญั หาในชวี ติ ประจาํ วันได้ ๓. กจิ กรรมมุ่งเพมิ่ พนู ทกั ษะชีวิต การรจู้ ักทํางานเปน็ ทมี ทักษะการร่วมกนั แก้ปัญหา รจู้ กั การเปน็ ผนู้ ําและผตู้ ามท่ีดี รจู้ ักการสงั เกตสิ่งแวดลอ้ ม และนาํ มาใช้แกป้ ญั หาในชีวิตประจําวัน ฝกึ ทกั ษะชวี ติ ความ อดทน อดกลั้น การช่วยเหลือมีนาํ้ ใจ และจติ อาสา ๔. กจิ กรรมท่เี น้นผเู้ รยี นเปน็ สําคญั เป็นกิจกรรมทีผ่ ู้เรยี นได้ลงมือปฏิบตั ิจรงิ นกั เรียนคิด นกั เรยี น เลือก ลงมือทํา ประเมินผล และปรับแผนด้วยตนเอง ทําให้นกั เรยี นได้รับประสบการณ์ตรงเปน็ การเรียนรู้ด้วย ตนเอง และเรยี นรอู้ ยา่ งมคี วามสุข โดยมีครูเป็นทป่ี รึกษากิจกรรม ๕. กจิ กรรมท่ีสนองตอบความสนใจ ความถนดั และความต้องการของนักเรียนทุกคน เปิดโอกาสให้ นกั เรียนได้ร่วมกนั วางแผน คิดวเิ คราะห์ ระดมสมอง อภิปราย ลงมือปฏิบัติ สรุป ความรู้ถอดบทเรียนทไี่ ดร้ บั ชว่ ยสร้างความมุง่ มัน่ ในการแสวงหาความรู้ ความมนั่ ในการแสวงหาความรู้ ความมั่นใจในการแก้ปัญหาและ รว่ มสร้างสรรคค์ นวตั กรรมทด่ี ีงานด้านคุณธรรม ๖. กจิ กรรมสะท้อนบริบทจรงิ ของโรงเรยี น สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่และชวี ิตจรงิ ของนกั เรยี น ผปู้ กครองสามารถเขา้ มามีสว่ นร่วมกับโรงเรียน รวมทง้ั ชมุ ชน ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ สิ่งแวดล้อม ภาครฐั ภาคเอกชน และเครือข่ายโรงเรยี นคุณธรรม ๗. ประเมินผลการเรียนรจู้ ากสภาพจริง (Authentic Assessment) เป็นการประเมินพฤติกรรมท่ีพึง ประสงค์เพิ่มขน้ึ หรือลดลง ซ่ึงเปน็ การประเมินการปฏบิ ตั ติ นของนักเรียน (Performance Assessment) ๘. กิจกรรมท่ีจัดขน้ึ สามารถนําไปประยุกตใ์ ชใ้ นชนั้ เรยี น และการเรียนการสอนในสาระวชิ าหลกั ตา่ ง ๆ ได้ ทําให้นักเรยี นได้รบั ความรู้ตามสาระวชิ า ไดฝ้ ึกฝนคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ฝกึ การทํางานเป็นทีม ใช้ความคดิ สรา้ งสรรค์ ทาํ ใหเ้ กิดทศั นคติท่ีดีตอ่ การทาํ งานด้วยตนเอง เห็นคณุ คา่ ของการทํางานเห็นคุณคา่ ของตนเอง เกดิ ความมัน่ ใจในตนเอง รจู้ ักดูแลตนเองใหใ้ ชช้ ีวติ อย่างมีคุณค่า และเกดิ ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ๔. องคป์ ระกอบของกิจกรรม กระบวนการและขน้ั ตอนการพัฒนาโรงเรียนคุณธรรมจรยิ ธรรม อาจแบง่ องค์ประกอบของกิจกรรมได้ ๖ เรือ่ ง ดงั น้ี ๑. กจิ กรรมการพฒั นาศักยภาพครแู กนนาํ และนักเรียนแกนนํา เป็นการอบรมเชิงปฏิบตั กิ าร ใหม้ ี ความรู้ ความเขา้ ใจ ในกระบวนการพฒั นาโรงเรียนคุณธรรมจริยธรรม โดยจัดอบรมใหก้ ลุ่มครแู กนนํา และ กลุม่ นกั เรียนแกนนํา เพื่อให้เป็นกลมุ่ ปฏิบัตงิ านรเิ รม่ิ ร่วมกับผ้บู ริหาร ๒. กิจกรรมการจดั ทําแผนและโครงงานคุณธรรม เป็นการดําเนนิ งานโดยโรงเรยี นเองทุกข้ันตอน ซง่ึ ต้องอาศยั ภาวะผ้นู ําของผบู้ ริหารโรงเรียนเป็นตวั ผลกั ดัน โดยมคี รูแกนนาํ และนักเรียนแกนนํา เป็นผู้ช่วย ขับเคลื่อนเปน็ หลักในโรงเรยี น ๓. กจิ กรรมนิเทศตดิ ตาม เป็นการจัดทีมใหม้ กี ารนิเทศติดตามการทํางาน เพื่อใหค้ ําแนะนําคําปรึกษา และเป็นกําลังใจในการปฏิบตั ิงานคุณธรรมให้มคี วามต่อเน่ือง อาจจัดเป็นการนิเทศภายในและ/หรือการนเิ ทศ จากบุคคลภายนอก ก็ได้ ๔. กิจกรรมรายงานความกา้ วหน้า เป็นการจดั ประชุมนําเสนอรายงานความกา้ วหน้าในการปฏบิ ัตงิ าน ครบ ๖ เดอื น และครบปี มีการแลกเปลี่ยนเรียนร้ใู นกลมุ่ โรงเรยี นพัฒนาคุณธรรมในภูมภิ าคใกลเ้ คียง และการ

แลกเปล่ียนขา่ วสารข้อมลู ท้ังดา้ นส่ิงพิมพ์ และส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ เพ่ือสรา้ งเครือข่ายการทํางานคุณธรรม ร่วมกนั ๕. กจิ กรรมประเมินผลการเปล่ยี นแปลงพฤติกรรมในโรงเรียน เป็นการประเมนิ หาพฤติกรรมทพี่ ึง ประสงคใ์ นโรงเรียนทีเ่ พม่ิ ข้นึ และพฤตกิ รรมท่ีไมพ่ ึงประสงค์ลดนอ้ ยลง ตามทโ่ี รงเรยี นกําหนดเปา้ หมายไว้ใน แผน และวเิ คราะห์หาปจั จยั ของความสาํ เร็จในการพัฒนาโรงเรยี นคณุ ธรรม การบริหารจัดการกิจกรรมการเรยี นรู้ เปน็ งานอาํ นวยการเพอ่ื ใหเ้ กิดการขบั เคลอื่ นการพัฒนาโรงเรยี น คณุ ธรรมใหเ้ ป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และมงุ่ ผลสําเรจ็ ตามเปา้ หมายและระยะเวลาท่กี ําหนดไว้

ส่วนที่ ๓ วสิ ัยทศั น์ พันธกิจ เปำ้ หมำยและนโยบำย จดุ เน้นทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง แนวทางการพัฒนาโรงเรียนสูโ่ รงเรยี นคณุ ธรรมอยา่ งเป็นระบบ เพ่ือให้การดาํ เนนิ งานมปี ระสิทธิภาพ และบรรลุเปา้ หมายตามทคี่ าดหวังไว้ ดงั นี้ ๑. วิสยั ทัศน์ โรงเรยี นวัดเทพพิทักษ์ มุ่งพฒั นาผ้เู รียนทุกคนให้มคี วามรู้คู่คณุ ธรรม มสี ขุ ภาพร่างกายแข็งแรง มี คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ส่งเสริมวิชาการและเทคโนโลยี มนี ิสัยรกั การอา่ น สืบสานงานประเพณี วฒั นธรรมไทย มีใจรักส่ิงแวดลอ้ ม น้อมนําหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการดําเนินชวี ติ เน้นประสาน ความร่วมมอื จากทุกภาคสว่ น ๒. เปำ้ ประสงค์ มีกระบวนการพฒั นาโรงเรยี นสโู่ รงเรียนคุณธรรม ๑. ครูได้รับการพัฒนาศักยภาพในการออกแบบและจัดการเรียนรู้เชิงบูรณาการความรู้คู่ความดี และ เปน็ ต้นแบบท่ีดีงานของนักเรยี น ๒. นักเรียนในโรงเรียนคุณธรรมกลุ่มเป้าหมายแสดงอออกถึงพฤติกรรมพึงประสงค์ที่ชัดเจนเป็น รูปธรรม สม่ําเสมอ ๓. พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงคข์ องผู้บริหาร ครู และนักเรียนในโรงเรยี นกลมุ่ เปา้ หมายลดลง ๔. พฤตกิ รรมที่พึงประสงค์ของผบู้ ริหาร ครู และนักเรยี นในโรงเรยี นกลมุ่ เป้าหมายเพ่มิ ขน้ึ เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมในโรงเรียนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ผูบ้ ริหารโรงเรยี น ครู บุคลากร นักเรียน ผู้ปกครอง เป็นตน้ ๕. มีองคค์ วามรแู้ ละนวัตกรรมท่ีใช้ในการพัฒนาศกั ยภาพของครเู กี่ยวกบั การจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสม กับเนื้อหาสาระตามมาตรฐานหลักสูตรและแนวพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไข เพ่ิมเติม พ.ศ. ๒๕๔๕ พรอ้ มกบั การสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม ๓. วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ พฒั นาศักยภาพครใู นการออกแบบและจัดการเรียนร้เู ชิงบูรณาการความรู้คู่ความดี และเปน็ ต้นแบบที่ดงี านของนกั เรียน ๒. เพื่อพฒั นาคุณธรรม จริยธรรมนักเรยี นแบบองค์รวม เน้นกระบวนการมสี ่วนรว่ มทีพ่ ัฒนา กระบวนการคดิ เชงิ ระบบ และลงมือปฏิบัติจริง ๓. เพ่ือพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมจากทกุ ภาคสว่ น ในการส่งเสรมิ และพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม นกั เรยี นลดพฤติกรรมท่ไี ม่พงึ ประสงค์ในโรงเรียน ส่งเสรมิ การสร้างพฤติกรรมที่พงึ ประสงค์ เพือ่ เป้าหมายการ สรา้ งคนดสี ู่สังคม ๔. เพื่อพัฒนาศักยภาพครูให้มีความรู้ความเขา้ ใจในกลวธิ ีการจดั การเรยี นรูท้ เ่ี หมาะสมกับเนอ้ื หาสาระ ตามมาตรฐานหลกั สตู รที่กําหนดไว้ ตระหนักในบทบาทหน้าท่ี ความสําคญั ของอาชีพครู และการสรา้ งเสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมในโรงเรยี น

๔. ยทุ ธศำสตรด์ ำเนนิ งำน ๑. ผนึกกาํ ลงั ของผู้บริหาร ครู และนักเรียนลงมือปฏิบัตคิ ุณธรรมทว่ั ทง้ั โรงเรยี น โดยใช้โรงเรยี น คุณธรรมที่ดาํ เนนิ การแล้วเปน็ ฐานในการกระจายโรงเรยี นเพิ่มเนน้ การรวมพลังของผูบ้ ริหารโรงเรียน ครู บคุ ลากร นักเรียน รวมทง้ั ผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษา และชมุ ชนท้องถ่นิ เพื่อลดพฤติกรรมท่ีไม่พงึ ประสงค์ในโรงเรยี น และเพิ่มพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์รว่ มกันข้นึ ๒. สรา้ งระบบสนับสนนุ การปฏิบัติงานดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรมในโรงเรยี น โดยจัดนิเทศ ใหค้ ําปรึกษา แก่บุคลากรผู้รับผิดชอบโครงการโรงเรียนคณุ ธรรมท่ีผา่ นการอบรมแล้ว เพ่ือสร้างความร่วมมอื และรกั ษาความ ต่อเนอ่ื งสม่ําเสมอในการพัฒนาพฤติกรรมที่พึงประสงคใ์ นโรงเรียน เพม่ิ ทีมงานวิทยากรด้านการฝึกอบรมและ การนิเทศงาน เพื่อยกระดับคุณภาพการดําเนนิ งาน และใชเ้ ปน็ แบบอยา่ งในการขยายผล เพอ่ื ความย่ังยนื ๓. พัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมการเรียนรดู้ า้ นคณุ ธรรมจริยธรรม โดยการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ถอดบทเรียนโรงเรยี นคณุ ธรรมจริยธรรม รวมทัง้ วิจยั เรอื่ งที่เกี่ยวขอ้ ง เพื่อใหม้ ีองค์ความรู้และนวัตกรรมการ เรยี นรูท้ ่ถี กู ต้อง หลากหลาย ทนั ต่อเหตุการณ์ และสะดวกในการเผยแพร่ เพอื่ ความก้าวหน้าทางวชิ าการด้าน คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ๕. แผนพัฒนำโรงเรยี นคณุ ธรรม แผนพัฒนำโรงเรยี นคณุ ธรรมจริยธรรม คณุ ธรรมเปำ้ หมำย (ปรบั เปล่ียนตำมคุณธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรียน) คุณธรรมเปำ้ หมำย พฤตกิ รรมบงชี้ ๑. มคี วามรับผิดชอบ ๑. ทาํ งานทไี่ ด้รบั มอบหมายด้วยความเต็มใจ ๒. ชว่ ยเหลอื งานโรงเรียนและชุมชน ๓. รับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ี ๒. มวี ินยั ๑. แตง่ กายถกู ต้องตามวนั ของโรงเรยี น ๒. มาโรงเรยี นตรงเวลา ๓. ประพฤตติ นเป็นแบบอยา่ งท่ดี ี ๓. จติ สาธารณะ ๑. รักษาความสะอาด เก็บขยะโดยไม่รอคาํ สัง่ จากครู ๒. ช่วยเหลืองานโรงเรียน ดว้ ยความเต็มใจ คณุ ธรรมอัตลักษณ์ รับผิดชอบต่อหนา้ ท่ี วนิ ัยดี มจี ิตสาธารณะ คุณธรรมอัตลกั ษณ์ คณุ ธรรมเปำ้ หมำย พฤติกรรมบ่งช้ีเชงิ บวก (จำแนกตำมกลมุ่ ) ผู้บริหำร ครู นกั เรยี น ๑.มคี วามรบั ผิดชอบ นเิ ทศการเรียนการสอน ๑. เตรยี มสอ่ื วสั ดุ ๑. สง่ งานตรงเวลา ตาม กําหนดการ อุปกรณ์ ประกอบการสอน ๒. ท้งิ ขยะลงถังภาชนะที่ ๓. ส่งงานทไ่ี ด้รับ จดั เก็บ มอบหมาย ตามกาํ หนด

คุณธรรมอตั ลักษณ์ คณุ ธรรมเป้ำหมำย พฤติกรรมบ่งช้เี ชงิ บวก (จำแนกตำมกลุ่ม) ผบู้ รหิ ำร ครู นกั เรียน ๒.มวี นิ ัยดี ๑. ปฏิบัติหน้าท่ตี รงเวลา ๑. มาทํางานและเขา้ สอน ๑. เดนิ แถวไปเรยี นเปน็ ๓.จติ สาธารณะ และเต็มเวลา ๒. พดู จาสุภาพ ตรงเวลา ระเบยี บ ปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ทง้ั ในและ ๒. พดู จาสุภาพ ๒. พดู จาสุภาพ นอก เวลา ชว่ ยเหลืองานของโรงเรียน ๑. รกั ษาความสะอาด ดว้ ยความเตม็ ใจ เกบ็ ขยะโดยไม่รอคาํ สัง่ จากครู ๒. ชว่ ยเหลอื งาน โรงเรยี น ด้วยความเต็ม ใจ รำยชอ่ื โครงงำนและคุณธรรมเปำ้ หมำยท่ีดำเนินกำร คุณธรรมเป้ำหมำย ผู้รบั ผดิ ชอบ (ครู/นกั เรยี น/ชัน้ โครงงำน ๑. รบั ผิดชอบ ๑. วนิ ัยดี ๓. มีจิต ต่อหนำ้ ท่ี สำธำรณะ เรยี น/สภำ โครงงานนกั เรียนเข้า นกั เรียน/อ่นื ๆ) แถวเป็นระเบียบ  นกั เรยี นระดบั ชั้น โครงงานนักเรยี นเข้า  อนบุ าล ๒ แถวเป็นระเบยี บ นักเรียนระดับชัน้ ห้องเรยี นสะอาดด้วย  อนบุ าล ๓ มือเรา นกั เรยี นระดับชน้ั มีวนิ ยั ใสใ่ จเร่อื งการ  ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ แต่งกาย นกั เรียนระดบั ช้นั เหลาทงิ้ ให้ลงถัง  ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ เดก็ ดีมีความ  นักเรียนระดบั ชน้ั รบั ผดิ ชอบ ทาํ และสง่ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ งานตามกําหนด นักเรียนระดับช้ัน ประถมศึกษาปที ี่ ๔

โครงงานห้องเรียน  นกั เรยี นระดบั ชน้ั สะอาด บรรยากาศ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ น่าเรยี น คุณธรรมเป้ำหมำย ผู้รับผิดชอบ โครงงำน ๑. รับผดิ ชอบ ๑. วินัยดี ๓. มีจติ (ครู/นกั เรียน/ช้ัน ตอ่ หน้ำท่ี สำธำรณะ โครงงานแต่งกายดี เรยี น/สภำ เปน็ ศรีแกต่ น  นักเรียน/อืน่ ๆ) โครงงานเปลญวน  นกั เรยี นระดบั ชั้น จากถุงนม ประถมศึกษาปที ่ี ๖ นักเรยี นทุกคน ๖. ผลลัพธ์/ผลพลอยได้ ๑. ครูมคี วามตระหนักในบทบาทหนา้ ที่ ความรบั ผดิ ชอบ ความสําคัญและคุณคา่ ของอาชีพครู มี ศักยภาพในการออกแบบและจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่ือพฒั นาคุณธรรมจรยิ ธรรมนักเรียนตลอดจนปฏบิ ตั ิตน เปน็ แบบอยา่ งครทู ี่ดี เป็นท่ยี อมรับทัว่ กัน ๒. นักเรียนมที กั ษะกระบวนการคิด มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มที กั ษะในการดาํ เนนิ ชวี ิตโดยใชห้ ลกั ศาสนาเปน็ ฐาน ๓. พฤติกรรมของผ้บู ริหารโรงเรยี น ครู บุคลากร นกั เรยี น และผ้ปู กครองเปลีย่ นแปลงไปสู่ทิศทางทด่ี ี ขนึ้ ๔. นกั เรียนมผี ลการเรียนท่ีดีข้ึน และผลการสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติขนั้ พน้ื ฐานอยู่ในระดับท่ดี ีขน้ึ ๖. นวัตกรรมการจดั การเรยี นรูเ้ พ่ือพฒั นาคุณธรรมนกั เรยี นได้รับความสนใจจากนกั วิชาการ ในการ นําไปต่อยอดขยายผลเชิงวิชาการใหแ้ พร่หลาย ๗. หนว่ ยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม สังคมชุมชน ประชาชนให้ความสนใจ และมีสว่ น รว่ มในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมรว่ มกนั เพ่ือความสขุ ของประเทศ เมื่อโรงเรียนได้พัฒนาเป็นโรงเรียน คุณธรรมแล้ว ทกุ ฝา่ ยจะได้รบั ประโยชน์ท้ังทางตรงและทางออ้ ม

ส่วนท่ี ๔ กระบวนกำรกำรขบั เคลือ่ นกำรดำเนนิ งำน ๑. กำรวำงแผนกำรดำเนนิ งำน ผู้บรหิ ารและครแู กนนาํ พัฒนาแผนงานคณุ ธรรมและโครงงานข้ึนในโรงเรียนโดยมีนกั เรยี นแกนนําเป็น ทีมงานปฏบิ ตั ิ ร่วมกบั นักเรยี นท้งั โรงเรียน ซงึ่ มีขน้ั ตอนการดาํ เนนิ งานดังนี้ - ผบู้ ริหารโรงเรยี นแต่งตั้งคณะทาํ งานและมอบหมายงาน - ผบู้ รหิ ารโรงเรียนจดั ประชุมคณะทาํ งานพัฒนาแผนงานคุณธรรมของโรงเรียน - โรงเรยี นประชมุ กําหนดคุณธรรมเป้าหมายและระบุพฤติกรรมบง่ ชีเ้ ชงิ บวก - แต่ละกล่มุ จัดประชุมระดมสมองเพื่อจดั ทําโครงงานคณุ ธรรม - ผ้บู ริหารโรงเรียนกาํ กบั ตดิ ตามให้คําปรึกษาหารือในการลงมอื ปฏบิ ัตโิ ครงงานคณุ ธรรม - ผูบ้ ริหารโรงเรียนจดั ประชุมประเมินผลการปฏิบตั โิ ครงงานคุณธรรม - ผู้บรหิ ารโรงเรยี นจดั ประชุมประเมินผลการปฏบิ ัตโิ ครงงานคุณธรรมเป็นช่วงๆ แลว้ ปรบั ปรงุ แผน แก้ไขปญั หาให้ลุลว่ ง ๒. กำรปฏบิ ตั ิตำมแผน ทุกคนในโรงเรียนร่วมมอื กันลงมอื ปฏิบตั โิ ครงงานคุณธรรมทง้ั โรงเรียน ทรี่ ว่ มกันคดิ ร่วมแก้ปัญหา ปรบั ปรุงแผน และประเมินผลอย่างต่อเนอื่ งสมํา่ เสมอจนบรรลุผลสาํ เร็จ ซึ่งมขี ้นั ตอนการดําเนนิ งานดงั นี้ - ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันระดมความคิด วเิ คราะห์ เชอ่ื มโยง ปัญหาและสาเหตุของปัญหา - ระบุเปา้ หมายที่ต้องการแก้ไขปัญหาน้ัน ๆ โดยกําหนดเปน็ คณุ ธรรมเปา้ หมาย - วางแผนและออกแบบวธิ ีแก้ไข โดยกาํ หนดเป็นพฤติกรรมที่พงึ ประสงค์ - ลงมือทําตามท่ีกําหนด มีการตดิ ตามบนั ทึกข้อมลู อยา่ งเปน็ ระบบ - ประมวลสรปุ ผลและประเมนิ ผลตามเป้าหมายท่ีกําหนดไว้ ๓. กำรประเมนิ ผลและกำรตรวจสอบกำรดำเนนิ งำนตำมแผน โรงเรียนจดั ให้มคี ณะทาํ งาน/ผู้นเิ ทศภายใน ไปติดตามเยยี่ มชมการปฏิบัตโิ ครงงานคุณธรรมของแตล่ ะ กลมุ่ เพ่ือใหค้ าํ ปรึกษาหารือ ซง่ึ มีขน้ั ตอนการดาํ เนนิ งานดังน้ี - ผ้บู ริหารโรงเรยี นแต่งตั้งคณะทํางานนเิ ทศติดตามภายในและมอบหมายงาน - ผู้บริหารโรงเรียนจัดประชมุ คณะทาํ งานพัฒนาแผนการนเิ ทศตดิ ตามภายในเพ่ือวาง แผนการปฏิบัตงิ าน และกาํ หนดตัวช้วี ดั ของโรงเรยี น และจัดให้มกี ารประชมุ หารอื ผลการปฏบิ ัตงิ านอยา่ ง สม่ําเสมอตลอดปี ๔. กำรแก้ไขปรับปรุงกำรดำเนินงำน

ผ้บู รหิ ารโรงเรียนจดั ประชมุ ประเมนิ ผลการปฏิบัตโิ ครงงานคุณธรรมเปน็ ชว่ งๆ แลว้ ปรบั ปรุงแผน แกไ้ ข ปญั หาให้ลลุ ่วง สว่ นท่ี ๕ กำรกำกบั ตดิ ตำมประเมินผลตรวจสอบและรำยงำน กจิ กรรมการพฒั นาโรงเรยี นคุณธรรม ควรมีระยะเวลาดําเนินงานประมาณ ๑ ปี เม่อื มี การประเมินผลการปฏิบตั ิครบรอบปีแล้ว จะนําผลการประเมนิ มาปรบั ปรุงแผนของรอบปตี อ่ ไป ดังน้ี แนวทำงกำร ตวั ช้วี ัด ช่วงเวลำ ดำเนินงำน เดอื นที่ ๒-๓ ๑.๑ กจิ กรรมการ ๑) ผ้บู รหิ ารโรงเรียนเข้ารับฟังวัตถปุ ระสงคแ์ ละแนว พัฒนาศักยภาพครูแกน ทางการพฒั นาเข้าสู่โรงเรยี นคณุ ธรรม และนํามาถ่ายทอด เดือนที่ ๒-๑๒ นาํ และนกั เรยี นแกนนาํ ใหแ้ กผ่ เู้ กี่ยวข้อง ๒) ผ้บู ริหารโรงเรยี นส่งรายชอื่ ครูแกนนําเข้าอบรมเชิง ๑.๒ กจิ กรรมการจดั ทาํ ปฏิบตั ิการ ที่ต้นสงั กัดจัดข้ึน แผนและโครงงาน ๓) ผู้บริหารโรงเรียนส่งรายชอ่ื นกั เรยี นแกนนําเข้าอบรมเชิง คณุ ธรรม ปฏบิ ัติการทีต่ น้ สังกัดจัดข้ึน หรอื โรงเรยี นจดั ข้ึนโดยครู แกนนาํ ทผ่ี ่านการอบรมแล้วเป็นวทิ ยากร ๔) ผ้บู รหิ ารโรงเรียนนาํ ผูแ้ ทนครูและผู้แทนนักเรียนไป ศึกษาดงู านโรงเรียนคุณธรรมตน้ แบบ ท่ีต้นสงั กดั จัดขึ้น หรอื โรงเรียนดาํ เนนิ การเอง ๑) ผ้บู ริหารโรงเรยี นแต่งตง้ั คณะทาํ งานและมอบหมายงาน ๒) ผบู้ รหิ ารโรงเรยี นจัดประชมุ คณะทาํ งานพัฒนาแผนงาน คุณธรรมของโรงเรียน ๓) โรงเรยี นประชมุ กําหนดคุณธรรมเปา้ หมายและระบุ พฤติกรรมบง่ ชีเ้ ชงิ บวก ๔) แต่ละกลมุ่ จดั ประชมุ ระดมสมองเพ่ือจัดทําโครงงาน คุณธรรม ๕) ผู้บริหารโรงเรียนกํากับติดตามให้คาํ ปรึกษาหารือในการ ลงมือปฏิบตั โิ ครงงานคณุ ธรรม ๖) ผูบ้ รหิ ารโรงเรียนจัดประชมุ ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิ โครงงานคุณธรรมเป็นชว่ ง ๆ แลว้ ปรบั ปรุงแผน แกไ้ ข ปัญหาให้ลลุ ่วง

แนวทำงกำร ตัวช้วี ดั ช่วงเวลำ ดำเนินงำน เดือนที่ ๔, ๘, ๑๑ ๑.๓ กิจกรรมการนิเทศ ๑) ผบู้ ริหารโรงเรยี นแต่งตงั้ คณะทํางานนิเทศตดิ ตามภายใน ตดิ ตาม และมอบหมายงาน เดือนท่ี ๖, ๑๒ ๒) ผู้บรหิ ารโรงเรียนจัดประชุมคณะทาํ งานพัฒนาแผนการ เดอื นที่ ๑๒ ๑.๔ กจิ กรรมรายงาน นเิ ทศติดตามภายในเพ่ือวางแผนการปฏบิ ตั ิงาน และกําหนด ความก้าวหน้า ตัวชีว้ ดั ของโรงเรยี นและจดั ให้มีการประชุมหารือผลการ ตลอดปี ปฏบิ ตั ิงานอยา่ งสม่ําเสมอตลอดปี ๑.๕ กิจกรรม ๓) โรงเรยี นประสานงานกบั ผู้นเิ ทศติดตามของตน้ สงั กดั ประเมินผลการ ๑) ผ้บู รหิ ารโรงเรียนจดั ประชุมเตรยี มนําเสนอรายงาน เปลีย่ นแปลงพฤติกรรม ความกา้ วหนา้ รอบ ๖ เดอื นและเมื่อครบรอบปี ในโรงเรียน ๒) โรงเรียนนาํ เสนอผลงานความสําเรจ็ ในเวทีทต่ี น้ สังกดั จดั ขน้ึ ๑) ผู้บรหิ ารโรงเรยี นประชมุ รวบรวมผลการปฏิบตั ิงานด้านตา่ ง ๑.๖ การบริหารจดั การ ๆ ทุกโครงการ/โครงงานเพ่อื สะท้อนการปฏบิ ตั คิ ุณธรรมความ กจิ กรรมการพฒั นา ดรี ว่ มกนั โรงเรียนคุณธรรม ๒) โรงเรียนจัดประเมินผลพฤติกรรมที่พงึ ประสงค์เพ่ิมข้ึนและ พฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงค์ลดลง ๑) ผบู้ ริหารโรงเรยี นสรา้ งการมีส่วนร่วมในการวางแผนการ ปฏบิ ัตงิ าน กาํ หนดตัวช้ีวัด กํากบั ติดตามการปฏิบัติงาน แก้ไข ปัญหา และประเมนิ ผล ๑.๗ สอ่ื /กระบวนการ ๑) โรงเรียนได้รับสอ่ื ในการบ่มเพาะคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เดือนที่ ๑–๓ เรยี นรู้คณุ ธรรม ให้เป็นคนดี มคี ุณธรรม มีความสามารถในการส่อื สารอย่าง สรา้ งสรรค์ จากทางโรงเรยี นต้นแบบ (โรงเรยี นสัตยาไส และ โรงเรยี นปญั ญาประทีป) ๒) โรงเรยี นมกี ระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ในการบ่ม เพาะคุณลักษณะอนั พึงประสงคใ์ ห้เป็นคนดี มีคณุ ธรรม มี ความสามารถในการส่ือสารอย่างสร้างสรรค์ ในรปู แบบตา่ ง ๆ เช่น การบูรณาการในแตล่ ะสาระวิชา หรือ กจิ กรรมเสรมิ ใน เวลาว่าง เปน็ ตน้

ภำคผนวก

โครงงำนคุณธรรม นักเรียนเขำ้ แถวเปน็ ระเบียบ 1) ช่อื โครงงำน “นกั เรียนเขา้ แถวเปน็ ระเบียบ” 2) ท่มี ำและควำมสำคัญของปัญหำ จากการดําเนินชีวิตประจําวันของนักเรียนโรงเรียนวัดเทพพิทักษ์ พบว่า นักเรียนระดับปฐมวัย เข้า แถวทํากิจกรรมหน้าห้องเรียนไม่เป็นระเบียบจึงทําให้ เวลาเข้าแถวทํากิจกรรมหน้าห้องเรียนดูไม่มีความเป็น ระเบยี บเรียบรอ้ ย ดังน้ัน นักเรียนระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2563 จึงมีความสนใจท่ีจะทําให้ปัญหาดังกล่าวหมดสิ้น ไป จึงได้จัดทําโครงงานคุณธรรม เรื่อง “นักเรียนเข้าแถวเป็นระเบียบ” ขึ้นเพ่ือให้นักเรียนระดับ ปฐมวัย โรงเรียนวัดเทพพิทักษ์ ปีการศึกษา 2563 จํานวน 38 คน มีความรับผิดชอบ มีความเป็นระเบียบ เรียบรอ้ ยและมีวนิ ัยมากข้นึ 3) วตั ถุประสงค์ 3.1 ด้านความรู้ (Knowleadge) เพื่อใหน้ ักเรยี นมีความรู้และความเขา้ ใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบ ความมีระเบยี บวนิ ัยของนกั เรียน 3.2 ด้านกระบวนการปฏิบัติ (Process) เพ่ือให้นักเรียนเข้าแถวทํากิจกรรมอย่างเป็นระเบียบและ ฝึกการมีความรบั ผดิ ชอบ ความมีระเบียบวนิ ยั 3.3 ดา้ นเจตคติ (Attitude) เพื่อปลูกฝงั ใหน้ ักเรยี นมรี ะเบยี บวินัย มคี วามรบั ผดิ ชอบใหแ้ กน่ ักเรียน ** 3.4 เพื่อเปน็ การถวายพระราชกศุ ลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั (รชั กาลที่ 9)** 4) ปญั หำ นกั เรยี นขาดระเบียบวนิ ยั ในการเข้าแถวทาํ กิจกรรมหน้าห้องเรียน 5) สำเหตขุ องปัญหำ 1. นักเรยี นเข้าแถวทาํ กิจกรรมหนา้ ห้องเรยี นไม่เปน็ ระเบยี บ 2. นักเรยี นยงั ขาดต้นแบบในการเขา้ แถวทาํ กจิ กรรมอยา่ งเปน็ ระเบียบวนิ ัย 3. นกั เรียนมีพฤตกิ รรมขาดความรบั ผิดชอบ 6) กลุ่มเปำ้ หมำย - เชงิ ปริมาณ : นักเรียนระดับปฐมวยั โรงเรยี นวัดเทพพทิ กั ษ์ จาํ นวน 38 คน - เชิงคุณภาพ : นักเรียนระดับปฐมวัยโรงเรียนวัดเทพพิทักษ์ มีความรับผิดชอบ มีระเบียบและวินัย ในการเข้าแถวทํากจิ กรรมหนา้ ห้องเรียนอย่างเปน็ ระเบียบ - เป้าหมายระยะสั้น (ระยะเวลา 6 เดือน) นักเรียนระดับปฐมวัยโรงเรียนวัดเทพพิทักษ์ มีระเบียบ วินัยในการเข้าแถวทํากจิ กรมอย่างเปน็ ระเบยี บ - เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา 12 เดือน) นักเรียนระดับปฐมวัย โรงเรียนวัดเทพพิทักษ์ มี ความรับผดิ ชอบและมีระเบียบวินยั ในการเขา้ แถวทํากจิ กรรมหน้าห้องเรยี นและเรยี งแถวอยา่ งเปน็ ระเบียบ

7) วธิ ีกำรแก้ไขปญั หำ 1. สรา้ งความตระหนักและจติ สาํ นึกในการสร้างความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยใหก้ บั นักเรยี น 2. ฝกึ ให้นักเรยี นเขา้ แถวและจัดเรยี งแถวอยา่ งเปน็ ระเบยี บ 3. ผูบ้ รหิ าร และครเู ป็นแบบอย่างท่ีดใี ห้แกน่ ักเรยี น 4. ยกย่องชมเชย ให้รางวลั กับนักเรยี นทีท่ ําดีเพือ่ เปน็ ขวญั และกาํ ลังใจ 8) หลกั ธรรมทีน่ ำมำใช้ อิทธิบาท 4 - ฉันทะ มใี จรักในงานท่ที ํา - วิริยะ ความขยนั หมั่นเพยี ร - จิตตะ ความเอาใจใส่ - วิมงั สา ทบทวนหาเหตผุ ล ในสง่ิ ท่ไี ดร้ ับ 9) ควำมเชอื่ มโยงส่คู ณุ ธรรมอัตลกั ษณ์ เช่ือมโยงกบั คุณธรรมเป้าหมาย : รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ วินัยดี มจี ติ สาธารณะ พฤติกรรมบ่งช้ีเชิงบวก : ผู้บริหารและครูมีการปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของความมีระเบียบ วินัยและรับผิดชอบ และเอาใจใส่นักเรียนในการเรียนการสอน การปฏิบัติตนของนักเรียน นักเรียนมีความ รบั ผิดชอบต่อหน้าท่ขี องตนเองจดั เรยี งรองเทา้ ได้เป็นระเบยี บเรียบรอ้ ยเปน็ ประจํา 10) วิธกี ำรวัดและประเมนิ ผล 10.1 วิธีการวดั ผล วธิ กี ารประเมินผล : การสังเกต 10.2 เคร่อื งมอื การวัดผล เครอื่ งมือท่ใี ช้ในการประเมิน : แบบสังเกต 10.3 ช่วงระยะเวลา ชว่ งเวลาการประเมิน : สัปดาหล์ ะ 3 ครัง้ 11) ผ้รู บั ผิดชอบโครงงำน 12) ทปี่ รกึ ษำโครงงำน 1. นางลมฝน ตะลึงธรรม ตาํ แหนง่ ครู คณุ ครปู ระจําชนั้ อนบุ าลปีที่ 3 คณุ ครูประจาํ ชน้ั อนุบาลปีท่ี 2 2. นางสาวสดุ ารัตน์ อนิ ทรเ์ พชร ตําแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย

โครงงำนคณุ ธรรมระดับชนั้ ป. 1 ชือ่ โครงงำน ห้องเรียนสะอำดด้วยมือเรำ ปัญหำ ห้องเรยี นไม่สะอาด ครผู ูร้ บั ผิดชอบโครงกำร นางสาวลดั ดา ทองเหม สำเหตขุ องปัญหำ 1. นกั เรยี นขาดความรับผดิ ชอบในการรักษาความสะอาดหอ้ งเรยี น 2. นักเรียนท่เี ปน็ เวรทาํ ความสะอาดขาดความรบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ี วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อใหห้ อ้ งเรียนสะอาดข้นึ 2. เพอื่ ให้นักเรยี นรักษาความสะอาดห้องเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 3. เพ่อื ให้ห้องเรียนมีบรรยากาศท่เี อื้อต่อการจดั การเรียนการสอน เป้ำหมำยของปญั หำ - เป้าหมายเชิงปรมิ าณ นักเรยี นช้ัน ป.1 จาํ นวน 9 คน - เป้าหมายเชงิ คุณภาพ หอ้ งเรียนสะอาดน่าอยนู่ า่ เรยี นตามเกณฑก์ ารประเมนิ - เปา้ หมายระยะส้ัน (ทกุ วัน) ผา่ นเกณฑ์การประเมินความสะอาดของห้องเรียน เกนิ 80 % - เป้าหมายระยะยาว (12 เดือน) ผ่านเกณฑ์การประเมินความสะอาดของหอ้ งเรยี น 100 % วธิ ีแกไ้ ขปัญหำ 1. สํารวจอปุ กรณท์ ่จี าํ เป็นในหอ้ งเรยี น และแจ้งกับทางโรงเรยี นเพ่อื จัดหาอุปกรณ์ท่ี ขาด 2. ใหค้ วามรู้เรอ่ื งการทําความสะอาดหอ้ งเรียนใหก้ บั นักเรียน ชั้น ป. 1 ท่ีมีหน้าที่ หลักธรรม/คำสอน รบั ผิดชอบทําความสะอาดห้องเรยี นดังนี้ 2.1 มอี ุปกรณท์ ําความสะอาด โดยมีไม้กวาด 3 ด้าม ไม้ถูพน้ื 1 อนั ถังน้าํ 1 อนั 2.2 กวาดพื้น 2.3 เชด็ กระดาน 2.4 ถูพนื้ 2.5 จดั โต๊ะ เก้าอี้ 2.6 ทง้ิ ขยะ หลกั ธรรมเรื่อง มรรคมีองค์แปด ประกอบด้วย 1. สมั มาทฐิ ิ คอื การรจู้ กั ส่ิงท่คี วรทํา และไม่ควรทํา มีคา่ นยิ มที่ถกู ต้องในการ ดํารงชวี ิต 2. สมั มาสังกปั ปะ คือการมีความคดิ ทถี่ ูกตอ้ ง ไมเ่ บียดเบยี นผอู้ ื่น รบั ผิดชอบใน สิ่งทต่ี นเองได้กระทําไม่ทําให้ผอู้ ่ืนต้องเดือดร้อนจากการกระทาํ ของตน

คุณธรรมเปำ้ หมำย และการใช้ โยนโิ สมนสิการ กํากับควบคุมความประพฤติ ใหเ้ ขา้ ใจความหมายของ การกระทําของตน ความรับผิดชอบ พฤติกรรมบ่งช้เี ชงิ บวก นักเรยี นช่วยกันรักษาความสะอาด ตัวชวี้ ัด หอ้ งเรียนสะอาด วธิ กี ำรประเมิน ประเมินความสะอาดของห้องเรียน โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้ 1.ไม่มขี ยะล้นถัง หรือเกล่ือนกลาดบริเวณพื้น 2. ไมม่ ดี ินบรเิ วณพ้นื 3. พ้นื ไม่มีคราบนม - น้ําบริเวณพ้นื เครื่องมอื ท่ใี ชป้ ระเมิน ใบประเมนิ คุณภาพความสะอาดของห้องเรียน ชว่ งเวลำดำเนนิ กำร ตลอดปกี ารศกึ ษา 2563

โครงงำนคุณธรรม เรอ่ื ง มีวนิ ัยใสใ่ จเร่ืองกำรแต่งกำย ที่มำและควำมสำคญั ของปัญหำ เนอื่ งจากปจั จบุ ันนักเรยี น มคี ่านิยมในเรื่องการแต่งกายชุดนักเรียนทีห่ ลายหลาก และเปลยี่ นไปจาก เดิม ทัง้ นอี้ าจะมีมาจากกระแสนยิ ม มีการรบั เอาวฒั นธรรมตะวันตกมาเปน็ แบบอย่าง จงึ ทําให้นกั เรยี นกล้าทํา กลา้ แสดงออกในเรอ่ื งการแต่งกายชดุ นักเรียนท่ีไม่เหมาะสม เครื่องแบบชดุ นักเรียนนัน้ ถือได้ว่าเปน็ เคร่ืองแบบ ทม่ี ีเกยี รติ เปน็ ชดุ ท่ีมีความเป็นระเบียบ สะท้อนใหเ้ ห็นถึงเร่ืองการมวี ินยั เป็นอย่างมาก ด้านการแต่งกายนน้ั ตอ้ งแต่งกายใหเ้ ป็นระเบียบ เหมาะสมและให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบงั คับของโรงเรียนเพือ่ เปน็ การยกย่องและ ส่งเสริมนกั เรียนที่ปฏิบตั ิตามระเบียบข้อบังคับของโรงเรยี นในเรื่องการแตง่ กาย และเพ่ือเป็นแบบอย่างท่ีดี ใหก้ บั นกั เรียนทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียน จงึ จัดให้มโี ครงงาน เร่อื ง มวี นิ ยั ใส่ใจเรื่องการแตง่ กายขึ้นเพื่อ ประโยชนข์ องนักเรยี นทกุ คน วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อปลูกฝังการมจี ิตสาํ นึกของสภาพความเป็นนักเรยี น และการมวี นิ ัยในตนเอง 2. เพอ่ื เปน็ การยกย่องสง่ เสรมิ นักเรียนทป่ี ฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของโรงเรียนมาโดยตลอด 3. เพอื่ เป็นแบบอย่างและเป็นแนวปฏิบตั ทิ ด่ี กี ับนักเรียนทุกคนในเร่ืองของการแต่งกาย ปัญหำ นักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 ไมม่ วี ินัยเร่ืองการแต่งเครื่องแบบมาโรงเรยี น สำเหตุของปัญหำ 1. นกั เรยี นไมส่ วมถงุ เท้านักเรียนไม่ถูกระเบยี บของโรงเรยี น 2. นกั เรยี นแตง่ กายไม่ถูกตอ้ งตามระเบียบของโรงเรยี น 3. นักเรยี นแต่งชดุ ไมถ่ ูกต้องตามกจิ กรรมของโรงเรยี น(แต่งกายตามตารางสอน) กลมุ่ เป้ำหมำย เชิงปรมิ ำณ นกั เรียนโรงเรยี นวัดเทพพิทักษ์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 จํานวน 22 คน เชิงคณุ ภำพ นักเรียนโรงเรียนวัดเทพพิทกั ษ์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 มีวนิ ยั ในเรอื่ งการแตง่ เครือ่ งแบบ ใหถ้ ูกต้องตามกฎระเบยี บของโรงเรียน วธิ กี ำรแกไ้ ขปัญหำ 1. ครอู บรมช้แี จงเร่ืองการแตง่ เคร่อื งแบบท่ีถกู ต้องตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น 2. จัดทาํ แบบบันทึกเกย่ี วกับการแต่งเครื่องแบบได้แก่ การสวมรองเท้า การสวมถุงเท้า และการสวมชดุ ตามระเบยี บของโรงเรยี น 3. แต่งต้งั คณะกรรมการตรวจเช็คเครื่องแบบตามแบบบนั ทึกที่กาํ หนด 4. ประชาสัมพันธใ์ ห้ผู้ปกครองรบั ทราบเกี่ยวกับการแตง่ กายที่ถูกต้องตามระเบียบของทางโรงเรียน 5. ประกวดการแต่งกายท่ถี ูกต้องตามระเบียบ สะอาด เรียบร้อย ของห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2

6. การตดั สินจะเป็นการคัดเลือกโดยครปู ระจําชัน้ คัดเลือกนกั เรียนท่แี ต่งกายถกู ระเบยี บ สะอาด เรียบรอ้ ย โดยมกี ารบนั ทึกข้อมลู ไว้เปน็ รายวัน และใน 1 เดือนจะคัดเลือกคนท่ีแตง่ กายถูกระเบยี บ สะอาด เรียบร้อยมากที่สุดมา 1 คน และจะได้รบั รางวลั และถา่ ยภาพติดบอรด์ ของหอ้ งเรียน หลักธรรมท่ีมำ มงคลชีวติ 38 ประการ มงคลขอ้ ท่ี 9 มีวินยั ที่ดี ดาบคมท่ีไรฝ้ ัก ลกู ระเบดิ ที่ไม่มสี ลกั นิรภัย ยอ่ มเกิดโทษแก่เจา้ ของได้งา่ ยฉนั ใด “ความรู้” และ “ความสามารถ” ถา้ ไมม่ ีวนิ ัยกํากบั แล้ว กจ็ ะมีโทษแกผ่ ู้เปน็ เจ้าของได้ฉันน้นั ช่างดาบทาํ ฝกั ดาบไวก้ นั อันตราย ช่างทําระเบดิ กท็ ําสลกั นริ ภยั ไวเ้ ช่นกัน เมอ่ื พระสัมมาสมั พุทธเจา้ ทรงสอนพทุ ธศาสนกิ ชน ใหเ้ ปน็ คนฉลาดร้ฉู ลาดทําแลว้ จงึ ทรงสัง่ สาํ ทบั ดว้ ยวา่ “ต้องมวี นิ ัย” ควำมเชื่อมโยงสู่คุณธรรมอัตลักษณ์ ความมีวนิ ัย วิธีกำรวดั และประเมนิ ผล 1. นักเรยี นรอ้ ยละ 100 แตง่ เครื่องแบบถูกตอ้ งตามกฎระเบียบของโรงเรยี น 2. ตรวจจากแบบบันทกึ การแตง่ เครื่องแบบได้แก่ การสวมรองเทา้ การสวมถุงเทา้ และการสวมชุด ตามระเบียบของโรงเรยี น ระยะเวลำดำเนนิ งำน ตลอดปกี ารศกึ ษา 2563 ช่วงเวลาในการประเมนิ 7.30 น. ถงึ 16.00 น. (จันทร์ ถึง ศุกร์) ผ้รู บั ผดิ ชอบโครงงำน 1. เด็กหญงิ ผุสดี ใจตรง 2. เด็กหญิงธนพร เสนคําสอน 3. เดก็ ชายยศภัทร สระทองแปน้ ทป่ี รกึ ษำโครงงำน นางสาวฤดีรัตน์ แป้งหอม

โครงงำนคณุ ธรรม เหลำทงิ้ ใหล้ งถัง ท่มี ำและควำมสำคัญ จากการดําเนนิ ชวี ิตประจาํ วนั ของนักเรียนโรงเรยี นวดั เทพพิทกั ษ์ พบว่านักเรียนอยใู่ นระดับชนั้ ประถมศึกษา ซง่ึ สว่ นใหญ่ใช้ดินสอในการเขยี นหนังสือ จึงทําใหใ้ นหอ้ งเรียนมีเศษดนิ สอที่เกิดจากการเหลา ดนิ สอกระจดั กระจายอยู่ตามใตโ้ ตะ๊ เรียน ตามพน้ื ห้องและรอบๆถังขยะ ซ่ึงสร้างความสกปรกในช้นั เรียนเปน็ อยา่ งมาก ดังนัน้ นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 จึงมีความสนใจทจ่ี ะทําให้ปัญหาดงั กล่าวหมดส้ินไป จึงไดจ้ ัดทํา โครงงานคณุ ธรรมเร่ือง เหลาท้ิงให้ลงถงั ขน้ึ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมภายในหอ้ งเรยี นลดปริมาณขยะและเศษ ดนิ สอที่ทง้ิ ไม่ลงถังขยะ ปัญหำ นักเรียนทิ้งขยะและเศษดินสอไม่ลงถังขยะ สำเหตขุ องปัญหำ 1. นักเรยี นมักงา่ ยท้ิงเศษดนิ สอไวใ้ ตโ้ ต๊ะ 2. นักเรยี นท้งิ ขยะไมล่ งถังขยะ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อปลกู จติ สํานกึ เรื่องการรักษาความสะอาด 2. เพ่อื รักษาสภาพแวดล้อมภายในหอ้ งเรยี นลดปริมาณขยะและเศษดนิ สอท่ีทิ้งไม่ลงถัง ขยะ 3. เพอ่ื รกั ษาระเบียบวนิ ยั ของนกั เรยี นในห้องเรียน กำหนดเปำ้ หมำย เชิงปริมำณ นกั เรยี นโรงเรียนวัดเทพพทิ กั ษช์ ั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 จํานวน 23 คน เชิงคณุ ภำพ นักเรียนโรงเรยี นวดั เทพพทิ ักษช์ ั้นประถมศึกษาปที ่ี3 ท้งิ ขยะเหลาเศษดินสอลงถังขยะ ระยะเวลา 3 เดอื น ผลทเี่ กิดจำกกำรดำเนนิ งำน นกั เรยี นโรงเรียนวัดเทพพทิ ักษช์ ัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ท้ิงขยะเหลาเศษดินสอลงถังขยะ

ตวั ช้ีวัด นกั เรียนรอ้ ยละ 100 ท้ิงขยะเหลาเศษดนิ สอลงถังขยะ วิธกี ำรประเมนิ การสงั เกต เครอ่ื งมอื แบบสงั เกต ช่วงเวลำ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ขน้ั ตอนกำรดำเนินงำน/วธิ กี ำรแกไ้ ขปญั หำ 1. ประชมุ หารือเพ่ือหาวิธใี นการดําเนนิ งานโครงงาน 2. เสนอแนวคิดและแบ่งหน้าที่ในการปฏบิ ัติงาน 3. ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามแผนงานท่ีกําหนด 3.1 ขนั้ ตอนการประดิษฐ์กบเหลาดนิ สอขวดน้าํ 3.1.1 เตรียมอุปกรณ์ดงั ต่อไปน้ี -ขวดน้ํา -กบเหลาดนิ สอ -ปืนยิงกาว -คัดเตอร์ 3.1.2 ทาํ ความสะอาดขวดนํ้าและนาํ ขวดไปผึ่งใหแ้ หง้ 3.1.3 เจาะฝาขวดนา้ํ เป็นรปู ส่เี หล่ียม ใหพ้ อดีกับกบเหลาดินสอ 3.1.4 นํากบเหลากดลงไปบนฝาและใช้ปืนกาวยงิ เพ่อื ให้แนน่ ท้ังด้านบนฝาและใตฝ้ า 3.1.5ใช้คัดเตอร์ตดั แตง่ ใต้ฝาให้เศษดนิ สอลงอยา่ งสะดวก 4. สรปุ ผลการดําเนินงาน 5. เขยี นรายงานผลการดาํ เนินงานเสนอครูท่ีปรึกษาโครงงาน โครงงำนสอดคล้องกับคณุ ธรรมอัตลกั ษณ์ของโรงเรยี น รับผิดชอบต่อหนา้ ท่ี วินยั ดี มีจิตสาธารณะ โครงงำนสอดคลอ้ งกับหลกั ธรรม อทิ ธิบาท 4 ข้อที่ 3 จิตตะคือ ความเอาใจใสร่ บั ผดิ ชอบในการทาํ งานอย่างสม่ําเสมอ การนาํ มาใช้ในการปฏิบตั โิ ครงงานคุณธรรมปลูกจติ สํานึกให้เกิดขึ้นกับนักเรยี นเรื่องจติ อาสา การรกั ษาความ สะอาด เม่ือเจอขยะหรือเศษดินสอ ใหเ้ กบ็ ไปท้งิ ลงถังขยะ โดยท่ไี มต่ ้องรอให้คุณครบู อก/สั่ง

สรุปผลที่คำดจะไดร้ บั 1. หอ้ งเรียนสะอาด 2. นักเรียนมีจติ สํานึกในการทงิ้ ขยะและเศษดนิ สอให้ลงถังขยะ 3. นกั เรยี นมจี ติ อาสาเรอื่ งการรกั ษาความสะอาด วธิ ีวดั และประเมนิ ผล 1. แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ 2. แบบสงั เกตพฤติกรรม ปัญหำในกำรทำโครงงำน นกั เรยี นบางคนยังติดพฤติกรรมแบบเดมิ แอบเหลาดินสอใต้โตะ๊ เรียน ขอ้ เสนอแนะ นกั เรยี นทุกคนตอ้ งใหค้ วามรว่ มมอื ในการแก้ปญั หาไม่ต้องรอใหค้ ุณครบู อก ต้องนึกถงึ ปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ และมองว่าเพื่อนเขาทําอย่างไร โต๊ะ และพื้นห้องเรยี นถงึ ไดส้ ะอาด

โครงงำน เด็กดมี ีควำมรบั ผดิ ชอบ ทำและส่งงำนตำมกำหนด ๑.ช่ือโครงงำน เด็กดีมคี วำมรับผิดชอบ ทำและสง่ งำนตำมกำหนด นักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๔ ๒.ท่มี ำและควำมสำคญั ของปญั หำ นักเรียนบำงคนทำงำนไม่เสรจ็ ตำมเวลำกำหนด และไมส่ ง่ งำนตำมเวลำท่ีกำหนด ๓.วัตถปุ ระสงค์ ๓.๑ เพอ่ื สรา้ งความตระหนักถงึ ประโยชน์ของงาน ที่ครมู อบหมายใหท้ าํ ๓.๒ เพื่อฝกึ ให้นักเรยี นมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ งานที่ทํา และสง่ งานตามกําหนดเวลา ๓.๓ เพอ่ื สรา้ งวินยั ตอ่ งานท่คี รมู อบหมายให้ทาํ และสง่ งานตามกาํ หนดเวลา ๔.ปัญหำ นกั เรียนไม่สนใจเรยี น ทํางานไม่เสร็จ ไม่ส่งงานตามกาํ หนด ๕.สำเหตขุ องปัญหำ ๕.๑ นักเรียนขาดความมุ่งมั่น ไม่มีใจรักเรยี น ๕.๒ นักเรยี นขาดความรบั ผดิ ชอบ ๕.๓ นักเรียนไม่มีวนิ ยั ในตนเอง ๕.๔ เล่นเกม , ติดโทรศพั ทจ์ นเสยี การเรียน ๖. กลมุ่ เปำ้ หมำย เปา้ หมายเชิงปรมิ าณ นกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ จาํ นวน ๑๕ คน รอ้ ยละ ๘๐ ของนักเรียน ทั้งหมด ทาํ งานและสง่ งานตามกาํ หนดเวลา เปา้ หมายเชิงคุณภาพ ๑. นักเรียนมีความตระหนกั ถงึ ประโยชนข์ องการทาํ งานตามที่ ครูมอบหมาย ๒. นกั เรยี นมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ งาน การบา้ นทาํ เสรจ็ และส่งตามเวลากําหนด ๗. วธิ กี ำรแก้ปัญหำ ๗.๑ สร้างขอ้ ตกลงรว่ มกันในชนั้ เรียน ๗.๒ นักเรียนหาทางแกป้ ญั หาร่วมกัน เก็บโทรศัพท์ ร่วมกันตดิ ตามการทาํ งาน การบ้าน ๗.๓ เพื่อนสอนเพ่ือนโดยมีจติ สาธารณะ ชว่ ยเหลอื เพื่อน เด็กเกง่ ชว่ ยดแู ลเด็กอ่อน ใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์

๘. หลักธรรมที่นำมำใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำ คอื อทิ ธบิ ำท ๔ ได้แก่ ๘.๑ ฉันทะ นักเรยี นมีความพอใจ และใจรักในเรื่องที่จะเรียน ครูสอนสนุก เด็กเข้าใจ ไม่เบ่อื หน่ายใน วชิ าท่ีเรียน ๘.๒ วิริยะ นักเรียนมีความพากเพียร มุ่งม่นั ในเรื่องที่เรียนและงานท่ีได้รับมอบหมาย ๘.๓ จิตตะ นักเรียนมีใจจดจ่อในงานทที่ าํ และรู้จกั รับผดิ ชอบในงานที่ไดร้ บั มอบหมาย ๘.๔ วิมงั สา รจู้ กั ทบทวนในสิง่ ทีไ่ ด้คิดได้ทาํ สง่ิ ใดถูก สง่ิ ใดควร ๙. ควำมเช่ือมโยงสคู่ ณุ ธรรมอัตลักษณข์ องโรงเรียนวัดเทพพทิ ักษ์ “ รับผดิ ชอบต่อหนำ้ ที่ วินยั ดี มจี ติ สำธำรณะ “ ๑๐. วิธกี ำรวดั ผลและประเมินผล ๑๐.๑ สังเกตพฤติกรรม ๑๐.๒ ตรวจสมุดงาน ๑๑. ผู้รบั ผิดชอบโครงกำร ๑. ด.ช.มวิ ๙. ด.ญ.กญั ยานี ใจตรง ๒. ด.ช.เทีย่ งธรรม แชม่ ช้อย ๑๐. ด.ญ.พรพรหม ใจตรง ๓. ด.ช.ธรี เดช ใจตรง ๑๑. ด.ญ.พันนติ า สว่างรุ่ง ๔. ด.ช.อนภุ าพ บชู า ๑๒. ด.ญ.สุธารัตน์ เหลอื งร่งุ ทรพั ย์ ๕. ด.ช.วีรภทั ธ ทองสทิ ธ์ิ ๑๓. ด.ญ.นาํ้ ออ้ ย บาํ รุงศลิ ป์ ๖. ด.ช.ฐากร ตญั วฒั นา ๑๔. ด.ญ.ชเิ ยเร จอย โอจโู ร ๗. ด.ช.ศกั ดิ์พล เสือขาํ ๑๕. ด.ญ.ศภุ จติ รา อะมาตหิน ๘. ด.ช.กฤษฎากร ชนะเลศิ ๑๒. ทีป่ รกึ ษำโครงงำน ครูอรทัย ศรยี ำ

ชอื่ โครงงำน “หอ้ งเรยี นสะอาด บรรยากาศนา่ เรยี น” ผ้จู ดั ทำโครงงำน นกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ช่อื ท่ีปรึกษำ นายวชั ระ เหยียบคาย ครูประจําช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ สถำนทีท่ ำโครงงำน หอ้ งเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ บทคดั ยอ่ จากการสังเกตในการเข้าเรียนของนักเรียนในแต่ละชั่วโมงของนักเรียนที่เข้ามาเรียนในห้องช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวดั เทพพิทักษ์ พบว่านักเรียนทํางานแล้วไม่ค่อยเก็บวัสดุอุปกรณ์เข้าที ทิ้งปากกา ทิ้งเศษกระดาษตามซอกเก้าอ้ี ทพี่ ื้นและไม่จัดเกา้ อีใ้ ห้เปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย ไมเ่ ก็บของใช้ให้เรียบรอ้ ย และห้อง ประจําจะไม่มีเวรประจําวัน จะเน้นให้นักเรียนที่มาเรียนช่วยกันรักษาความสะอาด จึงไม่ทําความสะอาด หอ้ งเรียน จงึ ทําใหห้ อ้ งเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ ไมส่ ะอาด ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ ดงั น้นั นกั เรียนชนั้ ประถมศึกษา ปีที่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จึงมีความสนใจที่จะทําให้ปัญหาดังกล่าวหมดสิ้นไป จึงได้จัดทํา โครงงานคุณธรรม เร่ือง “ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรียน” ขึ้น เพ่ือให้นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ โรงเรยี นวดั เทพพิทักษ์ มีความรับผิดชอบและห้องเรยี นมคี วามสะอาดเรยี บร้อย จากการดําเนินงานโครงงาน “ ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรียน” ของนักเรียนระดับช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๕ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เพื่อแก้ปัญหานักเรียนเวรประจําวันไม่ทําความสะอาดห้องเรียน โดย สรุปผลการดําเนนิ งาน ดังนี้ ๑. นกั เรียนท่ีเขา้ รว่ มกจิ กรรมโครงงาน “ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรียน” มคี วามรับผิดชอบ และมี วนิ ยั ในตนเองมากขนึ้ ๒. ผลการตรวจหอ้ งเรียน รอ้ ยละ ๙๕ มคี วามสะอาด เปน็ ระเบยี บเรียบร้อยมากขน้ึ และมีข้อเสนอแนะ เก่ยี วกบั การทาํ กิจกรรมโครงงาน “ห้องเรยี นสะอาด บรรยากาศนา่ เรียน” ดังน้ี ๑. ควรขยายผลไปยงั นกั เรียนทุกคนในโรงเรียน ๒. ควรจดั ทาํ โครงงานน้อี ยา่ งต่อเนอ่ื งเพื่อใหน้ ักเรียนมีความรบั ผิดชอบและมีวินยั ในตนเองอย่างยง่ั ยนื ๓. ควรมกี ารพัฒนาสื่อคุณธรรมในรูปแบบตา่ ง ๆ เพ่ือกระต้นุ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงคใ์ ห้ดีย่ิงข้ึน

บทที่ ๑ บทนำ ๑) ที่มำและควำมสำคญั ของปญั หำ จากการสังเกตในการเข้าเรียนของนักเรียนในแต่ละชั่วโมงของนักเรียนท่ีเข้ามาเรียนในห้องช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี ๕ โรงเรียนวดั เทพพิทักษ์ พบว่านักเรียนทํางานแล้วไม่ค่อยเก็บวัสดุอุปกรณ์เข้าที ทิ้งปากกา ทิ้งเศษกระดาษตามซอกเก้าอี้ ท่ีพ้ืนและไมจ่ ัดเก้าอี้ให้เปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย ไมเ่ กบ็ ของใชใ้ ห้เรยี บร้อย และหอ้ ง ประจําจะไม่มีเวรประจําวัน จะเน้นให้นักเรียนท่ีมาเรียนช่วยกันรักษาความสะอาด จึงไม่ทําความสะอาด หอ้ งเรียน จึงทําใหห้ ้องเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ไมส่ ะอาด ไม่เปน็ ระเบยี บ ดังนัน้ นักเรยี นช้ันประถมศึกษา ปีท่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จึงมีความสนใจท่ีจะทําให้ปัญหาดังกล่าวหมดส้ินไป จึงได้จัดทํา โครงงานคุณธรรม เร่ือง “ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรียน” ขึ้น เพ่ือให้นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดเทพพทิ กั ษ์ มคี วามรับผดิ ชอบและหอ้ งเรียนมีความสะอาดเรียบรอ้ ย ๒) วตั ถปุ ระสงค์ ๒.๑ ด้านความรู้ (Knowleadge) เพ่ือให้นกั เรยี นมคี วามรู้และความเข้าใจเกีย่ วกับความรับผิดชอบ ของตน ๒.๒ ด้านกระบวนการปฏบิ ตั ิ (Process) เพ่ือให้นักเรียนชว่ ยกันรกั ษาความสะอาดของห้องเรยี นและ ทิ้ง ขยะใหล้ งถงั และมีการฝึกความรับผดิ ชอบหนา้ ทีเ่ วรประจาํ วัน ๒.๓ ด้านเจตคติ (Attitude) เพอื่ ปลูกฝังความรบั ผิดชอบ สร้างความตระหนักและจิตสํานึกในความ รบั ผิดชอบให้กับนักเรียน ๒.๔ เพื่อเปน็ การดําเนินการตามแนวทางการดําเนินงานโรงเรยี นคุณธรรม สพฐ. ๓) ปัญหำ หอ้ งเรียน ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ไม่สะอาด ๔) สำเหตุของปัญหำ ๔.๑ นกั เรยี นไมท่ ิง้ ขยะลงถงั ๔.๒ ไมม่ เี วรประจําวนั ของห้องเรียน ๔.๓ นกั เรียนเรยี นเสร็จแล้วไมเ่ ก็บของใชใ้ หเ้ รยี บร้อยไปเรียนวชิ าอน่ื เลย ๕) กลุ่มเปำ้ หมำย - เชงิ ปรมิ าณ : นกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ จํานวน ๑๙ คน - เชิงคณุ ภาพ : นกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ โรงเรยี นวัดเทพพิทักษ์ มีความรบั ผิดชอบช่วยกันทาํ ความสะอาด ไม่ทง้ิ เศษขยะในหอ้ งเรยี น และห้องเรียนมีความสะอาดเรียบร้อย - เป้าหมายระยะสนั้ นักเรียนนกั เรียนชน้ั ปรถมศึกษาปที ่ี ๕ โรงเรียนวัดเทพพทิ ักษ์ มีจิตอาสาชว่ ยกัน ทําความสะอาด ไม่ท้ิงเศษขยะในห้องเรยี น - เปา้ หมายระยะยาว นกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดเทพพิทกั ษ์ มีจิตอาสา ช่วยกนั ทาํ ความสะอาด ไม่ทง้ิ เศษขยะในหอ้ งเรียน หอ้ งเรียนมีความสะอาดเรยี บร้อยเป็นประจําทกุ วัน

บทที่ ๒ เอกสำรทีเ่ กีย่ วข้อง หลักธรรมและพระรำชดำรัส คุณธรรม กำรปฏบิ ัติ / กจิ กรรมของโครงงำน ๑. ขยนั - ขยันในการศึกษาหาความรู้ - ใชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชนโ์ ดยการชว่ ยกนั ทาํ โครงงาน - ทาํ ตามหน้าท่ที ่ีได้รับมอบหมายตลอด ๒. ประหยัด - ทําโครงงานโดยใช้งบประมาณไม่มากเกนิ ไป - รไี ซเคิลโดยการนาํ กระดาษท่ีใชแ้ ลว้ มาทําปา้ ยประกาศ ๓. ซอ่ื สัตย์ - ปฏบิ ตั ิหนา้ ทด่ี ว้ ยตนเองโดยไม่ใช้ใครทําแทน - ทาํ ตามกฎที่ต้งั ไว้เพ่ือเปน็ ตัวอย่างแก่คนอนื่ ๔. มีวนิ ยั - มีระเบยี บวินัยในการรว่ มกันทําโครงงานโดยนัดหมายตรงตาม เวลา - มีระเบียบวินัยในการทาํ หน้าท่ีดแู ลห้องเรียน - มีระเบียบวินัยในการไม่นาํ อาหารขน้ึ มากินบนอาคารเพื่อเปน็ ตัวอย่างที่ควร ปฏบิ ตั ติ าม ๕. สุภาพ - ดแู ลตกึ ดว้ ยความตัง้ ใจ ไมเ่ ล่นขณะปฏิบัติหน้าที่ ไม่ทะเลาะกนั หรือเกย่ี งกัน - ปฏิบัตงิ านโดยแบง่ หน้าท่กี นั โดยพดู จากนั ด้วยความสุภาพ - ตักเตือนโดยใช้คาํ พูดอยา่ งสุภาพ ไม่ตะโกนหรอื โวยวายใส ๖. สะอาด - ตรวจดูอาคารวา่ มเี ศษขยะบนพนื้ อาคาร หรือในห้องเรยี น - ทําให้อาคารปราศจากเศษขยะ ทําความสะอาดจดุ ที่ไมส่ ะอาด ๗. สามคั คี - กลมุ่ ผจู้ ดั โครงงานและเพ่ือนๆ ช่วยกนั ดแู ลหอ้ งเรียน - สามคั คกี ันสรา้ งจิตสํานึกท่ีดีในการไมท่ าํ ให้ห้องเรยี นสกปรกหรือส่งกลิน่ เหม็น - สามัคคีกันในการช่วยกนั ทาํ โครงงาน ๘. มีนํ้าใจ - แบ่งเบาภาระโดยการช่วยเหลือเพื่อน หรอื นกั การภารโรง - มีนา้ํ ใจในการท่จี ะแลอาคาร หรือทําความสะอาดห้องเรียน หลกั ธรรมท่นี ำมำใช้ อทิ ธิบาท ๔ ได้แก่ ฉนั ทะ (ความพอใจ) คือ ความต้องการท่จี ะทาํ ใฝใ่ จรักจะทาํ สง่ิ นน้ั อยู่เสมอ และปรารถนาจะทําให้ ได้ผลดียง่ิ ๆข้นึ ไป วริ ิยะ (ความเพยี ร) คือ ขยนั หมน่ั ประกอบสงิ่ นน้ั ด้วยความพยายาม เขม้ แข็ง อดทน เอาธรุ ะ ไม่ท้อถอย จิตตะ (ความคิด) คอื ต้ังจติ รับรู้ในสิ่งท่ที าํ และทาํ ส่งิ นัน้ ดว้ ยความคิด เอาจิตฝักใฝ่ ไม่ปล่อยใจให้ ฟงุ้ ซ่านเล่ือนลอยไป วมิ ังสา (ความไตร่ตรอง หรือ ทดลอง) คอื หมั่นใช้ปญั ญา พิจารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล และ ตรวจสอบข้อย่งิ หยอ่ นในสิง่ ทที่ าํ น้ัน มีการวางแผน วดั ผล คดิ คน้ วิธแี ก้ไขปรับปรุง

บทที่ ๓ วัสดุอุปกรณแ์ ละวิธีดำเนนิ กำร ๑) วธิ ีกำรแก้ไขปญั หำ ๑. สร้างความตระหนักและจิตสํานึกในความรบั ผิดชอบใหก้ ับนักเรียน ๒. ให้นกั เรียนชว่ ยกนั รักษาความสะอาดของห้องเรยี นและท้ิงขยะใหล้ งถงั ๓. ฝกึ ความรบั ผิดชอบหน้าท่ีเวรประจาํ วนั ๔. ผู้บรหิ าร และครเู ป็นแบบอยา่ งทด่ี ใี ห้กับนักเรียน ๕. นกั เรยี นทํากิจกรรมเก่ียวกับการลดขยะในชั้นเรยี น กิจกรรมสร้ำงประโยชนจ์ ำกขยะ วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพอ่ื ให้ทุกคนเหน็ คุณค่าของขยะทีส่ ามารถนาํ กลบั มาทําใหเ้ กิดประโยชนไ์ ด้อีกครง้ั ๒. เพอื่ ใหท้ ุกคนร้จู กั แยกขยะ ๓. เพอ่ื ช่วยให้ขยะภายในโรงเรียนลดลงและช่วยให้ส่ิงแวดล้อมภายในโรงเรยี นใหด้ ยี ิง่ ขนึ้ วิธีดำเนินงำน ๑. ให้ตัวแทนของนักเรียนไปอธบิ ายวิธเี ปลีย่ นขยะใหเ้ กดิ ประโยชนโ์ ดยอธิบายใหก้ บั นักเรียนในหอ้ ง ๒. มอบหมายใหน้ กั เรียนทอ่ี ยู่ภายในห้องเรียนระดมความคิดเหน็ เก่ยี วกับการสร้างประโยชน์จากขยะ แล้วปฏบิ ตั ิตาม ๓. นักเรียนสามารถนาํ ขยะหรือวสั ดุเหลอื ใชม้ าประดษิ ฐ์เป็นของใช้ได้ ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ บั ๑. ขยะภายในอาคารและห้องเรยี นลดน้อยลง ๒. ภายในตัวอาคารและห้องเรยี นมคี วามสะอาดนา่ เรียน ๓. นักเรียนรู้จักมรี ะเบียบวินยั ในการทง้ิ ขยะ ๔. สามารถนําประโยชนจ์ ากการแยกขยะนําไปใช้ประโยชน ๒) หลกั ธรรมท่นี ำมำใช้ หลักอิทธบิ าท ๔ ๑. ฉันทะ ความพอใจรกั ใคร่ในสิง่ นน้ั ๒. วิรยิ ะ ความพากเพยี รในส่ิงนั้น ๓. จติ ตะ ความเอาใจใส่ฝกั ใฝ่ในสงิ่ นน้ั ๔. วิมังสา ความหมัน่ สอดส่องในเหตผุ ลของส่งิ นน้ั ๓) พระรำชดำรัส/พระรำชดำริ/คำสอน/พระบรมรำโชวำท การจะทํางานให้มีประสิทธิผล และให้ดําเนินไปได้โดยราบร่ืน จําเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องทําด้วยความ รับผิดชอบอย่างสูง ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือนจุดประสงค์ท่ีแท้จริงของงานสําคัญท่ีสุดต้องเข้าใจ ความหมายของคาํ วา่ ความรบั ผิดชอบ ใหถ้ กู ต้อง พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ในพิธี พระราชทานปรญิ ญาบตั รของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๑๙) กำรบรู ณำกำรกบั ปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑. ความพอประมาณ .ใช้วัสดอุ ปุ กรณ์ทม่ี ใี นห้องเรยี นอยา่ งประหยัด พอเพยี ง ๒. ความมีเหตผุ ล รู้จักเลือกการใช้วสั ดุในห้องเรยี นใหเ้ ปน็ ประโยชน์

๓. ความมภี มู ิคมุ้ กันท่ีดี ทําให้หอ้ งเรียนมคี วามสะอาด เรยี บรอ้ ย เง่อื นไข ๑. เงื่อนไขความรู้ รบั รู้ถงึ การปลูกจิตสํานึกความรบั ผดิ ชอบ ความสามคั คี ๒. เงือ่ นไขคุณธรรม มีจติ อาสา ในการทาํ ความสะอาด ทําความดี ชว่ ยเหลอื ผ้อู ่นื กระทําเพื่อส่วนรวม ๔) ควำมเช่ือมโยงสคู่ ุณธรรมอตั ลกั ษณ์ของโรงเรยี น : รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ที่ วนิ ัยดี มจี ิตสาธารณะ พฤติกรรมบง่ ชีเ้ ชิงบวก : ผ้บู ริหารและครูมีการปฏิบัติเป็นแบบอยา่ งท่ีดีในเรือ่ งของความมีวินยั และ รับผิดชอบ และเอาใจใส่นกั เรียนในการเรยี นการสอน ส่วนการปฏบิ ตั ิตนของนกั เรียน นักเรยี นทาํ งานที่ได้รบั มอบหมายตรงตามเวลาและห้องเรียนมีความสะอาด เรียบร้อย เป็นประจาํ ทกุ วนั และต่อเนื่อง ๕) วธิ ีกำรวดั และประเมินผล ๙.๑ วธิ ีการวัดผล วธิ ีการประเมนิ : การสังเกต ๙.๒ เครอื่ งมอื การวดั ผล เครื่องมือทใ่ี ช้ในการประเมิน : แบบสงั เกต ๙.๓ ช่วงระยะเวลา ชว่ งเวลาการประเมนิ : สัปดาหล์ ะ ๑ ครง้ั

บทท่ี ๔ ผลกำรศกึ ษำ จากการทําโครงงาน “ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรียน” ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ โรงเรียนวัดเทพพิทักษ์ โดยเร่ิมจากการประชุมปรึกษาหารือเก่ียวกับการดําเนินงาน ภายในห้องเรยี น เช่น การแต่งตั้งหัวหน้าห้อง การแต่งตั้งเวรประจาํ วนั ฯล การเลือกหัวหน้าเวรประจําวันและ ให้สมาชกิ แต่ละคนเลือกเวรประจําวันตามความสมัครใจ จดั ทําแนวปฏิบัติและข้อตกลงในการปฏิบัติหนา้ ที่เวร แต่ละวัน นักเรียนทุกคนปฏิบัติหน้าท่ีตามท่ีได้รับมอบหมาย และครูสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงาน สามารถ สรุปผลการ ดําเนินงานไดด้ ังน้ี ๑. นักเรียนท่ีเข้ารว่ มกจิ กรรมโครงงาน “หอ้ งเรียนสะอาด บรรยากาศนา่ เรยี น” มคี วามรับผดิ ชอบ และมีวนิ ัยในตนเองมากข้นึ ๒. ผลการตรวจห้องเรียน ร้อยละ ๙๕ มคี วามสะอาด เป็นระเบยี บเรียบร้อยมากนยิ่งขนึ้

บทที่ ๕ สรปุ ผลและอภิปรำยผลกำรทดลอง สรปุ ผลกำรดำเนินงำน จากการดําเนินงานโครงงาน “ ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรียน” ของนักเรียนระดับช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๕ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เพ่ือแก้ปัญหานักเรียนเวรประจําวันไม่ทําความสะอาดห้องเรียน โดย สรุปผลการดาํ เนินงาน ดังนี้ ๑. นกั เรียนท่ีเข้ารว่ มกจิ กรรมโครงงาน “ห้องเรยี นสะอาด บรรยากาศนา่ เรียน” มคี วามรับผิดชอบ และมี วินยั ในตนเองมากขน้ึ ๒. ผลการตรวจหอ้ งเรยี น รอ้ ยละ ๙๕ มคี วามสะอาด เปน็ ระเบียบเรียบร้อยมากข้นึ ข้อเสนอแนะ ๑. ควรขยายผลไปยงั นกั เรียนทกุ คนในโรงเรียน ๒. ควรจดั ทําโครงงานนี้อยา่ งต่อเนื่องเพื่อให้นักเรียนมคี วามรับผิดชอบและมวี ินัยในตนเองอย่างยงั่ ยนื ๓. ควรมีการพฒั นาสือ่ คุณธรรมในรปู แบบต่าง ๆ เพ่ือกระตุน้ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงคใ์ ห้ดียง่ิ ขึน้

โครงงำนคณุ ธรรม ชื่อโครงกำร : แต่งกำยดี เป็นศรีแกต่ น ทม่ี ำและควำมสำคญั ของปัญหำ เนื่องจากปจั จบุ ันนักเรยี นมีค่านยิ มในการแตง่ กายชดุ นักเรยี นท่ีหลายหลากมีท้งั แตง่ ตัวได้ถกู ต้อง เหมาะสมและไมถ่ ูกตอ้ งตามระเบียบของโรงเรียนเพื่อเป็นการยกยอ่ งและสง่ เสรมิ นักเรียนท่ปี ฏิบัตติ ามระเบยี บ ของโรงเรียนในเรื่องการแตง่ กาย รวมทงั้ เพ่ือปลกู ฝงั ให้นักเรียนเป็นตวั อยา่ งทด่ี ีให้กับเพ่อื นหรือนอ้ งในโรงเรียน มีความกล้าแสดงออก ตักเตือนเพอื่ นหรือน้องทแ่ี ต่งกายไม่เปน็ ระเบียบได้ นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ โรงเรยี น จึงมีแนวคิดทําโครงงาน “แต่งกายดเี ป็นศรีแก่ตน” ขึ้นเพ่อื ให้นักเรยี นแต่งกายได้ถูกต้องตามระเบียบ ของโรงเรยี นและเป็นแบบอย่างทีด่ ใี หก้ ับนักเรียนทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื ใหน้ กั เรียนมีความรแู้ ละความเขา้ ใจกฎระเบยี บของโรงเรียน 2. เพือ่ ใหน้ กั เรียนแต่งกายได้ถูกต้องตามระเบยี บของโรงเรยี น 3. เพือ่ ปลูกฝังให้นกั เรยี นมีระเบียบวนิ ัยตอ่ ตนเอง 4. เปน็ ตวั อยา่ งทด่ี ีให้กบั เพ่อื นและน้องในโรงเรียนวัดเทพพทิ ักษ์ 5. มคี วามกลา้ แสดงออก กล้าแสดงความคิดเหน็ และตักเตือนในการทาํ ส่ิงท่ีถูกต้อง สำเหตขุ องปัญหำ 1. นกั เรียนแต่งกายไม่เรยี บรอ้ ย เชน่ เส้ือหลดุ ออกนอกกางเกง ไม่สวมถงุ เท้า เปน็ ต้น 2. นกั เรยี นไม่กล้าแสดงความคดิ เห็นหรือตกั เตือนเม่ือเห็นผ้อู ่นื ทําผิด กลุม่ เปำ้ หมำย นักเรียนโรงเรยี นวดั เทพพทิ ักษร์ ะดบั ชั้นอนุบาลปที ่ี ๒ ถงึ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 จํานวน 147 คน กำรน้อมนำหลักธรรม ศำสตร์พระรำชำ (พระรำชดำรชั ,พระบรมชำโอวำท) การมวี ินัย มีความสามคั คี และรู้จกั หนา้ ท่ี ถือกันว่าเป็นคุณสมบตั สิ าํ คัญประจําตวั ของคนทุกคน แต่ใน การสรา้ งเสรมิ คุณสมบตั ิ 3 ข้อนี้ จะต้องไม่ลมื ว่า วินัย สามคั คี และหน้าท่ีน้ัน เปน็ ได้ทงั้ ในทางบวกและทางลบ ซง่ึ ย่อมให้คุณหรือให้โทษไดม้ ากเทา่ ๆ กัน ทัง้ 2 ทาง เพราะฉะนน้ั เมือ่ จะอบรม จาํ เป็นตอ้ งพิจารณาให้ถอ่ งแท้ แน่ชัดก่อนว่า เปน็ วินยั สามัคคีและหน้าท่ีดคี ือ ปราศจากโทษเป็นประโยชน์ เป็นธรรม (พระราชทานแก่ ผบู้ งั คบั บัญชาลูกเสอื วนั อังคาร 12 ก.ค.2526) วิธกี ารแก้ไขปัญหา 1. นักเรยี นและครอู ภปิ ราย คิด วิเคราะห์ ดูสภาพปัญหาทเี่ กิดข้ึนในโรงเรยี น

2. สร้างความเขา้ ใจในกฎระเบียบการแตง่ กายของโรงเรยี นเพื่อใหน้ กั เรียนเหน็ ความสาํ คัญและประโยชน์ ของการแต่งกายท่ีถกู ต้องตามระเบียบของโรงเรียน 3. แตง่ ต้งั ผูร้ ับผิดชอบโครงงานและมอบหมายหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบ 4. ประชาสัมพันธ์กจิ กรรมโดยให้นกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี6แตง่ กายให้เรยี บร้อยเพอื่ เป็นแบบอย่างท่ี ดีให้กบั เพื่อนและน้องในโรงเรียน เมอ่ื พบเจอผู้ที่แต่งกายไม่เรียบรอ้ ยนกั เรยี นสามารถตักเตอื นใหแ้ กไ้ ข ใหถ้ ูกต้อง 5. มีประชุมสรุปงาน ประเมินงานและวิเคราะห์ถึงภาพรวมของงานพร้อมทั้งรับฟังขอ้ เสนอแนะจาก นักเรยี นแกนนํา หวั หน้ากลุ่มและหัวหนา้ หอ้ งเรยี นในเรื่องปัญหาท่ีพบเพื่อหาแนวทางในการปรบั ปรุง เพือ่ ใช้ในการดําเนินงานในโครงงานถดั ไป 6. ครทู ่ีปรึกษาโครงงานให้การดูแล กํากับตดิ ตาม เสนอแนะ นิเทศ ตรวจสอบการดําเนนิ โครงงานของ นกั เรยี น ควำมเชื่อมโยงสูค่ ุณธรรมอตั ลกั ษณ์ : ควำมมีระเบยี บวินยั และ รบั ผิดชอบต่อหน้ำท่ี วธิ ีการวดั และประเมินผล 1. นักเรียนร้อยละ 100 แต่งกายถกู ต้องตามกฎระเบียบของโรงเรยี น 2. ตรวจสอบจากแบบสรปุ โครงงาน ระยะเวลำกำรดำเนินงำน ตลอดปกี ารศึกษา 2563 ผรู้ บั ผิดชอบโครงงำน 1. เด็กหญงิ ไพลิน นิลอ่อน 2. เด็กหญิงชมพนู ุท เผ่ือนประไพ 3. เดก็ หญิงศริ ินธร ศรีพทุ ธา ครทู ่ปี รึกษำโครงงำน นำงสำวศศธิ ร ชำ่ งดำริ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook