Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน ว31101 วิทย์พื้นฐาน 4-1

แผนการสอน ว31101 วิทย์พื้นฐาน 4-1

Published by audtapong01, 2019-12-02 20:19:38

Description: แผนการสอน ว31101 วิทย์พื้นฐาน 4-1

Search

Read the Text Version

รหสั วชิ า ว31101 วชิ า วทิ ยาศาสตร์ ช ้ัน ม. 4 ภาคเรียนที่ 1 1. จำนวน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จำนวนหนว่ ยกิต 1.5 หนว่ ยกติ 2. หนังสอื ท่ใี ช้ในการเรียน หนงั สอื เรียนสาระการเรยี นรพู้ ้นื ฐาน – แบบเรยี น สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) ผู้แตง่ โรงพมิ พ์ครุ สุ ภา สำนกั พมิ พ ์ ตำแหน่ง ครโู รงเรียนชุมชนประชาธปิ ตั ยช์ ว่ ยราชการโรงเรยี นวังไกลกังวล โรงเรยี นวงั ไกลกังวล อำเภอหวั หนิ จงั หวดั ประจวบครี ขี ันธ์ 77110 3. ผ้เู ขียนคู่มือ โทรศัพท์ 0-3252-2350 ชอ่ื นางสาวสายพิน สวุ รรณฤทธ ์ิ สถานทท่ี ำงาน 138

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว31101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2554 จำนวนหนว่ ยกิต 1.5 หน่วยกติ เวลา 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ รวม 60 ชว่ั โมง/ภาคเรียน สาระท่ี 1 สง่ิ มีชีวติ กบั กระบวนการดำรงชวี ิต มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่างๆ ของส่ิงมีชีวิตที่ทำงานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในการดำรง ชวี ติ ของตนเองและดแู ลส่ิงมชี วี ติ ตัวชี้วัด 1. ทดลองและอธบิ ายการรักษาดุลยภาพของเซลลข์ องสงิ่ มีชีวติ 2. ทดลองและอธิบายกลไกการรักษาดลุ ยภาพของนำ้ ในพชื 3. สืบค้นข้อมูลและอธิบายกลไกการควบคุมดุลยภาพของน้ำ แร่ธาตุ และอุณหภูมิของมนุษย์และสัตว์อ่ืนๆ และนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน ์ 4. อธบิ ายเกี่ยวกบั ระบบภูมคิ ้มุ กนั ของรา่ งกายและนำความร้ไู ปใช้ในการดแู ลรักษาสุขภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการ ของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพที่มีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม มี กระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจติ วทิ ยาศาสตร์ สอื่ สารส่งิ ทเ่ี รยี นรแู้ ละนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ตัวช้วี ัด 1. อธิบายกระบวนการถ่ายทอดสารพันธุกรรม การแปรผันทางพันธุกรรม มิวเทชัน และการเกิดความ หลากหลายทางชวี ภาพ 2. สืบค้นข้อมูลและอภิปรายผลของเทคโนโลยีชีวภาพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและนำความรู้ไปใช ้ ประโยชน์ 3. สบื คน้ ขอ้ มลู และอภปิ รายผลของความหลากหลายทางชวี ภาพท่มี ตี ่อมนษุ ยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 4. อธิบายกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติและผลของการคัดเลือกตามธรรมชาติต่อความหลากหลายของ สงิ่ มีชวี ติ สาระท่ี 2 ชวี ิตกบั สิง่ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจส่ิงแวดล้อมในท้องถ่ิน ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนำ ความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ 139

ตัวชี้วัด 1. อธบิ ายดลุ ยภาพของระบบนิเวศ 2. อธบิ ายกระบวนการเปลยี่ นแปลงแทนท่ีของสิ่งมีชวี ิต 3. อธบิ ายความสำคัญของความหลากหลายทางชวี ภาพ เสนอแนะแนวทางในการดูแล และรักษา มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดับท้องถิ่น ประเทศ และโลก นำความรู้ไปใชใ้ นการจัดการทรัพยากรและสงิ่ แวดล้อมในทอ้ งถนิ่ อย่างยงั่ ยนื ตัวชวี้ ัด 1. วิเคราะห์สภาพปัญหา สาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในระดับท้องถ่ิน ระดับ ประเทศ และระดับโลก 2. อภิปรายแนวทางในการปอ้ งกัน แกไ้ ขปญั หาสิง่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ 3. วางแผนและดำเนนิ การเฝา้ ระวงั อนุรักษ์ และพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ สาระที่ 8 ธรรมชาติของวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาตรฐาน ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละจติ วิทยาศาสตรใ์ นการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปญั หา รูว้ ่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกดิ ขึ้นสว่ นใหญ่มีรปู แบบทีแ่ นน่ อน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมลู และ เคร่อื งมือท่มี ีอยใู่ นชว่ งเวลานั้นๆ เขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดลอ้ มมคี วามเกีย่ วขอ้ งสัมพนั ธ์กัน ตัวชี้วดั 1. ต้ังคำถามที่อยบู่ นพ้นื ฐานของความรแู้ ละความเขา้ ใจทางวทิ ยาศาสตร์ หรอื ความสนใจ หรือจากประเด็น ท่ีเกิดข้ึนในขณะน้ัน ท่ีสามารถทำการสำรวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้อย่างครอบคลุมและ เชอื่ ถอื ได้ 2. สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับ หรือคาดการณ์ส่ิงที่จะพบ หรือสร้างแบบจำลอง หรือสร้างรูปแบบ เพ่ือนำไปส่กู ารสำรวจตรวจสอบ 3. ค้นควา้ รวบรวมขอ้ มลู ท่ีตอ้ งพจิ ารณาปัจจัย หรอื ตัวแปรสำคญั ปัจจัยท่มี ีผลต่อปัจจัยอื่น ปจั จยั ท่คี วบคมุ ไมไ่ ด้ และจำนวนครั้งของการสำรวจ ตรวจสอบ เพอื่ ใหไ้ ด้ผลท่ีมคี วามเชื่อมนั่ อย่างเพียงพอ 4. เลือกวัสดุ เทคนิควิธี อุปกรณ์ท่ีใช้ในการสังเกต การวัด การสำรวจตรวจสอบอย่างถูกต้อง ท้ังทางกว้าง และลกึ ในเชิงปรมิ าณและคณุ ภาพ 5. รวบรวมข้อมูลและบันทึกผลการสำรวจตรวจสอบอย่างเป็นระบบถูกต้อง ครอบคลุมท้ังในเชิงปริมาณ และคณุ ภาพ โดยตรวจสอบความเป็นไปได้ ความเหมาะสมหรอื ความผดิ พลาดของข้อมลู 6. จัดกระทำข้อมูลโดยคำนึงถึงการรายงานผลเชิงตัวเลขที่มีระดับความถูกต้องและนำเสนอข้อมูลด้วย เทคนิควธิ ีท่เี หมาะสม 7. วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของข้อสรุป หรือสาระสำคัญ เพ่ือ ตรวจสอบกับสมมตฐิ านทีต่ งั้ ไว้ 140

8. พิจารณาความน่าเชื่อถือของวิธีการและผลการสำรวจตรวจสอบ โดยใช้หลักความคลาดเคล่ือนของการ วดั และการสังเกต เสนอแนะการปรับปรุงวธิ กี ารสำรวจตรวจสอบ 9. นำผลของการสำรวจตรวจสอบท่ีได้ ท้ังวิธีการและองค์ความรู้ที่ได้ไปสร้างคำถามใหม่ นำไปใช้แก้ ปัญหาในสถานการณใ์ หมแ่ ละในชวี ิตจริง 10. ตระหนกั ถึงความสำคัญในการทจี่ ะตอ้ งมสี ว่ นรว่ มรบั ผิดชอบการอธบิ าย การลงความเหน็ และการสรปุ ผลการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ทนี่ ำเสนอต่อสาธารณชนด้วยความถกู ตอ้ ง 11. บันทึกและอธิบายผลการสำรวจตรวจสอบอย่างมีเหตุผล ใช้พยานหลักฐานอ้างอิงหรือค้นคว้าเพ่ิมเติม เพื่อหาหลักฐานอ้างอิงท่ีเชื่อถือได้ และยอมรับว่าความรู้เดิมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เม่ือมีข้อมูลและ ประจักษ์พยานใหม่เพิ่มเติมหรือโต้แย้งจากเดิม ซึ่งท้าทายให้มีการตรวจสอบอย่างระมัดระวัง อันจะนำ มาสู่การยอมรบั เป็นความรู้ใหม่ 12. จัดแสดงผลงาน เขียนรายงาน และ/หรืออธิบายเกี่ยวกับแนวคิด กระบวนการ และผลของโครงงาน หรือชิน้ งานใหผ้ ู้อืน่ เข้าใจ 141

โครงสรา้ งรายวิชา วิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว31101 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2554 จำนวนหนว่ ยกติ 1.5 หนว่ ยกิต 3 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ รวม 60 ช่ัวโมง/ภาคเรียน มาตรฐานการเรยี นร ู้ เวลา น้ำหนกั ลำดบั ท ี่ ช่ือหน่วยการเรียนร้ ู / ตัวชว้ี ัด สาระสำคัญ (ชัว่ โมง) คะแนนเต็ม (100) 1 1. กลไกการรกั ษาดุลยภาพของ ว 1.1 ม.4/1-3 องค์ประกอบของเซลล ์ 13 10 สิง่ มชี วี ิต ว 8.1 ม.4/1-12 การรกั ษาดลุ ยภาพของน้ำ 1.1 องคป์ ระกอบของเซลล ์ และแรธ่ าตขุ องเซลล์ 1.2 การรกั ษาดลุ ยภาพของนำ้ การรักษาดลุ ยภาพของนำ้ และแรธ่ าตุของเซลล ์ และแร่ธาตขุ องสิ่งมชี วี ติ 1.3 การรักษาดลุ ยภาพของนำ้ การรกั ษาดลุ ยภาพของ และแรธ่ าตขุ องสงิ่ มีชีวิต อณุ หภมู ใิ นสง่ิ มชี วี ิต 1.4 การรักษาดุลยภาพของ อุณหภมู ิในสงิ่ มีชวี ติ 2 2. ภมู ิคมุ้ กนั ร่างกาย ว 1.1 ม.4/4 ลกั ษณะการทำงานของระบบ 8 10 2.1 ลักษณะการทำงานของ ว 8.1 ม.4/1-12 ภมู ิคุ้มกนั และประเภทของ ระบบภูมคิ ุม้ กัน ระบบภูมิคมุ้ กันในรา่ งกาย 2.2 ประเภทของระบบ รวมทง้ั องคป์ ระกอบระดับเซลล ์ ภูมิค้มุ กันในรา่ งกาย ท่ีเกี่ยวข้องกบั ระบบภูมคิ มุ้ กนั 2.3 องค์ประกอบระดับเซลล ์ และการเสริมสร้างและรกั ษา ที่เกี่ยวขอ้ งกับระบบ ภูมคิ ุม้ กนั ของรา่ งกาย ภมู คิ มุ้ กนั โรคท่ีเกีย่ วข้องกับระบบ 2.4 การเสรมิ สร้างและรกั ษา ภมู ิคมุ้ กนั ภูมิคุม้ กันของรา่ งกาย 2.5 โรคทเี่ กีย่ วข้องกับระบบ ภูมิคมุ้ กัน 142

มาตรฐานการเรียนรู ้ เวลา นำ้ หนัก ลำดับท ี่ ชื่อหนว่ ยการเรยี นร ู้ / ตวั ชว้ี ัด สาระสำคัญ (ชั่วโมง) คะแนนเตม็ 3 3. กระบวนการถ่ายทอดทาง ว 1.2 ม.4/1 ลักษณะทางพนั ธุกรรม 13 (100) พนั ธุกรรม ว 8.1 ม.4/1-12 โครโมโซมและกรดนวิ คลอี ิก 10 3.1 ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ประเภทของสารพันธกุ รรม 3.2 โครโมโซมและกรด การแบง่ เซลล์ 20 นวิ คลีอกิ การถา่ ยทอดลกั ษณะ 10 3.3 ประเภทของสาร ทางพนั ธกุ รรม พนั ธุกรรม การเปลย่ี นแปลงและการ 3.4 การแบ่งเซลล ์ แปรผันทางพนั ธุกรรม 3.5 การถ่ายทอดลักษณะ ความผิดปกตทิ ่เี กดิ จาก ทางพนั ธุกรรม การแปรผนั ทางพนั ธกุ รรม 3.6 การเปลีย่ นแปลง และโรคทางพนั ธุกรรม และการแปรผนั ทาง พันธกุ รรม 3.7 ความผดิ ปกตทิ ่เี กิดจาก การแปรผนั ทางพนั ธกุ รรม และโรคทางพันธกุ รรม สอบกลางภาค 4 4. ระบบนเิ วศและความ ว 1.2 ม.4/2-4 ระบบนิเวศ 12 หลากหลายทางชวี ภาพ ว 2.1 ม.4/1-3 ความหลากหลายทางชวี ภาพ 4.1 ระบบนเิ วศ ว 8.1 ม.4/1-12 ความสัมพันธ์ของส่ิงมีชีวิตใน 4.2 ความหลากหลาย ระบบนเิ วศ ทางชวี ภาพ ผลของความหลากหลาย 4.3 ความสัมพันธข์ อง ทางชีวภาพที่มีต่อมนษุ ย ์ ส่งิ มชี ีวิตในระบบนเิ วศ แนวทางการดแู ลและรกั ษา 4.4 ผลของความหลากหลาย ความหลากหลายทางชวี ภาพ ทางชีวภาพที่มตี อ่ มนุษย ์ เทคโนโลยชี ีวภาพกับความ 4.5 แนวทางการดแู ลและ หลากหลายของสง่ิ มชี วี ติ รกั ษาความหลากหลาย ทางชีวภาพ 4.6 เทคโนโลยีชีวภาพกบั ความหลากหลายของ สิ่งมชี ีวติ 143

มารตรฐานการเรยี นร ู้ เวลา น้ำหนกั ลำดบั ที่ ชือ่ หนว่ ยการเรยี นร้ ู / ตัวชี้วัด สาระสำคญั (ชั่วโมง) คะแนนเตม็ 5 5. ทรัพยากรธรรมชาติ ว 2.2 ม.4/1-3 5.1 สิง่ แวดล้อม 14 (100) 5.1 สงิ่ แวดล้อม ว 8.1 ม.4/1-12 5.2 ทรัพยากรธรรมชาติ 60 10 5.2 ทรัพยากรธรรมชาติ 5.3 ความสมั พนั ธ์ระหว่าง 5.3 ความสมั พันธร์ ะหว่าง สิ่งมชี วี ติ กับสิ่งแวดล้อม 30 ส่งิ มชี วี ิตกบั สง่ิ แวดลอ้ ม 5.4 ปัญหามลพิษ 100 5.4 ปญั หามลพิษ 5.5 สาเหตุของปญั หา 5.5 สาเหตขุ องปัญหา ส่ิงแวดล้อมและ สิง่ แวดลอ้ มและ ทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาต ิ 5.6 แนวทางการปอ้ งกนั และ 5.6 แนวทางการป้องกันและ แก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อม แกไ้ ขปญั หาสิง่ แวดลอ้ ม และทรพั ยากรธรรมชาติ และทรพั ยากรธรรมชาติ 5.7 ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 5.7 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กับการจัดสง่ิ แวดล้อม กบั การจดั การสงิ่ แวดลอ้ ม และทรพั ยากรธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาต ิ สอบปลายภาค รวมตลอดภาคเรยี น 144

กำหนดการเรยี นร้รู ายช่วั โมง และส่งิ ท่โี รงเรยี นปลายทางต้องเตรียม รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว31101 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2554 ครง้ั ที่ วัน/เดอื น/ปี จำนวน เรอ่ื งที่สอน มาตรฐาน สง่ิ ที่ ร.ร. ปลายทาง เวลา ช่ัวโมง การเรยี นรู้ขอ้ ท่ ี ตอ้ งเตรยี ม (คร/ู นักเรยี น) ว 1.1 ม.4/1-3 1 18 พ.ค. 54 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 ว 8.1 ม.4/1-12 09.30 - 10.30 น. เรอื่ ง กลไกการรกั ษาดลุ ยภาพของสง่ิ มชี ีวิต 1.1 องคป์ ระกอบของเซลล์ 2 19 พ.ค. 54 2 1.2 องค์ประกอบของเซลล์ กจิ กรรมท่ี 1.1 การแพร ่ 09.30 - 11.30 น. 1.2 การรักษาดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุ และการออสโมซสิ ของเซลล์ 3 25 พ.ค. 54 1 1.2 การรกั ษาดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุ 09.30 - 10.30 น. ของเซลล ์ 4 26 พ.ค. 54 2 1.3 การรกั ษาดุลยภาพของนำ้ และแร่ธาตุ 09.30 - 11.30 น. ของสิ่งมีชวี ิต กิจกรรมท่ี 1.2 5 1 มิ.ย. 54 1 1.3 การรักษาดลุ ยภาพของนำ้ และแรธ่ าต ุ การคายนำ้ ของพืช 09.30 - 10.30 น. ของส่งิ มีชีวติ 6 2 ม.ิ ย. 54 2 1.4 การรกั ษาดลุ ยภาพของอุณหภูม ิ 09.30 - 11.30 น. ในสง่ิ มชี วี ิต กจิ กรรมที่ 1.3 พฤตกิ รรม การควบคมุ อุณหภมู ิของ 7 8 มิ.ย. 54 1 1.4 การรกั ษาดลุ ยภาพของอณุ หภูม ิ ร่างกาย 09.30 - 10.30 น. ในส่งิ มชี ีวติ 8 9 มิ.ย. 54 2 1.4 การรักษาดุลยภาพของอุณหภูม ิ 09.30 - 11.30 น. ในสง่ิ มีชีวติ 9 15 มิ.ย. 54 1 *ทบทวนและทำแบบทดสอบ 09.30 - 10.30 น. เรื่อง กลไกการรักษาดุลยภาพของสงิ่ มชี วี ิต 10 16 มิ.ย. 54 2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง ภมู คิ ุ้มกนั รา่ งกาย ว 1.1 ม.4/4 09.30 - 11.30 น. 2.1 ลกั ษณะการทำงานของระบบภมู คิ มุ้ กัน ว 8.1 ม.4/1-12 2.2 ประเภทของระบบภูมคิ มุ้ กนั ในรา่ งกาย 11 22 ม.ิ ย. 54 1 2.3 องค์ประกอบระดับเซลล์ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับ 09.30 - 10.30 น. ระบบภมู คิ มุ้ กนั 145

กำหนดการเรยี นรูร้ ายช่ัวโมง และส่งิ ท่โี รงเรยี นปลายทางตอ้ งเตรยี ม รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว31101 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2554 ครงั้ ท่ี วนั /เดือน/ปี จำนวน เรื่องทส่ี อน มาตรฐาน ส่ิงที่ ร.ร. ปลายทาง เวลา ชว่ั โมง การเรยี นร้ขู ้อท ่ี ต้องเตรียม (คร/ู นักเรียน) 12 23 มิ.ย. 54 2 2.3 องคป์ ระกอบระดบั เซลลท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั 09.30 - 11.30 น. ระบบภมู คิ ุ้มกัน 2.4 การเสรมิ สร้างและรกั ษาภมู ิคุ้มกัน ของร่างกาย 13 29 ม.ิ ย. 54 1 2.5 โรคทีเ่ กยี่ วข้องกับระบบภูมิค้มุ กัน 09.30 - 10.30 น. 14 30 ม.ิ ย. 54 2 *ทบทวนและทำแบบทดสอบ 09.30 - 11.30 น. เร่อื ง ภมู คิ มุ้ กันร่างกาย กจิ กรรมที่ 3.1 การแบ่งตวั ของเซลล ์ 15 6 ก.ค. 54 1 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 เรอื่ ง กระบวนการถา่ ยทอด ว 1.2 ม.4/1 ปลายรากหอม 09.30 - 10.30 น. ทางพนั ธุกรรม ว 8.1 ม.4/1-12 3.1 ลักษณะทางพนั ธุกรรม 16 7 ก.ค. 54 2 3.2 โครโมโซมและกรดนวิ คลอี ิก 09.30 - 11.30 น. 17 13 ก.ค. 54 1 3.3 ประเภทของสารพนั ธุกรรม 09.30 - 10.30 น. 18 14 ก.ค. 54 2 3.4 การแบง่ เซลล ์ 09.30 - 11.30 น. วนั ศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2554 หยดุ วนั อาสาฬหบชู า วันจนั ทรท์ ี่ 18 กรกฎาคม 2554 หยดุ ชดเชยวนั เข้าพรรษา 19 20 ก.ค. 54 1 3.4 การแบ่งเซลล์ 09.30 - 10.30 น. 20 21 ก.ค. 54 2 3.5 การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม 09.30 - 11.30 น. 21 27 ก.ค. 54 1 3.6 การเปล่ียนแปลงและการแปรผนั 09.30 - 10.30 น. ทางพันธุกรรม 22 28 ก.ค. 54 2 3.7 ความผิดปกติที่เกิดจากการแปรผัน 09.30 - 11.30 น. ทางพนั ธกุ รรมและโรคทางพนั ธุกรรม 23 3 ส.ค. 54 1 *ทบทวนและทดสอบ 09.30 - 10.30 น. เร่ือง กระบวนการถา่ ยทอดทางพันธกุ รรม 146

กำหนดการเรยี นรู้รายชวั่ โมง และสง่ิ ท่โี รงเรยี นปลายทางต้องเตรยี ม รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว31101 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2554 ครง้ั ท่ี วัน/เดอื น/ปี จำนวน เรอื่ งทส่ี อน มาตรฐาน สิ่งท่ี ร.ร. ปลายทาง เวลา ชว่ั โมง การเรียนรขู้ ้อที ่ ตอ้ งเตรียม (ครู/นกั เรยี น) 24 4 ส.ค. 54 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรื่อง ระบบนเิ วศ ว 1.2 ม.4/2-4 09.30 - 11.30 น. และความหลากหลายทางชวี ภาพ ว 2.1 ม.4/1-3 4.1 ระบบนิเวศ ว 8.1 ม.4/1-12 4.2 ความหลากหลายทางชวี ภาพ 25 10 ส.ค. 54 1 4.2 ความหลากหลายทางชีวภาพ 09.30 - 10.30 น. 26 11 ส.ค. 54 2 4.2 ความหลากหลายทางชวี ภาพ 09.30 - 11.30 น. วนั ศุกรท์ ่ี 12 สงิ หาคม 2554 หยดุ วันเฉลมิ พระชนมพรรษาสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 27 17 ส.ค. 54 1 4.3 ความสัมพนั ธ์ของสิ่งมชี ีวิตในระบบนเิ วศ 09.30 - 10.30 น. 28 18 ส.ค. 54 2 4.3 ความสัมพนั ธข์ องสง่ิ มีชีวิตในระบบนิเวศ กจิ กรรมที่ 4.1 09.30 - 11.30 น. ความสัมพันธ์ของ สิง่ มชี วี ิต 29 24 ส.ค. 54 1 4.4 ผลของความหลากหลายทางชีวภาพ กจิ กรรมท่ี 4.2 09.30 - 10.30 น. ทม่ี ตี ่อมนษุ ย ์ การเปลยี่ นแปลงของ 4.5 แนวทางการดูแลและรกั ษาความหลากหลาย ปจั จัยต่างๆ ในแหล่งน้ำ ทางชวี ภาพ 30 25 ส.ค. 54 2 4.6 เทคโนโลยชี ีวภาพกับความหลากหลาย กิจกรรมท่ี 4.3 09.30 - 11.30 น. ของสงิ่ มชี ีวิต ความหลากหลายทาง ชวี ภาพในทอ้ งถ่นิ 31 31 ส.ค. 54 1 4.6 เทคโนโลยชี ีวภาพกับความหลากหลาย 09.30 - 10.30 น. ของสิ่งมีชีวติ *ทบทวนและทำแบบทดสอบ เร่อื ง ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชวี ภาพ 32 1 ก.ย. 54 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรือ่ ง ทรพั ยากรธรรมชาต ิ ว 2.2 ม.4/1-3 09.30 - 11.30 น. 5.1 สิ่งแวดลอ้ ม ว 8.1 ม.4/1-12 147

กำหนดการเรียนร้รู ายช่ัวโมง และส่ิงท่โี รงเรียนปลายทางต้องเตรียม รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว31101 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2554 ครง้ั ท่ี วัน/เดอื น/ปี จำนวน เรือ่ งท่ีสอน มาตรฐาน ส่งิ ท่ี ร.ร. ปลายทาง เวลา ช่วั โมง การเรยี นรขู้ อ้ ท่ ี ต้องเตรยี ม (คร/ู นักเรยี น) 33 7 ก.ย. 54 1 5.1 สิง่ แวดลอ้ ม 09.30 - 10.30 น. 5.2 ทรพั ยากรธรรมชาต ิ 34 8 ก.ย. 54 2 5.3 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสิง่ มชี วี ิต 09.30 - 11.30 น. กับสงิ่ แวดล้อม 35 14 ก.ย. 54 1 5.4 ปัญหามลพิษ 09.30 - 10.30 น. 5.5 สาเหตขุ องปัญหาสิ่งแวดล้อม และทรพั ยากรธรรมชาต ิ 36 15 ก.ย. 54 2 5.5 สาเหตขุ องปญั หาสิง่ แวดล้อม 09.30 - 11.30 น. และทรพั ยากรธรรมชาต ิ 37 21 ก.ย. 54 1 5.6 แนวทางการป้องกนั และแก้ไขปญั หา 09.30 - 10.30 น. สิ่งแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาต ิ 38 22 ก.ย. 54 2 5.7 ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงกับการจดั 09.30 - 11.30 น. สิ่งแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ 39 28 ก.ย. 54 1 5.7 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งกับการจดั 09.30 - 10.30 น. สง่ิ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาต ิ *ทบทวนและทำแบบทดสอบ เรอื่ ง ทรพั ยากรธรรมชาต ิ 40 29 ก.ย. 54 2 5.7 ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งกับการจดั 09.30 - 11.30 น. สิง่ แวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ *ทบทวนและทำแบบทดสอบ 148

ผงั มโนทัศน์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว31101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2554 ขอบขา่ ยสาระการเรียนร ู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง กลไกการรักษาดลุ ยภาพ ของสิ่งมชี วี ิต หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง ทรพั ยากรธรรมชาติ เรอ่ื ง ภมู ิคุ้มกันรา่ งกาย วิทยาศาสตร ์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่ือง ระบบนิเวศและความ เร่ือง กระบวนการถ่ายทอด หลากหลายทางชีวภาพ ทางพนั ธกุ รรม 149

หน่วยการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว31101 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2554 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง กลไกการรกั ษาดลุ ยภาพของสิง่ มีชีวติ จำนวน 13 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั สาระที่ 1 สงิ่ มชี วี ิตกับกระบวนการดำรงชวี ติ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการ ของส่ิงมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพที่มีผลกระทบต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ ละจิตวิทยาศาสตร์ สือ่ สารสิ่งทีเ่ รียนรู้ และนำไปใช้ประโยชน ์ ตวั ชวี้ ดั 1. อธิบายกระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การแปรผันทางพันธุกรรม มิวเทชั่น และการเกิด ความหลากหลายทางชวี ภาพ สาระท่ี 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การแกป้ ัญหา รู้ว่าปรากฏการณท์ างธรรมชาติทเ่ี กิดขึ้นสว่ นใหญม่ รี ปู แบบท่ีแนน่ อน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมลู และ เครือ่ งมือท่มี อี ยใู่ นช่วงเวลานั้น เข้าใจว่าวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และส่งิ แวดล้อมมีความเก่ียวข้องสัมพันธ์กนั ตวั ชวี้ ดั 1. สร้างสมมติฐานจากคำถามที่อยู่บนพ้ืนฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ เพ่ือนำไปสู่การ ตรวจสอบ 2. คน้ คว้ารวบรวมขอ้ มูล และพจิ ารณาตวั แปรต่างๆ ท่ีมีผลต่อการสำรวจตรวจสอบ เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลท่ถี ูกตอ้ ง 3. เลอื กวิธีการ อปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการสำรวจตรวจสอบอย่างถกู ต้อง 4. รวบรวมข้อมูล บันทึกผล โดยตรวจสอบความเป็นไปได้ของข้อมูล รวมท้ังตรวจสอบความผิดพลาดท่ีเกิด ขึ้นได้ 5. จดั ทำขอ้ มูลและนำเสนอ โดยเลอื กใช้วธิ ีการทถี่ ูกตอ้ งและเหมาะสม 6. วเิ คราะห์ แปลความหมาย รวมทงั้ สรปุ ข้อมูล เพื่อตรวจสอบกับสมมตฐิ านที่ต้งั ไว ้ 7. เขยี นรายงาน และอธบิ ายเกย่ี วกับผลทีเ่ กิดข้ึนของขอ้ มลู ได ้ 2. สาระสำคัญ ร่างกายของส่ิงมีชีวิตมีระบบต่างๆ ทำงานสัมพันธ์กัน ระบบรักษาสมดุลของร่างกาย ทำหน้าท่ีรักษาดุลยภาพ ของน้ำ แรธ่ าตุ และอณุ หภมู ิในร่างกายของสงิ่ มีชวี ติ 150

3. สาระการเรียนรู้ 1. อธบิ ายการรักษาดุลยภาพของเซลล์ของส่งิ มีชีวติ 2. อธิบายกลไกการรักษาดลุ ยภาพในเซลล์พชื 3. อธิบายกลไกการรักษาดลุ ยภาพของน้ำ แรธ่ าตุ และอณุ หภูมิของมนุษย์ และสตั ว์ 4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค ์ มีจิตวิทยาศาสตร ์ 6. ชิน้ งาน/ภาระงาน ทำการทดลอง บันทึกผล พร้อมทง้ั สรปุ ผลการทดลอง ในใบกิจกรรมเรื่องการแพรแ่ ละออสโมซสิ 7. การประเมินผล 7.1 ด้านความรู้ - แบบทดสอบ 7.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ - แบบทดสอบ 7.3 ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม วธิ ีการประเมนิ เคร่อื งมือทีป่ ระเมนิ เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ - ทำงานครบ และตรงต่อเวลา - ตรวจผลงาน สมุด ใบงาน รายงานการสืบค้น - มีเวลาเรียน 80% ขน้ึ ไป - เลือกวิธีเหมาะสม และถูกต้อง - เกณฑ์การเข้าชั้นเรยี น สมดุ บนั ทึกการเขา้ เรยี น - จิตวิทยาศาสตร ์ การนำเสนอรายงานหน้าชนั้ เรยี น 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ้ 1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4 – 5 คน ทำการทดลอง บันทึกและสรุปผลการทดลอง ในกิจกรรมการแพร่และ ออสโมซิส 2. ให้นกั เรยี นแบง่ กล่มุ 4 – 5 คน ทำการทดลอง บนั ทกึ และสรุปผลการทดลองในกิจกรรมการคายนำ้ ของพืช 3. ให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ 4 – 5 คนรว่ มกนั วิเคราะห์กลไกการรกั ษาสมดลุ ภาพของน้ำ แร่ธาตุ และอณุ หภูมิของ มนุษยแ์ ละสตั ว ์ 151

9. สอื่ การเรียนรู้ - อินเทอร์เน็ต - กิจกรรมการทดลอง เรอ่ื งการแพร่และออสโมซสิ - กจิ กรรมการทดลอง เรอ่ื งการคายน้ำของพชื - หอ้ งสมดุ 10. เกณฑ์การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน ประเดน็ การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) ผังความคดิ เนื้อหาครบถ้วน เน้ือหาขาดไปบางสว่ น เนือ้ หาขาดไปบางสว่ น เนือ้ หาขาดไปจำนวน สะอาด เรยี บรอ้ ย สะอาด เรยี บรอ้ ย ไม่สะอาด เรียบรอ้ ย มาก ไมส่ ะอาด ไม่เรยี บร้อย สมุดบันทึกการเรียน บันทกึ เรียบรอ้ ย มีการบนั ทกึ เรียบร้อย มกี ารบันทกึ เรียบร้อย บันทึกไมเ่ รียบรอ้ ย ตามสภาพจรงิ วาดภาพระบายสี วาดภาพระบายสี ไม่วาดภาพ ขาดเปน็ ไมว่ าดภาพ ขาดเปน็ ทกุ กจิ กรรม ขาดเปน็ บางกจิ กรรม บางกิจกรรม บางกิจกรรม 152

หนว่ ยการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว31101 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2554 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรื่อง ภมู ิคุม้ กันของร่างกาย จำนวน 8 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั สาระท่ี 1 ส่ิงมีชวี ิตกบั กระบวนการดำรงชีวิต มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการ ของส่ิงมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพที่มีผลกระทบต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ ละจิตวิทยาศาสตร์ สือ่ สารสง่ิ ทเ่ี รียนรู้ และนำไปใชป้ ระโยชน์ ตัวชี้วัด 4. อธบิ ายเกย่ี วกับระบบภมู คิ มุ้ กนั ของร่างกายและนำความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั สาระท่ี 8 ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหาความรู้ การแกป้ ัญหา รู้วา่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทเี่ กิดข้ึนสว่ นใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมลู และ เครอื่ งมือท่ีมีอยูใ่ นชว่ งเวลาน้นั เขา้ ใจวา่ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และส่ิงแวดลอ้ มมคี วามเกีย่ วข้องสัมพนั ธ์กนั ตวั ชี้วัด 1. สร้างสมมติฐานจากคำถามที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปสู่การ ตรวจสอบ 2. ค้นควา้ รวบรวมขอ้ มูล และพจิ ารณาตวั แปรตา่ งๆ ท่ีมผี ลต่อการสำรวจตรวจสอบ เพือ่ ให้ได้ผลทีถ่ กู ตอ้ ง 3. เลอื กวธิ กี าร อุปกรณท์ ีใ่ ช้ในการสำรวจตรวจสอบอยา่ งถูกต้อง 4. รวบรวมข้อมูล บันทึกผล โดยตรวจสอบความเป็นไปได้ของข้อมูล รวมท้ังตรวจสอบความผิดพลาดที่เกิด ขน้ึ ได้ 5. จดั ทำข้อมลู และนำเสนอ โดยเลอื กใชว้ ธิ กี ารทถ่ี กู ต้องและเหมาะสม 6. วิเคราะห์ แปลความหมาย รวมทง้ั สรุปขอ้ มูล เพ่ือตรวจสอบกับสมมตฐิ านทต่ี ัง้ ไว้ 7. เขียนรายงาน และอธบิ ายเก่ยี วกับผลทเ่ี กิดข้นึ ของข้อมลู ได้ 2. สาระสำคัญ ส่ิงมีชีวิตทุกชนิดมีระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย จำเป็นต้องศึกษากลไกการทำงานของเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบ ภูมิคมุ้ กัน การสร้างและรักษาภมู คิ มุ้ กันของรา่ งกาย รวมท้งั โรคทเี่ กี่ยวข้องกบั ระบบภมู คิ ุ้มกนั 153

3. สาระการเรียนรู้ 1. อธบิ ายระบบภมู คิ ุ้มกันของรา่ งกายได้ 2. อธิบายกลไกการทำงานของระบบภมู คิ มุ้ กันในรา่ งกาย 3. อธบิ ายวิธกี ารเสรมิ สร้างและรักษาระบบภมู ิคมุ้ กนั ของร่างกาย 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลย ี 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มจี ติ วทิ ยาศาสตร ์ 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1. สืบค้นภาพและหาขอ้ มูลเกย่ี วกับอวัยวะทเี่ กี่ยวข้องกบั ระบบภูมิคมุ้ กันของรา่ งกาย 2. สืบคน้ และหาขอ้ มูลโรคท่ีเก่ยี วข้องกับระบบภูมิคุม้ กนั ของร่างกาย 3. สืบคน้ และหาขอ้ มลู ตารางการฉีดวัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกนั ของรา่ งกายตง้ั แตแ่ รกเกดิ จนถึงวยั เดก็ 7. การประเมินผล 7.1 ดา้ นความรู้ - แบบทดสอบ 7.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ - แบบทดสอบ 7.3 ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม วิธีการประเมิน เคร่ืองมอื ทปี่ ระเมิน เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ - ทำงานครบ และตรงต่อเวลา - ตรวจผลงาน สมุด ใบงาน รายงานการสืบค้น - มีเวลาเรียน 80% ขึน้ ไป - เลือกวิธีเหมาะสม และถกู ต้อง - เกณฑก์ ารเขา้ ช้นั เรียน สมุดบันทกึ การเข้าเรยี น - จิตวิทยาศาสตร์ การนำเสนอรายงานหน้าชน้ั เรียน 154

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. สืบคน้ ขอ้ มูลเกีย่ วกบั เช้ือโรค สงิ่ แปลกปลอม (antigen) ที่เขา้ สู่ร่างกาย 2. สืบคน้ ขอ้ มูลของอวัยวะทเี่ กีย่ วข้องกบั ระบบภูมคิ ุ้มกนั ของรา่ งกาย 3. สืบค้นภาพและขอ้ มลู เก่ยี วกบั การทำงานของเซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาวชนดิ ต่างๆ 4. สบื คน้ ขอ้ มูลของโรคหรือความผดิ ปกติของรา่ งกายทเ่ี กีย่ วข้องกบั ระบบภมู คิ ุ้มกนั 5. สบื คน้ ตารางการฉดี วคั ซีนคุ้มกนั โรคของทารกตง้ั แตแ่ รกเกดิ จนถงึ วัยเด็ก 9. สอ่ื การเรียนรู้ - อินเทอร์เน็ต - ภาพ, สอ่ื มัลติมิเดีย - หอ้ งสมดุ 10. เกณฑก์ ารประเมินช้ินงาน/ภาระงาน ประเด็นการประเมนิ ระดับคุณ ภาพ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) ผังความคดิ เนื้อหาครบถว้ น เนือ้ หาขาดไปบางสว่ น เนอ้ื หาขาดไปบางส่วน เนอื้ หาขาดไปจำนวน สะอาด เรียบรอ้ ย สะอาด เรียบรอ้ ย ไม่สะอาด เรียบร้อย มาก ไมส่ ะอาด ไมเ่ รียบร้อย สมุดบันทึกการเรยี น บันทกึ เรยี บรอ้ ย มกี ารบนั ทึกเรยี บร้อย มีการบันทกึ เรียบรอ้ ย บันทกึ ไมเ่ รียบร้อย ตามสภาพจริง วาดภาพระบายสี วาดภาพระบายสี ไม่วาดภาพ ขาดเปน็ ไมว่ าดภาพ ขาดเป็น ทกุ กิจกรรม ขาดเปน็ บางกิจกรรม บางกิจกรรม บางกจิ กรรม 155

หนว่ ยการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร ์ รายวิชา วิทยาศาสตร ์ รหัสวิชา ว31101 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2554 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่ือง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม จำนวน 13 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ดั สาระท่ี 1 สิง่ มีชวี ติ กับกระบวนการดำรงชวี ิต มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการ ของส่ิงมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพท่ีมีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจติ วิทยาศาสตร์ สอ่ื สารส่งิ ทเ่ี รยี นรู้ และนำไปใช้ประโยชน์ ตัวชวี้ ัด 1. อธิบายกระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การแปรผันทางพันธุกรรม มิวเทช่ัน และการเกิด ความหลากหลายทางชีวภาพ สาระท่ี 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ในการสบื เสาะหาความรู้ การแกป้ ัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่เี กิดขน้ึ สว่ นใหญ่มรี ูปแบบทแี่ นน่ อน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ อ้ มูลและ เครอื่ งมือท่มี ีอยู่ในช่วงเวลานน้ั เขา้ ใจวา่ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ มมคี วามเก่ยี วข้องสมั พนั ธ์กัน ตัวชว้ี ัด 1. สร้างสมมติฐานจากคำถามท่ีอยู่บนพ้ืนฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปสู่การ ตรวจสอบ 2. คน้ คว้ารวบรวมขอ้ มูล และพจิ ารณาตวั แปรตา่ งๆ ทม่ี ผี ลตอ่ การสำรวจตรวจสอบ เพ่อื ใหไ้ ดผ้ ลทถี่ ูกตอ้ ง 3. เลอื กวิธีการ อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นการสำรวจตรวจสอบอย่างถกู ต้อง 4. รวบรวมข้อมูล บันทึกผล โดยตรวจสอบความเป็นไปได้ของข้อมูล รวมท้ังตรวจสอบความผิดพลาดท่ีเกิด ขน้ึ ได้ 5. จัดทำขอ้ มลู และนำเสนอ โดยเลอื กใช้วธิ กี ารทถ่ี ูกตอ้ งและเหมาะสม 6. วเิ คราะห์ แปลความหมาย รวมท้งั สรุปข้อมูล เพอ่ื ตรวจสอบกบั สมมตฐิ านท่ีตัง้ ไว ้ 7. เขียนรายงาน และอธบิ ายเกี่ยวกบั ผลท่ีเกดิ ข้นึ ของข้อมลู ได ้ 2. สาระสำคัญ การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรมทมี่ ผี ลต่อการแปรผนั ทางพันธุกรรม และการเกิดมิวเทช่นั ของส่ิงมชี ีวติ 156

3. สาระการเรียนรู้ 1. อธิบายลกั ษณะทางพนั ธุกรรม 2. อธิบายบทบาทของโครโมโซม และกรดนวิ คลอี กิ 3. อธิบายประเภทของสารพนั ธกุ รรม 4. อธบิ ายลักษณะการแปรผันทางพนั ธุกรรม 5. อธบิ ายลกั ษณะการแบ่งเซลลแ์ บบตา่ งๆ 6. อธบิ ายลกั ษณะความผิดปกตทิ เี่ กิดขึ้นจากการแปรผันทางพันธุกรรมและโรคทางพนั ธกุ รรม 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค ์ มจี ิตวทิ ยาศาสตร ์ 6. ช้ินงาน/ภาระ 1. คน้ หาความร้เู กยี่ วกับลักษณะทางพันธุกรรมของสง่ิ มีชวี ิต 2. คน้ หาภาพและหาขอ้ มลู โครงสรา้ ง และสว่ นประกอบของดเี อ็นเอ 3. คน้ หาภาพและหาข้อมลู เก่ียวกับหมเู่ ลอื ด การตรวจหาหมเู่ ลือด การใหเ้ ลือด 4. ค้นหาข้อมลู และเขยี นรายงานเรือ่ งเทคโนโลยีการคดั เลอื กพนั ธแุ์ ละปรับปรุงพนั ธ ุ์ 7. การประเมนิ 7.1 ดา้ นความรู ้ - แบบทดสอบ 7.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ - แบบทดสอบ - การเขยี นรายงาน 7.3 ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจิตวทิ ยาศาสตร์ วธิ ีการประเมนิ เครื่องมอื ทปี่ ระเมนิ เกณฑผ์ า่ นการประเมิน - ทำงานครบ และตรงต่อเวลา - ตรวจผลงาน สมดุ ใบงาน รายงานการสืบค้น - มเี วลาเรยี น 80% ขน้ึ ไป - เลือกวธิ เี หมาะสม และถูกตอ้ ง - เกณฑก์ ารเขา้ ช้ันเรยี น สมดุ บันทึกการเข้าเรียน - จิตวิทยาศาสตร์ การนำเสนอรายงานหน้าชนั้ เรียน 157

8. กิจกรรมการเรยี นร ู้ 1. คน้ หาข้อมลู เกีย่ วกบั ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสิง่ มชี วี ิต 2. ค้นหาภาพและขอ้ มูลลักษณะโครงสร้างของสารพันธุกรรม 3. ค้นหาภาพและขอ้ มูลเกย่ี วกบั หมเู่ ลอื ด การหาหมู่เลือด และการใหเ้ ลือด 4. คน้ หาข้อมูลและวิธีการเขยี นแผนภาพเพดดกี รี 5. ค้นหาข้อมลู เกย่ี วกบั การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมของโรคธาลัสซเี มีย และโรคตาบอดสี 6. รายงานเร่ืองเทคโนโลยกี ารคัดเลือกพนั ธ์ุ และการปรบั ปรุงพันธุ ์ 9. สอื่ การเรยี นรู้ - อนิ เทอรเ์ น็ต - ภาพ, สื่อมัลติมเิ ดีย - หอ้ งสมุด - ใบงาน, ใบความรู้ 10. เกณฑก์ ารประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) ผงั ความคดิ เนือ้ หาครบถว้ น เนอ้ื หาขาดไปบางสว่ น เนอื้ หาขาดไปบางสว่ น เนือ้ หาขาดไปจำนวน สะอาด เรียบร้อย สะอาด เรยี บร้อย ไม่สะอาด เรยี บรอ้ ย มาก ไม่สะอาด ไมเ่ รียบร้อย สมุดบนั ทกึ การเรียน บันทึกเรียบร้อย มกี ารบันทกึ เรียบร้อย มกี ารบันทกึ เรยี บร้อย บนั ทึกไมเ่ รียบรอ้ ย ตามสภาพจรงิ วาดภาพระบายส ี วาดภาพระบายส ี ไม่วาดภาพ ขาดเปน็ ไมว่ าดภาพ ขาดเป็น ทุกกจิ กรรม ขาดเปน็ บางกิจกรรม บางกิจกรรม บางกจิ กรรม 158

หน่วยการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร ์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว31101 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2554 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ จำนวน 12 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด สาระท่ี 1 ส่ิงมีชวี ติ กบั กระบวนการดำรงชวี ติ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการ ของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพท่ีมีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ สอ่ื สารส่ิงท่ีเรียนรู้ และนำไปใช้ประโยชน ์ ตัวช้วี ดั 2. สืบค้นข้อมูลและอภิปรายผลของเทคโนโลยี ชีวภาพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและนำความรู้ไปใช ้ ประโยชน์ 3. สบื คน้ ข้อมลู และอภปิ รายผลความหลากหลายทางชวี ภาพที่มตี ่อมนุษยแ์ ละส่งิ แวดลอ้ ม 4. อธิบายกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติ และผลของการคัดเลือกตามธรรมชาติต่อความหลากหลาย ของสิง่ มีชีวติ สาระที่ 2 ชวี ติ กับสงิ่ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจส่ิงแวดล้อมในท้องถ่ิน ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับส่ิงมีชีวิต ความสัมพันธ์ ระหว่างส่ิงมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ ส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนำ ความรไู้ ปใช้ประโยชน ์ ตวั ชวี้ ัด 1. อธิบายดลุ ยภาพของระบบนเิ วศ 2. อธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลงแทนทีข่ องส่งิ มชี วี ิต 3. อธิบายความสำคัญของความหลายหลายทางชีวภาพ และแนวทางในการอนุรักษ ์ มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่ีเกิดข้ึนส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูล และเคร่อื งมือทม่ี อี ยู่ในชว่ งเวลานนั้ เข้าใจวา่ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีสงั คม และส่ิงแวดลอ้ มมคี วามเกย่ี วข้องสัมพันธก์ นั ตวั ช้วี ัด 1. สร้างสมมติฐานจากคำถามที่อยู่บนพ้ืนฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์เพื่อนำไปสู่การ ตรวจสอบ 2. คน้ คว้ารวบรวมข้อมูล และพจิ ารณาตวั แปรตา่ งๆ ท่ีมผี ลตอ่ การสำรวจตรวจสอบ เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลท่ถี กู ตอ้ ง 3. เลอื กวธิ กี าร อุปกรณท์ ี่ใช้ในการสำรวจตรวจสอบอยา่ งถูกตอ้ ง 159

4. รวบรวมข้อมูล บันทึกผล โดยตรวจสอบความเป็นไปได้ของข้อมูล รวมทั้งตรวจสอบความผิดพลาด ทีเ่ กดิ ขนึ้ ได้ 5. จัดทำขอ้ มลู และนำเสนอ โดยเลือกใชว้ ธิ ีการทถ่ี ูกตอ้ งและเหมาะสม 6. วิเคราะห์ แปลความหมาย รวมท้ังสรุปข้อมลู เพือ่ ตรวจสอบกับสมมตฐิ านทีต่ ้ังไว้ 7. เขยี นรายงาน และอธิบายเกี่ยวกบั ผลทเี่ กิดข้ึนของข้อมลู ได้ 2. สาระสำคญั ระบบนิเวศ มีความหลายหลายทางชีวภาพ และความสัมพันธ์ของส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศ มีผลต่อความ หลากหลายทางชวี ภาพทมี่ ีตอ่ มนุษย์ ดงั น้นั จึงจำเปน็ ต้องหาแนวทางในการอนรุ กั ษ์ รวมทงั้ การดแู ลรักษา และจำเป็นตอ้ ง มีความรูท้ ่ีจะใชเ้ ทคโนโลยีชวี ภาพกับความหลากหลายของส่ิงมชี ีวติ เพ่อื ให้เกิดระบบนิเวศที่หลากหลายและย่ังยนื 3. สาระการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายปจั จยั ท่มี ผี ลตอ่ ความสมดุลในระบบนิเวศ 2. อธิบายลกั ษณะของความสัมพันธข์ องสิ่งมีชวี ิตในระบบนิเวศ 3. อธิบายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ พรอ้ มท้งั เสนอแนะแนวทางการอนุรักษ์ 4. อธบิ ายสาเหตุและผลทเี่ กิดภาวะโลกร้อนที่ในปจั จุบัน 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลย ี 5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค ์ มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงาน - เร่ืองความสัมพนั ธข์ องส่ิงมีชีวติ - ความหลากหลายทางชวี ภาพ - การเปลย่ี นแปลงทางชวี ภาพ 2. รายงาน 160

7. การประเมนิ ผล 7.1 ดา้ นความรู้ - แบบทดสอบ 7.2 ด้านกระบวนการ - แบบทดสอบ - การเขยี นรายงาน 7.3 ด้านคุณธรรม จริยธรรม และจติ วทิ ยาศาสตร์ วธิ กี ารประเมนิ เครอ่ื งมอื ท่ปี ระเมิน เกณฑ์ผ่านการประเมิน - ทำงานครบ และตรงต่อเวลา - ตรวจผลงาน สมุด ใบงาน รายงานการสืบคน้ - มเี วลาเรยี น 80% ขนึ้ ไป - เลือกวิธเี หมาะสม และถกู ต้อง - เกณฑก์ ารเขา้ ชน้ั เรียน สมดุ บนั ทึกการเขา้ เรยี น - จติ วิทยาศาสตร ์ การนำเสนอรายงานหนา้ ช้ันเรยี น 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ ักเรยี นวิเคราะห์ภาพและความรู้เก่ยี วกับความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสงิ่ มชี ีวติ กับสิ่งแวดล้อม 2. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม 4-5 คน วิเคราะห์ภาพเกย่ี วกบั ปัญหามลพิษในสงิ่ แวดลอ้ ม 3. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 คน วิเคราะห์ภาพท่ีเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม และทรัพยากร ธรรมชาติ 4. ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 คน วิเคราะหภ์ าพ และบอกแนวทางการป้องกนั และแกป้ ญั หาสิ่งแวดล้อม 9. สอ่ื การเรยี นร้ ู - อนิ เทอรเ์ น็ต - ภาพความรู้เกีย่ วกบั ความสมั พนั ธ์ระหว่างส่ิงมชี ีวิตและสิง่ แวดลอ้ ม - ภาพความรู้เก่ียวกับสาเหตุของปัญหาสิง่ แวดลอ้ ม - ภาพความรเู้ ก่ยี วกับปัญหามลพษิ 161

10. เกณฑก์ ารประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน ประเดน็ การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) ผงั ความคิด เนอ้ื หาครบถว้ น เน้อื หาขาดไปบางสว่ น เนอ้ื หาขาดไปบางส่วน เนื้อหาขาดไปจำนวน สะอาด เรยี บรอ้ ย สะอาด เรียบรอ้ ย ไม่สะอาด เรยี บร้อย มาก ไมส่ ะอาด ไม่เรยี บร้อย สมดุ บนั ทึกการเรียน บนั ทกึ เรียบรอ้ ย มีการบันทึกเรยี บรอ้ ย มีการบันทกึ เรยี บร้อย บันทึกไม่เรียบรอ้ ย ตามสภาพจริง วาดภาพระบายสี วาดภาพระบายส ี ไม่วาดภาพ ขาดเปน็ ไม่วาดภาพ ขาดเปน็ ทกุ กิจกรรม ขาดเปน็ บางกิจกรรม บางกิจกรรม บางกจิ กรรม 162

หน่วยการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว31101 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2554 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง ทรัพยากรธรรมชาติ จำนวน 12 ชว่ั โมง 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด สาระที่ 2 ชวี ิตกบั สิง่ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสิ่งแวดล้อมในท้องถ่ิน ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับส่ิงมีชีวิต ความสัมพันธ์ ระหว่างส่ิงมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ ส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และ นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ ตวั ชว้ี ัด 1. อธบิ ายดลุ ยภาพของระบบนิเวศ 2. อธิบายกระบวนการเปลย่ี นแปลงแทนทข่ี องส่งิ มชี วี ติ 3. อธบิ ายความสำคัญของความหลากหลายทางชวี ภาพ และแนวทางในการอนรุ ักษ์ มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้การแก้ปัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดข้ึนส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูล และเครื่องมือที่มอี ยใู่ นช่วงเวลาน้นั เข้าใจว่าวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดลอ้ มมคี วามเกยี่ วข้องสัมพันธ์กัน ตัวชวี้ ดั 1. สร้างสมมติฐานจากคำถามที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ เพ่ือนำไปสู่การ ตรวจสอบ 2. คน้ คว้ารวบรวมข้อมลู และพิจารณาตัวแปรต่างๆ ทม่ี ีผลตอ่ การสำรวจตรวจสอบ เพ่ือใหไ้ ดผ้ ลทถ่ี กู ต้อง 3. เลอื กวธิ ีการ อปุ กรณท์ ี่ใช้ในการสำรวจตรวจสอบอยา่ งถกู ตอ้ ง 4. รวบรวมข้อมูล บันทึกผล โดยตรวจสอบความเป็นไปได้ของข้อมูล รวมท้ังตรวจสอบความผิดพลาด ท่ีเกิดข้ึนได้ 5. จดั ทำขอ้ มูลและนำเสนอ โดยเลือกใช้วิธีการทถี่ กู ตอ้ งและเหมาะสม 6. วเิ คราะห์ แปลความหมาย รวมท้ังสรุปข้อมลู เพือ่ ตรวจสอบกบั สมมติฐานท่ีตงั้ ไว ้ 7. เขียนรายงาน และอธบิ ายเกี่ยวกบั ผลทีเ่ กิดขน้ึ ของข้อมลู ได ้ 2. สาระสำคัญ ส่ิงมีชีวิตทุกชนิดย่อมมีความสัมพันธ์กับส่ิงแวดล้อมต่างๆ ท่ีอยู่รอบตัว ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ในปัจจุบัน ประชากรโลกได้เพิ่มมากข้ึน ทำให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากมนุษย์เป็นส่วนหน่ึงในระบบนิเวศ ผลกระทบท่ีเกิดขึ้นคือ ความเส่ือมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ การขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาด้านมลพิษ ตา่ งๆ จึงจำเปน็ ตอ้ งหาแนวทางเพื่อแกป้ ญั หา เพื่อใหม้ ีทรัพยากรธรรมชาติต่อไปในอนาคต 163

3. สาระการเรียนรู้ 1. อธบิ ายและทรพั ยากรธรรมชาตปิ ระเภทตา่ งๆ ได้ 2. บอกสาเหตุของปญั หาสง่ิ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติทีเ่ กดิ ขน้ึ ได้ 3. บอกแนวทางการป้องกนั และการแกป้ ญั หาสง่ิ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาต ิ 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลย ี 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค ์ มีจิตวทิ ยาศาสตร ์ 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1. ใบงาน - สงิ่ แวดล้อม - การวเิ คราะห์สาเหตขุ องปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ - ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งกับการจัดการสง่ิ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ 2. รายงาน 7. การประเมนิ ผล 7.1 ด้านความรู้ - แบบทดสอบ 7.2 ดา้ นกระบวนการ - แบบทดสอบ - การเขยี นรายงาน 7.3 ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม และจิตวิทยาศาสตร ์ วิธีการประเมนิ เครือ่ งมอื ท่ปี ระเมิน เกณฑ์ผ่านการประเมิน - ทำงานครบ และตรงตอ่ เวลา - ตรวจผลงาน สมุด ใบงาน รายงานการสบื คน้ - มเี วลาเรียน 80% ขึน้ ไป - เลือกวิธเี หมาะสม และถูกตอ้ ง - เกณฑ์การเขา้ ชนั้ เรยี น สมดุ บนั ทกึ การเข้าเรียน - จติ วิทยาศาสตร ์ การนำเสนอรายงานหนา้ ช้นั เรยี น 164

8. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใหน้ ักเรียนแบ่งกลุม่ 4-5 คน วเิ คราะห์ภาพเกี่ยวกบั ปัญหาส่ิงแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาต ิ 2. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 คน วิเคราะห์ภาพ และบอกแนวทางการป้องกันและแก้ปัญหาส่ิงแวดล้อม และทรพั ยากรธรรมชาติ 9. ส่อื การเรียนรู้ - อินเทอร์เน็ต - ภาพความรู้เกยี่ วกบั การเกดิ ปญั หาสง่ิ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ 10. เกณฑ์การประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน ประเดน็ การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) ผังความคิด เนอ้ื หาครบถ้วน เนอ้ื หาขาดไปบางสว่ น เน้อื หาขาดไปบางส่วน เนื้อหาขาดไปจำนวน สะอาด เรียบรอ้ ย สะอาด เรยี บร้อย ไม่สะอาด เรยี บร้อย มาก ไม่สะอาด ไมเ่ รียบร้อย สมดุ บันทึกการเรียน บันทกึ เรยี บร้อย มกี ารบันทกึ เรียบร้อย มีการบนั ทึกเรยี บรอ้ ย บนั ทึกไม่เรยี บร้อย ตามสภาพจรงิ วาดภาพระบายสี วาดภาพระบายส ี ไม่วาดภาพ ขาดเป็น ไม่วาดภาพ ขาดเปน็ ทกุ กิจกรรม ขาดเป็นบางกจิ กรรม บางกิจกรรม บางกิจกรรม 165

แบบประเมินทกั ษะปฏบิ ัตกิ ารทดลอง พิจารณาความสอดคล้องระหว่างพฤติกรรมท่ีสังเกตได้กับพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน และให้คะแนน ในชอ่ งประเมินตามนำ้ หนกั คะแนน 3 หมายถึง พฤติกรรมทีส่ งั เกตสอดคลอ้ งกบั รายงานพฤตกิ รรม 2 หมายถงึ พฤตกิ รรมทีส่ งั เกตเห็นสอดคล้องกบั รายงานพฤตกิ รรมบางส่วน 1 หมายถึง พฤติกรรมทส่ี งั เกตเห็นสอดคลอ้ งกับรายงานพฤติกรรมน้อยมาก 0 หมายถงึ พฤติกรรมที่สังเกตเห็นไม่สอดคล้องกับรายงานพฤตกิ รรม พฤติกรรม รายการพฤติกรรม คะแนน พฤตกิ รรมทสี่ งั เกต ทีส่ งั เกต ของนกั เรยี น 3 2 1 0 1 กระบวนการทำงานกลมุ่ การวางแผนการทดลอง/ รวบรวมขอ้ มลู การรว่ มมอื ทำงานของสมาชิก 2 การดำเนนิ การทดลอง ทำตามขั้นตอนทกี่ ำหนด มีการบนั ทึกผลการทดลอง 3 วิธกี ารใชเ้ คร่อื งมือ/ เทคนคิ ในการทดลอง ใช้เครอื่ งมือ/อุปกรณ์ไดถ้ ูกตอ้ ง ใชเ้ ครอ่ื งมอื /อปุ กรณอ์ ยา่ งระมัดระวัง หลังการทดลองมกี ารทำความสะอาด และเก็บอุปกรณ์อยา่ งถกู วิธี 4 การสรปุ ผลการทดลอง สามารถสรปุ ผลการทดลองได้ถกู ตอ้ ง ตามข้อมูลท่ไี ด้จากการทดลอง 166

ตวั อยา่ งแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ ิ์ เรื่อง กลไกการรักษาสมดลุ ยภาพของส่งิ มีชีวิต 1. การแพร่ เกิดจาก ก. พลังงานจลน์ของโมเลกลุ และการเคลือ่ นทมี่ ีทศิ ทางไม่แน่นอน ข. พลงั งานศกั ยข์ องโมเลกุล และการเคลอื่ นทมี่ ที ิศทางไมแ่ น่นอน ค. พลงั งานจลน์ของโมเลกุล และการเคลอ่ื นทีม่ ีทิศทางแน่นอน ง. พลงั งานศกั ย์ของโมเลกุล และการเคลอ่ื นทีม่ ีทิศทางแน่นอน 2. ความเรว็ ของการแพร่ขึน้ อยกู่ บั ก. อณุ หภูม ิ ข. ความแตกตา่ งของความเข้มขน้ ค. ขนาดของโมเลกลุ ง. ถูกทุกขอ้ 3. นำ้ จะออสโมซสิ เขา้ สู่เซลลเ์ ม่อื สารละลายภายนอกเซลลเ์ ป็นชนิดใด ก. Isotonic solution ข. hypertonic solution ค. saturated solution ง. hypotonic solution 4. การแพร่แบบฟาซิลิเทตตอ้ งอาศัยตวั พา ตัวพาคือสารใด ก. ไขมัน ข. คารโ์ บไฮเดรต ค. กรดนวิ คลีอิก ง. โปรตีน 5. ศูนยก์ ลางที่ทำหนา้ ท่ใี นการควบคุมการกระหายนำ้ อยูท่ ่สี มองสว่ นใด ก. ทาลามัส ข. ไฮโพทาลามสั ค. เมดลั ลาออบลองกาตา ง. พอนส์ 6. nasal grand พบในสงิ่ มชี วี ิตชนดิ ใด ก. ปลาทะเล ข. ปลาน้ำจืด ค. นกทะเล ง. นกทัว่ ๆ ไป 7. ในสภาวะปกติ เลอื ดของคนเราจะมคี า่ pH เท่าใด ก. 7.0 ข. 7.2 ค. 7.4 ง. 7.8 8. nephron ประกอบดว้ ย ก. Browman’s capsule และ glomerulus ข. Browman’s capsule, glomerulus และ renal tubule ค. Browman’s capsule, glomerulus และ proximal tubule ง. Browman’s capsul , glomerulus, proximal tubule และ loop of Henley 167

ใบกิจกรรม เรื่อง กลไกการรกั ษาสมดุลยภาพของส่ิงมีชีวิต 1. การแพร่ หมายถงึ ......................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 2. การออสโมซสิ คอื ........................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................................... 3. Hypertonic solution คอื ............................................................................................................................................... 4. Hypotonic solution คือ ................................................................................................................................................ 5. สมดุลการแพร่ หมายถงึ ............................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 6. ปจั จยั ทีม่ ีผลต่อการแพร่ ได้แก่ ...................................................................................................................................... 7. ศนู ยก์ ลางการควบคมุ ระบบรักษาสมดลุ ยภาพของร่างกายอยทู่ ส่ี มองสว่ นท่ีเรียกว่า .................................................... 8. จงเขียนแผนภาพกลไกการรกั ษาสมดลุ ของอณุ หภูมิในร่างกาย 168

ตวั อยา่ งแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ ์ิ เร่อื ง ภมู คิ ุ้มกนั ของร่างกาย 1. การทำลายสงิ่ แปลกปลอมของ lymphocyte ใช้วิธีใด ก. กนิ แบบ phagocytosis ข. สร้างเอนไซม์ออกมายอ่ ยสง่ิ แปลกปลอม ค. สรา้ ง antibody ซง่ึ เป็นภมู คิ ุ้มกัน ง. ข้อ ก และ ข ถูกตอ้ ง 2. หนว่ ยยอ่ ยที่สดุ ทมี่ คี วามสัมพันธก์ บั ธาตเุ หลก็ คือขอ้ ใด ก. เมล็ดเลอื ดแดง ข. ฮโี มโกลบนิ ค. ฮีม ง. เกล็ดเลือด 3. ในกรณที ่ผี ปู้ ่วยมีหมู่เลือด A ผ้ปู ว่ ยควรได้รับเลือดหมูใ่ ด ก. หมู่ AB ข. หมู่ O ค. หมู่ A ง. หมู่ B 4. Universal donor คอื เลือดหมใู่ ด ก. หมู่ AB ข. หมู่ A ค. หมู่ B ง. หมู่ O 5. antigen หมายถงึ สิ่งใดบ้าง ก. แบคทีเรีย ข. สารเคม ี ค. เมด็ เลอื ดขาว ง. ขอ้ ก และ ข ถกู ตอ้ ง 6. ในขณะท่เี กดิ อาการแพ้จะมสี ารใดหล่ังออกมา ก. อนิ ซลู นิ ข. เมลานนิ ค. ฮิสทามนี ง. เมลาโทนนิ 7. หากถูกงพู ิษกัดจะต้องได้รับส่งิ ใดจึงจะชว่ ยได้ ก. ทอกซอยดแ์ กพ้ ิษง ู ข. วัคซีนป้องกันพษิ ง ู ค. เซรุ่มแกพ้ ิษงู ง. เมด็ เลือดขาว 8. สงิ่ ใดช่วยใหเ้ ลอื ดแขง็ ตวั เมอ่ื เกดิ บาดแผล ก. antibody ข. เม็ดเลือดขาว ค. เกล็ดเลือด ง. เมด็ เลอื ดแดง 169

ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง ภูมิคุ้มกันของรา่ งกาย 1. ระบบภมู ิคุ้มกันมีความสำคญั อยา่ งไร ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 2. จงบอกส่วนประกอบของนำ้ เลอื ด ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 3. serum หมายถึง ............................................................................................................................................................. 4. จงเขียนแผนภาพการให้เลอื ด 5. Universal donor คอื หมเู่ ลอื ด ...................................... และ Universal receptor คอื หมู่เลือด ....................................... ...................................................................................................................................................................................... 6. สารทีท่ ำให้เกดิ การแพ้ คอื ............................................................................................................................................ 7. จงอธิบายการสรา้ งเกลด็ เลือดเมอื่ เกิดบาดแผล ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 170

ตวั อยา่ งแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ ์ิ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม 1. สิง่ แปลกปลอมท่เี ขา้ สรู่ า่ งกาย เรียกวา่ ก. แอนตบิ อดี ข. แอนติเจน ค. อิมมูโนโกลบลู ิน ง. ไฟบริโนเจน 2. ขอ้ ใดคืออวยั วะทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ระบบภูมิคมุ้ กัน ก. ตับ ข. ตอ่ มนำ้ เหลอื ง ค. ท่อมไทรอยด์ ง. กระเพาะอาหาร 3. เม็ดเลือดขาวชนดิ โมโนไซดก์ ำจัดเชือ้ โรคโดยวิธี ก. ฟาโกไซโทซสิ ข. ปลอ่ ยสารเคมี ค. สรา้ งแอนตบิ อดี ง. ข้อ ก. และ ข. ถูกต้อง 4. สารทีเ่ มด็ เลอื ดขาวชนดิ ใดท่สี ามารถหลง่ั สารที่ทำให้เกิดการแพ้ได ้ ก. Neutrophil ข. Eosinophil ค. lymphocyte ง. Basophil 5. หมู่เลือดสากลมกี ห่ี ม่ ู ก. 2 หม่ ู ข. 3 หมู่ ค. 4 หมู่ ง. 5 หมู่ 6. หมู่เลือดท่ีสามารถรับหมเู่ ลอื ดอน่ื ได้ทุกหมคู่ อื ก. A ข. B ค. AB ง. O 7. หากถูกงพู ษิ กัดจะต้องรับวัคซนี ชนิดใด ก. Active immunity ข. Passive immunity ค. Innate immunity ง. Interferon 8. ภมู ิคุม้ กันท่ไี ด้รบั จากมารดาโดยผา่ นทางสายรก จดั เป็นภูมิคุ้มกนั แบบใด ก. Active immunity ข. Passive immunity ค. Innate immunity ง. Antibody 9. ขอ้ ใดไม่จัดเป็นโรคภมู ิแพ้ ก. โรคโพรงจมกู อกั เสบ ข. โรคหอบหดื ค. โรคงูสวัด ง. โรคภูมแิ พผ้ วิ หนงั 10. โรคเอดส์ เกดิ จาก ก. Virus HIV ข. Virus H5N1 ค. Bacteria ง. Fungi 171

ใบกิจกรรม เร่ือง ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชวี ภาพ 1. ระบบนิเวศ หมายถึง..................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 2. ระบบนเิ วศท่ใี หญท่ ส่ี ดุ คือ............................................................................................................................................. 3. องค์ประกอบของระบบนเิ วศทีม่ ชี วี ติ คือ...................................................................................................................... ได้แก.่ ............................................................................................................................................................................ 4. จงอธิบายเหตุผลทบ่ี อกวา่ พชื หรือสิง่ มชี วี ติ ทีม่ สี เี ขียวเปน็ ผู้ผลติ ในระบบนเิ วศ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 5. scavenger หมายถงึ ....................................................................................................................................................... 6. ข้าว ----> ตก๊ั แตน ----> กบ -----> ง ู จากโซอ่ าหารที่กำหนดให้ จงตอบคำถาม ผู้บรโิ ภคอันดบั ที่ 1 คือ ....................................................................... ผบู้ ริโภคอนั ดบั สดุ ทา้ ย คือ ....................................................................... 7. จงบอกลักษณะของความสมั พันธ์ของสิง่ มีชีวิตที่กำหนดให้ 7.1 นกกนิ แมลง ............................................................................. 7.2 กระต่ายกบั เตา่ ............................................................................. 7.3 ดอกไมก้ ับแมลง ............................................................................. 7.4 ฉลามกบั เหาฉลาม ............................................................................. 7.5 ไลเคน ............................................................................. 172

ตวั อยา่ งแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ ์ิ เรื่อง ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชวี ภาพ 1. Ecology หมายถึง ก. การศึกษาสภาพธรรมชาตขิ องสง่ิ มชี วี ิต ข. การศกึ ษาความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิง่ มชี ีวติ กับส่ิงแวดลอ้ มในทุกๆ ดา้ น ค. การศึกษาทางด้านการปรับตวั ในด้านต่างๆ ของสงิ่ มีชีวติ ง. การศึกษาลักษณะใดลักษณะหนึง่ ของสิง่ มีชีวติ 2. ปจั จยั ทางกายภาพไดแ้ กข่ อ้ ใด ก. อุณหภมู ิ ข. แสงสว่าง ค. ดิน ง. ถูกทุกขอ้ 3. สิ่งมชี ีวติ ในระบบนเิ วศแบง่ ออกได้เปน็ 3 ประเภท ได้แก ่ ก. พืช สัตว์ แมลง ข. ผ้ผู ลติ ผู้บริโภค ผยู้ อ่ ยสลาย ค. ผ้บู ริโภค และผูย้ อ่ ยสลาย ง. ผู้บริโภคอนั ดบั 1 ผู้บริโภคอันดบั 2 และผบู้ ริโภคอันดบั 3 4. ผู้ผลติ ตอ้ งมคี ุณสมบัตทิ แี่ ตกตา่ งจากผอู้ ่ืน คือ ก. ต้องหาเลยี้ งตวั เองโดยการกินส่งิ มชี ีวิตอนื่ ข. สามารถสร้างอาหารเองได ้ ค. ทำให้ผู้บรโิ ภคสลายผพุ งั กลับไปเป็นสารอนิ ทรีย์ ง. สามารถเปล่ียนพลงั งานแสงอาทิตยเ์ ป็นพลังงานจลน์ 5. สิง่ มีชวี ิตที่ย่อยสลายอินทรยี ์สารได้แก่ส่ิงมีชวี ติ ขอ้ ใด ก. ราและแบคทีเรยี ข. ทาก ค. หน ู ง. ตน้ ไม ้ 6. ภาวะ commensalisms มีสญั ลกั ษณต์ รงกับขอ้ ใด ก. + / - ข. - / - ค. 0 / + ง. + / + 7. การเกาะของกลว้ ยไม้กับตน้ ไมข้ นาดใหญ่ มลี ักษณะเชน่ เดยี วกบั ก. ไลเคน ข. ฉลามกบั เหาฉลาม ค. ปูเสฉวนกบั sea anemone ง. พยาธกิ ับคน 8. ในสระนำ้ แห่งหนึง่ เป็นสระแบบธรรมชาตมิ สี งิ่ มีชีวิตตา่ งๆ อยู่รวมกัน พชื น้ำทำหนา้ ทีส่ ำคัญที่สดุ คือข้อใด ก. ให้ออกซเิ จน ข. ใหค้ าร์บอนไดออกไซด์ ค. เปน็ อาหารของสัตว์นำ้ ง. หมุนเวยี นสาร 173

ใบกจิ กรรม เรื่อง ทรพั ยากรธรรมชาติ 1. สิง่ แวดลอ้ ม หมายถึง..................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 2. ทรัพยากรมีก่ีประเภท อะไรบา้ ง.................................................................................................................................... 3. แสงอาทิตย์ น้ำ อากาศ จดั เปน็ ทรัพยากรประเภทใด..................................................................................................... 4. มลพษิ หมายถึง............................................................................................................................................................. 5. ฝนกรด (acid rain) เกดิ จาก........................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 6. จงยกตวั อย่างสาเหตขุ องปัญหาสง่ิ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติมา 3 อย่าง ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 7. การอนุรกั ษ์ หมายถงึ ..................................................................................................................................................... 7.1 การใช้อย่างยง่ั ยืน หมายถงึ ............................................................................................................. 7.2 การเกบ็ กักทรัพยากร หมายถงึ ............................................................................................................. 7.3 การรกั ษา หมายถงึ ............................................................................................................. 7.4 การพัฒนา หมายถงึ ............................................................................................................. 7.5 การสงวน หมายถงึ ............................................................................................................. 174

ตัวอย่างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ เรือ่ ง ทรัพยากรธรรมชาติ 1. ทรพั ยากรธรรมชาตมิ กี ี่ประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 2. ปโิ ตรเลยี ม แร่ธาตุ ถา่ นหนิ จัดเป็นทรพั ยากรประเภทใด ก. ใชแ้ ล้วไม่หมดสนิ้ ข. ใชแ้ ลว้ หมดส้ิน ค. ใชแ้ ลว้ ทดแทนได้ ง. ทรัพยากรแบบหมุนเวียน 3. แสงอาทิตย์ ดนิ น้ำ อากาศ จดั เปน็ ทรพั ยากรประเภทใด ก. ใชแ้ ล้วไมห่ มดสิน้ ข. ใช้แลว้ หมดสน้ิ ค. ใชแ้ ล้วทดแทนได ้ ง. ทรัพยากรแบบหมนุ เวียน 4. ปญั หาส่งิ แวดล้อมทเ่ี กิดจากธรรมชาติเปน็ ผ้กู ระทำ คอื ก. เกดิ อากาศเป็นพิษ ข. เกดิ น้ำเน่าเสยี ค. การเกิดแผ่นดินไหว ง. การเกิดใหมข่ องประชากร 5. ขอ้ ใดไม่ใช่แนวทางการป้องกันแกป้ ัญหาสง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาต ิ ก. การป้องกัน ข. การฟื้นฟู ค. การอนรุ ักษ ์ ง. การนำกลับมาใชใ้ หม ่ 6. อุทยาน หมายถงึ ก. พน้ื ทข่ี องรัฐซึง่ เป็นพน้ื ที่ธรรมชาติ ชุมชน ประกอบไปดว้ ยปา่ ภเู ขาสลับซับซ้อน มกี ารอนรุ กั ษเ์ พือ่ ความสมดุล ตามธรรมชาติ เปน็ ทศ่ี กึ ษาทางธรรมชาตวิ ิทยา ข. สถานทีใ่ นปา่ ทมี่ ีทิวทศั นส์ วยงาม เช่น มนี ้ำตก หนา้ ผา ธรรมชาติเหมาะสำหรบั การพกั ผ่อนหยอ่ นใจ ค. สถานที่ท่กี ำหนดใหเ้ ป็นพน้ื ทคี่ ุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ เพอื่ ให้เป็นท่ีอย่อู าศัยของสตั วป์ ่า ง. ไม่มีขอ้ ถูก 175


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook