โครงงาน IS เรื่อง การทาภาชนะจานจากวสั ดุธรรมชาติ คณะผจู้ ดั ทา 1.นางสาว หทยั กานต์ อนุจร ช้นั ม.5/5 เลขที่ 3 2.นางสาว ณฐั ณิศา ศิริตนั หยง ช้นั ม.5/5 เลขท่ี 12 3.นางสาว สุพิชชา ทิพยค์ า ช้นั ม.5/5 เลขท่ี 15 4.นาย มนญั ชยั ขนั ทะสีมา ช้นั ม.5/5 เลขที่ 16 5.นางสาว วชิ ญาดา นนั ภิวงค์ ช้นั ม.5/5 เลขที่ 21 ครูท่ีปรึกษา ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ เอกสารฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (IS1) โรงเรียนปัว อาเภอปัว จงั หวดั น่าน สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 37 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2563
โครงงาน IS เรื่อง การทาภาชนะจานจากวสั ดุธรรมชาติ คณะผจู้ ดั ทา 1.นางสาว หทยั กานต์ อนุจร ช้นั ม.5/5 เลขที่ 3 2.นางสาว ณฐั ณิศา ศริ ิตนั หยง ช้นั ม.5/5 เลขท่ี 12 3.นางสาว สุพิชชา ทิพยค์ า ช้นั ม.5/5 เลขที่ 15 4.นาย มนญั ชยั ขนั ทะสีมา ช้นั ม.5/5 เลขท่ี 16 5.นางสาว วชิ ญาดา นนั ภิวงค์ ช้นั ม.5/5 เลขที่ 21 ครูท่ีปรึกษา ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ เอกสารฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (IS1) โรงเรียนปัว อาเภอปัว จงั หวดั น่าน สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 37 ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2563
ก ชื่อเร่ือง : การทาภาชนะจานจากวสั ดุธรรมชาติ ผ้จู ัดทา : นางสาว หทยั กานต์ อนุจร นางสาว ณฐั ณิศา ศิริตนั หยง นางสาว สุพชิ ชา ทิพยค์ า นาย มนญั ชยั ขนั ทะสีมา นางสาว วชิ ญาดา นนั ภิวงค์ ทป่ี รึกษา : ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ ปี การศึกษา : 2563 บทคดั ยอ่ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง การทาภาชนะจากวสั ดุธรรมชาติ มีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ 1.เพอ่ื ศึกษาความ ทนทานของวสั ดุธรรมชาติ 2.เพอ่ื ผลิตภาชนะบรรจุอาหารจากวสั ดุธรรมชาติ 3.เพอื่ ประยกุ ตใ์ ชว้ สั ดุจาก ธรรมชาติให้เกิดประโยชนส์ ูงสุด 4.เพ่อื แกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดลอ้ มเพ่อื ทดลองวา่ จานแบบใดที่สามารถนามาใช้ ไดจ้ ริงและมีประสิทธิภาพมากกวา่ กนั ประดิษฐภ์ าชนะบรรจุอาหารโดยใชก้ ารอดั ข้ึนรูปดว้ ยพลงั งานความ ร้อนจากดวงอาทิตย์ จากใบหูกวาง ใบกลว้ ย และตวั ประสานจากวสั ดุธรรมชาติ คือ แป้ งมนั สาปะหลงั แป้ ง ขา้ วเหนียว แป้ งถวั่ เขียว แป้ งทา้ วและการทดสอบคุณสมบตั ิทางกายภาพของภาชนะท่ีประดิษฐข์ ้ึน ผลจาก การศึกษาพบวา่ ภาชนะรักษโ์ ลกที่ประดิษฐ์ มีคุณสมบตั ิในการซึมนา้ ไดภ้ ายใน 3 ชวั่ โมง มีความคงทนตอ่ ความร้อนที่อุณหภมู ิ 61 องศาเซลเซียส ทนความเยน็ ท่ี 0 องศาเซลเซียส และมีความแขง็ แรงรับนา้ หนกั ได้ สูงสุด 580 กรัม
ข กิตติกรรมประกาศ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ฉบบั น้ีสาเร็จลงไดด้ ว้ ยดีเพราะไดร้ ับความอนุเคราะห์จากครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ ท่ีกรุณาใหค้ วามรู้และใหค้ าปรึกษาขอเสนอแนะในการแกป้ ัญหาต่างๆ ระหวา่ งการทาโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ ตลอดจนแนะนาเอกสารและตาราต่าง ๆ ที่ใชส้ าหรับศึกษาคน้ ควา้ นอกจากน้ีผจู้ ดั ทาโครงงาน ขอกราบขอบพระคุณเป็ นอยา่ งยง่ิ ตอ่ ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ จนโครงงานประสบ ความสาเร็จสมบูรณ์ลงดว้ ยดี ขอขอบพระคุณเพ่ือนๆ ทุกคนท่ีมีสวนช่วยเหลือและใหก้ าลงั ใจ ผจู้ ดั ทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสน้ี นางสาว หทยั กานต์ อนุจร นางสาว ณฐั ณิศา ศิริตนั หยง นางสาว สุพิชชา ทิพยค์ า นาย มนญั ชยั ขนั ทะสีมา นางสาว วชิ ญาดา นนั ภิวงค์
สารบญั ค เร่ือง หนา้ บทคดั ย่อ ก กติ ตกิ รรมประกาศ ข สารบัญ ค บทท่ี 1 บทนา 1 1 1.1 ความเป็ นมา 1 1.2 วตั ถุประสงค์ 1-2 1.3 ขอบเขต 2 1.4 ประโยชน์ทไี่ ด้รับ 3 บทท่ี 2 เอกสารทเี่ กยี่ วข้อง 4 บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินงาน 4 -วสั ดุอุปกรณ์ 4 -ข้นั ตองการทา 5 บทที่ 4 ผลการศึกษาค้นคว้า 6 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ บรรณานุกรม
1 บทท่ี 1 บทนา 1. ความเป็นมา เน่ืองดว้ ยในสังคมปัจจุบนั มีคา่ นิยมการบริโภค อุปโภคมากข้ึน ส่งผลใหเ้ กิดการกระจายตวั ของปัญหาขยะ อยา่ งรวดเร็ว เช่นการใชก้ ล่องโฟมที่ท้งั ยอ่ ยสลายยาก และยงั มีอนั ตรายเมื่อติดไฟ โฟมท่ีเรา รู้จกั น้นั ผลิตมาจากพลาสติกโดยโฟมท่ีใชป้ ระกอบอาหารน้นั ผลิตมาจากพลาสติกประเภท Polystyrene ซ่ึงมี การผลิตท่ีง่ายไม่ยงุ่ ยาก ตน้ ทุนไม่สูง หาซ้ือไดง้ ่าย ทาใหธ้ ุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่นิยมใชโ้ ฟมชนิดน้ีในการ บรรจุอาหาร เม่ือใชโ้ ฟมเสร็จกม็ กั จะทิง้ กนั โดยไม่มีการนากลบั มาใชอ้ ีกคร้ัง ส่งผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม เน่ืองจากโฟมมีสาร CFC (chlorofluorocarbon) เป็นสารก่อภาวะเรือนกระจกทาลายช้นั โอโซนในบรรยากาศ และ CFC ยงั เป็นสาเหตุในการเกิดภาวะโลกร้อนที่เป็ นปัญหาหลกั ท่ีคนทว่ั โลกใหค้ วามสนใจอยู่ ณ ขณะน้ี ซ่ึงก่อเกิดใหผ้ ลกระทบกบั โลกมากมาย เช่น ส่ิงแวดลอ้ ม การดารงชีวติ ของส่ิงมีชีวติ คนปัจจุบนั มกั นิยมใช้ โฟมบรรจุอาหารมากกวา่ การที่จะหนั มาใชว้ สั ดุจากธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ใบตองตึง ตน้ พชื เนื่องจากโฟมมี ความสะดวกในการใชม้ ากกวา่ แต่อยา่ งไรกต็ าม โฟมกลบั ถูกยอ่ ยสลายไดย้ ากและทาใหเ้ กิดมลพิษกบั ส่ิงแวดลอ้ มและยงั เกิดโทษต่อร่างกายในกรณีที่มีสารตกคา้ งเขา้ สู่ร่างกาย 2. วตั ถุประสงค์ 2.1 เพอ่ื ผลิตภาชนะบรรจุอาหารจากวสั ดุธรรมชาติ 2.2 เพ่อื ศึกษาความทนทานของวสั ดุธรรมชาติ 2.3 เพื่อแกไ้ ขปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม 2.4 เพ่อื ทดลองวา่ จานแบบใดท่ีสามารถนามาใชไ้ ดจ้ ริงและมีประสิทธิภาพมากกวา่ กนั 2.5 เพ่อื ประยกุ ตใ์ ชว้ สั ดุจากธรรมชาติใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด 3. ขอบเขต 3.1 สถานที่ บา้ นหรือสถานท่ีท่ีสะดวกต่อการทา 3.2 ระยะเวลา สืบคน้ เร่ืองที่สนใจ 26/08/63 รวบรวมขอ้ มูลที่เก่ียวขอ้ ง 27-29/08/63 วเิ คราะห์ขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้ 29/08/63
2 จดั ทาโครงงาน 30/08/63-16/09/63 สรุปผลการทาโครงงาน 30/09/63 3.3 ตัวแปรหรือนิยามศัพท์ 3.1 ตัวแปรต้น คอื ชนิดวสั ดุ เช่น ดิน และใบตองตึง 3.2 ตัวแปรตาม คอื ความมีประสิทธิภาพของถว้ ย 3.3 ตวั แปรควบคุม คือ ปริมาณของดิน ปริมาณใบตองตึง ปริมาณแป้ งมนั สาปะหลงั และปริมาณน้าที่ใช้ 3.4 นิยามศัพท์ ประสิทธิภาพของถ้วย หมายถึง ความทนทานแขง็ แรงและความสามารถในการ บรรจุอาหาร วสั ดุธรรมชาติ หมายถงึ วสั ดุที่ทามาจากธรรมชาติ เช่น ดิน หญา้ ใบตอง ไม้ หิน ทราย เป็นตน้ แตใ่ นการทดลองน้ีใชใ้ บตองตึงและดิน ในการทดลอง 4. ประโยชน์ที่ไดร้ ับ 1.วสั ดุจากธรรมชาติสาทารถข้ึนรูปเป็ นภาชนะตามรูปท่ีตอ้ งการโดยผา่ นเครื่องข้ึนรูปท่ี ประดิษฐข์ ้ึนมาเอง 2.ไดภ้ าชนะบรรจุอาหารจากวสั ดุธรรมชาติที่สามารถทดแทนภาชนะท่ีทาจากโฟมและ ภาชนะอื่นๆที่เป็ นมลพิษต่อสิ่งแวดลอ้ ม 3.ไดภ้ าชนะบรรจุอาหารจากวสั ดุธรรมชาติที่มีความแขง็ แรงทนทานและสามารถใชง้ านได้ 4.สามารถเป็ นแนวทางหาเล้ียงชีพได้
3 บทที่ 2 เอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง ใบตองตึง ตน้ ตองตึง เป็นไมป้ ่ ายนื ตน้ ใบลกั ษณะคลา้ ยตน้ สกั หรือตน้ ชาดในภาคอีสาน แต่ใบตองตึงไม่มีขน ใบที่ยงั ไม่แก่ชาวจงั หวดั แม่ฮ่องสอน นิยมเกบ็ มาห่อของเช่น ห่อขา้ วห่อ ห่อของจิปาถะคลา้ ย ๆ ใบตอง หรือ ใบบวั ในภาคกลาง ใบตองตึงเมื่อแก่และหล่นจากตน้ นามาทาเป็นตบั มุงหลงั คากระทอ่ มคลา้ ยจากหรือแฝก มี ความทนทานได้ 4-5 ปี คุณสมบตั ิกระท่อมที่มุงดว้ ยใบตองตึง อยสู่ บายไม่ร้อน ที่บา้ นรักไทยชาวไทยเช้ือ สายจีนยนู าน ทาบา้ นดว้ ยดินเหนียวมุงหลงั คาดว้ ยใบตองตึงอยสู่ บายกลมกลืนกบั ธรรมชาติเมื่อผพุ งั กย็ อ่ ย สลายไม่มีปัญหาตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม ใบตองตึงที่ร่วงหล่นตามธรรมชาติ จะเกบ็ กนั ในช่วงหนา้ หนาวตอนเชา้ ๆ เพราะยงั ไมก่ รอบ จากน้นั นามาตดั กา้ นใบแช่น้าแลว้ เรียงทบั เกบ็ ไว้ นาไมไ้ ผจ่ กั เป็นตอกหนาประมาณ 3-4 มม. ยาวประมาณ 2-3 ม. ใชเ้ ป็นกา้ น จดั ตอกเป็ นแผน่ หนาประมาณ 1.5-2 มม. ยาว 35 ซม. เพื่อใชใ้ นการเยบ็ เขา้ กบั กา้ นที่เตรียมไวเ้ รียกวา่ “ตบั พลวง” จากน้นั นามามุงหลงั คาและก้นั เป็นฝาบา้ นเพื่ออยอู่ าศยั แป้ งมนั สาปะหลงั แป้ งมนั สาปะหลงั เป็นแป้ งท่ีไดจ้ ากมนั สาปะหลงั ลกั ษณะของแป้ งมีสีขาว เน้ือเนียน ลื่นเป็น มนั เมื่อทาใหส้ ุกดว้ ยการกวนกบั น้าไฟอ่อนปานกลาง แป้ งจะละลายง่าย สุกง่าย แป้ งเหนียวติดภาชนะ หนืด ขน้ ข้ึนเรื่อยๆ ไมม่ ีการรวมตวั เป็นกอ้ น เหนียวเป็นใย ติดกนั หมด เน้ือแป้ งใสเป็ นเงา พอเยน็ แลว้ จะติดกนั เป็นกอ้ นเหนียว ติดภาชนะ ประโยชน์ของแป้ งมนั สาปะหลงั แป้ งมนั สาปะหลงั ถูกนาไปใชใ้ นอุตสาหกรรมไมอ้ ดั เนื่องจากลกั ษณะการผลิตไมอ้ ดั คือ การนาไม้ มาประกบติดกนั โดยใชก้ าว ซ่ึงแป้ งมนั กถ็ ูกนามาเป็นส่วนผสมในการทากาว เพราะแป้ ง มนั มีคุณสมบตั ิเป็น กาวอยแู่ ลว้ เพื่อใหไ้ มอ้ ดั ติดกนั เป็นแผน่ หนาแขง็ แรงและทนทาน นอกจากน้ีการ ใชแ้ ป้ งเป็นส่วนผสมยงั เป็นการลดตน้ ทุนการผลิตกาว เพราะ กาวที่ผลิตไดน้ ้นั ใชแ้ ป้ งเป็นส่วนผสม ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และแป้ งมนั สาปะหลงั ยงั มีคุณสมบตั ิพเิ ศษกวา่ แป้ งประเภทอื่น ๆ คือ เน้ือแป้ งมี ความละเอียด ทาใหไ้ มม่ ีการตกตะกอน เม่ือนามาใชผ้ สมทากาว นอกจากน้ีราคายงั ถูกกวา่ ดว้ ย
4 บทท3ี่ ข้นั ตอนการดาเนินงาน -วสั ดุอุปกรณ์ 1.ใบตองตึง 2.แป้ งมนั สาปะหลงั 3.แปรงทากาว 4.ถุงทราย - ข้นั ตอนการทา ใบตองสดดว้ ยการนาถุงทรายมาทบั บนใบตอง ซ่ึงวางอยบู่ นเตา-ซีเมนต์ ท่ีมีความร้อนระดบั อุณหภมู ิ 180 องศา นาน 30 วินาที จากน้นั ทาดว้ ยกาวแป้ งมนั และวางใบตองลงทีละช้นั เรียงโดยใหเ้ ส้น ของใบตองสลบั กนั แบบต้งั ฉากซ่ึงกนั และกนั เป็นจานวน 7 ช้นั จากน้นั ตอ้ งพ่ึงไวใ้ หแ้ หง้ ท่ีอุณหภมู ิหอ้ ง (ประมาณ 2 ชวั่ โมง) ก่อนนาไปอดั ข้ึนรูปดว้ ยแมพ่ มิ พร์ ูปถว้ ย ที่อุณหภูมิ 65 หรือ 70 องศา นาน 60 หรือ 30 วนิ าทีตามลาดบั ดว้ ยแรงกดขนาด 6 ตนั และพกั ชิ้นงานไวป้ ระมาณ 2 วนั ก่อนนาไปใชง้ าน
5 บทท4ี่ ผลการศึกษาค้นคว้า ในการศึกษาคน้ ควา้ เร่ือง การทาจานจากวสั ดุธรรมชาติ ผศู้ ึกษาคน้ ควา้ ไดก้ าหนดวตั ถุประสงคแ์ ละ สมมติฐานไวด้ งั น้ี วตั ถุประสงค์ 1 เพอื่ ผลิตภาชนะบรรจุอาหารจากวสั ดุธรรมชาติ 2 เพ่ือศึกษาความทนทานของวสั ดุธรรมชาติ 3 เพ่อื แกไ้ ขปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม 4 เพ่ือทดลองวา่ จานแบบใดที่สามารถนามาใชไ้ ดจ้ ริงและมีประสิทธิภาพมากกวา่ กนั 5 เพอื่ ประยกุ ตใ์ ชว้ สั ดุจากธรรมชาติใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด สมมุติฐาน การทาถว้ ยจากดินมีความทนทานมากกวา่ การทาถว้ ยจากใบตองตึง 1.การทาถว้ ยจากดินมีความทนทานมากกวา่ การทาถว้ ยจากใบตองตึง การทาถว้ ยจากดินมีความทนทานกวา่ ใบตองเพราะวา่ ดินมีความแขง็ แรงกวา่ แตใ่ บตองกส็ ามารถ เป็นภาชนะใส่อาหารไดแ้ ต่อาจจะมีอายกุ ารใชง้ านนอ้ ยกวา่ ภาชนะท่ีทาจากดิน แตเ่ ราควรใชภ้ าชนะท่ีทาจาก วสั ดุธรรมชาติแทรการใชภ้ าชนะท่ีเป็นโฟม 2.ลกั ษณะของใบตองตึง ใบตองตึงไม่มีขน ใบที่ยงั ไม่แก่ชาวจงั หวดั แม่ฮ่องสอน นิยมเกบ็ มาห่อของเช่น ห่อขา้ วห่อ ห่อของ จิปาถะคลา้ ย ๆ ใบตอง หรือใบบวั ในภาคกลาง ใบตองตึงเม่ือแก่และหล่นจากตน้ นามาทาเป็นตบั มุงหลงั คา กระทอ่ มคลา้ ยจากหรือแฝก มีความทนทานได้ 4-5 ปี คุณสมบตั ิกระท่อมที่มุงดว้ ยใบตองตึง อยสู่ บายไม่ร้อน ท่ีบา้ นรักไทยชาวไทยเช้ือสายจีนยนู าน ทาบา้ นดว้ ยดินเหนียวมุงหลงั คาดว้ ยใบตองตึงอยสู่ บายกลมกลืนกบั ธรรมชาติเมื่อผพุ งั กย็ อ่ ยสลายไม่มีปัญหาต่อสิ่งแวดลอ้ ม
6 บทท5่ี สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 1.สรุปผลการทดลอง การหาประสิทธิภาพของเคร่ืองอดั ข้ึนรูปจากวสั ดุธรรมชาติ จากผลการวจิ ยั พบวา่ เศษวสั ดุ ธรรมชาติที่จะนามาใชอ้ ดั ข้ึนรูปน้นั ควรมีความแขง็ แรงและสามารถยดื หยนุ่ ไดโ้ ดยไม่มีการรั่วซึมของน้าที่ อยบู่ นภาชนะ 2.อภิปรายผล เพื่อศึกษาการสร้างเคร่ืองอดั ข้ึนรูปบรรจุภณั ฑจ์ ากวสั ดุธรรมชาติ ไดศ้ ึกษาคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อข้ึน รูปภาชนะจากวสั ดุธรรมชาติแทนการใชถ้ ุงพลาสติก 3.ขอ้ เสนอแนะ - ควรมีการศึกษาวจิ ยั ต่อยอดเพื่อเพ่มิ ประสิทธิภาพของเครื่องอดั ข้ึนรูปบรรจุภณั ฑจ์ ากวสั ดุจาก ธรรมชาติและดา้ นคุณภาพของชิ้นงานเพอื่ นาไปใชใ้ นงานลกั ษณะอื่นๆได้ - ควรมีการศึกษาวจิ ยั การออกแบบผลิตภณั ฑใ์ นรูปแบบหรือรูปทรงอ่ืนๆ ในเชิงสร้างสรรค์ ท่ีอานวย ความสะดวกต่อผบู้ ริโภค
บรรณานุกรม https://www.dailynews.co.th/ http://fic.nfi.or.th/knowlegdedatabankResearch-detail.php?id=1087&fbclid=IwAR1L0jOF- Kuf731XilBJQMNpWgM-QPh4O_-_pOippOQaoatzIZjMtJZN8Xo https://sites.google.com/site/mansabpahlangsersthkic/prayochn-laea-karna-pi-chi https://sites.google.com/site/phachanajakbaimai/home/keiyw-kab-khorng-ngan
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: