ศูนย์วิทยำศำสตร์เพ่อื กำรศกึ ษำสระแก้ว สะแกนเพ่อื อ่าน E-Book สำนักงำน กศน. สำนักงำนปลดั กระทรวงศึกษำธกิ ำร กระทรวงศึกษำธิกำร
ฐานการเรยี นร้ทู ี่ 3 เร่อื ง รถแข่งพลงั ลูกโปง่
กิจกรรมการเรียนร้ทู ่ี 3 เรอื่ ง รถแข่งพลงั ลกู โป่ง เวลา 2 ช่วั โมง แนวคดิ การเคล่ือนที่ของวัตถุเป็นผลมาจากการที่มีแรงไปกระทาต่อวัตถุ ทาให้วัตถุเปลี่ยนแปลงสภาพโดย เปล่ียนตาแหน่งจากจุดท่ี 1 ไปยังจุดที่ 2 โดยการเปลี่ยนตาแหน่งของวัตถุจะทาให้เกิดปริมาณที่เกี่ยวข้องกับ การเคลื่อนที่ เป็นขบวนการที่ทาให้เกิดการเปลี่ยนตาแหน่งอย่างต่อเน่ืองตามเวลาที่ผ่านไปโดยมีทิศทาง และ ระยะทาง โดยมีลักษณะทางการเคลือ่ นทเี่ ป็นแนวเส้นตรง วัตถุประสงค์ เมื่อส้นิ สุดแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูน้ แี้ ลว้ ผูร้ ับบรกิ ารสามารถ 1. อธบิ ายหลกั การการเคล่ือนทข่ี องรถ 2. ออกแบบและสร้างรถแขง่ พลังลูกโปง่ จากวสั ดทุ ี่กาหนดใหไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม เนอ้ื หา 1. การเคลือ่ นที่ในแนวเสน้ ตรง 2. แรงเสยี ดทาน ขน้ั ตอนการปฏิบตั กิ ิจกรรมของผรู้ บั บริการ กจิ กรรมการทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง รถแข่งพลังลกู โป่ง คาช้ีแจง ให้ผู้รับบริการทาแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง รถแข่งพลังลูกโป่ง ซ่ึงมีข้อสอบทั้งหมด จานวน 5 ข้อ (เม่ือผู้รับบริการทาแบบทดสอบเรียบร้อยแล้ว ผู้รับบริการสามารถตรวจคาตอบได้ตามเฉลย คาตอบทา้ ยกิจกรรม)
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น คะแนนท่ีได้..........คะแนน เรื่อง รถแขง่ พลงั ลกู โป่ง คะแนนเต็ม 5 คะแนน คาชแ้ี จง 1. ให้ผูร้ ับบรกิ ารกาเครอื่ ง X (กากบาท) หน้าขอ้ ทถ่ี ูกต้องเพียงข้อเดยี ว 2. แบบทดสอบน้ีมีขอ้ สอบ จานวน 5 ข้อ ๆ ละ 1 คะแนน 3. เมอ่ื ผู้รบั บรกิ ารทาแบบทดสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้รบั บริการสามารตรวจคาตอบได้ ตามเฉลยคาตอบท้ายกิจกรรม 1.เหตุใดยางรถยนตจ์ งึ มลี วดลายและผิวขรุขระ 5. การเคล่ือนทใี่ นแนวเส้นตรง แบง่ เป็นกแ่ี บบ ก.เพ่มิ แรงเสียดทาน ก. 2 แบบ ข.ลดแรงเสยี ดทาน ข. 3 แบบ ค.ใหค้ วามสวยงาม ค. 4 แบบ ง.สะดวกสบายเวลาเปลี่ยนยาง ง. 5 แบบ 2. กรณใี ดเป็นการเพม่ิ แรงเสยี ดทาน ก. บุชในพัดลม ข. ตลบั ลูกปืนทล่ี ้อ ค. รองเทา้ ไม้ ง. ยางรถยนต์ 3. เม่ือรถวิ่งไปขา้ งหน้า แรงเสยี ดทานของถนน จะมีทิศทางใด ก. ทิศทางตรงข้ามกับรถว่ิง ข. ทิศทางเดยี วกับรถวิ่ง ค. ทิศทางไมแ่ น่นอน ง. พ้นื ถนนมีแรงเสยี ดทานทกุ ทศิ ทาง 4. แรงทต่ี อ่ ตา้ นการเคลื่อนท่ีของวัตถุเรยี กว่า อะไร ก. แรงดึง ข. แรงกด ค. สมั ประสิทธิ์ ง. แรงเสียดทาน
กจิ กรรมการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ เรือ่ ง รถแข่งพลังลกู โปง่ คาช้แี จง 1.ให้ผู้รับบริการตอบคาถาม จานวน 2 ประเดน็ ดงั นี้ ประเดน็ ที่ 1 “รถแข่งพลงั ลูกโปง่ สามารถเคล่ือนที่ได้อย่างไร” ประเดน็ ที่ 2 “ท่านคิดว่ารถแขง่ พลงั ลูกโป่งเคลื่อนท่ไี ด้จากพลังงาน” เฉลยแนวการตอบ ประเดน็ ท่ี 1 “รถแข่งพลังลูกโป่งสามารถเคลื่อนที่ได้อยา่ งไร” รถแขง่ พลังลูกโป่งสามารถเคลือ่ นทไี่ ด้โดยอาศยั แรงดันจากลมที่ออกจากภายในลกู โป่ง ประเด็นที่ 2 “ท่านคิดว่ารถแขง่ พลงั ลูกโป่งเคลอ่ื นที่ไดจ้ ากพลังงาน” รถแขง่ พลงั ลกู โปง่ เคลื่อนที่ได้จากพลงั งานลมทถี่ ูกปล่อยออกจากภายในลูกโป่ง กจิ กรรมการออกแบบและปฏิบัติการทารถแขง่ พลังลกู โปง่ วัตถุประสงค์ 1. อธบิ ายหลักการการเคล่อื นที่ของรถ 2. ออกแบบและสรา้ งรถแข่งพลังลูกโป่งจากวสั ดทุ ่ีกาหนดใหไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม เนอื้ หา 1. การเคลอ่ื นท่ีในแนวเสน้ ตรง 2. แรงเสยี ดทาน คาช้ีแจง 1. แบง่ ผรู้ ับบริการออกเป็นกลมุ่ ๆละ 5 - 10 คน 2. ให้ผู้รบั บริการแตล่ ะกลุ่มตามข้อ 1 ปฏิบตั ิตามใบกจิ กรรม เร่อื ง รถแขง่ พลงั ลูกโปง่ โดย ดาเนินการตามขั้นตอน ดงั น้ี 2.1 อา่ นเน้ือหา เรื่อง รถแขง่ พลงั ลกู โปง่ 2.2 ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามทีก่ าหนดให้
ใบกิจกรรม เรื่อง รถแขง่ พลังลกู โปง่ เน้ือหาเรอื่ ง รถแข่งพลังลูกโปง่ 1. การเคลื่อนทใ่ี นหนงึ่ มติ ิ 2.1 การเคลอ่ื นที่ในแนวเสน้ ตรง แบง่ เป็น 2 แบบ คือ 1. การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงท่ีไปทิศทางเดยี วกนั ตลอด เชน่ โยนวัตถขุ น้ึ ไปตรงๆรถยนต์กาลงั เคล่อื นท่ีไปขา้ งหน้าในแนวเส้นตรง 2. การเคลื่อนที่ในแนวเสน้ เส้นตรง แตม่ กี ารเคลื่อนทกี่ ลบั ทศิ ดว้ ย เช่น รถแลน่ ไปขา้ งหนา้ ในแนว เส้นตรง เมอ่ื รถมีการเล้ยี วกลับทิศทาง ทาใหท้ ิศทางในการเคล่ือนท่ตี รงข้ามกัน 2.2 อตั ราเร็ว ความเรง่ และความหน่วงในการเคล่ือนท่ขี องวัตถุ 1. อัตราเรว็ ในการเคล่อื นท่ีของวตั ถุ คอื ระยะทางที่วตั ถุเคลื่อนที่ใน 1 หน่วยเวลา 2. ความเร่งในการเคลอ่ื นที่ หมายถงึ ความเร็วทเ่ี พิ่มขึน้ ใน 1 หน่วยเวลา เชน่ วัตถตุ กลงมาจากที่ สูงในแนวด่งิ 3. ความหน่วงในการเคลอื่ นทขี่ องวตั ถุ หมายถึง ความเรว็ ทล่ี ดลงใน 1 หนว่ ยเวลา เช่น โยนวตั ถุขนึ้ ตรงๆ ไปในท้องฟา้ 2. แรงเสียดทาน แรงเสยี ดทาน (friction) หมายถึง แรงที่ต่อตา้ นการเคลื่อนทขี่ องวตั ถุ แรงเสยี ดทานเกิดขนึ้ ระหวา่ ง ผวิ สัมผสั ของวตั ถกุ บั ผิวของพื้น เชน่ เมอื่ เราเขน็ รถเข็นเด็ก ปจั จัยทีม่ ผี ลตอ่ แรงเสียดทาน คอื 1. นา้ หนักของวตั ถุ วตั ถุทีม่ นี ้าหนักกดทับลงบนพนื้ ผิวมากจะมีแรงเสียดทานมากกว่าวตั ถุทม่ี ีน้าหนัก กดทบั ลงบนพ้นื ผวิ น้อย 2. พน้ื ผวิ สัมผัส ผิวสัมผสั ทเี่ รียบจะเกิดแรงเสยี ดทานน้อยกว่าผิวสัมผัสที่ขรขุ ระ การทดลองเรอ่ื งแรง ตา้ นทานการเคล่อื นทีข่ องวัตถุ ประเภทของแรงเสยี ดทาน แรงเสียดทานแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คือ 1. แรงเสียดทานสถิต (fs) เปน็ แรงเสียดทานท่เี กิดขึ้นในขณะทีว่ ัตถุอยนู่ ิง่ จนถึงเรมิ่ ต้นเคลอ่ื นท่ี 2. แรงเสยี ดทานจลน์ (fk) เป็นแรงเสียดทานขณะวัตถุกาลังเคลอื่ นที่ด้วยความเร็วคงตวั ซึ่งจะมีคา่ น้อยกว่าแรงเสียดทานสถติ ประโยชน์และโทษของแรงเสยี ดทาน มนษุ ย์เรามคี วามรเู้ กี่ยวกับแรงเสยี ดทานมาใชป้ ระโยชน์ เพอื่ อานวยความสะดวกในชวี ติ ประจาวัน ดงั นี้ 1. ชว่ ยให้รถเคล่ือนทไ่ี ปขา้ งหนา้ ได้ ยางรถจงึ มีรอ่ งยางช่วยเพ่ิมประสทิ ธิภาพการยึดเกาะถนนที่ เรียกวา่ ดอกยาง 2. ชว่ ยใหร้ ถถอยหลงั ได้ ยางรถยนตจ์ งึ มลี วดลายดอกยางเพ่ือชว่ ยในการยึดเกาะถนน
3. การเดินบนพื้นต้องอาศยั แรงเสยี ดทาน จึงควรใชร้ องเทา้ ที่มีพ้ืนเป็นยางและมีลวดลายขรุขระ ไม่ ควรใช้รองเทา้ แบบพ้ืนเรยี บ แรงเสียดทานน้อยจะทาให้ล่ืน 4. นกั วิ่งเรว็ ที่ใช้รองเท้าพื้นตะปู เพื่อเพิ่มแรงเสยี ดทาน ทาใหม้ ีแรงยึดเกาะกับพืน้ ผวิ ลวู่ ่งิ ช่วยใหว้ ่งิ ได้ เรว็ ข้นึ 3. การเคลอ่ื นท่ีแบบต่างๆในชวี ติ ประจาวนั 3.1 การเคลื่อนที่แบบวงกลม หมายถงึ การเคลื่อนทข่ี องวัตถเุ ปน็ วงกลมรอบศนู ย์กลาง เกดิ ขนึ้ เนือ่ งจากวัตถทุ ี่กาลังเคล่อื นที่จะเดินทางเป็นเส้นตรงเสมอ แต่ขณะนน้ั มีแรงดงึ วตั ถุเขา้ สู่ศนู ย์กลางของวงกลม เรยี กว่า แรงเขา้ สศู่ นู ย์กลางการเคลอื่ นที่ จงึ ทาใหว้ ตั ถุเคล่ือนทีเ่ ปน็ วงกลมรอบศูนยก์ ลาง เชน่ การโคจรของ ดวงจนั ทร์รอบโลก 3.2 การเคลื่อนท่ขี องวตั ถุในแนวราบ เป็นการเคลื่อนทขี่ องวัตถุขนานกบั พ้นื โลก เชน่ รถยนตท์ ก่ี าลัง แล่นอยู่บนถนน 3.3 การเคลือ่ นที่แนววิถโี ค้ง เปน็ การเคลอ่ื นทผี่ สมระหว่างการเคล่ือนท่ีในแนวดิ่งและในแนวราบ 4. สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ แรงและการเคลือ่ นท่ี, พลงั งานลม คณิตศาสตร์ การวดั , การคานวณเพอ่ื ให้รถแขง่ วิ่งไปไดไ้ กลและเรว็ , การคานวณต้นทนุ ในการสรา้ งรถแขง่ เทคโนโลยี - การเลือกใช้วัสดุ และส่ิงของต่างๆให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน การสร้างชิ้นงานควร พิจารณาจากสมบตั ขิ องวัสดนุ ัน้ - การคน้ หาข้อมลู 5. กรอบแนวคิด S : วิทยาศาสตร์ T : เทคโนโลยี - แรงและเคล่ือนท่ี - การสืบค้นข้อมลู ผ่านอนิ เตอร์เน็ต - การเลือกใช้วสั ดใุ นการสรา้ งรถแข่ง - พลงั งานลม รถแข่งพลงั ลูกโปง่ E : วศิ วกรรมศาสตร์ M : คณติ ศาสตร์ - กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม - การวดั (การสร้างรถแข่งทว่ี งิ่ ได้ไกลและเรว็ ) - การคานวณเพ่ือให้รถแขง่ ว่ิงไปได้ ไกล
6. มุมนกั คดิ สาหรบั รถลกู โป่ง เมอ่ื เปา่ ลกู โปง่ แลว้ ปลอ่ ยมือที่จบั ลูกโป่งออก รถลกู โป่งจะพงุ่ ไปในดา้ นท่ีตรงขา้ มกับ ปากลูกโป่ง เนื่องจากแรงดันของอากาศท่ีออกมาจากปากลูกโป่งจะผลักดันให้รถลูกโป่งเคลื่อนที่ไปด้านหน้า เป็นหลักการเดยี วกบั ท่ีใช้ในการปลอ่ ยจรวดออกนอกโลก แต่จรวดขับเคลื่อนโดยการใช้เชื้อเพลิง กจิ กรรมการสรา้ งรถแข่งพลงั ลูกโปง่ คาช้ีแจง้ 1. แบง่ ผูร้ บั บรกิ ารออกเป็นกลุม่ ๆ ละ 5-10 คน 2. ให้แต่ละกลุ่มตามขอ้ 1 ดาเนินการตามข้ันตอน ดงั น้ี ขน้ั ตอนท่ี 1 สืบค้นข้อมลู จากอนิ เตอร์เน็ตเกี่ยวกบั การสร้างรถแขง่ พลังลูกโปง่ ขัน้ ตอนท่ี 2 แลกเปลยี่ นเรียนรู้และสรุปโดยตอบคาถาม ดังนี้ 1) มปี จั จัยอะไรบ้างท่ีมีผลทาให้รถแขง่ พลังลูกโป่งเคลื่อนที่ได้ เช่น ขนาดลกู โป่ง นา้ หนักของตัวรถ 2) มีปัจจัยอะไรบ้างท่ีอาจมผี ลตอ่ การเคลอ่ื นของรถแขง่ พลังลกู โป่งได้เรว็ และไกล พรอ้ มหาแนวทางในการสรา้ งรถแข่งพลงั ลูกโป่ง รวมไปถงึ ลักษณะและรูปแบบของรถแข่งพลงั ลูกโปง่ ท่สี ามารถ เคลื่อนท่ีไดเ้ รว็ และไกล ขั้นตอนท่ี 3 ออกแบบและสร้างรถแข่งพลังลูกโปง่ โดยให้วาดร่างแบบรถแข่งพลังลูกโป่ง ตามเกณฑก์ ารพจิ ารณา ดงั นี้ 1) จัดทารถแข่งที่วง่ิ ได้ไกลที่สุด 2) ใชว้ ัสดทุ ีม่ อี ยู่อย่างจากัด ไมม่ กี ารขอวัสดเุ พิ่มเติมจากที่จัดให้ ขัน้ ตอนที่ 4 แต่ละกลมุ่ สร้างรถแข่งพลงั ลกู โปง่ ตามท่ีไดอ้ อกแบบไว้ โดยให้แลว้ เสร็จภายใน เวลา 30 นาที ข้นั ตอนที่ 5 แตล่ ะกลุ่มทดสอบรถแข่งพลังลูกโปง่ และปรบั ปรุงใหม้ ปี ระสิทธภิ าพมากท่สี ุด ขั้นตอนท่ี 6 แตล่ ะกล่มุ นารถแขง่ พลังลูกโป่งมาวง่ิ แขง่ ใหเ้ ร็วทสี่ ุด บันทกึ ผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมตามขั้นตอนท่ี 1 ถงึ ขนั้ ตอนท่ี 6 โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้ 1. การยกตัวอยา่ งความรู้ทีน่ ามาใช้ในการออกแบบและสรา้ งรถแขง่ พลงั ลกู โปง่ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. เฉลยแนวคำตอบ ผู้รับบรกิ ารตอบตามความเข้าใจ
2. การรา่ งแบบรถแข่งพลังลูกโป่งทจ่ี ะสรา้ งใหส้ ามารถเคลื่อนท่ีไดเ้ ร็วและไกล รวมท้งั อธบิ ายรายละเอียดอนื่ ๆ ชอ่ื ชน้ิ งาน......................................................................................................... 3. บนั ทกึ ผลการทดสอบการว่ิงรถแขง่ พลงั ลูกโป่งท่สี รา้ งข้นึ ระยะทาง (เมตร) ครง้ั ที่ เวลาท่ีใช้ (วนิ าที) 1 2 3 เวลาเฉล่ีย 4. อธิบายการปรับปรุงการทางานของรถแขง่ พลังลูกโป่ง (กรณีที่ผลการทดสอบไม่บรรลผุ ลตามทีต่ อ้ งการหรือมี การปรับปรุงช้ินงาน) ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. เฉลยแนวคำตอบ ผู้รับบริการตอบตามความเข้าใจจากสถานการที่เกดิ ขน้ึ จรงิ
กจิ กรรมการระบปุ ัญหาและเงื่อนไขจากสถานการณ์ คาชีแ้ จง 1. แบ่งผูร้ ับบรกิ ารออกเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 5 - 10 คน 2. ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ตามข้อ 1 โดยดาเนนิ การระบปุ ญั หาและเงื่อนไขจากสถานการณ์ท่กี าหนด จัดเตรียมสนามทดสอบและสนามแขง่ รถพลังลูกโปง่ โดยมี 2 ลู่วงิ่ ตามตาราง ตารางบันทกึ ผลการทดสอบรถแข่งพลังลกู โปง่ กลมุ่ ท่ี ระยะทางท่ีรถวิ่งได้ (เมตร) ผลการแขง่ ขนั ครง้ั ที่ 1 คร้งั ที่ 2 (ลาดับที่ได้) 1 2 3 4 5 กิจกรรมการนาสง่ิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรไู้ ปปฏบิ ตั ิและประยุกตใ์ ช้ คาชแ้ี จง ให้ผู้รับบริการแตล่ ะคน ตอบคาถามในประเด็น “ท่านจะนาความรู้ที่ไดจ้ ากกิจกรรมรถแข่งพลังลูกโป่งไปปรับใช้ในชีวติ ประจาวันได้อยา่ งไรบ้าง” ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เฉลยแนวคำตอบ ผูร้ ับบรกิ ารตอบตามความเข้าใจ
กจิ กรรมการทดสอบหลังเรียน เรื่อง รถแข่งพลงั ลูกโปง่ คาชี้แจง ให้ผู้รับบริการทาแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง รถแข่งพลังลูกโป่ง ซึ่งมีข้อสอบทั้งหมดจานวน 5 ข้อ (เม่ือผู้รับบริการทาแบบทดสอบเรียบร้อยแล้ว ผู้รับบริการสามารถตรวจคาตอบได้ตามเฉลยคาตอบท้าย กิจกรรม) แบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง รถแข่งพลงั ลูกโป่ง คาช้แี จง 1. ใหผ้ ้รู บั บริการกาเครอ่ื ง X (กากบาท) หน้าขอ้ ทถ่ี ูกตอ้ งเพียงข้อเดียว 2. แบบทดสอบน้ีมีขอ้ สอบ จานวน 5 ขอ้ ๆ ละ 1 คะแนน 3. เมอ่ื ผรู้ ับบรกิ ารทาแบบทดสอบเสร็จเรียบรอ้ ยแล้ว ผู้รับบริการสามารตรวจคาตอบได้ ตามเฉลยคาตอบท้ายกจิ กรรม 1.เหตใุ ดยางรถยนตจ์ ึงมีลวดลายและผิวขรขุ ระ 4. แรงทตี่ อ่ ตา้ นการเคลอ่ื นทข่ี องวัตถเุ รียกว่าอะไร ก.ใหค้ วามสวยงาม ก. แรงกด ข.สะดวกสบายเวลาเปลี่ยนยาง ข. แรงดงึ ค.เพม่ิ แรงเสยี ดทาน ค. แรงเสียดทาน ง.ลดแรงเสยี ดทาน ง. สัมประสิทธิ์ 2. กรณีใดเป็นการเพ่ิมแรงเสียดทาน 5. การเคลื่อนท่ีในแนวเส้นตรง แบง่ เป็นกแี่ บบ ก. ยางรถยนต์ ก. 2 แบบ ข. บุชในพัดลม ข. 3 แบบ ค. รองเท้าไม้ ค. 4 แบบ ง. ตลับลูกปืนทลี่ อ้ ง. 5 แบบ 3. เมื่อรถวิ่งไปข้างหนา้ แรงเสยี ดทานของถนน จะมีทศิ ทางใด ก. ทศิ ทางเดียวกับรถวงิ่ ข. ทศิ ทางตรงขา้ มกับรถวิ่ง ค. พ้ืนถนนมีแรงเสยี ดทานทุกทศิ ทาง ง. ทศิ ทางไม่แนน่ อน
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1.เหตใุ ดยางรถยนตจ์ งึ มีลวดลายและผวิ ขรุขระ ก.เพ่มิ แรงเสียดทาน 2. กรณใี ดเป็นการเพมิ่ แรงเสยี ดทาน ง. ยางรถยนต์ 3. เมื่อรถวิง่ ไปขา้ งหนา้ แรงเสียดทานของถนนจะมที ศิ ทางใด ก. ทศิ ทางตรงขา้ มกับรถว่งิ 4. แรงทีต่ อ่ ตา้ นการเคล่อื นที่ของวตั ถเุ รยี กว่าอะไร ง. แรงเสียดทาน 5. การเคล่ือนที่ในแนวเส้นตรง แบ่งเปน็ กี่แบบ ก. 2 แบบ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 1.เหตใุ ดยางรถยนตจ์ ึงมลี วดลายและผวิ ขรขุ ระ ค.เพิม่ แรงเสียดทาน 2. กรณใี ดเป็นการเพม่ิ แรงเสียดทาน ก. ยางรถยนต์ 3. เมื่อรถว่ิงไปข้างหนา้ แรงเสยี ดทานของถนนจะมีทิศทางใด ข. ทิศทางตรงข้ามกบั รถวงิ่ 4. แรงทีต่ ่อต้านการเคลื่อนทขี่ องวตั ถเุ รียกว่าอะไร ค. แรงเสียดทาน 5. การเคลื่อนทใ่ี นแนวเสน้ ตรง แบง่ เปน็ ก่ีแบบ ก. 2 แบบ
กิจกรรมการประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้รับบรกิ ารกิจกรรมการศกึ ษาตามอัธยาศัย ดา้ นสะเต็ม ศึกษา (STEM EDUCATION) คาช้ีแจง ใหผ้ ู้รับบริการทาแบบประเมินความพึงพอใจของผรู้ บั บริการกจิ กรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย ดา้ นสะเต็มศกึ ษา (STEM EDUCATION) แบบประเมินความพึงพอใจของผ้รู ับบรกิ าร กิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย ดา้ นสะเต็มศกึ ษา (STEM EDUCATION) ช่อื -สกุล ผรู้ ับบริการ........................................................................................................................................... ชอ่ื ฐานการเรียนรู้........................................................ชื่อ – สกุล ผูจ้ ดั กิจกรรม.................................................. วันท่.ี ...........เดอื น...........................พ.ศ...................เวลา..................น. ความพงึ พอใจทม่ี ีตอ่ การจัดกิจกรรม ประเด็น ระดบั ความพงึ พอใจ 5 4 3 21 1. กิจกรรมตรงตามความถนดั และต้องการของผู้รับบริการ 2. ขน้ั ตอนการทากจิ กรรมมีความชัดเจน 3. ส่ือ/วัสด/ุ อุปกรณ์ที่ใชท้ ากิจกรรมมีความเหมาะสม 4. ระยะเวลาที่ใช้ในการทากจิ กรรมมคี วามเหมาะสม 5. ความรู้ทไ่ี ดร้ บั สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริงได้ 6. ผ้รู บั รกิ ารมีความสุข/สนกุ ในการทากิจกรรม ความพงึ พอใจในภาพรวมตอ่ การจดั กิจกรรม ระดบั 5 หมายถึง ระดับ 4 หมายถึง ระดับ 3 หมายถึง ระดบั 2 หมายถึง ระดับ 1 หมายถึง พึงพอใจมากทส่ี ุด พงึ พอใจมาก พึงพอใจปานกลาง พงึ พอใจน้อย พึงพอใจน้อยทีส่ ุด ความรู้ประสบการณ์ที่ไดร้ ับ ความคิดเห็นเพิ่มเติม .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... .........................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: