กล้วยพืชสารพนั ประโยชน์ กาเนิดของกลว้ ยเป็ นพชื ที่ชอบอากาศร้อนถ่ินแรกของกลว้ ย อยทู่ ี่แถบเอเชียตอนใต้ ซ่ึงจะพบกลว้ ย พ้ืนเมืองท้งั ที่มีเมลด็ และไม่มีเมล็ดและจากผลของการยา้ ยถ่ินฐานการทามาหากินมีการอพยพประชาการเอเชีย ตอนใตไ้ ปยงั หมูเ่ กาะมหาสมุทรแปชิฟิ กต้งั แตต่ น้ คริสตศ์ กั ราชเป็นตน้ มา ในการอพยพแตล่ ะคร้ังตอ้ งมีการนา เสบียงอาหารติดตวั ไปดว้ ย ดงั น้นั จึงไดม้ ีการนากลว้ ยไปปลูก แถบหมู่เกาะฮาวาย และหมูเ่ กาะทางตะวนั ออก หมู่เกาะยาฮิติ หมู่เกาะนิจิ กล่าวกนั วา่ คาวา่ “ บานาน่า ” น่าจะมาจากคาวา่ รากศพั ทภ์ าษาในแอฟริกา ตะวนั ตก คือ คาวา่ “ บานีน่า ” และคาวา่ “บานาน่า “ คาวา่ บานาน่า ไดม้ ีการใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายโดยชาว โปรตุเกส สาหรับกลว้ ยในประเทศไทยเขา้ ใจวา่ ประเทศไทย เป็ นแหล่งกาเนิด ของกลว้ ยป่ าต่อมาไดน้ ากลว้ ย ตานีเขา้ มาปลูกและกลว้ ยชนิดอื่นๆ มาดว้ ยในช่วงอพยพของคนไทยในการต้งั ถิ่นฐานอยทู่ ่ีจงั หวดั สุโขทยั มี เอกสารเขียนโดย เดอลาลุดูแล ( 1963) กล่าววา่ สมยั อยธุ ยาที่เคา้ ไดเ้ ดินทางมาพบวา่ มีกลว้ ย 100 หวี ต่อมา เจา้ ขนุ ศรีสุนทรโวหาร (2427) ไดก้ ล่าวถึงกลว้ ยไวห้ ลายชนิดในช่วยปี 2484 ไดม้ ีการรวบรวมพนั กลว้ ยไว้ เป็นบา้ งช่วงและสูญหายไป ปัจจุบนั มหาวทิ ยาลยั เกษตร ไดร้ วบรวมพนั ธ์กลว้ ยไวท้ ่ีสถานีวจิ ยั ปากช่อง อาเภอปากช่อง ปัจจุบนั การปลูกกลว้ ยของไทยนอกจากปลูกเพอื่ บริโภคแลว้ ยงั ส่งออกไปขายต่างประเทศ “กลว้ ย” เป็นพืชที่นิยมปลูกกนั ทว่ั ไปตามบา้ นเรือน ควบคู่กบั วถิ ีชีวติ ของ คนไทยมาเป็นเวลาชา้ นาน เพราะ นอกจากจะนาผลมาใชเ้ ป็ นอาหารแลว้ ส่วน อ่ืนๆ ของลาตน้ ยงั สามารถนามาใชป้ ระโยชน์ไดท้ ุกส่วน เช่น ใบ ใชห้ ่อของ ปลี ใชเ้ ป็นอาหาร ลาตน้ ใชเ้ ป็นอาหารสัตว์ ใชท้ าเชือกประดิษฐห์ ตั ถกรรม และใช้ ทาเป็นกระทงที่ ปลอดภยั ต่อสิ่งแวดลอ้ มในวนั ลอยกระทงอีกดว้ ย กลว้ ยมีชื่อ ทางวทิ ยาศาสตร์วา่ Musa sapientum Linn. อยใู่ นวงศ์ Musaceae เป็นไม้ ลม้ ลุก มีลาตน้ ใตด้ ิน อายหุ ลายปี ลาตน้ บนดินรูปทรงกระบอก เกิด จากกาบ หุม้ ซอ้ นกนั สูง 2-4 เมตร ใบเป็ นใบเดี่ยวเรียงสลบั ซอ้ นกนั รอบตน้ ที่ปลาย ยอด เป็ นรูปขอบขนาน กวา้ ง 2.5-4.5 เมตร ยาว 1-2 เมตร กา้ นใบค่อนขา้ ง กลมหนา ดา้ นบนเป็นร่องลึก ผวิ ใบเรียบมนั ทอ้ งใบมีสี ออ่ นกวา่ มีนวล ดอก ออกเป็ นช่อในลกั ษณะหอ้ ยหวั ลง ยาว 30-60 ซม. เรียกวา่ ปลี ออกที่ปลาย ยอด มีใบ ประดบั หุม้ ช่อ ดอกสีแดงหรือสีมว่ ง ขนาดใหญ่ เรียกวา่ กาบ ดอกยอ่ ย ออกเรียงกนั เป็นแผง มีกาบหุม้ รองรับ อยู่ โดยดอกท่ีอยสู่ ่วนปลายช่อ เป็นดอก ตวั ผู้ ดอกท่ีโคนช่อเป็ นดอกตวั เมีย ผลจึงออกเป็นช่อ เรียกวา่ เครือ แต่ละช่อยอ่ ย เรียกวา่ หวี กลว้ ยหวหี น่ึงมีประมาณ 10 ผล เป็นผลสดกลมยาว ขนาด รูปร่าง และรสข้ึนอยกู่ บั พนั ธุ์ เน้ือกลว้ ยมีสีเหลืองครีม เม่ือสุกมีรสหวานรับประทาน ได้ มกั ไม่มีเมล็ด ขยายพนั ธุ์ดว้ ยการแตกหน่อ หรือแยกเหงา้ ไม่ชอบดินท่ีมีน้า ขงั จะอยใู่ นดินร่วนซุยและดินเหนียวท่ีอุม้ น้าไดด้ ี ในตารายาไทยกล่าวถึง สรรพคุณของกลว้ ย ในการใชบ้ าบดั รักษาโรคตา่ งๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี คือ ราก แกไ้ ขร้ ากสาด แกไ้ ขต้ วั ร้อน แกข้ ดั เบา เหง้า ตาป่ นทาทอ้ งนอ้ ยคนคลอดบุตร ทาใหร้ กลอก ภายหลงั การ คลอดบุตร ต้น หา้ มเลือด ทากนั ผมร่วงและทาใหผ้ มข้ึน แกโ้ รคไส้เล่ือน ใบ รักษาโรคทอ้ งเสีย แกบ้ ิด หา้ มเลือด แกผ้ นื่ คนั ตามผวิ หนงั 1
ยางจากใบ หา้ มเลือด สมานแผล ดอก รักษาโรคเบาหวาน ผล บารุงกาลงั บารุงเลือด เป็ นยาระบาย รักษาอาการอาหารไม่ ยอ่ ย ทอ้ งข้ึน มีกรดมาก สมานแผล แกโ้ รคบิด รักษาแผลไฟไหมน้ ้าร้อนลวก แกท้ อ้ งร่วง แกร้ ิดสีดวง จะเห็นไดว้ า่ กลว้ ยมีสรรพคุณกวา้ งขวาง กลว้ ยสุกมี สรรพคุณเป็นยาระบายสาหรับผทู้ ่ีเป็นริดสีดวง ทวาร หรือผมู้ ีอุจจาระแขง็ นกั กีฬาระดบั โลกถึงชอบกินกลว้ ยหอมกนั นกั (เคยเห็นในสนามเทนนิส..พอพกั เบรคบางคนหยบิ กลว้ ยหอม มากดั กินสกั 2-3 คา) กลว้ ยยงั มีคุณอนนั ต์ ป้องกนั โรคภยั และภาวะตา่ ง ๆของ ร่างกายไดอ้ ีกดว้ ย... กล้วยรักษาโรคต่าง ๆ โรคความเศร้าซึม จากการสารวจและวจิ ยั ไตถ่ ามพร้อมสุ่มตวั อยา่ งจากคนไข้ ที่ป่ วยเป็นโรคเศร้าซีม พบวา่ ส่วนใหญจ่ ะรู้สึกดีข้ึนเม่ือไดก้ ินกลว้ ยหอม สาหรับสุภาพสตรีแล้วก่อนท่จี ะมีประจาเดือน อารมณ์จะหงุดหงิดง่าย ไมอ่ ยกู่ บั ร่องรอยและก่อใหเ้ กิดสภาวะ ต่อร่างกาย..เช่นปวดทอ้ งปวดหวั ...ฯลฯรีบกินกลว้ ยหอมมนั สามารถป้องกนั ได้ โรคโลหิตจาง (Anemia) ธาตุเหล็กในกลว้ ยหอมสามารถที่จะกระตุน้ ร่างกายใหผ้ ลิ ต Hemoglobin (ฮีโมโกลบิน) ในกระแสโลหิตช่วยหยดุ ย้งั ภาวะโลหิตจางได้ แต่คงไมช่ ่วยแกโ้ รคทรัพยจ์ าง ความดนั โลหติ (Blood Pressure) กลว้ ยหอมมีเกลือโปแตสเซียมเหลืองอยเู่ ป็ นตวั ช่วยความดนั เลือด จนกระทง่ั US Food and Drug Administration อนุมตั ิใหก้ ลว้ ยหอมยอดผลไมม้ ีส่วนช่วยลดภาวะ ความเส่ียงความดนั ไดจ้ ริง เสริมสร้างพลังสมอง (Brain Power) ที่องั กฤษในแคว้ น Middlesex มีนกั เรียนจานวน200 คนจาก Twickenham school อา้ งวา่ พวกเขาสอบผา่ นเพราะไดก้ ิตกลว้ ยหอมเป็นอาหารเช ้้า รวมท้งั กินอีกนิด หน่อยในตอนม้ือเที่ยงเพ่ือทาใหส้ มอง สดช่ืน เขาไดว้ จิ ยั พบวา่ โปแตสเซียมในกลว้ ยช่วยนกั เรียนใหต้ ื่นตวั อยู่ อาการท้องผกู (Constipation) เส้นใยอาหารในกลว้ ยหอมช่วยทาใหร้ ะบบขบั ถ่ายในร่างกาย ทางานไดด้ ี เมาค้าง (Hangovers) วธิ ีแกเ้ มาคา้ งท่ีเร็วและดีอีกวธิ ีหน่ึงก็คือกินกลว้ ยหอมป่ัน banana milkshake โดยการใส่น้าผ้งึ ลงไปดว้ ย ดว้ ยสรรพคุณของน้าผ้งึ และสารวติ ามินในกลว้ ยจะช่วยให้ ปรับระดบั น้าตาลใน เส้นเลือด และทาใหก้ ระเพาะอาหารอยใู่ นสภาวะท่ีพร้อมทางานไดเ้ ร็วข้ึน...... จุกเสียดแน่นท้อง (Heartburn) กลว้ ยหอมมีสารลดกรดตามธรรมชาติอยู่ การกินกลว้ ยก็จะช่วยใหล้ ด อาการดงั กล่าว และอาการง่ีเง่าตอนเชา้ เช่นไม่อยากจะตื่นบา้ ง....ฯลฯ ถา้ เรากินกลว้ ยหอมสกั คา 2 คา ระหวา่ งม้ือเชา้ เที่ยงหรือเยน็ มนั จะช่วยปรับระดบั น้าตาลในเลือดและแกอ้ าการดงั กล่าว ในตอนเชา้ ได้ บรรเทาแผลยุงกดั ก่อนที่จะใชย้ าทา ลองใชเ้ ปลือกกลว้ ยหอมดา้ นในถูบริเวณท่ีถูกยงุ กดั จะช่วยลดอาการคนั หรือบวมได.้ ....คนส่วนใหญ่เป็นอยา่ ง น้นั จริง ๆ ระบบประสาท (Nerves) วติ ามินบีท่ีมีอยมู่ ากในกลว้ ยหอมจะช่วยลดความเครียด.อ่อนลา้ ได้ 2
อ้วนจากทางานมากเกนิ ไป จากที่กล่าวมาแลว้ ถา้ กินกลว้ ยหอมสักเลก็ ๆนอ้ ย ๆประมาณทุกๆ 2 ชม. มนั จะช่วยปรับระดบั น้าตาลในเลือดและลดการอยากกินของจุกจิก แผลในลาไส้และกระเพาะอาหารรวมท้งั ผวิ หนงั พุพองเป็ นแผล (Ulcers)สารและเส้นใยในกลว้ ยหอมช่วย ใหก้ ารยอ่ ยอาหารของลาไส้เล็กดีข้ึน รวมท้งั กรดต่าง ๆท่ีมีอยทู่ าใหม้ ีการเคลือบผวิ ของกระเพาะ ลดการเป็น แผลในกระเพาะได้ ปรับระดบั อณุ หภูมิในร่างกาย (Temperature Control) ในประเทศแถบเส้นศูนยส์ ูตรท่ีมีอากาศร้อน ผคู้ นชอบกินกลว้ ยหอมดบั ร้อนกนั เชื่อวา่ มนั เป็นผลไมเ้ ยน็ ฉ่าชนิดหน่ึง อยา่ งเช่นในไทยมีความเช่ือกนั วา่ ผหู้ ญิงทอ้ งควรกินกลว้ ยหอมเป็นประจา เพื่อเดก็ ท่ีเกิดมาจะมีอารมณ์เยือกเยน็ ลดความอยากสูบบุหรี่ สาหรับท่านทตี่ ้องการเลกิ บุหรี่ กลว้ ยหอมอาจช่วยท่านไดเ้ พราะมีวติ ามิน B6, B12 โปแตสเซียม และแมก็ นีเซียม ท่ีมีอยมู่ ากจะช่วยใหร้ ่างกายฟ้ื นตวั เร็วจากการขาดสารนิโคติน จากหนงั สือ กลว้ ยสารพนั ประโยชน์ ผแู้ ต่ง เกสร สุนทรเสรี สานกั พิมพ์ ชยั วฒั นาพานิช 3
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: