ก คานา โครงการจดั และส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิตเพ่ือคงพัฒนาการทางกาย จิต และสมองของผู้สูงอายุ (มิติสุขภาพ มติ สิ ังคม) จัดขึ้นเพื่อพฒั นาผู้สูงอายใุ นการชะลอความเสื่อมของร่างกาย มีสมรรถภาพร่างกายแข็งแรง ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตใจที่เข้มแข็งมีความสุข มีความเช่ือมั่น เห็นคุณค่าในตนเอง สามารถคิดอย่างมีเหตุมีผล มี ทกั ษะในการสอื่ สาร แก้ไขปญั หาในการดูแลสุขภาพของตนเองได้ และส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ มีความรู้ ความเข้าใจ ในการปลกู กญั ชง-กญั ชา และใช้กัญชง-กัญชาในการรักษาโรค สรุปผลการจัดกิจกรรมเล่มน้ี ได้เรียบเรียงผลการจัดกิจกรรมโครงการจัดและส่งเสริมการจัดการศึกษา ตลอดชีวิตเพ่อื คงพฒั นาการทางกาย จิต และสมองของผู้สูงอายุ (มิติสุขภาพ มิติสังคม) ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อผู้ที่พบเห็น หากมีข้อผิดพลาดหรือมีข้อเสนอแนะที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ โปรด แจ้งผจู้ ดั ทาเพือ่ ใชใ้ นการปรับปรงุ แก้ไขข้อมูลในครั้งตอ่ ไปและขอขอบคณุ ไว้ ณ โอกาสน้ี กศน.ตาบลท่าสะแก
ข สารบญั เรื่อง หนา้ คานา ก ข สารบัญ 1 ส่วนที่ 1 สรุปผลการดาเนนิ โครงการจดั และส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวติ เพอื่ คงพัฒนา 1 2 ทางกาย จติ และสมองของผู้สงู อายุ (มิตสิ ขุ ภาพ มิตสิ งั คม) 2 หลักการและเหตุผล วัตถปุ ระสงค์ เปูาหมาย ส่วนที่ 2 วิธกี ารดาเนินการ 3 4 การดาเนินการจดั กจิ กรรม ส่วนท่ี 3 เนอ้ื หาสาระ ส่วนท่ี 4 ผลการดาเนินงาน 23 สว่ นท่ี 5 สรปุ ผลโครงการ อภิปรายผล และขอ้ เสนอนะ 29 33 ภาคผนวก ภาพกิจกรรม เอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ ง คณะผู้จัดทา
สรปุ ผลการดาเนนิ โครงการ โครงการจดั และส่งเสริมการจดั การศกึ ษาตลอดชีวิต เพ่ือคงพัฒนาการทางกาย จิต และสมอง ของผู้สงู อายุ (มติ ิสุขภาพ มติ ิสงั คม) ตาบลทา่ สะแก *************************************************************************************************** สว่ นที่ 1 รายละเอียดโครงการ โครงการจดั และส่งเสริมการจัดการศกึ ษาตลอดชีวิต เพอื่ คงพฒั นาการทางกาย จิต และสมองของผสู้ ูงอายุ (มิตสิ ุขภาพ มติ สิ ังคม) ตาบลทา่ สะแก แผนงาน งบประมาณ : กิจกรรมการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ผ้สู ูงอายุ งบรายจา่ ยอน่ื งบประมาณ ๒,๘๐๐.- บาท ลักษณะโครงการ : ( / ) โครงการต่อเนื่อง ( ) โครงการใหม่ กล่มุ ผูร้ ับผิดชอบ : การศึกษาตอ่ เน่ือง ๑. โครงการจัดและส่งเสรมิ การจดั การศกึ ษาตลอดชวี ิต เพื่อคงพัฒนาการทางกาย จิต และสมอง ของผูส้ ูงอายุ (มติ สิ ุขภาพ มติ สิ ังคม) ตาบลท่าสะแก ๒. สอดคลอ้ งกับนโยบาย และจุดเนน้ การดาเนนิ งาน กศน. สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานกศน. มาตรฐานการศึกษาตอ่ เน่ือง มาตรฐานท่ี ๑ คณุ ภาพของผู้เรียนการศกึ ษาต่อเนื่อง ๑.๑ ผเู้ รียนการศึกษาต่อเนือ่ งมีความรู้ ความสามารถ และทกั ษะ และหรอื คุณธรรมเปน็ ไป ตามเกณฑ์การจบหลกั สูตร ๑.๒ ผจู้ บหลักสตู รการศึกษาตอ่ เนื่องสามารถนาความรู้ทไ่ี ด้ไปใช้ หรอื ประยุกต์ใชบ้ นฐาน ค่านยิ มรวมของสงั คม ๑.๓ ผ้จู บหลกั สูตรการศกึ ษาตอ่ เน่ืองทนี่ าความรู้ไปใช้จนเห็นเปน็ ประจกั ษห์ รอื ตวั อย่างท่ดี ี สอดคล้องกบั นโยบาย และจุดเนน้ การดาเนนิ งาน กศน. 3.2 ดา้ นการสร้างสมรรถนะและทกั ษะคุณภาพ 4) ส่งเสรมิ การจัดการศึกษาของผสู้ ูงอายุ เพอ่ื ให้เป็น Active Ageing Workforce และ มี Life skill ในการดารงชีวิตทเ่ี หมาะกบั ช่วงวัย ๓. หลกั การและเหตผุ ล การมสี ขุ ภาพรา่ งกายแขง็ แรงและมีสุขภาพจิตท่ีดี สามารถปฏิบัติหน้าที่ประจาวันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และดาเนนิ ชวี ิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุท่ีมีสุขภาพดีและมีคุณภาพชีวิตท่ีดี คนทุกวัยจึงควร เตรียมความพรอ้ มดา้ นสขุ ภาพเพื่อเป็นผู้สูงอายุท่ีมีศักยภาพในอนาคต สิ่งท่ีควรรับรู้ในการ เตรียมความพร้อมด้าน สุขภาพ ดังนี้ องค์ประกอบของการเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพ การเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพในช่วงวัย ตา่ ง ๆ การเปล่ยี นแปลงด้านสขุ ภาพในวยั สงู อายุ การสร้างเสริมสขุ ภาพทางรา่ งกายและสรา้ งเสริมสุขภาพจิตใจ ปัญหาทางด้านจิตใจ มักจะเกดิ จากความรูส้ ึกสูญเสยี โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับความสามารถของตนเอง เช่น การเคยเป็นท่ีพึ่ง เป็นผู้นาให้กับคนอื่น การเป็นท่ียอมรับและยกย่องจากคนข้างเคียงเพื่อนฝูงหรือสังคมการขาดที่ พึ่ง เชน่ ผูใ้ กลช้ ิด เพ่อื นสนิทถงึ แก่กรรม เป็นต้น นอกจากนี้ การที่สุขภาพไม่แข็งแรงพอที่จะปฏิบัติภารกิจต่างๆใน ชีวิตประจาวันได้ ขาดการติดต่อไปมาหาสู่กับผู้อ่ืน บุตรหลานก็เติบโตมีครอบครัวแยกย้ายกันไป ทาให้เกิด ความรู้สึกเหงา ว้าเหว่ ไม่สบายตามร่างกาย ปวดเม่ือย ไม่มีแรง นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ปัญหาทางด้านสังคม ก็ เป็นอกี ดา้ นหนงึ่ ทก่ี ่อให้เกดิ ความเครยี ดทางจติ ใจได้มาก
กศน.ตาบลท่าสะแก จึงได้จัดทาโครงการจัดและส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิต เพ่ือคงพัฒนาการ ทางกาย จติ และสมองของผูส้ งู อายุ (มติ สิ ุขภาพ มติ ิสงั คม) เพ่ือให้ผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจสามารถดูแลตนเอง ได้ท้ังทางร่างกาย จิตใจ และสมอง สามารถดารงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข มีความรู้ ความเข้าใจในการปลูก กัญชง-กัญชา และใชก้ ัญชง-กญั ชาในการรกั ษาโรค ในวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๕ ณ วัดโพนไทรงาม หมู่ ๓ ตาบล ท่าสะแก อาเภอชาติตระการ จงั หวัดพิษณโุ ลก ๔. วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อพัฒนาผสู้ งู อายุในการชะลอความเส่ือมของร่างกาย มสี มรรถภาพรา่ งกายแข็งแรง ๒. เพ่ือให้ผูส้ ูงอายุมีสขุ ภาพจิตใจที่เข้มแขง็ มคี วามสุข มคี วามเชอ่ื มัน่ เห็นคุณคา่ ในตนเอง ๓. เพื่อใหผ้ สู้ ูงอายุสามารถคิดอย่างมเี หตุมีผล มีทกั ษะในการส่ือสาร การวางแผนและการแก้ไขปญั หา ในการดูแลสขุ ภาพของตนเองได้ ๔. เพ่ือใหผ้ ้สู งู อายุ มีความรคู้ วามเข้าใจในการปลกู กญั ชง-กัญชา และใชก้ ัญชง-กญั ชาในการรกั ษาโรค ๕. เปาู หมาย เชงิ ปรมิ าณ - ประชาชน จานวน ๔๐ คน - บุคลากรที่เกย่ี วข้อง จานวน ๓ คน รวมทง้ั สน้ิ ๔๓ คน เชิงคุณภาพ ผู้สูงอายุชะลอความเส่ือมของร่างกาย มีสมรรถภาพร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพจิต ใจทเ่ี ขม้ แข็งมคี วามสุข มคี วามเช่ือมน่ั เห็นคณุ คา่ ในตนเอง สามารถคิดอย่างมีเหตุมีผล มีทักษะในการส่ือสาร การ วางแผนและการแก้ไขปัญหาในการดูแลสุขภาพของตนเองได้ มีความรู้ความเข้าใจในการปลูก กัญชงและกัญชา และใช้กญั ชงและกัญชาในการรักษาโรค 6. สถานที่ ณ วดั โพนไทรงาม หมู่ ๓ บา้ นนอ้ ย ตาบลทา่ สะแก อาเภอชาติตระการ จงั หวดั พษิ ณโุ ลก 5. งบประมาณทีไ่ ดร้ ับ - 2,800.- บาท 6. ผูร้ บั ผิดชอบโครงการ - กศน.อาเภอชาตติ ระการ - งานการศึกษาตอ่ เน่ือง กศน.อาเภอชาตติ ระการ จังหวดั พิษณโุ ลก - ครอู าสาสมัครฯ - ครู กศน.ตาบล ท่ีรับผิดชอบ 7. เปา้ หมายในการดาเนินโครงการ เปูาหมาย ประชาชนท่ัวไป จานวน 40 คน ผลการดาเนนิ งาน 45 คน ชาย 13 คน หญิง 32 คน
สว่ นท่ี 2 วิธกี ารดาเนินการ ผดู้ าเนนิ การจดั ทาโครงการจัดและสง่ เสรมิ การจัดการศกึ ษาตลอดชีวิต เพ่ือคงพฒั นาการทางกาย จิต และสมองของผู้สูงอายุ (มิติสุขภาพ มติ ิสงั คม) ได้ดาเนินการในการอบรมเก็บรวบรวมขอ้ มลู และการวเิ คราะห์ ข้อมลู ดังนี้ การดาเนนิ การจดั กิจกรรม 1. เตรียมการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน - ประชุมวางแผนรูปแบบการจัดกิจกรรม - เลือกกจิ กรรมท่ีจะจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน - มอบหมายงานให้บุคลากรทเี่ กย่ี วข้อง - ติดตอ่ ประสานงานในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน 2. วธิ กี ารดาเนนิ งาน - เขยี นเสนอโครงการ - เสนอโครงการ - เตรยี มการจดั กจิ กรรมโครงการ 1. เตรยี มการกอ่ นการจัดกิจกรรมโครงการ - การจัดเตรยี มเอกสารโครงการ - ติดตอ่ สถานที่ - จัดชดุ วิทยากร - อ่ืน ๆ 2. ติดต่อประสานงานเครือข่าย - จดั การกิจกรรมโครงการตามแผนทว่ี างไว้ - ลงทะเบียนผู้เข้ารว่ มการกิจกรรมโครงการ - วิทยากรให้ความรู้ - จัดกจิ กรรมกลุม่ ย่อย - สรปุ กจิ กรรมย่อย - ปิดโครงการ - สรุปรายงานผลการจดั กิจกรรมโครงการเป็นรปู เลม่ - รายงานผลการจดั กิจกรรมโครงการใหผ้ ู้ท่เี ก่ียวข้องรบั ทราบ
สว่ นท่ี 3 เนอ้ื หาสาระ ผูด้ าเนินการจดั ทาโครงการจัดและสง่ เสรมิ การจัดการศกึ ษาตลอดชีวติ เพ่ือคงพฒั นาการทางกาย จติ และ สมองของผ้สู ูงอายุ (มติ ิสุขภาพ มิติสงั คม) ได้อบรมศกึ ษา ดงั นี้ 1. สขุ ภาพกาย สขุ ภาพกาย หมายถึง สภาพของร่างกายที่เจริญเตบิ โต แข็งแรง สมบรู ณ์ ปราศจากโรคภยั ไขเ้ จบ็ ไม่ ทุพพลภาพ อวัยวะต่างๆ อยใู่ นสภาพท่ดี มี คี วามสมบรู ณ์แข็งแรงสามารถทางานได้ตามปกติ และมีความสัมพันธก์ นั ทกุ สว่ นไดเ้ ป็นอยา่ งดแี ละก่อใหเ้ กิดประสทิ ธภิ าพในการทางานด้วย การการดูแลสขุ ภาพ และส่งเสริมสุขภาวะและสุขอนามัย ๑. การการดแู ลสขุ ภาพ ๑.๑ การดูแลสขุ ภาพตนเองในสภาวะปกติ เป็นการดแู ลสุขภาพตนเอง และสมาชิกในครอบครัว ใหม้ สี ขุ ภาพแข็งแรง สมบูรณ์อย่เู สมอ ไดแ้ ก่ ๑. การดูแลส่งเสริมสุขภาพ เพ่ือใหส้ ุขภาพแข็งแรง สามารถดาเนนิ ชีวิตได้อยา่ งปกตสิ ุข เช่น การออกกาลังกาย การสร้างสุขวทิ ยาส่วนบคุ คลทดี่ ี ไมด่ ื่มสุรา ไม่สบู บหุ ร่ี หลกี เลยี่ งจากสิ่งที่เปน็ อันตรายต่อ สุขภาพ ๒. การปอู งกันโรค เพ่ือไมใ่ ห้เจบ็ ปวุ ยเปน็ โรค เช่น การไปรับภมู คิ ุ้มกันโรคต่างๆ การไปตรวจ สุขภาพ การปูองกันตนเองไม่ใหต้ ิดโรค ๑.2 การดูแลสุขภาพตนเองเม่ือเจ็บปวุ ย - การดูแลสขุ ภาพตนเอง ให้มีสุขภาพสมบรู ณ์ และแข็งแรงอยู่เสมอ จะตอ้ งปฏิบัติกิจกรรม ในด้าน การส่งเสริมสุขภาพอยา่ งสม่าเสมอ ในชวี ติ ประจาวัน โดยยดึ หลกั สขุ บัญญตั ิ 10 ประการ และสารวจสขุ ภาพ ตนเอง ดงั น้ี 1. ดูแลรักษารา่ งกาย และของใช้ให้สะอาด ๑.๑ อาบนา้ ทุกวนั อย่างนอ้ ยวันละ 2 ครั้ง ๑.๒ การรกั ษาอนามัยของดวงตา ดวงตาเป็นอวยั วะสาคญั เราควรหวงแหน และให้ความเอา ใจใส่ ควรปฏบิ ัติดงั น้ี ๑.๒.๑ อา่ น หรอื เขยี นหนังสอื ในระยะห่างประมาณ 1 ฟุต โดยมแี สงสวา่ งเพียงพอ แสงเข้า ทางดา้ นซา้ ยหรือตรงข้ามกบั มือท่ีถนดั หากรสู้ กึ เพลยี สายตา ควรพักผ่อนสายตา โดยการหลบั ตา หรือมองไปไกลๆ ช่ัวครู่ ๑.๒.๒ ดูโทรทศั นใ์ นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตรคร่ึง ๑.๒.๓ บารุงสายตาดว้ ยการรับประทานอาหารท่ีมคี ณุ คา่ เช่น มะละกอสุก ฟักทอง และผกั บุ้ง เป็นตน้ ๑.๒.๔ ใสแ่ วน่ กันแดด ถ้าจาเปน็ ต้องมองในท่ีๆ มีแสงสวา่ งมากเกนิ ไป ๑.๒.๕ ตรวจสายตาอย่างน้อยปลี ะ 1 คร้ัง โดยแผน่ ทดสอบสายตา (E-Chart) ถ้าสายตา ผดิ ปกติ ใหพ้ บจักษแุ พทย์ เพื่อตรวจสอบ และประกอบแว่นสายตา ๑.๓ การรกั ษาอนามยั ของหู หูเปน็ อวัยวะทสี่ าคัญอย่างหนึง่ ของร่างกาย ที่จะต้องเอาใจใส่ ดูแลใหถ้ ูกต้อง ดงั นี้ ๑.๓.๑ เช็ด บรเิ วณใบหู และรูหู เทา่ ทีน่ ้วิ จะเข้าไปได้ หา้ มใชข้ องแข็งแคะเขี่ยใบหู รูหู ๑.๓.๒ คนที่มีประวัตวิ า่ มกี ารอกั เสบของหู ตอ้ งระวังไม่ให้น้าเขา้ หเู ด็ดขาด
๑.๓.๓ หากมีนา้ เข้าหู ให้เอียงหขู า้ งน้นั ลง น้าจะคอ่ ยๆ ไหลออกมาได้เอง หรือใชไ้ มพ้ นั สาลีเช็ด บรเิ วณชอ่ งหดู ้านนอก ๑.4 ใส่เสื้อผ้าท่สี ะอาด ไม่อบั ชน้ื และให้ความอบอนุ่ เพียงพอ การรักษาความสะอาดของเสอื้ ผ้า เคร่ืองนุ่งห่ม และเครื่องนอนเป็นสง่ิ สาคญั เสื้อผ้าท่ใี ช้แลว้ ทงิ้ ชั้นนอกและชั้นใน ต้องมีการทาความสะอาดดว้ ยสบู่ หรอื ผงซกั ฟอกทกุ ครั้ง นาไปผึง่ หรือตากแดดใหแ้ หง้ ประการ สาคญั การสวมเสื้อผ้า ต้อใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั สภาพอากาศ ไม่ใสเ่ สื้อผา้ ซา้ ๆ หรือซกั ไม่สะอาด อับชน้ื เพราะจะทา ใหเ้ กดิ โรคผิวหนงั ได้ 2. รกั ษาฟนั ให้แข็งแรง และแปรงฟันทุกวนั อยา่ งถกู ต้อง - แปรงฟันอย่างน้อยวนั ละ 2 ครั้ง หลีกเล่ยี งขนมหวาน เช่น ลูกอม แปรงฟัน หรือบ้วนปากหลงั รับประทานอาหาร ไม่ใชฟ้ นั ขบเคีย้ วของแขง็ 3. ล้างมอื ให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร และหลงั การขับถา่ ย ควรล้างมอื ให้สะอาดทุกครงั้ ก่อนและหลังการปรงุ อาหาร รวมทั้งก่อนรบั ประทานอาหาร และหลังการขับถา่ ย เปน็ การปูองกันการแพร่เชอื้ และติดเชอ้ื โรคได้ ควรล้างมือให้ถูกวธิ ี ดงั น้ี ๓.๑ ให้มอื เปยี กนา้ ฟอกสบู่ ถูใหท้ ่วั ฝุามอื ด้านหนา้ และด้านหลังมอื ๓.๒ ถตู ามงา่ มน้ิวมอื และซอกเลบ็ ใหท้ ่ัว เพื่อให้ส่งิ สกปรกหลดุ ออกไป พรอ้ มทั้งถูกข้อมือ ๓.๓ ลา้ งน้าใหส้ ะอาด แลว้ เชด็ มอื ให้แห้งดว้ ยผ้าท่ีสะอาด 4. รับประทานอาหารสุก สะอาด ปราศจากสารอนั ตราย และหลกี เลย่ี งอาหารรสจดั สฉี ดู ฉาด ๔.๑ เลือกซ้ืออาหารสด สะอาด ปลอดสารพิษ โดยคานึงถึงหลัก 3 ป. คือ ประโยชน์ ปลอดภยั ประหยดั ๔.๒ ปรงุ อาหารท่ีถกู สขุ ลักษณะ และใชเ้ คร่อื งปรงุ รสทถ่ี ูกตอ้ ง โดยคานงึ ถึงหลัก 3 ส. คือ สงวนคุณคา่ สุกเสมอ สะอาดปลอดภัย ๔.๓ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ๔.๔ รับประทานอาหารปรุงสักใหม่ และใชช้ อ้ นกลางในการรบั ประทานอาหารรว่ มกัน ๔.๕ หลกี เลี่ยงการรับประทานอาหารสกุ ๆ ดิบๆ อาหารรสจัด อาหารใสส่ ฉี ดู ฉาด ๔.๖ ดื่มนา้ สะอาดอย่างน้อยวนั ละ 8 แกว้ 5. งดบหุ ร่ี สรุ า สารเสพย์ตดิ การพนัน และการสาส่อนทางเพศ ๕.๑ ไม่เสพสารเสพย์ตดิ ทุกชนดิ เชน่ บหุ รี่ สรุ า ยาบา้ กญั ชา กาว ทนิ เนอร์ ๕.๒ งดเล่นการพนนั ทุกชนิด ๕.๓ ไมม่ ่ัวสุมทางเพศ 6. สร้างความสัมพนั ธใ์ นครอบครวั ใหอ้ บอนุ่ ๖.๑ ทกุ คนในครอบครวั ช่วยกนั ทางานบ้าน ๖.๒ มีการปรกึ ษาหารอื และแสดงความคิดเห็นรว่ มกนั ๖.๓ การเผ่ือแผ่นา้ ใจซง่ึ กันและกัน ๖.๔ การทาบญุ และได้ทากิจกรรมสนกุ สนานรว่ มกัน 7. ปูองกันอุบัตเิ หตดุ ้วยความไม่ประมาท ๗.๑ ดแู ล ตรวจสอบ และระมัดระวงั อุปกรณ์เครอ่ื งใช้ภายในบา้ น เช่น ไฟฟูา เตาแก๊ส ของมี คม ธปู เทยี นทีจ่ ดุ บูชาพระ และไม้ขีดไฟ ๗.๒ ระมัดระวังเพื่อปอู งกันอุบตั ิภยั ในทสี่ าธารณะ เช่น การใชถ้ นน โรงฝึกงาน สถานทีก่ ่อสรา้ ง และชมุ ชนแออดั เปน็ ต้น
8. ออกกาลังกายสม่าเสมอ และตรวจสุขภาพประจาปี การออกกาลงั กายชว่ ยใหร้ ่างกายแข็งแรง เจรญิ เติบโตสมวัย กระตนุ้ ให้กระดูกยาวขึ้น และ เข็งแรงข้ึน ทาให้สงู สงา่ บคุ ลิกดี และยังช่วยผ่อนคลายความเครยี ด จากการทางาน ตลอดจนเพิม่ ภูมติ ้านทานแก่ ร่างกาย โดย ๘.๑ ออกกาลงั กายอย่างน้อยสัปดาหล์ ะ 3 วนั ครงั้ ละ 20-30 นาที ๘.๒ ออกกาลังกาย และเลน่ กฬี าให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย และวยั ๘.๓ ตรวจสอบสขุ ภาพประจาปีอยา่ งน้อยปลี ะครง้ั 9. ทาจติ ใจใหร้ า่ เรงิ แจม่ ใสอยู่เสมอ ๙.๑ พักผอ่ น และนอนหลับใหเ้ พียงพอ ๙.๒ จัดสิง่ แวดลอ้ มท้ังในบา้ น และนอกบา้ นใหน้ า่ อยู่ ๙.๓ มองโลกในแง่ดี ใหอ้ ภยั และยอมรับข้อบกพรอ่ งของคนอื่น ๙.๔ เมือ่ มีปญั หาไม่สบายใจ ควรหาทางผอ่ นคลาย ในทางทีถ่ กู ต้องเหมาะสม 10. มีสานกึ ต่อสว่ นรวม ร่วมสร้างสรรค์สงั คม ใช้ทรัพยากร เช่น นา้ ไฟ อย่างประหยัด หลีกเล่ียงการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ทกี่ ่อให้เกดิ พิษต่อ สิ่งแวดลอ้ ม เช่น ถุงพลาสติก โฟม ตลอดจนการร่วมมอื กนั รักษาความสะอาด และเปน็ ระเบียบของสถานที่ทางาน และที่พกั เปน็ ต้น ๒. การส่งเสริมสุขภาพผู้สงู อายุ ควรอาศัยหลักการเดียวกับแนวปฏิบตั ใิ นการส่งเสริมสขุ ภาพ 5 ประการ ดงั น้ี ๑. การสร้างนโยบายสาธารณะเพ่ือผสู้ งู อายุ โดยเนน้ ให้ทุกคนในชมุ ชน หรือสังคม มขี ้อตกลงทางสงั คม รว่ มกัน รบั หลกั การเดยี วกนั ในการทีจ่ ะปฏิบัติเพื่อใหท้ ุกคนในชมุ ชน หรือสังคมมีสุขภาพทดี่ ี เชน่ การกาหนด นโยบาย ไม่ใหม้ ีการทอดท้งิ ผู้สงู อายใุ นชุมชน นโยบายหมูบ่ ้านปลอดอุบัติเหตุ นโยบายครอบครวั อบอุ่น เป็นต้น ๒. สร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอื้อตอ่ สขุ ภาพผู้สงู อายุ สง่ิ แวดล้อมในท่ีนี้อาจจะเปน็ ส่ิงแวดลอ้ มท่ีเปน็ รูปธรรม หรอื นามธรรม ส่ิงแวดลอ้ มทเ่ี ปน็ รูปธรรมท่ใี กล้ตวั ผ้สู ูงอายุ ได้แก่ ครอบครวั ซงึ่ จะต้องให้ความรกั ความเอาใจใส่ มี การเกื้อหนุนดแู ลผสู้ ูงอายุ ขณะเดียวกันต้องมปี ฏสิ มั พันธ์ในเชงิ รุก มีความเข้าใจกัน ชมุ ชน ก็เป็นสิ่งแวดล้อมท่ีอยู่ รอบๆ ตัวผูส้ งู อายุนั่นเอง ซึ่งต้องมีสว่ นร่วมในการดแู ลผู้สูงอายใุ นทุกๆ ด้าน การดแู ลความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย ของบา้ น และส่ิงที่อยู่อาศัยรอบๆ บ้าน ก็จะทาให้ผอู้ ยู่อาศัยรวมถงึ ผสู้ ูงอายุดว้ ยมีความอบอุ่น มีสขุ ภาพดี และ ปลอดจากอุบัติเหตุต่างๆ ส่วนสง่ิ แวดล้อมทเ่ี ปน็ นามธรรม เชน่ ขนบธรรมเนยี มประเพณวี ัฒนธรรมในสงั คม ซึ่ง สังคมไทยมขี ้อดีกวา่ ประเทศอ่ืนๆ ในหลายๆ ด้าน เชน่ ให้ความเคารพกตัญญูกตเวทตี ่อผู้สูงวัยปีประเพณรี ดน้าดา หวั รดน้าสงกรานต์ เปน็ ต้น ๓. การมีสว่ นรว่ มของชมุ ชนในการดูแลสง่ เสรมิ สขุ ภาพผสู้ งู อายุ ชมุ ชน จะต้องมีการรวมตวั กัน หรือ รวมกลุม่ กันเพือ่ ทีจ่ ะดูแลส่งเสรมิ สุขภาพผู้สูงอายุ โดยการรวบรวมปญั หาตา่ งๆ นามาวเิ คราะห์วางแผน ดาเนนิ การ เพ่ือส่งเสรมิ สุขภาพผูส้ ูงอายุ ให้เป็นผู้สูงอายทุ สี่ ามารถแสดงศกั ยภาพไดต้ ามความถนัด เพ่ือใหเ้ กดิ ความภาคภมู ิใจ ในตนเอง เช่น การจดั ใหม้ กี ารรวมกลุ่ม เพื่อให้มีกจิ กรรมส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ กิจกรรมทางด้านประเพณี วฒั นธรรมตา่ งๆ เช่น การฟังเทศน์ฟังธรรม เป็นตน้ ๔. พัฒนาทักษะในการดแู ลสง่ เสริมสุขภาพผ้สู งู อายุ โดยการใหค้ วามรู้ ความเข้าใจแก่ผสู้ งู อายุ บคุ คลใน ครอบครัว และชุมชน ในเรือ่ งการเปลยี่ นแปลงทางสรีระตา่ งๆ ตลอดจนการเปลย่ี นแปลงทางด้านจติ ใจ อารมณ์ และสังคมของผสู้ งู อายุ ตลอดจนแนวทางการดูแลส่งเสรมิ สขุ ภาพโดยผา่ นส่อื ต่างๆ ๕. ปรบั เปล่ียนบริการทางดา้ นสาธารณสขุ โดยเน้นทางดา้ นสุขภาพในเชิงรุกมากขึ้น เช่น มีการคัดกรอง สุขภาพให้การดูแล ให้คาปรึกษาดา้ นสุขภาพ โดยให้บริการในลักษณะองค์รวม ให้ครอบคลุมทกุ ๆ ดา้ น
๓. สขุ อนามัย การมสี ขุ ภาพที่ดี เป็นส่ิงท่ีทุกคนตา่ งก็พงึ ปรารถนาท่จี ะมี ก่อนอื่นเราก็ควรจะเข้าใจในความหมายทแี่ ท้จริง ของคาว่า \"สขุ ภาพ\" กนั ก่อน ว่าสขุ ภาพน้ันมีความหมายว่าอยา่ งไร และคุณเขา้ ใจความหมายของคาวา่ สขุ ภาพที่ ถกู ต้องแล้วหรอื ยัง สุขภาพ มีความหมาย 3 ประการ คือ 1. ความปลอดภยั (Safe) 2. ความไม่มีโรค (Sound) 3. ความปลอดภยั และไมม่ โี รค (Whole) องคก์ รอนามัยโลกไดใ้ หค้ านยิ ามคาวา่ สุขภาพ ในความหมายกว้างข้ึนวา่ สขุ ภาพ หมายถึง สุขภาวะที่ สมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจติ และทางสังคม ตามรา่ งพระราชบัญญัติสขุ ภาพแห่งชาติ 2545 ให้ความหมายของคาว่า สขุ ภาพ คือ ภาวะทีม่ ีความ พรอ้ มสมบูรณ์ทั้งทางรา่ งกาย คือ รา่ งกายที่สมบรู ณ์แขง็ แรง คลอ่ งแคลว่ มีกาลัง ไมเ่ ป็นโรค ไม่พิการ ไมม่ ีอุบัตเิ หตุ อนั ตราย มสี ง่ิ แวดลอ้ มทส่ี ง่ เสรมิ สขุ ภาพ ดงั น้นั \"สุขภาพ\" จึงหมายถงึ \"การ มรี ่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้ เจบ็ ในทกุ สว่ นของรา่ งกาย มีสุขภาพจติ ดี และสามารถปรับตวั ให้อยู่ร่วมกับผู้อนื่ ในสังคมได้อยา่ งปกติสขุ ผ้มู ี สุขภาพดีถือวา่ เปน็ กาไรของชีวิต เพราะทาให้ผ้เู ปน็ เจา้ ของชีวติ ดารงชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขได้\" นัน่ เอง ดังน้ันปัจจุบัน คาวา่ สุขภาพ มิได้หมายเฉพาะสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตเทา่ นน้ั แตย่ ังหมายรวมถึงสุขภาพ สงั คม และสุขภาพศลี ธรรมอีกด้วย สรปุ ว่าในความหมายของ \"สุขภาพ\" ในปจั จุบนั มีองค์ประกอบ 4 ส่วน ดว้ ยกนั คือ 1. สุขภาพกาย หมายถึง สภาพทีด่ ีของร่างกาย กล่าวคอื อวัยวะตา่ งๆอยู่ในสภาพที่ดีมีความแขง็ แรง สมบูรณ์ ทางานไดต้ ามปกติ และมคี วามสัมพันธ์กบั ทุกส่วนเปน็ อย่างดี และก่อให้เกิดประสิทธภิ าพทีด่ ใี นการทางาน 2. สขุ ภาพจติ หมายถงึ สภาพของจติ ใจท่ีสามารถควบคมุ อารมณ์ได้ มีจิตใจเบิกบานแจม่ ใส มใิ ห้เกิดความ คับข้องใจหรอื ขัดแย้งในจติ ใจ สามารถปรบั ตวั เข้ากบั สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อยา่ งมีความสขุ 3. สขุ ภาพสงั คม หมายถึง สภาวะท่ีดีของปัญญาทมี่ ีความร้ทู วั่ รูเ้ ทา่ ทันและความเข้าใจอย่างแยกได้ใน เหตุผลแห่งความดคี วามชั่ว ความมปี ระโยชน์และความมโี ทษ ซ่งึ นาไปสู่ความมีจิตอนั ดีงามและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 4. สุขภาพศลี ธรรมหมายถึง บคุ คลทม่ี ีสภาวะทางกายและจติ ใจทสี่ ุขสมบูรณ์ สามารถปฏิสมั พันธ์และ ปรบั ตวั ให้อย่ใู นสงั คมไดเ้ ป็นอยา่ งดีและมีความสุข เพอื่ ท่เี ราจะได้มีจติ ใจที่มีความสขุ ร่นื เริง ไม่ตดิ ขัด มเี มตตา มสี ติ มีสมาธิ และการทีค่ รอบครวั จะมีความ อบอนุ่ ชมุ ชนเข้มแข็ง และสังคมมคี วามยุตธิ รรมไดน้ ้นั จะต้องเกิดขึ้นจากการจัดการทางสขุ ภาพในระดับตา่ งๆท้ัง สุขภาพในระดบั ของ ปัจเจกบุคคล (Individual Health) สุขภาพของครอบครวั (Family Health) อนามัยชุมชน (Community Health) และสขุ ภาพของสาธารณะ (Public Health) นนั่ เอง การออกาลงั กายในผสู้ ูงอายุ และการดูแลสุขภาพของตัวเองและการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ การดแู ลตนเองยามปกตใิ นผ้สู ูงอายุ คือ การทาให้ชีวิตมสี ขุ ภาพทดี่ ี ซง่ึ แนวทางการ มสี ุขภาพทดี่ ีสามารถ ปฏิบตั ิตามหลัก 10 อ. ประกอบดว้ ย 1. อาหาร ผสู้ ูงอายยุ ังคงต้องการสารอาหารตา่ ง ๆ ท่ีใกลเ้ คยี งกับวยั ผใู้ หญ่ แต่ควรลดอาหารประเภท ไขมนั และคารโ์ บไฮเดรตลง ส่วนอาหารประเภทโปรตีนควรเปน็ เน้ือสัตวท์ ี่ย่อยง่าย เชน่ เน้อื ปลาและไข่ขาว ส่วนไข่ แดงควรกินไมเ่ กนิ สัปดาห์ละ 3 ฟอง นอกจากนีค้ วรกนิ ผักและถวั่ รวมทัง้ ผลไมใ้ ห้มาก แตค่ วรเป็นผลไม้ท่ีไมม่ รี ส หวานจดั จนเกนิ ไป เพราะอาจเปน็ สาเหตุทาให้เกิดโรค เชน่ โรคเบาหวาน ได้
2. ออกกาลงั กาย เพ่ือให้มรี ่างกายแข็งแรง สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว ซงึ่ จะทาใหก้ ารทรงตวั ดขี ึน้ ไมห่ กลม้ ง่าย ผสู้ งู อายจุ ึงควรออกกาลงั กายสัปดาหล์ ะ 3-4 ครัง้ 3. อนามยั ผ้สู ูงอายคุ วรรู้จกั สังเกตการทางานของระบบต่าง ๆ ในรา่ งกาย เชน่ ระบบขับถ่าย ควร พยายามลด ละ เลิกสิง่ ที่จะเป็นอันตรายต่อสขุ ภาพ เชน่ เหลา้ บุหรี่ และพฤติกรรมเสยี่ งต่าง ๆ สาหรับผู้ท่อี ายุ 65 ปีขนึ้ ไป ควรตรวจสุขภาพเป็นประจาทกุ ปี 4. อจุ จาระ ปสั สาวะ ผสู้ ูงอายุจะตอ้ งให้ความสนใจเร่ืองการขับถา่ ยใหม้ ากเป็นพเิ ศษ หากมปี ัญหาขับถ่าย ยาก ถา่ ยลาบาก หรอื กลั้นการขับถ่ายไมไ่ ด้ กค็ วรรบี แก้ ปัญหาไปตามสาเหตุ 5. อากาศ และแสงอาทติ ย์ ผู้สงู อายุควรได้อยใู่ นสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมท่ีดี เปน็ ธรรมชาติ มอี ากาศ บรสิ ุทธ์ิ และควรไดร้ บั แสงแดดบา้ ง 6. อารมณ์ ผู้สงู อายจุ ะมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงงา่ ย เช่น หงุดหงดิ โมโห โกรธงา่ ย ทาใหข้ าดสตใิ นการ พิจารณาไตรต่ รองเหตผุ ล ก่อให้เกิดความขดั แย้งกบั บุคคลอื่นได้ งา่ ย และต้องหาวิธคี วบคมุ อารมณซ์ ึ่งมีหลายวธิ ี เชน่ การทาสมาธิ การศึกษาธรรมะ จะชว่ ยให้ผ่อนคลาย มีสตมิ ากข้นึ 7. อดิเรก ผู้สูงอายุควรหางานอดิเรกทาเพื่อเบ่ยี งเบนความสนใจหรือลดการหมกมุ่นในสิ่งท่ีทาให้ไมส่ บาย ใจ เปน็ การใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ 8. อบอุ่น การเปน็ บุคคลท่ีมีบุคลิกโอบอ้อม เอ้ือเฟ้ือเผ่อื แผ่ ชว่ ยเหลือสมาชกิ ใน ครอบครัวและบุคคลอน่ื เพอื่ ให้เกดิ สัมพันธภาพทดี่ ีตอ่ กนั 9. อุบัติเหตุ ระมัดระวงั ไม่ใหเ้ กดิ อุบัตเิ หตโุ ดยวกี ารต่าง ๆ เชน่ สายตายาวตอ้ งใส่แว่นสายตา ไดย้ ินไม่ ชดั เจนต้องไปตรวจหเู พื่อแก้ไข ถ้ามสี ิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสมตอ้ ง ไปปรบั สภาพแวดล้อมใหเ้ หมาะสม 10. อนาคต ผสู้ ูงอายุต้องเตรียมเงินและที่อยู่อาศยั เพ่ือเปน็ หลักประกันในการดาเนินชีวิต การออกกาลังกายสาคัญอย่างไร? ๑. เป็นทท่ี ราบกนั อย่างแพร่หลายว่าการออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอช่วยใหส้ ุขภาพรา่ งกายแข็งแรง การ ท่ีไม่ไดอ้ อกกาลงั กายเป็นประจา ส่งผลให้ระบบตา่ งๆ ในรา่ งกายถดถอย และนาไปสูภ่ าวะตา่ งๆ ที่ทาใหร้ า่ งกาย ทรุดโทรมตามมา ๒. สาหรบั ผ้สู งู อายุซงึ่ เปน็ วยั ทีม่ กี ารเปลย่ี นแปลงของสรีระร่างกายตา่ งไปจากวัยทางาน หากขาดการออก กาลังกาย จะย่งิ สง่ เสริมใหม้ ีการถดถอยของระบบตา่ งๆ ในร่างกาย เชน่ กลา้ มเนื้อฝุอลบี ลง ความแข็งแรงของ กลา้ มเน้อื ลดลง เหน่ือยงา่ ย จนส่งผลตอ่ ความสามารถในการทากิจวัตรประจาวนั และสุขภาพโดยรวม ๓. การถดถอยของสมรรถภาพการเดินและการทรงตัว เปน็ การเปล่ียนแปลงท่ีทาสาคัญในผูส้ ูงอายุ ซึ่งทา ให้เกิดปัญหาในการใช้ชวี ิตประจาวัน ผสู้ งู อายุท่มี ปี ัญหาการเดนิ เชน่ เดินช้าลง ไมม่ ่ันคง ทรงตวั ลาบาก สง่ ผลให้ จากดั กจิ กรรมทางกายและอาจเกิดการหกล้มได้ ๔. หากคณุ เป็นผ้สู งู อายุที่มกี ิจกรรมทางกายและออกกาลงั กายอยเู่ สมอ ก็เปรยี บกบั การได้รบั ยาทีด่ ี ร่างกายจะมีสมรรถภาพสมบูรณ์พร้อมสาหรับการใชช้ ีวติ ตามทตี่ นเองปรารถนา ผู้สูงอายุ ควรออกกาลังกายอย่างไร การออกกาลงั กายน้นั มีดว้ ยกันหลายประเภท และไดป้ ระโยชนต์ อ่ รา่ งกายต่างกัน สาหรับบทความนีจ้ ะ กลา่ วถึงการออกกาลงั กายเพื่อเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพการเดินและการทรงตวั ในผูส้ งู อายุ มีการออกกาลงั กายท่ี แนะนาดงั นี้ 1. Balance Exercise เปน็ การออกกาลังกายท่ฝี ึกการทรงตัวและสมรรถภาพในการเดิน จะชว่ ยปอู งกนั การหกล้มในผ้สู งู อายุ การออกกาลังกายแบบ Balance สามารถทาได้หลายอย่าง เช่น
- ไทชิ เปน็ การออกกาลังกายท่ีไดป้ ระสทิ ธิผลในเร่อื งของการทรงตวั เพราะผู้สูงอายจุ ะไดฝ้ กึ การรักษา สมดุลเม่ือรา่ งกายมีการเคลื่อนไหวในทศิ ทางตา่ งๆ เมอ่ื ฝึกจนเกิดการปรับตวั กส็ ามารถนามาใชใ้ นปรบั การทรงตัวใน การเดนิ ในชวี ิตประจาวันได้ - การเต้นลีลาศ โดยให้ผู้สูงอายุเต้นราแบบ beguin ซึ่งเป็นจังหวะดนตรีท่ีสม่าเสมอ มีการก้าวเท้าให้ สัมพนั ธก์ ับจงั หวะ ในทศิ ทางตา่ งๆ เม่ือสามารถเต้นเข้าจงั หวะจะไดฝ้ กึ การทรงตวั ขณะที่ร่างกายมีการเคล่ือนไหว - ฝึกออกกาลังกายพืน้ ฐานเพื่อเพ่ิมการทรงตัว เช่น การยนื ทรงตัวขาเดยี ว การเดนิ ต่อเท้า การเดนิ เปน็ วงกลมหรอื รูปเลขแปด เปน็ การฝกึ การทรงตัวขณะรา่ งกายอยนู่ งิ่ และเคลื่อนไหวตามลาดับ เพอ่ื เพิ่มทักษะการทรง ตัว จากงา่ ยไปยาก 2. Aerobic Exercise เป็นการออกกาลงั กายของกลา้ มเน้ือมดั ใหญ่ เช่น การวง่ิ ปั่นจกั รยาน วา่ ยน้า ซึง่ ลว้ นเป็นการใชก้ ล้ามเนื้อ ซึง่ เป็นกลา้ มเนอ้ื มดั ใหญ่ ท้ังยงั กระตนุ้ ใหเ้ กิดการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทาใหห้ ัวใจ สบู ฉดี เลือดไปเลีย้ งส่วนตา่ งๆ ไดด้ ี ทาใหส้ ามารถทากิจกรรมต่างๆ ได้ดี สาหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถวิ่ง ป่ันจักรยาน หรือว่ายน้าได้ ก็เลือกเป็นการเดิน โดยเดินต่อเนื่องกัน 10 นาที หากเหน่อื ยกพ็ ัก และเดนิ ต่อจนครบ 30 นาที สิ่งสาคัญคอื ระหวา่ งท่ีออกกาลังกาย ควรหายใจเป็นปกติ ห้าม กล้ันหายใจ เพราะจะทาให้หัวใจทางานหนักขึ้น และเป็นอันตรายสาหรับผู้ปุวย โดยเฉพาะผู้ปุวยโรคหัวใจ และ ทุกๆ ครั้งท่ีออกกาลังกายควรมีการวอร์มอัพร่างกายก่อนโดยการย่าเท้าอยู่กับท่ี หมุนแขน ยกขา งอแขน งอขา ประมาณ 3-5 นาทแี ลว้ จงึ ค่อยๆ เรมิ่ เดินช้าๆ แลว้ ปรบั ความเรว็ ขน้ึ เรือ่ ยๆ และเมอ่ื ออกกาลงั กายเสร็จก็ควรย่าเท้า อยกู่ ับท่ี ยดื เหยียดขาและแขน จะทาให้ปลอดภยั จากอาการบาดเจบ็ ท่อี าจเกิดขนึ้ ได้ 3. Strength Exercise เป็นการออกกาลังกายท่ีเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และเพ่ิมมวลกล้ามเนื้อ ใหร้ า่ งกาย เพราะผูส้ ูงอายุ เม่ืออายุมากขึ้นเร่ือยๆ มวลกล้ามเน้ือก็จะลดลง ส่งผลให้แขน ขาเล็กลง หรือกล้ามเนื้อ บางส่วนก็ถูกแทนท่ีด้วยไขมัน การท่ีกล้ามเน้ือมีความแข็งแรงจะส่งผลให้การใช้งานของกล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพ สามารถเดนิ หรือทากิจวตั รประจาวนั ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ - การออกกาลงั กายเพ่อื เพม่ิ ความแข็งแรงให้กลา้ มเนอื้ โดยมีหลกั ในการออกกาลงั กาย ดังน้ี - ออกกาลังกายโดยใหก้ ล้ามเนื้อเกิดแรงต้านเช่น การใชย้ างยดื การยกดรมั เบล ขวดน้า เป็นต้น - มกี ารเพม่ิ ความหนกั ของแรงต้าน โดยเร่ิมจากน้าหนักเบาๆ และค่อยๆ เพิ่มนา้ หนักข้ึนไปทีละนิดๆ - ทาท่าละ 8-10 คร้ัง 2 รอบต่อวัน และทาอยา่ งสม่าเสมอ 4. Flexibility Exercise การออกกาลังกายเพอ่ื คงพสิ ัยการเคล่ือนไหวของข้อต่อต่างๆ เช่น ข้อไหล่ข้อเข่า ข้อสะโพก หากมีการจากัดหรือข้อต่อไม่สามารถเคล่ือนไหวได้ดี จะส่งผลต่อการเดินและการใช้ชีวิตประจาวันได้ ยกตัวอยา่ งเชน่ ผปู้ ุวยข้อเข่าเส่ือมหากมขี ้อยดึ ตดิ ผดิ รูป จะสง่ ผลต่อทา่ ทางการเดินการกา้ วเทา้ เป็นตน้ ผู้สูงอายุควรออกกาลังกายในประเภทต่างๆ ดังท่ีกล่าวไปข้างต้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่างกายสูงสุด สาหรับผู้สูงอายุที่ไม่เคยออกกาลังกาย สามารถเริ่มต้นด้วยการเดินช้าๆ ตามความเร็วในการเดินในชีวิตประจาวัน และเพม่ิ ระยะเวลาในการเดินให้มากขึ้นจาก 15 นาทเี ป็น 30 นาที และสามารถพักระหว่างการเดินได้ ขอ้ ควรระวงั ในการออกกาลงั กายในผู้สูงอายุ ผู้สงู อายุท่มี โี รคประจาตัว คนทเ่ี ป็นโรคหลอดเลือดหวั ใจ มีอาการเจบ็ หนา้ อก แน่นหน้าอกเป็นประจา เป็น โรคหัวใจลม้ เหลว ล้นิ หัวใจรว่ั รนุ แรง หัวใจเตน้ ผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูงมาก หลอดเลือดโปุงพองในท้อง หลอด เลือดโปุงพองในสมอง เป็นโรคกระดูกพรุน โรคสมองเส่ือม หรือโรคเร้ือรังอ่ืนๆ หากอาการไม่คงท่ีควรปรึกษา แพทย์กอ่ นออกกาลังกาย เพื่อความปลอดภัยของตวั เอง
2. สขุ ภาพจติ สขุ ภาพจติ หมายถึง ความสามรถของบุคคลที่จะปรบั ตัวให้มีความสุขอยกู่ ับสังคมและส่งิ แวดลอ้ มได้ดี มี สัมพันธภาพอนั ดกี ับบุคคลอื่น และดารงชวี ติ อยู่ได้ดว้ ยความสมดลุ อย่างสุขสบาย รวมทัง้ สนองความสามารถของ ตนเองในโลกที่กาลงั เปลีย่ นแปลงได้ โดยไมม่ ีข้อขดั แย้งภายในจติ ใจ และไมข่ ัดกับสภาพความเป็นจรงิ ในสังคมท่ี บคุ คลนน้ั ดารงชีพอยู่ ความมสี ุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดสี ง่ ผลให้ 1. สภาพรา่ งกายและจิตใจมีการพฒั นาการและเจรญิ เตบิ โตได้เหมาะสมกับวัย 2. การทางานของอวยั วะต่างๆ มีความสมบูรณ์แขง็ แรง และทางานได้อยา่ งปกติ 3. บคุ คลมีความสามารถในการปรับตวั ใหเ้ ขา้ กับสภาพแวดลอ้ มไดเ้ ปน็ อย่างดี คณุ คา่ ของภาวะความสมดลุ ระหวา่ งสุขภาพกายและสุขภาพจิต นักปราชญช์ าวกรกี โบราณที่กล่าวถึงความเชอื่ ในเร่ืองดังกล่าวไวว้ า่ “ A Sound Mind in a Sound Body”ซง่ึ มผี ้ใู หค้ วามหมายวา่ “จิตใจทีด่ ีย่อมอยู่ในรา่ งกายที่สมบูรณ์” ถ้าคนเราร่างกายสมบูรณแ์ ละแข็งแรงดี จติ ใจก็จะเปน็ สุข สดช่ืน แจม่ ใส เบิกบาน แตถ่ า้ ร่างกายอ่อนแอ เจบ็ ไขไ้ ดป้ วุ ยบ่อยๆ จิตใจกจ็ ะหดหู่ ไมส่ ดชืน่ แจม่ ใส ดังนน้ั คนเราถา้ จิตใจไม่สบายไม่เปน็ สุข มีความเครียด มคี วามวติ กกังวลใจ ก็จะมีผลต่อร่างกาย เชน่ กิน ไมไ่ ด้ นอนไมห่ ลับ อาหารไมย่ ่อย ร่างกายซูบผอม หนา้ ซีดเซยี วเศรา้ หมอง น่เี ปน็ เครอ่ื งพิสูจน์ว่ารา่ งกายและจิตใจ แยกขาดออกจากกันไม่ได้ ฉะนนั้ เราจึงควรดูแลรกั ษาสุขภาพรา่ งกายและจิตใจควบคกู่ ันไป สาหรบั คาวา่ ภาวะ ความสมดุลระหว่างสุขภาพกายและสุขภาพจิต จะหมายถงึ สภาวะที่รา่ งกายและจติ ใจมีความปกติในดา้ น ความสัมพนั ธ์ระหว่างกัน ในทางตรงกันข้ามหากสขุ ภาพส่วนใดส่วนหนึง่ มคี วามบกพร่องหรือมีสภาวะทีผ่ ดิ ปกตไิ ป ก็ถือวา่ เกดิ ความไมส่ มดลุ ระหว่างสขุ ภาพท้งั สองดา้ นขน้ึ แนวทางการดแู ลสภาพจิตใจของผู้สงู อายใุ ห้แจ่มใส หา่ งไกลปัญหาสุขภาพจติ วยั ชราเป็นวยั ทม่ี ีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ดา้ น ทั้งสภาพรา่ งกายท่เี สอ่ื มถอยลงตามอายุที่มากขน้ึ รวมถงึ อารมณ์และจติ ใจที่ไวต่อการกระตุ้นจากส่ิงเรา้ ทั้งภายนอกและภายในจนนาไปสปู่ ัญหาดา้ นสขุ ภาพจิตและ ปญั หาเร้อื รงั อนื่ ๆ ได้ วัยสงู อายุจงึ ถอื เป็นวยั ท่ีมีความเปราะบางและตอ้ งการการดูแลเอาใจใส่เปน็ พเิ ศษ สาเหตทุ ที่ าให้ผสู้ ูงอายุมีปัญหาทางสุขภาพจติ 1. การเปลยี่ นแปลงทางร่างกายไปในทางทเี่ ส่ือมถอยลง หยอ่ นสมรรถภาพในดา้ นต่าง ๆ มีขอ้ จากดั ชว่ ย ตัวเองไมไ่ ด้ ต้องพ่งึ พาคนอนื่ เจ็บปุวยดว้ ยโรคเร้อื รงั ความจาแยล่ ง 2. การเปลย่ี นแปลงทางจิตใจ ต้องพบกบั ความสูญเสียและการพลดั พรากของคชู่ ีวติ ญาตสิ นทิ หรอื เพ่ือน ฝงู เกดิ ความเหงา ขาดที่พ่ึงทางใจ ขาดคนพดู คยุ ปรกึ ษาหารอื ให้ความช่วยเหลือซง่ึ กนั และกนั ขาดความผุกพนั ที่ เคยมตี ่อสงั คม สญู เสยี บทบาททางสังคม 3. การเปลย่ี นแปลงทางสังคม ทาใหผ้ ้สู ูงอายถุ ูกทอดท้ิง ต้องปรบั ตัวกบั บทบาทใหม่จากเดิมทเี่ คยเป็นผูน้ า ครอบครัว ช่วยเหลอื ตัวเองได้ทุกอย่างตอ้ งกลายมาเป็นผพู้ ึง่ พิงอาศัย ไม่ไดร้ ับการเคารพนับถือ หรอื ปรึกษาหารือ จากคนรุ่นหลัง เน่อื งจากค่านิยมทย่ี ดึ ถืออสิ รภาพส่วนบุคคล และคดิ ว่าผสู้ ูงอายเุ ป็นล้าสมยั ไม่ทันการเปล่ยี นแปลง ของยุคสมยั ทาให้เกดิ ชอ่ งวา่ งระหว่างวยั มากข้ึน ปญั หาทางสขุ ภาพจติ ทพ่ี บบ่อยในผู้สูงอายุ 1. นอนไมห่ ลับ โดยธรรมชาติคนเราเมื่ออายุมากขน้ึ การนอนรวดเดยี วในตอนกลางคืนจะสน้ั ลง ผ้สู ูงอายทุ ่ี มปี ัญหาการนอนมักจะตืน่ กลางดกึ บ่อย ๆ หรอื ตนื่ เช้ามดื แลว้ หลบั ตอ่ อีกไม่ได้ อาจแอบงีบตอนกลางวนั โรคทาง
กายหลายโรคอาจรบกวนการนอนได้ เชน่ ปวดเมื่อยตวั ปวดหลัง ทอ้ งอืด หอบเหน่ือย หายใจลาบาก นอนราบ ไมไ่ ด้ เป็นตน้ 2. วิตก กังวล ผ้สู งู อายุจะรู้สกึ เครียดงา่ ย เนื่องจากปรบั ตวั กับการเปลย่ี นแปลงต่าง ๆ ได้ยาก ความสามารถและประสทิ ธิภาพลดลง มกั แสดงออกเป็นความกลัวขาดความเชื่อมน่ั ในตวั เอง ย้าคิดยา้ ทา ความ วิตกกังวลอาจแสดงออกทางร่างกาย โดยการเจ็บปุวยไมส่ บายกไ็ ด้ 3. ภาวะเจบ็ ปุวยทางกายที่เกี่ยวข้องกบั จติ ใจ มีหลายโรคในผ้สู ูงอายุท่เี กิดจากสาเหตุทางจิตใจโดยตรงหรือ โดยอ้อม เช่น อาการปวดตา่ ง ๆ วิงเวียน นอนไม่หลับ เป็นตน้ มกั ตรวจไม่พบสาเหตทุ างร่างกายชัดเจนหรอื รุนแรง มากพอ บางคร้ังการที่ผู้สูงอายุเจบ็ ปุวยดว้ ยโรคเรื้อรัง หรอื โรคที่รกั ษาไมห่ าย เชน่ เบาหวาน ความดนั โลหิตสงู มะเร็ง เป็นตน้ ผู้สงู อายุจะเกิดปญั หาทางจติ ใจตามมา อาจรสู้ ึกเบอ่ื หนา่ ยการบาบัดทีย่ ืดเยอื้ ยุ่งยาก เจบ็ ตัว เสียเงิน เสียทอง โดยรกั ษาไม่หายขาด ทาใหไ้ มย่ อมรว่ มมอื ในการกินยา หรือฉดี ยา จนอาการทรุดหนกั อย่างรวดเร็ว การ รักษาไมไ่ ด้ผล ทนทกุ ข์ทรมาน คุณภาพชีวติ แย่ลง ลกู หลานผู้ดูแลจะรสู้ ึกผดิ หรอื โทษกนั เองหาทางออกไม่ได้ 4. ภาวะทางจติ ผสู้ ูงอายบุ างรายทีม่ โี รคภัยไข้เจ็บรุนแรง หรือหลายโรค โดยเฉพาะมผี ลต่อการทางานของ สมอง อาจเกดิ อาการทางจติ เฉยี บพลนั เปน็ ลักษณะสับสน วนุ่ วาย เหน็ ภาพหลอน จาคนไม่ได้ หรอื บางรายมี อาการหลงผดิ ระแวงคู่ครองมีชู้ หรอื คดิ ว่ามีใครปองรา้ ยเอาชีวิต โดยทัว่ ไปแล้วแมอ้ าการจะดูรนุ แรงนา่ ตกใจใน ช่วงแรก หากไดร้ บั การบาบัดรักษาทางจติ ควบคู่กบั โรคทางกายแล้ว มักจะดขี ้นึ และอาจหายเป็นปกติได้ วิธสี ังเกตผู้สูงอายทุ ่ีมีปัญหาสุขภาพจติ 1. พฤติกรรมการรับประทานอาหารทีผ่ ิดปกตไิ ปจากเดิม เช่น รับประทานอาหารมากข้ึนหรือน้อยลง เบ่ือ อาหาร ทอ้ งอืด ท้องเฟูอในบางราย 2. อาการงว่ ง เซือ่ งซึม นอนหลับมากกว่าปกติ หรือมีอาการนอนไม่หลับ ฝนั ร้ายติดต่อกนั หลายคนื 3. อารมณเ์ ปลย่ี นแปลงบ่อย หงดุ หงิด เครียด ซึม ฉนุ เฉยี ว วติ กกงั วล 4. พฤตกิ รรมทเ่ี ปล่ียนไป เช่น ซมึ ลงหรือแจม่ ใสมากผดิ ปกติ พดู นอ้ ยลงหรือพูดเยอะข้นึ เริ่มด่มื เครื่องดม่ื แอลกอฮอล์ เป็นต้น 5. อาการเจ็บปุวยทางรา่ งกายทห่ี าสาเหตุไม่พบ เช่น ปวดศีรษะ ปวดเม่ือยตามเนื้อตามตวั แนวทางการดแู ลสภาพจติ ใจของผสู้ ูงอายใุ ห้แจ่มใส 1. ใหค้ วามรักและความอบอ่นุ หมั่นพูดคยุ ใกล้ชิด ใหค้ วามรัก ความอบอุ่น สร้างเสยี งหัวเราะ รวมถึงหา เวลาวา่ งทากิจกรรมร่วมกันในครอบครัว เชน่ รับประทานอาหาร ทาบญุ ทอ่ งเทยี่ ว ซึ่งจะชว่ ยให้ผู้สงู อายุร้สู กึ อนุ่ ใจ รสู้ กึ วา่ ตนเองยงั มคี ุณค่าและมีความสาคัญ 2. ให้เกียรติ ระมัดระวังคาพูดและทา่ ทางที่แสดงออกตอ่ ผู้สงู อายุ ไมแ่ สดงความราคาญ ไม่ต่อว่าด้วย ถ้อยคารนุ แรง หรอื จับผดิ เร่ืองเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ แมผ้ สู้ งู อายจุ ะด้อื หรือเอาแต่ใจ 3. ส่งเสริมใหเ้ กดิ ความสงบภายใน ส่งเสริมใหผ้ ูส้ งู อายุรบั ร้แู ละเข้าใจความรสู้ กึ ของตนเอง รจู้ ักควบคมุ อารมณ์ ผ่อนคลาย และปล่อยวาง รวมทงั้ สามารถปรับตวั และยอมรบั สภาพทเ่ี กิดข้นึ ตามความเป็นจรงิ รวมถงึ เรอื่ งความตาย ผา่ นการควบคุมลมหายใจ ฝกึ คิดอยา่ งยดื หยุ่นและคิดแงบ่ วก 4. ส่งเสริมความมีคณุ ค่าในตนเอง ช่วยให้ผู้สูงอายรุ สู้ ึกภาคภูมใิ จและมีความเชื่อม่ันในตนเอง โดยอาจ ปล่อยผูส้ งู อายุพยายามชว่ ยเหลอื ตนเองในเร่อื งง่าย ๆ เช่น กจิ วตั รประจาวนั หรอื งานบา้ นเล็ก ๆ น้อย ๆ ทีไ่ ม่เกิน กาลังและไม่เปน็ อันตราย
5. ฝึกระบบความคิด ส่งเสริมความสามารถของผู้สูงอายดุ ้านความจา การฝึก การวางแผน และการ แก้ไขปญั หาเพอ่ื ชะลอความเสือ่ มของสมองในด้านต่าง ๆ เช่น ฝกึ การเรียนรสู้ งิ่ ใหม่ ๆ ลองทากิจกรรมดว้ ยมือข้างที่ ไมถ่ นดั หรือทากิจกรรมใหม่ ๆ ท่ไี มเ่ คยทา 6. สง่ เสรมิ การเข้าสังคม สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้สงู อายุรวมกลุ่มกบั เพ่ือนๆ หรอื กลุม่ วัยอื่น ๆ เพื่อพบปะพดู คยุ แลกเปล่ยี นความคิดเห็น ซึง่ จะช่วยให้ผู้สงู อายไุ ด้รสู้ ึกผ่อนคลาย ลดปญั หาการเก็บตัวหรือปลกี วิเวกจากสังคม 7. ผอ่ นคลาย สง่ เสรมิ การเข้ารว่ มกิจกรรมนนั ทนาการเพอื่ สง่ เสริมความรูส้ ึกสนกุ สนาน ดว้ ยการทา กิจกรรมที่กอ่ ใหเ้ กดิ อารมณ์เป็นสุข จิตใจสดชน่ื แจ่มใส กระปรกี้ ระเปร่า อาทิ การเลน่ กฬี า ดนตรี ศลิ ปะ หรอื งาน อดิเรกทชี่ อบ เช่น เปตอง ราวง เตน้ แอโรบิค เปน็ ต้น ซงึ่ จะชว่ ยผอ่ นคลายและลดความเครียดไดเ้ ปน็ อย่างดี 8. ฝึกสมอง เลน่ เกมท่ีช่วยฝกึ ฝนด้านความจาหรอื ฝกึ สมองไดเ้ พื่อใหเ้ กิดการแก้ปัญหา การจัดลาดับ ความคิด เชน่ หมากรุก อักษรไขว้ ตอ่ คา ต่อเพลง คิดเลข หรอื การจดจาข้อมลู ตา่ ง ๆ เชน่ วนั เวลา สถานที่ บคุ คล หมายเลขโทรศัพท์ เปน็ ต้น 9. เป็นทป่ี รกึ ษา สงั เกตปัญหาและรบั ฟงั ความต้องการของผ้สู ูงอายุ หมนั่ สอบถามสารทุกข์สขุ ดิบเสมอ แสดงความเหน็ ใจ เข้าใจ รับฟงั และให้ผ้สู งู อายุไดร้ ะบายความรสู้ ึก ร่วมกนั หาแนวทางในการปรบั ตวั กบั ปัญหา 10. ส่งเสรมิ การออกกาลังกาย ส่งเสริมให้ผ้สู งู อายหุ นั มาดแู ลสขุ ภาพร่างกายให้แข็งแรง คลอ่ งแคลว่ มี กาลังวงั ชา สามารถตอบสนองความต้องการทางกายภาพไดอ้ ย่างเหมาะสมผา่ นการฝกึ กายบริหาร โยคะ รามวยจีน หรอื การออกกาลังกายประเภทอืน่ ๆ ทเี่ หมาะสมวันละ 15-30 นาที ผู้สงู อายเุ ปน็ ชว่ งชีวิตหนงึ่ ที่มีการเปล่ยี นแปลงหลายอยา่ งท้งั ทางรา่ งกายและจิตใจจนอาจทาใหเ้ กดิ ปัญหาตามมา แต่หากลูกหลานและสมาชกิ ในครอบครวั สามารถรับมือได้อยา่ งเหมาะสมก็จะใหป้ ญั หาตา่ ง ๆ ทเุ ลา ลง นามาซ่งึ ความสุขของสมาชิกทกุ คนในครอบครัวตอ่ ไป ในทางจิตวิทยา วัยสงู อายุเป็นวัยแหง่ ความเคารพนับถือที่ลูกหลานยกยอ่ งให้เกียรติ เปน็ วัยแห่งความสขุ ที่จะไดเ้ ห็น ลูกหลานที่เลย้ี งมาเตบิ โตเป็นผูใ้ หญ่ ภาระรบั ผดิ ชอบตา่ ง ๆ ลดลง มเี วลาวา่ งท่จี ะทาสิง่ ต่าง ๆ ตามความชอบหรือ ความสนใจอย่างเตม็ ที่ แต่ในขณะเดยี วกัน วยั สงู อายกุ ็เปน็ ช่วงเวลาของชวี ติ ทจ่ี ะเปลย่ี นจากวยั กลางคนเข้าส่วู ยั ชรา อยา่ งเต็มตวั ทาให้ต้องเผชิญกับการเปลย่ี นแปลงตา่ ง ๆ มากมายทัง้ ทางร่างกาย จติ ใจ และสงั คม การเปลยี่ นแปลง ตา่ ง ๆ เหลา่ นอ้ี าจเปน็ สาเหตใุ หเ้ กดิ ปญั หาสขุ ภาพจติ ในผสู้ ูงอายไุ ด้ สงั คมผู้สูงอายุกับการรบั มือภาวะสมองเส่ือม ภาวะสมองเสื่อม เปน็ กลมุ่ อาการความเส่อื มถอยของการทางานขั้นนสูงของสมอง เช่น ความจา ภาษา มติ ิ สัมพันธ์ และการวางแผน ตัดสนิ ใจ สาเหตขุ องภาวะสมองเส่ือมในผสู้ ูงอายุ 1. กลุ่มโรคท่ีไปสามารถปูองกนั หรอื รักษาให้หายขาดได้ เกิดจากโรคเซลล์ประสาทสมองเสื่อม เชน่ อลั ไซเมอร์ โรคสมองเส่อื มลูวีบอดีส์ โรคสมองสว่ นหนา้ เส่ือม 2. กลมุ่ โรคอน่ื ๆ ท่ีสามารถปอู งกันและรักษาให้หายได้ เช่น โรคหลอดเลอื ดสมอง อบุ ัตเิ หตุท่ีศีรษะ ยา กดการทางานขอสมอง โรคติดเชอ้ื ในสมอง โรคทางจิตเวช โรคขาดสารอาหารหรือฮอร์โมน อาการเรม่ิ แรก 1. เล่าเรอ่ื งเก่าซา้ ๆ 2. จาเรอื่ งที่เพง่ิ เกิดไมไ่ ด้ 3. ทาของหาย
4. ลืมรับประทานยา ลมื ปดิ เตาแก๊ส 5. สับสนเรอ่ื งทิศทาง 6. ตดั สินใจผิดผลาด 7. พฤติกรรมเปลยี่ นแปลง ซึง่ อาการดงั กล่าวต้องเป็นบ่อยจนผิตสงั เกต และทาให้เกิดปัญหาในการใชช้ ีวติ ประจาวัน การรักษาภาวะสมองเสื่อม กล่มุ โรคเซลล์ประสาทสมองเส่ือม เช่น อลั ไซมอร์ นน้ั ยังไมม่ วี ิธรี กั ษาให้หายขาดได้ มีเพียงการรักษาตาม อาการและการดูแลประคับประคองเพ่ือชะลอการดาเนนิ โรค สว่ นสาเหตอุ ืน่ ๆทร่ี กั ษาได้นน้ั รกั ษาตามสาเหตุทที่ า ใหเ้ กิด การป้องกัน และการชะลอการดาเนินโรค 1. ออกกาลงั กายเป็นประจา 2. รกั ษาปัจจยั เสยี งโรคหลอดเลอื ด เช่น โรคเบาหวาน ความดนั และคอเลสเตอรอล 3. มีปฏสิ มั พนั ธ์กับคนรอบขา้ ง ช่น ญาตผิ ้ดู ูแล และเพื่อน 4. ทากิจกรรมที่ชอบทา และยงั ทาได้ เปน็ ประจา 5. ตดิ ตามข่าวสารและเรียนรูส้ งิ่ ใหม่ ๆ เสมอ รบั ประทานอาหารท่ีเปน็ ประโยชนใ์ ห้ครบ 5 หมู่ ปัญหาพฤติกรรมในผูส้ ูงอายุสมองเสื่อม ในประชากรผ้สู ูงอายขุ องประเทศไทย จากการสารวจพบวา่ อาจมผี ทู้ ม่ี ีปัญหาภาวะสมองเส่ือมไดถ้ งึ 2% ซ่งึ ภาวะสมองเสื่อมน้ีอาจนามาซ่ึงปญั หาทางดา้ นบคุ ลิกภาพทีเ่ ปล่ียนแปลงไป หรือปัญหาพฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงค์ได้ ปญั หาทางบคุ ลิกภาพ พฤติกรรมและจิตใจท่ีพบในผ้ปู ุวยสมองเสื่อมมีดังนี้ 1. บคุ ลิกภาพเปลยี่ นแปลง พบได้บ่อยทส่ี ดุ ในบรรดาปัญหาทางพฤติกรรมและจิตใจในผปู้ ุวยสมองเส่ือม โดยพบไดถ้ ึง 70% ของผูป้ ุวยสมองเสือ่ ม เราจะพบว่าผปู้ ุวยจะมีลักษณะไม่กระตือรือรน้ ทจี่ ะทาอะไร จะชอบนั่ง น่งิ ๆ อยเู่ ฉยๆ ความคิดริเริ่มใหม่ๆ จะลดลง และจะคิดแต่เรือ่ งตนเอง จะพูดเรอื่ งตวั เองโดยเฉพาะเรื่องในอดตี และ จะพดู ซ้าๆ ทาให้บางครัง้ ลูกหลานคิดวา่ ความจายังดี เพราะจาเรอ่ื งในอดตี นานมาแลว้ ได้ แต่ทจี่ ริงแลว้ การสญู เสีย ความจาในผูป้ ุวยสมองเส่ือมจะเร่ิมเสยี ความจาใหมๆ่ ก่อน ถ้าอาการเป็นมากแลว้ จึงจะมีสญู เสียความจาในอดตี 2. ภาวะหลงผิด ภาวะนี้จะพบได้ 30-50% ของผู้ปุวยสมองเสือ่ ม ลักษณะหลงผดิ ทพ่ี บได้บอ่ ย เช่น เชอ่ื ว่ามคี นในบ้านมาขโมยเงนิ ทองหรอื ข้าวของของผ้ปู วุ ย ปัญหาน้สี ่วนหนงึ่ ก็เร่มิ จากท่ีผู้ปวุ ยมปี ัญหาความจาระยะสั้น ทาให้เวลาวางเงนิ วางของ แลว้ จาไม่ไดว้ า่ วางไว้ บ่อยๆเข้าจึงเชอ่ื วา่ มีโจรหรือคนในบ้านขโมยเงนิ ไป นอกจากนี้อาจ พบหลงผิดคิดวา่ คสู่ มรสมชี ู้ หรือคิดวา่ จะมคี นมาประสงค์รา้ ยหรอื ทารา้ ยผ้ปู วุ ย ภาวะหลงผิดน้ีเมื่อเกิดขน้ึ จะทาให้ ความสามารถในการจาทีม่ กี ารสูญเสียอยแู่ ลว้ จะสญู เสียมากขึ้น 3. ภาวะประสาทหลอน ภาวะน้พี บได้ 10-30% ของผ้ปู ุวยสมองเส่อื ม ลกั ษณะที่พบได้บ่อยคือการเห็น ภาพหลอน เชน่ ผู้ปวุ ยจะบอกลกู หลานวา่ เหน็ คนบกุ รุกในบา้ น หรอื เหน็ เดก็ สตั ว์ ท่ไี มเ่ คยมใี นบ้านมาอยู่ในบา้ น บางคร้ังอาจบอกว่าเหน็ คนที่รู้จักในอดีต เช่น พ่อแมพ่ น่ี ้องของผูป้ ุวยทีต่ ายไปแล้วมาหา ก็จะทาให้ลูกหลานทเ่ี ชอื่ เรื่องทางนี้ เช่ือว่าคนเหลา่ น้ีมาชวนผู้ปวุ ยไปอยดู่ ้วยแล้ว ก็จะสิน้ หวัง หมดกาลงั ใจในการดแู ลผ้ปู วุ ย นอกจากการ เห็นภาพหลอนแลว้ อาจพบอาการประสาทหลอนเปน็ แบบหแู วว่ ได้ยินเสียงคนมาคยุ ดว้ ย มีเสียงคนขู่จะมาทารา้ ย ผูป้ วุ ยได้ 4. อารมณเ์ ปล่ียนแปลงไป เราอาจพบว่าผูป้ วุ ยสมองเส่ือมดูแลยาก โดยเฉพาะถา้ ไม่ใชญ่ าติมาดูแลจะ ไม่เขา้ ใจ เพราะผูป้ วุ ยเหล่านีอ้ ารมณจ์ ะเปล่ียนแปลงง่าย พบวา่ จะมีอารมณ์โกรธอย่างฉบบั พลัน พบไดถ้ ึง 50%
ของผูป้ ุวยสมองเสอ่ื ม บางคร้งั เรอ่ื งท่มี ากระต้นุ อาจจะไม่ใชเ่ รื่องทีค่ วรโกรธ แตภ่ าวะท่ีสมองไมด่ จี ะทาใหก้ าร ควบคมุ ดา้ นอารมณ์เสียไปดว้ ย อารมณซ์ ึมเศรา้ เปน็ อีกอารมณท์ ี่พบไดบ้ ่อยถึง 20 - 40% ถา้ ผู้ปุวยมีอารมณ์ ซมึ เศร้ามากอาจจะมคี วามคิดทารา้ ยตนเองได้ สว่ นอารมณ์ทดี่ ีผดิ ปกติพบได้แต่พบได้น้อยกว่าประมาณ 20% ของ ผ้ปู วุ ยสมองเสอื่ มท้งั หมด 5. พฤตกิ รรมอืน่ ๆ ทีเ่ รามกั จะได้ขา่ วตามวทิ ยุ จส.100 หรอื “ร่วมด้วยชว่ ยกนั ” บอ่ ยๆก็คอื ผูป้ ุวย สมองเสอ่ื มหายออกจากบา้ นไป ไม่รวู้ ่าเดนิ หายไปไหน ภาวะการเดินไปแบบไม่มีจดุ หมายจะพบไดใ้ นผปู้ ุวยสมอง เสือ่ ม บางรายอาจไปพบวา่ เดินอยูห่ า่ งจากบ้านได้ไกลๆ แบบคนละจงั หวดั ได้ อกี พฤติกรรมหน่งึ ทีเ่ ป็นปญั หาคือการ เกบ็ สะสมของ จะพบว่าผู้ปุวยจะเก็บของ บางคร้งั เปน็ ของที่ทงิ้ แลว้ ของใชท้ ีเ่ สียแลว้ ผปู้ วุ ยกจ็ ะเกบ็ เอาไว้ ไมย่ อม ให้ทิ้ง ถ้าลกู หลานเอาไปทิง้ จะโกรธมาก อีกปัญหาคือลักษณะทผ่ี ปู้ วุ ยถกู มองวา่ เปน็ เฒา่ หัวงู กค็ อื ปญั หาพฤติกรรม ลวนลามทางเพศกับเพศตรงข้ามแตส่ ่วนใหญก่ จ็ ะพบในผู้ปุวยชาย จะพบได้ 20% ของผู้ปุวยสมองเสอ่ื ม โดยทัว่ ไป ผู้ปุวยจะทาแคล่ ักษณะลวนลาม แต่จะไมม่ ีลักษณะทารา้ ยเพอื่ จะมเี พศสัมพนั ธ์ ปัญหาลวนลามทางเพศมักจะทาให้ ลูกหลานอบั อาย ขาดการเคารพนับถือ และไมย่ อมดูแลผู้ปุวยได้ นอกจากน้ียังมปี ัญหาพฤติกรรมอื่นๆ ทสี่ มั พันธก์ ับความสามารถของสมองอีก เช่น มกี ารสับสนเรือ่ งวัน เวลา สถานท่ี การสญู เสยี ทักษะความสามารถต่างๆ เชน่ ความสามารถในการดแู ลตัวเองในเร่ืองสขุ อนามัยสว่ น บคุ คล การลมื สารพดั ลืม ไมว่ า่ จะเป็นลมื ของ, ลืมกินยา ลมื แม้กระท่ังมื้ออาหารทร่ี ับประทาน ทาให้บางครงั้ ผ้ปู วุ ย จะมาขออาหารรับประทานอยู่ตลอดเวลา ไมใ่ ห้กจ็ ะเอาไปฟูองลูกหลานว่าคนท่ีดูแลโหดร้ายไมย่ อมให้อาหาร รบั ประทาน เปน็ ตน้ หลักในการแกป้ ัญหาพฤติกรรมในผูป้ ่วยสมองเส่ือม 1. คงตอ้ งไดร้ ับการตรวจ วินิจฉัยแยกโรคใหช้ ดั เจนว่าเปน็ ปัญหาพฤติกรรมของโรคสมองเสื่อม หรอื เป็น โรคอื่นๆ ทางดา้ นจติ ประสาท 2. เมือ่ ได้รับการวนิ ิจฉยั ว่าเป็นสมองเสื่อมแลว้ ต้องหาสาเหตุวา่ เสือ่ มจากสาเหตใุ ด จากข้อมลู สถติ ิพบวา่ ส่วนใหญ่จะเปน็ สมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอรอ์ ันดับหนง่ึ รองลงมาคอื โรคหลอดเลือดสมอง การรักษาต้องรกั ษาท่ี สาเหตุจดุ น้ีด้วย 3. รกั ษาหรือชะลอไมใ่ ห้ภาวะสมองเส่ือมมากขึน้ เพราะว่าภาวะความเสอื่ มทมี่ ีมากขน้ึ โอกาสเกิดปัญหา ทางพฤติกรรมและจติ ใจกจ็ ะมากตาม 4. บางปญั หาทางพฤตกิ รรม อาจจาเปน็ ต้องไดร้ บั การรักษาดว้ ยยาทางจติ เวช เชน่ ภาวะหลงผิด, ประสาทหลอน ซึมเศรา้ อย่างรนุ แรง ซง่ึ ตอ้ งพบแพทยเ์ พ่ือสัง่ จ่ายยาให้ 5. หลายๆ พฤตกิ รรม ไมส่ ามารถรักษาได้ดว้ ยยา ผู้ดูแลจะต้องเข้าใจและรับทราบว่าพฤติกรรมนั้นๆ เปน็ ส่วนหนึ่งของอาการเจ็บปุวยของผู้ปวุ ย การแกป้ ญั หาทาได้โดยไม่ตอบสนองต่อพฤติกรรมนั้นๆ แลว้ เบ่ยี งเบน ความสนใจผ้ปู ุวยไปยงั เรื่องอ่ืน และท่สี าคัญตอ้ งจาไว้ว่าสถานการณใ์ ดเป็นตวั กระตนุ้ ทาใหผ้ ปู้ วุ ยเกดิ พฤติกรรมนัน้ แลว้ ตอ่ ไปเราก็จะไดห้ ลกี เล่ียง จะได้ไม่เกิดพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์อีก กฎหมายและสิทธปิ ระโยชน์ของผู้สงู อายุ 1. รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทยพุทธศักราช 2550 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นกฎหมายสูงสุดท่ีใช้เป็นแนวทางปกครองประเทศ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 มมี าตรการสาคญั ท่ีเก่ยี วข้องและครอบคลมุ ภารกจิ ที่จะต้อง ดาเนินการพัฒนาผูส้ งู อายุ ประกอบด้วย - แนวนโยบายพื้นฐานของรฐั ได้ระบใุ ห้รฐั ต้องดาเนนิ การตามแนวนโยบายด้านสังคมและดา้ น เศรษฐกจิ 2 มาตรา คอื มาตรา 80(1) รัฐตอ้ งสงเคราะห์และจัดสวสั ดิการใหแ้ ก่ผ้สู ูงอายุ ให้มีคณุ ภาพชวี ติ ที่ดีขนึ้
และพึ่งพาตนเองได้ และมาตรา 84(4) รัฐต้องจัดให้มีการออมเพื่อการดารงชพี ในยามชราภาพแก่ประชาชนและ เจา้ หนา้ ที่ของรฐั อยา่ งทว่ั ถงึ - สทิ ธิในการไดร้ ับบริการสาธารณสขุ และสวัสดกิ ารจากรัฐ ในมาตรา 53 ระบวุ ่าบุคคลซึ่งมอี ายุ เกนิ หกสิบปบี ริบรู ณ์ และไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยงั ชพี มสี ทิ ธไิ ดร้ ับสวสั ดกิ าร ส่ิงอานวยความสะดวกอนั เป็น สาธารณะอย่างสมศักดิ์ศรี และความช่วยเหลอื ที่เหมาะสมจากรฐั - สิทธใิ นกระบวนการยตุ ิธรรม ในมาตรา 40(6) ระบวุ า่ ผู้สงู อายุยอ่ มมีสิทธไิ ดร้ บั ความคมุ้ ครอง ในการดาเนนิ กระบวนการพิจารณาคดีอย่างเหมาะสม และยอ่ มมีสทิ ธไิ ดร้ บั การปฏิบตั ทิ ี่เหมาะสมในคดีท่เี ก่ยี วกับ ความรนุ แรงทางเพศ - บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในการดาเนินการพัฒนาผู้สูงอายุ ในมาตรา 281 ระบุว่า รัฐจะต้องส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยงานหลักจัดบริการสาธารณะ และในมาตรา 283 ระบุว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ย่อมมีอานาจหน้าที่โดยท่ัวไปในการดูแลและจัดทาบริการสาธารณะเพื่อ ประโยชน์ของประชาชนในท้องถ่ิน และมีความเป็นอิสระกาหนดนโยบาย การจัดบริการสาธารณะ โดยต้อง คานึงถึงความสอดคลอ้ งกบั การพัฒนาของจังหวดั และประเทศเปน็ ส่วนรวมด้วย 2. พระราชบญั ญตั ิผู้สงู อายุ พ.ศ.2546 พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ.2546 มผี ลบังคับใชต้ ั้งแตว่ นั ท่ี 1 มกราคม 2547 โดยตราข้ึนตามเจตนารมณ์ ในมาตรา 54 ของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช 2540 ท่ปี ระสงค์จะให้บุคคลที่มีอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ และไม่มีรายไดเ้ พียงพอแก่การยงั ชพี มสี ิทธิได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ ซึ่งในพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ.2546 ได้ให้ ความสาคญั กบั การคุ้มครองผู้สูงอายุ ให้ได้รับสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและเสมอภาค เป็นหลักประกันด้านสิทธิเสรีภาพ โดยมสี าระสาคญั ดังนี้ มาตรา 11 ผ้สู งู อายุมสี ทิ ธิไดร้ บั การคุ้มครอง การส่งเสรมิ และการสนบั สนุนในด้านตา่ งๆ ดงั นี้ (1) การบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขที่จัดไว้โดยให้ความสะดวกและรวดเร็วแก่ผู้สูงอายุเป็น กรณีพิเศษ (2) การศึกษา การศาสนา และขอ้ มูลขา่ วสารที่เป็นประโยชนต์ ่อการดาเนนิ ชีวิต (3) การประกอบอาชพี หรือการฝกึ อาชีพทเี่ หมาะสม (4) การพฒั นาตนเองและการมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมทางสังคม การรวมกลมุ่ ในลกั ษณะเครอื ขา่ ยหรอื ชมุ ชน (5) การอานวยความสะดวกและความปลอดภัยโดยตรงแก่ผู้สูงอายุในอาคาร สถานที่ ยานพาหนะหรือการ บริการสาธารณะอืน่ (6) การช่วยเหลือดา้ นคา่ โดยสารยานพาหนะตามความเหมาะสม (7) การยกเว้นคา่ เข้าชมสถานที่ของรฐั (8) การช่วยเหลือผสู้ ูงอายซุ ง่ึ ไดร้ บั อนั ตรายจากการถกู ทารณุ กรรมหรือถกู แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบดว้ ย กฎหมาย หรอื ถกู ทอดทง้ิ (9) การใหค้ าแนะนา ปรกึ ษา ดาเนินการอ่ืนทเ่ี ก่ียวขอ้ งในทางคดี หรอื ในทางการแก้ไขปญั หาครอบครัว (10) การจดั ทพ่ี กั อาศัย อาหารและเครอ่ื งนุ่งห่มให้ตามความจาเปน็ อย่างทว่ั ถงึ (11) การสงเคราะห์เบย้ี ยงั ชีพตามความจาเป็นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม (12) การสงเคราะห์ในการจดั การศพตามประเพณี (13) การอ่ืนตามท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนด
มาตรา 16 ผู้บริจาคเงนิ หรอื ทรพั ย์สินให้แกก่ องทุน มสี ิทธินาไปลดหย่อนในการคานวณภาษีเงินได้ หรือได้รับ การยกเว้นภาษีสาหรับทรัพย์สินที่บริจาคแล้วแต่กรณี ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ีกาหนดในประมวล รษั ฎากร มาตรา 17 ผู้อุปการะเลี้ยงดูบุพการี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุท่ีไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ ผู้น้ันมีสิทธิได้รับการ ลดหย่อนภาษี ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงอื่ นไขท่ีกาหนดในประมวลรัษฎากร สทิ ธิประโยชน์ของผสู้ งู อายตุ ามกฎหมาย ประเภทสิทธผิ สู้ งู อายุ 1. สทิ ธทิ ผี่ สู้ งู อายุได้รบั ทันทโี ดยผลของกฎหมาย 2. สิทธทิ ี่สว่ นราชการทเ่ี กี่ยวข้องต้องไปออกกฎหมาย หรอื วิธแี ละดาเนินการใหเ้ กิดสิทธแิ กผ่ สู้ งู อายุ 3. สทิ ธทิ ผ่ี สู้ ูงอายทุ าใหเ้ กิดขึ้นได้ดว้ ยตนเอง 4. สิทธิของบคุ คลอนื่ ทดี่ ูแลผู้สงู อายุ สิทธิประโยชน์ของผู้สงู อายุ หมวด 1 สขุ ภาพอนามยั ดี 1.1 การรกั ษาพยาบาล - บุคคลทีม่ ีอายุเกิน 60 ปขี ึ้นไป รกั ษาพยาบาลไม่เสยี ค่าใชจ้ ่าย - จดั ใหม้ ีชอ่ งทางเฉพาะอานวยความสะดวก รวดเร็ว - จัดให้มบี ริการคลินกิ เฉพาะผู้สูงอายุ 1.2 การให้คาปรึกษาสขุ ภาพจติ และฟ้ืนฟจู ติ ใจ - บริการใหค้ าปรึกษาแนะนาปญั หาสขุ ภาพจติ ในสถานพยาบาลของรัฐ - บริการใหค้ าปรึกษาแนะนาทางโทรศพั ท์ หมายเลข 1667 1.3 เจบ็ ปุวยฉุกเฉนิ - บรกิ ารให้คาปรึกษาแนะนาทางโทรศัพท์ หมายเลข 1669 - หากจาเปน็ จะมหี น่วยปฏบิ ตั ิการฉกุ เฉนิ ไปช่วยเหลือถึงท่ีเกดิ เหตุ 1.4 กีฬาผ้สู ูงอายุ - จัดกิจกรรมกีฬาเพอ่ื ผสู้ งู อายุ โดยการกฬี าแหง่ ประเทศไทย หมวด 2 มีครอบครัวอยพู่ ร้อมหนา้ 2.1 เงินสงเคราะห์ครอบครัว - ชว่ ยเหลอื เป็นเงินหรือสิง่ ของไม่เกนิ 2,000 บาท/ครั้ง ไม่เกนิ 3 ครง้ั /ปเี พื่อให้ผู้สงู อายุยากจน อย่ใู นครอบครัวและชมุ ชนตอ่ ไปได้ 2.2 การช่วยคา่ อาหารและเครอื่ งนมุ่ หม่ ตามความจาเป็น - ช่วยเหลือเป็นเงินหรือสิ่งของไม่เกิน 2,000 บาท/คร้ัง ไม่เกิน 3 คร้ัง/ปีเพื่อให้ผู้สูงอายุที่ ประสบปญั หาในครอบครัวและชมุ ชนตอ่ ไปได้ 2.3 การช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ได้รับอันตรายจากการถูกทารุณกรรมหรือถูกแสวงหาประโยชน์โดย มชิ อบตอ่ กฎหมาย - จดั ท่พี กั ให้ในสถานท่ีปลอดภยั /เหมาะสม - ฟ้นื ฟูร่างกาย/จิตใจ เตรียมความพรอ้ มของครอบครวั - ชว่ ยเหลือเปน็ เงนิ เบ้อื งตน้ ไมเ่ กนิ 500 บาท/คร้ัง
2.4 ช่วยซ่อมแซมปรบั ปรงุ ที่อยู่อาศัย - ช่วยซ่อมแซม ปรับปรงุ ทอี่ ยู่อาศัยให้เหมาะสมกบั ผู้สูงอายุ 2.5 ยกเว้นภาษแี กผ่ ู้สูงอายุ - ผทู้ ีอ่ ายเุ กนิ 65 ปี ท่ีมีรายได้พงึ ประเมินไมเ่ กิน 190,000 บาท ต่อปี 2.6 ลดหยอ่ นภาษีแก่ผอู้ ุปการะเล้ียงดบู ุพการี - ผู้อุปการะเลี้ยงดูบุพการีซึ่งเป็นผู้สูงอายุและมีรายได้ต่ากว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับลดหย่อน ภาษี 30,000 บาท ตอ่ ผ้สู งู อายุ 1 คน หมวด 3 ไมม่ ปี ญั หาเร่อื งรายได้ 3.1 จดั หางาน - บริการจัดหางานท่เี หมาะสมกับอตั ภาพ - ให้คาปรึกษาแนะนา ข้อมลู การส่งเสริมอาชพี 3.2 การฝกึ อาชีพ - ใหก้ ารอบรมฝกึ ทกั ษะอาชีพตามอัธยาศยั 3.3 ทุนประกอบอาชีพ กองทุนผู้สูงอายุให้บริการเงินกู้ยืมโดยไม่คิดดอกเบ้ีย โดยชาระคืนเป็นราย เดือน ไมเ่ กนิ 3 ปี - กู้ยืมรายบุคคล คนละไมเ่ กิน 30,000 บาท โดยมผี คู้ า้ ประกัน 1 คน - กูย้ มื รายกลุม่ ๆ ละไมน่ อ้ ยกวา่ 5 คน วงเงนิ กกู้ ลุ่มละ ไม่เกิน 100,000 บาท 3.4 ชว่ ยเหลือดา้ นค่าโดยสารยานพาหนะ - เรอื ดว่ นเจ้าพระยา เรอื ขา้ มฟาก เรือในคลองแสนแสบ ลด 50% - การบินไทย ลด 15% บางกอกแอร์เวย์ ลด 5 % - รถไฟฟา้ ใต้ดิน ลด 50% - รถเมล์ ขสมก. ลด 50% (รถแอร์ไม่รวมค่าธรรมเนยี ม) - รถ บขส. ลด 50% - รถไฟ ลดคา่ โดยสารครึง่ ราคา (เฉพาะเดือน มิถนุ ายน-กนั ยายน) 3.5 ยกเวน้ ค่าเขา้ ชมสถานทขี่ องรฐั - ยกเว้นค่าเข้าชมสถานท่ีของรัฐท่ีปกติมีการเก็บเงินค่าเข้าชม ได้แก่ อุทยานแห่งชาติ อุทยาน ประวัติศาสตร์พิพิธภณั ฑ์สถานแหง่ ชาติ สวนสัตว์ และโครงการอนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ 3.6 เบ้ียยังชีพผูส้ งู อายุ โดยจ่ายเบ้ยี ยังชพี แกผ่ สู้ งู อายุทมี่ ิได้รบั เงนิ รายไดป้ ระจาจากภาครฐั ดงั นี้ - อายุ 60-69 ปี 600 บาท/เดือน - อายุ 70-79 ปี 700 บาท/เดอื น - อายุ 80-89 ปี 800 บาท/เดอื น - อายุ 90 ปขี น้ึ ไป 1,000 บาท/เดือน 3.7 ยกเวน้ ภาษแี กผ่ ้มู ีเงนิ ไดอ้ ายุ 55 ปขี น้ึ ไป - ยกเว้นภาษแี ก่ผู้มีอายุ 55 ปขี ึ้นไป ทม่ี ดี อกเบ้ียเงินฝากประจาไม่เกิน 30,000 บาท 3.8 กองทนุ การออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นกองทุนการออมเพื่อการชราภาพใหแ้ ก่แรงงานนอกระบบ ที่ไม่ได้ทาประกันสังคม หรืออยู่ใน ระบบบาเหน็จบานาญ หรืออยู่ในระบบการออมท่ีมีการจ่ายสมทบโดยนายจ้างหรือรัฐบาล รับสมัครบุคคลที่มีอายุ 15-60 ปี ออมเงินเป็นรายเดือน หรือรายงวดหรือรายปี ต้ังแต่ 50-1,000 บาท อายุครบ 60 ปี จะได้รับบานาญ เป็นรายเดอื นตลอดชพี โดยได้รับการสมทบเงนิ ฝากจากรฐั ดังน้ี
- อายุ 15-30 ปี สมทบเดือนละ 50 % ของเงนิ ฝาก แต่ไม่เกิน 600 บาท/ปี - อายุ 30-50 ปี สมทบเดอื นละ 80 % ของเงินฝาก แตไ่ ม่เกิน 960 บาท/ปี - อายุ 50-60 ปี สมทบเดอื นละ 100 % ของเงินฝาก แตไ่ ม่เกิน 1,200บาท/ปี ขอ้ มูลแหล่งใหบ้ รกิ ารสทิ ธปิ ระโยชน์สาหรบั หรับผสู้ งู อายุ 1. ศูนย์พัฒนาการจัดสวสั ดกิ ารสงั คมผูส้ ูงอายุ บรกิ ารใหค้ าแนะนาปรึกษาและจัดกิจกรรมเพ่ือสรา้ ง ความสัมพันธท์ ี่ดีและลดชอ่ งว่างระหว่างวยั ของผู้สงู อายุและสมาชิกครอบครัว ทาใหผ้ สู้ งู อายอุ ยูร่ ่วมกบั ครอบครัว อย่างอบอนุ่ และมีความสุข นอกจากนี้ยงั ใหค้ วามช่วยเหลอื แก่ผู้สงู อายุที่ได้รับความเดือดรอ้ น เป็นเงนิ แหละ/หรือ สิ่งของ ตามระเบยี บกรมพฒั นาสงั คมและสวัสดกิ ารวา่ ด้วยการสงเคราะหค์ รอบครวั ผมู้ รี ายไดน้ อ้ ยและผไู้ ร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552 2. ศนู ยพ์ ฒั นาครอบครวั ในชมุ ชน (ศพค.) จดั ตัง้ ขึน้ จากการสนบั สนนุ ของสานักงานกจิ การสตรแี ละ สถานบันครอบครัว กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยเป็นการรวมกลุ่มตวั แทนคนในชมุ ชน หรอื องคก์ รในชุมชน ท่ีอาสาช่วยดูแล ปูองกัน และแก้ไขปัญหาครอบครัว มบี ริการใหค้ าแนะนาปรกึ ษาหรอื จัด กจิ กรรมทช่ี ่วยเสริมสรา้ งความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในครอบครัว ศพค. ตั้งอย่ใู นตาบลหรอื เทศบาลในพน้ื ทตี่ ่างๆ ทั่ว ประเทศ อยใู่ นความดแู ลและสนบั สนุนขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ 3. สายด่วนกรมสขุ ภาพจิต (ฮอทไลน์คลายเครยี ด) ใหบ้ ริการปรกึ ษาปญั หาสุขภาพจติ รับฟังปัญหา ที่ทาให้เกดิ ความคบั ข้องใจ และใหค้ าแนะนาในการแกไ้ ขปัญหาแก่ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ตลอด 24 ชั่วโมง โทรศัพท์สายด่วน 1667 4. ศนู ย์พึง่ ได้ (ศนู ยบ์ รกิ ารช่วยเหลอื เด็กและสตรีในภาวะวกิ ฤตจากความรุนแรง) รบั เรอื่ งร้องทุกข์ และใหค้ วามช่วยเหลือแกป่ ระชาชนท่ีได้รบั ความเดือดร้อน และถูกกระทารุนแรงในครอบครัว ทางโทรศพั ท์ ตลอด 24 ชวั่ โมง โดยมีศนู ยร์ ับแจ้งปัญหาและให้การชว่ ยเหลือผ้ทู ไี่ ดร้ บั ความเดือดรอ้ นอย่ทู ี่โรงพยาบาลประจาจงั หวดั ทกุ แหง่ ทว่ั ประเทศ โทรศัพทส์ ายด่วน 1169 5. คลนิ ิกช่วยเหลือความรุนแรงในครอบครัว (ศูนยน์ ารรี กั ษ์โรงพยาบาลรามาธิบด)ี หมายเลข โทรศัพท์ 02-201-1222 6. มูลนิธศิ นู ย์ฮอตไลน์ รับปรึกษาและให้คาแนะนาเกย่ี วกับปัญหาครอบครัว ปญั หาชวี ิต หมายเลข โทรศพั ท์ 02-276-2950 และ 02-277-8811 7. ศนู ย์ปรกึ ษาปัญหาชีวิต (สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย) ให้คาแนะนาปรึกษาเพ่ือคลาย ทกุ ข์ แกป้ ญั หา และหาทางออกให้กับชวี ิต หมายเลขโทรศัพท์ 02-713-6793 8. เสถียรธรรมสถาน ให้คาแนะนาเร่ืองคลายทุกข์ ให้คาปรกึ ษาธรรมะ มายเลขโทรศัพท์ 02-509- 0085, 02-509-2237 และ 02-510-6697 9. ศนู ย์ประชาบดี ประสานหน่วยงานตา่ งๆ ในการชว่ ยเหลือผทู้ ไ่ี ด้รับความเดือดร้อน รวมถงึ ผูส้ งู อายุ ทถ่ี กู กระทารุนแรง ถูกทอดทง้ิ โทรศัพท์สายด่วน 1330 10. ศนู ยพ์ ฒั นาการจดั สวัสดิการสังคมผ้สู ูงอายุ สังกัดกรมพฒั นาสังคมและสวสั ดกิ าร มีหน่วยงานท่ัว ประเทศ 12 แห่ง ให้บริการในลักษณะของสถานสงเคราะหส์ าหรับผู้สูงอายขุ าดท่ีพงึ่ ถูกทอดท้ิง ไม่มผี ดู้ ูแล หรอื ไม่ สามารถใชช้ วี ิตอยู่ร่วมกบั ครอบครัว ผู้สงู อายทุ ม่ี คี วามประสงค์เข้ารบั บริการในศนู ย์พฒั นาการจัดสวัสดิการสงั คม ผสู้ ูงอายุ ต้องมคี ณุ สมบตั ิดงั น้ี - มสี ัญชาตไิ ทย อายุต้ังแต่ 60 ปีขน้ึ ไป - ไมเ่ ป็นผตู้ ้องหาว่ากระทาผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสอนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล - ไมเ่ ปน็ โรคเรือ้ รัง หรือโรคตดิ ตอ่ รา้ ยแรง
- ไม่พกิ ารทพุ พลภาพ หรือจติ ฟนั่ เฟือนไม่สมประกอบ - สามารถชว่ ยเหลือตนเองได้ในกิจวตั รประจาวนั ผ้สู ูงอายุท่อี ยู่ในกรุงเทพมหานคร ยื่นใบสมัครได้ท่ีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หรือสานักงาน พัฒนาสังคมและสวัสดิการกรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัด ย่ืนใบสมัครได้ท่ีสานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) หรือศูนย์พัฒนาสังคมจังหวัด ในจังหวัดท่ีตนมีภูมิลาเนา หรือศูนย์พัฒนาการจัด สวสั ดกิ ารสงั คมผสู้ งู อายแุ ต่ละแห่ง สอบถามข้อมลู เพม่ิ เตมิ ไดท้ ี่ ศนู ย์ประชาบดี โทรศัพทส์ ายดว่ น 1330
มาตรการขบั เคลอื่ นสังคมสูงวยั คนไทยอายุยืน 4 มิติ มาตรการ ตวั อย่างวธิ ีการดาเนนิ งาน มิตเิ ศรษฐกิจ ประกอบไปด้วย 8 ประเดน็ เรง่ ด่วน ไดแ้ ก่ 1. การบรู ณาการระบบบานาญ และระบบการออมเพ่ือ เสนอรา่ งพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบาย ยามสงู อายุ และการปฏิรปู ระบบการเงินการคลงั ที่ บาเหนจ็ บานาญแห่งชาติ พ.ศ. .... เพอื่ สร้างระบบ เหมาะสมเพ่อื รองรับสังคมสงู วยั บานาญและการออมท่มี ัน่ คง เพยี งพอ และยั่งยนื (คณะรัฐมนตรมี ีมติอนุมัตใิ นหลกั การแล้ว เม่ือวนั ท่ี 8 พฤศจิกายน 2559) 2. การสง่ เสรมิ และสนับสนนุ ประชากรวยั ทางาน กลมุ่ ที่ ปรับปรงุ พระราชบัญญัติกองทนุ การออม ไม่ใชล่ ูกจา้ งในการเตรยี มความพรอ้ มเพื่อการเขา้ สู่การ แห่งชาติ พ.ศ. 2554 โดยสง่ เสรมิ การสมัครสมาชกิ ซ่ึง ใชช้ ีวติ ยามสงู อายุ มีรปู แบบสอดคล้องกบั อาชีพและรายได้ที่แตกต่างกนั 3. การส่งเสรมิ และสนบั สนุนประชากรวยั ทางานกลุม่ จดั ต้งั กองทุนสารองเล้ียงชพี ภาคบังคับในรูปแบบของ ลกู จ้างในการเตรยี มความพร้อมเพื่อการเข้าสู่การใช้ชวี ติ กองทนุ บาเหนจ็ บานาญแห่งชาติ ยามสูงอายุ 4. การขยายอายุการทางาน - ขยายอายุเกษยี ณราชการเป็น 65 ปี เฉพาะบางสาย งาน (ไม่ครอบคลุมตาแหน่งบริหาร) - กาหนดให้มมี าตรการสง่ เสริมใหภ้ าคเอกชนขยายอายุ การทางานของลูกจา้ ง 5. การสนับสนนุ และสรา้ งระบบการออมทงั้ แบบถ้วน สร้างระบบการออมอย่างถว้ นหนา้ และส่งเสริมการออม
หนา้ และสมัครใจผา่ นกลไกต่าง ๆ เพ่อื รองรับความ ภาคสมคั รใจในรูปแบบตา่ ง ๆ ต้องการในยามสงู อายุ 6. การสนับสนุนการเพิ่มพูนทักษะและอาชีพทางเลือก สนบั สนุนคา่ ใช้จ่ายในการเข้ารบั การฝึกอบรมเพ่ิมพูน ท่ี 2 ในวยั ทางานและหลังเกษยี ณ เพ่ือใชป้ ระโยชน์ใน ทักษะจากสถาบันและภาคธุรกจิ เอกชน ยามสูงอายุ 7. การกระจายแหล่งการจา้ งงานให้อยู่ใกล้ชมุ ชนชนบท สร้างแรงจงู ใจให้อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และ บรกิ ารไปต้ังในต่างจังหวัด 8. การจูงใจให้คนต่างชาติทมี่ ีคุณภาพและต้องการ จูงใจและอานวยความสะดวกใหผ้ ทู้ ่ีมคี ณุ ภาพสนใจและ ทางานในประเทศไทยอย่างถาวรได้มีโอกาสทางานและ เข้ามาทางานในประเทศไทย พานกั ในประเทศไทย หนว่ ยงานรบั ผิดชอบ ได้แก่ กระทรวงการคลงั (กค.) กระทรวงแรงงาน (รง.) พม. กระทรวงอตุ สาหกรรม (อก.) สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สานักงาน ก.พ.) สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการลงทุนและ สานกั งานตรวจคนเขา้ เมือง มิตสิ ภาพแวดล้อม ประกอบด้วย 4 ประเดน็ เร่งด่วน ไดแ้ ก่ 1. การปรบั ปรุงกฎกระทรวงให้มผี ลใชบ้ งั คบั ให้ แก้ไขกฎกระทรวงที่เก่ยี วข้อง รวม 3 ฉบับ เชน่ สอดคลอ้ ง ครอบคลุม และมีประสิทธภิ าพในการบังคับ กฎกระทรวงกาหนดสิง่ อานวยความสะดวกในอาคาร ใชม้ ากขึน้ สาหรบั ผ้พู กิ ารหรือทุพพลภาพ และคนชรา พ.ศ. 2548 และกฎกระทรวงกาหนดลกั ษณะ หรือการจดั ให้ มีอุปกรณ์ส่ิงอานวยความสะดวก หรอื บริการในอาคาร สถานท่ี หรอื บรกิ ารสาธารณะอืน่ เพ่ือใหค้ นพิการ สามารถเขา้ ถึงและใชป้ ระโยชนไ์ ด้ พ.ศ. 2555 2. งบประมาณในการสร้างอาคาร โครงสรา้ งพ้ืนฐาน ขอมติคณะรัฐมนตรใี ห้หน่วยงานที่เกย่ี วข้องดาเนนิ การ (เชน่ ถนน ระบบขนส่งมวลชน เปน็ ตน้ ) ต้องสอดคล้อง อย่างเคร่งครดั กบั กฎกระทรวงทแ่ี กไ้ ขแล้ว 3. ให้มีการรายงานผลและตรวจติดตามอาคารสว่ น ขอมติคณะรฐั มนตรใี ห้หนว่ ยงานท่ีเกี่ยวข้องดาเนินการ ราชการทั้งหมดวา่ ไดด้ าเนนิ การแก้ไขตัง้ แต่เดอื น รว่ มกบั องค์กรผสู้ ูงอายุ คนพิการในพื้นท่ีตรวจตดิ ตาม พฤษภาคม 2552 แลว้ แต่ขาดความครอบคลมุ และไม่ และมอบประกาศรับรองอาคารท่ีผา่ นเกณฑ์ ตอ่ เน่ือง 4. ใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ (อปท.) มีภารกจิ ใน ให้มีประกาศกระทรวงมหาดไทย (มท.) และ การปรบั สภาพแวดล้อมบ้านผู้สูงอายใุ นชุมชนได้ รายละเอยี ดกฎเกณฑเ์ รอื่ งการปรบั สภาพแวดลอ้ ม บ้าน ผู้สงู อายุในชมุ ชน หน่วยงานรบั ผดิ ชอบ ได้แก่ กค. กระทรวงคมนาคม (คค.) พม. มท. และหนว่ ยงานทเี่ กี่ยวขอ้ ง
มติ ิสขุ ภาพ ประกอบด้วย 3 ประเดน็ เร่งด่วน ได้แก่ 1. บูรณาการศนู ยพ์ ัฒนาคุณภาพชีวติ ระดับตาบล เพ่ือ บูรณาการกิจกรรมศูนย์ฟน้ื ฟูสมรรถภาพหลงั การ ทาหนา้ ทีเ่ ปน็ หน่วยปฏบิ ตั ิการ (Operation Unit) ใน เจบ็ ปุวยเฉยี บพลันและศูนย์พัฒนาคณุ ภาพชีวิตและ การบรู ณาการกจิ กรรมและทรัพยากร ส่งเสรมิ อาชพี ผสู้ ูงอายุเขา้ ด้วยกัน 2. การยกระดับผู้บริบาลมือ - กาหนดคุณสมบตั ิมาตรฐาน อาชพี Formal (Paid) Care Giver - มกี ารสอบและออกใบอนุญาต/รบั รองจากสว่ นกลาง 3. การจัดให้มศี ูนย์ฟนื้ ฟูสุขภาพทุกอาเภอควบคู่กบั การสง่ เสรมิ ใหโ้ รงพยาบาล(ประจาอาเภอ) มีศูนย์ฟื้นฟูฯ บรกิ ารฟืน้ ฟูสมรรถภาพทางการแพทยผ์ ู้ปุวยระยะกลาง ครบทุกอาเภอภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2567) (Intermediate Care) หน่วยงานรับผิดชอบ ไดแ้ ก่ พม. มท. กระทรวงวฒั นธรรม (วธ.) กระทรวงศึกษาธกิ าร (ศธ.) และกระทรวง สาธารณสุข (สธ.) มิตสิ ังคม ประกอบด้วย 4 ประเด็นเร่งดว่ น ได้แก่ 1. เพมิ่ บทบาท อปท. ใหเ้ ป็นผู้รบั ผดิ ชอบหลกั ในการ คณะรฐั มนตรีควรมีมติใหส้ านกั งานคณะกรรมการการ บรู ณาการและขับเคลื่อนงานพฒั นาคุณภาพชวี ิต กระจายอานาจใหแ้ ก่ อปท. กาหนดกรอบภารกิจของ ประชาชนในทุกมิติ และพัฒนาระบบรองรบั สังคมสูงวัย อปท. ใหช้ ดั เจน โดยคานงึ ถงึ ระบบรองรับสังคมสูงวัย คนไทยอายุยนื ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพและสอดคล้องกบั คนไทยอายุยนื ของ อปท. บรบิ ทของแต่ละท้องถน่ิ 2. การสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มของภาคสว่ นตา่ ง ๆ - ใชม้ ตคิ ณะรัฐมนตรเี พอ่ื ขอความรว่ มมือจากมหาเถร “บวรวชร” (บา้ น วัด โรงเรียน วสิ าหกิจ ชมรม สมาคมใหจ้ ัดสรรงบประมาณจากเงนิ บริจาคทีว่ ัดได้ โรงพยาบาล) ในการรองรับสังคมสงู วัยในชุมชน รบั มาใช้ในกจิ กรรมรองรบั สงั คมสงู วยั ในชมุ ชน - สง่ เสริมการมสี ว่ นร่วมของภาคเอกชน/วสิ าหกิจดว้ ย การขยายผลโครงการวสิ าหกิจเพอ่ื สังคม เช่น ระบบการ ดูแลผสู้ งู อายใุ นเขตเมือง 3. การกาหนดใหม้ ี “ผพู้ ิทกั ษ์สทิ ธิผสู้ งู อายุ” บญั ญัติกฎหมายกาหนดให้มีผู้พิทกั ษ์สทิ ธิผ้สู ูงอายุใน กรณีทม่ี ภี าวะพ่ึงพิงหรือสมองเส่อื มท่ีไมส่ ามารถ ช่วยเหลอื ตนเองในกจิ วตั รประจาวนั ไดต้ ามปกติ เพอื่ ทา หนา้ ทจ่ี ดั การทรัพย์สินและดแู ลชีวิตความเปน็ อยู่ของ ผสู้ งู อายุ 4. การส่งเสรมิ ผูท้ ่มี ีความพร้อมใหม้ ีบุตรและชะลอการ - กาหนดให้หนว่ ยงานราชการ/เอกชน มีสถานเลี้ยงดู ต้งั ครรภข์ องผู้ที่ไม่พร้อม เด็ก - เพมิ่ ค่าลดหย่อนบตุ ร หน่วยงานรับผดิ ชอบ ได้แก่ กค. พม. รง. มท. วธ. สธ. สานกั งานคณะกรรมการการกระจายอานาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถนิ่
ส่วนท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน ผู้ดาเนินการจัดทาโครงการจัดและส่งเสริมการจัดการศกึ ษาตลอดชีวติ เพ่ือคงพฒั นาการทางกาย จติ และสมองของผูส้ ูงอายุ (มิตสิ ุขภาพ มิตสิ ังคม) เก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลดงั น้ี 1. เครื่องมอื ท่ใี ชใ้ นการจัดกิจกรรม ข้อมลู ปฐมภมู ิ ได้จากการกรอกแบบสอบถามของผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม ข้อมูลทุตยิ ภมู ิ ศึกษาจากเอกสาร ข้อมูลตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วข้อง 2. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 2.1 ประชากรและกล่มุ ตวั อยา่ ง 2.1.1 ผสู้ งู อายุ หมู่ 4 ตาบลท่าสะแก 2.2 วิธีดาเนินการในการตดิ ตามและประเมนิ ผลการดาเนนิ งานได้ดาเนินการดังน้ี 2.2.1 เครอ่ื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ เปน็ แบบสอบถาม แบ่งออกเปน็ 3 ตอน คือ ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลสถานภาพทั่วไปเกย่ี วกบั ผตู้ อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ข้อมูลเกย่ี วกบั ความพงึ พอใจในการเข้ารว่ มโครงการฯ ตอนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ 2.2.2 วเิ คราะห์ข้อมลู ในการวเิ คราะห์ ดาเนนิ การดังนี้ ตอนที่ 1 ขอ้ มูลสถานภาพทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถามวิเคราะหผ์ ลดว้ ยการหาค่าร้อยละ คา่ ร้อยละ (%) P = 100 เมื่อ p แทน รอ้ ยละ F แทน จานวนผ้ตู อบแบบสอบถาม n แทน จานวนทงั้ หมด ตอนท่ี 2 ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การดาเนนิ งานตามโครงการ ใชค้ า่ เฉลย่ี x = เมอื่ x แทน ค่าเฉลย่ี แทน จานวนผ้ตู อบแบบสอบถาม x แทน จานวนทัง้ หมด n
ตอนท่ี 3 สรปุ ขอ้ เสนอแนะ โดยใชค้ วามถ่ี ( f ) 2.2.3 การแปลผลข้อมูล ในการแปลความหมายของข้อมลู แปลผลจากค่าเฉล่ียเลขคณิต x โดยใช้หลักเกณฑ์ดังนี้ คา่ เฉล่ียเลขาคณิต x ความหมาย 1.00 – 1.50 1.51 – 2.50 น้อยทสี่ ดุ 2.51 – 3.50 นอ้ ย 3.51 – 4.50 4.51 – 5.00 ปานกลาง มาก มากทสี่ ุด 3. ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน จากการจดั กิจกรรมโครงการจัดและสง่ เสรมิ การจัดการศึกษาตลอดชวี ิต เพอื่ คงพฒั นาการทาง กายจติ และสมองของผ้สู ูงอายุ (มิติสุขภาพ มติ สิ ังคม) ได้มีการสารวจความพึงพอใจของผูเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรมทมี่ ตี ่อ รปู แบบการจดั กจิ กรรม จานวน 45 คน โดยวธิ กี ารตอบแบบสอบถาม จึงได้มีการนาเสนอข้อมลู ในรูปตาราง ประกอบคาบรรยาย โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ตอนที่ 1 ขอ้ มูลส่วนบคุ คล ตอนท่ี 2 ประเมนิ ความพึงพอใจในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (กิจกรรมการเรียนการสอน) ตอนที่ 3 สรปุ ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะ สรุปเป็นประเด็นท่ีสาคัญ 3.1 ตอนที่ 1 การวเิ คราะหข์ ้อมูลทว่ั ไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม ตารางที่ 1 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามเพศ เพศ จานวน ( n = 45 ) รอ้ ยละ ชาย 13 28.89 หญงิ 32 71.11 รวม 45 100 จากตารางท่ี 1 ผลการศึกษาพบว่า ผู้เขา้ ร่วมอบรมสว่ นใหญ่เป็นเพศหญิง คดิ เปน็ ร้อยละ 71.11 และเพศชาย คดิ เป็นร้อยละ 28.89 ตารางที่ 2 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามอายุ อายุ จานวน ( n = 45) รอ้ ยละ 15 – 39 ปี - - 40 – 59 ปี 5 60 ปขี ึ้นไป 40 11.11 45 88.89 รวม 100 จากตารางที่ 2 ผลการศึกษาพบวา่ ผ้เู ขา้ ร่วมอบรมสว่ นใหญ่ คืออายุระหวา่ ง ๖๐ ปีขน้ึ ไป คดิ เป็นร้อยละ 88.89 รองลงมา คือ อายุระหว่าง ๔๐ – ๕๙ ปี คิดเป็นรอ้ ยละ 11.11
ตารางท่ี 3 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามระดบั การศึกษาสูงสดุ ระดบั การศึกษาสูงสดุ จานวน ( n = 45) ร้อยละ ตา่ กว่าประถมศึกษา 41 91.11 - ประถมศึกษา 3 - มัธยมศกึ ษาตอนตน้ 1 6.67 มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 45 2.22 100 รวม จากตารางท่ี 3 ผลการศึกษาพบวา่ ผ้เู ข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่มีระดบั การศึกษาสูงสดุ คือ ต่ากวา่ ประถมศกึ ษา คิดเป็นรอ้ ยละ 91.11 รองลงมา คือ ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.67 และระดับมธั ยมศกึ ษา ตอนปลาย คดิ เป็นร้อยละ 2.22 ตารางที่ 4 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามอาชพี อาชพี จานวน ( n = 45) รอ้ ยละ เกษตรกร 34 75.56 รบั จ้าง - คา้ ขาย - - นกั เรยี น/นักศึกษา - - อื่นๆ.....ไม่มีอาชีพ....... 11 - 45 24.44 รวม ๑00 จากตารางท่ี 4 ผลการศึกษาพบวา่ ผ้เู ข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร คดิ เปน็ ร้อยละ 75.56 รองลงมา คือ อนื่ ๆ ..ไม่มีอาชพี ... คิดเป็นรอ้ ยละ 24.44
3.2 ตอนที่ 2 การวิเคราะหข์ ้อมลู เกี่ยวกบั ความพึงพอใจในการจดั กิจกรรม ตารางท่ี 6 แสดงจานวน ร้อยละ และค่าเฉลย่ี ของความพึงพอใจของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการทมี่ ตี อ่ การจดั กิจกรรม ระดบั ความพึงพอใจ/ความรู้ความเขา้ ใจ/การนาความรไู้ ปใช้ ประเด็นความคดิ เห็น มากทสี่ ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ย คา่ เฉลี่ย อยใู่ น 5 4 3 2 ทสี่ ดุ ระดับ 1 ตอนท่ี 1 ความพงึ พอใจด้านเน้ือหา = 4.40 1.1 เนื้อหาตรงตามความต้องการ 22 21 2 - - 4.31 มาก (48.89%) (46.67%) (4.44%) 1.2 เนอื้ หาเพยี งพอตอ่ ความตอ้ งการ 25 19 1 - - 4.47 มาก (55.56%) (42.22%) (2.22%) 1.3 เนื้อหาปจั จบุ นั ทันสมัย 21 23 1 - - 4.38 มาก (46.67%) (51.11%) (2.22%) 1.4 เน้ือหามปี ระโยชน์ต่อการนาไปใช้ 27 16 2 - - 4.42 มาก ในการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ (60.00%) (35.56%) (4.44%) ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม = 4.41 2.1 การเตรียมความพรอ้ มกอ่ นอบรม 20 23 2 - - 4.27 มาก (44.44%) (51.11%) (4.44%) 2.2 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสม 26 18 1 - - 4.49 มาก (57.78%) (40.00%) (2.22%) กับวตั ถุประสงค์ 2.3 การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา 29 15 1 - - 4.56 มาก (64.44%) (33.34%) (2.22%) ที่สุด 2.4 การจดั กิจกรรมเหมาะสมกบั 28 16 1 - - 4.53 มาก (62.22%) (35.56%) (2.22%) กลุม่ เปาู หมาย ทส่ี ดุ 2.5 วธิ ีการวดั ผล/ประเมนิ ผลเหมาะสม 21 21 3 - - 4.20 มาก กับวัตถปุ ระสงค์ (46.67%) (46.67%) (6.66%) ตอนที่ 3 ความพงึ พอใจตอ่ วิทยากร = 4.48 3.1 วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถใน 28 16 1 4.53 มาก เร่ืองท่ีถ่ายทอด (62.22%) (35.56%) (2.22%) ทสี่ ดุ 3.2 วทิ ยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใช้ 20 23 2 - - 4.27 มาก สือ่ เหมาะสม (44.44%) (51.11%) (4.44%) 3.3 วิทยากรเปิดโอกาสใหม้ ีสว่ นร่วม 29 16 - - - 4.64 มาก (64.44%) (35.56%) และซักถาม ทีส่ ดุ 4. ความถึงพอใจดา้ นการอานวยความสะดวก = 4.42 4.1 สถานที่ วสั ดุ อปุ กรณ์และสิง่ 30 15 - - - 4.67 มาก อานวยความสะดวก (66.67%) (33.33%) ท่สี ุด 4.2 การสอื่ สาร การสรา้ งบรรยากาศ 20 23 2 - - 4.27 มาก เพอ่ื ให้เกิดการเรยี นรู้ (44.44%) (51.11%) (4.44%) 4.3 การบริการ การชว่ ยเหลอื และการ 22 21 2 - - 4.31 มาก แกป้ ญั หา (48.89%) (46.67%) (4.44%)
ระดบั ความพึงพอใจ/ความรู้ความเข้าใจ/การนาความรู้ไปใช้ ประเดน็ ความคดิ เห็น มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยที่สุด คา่ เฉล่ยี อย่ใู น 5 4 3 2 1 ระดับ 5. ความพึงพอใจดา้ นการนาความรไู้ ปใช้ = 4.45 5.1 สามารถนาความรทู้ ่ีรับไป 25 18 2 - - 4.38 มาก ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านได้ (55.56%) (40.00%) (4.44%) 5.2 สามารถนาความรู้ไปเผยแพร่/ 27 17 1 - - 4.51 มาก ถา่ ยทอดแกช่ ุมชนได้ ทีส่ ดุ (60.00%) (37.78%) (2.22%) 5.3 มคี วามมั่นใจและสามารถนา 25 19 1 - - 4.47 มาก ความรู้ท่ไี ด้รบั ไปใช้ได้ (55.56%) (42.22%) (2.22%) รวมท้งั สิ้น 445 340 25 - - 4.43 มาก (54.94%) (41.98%) (3.09%) ค่าเฉล่ียถ่วงนา้ หนัก 4.43 ระดับความคิดเห็น มาก จากตารางท่ี 6 จากการศกึ ษาพบวา่ ผเู้ ข้าร่วมอบรมสว่ นใหญ่มีความพึงพอใจตอ่ การจัดกจิ กรรมโครงการจดั และ สง่ เสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิต เพอ่ื คงพฒั นาการทางกายจติ และสมองของผู้สูงอายุ (มติ ิสุขภาพ มิติสงั คม) โดยรวมอยูใ่ นระดบั ( x = 4.43 ) มาก ๑. ความพงึ พอใจดา้ นเนอ้ื หา ๑.๑ เนอื้ หาตรงตามความต้องการ ( x = ๔.31) มาก ๑.๒ เนอื้ หาเพียงพอต่อความตอ้ งการ ( x = ๔.47 ) มาก ๑.๓ เนื้อหาปจั จุบนั ทันสมัย ( x = ๔.38 ) มาก 1.4 เน้ือหามปี ระโยชนต์ อ่ การนาไปใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ( x = ๔.42 ) มาก ๒. ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม ๒.๑ การเตรยี มความพร้อมก่อนอบรม ( x = ๔.27 ) มาก ๒.๒ การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ( x = ๔.49 ) มาก ๒.๓ การจดั กิจกรรมเหมาะสมกบั เวลา ( x = ๔.56 ) มากทสี่ ดุ ๒.๔ การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกบั กลุ่มเปูาหมาย ( x = ๔.53 ) มากทีส่ ดุ ๒.๕ วธิ ีการวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ ( x = ๔.20 ) มาก ๓. ความพงึ พอใจตอ่ วิทยากร ๓.๑ วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องท่ีถา่ ยทอด ( x = ๔.53 ) มากที่สุด ๓.๒ วทิ ยากรมีเทคนคิ การถ่ายทอดใช้สอ่ื เหมาะสม ( x = ๔.27 ) มาก ๓.๓ วิทยากรเปดิ โอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม ( x = ๔.64) มากท่สี ุด 4. ความถึงพอใจดา้ นการอานวยความสะดวก 4.1 สถานที่ วสั ดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก ( x = ๔.67 ) มากท่ีสุด 4.2 การสือ่ สาร การสร้างบรรยากาศเพื่อใหเ้ กิดการเรยี นรู้ ( x = ๔.27 ) มาก 4.3 การบริการ การช่วยเหลือและการแกป้ ญั หา ( x = ๔.31 ) มาก
5. ความพึงพอใจดา้ นการนาความร้ไู ปใช้ 5.1 สามารถนาความรู้ท่รี บั ไปประยุกต์ใชใ้ นการปฏิบตั ิงานได้ ( x = ๔.38 ) มาก 5.2 สามารถนาความรไู้ ปเผยแพร่/ถ่ายทอดแกช่ มุ ชนได้ ( x = ๔.51 ) มากทีส่ ุด 5.3 มคี วามมัน่ ใจและสามารถนาความรู้ท่ีไดร้ บั ไปใชไ้ ด้ ( x = ๔.47 ) มาก ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ - หมายเหตุ คดิ คะแนนเฉพาะท่คี วามพึงพอใจอยใู่ นระดบั มากขน้ึ ไป
ส่วนที่ 5 สรปุ ผลโครงการ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การจัดกจิ กรรมโครงการจัดและส่งเสรมิ การจดั การศึกษาตลอดชวี ติ เพอื่ คงพัฒนาการทางกายจติ และ สมองของผสู้ งู อายุ (มิติสุขภาพ มิติสงั คม) มีจดุ ประสงคใ์ นการจัดกิจกรรมดงั น้ี ๑. เพอ่ื ให้ผ้สู งู อายุมีสขุ ภาพจิตใจทเี่ ขม้ แข็งมีความสุข มีความเชื่อมั่น เหน็ คุณคา่ ในตนเอง ชะลอความ เสื่อมของร่างกาย มีสมรรถภาพรา่ งกายแขง็ แรง ๒. เพื่อให้ผ้สู ูงอายุมีความรู้ ความเขา้ ใจกฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกบั ผสู้ ูงอายุ บทบาท หน้าที่และสทิ ธผิ ้สู ูงอายุ 3. ส่งเสริมใหผ้ ู้สูงอายมุ ีความรเู้ กีย่ วกบั กญั ชา กัญชง เพื่อนามาใช้เป็นยา การดาเนินการจัดกจิ กรรม 1. ผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรม ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมโครงการ จานวน 45 คน - เพศชาย จานวน 13 คน - เพศหญงิ จานวน 32 คน 2. เคร่อื งมอื ท่ีใช้ในการอบรม ข้อมูลปฐมภมู ิ ไดจ้ ากการกรอกแบบสอบถามของผ้เู ขา้ รว่ มกจิ กรรม ขอ้ มลู ทุติยภูมิ ศึกษาจากเอกสาร ข้อมูลต่าง ๆ ท่ีเกีย่ วข้อง 3. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล วเิ คราะห์แบบสอบถามในแต่ละส่วน ดังน้ี ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลสว่ นบคุ คล ตอนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตอนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะ สรุปเป็นประเด็นทีส่ าคญั ๔. วธิ กี ารวเิ คราะหข์ ้อมลู ในการวิเคราะห์ข้อมลู ผูจ้ ดั ได้ดาเนินการ 2 ลกั ษณะ คือ 4.1 การสงั เคราะหเ์ ชิงคุณลักษณะ ผูจ้ ดั กจิ กรรมทาการสังเคราะห์โดยใชว้ ธิ ีการวิเคราะหส์ งั เคราะห์ 3 ดา้ น คอื ข้อมลู ทั่วไป ข้อมูล ความพงึ พอใจในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน และขอ้ เสนอแนะ 4.2 การสงั เคราะหก์ ารอบรมเชิงปรมิ าณ ในการสงั เคราะห์การจดั กิจกรรมเชิงปรมิ าณ ผจู้ ัดกจิ กรรมแยกออกเปน็ คุณลกั ษณะต่าง ๆ ใน การสงั เคราะหข์ ้อมูลดังนี้ ๑. ข้อมลู เก่ียวกบั เพศ / อายุ ๒. ขอ้ มลู ระดบั ความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ๓. ขอ้ เสนอแนะ โดยเปรียบเทยี บจานวนคนคดิ เปน็ รอ้ ยละในแต่ละสว่ นของข้อมูลการอบรม พรอ้ มการบรรยายประกอบ
สรุปผลการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ผลการจดั กิจกรรมโครงการจัดและส่งเสริมการจัดการศกึ ษาตลอดชีวิต เพอื่ คงพฒั นาการทางกายจติ และ สมองของผ้สู งู อายุ (มิติสุขภาพ มิติสงั คม) โดยใชว้ ิธกี ารวิเคราะห์ สงั เคราะห์จากแบบประเมินความพึงพอใจในการ จดั กิจกรรมการเรยี นการสอน และรูปแบบการจัดกิจกรรม สามารถสรุปไดด้ ังน้ี การสังเคราะหข์ ้อมูลท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรมส่วนใหญเ่ ป็นเพศหญงิ ทาใหร้ อ้ ยละของเพศหญงิ สูงกวา่ ร้อยละของเพศชาย ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมสว่ นใหญเ่ ป็นมอี ายุ ๖๐ ปขี น้ึ ไป เนื่องมาจากเปน็ ผสู้ ูงอายุ จงึ มีผลทาให้การหาคา่ ร้อย ละในชว่ งนส้ี ูงกว่าชว่ งอ่นื ๆ การวิเคราะห์ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความพงึ พอใจในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ จากการศึกษาพบว่า ผเู้ ข้าร่วมอบรมสว่ นใหญ่มีความพงึ พอใจต่อการจดั โครงการจดั และส่งเสริมการจัด การศึกษาตลอดชีวิต เพ่ือคงพัฒนาการทางกายจติ และสมองของผ้สู ูงอายุ (มิติสขุ ภาพ มิติสังคม) โดยรวมอยู่ใน ระดบั ( x = 4.43 ) มากทส่ี ดุ ๑. ความพงึ พอใจด้านเน้ือหา ๑.๑ เนื้อหาตรงตามความต้องการ ( x = ๔.31) มาก ๑.๒ เน้อื หาเพียงพอต่อความตอ้ งการ ( x = ๔.47 ) มาก ๑.๓ เนือ้ หาปจั จบุ ันทันสมัย ( x = ๔.38 ) มาก 1.4 เน้อื หามีประโยชน์ตอ่ การนาไปใชใ้ นการพฒั นาคุณภาพชีวิต ( x = ๔.42 ) มาก ๒. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม ๒.๑ การเตรียมความพร้อมก่อนอบรม ( x = ๔.27 ) มาก ๒.๒ การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์ ( x = ๔.49 ) มาก ๒.๓ การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับเวลา ( x = ๔.56 ) มากที่สุด ๒.๔ การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเปูาหมาย ( x = ๔.53 ) มากทีส่ ดุ ๒.๕ วธิ กี ารวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ( x = ๔.20 ) มาก ๓. ความพงึ พอใจตอ่ วิทยากร ๓.๑ วทิ ยากรมคี วามรู้ความสามารถในเร่ืองท่ีถา่ ยทอด ( x = ๔.53 ) มากท่สี ดุ ๓.๒ วิทยากรมเี ทคนคิ การถ่ายทอดใชส้ อื่ เหมาะสม ( x = ๔.27 ) มาก ๓.๓ วทิ ยากรเปิดโอกาสใหม้ ีส่วนรว่ มและซักถาม ( x = ๔.64) มากทส่ี ุด 4. ความถงึ พอใจด้านการอานวยความสะดวก 4.1 สถานที่ วัสดุ อุปกรณแ์ ละสิง่ อานวยความสะดวก ( x = ๔.67 ) มากทส่ี ุด 4.2 การส่อื สาร การสรา้ งบรรยากาศเพ่ือใหเ้ กิดการเรยี นรู้ ( x = ๔.27 ) มาก 4.3 การบริการ การช่วยเหลือและการแกป้ ัญหา ( x = ๔.31 ) มาก 5. ความพงึ พอใจด้านการนาความรู้ไปใช้ 5.1 สามารถนาความรู้ท่ีรบั ไปประยกุ ต์ใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงานได้ ( x = ๔.38 ) มาก 5.2 สามารถนาความรู้ไปเผยแพร่/ถา่ ยทอดแก่ชุมชนได้ ( x = ๔.51 ) มากที่สดุ 5.3 มีความมัน่ ใจและสามารถนาความรูท้ ่ีได้รบั ไปใช้ได้ ( x = ๔.47 ) มาก
อภิปรายผล จากการดาเนินการพบประเด็นสาคัญท่ีสามารถนามาอภิปรายผลได้ดงั น้ี 1. ด้านกลุ่มเปาู หมาย 1.1 กลุ่มเปาู หมายทเ่ี ข้ารว่ มโครงการ มีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสขุ ภาพ และการ ดารงชีวติ ในวยั ของผสู้ งู อายุ ๑.๒ กลมุ่ เปูาหมายมกี ารพัฒนาคณุ ภาพชีวิต และ อยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ 2. ดา้ นงบประมาณ 2.1 จากการดาเนินงานพบว่างบประมาณทใ่ี ชใ้ นจัดกจิ กรรมโครงการจดั และส่งเสรมิ การจัดการศกึ ษาตลอดชวี ติ เพ่ือคงพัฒนาการทางกายจิตและสมองของผ้สู งู อายุ (มิติสขุ ภาพ มติ ิสังคม) เพียงพอ ต่อการจดั กิจกรรมโครงการในคร้ังน้ี 3. ด้านกจิ กรรมการเรียนการสอน 3.1 จากการดาเนนิ งานพบวา่ กิจกรรมยดื หยุน่ ตามสภาพกลุ่มเปูาหมาย 4. ดา้ นสถานท่ี 4.1 การดาเนนิ การเป็นไปดว้ ยความสะดวกเรยี บร้อย เนอื่ งจากได้ใช้พ้ืนทข่ี อง วัดโพนไทรงาม หมทู่ ่ี 3 บา้ นน้อย ตาบลทา่ สะแก อาเภอชาติตระการ จงั หวัดพิษณโุ ลก ซ่ึงเหมาะสมกบั การจัด กจิ กรรมโครงการจดั และส่งเสรมิ การจดั การศกึ ษาตลอดชวี ติ เพ่ือคงพฒั นาการทางกายและจิตและสมองของ ผ้สู ูงอายุ 4.2 การใชส้ ถานทข่ี องผู้เรยี น/ผรู้ ับบริการเป็นจุดเรียนรูใ้ นชมุ ชนทาให้เกิดความ เช่อื มโยง สัมพนั ธ์กันระหว่าง กศน. ผู้เรียน และชมุ ชน ข้อมลู ความตระหนัก ในการจดั กจิ กรรมโครงการจัดและส่งเสรมิ การจัดการศึกษาตลอดชีวติ เพ่ือคงพฒั นาการทางกาย จติ และสมองของผู้สงู อายุ (มิติสขุ ภาพ มิติสังคม) ไดด้ าเนินการเพ่ือให้ประชาชนเกดิ การเรียนรบู้ ูรณาการความรู้ การพงึ พาตนเองอยา่ งย่ังยนื การดแู ลสขุ ภาพ และการใช้ชวี ิตอยา่ งมคี ุณภาพ ขอ้ มลู การปฏิบตั ิ (ความพยายาม) ประชาชน เกิดการเรียนรู้บูรณาการความรู้ การพงึ พาตนเองอย่างยง่ั ยืน การพ่ึงพาตนเองอย่าง ยง่ั ยืน การดแู ลสขุ ภาพ และการใชช้ วี ติ อยา่ งมีคุณภาพ จดุ เด่น 1. กลุ่มเปาู หมายมีความรับผดิ ชอบ 2. กจิ กรรมตรงตามความต้องการของกลมุ่ เปูาหมาย 3. กลุ่มเปูาหมายมีความสนใจในกิจกรรมของโครงการ 4. กลุม่ เปูาหมายสามารถนาความรทู้ ไี่ ด้ไปใช้ในการดาเนินชีวติ ประจาวนั ของตนเองได้ จุดควรพัฒนา (จดุ ด้อย) ผเู้ รยี นมีเป็นผู้สงู อายุจึงทาให้การเข้ารว่ มโครงการค่อยข้างช้าในการจดั กจิ กรรมเปน็ ไปได้ชา้ กวา่ กาหนดท่ี ได้ตง้ั ไว้ความเข้าใจในรายละเอยี ดบางส่วนอาจทาใหเ้ ข้าใจได้ช้าบา้ ง แนวทางการพฒั นา 1. ควรมกี ารจัดให้จัดกิจกรรมทีเ่ หมาะสมกับวัย 2. ควรจดั ให้กจิ กรรมหลากหลายรูปแบบ
วิธีการพัฒนา 1. สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจทด่ี ใี นการจัดโครงการจัดและส่งเสรมิ การจัดการศึกษาตลอดชีวติ เพอ่ื คง พัฒนาการทางกายจิตและสมองของผู้สูงอายุ (มติ ิสขุ ภาพ มิติสังคม) กลมุ่ เปูาหมายมีความรบั ผิดชอบในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ให้ผเู้ รียน/ผู้รับบรกิ ารเห็นความสาคัญ ๒. ปรบั วธิ ีการจัดกิจกรรมใหเ้ หมาะสมกบั ผ้เู รียน/ผู้รับบริการ ให้มีความยืดหย่นุ โดยไม่เน้นหนว่ ยการ เรยี นรตู้ ามหลกั สูตร แต่ใหย้ ึดตัวผเู้ รียนเป็นสาคัญ แลว้ จงึ นาผลการดาเนนิ งานมาปรับปรุงในครงั้ ต่อไป ขอ้ เสนอแนะในการดาเนินการคร้ังตอ่ ไป 1. ควรทาการศึกษาความต้องการของกลุ่มเปูาหมาย โดยใช้เครื่องมือที่หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ได้ ข้อมูลท่ีถกู ตอ้ ง ตรงตามความตอ้ งการของผ้เู รียนมากที่สุด 2. ควรศึกษาความตอ้ งการของกลมุ่ เปูาหมายในด้านต่าง ๆ ท่ีต้องการรับบริการจาก กศน. เพ่ือให้ทราบ และสามารถจัดกจิ กรรมตามหลักสตู รใหส้ อดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นได้ 3. ควรศกึ ษาผลกระทบจาการดาเนินการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน โดยการศึกษาจากกลุ่มเปูาหมาย และชมุ ชน 4. ควรเกบ็ ขอ้ มลู ของผ้เู ขา้ รับการอบรมหลังการอบรมด้วยทุกครัง้
ภาคผนวก - เอกสารทเ่ี กยี่ วขอ้ ง - ภาพประกอบกจิ กรรม
ภาพประกอบ โครงการจดั และสง่ เสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวติ เพอื่ คงพัฒนาการทางกายจติ และสมองของผ้สู ูงอายุ (มติ ิสุขภาพ มิติสังคม) วันที่ 28 มถิ นุ ายน 2565 ณ วดั โพนไทรงาม หมู่ 3 บา้ นน้อย ตาบลทา่ สะแก อาเภอชาติตระการ จงั หวัดพิษณโุ ลก
ภาพประกอบ โครงการจดั และสง่ เสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวติ เพอื่ คงพัฒนาการทางกายจติ และสมองของผ้สู ูงอายุ (มติ ิสุขภาพ มิติสังคม) วันที่ 28 มถิ นุ ายน 2565 ณ วดั โพนไทรงาม หมู่ 3 บา้ นน้อย ตาบลทา่ สะแก อาเภอชาติตระการ จงั หวัดพิษณโุ ลก
ภาพประกอบ โครงการจดั และสง่ เสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวติ เพอื่ คงพัฒนาการทางกายจติ และสมองของผ้สู ูงอายุ (มติ ิสุขภาพ มิติสังคม) วันที่ 28 มถิ นุ ายน 2565 ณ วดั โพนไทรงาม หมู่ 3 บา้ นน้อย ตาบลทา่ สะแก อาเภอชาติตระการ จงั หวัดพิษณโุ ลก
คณะผ้จู ัดทา ที่ปรึกษา กันตง ผู้อานวยการ กศน.อาเภอชาตติ ระการ 1. นางพรสวรรค์ ล้วนมงคล ครผู ู้ชว่ ย 2. นางสาวชมพนู ุช คณะทางาน บุญประกอบ ครูอาสาสมัครฯ 1. นางสาวประยรู พระคาสอน ครู กศน.ตาบล 2. นางสาวนิภาพร แสงสบี าง ครู กศน.ตาบล 3. นางสาวเปยี ทิพย์ ผูร้ บั ผดิ ชอบ/ผเู้ รียบเรียบ/ผู้จัดรูปเล่ม/ออกแบบปก 1. นางสาวเปยี ทิพย์ แสงสีบาง ครู กศน.ตาบล
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: