หลักการครองตน วิชา การศาสนาและศีลธรรม หลักสูตร นายสิบช้ันต้น
นาเสนอโดย ร.ท.ถนอมชยั สุทธแิ สน นทน.อศจ.ชั้นสงู รุน่ ที่ ๑๐
เบญจศีลและเบญจธรรม เป็นธรรมคู่กัน คนท่ีมีเบญจธรรมจึงจะ เป็นผู้มีเบญจศีล ซึ่งหากคนมีศีลและธรรมดังกล่าวแล้ว จะเว้นจาก การทาความช่ัว รู้จักควบคุมตนให้ต้ังอยู่ในความดี ไม่เบียดเบียนตน และ คนอ่ืน และประพฤติชอบทางกาย วาจา และใจ จะทาให้อยู่ รว่ มกับ คนอ่นื ในสังคมได้ อยา่ งมีความสุข
ปาณาตบิ าต ละเว้นจากการฆ่าสตั ว์ และการเบียดเบยี นสตั ว์ อทินนาทาน ละเวน้ จากการลกั ขโมย ปลน้ จ้ี ฉกชงิ วิ่งราว เปน็ ต้น กาเมสมุ จิ ฉาจาร ละเว้นจากการประพฤตผิ ดิ ลว่ งละเมดิ ลูกเมยี ผอู้ ่นื มสุ าวาท ละเวน้ จากการพูดปด พูดคาหยาบ พดู เพอ้ เจอ้ พดู สอ่ เสียด สรุ าเมระยะ ละเวน้ จากการเสพสรุ า เพราะเปน็ สาเหตใุ ห้ทาผิดศีลขอ้
เมตตากรุณา รวู้ ่าทุกชวี ติ มคี วามรกั ตวั กลัวตายเชน่ เดยี วกบั เรา สัมมาอาชีพ ประกอบอาชีพทีส่ จุ ริต ท่สี าคัญรูจ้ กั คาวา่ พอดี ความสารวมอินทรีย์ ระมัดระวัง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ รู้จักยบั ย้ังชัง่ ใจ ความซ่อื สัตย์ การพูดความจรงิ ซอ่ื ตรง ไม่โกหกหลอกลวง สติ การรสู้ กึ ตวั ทาใหช้ ีวติ ไม่ประมาท เพราะร้วู ่าอะไรดี อะไรช่วั
ธรรมโลกบาล ธรรมทชี่ ่วยใหโ้ ลกมคี วามเป็นความสขุ ระเบยี บ เรยี บร้อย ไม่เดอื ดร้อน และไมส่ ับสนวนุ่ วาย ความละอายใจต่อบาปที่จะเกิดขน้ึ จนสามารถชนะใจ ตัวเอง หยุดความชวั่ ในด้านกฎแห่งกรรม และทางกฎหมาย ทค่ี ดิ จะกระทาได้ หริ ิ ความละอายแกใ่ จ โอตตปั ปะ ความเกรงกลัวต่อบาป
ธรรมมีอปุ การะมาก ธรรมทช่ี ว่ ยเหลือสนับสนุนในการทาความดที กุ อยา่ ง ผ้ทู ีม่ ใี จอัน สตแิ ละ สมั ปชญั ญะ เข้ากากบั อยเู่ สมอแลว้ ย่อมประพฤติกาย วาจา ในทางท่ถี ูก ทคี่ วร ยอ่ มไดร้ บั ผลคอื ความสขุ ความเย็นใจไม่เดือดร้อน สตสิ ัมปชญั ญะ เปน็ ธรรมทม่ี ีอปุ การะมากแก่คนทกุ คน สติ ความระลกึ ได้, นึกได,้ สานึกอยไู่ ม่เผลอ สมั ปชัญญะ ความรชู้ ัด สิง่ ท่นี ึกได้ เข้าใจชดั ตามความเป็นจรงิ
บุคคลหาได้ยาก บุพการี ผ้ทู ท่ี าคุณ ใหแ้ กต่ นมาก่อน กตัญญกู ตเวที ผู้รู้อปุ การคุณทผ่ี ู้อืน่ ทาแก่ตนนั้นและไดต้ อบแทน ด้านวงศ์ตระกลู บิดามารดา ปยู่ า่ ตายาย ด้านการศกึ ษา ครูอาจารย์ ดา้ นการปกครอง พระมหากษัตริย์ ดา้ นศาสนา องคพ์ ระศาสดา
ธรรมให้สง่างาม ขันติ ความอดทน อดกลั้นตอ่ ส่งิ ต่างๆ โสรัจจะ ความสงบเสงีย่ ม รกั ษามารยาทกริ ยิ าวาจาใหเ้ รยี บร้อย สภาพทตี่ อ้ งเผชิญ ๓ ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ ๑. ทนต่อการตรากตรา แม้จะลาบาก แดดรอ้ นหรอื หนาวสกั ปานใดก็ทนได้ ๒. ทนตอ่ ความลาบาก ทนตอ่ ทุกขเวทนาอันเกิดแตค่ วามเจบ็ ไขอ้ ย่างแรงกลา้ ๓. ทนตอ่ การเจบ็ ใจ ทนตอ่ ความหม่นิ ประมาทเสียดสีที่ผอู้ ืน่ ทาต่อเรา
อิทธิบาท ทางสูค่ วามสาเร็จ หมายถึง คณุ ธรรม ซึ่งจะทาใหบ้ รรลุความสาเรจ็ ตามที่ ตงั้ เป้าหมายไว้ ผูห้ วังความสาเรจ็ ในส่ิงใด ต้องทาตนให้สมบูรณ์ ด้วยสิ่งท่ีเรียกวา่ อิทธบิ าท ซ่งึ จาแนกไว้เปน็ ๔ คอื ฉันทะ ความพอใจรกั ใคร่ในส่งิ นั้น วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น จิตตะ ความเอาใจใสฝ่ ักใฝ่ในสิง่ น้นั วมิ ังสา ความหม่นั สอดสอ่ งในเหตุผลของสง่ิ นั้น พอใจทา แข็งใจทา ตง้ั ใจทา เข้าใจทา
การบาเพญ็ จิตภาวนาเบื้องตน้ การมี สติ รูส้ กึ ตัวทว่ั พร้อม
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: