ก คำนำ การอ่านมีความสำคญั ต่อชีวิตมนุษยแ์ ต่เกิดจนโต และจนกระทั่งถึงวัยชราการอ่านทำ ให้รู้ ข่าวสาร ข้อมูลต่างๆทั่วโลกซึ่งปัจจุบันเป็นโลกของข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทั่วโลกทำให้ผู้อ่านมีความสุข มี ความหวัง และมีความอยากรู้อยากเห็น อันเป็นความต้องการของมนุษย์ทุกคน การอ่านมีประโยชน์ในการ พัฒนาตนเอง อยากเห็น การที่จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าได้ต้องอาศัยคนที่มี ความรู้ ความสามารถ ซ่ึงความรตู้ ่าง ๆ กไ็ ด้มาจากการอ่านนั่นเอง(ฉวีวรรณ คูหาภินนนท์,2542) จากนโยบายและจดุ เน้นการดําเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ทม่ี ภี ารกจิ ในการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ตระหนักถึงความสำคญั ของการพัฒนา คนตลอดชว่ งชีวติ ได้ม่งุ มั่นขับเคล่ือนภารกจิ หลักตามแผนพัฒนาประเทศ และนโยบายการจัดการศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีข้อสั่งการและนโยบายให้สำนักงาน กศน. ได้มีข้อสั่งการและนโยบายให้กับ สำนักงาน กศน. ดำเนนิ การขยายผลการส่งเสริมการอ่านเคล่ือนท่ใี ห้ครอบคลุมพื้นท่ีมากย่ิงขึ้นนั้น สำนักงา นกศน. จังหวัดทุกแห่ง ทุกพื้นที่จึงได้ดำเนินการจัดโครงการกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่ในรูปแบบ ต่างๆให้กับชุมชน กลุ่มเป้าหมายและผู้สนใจทั่วไปซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับงบประมาสนับสนุนสำหรับการ จดั ซอ้ื สอื่ วัสดุอปุ กรณ์และการจดั กิจกรรมเพื่อการศึกษาเรียนรู้ทน่ี ่าสนใจและเปน็ ประโยชน์ให้กับรถส่งเสริม การอ่านเคลื่อนที่ รถห้องสมุดเคลื่อนที่และเพื่อการพัฒนางานห้องสมุดประชาชนเคลื่อนที่ในรูปแบบต่างๆ ให้มีความพร้อมเหมาะสมมีคุณภาพและประสิทธิภาพสำหรับให้บริการประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งใน ชมุ ชนเมอื งและชุมชนหา่ งไกลให้ได้รบั ประโยชน์มคี วามสขุ กับการศึกษาเรียนรู้การพฒั นาตนเองและสงั คม ห้องสมุดประชาชนจังหวัดชลบุรี เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการอ่าน เคลื่อนที่ให้ เพื่อส่งเสริมการอ่านให้เป็นนิสัยของคนในชุมชน จึงดำเนินโครงการพัฒนาห้องสมุดประชาชน เคล่อื นทีเ่ พอ่ื การส่งเสรมิ การอ่าน โดยนำหนังสอื /ส่ือการเรียนรู้และกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบต่างๆ เป็นกจิ กรรมเชิงรกุ รว่ มกับเครือข่ายห้องสมุด เพื่อหาการศึกษาเรยี นรู้ การพฒั นาตนเอง และสงั คม สำหรับ กลุ่มเป้าหมายตามสถานท่ีตา่ ง ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึง่ ในการขับเคลื่อนการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อสร้างสังคมแห่ง การเรยี นรู้ต่อไปตามทค่ี ณะรัฐมนตรีมีมตเิ หน็ ชอบกำหนดให้การอ่านเปน็ วาระแหง่ ชาติ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานการสรุปผลการดำเนินโครงการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การใช้สื่อสังคมออนไลน์ นักศึกษา กศน. ในการประเมินความพึงพอใจด้านต่างๆ จะเป็น ประโยชน์และเป็นข้อมูลในการวางแผน การดำเนินงาน สำหรับการจัดโครงการ/กิจกรรมสำหรับนักศึกษา กศน. ตอ่ ไป ปณั ณวิชญ์ สขุ ทวี กนั ยายน 2565
ข -ข- สารบัญ หนา้ คำนำ......................................................................................................................... ..................................ก สารบัญ......................................................................................... ...............................................................ข สารบัญตาราง.................................................................................................................. ............................ค สารบญั ภาพ.................................................................................................................................................ง บทที่ 1 บทนำ ความเปน็ มาและความสำคญั ......................................................................................................1 วตั ถุประสงค์ ...............................................................................................................................1 เป้าหมาย ....................................................................................................................................1 ระยะเวลาดำเนินงาน ..................................................................................................................1 ผลลัพธ์ .......................................................................................................................................1 ดัชนวี ัดผลสำเรจ็ ของโครงการ.....................................................................................................2 บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและบทความท่เี กี่ยวขอ้ ง ...............................................................................3 ยทุ ธศาสตร์และจดุ เน้นการดำเนนิ งาน สำนักงาน กศน.ประจำปงี บประมาณ พ.ศ.2565 ........3 แนวทางการดำเนนิ งานของ กศน.อำเภอเมืองชลบุรี....................................................................6 กรอบการจัดกจิ กรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ..........................................................................10 แนวทางการจดั การศึกษาและการเรยี นรู้ กศน ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ ( COVID – 19 ).....................................................................................................12 เอกสาร/บทความทเี่ ก่ียวข้อง.......................................................................................................14 บทท่ี 3 วิธดี ำเนินงาน.............................................................................................................................20 ประชุมบคุ ลากรกรรมการสถานศึกษา .........................................................................................20 จัดตั้งคณะทำงาน........................................................................................................................20 ประสานงานกบั ผ้เู รยี น/วทิ ยากรผสู้ อน........................................................................................20 ดำเนนิ การตามแผนงานโครงการ.................................................................................................21 สรปุ ผลและรายงาน.....................................................................................................................21
ค สารบัญ(ตอ่ ) หน้า บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งานและการวเิ คราะหข์ ้อมลู ................................................................................22 ตอนที่ 1 ข้อมลู สว่ นตัวผแู้ บบสอบถามโครงการปลูกฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม การใช้สอ่ื สงั คม ออนไลน์ นักศึกษา กศน.ประจำปี 2565 ..............................................................................................22 ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเหน็ ทีม่ ีตอ่ โครงการปลูกฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม การใช้สอื่ สังคมออนไลน์ นักศกึ ษา กศน. ประจำปี 2565 ……………………................................. .....................….….25 บทที่ 5 สรุป อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ...........................................................................................26 สรุปผล.................................................................................................................................26 อภิปรายผล..........................................................................................................................27 ปัญหาและอุปสรรค ..............................................................................................................28 ขอ้ เสนอแนะ.........................................................................................................................28 บรรณานกุ รม...........................................................................................................................................29 ภาคผนวก.................. ..............................................................................................................................30 คณะผู้จัดทำ
ง -ค- สารบัญภาพ หน้า ภาพท่ี 1 การให้บริการสง่ เสริมการอา่ นของ ห้องสมดุ ประชาชนจังหวัดชลบรุ ี............................................ 14 2 นกั เรยี นใช้บรกิ ารสง่ เสรมิ การอ่านเคล่อื นทชี่ องกศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี........................................ 16 3 การส่งเสรมิ การอา่ น รถโมบายเคลอื่ นทขี่ อง สำนักงาน กศน. .................................................... 19 4 การให้บริการสง่ เสริมการอ่านเคลอ่ื นท่ี ของ ห้องสมุดประชาชนจังหวัดชลบุรี............................ 19
จ -ง- สารบญั ตาราง ตารางที่ 1. แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามเพศ.................................................22 2. แสดงคา่ รอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอายุ.................................................22 3. แสดงคา่ รอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอาชีพ ..............................................23 4. แสดงค่ารอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามการศึกษา........................................ 23 5. ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจเข้ารว่ มโครงการส่งเสริมการอ่านคลื่อนทีประจำปี 2565.........24
บทท่ี 1 บทนำ ความเป็นมา การอา่ นมคี วามสำคัญตอ่ ชีวติ มนุษยแ์ ต่เกดิ จนโต และจนกระทั่งถึงวยั ชราการอ่านทำ ใหร้ ูข้ า่ วสาร ข้อมลู ตา่ งๆท่ัวโลกซ่ึงปัจจบุ ันเปน็ โลกของข้อมลู ขา่ วสารต่างๆ ทว่ั โลกทำใหผ้ ู้อ่านมีความสุข มี ความหวัง และมี ความอยากรอู้ ยากเห็น อันเป็นความตอ้ งการของมนุษย์ทุกคน การอ่านมีประโยชน์ในการ พัฒนาตนเอง อยาก เหน็ การที่จะพัฒนาประเทศให้เจรญิ รงุ่ เรืองก้าวหน้าไดต้ ้องอาศยั คนที่มี ความรู้ความสามารถ ซ่ึงความร้ตู ่าง ๆ กไ็ ดม้ าจากการอ่านนนั่ เอง(ฉวีวรรณ คูหาภินนนท์,2542) ตามที่ รัฐบาลและกระทรวงศกึ ษาธิการ ได้มีข้อส่ังการและนโยบายใหส้ ำนกั งาน กศน. ได้มีขอ้ ส่ังการ และนโยบายใหก้ ับสำนักงาน กศน. ดำเนนิ การขยายผลการส่งเสรมิ การอ่านเคลื่อนทใี่ ห้ครอบคลมุ พืน้ ท่ีมาก ย่ิงขนึ้ นน้ั สำนกั งานกศน. จงั หวดั ทกุ แหง่ ทุกพ้ืนท่จี ึงได้ดำเนนิ การจัดโครงการกจิ กรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนท่ี ในรูปแบบตา่ งๆให้กบั ชมุ ชน กลุ่มเปา้ หมายและผูส้ นใจทัว่ ไปซ่งึ จำเป็นจะต้องไดร้ บั งบประมาสนับสนุนสำหรับ การจดั ซือ้ ส่ือวัสดอุ ุปกรณ์และการจัดกจิ กรรมเพ่ือการศึกษาเรยี นรู้ทน่ี า่ สนใจและเปน็ ประโยชนใ์ หก้ บั รถสง่ เสรมิ การอา่ นเคล่ือนท่ี รถหอ้ งสมุดเคลื่อนทแี่ ละเพ่ือการพัฒนางานหอ้ งสมุดประชาชนเคลื่อนทใ่ี นรูปแบบ ตา่ งๆใหม้ ีความพร้อมเหมาะสมมีคุณภาพและประสิทธภิ าพสำหรบั ให้บรกิ ารประชาชนทุกกลมุ่ เป้าหมายท้งั ใน ชุมชนเมืองและชมุ ชนห่างไกลใหไ้ ด้รับประโยชนม์ ีความสุขกับการศึกษาเรยี นรูก้ ารพฒั นาตนเองและสังคม สว่ นรวมต่อไป ห้องสมุดประชาชนจงั หวดั ชลบุรี เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคล่ือนนโยบายส่งเสริมการอ่านเคล่ือนที่ให้ เพื่อส่งเสริมการอ่านให้เป็นนิสัยของคนในชุมชน จึงดำเนินโครงการพฒั นาห้องสมุดประชาชนเคลือ่ นท่ีเพื่อการ ส่งเสรมิ การอ่าน โดยนำหนังสอื /สื่อการเรยี นรู้และกิจกรรมสง่ เสริมการอ่านในรูปแบตา่ งๆ เป็นกิจกรรมเชิงรุก ร่วมกับเครือข่ายห้องสมุด เพื่อหาการศึกษาเรียนรู้ การพัฒนาตนเอง และสังคม สำหรับกลุ่มเป้าหมายตาม สถานที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสว่ นหนึ่งในการขบั เคลื่อนการเรยี นรู้ตลอดชวี ิตเพื่อสร้างสงั คมแห่งการเรียนรู้ต่อไปตามท่ี คณะรฐั มนตรมี ีมตเิ ห็นชอบกำหนดใหก้ ารอ่านเปน็ วาระแห่งชาติ จากหลักการและเหตุผลดังกล่าวงานห้องสมุดประชาชนจังหวัดชลบรุ ี ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองชลบรุ ี ได้เล็งเหน็ ความสำคญั ของการอา่ นและการเรยี นรู้ตลอดชีวติ จึงได้จัด โครงการห้องสมดุ เคลอ่ื นท่ี ประจำปีงบประมาณ 2565 ข้ึน วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อใหส้ ่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนตระหนักถึงความสำคญั ของการอา่ นและมนี ิสยั รักการอา่ น 2. เพอื่ ส่งเสริมการศกึ ษา การเรียนรู้ และการพฒั นาตนเองสำหรบั กลุ่มเปา้ หมาย 3. เพื่อสรา้ งเครือขา่ ยสง่ เสริมการอ่านของชมุ ชน
2 เปา้ หมาย เชงิ ปรมิ าณ - เด็กและเยาวชน , นักศกึ ษา กศน. อำเภอเมืองชลบุรี , สมาชกิ หอ้ งสมุด และประชาชนท่ัวไป จำนวน 400 คน เชิงคุณภาพ - เด็กและเยาวชน , นกั ศกึ ษา กศน. อำเภอเมืองชลบรุ ี , สมาชกิ หอ้ งสมุด และประชาชนทั่วไป ตระหนกั ถึงความสำคัญของการอา่ นและมีนสิ ัยรักการอ่าน ผลลัพธ์ - สามารถสร้างและส่งเสริมนิสยั รกั การอ่านให้กบั กลุ่มเป้าหมายและผเู้ ข้ารว่ มโครงการ - สามารถส่งเสริมการศึกษา การเรียนรู้ และการพฒั นาตนเองสำหรบั กลมุ่ เป้าหมาย - สามารถสร้างเครือขา่ ยในการส่งเสริมการอา่ นภายในชมุ ชน ดชั นตี วั ช้ีวดั ผลสำเรจ็ ของโครงการ ตวั ชี้วัดผลผลติ - ผู้เข้ารว่ มโครงการอยา่ งน้อยร้อยละ 80 ของเปา้ หมายทไ่ี ด้กำหนด - ร้อยละ 60 ของผู้เข้าร่วมโครงการได้รับโอกาสและการเรียนรู้ทางด้านกจิ กรรมส่งเสริมการอ่าน และรูปแบบการศึกษาตามอธั ยาศัยทมี่ ีคุณภาพ ตวั ชว้ี ดั ผลลัพธ์ - ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ฯ ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั ไดข้ อง เปา้ หมาย - ผ้เู ขา้ ร่วมโครงการ ฯ สมารถนำไปขยายผลได้ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 5 ของเป้าหมาย
๓ บทท่ี 2 เอกสารการศกึ ษาและบทความทเ่ี ก่ยี วข้อง ในการจดั ทำรายงานโครงการส่งเสริมการอ่านเคลอ่ื นที่ ประจำปี 2565 ครัง้ น้ี ผูจ้ ดั ทำได้ศกึ ษา คน้ ควา้ เนื้อหาเอกสารการศึกษาทเี่ กย่ี วข้อง ดงั นี้ 1. ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 2. แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ของ กศน. อำเภอเมืองชลบุรี 3. กรอบ/แนวทางการจดั กิจกรรม 4. บทความทเ่ี กย่ี วข้อง 1. ยทุ ธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนนิ งาน สำนกั งาน กศน.ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 ประกาศสำนักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั เรื่อง นโยบายและจุดเน้นการดําเนนิ งาน สำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ดว้ ยสำนกั งาน กศน. เป็นหนว่ ยงานที่มีภารกจิ ในการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั ตระหนักถึงความสำคัญของการพฒั นาคนตลอดช่วงชีวติ ได้ม่งุ มนั่ ขับเคลือ่ นภารกจิ หลกั ตาม แผนพัฒนาประเทศ และนโยบายการจัดการศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธิการ ทคี่ ำนึงถงึ หลกั การบรหิ ารจดั การ ท้งั ในเรือ่ งหลักธรรมาภิบาล หลกั การกระจายอำนาจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร การมุง่ เนน้ ผลสัมฤทธ์ิ การปฏบิ ัตกิ ารดา้ นข้อมูลข่าวสาร และการสร้างบรรยากาศในการทำงานและการเรยี นรู้ ตลอดจนการใช้ทรัพยากรดา้ นการจัดการศึกษาอยา่ งมีคุณภาพ อนั จะนาํ ไปสู่การสรา้ งโอกาสและลดความ เหลื่อมล้ำทางการศึกษา การยกระดบั คณุ ภาพและเพิ่มประสทิ ธิภาพการให้บริการสำหรบั ทุกกล่มุ เปา้ หมาย และสร้างความพงึ พอใจใหก้ บั ผรู้ ับบรกิ าร อาศยั อำนาจตามความในมาตรา ๑๔ แหง่ พระราชบญั ญัติสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. ๒๕๕๑ สำนกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จึง ประกาศนโยบายและจดุ เนน้ การดาํ เนนิ งาน สำนกั งาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ดังนี้ ๑. หลักการ กศน. เพื่อประชาชน “กศน. ก้าวใหม่ : ก้าวแห่งคณุ ภาพ” 2. ภารกิจสำคญั ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ ๒.๑ โครงการสง่ เสรมิ โอกาส ความเสมอภาคและความเทา่ เทยี มทางการศึกษา “พานอ้ ง กลบั มาเรยี น” ตดิ ตามและรายงานขอ้ มูลประชากรวัยเรยี นทห่ี ลดุ จากระบบการศึกษา พรอ้ มทงั้ ดำเนินการ ช่วยเหลือ และสนบั สนุนใหก้ ลับเข้าสสู่ ถานศึกษาทีเ่ หมาะสมตามบริบทต่อไป ๒.๒ โครงการ “กศน. ปกั หมุด” สํารวจ ติดตาม ค้นหา และรวบรวมข้อมลู กลุ่มเป้าหมาย คน พกิ าร พร้อมนำกลบั เข้าสู่ระบบการศึกษา โดยวางแผนการจดั การศกึ ษาใหส้ อดคล้องกบั บริบทและความ ต้องการ ของคนพกิ ารอยา่ งแท้จริง เพอื่ ให้คนพกิ ารสามารถเข้าถึงการศกึ ษาในรูปแบบที่เหมาะสม อยา่ งมี คุณภาพ ๒.๓ โครงการสถานศึกษาปลอดภัย นาํ ระบบมาตรฐานความปลอดภัย MOE Safety Center ผ่านศูนย์ความปลอดภัย สำนักงาน กศน. มาใชแ้ ก้ปญั หาความไมป่ ลอดภัยของนักศึกษา ครู และบุคลากร กศน.
๔ ๒.๔ การแก้ไขปัญหาหน้สี นิ ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ๓. จดุ เนน้ การดาํ เนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ๓.๑ ด้านการจดั การเรยี นรู้คณุ ภาพ 1) นอ้ มนาํ พระบรมราโชบายส่กู ารปฏบิ ัติ รวมท้ังส่งเสริมและสนบั สนุนการดาํ เนนิ งาน โครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดํารทิ กุ โครงการ หรอื โครงการอันเกีย่ วเนือ่ งจากราชวงศ์ ๒) ขับเคล่อื นการจดั การเรียนรทู้ ส่ี นองตอบยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายของ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร และรฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ๓) สง่ เสริมการจดั การศึกษาเพอ่ื เสริมสร้างความมั่นคง การสรา้ งความเข้าใจท่ถี ูกตอ้ ง ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย การเรียนรทู้ ่ีปลกู ฝงั คุณธรรมจรยิ ธรรม สรา้ งวินยั จติ สาธารณะ และ อุดมการณ์ ความยึดม่นั ในสถาบันหลกั ของชาติ การส่งเสริมการรู้เท่าทันสือ่ และข้อมลู ข่าวสาร และทักษะการใช้ เทคโนโลยีดจิ ิทัล (Social Media) รวมถึงการใชก้ ระบวนการจิตอาสา กศน. ผ่านกจิ กรรมต่าง ๆ ๔) ปรบั ปรุงหลักสูตรทุกระดับทุกประเภท ให้สอดรับกบั การพัฒนาคน ทศิ ทางการ พฒั นา ประเทศ สอดคลอ้ งกับบริบทท่ีเปล่ยี นแปลง ความต้องการและความหลากหลายของผเู้ รียน/ผู้รบั บรกิ าร รวมถึง ปรับลดความหลากหลายและความซ้ำซ้อนของหลกั สูตร เชน่ หลักสูตรการศึกษาสำหรบั กลุ่มเปา้ หมาย บนพน้ื ทสี่ ูง พ้นื ท่พี เิ ศษและพื้นทชี่ ายแดน รวมท้ังกลุ่มชาติพันธุ์ ๕) ปรับระบบทดสอบ วัดผล และประเมนิ ผล โดยเนน้ การใชเ้ ทคโนโลยีเปน็ เคร่อื งมือ ให้ ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการประเมินผลการเรยี นรไู้ ดต้ ามความตอ้ งการ เพ่ือการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ ให้ ความสำคัญกับการเทียบระดับการศึกษา และการเทยี บโอนความรแู้ ละประสบการณ์ พัฒนาระบบการประเมนิ สมรรถนะผเู้ รยี นให้ตอบโจทย์การประเมินในระดับประเทศและระดบั สากล เชน่ การประเมินสมรรถภาพผูใ้ หญ่ ตลอดจนกระจายอำนาจไปยงั พื้นที่ในการวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ๖) ส่งเสริมการใชเ้ ทคโนโลยใี นการจดั หลกั สตู รการเรียนรู้ในระบบออนไลน์ดว้ ยตนเอง ครบวงจร ต้ังแต่การลงทะเบียนจนการประเมินผลเมอื่ จบหลักสูตร ท้งั การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษา ขั้น พ้ืนฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษาตามอธั ยาศัย เพ่ือเปน็ การสรา้ งและขยายโอกาสในการเรยี นรใู้ หก้ ับ กล่มุ เปา้ หมายทส่ี ามารถเรียนรูไ้ ด้สะดวก และตอบโจทย์ความตอ้ งการของผเู้ รยี น ๗) พฒั นา Digital Learning Platform แพลตฟอร์มการเรียนรขู้ องสำนักงาน กศน. ตลอดจนพฒั นาส่ือการเรยี นรู้ท้งั ในรูปแบบออนไลนแ์ ละออฟไลน์ และใหม้ ีคลังส่ือการเรยี นรู้ที่เปน็ ส่อื ที่ถกู ต้อง ตามกฎหมาย ง่ายต่อการสืบค้นและนาํ ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ ๘) เรง่ ดำเนนิ การเรือ่ ง Academic Credit-bank System ในการสะสมและเทียบโอน หนว่ ยกติ เพื่อการสรา้ งโอกาสในการศกึ ษา ๙) พัฒนาระบบนเิ ทศการศึกษา การกำกบั ตดิ ตาม ทั้งในระบบ On-Site และ Online รวมทงั้ ส่งเสริมการวิจัยเพ่ือเป็นฐานในการพฒั นาการดาํ เนินงานการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อัธยาศยั ๓.๒ ดา้ นการสร้างสมรรถนะและทักษะคณุ ภาพ ๑) ส่งเสรมิ การจัดการศกึ ษาตลอดชีวิต ทีเ่ น้นการพฒั นาทักษะทีจ่ ำเป็นสำหรบั แตล่ ะช่วง วัย และการจดั การศกึ ษาและการเรียนร้ทู ีเ่ หมาะสมกบั แตล่ ะกลุม่ เป้าหมายและบริบทพน้ื ที่ ๒) พัฒนาหลกั สูตรอาชีพระยะสั้น ท่ีเนน้ New skill Upskill และ Reskill ทีส่ อดคลอ้ ง กับบรบิ ทพื้นที่ ความต้องการของกล่มุ เป้าหมาย ความต้องการของตลาดแรงงาน และกลุ่มอาชีพใหม่ท่รี องรบั Disruptive Technology
๕ ๓) ยกระดับผลิตภณั ฑ์ สินค้า บรกิ ารจากโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน ทีเ่ น้น “สง่ เสริม ความรู้ สรา้ งอาชีพ เพ่มิ รายได้ และมคี ุณภาพชวี ิตท่ีดี” ใหม้ คี ณุ ภาพมาตรฐาน เปน็ ทยี่ อมรบั ของตลาด ต่อยอด ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ เพอ่ื สรา้ งมูลค่าเพ่ิม พัฒนาส่วู สิ าหกิจชมุ ชน ตลอดจนเพ่มิ ช่องทางประชาสัมพนั ธแ์ ละช่องทาง การจาํ หนา่ ย ๔) สง่ เสริมการจัดการศกึ ษาของผู้สูงอายุ เพ่ือใหเ้ ป็น Active Ageing Workforce และมี Life skill ในการดำรงชวี ติ ทเี่ หมาะกับช่วงวัย ๕) ส่งเสรมิ การจดั การศึกษาที่พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรบั กลุ่มเป้าหมายพเิ ศษ เช่น ผู้ พกิ าร ออทสิ ติก เดก็ เรร่ ่อน และผ้ดู ้อยโอกาสอ่ืน ๆ ๖) ส่งเสรมิ การพัฒนาทกั ษะดจิ ทิ ัลและทกั ษะดา้ นภาษา ให้กับบุคลากร กศน.และผูเ้ รียน เพ่ือรองรับการพฒั นาประเทศ ๗) ส่งเสรมิ การสร้างนวตั กรรมของผูเ้ รียน กศน. ๘) สร้างอาสาสมัคร กศน. เพ่ือเป็นเครอื ข่ายในการส่งเสรมิ สนบั สนนุ การจดั การศกึ ษา ตลอดชวี ิตในชุมชน ๙) สง่ เสริมการสรา้ งและพัฒนานวตั กรรมของบคุ ลากร กศน. รวมท้ังรวบรวมและ เผยแพร่เพื่อใหห้ น่วยงาน / สถานศกึ ษา นำไปใชใ้ นการพฒั นากระบวนการเรยี นรู้รว่ มกัน ๓.๓ ดา้ นองคก์ ร สถานศกึ ษา และแหล่งเรียนร้คู ุณภาพ ๑) ทบทวนบทบาทหนา้ ทขี่ องหนว่ ยงาน สถานศึกษา เช่น สถาบนั กศน.ภาค สถาบนั การศึกษาและพฒั นาต่อเนือ่ งสริ ินธร สถานศกึ ษาขึ้นตรงสงั กดั ส่วนกลาง กลมุ่ สำนักงาน กศน.จงั หวดั ศูนยฝ์ กึ และพฒั นาอาชพี ราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพ่ือเพ่มิ ประสิทธิภาพในการขับเคลอ่ื นการจัดการศกึ ษา ตลอดชวี ติ ในพน้ื ท่ี ๒) ยกระดบั มาตรฐาน กศน.ตำบล และศนู ยก์ ารเรยี นรชู้ ุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้า หลวง” (ศศช.) ใหเ้ ป็นพ้ืนทกี่ ารเรยี นรู้ตลอดชีวติ ท่สี ำคญั ของชมุ ชน 3) ปรับรูปแบบกิจกรรมในห้องสมุดประชาชน ทเ่ี นน้ Library Delivery เพื่อเพม่ิ อัตรา การอ่านและการรหู้ นังสอื ของประชาชน ๔) ใหบ้ ริการวิทยาศาสตร์เชงิ รุก Science@home โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครือ่ งมือนำ วิทยาศาสตร์สชู่ ีวิตประจำวันในทกุ ครอบครวั ๕) ส่งเสรมิ และสนับสนนุ การสรา้ งพ้ืนท่กี ารเรยี นรู้ ในรปู แบบ Public Learning Space Co-Learning Space เพือ่ การสร้างนิเวศการเรยี นรใู้ หเ้ กิดขน้ึ ในสงั คม ๖) ยกระดับและพฒั นาศูนยฝ์ ึกอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน ใหเ้ ป็นสถาบนั พัฒนา อาชีพระดับภาค ๗) สง่ เสริมและสนับสนนุ การดำเนนิ งานของกลุ่ม กศน. จงั หวัดให้มปี ระสิทธิภาพ ๓.๔ ด้านการบรหิ ารจัดการคณุ ภาพ ๑) ขบั เคลื่อนกฎหมายวา่ ด้วยการส่งเสริมการเรยี นรู้ตลอดชีวิต ตลอดจนทบทวนภารกิจ บทบาทโครงสรา้ งของหนว่ ยงานเพ่อื รองรับการเปล่ยี นแปลงตามกฎหมาย ๒) ปรบั ปรงุ กฎหมาย ระเบียบ คำสงั่ และขอ้ บังคับตา่ ง ๆ ให้มคี วามทันสมัย เอื้อต่อการ บริหารจัดการ และการจดั การเรยี นรู้ เชน่ การปรับหลักเกณฑค์ ่าใช้จ่ายในการจัดหลักสตู รการศกึ ษาต่อเนื่อง ๓) ปรับปรุงแผนอตั รากำลัง รวมท้ังกำหนดแนวทางทีช่ ดั เจนในการนำคนเข้าสตู่ ำแหน่ง การย้าย โอน และการเลอ่ื นระดับ
๖ ๔) ส่งเสรมิ การพัฒนาบุคลากรทกุ ระดบั ใหม้ คี วามรแู้ ละทกั ษะตามมาตรฐานตำแหน่งให้ ตรงกับสายงาน และทักษะทจ่ี ำเปน็ ในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ๕) ปรบั ปรงุ ระบบการจดั สรรทรัพยากรเพอื่ การศกึ ษา ใหม้ คี วามครอบคลมุ เหมาะสม เช่น การปรบั คา่ ใช้จ่ายในการจัดการศกึ ษาของผู้พกิ าร เด็กปฐมวยั ๖) ปรับปรุงระบบฐานข้อมลู สารสนเทศด้านการศึกษา เพือ่ การบริหารจดั การอยา่ งเปน็ ระบบ เช่น ข้อมลู การรายงานผลการดำเนนิ งาน ข้อมูลเดก็ ตกหลน่ จากการศกึ ษาในระบบ เด็กเร่ร่อน ผูพ้ ิการ ๗) สง่ เสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เปน็ เครอ่ื งมอื ในการบรหิ ารจดั การอย่างเตม็ รูปแบบ ๘) สง่ เสรมิ พฒั นาคุณภาพการบรหิ ารจดั การภาครฐั สรู่ ะบบราชการ ๔.๐ และการ ประเมนิ คุณภาพและความโปรง่ ใสการดำเนินงานของภาครัฐ (ITA) ๙) เสริมสร้างขวญั และกำลงั ใจ ให้กับขา้ ราชการและบุคลากรทุกประเภทในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ การประกาศเกยี รติคณุ การมอบโล่ / วฒุ ิบตั ร ๑๐) ส่งเสริมการมสี ่วนรว่ มของภาคเี ครอื ข่ายทุกภาคส่วน เพอ่ื สรา้ งความพร้อมในการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย และการส่งเสรมิ การเรียนรู้ตลอดชวี ติ สำหรบั ประชาชน 2. แนวทาง/กลยทุ ธ์การดำเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ของ กศน. อำเภอเมืองชลบุรี ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอเมืองชลบรุ ีได้กำหนดทิศทางการ ดำเนนิ งาน ตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจำปี โดยมีรายละเอียด ดังน้ี ทศิ ทางการดำเนินงานของสถานศกึ ษา ปรัชญา “คดิ เป็น ทำเปน็ เนน้ ICT” วิสยั ทัศน์ “จัดการศึกษาตลอดชีวติ ผกู มติ รกับเครือขา่ ย กระจายความรสู้ ู่ชมุ ชน ทุกทที่ ุกเวลาดว้ ย ICT มี อาชพี และแข่งขนั ในประชาคมอาเซยี นอย่างยั่งยนื ” อตั ลักษณ์ “กา้ วไปในยุคดจิ ิทลั ” เอกลักษณ์ “องคก์ รออนไลน์” พนั ธกิจ 1. จดั และสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียน มีความรกู้ ารศึกษาขั้นพนื้ ฐานอยา่ งมคี ุณภาพ 2. จดั การศึกษาอาชีพใหผ้ เู้ รยี นมีอาชพี ทำได้ ขายเปน็ และมีทักษะชวี ิตทเี่ หมาะสมทกุ ชว่ งวัย 3. จดั และสง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนนำเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่อื พฒั นาตนเองและสรา้ งชอ่ งทางการจำหนา่ ย สินค้า 4. จดั และส่งเสรมิ การศึกษาตามอธั ยาศยั ที่มงุ่ ใหผ้ ้รู บั บริการมนี สิ ยั รักการอา่ น และพฒั นาแหลง่ เรยี นรู้ ในชมุ ชน 5. จดั และสง่ เสริมสนบั สนนุ พฒั นาแหล่งเรยี นรู้ สอ่ื และภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน
๗ 6. จดั และสง่ เสริมการศึกษาตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อพฒั นาสังคมและชุมชนให้มี ความเข้มแขง็ อย่างยง่ั ยนื 7. จดั และส่งเสริมประชาชนให้เป็นพลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธิปไตย 8. ส่งเสริม สนบั สนุน ภาคีเครือขา่ ย ใหม้ ีส่วนรว่ มในการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อธั ยาศยั เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชวี ติ 9. พัฒนารปู แบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใหส้ อดคล้องกับพน้ื ทรี่ ะเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาค ตะวันออก (EEC) และความตอ้ งการของกลมุ่ เป้าหมาย 10. พฒั นาบุคลากรให้มีสมรรถนะในการปฏิบัตงิ านตามบทบาทหนา้ ที่อย่างมีประสทิ ธิภาพและ ต่อเนื่องโดยเนน้ การนำเทคโนโลยดี จิ ทิ ัลมาใช้ในการบรหิ ารจดั การ 11. สถานศึกษามรี ะบบการบริหารจดั การตามหลกั ธรรมมาภิบาล 12. ปฏบิ ัติงานอื่น ๆ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย เป้าประสงค์ และตวั ชวี้ ัดความสำเร็จ เปา้ ประสงค์ ตวั ชวี้ ดั ความสำเร็จ ประชาชนไดร้ ับโอกาสทางการศึกษาในรูปแบบ ร้อยละของประชากรกลุ่มตา่ งๆ (กลมุ่ ประชากรวยั ของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม แรงงานปกติทวั่ ไป กลุ่มประชากรวัยแรงงานที่เป็นผู้ อัธยาศัยที่มีคุณภาพอย่างทัว่ ถึงและเปน็ ธรรม ยากไร้ ผู้ดอ้ ยโอกาส ผพู้ ิการ และกล่มุ ผสู้ งู อาย)ุ ที่ ได้รบั บรกิ ารการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอย่างทั่วถงึ ครอบคลุมและเปน็ ธรรม ผ้เู รียนท่ีเขา้ รับการฝึกอาชีพมีสมรรถนะในการ รอ้ ยละของผเู้ รยี นทเ่ี ขา้ รบั การศึกษาอาชีพเพื่อการมี ประกอบอาชีพ สามารถประกอบอาชีพทส่ี รา้ ง งานทำทมี่ สี มรรถนะในการประกอบอาชีพท่ีเพมิ่ ขน้ึ รายไดใ้ หก้ บั ตนเองและครอบครวั ได้ องค์กรภาคสว่ นต่างๆรว่ มเป็นภาคเี ครือขา่ ยใน จำนวนของภาคีเครอื ข่ายในการดำเนนิ งานการศกึ ษา การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพิ่มมากขนึ้ การศึกษาตามอธั ยาศัยอยา่ งกว้างขวาง สถานศกึ ษานำเทคโนโลยีดิจทิ ลั มาใชใ้ นการเพิ่ม รอ้ ยละของของผเู้ รยี นท่มี ีความพงึ พอใจต่อการใช้ ประสทิ ธภิ าพการจดั การศกึ ษานอกระบบและ เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลของสถานศึกษา การศกึ ษาตามอธั ยาศัยอยา่ งท่ัวถึง บุคลากรของสถานศึกษาไดร้ บั การพัฒนาเพ่อื เพ่มิ ร้อยละของบุคลากรของสถานศึกษาทีไ่ ดร้ บั การพฒั นา สมรรถนะในการปฏบิ ัติงานการศึกษานอกระบบ เพ่อื เพม่ิ สมรรถนะในการปฏิบัติงานการศึกษานอก และการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอย่างท่วั ถงึ ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั โดยเน้นการนำ เทคโนโลยดี จิ ิทัลมาใชใ้ นการบรหิ ารจดั การ สถานศกึ ษามีการพฒั นาระบบการบริหาร ร้อยละของสถานศึกษามีการพฒั นาระบบการบรหิ าร จดั การเพื่อเพิม่ ประสิทธิภาพโดยเน้นการนำ จัดการเพ่ือเพิม่ ประสิทธภิ าพโดยเน้นการนำเทคโนโลยี เทคโนโลยดี ิจิทลั ในการดำเนินงานการศึกษา ดจิ ิทัลในการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั การศกึ ษาตามอธั ยาศัย บุคลากรของหน่วยงานปฏบิ ัติงานตามท่ีไดร้ ับ ร้อยละของบุคลากรของสถานศกึ ษาปฏบิ ัติงานไดเ้ ต็ม มอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ประสทิ ธิภาพ
๘ กลยุทธ์ กลยทุ ธท์ ี่ 1 สง่ เสริม และพฒั นาคณุ ภาพการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ใหเ้ ปน็ ไป ตามนโยบายและมาตรฐานการศึกษาอยา่ งต่อเนื่อง กลยทุ ธท์ ่ี 2 ส่งเสริมใหผ้ ู้รับบริการได้รบั การพฒั นาคุณภาพชีวิตโดยใชก้ ระบวนการคิดเป็นตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง กลยทุ ธท์ ี่ 3 สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ให้ภาคเี ครอื ขา่ ยมีส่วนร่วมในการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย เพอื่ ให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชวี ติ กลยุทธ์ที่ 4 พฒั นาหลกั สตู รและรูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ให้สอดคล้องกับพ้ืนทเี่ ขตพฒั นา พิเศษภาคตะวนั ออก (EEC) และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยการมสี ว่ นรว่ มของภูมิปญั ญาท้องถิน่ และแหลง่ เรียนรทู้ ง้ั ภาครัฐและเอกชน กลยุทธท์ ่ี 5 สง่ เสริมให้มกี ารประชาสมั พันธ์ ในรูปแบบท่ีหลากหลาย กลยทุ ธ์ท่ี 6 พัฒนาระบบการนิเทศภายในสถานศึกษาโดยใชก้ ระบวนการมีสว่ นร่วมจากทุกภาคส่วน กลยทุ ธ์ที่ 7 พัฒนาระบบคุณภาพการศึกษาโดยใช้วงจรการพัฒนาคณุ ภาพ (PDCA) เป็นหลกั ในการ จัดการศึกษา กลยุทธท์ ี่ 8 พัฒนาบคุ ลากรของสถานศกึ ษาใหม้ ีความสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทลั เพ่ือการจดั กระบวนการเรยี นรู้ การบริหารจดั การ และส่งเสริมการทำงานเปน็ ทีม เข็มมุ่งสู่ความสำเรจ็ 1. มี กศน.ตำบลเป็นหลักแหลง่ 2. มีคอมฯ/อุปกรณ์ครบทุก กศน.ตำบล 3. ใหท้ ุกคนมีความรู้ ICT 4. มีระบบจดั เก็บ/รายงานผา่ นออนไลน์ 5. ภายใน1-2 ปตี ้องเป็น 1 ใน กศน.จังหวัด 6. ภายใน 3 ปีต้องเป็น 1-5 ของสำนักงาน กศน. การบริหารนำ ICT สู่การปฏบิ ัติ 1.การจดั หาคอมฯ/อุปกรณ์ 2.ขนั้ การพฒั นา 3.การประเมินผล/รายงาน 1. การจัดหาคอมฯ/อุปกรณ์ 1.1 การเปิดตัว กศน.ตำบล โดย 1) เชิญสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.),สมาชิกวุฒสิ ภา (ส.ว.) เป็นตน้ 2) นำนักศึกษา กศน. หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ปัจจบุ ันมีท้ังส้ิน 4,621 คน 3) เชญิ ภาคเี ครือขา่ ย อาทิเชน่ โรงเรียน, อบต., เทศบาล, อบจ. , อำเภอ เปน็ ต้น 4) เสนอโครงการพฒั นา กศน.ตำบล ให้เปน็ แหล่งเรียนรูด้ ้านดิจิทลั 1.2 เชิญส.ส./ส.ว. เข้าร่วมทุกกจิ กรรม 1) โครงการเข้าค่ายต่าง ๆของนกั ศึกษา กศน. 2) โครงการวนั วิชาการ ของนักศกึ ษา กศน. 3) โครงการ อ่นื ๆ
๙ 2. ข้ันการพฒั นา 2.1 พฒั นาระบบ จะพัฒนาระบบการจัดเก็บ/รายงานต่างๆผา่ นออนไลน์ 2.2 พฒั นาคน 1) ครู กศน./จนท.ทุกคน 2) นกั ศึกษา กศน.หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ท้ัง 2 กลุ่มเป้าหมาย ต้องมีความรู้ ด้าน ICT และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ สำหรับในสว่ นของนักศึกษา กศน. หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กศน.อำเภอเมืองชลบุรี จะต้องประกาศเปน็ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ พร้อมท้ังใชง้ บอดุ หนุน (กจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน) ในการ ขบั เคลื่อน โดยจัดโครงการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ด้าน ICT พรอ้ มท้ังจดั ทำสรุปเป็นรปู เล่ม ( 5 บท) 3.การประเมนิ ผล/รายงาน 3.1 รายงานผา่ นออนไลน์ โดยผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เนต็ http://118.172.227.194:7003/choncity/ และจัดทำ Application รายงานผ่านทางสมาร์ทโฟน 3.2 รายงานสรุปผลเป็นรูปเล่ม (5 บท) จัดทำสรุปผลโครงการ/กจิ กรรม เปน็ รูปเล่ม (5บท) เพื่อรองรบั การประเมินคณุ ภาพโดยต้นสังกัด และภายนอก
๑๐ 3. กรอบการจัดกจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนตามนโยบายการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐานสำนกั งาน กศน. (เอกสารแนบทา้ ยหนงั สือ สำนกั งาน กศน. ดว่ นท่สี ดุ ที่ 0210.04/475 ลงวันที่ 2 กมุ ภาพนั ธ์ 2558) ----------------------------- 1. หลักการ ตามที่รัฐบาลมีนโยบายด้านการศึกษา เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและกระจายโอกาส ทางการศึกษาในสังคมไทยโดยคำนึงถึงการสร้างความเสมอภาค ความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นแก่ประชากร ทุกกลุ่มรวมถึงผู้ยากไร้ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการผู้บกพร่องทางกาย/ทางการเรียนรู้ชนกลุ่มน้อย โดยสนับสนุนการ จัดการศึกษาตามวัยและพัฒนาการอย่างมีคุณภาพตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ การจัดการศึกษาชมุ ชนเพ่อื มุง่ ใหเ้ กิดสังคมแห่งการเรียนรแู้ ละการศกึ ษาตลอดชีวติ นนั้ สำนกั งาน กศน. ได้กำหนดนโยบายด้าน การจดั การศึกษานอกระบบ แผนงานสนบั สนุนการ จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสนับสนุน 1) ค่าเล่าเรียน 2) ค่าหนังสือเรียน 3)ค่าจัดกิจกรรมพัฒนา คณุ ภาพผูเ้ รียนอยา่ งท่วั ถงึ เพ่ือเพมิ่ โอกาสในการรับการศกึ ษาที่มคี ณุ ภาพโดยไม่เสียค่าใชจ้ ่าย เพื่อให้การจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวอย่างมี ประสิทธิภาพ สำนักงาน กศน.จึงกำหนดกรอบการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายการจัด การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงาน กศน. ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ให้สถานศึกษาจัดเพิ่มเติม จากการเรียนปกติ ให้กับนักศกึ ษา กศน.ตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบข้ันพนื้ ฐาน 2. กรอบการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน เพือ่ ใหส้ ถานศึกษาได้จัดกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น เป็นไปในแนวทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เกดิ ความคุ้มคา่ ประหยดั เกิดประโยชน์ต่อผูเ้ รยี นและทางราชการสงู สุด สำนกั งาน กศน. จึงได้กำหนดกรอบการจดั กจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน 2.1 กิจกรรมพัฒนาวิชาการ เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้เพียงพอกับการศึกษาในแต่ละระดับ และพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถทางด้านวิชาการเพิ่มมากขึ้นในรายวิชาตามหลักสูตรสถานศึกษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์หรือวิชาอื่นๆ ตามความต้องการของนักศึกษา กศน. โดยมีรูปแบบการดำเนินงาน ดังน้ี 2.1.1วิทยากรหรือผู้สอน ควรเป็นผู้ที่มีความรู้หรือประสบการณ์ในการสอนวิชานั้นๆ โดยตรง ซึง่ อาจจะเปน็ บุคคลภายนอก หรือ ครู กศน. ได้ตามความเหมาะสม 2.1.2 จำนวนนกั ศกึ ษา กศน. ทรี่ ่วมกจิ กรรม ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของผู้บรหิ ารสถานศึกษา 2.2 กจิ กรรมพฒั นาทักษะชวี ิต เป็นการจัดกิจกรรมเสริมเพิ่มเติมจากการเรียนปกติในสาระทักษะการดำเนินชีวิต หลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เนื่องจากสังคมปัจจบุ นั มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วท้ังดา้ น เศรษฐกิจ สังคมข่าวสารข้อมูล และเทคโนโลยี มีการแข่งขันและความขัดแย้งมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ สถานศึกษาต้องจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตให้กับ นักศึกษา กศน. โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อให้มี ความรู้ ความเข้าใจ มีเจตคติ ค่านิยมที่ถูกต้อง และมีทักษะ หรือความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นในการเผชิญ ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต เช่น ปัญหายาเสพติด การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ เพศสัมพันธ์ ทะเลาะวิวาท ครอบครวั แตกแยก ความรุนแรง ภัยพิบัติ ความเครียด ฯลฯ รวมทั้งมีคุณสมบัติที่พึงประสงค์ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นใน
๑๑ สังคมได้อย่างมีความสุขและสามารถนำความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่าง เหมาะสม ทักษะชีวิต 10 ประการ (ขององค์การอนามัยโลก) ที่นักศึกษา กศน.ทุกคนจำเป็นต้องมี คือ 1) ทักษะการตัดสินใจ 2) ทักษะการแก้ปัญหา 3) ทักษะการคิดสร้างสรรค์ 4) ทักษะการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 5) ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 6) ทักษะการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น 7) ทักษะ การตระหนักรู้และเหน็ คุณค่าในตนเอง 8) ทักษะการเข้าใจผู้อื่น 9) ทักษะการจดั การกบั อารมณ์ 10) ทักษะ การจัดการกบั ความเครยี ด
๑๒ แนวทางการจดั การศึกษาและการจัดการเรียนรู้ กศน. ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID – 19)
๑๓
๑๔ บทความที่เกย่ี วข้อง สอ่ื พัฒนา ทกั ษะการอ่าน อยา่ งจรงิ จงั จะช่วยให้เราเข้าใจหนงั สอื ทม่ี ีเนอ้ื หายากๆ ได้ ภาพที่ 1 การให้บริการส่งเสริมการอา่ นของ หอ้ งสมุดประชาชนจังหวดั ขลบุรี How to Read a Book เราคงชอบที่จะอ่านหนังสือสบายๆ อ่านแล้วเพลิดเพลิน แต่เวลาที่เราต้องอ่านบทความงานวิจัยหรือหนังสือ ที่ไม่ใช่สิ่งท่ีเราสนใจ เราต้องฝืนทนอ่านมันให้จบ ซ่ึงมันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้ มันมีวิธีที่จะทำให้เราอ่าน หนังสือพวกนั้นได้ง่ายและเร็วข้ึน หนังสือ How to read a book จะช่วยให้เราอ่านหนังสือได้ดีข้ึน ไม่ว่าจะ เป็นหนังสือเรียนหรือนิยายเล่มหนา บันทึกการอ่าน ข้อคิดดีๆ • เรียนรู้การฝึกทักษะการอ่าน • รู้จักระดับของการอ่าน การอ่านขั้นพื้นฐาน อ่านเพื่อตรวจสอบ อ่านเพื่อวิเคราะห์ และอ่าน เพ่ือเปรียบเทียบ • เวลาอ่านหนังสือ เราจะต้องต้ังใจอ่าน มีสมาธิในการอ่าน จะได้เข้าใจเนื้อหาจากหนังสือ • การอ่านเพ่ือตรวจสอบ อ่านแบบผ่านๆ เพื่อให้รู้ว่าควรซื้อหนังสือเล่มนั้นหรือไม่ • การอ่านเพื่อวิเคราะห์ เราต้องอ่านและเข้าใจเน้ือหาให้ละเอียด • เราควรวิจารณ์หนังสือด้วยความเป็นกลาง ไม่ลำเอียง ไม่โน้มเอียง ไม่เข้าข้าง เราไม่ควร วิจารณ์หนังสือถ้าเรายังไม่เข้าใจสิ่งท่ีคนเขียนต้องการจะสื่อ • การอ่านเพื่อเปรียบเทียบ เป็นการอ่านข้อความบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับรายงานหรือบทความท่ี เราจะเขียน • การฝึกทักษะการอ่าน จะช่วยให้เราเข้าใจหนังสือที่มีเน้ือหายากๆ ได้ ทำไมทักษะการอ่านของเราจึงไม่พอที่จะทำให้เราเข้าใจหนังสือท่ีมีเน้ือหายากๆ แล้วทำยังไงถึงจะพัฒนา ทักษะการอ่านได้
๑๕ ทักษะการอ่าน การจะได้รับประโยชน์เต็มที่จากการอ่านหนังสือสักเล่ม เราต้องอ่านอย่างจริงจังต้ังใจและมี ทักษะการอ่านเวลาอ่านนิยาย เวลาที่เราอ่านหนังสือท่ีเราชอบ บางทีเราจะหลุดเข้าไปในโลกของนิยาย ทำ ให้เราเพลินจนไม่รู้ตัว น่ันเพราะว่าเราอ่านหนังสือด้วยความสนุกเพลิดเพลิน เราไม่ต้องคาดหวัง เราจะรู้สึก ผ่อนคลายและแทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามในการอ่านเลย แต่หลายครั้งที่เราต้องอ่านหนังสือเพราะเรา ต้องทำความเข้าใจเน้ือหาให้ได้ เช่น ต้องอ่านเพ่ือไปสอบและสำหรับบางคนการอ่านหนังสือมันคือยานอน หลับดีๆ น่ีเอง แต่ถ้าเราฝึกฝนการอ่านให้ดี เราก็จะได้รับความรู้หรือแรงบันดาลใจจากหนังสือได้อย่างเต็มที่ การอ่านหนังสือให้ได้ดี เราจะต้องต้ังใจและมีสมาธิ ไม่ใช่แค่อ่านเพ่ือรับรู้ข้อมูล แต่ต้องเข้าใจคนเขียน ต้อง วิเคราะห์ รู้จักสงสัย เพราะมันจะทำให้เราเข้าใจเน้ือหาได้มากข้ึนคร้ังแรกท่ีเราอ่านหนังสือที่มีเนื้อหายากๆ ให้เราอ่านตลอดทั้งเล่มโดยที่ไม่ต้องหยุด ถึงแม้ว่าจะมีบางอย่างท่ีเราไม่เข้าใจ ทักษะการอ่านแบ่งออกเป็น หลายระดับแต่ละระดับมีความต่อเน่ืองกัน การอ่านข้ันพื้นฐาน เป็นการอ่านโดยท่ีเราสามารถจำและรู้ความหมายของคำ เข้าใจโครงสร้างประโยค และเข้าใจ ความหมายท่ีเปล่ียนไปของคำที่อยู่ในแต่ละสภาพแวดล้อมหรือเงื่อนไขที่ต่างกัน เม่ือเราอ่านได้ในระดับนี้ มันก็พอท่ีจะทำให้เราอ่านหนังสือเพื่อรับรู้ข้อมูลหรือเพ่ือความสนุก แต่การท่ีเราจะอ่านให้เข้าใจอย่างถ่อง แท้เราจะต้องฝึกทักษะการอ่านข้ันสูงกว่านี้ สิ่งแรกที่เราต้องรู้คือ เราจะต้องตั้งใจอ่าน มีสมาธิในการอ่าน เหมือนที่เราเล่นโยนลูกบอล คน เขียนหนังสือคือคนโยน และคนอ่านคือคนรับ ถ้าเราไม่ตั้งใจรับ เราก็จะรับบอลไม่ได้ เราก็จะไม่เข้าใจส่ิงที่ คนเขียนต้องการส่ือ ดังนั้นเราจะอ่านแบบเฉื่อยๆแล้วคาดหวังว่าข้อมูลที่สำคัญมันจะไหลเข้าหัวเราได้เองมันเป็นไป ไม่ได้การจะเข้าใจเน้ือหาจากหนังสือคนอ่านจำเป็นต้องต้ังใจและฝึกฝนทักษะการอ่าน การอ่านเพื่อตรวจสอบ การอ่านจับใจความสำคัญ เวลาที่เราเลือกหนังสืออยู่ท่ีร้าน ในเวลาสั้นๆ ท่ีเราต้องตัดสินใจว่าควรจะซ้ือดีไหม เราจะใช้ การอ่านเพื่อตรวจสอบ อ่านแบบผ่านๆ เพ่ือให้รู้ว่าควรซื้อหรือไม่ หลังจากน้ันเราค่อยอ่านให้ละเอียดอีกที เริ่มด้วยการตรวจดูช่ือหนังสือหรือคำนำ ก็พอจะรู้ว่าเป็นหนังสือแบบไหน อ่านสารบัญหรือคำนิยมท่ีมันจะ เผยให้เรารู้ว่าเน้ือหาในหนังสือเก่ียวกับอะไร ทำให้เรารู้ว่าเราควรจะซื้อเล่มน้ันหรือเปล่า ถึงตอนนี้เรา อาจจะรู้แล้วว่ามีบทไหนที่เก่ียวข้องกับสิ่งท่ีเราสนใจ ใช้เวลาส้ันๆ เพื่ออ่านบทนำและบทสรุป จับใจความ สำคัญในข้อความแต่ละย่อหน้า เปิดข้ามไปแล้วสุ่มอ่านบางบท บางประโยค และอ่านหน้าท้ายๆ ที่คนเขียน มักจะสรุปเนื้อหาหรือประเด็นสำคัญของหนังสือ หนังสือท่ีดีคือหนังสือที่เข้าใจยากมันคงไม่ดีถ้ามันไม่ยาก ทักษะอีกอย่างท่ีเกี่ยวข้องกับการอ่านเพ่ือตรวจสอบคือการอ่านแบบผิวเผิน เวลาท่ีเราอ่าน หนังสือท่ีมีเนื้อหายากๆ มันจะทำให้เราต้องหยุดทำความเข้าใจคำท่ีเราไม่คุ้นเคย ทำให้เราต้องเปิด พจนานุกรม หรือทำให้เราต้องไปอ่านหนังสือเล่มอ่ืนเพื่อทำความเข้าใจ การที่เราต้องหยุดมันจะทำให้เรา อ่านได้ไม่ต่อเนื่อง ทำให้เราเสียสมาธิได้ จนอาจจะทำให้เราต้องวางหนังสือเล่มน้ันไปเลยสิ่งที่เราควรทำคือ ถึงแม้จะมีบางอย่างท่ีเราไม่เข้าใจ แต่ก็ให้เราอ่านผ่านๆ ไปก่อน อ่านให้จบให้เข้าใจภาพรวมของท้ังเล่ม หลังจากนั้นเราค่อยกลับไปอ่านให้ละเอียดอีกรอบ ซ่ึงมันจะทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้น
๑๖ การอ่านเพ่ือตรวจสอบเป็นเทคนิคการอ่านท่ีช่วยให้เรารู้ว่า หนังสือเล่มน้ีเกี่ยวกับอะไร เป็นหนังสือประเภท อะไร ทำให้เราซึมซับพื้นฐานเบ้ืองต้นได้ในเวลาที่จำกัดก่อนท่ีเราจะอ่านหนังสือทั้งเล่ม เราจะไม่รู้ว่าหนังสือ มันจะประโยชน์หรือเปล่า การอ่านผ่านๆ จะทำให้เราตัดสินใจได้ว่า เราจะใช้เวลาอ่านท้ังเล่มหรือเราควร จะซื้อหนังสือเล่มนี้หรือเปล่าการอ่านผ่านๆ เร่ิมจากอ่านทีละส่วน เริ่มจากชื่อหนังสือ สารบัญ และคำนำ อ่านข้ามบางบทหรือข้ามบางหน้า เปิดไปอ่านส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับส่ิงที่เราสนใจ มันจะช่วยให้เรารู้ว่าหนังสือ เล่มนี้เหมาะสำหรับเราหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่เราก็จะไม่ต้องซ้ือถ้าเราตัดสินใจได้แล้วว่าหนังสือเล่มน้ีเหมาะ สำหรับเรา เราถึงจะใช้เวลาอ่านมันทั้งเล่ม แต่การอ่านคร้ังแรก เราไม่ต้องทำความเข้าใจทุกอย่างในหนังสือ อาจจะมีบางอย่างท่ีเราไม่เข้าใจ เราจะปล่อยมันไป การรู้ว่าหนังสือมันเก่ียวกับอะไร จะช่ว ยให้เราเข้าใจ เนื้อหาตอนที่เราอ่านซ้ำจริงจังอีกรอบ ภาพที่2นักเรียนใช้บริการส่งเสริมการอ่านเคล่ือนท่ีชองกศน.อำเภอเมืองชลบุรี การอ่านเพ่ือวิเคราะห์ การอ่านในระดับนี้ คือการค้นหาโครงสร้างและการเรียบเรียงเนื้อหาของหนังสือ การตัดสิน และการอ้างเหตุผลของคนเขียน การอ่านในระดับน้ีเราจะอ่านเพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ และจำเป็นต้อง เพ่ิมความต้ังใจให้มากข้ึน ไม่ว่ามันจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน เราจะใช้คำถามต่อไปนี้เพ่ือช่วยในเวลาท่ีเรา อ่านเพ่ือวิเคราะห์ หนังสือทั้งเล่มมันเก่ียวกับอะไร วิธีที่เร็วและง่ายที่จะจำแนกหนังสือคือการดูจากภาษาที่ คนเขียนใช้หรือดูจากช่ือหนังสือ หลังจากจำแนกหนังสือได้แล้ว ก็ถึงเวลาท่ีต้องเน้นไปที่เน้ือหา ถึงจุดน้ีเรา ต้องรู้ว่าแต่ละประเด็นมันเก่ียวข้องกับทั้งเล่มยังไง โดยการสรุปเน้ือหาและค้นหาประเด็นต่างๆ ให้ได้เร่ิม วิเคราะห์หนังสือด้วยการดูว่าคนเขียนต้องการนำเสนออะไร แล้วเค้ามีวิธีท่ีจะค่อยๆ ทำให้เราเข้าใจ ประเด็นหลักยังไง เริ่มจากการตรวจสอบช่ือหนังสือ คำนำและสารบัญ แล้วดูว่ามันเป็นหนังสือประเภทอะไร หมวดหมู่อะไร เป็นหนังสือทางทฤษฎีหรือปฏิบัติ เป็นหนังสือท่ีให้ความรู้หรือให้คำแนะนำแนวทางหลัง จากนั้นค่อยค้นหาหาธีมหลักของหนังสือ เป้าหมายของคนเขียน และโครงสร้างของหนังสือ เราควรจะสรุป ประเด็นหลักของหนังสือออกมาเป็นคำพูดของเราเองได้ ดูว่าแต่ละประเด็นมันเกี่ยวข้องกันยังไง หลังจากท่ี เราคุ้นเคยกับหนังสือ การอ่านแบบวิเคราะห์ก็จะเหมือนกับการเค้ียวและการย่อยเน้ือหาในหนังสือถ้าเรารู้ ว่าหนังสือมันเก่ียวกับทฤษฎี เราก็จะรู้ว่าหนังสือเล่มนั้นมันจะ Abstract มากกว่าหนังสือแนะนำประเภท How-to ในหนังสือคณิตศาสตร์ ก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวกับชีวิต หรือคำแนะนำในการดำเนินชีวิตการจะรู้ว่าเรา เข้าใจส่ิงที่คนเขียนต้องการจะส่ือ เราควรจะสรุปออกมาเป็นคำพูดของเราเองสุดท้ายคือรู้ว่าคนเขียนตั้งใจ อยากจะให้เราได้อะไรจากการอ่าน ให้เราลองสรุป ดูว่ามีคำถามอะไรบ้างที่คนเขียนต้องการจะตอบ หรือมี ปัญหาอะไรที่คนเขียนต้องการจะแก้ คนเขียนพูดถึงอะไรและนำเสนอยังไง ข้ันตอนน้ีเราจะต้องดูให้
๑๗ ละเอียดลึกไปถึงส่วนย่อย เพ่ือให้แนวคิด ความเห็นและการใช้เหตุผลมันเผยออกมาเราต้องเข้าใจคนเขียน คนเขียนหนังสือคือคนที่ต้องการขายไอเดีย การที่เราจะบอกได้ว่าหนังสือเล่มไหนดี เราจะต้องเข้าใจ คำศัพท์ที่คนเขียนใช้และการใช้เหตุผลสนับสนุนแนวคิด วิธีที่ดีที่สุดคือการการเจาะแนวคิด หรือคำที่เป็น ศูนย์กลางของเน้ือหาทั้งหมด • คำหลัก หาคำหรือคีย์เวิร์ดที่สำคัญๆ ในหนังสือ มองหาได้ง่ายเพราะมักจะทำ ตัวหนา ตัวใหญ่ หรือขีดเส้นใต้ ดูว่าคนเขียนเค้าหมายถึงอะไร และใช้คำน้ันแบบไหน คนเขียนใช้ภาษาแบบ ไหน คำบางคำท่ีเราอ่านเจอท่ัวๆ ไป อาจจะมีความหมายต่างจากคำที่คนเขียนใช้ในหนังสือก็ ได้ • ประโยคหลัก หาประโยคที่สำคัญในหนังสือ ซ่ึงเป็นแนวคิดท่ีสำคัญของคนเขียน ที่มันมี ความหมายมากที่สุด อาจจะเป็นคำถามที่คนเขียนต้องการจะหาคำตอบ และคำตอบนั้นคน เขียนมักจะต้องหาคำอธิบายหรือหาหลักฐานหรือยกตัวอบ่างเพ่ือสนับสนุน ให้ลองหา ประโยคที่เราอ่านแล้วยังไม่เข้าใจเต็มที่ เป็นไปได้ว่าเราอาจจะไม่เข้าใจแนวคิดที่สำคัญของ คนเขียน ให้ลองอธิบายเป็นคำพูดของเราเอง ให้ลองยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพ จนกว่าเราจะ พอใจ • การใช้เหตุผล การใช้เหตุผลเพ่ือให้ได้ข้อสรุป คนเขียนอาจจะใช้ประโยคท่ีซับซ้อน หรือขยาย ความออกไปหลายย่อหน้า หรือหลายหน้า ให้เรารวบรวมมันไว้ด้วยกัน แล้วทบทวนอีกรอบ จะทำให้เราเข้าใจท้ังหมดได้ดีพอท่ีจะสรุปเป็นประโยคสั้นๆ ได้ มันจริงหรือเปล่า เนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนในหนังสือมันจริงหรือเปล่า จากการวิเคราะห์ เราจะรู้คำตอบ หรือแนวทางในการแก้ปัญหา แต่ก็อาจจะยังมีสิ่งท่ีเป็นปริศนาหลงเหลืออีก ให้เราวิจารณ์หนังสือและตัดสิน ในสิ่งท่ีเราอ่านแล้วดูว่ามันจริงหรือเปล่า เพ่ืออะไร การถามคำถามน้ีจะช่วยให้เราประเมินความสำคัญของหนังสือได้ เราจะรู้ว่าหนังสือเล่มน้ัน มันสำคัญยังไง หลังจากที่เราม่ันใจว่าเข้าใจทุกสิ่งที่คนเขียนต้องการจะส่ือ ให้เราตัดสินใจว่า • เราเห็นด้วยกับคนเขียนหรือเปล่า ถ้าเราเห็นด้วยแสดงว่าจบการวิเคราะห์เท่านี้ • ถ้าเราไม่เห็นด้วยกับคนเขียน ให้ระงับอารมณ์ จะได้ใช้เหตุผลได้เต็มท่ี เรามีเหตุผลของเรา คน เขียนก็เช่นกัน เค้าก็มีเหตุผลของเค้า อย่าใช้ความรู้สึกตัดสิน ให้เราพยายามเข้าใจมุมมองของ คนเขียน • ไม่ตัดสิน การที่เราไม่ตัดสินก็อาจจะมองได้ว่า เนื้อหาหรือข้อมูลหลักฐานไม่แน่นพอ ถ้าเราเห็นต่างจากคนเขียน เราก็ควรจะแย้ง เพราะมันอาจจะเป็นส่ิงท่ีคนเขียนลืมไปก็ได้ หรือคนเขียนอาจจะเร่ิมต้นด้วยแนวคิดบางอย่าง แล้วตอนท้ายอาจจะเขียนสรุปตรงกันข้ามกับตอนแรกก็ ได้ก่อนท่ีเราจะวิจารณ์หนังสือได้ เราต้องอ่านและเข้าใจเน้ือหาให้ละเอียด วิจารณ์หนังสือด้วยความเป็น กลาง ไม่ลำเอียง ไม่โน้มเอียง ไม่เข้าข้าง เราไม่ควรวิจารณ์หนังสือถ้าเรายังไม่เข้าใจส่ิงท่ีคนเขียนต้องการจะ ส่ือถ้าเราสรุปได้ว่าแนวคิดนั้นมันน่าสนใจมันน่าเชื่อถือมันก็ง่ายท่ีจะทำให้เราเห็นด้วยกับคนเขียนเราไม่ จำเป็นต้องเห็นต่างเพราะหลักการเพียงอย่างเดียว
๑๘ การอ่าน เพ่ือเปรียบเทียบการอ่านเพ่ือเปรียบเทียบ โดยการอ่านหนังสือท่ีคล้ายกัน หลายๆ เล่ม เวลาที่เราต้องเขียนรายงานหรือบทความ เราจะไม่เขียนมันจากหนังสือเล่มเดียว แต่เราจะเลือก หลายๆ เล่ม จากหลายๆ ต้นทางการอ่านเพ่ือเปรียบเทียบจะต้องมีหนังสือหลายเล่ม ที่เขียนเกี่ยวกับเรื่อง เดียวกัน เวลาที่เราอ่านเพ่ือเปรียบเทียบ เราจะสามารถค้นหาหัวข้อที่เราอยากจะเขียน และเลือกเฉพาะ ส่วนท่ีเก่ียวข้อง จากน้ันเปรียบเทียบหรือเรียบเรียงให้เราใช้ข้ันตอนต่อไปนี้เพ่ือเปรียบเทียบหนังสือ • หาส่วนที่ดีของหนังสือ เป้าหมายของเราไม่ใช่เพื่อทำความเข้าใจหนังสือท้ังเล่ม แต่เป็นการใช้ บางส่วนของหนังสือเพื่อท่ีเราจะเอาไปใช้แก้ปัญหาหรือตอบคำถาม ใช้การอ่านเพื่อตรวจสอบ เพื่อค้นหาส่วนที่เราต้องการในหนังสือ • กำหนดคำหลักหรือคีย์เวิร์ด คำที่มีความหมายเดียวกันหรือท่ีใช้อธิบายแนวคิดเดียวกัน คน เขียนอาจจะใช้คำที่ต่างจากเราหรือต่างจากคนเขียนอื่นๆ ให้เรากำหนดคำกลางๆ ท่ีไม่เฉพาะ เกินไปเพ่ือให้เรารวบรวมแนวคิดจากหนังสือหลายๆ เล่มได้ • เสนอแนวคิดหรือความเห็นของเราแบบกลางๆ ท่ีไม่ได้มาจากมุมมองของคนเขียนคนใดคน หน่ึง • ปัญหาแต่ละอย่างที่คนเขียนแต่ละคนมีแนวทางการแก้ปัญหาท่ีต่างกัน ให้เราเปรียบเทียบ และหาความแตกต่าง หาสิ่งที่คนเขียนมีความเห็นต่างกัน • วิเคราะห์จัดเรียงแต่ละหัวข้อว่ามันเกี่ยวข้องกันยังไง ตรวจดูช่ือเร่ือง ปก สารบัญ และดัชนี หลังจากท่ีเรารู้โครงสร้างของหนังสือแล้ว เราก็จะ วิเคราะห์ได้ เราจะเข้าใจว่าคนเขียนแต่ละคนพูดถึงหัวข้อเดียวกันแตกต่างกันอย่างไร และเค้าเร่ิมพูดถึง หัวข้อนั้นยังไง เราจำเป็นต้องวิเคราะห์เจาะลึกเพื่อจะเข้าใจความรู้ลึกของแนวคิดความแตกต่างของการ อ่านเพ่ือเปรียบเทียบกับการหาโครงสร้างและวิเคราะห์หนังสือเล่มเดียวคือการอ่านเพ่ือเปรียบเทียบ หัวข้อ คือส่ิงท่ีเราจะวิเคราะห์ เราต้องการแนวคิดหรือความเห็นของคนเขียนท่ีมีมุมมองต่างกันดังนั้นการทำความ เข้าใจภาพรวมของหนังสือท้ังเล่มจึงไม่จำเป็น มันจะต่างจากการอ่านเพ่ือวิเคราะห์ มันเพียงพอที่จะอ่าน ข้อความบางส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับรายงานหรือบทความท่ีเราจะเขียน ความสำคัญของการอ่าน ทำไมต้องฝึกการอ่านอย่างจริงจัง ทักษะการอ่านขั้นสูงจำเป็นต้องใช้ความพยายามและต้องทำตามขั้นตอนต่างๆ แต่ก็ทำให้เรา ได้เข้าใจ ได้ฝึกการตรวจสอบ การวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ ซ่ึงจะเปิดทางให้เราเข้าใจหนังสือที่มีเน้ือหา ยากๆ ได้ หนังสือที่มันจะสอนเราและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราแทนท่ีเราจะเห็นด้วยกับคนเขียนทุก อย่าง เราต้องหัดต้ังคำถาม มองหาจุดผิดท่ีคนเขียนอาจจะละเลย ดูว่าแนวคิดของคนเขียนมันสอดคล้องกัน ต้ังแต่ต้นจนจบหรือเปล่า การตั้งใจอ่านจะช่วยให้เราวิเคราะห์และประเมินหนังสือได้อย่างฉลาดเราควรจะ ปรับเปลี่ยนหลักการเหล่านี้ตามความเหมาะสม เช่น หนังสือแต่ละประเภทที่เราอ่าน เราต้องดูก่อนว่า หลักการพวกน้ีมันใช้ได้หรือเปล่า หนังสือแต่ละประเภทมันจะมีโครงสร้างเน้ือหาและสร้างแรงบันดาลใจแตกต่างกัน โดยเฉพาะ นิยายที่มักจะต้องอาศัยประสบการณ์ของคนอ่าน เพราะในแง่ศีลธรรมมันไม่มีมาตรฐานสากลโครงสร้างที่ เราจะพบได้จากหนังสือแต่ละประเภทก็จะต่างกันออกไป เช่น ในหนังสือปรัชญา เราก็จะเห็นลำดับของการ
๑๙ เสนอแนวคิดและการโต้แย้ง ต่างจากหนังสือประวัติศาสตร์ที่เราจะอ่านเจอการวิเคราะห์เชิงข้อมูลมากกว่า บางคร้ังการอ่านหนังสืออย่างเดียวมันไม่พอท่ีจะทำให้เราเข้าใจ แต่เราต้องใช้ประสบการณ์ส่วนตัวและอ่าน หนังสือเล่มอื่นๆ ด้วย ภาพที่ 3 การสง่ เสริมการอา่ น รถโมบายเคล่ือนท่ีของ สำนักงาน กศน. ภาพท่ี 4 การให้บริการส่งเสริมการอา่ นเคล่ือนที่ ของ ห้องสมุดประชาชนจงั หวัดชลบรุ ี
๒๐ บทที่ 3 วิธีการดำเนนิ งาน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองชลบุรี ได้เล็งเห็นความสำคัญ ของการส่งเสรมิ การอ่านของนักศึกษา กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี และประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการส่งเสรมิ การ อ่านให้กับนักศึกษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรีและประชาชนทั่วไป จึงได้จัด โครงการโครงการส่งเสริมการอ่าน เคลอ่ื นที่ ประจำปี 2565 โดยมีข้นั ตอนดงั น้ี 1.ประชมุ ผู้ท่เี กยี่ วข้อง 2.จัดต้งั คณะทำงานเพื่อดำเนินการจดั โครงการ 3.ประสานงาน/ประชาสมั พนั ธ์ 4.ดำเนินงานตามแผน 5.วดั ผล/ประเมินผล/สรปุ ผลและรายงาน 1.ประชุมผ้ทู ี่เกีย่ วข้อง กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ีและห้องสมุดประชาชนจังหวัดชลบรุ ี ได้วางแผนประชุมผทู้ เี่ กี่ยวข้องเพื่อ หาแนวทางในการดำเนินงานและกำหนดวัตถุประสงค์ร่วมกนั 2. จดั ตั้งคณะทำงานเพอ่ื ดำเนินการจัดโครงการ จดั ทำคำส่งั แต่งตง้ั คณะทำงานโครงการฯเพื่อมอบหมายหนา้ ทใ่ี นการทำงานให้ชัดเจน อาทเิ ช่น 2.1 คณะกรรมการท่ปี รึกษา/อำนวยการ มหี นา้ ท่ีอำนวยความสะดวก และให้คำปรึกษาแกไ้ ข ปัญหาทเี่ กิดขึน้ 2.2 คณะกรรมการฝ่ายจัดสถานที่ มหี นา้ ที่ จัดโตะ๊ เกา้ อ้ี สำหรับการจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน เคลื่อนทเี่ รียบร้อยรวมทง้ั จัดหาส่ิงอำนวยความสะดวกตลอดการจดั กิจกรรม 2.3 คณะกรรมการฝา่ ยบันทึกภาพและประชาสมั พันธ์ มหี นา้ ที่บนั ทึกภาพกจิ กรรมตลอด โครงการฯและประชาสัมพันธ์กจิ กรรมใหส้ าธารณชนไดท้ ราบ 2.4 คณะกรรมการฝา่ ยรับลงทะเบยี นและประเมินผลหน้าทจ่ี ัดทำหลักฐานการลงทะเบียน ผ้เู ขา้ รว่ ม โครงการและรวบรวมการประเมนิ ผล และรายงานผลการดำเนินการ 3.ประสานงาน/ประชาสัมพนั ธ์ ประสานงานกับเครือขา่ ย ผู้เกยี่ วขอ้ งและคณะครู เชน่ ประสานเร่อื งสถานทใ่ี ช้ทำกจิ กรรม รปู แบบการจัดกจิ กรรมโครงการ วนั เวลา สถานที่ รายละเอยี ดการเข้ารว่ มกจิ กรรม พร้อมทงั้ ประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม
๒๑ 4.ดำเนนิ งานตามแผน โครงการส่งเสริมการอา่ นเคล่ือนท่ี ประจำปี 2565 ดำเนินการจัด ณ พ้นื ท่อี ำเภอเมืองชลบรุ ี โดยออกเคล่ือนทส่ี ง่ เสริมการอ่านไปในตำบลต่างๆ มผี ู้เข้าร่วมโครงการฯจำนวน 587 คน จากเป้าหมายที่ต้ัง ไว้ 400 คน โดยการจดั กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมการส่งเสริมการอ่าน เช่น กิจกรรมหนงั สือแจกฟรี กิจกรรมว าดภ าพระบายกิจกรรมตอบปัญหากิจกรรม QRCodeส่งเสริม การอ่ านเป ็ น ต้ น 5.วดั ผล/ประเมนิ ผล/สรุปผลและรายงาน โครงการส่งเสริมการอา่ นเคล่อื นท่ี ประจำปี 2565 ดำเนินการจดั ณ พนื้ ทอี่ ำเภอเมืองชลบุรี โดยออกสง่ เสริมการอ่านเคล่ือนทไ่ี ปในตำบลตา่ งๆ มีผู้เข้าร่วมโครงการฯจำนวน 587 คน จากเป้าหมายท่ีต้ัง ไว้ 400 คน กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี ไดด้ ำเนินการตามข้นั ตอนและได้รวบรวมข้อมลู จากแบบสำรวจสถติ ทิ ี่ใชใ้ น การวิเคราะห์ คือโดยกำหนดค่าลำดบั ความสำคัญของการประเมินผลออกเปน็ 5 ระดับ ดังน้ี มากท่ีสุด ให้คะแนน 5 มาก ให้คะแนน 4 ปานกลาง ให้คะแนน 3 น้อย ใหค้ ะแนน 2 น้อยท่สี ุด ให้คะแนน 1 ในการแปลผล ผ้จู ดั ทำได้ใชเ้ กณฑก์ ารพจิ ารณาจากคะแนนเฉลีย่ ตามแนวคิดของ บญุ ชม ศรีสะอาด และบญุ สง่ นิวแก้ว (2535,หน้า 22-25) 4.51-5.00 หมายความว่า ดีมาก 3.51-4.50 หมายความว่า ดี 2.51-3.50 หมายความว่า ปานกลาง 1.51-2.50 หมายความว่า นอ้ ย 1.00-1.50 หมายความวา่ ต้องปรบั ปรงุ ผู้เขา้ ร่วมโครงการ จะต้องกรอกข้อมูลตามแบบสอบถาม เพือ่ นำไปใช้ในการประเมนิ ผลของการ จัดกจิ กรรมดังกล่าว และจะไดน้ ำไปเปน็ ข้อมลู ปรับปรุง และพัฒนา ตลอดจนใช้ในการจดั ทำแผนการ ดำเนินการในปตี ่อไป
บทท่ี 4 ผลการดำเนินงานและการวเิ คราะห์ข้อมลู โครงการหอ้ งสมุดเคลื่อนที่ ประจำปงี บประมาณ 2565 มีวตั ถปุ ระสงค์หลักเพอ่ื ให้ส่งเสริม ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านและมีนิสัยรักการอ่าน ได้ดำเนินการจัดตลอด ปีงบประมาณ 2565 ภายใต้มาตรการควบคุมในสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดโคโรน่า 2019 ตลอดการดำเนินงาน มผี ู้เขา้ รว่ มโครงการฯจำนวน 587 คน และไดส้ รปุ ผลจากแบบสอบถาม และนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล จำนวน 233 ชุด ( การกำหนดกลุ่มตัวอย่างจากตารางสำเร็จรปู ของเครจซ่แี ละมอร์แกน ) ดงั นี้ ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวผู้ตอบแบบถามของผู้เขา้ ร่วมกิจกรรม โครงการห้องสมุดเคล่อื นที่ ประจำปีงบประมาณ 2565 นำมาจำแนกตามเพศ อายุ และอาชีพ ผู้จัดทำได้นำเสนอจำแนกตาม ขอ้ มูลดงั ปรากฏตามตารางท่ี 1 ดงั น้ี ตารางท่ี 1 แสดงคา่ รอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามเพศ เพศ ชาย หญิง ความคิดเหน็ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ 101 43.3 132 56.7 ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรมโครงการห้องสมดุ เคลอ่ื นท่ี ประจำปี งบประมาณ 2565 จากตารางท่ี 1 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้ารว่ มกิจกรรมโครงการห้องสมดุ เคลอ่ื นท่ี ประจำปีงบประมาณ 2565 เป็นชาย 101 คน คิดเป็นร้อยละ 43.3 เป็นหญงิ 132 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 56.7 ตารางที่ 2 แสดงคา่ ร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอายุ อายุ ต่ำกว่า 15 ปี 15-25ปี 26--35 ปี 36-45ปี 46 ปีขนึ้ ไป จำ ร้อย จำ รอ้ ย จำ ร้อย จำ ร้อย จำ รอ้ ย ความคิดเห็น นวน ละ นวน ละ นวน ละ นวน ละ นวน ละ ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรม 23 9.9 77 33 66 28.3 44 18.9 23 9.9 โครงการห้องสมุด เคลอื่ นท่ี ประจำปี งบประมาณ 2565 จากตารางที่ 2 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการ โครงการ หอ้ งสมดุ เคล่อื นที่ ประจำปงี บประมาณ 2565 พบว่ามเี ขา้ ร่วมกจิ กรรมมากที่สุดคอื
๒๓ ในช่วงอายุ 15-25 ปี มีจำนวนสูงสุด 77 คน คิดเป็นร้อยละ 33 ในช่วงอายุ 26-35 ปีมีจำนวน 66 คน คิดเป็นร้อยละ 28.3 ในช่วงอายุ 36-45 ปีมีจำนวน 44 คน คิดเป็นร้อยละ 18.9 ในช่วง อายุในช่วงอายุ 46 ปีขึ้นไปมีจำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 9.9 และต่ำกวา่ 15 ปี มีจำนวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 0.7 ตามลำดับ ตารางที่ 3 แสดงค่ารอ้ ยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอาชีพ อาชพี นกั เรยี น/ ธุรกิจสว่ นตวั รบั จ้าง พนักงานบริษทั อนื่ ๆ นกั ศกึ ษา ความคิดเหน็ จำ ร้อย จำ ร้อย จำ รอ้ ย จำ ร้อย จำ รอ้ ย นวน ละ นวน ละ นวน ละ นวน ละ ผู้เขา้ รว่ มกิจกรรม นวน ละ 30 20.3 24 16.2 29 19.6 23 9.9 โครงการห้องสมดุ เคลื่อนที่ ประจำปี 57 38.5 งบประมาณ 2565 จากตารางที่ 3 แสดงว่า ผตู้ อบแบบสอบถามของผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมโครงการหอ้ งสมดุ เคลอ่ื นที่ ประจำปงี บประมาณ 2565 พบว่าเป็น นักเรยี น/นักศกึ ษา จำนวน 57 คน คิดเป็นรอ้ ย ละ 38.5 อาชพี ธุรกิจส่วนตวั 30 คน คิดเป้นรอ้ ยละ 20.3 อาชพี พนักงานบริษัท 29 คน คิดเป้น ร้อยละ 19.6 อาชพี รับจา้ ง 24 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 16.2. และมอี าชพี อ่นื ๆ 8 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.4 ตามลำดับ ตารางท่ี 4 แสดงค่ารอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามระดบั การศึกษา การศกึ ษา ประถมศกึ ษา ม.ต้น ม.ปลาย - ปวส. ปริญญาตรี ปริญญาโท ปวช. อนุปรญิ ญา ข้ึนไป ความคดิ เหน็ จำ รอ้ ย จำ รอ้ ย จำ รอ้ ย นวน ละ นวน ละ จำ ร้อย จำ รอ้ ย นวน ละ จำ รอ้ ย ผู้เข้ารว่ ม 9 3.9 35 15 นวน ละ นวน ละ 72 30.9 นวน ละ กจิ กรรม 21 11.6 10 4.3 โครงการ 80 34.3 หอ้ งสมุด เคล่อื นที่ ประจำปี งบประมาณ 2565
๒๔ จากตารางที่ 4 แสดงว่า ผ้ตู อบแบบสอบถามของผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมโครงการห้องสมุด เคลอ่ื นที่ ประจำปีงบประมาณ 2565 พบว่า มีการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวน 9 คน คิดเปน็ ร้อยละ 3.9, ระดบั ม.ตน้ จำนวน 35 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 15 ,ระดบั ม.ปลาย- ปวช.จำนวน 80 คน คดิ เป็นร้อยละ 34.3 , ระดบั ปวส.- อนปุ รญิ ญาตรี จำนวน 21 คน คิดเปน็ ร้อยละ 11.6, ระดับ ปรญิ ญาตรี จำนวน 72 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 30.9 และ ปรญิ ญาโทข้นึ ไป 10 คน คิดเป็น 4.3 ตามลำดบั ตอนท่ี 2 ข้อมูลเกย่ี วกบั ความคิดเหน็ ของผ้เู ข้ารว่ มโครงการโครงการหอ้ งสมุดเคลื่อนที่ ประจำปี งบประมาณ 2565 ดงั ปรากฏในตารางท่ี 5 ตารางที่ 5 ผลการประเมนิ ความพึงพอใจในโครงการห้องสมดุ เคลอ่ื นท่ี ประจำปี งบประมาณ 2565 N = 233 รายการประเมินความพึงพอใจ x̄ S.D. อนั ดบั ระดบั ที่ ผลการ ประเมิน 1. เนอื้ หาตรงตามความตอ้ งการ 3.58 0.73 15 ดี 2. เน้ือหาเพยี งพอต่อความต้องการ 3.91 0.63 12 ดี 3. เนอ้ื หาปัจจุบันทนั สมัย 4.10 0.81 5 ดี 4.เนอ้ื หามปี ระโยชน์ตอ่ การนำไปใชใ้ นการพัฒนาคณุ ภาพชีวิต 3.85 0.73 13 ดี 5. การเตรยี มความพร้อมจัดกจิ กรรม 3.83 0.73 14 ดี 6. การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ 3.96 0.74 11 ดี 7. การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา 4.03 0.69 8 ดี 8. การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย 4.04 0.73 7 ดี 9. วธิ ีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ 4.00 0.72 10 ดี 10.เจ้าหน้าท่ี มคี วามรู้ความสามารถ 4.05 0.70 6 ดี 11.เจ้าหน้าท่ี ใหบ้ รกิ ารท่ีดี 4.16 0.71 2 ดี 12. สถานที่ วสั ดุ อุปกรณ์และส่งิ อำนวยความสะดวก 4.13 0.73 4 ดี 13. การสอื่ สาร การสร้างบรรยากาศเพ่ือใหเ้ กิดการเรียนรู้ 4.02 0.69 9 ดี 14. การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา 4.15 0.73 3 ดี 15. ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้เขา้ ร่วมโครงการ 4.19 0.66 1 ดี รวม 4.00 ดี
๒๕ จากตาราง 5 พบวา่ โดยเฉลีย่ แล้วผู้เข้ารว่ มกิจกรรมโครงการหอ้ งสมุดเคลื่อนที่ ประจำปี งบประมาณ 2565 มีความพงึ พอใจในภาพรวมอยู่ในระดับดี (x̄=4.00) เมือ่ วเิ คราะหเ์ ปน็ รายข้อ พบวา่ ลำดับที่ 1 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้เขา้ รว่ มโครงการ (x̄= 4.19) ลำดบั ที่ 2 เจา้ หนา้ ท่ี ให้บรกิ ารทด่ี ี (x=̄ 4.16) ลำดับที่ 3 การบริการ การชว่ ยเหลอื และการแกป้ ัญหา (x=̄ 4.15) ลำดบั ท่ี 4 สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณ์และสง่ิ อำนวยความสะดวก (x̄= 4.13 ) ลำดับที่ 5 เนอื้ หาปัจจบุ ันทันสมัย (x̄= 4.10 ) ลำดบั ที่ 6 เจ้าหน้าท่ี มีความรคู้ วามสามารถ (x=̄ 4.05 ) ลำดับที่ 7 การจดั กิจกรรมเหมาะสม กบั กล่มุ เป้าหมาย (x̄= 4.04 ) และลำดบั ท่ี 8 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั เวลา (x̄=4.03) ลำดับท่ี 9 การส่ือสาร การสรา้ งบรรยากาศเพอื่ ใหเ้ กิดการเรียนรู้ (x=̄ 4.02 ) ลำดับที่ 10 วธิ ีการวดั ผล/ ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ (x=̄ 4.00) ลำดับที่ 11 การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับ วัตถปุ ระสงค์ (x̄= 3.96 ) ลำดับท่ี 12 เนือ้ หาเพียงพอต่อความต้องการ (x̄= 3.91 ) ลำดบั ท่ี 13 เนอื้ หามปี ระโยชนต์ ่อการนำไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพชีวิต (x̄= 3.95 ) ลำดบั ท่ี 14 การเตรยี มความ พร้อมจัดกจิ กรรม (x=̄ 3.83 ) ลำดบั ท่ี 15 เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ (x̄=3.58) ตามลำดบั
บทที่ 5 สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ในการจัดโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ ประจำปีงบประมาณ 2565 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ ส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านและมีนิสัยรักการอ่าน ได้ดำเนินการจัดตลอด ปีงบประมาณ 2565 ภายใต้มาตรการควบคุมในสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดโคโรน่า 2019 ตลอดการดำเนินงาน มีผู้เข้าร่วมโครงการฯจำนวน 587 คน และได้สรุปผลจากแบบสอบถามและนำเสนอ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล จำนวน 233 ชุด ( การกำหนดกลุ่มตัวอย่างจากตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์ แกน ( การกำหนดกลุ่มตวั อย่างจากตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน ) ดังนี้ ทง้ั นขี้ อสรปุ และอภิปราย ผลและขอ้ เสนอแนะดังนี้ 1. สรุปผล 1.1 จากการใชว้ ิธีการส่มุ ตวั อย่างจากกล่มุ ประชากรทีเ่ หมาะสมคนเลือกผู้ตอบแบบสอบถามของ ผู้เขา้ รว่ มกิจกรรมผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรมโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ ประจำปีงบประมาณ 2565 เปน็ ชาย 101 คน คดิ เป็นร้อยละ 43.3 เป็นหญิง 132 คนคิดเปน็ ร้อยละ 56.7 ผตู้ อบแบบสอบถามของผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรมโครงการหอ้ งสมดุ เคลือ่ นท่ี ประจำปีงบประมาณ 2565 พบวา่ มีเข้าร่วมกิจกรรมมากที่สดุ คอื ในชว่ งอายุ 15-25 ปี มีจำนวนสูงสดุ 77 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 33 ในช่วงอายุ 26-35 ปีมจี ำนวน 66 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 28.3 ในช่วงอายุ 36-45 ปีมจี ำนวน 44 คน คิด เป็นรอ้ ยละ 18.9 ในช่วงอายใุ นช่วงอายุ 46 ปขี ึน้ ไปมจี ำนวน 23 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.9 และตำ่ กวา่ 15 ปีมจี ำนวน1คนคดิ เป็นร้อยละ0.7ตามลำดับตามลำดบั ผู้ตอบแบบสอบถามของผูเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรมโครงการห้องสมดุ เคลอ่ื นท่ี ประจำปีงบประมาณ 2565 พบว่าเป็น นกั เรยี น/นักศึกษา จำนวน 57 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 38.5 อาชีพธรุ กิจสว่ นตวั 30 คน คิดเป้น ร้อยละ 20.3 อาชีพพนกั งานบรษิ ทั 29 คน คดิ เป้นร้อยละ 19.6 อาชพี รบั จ้าง 24 คน คดิ เป็นร้อยละ 16.2. และมอี าชพี อนื่ ๆ 8 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.4 ตามลำดับ ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการห้องสมดุ เคลื่อนท่ี ประจำปีงบประมาณ 2565 พบว่า มีการศึกษาระดบั ประถมศึกษา จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 3.9, ระดับ ม.ตน้ จำนวน 35 คน คิด เป็นร้อยละ 15 ,ระดับ ม.ปลาย- ปวช.จำนวน 80 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 34.3 , ระดบั ปวส.- อนปุ ริญญาตรี จำนวน 21 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 11.6, ระดบั ปริญญาตรี จำนวน 72 คน คดิ เป็นร้อยละ 30.9 และ ปรญิ ญาโทข้ึนไป 10 คน คิดเป็น 4.3 ตามลำดับ 1.2 จากตาราง 5พบวา่ โดยเฉลยี่ แลว้ ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรมโครงการหอ้ งสมุดเคลือ่ นท่ี ประจำปี งบประมาณ 2565 มคี วามพึงพอใจในภาพรวมอยใู่ นระดบั ดี (x=̄ 4.00) เมอ่ื วเิ คราะหเ์ ป็นรายข้อพบว่า ลำดับที่ 1 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผ้เู ข้ารว่ มโครงการ (x̄= 4.19) ลำดับที่ 2 เจ้าหนา้ ที่ ให้บรกิ ารทด่ี ี (x=̄ 4.16) ลำดบั ท่ี 3 การบรกิ าร การช่วยเหลือและการแกป้ ญั หา (x=̄ 4.15) ลำดบั ที่ 4 สถานที่ วัสดุ อปุ กรณ์และสง่ิ อำนวยความสะดวก (x̄= 4.13 ) ลำดับท่ี 5 เน้ือหาปัจจุบันทันสมัย (x̄= 4.10 ) ลำดับที่ 6 เจ้าหนา้ ที่ มคี วามรู้ความสามารถ (x̄= 4.05 ) ลำดับท่ี 7 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั กลุม่ เปา้ หมาย
๒๗ (x̄= 4.04 ) และลำดับที่ 8 การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับเวลา (x=̄ 4.03) ลำดับที่ 9 การส่อื สาร การสร้าง บรรยากาศเพ่อื ให้เกดิ การเรยี นรู้ (x=̄ 4.02 ) ลำดับที่ 10 วธิ ีการวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกับ วัตถปุ ระสงค์ (x=̄ 4.00) ลำดับที่ 11 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์ (x=̄ 3.96 ) ลำดบั ที่ 12 เนอ้ื หาเพยี งพอต่อความตอ้ งการ (x=̄ 3.91 ) ลำดับท่ี 13เนอ้ื หามปี ระโยชนต์ ่อการนำไปใชใ้ นการ พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ (x=̄ 3.95 ) ลำดับท่ี 14 การเตรยี มความพร้อมจัดกจิ กรรม (x=̄ 3.83 ) ลำดบั ท่ี 15 เนือ้ หาตรงตามความต้องการ (x=̄ 3.58) ตามลำดบั 2. อภปิ รายผล จากโครงการห้องสมุดเคลือ่ นที่ ประจำปีงบประมาณ 2565 ไดด้ ำเนินการเสร็จส้ินแลว้ ขออภิ ปลายผลเปน็ หัวขอ้ ดงั น.ี้ - 1. ประชุมผทู้ เ่ี กี่ยวข้อง พบว่า ..ปัญหาความพร้อมด้านเวลาของแต่ละฝ่ายในการประชุม................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ซง่ึ หากมีการจดั โครงการฯในลกั ษณะนี้ ควรดำเนินการ...การเตรยี มการนดั หมายลว่ งหน้า.............. .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. 2. จดั ต้ังคณะทำงานเพือ่ ดำเนินการจดั โครงการฯ พบวา่ ...ไม่พบสภาพปญั หา................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ซง่ึ หากมีการจัดโครงการฯในลักษณะนี้ ควรดำเนนิ การ.................-................................................. ...................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. 3.ประสานงาน/ประชาสัมพันธ์ พบว่า ...ไมพ่ บสภาพปญั หา............................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ซึ่งหากมีการจดั โครงการฯในลักษณะน้ี ควรดำเนนิ การ..................-................................................ .............................................................................................................................................. ............................
๒๘ ...................................................................................................... .................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. 4.ดำเนินงานตามแผน พบว่า ...สภาพปัญหาทพี่ บในการดำเนนิ งานเกดิ จากการระบาดของ โควดิ -19............................. ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ซง่ึ หากมีการจดั โครงการฯในลักษณะนี้ ควรดำเนนิ การ..การคดั กรองด้วยเคร่ืองวดั อุณหภมู แิ ละ สวมหนา้ กากอนามัยขณะเข้าร่วมกิจกรรม....................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ............................ 5. วัดผล/ประเมินผล/สรปุ ผลและรายงาน พบวา่ ...ไม่พบสภาพปัญหา............................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ซง่ึ หากมีการจัดโครงการฯในลักษณะนี้ ควรดำเนินการ................-.................................................. ...................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. 3. ขอ้ เสนอแนะ (ในภาพรวม) ..................การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคลอ่ื นทคี่ วรดำเนนิ การควบคู่ไปกบั ครูกศน.ตำบล เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความชดั เจนในการจดั กจิ กรรมและการประสานเครอื ขา่ ยในงานมทีจ่ ะจดั จะทำให้ทราบถึง กลมุ่ เป้าหมายทช่ี ดั เจน ...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. ...........................................................................................................................................................................
บรรณานกุ รม บญุ ชม ศรสี ะอาด และบุญสง่ นิลแก้ว. (2535). การอา้ งอิงประชากรเม่ือใชเ้ ครือ่ งมือแบบ มาตราสว่ นประมาณค่ากับกลมุ่ ตวั อยา่ ง. วารสารการวัดผลทางการศึกษา มหาวทิ ยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ มหาสารคาม. 3 (1) : 22 - 25. สำนกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย. (2551). พระราชบัญญตั ิ การศกึ ษาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. กรงุ เทพมหานคร : สำนักงาน กศน. สำนกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย. (2565). นโยบายและ จุดเน้นการดำเนนิ งานการศึกษานอระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ประจำปี งบประมาณ 2565. กรงุ เทพมหานคร : สำนกั งาน กศน. Nicetofit.การเรยี นรู้ พฒั นา ทักษะการอา่ น อยา่ งจริงจัง จะช่วยให้เราเขา้ ใจหนังสือท่มี เี น้ือหา ยากๆ ได.้ คน้ เม่ือ กนั ยายน 29, 2565 https://www.nicetofit.com/
ภาคผนวก
แผนการดำเนนิ งานและโครงการฯ ปงี บประมาณ 2565
ภาพรวมโครงการหอ้ งสมดุ เคล่อื นท่ี
ภาพรวมโครงการห้องสมดุ เคล่อื นท่ี
ภาพจากแบบประเมนิ Google Form โครงการหอ้ งสมดุ เคลื่อนท่ี
คณะผู้จดั ทำ ทป่ี รึกษา ผ้อู ำนวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั อำเภอเมืองชลบรุ ี นายไพรตั น์ เนอ่ื งเกตุ ครูชำนาญการพิเศษ นางสาวเอมอร แกว้ กล่ำศรี บรรณารักษป์ ฏบิ ัตกิ าร บรรณารกั ษอ์ ัตราจา้ ง ผ้จู ัดทำ นายปณั ณวิชญ์ สขุ ทวี นายเสกสรรค์ พรมศักดิ์
PDCA รายงานผลการดำเนนิ งาน โครงการสง่ เสริมการอ่านเคล่อื นที่ ประจำปงี บประมาณ 2565 ผรู้ ับผิดชอบ นายปณั ณวิชญ์ สขุ ทวี 1. หลกั การและเหตุผล การอ่านมคี วามสำคญั ต่อชวี ิตมนุษย์แต่เกดิ จนโต และจนกระทั่งถึงวยั ชราการอ่านทำ ให้รู้ข่าวสาร ขอ้ มูลต่างๆท่วั โลกซ่งึ ปจั จุบันเปน็ โลกของข้อมลู ข่าวสารต่างๆ ทั่วโลกทำให้ผู้อ่านมีความสุข มี ความหวัง และมี ความอยากรู้อยากเหน็ อันเป็นความต้องการของมนุษย์ทกุ คน การอ่านมีประโยชน์ในการ พัฒนาตนเอง อยาก เห็น การที่จะพัฒนาประเทศให้เจริญรงุ่ เรืองกา้ วหนา้ ได้ต้องอาศัยคนท่ีมี ความรู้ความสามารถ ซึ่งความรตู้ า่ ง ๆ กไ็ ด้มาจากการอ่านนัน่ เอง (ฉวีวรรณ คูหาภนิ นนท์,2542) ตามที่ รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีข้อสั่งการและนโยบายให้สำนักงาน กศน. ได้มีข้อส่ัง การและนโยบายให้กับสำนักงาน กศน. ดำเนนิ การขยายผลการส่งเสริมการอ่านเคล่ือนท่ีให้ครอบคลุมพ้ืนที่มาก ยิ่งขึ้นนั้น สำนักงานกศน. จังหวัดทุกแห่ง ทุกพื้นที่จึงได้ดำเนินการจัดโครงการกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน เคลือ่ นท่ีในรูปแบบต่างๆให้กบั ชุมชน กลุ่มเปา้ หมายและผ้สู นใจทัว่ ไปซึ่งจำเป็นจะตอ้ งได้รบั งบประมาสนับสนุน สำหรบั การจดั ซอ้ื ส่ือวสั ดุอปุ กรณแ์ ละการจัดกิจกรรมเพอื่ การศึกษาเรียนรูท้ นี่ ่าสนใจและเป็นประโยชน์ให้กับ รถสง่ เสริมการอ่านเคลื่อนที่ รถห้องสมุดเคล่ือนท่ีและเพ่ือการพัฒนางานห้องสมุดประชาชนเคลื่อนท่ีในรูปแบบ ต่างๆให้มีความพร้อมเหมาะสมมีคุณภาพและประสิทธิภาพสำหรับให้บริการประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งใน ชุมชนเมืองและชุมชนห่างไกลให้ได้รับประโยชน์มีความสุขกับการศึกษาเรียนรู้การพัฒนาตนเองและสังคม สว่ นรวมต่อไป ห้องสมดุ ประชาชนจังหวัดชลบุรี เป็นส่วนหนึง่ ในการขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการอ่านเคล่ือนท่ี ให้ เพื่อส่งเสริมการอ่านให้เป็นนิสัยของคนในชุมชน จึงดำเนินโครงการพัฒนาห้องสมุดประชาชนเคลื่อนที่เพอ่ื การส่งเสริมการอา่ น โดยนำหนงั สือ/สอื่ การเรยี นร้แู ละกิจกรรมสง่ เสรมิ การอา่ นในรูปแบต่างๆ เปน็ กจิ กรรมเชิง รุกร่วมกับเครอื ข่ายห้องสมุด เพื่อหาการศึกษาเรียนรู้ การพัฒนาตนเอง และสังคม สำหรับกลุ่มเป้าหมายตาม สถานท่ีต่าง ๆ ซึ่งเป็นสว่ นหนึ่งในการขับเคลื่อนการเรียนรูต้ ลอดชีวิตเพือ่ สร้างสังคมแหง่ การเรียนรูต้ ่อไปตามท่ี คณะรัฐมนตรีมีมตเิ ห็นชอบกำหนดให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ 2. วตั ถุประสงค์ 1. เพ่ือใหส้ ง่ เสริมใหป้ ระชาชนตระหนักถงึ ความสำคญั ของการอา่ นและมีนิสัยรกั การอา่ น 2. เพื่อสง่ เสรมิ การศึกษา การเรียนรู้ และการพฒั นาตนเองสำหรับกล่มุ เป้าหมาย 3. เพอื่ สร้างเครอื ข่ายส่งเสริมการอ่านของชุมชน 3. เปา้ หมาย 3.1. เชงิ ปริมาณ เด็กและเยาวชน , นักศกึ ษา กศน. อำเภอเมอื งชลบุรี , สมาชิกหอ้ งสมดุ และประชาชนท่วั ไป จำนวน 400 คน 3.2. เชงิ คุณภาพ เดก็ และเยาวชน , นักศึกษา กศน. อำเภอเมอื งชลบุรี , สมาชิกห้องสมุด และประชาชนทวั่ ไป ตระหนกั ถึงความสำคญั ของการอ่านและมีนสิ ยั รกั การอา่ น
4. ตวั ช้ีวัดความสำเร็จ 4.1 ตวั ชวี้ ัดผลผลิต (Outputs) - ผู้เข้าร่วมโครงการอยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 80 ของเปา้ หมายทีไ่ ดก้ ำหนด - ร้อยละ 60 ของผูเ้ ข้าร่วมโครงการไดร้ ับโอกาสและการเรียนรทู้ างด้านกิจกรรมสง่ เสรมิ การ อ่านและรูปแบบการศกึ ษาตามอธั ยาศัยท่ีมคี ุณภาพ 4.2 ตวั ช้วี ัดผลลัพธ์ (Outcomes) - ผเู้ ข้ารว่ มโครงการ ฯ ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวันได้ ของเป้าหมาย - ผู้เข้ารว่ มโครงการ ฯ สมารถนำไปขยายผลได้ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 5 ของเป้าหมาย 5. ขัน้ ตอนการดำเนินการโครงการ 1. สำรวจความตอ้ งการของกลมุ่ เปา้ หมาย 2. ติดตอ่ ประสานงานกบั กลมุ่ เป้าหมายและเครอื ข่าย 3. จดั ทำแผนการดำเนนิ โครงการเสนอผบู้ ริหาร 4. เขยี นโครงการเสนอขออนุมัติ 5. ติดต่อประสานงานสถานที่ 6. ปฏบิ ตั ติ ามโครงการ - อบรม 7. สรุปผลการอบรม 6. ระยะเวลาดำเนินงาน วันท่ี 1 ตลุ าคม 2564 – 30 กันยายน 2565 7. สถานที่ในการจัดกจิ กรรมโครงการ ณ กศน.ตำบล 17 ตำบล อำเภอเมอื งชลบุรี จังหวดั ชลบรุ ี 8. ผลการดำเนินโครงการ 8.1 ผลการประเมนิ ข้อมูลพ้ืนฐานของผูเ้ ข้าร่วมโครงการ 8.1.1 จำนวนผู้เข้าร่วมทำแบบประเมินโครงการ 233 คน เปน็ ชาย 101 คน เปน็ หญิง 132 คน 8.1.2 อายเุ ฉล่ียอยรู่ ะหว่าง 15 – 60 ปี 8.1.3 อาชพี สว่ นใหญ่เปน็ นักเรียน / นกั ศกึ ษา กศน. 8.1.4 กลมุ่ เปา้ หมาย จำนวน 400 คน มผี เู้ ข้ารว่ มโครงการ 587 คน 8.2 ความพงึ พอใจของผเู้ ข้าร่วมโครงการ ผเู้ ข้ารว่ มโครงการมีความพงึ พอใจรอ้ ยละ 90.00 8.3 บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ คือ นักศกึ ษาทเี่ ข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 90 มคี วามรู้ เข้าใจ ตระหนกั ถึงความสำคญั ของการ อา่ นและมีนสิ ัยรักการอา่ น
//8.4 สรปุ งบประมาณในการดำเนินงาน.. 8.4 สรปุ งบประมาณในการดำเนินงาน - 9. จำนวนผ้เู ขา้ ร่วมโครงการฯและผู้ผ่านโครงการฯ จำแนกตามเพศ เพศ รวม รวมทัง้ สิ้น อายุ ชญ 233 จำนวนผูเ้ ข้าร่วมโครงการฯ 233 จำนวนผูผ้ ่านโครงการฯ 101 132 101 132 10. จำนวนผูเ้ รยี นและผู้ผ่านการเขา้ รว่ มโครงการฯ จำแนกตามอายุ รวม อายุ ตำ่ กว่า 15 ปี 16-25 ปี 26-35ปี 36-45 ปี 45 ปขี ึน้ ไป ความคิดเหน็ จำนวน จำนวน จำนวน จำนวน จำนวน จำนวน 22 77 66 44 23 233 จำนวนผู้เข้ารว่ ม 22 77 66 44 23 233 โครงการฯ จำนวนผผู้ ่าน โครงการฯ 11. จำนวนผเู้ รยี นและผผู้ ่านการร่วมโครงการฯ จำแนกตามอาชพี อายุ รบั จ้าง พนักงาน นักเรยี น/ ธุรกิจสว่ นตวั อน่ื ๆ บริษัท นักศึกษา ความคดิ เหน็ จำนวน จำนวน จำนวน 24 จำนวน จำนวน จำนวนผู้เขา้ รว่ มโครงการฯ 24 30 23 จำนวนผผู้ ่านโครงการฯ 29 57 30 23 29 57 12. จำนวนผเู้ รยี นและผผู้ า่ นการร่วมโครงการฯ จำแนกตามการศกึ ษา อายุ ประถม ม.ต้น ม.ปลาย/ ปวส.- ปริญญา ปริญญา รวม ปวช อนุปรญิ ญา ตรี โทขน้ึ ไป ความคดิ เห็น จำนวน จำนวน จำนวน จำนวน จำนวน จำนวน จำนวน จำนวนผ้เู ขา้ ร่วมโครงการฯ 9 35 80 21 72 10 233 21 72 10 233 จำนวนผผู้ ่านโครงการฯ 9 35 80 13.ปัญหาและอุปสรรคทีเ่ กิดขน้ึ ระหวา่ งดำเนินงาน - 14.ข้อเสนอแนะในการจดั กิจกรรมโครงการครัง้ ต่อไป - 15.ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดข้นึ ระหวา่ งดำเนนิ งาน
16.ข้อเสนอแนะในการจดั กจิ กรรมโครงการครัง้ ตอ่ ไป - ไมม่ ี 18.ภาพกิจกรรม (จำนวน 2-4 ภาพ)
Search
Read the Text Version
- 1 - 47
Pages: