การสร้างประโยชน์จากผลงาน การนาไปใช้ การสร้างหรือพฒั นาผลงานชนิดต่างๆท้งั ท่ีเป็นชิ้นงาน หรือท่ีเป็นวธิ ีการ ในการแกป้ ัญหาน้นั นอกจากจะใชแ้ กป้ ัญหาหรือสนองความตอ้ งการ แลว้ ยงั อาจช่วยอานวยความสะดวกในการปฏิบตั ิงาน นอกจากน้ีหาก ผลงานน้นั เป็น สิ่งท่ีทาข้ึนใหม่หรือแปลกจากเดิมซ่ึงอาจเป็นความคิด วธิ ีการ หรืออุปกรณ์ ผสู้ ร้างกจ็ ะไดผ้ ลงานใหม่ท่ีเรียกวา่ นวตั กรรม และ ยงั สามารถสร้างประโยชน์โดยการพฒั นาต่อยอดเพ่อื สร้างรายไดจ้ าก การสร้างผลิตภณั ฑห์ รือบริการน้นั และอาจจะตอ้ งจดทะเบียนคุม้ ครอง ตามประเภทของผลงาน จึงเป็นทรัพยส์ ินทางปัญญาของผสู้ ร้าง 1. การสร้างประโยชน์ การสร้างประโยชน์จากผลงานเป็นการพฒั นาผลงานท่ีตอ้ งอาศยั การ ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ทางวทิ ยาศาสตร์และศาสตร์ต่างๆ รวมท้งั การใช้ ความคิดสร้างสรรค์ เพอื่ ทาใหผ้ ลงานมีมูลค่าเพม่ิ มากข้ึน การสร้าง ประโยชนใ์ นที่น้ีจะนาเสนอ 2 แนวทาง คือ การเพิม่ มูลค่า และการสร้าง
มูลค่า โดยท้งั สองแนวทางสามมารถสามารถทาไดท้ ้งั ผลงานของตนเอง และการพฒั นาต่อยอดผลงานของผอู้ ื่นพร้อมท้งั อา้ งอิงแหล่งที่มา 1.1 การเพมิ่ มูลค่า การเพม่ิ มูลค่า ใหผ้ ลงานเป็นสิ่งที่ผผู้ ลิตหรือ ผปู้ ระกอบการเสนอสิ่งตา่ งๆที่ตอบสนองความ ตอ้ งการของผใู้ ชท้ ี่มีความแตกต่างกนั และจดั ใหม้ ี พร้อมกบั ผลงานน้นั ในทางการตลาดจึงเป็นสิ่งที่ ผผู้ ลิตจดั ใหม้ ีพร้อมกบั สินคา้ หรือบริการที่เสนอขาย ในแต่ละข้นั ของการผลิตของการของการผลิตก่อนส่ง มอบใหก้ บั ผบู้ ริโภค ซ่ึงมีมูลค่าเพม่ิ ข้ึนจะมีความ แตกต่างกนั ไปแต่ละบริษทั หรือบริการกไ็ ด้ ผผู้ ลิต หลายรายประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ส่วนประสมทางการตลาด ซ่ึงหมายถึงกลยทุ ธท์ างการตลาดประเภทหน่ึง ซ่ึง ผผู้ ลิตนิยมนามาใชใ้ นการเสนอขายสินคา้ และบริการ ที่พบเห็นไดท้ ว่ั ไปประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบสี่อยา่ ง
4p ไดแ้ ก่ 1.Productหมายถึงตวั ผลิตภณั ฑท์ ี่เป็ นสินคา้ หรือการบริการ (2) Price ราคาของผลิตภณั ฑ์ (3) Place สถานที่จาหน่าย และ (4) Promotion หมายถึงกิจกรรม ตา่ งๆท่ีส่งเสริมการตลาด 1.2 การสร้างมูลค่า การสร้างมูลค่า เป็นการสร้างคุณค่าใหผ้ ลงาน ซ่ึงเนน้ ที่การตอบสนองต่อความตอ้ งการของผบู้ ริโภคที่เป็น
วตั ถุสิ่งของและทางดา้ นอารมณ์ความรู้สึก จึงมี ความหมายลึกซ้ึงกวา่ การเพ่มิ มูลคา่ การสร้างมูลค่า ส่วนใหญ่จะมีเป้าหมายต่อกลุ่มผบู้ ริโภคเฉพาะกลุม่ ซ่ึง จะทาใหล้ ดการแข่งขนั ในทอ้ งตลาด ธุรกิจเติบโต เพ่ิมพนู รายไดจ้ าการขายผลิตภณั ฑไ์ ดม้ ากข้ึน และ สามารถขยายกิจการได้ ตวั อยา่ งการสร้างมูลค่า เช่น การแปรรูปผลิตภณั ฑ์ การสร้างเทคโนโลยเี สริม การ ใชค้ วามคิดสร้างสรรคล์ กั ษณะต่างๆ เพ่ือพฒั นา ผลิตภณั ฑซ์ ่ึงจะช่วยใหผ้ ลิตภณั ฑม์ ีลกั ษณะพเิ ศษ มี ความริเร่ิมแปลกใหม่แตกตา่ งจากผลิตภณั ฑอ์ ่ืนๆ การ สร้างมูลค่าในที่น้ีจะเนน้ ไปท่ีแนวทางในการพฒั นา 2 แนวทางคือ (1) การพฒั นาต่อยอดผลิตภณั ฑเ์ ดิมหรือ ผลิตภณั ฑใ์ หม่ และ (2) การขยายตลาดหรือการหา เป้าหมายใหม่ ดงั ต่อไปน้ี
การพฒั นาต่อยอดผลติ ภณั ฑ์เดมิ หรือการสร้าง ผลติ ภณั ฑ์ใหม่ เป็นการสร้างมูลค่าที่เนน้ ตวั ผลิตภณั ฑท์ ้งั ที่เป็น ผลิตภณั ฑเ์ ดิม หรือคิดคน้ ผลิตภณั ฑใ์ หม่โดย อาศยั การวจิ ยั และพฒั นาผลิตภณั ฑ์ ตวั อยา่ งเช่น การสร้างเคร่ืองหมายการคา้ การปรับเปล่ียน รูปลกั ษณ์ผลิตภณั ฑ์ การสร้างสรรคบ์ รรจุภณั ฑ์ การสร้างผลิตภณั ฑใ์ หม่ท่ีเป็นนวตั กรรม หรือ ผลงานท่ีเนน้ ความเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะถิ่น เช่น ผลิตภณั ฑห์ น่ึงตาบล
การขยายตลาดหรือการหากลุ่มเป้าหมายใหม่ เป็นการสร้างมูลคา่ ใหก้ บั ผลิตภณั ฑห์ รือการบริการ โดยมุ่งเนน้ ไปท่ีตลาดหรือกลุ่มผบู้ ริโภคที่เป็น เป้าหมายเฉพาะ มีการคาดการการณ์ลบั ริหารความ เส่ียงลว่ งหนา้ ก่อนการขยายตลาดซ่ึงตอ้ งอาศยั ขอ้ มูล จากการวจิ ยั ตลาดและพฤติกรรมของผบู้ ริโภคพร้อม กบั การวจิ ยั และพฒั นาผลิตภณั ฑเ์ พอ่ื ใหต้ รงกบั ความ ตอ้ งการของผบู้ ิโภคมากท่ีสุดตวั อยา่ งผลิตภณั ฑแ์ ละ การบริการ เช่น เกมประเภทต่างๆ การพฒั นาดา้ นการ แหลง่ ท่องเท่ียวเชิงนิเวศและเชิงอนุรักษผ์ า้ มออ้ ม สาเร็จรูปสาหรับเดก็ หรือผใู้ หญ่
1.2สิทธิและการคุ้มครองผลงาน การคุม้ ครองผลงานมีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื รักษาสิทธิอนั ชอบ ธรรมและเป็นการตอบแทนผสู้ ร้างเพื่อกระตุน้ เป็นแรงจูงใจ ใหม้ ีการสร้างผลงานใหม่ๆ โดยเปิ ดเผยรายละเอียดของ ผลงานกระตุน้ ใหเ้ กิดการถา่ ยทอดและเทคโนโลยแี ละการ ลงทุนการผลิตเทคโนโลยี การคุม้ ครองจะมีผลทางกฎหมายก็ ต่อเม่ือผสู้ ร้างนาผลงานน้นั ไปจดทะเบียนคุม้ ครองกบั กรม ทรัพยส์ ินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ยกเวน้ ผลงานท่ีเป็น ลิขสิทธ์ิจะไดค้ ุม้ ครองทนั ทีที่มีผสู้ ร้างผลงานน้นั เรียบร้อยแลว้ โดยไม่จาเป็นตอ้ งไปจดทะเบียนคุม้ ครอง อยา่ งไรกต็ าม
เจา้ ของลิขสิทธ์ิควรเกบ็ หลกั ฐานตา่ งๆ ท่ีเก่ียวกอ้ งสาหรับการ ใชใ้ นการพิสูจน์และแสดงความเป็นเจา้ ของดว้ ยการคุม้ ครอง ผลงานทรัพยส์ ินทางอุสาหกรรมมีหลายประเภท เจา้ ของ ผลงานจะตอ้ งศึกษารายละเอียดประเภทผลงานระยะเวลาใน การคุม้ ครอง และการชาระคา่ ธรรมเนียมที่เกี่ยวขอ้ งเพอ่ื จะได้ เลือกจดทะเบียนใหถ้ ูกตอ้ ง เจา้ ของผลงานที่ไดร้ ับเพ่อื การคุม้ ครองผลงานแลว้ สามารถ ดาเนินการใดๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ผลงานของตน เช่น การผลิต และจาหน่ายผลงาน การเกบ็ คา่ เจา้ ของสิทธ์ิจากผทู้ ่ีตอ้ งใช้ ผลงานน้นั ๆ หรือการโอนสิทธ์ิใหผ้ อู้ ื่น ภายในระยะเวลาท่ี ไดร้ ับการคุม้ ครอง แต่หากผลงานน้นั มีผอู้ ื่นผลิตเหมือนกนั และไดจ้ ดทะเบียนไปแลว้ กไ็ ม่สามารถจดทะเบียนคุม้ ครอง ได้ และยงั หมายรวมถึงผลงานท่ีพบไดท้ วั่ ไปแม่ไม่มีผจู้ ด ทะเบียนกไ็ ม่สามารถจดทะเบียนได้ เน่ืองจากไม่สามารถระบุ ผเู้ ป็นเจา้ ของผลงานที่แทจ้ ริงได้
1.2.1 สิทธิบัตร สิทธิบตั ร คือ หนงั สือสาคญั ที่รัฐออกใหเ้ พ่อื คุม้ ครอง การประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิภณั ฑท์ ี่มีลกั ษณะ ตามท่ีกฎหมายกาหนดเป็นสิทธิพเิ ศษที่ใหผ้ ปู้ ระดิษฐ์ คิดคน้ หรือผอู้ อกแบบผลิตภณั ฑม์ ีสิทธิท่ีจะผลิตสินคา้ จาหน่ายสินคา้ แต่เพยี งผเู้ ดียว ในช่วงระยะเวลาหน่ึง การประดิษฐ์ หมายถึง ความคิดสร้างสรรคเ์ ก่ียวกบั ลกั ษณะองคป์ ระกอบ โครงสร้างหรือกลไกของ ผลิตภณั ฑ์ รวมท้งั กรรมวธิ ีในการผลิตการรักษา เนน้ การประดิษฐท์ ่ีมีลกั ษณะของการแกป้ ัญหาทางเทคนิค ท่ีไม่สามารถคิดคน้ ข้ึนโดยง่าย 1.2.2 สิทธิบตั รการประดษิ ฐ์ สิทธิบตั รการประดิษฐ์ คือ การใหค้ วามคุม้ ครองการ คิดคน้ เก่ียวกบั ลกั ษณะองคป์ ระกอบโครงสร้าง หรือ
กลไกของผลิตภณั ฑ์ รวมท้งั กรรมวธิ ีในการผลิต การ เกบ็ รักษา หรือ การปรับปรุงคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ 1.2.3 สิทธิบตั รการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ สิทธิบตั รการออกแบบผลิตภณั ฑ์ คือ การใหค้ วาม คุม้ ครองความคิดสร้างสรรคท์ ี่เก่ียวกบั รูปร่างลกั ษณะ ภายนอกของผลิตภณั ฑ์ องคป์ ระกอบของลวดลาย หรือสีของผลิตภณั ฑ์ ซ่ึงสามารถใชเ้ ป็นเป็นแบบ สาหรับผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม รวมท้งั หตั กรรมได้ และแตกต่างไปจากเดิม 1.2.4 อนุสิทธิบตั ร อนุสิทธิบตั ร คือ การใหค้ วามคุม้ ครองการประดิษฐ์ ซ่ึงเป็นความคิดสร้างสรรคท์ ่ีมีระดบั การพฒั นา เทคโนโลยไี ม่สูงมาก หรือเป็นการประดิษฐค์ ิดคน้ เพยี งเลก็ นอ้ ย และมีประโยชน์ใชส้ อยมากข้ึนรวมท้งั กรรมวธิ ีในการผลิตการรักษา
1.3 การนาเสนอผลงาน การนาเสนอโดยทว่ั ไปตอ้ งคานึงถึงปัจจยั ท่ีสาคญั 3 ประการ ไดแ้ ก่ ผนู้ าเสนอ เน้ือหาและผฟู้ ังท้งั น้ีการ นาเสนอผลงานของนกั เรียนในหอ้ งขอ้ น้ี นอกจาก เผยแพร่ผลงานใหส้ าธารณชนทวั่ ไปแลว้ ยงั จะมี วตั ถุประสงคใ์ นการนาเสนอเพ่อื เสนอขายแนวคิด ซ่ึง หมายถึงการนาเสนอใหก้ บั ผฟู้ ังเฉพาะกลุ่มใน ช่วงเวลาที่จากดั เพ่ือประโยชน์ในการเขา้ ถึงแหล่ง เงินทุน สาหรับการประกอบธุรกิจหรือโนม้ นา้ วให้ ผฟู้ ังซ้ือผลงานไปผลิตในเชิงพาณิชย์ เช่น การนาเสนอ แผนธุรกิจ 1.3.1ผู้นาเสนอ เป็นผทู้ ี่มีความสาคญั ยง่ิ ในการถ่ายทอดและส่ือสาร เน้ือหาไปยงั ผฟู้ ังแมเ้ น้ือหาจะดีเพยี งใด แตผ่ นู้ าเสนอ
ไม่สามารถถ่ายทอดไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ การ นาเสนอยอ่ มไม่ประสบความสาเร็จ ผนู้ าเสนอจึงตอ้ งมี การเตรียมความพร้อมท้งั ร่างกายและจิตใจ ขจดั ความ ต่ืนเตน้ และความกลวั ซ่ึงสามารถทาไดโ้ ดยมีการ วางแผนก่อนการนาเสนอ ใชค้ วามรู้ท่ีเก่ียวขอ้ ง มี ทกั ษะและทศั นคติที่ดี มีแผนการนาเสนอโดยมีทิศทาง สู่เป้าหมาย เตรียมอุปกรณ์สอดคลอ้ งกบั เน้ือหา บริหารเวลาได้ มีการนาเสนออยา่ งราบร่ืน และดูดี 1.3.2 เนื้อหาหรือผลงานทนี่ าเสนอผลงาน ผลงานของนกั เรียนท่ีเป็นผลลพั ธ์ของการแกป้ ัญหา ผา่ นการทาโครงงานที่ใชก้ ระบวนการออกแบบเชิง วศิ วกรรมอาจเป็นนวตั กรรมที่สามารถผลกั ดนั ใหเ้ กิด ประโยชนใ์ นเชิงพาณิชยจ์ นสามารถขบั เคลื่อน เศรษฐกิจของชาติได้ ผลงานของนกั เรียนจึงมี ความสาคญั และควรเตรียมเน้ือหาที่จะนาเสนอให้
ชดั เจน เป็นลาดบั ตามโครงเร่ืองท่ีวางแผนไว้ สามารถ แสดงปัญหาหรือจุดประสงคข์ องการพฒั นาผลงานได้ ชดั เจน แสดงการทางานของผลงาน ตามจุดประสงค์ 1.3.3 ผ้ฟู ังหรือกล่มุ เป้าหมาย ผฟู้ ังในที่น้ีอาจมีหลายกลุ่มหลายช่วงอายุ และ ประสบการณ์ผนู้ าเสนอจึงควรหาขอ้ มูลเกี่ยวกบั ผฟู้ ัง และเตรียมเน้ือหา ตลอดจนใชภ้ าษาใหเ้ หมาะสมกบั ผฟู้ ัง และตรงวตั ถปุ ระสงของการนาเสนอเช่น การ นาเสนอในท่ีประชุม
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: