๕๑ แบบทดสอบ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นวงกลมคาตอบท่ถี ูกตอ้ ง ๑. ข้อใดไมใ่ ช่ภาษาถนิ่ อีสาน ก. แซบ ข. บักสดี า ค. อู้ ง. เว้า ๒. ข้อใดไมใ่ ช่ภาษาถ่ินใต้ ก. ทาไหร ข. หรอย ค. แหลง ง. เฮา ๓. ขอ้ ใดไมใ่ ชภ่ าษาถน่ิ เหนอื ก. เฮด็ ข. เจ้า ค. ปิก๊ บา้ น ง. ลา ๔. บกั หุง่ เป็นภาษาถิ่นใด ก. ถนิ่ กลาง ข. ถน่ิ เหนือ ค. ถ่ินอีสาน ง. ถ่นิ ใต้ ๕. ยานดั เป็นภาษาถิน่ ใด ก. ถน่ิ กลาง ข. ถิ่นเหนือ ค. ถิน่ อีสาน ง. ถิ่นใต้ ๖. ปกิ๊ เปน็ ภาษาถน่ิ ใด ก. ถน่ิ กลาง ข. ถ่ินเหนอื ค. ถนิ่ อสี าน ง. ถ่นิ ใต้ ๗. คาว่า บกั หงุ่ มีความหมายตรงกบั ภาษาไทยมาตรฐานใยข้อใด ก. นอ้ ยหน่า ข. มะละกอ ค. ฝรง่ั ง. สม้ ๘. ประโยคใดเป็นภาษาถน่ิ เหนอื ก. ฉานอยเู่ ชยี งใหม่ ข. เราอยู่เชยี งใหม่จา้ ค. เฮาอยเู่ จยี งใหมเ่ จ้า ง. ข้อยอยูเ่ ชยี งใหมเ่ ดอ้ ๙. การเลือกดูสิง่ บนั เทิงจากส่อื มวลชนควรปฏิบัติอย่างไร ก. ดูเฉพาะการต์ นู ทีช่ อบ ข. ดใู ห้หลากหลายรายการ ค. ดูทุกวนั วันละหลายรายการ ง. ดูพร้อมกบั เพอื่ นหลายๆคน ๑๐. ใครมมี ารยาทในการฟังและดู ก. นุ๊กชมภาพยนตรอ์ ยา่ งต้ังใจ ข. ปายหลบั ขณะชมภาพยนตร์ ค. แก๊ปอ่านการ์ตูนขณะดูโขน ง. ออ๊ ฟนาสนขุ ไปชมการแสดง ชื่อ-สกุล........................................................................เลขที่........................
๕๒
๕๓ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓
๕๔ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชนั้ ประศกึ ษาปที ่ี ๕ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๑ เร่อื ง ชนดิ ของคาจาไว้หนู ๆ เวลา ๕ ช่ัวโมง ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ ตัวชวี้ ัด ท ๔.๑ ป.๕/๑ ระบชุ นดิ และหนา้ ทขี่ องคาในประโยค ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นอธบิ ายชนดิ และหนา้ ทข่ี องคาในประโยคไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง (K) ๒. นกั เรยี นระบชุ นดิ และหน้าทข่ี องคาในประโยคไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง (P) ๓. นกั เรยี นเหน็ ถงึ ประโยชน์ของชนดิ และหนา้ ทข่ี องคาในประโยค (A) ๓. สาระสาคญั ศกึ ษาความหมาย หนา้ ทแี่ ละการใชค้ าชนิดตา่ ง ๆ เช่น คานาม คาสรรพนาม คาบพุ บท คาสนั ธานและ คาอทุ าน โดยสงั เกตชนิดของคาจากประโยคเพ่ือระบชุ นดิ ของคา อีกทงั้ ยงั ให้นกั เรียนเหน็ ถงึ ประโยชน์ของและ หนา้ ทีข่ องคา ๔. สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายและหน้าที่ของคานาม ๒. ความหมายและหนา้ ทข่ี องคาสรรพนาม ๓. ความหมายและหนา้ ที่ของคาบุพบท ๔. ความหมายและหน้าที่ของคาสนั ธาน ๕. ความหายและหน้าท่ขี องคาอุทาน ๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ( เฉพาะทเี่ กิดข้นึ ในหนว่ ยการเรยี นรนู้ )ี้ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ไขปญั หา ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๕๕ ๖. ทกั ษะของผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8c + 2L) (จุดเนน้ สู่การพฒั นาคุณภาพผู้เรียน) ทกั ษะการอา่ น (Reading) ทักษะการเขียน (Writing) ทกั ษะการคิดคานวณ (Arithmetic) ทกั ษะการคิดการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณและสามารถแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเป็นทมี และภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านการส่อื สารสารสนเทศ และรู้เทา่ ทันสอ่ื (Communications, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and Learning Skills) ทักษะการเปลี่ยนแปลง (Change) ทกั ษะการเรยี นรู้ (Learning) ภาวะผูน้ า (Leadership) ๗. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน / รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ ๑. ใบงานที่ ๑ เร่ือง คานาม ๒. ใบงานท่ี ๒ เรอื่ ง คาสรรนาม ๓. ใบงานที่ ๓ เรอ่ื ง คาบุพบท ๔. ใบงานท่ี ๔ เรื่อง คาสันธานและคาอทุ าน ๕. แบบทดสอบประจาหน่วย ๘. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ รูปแบบการจัดการเรยี นการสอน : กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้ันตอน (The 5 E’s of Inquiry- Based Learning) หนว่ ยย่อยที่ ๑ เรอื่ ง คานาม (ชว่ั โมงท่ี ๑) ขนั้ ที่ ๑ การสรา้ งความสนใจ (Engagement)
๕๖ ๑. ครกู ลา่ วทักทายนกั เรียน ๒. จากนน้ั ครูยกตวั อย่างคานามที่มีในประโยคทพี่ ูดทกั ทาย ขั้นที่ ๒ การสารวจและคน้ หา (Exploration) ๑. ครใู ห้นกั เรยี นสารวจคานามทมี่ ีภายในหอ้ งเรียน แลว้ เขียนลงสมุด ๒. จากนน้ั ครูใหน้ ักเรียนค้นหาลกั ษณะของคานาม ขั้นที่ ๓ การอธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) ๑. ครบู รรยายความหมายของคานามและอธบิ ายหน้าท่ีของคานาม และวธิ สี งั เกตคานามในประโยค ขน้ั ที่ ๔ การขยายความรู้ (Elaboration) ๑. ครอู ธิบายประเภทของคานาม ๒. จากนน้ั ให้นกั เรียนเขียนประเภทคานามจากคาที่ไดห้ ามา ขัน้ ท่ี ๕ การประเมนิ ผล (Evaluation) ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงาน เรื่อง คานาม รปู แบบการจดั การเรยี นการสอน : กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning) หนว่ ยย่อยที่ ๒ เรอื่ ง คาสรรพนาม (ชั่วโมงท่ี ๒) ขน้ั ท่ี ๑ การสรา้ งความสนใจ (Engagement) ๑. ครกู ลา่ วทักทายนักเรยี น ๒. ครูตงั้ คาถามเก่ยี วกับเรือ่ งคานาม ในการเรียนในชัว่ โมงที่แล้ว เพือ่ ทบทวนความรู้ ขน้ั ที่ ๒ การสารวจและคน้ หา (Exploration) ๑. ครูถามนักเรยี นเก่ียวกบั เรอ่ื งคาสรรพนาม เพื่อทราบความรู้เดมิ ของนักเรียน โดยคาตอบของนกั เรยี นไม่ มถี กู ผดิ ขั้นที่ ๓ การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) ๑. ครอู ธบิ ายความหมายและหน้าท่ขี องคาสรรพนาม ขน้ั ท่ี ๔ การขยายความรู้ (Elaboration) ๑. ครใู ห้นกั เรยี นอธบิ ายข้อแตกต่างระหว่างคานามและคาสรรพนาม คนละ ๑ คาถาม ๒. จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความรอู้ กี ครงั้ ข้นั ท่ี ๕ การประเมินผล (Evaluation)
๕๗ ครูให้นกั เรียน ใบงาน เร่ือง คาสรรพนาม รูปแบบการจดั การเรยี นการสอน : กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้ันตอน (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning) หน่วยยอ่ ยที่ ๓ เร่ือง คาบพุ บท (ชัว่ โมงที่ ๓) ขัน้ ที่ ๑ การสรา้ งความสนใจ (Engagement) ๑. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรยี น ๒. ครูพดู ประโยคที่มกี ารบอกตาแหน่ง บอกเวลา ที่เปน็ ประเภทของคาบพุ บท ขัน้ ท่ี ๒ การสารวจและคน้ หา (Exploration) ๑. ครใู หน้ กั เรยี นสารวจคาบุพบทตามทีน่ ักเรยี นเข้าใจมาคนละ ๕ คา ขั้นท่ี ๓ การอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) ๑. ครูอธิบายความหมายและหนา้ ทขี่ องคาบพุ บท ขั้นที่ ๔ การขยายความรู้ (Elaboration) ๑. ครอู ธบิ ายประเภทของคาบุพบท และใหน้ ักเรียนเขียนประเภทของคาบพุ บท ลงในคาทต่ี นหามา ขั้นที่ ๕ การประเมนิ ผล (Evaluation) ครใู ห้นกั เรยี นทา ใบงาน เรื่อง คาบุพบท รปู แบบการจดั การเรยี นการสอน : กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้ันตอน (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning) หนว่ ยย่อยที่ ๔ เรื่อง คาสนั ธานและคาอทุ าน (ชั่วโมงที่ ๔) ขนั้ ท่ี ๑ การสร้างความสนใจ (Engagement) ๑. ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรยี น ๒. ครสู รา้ งประโยคสนทนาโดยมคี าสนั ธาน และคาอทุ าน อยใู่ นประโยค ขั้นท่ี ๒ การสารวจและคน้ หา (Exploration) ๑. ครูใหน้ ักเรยี นสังเกตคาจากประโยคทค่ี รยู กตัวอยา่ ง ๒. จากน้นั ครูให้นักเรียนค้นหาลกั ษณะของคาสนั ธานและคาอุทาน ข้นั ท่ี ๓ การอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)
๕๘ ๑. ครอู ธบิ ายความหมายและหนา้ ท่ขี องคาสันธานและคาอทุ าน ข้ันที่ ๔ การขยายความรู้ (Elaboration) ๑. ครใู ห้นักเรยี นทีม่ ขี อ้ สงสยั ซกั ถาม และครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ ขัน้ ท่ี ๕ การประเมนิ ผล (Evaluation) ครใู หน้ ักเรียนทา ใบงาน เร่ือง คาสันธานและคาอทุ าน ๙. สอ่ื การสอน ๙.๑ ใบงาน/แบบทดสอบ ๑๐. แหลง่ การเรียนในและนอกสถานท่ี ๑๐.๑ ห้องสมดุ ๑๑. การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมิน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีวดั หรือสงิ่ ทตี่ อ้ งการจะ ใบงาน คะแนน ๙-๑๐ ดีมาก วัดและประเมนิ ผล ใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง ตรวจใบงาน คะแนน ๖-๘ ดี คานาม คะแนน ๔-๕ พอใช้ ใบงานที่ ๒ เรอ่ื ง คา ตรวจใบงาน สรรพนาม คะแนน ๐-๓ ปรบั ปรงุ ใบงานท่ี ๓ เรอ่ื ง คา ตรวจใบงาน (ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดขี ึ้นไป) บุพบท ใบงาน คะแนน ๙-๑๐ ดีมาก คะแนน ๖-๘ ดี คะแนน ๔-๕ พอใช้ คะแนน ๐-๓ ปรบั ปรุง (ผ่านเกณฑ์ระดับดขี ึน้ ไป) ใบงาน คะแนน ๙-๑๐ ดีมาก คะแนน ๖-๘ ดี คะแนน ๔-๕ พอใช้ คะแนน ๐-๓ ปรบั ปรงุ
ใบงานท่ี ๔ เรอื่ ง ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๙-๑๐ ๕๙ คาสันธานและคา คะแนน ๖-๘ อทุ าน คะแนน ๔-๕ (ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดีขน้ึ ไป) คะแนน ๐-๓ ดีมาก แบบทดสอบประจา ตรวจ แบบทดสอบ ดี คะแนน ๙-๑๐ พอใช้ หนว่ ยการเรยี นรู้ แบบทดสอบ คะแนน ๖-๘ ปรับปรงุ คะแนน ๔-๕ คะแนน ๐-๓ (ผา่ นเกณฑร์ ะดับดีขน้ึ ไป) ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง (ผา่ นเกณฑร์ ะดับดีข้ึนไป) แบบประเมินสมรรถนะผเู้ รยี น สมรรถนะสาคัญ วิธวี ัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมิน ของผเู้ รยี น แบบสังเกต ตารางเกณฑ์การให้ ผา่ นเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ ๑. ความสามารถใน สงั เกต พฤติกรรมการ คะแนนสมรรถนะของ ปานกลางข้นึ ไป การสอ่ื สาร ปฏบิ ัตงิ าน ผ้เู รียน รายบคุ คล ๒. ความสามารถใน สงั เกต แบบสังเกต ตารางเกณฑก์ ารให้ ผา่ นเกณฑ์ตงั้ แต่ระดบั การคดิ พฤติกรรมการ คะแนนสมรรถนะของ ปานกลางขน้ึ ไป ปฏิบัตงิ าน ผูเ้ รยี น รายบุคคล
๖๐ แบบประเมินทักษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 ทักษะของผเู้ รยี นใน วธิ ีวัด เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมิน ศตวรรษท่ี 21 ๑. ทกั ษะการอ่าน สงั เกต แบบสงั เกต ตารางเกณฑก์ ารให้ ผ่านเกณฑ์ตัง้ แตร่ ะดับ (Reading) ประเมนิ พฤตกิ รรมการ คะแนนทกั ษะของ ปานกลางขน้ึ ไป ปฏิบตั ิงาน ผเู้ รยี น ๒. ทักษะการเขียน รายบุคคล (Writing) แบบประเมินใบ ตารางเกณฑก์ ารให้ ผ่านเกณฑต์ งั้ แต่ระดบั งาน คะแนนทักษะของ ปานกลางขึน้ ไป ผ้เู รียน ๓. ทักษะดา้ นความ สงั เกต แบบสงั เกต ตารางเกณฑก์ ารให้ ผา่ นเกณฑต์ ้งั แตร่ ะดบั ร่วมมอื การทางาน พฤตกิ รรมการ คะแนนทกั ษะของ ปานกลางขึ้นไป เปน็ ทีม และภาวะ ปฏบิ ตั งิ าน ผู้เรยี น ผนู้ า รายบคุ คล (Collaboration, Teamwork and แบบประเมนิ ใบ Leadership) งาน ๔. ทักษะการเรียนรู้ ประเมิน ตารางเกณฑก์ ารให้ ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ (Learning) คะแนนทักษะของ ปานกลางขน้ึ ไป ผเู้ รียน ๕. ภาวะผู้นา สังเกต แบบสังเกต ตารางเกณฑก์ ารให้ ผา่ นเกณฑ์ตง้ั แตร่ ะดับ (Leadership) พฤตกิ รรมการ คะแนนทกั ษะของ ปานกลางขึน้ ไป ปฏบิ ัตงิ าน ผู้เรยี น รายบคุ คล
๖๑ ๑๒. ตารางเกณฑ์ สมรรถนะสาคัญ ดีมาก ระดบั ของผเู้ รียน ดี ปานกลาง พอใช้ ปรับปรุง ๑. ความสามารถ สามารถส่อื สารได้ สามารถสอ่ื สาร สามารถสื่อสาร สามารถสื่อได้ สอื่ สารไมไ่ ด้ ในการสอื่ สาร อยา่ งคล่องแคลว่ ไดค้ ่อนขา้ ง ได้คอ่ นข้าง แต่ไม่ ถูกตอ้ งชดั เจน คล่องแคลว่ คล่องแคลว่ คล่องแคล่ว มี ตามหลัก ชัดเจน ถกู ตอ้ ง ชดั เจน ผิดบาง ผิดหลายคา เปน็ ส่วนใหญ่ คา ๒. ความสามารถ สามารถคดิ ได้ สามารถคิดได้ สามารถคิดได้ สามารถคดิ ได้ สามารคิดได้ ในการคดิ อยา่ งรวดเรว็ และ คอ่ นข้างรวดเร็ว เร็วแต่ถูกบ้างใน ค่อนข้างเร็ว แตช่ า้ และยัง ถูกตอ้ งตาม แต่มีผดิ เล็กนอ้ ย บางประเด็น แตไ่ มถ่ กู ตอ้ ง ไม่ถูกตอ้ งตาม ประเดน็ ทุก ในบางประเด็น ประเด็น ประการ ตามประเดน็ ทกั ษะของผเู้ รยี นใน ระดบั ศตวรรษท่ี 21 ดมี าก ดี ปานกลาง พอใช้ ปรับปรุง ๑. ทักษะการอา่ น สามารถอา่ นได้ สามารถอ่านได้ สามารถอ่านได้ สามารถอา่ น ไม่สามารถอา่ น (Reading) อยา่ ง อย่าง อย่าง ได้แตไ่ ม่ ไดค้ ลอ่ งแคล่ว คล่องแคล่ว คลอ่ งแคล่ว คลอ่ งแคล่วแต่ คลอ่ งแคล่ว ชัดเจน และไม่ ชดั เจนถูกตอ้ ง ชัดเจนถูกต้อง ไม่ชัดเจน ชดั เจน ถูกต้องตามหลัก ตามหลักภาษา ตามหลักภาษา ถกู ต้องตาม ถูกต้องตาม ภาษา ทกุ คา เปน็ สว่ นใหญ่ หลักภาษาบาง หลกั ภาษา คา นอ้ ย
๖๒ ๒. ทกั ษะการเขยี น สามารถเขยี น สามารถเขยี น สามารถเขียน สามารถเขียน ไม่สามารถเขียน (Writing) ได้ถกู ตอ้ งตาม ไดถ้ ูกตอ้ งตาม ได้ถูกตอ้ ง ตาม ไดถ้ ูกตอ้ งตาม ไดถ้ ูกตอ้ งตาม หลักภาษาทกุ หลักภาษาเป็น หลกั ภาษา ผดิ หลกั ภาษาได้ หลักภาษา คา ส่วนใหญ่ บางคา น้อย ๓. ทักษะดา้ นความ ให้ความ คอ่ นขา้ งให้ ค่อนขา้ งให้ ไมใ่ ห้ความ ไม่ใหค้ วาม ร่วมมอื การทางาน รว่ มมือและมี ความร่วมมือ ความรว่ มมอื รว่ มมือแตม่ ี ร่วมมือและไมม่ ี เป็นทีม และภาวะ สว่ นร่วมในการ และมีสว่ นรว่ ม และค่อนขา้ งมี สว่ นรว่ มบาง สว่ นร่วมในการ ผู้นา ทากจิ กรรมทุก ในการทา ส่วนร่วมในการ กจิ กรรม ทากจิ กรรมทกุ (Collaboration, กจิ กรรมอย่าง กจิ กรรมเกอื บ ทากิจกรรม กจิ กรรม Teamwork and เต็มใจ ทุกกิจกรรม บางกจิ กรรม Leadership) อยา่ งเตม็ ใจ อย่างเตม็ ใจ ๔. ทกั ษะการเรยี นรู้ เข้าใจ สามารถ เข้าใจ สามารถ เขา้ ใจ สามารถ คอ่ นข้างเขา้ ใจ ไม่เข้าใจและไม่ (Learning) ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ สามารถตอบ สามารถตอบ ทุกข้อ เป็นส่วนใหญ่ บางข้อ คาถามไดท้ ุก คาถามได้ น้อย ๕. ภาวะผนู้ า มจี ติ สาธารณะ มจี ิตสาธารณะ มจี ิตสาธารณะ มีจิต ไม่มจี ิต (Leadership) กล้าตดั สนิ ใจใน คอ่ นข้างกล้า กล้าตัดสินใจ สาธารณะ แต่ สาธารณะ และ ส่งิ ทถี่ ูกตอ้ ง ตัดสนิ ใจในส่งิ แตต่ ้องให้ครู ไมก่ ล้า ไม่กลา้ ตดั สนิ ใจ ดว้ ยตนเอง ทถี่ กู ตอ้ งดว้ ย บอก ตดั สินใจ ตวั เอง ๑๒. กิจกรรมเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................
๖๓ ๑๓. บนั ทกึ หลังการสอน สรุปผลการเรียนการสอน นกั เรยี นทง้ั หมด...................คน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวนักเรยี นทผ่ี ่าน จานวนนกั เรยี นทไ่ี ม่ผ่าน จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน รอ้ ยละ ๑. นกั เรยี นสามารถ เปรยี บเทียบภาษาไทย มาตรฐานกบั ภาษาถ่นิ ได้ ๒. นกั เรยี นเขยี นแผนผงั เปรยี บเทยี บภาษาไทย มาตรฐานกบั ภาษาถนิ่ ได้ ๓. นกั เรยี นเหน็ คณุ คา่ ของ ภาษาไทยมาตรฐานกับภาษา ถิน่ ได้ ๑๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................
๖๔ ๑๕. ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................................................ () ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ........................................... ลงช่อื ....................................................................หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชอ่ื ....................................................................รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ () ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ สถานศึกษา ไดท้ าการตรวจแผนการเรยี นรขู้ อง..................................................................................แลว้ มีความคิดเหน็ ดังน้ี ๑. เปน็ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ ๒. การจดั กจิ กรรมได้นาเอากระบวนการเรียนรู้ เนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม ยังไมเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ..................................................................................... (.......................................................................) ผู้อานวยการโรงเรียน.............................................................................
๖๕ ๑. คานามหมายถึง ตอบ.................................................................................................................................................................... ๒. คานามจาแนกได้กีช่ นดิ ตอบ.................................................................................................................................................................... ๓. จงยกตัวอยา่ งสามานยนาม ๓ คา ตอบ.................................................................................................................................................................... ๔. จงยกตวั อยา่ งวิสามานยนาม ๓ คา ตอบ.................................................................................................................................................................... ๕. จงยกตัวอยา่ งอาการนาม ๓ คา ตอบ.................................................................................................................................................................... ๖. จงยกตัวอย่างสมุหนาม ๓ คา ตอบ.................................................................................................................................................................... ๗. จงยกตัวอยา่ งลกั ษณนาม ๓ คา ตอบ.................................................................................................................................................................... ๘. การ กับ ความ นาหน้าคากริยาและคาวเิ ศษณ์จดั เปน็ คานามชนิดใด ตอบ.................................................................................................................................................................... ๙. เล่ม ใบ ดอก ผล จดั เป็นคานามชนิดใด ตอบ.................................................................................................................................................................... ๑๐. ลักษณนามของขลยุ่ คอื อะไร ตอบ.................................................................................................................................................................... ช่อื -สกุล...........................................................................เลขท.่ี ..................ชนั้ .............
๖๖ ใบงาน เร่อื ง คาสรรนาม คาชแ้ี จง ใหน้ กั บอกชนดิ ของคาสรรพนามทีข่ ดี เส้นใตใ้ นประโยคให้ถูกตอ้ ง ๑. มอี ะไรอยใู่ นกระเปา๋ ใบนี้ ....................................................... ๒. ใคร ๆ กไ็ มร่ ักเดก็ เกเร ....................................................... ๓. บา้ นทเี่ ห็นอยโู่ นน่ เป็นของฉัน ....................................................... ๔. ฉันชอบเส้ือทีค่ ณุ แม่ชอบใส่ ....................................................... ๕. นักเรียนทกุ คนต่างก็มีหน้าทีข่ องตวั เอง ....................................................... ๖. โรงเรยี นของเธออยู่ไหน ....................................................... ๗. ไมม่ ีอะไรที่คนเราทาไม่ได้ ....................................................... ๘. ท่านเป็นแมท่ ่ใี จดีมาก ....................................................... ๙. ดอกไม้ทีอ่ ยหู่ นา้ บ้านสวยมาก ....................................................... ๑๐. บ้านที่ทาสชี มพเู ป็นของฉัน ....................................................... ชอ่ื -สกลุ ...........................................................................เลขท่ี...................ชน้ั .............
๖๗ ใบงาน เรอื่ ง คาบุพบท คาช้ีแจง นกั เรยี นเลือกคาบุพบททีเ่ หมาะสมเตมิ ลงในชอ่ งวา่ งให้ถกู ต้อง บน ของ กบ ใน ใต้ ใกล้ รมิ ตาม นอก จาก ฝูงนกบนิ กรูอย่.ู ..............ท้องฟา้ และมีฝูงปลาวา่ ยอยู่...............นา้ ลูกแมวนอนอยู่...............โตะ๊ ตวั ดา สว่ นแมด่ าขาออก..............บ้านจะไปไหน เจา้ ดา่ งตัวดีเหา่ ที.่ .............บา้ น ยาย............ฉนั ราคาญออกมาไล่ ฉันเห็น..............ตาวา่ มงี ูตัวใหญ่ หยิบไม.้ ................คณุ ตามาตีงู เจ้างตู วั ร้ายเลอื้ ยไป................น้า มนั เล้อื ยไป...............ทางทีม่ นั อยู่ เลือกเติมคาบพุ บทนะหนูหนู จาไวแ้ ลว้ ดูเลือกเติมใหด้ ี ชื่อ-สกุล...................................................................................................................เลขท.่ี ......................
๖๘ ใบงาน เร่ืองคาสนั ธานและคาอทุ าน คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเติมคาสันธานลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกต้อง แต่ หรือ และ เพราะ กวา่ ...ก็ ๑. ขมิ อา่ นหนงั สือพมิ พ.์ ....ดโู ทรทศั นท์ ุกวนั ๒. เธอจะไปชมสวนนก.....ไปชมสวนงู ๓. ข้าวฟ่างชอบฟังเพลงลูกทุ่ง.....ออมสินชอบฟังเพลงไทยเดิม ๔. กวา่ ถว่ั จะสุก งา.....ไหม้ ๕. ปล้มื ไดร้ บั โลเ่ ยาวชนดีเดน่ .....ทาความดี คาช้แี จง : ให้นักเรียนเติมคาอุทานบอกอาการให้สมั พนั ธก์ ับขอ้ ความที่กาหนดให้ ว้าว! ตายจรงิ ! เอ๊ะ! อ๋อ! โธ่! ๑. .....................ใครกนั น้าท่ดี อกไม้มาวางไว้ทีโ่ ตะ๊ ของฉัน ๒. .....................ฉันลมื เอากระเป๋าสตางคม์ า ๓. .....................เธอคงจะหนาวมากละ ๔. .....................ฉนั เข้าใจท่เี ธอพดู แลว้ ๕. .....................วันน้เี ธอสวยมากจริง ๆ
๖๙ แบบทดสอบ คาช้แี จง ให้นักเรยี นเลอื กกากบาทคาตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ดุ ๑. คาใดต่อไปน้ีเปน็ ลักษนาม ก. ตัว ข. ปลา ค. กนิ ง. แมว ๒. ข้อใดใช้ลักษนามเหมอื นกนั * ก. บ้าน – ปราสาท ข. พระสงฆ์ - พระพุทธรปู ค. หนังสอื – เทยี นไข ง. ร่ม – ปี่ ๓. เขาไปโรงเรยี น คาว่า \"เขา\" ในประโยคเปน็ คาชนิดใด * ก. คาสรรพนาม ข. คากริยา ค. คาวิเศษณ์ ง. คานาม ๔. ข้อใดมีปฤจฉาสรรพนาม * ก. ใครไมไ่ ปไมไ่ ด้ ข. ใครไมไ่ ปกไ็ ด้ ค. ใครจะไมไ่ ปบา้ ง ง. ใครไม่ไปกต็ ามใจ ๕. ผมตอ้ งการพดู กบั เขา แต่เขาไม่ยอมพดู กับผม คาวา่ \"แต\"่ ในประโยคเปน็ คาชนิดใด * ก. คากรยิ า ข. คาสันธาน ค. คาบุพบท ง. คาวิเศษณ์ ๖. ครสู อนนกั เรียน คาวา่ \"สอน\" ในประโยคเปน็ คาชนดิ ใด * ก. คาสรรพนาม ข. คากริยา ค. คาวเิ ศษณ์ ง. คานาม ๗. ชนดิ ของคามกี ่ีชนิด * ก. ๕ ชนดิ ข. ๖ ชนดิ ค. ๗ ชนิด ง. ๘ ชนิด ๘. คานามมกี ชี่ นดิ * ก. ๔ ชนิด ข. ๕ ชนดิ ค. ๖ ชนดิ ง. ๗ ชนดิ ๙. ประโยคใดมีคานาม * ก. เธอออกกาลังกายทกุ วนั ข. เขาไมส่ บายเพราะพกั ผ่อนนอ้ ย ค. อากาศแจ่มใสดีมาก ง. นั่นเป็นหมูบ่ า้ นทีน่ ่าอยู่
๗๐ ๑๐. ประโยคในข้อใด มีคาสรรพนามบุรุษที่ ๒ * ก. เขาเป็นเพอื่ นของฉนั ข. หนงั สือของเธออยู่ตรงนี้ ค. ผมไมไ่ ดเ้ ปน็ ตารวจ ง. คณุ ปู่ท่านไม่คอ่ ยสบาย
๗๑
Search