หนังสือครูแบท พรบ.การศึกษา & พรบ.คอม

เตรยี มสอบครผู ชู้ ว่ ย ปี 2562 สไตล์ “ครแู บท ดอทคอม” หัวขอ้ : พระราชบัญญตั กิ ารศกึ ษา เลม่ 1 แถม = ควำมรู้ทัว่ ไปเกย่ี ว พรบ.คอมฯ ปี 60 จดั ทำโดย นำยกิตติทตั ม่วงอยู่ วฒุ ิ ป.ตรี หลกั สตู ร 5 ปี ครุศำสตร์บัญฑติ (คบ.) สำขำวิชำคอมพวิ เตอร์ศึกษำ “ จงเรยี นร้จู ากความผิดพลาด จงเฉลยี วฉลาดจากความผดิ หวงั จงเมตตากับความรู้สกึ ทเ่ี กลยี ดชัง การเป็นคนดที ไ่ี มโ่ ด่งดงั ยังดีกวา่ การเปน็ คนดงั ในทางไม่ดี ” - KittiBat

พระราชบัญญัตกิ ารศึกษา พรบ.กำรศกึ ษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 เกิดจำกรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจกั รไทย พ.ศ.2540 (ฉบับท่ี 16) ม.81 ฉบบั ที่ 1 ใหไ้ ว้ 14 ส.ค. 42 (แมแ่ บบพรบ.การศกึ ษา) ปี 42 ประกำศในรำชกิจจำนเุ บกษำ 19 ส.ค. 42 มีผลบงั คบั ใช้ 20 ส.ค. 42 ฉบับท่ี 2 ใหไ้ ว้ 12 ก.ค. 45 (แยกกระทรวง) ปี 45 ประกำศในรำชกิจจำนเุ บกษำ 19 ธ.ค. 45 ปี 53 มีผลบงั คบั ใช้ 20 ธ.ค. 45 ฉบบั ที่ 3 ใหไ้ ว้ 12 ก.ค. 53 (แยกเขตพื้นท่ี = สพป. , สพม. ) ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ 22 ก.ค. 53 มผี ลบงั คับใช้ 23 ก.ค. 53 ผู้รบั สนองพระบรมรำชโองกำร (นำยกรัฐมนตร)ี ฉบบั ที่ 1 : นำยกชวน หลกี ภยั ฉบับท่ี 2 : นำยกทกั ษณิ ชิณวตั ร ฉบับที่ 3 : นำยกอภิสทิ ธิ์ เวชชำชีวะ มีทั้งหมด 9 หมวด 78 มำตรำ 1 บทเฉพำะกำล หมวด 1 บทท่ัวไป (ควำมมุง่ หมำย และหลักกำร) หมวด 2 สทิ ธิและหน้ำท่ีทำงกำรศกึ ษำ มาตรา 22 ผ้เู รียนสาคญั ทสี่ ดุ หมวด 3 ระบบกำรศกึ ษำ หมวดน้จี ึงเป็นหวั ใจเลยกว็ า่ ได้ หมวด 4 แนวทำงกำรจดั กำรศกึ ษำ หมวด 5 กำรบริหำรและจดั กำรศึกษำ หมวด 6 มำตรฐำนและกำรประกนั คณุ ภำพกำรศกึ ษำ หมวด 7 ครู คณำจำรย์ และบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ หมวด 8 ทรัพยำกรและกำรลงทนุ เพ่ือกำรศึกษำ หมวด 9 เทคโนโลยีเพื่อกำรศกึ ษำ วิธีกำรจำ = บท + สิทธิ + ระ + แนว + หำร + ฐำน + จำรย์ + ทรัพ + เทค หนำ้ 1

ควำมหมำย กำรศึกษำ คอื กระบวนกำรเรยี นรเู้ พอื่ ควำมเจรญิ งอกงำมขอบุคคลและสงั คม กำรศกึ ษำข้ันพ้ืนฐำน = ก่อนระดบั อุดมศกึ ษำ ควรรู้ กอ่ นประถม (3-6 ป)ี พื้นฐำน : ไม่นอ้ ยกว่า12 ปี ประถม มอตน้ บังคบั : 9 ปี มัธยม มอปลำย สำมญั อำชวี ะ กำรศึกษำตลอดชวี ิต คือ ผสมระหว่ำงในระบบ นอกระบบ ตำมอัธยำศัย ใหส้ ำมำรถพัฒนำตลอดชีวิต มำตรฐำนกำรศกึ ษำ คือ ขอ้ กำหนดเก่ยี วกับคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และมำตรฐำน ท่ีต้องกำรเกดิ ขนึ้ กำรประกัน กำรประเมนิ และติดตำม ตรวจสอบ คุณภำพ คณุ ภำพภำยใน และมำตรฐำนกำรศกึ ษำ จำกภำยในโดย คือ บคุ ลำกรของสถำนศกึ ษำ (3 ปี ตอ่ 1 ครัง้ ) กำรประกันคุณภำพ กำรประเมินผลและตรวจสอบ โดยสำนักงำน ภำยนอก คอื รบั รองมำตรฐำนและประเมนิ คณุ ภำพกำรศกึ ษำ (สมศ.) (5 ปี ตอ่ 1 คร้งั ) ครู คือ ผสู้ อน บุคลำกรทำงกำรศึกษำ บุคลำกำรวชิ ำชีพ คือ ครแู ละคณำจำรย์ คอื ผู้บริหำรสถำนศกึ ษำ ทำหน้ำทดี่ ้ำนกำรสอนและ ผูบ้ รหิ ำรกำรศกึ ษำ(นอก คณำจำรย์ คือ สถำนศกึ ษำ) และผทู้ สี่ นบั สนนุ ส่งเสรมิ กำรเรียนรู้ บคุ คลำกรด้ำนกำรสอนและ กำรศกึ ษำ กำรวจิ ัยระดบั อุดมศกึ ษำ ระดับปริญญำ หนำ้ 2

หมวด 1 มำตรำ 6 – 9 บททัว่ ไป ควำมม่งุ หมำยและหลกั กำรจัดกำรศึกษำ มาตรา 6 คอื ควำมมุ่งหมำยทำงกำรศกึ ษำ เพ่ือพัฒนำคนไทยให้เปน็ มนุษยท์ ี่สมบรู ณ์ท้ังกำย จติ ใจ ควำมรู้ คุณธรรมจรยิ ธรรม อยรู่ ่วมกบั ผูอ้ ่นื ได้อยำ่ งมีควำมสุข (เกง่ ดี มีสขุ ) มาตรา 7 คือ กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ มุ่งปลูกฝงั จิตสำนกึ - ระบอบประชำธปิ ไตย - เคำรพกฏหมำย - ศักดิ์ศรคี วำมเป็นมนษุ ย์ - สิทธิหน้ำท่ี เสรีภำพ - ควำมเสมอภำค มาตรา 8 คอื หลักกำรจัดกำรศึกษำ วิธจี ำ = ตลอด ร่วม ต่อ 1.เป็นกำรศึกษำตลอดชวี ิตสำหรบั ประชำชน 2.ให้สงั คมมีส่วนรว่ มในกำรจัดกำรศกึ ษำ 3.กำรพัฒนำสำระและกระบวนกำรเรยี นรู้อยำ่ งตอ่ เนือ่ ง มาตรา 9 คือ กำรจัดระบบโครงสรำ้ งและกระบวนกำรจดั กำรศกึ ษำ ยึดหลกั ดงั ตอ่ ไปนี้ เอกภำพด้ำนนโยบำย หลำกหลำยในกำรปฏิบัติ  กระจำยอำนำจ  กำหนดมำตรฐำนและระบบประกนั คุณภำพ  สง่ เสรมิ วิชำชีพ พฒั นำบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ  ระดมทรพั ยำกรมำใช้  กำรมีสว่ นรว่ มของทุกส่วน หนำ้ 3

หมวด 2 มำตรำ 10 – 14 สิทธแิ ละหน้ำที่ทำงกำรศกึ ษำ มาตรา 10 คอื สิทธิทำงกำรศึกษำ เงินอดุ หนนุ รำยหัว กอ่ น 1,700  บุคคลมสี ทิ ธิและโอกำสเสมอกันในกำรรับ ถม 1,900 กำรศกึ ษำข้นั พื้นฐำนไม่นอ้ ยกว่ำ 12 ปี มอต้น 3,500 ถมเล็ก นอ้ ยกว่ำ 120 คน  รัฐจดั ทวั่ ถึงมคี ณุ ภำพ ฟรี มอปลาย 3,800 เพ่มิ 500 บำท/คน/ปี มอตน้ เลก็ นอ้ ยกว่ำ 300 คน  อดุ หนุนกำรศึกษำขน้ั พื้นฐำน 15 ปี เพ่มิ 1,000 บำท/คน/ปี สำหรับผู้ทม่ี คี วำมบกพร่อง ไมส่ ำมำรถพง่ึ พำตนเองได้ ไม่มีผดู้ แู ล หรือดอ้ ยโอกำส มสี ิทธแิ ละโอกำสไดร้ ับกำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำนเป็นพเิ ศษ สำหรบั คนพกิ ำร : ให้จัดตั้งแตเ่ กิด หรอื พบควำมพกิ ำร (มี 9 ประเภท) มาตรา 11 บิดำ มำรดำ ผปู้ กครอง มีหน้ำที่ จัดใหบ้ ตุ รได้รับ กำรศึกษำภำคบงั คับ ตลอดจนนอกเหนอื จำกภำคบังคับ ตำมควำมพรอ้ ม มาตรา 12 นอกจำกรัฐ และเอกชน สถำบันอนื่ ๆ มสี ทิ ธใิ นกำรจัดกำร ศกึ ษำข้ันพื้นฐำนเปน็ ไปตำมกำหนดในกฏกระทรวง คำส่งั คสช. (ม.44) เรื่อง ใหจ้ ดั กำรศกึ ษำข้นั พนื้ ฐำน 15 ปี โดยไมเ่ ก็บคำ่ ใชจ้ ่ำย 1.) ค่าจัดการเรียนการสอน 2.) คา่ หนังสือ 3.) คา่ อุปกรณ์การเรียน 4.) คา่ เคร่อื งแบบนกั เรียน 5.) ค่ากจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รียน เพมิ่ 6.) ค่าใช้จา่ ยอ่นื ตามทคี่ ณะรฐั มนตรีเหน็ ชอบ มาตรา 13 บิดำ มำรดำ ผปู้ กครอง มสี ิทธิได้รับสทิ ธปิ ระโยชน์ ดังนี้ มาตรา 14  กำรสนบั สนนุ จำกรัฐให้มีควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรเลย้ี งดู  เงนิ อดุ หนนุ จำกรัฐ  กำรลดหย่อนหรือยกเวน้ ภำษี บุคคล ครอบครวั องคก์ ร สถำบนั ซึง่ สนบั สนนุ หรือจดั กำรศึกษำ มสี ทิ ธิได้รับสิทธปิ ระโยชน์ เหมอื น มำตรำท่ี 13 หน้ำ4

หมวด 3 มำตรำ 15 – 21 ระบบกำรศึกษำ มาตรา 15 คือ รปู แบบกำรจดั กำรศกึ ษำ  ในระบบ Formal เงือ่ นไขกำรจบแน่นอน (ขน้ั พน้ื ฐำน)  นอกระบบ Non-Formal ยดื หยุ่น (กศน.)  ตำมอธั ยำศัย InFormal เรยี นรู้ด้วยตนเอง จำกบคุ คล ประสบกำรณ์ สนใจ (Homeschool) มาตรา 16 กำรศกึ ษำ มี 2 ระดบั ขนั้ พืน้ ฐำน อุดมศึกษำ มี 2 แบบ คือ ไม่นอ้ ยกว่า 12 ปกี ่อนอดุ มศึกษา ต่ากว่า ปริญญาตรี (อนปุ รญิ ญา) คือ 3 ส่วน ระดบั ปริญญา (ตรี โท เอก) - กอ่ นประถม ประถม มธั ยม - มัธยม คือ มอต้น มอปลาย หรือสายสามัญ และ อาชวี ะ บทกำหนดโทษ พรบ. ภำคบังคบั 2545 มาตรา 17 ผ้ปู กครองไม่สง่ เด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา ไม่อำนวยควำมสะดวกแกพ่ นักงานเจ้าหนา้ ที่ ให้มีกำรศกึ ษำภำคบงั คบั จำนวน 9 ปี กระทาการใดอนั เป็นเหตุให้เด็กมิได้เรยี น ยำ่ งเข้ำปที ี่ 7 - ยำ่ งเข้ำปที ี่ 16 แจง้ ขอ้ มลู เป็นเทจ็ เข้ำเรยี นในสถำนศึกษำข้ันพนื้ ฐำน วธิ ีกำรจำ เว้นแต่ สอบไดช้ ัน้ ปีท่ี 9 (ป1 - ม.3) ไม่สง่ + ไม่สะดวก ปรับไม่เกิน 1,000 ฿ เป็นเหตุ + เปน็ เทจ็ ปรับไมเ่ กิน 10,000 ฿ ของกำรศกึ ษำภำคบงั คับ  กำรนบั อำยเุ ดก็ เข้ำเรียน คือ ตำมปฏิทิน  เดก็ ทจี่ ะเข้ำเรียน ภำคบงั คบั ในปกี ำรศึกษำ 2562 วธิ คี ิด = 2562 – 7 = 2555 หน้ำ5

หมวด 4 มำตรำ 22 – 30 แนวกำรจดั กำรศกึ ษำ มาตรา 22 กำรจดั กำรศึกษำต้องยดึ หลักวำ่ • ผเู้ รียนทุกคนมคี วำมสำมำรถเรยี นรูแ้ ละพัฒนำตนเองได้ และถอื วำ่ ผเู้ รยี นมีควำมสำคญั ท่สี ุด • กระบวนกำรจดั กำรศกึ ษำตอ้ งสง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถพฒั นำ ตำมธรรมชำติและเติมตำมศักยภำพ K P Aมาตรา 23 กำรจัดกำรศึกษำทง้ั 3 แบบ ( ใน นอก อัธ ) ต้องเนน้ และบรู ณำกำรตำมควำมเหมำะสม มาตรา 24 กำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ ให้สถำนศึกษำดำเนินกำร  จัดเนื้อหำสำระและกจิ กรรม สอดคลอ้ งควำมสนใจ โดยคำนงึ ถึง ควำม แตกต่ำงระหวำ่ งบุคคล  ฝึกทกั ษะ กระบวนกำรคิด กำรจัดกำร ประยกุ ต์ ใชป้ ้องกันและแกป้ ัญหำ  ใหไ้ ด้เรยี นรู้จำกประสบกำรณ์จริง ฝึกกำรปฏิบัติ คิดเป็นทำเปน็  ผสมผสำนสำระควำมรู้ตำ่ งๆ  จัดบรรยำกำศ สภำพแวดล้อม << (วจิ ัยเปน็ สว่ นหนง่ึ ของกำรจัดกำรเรยี นรู้)  จดั กำรเรียนรู้ใหเ้ กดิ ขนึ้ ได้ทกุ ทท่ี กุ เวลำ รัฐต้องส่งเสรมิ กำรดำเนนิ งำนและกำรจดั ตง้ั แหลง่ กำรเรียนรู้ ตลอดชีวิตทุกรูปแบบ มาตรา 27 คณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำน กำหนดหลกั สตู รแกนกลำง เพอื่ ควำมเป็นไทย ควำมเป็นพลเมอื งดี กำรดำรงชีวิต ประกอบอำชพี ตลอดจนศกึ ษำต่อ โดยให้สถำนศกึ ษำขน้ั พ้ืนฐำนมหี นำ้ ที่ จัดทำสำระของหลักสูตรตำมวัตถปุ ระสงค์ ในส่วนท่เี กีย่ วกบั สภำพปญั หำในชุมชนและสงั คม ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถ่ิน มาตรา 30 ใหส้ ถำนศกึ ษำพัฒนำกระบวนกำรเรยี นกำรสอนทม่ี ปี ระสิทธิภำพ รวมทงั้ ส่งเสริมใหผ้ ู้สอนสำมำรถวจิ ัยเพอ่ื พฒั นำกำรเรียนรู้ ทเ่ี หมำะสมกับผ้เู รยี น หน้ำ6

หมวด 5 มำตรำ 31 – 46 กำรบรหิ ำรและกำรจดั กำรศกึ ษำ มาตรา 31 ศธ. มีอานาจหนา้ ที่ ส่งเสรมิ กากับดูแลการศกึ ษาทุกระดับทุกประเภท มาตรา 32 การจัดระเบยี บบริหารราชการในกระทรวงใหม้ อี งค์กรหลกั ทเ่ี ปน็ บคุ คลในรปู สภา/คณะกรรมการ จำนวน 4 องค์กร สภำกำรศกึ ษำ คณะกรรมกำร คณะกรรมกำร คณะกรรมกำร กำรอำชวี ศึกษำ กำรอดุ มศกึ ษำ (รัฐมตรี ศธ.เป็นประธำน) กำรศกึ ษำขัน้ พืน้ ฐำน มจี านวน 41 คน ไม่เกิน 27 คน ไม่เกิน 32 คน ไมเ่ กนิ 28 คน “ 4 องคก์ รหลกั เป็น นติ ิบคุ คล” >> สภา 41 + พื้นฐาน27 + อาชีวะ32 + อุดม28 / 6 สว่ น 5 กรม 4 องค์ณะ สภำกำรศึกษำ มหี น้ำที่ พิจารณาเสนอแผนการศกึ ษาแห่งชาติ มาตรฐานการศกึ ษา นโยบาย ตอ่ คณะรฐั มนตรี แผน + มำตรฐำน + นโยบำย ต่อ คณะรัฐมนตรี มาตรา 37 ผู้มีอำนำจประกำศในรำชกจิ จำนเุ บกษำ กำหนด 1. ระดับกำรศึกษำ เวน้ แต…่ จดั 2. จำนวนสถำนศึกษำ การศึกษาตาม เขตพน้ื ท่ี คือ รัฐมนตรวี ่ำกำร 3. จำนวนประชำกร กฏหมายว่าดว้ ย 4. วัฒนธรรม อาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษำธิกำร โดยคำแนะนำ ของสภำกำรศึกษำ กำหนดเขตพน้ื ที่ 5. ควำมเหมำะสมดำ้ นอื่น เขตพ้ืนทกี่ ำรศึกษำประถม 183 เขต เขตพ้นื ท่กี ำรศึกษำมธั ยม 78 เขต (เดิม42) กทม มี 2 เขต มาตรา 38 ตามคาส่งั คสช.ท่ี 10/2559 ให้ยุบ คณะกรรมการเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษา และให้โอนอำนำจให้กับ กศจ. หน้ำ7

มาตรา 39 ใหก้ ระจายอานาจการบรหิ ารและการจัดการศกึ ษา จำนวน 4 ด้ำน(ออกเป็นกฏกระทรวง) วชิ ำกำร , งบประมำณ , บรหิ ำรงำนบคุ คล , บรหิ ำรทัว่ ไป มาตรา 40 ให้มคี ณะกรรมกำร ขนำดเลก็ ไม่เกนิ 300 คน มีกรรมกำร 9 คน กำรศึกษำขั้นพนื้ ฐำน ขนำดใหญ่ เกิน 300 คนขึน้ ไป มกี รรมกำร 15 คน เลก็ 9 ใหญ่ 15 1.ประธำน = มำจำกกรรมกำรผู้ทรงคุณวฒุ ิ ผู้แทนครู ภำคี 4 ฝ่ำย 2.ผ้แู ทนผปู้ กครอง 1 คน ผแู้ ทนผู้ปกครอง 3.ผแู้ ทนครู 1 คน ผู้แทนชมุ ชน 4.ผแู้ ทนองคก์ รชุมชน 1 คน ผู้แทนนกั เรียน 5.ผแู้ ทน อปท. 1 คน 6.ผ้แู ทนศษิ ย์เกำ่ 1 คน 7.ผ้แู ทนศำสนำ 1 คน ถำ้ ขนำดใหญ่ 2 คน 8.ผู้ทรงคณุ วุฒิ 1 คน ถำ้ ขนำดใหญ่ 6 คน 9.กรรมกำร : ผ้อู ำนวยกำร ผอ.เขตแตง่ ตัง้ ผอ.รร.สรรหำ มำตรำ 41 มำตรำ 42 มำตรำ 43 มำตรำ 45 มำตรำ 46 กำรบรหิ ำรและจัดกำร กำรศึกษำเอกชน ให้ ศธ.กำรศกึ ษำ อปท. มีสทิ ธิจัดกำรศึกษำระดับ ใดระดบั หน่ึงหรอื ทั้งหมด ค.พรอ้ ม กำหนด กำกบั ตดิ ตำม จดั กำรศึกษำ รัฐสนบั สนนุ ดำ้ น ค.เหมาะสม หลักเกณฑ์ ประเมนิ คุณภำพ ได้ทุกระดบั เงนิ อุดหนนุ ค.ต้องการในท้องถน่ิ และวธิ ีกำร และมำตรฐำน ประเมนิ ควำม กำรศึกษำจำกรฐั และทกุ ลดหยอ่ น ยกเวน้ พรอ้ มในกำร ประเภท ภำษี ท่ีเปน็ จัดกำรศึกษำ ประโยชน์ หน้ำ8

หมวด 6 มำตรำ 47 – 51 มำตรฐำนและกำรประกันคณุ ภำพกำรศึกษำ มรี ะบบประกนั คณุ ภำพกำรศึกษำ... เพอ่ื พฒั นำคณุ ภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำทกุ ระดบั ระบบกำรประกันคณุ ภำพกำรศึกษำ (ภำยในและภำยนอก) ภำยในสถำนศึกษำ ใหถ้ ือว่ำ เป็นสว่ นหนึง่ ของกระบวนการบริหารการศกึ ษา ท่ีตอ้ งดาเนนิ การอยา่ งตอ่ เนื่อง โดยมกี ำร…จดั ทารายงานประจาปี เสนอตอ่ หนว่ ยงานตน้ สงั กดั หนว่ ยงานที่เกย่ี วข้องและเปิดเผย ตอ่ สาธารณชนทุกๆปี เพอ่ื นำไปสู่….การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษาและเพอื่ รองรับการ ประกันคุณภาพภายนอก #สถำนศึกษำประเมนิ ตนเองทกุ ปี กำรประเมนิ คุณภำพภำยใน SAR : Self Assessment Report = รำยงำนกำรประเมินตนเอง ตอ่ สำนักงำนเขตพืน้ ท่ี กำรปรกำะรเศมกึ ินษำคตณุ รวภจำสอพบภแลำะยทนบทอวกน คุณภำพสถำนศึกษำ อยำ่ งน้อย 1 ครง้ั ทกุ ๆ 3 ปี สำนักงำนรบั รองมำตรฐำนและประเมินคณุ ภำพกำรศึกษำ (สมศ.) มีฐำนะเป็น องคก์ ำรมหำชน ใหม้ กี ำรประเมินทุกระดับกำรศกึ ษำ อย่ำงน้อย 1 คร้งั ทกุ ๆ 5 ปี (สมศ.) ทำหน้ำที่ พัฒนำเกณฑ์ วิธกี ำรประเมินคุณภำพภำยนอก และทำกำรประเมินผล กำรศกึ ษำ เพือ่ ให้มกี ำรตรวจสอบคุณภำพของสถำนศกึ ษำ มาตรา 51 >> ในกรณีทผี่ ลกำรประเมนิ ภำยนอกของสถำนศกึ ษำไมไ่ ดม้ ำตรฐำนท่กี ำหนด ใหส้ ำนักงำนรับรองมำตรฐำนและประเมินคุณภำพกำรศึกษำจัดทำขอ้ เสนอแนะ >> ในกำรปรับปรุงแก้ไขตอ่ หน่วยงำนตน้ สังกัด มำตรฐำนกำรศึกษำของชำติ เพอื่ ใหส้ ถำนศกึ ษำปรับปรุงแกไ้ ข ภำยใน มี 3 มำตรฐำน 11 ตัวบง่ ชี้ ระยะเวลำที่กำหนด 1. คณุ ลักษณะของคนไทยท่ีพงึ ประสงค์ >> กำรประเมิน สมศ.รอบ สี่ 7 ด้ำน 20 ตัวบง่ ชี้ 2. แนวการจัดการศกึ ษา (2559 - 2563) 3. แนวการสร้ำงสงั คมแห่งการเรียนรู้ หนำ้ 9

หมวด 7 มำตรำ 52 – 57 ครู คณำจำรย์ และบคุ คลำกรทำงกำรศึกษำ มาตรา 53 ใหม้ ีองค์กรวชิ าชีพครู ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา และผู้บริหารการศึกษา (ทำให้เกิด พรบ.สภาครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546) (ประธาน ืคอ รมต.กระทรวง ศธ.) สภำครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ หรอื ครุ สุ ภำ กคศ กับ คปภ.ไมไ่ ด้เกดิ จำก ม.53  คคคคณณณณะะะะกกกกรรรรรรรรกมมมมกกกกพำำำำฐรรรร.สขขคมง่รุ้ำับเสุรีเสคำ1ภรชล7ำิมกอ่ื สมคำนวีรนป1ัสคฏ2ดรริแูกิ คูปลำนกระแำบตรลคุำศะมลึกสคำำษวกสัสำ่ังรขดทคอภิำสงงำชกกพ. รทำะ่ีรค1ทศ7รรกึแู/วษล2ง5ะำศ6บ0กึมุคษี กล1ำคำ4ธศกกิ.ครำนทรำใตงนำกมผภำคเู้ ูมขำรยีสภิศนัง่ ำกึใสคคษ่ไสวำมช้ ใ.ีหม9ท้จีสี่ ำ91ตก6พสำคคว/คแปนก2.หภจ5ำ.ต6นนำ0่งวมนค1คำ0สนั่งในคคอนสงชคท.์ก่ีทร1ี่9ค7ส//ช22.556508     คณะกรรมศกึ ษำธิกำรจงั หวดั หรือ กศจ. ไม่เกิน 15 คน (ประธานคือ ผู้วา่ ราชการจงั หวดั )  อนกุ รรมศึกษำธกิ ำรจังหวดั หรอื อกศจ. ไม่เกนิ 9 คน (ประธานคือ กรรมการใน กศจ.) กำรบรรจุแตง่ ต้งั ตำมมำตรำ 53 1. ทุกตาแหน่งทมี่ ีวิทยะฐานะ เช่ียวชาญพิเศษ (คศ.5) ใหเ้ ลขำธกิ ำร กพฐ. ส่ังบรรจุ อนุมัติ ก.ค.ศ. รมต.ศธ นาเสนอ นำยก นาความกราบทลู พระมหำกษตั ริย์ โปรดเกล้าแตง่ ต้ัง 2.ตาแหน่ง ผอ.เขตพืน้ ท่กี ารศึกษา / รอง ผอ.เขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา ใหเ้ ลขำธกิ ำร กพฐ. สั่งบรรจแุ ตง่ ต้ังโดยอนมุ ัติ ก.ค.ศ. 3. ตาแหน่ง ผอ.สถานศึกษา / รอง ผอ. / ศึกษานเิ ทศก์ / บคุ ลากรอ่ืนในเขต ม.38ค2) ใหศ้ ึกษำธิกำรจงั หวัด สัง่ บรรจแุ ละแตง่ ต้งั โดยเหน็ ชอบ กศจ. 4. ตาแหน่งครูผูช้ ่วย / ครู คศ.1 / ครูชานาญการ คศ.2 / ครชู านาญการพเิ ศษ คศ.3 / ครเู ชย่ี วชาญ คศ.4/ (0 – 4) ใหศ้ กึ ษำธกิ ำรจงั หวดั สง่ั บรรจุและแต่งต้งั โดยเห็นชอบ กศจ. มาตรา 54 ผู้รกั ษำกฏหมำย ช่ือตำแหน่ง ตำแหน่ง เงนิ เดือน คำ่ วิทยฐำนะ พรบ.สภำครูและบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ คร(ู ผู้ชว่ ย) แรกเริ่ม 15,050 – 24,750 - ใหม้ อี งค์กรกลางบรหิ ารงาน รมว.ศธ ครู คศ.1 15,440 – 34,310 - บคุ คลของขา้ ราชการครู ทา พรบ.ระเบียบข้ำรำชกำรและ ครชู ำนำญกำร คศ.2 16,190 – 41,620 3,500 ใหเ้ กดิ พรบ.ระเบยี บ บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ รมว.ศธ ข้าราชการครู และบคุ ลากร พรบ.เงนิ เดอื น เงินวทิ ยะฐำนะ และเงิน ครชู ำนำญกำรพิเศษ คศ.3 19,860 – 58,390 5,600 ทางการศึกษา ประจำตำแหน่งขำ้ รำชกำรครูและ ครูเชยี่ วชำญ คศ.4 24,400 – 69,040 9,900 บุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ >> ก.ค.ศ ครเู ช่ียวชำญพิเศษ คศ.5 29,980 – 76,800 13,000 – 15,600 นำยกรฐั มนตรี ตำม พรบ.ขำ้ รำชกำรครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 2547 หนำ้ 10

หมวด 8 มำตรำ 58 – 62 ทรัพยำกรและกำรลงทุนเพ่อื กำรศกึ ษำ ใหม้ ีกำรระดมทรพั ยำกรและกำรลงทนุ ดำ้ นงบประมำณ กำรเงนิ และทรพั ย์สนิ ทง้ั จากรฐั องคก์ ร ปกครองส่วนท้องถ่นิ บุคคล ครอบครวั ชุมชน องค์กรชมุ ชน เอกชนองคก์ รเอกชน องค์กรวชิ าชีพ สถาบัน ศาสนา สถานประกอบการสถาบนั สังคมอ่นื และตา่ งประเทศมาใช้จัดการศึกษา สถำนศกึ ษำของรัฐท่เี ป็นนติ บิ ุคคล มอี านาจในการปกครอง ดแู ล บารงุ รกั ษาใชแ้ ละจดั หา ผลประโยชนจ์ ำกทรัพยส์ ินสถำนศกึ ษำ ทง้ั ท่เี ปน็ ราชพสั ดุและท่ีเป็นทรพั ย์สนิ อน่ื รวมทง้ั หารายได้จากการบริการของสถานศึกษาทไ่ี มข่ ัดกบั ภารกิจหลัก อสังหาริมทรัพย์ทสี่ ถานศกึ ษาของรัฐไดม้ าทัง้ จาก ผู้อทุ ิศใหห้ รือซอื้ หรอื แลกเปลีย่ นจำกรำยไดข้ องสถำนศกึ ษำ ให้เป็นกรรมสทิ ธขิ์ องสถำนศึกษำ บรรดำรำยไดแ้ ละผลประโยชนต์ ำ่ งๆ ของสถำนศกึ ษำของรัฐดังกล่ำว ไม่ เปน็ รำยได้ท่ีต้องส่งกระทรวงกำรคลัง อตั รำอุดหนนุ คำ่ ใช้จำ่ ยตอ่ หวั ประเภทระบบในโรงเรยี น ตำมมติ ครม. เริม่ ปี 2550 – ปจั จบุ ัน (อตั รำอุดหนุนทว่ั ไป บำท / คน / ปี ) ก่อนประถม 1,700 สำหรับโรงเรียนขนำดเล็ก ประถม มอตน้ 1,900 • ประถม นอ้ ยกวา่ 120 คน เพ่ิม 500 บาท 3,500 • มัธยม น้อยกวา่ 300 คน เพิ่ม 1,000 บาท มอปลำย 3,800 วธิ จี ำ = ก่อน 17 + ถม 19 + ตน้ 35 + ปลำย 38 ถมนอ้ ย เพิม่ 500 ยมน้อย เพมิ่ 1000 คณะรฐั มนตรี (ครม.) มีมติใหอ้ ดุ หนนุ อำหำรกลำงวันเป็น 20 ฿ / คน / วัน >> ให้กบั นร. ตั้งแต่ อนุบำล – ป.6 หนำ้ 11

หมวด 9 มำตรำ 63 – 69 เทคโนโลยเี พอ่ื กำรศกึ ษำ รฐั จัดสรรคลน่ื ควำมถี่ รฐั สง่ เสริมสนับสนุนให้มกี ำร ใหม้ ีกำรพัฒนำบคุ ลำกร ให้มีกำรระดมทุนเพือ่ จัดต้งั วิจัยและพัฒนำ ทงั้ ด้ำนผูผ้ ลิตและใช้ กองทุนพัฒนำเทคโนโลยีเพื่อ เทคโนโลยีเพอ่ื กำรศึกษำ กำรศกึ ษำจำกเงินอุดหนนุ การสอ่ื สารทกุ รปู แบบ ผลิตสื่อ นวตั กรรม วัสดอุ ุปกรณ์ ของรัฐ คำ่ สมั ปทำนและผล ท่ีเป็นประโยชน์ต่อ และเทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษา เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นพัฒนาขดี กำไรทีไ่ ดจ้ ำกกำรดำเนิน การศึกษา จัดใหม้ ีเงินสนบั สนุนและเปดิ ความสามารถในการใช้ กจิ กำรด้ำนสอ่ื สำรมวลชน การทานบุ ารงุ ศาสนา โอกาสใหม้ ีการแข่งขนั อย่างเสรี เทคโนโลยี นาไปสกู่ าร ศฺลปะวัฒนธรรมตาม อยา่ งเป็นธรรม รวมทง้ั การ แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ใหม้ กี ารลดอตั ราคา่ บริการเปน็ ความจาเปน็ ตดิ ตาม ตรวจสอบ และ อย่างตอ่ เน่ืองตลอดชวี ติ พเิ ศษในการใชเ้ ทคโนโลยีใน ประเมินผลการใชเ้ ทคโนโลยี หน่วยงานท่ีเกย่ี วข้องกบั การ จดั การศึกษา สอบเมอื่ ไหรไ่ ม่รู้ รู้ก่อนได้เปรยี บ หนำ้ 12

บทเฉพำะกำล มำตรำ 70 - 78 บทเฉพาะกาล - เปน็ บททส่ี ร้างสะพานเชอื่ มโยงจากระบบเก่าไปส่รู ะบบใหม่ ฉะนัน้ ขณะทรี่ ะบบ ใหม่ยังไมเ่ กิดข้ึน ก็ต้องใชร้ ะบบเก่าไปก่อน บทเฉพาะกาล จึงกาหนดให้บทกฎหมาย กฎ ขอ้ บงั คบั ระเบียบ ประกาศและคาส่ัง ที่ใช้บังคบั อยู่ มำตรำ 70 บรรดากฏหมาย กฏ ระเบยี บ ข้อบังคับ ที่ใช้ บงั คับอยู่ ให้ใช้ตอ่ ไป แต่ไม่เกิน 5 ปี นับแตว่ ันท่ี พรบ. นี้ บังคับใช้ มำตรำ 71 กระทรวง ทบวง กรม หน่วยงำน ทำง กำรศึกษำ และสถำนที่ ทม่ี อี ยใู่ นวันที่ พรบ.บังคับใช้ ใหใ้ ช ตอ่ ไป แตไ่ ม่เกิน 3 ปี นับแตว่ นั ท่ี พรบ.นี้ บังคบั ใช้ มำตรำ 72 ห้ามมิให้ใช้ มาตรา 10 (การศึกษาพ้ืนฐานไม่นอ้ ยกวา่ 12 ป)ี มาบงั คับใช้ จนกวา่ จะมกี าร ดาเนนิ การใหเ้ ปน็ ไปตาม พรบ. แต่ตอ้ งไมเ่ กิน 5 ปี นบั แตว่ ันท่ีรัฐธรรมนญู บังคับใช้ ภำยใน 6 ปี นับแตว่ นั ที่ พรบ.นบี้ ังคับใช้ให้มกี ำรประเมินภำยนอกทกุ แห่ง (2548) มำตรำ 75 ใหจ้ ัดต้งั สำนักงำนปฏิรปู ทำงกำรศกึ ษำ เปน็ องคก์ รมหำชนเฉพำะกิจ มำตรำ 76 คณะกรรมกำรบริหำรสำนักงำนปฏิรปู กำรศึกษำ จานวน 9 คน มีวาระดารงตาแหนง่ วาระเดยี ว 3 ปี เมอื่ ครบแลว้ ยบุ ตาแหน่ง และสานักงาน หนำ้ 13

ควำมร้เู พมิ่ เตมิ เกี่ยว ICT ศกึ ษำเพ่ิมเตมิ เก่ียวคอมพวิ เตอร์ ได้ท่ี เพจ FB: ครูแบท ดอทคอม หน้ำ14

สรุปพรบ.คอมพวิ เตอร์ แฮกคอม (รู้รหัสผ่าน วธิ กี ารเขา้ ) (แอบคดั ลอก ส่งตอ่ ) (Keylogger สปายแวร์) หนำ้ 15

สว่ นใหญ่ ชอบทำผิดกันบอ่ ยๆและเป็นขำ่ วดัง คือ มาตรา 14 – 16 อ่ำนหนำ้ ตอ่ ไป หนำ้ 16

มำตรำ 13 จำหนำ่ ยหรอื เผยแพร่ชุดคำสัง่ เพอ่ื นำไปใชก้ ระทำควำมผิด  กรณีทำเพื่อเปน็ เครอื่ งมือในกำรกระทำควำมผดิ ทำงคอมพวิ เตอรต์ ำมมำตรำ 5-11 (หรือข้อ 1-3 ในบทควำมน้ี) ต้องจำคกุ ไม่เกนิ 1 ปี ปรบั ไม่เกิน 2 หม่ืนบำท หรือท้ังจำทง้ั ปรับ หำกมผี นู้ ำไปใช้ กระทำควำมผิด ผู้จำหนำ่ ยหรือผเู้ ผยแพร่ต้องรับผดิ ชอบร่วมด้วย  กรณีทำเพื่อเป็นเครอ่ื งมอื ในกำรกระทำควำมผิดทำงคอมพิวเตอร์ มำตรำ 12 ต้องจำคกุ ไมเ่ กนิ 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หม่ืนบำท หรอื ท้งั จำทง้ั ปรบั หำกมผี ้นู ำไปใช้กระทำควำมผิด ผจู้ ำหน่ำยหรอื ผู้ เผยแพร่ตอ้ งรบั ผดิ ชอบรว่ มดว้ ย มำตรำ 14 นำข้อมลู ท่ีผิดพ.ร.บ.เขำ้ สรู่ ะบบคอมพวิ เตอร์ •โพสตข์ ้อมลู ปลอม ทุจรติ หลอกลวง (อย่ำงเช่น ข่ำวปลอม หากเปน็ กำรกระทำทสี่ ง่ ผลถึงประชำชน ต้อง โฆษณำธุรกจิ ลกู โซท่ ่หี ลอกลวงเอำเงินลกู ค้ำ และไมม่ ีกำรส่ง ไดร้ บั โทษจำคุกไมเ่ กิน 5 ปี ปรบั ไม่เกิน 1 มอบของใหจ้ รงิ ๆ เปน็ ต้น) แสนบำท หรือทงั้ จาท้งั ปรบั และหากเปน็ •โพสต์ขอ้ มลู ควำมผดิ เกีย่ วกับควำมมงั่ คงปลอดภัย กรณที ีเ่ ป็นกำรกระทำทีส่ ง่ ผลตอ่ บุคลใด •โพสต์ข้อมูลควำมผดิ เก่ียวกับควำมมนั่ คง กอ่ กำรรำ้ ย บุคคลหน่ึง ตอ้ งไดร้ ับโทษจำคกุ ไมเ่ กนิ 3 ปี •โพสตข์ อ้ มลู ลำมก ทป่ี ระชำชนเข้ำถงึ ได้ ปรับไมเ่ กิน 6 แสนบำท หรือทง้ั จาทั้งปรับ •เผยแพร่ สง่ ต่อขอ้ มลู ท่รี ู้แล้ววำ่ ผิด (อยำ่ งเช่น กด Share (แต่ในกรณีอยา่ งหลงั นสี้ ามารถยอมความกนั ขอ้ มลู ทมี่ เี น้ือหำเข้ำข่ำยควำมผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอรก์ ม็ ี ได)้ ควำมผดิ ) มำตรำ 16 มำตรำ 15 ตดั ต่อ เติม หรือดดั แปลงภำพ รเู้ หน็ เป็นใจให้กระทำผดิ ตดั ตอ่ ภำพใหผ้ อู้ นื่ อับอำย เชน่ เพจตำ่ งๆ ท่เี ปดิ ใหม้ กี ำรแสดงควำมคิดเหน็ แล้ว หรือถงึ ข้ันเสยี ชีวติ มคี วำมคดิ เห็นที่มเี น้ือหำผดิ กฎหมำยก็มีควำมผิด แต่ ถ้ำหำกแอดมินเพจตรวจสอบแลว้ พบเจอ และลบ โทษเหมอื นมำตรำ14ออก จะถอื ว่ำเป็นผู้ทพี่ ้นควำมผดิ ขอบคุณบทความดๆี จากคณุ Nuch หนำ้ 17 https://contentshifu.com/computer-law/

ควำมรู้เบ้อื งตน้ เกยี่ ว ICT Information Communication and Technology เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรส่อื สำร คือ การนาเอาเทคโนโลยีท่ีทนั สมยั และเหมาะสม เข้ามาใชร้ ว่ มกัน บดิ ำของคอมพวิ เตอร์ คือ ชาล์ล แบบเบจ โปรแกรมเมอรค์ นแรกของโลก คือ เอดา ออกสุ ตา คอมพวิ เตอรม์ ำจำกภำษำละติน ( Computare ) = การคานวณ คอมพวิ เตอร์ (พจนำนุกรม) = เครอ่ื งอิเล็กทรอนกิ สแ์ บบอตั โนมตั ิ ทาหน้าทเ่ี หมือน สมองกลใช้สาหรับแกป้ ัญหาต่างๆ ที่งา่ ยและซับซอ้ น โดยวธิ ที างคณิต หัวใจของคอมพวิ เตอร์ คือ หนว่ ยประมวลผลกลาง CPU CPU (Central Processing Unit) Rom คอื หนว่ ยความจาซ่ึงบรรจุได้ด้วยคาส่ังต่างๆ ไฟดับขอ้ มูลไม่หาย Ram คือ หนว่ ยความจาหลกั ในคอมฯ Homepage คอื หนา้ แรก เมือ่ เปดิ เวบ็ นนั้ ๆ Webpage คอื ชือ่ โดเมน เพ่อื ให้ผ้ชู มเลอื กดูได้ถูกต้อง Distance Learning Television (DLTV) = วิทยุโทรทศั นก์ ารศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทียม (กอ่ ตั้ง 5/12/38) = ในโอกาส ร.9 ครองราชครบ 50 ปี = เรยี นทางไกลผ่านดาวเทยี มจาก รร.วังไกลกงั วล อ.หัวหิน ประจวบฯ =http://www.dif.ac.th หนำ้ 18

ระบบสำรสนเทศ ระดบั วางแผนกลยทุ ธ์ ผู้บริหาร DSS,EIS,ES ระดบั สูง ระดบั บรกิ ารจดั การ ผบู้ ริหาร MIS,DSS ระดบั กลาง ระดบั ควบคมุ การ ผู้บรหิ ารระดบั ปฏิบัตกิ าร TPS ปฏิบตั งิ าน ระดับปฏบิ ัตงิ าน ผู้ปฏิบตั งิ าน TPS • ระบบสำรสนเทศเพอื่ กำรบรกิ ำร >> (Management Information System) = MIS • ระบบสนับสนนุ กำรตัดสินใจ >> (Decision Support Ststem) = DSS • ระบบสำรสนเทศเพ่อื ผบู้ รหิ ำรระดบั สงู >> (Executive Information System) = EIS • ระบบผเู้ ชย่ี วชำญ >> (Expert Systems) = ES หน้ำ19

ศูนย์ปฏิบตั ิกำร PMOC ศูนยป์ ฏิบตั ิสำนักนำยกรฐั มนตรี MOC ศูนยป์ ฏบิ ตั กิ ระทรวงตำ่ งๆ POC ศนู ย์ปฏิบัตกิ ารระดบั จงั หวดั DOC ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารกรมต่ำงๆ NOC ศนู ย์ปฏบิ ตั กิ ารแหง่ ชำติ AOC ศนู ยป์ ฏิบัติ สพท. SOC ศูนยป์ ฏิบตั โิ รงเรียน ควำมรทู้ ่วั ไปเรอ่ื ง ICT E – Training กำรฝึกอบรมผำ่ นระบบอเิ ล็กฯ E – Learning กำรจัดกำรเรียนกำรสอนผ่ำนระบบอเิ ล็กฯ E – Me กำรตดิ ตำมและประเมินผลทำงระบบอิเลก็ ฯ E – Filing ระบบงำนสำรบรรณอิเล็กฯ E – Office ระบบสำนกั งำนอัตโนมัติ E – Library ระบบหอ้ งสมดุ อิเลก็ ฯ หน้ำ20

Web site ต่ำงๆ www.______.go.th Moe = กระทรวง ศธ. Ops.moe = สำนกั งำนปลดั กระทรวง ศธ. Onec = สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำกำรศกึ ษำ Obec = สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พื้นฐำน Vec = สำนักงำนกำรอำชวี ะศกึ ษำ Mua = สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอดุ มศึกษำ Otepe = กคศ.คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ www.______.or.th ksp = ครุ ุสภำ Niets = สกศ. / สถำบนั ทดสอบทำงกำรศึกษำแห่งชำติ Onesqa = สมศ. / สำนกั งำนรบั รองมำตรฐำนและประเมนิ คุณภำพกำรศึกษำ www.otepbangkok.com = สกสค. / สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรสง่ เสรมิ สวัสดกิ ำร และสวัสดภิ ำพครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ www.ipst.ac.th = สสวท. / สถำบันส่งเสริมกำรสอนวทิ ยำศำสตร์ และเทคโนโลยี หนำ้ 21

อย่าให้ใครมากาหนด ชะตาชีวติ ของเรา แตจ่ งกาหนดเสน้ ทาง เดินของตวั เอง จงมเี ป้าหมายเปน็ ของ ตัวเอง และทามนั ใหส้ าเร็จ - KittiBat -