หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การประยุกต์ใช้กบั ยคุ โควดิ -19 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นปรัชญาช้ีถึงแนวการดารงอยแู่ ละปฏิบตั ิตนของประชาชนในทุกระดบั ต้งั แต่ ระดบั ครอบครัว ระดบั ชุมชน จนถึงระดบั รัฐ ท้งั ในการพฒั นาและบริหารประเทศใหด้ าเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกิจ เพอื่ ใหก้ า้ วทนั ต่อโลกยคุ โลกาภิวตั น์ ความพอเพยี ง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะตอ้ งมีระบบภูมิคุม้ กนั ในตวั ท่ีดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อนั เกิดจาก การเปล่ียนแปลงท้งั ภายในภายนอก พระราชดารัสท่ีเก่ียวกบั เศรษฐกิจพอเพยี ง เช่น “...เศรษฐศาสตร์เป็นวิชาของเศรษฐกิจ การท่ีตอ้ งใชร้ ถไถตอ้ งไปซ้ือ เราตอ้ งใชต้ อ้ งหาเงินมาสาหรับซ้ือน้ามนั สาหรับรถไถ เวลารถไถเก่าเราตอ้ งยง่ิ ซ่อมแซม แต่เวลาใชน้ ้นั เรากต็ อ้ งป้อนน้ามนั ใหเ้ ป็นอาหาร เสร็จแลว้ มนั คายควนั ควนั เราสูดเขา้ ไปแลว้ กป็ วดหวั ส่วนควายเวลาเราใชเ้ รากต็ อ้ งป้อนอาหาร ตอ้ งใหห้ ญา้ ใหอ้ าหารมนั กิน แต่วา่ มนั คายออกมา ท่ีมนั คายออกมากเ็ ป็นป๋ ุย แลว้ กใ็ ชไ้ ดส้ าหรับใหท้ ่ีดินของเราไม่เสีย...” พระราชดารัส เนื่องในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนงั คลั แรกนาขวญั ณ ศาลาดุสิดาลยั วนั ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๒๙ “...เราไม่เป็นประเทศร่ารวย เรามีพอสมควร พออยไู่ ด้ แต่ไม่เป็นประเทศท่ีกา้ วหนา้ อยา่ งมาก เราไม่อยากจะเป็น ประเทศกา้ วหนา้ อยา่ งมาก เพราะถา้ เราเป็นประเทศกา้ วหนา้ อยา่ งมากกจ็ ะมีแต่ถอยกลบั ประเทศเหลา่ น้นั ท่ีเป็น ประเทศอุตสาหกรรมกา้ วหนา้ จะมีแต่ถอยหลงั และถอยหลงั อยา่ งน่ากลวั แต่ถา้ เรามีการบริหารแบบเรียกวา่ แบบ คนจน แบบท่ีไม่ติดกบั ตารามากเกินไป ทาอยา่ งมีสามคั คีนี่แหละคือเมตตากนั จะอยไู่ ดต้ ลอดไป...” พระราชดารัส เนื่องในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลยั วนั ที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๔ “...ตามปกติคนเราชอบดูสถานการณ์ในทางดี ท่ีเขาเรียกวา่ เลง็ ผลเลิศ กเ็ ห็นวา่ ประเทศไทย เราน่ีกา้ วหนา้ ดี การเงินการอุตสาหกรรมการคา้ ดี มีกาไร อีกทางหน่ึงกต็ อ้ งบอกวา่ เรากาลงั เส่ือมลงไปส่วนใหญ่ ทฤษฎีวา่ ถา้ มี เงินเท่าน้นั ๆ มีการกเู้ ท่าน้นั ๆ หมายความวา่ เศรษฐกิจกา้ วหนา้ แลว้ กป็ ระเทศกเ็ จริญมีหวงั วา่ จะเป็นมหาอานาจ ขอโทษเลยตอ้ งเตือนเขาวา่ จริงตวั เลขดี แต่วา่ ถา้ เราไม่ระมดั ระวงั ในความตอ้ งการพ้ืนฐานของประชาชนน้นั ไม่ มีทาง...”
พระราชดารัส เนื่องในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลยั วนั ที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๖ แนวคดิ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ประกอบดว้ ย 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ไดแ้ ก่ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุม้ กนั และอยภู่ ายใต้ เง่ือนไขความรู้และคุณธรรม 3 ห่วง คือ ความพอประมาณ หมายถึงความพอดี พอเหมาะไม่มากหรือนอ้ ยเกินไปจนเบียดเบียนตนเองและผอู้ ื่น ซ่ึงเป็นไปตามพทุ ธเศรษฐศาสตร์ ยดึ หลกั ทางสายกลางและความไม่โลภ ความมีเหตุผล หมายถึง การตดั สินใจดาเนินการใดอยา่ งมีเหตุผล คานึงถึงผลที่คาดวา่ จะเกิดข้ึนจากการ กระทาอย่างรอบคอบ ใช้หลกั เหตุผลตามความพอเพียง ตามหลกั วิชาการ กฎหมาย ศีลธรรม จริยธรรมและ วฒั นธรรมท่ีดีงาม ซ่ึงเป็ นไปตามพุทธเศรษฐศาสตร์ ใช้ปัญญาในการพิจารณาตดั สินใจใช้หลกั เหตุผลมิใช่ คานึงถึงความอยาก ความโลภ หรือตณั หา การมีภูมิคุม้ กนั ท่ีดี หมายถึงการเตรียมตวั พร้อมรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลงทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและวฒั นธรรมเพ่ือให้สามารถปรับตวั และรับมือได้อย่างทนั ท่วงที ซ่ึงเป็ นไปตามพุทธ เศรษฐศาสตร์ที่มีความไม่ประมาทตอ้ งเตรียมพร้อมและเขา้ ใจถึงการเปล่ียนแปลงที่เป็นไปตามธรรมชาติ 2 เงื่อนไข คือ 1.เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้เกี่ยวกบั วิชาการต่างๆท่ีเก่ียวขอ้ ง และมีความรู้ในการตดั สินใจได้ ถูกตอ้ ง ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั พทุ ธเศรษฐศาสตร์ที่เนน้ การใชป้ ัญญา 2.เง่ือนไขคุณธรรม หมายถึงการยึดหลกั คุณธรรมเป็ นแนวทาง มีความซื่อสัตยส์ ุจริต ไม่โลภ รู้จัก แบ่งปันใหผ้ อู้ ื่น มีความสามคั คี ดาเนินชีวิตดว้ ยความอดทน พากเพียร ใชส้ ติปัญญาในการดาเนินชีวิต ซ่ึงเป็นไป ตามพทุ ธเศรษฐศาสตร์
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลกั ที่จะช่วยใหค้ นทุกๆ คนสามารถดารงชีวติ อยา่ งมีความสุข ดว้ ยการนาหลกั อนั น้ีมาปรับใช้ แต่ในการปรับใชน้ ้ีเราก็ตอ้ งนามาปรับใชใ้ หถ้ ูกวิธี ถึงจะเห็นผลที่ดีแก่ตวั เรามากท่ีสุด ซ่ึงในช่วงน้ี ในปี พ.ศ.2563-ปัจจุบนั น้ีกไ็ ดเ้ กิดโรคระบาดโควดิ 19 ทว่ั โลกซึงทาใหไ้ ดร้ ับผลกระทบทว่ั กนั เรากต็ อ้ งปรับการ ใชช้ ีวิตอยา่ งมาก บางคนก็ตกงาน และอีกมากมาย ในประเทศเราก็ไดม้ ีหลกั หน่ึงที่ชื่อวา่ “หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง” เป็ นหลกั ที่ รัชกาลที่ 9 ไดด้ าริคิดคน้ เพื่อหาทางออกของปัญหาให้กบั ประชาชนมานานแลว้ หลกั น้ีก็ เป็ นที่ปฏิบตั ิกนั ต่อมา ซ่ึงในช่วงของการระบาดของโรคน้ีก็สามารถนามาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มาก อยา่ งเช่น การปลูกพชื -ผกั กินเอง เล้ียงไก่ไข่ และอื่น ๆ ปลกู ผกั หวาน
อ้างองิ 1.มหาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง [ออนไลน์].2560,แหล่งท่ีมา shorturl.asia/heMdT [ 18 พฤศจิกายน 2564] 2.มูลนิธิชยั พฒั นา.พระราชดารัสที่เก่ียวกบั เศรษฐกิจพอเพียง[ออนไลน์].2560,แหล่งที่มา shorturl.asia/Omuzb [ 18 พฤศจิกายน 2564] นายอิทธิพทั ธ์ นาคแกว้ ช้นั ม.5/8 เลขที่ 19
กจิ กรรมสัมพนั ธ์กับชีวติ จริง บ้านของเรา -หน้าบ้าน -เป็นท่ีนงั่ สาหรับคนมาเยอื น -เป็นท่ีนงั่ เลน่ --อีกฝ่ังกจ็ ะเป็นโรงรถ
-ห้องรับแขก -จะไม่ไดเ้ ป็นหอ้ งแต่มีโตะ๊ ชุดไมอ้ ยหู่ นา้ บา้ น -สาหรับรับแขกท่ีมาเยอื น -ห้องนอน -หอ้ งนอนผมไม่ไดเ้ ป็นหอ้ ง ตูเ้ ส้ือผา้ จะอยอู่ ีกที่ -บริเวณน้นั จะประกอบดว้ ย ท่ีนอน และโตะ๊ ทาการบา้ น โต๊ะวางหนงั สือ
-ห้องครัว -ภายในครัวประกอบดว้ ยตูก้ บั ขา้ ว หมอ้ ขา้ วอปุ กรณ์ครัว ตูเ้ ยน็ -ใชพ้ ้ืนที่ในการปรุงอาหาร -สาหรับรับประทานอาหาร ท่ีอย:ู่ 160/2 หมู่ 6 ตาบลนาหมอบุญ อาเภอจุฬาภรณ์ จงั หวดั นครศรีธรรมราช นายอิทธิพทั ธ์ นาคแกว้ ช้นั ม.5/8 เลขท่ี 19
การเลือกเสื้อผ้า ชุดนกั เรียน การเลือกชุดนกั เรียนกต็ อ้ งเป็นไปตามกฎระเบียบตามที่ กาหนด เลือกขนาดเส้ือ ขนาดกางเกงใหเ้ หมาะสมกบั ผสู้ วมใส่ เลือกชนิดผา้ ท่ีทด ไม่ชารุดง่าย สวมใส่แลว้ สะดวกและสบาย ชุดไปเที่ยว หรือไปเรียนพเิ ศษและอื่นๆ ควรเลือกเส้ือผา้ ที่สุภาพกวา่ เส้ือผา้ ท่ีใส่อยทู่ ี่บา้ น และเป็น เส้ือผา้ ที่สะดวกสามารถทากิจกรรมได้ การร่วมพิธีงานมงคล เส้ือผา้ ที่เราใส่ไปตอ้ งเหมาะสมกบั งาน อาจจะพถิ ีพิถนั กวา่ การไป เท่ียว สีสนั ตอ้ งเขา้ กบั งาน ชุดท่ีเราเลือกใส่เหมาะกบั เราหรือไหม ถา้ หากมีเครื่องประดบั กต็ อ้ งใหม้ นั เขา้ กบั ชุดที่ใส่ ชุดร่วมศาสนพิธี ควรแต่งกายใหเ้ หมาะสม ไม่ควรแต่งชุดสีสนั เกินไป เลือกเส้ือผา้ สีเรียบ ๆ ผหู้ ญิงอาจใส่เส้ือลูกไมก้ บั กระโปรง
การดูแลเสื้อผ้า การซักผ้า คือ การทาให้ส่ิงสกปรก ไดแ้ ก่ คราบเป้ื อน ฝ่ ุนละออง หลุดออกจากเส้ือผา้ โดยใชส้ ารช่วยทา ความสะอาด เช่น ผงซกั ฟอก น้ายาซกั แหง้ จะช่วยทาใหก้ ารซกั ผา้ ง่ายและสะอาด ไม่ตอ้ งขย้มี ากเมื่อซกั ดว้ ยมือ การตากผ้า ก่อนตากผา้ ควรกลบั ผา้ ดา้ นในออกทุกชิ้น เพื่อป้องกนั ผา้ สีซีดเมือถูกแสงแดดควรใชว้ ิธีการบีบ น้าออกจากผา้ แทนการบิด เพอ่ื ไม่ใหผ้ า้ ยบั มาก เส้นใยผา้ ไม่ขาดง่ายและทาใหใ้ ชง้ านไดน้ าน เส้ือหรือกางเกงควร ตากดว้ ยวิธีการแขวนดว้ ยไมแ้ ขวนเส้ือ ขณะตากผา้ ควรจดั ผา้ ใหเ้ รียบหรือมีรอยยบั นอ้ ยที่สุด เพ่ือประหยดั เวลา ในการรีดผา้
การรีดผ้า เป็นการทาใหผ้ า้ เรียบโดยใชค้ วามร้อนจากเตารีด โดยทวั่ ไปมี 2 วิธี การรีดทบั ซ่ึงเป็นวิธีการรีด โดยใชเ้ ตารีดยกทบั ผา้ ท่ีละส่วน วธิ ีการน้ีจะทาใหผ้ า้ เรียบ เหมาะสาหรับ ผา้ ท่ีพถิ ีพิถนั และเสียรูปทรงไดง้ ่าย ส่วนวธิ ีไถ เป็นวธิ ีรีดผา้ โดยใชม้ ือไถไปมาส่วนบริเวณท่ีตอ้ งการรีด วธิ ีน้ีจะทาใหร้ ีดไดร้ วดเร็ว นายอิทธิพทั ธ์ นาคแกว้ ช้นั ม.5/8 เลขท่ี 19
การซ่อมแซมเสื้อผ้าทช่ี ารุด ความชารุดของเส้ือผา้ ที่จะซ่อมแซม คือ ขอบกางเกงท่ีขาด อปุ กรณ์ในการซ่อมแซม มดี งั นี้ 1.เขม็ 2.ดา้ ยสีเทา 3.กรรไกร
ข้นั ตอนในการซ่อมแซม เยบ็ โดยใชว้ ธิ ีเยบ็ ตรง เมื่อเยบ็ เสร็จกผ็ กู ปม เพอื่ ความอยขู่ องดา้ ยที่เยบ็
ผลท่สี าเร็จ นายอิทธิพทั ธ์ นาคแกว้ ช้นั ม.5/8 เลขท่ี 19
อปุ กรณ์เครื่องครัว 1.กระชอนกรองนา้ กะทิ ใชส้ าหรับการแยกกากมะพร้าว เพ่อื แยกระหวา่ งน้ากะทิกบั กากของมนั ออกจากกนั 2.เขียง การใชเ้ ขียงที่ถูกตอ้ งน้นั ตอ้ งแยกเขียงที่ใชห้ น่ั ระหวา่ งอาหารสุก ดิบ และผกั ท้งั น้ีเพื่อป้องกนั เช้ือโรคท่ีปนมากบั อาหาร ท่ีสาคญั การใชง้ านทุกคร้ังควรทาความสะอาดก่อนทุกคร้ังและหลงั การใชง้ านดว้ ย ใชส้ าหรับรองหนั่ เน้ือสตั ว์ ผกั ต่างๆ
3.มดี จะมีหลายขนาดแต่ละขนาดจะมีวิธีการใชท้ ี่แตกต่างกนั เราจะตอ้ งใชใ้ หถ้ ูกวธิ ี และใหเ้ หมาะสม มีดจะใชห้ น่ั เน้ือสตั ว์ ปอกเปลือกผลไม้ 4.มดี ปอกผลไม้ ใชส้ าหรับปอกผลไม้ หรือผกั ท่ีตอ้ งบอกเปลือกออก 5.ทพั พแี บบกลม ใชส้ าหรับตกั แกง ตกั อาหารต่างๆ
6.ตะหลวิ ตะหลิวแบบเรียบ และ ตะหลิวแบบมีช่อง สาหรับ ตะหลิวแบบเรียบ ใชส้ าหรับพลิกกลบั หรือทอดอาหารท่ีใช้ น้ามนั นอ้ ย และ ตะหลิวแบบมีช่อง เพ่ือใหข้ องเหลวไหลผา่ น ใชต้ กั อาหารที่ตอ้ งการแยกน้า และใชส้ าหรับผดั อาหาร หรือตกั อาหารออกจากภาชนะอีกดว้ ย 7.กระทะ กระทะเหล็กใบใหม่ๆที่ซ้ือมาน้นั ก่อนใชค้ วรต้งั กระทะให้ร้อน ใชผ้ า้ ชุบน้ามนั แตะเกลือถูเสียก่อน เมื่อใชท้ อด อาหารจะไม่ติดกระทะ อีกวิธีหน่ึงที่จะทาใหก้ ระทะท่ีซ้ือมาใหม่ใชป้ ระกอบอาหารโดยไม่ติดกระทะ โดยการนา กระทะตม้ น้าผสมน้าสม้ สายชูอยา่ งละคร่ึง พอตม้ น้าเดือดแลว้ เทน้าทิ้งก่อน จึงคอ่ ยนามาใชง้ าน
7.หม้อนึง่ สามารถน่ึง ไก่ ข้าวเหนียว หรืออุ่นอาหารได้ 9.หม้อ เป็ นอุปกรณ์ทตี่ ้องมอี ยู่เพ่ือทจ่ี ะใช้ทาแกง ต้ม ต่างๆ หรืออาจจะเป็ นที่ล้างผกั ในส่วนน้นั ด้วยกไ็ ด้ 10.ภาชนะล้าง หรือใส่เนื้อสัตว์ สาหรับใส่ล้างผกั ล้างเนื้อสัตว์ก่อนนามาใช้ และเป็ นทใ่ี ส่ด้วย
อ้างองิ เพกะลาว.อุปกรณ์เครื่องครัว.(ออนไลน์).2021.แหลง่ ท่ีมา https://www.playglao.co/2021/10/04/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0 %B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C- %E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8% 87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A7/ [15 มกราคม 2564] นายอิทธิพทั ธ์ นาคแกว้ ช้นั ม.5/8 เลขที่ 19
เมนูอาหารคาวและอาหารจานเดยี ว ช่ืออาหาร: ผดั กะเพราเอน็ แกว้ ไก่ไข่ดาว ประโยชน:์ ผดั กะเพราเอน็ แกว้ ไก่ไข่ดาว ใบกะเพราช่วยในเรื่องลดไขมนั และบารุงลาไส้ พริกใหแ้ คปไซซินที่ช่วยแกอ้ าการภูมิแพ้ และไขด่ าวที่มีประโยชนช์ ่วยใหว้ ติ ามินท่ีดูด ซึมในไขมนั เขา้ ไปในร่างกายไดด้ ีข้ึน อุปกรณ์: 1.กระทะ 2.ตะหลิว 3.มีด 4.จาน/ชอ้ น 1 คู่ วตั ถุดิบ/เคร่ืองปรุง: 1.เอน็ แกว้ ไก่ 2.ใบกะเพรา 3.ไขเ่ ป็ด 1 ฟอง 4.น้าตาล 5.ซีอิว้ ขาว 6.ซอสหอยนางรม 7.น้ามนั 8.ซีอิว้ หวาน 9.พริก 10.กระเทียม 11.เกลือ วธิ ีการประกอบอาหาร: 1.ต้งั กระทะแลว้ ใส่น้ามนั ลงไปเลก็ นอ้ ย 2.พอน้ามนั ร้อนแลว้ กใ็ ส่พริกและกระเทียมลงไปเจียวใหม้ ีกล่ินหอม 3.เมื่อเจียวพริกและกระเทียมพอสมควรแลว้ กใ็ ส่เอน็ แกว้ ไก่ลงไปผดั ใหเ้ ขา้ กนั 4.ผดั ไปเรื่อย ๆ จนสุกพอประมาณแลว้ กใ็ ส่เคร่ืองปรุง ใส่ซอสหอยนางรมพอประมาณ ตามดว้ ยซือิว้ ขาว เกลือ และน้าตาล แลว้ ผดั ใหเ้ ขา้ กนั 5.ผดั ไดเ้ ขา้ ท่ีแลว้ กใ็ ส่ใบกะเพราเป็นลาดบั สุดทา้ ย แลว้ กป็ ิ ดเตาแก๊ส นามาจดั จาน แลว้ รับประทานได้
อาหารและโภชนาการ อาหาร หมายถึง สารซ่ึงอาจเป็นของแขง็ หรือของเหลวท่ีรับประทานเข้าไปแลว้ ไม่เป็นพิษหรือโทษต่อ ร่างกายแต่มีประโยชนต์ ่อร่างกาย โภชนาการ หมายถึงวิทยาศาสตร์สาขาหน่ึงที่ศึกษาเก่ียวกบั การเปล่ียนแปลงของอาหารที่เข้าไปใน ร่างกายการพฒั นาของร่างกายจากการไดร้ ับสารอาหารรวมท้งั การปรุงแต่งอาหารใหเ้ หมาะสมกบั ความตอ้ งการ ตามสภาพและวยั ถ้านาเอาอาหารต่างๆมาวิเคราะห์จะพบว่ามีสารประกอบอยู่มากมายหลายชนิด โดยอาศัยหลกั คุณค่าทาง โภชนาการทาใหม้ ีการจดั สารประกอบต่างๆ ในอาหารออกเป็น 6 ประเภท คือโปรตีน (protein) คาร์โบไฮเดรต (carbohydrate) ไขมนั (fat) วิตามิน (vitamin) เกลือแร่ (mineral) และนา้ สารประกอบท้งั 6กลุ่มนี่เองที่เรียกว่า “สารอาหาร” (nutrient) ร่างกายประกอบดว้ ยสารอาหารเหล่าน้ีและการทางานของร่างกายจะเป็ นปกติอยู่ไดก้ ็ ต่อเม่ือไดส้ ารอาหารท้งั 6 ประเภทครบถว้ น
1.โปรตนี -แหล่งอาหารประเภทโปรตีน พบไดใ้ นสารอาหารจาพวกเน้ือสัตว์ ไข่ ถวั่ และนม เช่น เน้ือหมูเน้ือไก่ เน้ือววั เน้ือปลา เคร่ืองในสัตว์ ไข่ไก่ ถว่ั เหลือง เต้าหู้ นมววั นมแพะ ซ่ึงจะช่วยเน้นให้ร่างกายเจริญเติบโตสมบูรณ์ แขง็ แรง - ประโยชน์ของโปรตีน สารอาหารหมู่น่ีจะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต เสริมสร้างความแขง็ แรง ป้องกนั ไม่ให้ ร่างกายเกิดอาการเจ็บ ป่ วยง่าย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเสริมสร้างเซลลแ์ ละเน้ือเย่ือของอวยวั ะควบคุมการ ทางานของระบบทางเดินหายใจระบบยอ่ ยอาหารและระบบการดูดซึมของร่างกาย 2.คาร์โบไฮเดรต -แหล่งอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต พบไดใ้ นสารอาหารจาพวกขา้ วแป้ง น้าตาล มนั และเผอื ก เช่น ขา้ วเจา้ ขา้ วเหนียว ขา้ วโพด แป้งมนั สาปะหลงั แป้งจากเส้นก๋วยเตี๋ยว เสน้ ขนมจีน น้าตาลทราย น้าตาลออ้ ย น้าตาล มะพร้าว น้าผ้งึ หวั เผอื ก มนั เทศ ซ่ึงจะช่วยเนน้ ใหพ้ ลงั งานและใหค้ วามอบอนุ่ กบั ร่างกาย - ประโยชนข์ องคาร์โบไฮเดรต สารอาหารหมู่น้ีจะช่วยใหพ้ ลงั งานเพื่อที่ร่างกายจะนาไปใชท้ ากิจกรรมในแต่ ละ วนั ไดเ้ พยี งพอ มีส่วนช่วยเผาผลาญไขมนั ไปเป็นพลงงาน เสริมสร้างการทางานของระบบประสาทและสมอง อีกท้งั มีสารอนุพนั ธุ์ของกลโู คส หรือกรดกลูคูโรนิก ที่ช่วยขบั สารพิษในตบั ใหล้ ดลงและช่วยกาจดั ของเสียออก จากร่างกาย
3.ไขมนั -แหลง่ อาหารประเภทไขมนั พบไดใ้ นสารอาหารจา พวกไขมนั และน้ามนั จากพืชและสตั วซ์ ่ึงไขมนั จากสตั ว์ มกั เป็ นไขมนั อ่ิมตวั รวมถึงไขมนั ที่แฝงอยู่ในเน้ือสัตว์ เช่น น้ามนั จากหมู ไก่เน้ือ ไข่แดง และถว่ั ชนิดต่างๆ ส่วน ไขมนั จากพืชมกั เป็ นไขมนั ไม่อิ่มตวั เช่น น้ามนั ราขา้ ว น้ามนั มะพร้าว น้ามนั ถวั่ เหลือง น้ามนั มะกอก น้ามนั ขา้ วโพด น้ามนั เมลด็ ดอกทานตะวนั ซ่ึงจะช่วยเนน้ ใหเ้ กิดการสะสมพลงั งานและเพม่ิ ความอบอุ่นใหร่างกาย - ประโยชน์ของไขมนั สารอาหารหมู่น้ีจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยสะสมไขมนั จาก สารอาหารเอาไวไ้ ตผ้ ิวหนงั เช่น ตน้ แขน ตน้ ขา หนา้ ทอ้ ง สะโพก ซ่ึงการสะสมไขมีนน้ีจะช่วยเพ่ิมความอบอุ่น แก่ร่างกายเม่ือร่างกายขาดพลงั งาน ไขมนั ที่ถูกสะสมไวต้ ามบริเวณต่างๆ กจ็ ะถูกนา ออกมาใชท้ ดแทน
4.วติ ามิน -แหล่งอาหารประเภทวติามิน พบได้ในสารอาหารจา พวกผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น กล้วย ส้ม แอปเปิ้ ล ฝร่ัง สบั ปะรด มะละกอ ลาไย มงั คุด ซ่ึงจะช่วยเนน้ ในเร่ืองการขบั ถา่ ยของลาไส้ - ประโยชน์ของวิตามิน สารอาหารหมู่น้ีมีคุณประโยชน์คล้ายกบั หมู่3 เพราะให้เกลือแร่และแร่ธาตุรวมถึง วิตามินต่างๆ โดยประโยชน์ของวิตามิน ดงั น้ี ∙ วิตามินเอ ช่วยบารุงสายตากระดูก ฟัน เหงือก ∙ วิตามินบีประโยชน์หลากหลายแลว้ แต่ชนิด เช่น วิตามินบี 1 บารุงประสาท วิตามินบี2 บารุงผิวพรรณ∙ วิตามิน ซีป้องกนั หวดั เลือดออกตามไรฟัน ชะลอวยั ∙ วติ ามินดี เสริมแคลเซียมและฟอสฟอรัส จาเป็นต่อกระดูก ∙ วิตามินอี ลดความเสื่อมของเซลล์ ∙ วิตามินเค ช่วยสร้างล่ิมเลือด ป้องกนั กระดูกเปราะ
5.เกลือแร่และนา้ -แหล่งอาหารประเภทเกลือแร่และแร่ธาตุพบไดใ้ นสารอาหารจาพวกผกั ชนิดต่างๆ เช่น ผกั ตาลึง ผกั กาด ผกั บุง้ ผกั คะน้า ฟักทอง กะหล่าปลี แตงกวา ซ่ึงจะช่วยเน้นการเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายโดยแร่ธาตุที่ร่างกาย ตอ้ งการมี18 ชนิด แต่ท่ีเป็นตวั หลกั มี 7 ชนิด คือแคลเซียม ไอโอดีน แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม เหลก็ และ สังกะสี - ประโยชน์ของเกลือแร่และแร่ธาตุสารอาหารหมู่น้ีจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุม้ กนั สามารถป้องกนั เช้ือ โรคไวรัส และแบคทีเรียต่างๆ ท่ีจะเขา้ มาทาลายร่างกาย พร้อมท้งั ช่วยบารุงดวงตา ช่วยใหม้ องเห็นชดั เจนแมใ้ น ท่ีมืด เสริมสร้างเซลล์ของระบบประสาท ไขขอ้ กระดูกและระบบการย่อยอาหารกระตุน้ ให้เกิดการขบั ถ่ายที่ดี เน่ืองจากผกั แต่ละชนิดมีกากใยสูง สามารถกาจดั ของเสียออกจากลาไส้ได้ อาหารท่ีเหมาะสมแต่ละช่วงวยั วยั ทารก แรกเกิด – 6 เดือน นมแม่เป็นอาหารท่ีดีท่ีสุดสาหรับวยั น้ีเพราะนมแม่มีสารอาหารท่ีทารกตอ้ งการอยา่ วง ครบถว้ น แต่ถา้ อายครบ 6 เดือน เขา้ สู่ช่วงหยา่ นม อาจเริ่มใหอ้ าหารบดทีละชนิดเพ่ือใหร้ ู้จกั กบั การบดเค้ียว ติดตาม ดูอาการแพข้ องอาหารชนิดต่างๆ ไม่ควรเติมเกลือ น้าตาลและสารปรุงรสเพ่ือไม่ใหเ้ ดก็ ติดหวานและเคม็ สามารถใหน้ มแม่หรือนมผงสาหรับเดก็ ทารกไปพร้อมกบั การใหอ้ าหารอ่ืน ๆได้
วยั เดก็ เด็กวยั ก่อนเรียน อาย1ุ -5 ปี ยงั ไม่สามารถรับประทานอาหารไดเ้ ยอะมากนกั ควรป้อนอาหารเป็นม้ือเล็ก ๆ และ ของวา่ งท่ีมีประโยชน์ฝึ กให้เดก็ กินผกั โดยอาจจะหนั่ เป็นชิ้นเลก็ สอดแทรกลงไปในอาหารใหม่สีสนั สวยงาม น่า รับประทาน ฝึกใหเ้ ดก็ หยบิ จบั อาหารดว้ ยตวั เอง เด็กวยั เรียน อายุ 6 – 12 ปี ควรให้ความสาคญั กบั อาหารเช้ารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ วยั น้ีมกั จะเลือก อาหารท่ีเขา้ ถึงไดง้ ่ายที่มีขายอยทู่ ้งั ในและนอกโรงเรียน หรือใกล้ท่ีพกั อาศยั ควรมีการให้ความรู้ทางโภชนาการ และปลูกฝังพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เหมาะสม ควรให้เด็กไดบ้ ริโภคนมและผลิตภณั ฑจ์ ากนมเพื่อใหไ้ ดร้ ับโปรตีนและแคลเซียม นาไปใชใ้ นการเจริญเติบโต ของร่างกายเสริมสร้างกระดูกและฟัน ซ่ึงนมที่เหมาะสมสาหรับเด็ก คือ นมครบส่วน หรือนมไขมนั เตม็ เพราะ ใหพ้ ลงั งานท่ีเพยี งพอต่อความตอ้ งการของร่างกายแต่ควรเป็นนมรสจืดที่ไม่ปรุงรส วยั รุ่น วยั น้ีสามารถรับประทานอาหารได้มากเพราะมีการเจริญเติบโตของร่างกายอย่างรวดเร็ว ตอ้ งการอาหารท่ีมี พลงงั านสูงแต่ให้คุณค่าทางโภชนาการครบถว้ น วยั รุ่นมกั จะใหค้ วามสาคญั กบั รูปร่างและสัดส่วนของร่างกาย ซ่ึงไม่ควรใชว้ ิธีการอดอาหารเพื่อลดน้าหนกั แต่ควรใชว้ ิธีการรับประทานอาหารให้ถูกสัดส่วนและออกกาลงั กาย อยา่ งสม่าเสมอ วยั ผู้ใหญ่ อาหารสาคญั ของคนวยั น้ีควรเลือกอาหารท่ีมีเส้นใยสูง เช่น ผกั และผลไมข้ า้ ว/แป้งท่ีไม่ผ่านกระบวนการขดั สี ไดเ้ แก่ ขา้ วกลอ้ ง ขนมปังโฮลวีต และธญั พชื ต่างๆ รับประทานอาหารที่ใหโ้ ปรตีนพอประมาณ เช่น เนิ้อสตั ว์ นม ไข่และถวั่ ต่างๆ สิ่งสาคญั ที่สุด คือ การควบคุมน้าหนกั ใหอ้ ยใู่ นช่วงที่เหมาะสมกบั ส่วนสูงของตนเอง ผู้สูงอายุ วยั น้ีจะมีการเสื่อมถอยของร่างกาย ดงั น้นั ควรรับประทานอาหารท่ียอ่ ยง่ายและใหค้ ุณคา่ ทางโภชนาการสูง เลือก โปรตีนคุณภาพดีจากไข่ปลาและเน้ือสัตวไ์ ขมนั ต่า เสริมสร้างกระดูกดว้ ยนมและผลิตภณั ฑจ์ ากนม ปลาเลก็ ปลา นอ้ ย งาดา เตา้ หูแ้ ขง็ และผกั ใบสีเขียวเขม้
อ้างองิ อาหารและโภชนาหารเพื่อสุ ขภาพ -การพัฒนาคุณภาพชีวิต[ออนไลน์]. 2019.แหล่งท่ีมา https://sites.google.com/site/rungratsarthien/xahar-laea-phochnakar-pheux sukhphaph?fbclid=IwAR2VA5kMG6HBFSlkWou4zcz1OTAOaw2faGDpCpzEsVUtFrV9uwztjTGs0BA [5กมุ พาพนั ธ์2565] อาหาร 5 หมู่คุณค่าทางโภชนาการที่จาเป็ นต่อร่างกายในทุกช่วงวยั [ออนไลน์]).2564.แหล่งท่ีมา https://www.doctorraksa.com/th-TH/blog/5-essential-nutrients.html?fbclid=IwAR0K tY_0dy62XOzrjNjEmbhiu4avnM1KKVZZ-1y5vvpIJsvYMgTfGjIXCc [5กมุ พาพนั ธ2์ 565] นายอิทธิพทั ธ์ นคแกว้ ช้นั ม.5/8 เลขที่ 19
การประดษิ ฐ์จากเศษวสั ดุ วสั ดุ หมายถึง วตั ถุท่ีน ามาใชใ้ นงานต่างๆ ซ่ึงมีระยะการใชง้ านไม่มากนกั เช่น กระดาษ ดินสอ เศษวสั ดุหมายถึง เศษวตั ถุท่ีเหลือจากการใชเ้ ช่นกระป๋ องน้าอดั ลมแกนกระดาษช าระ หลอดกาแฟ ความหมายของงานประดษิ ฐ์ ความหมายของงานประดิษฐ์ หมายถึง งานท่ีเกิดจากการใชค้ วามคิดสร้างสรรคข์ องมนุษยส์ ร้าง หรือ ประดิษฐ์ข้ึนตามวตั ถุประสงคท์ ่ีหลากหลาย หรือเพ่ือความสวยงาม หรือประดบั ตกแต่งหรือเพื่อประโยชน์ใช้ สอย ความเป็ นมาของงานประดษิ ฐ์ สิ่งประดิษฐ์เกิดข้ึนเพราะมนุษยเ์ ป็นผสู้ ร้างผพู้ ฒั นา ปรับปรุงและเปล่ียนแปลงแบบ ผลงานดว้ ยความคิด สร้างสรรค์ท่ีมีอยู่ในแต่ละบุคคล มีวตั ถุประสงค์ในการสร้างสิ่งประดิษฐ์เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการดา้ น ประโยชน์ใชส้ อย งานประดิษฐ์มีความสัมพนั ธ์และเก่ียวขอ้ งกบั ชีวิตประจาวนั ของคน ไทยต้งั แต่สมยั โบราณ เกี่ยวขอ้ งกบั ขนบธรรมเนียมและประเพณีทางศาสนา
หลกั การสร้างสรรค์งานประดษิ ฐ์ การสร้างสรรคง์ านประดิษฐใ์ หป้ ระดิษฐใ์ หป้ ระสบผลสาเร็จน้นั ผเู้ รียนตอ้ งมีความพงึ พอใจ ใน การทางาน โดยยดึ หลกั การดงั น้ี 1. หมนั่ ศึกษาหาความรู้ในงานท่ีตนเองสนใจ โดยศึกษาจากผูเ้ ช่ียวชาญการในชุมชนการโรงเรียน จากตวั อยา่ ง ส่ิงประดิษฐท์ ่ีสนใจ 2. ศึกษาหลกั การ วิธีการ หรือข้นั ตอนการปฏิบตั ิงาน ในการประดิษฐ์ชิ้นงานโดยการวิเคราะห์ ดว้ ย ตนเองหรือ ศึกษาจากผรู้ ู้ ผเู้ ช่ียวชาญ หรือจากสื่อต่าง ๆ เช่น วารสาร หนงั สือ เป็นตน้ 3. ทดลองการปฏิบตั ิการประดิษฐ์ ผเู้ รียนตอ้ งศึกษาคน้ ควา้ และทดลองปฏิบตั ิตามแนวคิดท่ีได้ สร้างสรรคไ์ วแ้ ละ มีการปรับปรุงแกไ้ ขขอ้ บกพร่องจนสาเร็จเป็นชิ้นงานประดิษฐท์ ี่พึงพอใจประเภทของงานประดิษฐ์งานประดิษฐ์ สามารถจาแนกตามลกั ษณะการน าไปใชง้ านได้ 3 ประเภท ดงั น้ี 1. งานประดิษฐป์ ระเภทของเล่น ประดิษฐ์ข้ึนเพ่ือความเพลิดเพลินและพฒั นาทกั ษะดา้ นต่างๆของเด็ก ของเล่นบางประเภทช่วยเสริมความรู้ให้ แก่เด็ก ของเล่นในสมยั โบราณจะประดิษฐ์จากวสั ดุท่ีหาไดง้ ่ายในทอ้ งถิ่น และมีวิธีการประดิษฐ์ท่ีไม่ซับซ้อน เช่น ป้ันดินเป็นรูปสตั ว์ สานใบตาล ใบลาน หรือใบมะพร้าวเป็นปลาตะเพียน มา้ กา้ นกลว้ ย ส่วนของเลน่ ที่พบใน ปัจจุบนั มกั จะประดิษฐจ์ ากวสั ดุประเภทกระดาษ ผา้ พลาสติก และโลหะ
2.งานประดิษฐ์ประเภทของใช้ ส่ิงของที่ประดิษฐข์ ้ึนมาเพอ่ื ใชส้ อยในชีวติ ประจาวนั มีหลายรูปแบบ และมีวธิ ีประดิษฐท์ ี่หลากหลาย เช่น การป้ัน การจกั สาน การเยบ็ การปัก การถกั การทอ ซ่ึงเป็นเอกลกั ษณ์ไทย ที่สืบทอดความรู้จากบรรพบุรุษมาสู่ลูกหลาน หรือเป็ นการประยุกต์ดัดแปลงให้สอดคลอ้ งกับเทคโนโลยีและวิถีชีวิตปัจจุบนั ได้แก่ กระชอนจากไม้ไผ่ กระบวยตกั น้าจากกะลามะพร้าว กระเป๋ าสานจากผกั ตบชวา เป็นตน้ 3.งานประดิษฐป์ ระเภทของตกแต่ง เป็นงานประดิษฐท์ ี่เนน้ ความสวยงามนาไปใชเ้ พ่ือตกแต่งบา้ น ส่ิงของหรือเส้ือผา้ เคร่ืองแต่งกาย เช่น กรอบรูป ประดบั ฝาผนงั เครื่องแขวน ไมแ้ กะสลกั เป็นตน้
4.งานประดิษฐป์ ระเภทเครื่องใชใ้ นงานพธิ ี ประดิษฐข์ ้ึนเพอื่ ใชใ้ นงานเทศกาลหรือประเพณีต่างๆ เช่น การทากระทงลอย ท าพานพมุ่ มาลยั บายศรี ประโยชน์ของงานประดิษฐ์ 1. เป็นการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ และประหยดั ค่าใชจ้ ่าย เน่ืองจากแต่ละคนใชเ้ วลาวา่ งต่างกนั เช่น บางคน ชอบกีฬา เล่นดนตรี หรืออ่านหนงั สือ แต่บางคนมีความสุขในการประดิษฐส์ ่ิงของต่างๆ ดว้ ยตนเอง ซ่ึงนอกจาก จะทาให้ผูป้ ระดิษฐ์มีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเองแลว้ ยงั เป็ นการประหยดั ค่าใชจ้ ่าย ถา้ ใชว้ สั ดุที่อยใู่ น บา้ นมาประดิษฐผ์ ลงาน โดยไม่ตอ้ งซ้ือหาใหส้ ิ้นเปลือง 2. ผลงานจากงานประดิษฐ์มีประโยชน์ใชส้ อยไดห้ ลายอยา่ ง เช่น เป็ นของเล่น ของใช้ หรือเป็ น เคร่ืองประดบั ตกแต่งบา้ นเรือนและร่างกาย นอกจากน้ียงั สามารถนาไปใชเ้ ป็นของขวญั ของที่ระลึกในโอกาสต่างๆ เพ่ือแสดง ความมนั่ ใจจากผปู้ ระดิษฐ์ต่อผูร้ ับ ซ่ึงจะทาใหข้ องขวญั ชิ้นน้นั มีคุณค่า และมีความหมายแก่ผูร้ ับมากกว่าของท่ี ซ้ือมาอีกดว้ ย 3. มีประโยชน์ในการสร้างสมาธิ ทาให้ประดิษฐ์มีจิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน เพราะมีใจจดใจจ่อเกี่ยวกบั การสร้าง ผลงาน เพอ่ื ตอ้ งการเห็นผลงานสาเร็จโดยเร็ว 4.มีประโยชน์ในการรักษาวฒั นธรรมประเพณี อนั ดีงามท่ีสืบทอดกนั มาแต่โบราณ เช่น การประดิษฐ์พานพุ่ม บายศรี มาลยั ผกั และผลไมแ้ กะสลกั กระทง ใบตอง เป็นตน้ 5. มีประโยชน์ต่อการสร้างทกั ษะฝี มือในการประดิษฐ์ เพ่ือพฒั นาไปสู่การนาผลงานออกจาหน่าย เสริมสร้าง รายไดใ้ หแ้ ก่ครอบครัวในเวลาวา่ ง และเป็นแนวทางในการประกอบเป็นอาชีพหลกั ได้
อ้างองิ โรงเรียนมกั กะสนั พิทยา.การประดิษฐข์ องใชจ้ ากเศษวสั ดุ.(ออนไลน)์ .2017.แหล่งท่ีมา https://sites.google.com/site/kruaoyputtha1/hnwy-kar-reiyn- ru4?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&showPrintDialog=1 [18 กมุ ภาพนั ธ์ 2565] วรัญญา กิ่งศกั ด์ิ.ประเภทของงานประดิษฐ.์ (ออนไลน)์ .2012.แหลง่ ที่มา https://sites.google.com/site/kruwarann/m-4/ngan-pradisth/prapheth-khxng-ngan-pradisth [18 กมุ ภาพนั ธ์ 2565] นายอิทธิพทั ธ์ นาคแกว้ ช้นั ม.5/8 เลขท่ี 19
วางแผนประดษิ ฐ์จากเศษวสั ดุ โคมไฟจากลงั กระดาษ ประโยชน์จากการทา 1. ไดโ้ คมไฟไวใ้ ชส้ อยภายในบา้ น 2. ลดปริมาณกระดาษลงั เหลือใช้ เเละเพิม่ มูลคา่ 3. พฒั นาทกั ษะดา้ นศิลปะ เเละใชเ้ วลาวางใหเ้ กิดประโยชน์ 4. ฝึกกระบวนการท างานการวางแผนภายในตวั
วสั ดอุ ุปกรณ์ 1.กระดาษลงั ตดั เป็นชิ้นสี่เหล่ียมผนื ผา้ กวา้ ง 20 นิ้ว ยาว 7 นิ้ว และกระดาษที่เหลืออีกนิดหน่อย 2.หลอดไฟ และข้วั หลอดไฟหอ้ ย ซ่ึงในท่ีน้ีผเู้ ขียนเลือกใชห้ ลอดไฟแบบตะเกียบ ส่วนข้วั หลอดไฟถา้ หากคิดวา่ สายไฟส้นั ไปหน่อย เพอื่ นๆสามารถต่อสายไฟใหย้ าวข้ึนไดค้ ่ะ 3.ไมบ้ รรทดั 4.กาวสองหนา้ เทปใส และกาวอื่นๆเตรียมเผอื่ ไว้ 5.กรรไกร และคตั เตอร์
ข้นั ตอนวธิ ีการทา 1.เตรียมอปุ กรณ์ใหพ้ ร้อมสาหรับในการทา 2.ใชค้ ตั เตอร์กรีดกระดาษ โดยวดั ระยะกรีดห่างกนั 4 นิ้ว ใหก้ รีดในดา้ นที่เราตอ้ งการนาออกมาโชวเ์ พยี งบางๆ สามารถพบั เป็นมุมหา้ เหลี่ยมไดพ้ อดีตามรูป จากน้นั ทาการตดั กระดาษใหเ้ ป็นเส้นๆ โดยใหม้ ีความยาวเสน้ ละ 1 นิ้ว จะได้ 7 ชิ้นพอดี
3.นากระดาษลงั ท่ีเหลือมาตดั เป็นรูปหา้ เหล่ียมดา้ นเท่า ยาวดา้ นละ 4 นิ้ว พร้อมกบั เจาะรูตรงกลาง โดยวดั ความกวา้ งของรูจากหวั หลอดไฟที่ใช้ ใหห้ วั หลอดไฟสามารถทะลุเขา้ ไปได้
4.เชื่อมเสน้ กระดาษลงั โดยใชก้ าวสองหนา้ หรือเทปใส กจ็ ะไดเ้ ส้นกระดาษรูปทรงหา้ เหล่ียมออกมา 7 ชิ้น 5.ใชก้ าวสองหนา้ ติดดา้ นบนของกระดาษทุกดา้ น จากน้นั ใหน้ าแต่ละชิ้นมาวางซอ้ นทบั กนั โดยสลบั มุมไปมา ซ่ึง ตรงน้ีหากใครมีปื นกาวกส็ ามารถใชป้ ื นกาวเช่ือมไดเ้ ลย
วางแผน่ กระดาษหา้ เหล่ียมไวด้ า้ นบน เสร็จแลว้ โคมไฟDIYของเรา
เอกสารอ้างองิ Google sites. ประโยชนข์ องการท าโคมไฟลงั กระดาษ (ออนไลน์).2560,แหล่งท่ีมา https://sites.google.com/site/khomficakkradaslang/rayngan-lem-5-bth/bth-thi5-srup-phlelea-xphipray (18 กมุ ภาพนั ธ์ 2565) Sugar morning. โคมไฟจากลงั กระดาษ(ออนไลน)์ .2560,แหล่งที่มา https://www.sugarmorning.com/2017/03/10/diy- %E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%88%E0%B8%B2%E 0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0% B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A9/ (18 กมุ ภาพนั ธ์ 2565) นายอิทธิพทั ธ์ นาคแกว้ ช้นั ม.5/8 เลขท่ี 19
วธิ ีการประดษิ ฐ์จากเศษวสั ดุ วสั ดุท่ีเหลือใชภ้ ายในบา้ น คอื ลงั กระดาษ ข้นั ตอนการประดิษฐแ์ ละการนาไปใชป้ ระโยชน์ 1.เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ใหพ้ ร้อม 1.1ลงั กระดาษท่ีตดั ตามขนาดท่ีตอ้ งการ กวา้ ง 7 นิ้ว ยาว 20 นิ้ว 1.2หลอดไฟ 1หลอด 1.3สายไฟและข้วั หลอด 1.4กาว 2 หนา้ 1.5ไมบ้ รรทดั 1.6กรรไกร คตั เตอร์
2.ใชค้ ตั เตอร์กรีดกระดาษ โดยวดั ระยะกรีดห่างกนั 4 นิ้ว ใหก้ รีดในดา้ นท่ีเราตอ้ งการนาออกมาโชวเ์ พียงบางๆ สามารถพบั เป็นมุมหา้ เหล่ียมไดพ้ อดีตามรูป จากน้นั จดั กระดาษออกเป็นเส้น 7 เส้น ความกวา้ งละ 1 นิ้ว จะได้ 7 เส้นพอดี
3.นากระดาษลงั ท่ีเหลือมาตดั เป็นรูปหา้ เหลี่ยมดา้ นเท่า ยาวดา้ นละ 4 นิ้ว พร้อมกบั เจาะรูตรงกลาง โดยวดั ความ กวา้ งของรูจากหวั หลอดไฟที่ใช้ ใหห้ วั หลอดไฟสามารถทะลุเขา้ ไปได้ 4.เช่ือมกระดาษโดยใชก้ าว 2 หนา้ หรือ เทปใส ใหเ้ ป็นรูปทรงหา้ เหล่ียมออกมา 7 ชิ้น
5.ใชก้ าวสองหนา้ ติดดา้ นบนของกระดาษทุกดา้ น จากน้นั ใหน้ าแต่ละชิ้นมาวางซอ้ นทบั กนั โดยสลบั มุมไปมา สุดทา้ ยกว็ างแผน่ ที่ตดั เป็นรูปทรงหา้ เหล่ียมขา้ งบนกเ็ ป็นอนั เสร็จเรียบร้อยครับ นายอิทธิพทั ธ์ นาคแกว้ ช้นั ม.5/8 เลขท่ี 19
Search