การแสดงพ้ืนเมืองภาคใต้ ภาคใต้เปน็ ภาคทีม่ อี าณาเขตตดิ ต่อกับประเทศมาลาเชยี และเป็นดินแดนทต่ี ิดทะเล ทำใหเ้ กดิ การ ผสมผสานทง้ั ทางศาสนา วัฒนธรรม และอารยธรรมจากกล่มุ ชนหลายเชื้อชาติ เก่ยี วโยงถงึ ศาสนาและพิธีกรรม จนทำใหน้ าฏศิลป์ และดนตรใี นภาคใตม้ ีลักษณะทเี่ ปน็ เคร่ืองบันเทงิ ท้งั ในพิธกี รรมและพธิ ชี าวบา้ น เชน่ โนรา ลิเกฮลู ู ระบำบาติก ระบำกรีดยาง เปน็ ต้น ลเิ กฮลู ู เป็นการละเล่นพื้นบา้ นแถบจงั หวัดชายแดนภาคใต้ทไี่ ด้รับความนิยมมากของชาวไทยมสุ ลิมมักจะใช้ แสดงในงานมาแกปโู ละ งานสุหนัด งานเมาลิด งานฮารรี ายอแลว้ คำวา่ \"ลิเกฮลู ”ู หมายถึง การขับบทกลอน เป็นทำนองเสนาะจากทางใต้ ลกั ษณะการแสดง ลเิ กฮูลูคณะหน่งึ ๆ จะมีประมาณ 10 คน เป็นชายลว้ น มีต้นเสียง 1-3 คน ทเ่ี หลอื จะเป็นลูกคู่ เวทีลิเก ฮลู ู จะยกพนื้ สงู ประมาณ 1 เมตร เปิดโล่งไมม่ ีม่าน ไมม่ ฉี าก ลูกคู่ขึน้ ไปนั่งล้อมวงรอ้ งรับและตบมอื โยกตัวใหเ้ ข้า กับจงั หวะดนตรี สว่ นผรู้ อ้ งหรือผูโ้ ต้กลอนจะลุกข้ึนยนื่ ข้าง ๆ วงลกู คู่ ถา้ กรณีมีการประชันกนั แต่ละคณะจะข้นึ นั่งบนเวทีด้วยกัน แตล่ ้อมวงแยกกันพอสมควร การแสดงท่ผี ลัดกนั รอ้ งทีละรอบทัง้ รุกและรับเป็นท่ีครึกครื้นสบ อารมณ์ของผชู้ ม ลิเกฮลู ู เรม่ิ ตน้ ดว้ ยการแสดงดว้ ยดนตรที ่ใี ชโ้ หมโรงเป็นการเรียกผูช้ ม ตอ่ จากน้นั นกั รอ้ งออกมา ร้องเพลงในจงั หวะต่าง ๆ ทลี ะคน เนือ้ ร้องกลา่ วถึงความประสงคใ์ นการเล่น แล้วจึงเรม่ิ แสดง ซึ่งอาจจะเป็น เรือ่ งราวของเหตกุ ารณบ์ า้ นเมือง ปญั หาทอ้ งถิน่ หรือเรอื่ งตลกโปกฮาผแู้ สดงจะตอ้ งใช้คารมและปฏภิ าณให้ท้ัง ความรแู้ ละความบนั เทงิ แก่ผู้ชม เคร่อื งดนตรปี ระกอบการเลน่ ลเิ กฮูลู ประกอบด้วยรำมะนา อย่างน้อย ๒ ใบ ใช้ตดี ำเนินจงั หวะในการแสดง ฆ้องเปน็ เครือ่ งกำกับจงั หวะ ตี สมำ่ เสมอประกอบการรอ้ ง นอกจากนยี้ งั มเี ครอ่ื งดนตรที ่ีใชป้ ระกอบและเป็นท่นี ิยมกันว่า ทำให้ครึกครื้น สนกุ สนานไพเราะมากย่งิ ขน้ึ เชน่ ขลยุ่ ลูกแซก แต่จงั หวะท่ใี ชเ้ ป็นประเพณีในการละเลน่ คือ การตบมือ
การแต่งกาย วัฒนธรมมการแตง่ กายของคนใตน้ ัน้ แตกตา่ งกนั ในการใชว้ ัสดุ และรูปแบบโดยมีเอกลักษณ์ไปตามเชอ้ื ชาติ ของผู้คนอันหลากหลายท่ีเขา้ มาอยอู่ าศยั ในดินแดนอนั เกา่ แก่แห่งนพ้ี อจำแนกเป็นกลุ่มใหญๆ่ ไดด้ งั นี้ กลมุ่ ชาวไทยมสุ ลิม ชนดง้ั เดิม ของดินแดนนี้นับถอื ศาสนาอสิ ลาม และมี เชื้อสายมาลายู ยังคงแต่งกาย ตามประเพณี อนั เกา่ แก่ฝ่ายหญิงมีผ้าคลมุ ศรี ษะ ใส่เส้อื ผา้ มัสลนิ หรอื ลกู ไมต้ วั ยาวแบบมลายนู งุ่ ซน่ิ ปาเตะ๊ หรือ ซนิ่ ทอแบบมาลายู ฝา่ ยชายใส่เสอื้ คอตงั้ สวมกางเกงขายาว และมีผ้าโสร่งผนื สน้ั ที่เรียกว่า ผ้าซองเก็ต พนั รอบ เอวถา้ อยู่ บ้านหรอื ลำลองจะใส่โสร่ง ลายตารางทอดว้ ยฝา้ ย และสวมหมวกถกั หรือ เยบ็ ดว้ ยผ้ากำมะหย่ี กลมุ่ ชาวไทยพุทธ ชนพื้นบา้ น แต่งกายคล้ายชาวไทยภาคกลาง ฝ่ายหญงิ นยิ มนงุ่ โจงกระเบน หรือ ผ้าซ่นิ ดว้ ย ผา้ ยกอันสวยงาม ใสเ่ สอื้ สีออ่ นคอกลม แขนสามสว่ น สว่ นฝ่ายชายนงุ่ กางเกงชาวเล หรอื โจงกระเบน เช่นกัน สวมเสอ้ื ผ้าฝ้ายและ มีผ้าขาวม้าผกู เอว หรือพาดบา่ เวลาออกนอกบา้ นหรอื ไปงานพิธี ในส่วนของการแตง่ กายท่ใี ช้ในการแสดงลเิ กฮูลูนั้นจะแตง่ กายแบบพน้ื เมอื ง คือนุงผ้าโสรง่ สวมเส้อื คอกลม มีผา้ โพกหัว บางครัง้ เหนบ็ ขวานจะไว้ข่มคูต่ ่อสู้ ตอ่ มานิยมแต่งกายแบบซลี ะ คือนุงกางเกงขา ยาว นุ่งผ้าซอแกะทับข้างนอกสัน้ เหนอื เขา่ สวมเส้ือคอกลม มีผ้าโพกหวั และนยิ มใชส้ ีเหมอื นกันทัง้ คณะ
ทา่ ลเิ กฮูลเู บอ้ื งตน้ ทา่ ท่ี 1 ท่าลากอวน ท่าท่ี 2 ทา่ ปลาวา่ ยนำ้ หนี
ทา่ ท่ี 3 ทา่ นกสนั ตภิ าพ ท่าที่ 4 ทา่ เรียกกลับบ้าน
ทา่ ที่ 5 ทา่ รกั สามคั คี
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: