-ก- คานา Best Practice เปน็ วิธีการทางานทีด่ ีที่สุดในแต่ละเร่ือง ซึ่งสามารถเกดิ ขึน้ ได้ในทุก หนว่ ยงาน จากหลาย ช่องทาง ท้ังตัวผู้นา ผู้ร่วมงาน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือภาวะปัญหา และการ ริเริ่มสร้างสรรค์ พัฒนาที่มีขั้นตอน เม่อื มีวธิ กี ารทางานท่ีดีตอ้ งทาผ่านการเล่าเรื่องที่เป็นการทางาน ของตนเองมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในลักษณะของ การแลกเปลี่ยนข้ามสายงาน ข้ามหน่วยงานโดย เกิดขึ้นในระดับบุคคล ระดับกลุ่มคน และระดับหน่วยงาน ย่อย Best Practice ท่ีได้ควรมีการบันทึก เขียนรายงานเพ่ือการศึกษาพัฒนา และเผยแพร่ได้ ซึ่งจะเกิด ประโยชน์อยา่ งยง่ิ กศน.ตาบลทา่ สะแก ขอขอบคณุ ภาคเี ครอื ขา่ ยและผูม้ สี ว่ นเกี่ยวข้องทุกท่าน ท่ีให้ความรู้ คาแนะนาและ ใหค้ าปรกึ ษาเป็นแนวทาง ผจู้ ัดทาหวงั เปน็ อยา่ งยิง่ ว่าเอกสารเลม่ นี้ จะเป็นประโยชน์สาหรับผู้นาไปใช้จัดกิจกรรม การเรียนรู้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพหากพบข้อผิดพลาดหรือมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทาขอน้อมรับไว้แก้ไข ปรับปรุงด้วยความขอบคุณยิ่ง จดั ทาโดย นางสาวเปยี ทพิ ย์ แสงสบี าง กศน.ตาบลท่าสะแก
-ข- สารบัญ เรอ่ื ง หน้า คานา ก สารบญั ข ช่อื ผลงาน ผา้ ทอมัดหมลี่ ายขอเจ้าฟ้าสริ วิ ัณณวรีฯ ๓ ๓ - ประเภทผลงานแนวปฏิบตั ทิ ่ีดี ตามภารกิจต่อเน่ือง ๓ ๓ - ชือ่ หนว่ ยงาน/ สถานศึกษา/ ผเู้ สนอผลงาน ๓ - บทคดั ย่อ ๔ ๔ - ความเป็นมาและความสาคญั ของปญั หา (ความสาคัญของผลงาน “แนว ๖ ๖ ปฏิบตั ิท่ีดี”) ๖ ๖ - วัตถุประสงค์และเปา้ หมายของการดาเนนิ การ ๗ ๗ - กระบวนการดาเนินงาน ๑๑ - ผลการดาเนนิ งาน - ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับและการเผยแพร่ - กลยทุ ธ์หรอื ปัจจยั ท่ีทาใหป้ ระสบความสาเรจ็ - ปัญหาอปุ สรรคและข้อเสนอแนะ - การอ้างอิง (ระบุแหล่งอ้างอิง เอกสารอ้างอิง ฯลฯ) - ภาคผนวก - คณะผู้จัดทา
ชอ่ื ผลงาน ผา้ ทอมดั หมีล่ ายขอเจา้ ฟา้ สิรวิ ัณณวรฯี ๑. ประเภทผลงานแนวปฏิบัตทิ ี่ดี ตามภารกจิ ต่อเน่อื ง - ประเภทด้านการศกึ ษาเพ่อื พัฒนาอาชพี ๒. ช่อื หน่วยงาน/ สถานศึกษา/ ผเู้ สนอผลงาน กศน.ตาบลทา่ สะแก หมู่บา้ น บ้านนอ้ ย ตาบลทา่ สะแก อาเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก รหสั ไปรษณยี ์ ๖๕๑๗๐ สังกัด กศน.อาเภอชาติตระการ สานักงาน กศน.จงั หวัดพิษณุโลก โทรศพั ท์ ๐๕๕-๓๘๑๔๘๗ โทรสาร ๐๕๕-๓๘๑๔๘๗ ช่ือ – ช่ือสกลุ ผู้เสนอผลงาน นางสาวเปียทิพย์ แสงสบี าง โทรศัพท์มือถือ ๐82-884-6874 E-mail [email protected] ๓. บทคัดยอ่ ผลงานแนวปฏิบัติที่ดีด้านการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ เร่ือง ผ้าทอมัดหม่ีลายขอเจ้าฟ้าสิริรวัณณวรีฯ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะความรู้ ความเข้าใจเทคนิคการทอผ้ามัดหม่ีลายขอเจ้าฟ้า สิริวัณณวรีฯ สามารถนาไปใช้ในการประกอบอาชีพเพิ่มรายได้ 2) เพ่ือเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และ อาชีพดั้งเดมิ ของ บรรพบรุ ุษ 3) เพื่อเป็นการสืบสานวฒั นธรรมการทอผา้ มัดหมกี่ ่กี ระตุก ผลการดาเนินการของกลุ่มผ้าทอมัดหมี่กี่กระตุก จานวน 25 คน พบว่าผู้เรียนเกิดทักษะความรู้ ความเข้าใจเทคนิคการทอผ้ามัดหม่ีลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ด้วยกี่กระตุก สามารถนาไปใช้ในการประกอบ อาชีพเพิ่มรายได้ เป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และอาชีพด้ังเดิมของบรรพบุรุษและสามารถการสืบสาน วัฒนธรรมการทอผา้ มดั หม่กี กี่ ระตุกได้ ๔. ความเปน็ มาและความสาคัญของปญั หา (ความสาคัญของผลงาน “แนวปฏบิ ัตทิ ด่ี ี”) การจดั การศึกษาอาชพี ในปจั จบุ ันมคี วามสาคญั มาก เพราะจะเปน็ การพัฒนาประชากรของประเทศให้มี ความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็ง ใหแ้ ก่เศรษฐกจิ ชมุ ชน เป็นการยกระดับการจัดการศึกษาเพ่ือเพิ่มศักยภาพและขีดความ สามารถให้ประชาชนได้ มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่ม่ันคง โดยเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่างๆ มุ่งพัฒนา คนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพ ท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมี รายได้มั่นคง ม่ังค่ัง และมีงานทาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ที่สร้างความ มนั่ คงให้แก่ ประชาชนและประเทศชาติ การทอผ้ามัดหมี่ก่กี ระตุก เปน็ ภมู ิปัญญาพนื้ บา้ นทช่ี าวบ้านบ้านน้อยได้สบื ทอดกนั มานาน มัดหม่ี เป็น กรรมวิธีการทอผ้าแบบหนึ่ง ที่อาศัยการย้อมเส้นด้ายก่อนการทอ ทัง้ ท่ียอ้ มเฉพาะดา้ ยพ่งุ และย้อมด้ายยนื เพื่อให้ เม่อื ทอผา้ ออกม้าเปน็ ผืนแล้ว เกิดเป็นลวดลายและสสี ันตามท่ีตอ้ งการ เดมิ นน้ั นิยมใช้เส้นไหม แต่ปัจจุบนั พบการ มัดหมีท่ ั้งเสน้ ไหม ฝา้ ย และเสน้ ใยสังเคราะห์
๔ คาว่า \"มัดหมี่\" มาจากกรรมวิธีการ \"มัด\" เส้นด้ายเป็นกลุ่ม ๆ ก่อนการย้อมสี ส่วน \"หม่ี\" นั้น หมายถึง เส้นดา้ ย การมัดหมใี่ ชข้ ัน้ ตอนยุ่งยาก ต้ังแต่การเตรยี มเส้นด้าย และมัดเพื่อย้อมสีเป็นช่วงๆ กระท่ังได้สีท่ีต้องการ ครบถว้ น ซง่ึ ตอ้ งย้อมหลายคร้ังด้วยกนั ในภาคเหนอื นิยมเรียกวา่ มดั ก่าน อาจมีความสบั สนระหวา่ งคาว่า มัดหม่ี และ มดั ย้อม ซึง่ พบได้มากในปจั จุบัน กลา่ วคือ มัดหมี่ นนั้ เปน็ การมดั เสน้ ด้ายเพ่ือนามาใช้ทอ มีหลากสี และมีลวดลายท่ีละเอียด สว่ น มดั ยอ้ ม นั้น เปน็ การนาผา้ สาเรจ็ มามดั แลว้ ย้อมสี (มักจะย้อมคร้ังเดยี ว สีเดียว) มี ลวดลายขนาดใหญ่ ไมเ่ น้นลักษณะของลวดลายใหช้ ัดเจนนัก ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอชาติตระการ จึงได้จัดทาหลักสูตรทอผ้า มัดหม่ีลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ข้ึน เพื่อส่งเสริมด้านอาชีพเป็นการฝึกทักษะพื้นฐานอาชีพ เป็นแนวทางการ ประกอบอาชีพ และทาให้ประชาชนมรี ายไดเ้ สรมิ สามารถนาไปประกอบอาชพี ให้กบั ตนเองและครอบครัวได้ ๕. วตั ถุประสงค์และเปา้ หมายของการดาเนินการ ๕.๑ วัตถปุ ระสงค์ 1) เพอื่ ใหผ้ ้เู รยี นเกิดทกั ษะความรู้ ความเข้าใจเทคนิคการทอผ้ามดั หมล่ี ายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ สามารถนาไปใชใ้ นการประกอบอาชีพและเพิม่ รายได้ 2) เพอื่ เปน็ การอนรุ ักษ์ภมู ิปัญญาท้องถิน่ และอาชีพดัง้ เดมิ ของบรรพบุรุษ 3) เพอ่ื เป็นการสบื สานวฒั นธรรมการทอผ้ามัดหมี่ก่ีกระตุก ๕.๒ เปา้ หมายของการดาเนนิ งาน ๑) เชงิ ปริมาณ 1. สมาชิกกลมุ่ ทอผา้ มดั หมกี่ ี่กระตุก บ้านนอ้ ย จานวน 25 คน ๒) เชิงคณุ ภาพ 1. สมาชิกกลุ่มทอผา้ มัดหมี่กี่กระตุกบา้ นน้อย เกิดทักษะในการทอผ้ามดั หมลี่ ายขอ เจ้าฟา้ สริ วิ ัณณวรฯี การบรหิ ารจดั การกลุม่ และการตลาด สามารถนาความรู้ไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพชวี ติ และ ครอบครัวได้ ๒. ประชาชนมีความรู้ ทกั ษะการทอผ้ามดั หมล่ี ายขอเจ้าฟ้าสริ ิวัณณวรฯี ดว้ ยกก่ี ระตุก ซง่ึ เปน็ กระบวนการสบื ทอดอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและสร้างอาชพี ต่อไปได้ ๖. กระบวนการดาเนินงาน ๖.๑ วธิ ดี าเนินการ 1. สารวจความตอ้ งการของประชาชน ข้อเสนอแนะในการดาเนนิ การจดั การกลมุ่ เพือ่ ทราบถึง ปัญหาและข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาในกลุ่มทอผ้ามดั หม่กี กี่ ระตุกบ้านนอ้ ย หมู่ 3 ตาบลท่าสะแก ๒. ทาจัดตง้ั กลมุ่ อาชีพ และทาแผนกิจกรรมพฒั นากลุ่มทอผา้ มัดหมี่ก่ีกระตุก ในเรอ่ื งของ เทคนิคการทอผ้ามดั หมี่ก่ีกระตกุ การแปรรูปและการตลาด หลกั สตู รการทอผ้ามัดหมี่กกี่ ระตุก แบบดั้งเดมิ และ การปกั แบบโบราณและการปักแบบใหม่และลวดลายใหม่ และแบบผสมผสาน
๕ ๓. ประสานงานหน่วยงาน ภาคีเครือข่ายท่ีเก่ียวข้องเพ่ือฝึกอบรมทักษะของกลุ่ม ได้แก่ องค์การบรหิ ารส่วนตาบลท่าสะแก ผนู้ าชุมชนและภูมิปญั ญาในหมบู่ า้ นบ้านนอ้ ย ๔. ดาเนนิ การจัดกจิ กรรมตามแผนงานทกี่ าหนดและสามารถปรับเปล่ยี นกจิ กรรมได้ตามความ เหมาะสม ๔.๑ การดาเนินกิจกรรมการจัดการเรียนรู้เร่ืองการทอผ้ามัดหมี่กี่กระตุกแบบดั้งเดิมและ ลวดลายใหม่ ช่วงที่ ๑ ณ กลุ่มผา้ ทอมดั หมี่กีก่ ระตกุ บา้ นน้อย และช่วงที่ ๒ ณ กลุม่ ผ้าทอมดั หม่ีกี่กระตุกบ้านน้อย โดยครู กศน.ตาบล เชิญภูมิปัญญาในหมู่บ้านมาให้ความรู้ด้านการทอผ้ามัดหมี่กี่กระตุก โดย กศน.อาเภอ ชาติตระการสนับสนุน วัตถุดิบสาหรับการทอผ้า และให้ประชาชนหัดทอผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ตามลายทสี่ อน ๔.๒ การดาเนินกจิ กรรมร่วมกบั กลุม่ การกลมุ่ ผ้าทอมดั หม่ีกี่กระตุกบา้ นน้อย - ร่วมประชุม วางแผนโดยมีข้ันตอน ดังนี้ ทาโครงการเสนอขอวัสดุจาก กศน.อาเภอ ชาติตระการ ให้กับกลมุ่ เพือ่ ท่ีจะทอผ้ามดั หมี่ลายขอเจา้ ฟา้ สริ ิวัณณวรฯี ด้วยกกี่ ระตุก ตอ่ ไป - การพัฒนาเทคนิคทอผ้ามัดหมี่กี่กระตุก แบบด้ังเดิมหรือวิธีการปักลวดลายแบบโบราณ ประยกุ ตผ์ สมผสานกับ วิธกี ารปักและลวดลายใหม่ๆ และการผสมสขี องลวดลายใหส้ วยงามและเดน่ สะดดุ ตา - การพฒั นาลวดลายการทอผา้ มัดหม่กี ีก่ ระตกุ เป็นลายขอเจ้าฟา้ สิริวัณณวรีฯ - การบริหารจัดการกลุ่มกลุ่มผ้าทอมัดหมี่กี่กระตุกนั้น โดยครู กศน.ตาบลสอนวิธีการทา บัญชีรายรบั รายจา่ ยภายในกลุ่มแบบง่ายๆ เหมอื นกับการทาบญั ชคี รวั เรอื น ๕. ตดิ ตามและประเมนิ ผลรว่ มกบั หน่วยงานเครอื ข่ายทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ๖. สรุปและจัดทารายงานผลการดาเนินงาน และเผยแพร่ไปยงั หน่วยงานที่เก่ยี วข้อง ๖.๒. ตัวชีว้ ดั ความสาเรจ็ 1. กลุม่ อาชีพการทอผา้ มัดหม่กี ก่ี ระตกุ สามารถผลติ และจาหน่ายผลิตภัณฑ์จากผา้ ทออย่างมี คุณภาพ และมีรายไดเ้ พิ่มขึน้ 2 ประชาชนได้เรียนรวู้ ิธีการทอผา้ มัดหมี่กีก่ ระตกุ ลายผ้าจากภูมิปญั ญาในท้องถน่ิ สามารถ นามาใช้ในชวี ิตประจาวันและนาไปประกอบอาชีพได้ ๖.๓. การประเมนิ ผลและเครื่องมือการประเมนิ ผล 1. ประเมินจากผลงาน/ชิน้ งาน โดยใชแ้ บบประเมนิ ผลงาน/ชิน้ งาน และติดตามการนาไปใช้ ประโยชน์และการสรา้ งงานสร้างรายไดข้ องกลุม่ อาชพี 2. ประเมนิ ความรแู้ ละทักษะการทอผา้ มัดหมลี่ ายขอเจ้าฟ้าสริ ิวณั ณวรฯี ด้วยกก่ี ระตุก ของ กลุ่มและประชาชนจากผลงาน/ช้นิ งาน โดยใช้แบบประเมินผลงาน/ชิ้นงาน และการสงั เกตการณ์นามาใชใ้ น ชวี ติ ประจาวนั
๖ ๗. ผลการดาเนินงาน 7.1 กลุ่มสมาชิกท่ีเป็นผู้ใหญ่สามารถนาความรู้ท่ีได้รับไปพัฒนากลุ่มและพัฒนาคุณภาพของผ้าทอ มัดหมก่ี ี่กระตุก ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง สมาชกิ เหน็ ความสาคัญของการรวมกลมุ่ รู้บทบาทและหน้าที่ของตนเองเกิดการ มีส่วนร่วมมากขึ้น และจากการติดตามผลการนาความรู้และทักษะไปใช้ประโยชน์ พบว่า กลุ่มสมาชิกมีงานทา มีรายได้จากการจาหน่ายสินค้าผ้าทอมัดหม่ีลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ในรูปแบบของผ้าทอสาหรับไปตัดชุด ในราคา เมตรละ 250 บาท 7.2 ผ้เู รียนเกดิ ทักษะจากกระบวนการเรียนรู้ในการทอผา้ จากภูมิปัญญาในชุมชน สามารถนาผ้าที่ทอได้ ไปทาเปน็ ผา้ สไบ ผ้าคาดเอวและเห็นช่องทางประกอบอาชีพ เป็นกระบวนการอนุรักษ์และสืบทอดองค์ความรู้ใน ชมุ ชน ๘. ประโยชนท์ ไี่ ด้รบั และการเผยแพร่ ๘.๑. ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับ 1. สร้างมลู ค่าให้กับผ้าทอมัดหมก่ี ีก่ ระตกุ เพิ่มมากขนึ้ จากการประยุกตล์ วดลายตา่ ง ๆ เพิม่ ขนึ้ ตามจนิ ตนาการของผู้ทอและมกี ารพฒั นาผลิตภัณฑ์เปน็ ผา้ พนั คอ ผ้าคลมุ่ ไหล่ กระเปา๋ (ยา่ ม)เป็นต้น ทาให้ผา้ ทอมดั หมี่กก่ี ระตุกมีความทนั สมยั มากยงิ่ ขึ้น 2. ประชาชนเหน็ คุณค่าของภูมิปัญญา จากการเรยี นรูเ้ ร่ืองการทอผ้ามดั หม่ีกกี่ ระตกุ จาก ภูมิปญั ญาในชมุ ชนและสืบทอดการแตง่ กายประดับดว้ ยผา้ ทอมดั หมกี่ ี่กระตุก 3. ภมู ปิ ญั ญาด้านการทอผ้า เกิดความภาคภูมิใจและเห็นคุณคา่ ในตนเองและในชมุ ชน ๘.๒. การเผยแพร่ ดาเนินการเผยแพร่ โดยจัดทาเอกสาร ไดแ้ ก่ หลกั สตู รทอ้ งถ่ิน รายงานสรปุ และประเมนิ ผล การดาเนินงานและเผยแพร่ใหก้ บั หนว่ ยงานและเครือข่ายทีเ่ กี่ยวข้องทราบ และใชช้ มุ ชนเปน็ ฐานแลกเปลยี่ น เรยี นรเู้ ร่ืองการทอผ้ามัดหมีก่ ่ีกระตุกใหก้ บั ผูท้ ่ีสนใจและชุมชนอื่น ๆ การเผยแพร่ผา่ นช่องทางออนไลน์ เช่น ทาง line , เพจ OOCC กศน.อาเภอชาตติ ระการ ๙. กลยทุ ธ์หรือปจั จัยทท่ี าให้ประสบความสาเร็จ 1. ครูจัดกิจกรรมที่สอดคลอ้ งกบั สภาพ ปญั หา ความต้องการของชุมชน 2. ผ้นู าชมุ ชนและคนในชุมชนให้ความรว่ มมือในการให้ข้อมลู สภาพ ปญั หา ความต้องการของชุมชน และรว่ มมือในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. วทิ ยากร/ภูมิปัญญาในหมู่บ้าน เปน็ ผมู้ ีความรูค้ วามสามารถและทักษะในเนื้อหาทฝี่ ึกอบรม ๑๐. ปัญหาอปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะ ปัญหาอปุ สรรค สมาชิกกล่มุ ผ้าทอมดั หมกี่ ี่กระตุก จะทาการเกษตรกรสว่ นใหญ่ เมอ่ื ถึงชว่ งฤดูกาลทานาสมาชิกกจ็ ะต้อง ไปทาอาชีพหลักของตนเองก่อน แลว้ คอ่ ยมาทอผ้า จึงเกิดการล่าช้ากว่าสมาชกิ ในกลุม่ และอีกประเดน็ คือยงั ไม่ สามารถรวมกล่มุ กนั ได้ตามท่ีต้งั เปา้ ไว้
๗ ขอ้ เสนอแนะ ครู ทาหนา้ ท่เี ป็นท่ปี รึกษาการดาเนินงานของกลุ่มทอผา้ ควบค่ไู ปกบั การพฒั นาอาชพี สมาชกิ กล่มุ ผ้าทอ มัดหมี่ก่ีกระตุก อย่างตอ่ เนื่อง ๑๑. การอา้ งอิง (ระบุแหล่งอ้างอิง เอกสารอ้างองิ ฯลฯ) เอกสารประกอบการอบรม แนวทางการนาเสนอแนวปฏิบัตทิ ด่ี ี (Best Practice) สถาบนั พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยภาคเหนือ สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ ๑๒. ภาคผนวก
๘
๙
๑๐
๑๑ คณะผู้จัดทา คณะท่ีปรกึ ษา ผู้อานวยการ กศน.อาเภอชาติตระการ ครชู านาญการ 1. นางพรสวรรค์ กนั ตง ครูผ้ชู ว่ ย 2. นายรุ้งภูธร ภาศรี ครอู าสาสมัครฯ 3. นางสาวชมพนู ุช ลว้ นมงคล ๔. นางสาวประยูร บุญประกอบ ครู กศน.ตาบลทา่ สะแก ผู้เขยี น / ผูเ้ รยี บเรียง ครู กศน.ตาบลท่าสะแก 1. นางสาวเปียทิพย์ แสงสีบาง ครู กศน.ตาบลทา่ สะแก ขอ้ มลู / สรุปผล 1. นางสาวเปียทิพย์ แสงสบี าง ผูจ้ ดั ทาภาพประกอบ / ออกแบบปก 1. นางสาวเปียทิพย์ แสงสบี าง
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: