Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรกลุ่มสนใจ การทำขนมดอกจอก

หลักสูตรกลุ่มสนใจ การทำขนมดอกจอก

Published by Piathip Sangseebarng, 2022-06-10 08:52:25

Description: หลักสูตรกลุ่มสนใจ การทำขนมดอกจอก

Search

Read the Text Version

หลักสตู รกลุ่มสนใจ การทาขนมดอกจอก จานวน 5 ชว่ั โมง กลุ่มอาชพี พาณิชยกรรมและการบริการ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอชาตติ ระการ สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวัดพษิ ณโุ ลก สานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ

ก คานา การศึกษาด้านอาชีพให้กับประชาชนเป็นส่วนหน่ึงของการจัดการศึกษาต่อเน่ือง เป็น การศึกษาเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพของบุคคล เพ่ือให้บุคคลสามารถ ประกอบอาชีพหรือพัฒนาอาชีพของตนเองได้ โดยพิจารณาถึงความต้องการในการเรียนของแต่ละบุคคล ให้ ความสาคัญกับการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนางานและอาชีพระดับพ้ืนฐาน ระดับกึ่งฝีมือ และระดับฝีมือ ท่ี สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถนาความรู้ไปใช้ในการ ประกอบอาชพี หรอื เพิ่มพูนรายได้ ทง้ั น้ใี หม้ ีการพัฒนาหลักสูตรและวิธีการท่ีหลากหลายและทันสมัย สามารถ ให้บริการไดอ้ ย่างทัว่ ถงึ ในทกุ พืน้ ท่ี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอชาตติ ระการ จงึ ได้พัฒนาหลักสูตร การทาขนมดอกจอกข้ึน เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นการ แลกเปลีย่ นเรียนรปู้ ระสบการร่วมกนั และพัฒนาตอ่ ยอดเปน็ อาชีพเสรมิ เพิ่มรายได้ใหก้ ับประชาชน สุดท้ายน้ี ทางศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอชาติตระการ ต้อง ขอขอบคุณคณะทางานทุกท่านที่ได้จัดทาข้อมูล เพ่ือให้การดาเนินการจัดหลักสูตรกลุ่มสนใจการทาขนม ดอกจอก เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ต้ังไว้ เพื่อนาไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้กับประชาชนต่อไป หากพบ ข้อผิดพลาดมีข้อเสนอแนะที่คิดว่าเป็นประโยชน์ กรุณาแจ้งให้ทางผู้จัดทาทราบด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง เพ่ือจะ ไดน้ าไปเป็นขอ้ มูลในการปรบั ปรุงแก้ไขหลักสตู รในโอกาสต่อไป กศน.อาเภอชาติตระการ ผจู้ ัดทา

ข หน้า ก สารบญั ข 1 เรอื่ ง 2 คานา 2 สารบัญ 2 ความเป็นมา 2 หลกั การของหลักสตู ร 2 จดุ มุ่งหมายของหลักสูตร 3 กลุ่มเปา้ หมาย 3 ระยะเวลา 3 โครงสรา้ งหลกั สตู ร 3 การจดั กระบวนการเรียนรู้ 3 ส่ือการเรยี นรู้ 3 การวัดและประเมนิ ผล 4 การจบหลกั สูตร 6 เอกสารหลักฐานการศึกษา 7 การเทยี บโอน 7 รายละเอยี ดโครงสร้างหลักสตู ร 11 ภาคผนวก 18 รายละเอยี ดเน้ือหาโครงสร้างหลักสตู ร 26 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 ช่องทางการประกอบอาชพี 27 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ทักษะการประกอบอาชพี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชพี ความเหน็ ชอบอนุมตั ิหลักสูตรการศึกษาต่อเนอ่ื ง คณะทางาน

หลกั สูตรการทาขนมดอกจอก จานวน ๕ ช่ัวโมง กลมุ่ อาชีพพาณชิ ยกรรมและการบรกิ าร ความเป็นมา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพเป็นการแก้ปัญหาว่างงาน และส่งเสริม ความเข็มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ท่ีจะพัฒนา ๕ ศักยภาพ ของพื้นที่ใน ๕ กลุ่ม อาชพี ใหมใ่ ห้สามารถแข่งขันไดใ้ น ๕ ภูมภิ าคหลักของโลก “รู้เขารู้เราเท่าทันเพ่ือแข่งขัด ไดใ้ นเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจทจ่ี ะยกระดบั การจัดการศึกษาเพื่อเพ่ิมศักยภาพและขีดความสามารถให้ ประชาชนไดม้ อี าชีพทสี่ ามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงม่ังคั่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษา เพ่ือพัฒนาอาชีพและ การมีงานทาอย่างมีคุณภาพอย่างทั่วถุงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้มีงานทาอย่างยั่งยืนและมี ความสามารถเชงิ การแข่งขันท้ังในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล มีการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ คนให้มีคุณภาพ ๓.๕ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน สู่ “วิสาหกิจชุมชน” ชุมชนพึ่งตนเอง ทาได้ขายเป็น ผู้เรียน ความต้องการกลุ่มเป้าหมายผู้ที่ไม่มีอาชีพหรือผู้ที่มีอาชีพแต่ต้องการพัฒนาอาชีพของตนเองให้มั่นคง การ จัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของประเทศให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่ เศรษฐกิจชมุ ชน ขนมไทยมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจาชาติไทย คือมีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรร วัตถุดิบ วิธีการทาท่ีพิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจน กรรมวธิ ีทปี่ ระณีตบรรจงเป็นขนมไทยพื้นบา้ นนิยมทาเปน็ ของแจกในหมู่ญาติมิตร และเทศกาลต่าง ๆ ขนมไทย สามารถทารับประทานเองได้เพราะเปน็ ขนมท่ที าไม่ยาก และหาวัตถุดิบได้ง่ายตามท้องตลาดท่ัวไป ปัจจุบันคน รุ่นใหม่นิยมรับประทานขนมที่จาหน่ายตามร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นจานวนมาก และให้ความสนใจขนมไทย น้อยลง อีกทงั้ เมือไม่งานพิธีตา่ ง ๆ ขนมไทยยังคงเปน็ ทน่ี ยิ ม เพ่ือเป็นการตอบสนองนโยบายและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ สานักงาน กศน. ได้นานโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษา เก่ียวกับการจัดการศึกษาอาชีพมาสู่การปฏิบัติ เพ่ือจัด การศึกษาการประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก ขนมดอกจอก เป็นขนมโบราณ เป็นที่นิยมตั้งแต่สมัยก่อน แต่ในปัจจุบันเริ่มหาทานยาก เด็ก ๆ สมัยน้ีอาจจะไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไรนัก เน่ืองจากไม่ค่อยเป็นท่ีนิยมจากเด็ก รนุ่ ใหม่ ขนมดอกจอกเป็นขนมท่มี ีรปู ทรงคล้ายดอกจอกท่มี แี หล่งกาเนดิ อยู่ในน้า รูปทรงสวยงามน่ารับประทาน แต่เนื่องจากเป็นขนมที่ต้องใช้น้ามันพืชปริมาณมากในการทอดจึงไม่ค่อยเป็นท่ีนิยมกับคนสมัยน้ีท่ีเน้นเรื่อง สขุ ภาพเป็นสาคญั เพราะอาจทาใหม้ ีคอลเรตเตอรอลสงู และทาให้อ้วนได้ ขนมดอกจอก ในสมัยก่อนเป็นที่นิยม มากจะเป็นหนึ่งในขนมที่จัดข้ึนในงานและพิธีการสาคัญต่าง ๆ เช่น งานบวช งานแต่งงงาน งานข้ึนบ้านใหม่ เป็นต้น ไม่แพ้ขนมไทยอย่างทองหยิบ ทองหยอด หรือฝอยทองท่ีเป็นที่นิยมท่ังในอดีตและปัจจุบัน สามารถ สร้างรายได้ได้อย่างม่ันคงให้กับผู้ท่ีไม่มีอาชีพ และผู้ที่ต้องการพัฒนาอาชีพ สามารถนาความรู้ไปใช้ในการ พัฒนาคณุ ภาพชีวิตตนเอง ชุมชน และสงั คม

2 หลักการของหลักสูตร หลกั สตู รการศึกษาอาชีพการทาขนมดอกจอก มีหลักการจัดการเรยี นรู้ ดังนี้ 1. เป็นการทาหลกั สูตรพาณิชยกรรมและบริการที่มีความยืดหยนุ่ ดา้ นหลักสูตร การจดั กระบวนการ เรียนรู้การวดั ผลและการประเมินผล 2. มุงพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและมีงานทาอย่างมีคุณภาพ ทั่วถึงและเท่า เทียมกัน สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง เป็นบุคคลที่มีวินัยเป่ียมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสานึกความ รับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่นและสังคม ๓. สง่ เสรมิ ให้มีการเทยี บโอนความรเู้ ข้าสูห่ ลักสตู รการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ๔. ส่งเสรมิ ใหก้ ลุม่ เป้าหมายพฒั นาตามศักยภาพ ๕ ดา้ น ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ๕. มุงเน้นการฝึกปฏบิ ตั เิ พื่อให้เกิดทกั ษะทางอาชีพ สามารถนาไปประกอบอาชีพได้ จุดมงุ่ หมายของหลกั สตู ร หลักสูตรการทาขนมดอกจอก มงุ่ พัฒนาให้กลุ่มเปา้ หมายมีศกั ยภาพในการประกอบอาชพี และการ เรยี นรอู้ ยา่ งต่อเนอ่ื ง จงึ กาหนดจุดหมายดังต่อไปนี้ 1. มคี วามสามารถในการประกอบอาชพี สอดคลอ้ งกบั ความสนใจ ความถนดั และเหมาะสมกับ ศกั ยภาพของตนเอง 2. มีความสามารถ ทักษะ ในการประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก 3. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มทดี่ วี าม ตอ่ การประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก กลมุ่ เปา้ หมาย มี 2 กล่มุ เปา้ หมาย คอื 1. กลมุ่ ผทู้ ีไ่ ม่มีอาชีพ และมคี วามสนใจทจี่ ะประกอบอาชีพ 2. กล่มุ ผู้ท่ีมีอาชพี และตอ้ งการพัฒนาอาชพี ระยะเวลา จานวน ๕ ชวั่ โมง - ภาคทฤษฎี ๑ ช่ัวโมง - ภาคปฏิบตั ิ ๔ ช่วั โมง โครงสรา้ งหลกั สตู ร หลักสตู รการทาขนมดอกจอก ประกอบด้วยสาระการเรยี นรู้ จานวน 3 หนว่ ยการเรียนรู้ ดังน้ี หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ จานวน 30 นาที 1.1 ความสาคัญของประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก 1.2 ความรเู้ บื้องตน้ ในการประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก 1.3 ทิศทางการพัฒนาการประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2. ทักษะการประกอบอาชีพ จานวน ๔ ช่ัวโมง 2.1 ขน้ั ตอนการทาขนมดอกจอก 2.2 วธิ ีการเก็บรักษา

3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3. การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชพี จานวน 30 นาที ๓.1 การบรหิ ารจดั การ ๓.๒ การจดั การตลาด ๓.๓ การวางแผนการดาเนนิ งาน การจัดกระบวนการเรยี นรู้ การเรยี นร้หู ลกั สตู รการทาขนมดอกจอก เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคญั โดยการเรียนรู้จากเอกสาร/ฝึกปฏิบตั ิ มคี าแนะนาสาหรบั ผเู้ รยี น ดงั นี้ 1. การสรา้ งความเข้าใจในหลกั สูตรการทาขนมดอกจอก (ขอ้ มลู จากเอกสาร/สือ่ /การบรรยาย) 2. การฝกึ ปฏบิ ัตริ ว่ มกบั วทิ ยากร ใหผ้ ้เู รยี นฝกึ ฝนดว้ ยตนเองจนเกิดทักษะ 3. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 4. การสาธิต 5. การศึกษาดูงาน (การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง/เรียนรูจ้ ากการสาธติ ) สอ่ื การเรียนรู้ 1. สอ่ื เอกสารใบความรู้ในการบรรยายและสาธติ อาชพี 2. ผู้รู้ / ภมู ปิ ญั ญา ๓. วตั ถุดบิ ของจรงิ ท่ีนามาใช้ในการปฏบิ ตั ิ การวัดและประเมินผล 1. การประเมนิ ความร้ภู าคทฤษฏีระหวา่ งเรยี นและจบหลกั สูตร 2. การประเมนิ ผลงานระหวา่ งเรียนจากการปฏบิ ัติ ไดผ้ ลงานที่มคี ุณภาพสามารถสรา้ งรายได้ และ จบหลกั สตู ร การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรยี นและฝึกปฏบิ ตั ิตามหลักสูตร ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมินผ่านตลอดหลกั สูตรไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 3. มีผลงานการทาขนมดอกจอก ทีไ่ ด้มาตรฐานเป็นทีพ่ ึงพอใจของลกู คา้ อยา่ งน้อย ๑๐ คน และผ่านการทาแผนธรุ กจิ จึงจะได้รบั วฒุ ิบตั ร เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานการประเมนิ ผล 2. ทะเบยี นคุมวฒุ ิบัตร 3. วุฒบิ ตั ร ออกโดยสถานศกึ ษา การเทียบโอน ผู้เรยี นทจ่ี บหลักสตู รนีส้ ามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรูก้ ับหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวชิ าเลือกทสี่ ถานศกึ ษาไดจ้ ัดทาข้ึน

รายละเอยี ดโ เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เน้อื หา 1. ชอ่ งทางการ ๑.๑ เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรทู้ ักษะและ 1. ความสาคญั ของประกอ ประกอบอาชีพ มคี วามพร้อมด้านการทาขนมดอกจอก ขนมดอกจอก ๑.๒ มคี วามรู้ความเข้าใจเบ้ืองตน้ ใน 2. ความรู้เบ้อื งต้นในการ การประกอบอาชีพการทาขนม การทาขนมดอกจอก ดอกจอก ๑.3 ทศิ ทางการพัฒนาการประกอบ 2.1 ความตอ้ งการของต อาชพี การทาขนมดอกจอก 2.2 การใชแ้ รงงาน 2.3 การจัดหาวัสดอุ ปุ ก 2.4 การเลอื กทาเลทตี่ ้งั 2.5 แหล่งเรียนรู้ 3. ทิศทางการพัฒนาการ การทาขนมดอกจอก 2. ทกั ษะการ 1. สามารถปฏบิ ัติตามขั้นตอนการทา 1. ขน้ั ตอนการทาขนมดอ ประกอบอาชีพ ขนมดอกจอก 1.1 วัสด/ุ อุปกรณ์ 2. มีความรู้ ความเข้าใจวธิ ีการเก็บ 1.2 ขั้นตอนการทาขนม รักษาขนมดอกจอกอยา่ งถูกวธิ ี 1.3 การบรรจผุ ลติ ภณั ฑ 2. วธิ ีการเก็บรกั ษา

โครงสร้างหลกั สูตรการทาขนมดอกจอก อบอาชีพการทา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จานวนชัว่ โมง รประกอบอาชีพ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ ตลาด ๑. วทิ ยากรอธิบายการเลอื กช่องทางอาชีพใน ๐.๕ - การทาขนมดอกจอก 2. วิทยากรอธิบายการเรยี นรู้เบอ้ื งต้นการทา ขนมดอกจอก กรณ์ ง รประกอบอาชพี อกจอก วิทยากรอธบิ ายเนอื้ หาตามลาดบั ขั้นตอน - ๔ พรอ้ มสาธิต และใหผ้ ู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ตั จิ ริงใน มดอกจอก การทาขนมดอกจอก ฑ์ 4

เรอื่ ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้อื หา 3. การบริหาร 1. สามารถบริหารการทาขนม ๑. การบริหารจัดการ จัดการในการ ประกอบอาชีพ ดอกจอกอยา่ งถกู ต้อง 1.1 การจดั การควบคุม การทาขนม ดอกจอก 2. สามารถจดั การตลาดในการทาขนม 1.2 การลดตน้ ทุนในกา ดอกจอกได้ ดอกจอก 3. สามารถวางแผนการดาเนินงานได้ 1.3 การวางแผนการผล อยา่ งถูกต้องเหมาะสม 2. การจดั การตลาด 2.1 ข้อมูลความตอ้ งกา 2.2 การกระจายผลิตภ 2.3 การวางแผนการตล 2.4 การออกแบบบรรจ ๓. การวางแผนการดาเน

การจัดกระบวนการเรียนรู้ จานวนชวั่ โมง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ วิทยากรอธบิ ายเนอื้ หาตามลาดบั พรอ้ ม ๐.๕ ยกตัวอย่างของจริง สาธติ ให้ดแู ละให้ผ้เู รียน มคณุ ภาพ ปฏิบตั เิ ก่ียวกบั การควบคมุ คุณภาพ การ ารทาขนม คานวณต้นทนุ และการจัดการตลาด ลิต ารของลูกค้า ภณั ฑส์ ูผ่ ้บู ริโภค ลาด จภุ ัณฑ์ นินงาน 5

ภาคผนวก

7 รายละเอยี ดเนอ้ื หาโครงสรา้ งหลกั สตู ร หนว่ ยการเรียนที่ ๑ เรอื่ ง ชอ่ งทางการประกอบอาชพี เวลา 30 นาที สาระสาคัญ ความสาคัญของการประกอบอาชพี ความเปน็ ไปไดข้ องการประกอบอาชีพ ความต้องการของตลาด การใชแ้ รงงาน การจดั หาวัสดุ อุปกรณ์ ทุน แหลง่ เรยี นรู้ ทิศทางการประกอบอาชพี ขอบข่ายเนื้อหา 1. ความสาคญั ของประกอบอาชพี การทาขนมดอกจอก 2. ความรู้เบ้ืองต้นในการประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก 3. ทศิ ทางการพัฒนาการประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก ความสอดคล้องหมวดวิชา วชิ าทักษะการพัฒนาอาชพี , วชิ าพัฒนาสังคมและชุมชน และวชิ าเลอื ก จุดประสงค์ปลายทาง 1. สามารถอธิบายบอกความสาคัญ และคุณคา่ ทางโภชนาการของการประกอบอาชพี ได้ 2. บอกความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก ได้แก่ การลงทุน การตลาด วสั ดุ อปุ กรณ์ และทาเลทตี่ ง้ั 3. บอกและหาแหล่งเรียนรู้ได้ 4. บอกทศิ ทางการประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. การบรรยายใหค้ วามรู้ 2. การถาม – ตอบ 3. การสาธติ 4. การฝกึ ปฏิบัตจิ รงิ สอ่ื 1. คูม่ ือการเรยี นรู้ 2. แผ่นพับ แหลง่ การเรยี นรู้ - หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอชาตติ ระการ/ ศนู ย์การเรยี นชุมชนประจาตาบล - กศน.อาเภอชาตติ ระการ

8 การวัดผลประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนรว่ มในการทากิจกรรม 2. การถาม – ตอบ 3. การปฏบิ ัติงาน 4. ชน้ิ งาน/ผลงาน ความสัมพันธ์กบั สาระในหลักสูตร - ด้านการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ การเตรียมงาน 1. การเตรยี มเนื้อหาการเรียนรใู้ หส้ อดคล้องกบั การพฒั นาบุคคล และสภาพทอ้ งถ่ิน 2. การออกแบบกจิ กรรม การเตรียมคาถาม 3. การเตรียมวัสดุ อุปกรณ์

9 ใบความรู้ ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ 1. ความสาคญั ของประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก ขนมดอกจอกเป็นขนมไทยโบราณที่นิยมรับประทานทุกยุคทุกสมัย ช่ือดอกจอกน่าจะมาจากลักษณะ ของขนมท่ีมีลักษณะคล้ายกับดอกจอก ความละเอียดอ่อนประณีตในการทาต้ังแต่วัตถุดิบ วิธีการทา ที่ กลมกลืน พิถีพิถัน รสชาติ สีสัน ความสวยงาม กล่ินหอม รูปลักษณะชวนน่ารับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีใน การทา ซึ่งขนมดอกจอกอยูค่ ู่กับสงั คมไทยมาชา้ นาน เป็นอาชีพทีถ่ ่ายทอดจากภมู ิปญั ญาชาวบ้านจากรุ่นสูร่ ุ่น 2. ความรูเ้ บื้องต้นในการประกอบอาชพี การทาขนมดอกจอก ขนมดอกจอก ในสมัยก่อนเป็นที่นิยมมากจะเป็นหน่ึงในขนมพิธีการสาคัญต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานขึน้ บา้ นใหม่ งานบวช เป็นต้น ท่ีเป็นที่นิยมท่ังในอดีตและปัจจุบันเป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจาชาติ ไทยอย่างหนึง่ ทีเ่ ป็นที่ร้จู ักกนั ดี 2.1 ความตอ้ งการของตลาด การบริโภคขนมดอกจอกน้ัน มีความนิยมรับประทานทุกยุคทุกสมัย หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ทัว่ ไป และราคาไมแ่ พง สามารถเก็บได้นาน 15 วนั 2.2 การใช้แรงงาน การทาขนมดอกจอกสามารถทาเองได้ท่ีบ้าน หรือรว่ มกลมุ่ กันทาได้ 2.3 การจัดหาวัสดอุ ุปกรณ์ 1) การเตรยี มวสั ดุอปุ กรณ์ เช่น กระทะ แมพ่ มิ พ์ดอกจอก ตะหลิว ตะแกรง แก้ว ฝาขวดนา้ ตะเกียบยาว เป็นต้น 2) การเตรยี มส่วนผสม

10 2.4 การเลือกทาเลท่ีต้งั การจัดหาหรือสรรหาสถานท่ี สาหรับประกอบธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคานึงถึง กาไร ค่าใช้จ่าย พนักงาน ความสัมพันธ์กับลูกค้าความสะดวก ตลอดจนสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ท่ีดีตลอดระยะเวลาที่ ประกอบธุรกจิ นัน้ 2.5 แหล่งเรยี นรู้ แหลง่ เรียนรู้ หมายถงึ แหล่งข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศ และประสบการณ์ ที่สนับสนุนส่งเสริมให้ ผู้เรียนใฝ่เรียน ใฝ่รู้ แสวงหาความรู้และเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย อย่างกว้างขวางและต่อเน่ือง เพื่อ เสริมสรา้ งใหผ้ เู้ รียนเกิดกระบวนการเรยี นรู้ และเป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้ 3. ทิศทางการพฒั นาการประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอก สากรับทิศทางการพัฒนา การลงทุนทาขนมดอกจอกนั้นไม่มาก อุปกรณ์หลักจะมีพิมพ์ทาขนม ดอกจอก ส่วนอุปกณ์อ่ืน เช่น กระทะ กะละมัง และอื่นๆ ก็ใช้ของใช้ในครัวเรือนได้ การต่อยอดประกอบอาชีพ เสรมิ ทาขนมดอกจอกขาย และการพัฒนารปู แบบการทาเพิม่ รสชาติ สีสันให้น่ารับประทาน

11 รายละเอียดเนอ้ื หาโครงสร้างหลักสตู ร หน่วยการเรียนที่ ๒ เรือ่ ง ทกั ษะการประกอบอาชพี เวลา 4 ชัว่ โมง สาระสาคญั การเตรียมการประกอบอาชพี การทาขนมดอกจอกได้ บอกขน้ั ตอนวิธีการทาขนมดอกจอกสามารถนา วัตถดุ ิบในท้องถนิ่ มาปรบั ใชใ้ นการทาขนมดอกจอกได้ ขอบข่ายเน้อื หา 1. ข้ันตอนการทาขนมดอกจอก 2. วธิ กี ารเกบ็ รักษา ความสอดคล้องหมวดวิชา วิชาทักษะการพัฒนาอาชพี , วิชาพฒั นาสงั คมและชมุ ชน และวิชาเลือก จุดประสงคป์ ลายทาง 1. สามารถอธิบายการเตรียมการประกอบอาชีพการทาขนมดอกจอกได้ 2. สามารถบอกขนั้ ตอนวธิ ีการทาขนมดอกจอกได้ 3. สามารถนาวัตถดุ ิบในท้องถ่ินมาปรับใช้ในการทาขนมดอกจอกได้ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. การบรรยายใหค้ วามรู้ 2. การถาม – ตอบ 3. การสาธติ 4. การฝึกปฏิบัตจิ รงิ สอ่ื 1. คมู่ ือการเรยี นรู้ 2. แผ่นพบั แหลง่ การเรยี นรู้ - ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอชาติตระการ/ ศนู ย์การเรยี นชุมชนประจาตาบล - กศน.อาเภอชาติตระการ การวดั ผลประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วมในการทากิจกรรม 2. การถาม – ตอบ

12 3. การปฏิบตั ิงาน 4. ชนิ้ งาน/ผลงาน ความสมั พันธ์กบั สาระในหลักสตู ร - ดา้ นการพัฒนาคุณภาพชวี ติ การเตรยี มงาน 1. การเตรียมเนือ้ หาการเรียนรใู้ ห้สอดคล้องกับการพัฒนาบคุ คล และสภาพทอ้ งถ่นิ 2. การออกแบบกจิ กรรม การเตรียมคาถาม 3. การเตรยี มวัสดุ อปุ กรณ์

13 ใบความรู้ ทกั ษะการประกอบอาชีพ 1. ขั้นตอนการทาขนมดอกจอก การทาขนมดอกจอก มวี ธิ ีการทาท่ีไมย่ ุง่ ยาก ขนมกรบุ กรอบอรอ่ ย กินเพลิน หาซื้อไดง้ ่าย ราคาไม่แพง ลงทุนไม่มากสามารถทาขายสร้างรายได้ได้เปน็ อย่างดี 1.1 วัสด/ุ อปุ กรณ์ - แมพ่ มิ พด์ อกจอก - กระทะ - ตะหลวิ - ถว้ ยตวง - ตะแกรงรอ่ นแปง้ - แก้ว - ฝาขวด - ตะเกยี บยาว - เปน็ ตน้

14 1.2 ข้ันตอนการทาขนมดอกจอก วัตถดุ บิ และสว่ นประกอบ 1. แปง้ ข้าวเจา้ 350 กรัม 2. แป้งสาลี 100 กรมั 3. แป้งมนั 50 กรัม 4. น้าตาลทราย 1 ถว้ ย 5. หวั กะทิ 1 ถ้วย 6. เกลอื (เล็กน้อย) 7. ไขไ่ ก่ 1 ฟอง 8. งาขาว/งาดา (ตามชอบ) 9. น้าปนู ใส 1 ถว้ ย 10. น้ามนั พืช (สาหรับทอด) วธิ ที า 1. ผสมแป้งขา้ วเจ้า แปง้ สาลี แป้งมนั เขา้ ด้วยกัน และใช้ ตะแกรงร่อนแป้งรวมกันอยา่ งนอ้ ย 2 – 3 รอบ เพือ่ ให้ แปง้ นมุ่ เนียน และเบา

15 2. นาน้าตาลทราย และเกลอื ผสมลงไป และคนใหเ้ ขา้ กนั 3. เติมน้าปนู ใสและหัวกะทิลงไป ผสมใหเ้ ขา้ กนั เป็นเนื้อ เดียวกัน ใสไ่ ข่ไก่ลงไป 4. กรองสว่ นผสมอีกรอบ เพอื่ ให้ส่วนผสมเข้ากันดีและมี ความละเอียด 5. นางาขาวและงาดาไปค่ัวใหห้ อม

16 6. เตมิ งาขาวและงาดาลงไปในส่วนผสมขนม 7. ตง้ั ไฟปานกลาง ใส่นามันลงไปในกระทะ พอน้ามันรอ้ นนา พิมพ์ไปแช่ในน้ามนั รอจนพิมพร์ อ้ นจดั 8. ยกพมิ พว์ างบนกระดาษซับน้ามนั จ่มุ พิมพ์ลงในส่วนผสม โดยเวน้ ระยะขอบแม่พิมพ์ไวเ้ ลก็ นอ้ ย เพื่อให้ สามารถถอดออกจากพิมพ์ได้ง่าย (เขยา่ แมพ่ ิมพเ์ ล็กนอ้ ย)

17 9. ทอดต่อจนเหลอื ง แล้วนาขนมมาวางบนกน้ แก้วหรือฝา ขวด เพอ่ื ใหข้ นมเปน็ ดอกสวยงาม 10.นาขนมไปพักไว้ พอเยน็ จดั เรียงขนมใส่ถุงแพ็คให้สวยงาม พรอ้ มรับประทาน 1.3 การบรรจผุ ลติ ภณั ฑ์ จัดเรียงขนมใสถ่ ุงแพ็คใหส้ วยงามตามขนาดของถงุ 2. วธิ ีการเกบ็ รกั ษา ขนมดอกจอกสามารถเก็บไวไ้ ด้นานถึง 15 วนั ข้อควรระวังอยา่ วางขนมทบั ซ้อนกนั มากเกินไป เพราะ จะทาให้ขนมแตกหักได้ง่าย

18 รายละเอยี ดเนื้อหาโครงสรา้ งหลกั สตู ร หนว่ ยการเรยี นท่ี ๓ เร่ือง การบริหารจดั การในการประกอบอาชีพ เวลา 30 นาที สาระสาคัญ การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชพี การทาขนมดอกจอก การจดั การควบคุมคณุ ภาพ การลด ตน้ ทนุ ในการทาขนมดอกจอก การวางแผนการผลติ การจดั การตลาด และการวางแผนการดาเนนิ งาน ขอบข่ายเนอ้ื หา ๑. การบรหิ ารจัดการ 2. การจัดการตลาด ๓. การวางแผนการดาเนนิ งาน ความสอดคล้องหมวดวิชา วิชาทกั ษะการพฒั นาอาชีพ , วชิ าพฒั นาสังคมและชมุ ชน และวิชาเลอื ก จุดประสงค์ปลายทาง 1. สามารถบรหิ ารการทาขนมดอกจอกอยา่ งถกู ต้อง 2. สามารถจดั การตลาดในการทาขนมดอกจอกได้ 3. สามารถวางแผนการดาเนินงานได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. การบรรยายให้ความรู้ 2. การถาม – ตอบ 3. การสาธติ ๔. การฝกึ ปฏิบัตจิ รงิ สอ่ื 1. คมู่ อื การเรียนรู้ 2. แผ่นพับ แหล่งการเรยี นรู้ - หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอชาติตระการ/ ศนู ยก์ ารเรียนชุมชนประจาตาบล - กศน.อาเภอชาตติ ระการ

19 การวดั ผลประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการทากจิ กรรม 2. การถาม – ตอบ 3. การปฏบิ ตั ิงาน 4. ชิน้ งาน/ผลงาน ความสัมพันธก์ บั สาระในหลกั สตู ร - ดา้ นการพฒั นาคุณภาพชวี ติ การเตรียมงาน 1. การเตรียมเน้ือหาการเรียนรใู้ หส้ อดคลอ้ งกบั การพฒั นาบคุ คล และสภาพทอ้ งถ่ิน 2. การออกแบบกจิ กรรม การเตรียมคาถาม 3. การเตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์

20 ใบความรู้ การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชีพ ๑. การบรหิ ารจดั การ 1.1 การจัดการควบคุมคุณภาพ ความสาคญั ของคุณภาพ ทาให้ผู้ผลิตสินค้าทุกรายต้องให้ความสนใจและคานึงถึงคุณภาพในการผลิต สินค้าหรือการให้บริการ ท้ังน้ีเพ่ือให้สินค้านั้นออกมาดี มีคุณภาพเหมาะสมในการใช้งานสินค้าและการรับ บริการ ฉะน้ันข้ันตอนต่าง ๆ ของการควบคุมคุณภาพนั้นจึงไม่จากัดอยู่แค่กระบวนการต่างๆ ภายในสถาน ประกอบการเท่านั้น แต่จะคลุมไปถึงการออกแบบสินค้า การกาหนดมาตรฐานการผลิต การตลาด รวมท้ังการ ให้บริการลูกค้าอีกด้วย 1.2 การลดต้นทุนในการทาขนมดอกจอก การสารวจและแก้ไขจุดบกพร่องภายในองค์กรธุรกิจ ซึ่งกลยุทธ์น้ีสามารถนาไปประยุกต์ใช้เพื่อความ อยู่รอดขององค์กรธุรกิจในยุคท่ีเศรษฐกิจตกต่า และเพื่อการเพิ่มศักยภาพของการแข่งขันในยุคที่เศรษฐกิจ รุ่งเรืองโดยมีความจาเป็นอย่างยิ่งท่ีองค์กรธุรกิจจะต้องรู้ว่าจะสามารถเพ่ิมรายได้และลดต้นทุนได้อย่างไร ซ่ึง หลักการลดต้นทุนที่สาคัญก็คือ ทาให้ต้นทุนต่อหน่วยต่าที่สุด ทาให้ปริมาณน้อยลง หรือตัดงานที่ไม่จาเป็น ออกไป อย่างไรก็ตามการลดต้นทนุ ตอ้ งคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อคณุ ภาพของสินค้า และการบริการที่มีผลต่อระดับ ความพึงพอใจของลกู คา้ เปน็ สาคญั โดยมีแนวทางสาคัญทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะหเ์ พ่อื ลดต้นทนุ การผลิต โดยทต่ี น้ ทนุ การผลิตแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภทหลกั คือ (1) ต้นทนุ ผนั แปร หมายถงึ ต้นทนุ ท่ีไมม่ ีการผลติ กไ็ มต่ อ้ งจา่ ย ผลิตมากใช้เงินมากแต่ต่อหน่วยเท่า เดมิ เช่น คา่ วัตถดุ บิ เชอ้ื เพลงิ ไฟฟ้า นา้ น้ามัน คา่ แรงพนกั งาน ค่าจา้ งเหมาประจาเดอื น คา่ ขนส่ง เปน็ ตน้

21 (2) ต้นทุนคงที่ หมายถึงต้นทุนท่ีถึงแม้ว่าจะไม่มีการผลิตก็ต้องจ่าย ซ่ึงหากผลิตได้น้อยกว่าที่ ประมาณการณ์จะทาให้ต้นทุนต่อหน่วยเพ่ิมขึ้น เช่น ค่าติดตั้งเครื่องจักร – อุปกรณ์ ค่าธรรมเนียม ค่าซ่อม บารุง ค่าเสื่อมราคา เปน็ ต้น 1.3 การวางแผนการผลิต การส่งเสริมเสริมสร้างขีดความสามารถการผลิต เสริมสร้างศักยภาพของการรวมกลุ่ม ให้เป็นกลไก หลักในการบริหารจัดการ โดยอาศัยแนวคิดและกระบวนการสหกรณ์เป็นพื้นฐานในการเสริมสร้าง ความ เข้มแข็งให้ครอบคลุมเกษตรกรและประชาชนในทุกพ้ืนที่และขยาย ผลเชื่อมโยงเครือข่ายระบบการผลิต การตลาดและการเงิน กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และการวางแผนการผลิต เป็นการวางแผนในการจัดการ ปัจจัยการผลิตต่าง ๆ เช่น แรงงาน เครื่องจักร วัตถุดิบ กระบวนการผลิต หรือ 4M (Man Machine Machine Method) เพื่อให้ผลการผลิตบรรลุตามเป้าหมายที่ถูกกาหนดไว้โดยความต้องการของลูกค้า (Customer Demand) ซึ่งความต้องการของลูกค้านั้นอาจเกิดจากการส่ังซ้ือจริงท่ีเกิดขึ้นแล้ว และการ พยากรณค์ วามตอ้ งการทีจ่ ะซื้อสนิ ค้าในอนาคตตามช่วงเวลาต่าง ๆ 2. การจดั การตลาด เทคนิคในการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรมีหลายข้นั ตอน และหลายรปู แบบ แต่ท่สี าคญั ผลติ ภัณฑ์ อาหารแปรรูปนน้ั ๆจะต้องมคี วามอรอ่ ย ผบู้ รโิ ภครับประทานแลว้ ต้องติดใจในรสชาติ ซง่ึ ผลติ ภณั ฑ์อาหารแปร รูปสามารถทารายไดใ้ ห้แก่เกษตรกร และผ้ปู ระกอบการ ไม่ว่าจะจาหน่ายในประเทศ หรือการส่งออกท่สี ามารถ เปน็ รายไดน้ าเข้าสปู่ ระเทศ 2.1 ข้อมูลความต้องการของลูกคา้ ผู้บริโภคต่างก็มีความจาเป็น ความต้องการ และอุปสงค์ ท่ีสามารถนาไปบริโภคเพ่ือสนองความ ตอ้ งการของตนเอง โดยจะคานงึ ถึงผลประโยชนท์ ผ่ี ลิตภณั ฑน์ ัน้ สามารถสนองความต้องการของตนเองได้ ซ่ึงทา ให้ได้รับผลประโยชน์ในด้านคุณค่า คุณภาพ และความพอใจ โดยผู้บริโภคจะแลกเปลี่ยนหรือทาการค้ากับ เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ัน ๆ ความสัมพันธ์ก็จะดาเนินการต่อไป การท่ีมีผู้บริโภคจานวนมากดาเนินการในลักษณะ ดงั กล่าวเราเรยี กวา่ เป็นตลาด และเรยี กกจิ กรรมทง้ั หมดนีว้ า่ การตลาด องค์ประกอบของการตลาด การวเิ คราะหเ์ กีย่ วกับความจาเปน็ ความตอ้ งการ และความต้องการซือ้ (อุปสงค)์ ต้องการข้ันพ้ืนฐา1น)ขอคงวรา่ามงจกาาเยปป็นรเะปก็นออบาดน้วายจคพวา้ืนมฐตา้อนงทก่ีทาราใในหป้บัจุคจคัยล4ต้อไงดก้แากร่อสาิ่งหใาดรสเิ่งคหรนื่อึ่งงนเุ่งพห่ือ่มสนทอ่ีองยคู่อวาศา2มัย2 และยารกั ษาโรค รวมถงึ ความต้องการพักผอ่ น และความต้องการทางเพศ 2) ความต้องการ เป็นรูปแบบหน่ึงของความจาเป็นท่ีพัฒนามาจากความจาเป็นข้ันพ้ืนฐาน เป็นความปรารถนาของบุคคลที่จะได้รับการตอบสนองความพอใจ ซ่ึงเป็นความต้องการในระดับที่ลึกซ้ึงกว่า ความจาเป็น โดยได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมและบุคลิกภาพส่วนบุคคลเกิดจากการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรม และสังคม และการยกย่องทางสังคมรวมถึงต้องการประสบความสาเร็จสูงสุดในชีวิต เช่นความต้องการ รับประทานอาหารในร้านหรู ราคาหลายสิบล้านบาท ต้องการท่ีดินทาเลดี เพ่ือหวังผลกาไรสูงสุดในอนาคต ฯลฯ มักจะให้ความสาคัญกับความลึกซึ้งของความหมาย เพื่อใช้ประโยชน์ในการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความ ต้องการสินค้าและบรกิ าร 3) ความต้องการซื้อ (อุปสงค์) เป็นความต้องการผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่ง ท่ีต้องมี ความสามารถในการซ้ือ ซึง่ จะประกอบดว้ ยองค์ประกอบ 3 ประการ คือ

3.1 ความต้องการหรอื ความจาเป็นในผลติ ภณั ฑ์ 3.2 ความสามารถในการซอื้ หรอื มอี านาจซอ้ื มีเงินพอท่จี ะซอื้ 3.3 ความเตม็ ใจทจ่ี ะซือ้ สนิ ค้าน้ัน ความจาเปน็ หรอื ความตอ้ งการสามารถเปลี่ยนเป็นความต้องการซื้อได้ถ้ามีอานาจซ้ือและมีความ เต็มใจซ้ือมาประกอบกัน ความจาเป็น ความต้องการและความต้องการการซื้อเป็นจุดเริ่มต้นของการตลาด ทา ให้เกิดความคิดที่จะเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ เพื่อท่ีจะสนองความต้องการของบุคคล ดังน้ันจุดเริ่มต้นของ การตลาดก็คือการวิเคราะห์และวิจัยถึงความต้องการของบุคคลที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองแล้ว จึงจะพัฒนา ผลติ ภัณฑเ์ พือ่ ที่จะสนองความต้องการเหล่านนั้ 2.2 การกระจายผลติ ภัณฑ์สู่ผบู้ รโิ ภค การกระจายผลิตภัณฑ์แปรรูปไปสู่ผู้บริโภค หรือ การจัดจาหน่ายสินค้า หมายถึง การนาสินค้า จากผู้ผลิตไปถึงลูกค้าผู้บริโภค จึงหมายรวมถึงการขายและซ้ือสินค้าโดยผ่านพ่อค้าคนกลาง ผู้ค้าส่ง และผู้ค่า ปลีก รวมทงั้ วธิ กี ารขนสง่ สินคา้ แต่ละข้ันตอน การจัดจาหน่ายโดยท่วั ไปแบ่งออกเปน็ 2 ชอ่ งทาง คอื 1. จากผู้ผลิต - ผ้บู รโิ ภค 2. จากผ้ผู ลติ - คนกลาง - ผ้บู ริโภค ช่องทางจาหน่ายสินค้าที่ดีท่ีสุด คือ ช่องทางการจัดจาหน่ายท่ีให้ผลกาไรแก่ผู้ผลิตมากท่ีสุด เพื่อให้ การขายหรือจาหน่ายสินค้าที่มีปริมาณมากได้รับผลกาไรท่ีดี ดังน้ันควรเลือกช่องทางจัดจาหน่ายท่ี หลากหลาย อาจมีชอ่ งทางหลกั อยู่หน่งึ ชอ่ งทาง และชอ่ งทางเสริมเพ่อื ใหก้ ารจาหน่ายมปี ระสิทธิภาพมากขน้ึ 2.3 การวางแผนการตลาด การตลาด คือ กลุ่มเป้าหมายของการขายผลิตภัณฑ์ซึ่งหมายถึงลูกค้าซ่ึงมีศักยภาพทั้งหมดท่ีมี ความจาเป็น และความต้องการผลิตภัณฑ์ซ่ึงอาจมีความเต็มใจและความสามารถท่ีจะแลกเปลี่ยนเพื่อสนอง ความจาเป็นหรือความต้องการให้ได้รับความพอใจของตน โดยใช้เงินในการจ่ายซื้อความพึงพอใจเหล่าน้ัน องค์ประกอบทั้ง 5 ประการเป็นกระบวนการทางการตลาด (marketing process) ซ่ึงเร่ิมจากการกาหนดและ วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าและสิ่งแวดล้อม การวางแผนส่วนประสมการตลาด การปฏิบัติตามแผนและ การควบคุมให้เป็นไปตามแผนถือว่าเป็นกระบวนการตลาดมาประยุกต์ใช้กับปัญหาทางธุรกิจ ทั้งด้านการ วางแผนและการควบคุม ส่วนใหญ่ข้อมูลที่ได้มักได้มาจากแบบจาลอง (model) ที่ใช้เทคนิคความรู้ทางธุรกิจ และทางการตลาดขั้นสูงสร้างข้ึนมา แล้วนาเอาความรู้ทางสถิติไปพิจารณาหาความสัมพันธ์ของข้อมูล และ ทวาดงสแอผบนคแวลาะมแนก่า้ไเขชส่ือถถาือนขกอางรขณ้อ์ทมาูลงดธ้วุรยกิจขไ้อดม้ ูลเชท่น่ีไดก้จาารกพแัฒบนบาจผาลลิตอภงเัณหฑล์่ใาหนม้ีจ่ะกเาปร็นกปารหะนโดยรชานค์ใานกกาารรตวัดางสแิน2ผใ3นจ การตลาด การตลาดอาจถูกมองว่าเป็นหน้าท่ีขององค์การและกลุ่มกระบวนการเพื่อการผลิต การส่งสินค้า และการส่ือสารคุณคา่ ไปยงั ลกู คา้ และการจัดการความสัมพันธ์ต่อลูกค้า ในทางท่ีเป็นประโยชน์แก่องค์การและ ผู้ถือหุ้น การจัดการการตลาดถือเป็นสิ่งสาคัญในการเลือกตลาดเป้าหมาย ตลอดจนการได้มาและการรักษา ลูกคา้ ผา่ นทางการจัดหาคณุ ค่าของลกู ค้า 2.3.1 การศึกษาความต้องการของตลาด ประโยชน์ของการศึกษาความตอ้ งการของตลาด 1) ช่วยในการวางแผนการผลติ /จาหนา่ ย 2) ลดต้นทนุ การผลิต

3) ตดิ ตามสถานการณ์เพอื่ วางแผนการจาหนา่ ย 2.3.2 ข้อมลู การตลาดท่จี าเปน็ สาหรบั ผู้ประกอบการ 1) ค้นพบความตอ้ งการทางการตลาด 2) เลอื กสนิ คา้ หรือบริการที่นาไปเสนอขายแลว้ สนองความต้องการของลูกค้าได้ 3) ตัง้ ราคาขายและดาเนินการขาย 4) ทาการโฆษณาสนิ คา้ และส่งเสริมให้มผี ูส้ นใจซื้อมากข้นึ 5) นาสินค้าออกเสนอขายและจัดจาหน่ายให้ท่ัวถงึ 6) ทาใหเ้ กิดผลกาไรจากการขายสนิ คา้ หรือบรกิ ารขนึ้ มา ตัวอยา่ งการคิดราคาขาย การทาแหนม 1 กโิ ลกรมั ใช้ต้นทุนทั้งหมด 100 บาท ต้องการกาไรร้อยละ 5 กาไรต่อ 1 กโิ ลกรัม 50 x = 50 บาท ต้องต้ังราคาขายกิโลกรัมละ 150 บาท การคิดราคาขายจะมีการยืดหยุ่นได้ตามราคาของวัตถุดิบ และค่าใชจ้ ่ายอ่ืนๆ ที่มกี ารเปลีย่ นแปลงอยู่ตลอดเวลา 2.4 การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การออกแบบ บรรจภุ ัณฑ์กล้วยกวน ในการอบรมครง้ั นชี้ าวบา้ นได้รถู้ งึ ความสาคญั ของบรรจุภัณฑ์ ทม่ี ตี ่อตัวสนิ คา้ การเพิ่มคณุ คา่ สนิ ค้าด้วยบรรจุภัณฑอ์ ีกทงั้ ไดเ้ รยี นร้กู ระบวนการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ การบรรจุหีบห่อหรือบรรจุภัณฑ์ หมายถึง การจัดนาผลผลิตที่ผ่านการทาความสะอาด การคัด ขนาดและคุณภาพแล้วบรรจุลงในภาชนะท่ีเตรียมไว้ โดยภาชนะนั้นสามารถป้องกันการกระทบกระแทกและ ความเสยี หายได้ เพ่อื นาผลผลติ ออกจาหนา่ ยแก่ผบู้ รโิ ภค ความสาคญั ของการบรรจุหบี หอ่ มดี ังน้ี 1. เพื่อรวบรวมผลผลิตมาบรรจุรวมกันเป็นหน่วยเดียว ซ่ึงทาให้ขนส่งได้รวดเร็วและเก็บรักษ าง2่าย4 2. เพื่อปอ้ งกันการสญู เสยี ทีอ่ าจเกิดขนึ้ ระหว่างการขนส่ง 3. เพื่อแจ้งรายละเอียดของผลผลติ 3. การวางแผนการดาเนนิ งาน การวางแผน เป็นงานที่สาคัญและจาเป็นต่อการบริหารขององค์การ เป็นภารกิจท่ีผู้บริหารต้องกระทา เปน็ ดาดับแรกของการบวนการบริหาร การดาเนินการใด ๆ ถ้ามีการวางแผนที่ดีมีข้ันตอนการปฏิบัติท่ีจัดเจนก็ เชื่อได้ว่า งานนั้นย่อมประสบผลสาเร็จและบรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะการพัฒนางาน การป้องกันความ ผิดพลาดทาได้โดยการวิเคราะห์ ขั้นตอนการทางานและปัจจัยการดาเนินงาน องค์การไม่มีแผนงานย่อมมี โอกาสท่ีประสบกับความล้มเหลวได้ง่าย ดั้งน้ัน องค์การจึงต้องมีการวางแผนเพ่ือให้กระบวนการปฏิบัติงาน เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ โดยใช้กระบวนการ PDCA

ภาพวงจรเดมม่ิง 1. Plan (วางแผน) การวางแผน ( Planning ) เป็นกระบวนการกาหนดวัตถุประสงค์ส่ิงที่จะต้องกระทาเพ่ือท่ีจะทาให้ บรรลุถึงวัตถุประสงค์ที่กาหนด การวางแผนผังเป็นกาตัดสินใจล่วงหน้าเก่ียวกับงานที่จะทาในอนาคตเป็นกา ร คิด วิเคราะห์ และตัดสินใจก่อนลงมือกระทา เป็นการมุ่งป้องกัน ปัญหามากกว่าการคอยแก้ปัญหาท่ีจะเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าการวางแผนเป็นการเชื่อมโยงจากปัจจุบันท่ีเป็นอยู่ไปสู่จุดมุ่งหมายท่ีต้องการวางแผน จึงเป็น กระบวนการในการคิด วิเคราะห์ เพ่ือให้ทราบถึงสถานการณ์ท่ีเป็นอยู่ในปัจจุบันพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ท่ี ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนทง้ั นีจ้ ะต้องมีการคดิ พจิ ารณาถึงรายละเอียดของสิ่งที่ต้องทาพร้อมกับการระบุผลสาเร็จต่าง ๆ ท่ตี ้องการ ซ่งึ จะนาไปสวู่ ัตถุประสงคต์ ามทไ่ี ด้ตงั้ ไว้ 2. Do (ปฏบิ ัติตามแผน) การทาตามแผนที่ได้ต้ังเป้าหมายไว้ด้วยความต้ังใจ มุ่งม่ันพยายามท้ังนี้ การปฏิบัติเป็นการลงมือ ปนั้รนับวป่าไรดุง้ดเปาลเน่ียินนไแปปใลนงทติศาทมทางาทงเี่ตล้ังือใกจทห่ีไรดือ้กไมาห่ พนรด้อไวม้ใกนับขสั้น่ือตสอานรกใหาร้ผวู้ทา่ีเงกแ่ียผวนข้อซง่ึงทต้อรางตบรแวจลสะอตบิดรตะาหมวก่าางรกปาฏริบปัตฏ2ินิบ5้ันัติ อย่างสม่าเสมอ เพ่อื ศกึ ษาถึงความเป็นไปไดแ้ ละหาแนวทางแกไ้ ขปัญหาท่ีอาจจะเกิดขึ้นได้ในระหว่างการปฏิบัติ เพอ่ื จะมนั่ ใจได้ว่าการปฏิบัติตามแผนท่ีวางไว้น้ันเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดประโยชน์ของการปฏิบัติตามแผน ช่วยให้ทราบข้ันตอน วธิ ีการและสามารถเตรียมงานได้ล่วงหน้า ดังน้ัน การปฏิบัติงานก็จะเป็นไปตามเป้าหมาย ที่กาหนดไว้ โดยไม่มีปญั หาหรอื อปุ สรรคเกิดข้นึ 3. Check (ตรวจสอบการปฏิบตั ติ ามแผน) การประเมินเป้าหมายชีวิตที่วางแผนไว้ว่าสามารถปฏิบัติได้สาเร็จหรือไม่ และต้องปรับปรุงหรือ แก้ไขอย่างไรบ้างจึงจะทาให้ประสบความสาเร็จในชีวิต ทังน้ี การตรวจสอบเป็นการประเมินผลที่ได้รับจากการ ปฏิบัติ (DO) โดยการตรวจสอบทาให้ทราบว่าในการปฏิบัติน้ันสามารถบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ได้

กาหนดไว้หรอื ไม่ สงิ่ สาคัญก็คอื ตอ้ งรู้วา่ จะตรวจสอบอะไรบ้างและมคี วามสม่าเสมอมากน้องเพียงใด ข้อมูลที่ได้ จากการตรวจสอบจะเปน็ ประโยชนใ์ นขั้นตอนตอ่ ไป 4. Act (ปรับปรงุ แก้ไข) การนาเอาผลการประเมนิ มาปรับปรงุ และ/ หรือพฒั นาวิธีการทาให้ชีวิตประสบความสาเร็จมากขึ้น ท้ังน้ี เป็นการดาเนินงานให้เหมาะสมซ่ึงจะพิจารณาผลท่ีได้จากการตรวจสอบซึ่งมี 2 กรณี คือ ผลท่ีเกิดข้ึน เปน็ ไปตามแผนท่วี างไว้ หรอื ไมเ่ ป็นไปตามแผนท่ีวางไว้ ถ้าผลท่ีเกิดข้ึนเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ก็จะนาแนวทาง หรือกระบวนการปฏิบัติ (DO) น้ันมาจัดทาให้เป็นมาตรฐานพร้อมทั้งหาวิธีการที่จะปรับปรุงให้ดีย่ิงข้ึน ซึ่ง อาจจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้เร็วกว่าเดิม และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเดิม รวมทั้งทาให้คุณภาพดียิ่งข้ึนก็ได้ ถ้าหากไม่เปน็ ไปตามแผนท่ีวางไว้ก็ควรจะนาข้อมูลท่ีรวบรวมไว้มาวิเคราะห์ และพิจารณาว่าควรจะดาเนินการ อย่างไรตอ่ ไป การจดั ทาบัญชี การจดั ทาบัญชี หมายถึง การจดบนั ทกึ รายการซอ้ื ขายทุกอยา่ งทม่ี ีขึน้ ในการประกอบธุรกจิ ซงึ่ เรา สามารถกาหนดคา่ ออกมาเป็นตวั เงินไว้เป็นฐานได้ การทาบญั ชรี ายรับรายจา่ ยนัน้ เปน็ สง่ิ บนั ทกึ จาเป็นอย่าง ยงิ่ ในการลงทนุ ประกอบอาชีพ เพราะทาให้ได้ทราบถงึ ตน้ ทุน กาไร รวมถงึ ปริมาณการผลิต และการขาย สนิ ค้า

26

27 คณะทางาน ที่ปรกึ ษา กันตง ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอชาติตระการ 1. นางพรสวรรค์ ภาศรี ครชู านาญการ 2. นายรุง้ ภธู ร ลว้ นมงคล ครผู ชู้ ว่ ย 3. นางสาวชมพูนชุ คณะทางาน ล้วนมงคล ครูผู้ช่วย 1. นางสาวชมพูนชุ วันช่ืน ครอู าสาสมัครฯ 2. ว่าที่ พ.ต.บุญสง่ ยศปญั ญา ครอู าสาสมัครฯ 3. นางสาวภาณมุ าศ บญุ ประกอบ ครอู าสาสมัครฯ 4. นางสาวประยรู แต่งเนตร ครู กศน.ตาบลบา้ นดง 5. นางสาวสุภาพร พระคาสอน ครู กศน.ตาบลชาติตระการ 6. นางสาวนิภาพร มัน่ หยวก ครู กศน.ตาบลสวนเมีย่ ง 7. นางสาวกัญญณัช พ่วงปิน่ ครู กศน.ตาบลป่าแดง 8. นายอษั ฎาพร แสงสีบาง ครู กศน ตาบลท่าสะแก 9. นางสาวเปยี ทิพย์ ฟองจางวาง ครู กศน.ตาบลบ่อภาค 10. วา่ ทีร่ ้อยตรหี ญิงสุธาสนิ ี โคกนอ้ ย ครู ศรช.ตาบลป่าแดง 11. นางสาวพรพนา แฟงวัชรกุล บรรณารักษ์อตั ราจา้ ง 12. นางสาวน้าอ้อย ผูเ้ รียบเรียง/จัดพิมพร์ ูปเล่ม/ออกแบบปก 1. นางสาวเปยี ทิพย์ แสงสบี าง ครู กศน.ตาบลทา่ สะแก ครู กศน.ตาบลชาติตระการ 2. นางสาวนิภาพร พระคาสอน ครอู าสาสมัครฯ 3. นางสาวประยรู บุญประกอบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook