ก คานา การจัดการเรียนรู้ในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการบูรณาการเศรษฐกิจดิจิทัล เพ่ือสร้าง เครือข่ายดิจิทัลชุมชนระดับตาบล จัดขึ้นเพ่ือให้ประชาชน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรู้เท่าทันเทคโนโลยี สามารถนาความรกู้ ระบวนการดา้ นสารสนเทศเทคโนโลยี สอ่ื ไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวันไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ สรปุ ผลการจัดกิจกรรมเลม่ นี้ ได้เรียบเรียงผลการจัดกิจกรรมโครงการพัฒนาเศรษฐกจิ ดิจทิ ัลสู่ชุมชน หลักสูตรหลักสูตร Digital Literacy การใช้งานโปรแกรมสานักงานเพื่อการมีงานทา ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าจะ เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อผู้ท่ีพบเห็น หากมีข้อผิดพลาดหรือมีข้อเสนอแนะท่ีคิดว่าจะเป็นประโยชน์ โปรดแจ้ง ผจู้ ดั ทาเพอื่ ใช้ในการปรับปรุงแก้ไขขอ้ มลู ในครงั้ ต่อไปและขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสน้ี กศน.ตาบลทา่ สะแก
สารบัญ ข เรื่อง หนา้ คานา สารบัญ ก ข สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาเศรษฐกจิ ดิจทิ ลั สู่ชุมชน หลักสตู ร Digital Literacy การใชง้ านโปรแกรมสานักงานเพื่อการมงี านทา 1 1 ส่วนที่ ๑ 1 3 หลกั การและเหตุผล 4 วัตถุประสงค์ เป้าหมาย 19 24 ส่วนที่ 2 29 วิธีการดาเนินการ ส่วนที่ ๓ เนื้อหาสาระ สว่ นที่ ๔ ผลการดาเนินงาน สว่ นที่ ๕ สรุปผล/อภิปรายผล/ข้อเสนอแนะ ภาคผนวก เอกสารที่เก่ียวข้อง ภาพกจิ กรรม คณะทางาน
สรปุ ผลการดาเนนิ โครงการ โครงการพัฒนาเศรษฐกิจดิจทิ ัลสชู่ ุมชน หลกั สตู ร Digital Literacy การใช้งานโปรแกรมสานักงาน เพ่ือการมีงานทา ตาบลทา่ สะแก *************************************************************************************************** ส่วนท่ี 1 รายละเอยี ดโครงการ โครงการพัฒนาเศรษฐกิจดจิ ทิ ลั สู่ชุมชน หลกั สูตร Digital Literacy การใช้งานโปรแกรมสานกั งาน เพอื่ การมงี านทา ตาบลท่าสะแก แผนงาน งบประมาณ : ยทุ ธศาสตร์พฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมดิจิทลั งบประมาณ 4,100.- บาท ลกั ษณะโครงการ : ( / ) โครงการต่อเน่ือง ( ) โครงการใหม่ กลุ่มงานผรู้ ับผิดชอบ : งานการศึกษาต่อเนื่อง 1. โครงการพัฒนาเศรษฐกจิ ดิจทิ ลั ชุมชน หลักสูตร Digital Literacy การใชง้ านโปรแกรมสานกั งาน เพ่ือการมีงานทา ตาบลท่าสะแก 2. สอดคล้องกับนโยบาย และจดุ เนน้ การดาเนินงาน กศน. ภารกิจต่อเนอ่ื ง 1. ดา้ นการจัดการศึกษาและการเรยี นรู้ 3) พัฒนาประสิทธิภาพ คุณภาพ และมาตรฐานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ัน พ้ืนฐาน ทั้งด้านหลักสูตรรูปแบบ/กระบวนการเรียนการสอน ส่ือและนวัตกรรม ระบบการวัดและประเมินผล การ เรยี น และระบบการใหบ้ รกิ ารนกั ศึกษาในรปู แบบอนื่ 3. หลักการและเหตผุ ล ปัจจุบันโลกได้เข้าสู่ยุคระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่เทคโนโลยีดิจิทัลไม่ได้เป็นเพียงเคร่ืองมือสนับสนุน การทางานแต่เป็นการหลอมรวมกับวิถีชีวิตของคนและส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนโครงสร้างรูปแบบกิจกรรมต่าง ๆ ทั้ง ระบบเศรษฐกิจและสังคม ประเทศไทยจึงนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือสาคัญในการขับเคล่ือนการพัฒนา ประเทศ โดยการนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ส่งผลทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงอย่างมากต่อระบบ เศรษฐกจิ สังคม พฤติกรรมในการใช้ชวี ติ ของประชาชนในพื้นท่ีตาบลป่าแดง ตาบลชาติตระการ และตาบลท่าสะแก การพัฒนาทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ลั ทกั ษะในการนาเครื่องมือ อุปกรณ์ และการนาเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อเพิ่ม ช่องทางและโอกาสการเรยี นรู้ รวมถึงการเพ่ิมประสทิ ธิภาพในการประกอบอาชีพของประชาชนในพ้ืนที่ตาบลป่าแดง ตาบลชาติตระการ และตาบลท่าสะแก เพ่ือให้เกิดการพัฒนาสังคมและ คุณภาพชีวิตของประชาชนด้านนวัตกรรม การพัฒนาคน การให้บริการต่าง ๆ ของภาครัฐรวมถึงการพัฒนาด้านเศรษฐกิจการศึกษาสร้างสารสนเทศและองค์ ความรู้ต่าง ๆ ให้เกิดข้ึนสอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นของสานักงาน กศน.ปีงบประมาณ 2565 และเป็นการ ส่งเสรมิ ใหก้ ารดาเนินงานในเร่ืองการสร้างเครือขา่ ยศนู ยด์ ิจิทัลชมุ ชนและสรา้ งควาพร้อมของชุมชน หลักสูตร Digital Literacy การใชง้ านโปรแกรมสานักงานเพ่ือการมีงานทา ซึ่งประชาชนผู้เข้ารับการอบรมต้องมีความตระหนักรู้ด้าน ความม่ันคงปลอดภยั ทางไซเบอร์ กศน.ตาบลท่าสะแก จงึ จัดโครงการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลชุมชน หลักสูตร Digital Literacy การใช้งาน โปรแกรมสานักงานเพ่ือการมีงานทา ระหว่างวันท่ี 20 - 21 กรกฎาคม 2565 ให้กับประชาชนท่ัวไป นักศึกษา
ได้มีความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับหลักสูตร Digital Literacy การใช้งานโปรแกรมสานักงานเพื่อการมีงานทา ซึ่งประชาชนผู้เข้ารับการอบรมต้องมีความตระหนักรู้ด้าน ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในรูปแบบต่าง ๆ สามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ 4. วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม มีความรู้ ความเข้าใจ โครงการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลชุมชน หลักสูตร Digital Literacy การใชง้ านโปรแกรมสานักงานเพอ่ื การมีงานทา ซึ่งผ้เู ขา้ รับการอบรมตอ้ งมีความตระหนักรู้ด้านความมั่นคง ปลอดภัยทางไซเบอร์ 5. เป้าหมาย จานวน 15 คน เชงิ ปรมิ าณ จานวน 6 คน - ประชาชนทั่วไป/นักศึกษา - วิทยากร/บุคลากรทเี่ กีย่ วข้อง 21 คน รวม เชงิ คุณภาพ - ผู้เข้ารับการอบรม มีความรู้ ความเข้าใจหลักสูตร Digital Literacy การใช้งานโปรแกรม สานกั งานเพื่อการมีงานทา ซึง่ ผ้เู ขา้ รับการอบรมตอ้ งมีความตระหนกั รดู้ ้าน ความมั่นคงปลอดภยั ทางไซเบอร์ 6. สถานที่ - ณ กศน.ตาบลป่าแดง ตาบลป่าแดง อาเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ ๒๐ – ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ 7. งบประมาณที่ได้รับ - 4,100 บาท 8. ผู้รับผิดชอบโครงการ - งานการศึกษาข้ันพื้นฐาน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอชาติตระการ - บุคลากร กศน. อาเภอชาตติ ระการทุกคน
สว่ นที่ 2 วิธีการดาเนนิ การ ผูด้ าเนินการจดั ทาโครงการพัฒนาเศรษฐกจิ ดิจทิ ลั ชุมชน หลักสตู ร Digital Literacy การใช้งาน โปรแกรมสานกั งานเพ่ือการมีงานทา ได้ดาเนนิ การในการอบรมเก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะหข์ ้อมูลดังนี้ การดาเนินการจัดกจิ กรรม 1. เตรยี มการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน - ประชุมวางแผนรูปแบบการจัดกิจกรรม - เลอื กกจิ กรรมที่จะจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน - มอบหมายงานให้บุคลากรท่เี กี่ยวข้อง - ติดตอ่ ประสานงานในการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน 2. วธิ ีการดาเนินงาน - เขียนเสนอโครงการ - เสนอโครงการ - เตรียมการจัดกิจกรรมโครงการ 1. เตรยี มการก่อนการจัดกจิ กรรมโครงการ - การจดั เตรยี มเอกสารโครงการ - ติดต่อสถานท่ี - จดั ชุดวทิ ยากร - อืน่ ๆ 2. ตดิ ต่อประสานงานเครือขา่ ย - จดั การกจิ กรรมโครงการตามแผนที่วางไว้ - ลงทะเบียนผู้เขา้ ร่วมการกิจกรรมโครงการ - วิทยากรให้ความรู้ - จดั กจิ กรรมกลมุ่ ย่อย - สรุปกจิ กรรมยอ่ ย - ปดิ โครงการ - สรุปรายงานผลการจดั กจิ กรรมโครงการเปน็ รูปเล่ม - รายงานผลการจัดกิจกรรมโครงการใหผ้ ทู้ เี่ กยี่ วข้องรบั ทราบ
ส่วนท่ี 3 เนอ้ื หาสาระ ผ้ดู าเนินการจดั ทาโครงการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทลั ชุมชน หลกั สูตร Digital Literacy การใช้งาน โปรแกรมสานกั งานเพ่ือการมีงานทา ไดอ้ บรมศึกษา ดังนี้ สิทธิและความรบั ผิดชอบในการใชด้ จิ ิทลั สิทธขิ องพลเมืองดจิ ิทลั สทิ ธิของพลเมืองในยุคดจิ ิทัลน้ันไดร้ ับการพฒั นาต่อยอดจากหลักการสากลด้านสทิ ธมิ นุษยชน โดย มีองคก์ รจานวนมากทผี่ ลกั ดันสิทธดิ งั กล่าว เช่น องคก์ ารสหประชาชาติ (UN) กองทุนเพ่ือเด็กแหง่ สหประชาชาติ (UNICEF) สภายุโรป (Council of Europe) แนวทางดา้ นสิทธใิ นคมู่ ือฉบบั น้ีอา้ งอิงจากกฎบัตรว่าดว้ ยสทิ ธิมนุษยชน และหลักการพื้นฐานสาหรับอินเทอร์เนต็ (Charter of Human Rights and Principles for the Internet) และ ขอ้ เสนอวา่ ดว้ ยสทิ ธิมนุษยชนสาหรบั ผู้ใช้อนิ เทอร์เน็ตของสภายุโรป1 สิทธิในการเข้าถงึ และไม่ถูกเลือกปฏบิ ตั ิ สิทธใิ นการเข้าถึงอินเทอรเ์ น็ตควรเปน็ สทิ ธขิ ้นั พ้นื ฐานสาหรับมนุษยท์ ุกคน บางประเทศ เช่น ฟินแลนดแ์ ละเอสโตเนยี กาหนดให้การเขา้ ถงึ อนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ สิทธิมนุษยชนขัน้ พนื้ ฐาน การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ เพียงชว่ ยเปดิ โอกาสทางเศรษฐกิจ การเมอื ง และวัฒนธรรมให้กบั ผใู้ ช้ แตย่ งั เสรมิ สร้างสทิ ธมิ นษุ ยชนขัน้ พื้นฐาน หลายอยา่ ง อาทิ เสรีภาพในการแสดงออก สิทธใิ นการเขา้ ถึงการศึกษา สิทธใิ นการสมาคมและชุมนุมโดยสันติ สิทธิ ในการมีสว่ นร่วมกับรฐั บาล การเขา้ ไมถ่ ึงหรือถูกตดั การเช่ือมต่ออินเทอร์เนต็ น้ันส่งผลกระทบถึงโอกาสและสิทธิขั้นพ้ืนฐานของมนุษย์ เป็นอย่างยง่ิ ดว้ ยเหตนุ ี้ สิทธใิ นการเขา้ ถงึ อินเทอร์เน็ตโดยไมถ่ ูกตัดการเชอ่ื มต่อหรือถูกเลือกปฏิบัติจากผู้ให้บริการ อินเทอรเ์ น็ต (ไอเอสพ)ี หรือผู้ใหบ้ ริการเนื้อหาออนไลน์ ไมว่ ่าจะอยบู่ นฐานของอะไรก็ตาม เช่น เพศ ชาติพนั ธ์ุ ภาษา ศาสนา ความเชื่อทางการเมือง จึงถอื เป็นสิทธขิ ้ันพื้นฐานในยคุ ดจิ ทิ ัล ยกเว้นแต่กรณีท่ีมกี ารกาหนดไวใ้ นกฎหมาย ชัดเจน กระทบกับสทิ ธขิ องผอู้ นื่ หรอื ส่งผลต่อความม่นั คงของชาติ ความสงบเรียบร้อย และศลี ธรรมอันดขี อง ประชาชน หรอื กรณีทีม่ ีการผิดสญั ญาไมจ่ ่ายเงนิ คา่ บริการอินเทอร์เนต็ (แต่ผู้ให้บริการอนิ เทอร์เนต็ หรือไอเอสพีควร ใชม้ าตรการตดั สัญญาณเปน็ มาตรการสุดทา้ ยเท่านั้น) หรือกรณที ี่พ่อแมผ่ ูป้ กครองควบคุมการใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตของเด็ก และผู้เยาว์ให้เหมาะสม หากมีการตดั การเชื่อมต่ออินเทอรเ์ นต็ ไอเอสพีควรแจ้งผูใ้ ชใ้ หท้ ราบถงึ เหตผุ ลและข้อกฎหมายทใี่ ชเ้ ป็นฐาน ในการตดั อนิ เทอร์เนต็ รวมถึงแจง้ ให้ผู้ใช้ทราบถึงกระบวนการร้องเรียนและคาขอให้มีการเชอื่ มตอ่ อนิ เทอรเ์ น็ต สทิ ธใิ นการเขา้ ถึงอนิ เทอร์เน็ตครอบคลุมถึงประเดน็ ตา่ งๆ ดังน้ี ๑. ดิจทิ ลั เพ่อื คนทั้งมวล ดิจิทัลเพ่อื คนท้ังมวลคอื แนวคิดท่ีเรียกร้องใหค้ นทุกคนมสี ิทธเิ ขา้ ถงึ รวมถงึ ใชป้ ระโยชน์จากสอื่ ดจิ ิทลั และ ช่องทางการสอื่ สารทห่ี ลากหลายในฐานะเคร่ืองมือสาคัญในชีวติ ประจาวนั เช่น การสอื่ สาร การเขา้ ถึงความรู้ การทา ธรุ กรรม รฐั บาลควรดาเนนิ มาตรการส่งเสริมใหเ้ กิดการเขา้ ถึงอนิ เทอร์เน็ตอย่างทวั่ ถึง ราคาไม่แพง ปลอดภัย มี คุณภาพเช่ือถือได้ และรองรับกลุ่มคนท่หี ลากหลาย โดยเฉพาะกลมุ่ คนท่ีอยู่ในพืน้ ท่หี ่างไกล มรี ายไดน้ อ้ ย เปน็ คน กลุ่มน้อยของสงั คม หรอื ต้องการความช่วยเหลือเปน็ พิเศษ เชน่ ผพู้ กิ าร
นอกจากน้ัน รัฐบาลควรจดั ให้มีจุดบรกิ ารอินเทอรเ์ นต็ อย่างทว่ั ถงึ เช่น ศนู ย์กลางชุมชน ห้องสมดุ โรงเรียน คลนิ ิก รวมท้งั คานึงถงึ การเขา้ ถงึ อินเทอร์เนต็ ผา่ นโทรศพั ทม์ ือถือหรือแท็บเล็ต ซ่ึงทวคี วามสาคญั มากขึน้ ในยุคทีค่ น เขา้ ถึงอนิ เทอรเ์ นต็ ผ่านอุปกรณเ์ คลอื่ นท่ีมากขึน้ เร่ือยๆ ๒. คุณภาพบริการ คุณภาพบริการข้นั ตา่ ซ่ึงประชาชนควรเขา้ ถงึ ได้นัน้ ต้องสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ เรียกร้องการใชข้ ้อมูลมากขน้ึ เรอ่ื ยๆ อีกทัง้ การเข้าถึงจะต้องมีราคาถูกและมคี วามเท่าเทยี มมากข้ึน ตวั อย่างเชน่ การ เข้าถงึ อนิ เทอร์เนต็ ของนักเรยี นในกรงุ เทพฯ ท่ีมีคอมพิวเตอร์ส่วนตัวใชใ้ นโรงเรียน กบั นักเรยี นต่างจงั หวดั ที่ใช้เน็ตได้ เฉพาะทห่ี ้องสมุดโรงเรยี น แม้ทง้ั คจู่ ะเข้าถึงเนต็ ไดเ้ หมือนกัน แต่โอกาสจากการเรยี นร้นู ้ันแตกต่างกันอย่างส้นิ เชิง ๓. เสรีภาพในการเลอื กใช้ซอฟตแ์ วร์ แอปพลเิ คช่นั และระบบปฏบิ ัติการ การเข้าถึงยงั ครอบคลุมถึงเสรีภาพในการเลือกใชซ้ อฟต์แวร์ แอปพลเิ คชน่ั และระบบปฏิบตั กิ ารตามทีเ่ รา ต้องการ ซง่ึ จะเกดิ ข้ึนไดต้ ่อเมื่อโครงสร้างการสื่อสารและโปรโตคอลทางานขา้ มระบบได้ รวมถึงรักษามาตรฐานแบบ เปดิ (open standard) เอาไว้ นอกจากน้นั อินเทอร์เนต็ จะตอ้ งเปิดให้ทุกคนมีสิทธิในการสรา้ งสรรคเ์ นื้อหา แอปพลิเคชั่น และบรกิ ารต่างๆ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบหรอื ผา่ นการรับรองจากผู้มอี านาจ ๔. ความเปน็ กลางของเครือข่าย สถาปตั ยกรรมของอนิ เทอร์เน็ตตอ้ งได้รับการปกป้องใหม้ ีความเปน็ กลาง หรอื ท่ีเรยี กว่าความเป็นกลางของ เครือข่าย (net neutrality) กล่าวคอื ตอ้ งมีลักษณะเปดิ เทา่ เทยี ม และไม่เลือกปฏิบตั ิ เพื่อเปน็ แพลตฟอรม์ ในการ นาเสนอเนอื้ หาและบริการออนไลน์อย่างเปน็ กลาง ไม่มใี ครได้สิทธิพิเศษ เสรีภาพในการแสดงความเห็นและการเข้าถงึ ข้อมูล มาตราท่ี 19 ในปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนษุ ยชนบญั ญัติไว้ว่า “มนุษยท์ ุกคนมสี ิทธใิ นเสรีภาพทาง ความคดิ และการแสดงออก สิทธิดังกลา่ วรวมถงึ เสรภี าพในการแสดงความเหน็ โดยปราศจากการแทรกแซง และสทิ ธิ ในการแสวงหา รบั ส่งตอ่ ขอ้ มูลและแนวคิดผ่านส่ือใดๆ และโดยไม่ตอ้ งคานงึ ถงึ พรมแดน” เสรีภาพดงั กล่าว ครอบคลุมถงึ การแสดงความเห็นในโลกอินเทอรเ์ นต็ ด้วยเชน่ กัน เสรีภาพในการแสดงออกเป็นสิทธิท่ีมีความสาคัญตอ่ สังคมประชาธิปไตยและการพัฒนาของมนษุ ย์ หลักการ สากลยืนยันถึงสทิ ธใิ นการแสดงตัวตน มมุ มอง ความคิด ความเห็น รวมท้งั สิทธิในการเข้าถงึ และเผยแพร่ขอ้ มูล/ ความเหน็ ของผู้อนื่ บนโลกออนไลนไ์ ด้อยา่ งเสรี เสรภี าพดงั กล่าวครอบคลุมถงึ การพูดทางการเมือง มมุ มองทาง ศาสนา ความเห็นและการแสดงออกที่ไม่สรา้ งความขุ่นเคอื ง และอาจรวมถงึ การแสดงออกท่อี าจสรา้ งความขุ่นเคือง และสรา้ งความราคาญใจใหก้ ับผู้อืน่ ด้วย ซ่งึ ตอ้ งพิจารณาควบคูก่ บั เง่ือนไขอ่นื ๆ เชน่ กฎหมายและวัฒนธรรมในแตล่ ะ ประเทศ แน่นอนวา่ เสรภี าพในการแสดงความเห็นไม่ใช่สิทธทิ ี่ไร้ข้อจากัด และต้องคานงึ ถงึ สิทธอิ ่นื ๆ เช่น สิทธิในการ ปกป้องชื่อเสียงและความเปน็ ส่วนตัวของผ้อู ่นื รวมถงึ ผลประโยชน์สาธารณะดว้ ย เช่น เพือ่ ปกป้องความม่นั คงของ ชาติหรือความสงบเรยี บร้อย อยา่ งไรก็ดี การแทรกแซงเสรีภาพในการแสดงออกต้องไดร้ ับการบญั ญตั ิไว้ในกฎหมาย ดว้ ย โดยกฎหมายนนั้ ต้องกาหนดขอบเขตข้อห้ามให้ชดั เจนและวางกรอบให้แคบเท่าทจี่ าเปน็ เพอ่ื ใหป้ ระชาชนเข้าใจ และกากบั พฤติกรรมการแสดงความเหน็ ได้อยา่ งถกู ต้อง รวมถงึ ต้องไมท่ าโดยเลอื กปฏบิ ัติ มเี หตผุ ลอันชอบธรรมตาม หลักสากล ขอบเขตการแทรกแซงต้องเหมาะสม อีกท้ังยงั ต้องมีกลไกในการแจ้งใหผ้ ู้ท่ีถูกแทรกแซงสทิ ธเิ สรีภาพ ทราบถงึ สทิ ธิในการรอ้ งเรียนใหม้ ีการแก้ไข สิทธิเสรภี าพในการแสดงความเหน็ และเข้าถงึ ข้อมูลครอบคลุมประเดน็ ตา่ งๆ ดังน้ี ๑. เสรีภาพจากการเซน็ เซอร์ ประชาชนทุกคนมสี ิทธิในการใชอ้ นิ เทอร์เนต็ โดยปราศจากการเซน็ เซอรท์ กุ รูปแบบ การคุกคามข่มขกู่ าร แสดงออกผา่ นอนิ เทอร์เนต็ นั้นถอื เปน็ การละเมดิ เสรภี าพ
การเซ็นเซอรผ์ า่ นการบล็อกและฟลิ เตอร์ โดยเฉพาะการบล็อกเน้ือหาลว่ งหน้าเพ่ือไม่ให้ประชาชนทง้ั หมด เขา้ ถงึ ไดน้ ้ัน ถือเปน็ การเซน็ เซอรท์ ข่ี าดความชอบธรรม เวน้ แต่เนอื้ หาเฉพาะนน้ั ๆ ถูกตัดสนิ ว่าผดิ กฎหมายและผ่าน กระบวนการตรวจสอบความชอบดว้ ยกฎหมายแลว้ นอกจากนนั้ มาตรการใดๆ ที่ใชใ้ นการบล็อกเนื้อหาเฉพาะน้ันๆ จะต้องทาภายใต้ขอบเขตที่จากัดที่สดุ และไม่สง่ ผลให้ประชาชนไมส่ ามารถเข้าถึงข้อมลู อื่นๆ ได้ เช่น หากพบว่ามี เนื้อหาที่ผิดกฎหมายในเวบ็ บอรด์ มาตรการการบล็อกกค็ วรจากัดทีก่ ระทู้ที่ผดิ กฎหมายเทา่ นั้น ไมใ่ ช่ปดิ ก้ันการเขา้ ถึง ทงั้ เว็บบอร์ด ตวั กลาง เช่น ไอเอสพี ไมค่ วรถกู กดดนั หรอื บงั คับโดยกฎหมายให้นาเนื้อหาออก บลอ็ กเน้ือหา หรือเปิดเผย ข้อมลู สว่ นบคุ คลของผู้ใช้ หากเนื้อหาดังกล่าวไมผ่ ิดกฎหมาย นอกจากนัน้ รัฐยงั มีหน้าที่คุ้มครองและเคารพเสรีภาพใน การแสดงออกและสิทธิในการสอื่ สารของประชาชน ซงึ่ รวมถงึ การส่ือสารระหว่างบุคคล เชน่ การออกกฎหมายเพื่อ ป้องกันการดักฟังและคุ้มครองขอ้ มูลส่วนบคุ คล ไอเอสพี รวมถึงผ้ใู หบ้ รกิ ารเน้ือหาและผู้ให้บริการออนไลน์ ต้องเคารพสิทธิเสรภี าพในการแสดงออก กระนน้ั ก็ตาม ผใู้ หบ้ ริการเนอื้ หาและบรกิ ารออนไลนบ์ างรายอาจมีนโยบายห้ามเนือ้ หาและพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ประทุษ วาจา ภาพอนาจาร แตต่ ้องทาภายใตห้ ลักเกณฑ์ที่ไมล่ ะเมดิ หลักสากล รวมถงึ มีกระบวนการที่โปร่งใสในการเปิดเผย ขอ้ มลู และเปดิ ชอ่ งทางให้มีการตรวจสอบการบลอ็ กหรือฟิลเตอร์เนอ้ื หา เพ่อื เปน็ ข้อมลู ให้ผใู้ ชต้ ัดสินใจวา่ จะเลอื กใช้ บริการออนไลน์นนั้ ๆ หรือไม่ ๒. สทิ ธใิ นข้อมลู ประชาชนทุกคนมีสทิ ธใิ นการค้นหา เขา้ ถึง และสง่ ต่อข้อมลู และความคิดผา่ นอินเทอรเ์ น็ต เรามีสิทธิเข้าถงึ และใช้ขอ้ มลู ของรัฐบาล โดยรฐั บาลควรดาเนินการเปิดเผยข้อมลู ในเวลาอันเหมาะสมและใน รูปแบบท่สี ามารถเข้าถึงและนาไปใชต้ ่อไดง้ ่าย นอกจากนน้ั เรายงั สามารถแชร์งานและสร้างสรรคง์ านจากการ ปรับเปลี่ยนงานตน้ ฉบบั ของผู้อ่ืน แตส่ ิทธิดังกล่าวต้องพจิ ารณาควบคู่กับสิทธิของผผู้ ลิตงานตน้ ฉบบั ท่ีจะไดร้ ับการ คมุ้ ครองลขิ สทิ ธิ์ โดยระบบลขิ สทิ ธ์ิตอ้ งไมบ่ นั่ ทอนศักยภาพของอินเทอรเ์ น็ตในการสรา้ งสรรค์และต่อยอดเน้อื หา ซ่ึง หลกั การสาคัญในการพิจารณาคือ หลักการใช้อยา่ งเป็นธรรม (fair use) โครงการคอมมอนเซนสเ์ อดูเคชนั่ สรปุ หลักการและตวั อยา่ งการนาผลงานไปใช้ทเ่ี ข้าขา่ ย “การใช้อย่างเปน็ ธรรม” ตามภาพดา้ นลา่ ง ภาพท่ี 1: หลักการและตัวอย่างการใช้อย่างเปน็ ธรรม
นอกจากเราจะมีสทิ ธใิ นการใช้ผลงานสร้างสรรคข์ องผู้อื่นตามหลกั การใช้อยา่ งเป็นธรรมแล้ว หากผลงาน สร้างสรรค์อยู่ภายใต้สญั ญาอนญุ าตครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons) เรากส็ ามารถนาผลงานน้ันไปใช้โดย ไม่ต้องขออนุญาตเจา้ ของผลงาน แตต่ อ้ งใชภ้ ายใต้ขอบเขตการอนุญาตทเ่ี จา้ ของกาหนด เช่น ห้ามนาไปใชเ้ พ่ือการคา้ ห้ามดัดแปลง ครีเอทีฟคอมมอนส์จะช่วยสง่ เสริมการเผยแพร่ การใช้ และการต่อยอดผลงานสรา้ งสรรคข์ องผอู้ ่นื รวมถึงผลงานสรา้ งสรรคข์ องเราเอง (หากเราเลือกใชส้ ัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์กับงานของเรา) ซึ่งช่วยสร้าง เนื้อดินทเี่ หมาะกบั การเตบิ โตของวัฒนธรรมเสรใี นโลกอนิ เทอร์เนต็
สทิ ธใิ นการชมุ นมุ และการสมาคมออนไลน์ มาตรา 20 ของปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชนบัญญตั วิ า่ “มนษุ ยท์ ุกคนมีสิทธใิ นอสิ รภาพแหง่ การ ชุมนมุ และการสมาคมโดยสันติ บุคคลใดไม่อาจถูกบังคบั ให้สังกัดสมาคมได้” หลกั การดังกล่าวประยุกต์ใช้กับโลก อินเทอรเ์ น็ตด้วยเชน่ กนั ดังน้ันเราทกุ คนจงึ มสี ทิ ธิในการชมุ นมุ และสมาคมผา่ นอินเทอร์เนต็ เราทกุ คนมีเสรภี าพทจ่ี ะเลือกใชเ้ วบ็ ไซต์ แอปพลิเคช่นั หรือบริการออนไลน์ใดๆ เพื่อการจดั ตง้ั ขับเคลื่อน และมีสว่ นร่วมในการชมุ นุมหรือการสมาคม เชน่ การใช้อนิ เทอร์เน็ตเพือ่ จัดต้งั สหภาพแรงงาน โดยการมสี ว่ นรว่ ม ดังกลา่ วผ่านอนิ เทอร์เน็ตจะต้องไมถ่ ูกบลอ็ กหรือฟลิ เตอร์ เรามสี ทิ ธใิ นการใชเ้ ครอื่ งมอื ดิจิทลั เพอ่ื สรา้ งการมสี ่วนรว่ มและตรวจสอบกระบวนการกาหนดนโยบายและ กฎหมายทัง้ ในระดบั ท้องถ่นิ ระดบั ประเทศ และระดบั โลก เชน่ การจัดทาเว็บไซตเ์ พ่ือให้ผู้สนใจติดตามประเด็นการ กากบั ดูแลอินเทอร์เนต็ พูดคยุ แลกเปล่ยี น หรอื ใชเ้ ว็บไซต์ Change.org ลา่ รายชอ่ื เพื่อยืน่ คารอ้ งให้มีการ เปลี่ยนแปลงเชงิ นโยบาย ประชาชนทกุ คนมสี ิทธิใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตเพื่อขับเคล่ือนและมีสว่ นร่วมในการประทว้ งท้ังในโลกออนไลนแ์ ละ โลกจริง อย่างไรก็ดี สง่ิ ท่ีคุณควรตระหนักคือ หากการประท้วงนาไปสูค่ วามรุนแรง การทาลายทรัพยส์ นิ หรอื ทา ความเสยี หายใหก้ ับระบบอินเทอร์เนต็ คุณอาจต้องเผชิญกับปญั หาทางกฎหมาย อนิ เทอรเ์ น็ตได้กลายเปน็ เครื่องมือสาคัญสาหรับประชาชนในการมีสว่ นรว่ มในสังคมประชาธิปไตย ดงั น้ันรัฐ จงึ ควรสง่ เสรมิ ให้มีการใช้เครื่องมือดจิ ิทลั ในกระบวนการประชาธปิ ไตยมากขึน้ เชน่ สง่ เสริมการมสี ว่ นรว่ ม อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Participation) หรือการสรา้ งรฐั บาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ซึง่ ใหบ้ ริการงานภาครัฐ ผา่ นเครอื ข่ายออนไลน์มากขึ้น สิทธใิ นความเปน็ สว่ นตวั และในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา 12 ในปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสทิ ธิมนษุ ยชนบัญญตั วิ า่ “บคุ คลใดจะถูกแทรกแซงในความเปน็ สว่ นตวั ครอบครวั ท่ีอยู่อาศัย หรือการสื่อสาร หรอื จะถูกลบหลเู่ กียรติยศและช่อื เสียงตามอาเภอใจหรือโดยผิดกฎหมายไม่ได้ ทกุ คนมีสทิ ธทิ จ่ี ะได้รับความคุ้มครองตอ่ การแทรกแซงสิทธิหรือการลบหลูด่ ังกล่าวนนั้ ” ในโลกดิจิทัลท่ีมีการเกบ็ ขอ้ มูลสว่ นบุคคลไว้มากมาย พลเมืองมีสทิ ธิเรยี กร้องชวี ิตสว่ นตัวในอินเทอร์เน็ต รวมถงึ ความเปน็ สว่ นตัวในการสอื่ สารถึงกนั นอกจากนั้น พลเมืองมีสทิ ธริ ับรู้ว่าข้อมูลสว่ นตัวอะไรบา้ งท่ีถูกบนั ทกึ ไว้ จะถกู ใช้อย่างไร และเราจะจัดการอะไรกับมนั ได้บา้ ง สทิ ธใิ นความเปน็ สว่ นตัวครอบคลมุ สิทธิตา่ งๆ ดงั น้ี การออกกฎหมายความเปน็ ส่วนตวั รัฐมพี ันธะหนา้ ที่ในการจดั ทาและบงั คบั ใชก้ ฎหมายคุ้มครองความเปน็ สว่ นตัวและข้อมลู ส่วนบคุ คลของ ประชาชน โดยกฎหมายดังกล่าวจะต้องสอดคล้องกบั หลักสทิ ธมิ นษุ ยชนสากลและมาตรการการคมุ้ ครองผู้บริโภค และตอ้ งระบุถงึ การป้องกนั การละเมิดความเปน็ สว่ นตวั โดยรัฐและบริษทั เอกชนดว้ ย เจ้าหน้าที่รฐั และบริษัทเอกชนมพี นั ธะท่ีจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและกระบวนการในการจัดการกับ ขอ้ มลู สว่ นบุคคล การเกบ็ ใช้ เปิดเผย และรกั ษาข้อมูลส่วนบุคคล จะต้องทาโดยโปร่งใสและไดม้ าตรฐาน และการนา ขอ้ มลู สว่ นบคุ คลไปใช้ต้องไดร้ ับความยนิ ยอมจากเจ้าของข้อมูลกอ่ น พลเมอื งทกุ คนมสี ทิ ธิรบั รวู้ ่ามีขอ้ มลู ส่วนตัว อะไรบ้างท่ีถกู นาไปใช้หรือสง่ ตอ่ ให้กบั บุคคลทสี่ ามด้วยวตั ถุประสงค์อะไร รวมถึงมีสิทธิควบคมุ ขอ้ มูลส่วนตัวของเรา เอง ไม่วา่ จะเป็นการเขา้ ถึง ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง การกู้คืน การขอให้ลบข้อมูลสว่ นบุคคล และมสี ิทธิไดร้ บั แจง้ เมื่อ ข้อมลู ของตนถกู ส่งต่อใหบ้ ุคคลท่ีสาม ถูกนาไปใช้ในทางที่ผิด หาย หรอื ถูกขโมย
เม่อื ผ้ใู ห้บริการออนไลนห์ รือหน่วยงานรฐั มีความจาเปน็ ต้องขอข้อมลู ส่วนบคุ คล ควรเกบ็ ขอ้ มูลเท่าท่จี าเป็นจริงๆ และตอ้ งเกบ็ ภายในระยะเวลาทจี่ าเปน็ ตอ่ การใช้งานเทา่ น้นั โดยเมื่อใชข้ ้อมลู เสรจ็ เรียบร้อยแล้วจะต้องลบขอ้ มลู นน้ั ท้ิง การคมุ้ ครองข้อมลู สว่ นบุคคลควรอยู่ภายใต้การกากับดูแลขององค์กรอิสระท่ีสามารถทางานอยา่ งโปร่งใส โดยปราศจากอิทธิพลทางการเมอื งหรือผลประโยชน์เชงิ พาณิชย์ นโยบายและการตง้ั ค่าความเปน็ ส่วนตวั ผใู้ ห้บริการออนไลนต์ ้องประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ชดั เจนและให้ผู้ใช้เข้าถึงได้งา่ ย รวมถึงการตั้งคา่ ความเปน็ ส่วนตัวต้องทาได้งา่ ย ครอบคลุมรอบดา้ น และคานงึ ผลประโยชนข์ องผูใ้ ช้เป็นหลัก เชน่ การตง้ั คา่ ตัง้ ตน้ ให้ ปกปอ้ งความเป็นส่วนตัวของผูใ้ ช้ใหม้ ากท่สี ุด แล้วหากผู้ใช้ตอ้ งการเปดิ เผยข้อมูลมากขึ้น กใ็ ห้เป็นทางเลือกของผู้ใช้ เอง (ไม่ใชต่ ั้งคา่ ตั้งต้นให้เปดิ เผยขอ้ มลู แลว้ ค่อยใหผ้ ู้ใชเ้ ลอื กปิดได้ในภายหลงั ) ผู้ใหบ้ รกิ ารออนไลนต์ ้องแจ้งให้ผใู้ ชท้ ราบทกุ คร้ังหากมีการเปล่ียนแปลงเง่อื นไขการใช้บริการ โดยเฉพาะ นโยบายการเก็บข้อมลู ผูใ้ ชแ้ ละการตงั้ คา่ ความเป็นส่วนตัว มาตรฐานการรักษาความลบั และบรู ณภาพของระบบ ระบบไอทตี ้องมีมาตรฐานการรักษาความลับ (confidentiality) และบูรณภาพของระบบ (integrity หมายถึงการรกั ษาความปลอดภัยเพอ่ื ป้องกันไม่ใหซ้ อฟต์แวรอ์ นั ตรายเข้ามาปรบั เปลย่ี นขอ้ มลู หรือไฟลข์ องเราได)้ เพือ่ ป้องกนั ไม่ใหบ้ ุคคลอ่ืนเข้าสูร่ ะบบโดยปราศจากความยินยอม การคุ้มครองตัวตนออนไลน์ ประชาชนทุกคนมีสทิ ธทิ จี่ ะสร้างตัวตนในโลกออนไลนแ์ ละได้รับความเคารพในตัวตนน้นั ๆ ซึ่งรวมถงึ การ เลือกไมเ่ ปิดเผยตวั ตนแท้จรงิ ทวา่ สิทธดิ ังกล่าวจะต้องไม่ถูกใชใ้ นทางที่ผดิ หรือเปน็ ภยั ต่อผู้อ่นื นอกจากนั้น ข้อมลู การ พิสูจน์ตวั ตน เช่น ลายเซน็ ดิจทิ ลั รหสั ผ่าน พนิ โคด้ จะต้องไม่ถูกนาไปใชห้ รือเปล่ียนแปลงโดยปราศจากความยนิ ยอม ของเจา้ ของ สทิ ธใิ นการไมเ่ ปดิ เผยตัวและใชก้ ารเข้ารหสั พลเมืองทุกคนมีสิทธใิ นการสื่อสารแบบนิรนามในโลกออนไลน์ และมสี ทิ ธใิ นการใชเ้ ทคโนโลยีการเข้ารหสั เพ่ือรักษาความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และการส่ือสารแบบนิรนาม เสรีภาพจากการสอดแนม พลเมืองทกุ คนมีเสรีภาพที่จะสือ่ สารโดยปราศจากการสอดแนมตามอาเภอใจในโลกออนไลน์ เช่น การ ตดิ ตามข้อมูลพฤติกรรมการใชอ้ ินเทอร์เนต็ ของเรา ความเป็นส่วนตัวในท่ีทางาน ประชาชนมสี ิทธิในความเป็นส่วนตัวในทท่ี างาน เช่น การส่งอเี มลสว่ นตวั ในบริษัท ผจู้ ้างมหี นา้ ทีแ่ จง้ ให้ ทราบถึงการตรวจสอบและติดตามข้อมูลการส่ือสารในท่ีทางาน หากไมม่ กี ารแจ้งลว่ งหน้า ให้ถือวา่ พนกั งานมีความ เปน็ ส่วนตวั ในการใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตในทท่ี างาน ความรบั ผดิ ชอบในโลกออนไลน์ “อานาจที่ย่ิงใหญ่มาพร้อมกับความรบั ผดิ ชอบอันยิ่งใหญ่” ประโยคยอดฮติ จากภาพยนตรส์ ไปเดอร์แมน สามารถประยุกต์ใช้กับพลเมืองดิจทิ ัลได้เปน็ อยา่ งดี เมอื่ อนิ เทอรเ์ น็ตมอบอานาจอนั ย่งิ ใหญ่ใหก้ บั เรา เราก็ต้องรู้จักใช้ มันอย่างมีความรับผิดชอบเชน่ กัน ตลอดประวัตศิ าสตร์ทีผ่ ่านมา เทคโนโลยใี หมๆ่ กระตุ้นให้สงั คมต้องมาถกเถยี งถึงความรับผดิ ชอบ จริยธรรม และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใชเ้ ทคโนโลยีและผลกระทบของมัน ตวั อยา่ งเชน่ สถาบันจริยธรรมคอมพวิ เตอร์ได้ บัญญตั ิจริยธรรมคอมพิวเตอร์ 10 ประการไวใ้ นปี 1992 เพือ่ รบั มอื กบั ประเด็นจรยิ ธรรมจากการใช้คอมพวิ เตอร์ท่ี ไดร้ บั ความนยิ มมากข้ึนในยุคนัน้ ซงึ่ หลายประเด็นยังคงทันสมัยมาจนถงึ ทุกวนั น้ี
สิทธติ ้องมาพรอ้ มกับความรับผดิ ชอบซึ่งเป็นองคป์ ระกอบสาคัญในการสร้างสังคมออนไลน์ทด่ี ี สงิ่ ที่เราไม่ ตอ้ งการเหน็ ในโลกจรงิ ก็มักเป็นสิ่งท่เี ราไมต่ ้องการในโลกไซเบอร์ดว้ ยเชน่ กัน เชน่ การพูดจาดว้ ยคาพูดรุนแรง การ ละเมิดสิทธใิ นผลงานผอู้ ่ืน การขโมยตวั ตนของผู้อ่ืน เราในฐานะพลเมืองมคี วามรับผิดชอบตอ่ สงั คมท่จี ะตอ้ ง หลกี เลยี่ งการกระทาดังกลา่ ว รวมถงึ สนบั สนนุ ใหผ้ ้อู น่ื มีหน้าที่ความรบั ผิดชอบเช่นเดยี วกัน ความรับผิดชอบในการสือ่ สารและแลกเปล่ียนขอ้ มูลอย่างมมี ารยาท อนิ เทอรเ์ นต็ ชว่ ยใหเ้ ราสามารถติดตอ่ ส่ือสารและมีปฏสิ มั พันธก์ บั ผู้อน่ื ได้อย่างสะดวกง่ายดาย เช่น ตั้งกลมุ่ ไลนส์ มาชิกคอนโดหรือหมบู่ ้านไวแ้ ลกเปลย่ี นข่าวสาร ใชจ้ ีเมลในการส่งอเี มลระหวา่ งกนั หรอื มสี ว่ นรว่ มแลกเปลีย่ น ความเหน็ เรอื่ งบ้านเมืองในเว็บบอร์ดพันทปิ อย่างไรกด็ ี การสือ่ สารทเี่ กดิ ข้นึ อยา่ งรวดเรว็ และบางครั้งก็โดยนริ นาม อาจทาใหเ้ กิดการสอ่ื สารท่ีไร้มารยาทไดง้ ่าย พลเมืองดจิ ทิ ัลควรตระหนกั ถึงมารยาทในการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต (netiquette) ส่ือสารกับผ้อู นื่ อย่างสุภาพ คดิ ถึงผลกระทบท่จี ะเกดิ กบั ผู้อื่น และเปน็ แบบอย่างทีด่ ีในโลกออนไลน์ ดังนี้ - อยา่ กระพือความขัดแย้ง หลกี เลย่ี งการใช้ภาษารุนแรงและก้าวรา้ ว - หลีกเล่ียงการประชดประชนั เราต้องเข้าใจวา่ การสื่อสารผา่ นอินเทอร์เน็ตนน้ั ไม่เหน็ ภาษากายและสี หน้าซ่งึ ชว่ ยในการสอ่ื สาร ดงั นั้นการแสดงความเห็นเชงิ ประชดประชันอาจทาใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผดิ ได้ง่าย - อย่าโกหก ซ่ือสัตย์ต่อผอู้ นื่ และไม่เสแสร้งปลอมตัวเป็นคนอ่ืน เวน้ แตก่ รณีทีจ่ าเปน็ ต้องปกปดิ อัตลกั ษณ์ - ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ โดยคานงึ ถึงผลกระทบท่ีมีต่อผู้อ่ืน เชน่ ไม่แชร์ข้อมูลส่วนตัวของเพ่ือนในหนา้ เฟสบุค๊ ไม่ ส่งตอ่ อเี มลส่วนตวั ใหค้ นอื่นโดยไมไ่ ด้รับอนุญาต - อย่าโพสตห์ รอื แชรข์ ้อมลู สว่ นบคุ คลทง้ั ของตนเองและผู้อน่ื ทีอ่ าจนาภยั อันตรายมาได้ โดยเฉพาะกับคน ไมร่ ู้จักและเว็บไซต์ทดี่ นู ่าสงสัยและไมร่ องรับการเข้ารหสั เชน่ ไม่แชร์แผนการท่องเทย่ี วท่ีอาจทาใหผ้ ูไ้ มป่ ระสงค์ดรี ูว้ ่า เราจะไม่อยูบ่ า้ นเวลาไหน - ใช้อินเทอร์เน็ตให้เหมาะสมกับสถานการณ์และบรบิ ท เชน่ ไม่สง่ ข้อความหรือเล่นโทรศัพท์มอื ถอื ระหว่างทีส่ นทนากบั ผอู้ ่ืนหรือขณะร่วมโต๊ะอาหาร หรอื เรยี นร้กู ฎของชุมชนออนไลน์ทเ่ี ราสนใจก่อนเข้ารว่ ม - อยา่ โพสต์ความรู้สึกสว่ นตวั เกย่ี วกับงานหรอื ความสมั พันธ์ หากต้องการส่อื สารในเรือ่ งท่ีมีอารมณ์ ความรู้สกึ เขา้ มาเกี่ยวข้องมากๆ พยายามสื่อสารกับคนท่ีเก่ยี วขอ้ งโดยตรงด้วยชอ่ งทางที่มีความเปน็ ส่วนตวั - อยา่ แชรข์ ้อมูลหรือขา่ วสารโดยไมไ่ ดต้ รวจสอบให้ดีก่อน โดยเฉพาะในกรณที ี่อาจทาให้บุคคลหรือองค์กร ใดเสอื่ มเสียช่อื เสียง
ความรบั ผิดชอบในการใช้และอา้ งอิงผลงานของผู้อน่ื อินเทอร์เน็ตกลายเปน็ แหล่งข้อมูลสาคัญในการเรียนรู้ แต่การที่อนิ เทอร์เนต็ ช่วยใหเ้ ราเข้าถงึ แชร์ รวมถงึ คัดลอกผลงานของผอู้ ื่นไดง้ า่ ย ไม่ได้แปลว่าเรามสี ิทธใิ ชผ้ ลงานของผู้อ่ืนโดยไม่ตอ้ งขออนุญาต กอ่ นจะใช้ผลงานของผอู้ นื่ ถือเปน็ ความรับผดิ ชอบทจี่ ะต้องตรวจสอบวา่ ผลงานชน้ิ นั้นยังติดลิขสทิ ธห์ิ รอื ได้ ตกเป็นของสาธารณะ (public domain) เนอ่ื งจากความคุ้มครองลิขสทิ ธิไ์ ดห้ มดลงแล้ว เปน็ ผลงานของรฐั บาลท่ีใช้ เงนิ สาธารณะสร้างขนึ้ มา หรือผสู้ ร้างสรรคเ์ ลอื กท่ีจะมอบผลงานใหเ้ ปน็ ของสาธารณะ ในกรณที ตี่ ิดลิขสทิ ธิ์ เราต้อง ตรวจสอบว่าการใช้งานน้ันถือเปน็ การใช้อย่างเป็นธรรมหรือไม่ ถา้ ไม่ ก็ถอื เป็นหน้าทข่ี องเราในการขออนุญาต ตวั อยา่ งกรณีท่ีถือวา่ ละเมดิ ลิขสิทธิ์ เชน่ การนาผลงานทงั้ หมดของผู้อ่ืน ไม่ว่าจะเปน็ หนังสอื บทความ ภาพ วิดโี อ เพลง กราฟิก โพสต์ความเหน็ หรือผลงานสรา้ งสรรคข์ องผอู้ น่ื ไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ อเี มล หรอื โซเชยี ลมีเดีย โดย ไม่ได้รับอนญุ าต นอกจากการละเมดิ ลขิ สทิ ธิ์ซึ่งเปน็ ปญั หาด้านกฎหมาย การขโมยผลงานของผอู้ ืน่ (plagiarism) กถ็ อื เป็น ปัญหาเชิงจรยิ ธรรมในแวดวงวิชาการ นักเรียน/นักศึกษา/นักวิจัยต้องมีความรับผดิ ชอบในการอ้างอิงผลงานของผู้อื่น ไมว่ า่ แหลง่ ท่ีมาจะมาจากในออนไลน์หรอื ออฟไลนก์ ็ตาม เชน่ ไมน่ าคาพดู แนวคดิ ขอ้ ค้นพบในผลงานของผู้อืน่ มาใช้ โดยไมอ่ ้างองิ ให้เหมาะสม โครงการคอมมอนเซนส์เอดเู คชนั่ สรุป 5 ขั้นตอนในการใช้และอา้ งอิงผลงานสร้างสรรค์อยา่ งรับผิดชอบ คือ 1) ตรวจสอบวา่ ใครเปน็ เจา้ ของผลงาน 2) ขออนญุ าตก่อนใช้ 3) ให้เครดิตกับเจา้ ของผลงาน 4) ซ้อื สิทธกิ ารใช้ (ถ้า จาเป็น) และ 5) ใช้อยา่ งมีความรบั ผดิ ชอบ8 ความรับผดิ ชอบในการปฏิบัติตามกฎหมาย พลเมืองดจิ ิทัลท่ดี ีควรศกึ ษาวา่ มกี ฎหมายและข้อบังคับอะไรบ้างที่กากับการใช้อินเทอรเ์ น็ตของเรา เชน่ กฎหมายลิขสทิ ธ์ิ กฎหมายกากบั ดูแลเนอ้ื หาออนไลน์ กฎหมายว่าด้วยความผิดเกีย่ วกบั อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ รวมถึงตระหนักถึงผลกระทบจากการละเมิดกฎหมายดว้ ย ข้อควรระวงั ด้านกฎหมายมดี ังนี้ - ไม่ขโมยอตั ลักษณ์ออนไลน์ - ไมล่ ะเมดิ ทรัพยส์ ินทางปัญญาของผู้อื่น - ไม่ดาวนโ์ หลดเพลง ภาพยนตร์ หรือผลงานสร้างสรรค์ของผู้อ่นื ผา่ นช่องทางท่ผี ดิ กฎหมาย รวมถงึ ไม่ เผยแพร่งานทตี่ ิดลขิ สิทธไิ์ ปตามช่องทางทผ่ี ดิ กฎหมาย - อยา่ สร้างหรือเผยแพรม่ ลั แวร์ ซอฟตแ์ วร์ เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคช่ันที่ขโมยขอ้ มูลสาคัญของผ้อู ืน่ หรือ ทาลายระบบ - ไมโ่ พสตห์ รอื แชร์เนื้อหาทีส่ ุ่มเสย่ี งผิดกฎหมาย เชน่ ส่อื ลามกอนาจารเด็ก ประทษุ วาจา ข้อความหม่นิ ประมาท - ไม่ละเมดิ ความเป็นส่วนตัวของผู้อ่ืน เชน่ การดกั จบั อเี มลของผอู้ ืน่ หรอื แอบขโมยรหสั ผ่านเพ่ือเขา้ ไปดู บญั ชเี ฟสบคุ๊ ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ความรับผดิ ชอบในการรักษาความปลอดภัยออนไลน์ อนิ เทอร์เนต็ เต็มไปด้วยความเสย่ี ง เชน่ อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ภัยคกุ คามไซเบอร์ การขโมยอัตลกั ษณ์ ออนไลน์ พลเมืองดจิ ทิ ลั จาเป็นตอ้ งเรยี นรูว้ ธิ ปี ้องกนั ตัวเองจากความเสี่ยงออนไลน์ อาทิเชน่ - ตดิ ตั้งโปรแกรมป้องกันไวรสั และอัปเดตให้เปน็ เวอรช์ ั่นใหม่อย่างสมา่ เสมอ - ตรวจสอบเวลาเปิดไฟลแ์ นบทางอีเมล และระมัดระวงั กอ่ นจะกดคลิกลิงกเ์ ชื่อมไปยงั สว่ นอื่นๆ - เปดิ ใชก้ ารพสิ ูจน์ตัวตนสองระดับ
- ตดิ ต้ังใชง้ านแอปพลิเคชนั่ สาหรับตดิ ตามและล็อกโทรศพั ท์มือถือระยะไกลในกรณที ่ีอปุ กรณ์สูญหาย - สารองข้อมูลไวห้ ลายแหง่ เพ่ือปอ้ งกันข้อมูลสญู หาย - การตง้ั ลอ็ กหนา้ จอบนคอมพวิ เตอร์หรืออุปกรณเ์ คลื่อนทต่ี ่างๆ ด้วยรหัสผ่าน พนิ โค้ด ลายน้ิวมือ ฯลฯ - การเข้ารหสั ปอ้ งกนั การเขา้ ถึงข้อมูลท่ีอยใู่ นอุปกรณเ์ ช่ือมต่อภายนอก เชน่ ยเู อสบีไดร์ฟ ความรบั ผิดชอบต่อสุขภาพของตนเอง วิถีชีวิตที่มีอินเทอรเ์ น็ตเข้ามาเกยี่ วขอ้ งน้นั อาจบน่ั ทอนสุขภาพและความเปน็ อย่ทู ่ีดขี องเรา เราตอ้ งตระหนัก ถึงผลกระทบตอ่ ร่างกายและจิตใจจากการใชอ้ นิ เทอร์เนต็ และเคร่ืองมือสอ่ื สารในยุคดิจทิ ัล และหาทางคุ้มครอง ตัวเองและผู้อน่ื จากอนั ตรายเหล่านนั้ เชน่ โรคกดทับเส้นประสาทบรเิ วณข้อมือ ภาวะตาลา้ การนงั่ ผดิ ท่า การเสพติด อินเทอร์เนต็ ความรับผดิ ชอบในการใชพ้ าณิชย์อเิ ล็กทรอนิกส์ เราต้องตระหนกั ถงึ ความเส่ียงจากการซ้ือขายสินค้าและบริการออนไลน์ การทาธรุ กรรมออนไลนเ์ ปน็ เรอ่ื ง ง่ายและสะดวกจนบ่อยคร้ังเราไม่ไดใ้ คร่ครวญให้ดกี ่อนทา ดงั นัน้ ก่อนตดั สินใจทาธรุ กรรมออนไลน์ต้องหาข้อมลู ใหด้ ี และมน่ั ใจวา่ ปลอดภัย รวมถึงมนั่ ใจว่าจะไมก่ ่อให้เกดิ หนกี้ ้อนโตในอนาคต การเขา้ ใจดิจิทัล (DIGITAL LITERACY) 1.1 สิทธแิ ละความรับผดิ ชอบ ผศู้ กึ ษาจาเปน็ ต้องทราบสิทธิ เสรีภาพ และความรบั ผิดชอบเมอ่ื ใชส้ ิทธินนั้ บนส่อื สาธารณะยุคดจิ ิทัลในฐานะ เป็นประชากรของสงั คมในระดบั ตา่ ง ๆ ไม่วา่ จะเปน็ ระดับชุมชน ระดบั ประเทศ ระดับโลก โดยความรับผดิ ชอบน้ี รวมถงึ ความรับผดิ ชอบต่อตัวเอง และความรับผดิ ชอบต่อสงั คม ทง้ั ผลกระทบท่ีเกดิ จากการกระทาและทางกฎหมาย ดว้ ยการใช้สทิ ธิ เสรีภาพอย่างถกู ต้อง จะทาให้การอยรู่ ่วมกันในสังคมเดยี วกนั เกิดความสงบสุข ไมข่ ัดต่อกฎหมาย จริยธรรม ศีลธรรม ของสังคม ถอื เป็นพน้ื ฐานประการแรกที่จาเปน็ ต้องทราบ เพื่อจะอยู่ในสังคมออนไลน์ท่มี กี าร เช่ือมโยงประชากรจากทุกประเทศท้งั โลกเข้าไวด้ ้วยกัน 1.2 การเข้าถงึ สือ่ ดจิ ิทัล ผ้ศู กึ ษาจาเป็นต้องเขา้ ใจอินเทอร์เน็ตและการเข้าถงึ อนิ เทอร์เน็ตด้วยช่องทางตา่ ง ๆ รวมถึงขอ้ ดีขอ้ เสยี ของ แตล่ ะชอ่ งทางได้ เพ่ือให้สามารถใช้ Search Engine ค้นหาขอ้ มูลท่ีต้องการจากอนิ เทอรเ์ น็ตได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ นอกจากน้ยี ังจาเปน็ ต้องเข้าใจสือ่ ทางดจิ ทิ ัลชนดิ ตา่ ง ๆ รวมถึงการนาไปประยกุ ตใ์ ชง้ านในปจั จุบนั 1.3 การส่ือสารยคุ ดิจทิ ัล ผู้ศกึ ษาจาเป็นต้องมคี วามเขา้ ใจการส่ือสารผา่ นทางสื่อ และเครื่องมือทางดจิ ทิ ัลในแง่มุมต่างๆไม่วา่ จะเปน็ ความเหมาะสม ความแตกต่าง ความเสย่ี งของสื่อ และเคร่ืองมือพรอ้ มทัง้ สามารถสือ่ สารโดยการใช้ข้อความหรือถ่อย คาอยา่ งสร้างสรรค์ มีประโยชน์ และเคารผูอ้ น่ื เพื่อประโยชนต์ ่อสว่ นรวมนอกจากน้ียงั รวมถงึ ความสามารถวิเคราะห์ ข้อมลู ตา่ ง ๆ ทมี่ ีอย่บู นส่อื ดิจิทลั ตา่ ง ๆ ว่าสิง่ ไหนเปน็ ข้อเท็จจรงิ สิ่งไหนเปน็ ความเห็น ส่ิงไหนเป็นความจริงบางส่วน สิ่งไหนเปน็ ความจริงเฉพาะเหตุการณน์ ัน้ ๆ เพ่ือไมใ่ หต้ กเป็นเหยือ่ ของการส่ือสารทางดจิ ิทัล 1.4 ความปลอดภัยยคุ ดิจิทัล ผ้ศู กึ ษาจาเปน็ เขา้ ใจความมั่นคง ความเป็นส่วนตวั และการทง้ิ รอยเท้าดจิ ิทลั ในการใช้อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ในยุคดิจทิ ลั รวมถึงภัยในรปู แบบต่าง ๆ ทง้ั ในแง่วิธกี ารทไ่ี ดร้ บั การคุกคาม ผลกระทบท่เี กดิ ข้ึน การ ป้องกัน การลดความเส่ียง ต่อภัยเหลา่ นน้ั 1.5 ความเข้าใจส่อื ดิจทิ ัล ผศู้ กึ ษาจาเป็นต้องมคี วามเข้าใจสารสนเทศและสื่อในยุคดิจิทัล เพือ่ ทีส่ ามารถระบขุ ้อมลู ท่ตี ้องการหาข้อมลู นน้ั ประเมนิ ประโยชน์ ความเกย่ี วขอ้ ง ความถูกต้อง ความน่าเช่อื ถือ ของข้อมูลนนั้ จากแหล่งต่าง ๆ นอกจากนั้นผู้
ศกึ ษายังจาเปน็ ต้องสามารถนาขอ้ มูลเหล่านน้ั มาพฒั นาเปน็ ความรู้ เพื่อนาไปใชป้ ระโยชนผ์ ่านทางการนาเสนอได้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 1.6 แนวทางปฏิบตั ิในยุคดจิ ทิ ลั ผ้ศู ึกษาจาเป็นต้องทราบ แนวทางปฏบิ ตั ิในสงั คม มารยาท และ พฤตกิ รรมอนั พึงปฏิบตั เิ มื่ออยูร่ ว่ มในสังคม ดจิ ทิ ลั เพ่อื ไมส่ รา้ งความเดือดรอ้ น ความราคาญ ความเครียด ความกังวลใจ รวมถึงเป็นสาเหตขุ องปญั หาทางสภาพ จติ ของบุคคลอ่ืนและตวั เอง การประพฤติตามมารยาทที่เหมาะสม จะทาให้สงั คมยอมรบั นบั ถือ และให้เกยี รตเิ รา ดังน้นั มารยาทในสังคมดจิ ิทัล จึงเปน็ สิ่งที่จาเป็นต้องเรยี นรู้ และปพู ืน้ ฐานไวใ้ นการใช้งานสังคมดจิ ทิ ลั 1.7 สขุ ภาพดยี คุ ดจิ ทิ ลั ผู้ศึกษาจาเปน็ ต้องเขา้ ใจอันตรายและผลกระทบด้านสุขภาพในแง่มมุ ตา่ ง ๆ ไมว่ า่ จะเปน็ ดา้ นสุขภาพกาย สุขภาพจติ โรคทเ่ี กิดขึน้ รวมถงึ ความสมั พนั ธ์และผลกระทบตอ่ เยาวชน การใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ และส่อื ดิจิทลั เพื่อ ป้องกัน หลกี เล่ยี ง ลดผลกระทบ จนถงึ วิธีการรกั ษาเบอื้ งต้น ทงั้ ต่อตัวเอง และคนใกล้ตัว เพ่ือใหส้ ามารถ ใชช้ วี ิต อยา่ งมีความสุขในยุคดิจิทลั ได้ 1.8 ดิจทิ ลั คอมเมิร์ซ ผศู้ กึ ษาจาเปน็ ตอ้ งเขา้ ใจการทาธรุ กิจออนไลน์ หรือ อคิ อมเมริ ซ์ ประเภทตา่ ง ๆ รวมถึงอันตราย ภยั และ ความเสย่ี งจากการทาธรุ กรรมน้ัน พรอ้ มทง้ั วธิ ีป้องกนั ลดความเส่ยี งและรับมอื กับอนั ตราย ภยั และความเสย่ี ง เหล่าน้ัน โดยรู้ขั้นตอนปฏิบตั ิเมอื่ ตกเป็นเหยอื การหลอกลวงเหล่านี้ 1.9 กฎหมายดจิ ิทลั ผศู้ ึกษาจาเป็นตอ้ งมีความเข้าใจสิทธิและข้อจากัดทค่ี วบคุมการใชส้ อื่ ดิจิทลั ในรูปแบบตา่ ง ๆ ซ่งึ ได้ถูกกาหนด โดยภาครฐั เพือ่ ที่จะได้สามารถปฏบิ ัตงิ านและดาเนนิ ชวี ิตไดอ้ ยถู่ ูกตอ้ งตามกฎระเบยี บสังคม ซึง่ จะเปน็ การเคารพ สิทธขิ องผูอ้ ืน่ อกี ดว้ ย
สว่ นท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน ผู้ดาเนินการจดั ทาโครงการพัฒนาเศรษฐกจิ ดิจทิ ลั ชมุ ชน หลกั สตู ร Digital Literacy การใช้งาน โปรแกรมสานกั งานเพ่ือการมีงานทา เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และการวเิ คราะหข์ ้อมูลดังน้ี 1. เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการจัดกิจกรรม ขอ้ มลู ปฐมภูมิ ไดจ้ ากการกรอกแบบสอบถามของผ้เู ข้าร่วมกิจกรรม ข้อมูลทุตยิ ภูมิ ศกึ ษาจากเอกสาร ข้อมลู ตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 2.1 ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง 2.1.1 ประชาชนทั่วไปตาบลท่าสะแก 2.2 วิธดี าเนินการในการตดิ ตามและประเมนิ ผลการดาเนินงานไดด้ าเนนิ การดังนี้ 2.2.1 เคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ นการประเมนิ เป็นแบบสอบถาม แบ่งออกเปน็ 3 ตอน คอื ตอนที่ 1 ข้อมลู สถานภาพทั่วไปเกีย่ วกับผ้ตู อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ขอ้ มลู เก่ยี วกับความพึงพอใจในการเข้ารว่ มโครงการฯ ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ 2.2.2 วิเคราะห์ข้อมลู ในการวิเคราะห์ ดาเนินการดังน้ี ตอนท่ี 1 ข้อมลู สถานภาพทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถามวิเคราะห์ผลดว้ ยการหาค่าร้อยละ คา่ รอ้ ยละ (%) P = 100 เมอื่ p แทน ร้อยละ F แทน จานวนผตู้ อบแบบสอบถาม n แทน จานวนท้งั หมด ตอนท่ี 2 ข้อมูลเกยี่ วกับการดาเนินงานตามโครงการ ใช้คา่ เฉล่ีย x = เมอ่ื x แทน คา่ เฉลี่ย แทน จานวนผู้ตอบแบบสอบถาม x แทน จานวนทัง้ หมด n
ตอนท่ี 3 สรปุ ขอ้ เสนอแนะ โดยใชค้ วามถี่ ( f ) 2.2.3 การแปลผลข้อมลู ในการแปลความหมายของข้อมลู แปลผลจากค่าเฉลี่ยเลขคณติ x โดยใชห้ ลักเกณฑ์ดังนี้ ค่าเฉล่ยี เลขาคณิต x ความหมาย 1.00 – 1.50 1.51 – 2.50 น้อยที่สดุ 2.51 – 3.50 นอ้ ย 3.51 – 4.50 4.51 – 5.00 ปานกลาง มาก มากที่สุด 3. ผลการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน จากการจดั กิจกรรมโครงการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทลั ชมุ ชน หลักสตู ร Digital Literacy การใช้งาน โปรแกรมสานกั งานเพื่อการมีงานทา ได้มกี ารสารวจความพึงพอใจของผูเ้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมทีม่ ีตอ่ รปู แบบการจัด กิจกรรม จานวน ๑7 คน โดยวธิ กี ารตอบแบบสอบถาม จงึ ไดม้ ีการนาเสนอข้อมลู ในรูปตารางประกอบคาบรรยาย โดยแบง่ ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ตอนท่ี 1 ข้อมลู สว่ นบุคคล ตอนท่ี 2 ประเมนิ ความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (กจิ กรรมการเรียนการสอน) ตอนที่ 3 สรปุ ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ สรปุ เปน็ ประเด็นทส่ี าคญั 3.1 ตอนที่ 1 การวเิ คราะหข์ ้อมูลทัว่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตารางที่ 1 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามเพศ เพศ จานวน ( n = ๑7 ) รอ้ ยละ ชาย 6 35.29 หญิง 11 64.71 รวม ๑7 100.00 จากตารางที่ 1 ผลการศึกษาพบว่า ผ้เู ข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คดิ เป็นร้อยละ 64.71 รองลงมา คือ เพศชาย คดิ เป็นร้อยละ 35.29 ตารางท่ี 2 แสดงจานวน รอ้ ยละจานวนตามอายุ อายุ จานวน ( n = ๑7) รอ้ ยละ ต่ากว่า 20 ปี 7 41.18 20 – 30 ปี 6 35.29 31 – 40 ปี 1 5.88 41 – 50 ปี 1 5.88 51 – 59 ปี 2 11.77 60 ปีขนึ้ ไป - 1
รวม ๑7 100.00 จากตารางที่ 2 ผลการศึกษาพบว่า ผเู้ ขา้ รว่ มอบรมสว่ นใหญ่ มชี ่วงอายุตา่ กว่า 20 ปี คิดเป็นร้อยละ รองลงมา คือ ช่วงอายุระหว่าง 20 - 30 ปี คดิ เปน็ ร้อยละ 35.29 , ชว่ งอายรุ ะหว่าง 51 – 59 ปี คดิ เปน็ รอ้ ยละ 11.77 ชว่ งอายรุ ะหว่าง 30 – 40 ปี และชว่ งอายรุ ะหวา่ ง 41 – 50 ปี คดิ เปน็ ร้อยละ 5.88 เทา่ กนั ตารางที่ 3 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามระดบั การศึกษาสูงสุด ระดบั การศึกษาสูงสุด จานวน ( n = ๑7) รอ้ ยละ ประถมศึกษา 6 35.29 9 52.95 มัธยมศึกษาตอนต้น 1 5.88 มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1 5.88 ๑7 ๑๐0.00 อืน่ ๆ รวม จากตารางที่ 3 ผลการศึกษาพบว่า ผเู้ ขา้ รว่ มอบรมส่วนใหญม่ รี ะดบั การศึกษาสูงสุด คือ มธั ยมศึกษาตอนตน้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 52.95 รองลงมา คือ ประถมศกึ ษา คิดเป็นรอ้ ยละ 35.29 , ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลายและ ระดบั อื่น ๆ คดิ เป็นร้อย 5.88 เทา่ กนั ตารางที่ 4 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามอาชพี อาชีพ จานวน ( n = ๑7) รอ้ ยละ นักเรยี น/นักศึกษา 16 94.12 ขา้ ราชการ/พนักงานของรัฐ - 5.88 1 เกษตรกร - - รับจา้ ง - - ค้าขาย - - แมบ่ า้ น - - ธรุ กิจส่วนตวั - - วา่ งงาน ๑3 100.00 รวม จากตารางท่ี 4 ผลการศึกษาพบวา่ ผเู้ ข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่ประกอบอาชีพนกั เรยี น/นักศึกษา คิดเป็นร้อยละ 94.12 รองลงมาคอื อาชพี เกษตรกร คิดเปน็ ร้อยละ 5.88
3.2 ตอนที่ 2 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เกี่ยวกบั ความพึงพอใจในการจดั กิจกรรม ตารางที่ 6 แสดงจานวน ร้อยละ และค่าเฉล่ยี ของความพงึ พอใจของผู้เขา้ ร่วมโครงการทม่ี ีตอ่ การจดั กจิ กรรม ระดับความพึงพอใจ ประเด็นความคดิ เหน็ มากท่ีสดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยท่ีสดุ ค่าเฉลยี่ อยใู่ น (๕) (๔) (๓) (๒) (๑) ระดบั ๑.ดา้ นวทิ ยากร ๑.๑ การถา่ ยทอดความรู้ของวิทยากรมี 7 10 - - - ๔.41 มาก ความชัดเจน (41.18) (58.82) ๑.๒ วทิ ยากรมีความสามารถในการ 8 8 ๑ - - ๔.24 มาก (47.06) (47.06) (5.88) อธบิ ายเนอื้ หา ๑.๓ วทิ ยากรให้ความรูค้ รบถ้วนตาม 7 9 ๑ - - ๔.18 มาก (41.18) (52.94) (5.88) เนอื้ หาในหลกั สูตร ๑.๔ หลกั สูตรและเน้ือหาในการ 6 10 ๑ - - ๔.12 มาก ฝกึ อบรมน่าสนใจ (35.30) (58.82) (5.88) 1.5 ใชเ้ วลาตามท่กี าหนดไว้ในหลักสตู ร 8 9 - - - ๔.47 มาก (47.06) (52.94) 1.6 วทิ ยากรตอบข้อซักถามในการ 7 9 ๑ - - ๔.18 มาก ฝกึ อบรมไดช้ ดั เจน (41.18) (52.94) (5.88) ๒.ดา้ นสถานท่/ี ระยะเวลา ๒.๑ สถานทสี่ ะอาดและเหมาะสม 8 9 - - - ๔.47 มาก (47.06) (52.94) ๒.๒ ความพร้อมของอปุ กรณ์ 98 - - ๔.53 มากทสี่ ดุ โสตทศั นปู กรณ์ (52.94) (47.06) ๒.๓ ระยะเวลาในการอบรมมคี วาม 6 10 ๑ - - ๔.12 มาก เหมาะสม (35.30) (58.82) (5.88) 3. ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ 3.1 ความรู้ ความเขา้ ใจในเร่ืองนี้ - 7 8 2 - 1.88 น้อย “ก่อน” การอบรม (41.18) (47.06) (11.76) 3.2 ความรู้ ความเข้าใจในเรื่อง “หลัง” 7 10 - - - ๔.18 มาก การอบรม (41.18) (58.82) 4.ดา้ นการนาความรู้ไปใช้ 4.๑ ท่านคิดวา่ สามารถนาความร้ไู ป 7 10 - - - ๔.18 มาก (41.18) (58.82) ประยุกตใ์ ช้ได้ 4.๒ ทา่ นคิดว่าสามารถนาความรูไ้ ป 6 11 - - - ๔.35 มาก (35.30) (64.71) เผยแพร่/ถ่ายทอดได้
รวมทง้ั สิน้ 86 120 13 2 - ๔.12 มาก คา่ เฉลย่ี ถ่วงนา้ หนัก (38.91) (54.30) (5.88) (0.91) ๔.12 ระดบั ความคิดเหน็ มาก จากตารางท่ี 6 จากการศึกษาพบวา่ ผเู้ ขา้ รว่ มอบรมส่วนใหญ่มคี วามพงึ พอใจต่อการจัดกิจกรรมโครงการพัฒนา เศรษฐกิจดจิ ทิ ัลชมุ ชน หลกั สูตร Digital Literacy การใชง้ านโปรแกรมสานักงานเพื่อการมงี านทา โดยรวมอย่ใู น ระดับ ( x = 4.12 ) มาก ๑.ดา้ นวิทยากร ๑.๑ การถา่ ยทอดความรู้ของวทิ ยากรมีความชัดเจน ( x = ๔.41 ) มาก ๑.๒ วทิ ยากรมคี วามสามารถในการอธิบายเน้ือหา ( x = ๔.24 ) มาก ๑.๓ วิทยากรให้ความรคู้ รบถ้วนตามเนื้อหาในหลักสูตร ( x = ๔.18 ) มาก ๑.๔ หลักสตู รและเนอื้ หาในการฝกึ อบรมนา่ สนใจ ( x = ๔.12 ) มาก 1.5 ใช้เวลาตามทก่ี าหนดไว้ในหลักสตู ร ( x = ๔.47 ) มาก 1.6 วิทยากรตอบข้อซักถามในการฝึกอบรมได้ชดั เจน ( x = ๔.18 ) มาก ๒.ด้านสถานที่/ระยะเวลา ๒.๑ สถานทสี่ ะอาดและเหมาะสม ( x = ๔.47 ) มาก ๒.๒ ความพรอ้ มของอุปกรณโ์ สตทศั นูปกรณ์ ( x = ๔.53 ) มากท่สี ุด ๒.๓ ระยะเวลาในการอบรมมีความเหมาะสม ( x = ๔.12 ) มาก ๓.ด้านความรู้ความเข้าใจ 3.1 ความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองน้ี “ก่อน” การอบรม ( x = 1.88 ) นอ้ ย 3.2 ความรู้ ความเข้าใจในเรื่อง “หลงั ” การอบรม ( x = ๔.18 ) มาก 4.ดา้ นการนาความรไู้ ปใช้ 4.๑ ท่านคดิ วา่ สามารถนาความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ได้ ( x = ๔.18 ) มาก 4.๒ ทา่ นคดิ ว่าสามารถนาความรไู้ ปเผยแพร่/ถา่ ยทอดได้ ( x = ๔.35 ) มาก ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ - หมายเหตุ คดิ คะแนนเฉพาะท่ีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากขึน้ ไป
สว่ นท่ี 5 สรุปผลโครงการ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การจดั กจิ กรรมโครงการพฒั นาเศรษฐกิจดจิ ทิ ลั ชุมชน หลักสตู ร Digital Literacy การใชง้ านโปรแกรม สานักงานเพื่อการมงี านทา มีจุดประสงค์ในการจัดกิจกรรมดังน้ี เพอ่ื ให้ผูเ้ ข้ารับการอบรม มคี วามรู้ ความเข้าใจ โครงการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลชุมชน หลักสตู ร Digital Literacy การใชง้ านโปรแกรมสานกั งานเพ่ือการมงี านทา ซง่ึ ผูเ้ ขา้ รับการอบรมต้องมีความตระหนักรู้ด้านความ มน่ั คงปลอดภัยทางไซเบอร์ 1. ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรม ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมโครงการ จานวน ๑7 คน - เพศชาย จานวน 6 คน - เพศหญิง จานวน 11 คน 2. เครอื่ งมอื ที่ใชใ้ นการอบรม ข้อมลู ปฐมภมู ิ ได้จากการกรอกแบบสอบถามของผ้เู ขา้ รว่ มกจิ กรรม ข้อมลู ทุติยภูมิ ศึกษาจากเอกสาร ขอ้ มูลตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วข้อง 3. การเก็บรวบรวมขอ้ มูล วเิ คราะหแ์ บบสอบถามในแต่ละส่วน ดังน้ี ตอนที่ 1 ข้อมูลสว่ นบุคคล ตอนท่ี 2 ประเมินความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ สรุปเป็นประเด็นที่สาคัญ ๔. วธิ กี ารวิเคราะห์ข้อมลู ในการวเิ คราะหข์ ้อมลู ผจู้ ัดได้ดาเนนิ การ 2 ลักษณะ คือ 4.1 การสงั เคราะหเ์ ชิงคณุ ลักษณะ ผจู้ ดั กจิ กรรมทาการสังเคราะห์โดยใช้วิธีการวิเคราะห์สังเคราะห์ 3 ด้าน คอื ข้อมูลทั่วไป ข้อมูล ความพึงพอใจในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน และขอ้ เสนอแนะ 4.2 การสังเคราะหก์ ารอบรมเชงิ ปริมาณ ในการสงั เคราะห์การจดั กจิ กรรมเชงิ ปรมิ าณ ผจู้ ัดกิจกรรมแยกออกเปน็ คณุ ลกั ษณะตา่ ง ๆ ใน การ สงั เคราะห์ข้อมลู ดังน้ี ๑. ข้อมูลเกยี่ วกบั เพศ / อายุ ๒. ขอ้ มูลระดับความพึงพอใจในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน ๓. ข้อเสนอแนะ โดยเปรียบเทยี บจานวนคนคิดเปน็ รอ้ ยละในแตล่ ะสว่ นของข้อมลู การอบรม พร้อมการบรรยายประกอบ
สรปุ ผลการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ผลการจดั กจิ กรรมเพ่ือให้ผเู้ ข้ารับการอบรม มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ โครงการพัฒนาเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั ชมุ ชน หลักสตู ร Digital Literacy การใช้งานโปรแกรมสานักงานเพื่อการมีงานทา โดยใชว้ ธิ กี ารวิเคราะห์ สังเคราะห์จาก แบบประเมนิ ความพึงพอใจในการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน และรปู แบบการจัดกจิ กรรม สามารถสรปุ ได้ดังนี้ การสงั เคราะห์ข้อมูลท่วั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม - ผ้เู ข้ารว่ มกจิ กรรมสว่ นใหญเ่ ปน็ เพศหญงิ ทาให้รอ้ ยละของเพศหญิงสูงกวา่ รอ้ ยละของเพศชาย - ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมสว่ นใหญ่เปน็ มีอายุตา่ กวา่ 20 ปี เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นนกั เรยี น/นกั ศึกษา หรือ ประชาชนท่วั ไป มีนักศกึ ษาให้ความสนใจในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมเป็นสว่ นมาก จึงทาให้มีค่ารอ้ ยละสงู การวเิ คราะหข์ ้อมลู เก่ยี วกบั ความพงึ พอใจในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ จากการศึกษาพบว่า ผู้เขา้ ร่วมอบรมส่วนใหญ่มคี วามพงึ พอใจต่อการจดั กิจกรรมโครงการพัฒนาเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ัลสชู่ มุ ชน หลกั สตู รการเข้าใจดจิ ทิ ลั (Digital Literlacy) โดยรวมอย่ใู นระดับ ( x = 4.12 ) มาก ๑.ด้านวิทยากร ๑.๑ การถา่ ยทอดความรขู้ องวิทยากรมคี วามชดั เจน ( x = ๔.41 ) มาก ๑.๒ วิทยากรมีความสามารถในการอธบิ ายเนื้อหา ( x = ๔.24 ) มาก ๑.๓ วทิ ยากรใหค้ วามรู้ครบถ้วนตามเน้ือหาในหลักสตู ร ( x = ๔.18 ) มาก ๑.๔ หลักสูตรและเนือ้ หาในการฝึกอบรมน่าสนใจ ( x = ๔.12 ) มาก 1.5 ใชเ้ วลาตามที่กาหนดไว้ในหลักสูตร ( x = ๔.47 ) มาก 1.6 วทิ ยากรตอบข้อซกั ถามในการฝกึ อบรมได้ชดั เจน ( x = ๔.18 ) มาก ๒.ด้านสถานท/่ี ระยะเวลา ๒.๑ สถานท่ีสะอาดและเหมาะสม ( x = ๔.47 ) มาก ๒.๒ ความพรอ้ มของอุปกรณโ์ สตทศั นูปกรณ์ ( x = ๔.53 ) มากท่สี ดุ ๒.๓ ระยะเวลาในการอบรมมีความเหมาะสม ( x = ๔.12 ) มาก ๓.ด้านความรู้ความเขา้ ใจ 3.1 ความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองน้ี “ก่อน” การอบรม ( x = 1.88 ) นอ้ ย 3.2 ความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่อง “หลัง” การอบรม ( x = ๔.18 ) มาก 4.ด้านการนาความรู้ไปใช้ 4.๑ ท่านคิดว่าสามารถนาความร้ไู ปประยุกตใ์ ช้ได้ ( x = ๔.18 ) มาก 4.๒ ทา่ นคิดวา่ สามารถนาความรู้ไปเผยแพร/่ ถ่ายทอดได้ ( x = ๔.35 ) มาก ตอนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะ - อภิปรายผล จากการดาเนินการพบประเด็นสาคญั ที่สามารถนามาอภปิ รายผลไดด้ งั น้ี 1. ดา้ นกลุม่ เป้าหมาย
1.1 กลุ่มเป้าหมายทเี่ ขา้ ร่วมโครงการพัฒนาเศรษฐกจิ ดจิ ิทัลชุมชน หลกั สูตร Digital Literacy การใชง้ านโปรแกรมสานักงานเพือ่ การมงี านทา ๑.๒ กลุม่ เป้าหมายมกี ารพฒั นาเศรษฐกิจดจิ ทิ ลั สชู่ มุ ชน หลักสูตร Digital Literacy การใช้งาน โปรแกรมสานักงานเพ่ือการมีงานทา 2. ด้านงบประมาณ 2.1 จากการดาเนินงานพบว่างบประมาณทใี่ ชใ้ นจัดกจิ กรรมโครงการพัฒนาเศรษฐกิจดจิ ิทลั ชุมชน หลักสูตร Digital Literacy การใช้งานโปรแกรมสานกั งานเพ่ือการมงี านทา เพียงพอต่อการจดั กิจกรรม โครงการในครงั้ น้ี 3. ด้านกจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.1 จากการดาเนินงานพบว่ากิจกรรมยดื หยุ่นตามสภาพกลุ่มเปา้ หมาย 4. ด้านสถานท่ี 4.1 การดาเนินการเปน็ ไปดว้ ยความสะดวก เรยี บร้อย เนอ่ื งจากได้ใช้พน้ื ท่ีของ กศน.ตาบลปา่ แดง อาเภอชาตติ ระการ จังหวัดพิษณโุ ลก ซง่ึ เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมโครงการพฒั นาเศรษฐกจิ ดจิ ิทัลชมุ ชน หลักสตู ร Digital Literacy การใช้งานโปรแกรมสานักงานเพ่ือการมีงานทา เพราะมีเครือ่ งมอื ส่ือสาร เทคโนโลยี และสัญญาณ อนิ เทอร์เน็ตพร้อม 4.2 การใชส้ ถานทขี่ องผู้เรียน/ผู้รับบริการเป็นจุดเรยี นรู้ในชุมชนทาให้เกดิ ความเช่ือมโยง สัมพนั ธ์ กันระหว่าง กศน. ผเู้ รยี น และชุมชน ข้อมลู ความตระหนัก ในการจัดกิจกรรมโครงการพัฒนาเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั ชุมชน หลกั สตู ร Digital Literacy การใช้งานโปรแกรม สานกั งานเพ่ือการมงี านทา ได้ดาเนนิ การเพอื่ ให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้บูรณาการความรู้ ประยุกตใ์ ช้ดิจิทลั สาหรับ ชุมชน และ นาความร้ทู ีไ่ ด้ไปจดั กระบวนการเรียนรู้ และผ้เู ขา้ รับการอบรมการใชเ้ คร่ืองมือดจิ ิทลั ในรูปแบบต่างๆ และสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ ข้อมูลการปฏิบตั ิ (ความพยายาม) นักศึกษา และประชาชน เกิดการเรียนรบู้ รู ณาการความรู้ สามารถประยกุ ต์ใช้ดิจิทลั สาหรับชุมชนได้ จดุ เด่น 1. กลมุ่ เป้าหมายมีความรับผิดชอบ 2. กิจกรรมตรงตามความต้องการของกล่มุ เปา้ หมาย 3. กลุม่ เปา้ หมายมีความสนใจในกิจกรรมของโครงการ 4. กลมุ่ เปา้ หมายสามารถนาความรทู้ ไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นการดาเนินชีวิตประจาวันของตนเองได้ จุดควรพฒั นา (จุดด้อย) ผ้เู รียนส่วนใหญ่เป็นเด็กวยั รุ่น บางคนไม่ตงั้ ใจฟังและชอบนั่งเลน่ เกมส์ในโทรศัพท์มอื ถอื บางคนขออนุญาต ออกนอกห้อง และไม่ทันอบรมในบางช่วง จึงทาให้ไม่ค่อยเขา้ ใจและช้ากว่าคนทีเ่ ขา้ อบรมตลอดหลักสูตร แนวทางการพัฒนา 1. ควรมีการจดั ให้จัดกจิ กรรมทีเ่ หมาะสมกบั วยั 2. ควรจัดให้กจิ กรรมหลากหลายรูปแบบ
วิธีการพฒั นา 1. สร้างความรู้ ความเขา้ ใจทด่ี ใี นการจดั โครงการพฒั นาเศรษฐกิจดิจทิ ลั ชมุ ชน หลักสูตร Digital Literacy การใชง้ านโปรแกรมสานักงานเพื่อการมงี านทา กลุ่มเปา้ หมายมีความรับผิดชอบในการจัดกจิ กรรมการ เรียนการสอน ให้ผ้เู รยี น/ผ้รู บั บรกิ ารเห็นความสาคัญ ๒. ปรับวธิ ีการจดั กิจกรรมใหเ้ หมาะสมกบั ผ้เู รียน/ผ้รู ับบริการ ใหม้ คี วามยืดหยุน่ โดยไม่เนน้ หนว่ ยการ เรยี นรู้ตามหลกั สูตร แตใ่ ห้ยดึ ตวั ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ แลว้ จึงนาผลการดาเนนิ งานมาปรับปรุงในครั้งต่อไป ข้อเสนอแนะในการดาเนินการครั้งต่อไป 1. ควรทาการศึกษาความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้เคร่ืองมือท่ีหลากหลายรูปแบบ เพ่ือให้ได้ ข้อมลู ทีถ่ ูกตอ้ ง ตรงตามความต้องการของผ้เู รยี นมากที่สดุ 2. ควรศึกษาความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในด้านต่าง ๆ ท่ีต้องการรับบริการจาก กศน. เพื่อให้ทราบ และสามารถจัดกิจกรรมตามหลักสูตรใหส้ อดคลอ้ งกบั ความต้องการของท้องถนิ่ ได้ 3. ควรศึกษาผลกระทบจาการดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยการศึกษาจากกลุ่มเป้าหมาย และชุมชน 4. ควรเก็บข้อมลู ของผู้เขา้ รับการอบรมหลังการอบรมด้วยทุกคร้ัง
ภาคผนวก
ภาพประกอบ โครงการพฒั นาเศรษฐกจิ ดิจิทัลชุมชน หลกั สตู ร Digital Literacy การใชง้ านโปรแกรมสานกั งานเพื่อการมีงานทา ระหว่างวนั ที่ 20 – 21 กรกฎาคม 2565 ณ กศน.ตาบลป่าแดง อาเภอชาติตระการ จงั หวดั พิษณโุ ลก
ภาพประกอบ โครงการพฒั นาเศรษฐกจิ ดิจิทัลชุมชน หลกั สตู ร Digital Literacy การใช้งานโปรแกรมสานกั งานเพื่อการมีงานทา ระหว่างวนั ท่ี 20 – 21 กรกฎาคม 2565 ณ กศน.ตาบลป่าแดง อาเภอชาติตระการ จงั หวดั พิษณโุ ลก
คณะทางาน ทป่ี รึกษา ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอชาติตระการ 1. นางพรสวรรค์ กันตง ครผู ชู้ ่วย 2. นางสาวชมพูนุช ล้วนมงคล คณะทางาน ลว้ นมงคล ครูผู้ช่วย 1. นางสาวชมพนู ชุ วนั ชน่ื ครอู าสาสมคั รฯ 2. วา่ ที่ พ.ต.บุญส่ง ยศปญั ญา ครูอาสาสมัครฯ 3. นางสาวภาณมุ าศ บุญประกอบ ครอู าสาสมคั รฯ 4. นางสาวประยูร แต่งเนตร ครู กศน.ตาบลบ้านดง 5. นางสาวสภุ าพร พระคาสอน ครู กศน.ตาบลชาตติ ระการ 6. นางสาวนภิ าพร มั่นหยวก ครู กศน.ตาบลสวนเมยี่ ง 7. นางสาวกัญญณชั พว่ งปน่ิ ครู กศน.ตาบลป่าแดง 8. นายอษั ฎาพร แสงสีบาง ครู กศน.ตาบลทา่ สะแก 9. นางสาวเปียทิพย์ จติ มัน่ ครู กศน.ตาบลบอ่ ภาค 10. นางปรศิ นา แฟงวัชรกลุ บรรณารักษอ์ ัตราจา้ ง 11. นางสาวนา้ อ้อย ผรู้ บั ผดิ ชอบ/ผู้เรยี บเรียบ/ผู้จัดรปู เล่ม/ออกแบบปก 1. นางสาวเปียทิพย์ แสงสบี าง ครู กศน.ตาบล
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: