Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ประวัติศาสตร์

ใบความรู้ประวัติศาสตร์

Published by sk2_bery, 2022-07-17 15:11:56

Description: ใบความรู้ประวัติศาสตร์

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ ฐานประวตั ศิ าสตรใ์ นท้องถน่ิ (เครอ่ื งเคลอื บดนิ เผา เตาเผานายเจยี น)

ประวัตคิ วามเป็ นมาของเครื่องป้ันดนิ เผา แหล่งเตาเผาโบราณนายเจียน ต้งั อยู่ท่ีบา้ นถนนนอ้ ย ต.หินลาด อ.บา้ นกรวด จงั หวดั บุรีรัมย์ เป็ น เตาเผาโบราณอายุประมาณ 1,000 ปี มี 2 เตา ช่ือเตาเผานายเจียนและเตาเผาสวาย และไดพ้ บเคร่ือง เคลือบโบราณจานวนมาก ลกั ษณะทวั่ ไป เตาเคร่ืองเคลือบดินเผาแบบบา้ นกรวด เป็ นเตายาวส่ีเหล่ียมผืนผา้ ก่อข้ึนบนดินหรือเนินดินสูง ข้ึน โครงดว้ ยไมไ้ ผ่สาน ฉาบดว้ ยดินเหนียวเผาเป็ นอิฐดิบ (ไม่ใช่อิฐเป็ นกอ้ น) มีกองดินเป็ นเสาค้าอยตู่ รง กลาง บรรจุภาชนะดา้ นขา้ งเตา ความยาวของเตามีถึง 12 เมตร กวา้ ง 3 เมตร แต่ขนาดจะแตกต่างกนั ตามมาตรฐานของธุรกิจ เตาส่วนใหญ่หันปล่องเตาไปทางทิศใต้ ช่องบรรจุฟื นอยู่ทางทิศเหนือ ปัจจุบนั กรมศิลปากรทาหลงั คาคลุมไวม้ ีเจา้ หนา้ ทดี่ ูแลรักษา หลกั ฐานทพี่ บ 1. โครงสร้างเตา ร่องรอยการข้ึนโครงเตา ปล่องไฟ 2. เคร่ืองถว้ ยชามชนิดต่างๆ เช่น ไห คนโทน้า ถว้ ย แจกนั วสั ดุก่อสร้าง เครื่องประดบั ตกแต่งตวั อาคารเป็ นตน้ 3. เครื่องมือในการผลิต เช่น แท่นหินบด วสั ดุทาเคร่ืองเคลือบ ศิลปะที่ถูกสร้างข้ึนจากวสั ดุท่ีเป็ นดินเผาน้ีไม่ว่าจะสร้างข้ึนเพ่ือประโยชน์ใชส้ อยหรือเพ่ือ ความสะดวกในการดารงชีพดว้ ยสภาพแวดลอ้ มทางภูมิศาสตร์ จนถึงความเชื่อถือ ศาสนา และ ประเพณีก็ตาม ส่ิงเหล่าน้ีเป็นปัจจยั ท่ีสาคญั ทีท่ าใหม้ นุษยไ์ ดใ้ ชค้ วามคิด การสงั เกต และรวบรวมเอา ประสบการณ์ความคิดสร้างสรรค์ถ่ายทอดออกมาเป็ นงานศิลปะในรูปของดินเผาอยา่ งท่ีปรากฏให้ เห็นอยจู่ นทุกวนั น้ี ในประเทศไทยมีหลกั ฐานปรากฏใหเ้ ชื่อไดว้ ่ามีการประดิษฐศ์ ิลปะในรูปของดินเผามานาน กว่า 10,000 ปี จากการขุดคน้ พบและการศึกษาเศษดินเผาของนกั โบราณคดี สรุปว่าเราสามารถพบ เศษดินเผาในทกุ รูปแบบไดท้ วั่ ไปทุกหนทุกแห่งที่จดั ว่าเป็นแหล่งท่อี ยอู่ าศยั ของมนุษยต์ ้งั แต่ก่อนสมยั

ประวตั ิศาสตร์จนถึงสมยั ปัจจุบนั แสดงให้เห็นว่ามนุษยม์ ีความเป็ นอยู่ใกลช้ ิดกบั เคร่ืองป้ันดินเผา ตลอดมา ในระยะแรก มนุษย์เราจะเลือกสรรหาที่อยู่อาศัยใกลด้ ิน น้า และมีแสงแดด มนุษย์จึงมี ประสบการณ์เกี่ยวขอ้ งกบั สามส่ิงเหล่าน้ีอยู่ทุกวนั จนกระทงั่ ตายไป ประสบการณ์ท่ีมนุษยเ์ ห็นอยู่ เสมอ ก็คือ เห็นดินทีเ่ ปี ยกตามริมแหล่งน้า เป็นรูปรอยเทา้ เวลาเหยยี บยา่ เดินไป ไดเ้ ห็นน้าไหลเซาะ ดินพงั ไดเ้ ห็นดินซ่ึงมีความเหนียวไม่เหมือนกนั ไดเ้ ห็นดินอ่อนตวั เม่ือเปี ยกน้าเวลาฝนตก ไดเ้ ห็น ดินท่ีเปี ยกน้ันแห้งเม่ือถูกแดด เห็นอยู่นานวันหมุนเวียนกันซ้ าแล้วซ้ าอีกจนมนุษย์สะสม ประสบการณ์ต่างๆ เหล่าน้ี และชักนาให้มนุษย์เกิดความคิดเอาดินมาป้ันเป็ นรู ปต่างๆ ตาม จินตนาการของตนเอง แลว้ ตากใหแ้ หง้ ใชเ้ ป็นอุปกรณ์ใชส้ อย ( ยงั ไม่มีการเผา ) บางกลุ่มชนพบว่ามี การเอายางไมห้ รือน้ามนั จากสัตวท์ าบนภาชนะน้นั เพ่ือใหส้ ามารถใส่น้าเก็บไวไ้ ดท้ ้งั ยงั ทาใหภ้ าชนะ เหล่าน้นั มีความทนทานในการใชง้ านดีอีกดว้ ย ยคุ ต่อมาความกา้ วหนา้ ในการใชไ้ ฟเกิดข้ึนหรืออาจ เน่ืองมาจากเห็นภาชนะท่เี อาไวใ้ กลไ้ ฟแขง็ แกร่งเวลาถูกฝนกไ็ ม่อ่อนตวั ละลายไป จากจุดน้ีเองคงเป็น สื่อนาให้มนุษยร์ ู้จกั เอาภาชนะดินน้นั ไปเผาไฟให้แข็งแกร่ง แทนการตากแดด ในยคุ แรกๆ การทา เครื่องป้ันดินเผาน้ีไดเ้ กิดข้ึนตามท่ีต่าง ๆ ในโลกหลายแห่งนอกจากท่พี บในประเทศไทย และทกุ แห่ง ไดม้ ีการพฒั นาข้ึนตามข้นั ตอนเร่ือยมาจนเป็ นงานหัตถกรรม ที่สามารถแสดงใหเ้ ห็นถึงวิวฒั นาการ ของวฒั นธรรมของชาติน้นั ได้ งานดินเผามีความสัมพนั ธ์กบั ชีวิตมนุษยม์ ากกว่างานเคร่ืองเหลก็ โดยเฉพาะในสมยั โบราณ อยา่ งนอ้ ยทีส่ ุดจะตอ้ งมีหมอ้ ดินเผาอยใู่ นบา้ นอยา่ งแน่นอนทุกหลงั คาเรือน รูปแบบของเครื่องป้ันดินเผาในสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์น้นั มีรูปแบบง่ายๆ มีความคลา้ ยคลึง กนั ทางดา้ นเทคนิคการป้ันและการเผา คือเผาไฟในอุณหภมู ิต่า ในประเทศไทยพบที่บา้ นเก่า จงั หวดั กาญจนบุรี บ้านโคกเจริ ญ จังหวัดลพบุรี บ้านโคกพนมดี จังหวัดชลบุรี ถ้ าผี จังหวัด แม่ฮ่องสอน และทบ่ี า้ นเชียง จงั หวดั อุดรธานี เป็นตน้ ในยคุ หินเก่ามนุษยอ์ าศยั อยใู่ นถ้าและเพิงผา หาเล้ียงชีพดว้ ยการเก็บของป่ าและล่าสัตว์ ยงั ไม่ รู้จักใชเ้ คร่ืองป้ันดินเผา จนเข้าสู่ช่วงยุคหินกลางมนุษย์ไดม้ ีการพฒั นาจนเริ่มรู้จกั ใช้ไฟและทา เครื่องป้ันดินเผาเป็ นคร้ังแรก ระยะเวลาก้าวมาจนเขา้ สู่ยุคหินใหม่มนุษย์ยุคน้ีมีความสามารถทา เคร่ืองป้ันดินเผาไดด้ ี มีผวิ เรียบขดั มนั เน้ือบางรูปทรงสวยงาม แมก้ าลเวลาจะล่วงเลยมาถึงยคุ โลหะ

ซ่ึงมนุษยจ์ ะรู้จกั ใชโ้ ลหะมาหล่อหลอมทาเป็ นเครื่องมือเคร่ืองใชแ้ ลว้ กต็ าม แต่มนุษยเ์ หล่าน้นั ก็ยงั คง ทาและใชเ้ คร่ืองปันดินเผาในชีวติ ประจาวนั สืบต่อกนั มาและยงั พบเห็นจนถึงปัจจุบนั เครื่องป้ันดินเผาท่ีมีช่ือเสียงของไทยทาให้ชาติต่างๆ รู้จักประเทศไทยไปทวั่ โลก ไดแ้ ก่ เครื่ องป้ันดินเผาลายเขียนสี สมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่บ้านเชียง อาเภอหนองหาน จังหวัด อุดรธานี ดว้ ยมีคนในพ้ืนท่ีดงั กล่าวขุดพบเศษภาชนะดินเผามีลายเขียนสีจานวนมากจากการขุดบ่อ น้า หรือขดุ หลุมฝังเสาบา้ นจึงไดม้ ีการตื่นตวั และเป็นท่ีสนใจของกรมศิลปากรในปี พ.ศ.2506 จึงได้ มีการสารวจจนปี พ.ศ.5209 จึงทาการขุดคน้ ทางโบราณคดีข้ึน ผลจากการขุดคน้ ทาใหไ้ ดท้ ราบถึง อดีตท่ีมาของชุมชนโบราณแห่งน้ี ตลอดจนได้ทราบถึงความเจริ ญก้าวหน้าทางด้านเทคนิค วิทยาการ โดยเฉพาะภาชนะลายเขียนสีท่ีเป็ นส่ิงแปลกสวยงามพิสดารไม่เคยพบเห็นในที่ใดมาก่อน เลย แม้จะมีการคน้ พบที่ขอนแก่น หนองคาย สกลนคร เลย และอีกหลายจงั หวดั โดยรอบๆ อุดรธานี ก็ตาม ส่วนรู ปร่างของภาชนะดินเผาก็มีรู ปทรงแปลกโดยจาแนกออกเป็ น 5 แบบ ใหญ่ๆ ไดแ้ ก่ แบบกระถาง แบบแจกนั แบบพาน แบบหมอ้ กน้ กลม แบบคนโทน้ากน้ กลม เป็น ตน้ สาหรับลวดลายมีท้งั ภาพคนและสตั วท์ เ่ี ขียนลายดว้ ยฝี มืออนั ชานาญและออ่ นชอ้ ยมาก หลังจากน้ันมาก็ได้แก่เครื่องสังคโลกซ่ึงเช่ือว่ามีจุดเริ่มตน้ อยู่ท่ีเมืองสวรรคโลก จังหวดั สุโขทยั และเมืองชะเลียง ในบริเวณวดั พระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุโขทยั ไดม้ ีการทาต้งั แต่ก่อนสมยั ราชวงศพ์ ระร่วง สันนิษฐานวา่ จีนคงเขา้ มาทาเคร่ืองป้ันดินเผาก่อนและถ่ายทอดวิธีการใหก้ บั คนไทย ต่อมา โดยสังเกตจากลวดลายสีสันจะเป็นแบบศิลปะจีนตอนปลายราชวงศซ์ อ้ ง โดยจีนเองไดอ้ พยพ หนีการรุกานจากศตั รูมาต้งั เมืองหลวงทแี่ ม่น้าแยงซีเกียงและเลยมาทางใตเ้ ขา้ สู่ประเทศไทย ประเทศ เวียดนาม ประเทศเขมร ส่วนอีกทางหน่ึงที่เข้ามาในประไทยคือ ใน พ.ศ.1837 สมัยพ่อขุน รามคาแหงมหาราช ไดใ้ ห้ช่างป้ันดินเผาชาวจีนเขา้ มาเป็ นจานวนมากที่สุโขทยั และแพร่กระจายข้ึน ไปถึงเชียงรายโด่งดังมากคือเครื่ องป้ั นดินเผาที่เวียงกาหลงหรื อที่เรี ยกกันว่า เตาเวียง กาหลง เคร่ืองป้ันดินเผาแบบสังคโลกของไทยมลี กั ษณะเป็ นการเคลือบชนิดเคลือบทึบ ไม่ใช่เคลอื บ ใสแบบเซลาดอน ทาใหฟ้ ิ ลิปปิ นส์ ญ่ีป่ นุ เอาไปศึกษา และเลียนแบบสงั คโลกของไทย

เคร่ืองสังคโลก เป็นภาชนะเคร่ืองเคลือบดินเผาทีไ่ ดม้ ีการริเร่ิมทากนั ข้ึนในสมยั สุโขทยั โดยไดร้ ับการถ่ายทอด เทคนิคการทาต่างๆ จากจีน เคร่ืองสงั คโลกของสุโขทยั น้ี แบ่งออกไดเ้ ป็น 3 แหล่งใหญ่ ๆ คือ 1. เคร่ืองถ้วยเมืองชะเลยี ง สันนิษฐานจากรูปแบบและเน้ือดินตลอดจนการเคลือบคาดว่าน่าจะไดม้ ีการทากนั มาต้งั แต่ สมยั สุโขทยั อาจจดั อยใู่ นสมยั อิทธิพลลพบรุ ีได้ ท้งั น้ีเพาระลกั ษณะรูปแบบ เนื่อดิน และการเคลือบ จะมีลักษณะเหมือนกับเครื่ องป้ั นดินเผาแบบวัฒนธรรมลพบุรี มาก อีกท้ังยังมีลักษณะ เครื่ องป้ันดินเผาที่พบในเมืองศรี สัชนาลัย ซ่ึงเดิมเมืองศรี สัชนาลัยน้ี มีชื่อเรี ยกว่า เมืองชะ เลียง ดงั น้นั จึงไดต้ ้งั ช่ือเรียกเครื่องป้ันดินเผาชุดน้ีวา่ “เครื่องถว้ ยชามชะเลียง” สืบต่อกนั มา ลกั ษณะเด่นชองเครื่องถว้ ยชามเมืองชะเลียง คือ จะมีเน้ือหยาบ เห็นน้าเคลือบเป็ นสีน้าตาล ไหมเ้ คลือบไม่ตลอด ไม่ติดถึงกนั ผลิตภณั ฑท์ ่ปี ้ันส่วนมากเป็น ประเภทกระปุก ไห ขวด ตลอดจน รูปคนและสัตว์ เน้ือภาชนะจึงจดั อยใู่ นประเภทสโตนแวร์ ( Stone Ware ) 2. เคร่ืองถ้วยเมืองสุโขทยั ส่ วนมากเป็ นฝี มือของช่ างชาวจี นเป็ นผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์ส่ วนมากได้แก่ เครื่ อง ถว้ ย ชาม โถ และภาชนะใชส้ อยอ่ืน ๆ การเขียนลวดลายนิยมใชล้ ายสีดา หรือน้าตาลเขียนบนพ้ืน ขาว ลายท่ใี ชไ้ ดแ้ ก่ ลายสังข์ ลายจกั ร ฯลฯ นอกจากน้ียงั มีการผลิตวสั ดุทท่ี าจากดินเผาซ่ึงใชเ้ ป็น เครื่องประกอบตกแต่งศิลปะสถาปัตยกรรม เช่น กระเบ้ือง เชิงชาย ตวั สิงห์ ตวั นาค ตวั ปักษา หวั นาค ฯลฯ เป็นตน้ 3. เคร่ืองถ้วยสวรคโลก มีการผลิตข้ึนท่ีเมืองสวรรคโลก บริเวณบา้ นเกาะนอ้ ย เป็ นแหล่งใหญ่ เมืองสวรรคโลก น้ี คือ เมืองศรีสัชนาลยั เดิม เครื่องป้ันดินเผาเคลือบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเคร่ืองถว้ ยสวรรค โลก คือ การผลิตแบบเซลาดอน ซ่ึงเป็นผลิตภณั ฑท์ ี่มีเน้ือเคลือบดว้ ยไฟสูงท่ีใหส้ ีงดงามมาก เช่น สี เขียว สีเขียวปนเทา สีเขียวปนน้าตาล สีเทาปนเหลือง และสีฟ้าปนเขียว เป็นตน้ เน้ือละเอยี ดใสจดั

อยู่ในประเภทปอร์สเลน ( Porcelain ) เคร่ืองสังคโลกท่ีสวรรคโลกน้ี สามารถแบ่งสี และ การเคลือบออกไดอ้ กี ดงั น้ี 3.1 เซลาดอน นิยมเรียกว่า เคร่ืองเคลือบเขียวไข่กา ส่วนมากทาเป็น ภาชนะ เช่น ถว้ ย จาน ชาม โดยเทคนิคการขดู ลาย แลว้ จึงเคลือบทบั 3.2 แบบผลติ ภณั ฑ์ทใ่ี ช้การเขยี นลวดลาย ( Printed Ware ) ไดแ้ ก่ ภาชนะ จาพวกตลบั กลึงมีฝาปิ ด จานชามขนาดใหญ่ โถทรงกลม บวั ตูม เป็นตน้ ประเภทของเครื่องป้ันดินเผา การแบง่ ผลิตภณั ฑเ์ ครื่องป้ันดินเผาโดยทว่ั ๆ ไปมีหลายชนิด แต่ท่ีสาคญั พอจะแบ่งออกได้ เป็น 3 ชนิด โดยแบง่ ตามลกั ษณะของเน้ือดิน และอุณหภูมิทใี่ ชเ้ ผา คือ 1. ผลิตภณั ฑช์ นิดเอิทเทนแวร์ ( Earthen ware ) 2. ผลิตภณั ฑช์ นิดสโตนแวร์ ( Stone ware ) 3. ผลิตภณั ฑช์ นิดปอร์สเลน ( Porcelain ) 1. ผลติ ภณั ฑ์ประเภทเอทิ เทนแวร์ ( Earthen ware ) นบั วา่ เป็นผลิตภณั ฑท์ ่ีนิยมทากนั โดยทวั่ ไปเป็นส่วนใหญ่และส่วนมาก เผาในอณุ หภมู ิต่า ( 1,050 – 1,100 C ) Cone 01 – 04 ลกั ษณะโดยทวั่ ไปเป็ นผลิตภณั ฑค์ ่อนขา้ งหนา เน้ือหยาบ มี ความพรุนตวั ค่อนขา้ งมาก สีของเน้ือผลิตภณั ฑส์ ่วนมากสีน้าตาลออ่ น สีเทาอ่อน สีเหลืองออ่ น เป็นผลิตภณั ฑช์ นิดทีเ่ คลือบและไม่เคลือบ เวลาเคาะมีเสียงทบึ ๆ ไม่กงั วาล เหมือนผลิตภณั ฑ์อืน่ เน้ือดินป้ันส่วนมากเตรียมมาจากดินเหนียวธรรมดาทว่ั ไป ส่วนมากนิยมใชด้ ินใน ทอ้ งถ่ิน ดินเม่ือยงั ไม่ไดเ้ ผามกั จะมีสีน้าตาลเขม้ สีเทาแก่ ดินเหนียวทีก่ ล่าวเม่ือนาไปป้ันผสมกบั ดิน

เช้ือ ( Grog ) ช่วยทาใหม้ ีความพรุนตวั ช่วยไม่ใหผ้ ลิตภณั ฑแ์ ตกเสียหายไดง้ ่าย ดินเหนียวทวี่ า่ น้ีมีอยโู่ ดยทวั่ ไป เรียกกนั ว่าดินแดง ( Red clay ) หรือ Surface clay ลกั ษณะท่ีสาคญั ส่วนมากเน้ือดิน ละเอียด แหง้ ชา้ แต่มีความเหนียวดี ( Plasticity ) เม่ือนาไปเผาแลว้ จะใหส้ ีน้าตาลอ่อน เหมาะแก่การ ที่จะนาไปข้ึนรูปทรงต่างๆ ไดด้ ี เช่น การข้ึนรูปแบบอิสระ แบบขด แบบแผ่น แบบข้ึนรูปดว้ ยแป้น หมุน แบบวธิ ีกดพิมพ์ และแบบวธิ ีรีดดิน เป็นอิฐโปร่งกม็ ี เป็นตน้ ส่วนมากดินทีก่ ล่าวถึงประเภทน้ี มีเปอร์เซนตข์ องเหลก็ ( Iron ) สูง ไม่นิยมนาไปผสมทาผลิตภณั ฑช์ นิดสีขาว เน้ือดินชนิดเอิทเทนแวร์ที่ใช้ป้ันผลิตภณั ฑ์ขนาดใหญ่ๆ นิยมใชผ้ สมทราย หรือดิน เช้ือ ช่วยทาใหก้ ารข้ึนรูปทรงตวั ไดด้ ี เม่ือนาไปเผาเน้ือดินมีความแขง็ แกร่งดี และช่วยควบคุมการหด ตวั ของดินไดด้ ีพอสมควร มีประโยชน์ช่วยใหผ้ ลิตภณั ฑไ์ ม่แตก และบดิ เบ้ยี วไดง้ ่าย ปัจจุบนั ความคิดเก่ียวกบั การทาผลิตภณั ฑช์ นิดเอิทเทนแวร์ชนิดสีขาว ( White ware ) นิยม ใหม้ ีส่วนผสมของหินควอตซ์ ( Flint ) ช่วยใหม้ ีความแขง็ แกร่งในเน้ือของผลิตภณั ฑ์ และประเภทของ หินฟันมา้ ( Feldspar ) ช่วยผสมทาให้ลดจุดสุกตวั ต่าลงผสมในสัดส่วนท่ีเหมาะสมและขอ้ สาคญั จะตอ้ งมีความเหนียวพอในการข้ึนรูป ผลิตภณั ฑช์ นิดเอทิ เทนแวร์ชนิดสีขาว เตรียมไดจ้ ากวตั ถุดิบท่ี เป็นดินขาว มีลกั ษณะที่สาคญั เน้ือดินแน่น ทึบแสง มีความพรุนตวั พอประมาณ ไดแ้ ก่ ผลิตภณั ฑ์ ประเภทจาม ชาม ภาชนะ เคร่ืองใช้ เคร่ืองประดบั ต่างๆ มีการเคลือบขาว สีต่างๆ มากมาย ส่วน ผลิตภณั ฑ์เอิทเทนแวร์ชนิดท่ีใชว้ ตั ถุดิบดินแดงทว่ั ไป ไดแ้ ก่ ผลิตภณั ฑป์ ระเภท หมอ้ ดิน กระถาง กลว้ ยไม้ กระถางดินเผา คนโฑน้า และประเภทอิฐทใ่ี ชใ้ นการก่อสร้าง ( Terracotta ) เป็นตน้ 2. ผลติ ภณั ฑ์ประเภทสโตนแวร์ ( Stone ware ) ผลิตภัณฑ์ประเภทสโตนแวร์ หมายถึง ผลิตภัณฑ์ท่ีเผาถึงจุดสุกตัว ( Vitreous ware ) ส่วนมากสีเน้ือดินเกิดจากสีตามธรรมชาติของดิน เช่น สีเทา สีน้าตาล เผาในอุณหภูมิค่อนขา้ ง สูง 1,190 – 1,390 C Cone 6 – 14 การท่ีเรียกว่า สโตนแวร์ เน่ืองจากผลิตภณั ฑ์ประเภทน้ีเน้ือ หยาบ เน้ือแน่นและมีความแขง็ แกร่งมาก น้าและของเหลวไม่สามารถไหลซึมผา่ นได้ เน้ือดินป้ันแบบสโตนแวร์ มีลกั ษณะคลา้ ยเอิทเทนแวร์ แต่ว่าเผาในอุณหภูมิสูง เคาะมีเสียง ดงั กงั วาลกว่า วตั ถุดิบที่ใชต้ อ้ งมีความทนไฟสูง และมีความเหนียว สีของวตั ถุดิบเม่ือเผาแลว้ จะเป็นสี อะไรก็ไดไ้ ม่สาคญั แต่มีความแขง็ แกร่ง ผลิตภณั ฑส์ โตนแวร์ชนิดท่เี ตรียมดินจากธรรมชาติมาป้ัน

โดยตรงก็มี เช่น ผลิตภณั ฑ์โอ่งราชบุรี ศิลาดอนเชียงใหม่ เป็ นตน้ และชนิดที่เตรียมใน หอ้ งปฏิบตั ิการเองกม็ ี ผลิตภณั ฑส์ โตนแวร์ นิยมทาภาชนะใส่อาหาร จาน ชาม ถว้ ยกาแฟ เหยอื กน้า แจกนั ท่ีเข่ีย บบุ รี่ เคร่ืองประดบั นอกจากน้ียงั นิยมทาภาชนะบรรจุประเภทพวก กรด ด่าง เป็นภาชนะค่อนขา้ ง หนา เน้ือแน่น ทึบแสง มีลกั ษณะเน้ือหยาบ ( Texture ) มีความแขง็ แรงทนทานไดด้ ีมาก 3. ผลติ ภณั ฑ์ประเภทปอร์สเลน ( Porcelain ware ) ผลิตภณั ฑ์ประเภทปอร์สเลน เป็ นผลิตภณั ฑ์เตรียมข้ึนเป็ นพิเศษ เน้ือดินสีขาวเผาถึงจุดสุก ตวั ( Vitreous ware ) ส่ิงท่ีสาคญั คือ โปร่งแสง ( Translucent ) เผาในอุณหภูมิต้งั แต่ 1,250 องศา เซลเซียส ข้ึนไป ( Cone 9 ) ส่วนผสมของเน้ือดินประกอบดว้ ยหินควอตซ์ หินฟันมา้ ดินเคาลิน ( Kaolin ) ดินเหนียวขาว ( Ball clay ) และวตั ถุอ่ืนๆ อีกตามส่วนที่เหมาะสม เมื่อนาไปเผาไฟแลว้ มีความแขง็ แกร่งมีลกั ษณะเหมือนแกว้ ( Glass ) เนื่องจากดินป้ันประเภทปอร์สเลน มีความเหนียวนอ้ ยจึงนาไปข้ึนรูปดว้ ย วธิ ีหล่อ ( Casting ) และวิธีข้ึนรูปด้วยใบมีด ( Jigger ) เป็ นส่วนใหญ่ ส่วนวิธีข้ึนรูปแบบแป้นหมุน ไม่นิยมทากัน เนื่องจากความเหนียวน้อยโดยเฉพาะการเตรียมเน้ือดิน ( Body ) มีกระบวนการหลายข้ันตอน นับต้งั แต่การลา้ งดิน การผสม การบด การแยกเหลก็ ออกจากดิน จนกระทง่ั เป็ นเน้ือดินที่ใชก้ าร ได้ ผลิตภณั ฑป็ อร์สเลนสีขาว เน้ือละเอียดเมื่อเผาไฟแลว้ มีความแขง็ แกร่ง โปร่งแสง และไม่หนา มากนกั ชาวจีนเป็นชาติแรกทีค่ น้ พบการทาปอร์สเลนข้ึนในโลก ผลิตภณั ฑ์ชนิดปอร์สเลน แบ่งตามอุณหภูมิในการเผา คือ แบบ Soft porcdlain เผาใน อุณหภูมิประมาณ 1,210 – 1,285 องศาเซลเซียส ( Cone 7 – 11 ) นิยมนาไปทาภาชนะใส่อาหาร ( Table ware ) และงานประเภททางดา้ นศิลป ( Art ware ) ส่วนประเภท Hard porcelain เผาใน อุณหภูมิสูงกว่าประมาณ 1,310 – 1,431 องศาเซลเซียส ( Cone 12 – 15 ) มีความแข็งแกร่ งเป็ น พิเศษ นิยมนาไปทาผลิตภณั ฑ์ประเภทเคร่ืองมือ เคร่ืองฉนวนไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น หัวเทียน เคร่ืองยนต์ ภาชนะทดลองทางเคมี เช่น ถว้ ยครูซิเบิล เบซิน ( Basin ) เป็นตน้

ผลิตภณั ฑท์ างปอร์สเลนทมี่ ีชื่อเสียงของโลกและอยใู่ นความนิยมของประชาชนทว่ั โลก คือ 1. ของญ่ีป่ นุ ไดแ้ ก่ บริษทั นอริตาเก้ ( Noritake ) และ โอกรุ ะแวร์ ( Okura ware ) 2. ของฝรั่งเศส ไดแ้ ก่ แซพแวร์ ( Sevre ware ) 3. ของเยอรมนั ไดแ้ ก่ ไมแซ็นแวร์ ( Meissen ware ) และ โรเซ็นเติล ( Rosenthal ) 4. ขององั กฤษ ไดแ้ ก่ เวด็ วูด ( Wedgwood ) 5. ของอเมริกา ไดแ้ ก่ ลีน๊อกแวร์ ( Lenox ware ) ผลิตภณั ฑ์ชนิดท่ีเรียกว่า โบนไชน่า ( Bone China ) จดั อยู่ในประเภทปอร์สเลน ชนิดหน่ึง เป็นผลิตภณั ฑป์ อร์สเลนทเ่ี น้ือดินมีความละเอียดและมีความโปร่งแสงมาก ทาจากวตั ถุดิบ ประเภทเดียวกบั ผลิตภณั ฑป์ อร์สเลน แต่จะตอ้ งมีเถา้ กระดูกผสมอยู่ดว้ ย ถา้ มองอยา่ งผวิ เผนิ จะรู้สึก ว่า โบนไชน่าเป็ นผลิตภณั ฑ์ท่ีมีความบอบบางมาก แต่ความเป็ นจริงผลิตภณั ฑ์ประเภทน้ีมีความ แขง็ แกร่งดี ท้งั ๆ ที่เผาทีอ่ ณุ หภมู ิต่ากว่าผลิตภณั ฑป์ อร์สเลน โบนไชน่า ทาข้ึนคร้ังแรกในประเทศ อังกฤษ โดย Josiah Spode ในปี ค.ศ. 1794 เป็ นท่ีนิยมแพร่หลายทงั่ ไป ในปัจจุบนั โรงงานหลายแห่งท้งั ในองั กฤษ สวีเดน รัสฌวีย และ อเมริกา ผลิตเคร่ืองถว้ ยชาม และชุดน้าชา กาแฟ โดยใชเ้ น้ือดินป้ันโบนไชน่า สาหรับประเทศทาง ตะวนั ออก เช่น ญี่ป่ ุน จีน ไดท้ าการผลิตโบนไชน่า เช่นกนั นอกจากผลิตภณั ฑด์ งั กล่าวแลว้ ยงั ทา เป็นพวกเครื่องประดบั และเครื่องตกแต่ง สินคา้ พวกน้ีเป็ นผลิตภณั ฑเ์ ครื่องป้ันสีขาวช้นั สูง ราคาจึง ค่อนขา้ งแพงเมื่อเทียบกบั ผลิตภณั ฑ์ชนิดอ่ืนๆ วตั ถุดิบท่ีใชท้ าเคร่ืองป้ันดินเผาชนิดโบนไชน่าทสี่ าคญั คือ เถ้ากระดูก มากท่ีสุด ซ่ึงช่วยใหเ้ กิดการโปร่งแสง หลกั การพจิ ารณาคณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์ ในการคดั เลือกผลิตภณั ฑท์ ีด่ ี พอเป็นแนวทางสาหรับผใู้ ชโ้ ดยทว่ั ไป ตามธรรมดา คนเราในการเลือกซ้ือผลิตภณั ฑเ์ คร่ืองป้ันดินเผา มกั จะมองในรูปทรง สีสนั ก่อนอื่นใด ส่วนราคาอยู่ ในอนั ดบั รอง ในดา้ นคุณภาพเกือบจะไม่สนใจเอาเสียเลย ผซู้ ้ือมกั จะประสบปัญหาเสมอเมื่อซ้ือ มาแลว้ นาไปใชก้ ็เกิดรั่วซึมข้ึนมาในภายหลงั เม่ือนาไปเป็นภาชนะใส่อาหารก็อาจจะเป็นพิษภยั ได้ ในฐานะทเ่ี ราเป็นผบู้ ริโภคสมควรอยา่ งยง่ิ ทีค่ วรระมดั ระวงั ในเรื่องน้ีใหม้ ากมิฉะน้นั อาจเป็น

อนั ตรายแก่ตวั เราและบคุ คลอน่ื ได้ โดยเฉพาะในเร่ืองคุณภาพของผลิตภณั ฑท์ เ่ี ราไม่สามารถ ตรวจสอบดว้ ยตาเปล่าได้ แต่ก็พอมีวิธีการตรวจสอบไดโ้ ดยคร่าวๆ พอเป็นเคร่ืองพสิ ูจน์ คือ 1. ผลิตภณั ฑท์ ่ีทาข้ึนจาหน่ายในทอ้ งตลาดทกุ วนั น้ี เรามกั จะพบวา่ มีท้งั ชนิดเผาในอุณหภมู ิ ต่าและอุณหภูมิสูง ผลิตภณั ฑท์ ่ีเผาอุณหภมู ิต่าน้นั เมื่อเคาะฟังเสียงดู เสียงมกั ดงั ทึบๆ แสดงใหเ้ ห็นว่า เผาไม่ถึงจุดสุกตวั น้าและของเหลวมกั ไหลซึมผา่ นได้ ไมค่ วรนามาเป็นภาชนะใส่อาหาร ถา้ ผลิตภณั ฑท์ ่เี ผาในอณุ หภมู ิสูงแลว้ เคาะฟังเสียงจะดงั กงั วาลแสดงใหเ้ ห็นวา่ ผลิตภณั ฑน์ ้นั เผาถึงจุดสุก ตวั น้าและของเหลวไม่สามารถไหลซึมผา่ นได้ 2. การพสิ ูจน์การทดสอบดว้ ยการใชน้ ้าหมึกหยดลงบนภาชนะทงิ้ ไวส้ กั ครู่หน่ึงแลว้ ใชผ้ า้ หรือกระดาษนุ่มๆ เชด็ ถา้ เป็นผลิตภณั ฑท์ ี่เผาถึงจุดสุกตวั เราจะสงั เกตไดท้ นั ทวี ่าจะสะอาด เหมือนเดิม แต่ถา้ เผาไม่ถึงจุดสุกตวั น้าหมึกจะซึมติดแน่นลา้ งไม่ออก วิธีน้ีร้านคา้ ที่จาหน่ายอาจจะไม่ ยอมใหท้ ดลองกไ็ ด้ 3. ใชข้ องแขง็ ขีด เช่น มีดหรือตะปโู ดยเลือกขีดท่ีกน้ ภาชนะถา้ ขีดไม่เป็นรอย กแ็ สดงว่า ผลิตภณั ฑช์ นิดน้ีเผาถึงจุดสุกตวั เช่นเดียวกนั แต่ถา้ ขีดมีรอยกแ็ สดงว่าเผาไม่ถึงจุดสุกตวั และไม่ควร นามาเป็ นภาชนะใส่อาหาร การผลติ เครื่องป้ันดนิ เผา ( Forming Process ) กรรมวิธีการผลิตหรือการข้ึนรูปเครื่องป้ันดินเผา นบั ว่ามีความจาเป็นและสาคญั อยา่ ง ยงิ่ ผผู้ ลิตจะตอ้ งมีความชานาญ มีความรู้ความเขา้ ใจตลอดจนเทคนิคต่างๆ อยา่ งพอเพียง แต่ละ แบบ แต่ละชนิด รวมไปถึงอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยในการผลิต ซ่ึงมีอยหู่ ลายวธิ ี ดว้ ยกนั คือ 1. วิธีข้ึนรูปแบบวิธีกด ( Press method ) 2. วธิ ีข้ึนรูปแบบรีด ( Extrusion method ) 3. วธิ ีข้ึนรูปทรงต่างๆ ( Shaping method ) 4. วิธีข้ึนรูปดว้ ยวิธีหล่อ ( Casting method )

1. วธิ ีขนึ้ รูปด้วยวธิ ีกด ( Press method ) การผลติ ด้วยวธิ ีนตี้ ้องอาศัยเคร่ืองมือทมี่ ีแรงกด ดนั อดั และนา้ หนกั มาก ได้แก่ เคร่ือง กดออโตเมติก ไฮโดรลคิ มีท้งั ชนิดอตั โนมัติ และแบบ ธรรมดาทใี่ ช้กาลงั คนช่วยอดั กม็ ี โดยเฉพาะ วัตถุดิบทีเ่ ตรียมนามาใช้ในการผลติ มีลกั ษณะเป็ นผงหรือเป็ นฝ่ ุน ( Dry press or Semi - wet press ซึ่งอตั ราส่วนของนา้ ทีใ่ ช้ผสมอยู่ราวประมาณ 5 – 16 % ( ไม่สามารถนวดเป็ นก้อนได้ ) ต้องอาศัย แรงอดั จึงจะเกาะเป็ นรูปได้ แม่พมิ พ์จะต้องสร้างด้วยเหลก็ แขง็ การออกแบบผลติ ภัณฑ์ชนิดนี้ต้อง เป็ นแท่งตัน เป็ นเหลย่ี ม ไม่มีส่วนเว้าและส่วนโค้งมาก จะทาให้ถอดพิมพ์ไม่ออก ผลติ ภัณฑ์ส่วน ใหญ่ ได้แก่ กระเบื้องฝาผนัง การเบื้องปูพื้น อุปกรณ์ไฟฟ้า กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้อง โมเสส ประเภทอฐิ ต่างๆ เช่น อฐิ ประดบั หรือ ตกแต่ง อาจจะเคลือบสีสันให้สวยงาม กรรมวิธีการ ผลติ แบบนีน้ ิยมใช้ในวงงานอตุ สาหกรรม สามารถผลติ ได้ปริมาณมากๆ และมมี าตรฐาน การลงทุน อปุ กรณ์เครื่องมือค่อนข้างสูง 2. การขนึ้ รูปด้วยวธิ รี ีดดิน ( Extrusion method ) ดินทนี่ ามาใชม้ ีลกั ษณะเป็นกอ้ นกลม และไม่แขง็ มากนกั วิธีเตรียมดินโดยผา่ นเคร่ืองอดั ดิน ( Filter Press ) หรืออ่างเกรอะดิน แลว้ นาไปเขา้ เครื่องรีดดินตามรูปแบบท่ีตอ้ งการ เช่น เป็นแท่ง โปร่ง เป็นท่อขนาดต่างๆ กลม เหลี่ยม ตามหวั แบบ เคร่ืองรีดดินโดยทวั่ ไปมี 2 แบบ 1. แบบทีใ่ ชค้ วามดนั ของลมอดั ในการรีดดนิ ( Piston Extrusion ) เน้ือดินที่ตอ้ งมีความละเอยี ด มาก ส่วนใหญ่นิยมใชผ้ ลิตท่อร้อยสาย อปุ กรณ์ไฟฟ้า ต่างๆ เป็นตน้ 2. แบบสว่าน ( Augers ) แต่เป็นเครื่องมือรีดดินขนาดใหญ่ใชใ้ นวงงาน อุตสาหกรรม สามารถผลิตไดใ้ นปริมาณมาก ความเร็วรอบประมาณ 20 – 25 รอบต่อนาที ( R.P.M. ) เช่น อิฐทนไฟชนิดเน้ือดินมีความเหนียวมาก การผลิตอิฐโปร่ง ทก่ี าลงั เป็นที่นิยมในการก่อสร้าง 3. วธิ ขี นึ้ รูปทรงต่างๆ ( Shaping method ) หมายถึง การข้ึนรูปโดยวธิ ีใชม้ ือ ( Hand Forming ) และเป็นที่นิยมใชส้ ่วนใหญ่ในโรงเรียน ไดแ้ บง่ วธิ ีการข้ึนรูปหลายวธิ ีดว้ ยกนั คือ

3.1 การข้ึนรูปแบบอสิ ระ ( Free form method ) 3.2 การข้ึนรูปแบบแผน่ ( Slab method ) 3.3 การข้ึนรูปแบบขด ( Coil method ) 3.4 การข้ึนรูปแบบแป้นหมุน ( Throwing method ) 3.5 การข้ึนรูปแบบใบมีด ( Jigger method ) 3.6 การข้ึนรูปแบบใชพ้ ิมพก์ ด ( Hand press method ) 3.1 การขนึ้ รูปแบบอสิ ระ ( Free form method ) การข้ึนรูปแบบอิสระ เป็ นแบบที่ง่ายและสะดวกมากเหมาะสมอยา่ งยง่ิ วิธีหรือหลกั การเบ้ืองตน้ ใน การข้ึนรูปเครื่องป้ันดินเผาจะเป็ นการเปิ ดโอกาสให้สร้างสรรค์ผลงานตามที่ตนเองถนดั โดยอาศยั เคร่ืองมือเพยี งเลก็ นอ้ ย วิธีข้ึนรูปแบบอิสระมีอยู่ 2 วธิ ีดว้ ยกนั คือ ก. เม่ือนวดดินไดท้ ่ีแลว้ ทาดินเป็นกอ้ นกลมมีขนาดโตตามความเหมาะสมแลว้ ใชห้ วั แม่มือบบี ดินกด ดินใหเ้ ป็นรูปทรงตามตอ้ งการ และพยายามป้ันใหไ้ ดค้ วามหนาใกลเ้ คียงกนั แลว้ ใชเ้ ครื่องมือขูดตกแตง่ ให้เรียบร้อย ส่วนไหนจะทาเป็นหูจบั หรือส่วนประกอบอ่ืนๆ ควรรอให้ดินหมาดเสียก่อน เพราะจะ ช่วยใหก้ ารทรงตวั ไดด้ ี เสร็จแลว้ ปล่อยใหแ้ หง้ ตามหลกั วิธีการ แลว้ จึงตกแต่งใหเ้ รียบร้อย ข. นาดินที่นวดไดท้ ี่แลว้ โดยทาเป็ นกอ้ นกลม เหล่ียม รูปทรงกระบอกตามที่เห็น สวยงาม แลว้ ใช้เครื่องมือขุดเจาะให้กลวงมีความหนาใกลเ้ คียงกนั ปล่อยให้แห้งแลว้ ตกแต่งให้ เรียบร้อย ควรแนะนาใหร้ ู้จกั การทาขาหรือกน้ เพือ่ สะดวกเวลานาไปเคลือบ จะช่วยใหผ้ ลิตภณั ฑไ์ ม่ ติดกบั ช้นั วาง ทาใหผ้ ลิตภณั ฑม์ ีความเรียบร้อย สวยงามดีข้ึน 3.2 การขนึ้ รูปทรงแบบแผ่น ( Slab method ) การข้ึนรูปทรงแบบแผน่ เหมาะสาหรับผลิตภณั ฑท์ ่ีออกแบบมีลกั ษณะเป็นเหลี่ยมหรือ รูปทรงแปลกๆ วธิ ีทา ในข้นั แรกใชเ้ คร่ืองมือลูกกลิง้ รีดดินใหเ้ ป็นแผน่ บนแผน่ ปูนปลาสเตอร์หรือ แผน่ ไมอ้ ดั ที่มีผา้ ใบหุม้ ความหนาของแผน่ ทีร่ ีดข้ึนอยกู่ บั ภาชนะท่ีจะทา แลว้ ใชเ้ คร่ืองมือตดั ดินตาม

รูปแบบที่ตอ้ งการ แลว้ นาไปประกอบกนั เขา้ โดยรอใหด้ ินหมาดๆ เสียก่อน ใชน้ ้าลสิปเป็ น ตวั ประสานรอยต่อ ในขณะทขี่ ้ึนรูปทรงดินอาจจะยงั ไม่ทรงตวั ดี ควรใชเ้ ศษดินค้ายนั รอใหท้ รงตวั ได้ ดีเสียก่อนจึงค่อยนาออก โดยเฉพาะผลิตภณั ฑ์ท่ีมีรูปทรงเป็ นเหลี่ยมหรือกลม เวลาผ่ึงให้แห้งควรคว่าไวบ้ น แผ่นปูนพลาสเตอร์ เพ่ือป้องกันการบิดเบ้ียว แต่ถา้ ภาชนะมีฝาควรประกบกนั ถา้ แยกออกจากกนั แลว้ เมื่อดินหดตวั ทาใหบ้ ิดเบ้ยี วไดง้ ่าย 3.3 การขนึ้ รูปแบบขด ( Coil method ) การข้ึนรูปแบบน้ีเป็ นที่นิยมแพร่หลายเข่นกนั สามารถข้ึนรูปต้งั แต่ชิ้นงานขนาดเลก็ จนถึงโอ่งน้าขนาดใหญ่ มนุษยเ์ ราไดร้ ู้จกั วธิ ีทาแบบน้ีกนั มานานแลว้ วธิ ีข้ึนรูปในข้นั แรก ทบุ ดิน บบี ดินให้เป็ นแผ่น ใชเ้ ครื่องมือตดั ให้เป็ นแผ่นกลมหรือสี่เหลี่ยมตามตอ้ งการ แลว้ คลึงดินให้เป็ นเส้น กลมยาว มีขนาดเลก็ หรือโตตามความเหมาะสมของภาชนะท่ีป้ัน นาไปขดบนแผน่ ท่ีเตรียมไว้ โดย ใชน้ ้าสลิป ( น้าดิน ) ประสานรอยต่อใชม้ ือบีบหรือกดดินให้เขา้ กนั แน่นสนิท ทาเช่นน้ีเรื่อยไปจนสูง พอกบั ความตอ้ งการ แลว้ แต่งผวิ ให้เรียบร้อยแลว้ ปล่อยใหแ้ หง้ ถา้ เป็ นภาชนะขนาดใหญ่ควรปล่อย ใหแ้ หง้ อยา่ งชา้ ๆ มิฉะน้นั จะแตกร้าวไดง้ ่าย ในการข้ึนรูปทรงกลม จะเป็ นแจกนั หรือภาชนะต่างๆ ควรแนะนาให้รู้จกั วิธีการสร้าง แบบ ( Template ) เป็นเครื่องมือช่วยตรวจสอบใหร้ ูปทรงกลมตามตอ้ งการ ในข้นั แรกควรออกแบบ ผลิตภณั ฑแ์ ละรูปทรงโดยการใชก้ ระดาษแข็งหรือแผ่นโลหะบางๆ ใชม้ ีดหรือกรรไกรตดั ตามรูปแบบ ท่ีไดอ้ อกแบบไว้ กจ็ ะไดแ้ บบ ( Template ) ตามตอ้ งการ แลว้ นาไปใชป้ ระกอบในการป้ัน 3.4 การขนึ้ รูปแบบแป้นหมนุ ( Throwing method ) การข้ึนรูปด้วยแป้นหมุน เป็ นการข้ึนรูปแบบทรงกลมโดยอาศัยเคร่ืองมือแป้น หมุน ในสมยั โบราณเป็นชนิดแป้นหมุนใชแ้ รงคนถีบ แต่ต่อมาไดว้ ิวฒั นาการใชก้ าลงั ไฟฟ้า มีท้งั ชนิดแบบยืน แบบน่งั ความเร็วที่ใช้ 2 – 3 จงั หวะ ความเร็วรอบของแป้นหมุนที่เป็ นมาตรฐาน ประมาณ 80 รอบต่อนาที โดยเฉพาะดินที่นามาป้ันตอ้ งเป็นดินชนิดทม่ี ีความเหนียวจึงจะช่วยใหก้ าร

ข้ึนรูปไดผ้ ลดี การขน้ รูปแบบแป้นหมุนต้องอาศยั การฝึ กฝนและทกั ษะพอสมควร จึงจะ สามารถข้ึนรูปไดด้ ี 3.5 การขนึ้ รูปแบบใช้ใบมดี ( Jigger ) การข้ึนรูปแบบใบมีด เป็ นการผลิตแบบมาตรฐานและสามารถผลิตได้จานวน มาก รวดเร็ว ส่วนใหญ่ไดแ้ ก่ จาน ชาม ถว้ ย วธิ ีผลิต ตอ้ งอาศยั พมิ พ์ และใบมีดตามลกั ษณะรูปร่าง ของผลิตภณั ฑ์ กรรมวิธีการผลิตอาศยั แป้นหมุนท่ีมีความเร็วสูง ( 120 รอบ ต่อนาที ) มีแขนสาหรับ ใ บ ใ บ มี ด พิ ม พ์ ที่ เ ป็ น แ บ บ ท า ด้ว ย ปู น พ ล า ส เ ต อ ร์ มี ท้ัง แ บ บ ภ า ย น อ ก ( Outside ) เช่น ประเภท จาน แบบภายใน ( Inside ) เช่น ประเภท ถ้วย เป็ นต้น ใบมีดสร้างดว้ ยเหล็ก แข็ง ใชข้ ูดดินตามรูปร่างของพิมพ์ วิธีการข้ึนรูปถา้ เป็นการข้ึนรูปแบบภายนอก เตรียมดินเป็นแผน่ แลว้ อดั ไปบนแบบพมิ พ์ เมื่อเวลาหมุนใบมีดจะทาหนา้ ทีข่ ดู ไปตามรูปร่างของแบบพมิ พ์ วิธีการข้ึนรูปแบบภายใน เตรียมดินเป็นกอ้ นกลม แลว้ อดั ลงไปในแบบพมิ พท์ ี่เตรียม ไวใ้ ชใ้ บมีดกดลงไปในแบบในขณะทีห่ มุนดินจะถูกอดั ตามแบบ ก็จะไดถ้ ว้ ยตามตอ้ งการ ในการข้ึนรูปแบบจิกเกอร์ควรใชน้ ้าเข้าช่วยในการทาด้วย เพราะจะช่วยทาให้ผิว ของดิดเรียบร้อยดี พิมพท์ ่ีใชใ้ นการผลิตแบบใบมีด ควรมีหลายพิมพแ์ ละจานวนมากเพียงพอ และ พิมพค์ วรแห้งสนิท แม่พิมพท์ ่ีใชใ้ นการผลิตพิมพส์ ร้างดว้ ยปูนพลาสเตอร์ เช่นเดียวกัน เวน้ แต่ว่า แม่พมิ พไ์ ม่ตอ้ งการใหด้ ูดน้า ทาดว้ ยแลคเกอร์หรือแชลแลคเพือ่ ช่วยในการผลิตพิมพไ์ ดร้ วดเร็วข้ึน 3.6 การขนึ้ รูปแบบใช้พมิ พ์กด ( Hand Pressing ) การขึน้ รูปแบบพมิ พ์กด ชนิดใช้มือกดต้องอาศัยพมิ พ์ชนิดทท่ี าด้วยปูนพลาสเตอร์แบบชิ้นเดียวหรือ สองชิ้น ดินท่ีนามาใช้ในการกดพมิ พ์ ต้องนวดให้เป็ นแผ่นและใช้เครื่องมือตัดตามรูปร่างของแบบท่ี จะพมิ พ์ แล้วนาไปกดในพมิ พ์ปล่อยทงิ้ ไว้ให้แห้งกจ็ ะได้แบบพมิ พ์ตามต้องการ พิมพ์ชนิดสองชิ้น ใช้วิธีเดียวกันแต่เมื่อดินร่อนออกจากแบบเรียบร้อยแลว้ นาไป ประกอบเขา้ ดว้ นกนั โดยใชส้ ลิปเป็นตวั ประสาน ก็จะไดร้ ูปทรงตามตอ้ งการ พมิ พท์ ่ใี ชใ้ นการกด

พมิ พค์ วรตากใหแ้ หง้ สนิท จะช่วยใหส้ ะดวกในการกดพมิ พ์ การทาความสะอาดพิมพค์ วรใช้ ฟองน้าเชด็ ห้ามนามดี หรือเครื่องมือขูดออก เพราะจะทาใหแ้ ม่พมิ พเ์ ป็นรอยเสียหายไดง้ ่าย 4. วธิ ีขนึ้ รูปแบบวธิ หี ล่อ ( Casting ) การหล่อสลิปแตกต่างกว่าท่ีกล่าวมาแลว้ ในหลายวธิ ี ซ่ึงตอ้ งอาศยั พิมพซ์ ่ึงทาดว้ ยปูนพ ลาสเตอร์เป็ นหลกั และเป็นตวั ดูดน้าในสลิปให้แห้งและคงรูปตามพมิ พ์ การผลิตดว้ ยวธิ ีหล่ดสลิปน้ี สามารถผลิตงานเหมือนกนั เท่ากนั แบบพิมพช์ ิ้นหน่ึงๆ ในวนั หน่ึงอาจผลิตไดไ้ ม่มากนกั เนื่องจาก พิมพ์มีความช้ืนมากจากการหล่อน้ าสลิป การหล่อสลิปในระยะแรกๆ อตั ราการดูดซึมน้าได้ รวดเร็ว แต่ในระยะหลงั อตั ราการดูดน้าจะชา้ ลงตามลาดบั การหล่อสลปิ ทนี่ ยิ มทากนั มี 2 วธิ ี คือ 1. การหล่อสลิปแบบกลวง ( Drain Casting ) หมายถึง การหล่อเมื่อได้ความหนา พอสมควรของผลิตภณั ฑ์ ก็เทน้าดินออกจากพิมพ์ เทคนิคในการเทสลิปตอ้ งค่อยๆ เทและควา่ ไวจ้ น หมดสลิปในแบบ มิฉะน้นั จะทาใหผ้ วิ ภายในขรุขระ พิมพท์ ่ีใชอ้ าจจะเป็ นพิมพช์ ิ้นเดียวหรือหลายๆ ชิน้ กไ็ ด้ 2. การหล่อสลิปแบบตนั ( Solid Casting ) หมายถึง การหล่อสลิปลงในพิมพใ์ หเ้ ป็นแท่ง ตนั ขอ้ แตกต่างกนั กค็ ือ จะตอ้ งทาแบบพมิ พไ์ ม่เหมือนกนั กบั แบบกลวง พิมพแ์ บบน้ีจากดั ความหนา ของผลิตภณั ฑไ์ ด้ นิยมใชใ้ นการหล่อจานเปล เครื่องสุขภณั ฑต์ ่างๆ พิมพท์ ่ีใชใ้ นการหล่อสลิป ควรตากให้แห้งสนิทจะช่วยในการดูดซึมน้าไดด้ ี ผลิตภณั ฑท์ ี่จะนาออก จากแบบพิมพ์ ขอ้ ที่สงั เกตที่ปากพมิ พด์ ินจะร่อนออกโดยรอบ แลว้ ใชค้ อ้ นยางเคาะเบาๆ ก็จะช่วยให้ ผลิตภณั ฑร์ ่อนออกไดด้ ี

เคร่ืองมือป้ัน เครื่องมือท่ีจาเป็นในการทาเคร่ืองป้ันดินเผา ควรมีดงั น้ี คือ 1. เคร่ืองมือป้ัน 1 ชุด ประกอบดว้ ยเครื่องมือต่าง ๆ ดงั น้ี 1.1 เคร่ืองมือตกแต่งผวิ ทาดว้ ยไม้ ปลายท้งั สองขา้ งมีลกั ษณะแบน กลม แหลม และชนิด ขรุขระก็มี มีประโยชนใ์ ชส้ าหรับตกแต่งผวิ ใหเ้ รียบและขรุขระตามตอ้ งการ เครื่องมือชนิดน้ีทาข้ึน ใชเ้ องกไ็ ด้ โดยมีขนาดความยาวประมาณ 6 นิ้ว 1.2 เครื่องขูดดิน ดา้ มทาดว้ ยไมต้ อนปลายท้งั สองขา้ งใชล้ วดโคง้ เป็นวงรีและอกี ดา้ นหน่ึงมี ลกั ษณะปลายตดั มีหลายขนาดใชส้ าหรับขดู ดิน แต่งผวิ ขูดความหนาของผลิตภณั ฑใ์ หส้ ม่าเสมอ กนั และแต่งผวิ ใหเ้ รียบตามตอ้ งการ 1.3 เคร่ืองมือขูดดินมีคม ทาดว้ ยโลหะบางสาหรับขูดผวิ แต่งผวิ ใหม้ ีรูปทรงตาม ตอ้ งการ ตลอดจนแต่งกน้ ผลิตภณั ฑใ์ หเ้ รียบ 2. เคร่ืองมือตกแต่งผลติ ภณั ฑ์ ทาดว้ ยเหลก็ เป็นแป้นกลมหมุนไดร้ อบตวั เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง ประมาณ 12 นิ้ว สูง 6 นิ้ว ฐานกลมรับน้าหนกั ได้ มีประโยชน์ใชต้ กแต่งผลิตภณั ฑ์ ตีเส้นรอ บวงและใชใ้ นการตกแต่งดว้ ยสี หรือใชใ้ นการข้ึนรูปต่าง ๆ ขอ้ แนะนาในการเลอื กซ้ือเคร่ืองมือ ประเภทน้ี ควรมีน้าหนกั พอสมควร มีความคล่องตวั ทแ่ี กนควรมีลูกปื น ทาใหห้ มุนได้ คล่องตวั เครื่องมือชนิดน้ีตอ้ งระวงั อยา่ ใหเ้ ป็นสนิม เม่ือใชแ้ ลว้ ควรทาความสะอาดใหเ้ รียบร้อย 3. แผ่นปนู ปลาสเตอร์ ใชป้ ระโยชน์เวลาข้ึนรูปต่าง ๆ รองผลิตภณั ฑข์ ณะทป่ี ้ัน ช่วยทาใหแ้ หง้ เร็ว ทาไดโ้ ดยหล่อปนู ปลาสเตอร์ในถาดพลาสตกิ กลม ความหนาประมาณ 1 นิ้ว ส่วน เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางแลง้ แต่ความตอ้ งการ เป็นเครื่องมือท่ีใชเ้ ป็นประจาในการทาเคร่ืองป้ันดินเผา 4. ตู้เกบ็ ผลติ ภณั ฑ์ ควรออกแบบเป็นตูไ้ มท้ บึ ภายในมีหลายช้นั ความสูงของช้นั ไม่ควร เทา่ กนั ภายในกรุดว้ ยฟอร์ไมกา้ เพ่ือป้องกนั ไม่ใหค้ วามช้ืนระเหยเร็ว มีประโยชน์ใชเ้ กบ็ ผลิตภณั ฑ์ ทปี่ ้ันยงั ไม่เสร็จ ถา้ ไม่มีอาจใชผ้ า้ คลุมหรือถุงพลาสติกคลุมก็ได้ ตูเ้ ก็บผลิตภณั ฑน์ ้ีอาจเกบ็ ดินสาหรับ ไวป้ ้ันในคราวต่อไปได้ ช่วยใหห้ อ้ งปฏิบตั ิงานเรียบร้อย

5. อ่างปูนปลาสเตอร์ มีประโยชน์ ใชส้ าหรับเกรอะดิน มีความจาเป็นมากสาหรับโรงเรียน ขนาด ของอา่ งปนู ควรออกแบบใหส้ ามารถยกได้ ความหนาของอา่ งประมาณ 2 นิ้ว เพื่อป้องกนั การ กระแทกแรง ๆ และดูดน้าไดด้ ี 6. โต๊ะนวดดนิ ควรออกแบบใหใ้ ชง้ านไดห้ ลายอยา่ ง เช่น ช้นั บนใชน้ วดดิน ช้นั ล่างเกบ็ ดิน โตะ๊ นวดดินท่ีดีควรแบ่งที่นวดเป็ นสองตอน คือ นวดบนปูนปลาสเตอร์ และนวดบน ไม้ และควรมีลวดขึงสาหรับตดั ดินตรวจสอบดินใชไ้ ดห้ รือไม่ 7. โต๊ะปฏบิ ตั ิงาน ควรเป็นโตะ๊ ขนาดใหญ่ ควรปูดว้ ยฟอร์ไมกา้ กนั น้าซึมและสามารถทาความ สะอาดไดง้ ่าย โต๊ะควรมีลิน้ ชกั และตูเ้ ก็บผลงาน 8. ถงั และอ่างนา้ ควรมีหลายขนาด ใชแ้ ช่ดิน เกบ็ ดิน ใส่น้าเคลือบ ลา้ งเครื่องมอื และควรเป็น ถงั พลาสติกไม่เป็นสนิมถา้ มีฝาปิ ดดว้ ยยง่ิ ดี เพราะวตั ถุดิบบางอยา่ งตอ้ งการเกบ็ มิดชิดไม่ใหน้ ้าระเหย 9. ขวดเกบ็ นา้ เคลอื บ มีไวส้ าหรับใส่น้าเคลือบ และควรเป็นขวดทม่ี ีฝาปิ ดเรียบร้อยกนั น้าระเหย ได้ เพราะน้าเคลือบบางชนิดเมื่อเติมน้าไดท้ แี่ ลว้ กไ็ ม่ตอ้ งการเติมน้าอีก หรือมีหลายชนิดหลาย สี การเกบ็ ควรเกบ็ ใหม้ ีระเบียบและควรมีป้ายบอกวา่ สีอะไร เผาอณุ หภูมิเท่าไร เป็นตน้ 10. พ่กู นั มีประโยชนส์ าหรับตกแต่งผลิตภณั ฑ์ เขียนลวดลายต่างโดยใชส้ ีประเภทใต้ เคลือบ หรือ บนเคลือบ ควรมีหลายขนาดต้งั แต่เบอร์ 0 – 12 ควรเลือกพกู่ นั ชนิดอมุ้ น้าไดด้ ี 11. โกร่งบด มีประโยชน์สาหรับบดน้าเคลือบ ทาดว้ ยปอร์สเลนเผาไฟสูงและแขง็ มาก ขนาด เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 10 – 12 นิ้ว ใชบ้ ดน้าเคลือบต่าง ๆ 12. ตะแกรงร่อน ใชป้ ระโยชน์สาหรับกรองน้าเคลือบและเน้ือดิน ควรมีเบอร์ขนาดต่าง ๆ 50 – 80 และ 120 13. เครื่องช่ัง ใชป้ ระโยชน์สาหรับชงั่ วตั ถุดิบและออ๊ กไซดต์ ่างของน้าเคลือบควรใชช้ งั่ แบบ Balance และชง่ั ไดป้ ระมาณ 2 กิโลกรัม 14. เตา ทใี่ ชม้ ีหลายแบบหลายชนิดหลายขนาด เช่น เตาฟื น เตาไฟฟ้า เตาน้ามนั ( ถา้ ใชเ้ ตา ฟื นเตาน้ามนั ตอ้ งมีจอ้ ดว้ ย ) 15. ขาวางผลติ ภณั ฑ์ ใชป้ ระโยชนส์ าหรับวางผลิตภณั ฑเ์ วลาเคลือบ

การเตรียมเนื้อดินป้ัน Body Clay การเตรียมเน้ือดิน หมายถึง การผสมดินเขา้ ดว้ ยกนั โดยการผสมดินกบั วตั ถุดิบอย่าง อืน่ โดยมีเป้าหมายทแี่ น่นอนที่จะทาผลิตภณั ฑ์ชนิดใด ท้งั น้ีเพอ่ื ที่จะใหเ้ น้ือดินมีคุณสมบตั ิท่ีถูกตอ้ ง และมีคุณภาพทดี่ ี ตามความตอ้ งการ วตั ถุดิบที่พบในธรรมชาติโดยทว่ั ไปมีหลายชนิด วตั ถุดิบบางชนิดมีความเหมาะสมที่จะ ผลิตผลิตภัณฑ์ชนิดใดชนิดหน่ึงก็ได้ โดยท่ีไม่ต้องผสมกับวัตถุดิบชนิดอื่นให้สิ้นเปลือง ซ่ึง ขอ้ เทจ็ จริงดงั กล่าวนบั ว่าเป็ นความเหมาะสมโดยธรรมชาติหรือโดยบงั เอิญ แต่ถา้ นาดินไปผสมกบั วตั ถุดิบอย่างอ่ืนหรือเน้ือดินท่ีแตกต่างกันดงั กล่าว เพื่อตอ้ งการปรับปรุงคุณภาพของเน้ือดินใหม้ ี คุณสมบตั ิดีข้ึน เช่น การควบคุมการหดตวั ของดิน ( Shrinkage ) การเพิ่มความเหนียวใน เน้ือดิน ( Plasticity ) ต้องการผลิตภัณฑ์ชนิดสี ขาว ( White ware bodies ) ต้องการความโปร่ งแสง ( Translucent ) ต้องการผลิตภัณฑ์เน้ื อหยาบหรื อเน้ื อ ละเอียด หรื อผลิตภัณฑ์ชนิดที่ทนต่อการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วประเภทภาชนะต้ังไฟ ( Thermal proporties ) เหล่าน้ีเป็ นตน้ จะตอ้ งมีการเตรียมและทดสอบเน้ือดินทุกคร้ังเพื่อ ความเหมาะสมดงั กล่าว วตั ถุประสงค์การเตรียมเนื้อดนิ โดยธรรมดาแลว้ ในทางปฏิบตั ิ เราถือกนั ว่าเป็ นส่ิงจาเป็นและสาคญั อยา่ งยิ่ง การเตรียม ดิน การข้ึนรูป การเผาดิบและเผาเคลือบ ตลอดจนการตกแต่งดว้ ยสี ตามลาดบั ผผู้ ลิตจะตอ้ งวาง หลกั การอนั แน่นอนว่าจะทาผลิตภณั ฑป์ ระเภทใด ชนิดใด และปรับปรุงคุณสมบตั ิอยา่ งไร จึงจะ เหมาะสม วตั ถุประสงคใ์ นการเตรียมเน้ือดินมีหลกั เกณฑด์ งั ต่อไปน้ี 1. เพ่ือตอ้ งการปรับปรุงสีของเน้ือดิน 2. เพ่ือต้องการให้เน้ือดินมีความเหนียวมากข้ึน หรื อต้องการความเหนียวไม่มาก นกั เช่นการข้ึนรูปดว้ ยแป้นหมุนตอ้ งการเน้ือดินทม่ี ีความเหนียวมาก เป็นตน้ 3. เพอื่ ตอ้ งการควบคุมการหดตวั ของเน้ือดิน เพือ่ ไม่ใหแ้ ตกร้าวและบดิ งอ

4.เพือ่ ตอ้ งการลดอุณหภูมิของเน้ือผลิตภณั ฑไ์ ม่ใหส้ ูงมากนกั ทาใหป้ ระหยดั ค่าใชจ้ ่าย ( ค่าเช้ือเพลิง ) 5.เพ่ือตอ้ งการใหเ้ น้ือดินมีความเหมาะสมกบั น้าเคลือบ ซ่ึงจะใหเ้ คลือบไม่ราน เนื้อดนิ ป้ันชนิดต่าง ๆ การเตรียมเน้ือดินป้ัน มีมากมายหลายชนิด บางชนิดตอ้ งเผาในอุณหภูมิสูง แต่บางชนิด เผาในอุณหภูมิไม่สูงมากนัก การกาหนดคุณสมบตั ิที่สาคญั เพื่อเป็ นแนวทางในการปฏิบตั ิ การ เตรียมดินชนิดต่าง ๆ ตามตอ้ งการ เช่น เนื้อดนิ ชนิดเอทิ เท่นแวร์ ( Earthen Ware ) เน้ือดินเอิทเท่นแวร์ เป็ นผลิตภณั ฑ์ท่ีเผาในอุณหภูมิไม่สูงมากนัก อุณหภูมิไม่สูงมาก นัก อุณหภูมิไม่เกิน 1,190 องศาเซลเซียส cone 6 เน้ือดินจะมีความพรุนตวั บา้ ง ใชด้ ิน เหนียวธรรมดาท่พี บทว่ั ไปผสมทรายหรือดินเช้ือบา้ ง เพ่อื แกไ้ ขปัญหาการแตกร้าว ดินชนิดน้ี ข้ึนรูปดว้ ยแป้นหมุน ( Throwing ) นับว่าเหมาะสมดี ดินชนิดน้ีส่วนมากมีเปอร์เซนต์ของ เหลก็ สูง มกั จะเป็นสีแดง สีน้าตาลออ่ นหรือเขม้ และมีความทนไฟไม่สูงมากนกั การเตรียมดินป้ันชนิดเอิทเท่นแวร์ ตามธรรมดาพวกที่ทาเคร่ืองป้ันดินเผามกั นิยมใชด้ ินใน ทอ้ งถิ่นของตนเอง เพราะสะดวกในการนามาผลิต ลดตน้ ทุนค่าใชจ้ ่ายไดด้ ี สิ่งท่ีจาเป็ นท่ีควร ทดสอบในข้นั แรก คือการทดสอบการหดตวั ของดิน การดูดซึมน้า ตลอดจนความเหนียวซ่ึงเป็น การช่วยใหผ้ ผู้ ลิตทราบอุณหภมู ิทีเ่ หมาะสมในการทาผลิตภณั ฑน์ ้นั ๆ วธิ ีการปรับปรุงเนื้อดนิ ควรมหี ลกั เกณฑ์ดงั นี้ 1. ถา้ ดินทนี่ ามาผลิตมีความทนไฟสูง ซ่ึงจะทาใหเ้ น้ือดินมีความแขง็ แกร่งไม่ เพียงพอ ควรเติมวตั ถุดิบประเภทท่ีช่วยหลอมละลายลงไปบา้ ง ( Flux ) เช่น เหลก็ ออกไซด์ , ทลั ค์ ( Talc ) ,หรือ ฟริต ( Frit ) เพือ่ แกป้ ัญหาดงั กล่าวได้ 2. ถา้ เป็นหินชนิดทีม่ ีจุดหลอมตวั ต่า ผลิตภณั ฑส์ ่วนมากจะมีรูปบิดเบ้ียว งอโคง้ ทาให้ เสียรูปทรงไม่น่าใช้ ควรเติมวตั ถุดิบชนิดท่ีมีความทนไฟสูงข้ึน เช่นดินขาว Kaolin

ดินสโตนแวร์ ( Stone ware ) , หินฟรินท์ ( Frint ) ดินเช้ือ ( Grog ), และประเภท ดินทนไฟ 3. ถา้ ดินมีความเหนียวมาก การหดตวั ของดินจะมีมากเช่นกนั ทาใหม้ ีการแตกร้าว มาก ควรเติมวตั ถุดิบประเภทท่ไี ม่มีความเหนียว เช่น ดินขาว ( Kaolin ), หินแก้ ( Frint ดินเช้ือ 4. ถา้ ดินไม่เหนียว ยากแก่การข้ึนรูปทรง ควรเติมวตั ถุดิบทมี่ ีความเหนียว เช่น ดินบอล เคลย์ ( Ball clay ),ดินเบนโทไนท(์ Bentonite ) 5. ถา้ สีของเน้ือดินไม่เหมาะหรือเป็นทพี่ อใจ วิธีแกไ้ ข อาจเติมประเภทออกไซด์ มาก หรือนอ้ ยจะทาใหเ้ กิดสีต่างๆตามความตอ้ งการการปรับปรุงส่วนผสมของเน้ือดิน จะเป็นการช่วยให้ การปรับปรุงคุณภาพของเน้ือดินใหเ้ หมาะสมยง่ิ ข้ึน การเตรียมเน้ือดินป้ันถึงแมจ้ ะไม่ใช่ดิน แดง Red clay ) ก็อาจใชด้ ินชนิดอ่ืนกไ็ ด้ เนื้อดนิ ป้ันชนดิ สโตนแวร์ ( Stone ware ) เป็นเน้ือดินทเ่ี ผาถึงจุดสุกตวั (Vitreous) ส่วนใหญ่เป็นสีเทาอ่อน สีเทาเขม้ สี น้าตาล อณุ หภมู ิที่ใชใ้ นการเผาประมาณ 1,190-1,390 องศาเซลเซียส ( cone 6 - 14 มี คุณลกั ษณะแขง็ แกร่งเป็นพเิ ศษ น้าและของเหลวไหลซึมผา่ นไม่ได้ เน้ือดินชนิดสโตนแวร์เผาไฟสูง มาก เน้ือดินมีความเหนียวดีมากและค่อนขา้ งหยาบ วตั ถุดิบส่วนใหญ่ด้งั เดิมใชด้ ินตามแหล่ง ธรรมชาติ มกั เป็นสีค่อนขา้ งแดง การเตรียมเน้ือดินป้ันผลิตภณั ฑ์สโตนแวร์ เป็นผลิตภณั ฑท์ ่เี ผาไฟในอุณหภูมิค่อนขา้ ง สูง มีผนู้ ิยมเตรียมข้ึนเอง และนิยมใชห้ ินฟันมา้ ( Feldspar ) เป็นส่วนผสมช่วยใหเ้ กิดหลอม ละลาย ( Flux ) และช่วยใหช้ ่วงการเผายาวไดด้ ี บางชนิดเน้ือดินใชด้ ินเช้ือ ( Grog )ผสมลง ไปบา้ ง ถา้ ไม่มีดินประเภทสโตนแวร์เคลยส์ ามารถใชส้ ่วนผสมของเน้ือดินโดยใช้ ดิน Kaolin ดินบอลเคลย์ หินฟันมา้ หินแกว้ และออกไซดข์ องเหลก็ ซ่ึงทาใหเ้ กิดสีน้าตาล เหมือนธรรมชาติ

เน้ือดินสโตนแวร์ดูดน้าประมาณ 3 % เป็นอยา่ งมาก ฉะน้นั ของเหลวไม่สามารถไหล ซึมผา่ นไดเ้ ลย เนื้อดนิ ป้ันปอร์สเลน ( Porcelain ) เป็ นเน้ือดินป้ันที่เผาถึงจุดสุ กตัว ( Vitrious ware ) เหมือนผลิตภัณฑ์สโตน แวร์ แต่เน้ื อดิ นละเอียดกว่า สี ขาว มีความโปร่ งแสง ( Translucent ) เผาใน อุณหภูมิ 1,250 องศาเซลเซียสข้ึนไป (cone 9 ) เน้ือดินส่วนใหญ่ประกอบด้วย ดิน ขาว Kaolin or white clay ) , หินฟันม้า ( Feldspar ) , หินแก้ว Flint และ ดินเหนียวขาว ( Ball clay ) ผสมกันตามสัดส่วน การเตรี ยมเน้ือดินค่อนข้างยุ่งยาก มี กระบวนการหลายข้นั หลายตอน และโดยเฉพาะดินขาว ( Kaolin ) ไม่ค่อยมีความเหนียว ซ่ึง จาเป็ นจะต้องหาดินชนิ ดอื่นเข้าช่วยผสมด้วย การทาผลิตภัณฑ์ส่ วนใหญ่ใช้วิธี หล่ อใน พมิ พ์ Casting ) ส่วนผสมของเน้ือดินปอร์สเลนโดยประมาณทว่ั ๆ ไป จะใชด้ ิน 5 ส่วน หินฟันมา้ ประมาณ 3 ส่วน หินแกว้ ประมาณ 2 ส่วน แลว้ นามาผสมบดเขา้ ดว้ ยกนั จากรายการส่วนผสม ดงั กล่าว จะเห็นไดว้ ่า เน้ือดินน้นั จะประกอบดว้ ยดินขาว ( Kaolin ) กบั ดินบอลเคลย์ ( Ball clay ) ซ่ึงจะช่วยใหผ้ ลิตภณั ฑม์ ีสีขาว และมีความเหนียวพอข้ึนรูปได้ หลกั การสาคญั อยู่ ที่วา่ ดินท่นี ามาน้นั ตอ้ งลา้ งและบดใหล้ ะเอียดเสียก่อน โดยผา่ นเครื่องแยกเหลก็ เนื่องจากดินขาว บางแหล่งมีเปอร์เซนตข์ องเหลก็ สูง จะทาใหส้ ีไม่ค่อยขาวนกั ถา้ ส่วนผสมของเน้ือดินมีความเหนียว ไม่พอ ควรเพมิ่ ดินบอลเคลยผ์ สมลงไป เน้ือดินปอร์สเลนถา้ เติมประเภท Whiting หรือหิน โดโลไมท์ ( Dolomit ) ประมาณ 1 – 2 % จะช่วยลดอณุ หภูมิลงไดบ้ า้ ง การนาผลิตภณั ฑช์ นิดปอร์สเลนไปเผาไฟ ในลกั ษณะที่เป็นการเผาแบบ Oxidation เน้ือ ดินมกั จะเป็นสีครีมไม่ขาวมากนกั แต่ถา้ เป็นการเผาแบบ Reduction เหลก็ ทม่ี อี ยใู่ นเน้ือดิน บา้ ง จะทาใหเ้ น้ือดินเกิดเป็นสีขาวนวลเน้ือดินปอร์สเลน ส่วนใหญ่นิยมนาไปหล่อในพิมพ์ หรือข้ึน รูปดว้ ยใบมีด ( Jigger ) การข้ึนรูปดว้ ยวิธีแป้นหมุน จะตอ้ งผสมเน้ือดินใหเ้ หนียวมากข้ึนอกี โดย เพม่ิ ดินเบนโทไนท์

เนื้อดนิ ชนิดโอเว่นพรู๊ฟ ( Oven proof Bodies ) เป็ นเน้ื อดินที่เตรี ยมข้ึนเป็ นพิเศษ เป็ นผลิตภัณฑ์ท่ีเกี่ ยวกับภาชนะการหุ งต้ม โดยตรง วตั ถุประสงค์เพ่ือนาไปต้งั ไฟให้อาหารร้อนอยตู่ ลอดเวลา โดยเฉพาะเน้ือดินชนิดน้ีตอ้ งไม่ แตก เมื่อถูกความร้อนหรือต้งั ไฟหรือเมื่อกระทบกบั ความเยน็ โดยทนั ทีก็ไม่เป็ นไร ส่วนใหญ่เป็น ผลิตภณั ฑ์ชนิดเอิทเท่นแวร์ หรือชนิดสโตนแวร์ ก็ได้ หลกั ใหญ่หรือขอ้ สาคญั ผลิตภณั ฑ์น้นั จะไม่ แตกเมื่อถูกความร้อน การเตรียมเน้ือดินจะตอ้ งใหม้ ีความพรุนตวั ( Porous ware ) หรือเผาไม่ถึงจุดสุก ตวั ( Non vitreous ) หรือเผาไฟไม่ถึง เน้ือดินส่วนใหญ่จะไม่แข็ง ส่วนใหญ่จะเคลือบ เฉพาะแต่ภายใน ส่วนภายนอกจะไม่มีการเคลือบ ส่วนเน้ือดินแบบสโตนแวร์ นิยมไม่ถึงจุดสุกตวั แต่ถา้ เผาไฟเกินเน้ือดินจะแขง็ มากและ จะแตกง่ายเม่ือถูกความร้อน เน้ือดินโอเว่นพรูฟประกอบดว้ ย หินแกว้ ( Flint ) ค่อนขา้ งสูง เพราะตวั ซิลิก้าจะ ขยายตวั ในอุณหภูมิ 573 องศาเซลเซียส ซ่ึงเป็นเหตุผลอนั หน่ึงท่ีช่วยใหผ้ ลิตภณั ฑ์ไม่แตก แต่ ถา้ เน้ือดินมีซิลิกา้ นอ้ ยจะทาใหผ้ ลิตภณั ฑแ์ ตกง่ายได้ การเคลือบผลิตภณั ฑช์ นิดน้ีมกั นิยมเคลือบค่อนขา้ งหนา และเคลือบเฉพาะภายในจะช่วย ป้องกนั การแตกร้าวไดด้ ี เนื้อดนิ ป้ันชนดิ แป้นหมนุ ( Throwing clay ) เน้ือดินที่ใชส้ าหรับข้ึนรูปดว้ ยแป้นหมุนจะตอ้ งมีความเหนียว จึงจะข้ึนรูปได้ แต่ดินที่มี ความเหนียวมากมกั จะหดตวั มาก ตอ้ งระวงั มากเวลาตากผลิตภณั ฑห์ รือเผาผลิตภณั ฑต์ อ้ งใหเ้ ป็นไป อยา่ งชา้ หลกั การเตรียมดินสาหรับข้ึนรูปดว้ ยแป้นหมุน ควรใชว้ สั ดุอ่ืนผสมดว้ ย เชน่ หินแกว้ หิน ฟันมา้ แต่ตอ้ งใหม้ ีความเหนียวพอดี แตถ่ า้ ใหเ้ หนียวมากไปก็อาจทาใหผ้ ลิตภณั ฑแ์ ตกง่ายเช่นกนั ควรเพมิ่ วสั ดุประเภทเป็นสารใหล้ ะลาย ( Flux ) ในเวลาเผาผลิตภณั ฑ์ เช่น หินฟัน มา้ ทลั ค์ หรือฟริต หรือประเภทดินเหนียว ( Red clay ) , ดินเช้ือ ( Grog ) จะช่วยให้ การทรงตวั ไดด้ ี ขนาดของดินเช้ือประมาณ 80 mesh ผสมลงไปในเน้ือดินป้ัน ประมาณ 8

– 10 % ส่วนความเหนียวเติมเบนโทไนทป์ ระมาณ 2 % ถา้ เติมมากไปจะทาใหแ้ ตกไดง้ ่าย เนื้อดนิ ชนดิ หล่อแบบ ( Casting clay ) เ น้ื อ ดิ น ส า ห รั บ ห ล่ อ ท่ี ดี น้ัน จ ะ ต้อ ง มี ลัก ษ ณ ะ น้ า ส ลิ บ ( น้ า ดิ น )ไ ห ล เ ป็ น สาย Fluid suspension ดินน้นั จะตอ้ งไม่ตกตะกอนง่ายในขณะทีท่ าการหล่อ โดยเฉพาะพมิ พ์ ที่ทาดว้ ยปนู พลาสเตอร์ตอ้ งแหง้ สนิท และเน้ือดินไม่หดตวั มากนกั ตามธรรมดาการผสมดินกับน้าเท่าน้ันไม่ถือว่าเป็ นสลิบ ( น้าดิน ) ที่ดี น้าสลิบที่ดีจะ ขึ้นอยู่กับจานวนที่พอเหมาะ เนื้อดินจะลอยตัวได้ดี แต่ถ้าใส่ น้ามากจนเกินไปดินน้ันจะเหลว มาก เม่ือเทลงแบบพมิ พ์จะทาให้การหล่อช้า ดนิ ตกตะกอน โอกาสแตกมมี ากขนึ้ การเตรียมน้าสลิบจาเป็ นจะตอ้ งจากดั จานวนน้าแค่ไหนจึงจะเหมาะสม เพื่อให้ดินน้นั ล อ ย ตั ว ไ ด้ ดี เ ร า เ รี ย ก ว่ า เ กิ ด Deflocculation ใ น ท า ง ป ฏิ บั ติ ที่ จ า ท า ใ ห้ เกิด Deflocculation โดยใชน้ ้าผสมแต่นอ้ ยแลว้ ใชโ้ ซเดียมซิลิเกตและโซดาแอส จะทาใหก้ ิ ดการลอยตัวข้ึน ปริ มาณน้าท่ีเหมาะสมในการเตรี ยมสลิบโดยประมาณ 35 – 50 % ใน ดิน 100 ส่วนแลว้ เติมสารโซเดียมซิลิเกตลงไป 2 – 3 หยด จะทาใหเ้ กิดการลอยตวั ไดด้ ี ป ร ะ เ ภ ท ดิ น ที่ ไ ม่ มี ลั ก ษ ณ ะ ก า ร เ กิ ด Defuccution จ ะ เ ต รี ย ม ส ลิ บ ไม่ได้ เช่น ประเภทดินเหนียวทว่ั ไป ( Surface clay ) ซ่ึงยากแก่การเตรียมสลิบ แต่ถา้ เป็นดินประเภท Kaolin บอลเคลย์ ดินประเภทน้ีลอยตวั ไดด้ ี เหมาะแก่การเตรียมสลิบอยา่ งยงิ่ เนื้อดนิ ชนดิ ขนึ้ รูปด้วยใบมดี และพมิ พ์กด ( Bodies for Jigger and Press ) เน้ือดินท่เี ตรียมสาหรับการข้ึนรูปดว้ ยใบมีด ควรเตรียมเน้ือดินชนิดท่มี ีความเหนียวพอปาน กลาง เพราะจะช่วยทาใหแ้ หง้ เร็วและทรงตวั ไดด้ ี เหมาะแก่การเอาออกจากพิมพไ์ ดร้ วดเร็วดว้ ยวิธี ข้ึนรูปดว้ ยใบมีด ใชด้ ินกดลงบนพมิ พพ์ ลาสเตอร์แลว้ กลึงดว้ ยใบมีดสาเร็จรูป ถา้ ปลอ่ ยใหเ้ น้ือดิน แหง้ ชา้ เกินไป อาจทาใหร้ ูปทรงบิดเบ้ยี วเสียหายไดแ้ ละเสียเวลาในการผลิต และไมเ่ หมาะกบั การ ข้ึนรูปแบบน้ี ส่วนเน้ือดินสาหรับกดพมิ พ์ ควรเตรียมเน้ือดินใหม้ ีความเหนียวกวา่ การข้ึนรูปดว้ ยใบมีด เลก็ นอ้ ย เน้ือดินควรเตรียมใหเ้ น้ือดินค่อนขา้ งนุ่ม เหมาะแก่การใชม้ ือกดพิมพ์ สะดวกในการ ปฏิบตั ิงาน

ประโยชน์ของเคร่ืองป้ันดนิ เผา ผลติ ภณั ฑ์เครื่องป้ันดนิ เผามมี ากมายหลายชนดิ ซ่ึงถือว่าเป็ นผลติ ภณั ฑ์ทมี่ ปี ระโยชน์ต่อมนุษย์ ท้งั สิ้นนบั ต้งั แต่ผลติ ภณั ฑ์ทใ่ี ช้ในครัวเรือน เคร่ืองประดบั ตลอดจนผลติ ภณั ฑ์ทใ่ี ช้ในงานอตุ สาหกรรม ต่างๆ ซ่ึงผลติ ภณั ฑ์เหล่านีล้ ้วนเกดิ ขนึ้ จากความสามารถในการประดิษฐ์คดิ ค้นของมนุษย์ท้งั สิ้น ท้งั นี้ เพื่อต้องการแก้ปัญหาในการดารงชีวติ และตอบสนองความต้องการของมนุษย์ท้งั ทางด้านร่างกายและ จิต ใ จ ใ ห้ มนุ ษ ย์ มีความเป้ นอยู่ ท่ีมีความส ะดวกส บายย่ิงขึ้นตามแต่ ละยุคละสมัยประโยชน์ ของ เคร่ืองป้ันดนิ เผา แบ่งออกได้เป็ น 3 ลกั ษณะ คือ 1. ประโยชน์ของเครื่องป้ันดนิ เผาในด้านสิ่งก่อสร้าง ประโยชน์ของผลติ ภณั ฑ์เคร่ืองป้ันดนิ เผาทเ่ี กย่ี วกบั สิ่งก่อสร้าง ได้แก่ อฐิ ชนดิ ต่างๆ กระเบื้องปู พื้น กระเบื้อมุงหลังคา ซึ่งเป็ นที่นิยมแพร่หลายต้ังแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมี ผลติ ภณั ฑ์ประเภทท่อนา้ ท่อร้อยสาย ซ่ึงในปัจจุบนั นิยมใช้วสั ดุอน่ื แทน 2. ประโยชน์ของเครื่องป้ันดนิ เผาในด้านการใช้สอย ประดบั ตกแต่ง ประโยชน์เคร่ืองป้ันดินเผากับการใช้สอยและประดับตกแต่ง ได้แก่ เครื่องครัว และของใช้ ภายในบ้าน เช่น ถ้วย ชาม จาน แจกนั และทเี่ ขยี่ บุหรี่ เครื่องประดบั เช่น เขม็ กลดั กระดมุ ตุ้มหู กาไล เคร่ืองสุขภณั ฑ์ และอปุ กรณ์เคมภี ณั ฑ์ 3. ประโยชน์ของเคร่ืองป้ันดนิ เผาในด้านอปุ กรณ์ทางอตุ สาหกรรม ประโยชน์ของผลติ ภัณฑ์เคร่ืองป้ันดินเผาท่ีเกยี่ วกบั อุตสาหกรรม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สิ่งขัดถู วตั ถุทนไฟชนิดต่างๆ เคร่ืองกรอง หวั เทยี น ผลติ ภณั ฑ์ฉนวนไฟฟ้าชนิดต่างๆเป็ นต้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook