2562
ก คำนำ การจดั ทาแผนปฏิบัติงานถือเปน็ หวั ใจสาคัญย่งิ ตอ่ การปฏิบัตงิ าน ในการดาเนินงานจดั กิจกรรมของ ห้องสมดุ ประชาชนจังหวัดชลบรุ ี มสี ่วนเกีย่ วข้องกับส่งิ ตา่ ง ๆ ในหลายๆ ดา้ น อาทิ งบประมาณ บุคลากร สถานที่ และเครือข่าย เปน็ การจดั กิจกรรมเพอ่ื บรกิ ารประชาชน ซงึ่ ในการดาเนินงานมุ่งเนน้ ให้สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของประชาชนทุกกล่มุ เปา้ หมาย โดยอาศัยข้อมูลในการมาใช้บริการของประชาชนนามาทาเปน็ แผนในโครงการต่างๆ เพ่ือให้การใช้จา่ ยงบประมาณเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และเหมาะสมกบั สภาวะ เศรษฐกจิ ในปจั จุบัน ท่ีมุ่งเน้นใหเ้ กิดการประหยดั งบประมาณอยา่ งแท้จรงิ หอ้ งสมดุ ประชาชนจังหวัดชลบรุ ี จึงได้จัดทาแผนปฏิบตั ิการ ประจาปีงบประมาณ 2562 ขนึ้ โดยยดึ หลักความสอดคลอ้ งกับยทุ ธศาสตร์และ จดุ เน้นการดาเนนิ งาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ 2562 เพือ่ ให้การดาเนินงานห้องสมุดประชาชน จังหวัดชลบรุ ี เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมปี ระสิทธภิ าพ ห้องสมดุ จึงไดจ้ ดั ทาแผนปฏบิ ตั ิการ ประจาปี งบประมาณ 2562 ขน้ึ เพื่อเป็นแนวทางในการดาเนินโครงการ/กจิ กรรมต่อไป ห้องสมุดประชาชนจังหวัดชลบุรี
ข สำรบญั คำนำ หนำ้ ก สำรบญั ข ส่วนที่ 1 บทนำ - ขอ้ มูลทั่วไป 1 - ขอ้ มูลดา้ นการศึกษาประชาชน 5 - ขอ้ มูลประชากรกลุ่มเปา้ หมาย กศน. 5 - ขอ้ มลู ดา้ นทรัพยากร 6 - ขอ้ มูลด้านสถานศึกษา 8 - ข้อมูลจานวนประชากรอาเภอเมืองชลบรุ ี 12 ส่วนที่ 2 ทศิ ทำงกำรดำเนินงำน 20 - นโยบายและจุดเนน้ การดาเนินงาน สานักงาน กศน. ประจาปงี บประมาณ 2562 20 - นโยบายและจุดเนน้ ของ กศน. อาเภอเมืองชลบรุ ี ประจาปีงบประมาณ 2562 39 - แนวทางการดาเนินงานของ หอ้ งสมุดประชาชนจงั หวัดชลบรุ ี 40 ประจาปงี บประมาณ 2562 สว่ นท่ี 3 แผนงำน/โครงกำร ประจำปงี บประมำณ 2562 44 - โครงการตามนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานสานกั งาน กศน. 61 ประจาปีงบประมาณ 2562 - กศน.-กผ.-02 ภำคผนวก 66 - แนวทางการขับเคลอื่ นนโยบายส่งเสรมิ การอ่านของสานกั งาน กศน. พ.ศ.2561 - 2564 - นโยบายเรง่ ดว่ นเพื่อรว่ มขับเคลื่อนยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาประเทศ ตามนโยบายและจดุ เน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน. ประจาปงี บประมาณ 2562 คณะผจู้ ัดทำ
่1 ข ่ ไ 1. ประวตั หิ ้องสมุดประชำชนจงั หวัดชลบรุ ี หอ้ งสมุดประชาชนจังหวดั ชลบุรี เดิมเปน็ อาคารไมช้ นั้ เดียวต้งั อยรู่ ิม ถนนวชริ ปราการ ติดกบั สานักงาน พาณชิ ย์จังหวัดชลบรุ ี (ปจั จบุ นั เปน็ สว่ นหนงึ่ ของโรงเรียนอนุบาล) สังกัดกองการศึกษาผู้ใหญ่ กรมสามัญศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ เรม่ิ ก่อตั้งเม่ือ พ.ศ. 2496 โดยมีนายศาสตร์ แก้งศลิ ป์ ทาหน้าท่ีบรรณารักษ์คนแรกห้องสมุด ไดร้ บั ความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชน เนอ่ื งจากเป็นสถานศึกษาค้นควา้ หาความรู้ และเป็นสถานท่ีพักผ่อน หย่อนใจของกุลบุตรกุลธดิ าของชาวจังหวัดชลบรุ ี จงึ ทาใหส้ ถานทเี่ ดมิ คบั แคบลง ตอ่ มาปี พ.ศ. 2514 นายมว้ น วุฒิคณุ ภาพ ศกึ ษาธิการจงั หวดั ชลบรุ ี และนายมนู ธรรมสตู ร เจ้าหน้าท่ี กองการศึกษาผู้ใหญส่ มยั น้ันไดร้ ่วมกันก่อตงั้ ห้องสมุดขน้ึ ใหม่ เปน็ อาคารสองชนั้ ในเนื้อท่ี 400 ตารางวา โดยใช้ เงินช่วยเหลอื ของจังหวัดสมทบกับเงินงบประมาณของการศึกษาผใู้ หญก่ ารกอ่ สร้างเร่ิมดาเนินมาด้วยความเรียบร้อย โดยยา้ ยจากอาคารเดมิ มาอยู่ ณ ทป่ี ัจจุบันตดิ เทศบาลเมอื งชลบุรี เมอ่ื วนั ท่ี 8 พฤษภาคม 2516 จนถงึ ปจั จุบัน
2 2. ท่ตี ั้ง/ท่อี ยู่ สถำนที่ตงั้ : ห้องสมุดประชาชนจังหวัดชลบรุ ี ถนนวชิรปราการ ตาบลบางปลาสร้อย อาเภอเมืองชลบุรี จงั หวดั ชลบรุ ี รหสั ไปรษณยี ์ 20000 โทรศพั ท์ : 038-287152 e-mail : [email protected] เว็บไซต์ : http://chon.nfe.go.th/libmuang/ Facebook และ fanpage http://th-th.facebook.com/people/ห้องสมดุ ประชาชนชลบุร/ี - ลักษณะอำคำร : เป็นอาคารเอกเทศ อาคารสองชน้ั ในเนอื้ ท่ี 400 ตารางวา ระยะเวลำดำเนนิ กำร : 65 ปี (พ.ศ. 2496-2561) ผใู้ ช้บรกิ ำรเฉล่ีย : 100 คน แผนทแ่ี สดงที่ตั้งห้องสมุด หอพระพุทธสหิ ิงค์ หอสมุดแหง่ ชำติ เทศบำลเมือง สำขำชลบรุ ี ชลบรุ ี หอ้ งสมดุ ประชาชน จังหวัดชลบรุ ี
3 3. กำรเดินทำง เดินทางโดยรถโดยสารประจาทาง คอื - รถสองแถว (สีแดง) สายชลบรุ ี – บางแสน - รถสองแถว (สีน้าเงนิ ) สายชลบรุ ี – อ่างศิลา - รถสองแถว (สขี าว) สายชลบุรี – เมอื งใหม่ – หนองมน - รถเมล์ สายชลบรุ ี – แหลมฉบงั 4. เวลำทำกำร เวลา 09.00 – 17.00 น. - วันจนั ทร์ – อาทิตย์ หยุดวันนกั ขตั ฤกษ์ 5. กำรสมัครเปน็ สมำชิก ประชาชนทกุ เพศ ทกุ วัย ทุกสาขาอาชพี สามารถสมคั รเปน็ สมาชิกของหอ้ งสมดุ ได้ โดยมีหลกั ฐานดงั น้ี 1. สาเนาทะเบียนบ้าน หรือสาเนาบัตรประจาตัวประชาชน (อย่างใดอยา่ งหนึ่ง) จานวน 1 ฉบับ (ไม่เสยี คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรสมคั รสมำชกิ ) 6. ระเบียบกำรใช้หอ้ งสมดุ ประชำชนจงั หวดั ชลบรุ ี 1. ผทู้ เ่ี ขา้ มาใช้ห้องสมดุ ตอ้ งวางกระเปา๋ ย่าม ถุงไวท้ ี่ตู้ฝากของยกเวน้ ของมีคา่ 2. ห้ามนาอาหาร และเครือ่ งด่มื ทุกชนิดเข้ามาในหอ้ งสมดุ 3. ไมพ่ ดู คุยสง่ เสียงดงั ในห้องสมดุ เนอ่ื งจากอาจรบกวนสมาชกิ ทา่ นอ่ืนได้ 4. ไม่ฉีก ขดี เขยี นหรอื ทาเครื่องหมายใดๆ ลงในหนงั สือหอ้ งสมุด 5. ไมน่ าหนงั สอื หรือสงิ่ พมิ พ์ใดๆ ออกจาหอ้ งสมดุ โดยมไิ ดร้ บั อนญุ าต 6. เม่อื มีปญั หาในการใชห้ ้องสมดุ สามารถสอบถามได้ทเ่ี จา้ หน้าทบี่ รรณารกั ษ์
4 7. คณะกรรมกำรหอ้ งสมุดประชำชนจงั หวดั ชลบุรี 1. นายอานวย พานชิ ประธานกรรมการ 2. นางอญั ชลี หนอู ุไร กรรมการ 3. นายบรรจง โต๊ะชัยบูรณ์ กรรมการ 4. นายนรนิ ทร์ สนิ เนื่องทอง กรรมการ 5. นางสมหมาย บูรณะพมิ พ์ กรรมการ 6. นายสมใจ เอยี่ มเจรญิ กรรมการ 7. นายอุทศิ รกั ษาศีล กรรมการ 8. นายไพรตั น์ เน่อื งเกตุ กรรมการและเลขานุการ 8. ภำคเี ครอื ข่ำยหอ้ งสมุดประชำชนจงั หวดั ชลบุรี การจะดาเนินการจดั กจิ กรรมของห้องสมุดประชาชนจงั หวัดชลบุรไี ด้มีการวางแนวทางในการดาเนินงาน และจะตระหนักถงึ ความสาคัญของการบรกิ ารประชาชนซ่ึงเป็นสิ่งสาคัญในการดาเนนิ งานซง่ึ จะนาไปสู่ความสาเรจ็ ห้องสมุดประชาชนจงั หวดั ชลบุรี ไดร้ ับความร่วมมืออย่างดจี ากเครือข่ายในการจัดกิจกรรมของห้องสมุด ไดแ้ ก่ 1. หอสมดุ แหง่ ชาติ สาขาชลบรุ ี 16. อบจ. ชลบรุ ี 2. โรงเรียนบา้ นวังตะโก 17. ศูนยฝ์ กึ วิชาชีพวัดนอก 3. โรงเรยี นธรรมวาที 18. โรงเรียนวดั เตาปนู 4. โรงเรียนบา้ นมาบสามเกลียว 19. โรงเรียนวดั ใหม่เกตงุ าม 5. เทศบาลเมอื งชลบรุ ี 20. จังหวดั ชลบุรี 6. เทศบาลบ้านสวน 21. บรษิ ัท TNT Express Worldwide 7. ทัณฑสถานหญงิ ชลบรุ ี 22. เทศบาลตาบลดอนหวั ฬ่อ 8. เรือนจากลางชลบรุ ี 23. โรงเรยี นสาธติ แห่งมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ 9. หอ้ งสมดุ อาเภอสงั กดั กศน.ทกุ แห่ง 10. วดั ใหญ่อินทราราม 11. วันเนินสทุ ธาวาส 12. วดั ต้นสน 13. วัดกาแพง 14. สานักงานพทุ ธศาสนาจังหวัดชลบรุ ี 15. วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาชลบุรี
5 ข ขอ้ มูลกำรศกึ ษำและสำธำรณสุขกำรศึกษำ จงั หวัดชลบุรีจัดระบบการศึกษาเปน็ 2 ระบบคือ 1. การศกึ ษาในระบบโรงเรยี น (อาเภอเมืองชลบรุ )ี การศกึ ษาในระบบโรงเรียนมีนักเรียนนักศึกษาจานวนทั้งสนิ้ 280,425 คน มสี ถานศึกษา จานวน 96 แหง่ แบ่งเป็น ระดบั อนุบาล 7 แหง่ ประถมศกึ ษา 52 แห่ง มัธยมศกึ ษาตอนตน้ 23 แหง่ มัธยมศึกษาตอนปลาย 5 แหง่ ทีม่ า: สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาจงั หวดั ชลบุรี เขต 1, 2 และ 3 สานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามธั ยมศึกษาเขต เขต 1, 2 และ 3 จังหวดั ชลบรุ ี 2. การศกึ ษานอกระบบโรงเรยี น (อาเภอเมอื งชลบรุ )ี การศกึ ษานอกระบบโรงเรียนมนี กั เรียนนักศึกษาจานวนทงั้ สน้ิ 4,384 คน มสี ถานศึกษาจานวน 11 แหง่ กศน.ตาบล จานวน แหง่ ครอู าจารย์ จานวน 32 คน ( ทีม่ า: สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาจงั หวดั ชลบุรี เขต 1, 2 และ 3 สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาเขต เขต 1, 2 และ 3 จังหวดั ชลบุรี)
6 ขพ - กำรปกครองส่วนท้องถ่นิ ทอ้ งทอี่ าเภอเมอื งชลบุรีประกอบดว้ ย องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น 16 แหง่ ไดแ้ ก่ 1. เทศบำลเมืองชลบุรี ครอบคลมุ พนื้ ที่ตาบลบางปลาสร้อยท้ังตาบล ตาบลมะขามหย่งท้ังตาบล และตาบลบา้ นโขดทัง้ ตาบล 2. เทศบำลเมืองแสนสุข ครอบคลมุ พื้นทต่ี าบลแสนสุขทั้งตาบล บางสว่ นของตาบลเหมือง และบางสว่ น ของตาบลหว้ ยกะปิ 3. เทศบำลเมืองบ้ำนสวน ครอบคลมุ พ้ืนที่ตาบลบา้ นสวนท้ังตาบล บางสว่ นของตาบลหนองรี และบางส่วนของตาบลหนองขา้ งคอก 4. เทศบำลตำบลคลองตำหรุ ครอบคลุมพืน้ ท่ีบางส่วนของตาบลคลองตาหรุ 5. เทศบำลตำบลบำงทรำย ครอบคลุมพน้ื ที่ตาบลบางทรายทงั้ ตาบล 6. เทศบำลตำบลอ่ำงศิลำ ครอบคลุมพ้ืนทตี่ าบลบ้านปกึ ทั้งตาบล บางส่วนของตาบลหว้ ยกะปิ บางสว่ นของ ตาบลเสมด็ และตาบลอ่างศลิ าท้ังตาบล 7. เทศบำลตำบลนำป่ำ ครอบคลมุ พื้นที่ตาบลนาปา่ ทั้งตาบล 8. เทศบำลตำบลดอนหัวฬ่อ ครอบคลุมพนื้ ที่ตาบลดอนหัวฬอ่ ท้ังตาบล 9. เทศบำลตำบลหนองไมแ้ ดง ครอบคลมุ พนื้ ทีต่ าบลหนองไม้แดงทั้งตาบล 10. เทศบำลตำบลห้วยกะปิ ครอบคลมุ พนื้ ทบี่ างสว่ นของตาบลห้วยกะปิ 11. เทศบำลตำบลเสมด็ ครอบคลมุ พนื้ ท่ีบางส่วนของตาบลเสม็ด 12. องคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบลหนองรี ครอบคลมุ พืน้ ท่ตี าบลหนองรี (เฉพาะนอกเขตเทศบาลเมืองบ้านสวน) 13. องค์กำรบรหิ ำรส่วนตำบลหนองข้ำงคอก ครอบคลุมพ้นื ทีต่ าบลหนองขา้ งคอก (เฉพาะนอกเขตเทศบาลเมืองบา้ นสวน) 14. องคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบลคลองตำหรุ ครอบคลุมพื้นทต่ี าบลคลองตาหรุ (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตาบล คลองตาหรุ) 15. องคก์ ำรบริหำรส่วนตำบลเหมอื ง ครอบคลุมพนื้ ท่ีตาบลเหมือง (เฉพาะนอกเขตเทศบาลเมือง แสนสุข) 16. องค์กำรบรหิ ำรส่วนตำบลสำนักบก ครอบคลุมพ้ืนท่ีตาบลสานักบกทั้งตาบล
7 ข อาเภอเมืองชลบรุ แี บ่งเขตการปกครองออกเป็น 18 ตาบล 107 หมูบ่ า้ น ดังนี้ 1. ตาบลบา้ นสวน 2. ตาบลหนองรี 3. ตาบลนาป่า 4. ตาบลหนองขา้ งคอก 5. ตาบลดอนหัวฬอ่ 6. ตาบลหนองไม้แดง 7. ตาบลบางทราย 8. ตาบลคลองตาหรุ 9. ตาบลเหมือง 10. ตาบลบ้านปึก 11. ตาบลห้วยกะปิ 12. ตาบลเสมด็ 13. ตาบลอา่ งศลิ า 14. ตาบลสานักบก 15. ตาบลแสนสุข 16. ตาบลเทศบาลเมืองชลบรุ ี รวมเอาตาบล 3 ตาบลไว้ด้วยกัน คือ ตาบลบ้านโขด ตาบลบางปลาสร้อย และตาบลมะขามหย่ง - ด้ำนกำรประกอบอำชีพ ประชากรส่วนใหญป่ ระกอบอาชีพ - พาณชิ ยกรรม - คา้ ขาย - รบั จา้ ง - ประมง - อุตสาหกรรม - ธุรกจิ บา้ นเชา่ - เกษตรกรรม
8 ขถ สถำนศึกษำในเขตอำเภอเมืองชลบรุ ีมจี ำนวนหลำยแห่ง แบ่งตำมสังกดั ของสถำนศกึ ษำได้ดงั น้ี สังกดั สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขน้ั พื้นฐำน (สพฐ.) 1. โรงเรยี นสาธติ \"พิบูลบาเพญ็ \"มหาวทิ ยาลยั บรู พา เปดิ สอนระดบั ชั้นปฐมวัย,ประถมศกึ ษาและ มัธยมศึกษา,จนถงึ อุดมศึกษา ต้งั อยู่ ด.แสนสุข 2. โรงเรียนชลบรุ ี \"สขุ บท\"เปดิ สอนระดบั ชั้นมธั ยมศึกษา ต้ังอยู่ ต.บางทราย 3. โรงเรียนบ้านสวน (จ่ันอนสุ รณ)์ เปดิ สอนระดบั ช้ันมัธยมศึกษา ต้ังอยู่ ต.บ้านสวน 4. โรงเรียนชลราษฎรอารงุ เปิดสอนระดับช้ันมธั ยมศึกษา ต้ังอยู่ ต.บา้ นสวน 5. โรงเรยี นชลราษฏรอารงุ 2 เปิดสอนระดับช้ันมัธยมศกึ ษา ต้งั อยู่ ต.อ่างศิลา 6. โรงเรยี นชลกันยานุกูล เปดิ สอนระดบั ชน้ั มัธยมศึกษา ตง้ั อยู่ ต.บางปลาสรอ้ ย 7. โรงเรยี นบ้านสวนอดุ มวทิ ยา เปิดสอนระดับชน้ั อนุบาลจนถึงมธั ยมศึกษาตอนต้น ตัง้ อยู่ ต.บา้ นสวน 8. โรงเรียนบ้านหนองตะโก เปดิ สอนระดับชัน้ อนุบาลและประถมศึกษา 9. โรงเรยี นวัดธรรมนมิ ิตต์ เปดิ สอนระดับช้นั อนุบาลและประถมศึกษา 10. โรงเรยี นอนบุ าลวดั อรญั ญิกาวาส เปิดสอนระดับช้นั อนุบาลและประถมศกึ ษา สงั กัดเทศบำลเมืองชลบุรี 1. โรงเรียนเทศบาลอินทปัญญา วดั ใหญอ่ ินทาราม 2. โรงเรียนเทศบาลวดั กาแพง (อุดมพทิ ยากร) 3. โรงเรยี นเทศบาลชลราษฎร์นเุ คราะห์ (วดั ตน้ สน) 4. โรงเรียนเทศบาลวดั โพธิ์ 5. โรงเรยี นเทศบาลวดั เนนิ สุทธาวาส สังกดั สำนกั คณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ (สอศ.) 1. วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาชลบุรี เปิดสอนระดับช้ันปวช. และ ปวส. สังกดั กรมกำรศำสนำ 1. ศนู ยอ์ บรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวดั ธรรมนมิ ิตต์
9 ภำคเอกชน 1. โรงเรียนเมืองชลพทิ ยา เปิดสอนระดบั ชั้นอนุบาลและประถมศกึ ษา 2. โรงเรยี นเมืองธารทพิ ยว์ ิทยา เปดิ สอนระดบั ช้นั อนุบาลและประถมศึกษา 3. โรงเรียนเพชรวทิ ยาคม เปิดสอนระดับช้ันอนุบาลจนถงึ มัธยมศึกษาตอนต้น 4. โรงเรียนเกษมวิทย์ เปดิ สอนระดับชนั้ อนุบาลและประถมศึกษา 5. โรงเรียนศุทธรตั น์บ้านสวน เปิดสอนระดบั ชั้นอนุบาลและประถมศึกษา 6. โรงเรยี นแมรี่อมิ มาคุเลตคอนแวนต์ เปิดสอนระดับชัน้ อนบุ าลจนถึงมธั ยมศึกษาตอนต้น 7. โรงเรียนชลพินจิ พณิชยการ เปดิ สอนระดบั ชั้นปวช. และ ปวส. 8. โรงเรียนดาราสมทุ รบริหารธุรกิจ เปดิ สอนระดบั ชน้ั ปวช.และ ปวส. 9. โรงเรยี นอนบุ าลรม่ ไม้ เปิดสอนระดบั ชัน้ อนุบาลและประถมศึกษา 10. โรงเรียนเทคโนโลยีภาคตะวันออก เปดิ สอนระดับชัน้ ปวช.และปวส. 11. โรงเรียนปรีชานศุ าสน์ 12. โรงเรยี นสาธิตแหง่ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ โครงการศกึ ษาพหภุ าษา ศนู ยว์ ิจยั และพฒั นา การศึกษา เปิดสอนระดับอนุบาลถึงมธั ยมศึกษาตอนปลาย* 13. โรงเรยี นธรรมวาที (การศึกษาสงเคราะห์)เปิดสอนระดับชั้นอนบุ าลและประถมศึกษา มหำวิทยำลัยของรฐั ที่สงั กดั สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอดุ มศึกษำ กระทรวงศกึ ษำธิกำร 1. มหาวิทยาลัยบูรพา เดิมช่ือมหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ บางแสน เปดิ สอนระดบั ปรญิ ญาตรี ถงึ ปรญิ ญาเอก 2. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรรี าชา เปิดสอนระดับปริญญาตรีถึงปรญิ ญาโท 3. มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออก วทิ ยาเขตบางพระ เปิดสอนระดบั ปรญิ ญาตรถี ึง ปริญญาโท
10 ข. 1. กศน. ตำบลดอนหัวฬ่อ สถานทต่ี ง้ั อาคารอเนกประสงค์ (บรเิ วณโรงเรยี นวดั ดอนดารงธรรม) หมูท่ ี่ 4 ตาบลดอนหวั ฬอ่ อาเภอเมือง จงั หวดั ชลบุรี โดยมี นางนงลักษณ์ พรคาพลอย เป็นหวั หนา้ กศน.ตาบล 2. กศน. ตำบลสำนักบก สถานทต่ี ง้ั ศูนย์การเรียนร้ชู ุมชน อบต.สานกั บก ตาบลสานักบก อาเภอเมือง จังหวดั ชลบุรี โดยมี นางหทยั ทิพย์ อว้ นศรี เปน็ หวั หน้า กศน.ตาบล 3. กศน. ตำบลคลองตำหรุ สถานทตี่ ั้ง อาคารใน อบต.คลองตาหรุ ตาบลคลองตาหรุ อาเภอเมือง จังหวดั ชลบรุ ี โดยมี นางสาววนั ทนา บุญจันทร์ เป็นหวั หนา้ กศน.ตาบล 4. กศน. ตำบลบำงทรำย สถานที่ต้งั ตึกญาณวรวิทยา ตาบลเขาบางทราย อาเภอเมือง จงั หวดั ชลบรุ ี โดยมี นายบัญชา แสงฟ้า เป็นหัวหนา้ กศน.ตาบล 5. กศน. ตำบลหนองรี สถานที่ตง้ั บรเิ วณวดั หนองรี ศาลาปริยัติธรรม ตาบลหนองรี อาเภอเมือง จงั หวดั ชลบุรี โดยมี นางสาวขนิษฐา เยน็ แยม้ เปน็ หวั หน้า กศน.ตาบล 6. กศน.ตำบลบ้ำนสวน สถานที่ตง้ั บรเิ วณวัดธรรมนมิ ติ ต์ หมู่ 9 ตาบลบา้ นสวน อาเภอเมอื ง จงั หวดั ชลบรุ ี โดยมี นางสาวปณุ วรา โสไกร เปน็ หัวหนา้ กศน.ตาบล 7. กศน.ตำบลบ้ำนปกึ สถานทตี่ ง้ั สภาวฒั นธรรมตาบลบ้านปกึ อาเภอเมือง จงั หวดั ชลบุรี โดยมี นางสาวระพีพร วงค์มน เปน็ หัวหน้า กศน.ตาบล 8. กศน. ตำบลอ่ำงศิลำ สถานทต่ี ง้ั ศนู ยฝ์ กึ อาชีพอาคารพลู ทรัพย์ ตาบลอ่างศิลา อาเภอเมือง จงั หวดั ชลบุรี โดยมี นางศศภิ า บุญขาว เปน็ หัวหนา้ กศน.ตาบล 9. กศน.ตำบลนำปำ่ สถานที่ตง้ั ศาลาเอนกประสงค์ SML หมู่ 5 ทุ่งบางกระแบง ตาบลนาป่า อาเภอเมือง จังหวัดชลบรุ ี โดยมี นางสาวศศวิ ณั ย์ ออ่ นศรที อง เปน็ หวั หน้า กศน.ตาบล 10. กศน. ตำบลเหมือง สถานที่ตง้ั อาคารเอนกประสงค์ หมู่ 2 ตาบลเหมอื ง อาเภอเมือง จังหวดั ชลบุรี โดยมี นางสาววาสนา ปน่ิ ณรงคเ์ ป็นหัวหน้า กศน.ตาบล
11 11. กศน. ตำบลหนองขำ้ งคอก สถานทต่ี ั้ง อาคารโรงเรียนเก่าในวดั ผาสุการาม หมู่ 3 ตาบลหนองข้างคอก อาเภอเมือง จังหวดั ชลบุรี โดยมี นายครรชิต แสงเขียว เปน็ หวั หน้า กศน.ตาบล 12. กศน.ตำบลแสนสุข สถานทีต่ ง้ั ศนู ย์พัฒนาเศรษฐกจิ ชมุ ชนบ้านเหมือง ตาบลแสนสุข อาเภอเมือง จงั หวดั ชลบรุ ี โดยมี นางสาวกริ ณาภคั อินพุ่ม เปน็ หวั หน้า กศน.ตาบล 13. กศน. ตำบลห้วยกะปิ สถานท่ีต้ัง ศนู ย์เด็กเล็กโรงเรยี นวดั ซากพุดซา ตาบลห้วยกะปิ อาเภอเมือง จงั หวัดชลบุรี โดยมี นายอภวิ ฒั น์ อาภาศักด์ิ เปน็ หวั หน้า กศน.ตาบล 14. กศน. ตำบลเสม็ด สถานทตี่ ัง้ อาคารเอนกประสงค์ SML หมูท่ ี่ 5 ตาบลเสม็ด อาเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยมี นางสาวระพีพร วงค์มน เป็นหวั หน้า กศน.ตาบล 15. กศน. ตำบลหนองไม้แดง สถานทีต่ ง้ั อาคารกลมุ่ สตรีตาบลหนองไม้แดง อาเภอเมือง จงั หวัดชลบรุ ี โดยมี นายสุรเชษฐ์ ช่ืนเผือก เปน็ หัวหนา้ กศน.ตาบล 16. กศน. ตำบลบำงปลำสร้อย สถานทต่ี ง้ั อาคารในบรเิ วณวัดนอก ตาบลบางปลาสร้อย อาเภอเมอื ง จงั หวดั ชลบรุ ี โดยมี นางทัศสุวรรณ นามไพร เป็นหวั หน้า กศน.ตาบล 17. กศน. ตำบลมะขำมหย่ง สถานทต่ี ั้ง อาคารในบริเวณวดั โพธ์ิ ตาบลมะขามหย่ง อาเภอเมือง จังหวดั ชลบรุ ี โดยมี นางสาวพลอยนภัส หนนุ ดี เป็นหัวหนา้ กศน.ตาบล
12 ข ใ ประชำกร จานวนประชากรทงั้ สนิ้ รวม 294,506 คน แยกเป็น - ชาย จานวน 141,595 คน - หญิง จานวน 152,911 คน ที่มำ: สำนักบรหิ ำรทะเบยี น กรมกำรปกครอง กระทรวงมหำดไทย( เดือนธนั วำคม พ.ศ. 2553) จังหวัด/อำเภอ/ตำบล จำนวนประชำกร จำนวนประชำกร จำนวนประชำกร จำนวนบ้ำน รวม ชำย หญงิ อำเภอเมอื งชลบุรี บางปลาสรอ้ ย 294,506 141,595 152,911 166,136 มะขามหยง่ บา้ นโขด 17,829 8,370 9,459 7,345 แสนสขุ บา้ นสวน 7,014 3,314 3,700 2,555 หนองรี นาป่า 7,044 3,292 3,752 2,673 หนองขา้ งคอก ดอนหวั ฬ่อ 36,391 16,313 20,078 21,664 หนองไมแ้ ดง บางทราย 60,303 29,428 30,875 33,991 คลองตาหรุ เหมือง 13,390 6,537 6,853 6,499 บา้ นปึก หว้ ยกะปิ 30,329 14,829 15,500 16,932 เสมด็ อา่ งศลิ า 6,781 3,387 3,394 3,242 สานกั บก 8,945 4,423 4,522 8,335 11,122 5,885 5,237 7,060 12,699 6,890 5,809 7,296 7,151 3,495 3,656 5,141 11,028 5,302 5,726 5,709 6,657 3,135 3,522 3,451 19,250 8,964 10,286 10,896 29,935 13,859 16,076 19,215 5,440 2,585 2,855 2,820 3,198 1,587 1,611 1,312
ขพ อำเภอ ประเภท เมืองชลบรุ ี กำรมองเหน็ กำรได้ยนิ ทำงกำย ทำงจิตใจ รวม ชำย หญงิ ชำย หญงิ ชำย หญิง ชำย หญิง 35 40 135 132 568 293 20 11 35 40 135 132 568 293 20 11
ทควำมพิกำร ไมร่ ะบคุ วำม รวม ทำง ทำงกำร พิกำร พกิ ำร 1,563 สติปญั ญำ เรยี นรู้ ซ้ำซ้อน ชำย หญิง 1,563 ชำย หญิง ชำย หญิง ชำย หญิง 63 114 87 0 0 66 53 63 114 87 0 0 66 53 13
14 พ พ, ่ ้ ข ,ข สภำพทำงกำยภำพ ลักษณะภมู ปิ ระเทศของจังหวัดชลบรุ ีมกี ารผสมผสานกนั มากถงึ 5 แบบ ท้ังทีร่ าบลูกคลืน่ และเนินเขา ท่ี ราบชายฝั่งทะเล ทีร่ าบลุ่มแม่น้าบางปะกง พ้นื ทีส่ ูงชันและภเู ขา รวมถึงเกาะน้อยใหญอ่ กี มากมายท่ีราบลูกคลนื่ และเนินเขา ของชลบุรี พบได้ทางดา้ นตะวนั ออกของจงั หวดั ในเขตอาเภอบ้านบงึ พนสั นคิ ม หนองใหญ่ ศรี ราชา บางละมงุ สัตหีบ และบอ่ ทอง พ้นื ทีน่ ม้ี ลี ักษณะสูงๆ ต่าๆ คล้ายลูกระนาด ปจั จุบันพ้ืนท่ีน้ีสว่ นใหญ่ถูกใช้ ไปในการปลูกมันสาปะหลงั สาหรับที่ราบชายฝงั่ ทะเล นน้ั พบตั้งแตป่ ากแมน่ า้ บางปะกง ถงึ อาเภอสตั หีบ เปน็ ที่ ราบแคบๆชายฝ่ังทะเล มภี เู ขาลูกเล็กๆสลบั เปน็ บางตอน ถัดมาคือพื้นท่รี าบลุ่มแม่น้าบางปะกงมีลานา้ คลองหลวง ยาว 130 กิโลเมตร ตน้ น้าอยู่ที่อาเภอบ่อทองและอาเภอบ้านบงึ ผ่านพนัสนคิ ม ไปบรรจบเป็นคลองพานทอง ไหลลงสู่แมน่ า้ บางปะกง โดยดินตะกอนอันอดุ มสมบูรณ์จากการพัดพาของแม่น้าบางปะกงนีเ้ องไดก้ ่อให้เกิดท่รี าบ ล่มุ เหมาะสมต่อการเกษตรกรรมสว่ น พน้ื ท่ีสูงชันและภูเขานน้ั อยตู่ อนกลางและด้านตะวนั ออกของจงั หวัด ต้ังแต่ อาเภอเมืองฯ บา้ นบึง ศรรี าชา หนองใหญ่ และบ่อทอง ท่ีอาเภอศรีราชานนั้ เป็นต้นนา้ ของอา่ งเก็บนา้ บางพระ แหลง่ น้าอุปโภคบริโภคหลักแหง่ หนึ่งของชลบุรี จงั หวดั ชลบรุ มี ีชายฝ่งั ทะเลยาวถงึ 160 กิโลเมตร เว้าแหว่งคดโค้งสวยงามเกิดเปน็ หนา้ ผาหิน หาดทราย ทอดยาว ปา่ ชายเลน ป่าชายหาด ฯลฯ ซง่ึ อา่ วหลายแหง่ สามารถพฒั นาไปเป็นทา่ จอดเรอื กาบงั คล่ืนลมไดเ้ ปน็ อยา่ งดี อาทิ ท่าจอดเรือรบท่ีอาเภอสัตหีบ เปน็ ต้น สาหรับ เกาะ สาคัญๆมีอยู่ ไม่น้อยกวา่ 46 เกาะ เชน่ เกาะสีชัง เกาะคา้ งคาว เกาะร้นิ เกาะไผ่ เกาะลอย เกาะล้าน เกาะครก เกาะสาก เกาะขาม เกาะแสมสาร และเกาะครามท่ีอยู่ในเขตทหารเรอื ของอาเภอสัตหบี เป็นแหล่งเพาะพันธแ์ุ ละอนุบาลเต่าทะเลที่หา ยากและใกล้สูญพันธ์ุของไทย เปน็ ต้น โดยเกาะเหลา่ น้ีทาหน้าทีเ่ ปน็ ปราการธรรมชาติ ช่วยปอ้ งกนั คล่ืนลม ทาให้ ชลบุรีไมค่ อ่ ยมีคลื่นขนาดใหญ่ ต่างจากจังหวดั ระยอง จนั ทบรุ ี และตราด ซงึ่ มักมีคลน่ื ใหญ่กวา่ ดว้ ยเหตุนเ้ี อง ชายฝั่งของชลบุรีจึงเต็มไปดว้ ยท่าจอดเรือประมง และเหมาะแก่การสรา้ งท่าจอดเรอื พาณิชย์ขนาดใหญ่ อาทิ ท่าเรือ แหลมฉบัง เป็นตน้
15 ท่ีต้ัง และอำณำเขต จังหวัดชลบรุ ตี ง้ั อยูใ่ นภาคตะวนั ออกของประเทศไทย หรอื รมิ ฝ่งั ทะเลตะวนั ออกของอา่ วไทย ประมาณ เส้นรุ้งท่ี 12 องศา 30 ลิปดา-13 องศา 43 ลปิ ดาเหนือ และเส้นแวงที่ 100 องศา 45 ลิปดา-101 องศา 45 ลิปดาตะวนั ออก ระยะทางจากกรุงเทพมหานครตามเส้นทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 34 (ถนนสายบางนา-ตราด) รวมระยะทางประมาณ 81 กิโลเมตร นอกจากนยี้ งั มเี ส้นทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 หรอื Motorway (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) ระยะทาง 79 กโิ ลเมตร ใชร้ ะยะเวลาในการเดินทางประมาณ 45 นาทีเทา่ น้นั จังหวดั ชลบรุ ีมี พน้ื ทที่ ั้งส้ิน 2,726,875 ไร่ (4,363 ตารางกโิ ลเมตร) คิดเปน็ ร้อยละ 0.85 ของพื้นท่ปี ระเทศไทย (พ้นื ท่ีของ ประเทศไทยประมาณ 320,696,875 ไร่ หรอื 513,115 ตารางกโิ ลเมตร) ทิศเหนอื ตดิ กบั จังหวดั ฉะเชิงเทรา ทิศใต้ ตดิ กับจังหวดั ระยอง ทศิ ตะวันออก ติดกับจังหวดั ฉะเชงิ เทรา จงั หวดั จันทบุรี และจงั หวดั ระยอง ทิศตะวนั ตก ตดิ กับชายฝัง่ ทะเลตะวนั ออกของอา่ วไทย เขตกำรปกครอง จังหวัดชลบุรีแบง่ เขตการปกครองออกแบ่งเปน็ 11 อาเภอ 92 ตาบล 687 หมูบ่ ้าน การปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ประกอบด้วย องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัด เทศบาลนคร 1 แหง่ เทศบาลเมือง 8 แห่ง เทศบาลตาบล 30 แห่ง องค์การบรหิ ารส่วนตาบล 58 แห่ง และมีรปู แบบการปกครองพเิ ศษ 1 แหง่ คือ เมอื งพัทยา แยกจากการปกครองของอาเภอบางละมุง เนอ่ื งจากเปน็ เมอื งท่องเท่ยี วระดับนานาชาติ ซง่ึ มกี ารเจรญิ เตบิ โตอยา่ งรวดเร็ว อาเภอท้ัง 11 ของจังหวัดชลบุรี ไดแ้ ก่ 1. อาเภอเมืองชลบรุ ี 2. อาเภอพนัสนิคม 3. อาเภอพานทอง 4. อาเภอบ้านบงึ 5. อาเภอศรีราชา 6. อาเภอเกาะจันทร์ 7. อาเภอบอ่ ทอง 8. อาเภอหนองใหญ่ 9.อาเภอบางละมงุ 10. อาเภอสัตหีบ 11.อาเภอเกาะสีชงั
16 - วถิ ชี ีวิตและเศรษฐกจิ ชลบุรี เมอื งชายทะเลท่ีได้รับการกลา่ วขานมากท่สี ดุ แห่งบรู พาทิศ ดินแดนชายทะเลอันมั่งค่งั แห่งนไี้ ด้ ผันผา่ นกาลเวลามาเน่นิ นาน จากการเปน็ เมอื งทา่ คา้ ขายคึกคกั ในอดีต พฒั นามาสเู่ มืองเกษตร อุตสาหกรรม และ ทอ่ งเทยี่ ว สิ่งนอ้ี าจสะทอ้ นคุณลกั ษณะสาคัญของคนเมอื งชล ซ่ึงมคี วามขยันและมองการไกลกอปรกับทรัพยใ์ น ดินสินในนา้ ตา่ งชว่ ยกนั เอื้ออานวยใหก้ ารพัฒนาในด้านต่างๆเป็นไปอยา่ งสะดวกราบร่นื และต่อเนื่อง ปัจจุบันชลบุรมี ปี ระชากรประมาณ 1,233,446 คน ซ่ึงสว่ นหนง่ึ เปน็ ผโู้ ยกย้ายเขา้ มาทางานใน ภาคอตุ สาหกรรมต่างๆทขี่ ยายตัวอยา่ งต่อเน่อื ง ทว่าเม่อื พูดถึงผู้คนพน้ื ถ่นิ จรงิ ๆของชลบุรีแลว้ จะพบวา่ คนชลบรุ ีมี อาชพี ผกู พนั อยู่กับท้องทะเล นาไร่ ทาปศสุ ตั ว์ และทาเหมอื งแร่ โดยลักษณะนิสยั ของคนเมอื งชลดงั้ เดิมไดช้ ่ือวา่ เปน็ คนจริงใช้ชีวิตเรยี บง่าย ประหยัดอดออม เอาการเอางาน หนกั เอาเบาสู้ มคี วามเปน็ มิตร และพร้อม ตอ้ นรบั ผมู้ าเยือนเสมอ แม้ทุกวนั น้ีสภาพบา้ นเมืองของชลบรุ ีจะเจรญิ รุดหนา้ ไปมาก อีกทง้ั มผี คู้ นตา่ งถน่ิ โยกย้าย เข้ามาอาศยั ผสมกลมกลืนกบั ชนด้งั เดิม ทว่าคนเมืองชลก็ยงั คงรักษาขนบธรรมเนยี มและประเพณีอันดงี ามของตน เอาไว้อยา่ งเหนยี วแน่น สะท้อนออกมาในรูปแบบงานเทศกาลประจาปีต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นงานบญุ กลางบ้านและงาน เคร่ืองจักสานพนัสนคิ ม งานประเพณวี นั ไหล (งานก่อพระทรายวันไหล) ในช่วงหลังวนั สงกรานต์ งานประเพณกี อง ข้าวอาเภอศรีราชา งานประเพณวี ิ่งควายอันคกึ คักสนุกสาน รวมถึงงานแหพ่ ระพุทธสหิ งิ ค์และงานกาชาด ชลบรุ ี เป็นตน้ เหล่านล้ี ้วนแสดงให้ประจักษถ์ ึงเอกลักษณค์ วามโดดเดน่ ของคนชลบุรไี ดอ้ ย่างชัดเจนคนเมืองชลใน ปจั จุบนั นับถือศาสนาพุทธมากถงึ 97 เปอรเ์ ซ็นต์ ส่วนที่เหลือนับถือศาสนาคริสต์ อิสลาม และอ่ืนๆ โดย ผสมผสานความเชือ่ ความศรทั ธาในส่ิงศกั ด์ิสทิ ธ์เิ ข้าไว้ในศาสนาทตี่ นนับถือดว้ ย เช่น เมอ่ื ถึงช่วงเทศกาลกินเจ ประมาณเดือนตุลาคมของทุกปี ผู้คนท่ศี รัทธาก็จะพากนั นุ่งขาวห่มขาว งดการบรโิ ภคเนอ้ื สัตว์ แล้วเดินทางไปรว่ ม สวดมนต์บาเพญ็ ทานยงั โรงเจต่างๆท่ัวจงั หวัดชลบรุ ี หรืออีกตวั อยา่ งหน่ึงท่เี ห็นได้ชดั เจนกค็ อื คนเมอื งชลมัก เดินทางไปทีเ่ ขาสามมขุ เพ่อื สกั การะและขอพรจากเจ้าแมส่ ามมขุ บรเิ วณเขาสามมุขซงึ่ ไม่ห่างจากหาดบางแสน และอ่างศลิ า สองตวั อยา่ งน้คี ือความเชื่อของชาวจีนที่ผสานรวมเปน็ เนอื้ เดยี วกับความศรัทธาท้องถิน่ จนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ชลบรุ เี ป็นย่านชมุ ชนจีนท่ีใหญ่ที่สดุ ในภาคตะวนั ออก คนจีนในชลบรุ สี ่วนใหญ่เปน็ เชอื้ สายแต้จิ๋ว ซง่ึ เช่ยี วชาญการคา้ และมีบทบาทสาคัญในเร่ืองเศรษฐกิจ ประมง อตุ สาหกรรม เกษตรกรรมและเข้ามาตง้ั ถ่ินฐาน ในชว่ งต้นรตั นโกสินทร์ (รัชกาลที่ 2-3) อยูแ่ ถบชายทะเลเมอื งบางปลาสรอ้ ย ทาการค้าและประมงอย่างกว้างขวาง จนมเี หลอื ส่งออกไปยังตา่ งประเทศ อกี ทั้งเปน็ ผนู้ าอ้อยเข้ามาปลูก และริเรมิ่ อุตสาหกรรมน้าตาลทรายแถบอาเภอ บ้านบึง อาเภอพานทอง และอาเภอพนสั นคิ ม ส่วนคนจนี ที่อพยพเขา้ มาในสมัยรัชกาลที่ 5 มกั ทาอาชพี ปลูกผักและ เลย้ี งเป็ดอยูใ่ นบรเิ วณเดียวกัน สาหรบั ชนชาวลาวนั้นอพยพเขา้ มาชว่ งรชั กาลท่ี 3 มีอาชีพทาไร่ ทานา และมี ความสามารถพิเศษในการทาหตั ถกรรมจักสาน สว่ นชาวมสุ ลมิ อพยพเข้ามาตั้งแตส่ มัยอยุธยา ปจั จบุ ันมอี าชพี ทาสวน ผลไม้ไรม่ นั สาปะหลัง และค้าขายในตลาด เป็นกลุม่ ท่เี คร่งครดั ในประเพณีและศาสนาทกุ วันนี้ ชลบรุ ไี ดก้ า้ วย่าง ผ่านยคุ แหง่ การพัฒนา จนสามารถบรรลุถึงความเพยี บพร้อม ทัง้ ในแง่ของทรัพยากรธรรมชาติ การท่องเทย่ี ว อตุ สาหกรรม การเกษตร วิถชี ีวติ และสามารถรักษาวฒั นธรรมอันดงี ามของทอ้ งถนิ่ ไว้ได้อยา่ งสมบรู ณ์ กลายเปน็ เมืองชายทะเลท่ีมเี สนห่ ์ นา่ เทย่ี ว น่าลงทนุ และมีความปลอดภัยสงู ศักยภาพและความโดดเด่นในหลายดา้ นของ เมอื งชลทัง้ หมดดงั กลา่ ว จงึ กลายเป็นต้นทุนที่มั่งคั่งเพ่ือการพัฒนาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ส่งผลให้ชลบรุ ีกลายเปน็ “เพชร น้ำเอกแห่งบูรพำทิศ” ทพ่ี ร้อมเปดิ ประตูออกสสู่ งั คมโลกได้อย่างสมภาคภมู ิ
17 ฉพ ข SWOT ข็ 1. ดำ้ นเศรษฐกิจ จังหวดั ชลบรุ ี เป็นจงั หวัดท่ีตดิ กบั อ่าวไทยแห่งหนงึ่ ในภาคตะวันออกซ่ึงมีสถานที่ทอ่ งเที่ยว ที่มชี อ่ื เสยี งหลายแหง่ ต้ังอยู่ นอกจากดา้ นอุตสาหกรรมการทอ่ งเทีย่ วแลว้ ในขณะเดียวกันน้นั ยงั ถือว่าเปน็ จงั หวัดทม่ี คี วามสาคัญทางเศรษฐกจิ เปน็ อยา่ งมากทีส่ ดุ ท้งั ในดา้ นพาณชิ ยกรรมและอตุ สาหกรรมตา่ งๆ ของประเทศ แห่งหน่งึ ด้วย ประชาชนมรี ายได้เฉล่ยี ต่อครวั เรือน 27,665.39 บาท (ปี 2560) (ทม่ี า สานกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ รายไดโ้ ดยเฉลีย่ ต่อเดือนต่อครัวเรอื น รายจงั หวัด พ.ศ. 2545 – 2560) 2. ส่งิ แวดล้อมที่ต้ังอยใู่ นเขตอำเภอเมืองชลบรุ ี/ กำรคมนำคมสะดวก - อาเภอเมืองชลบรุ แี บ่งเขตการปกครองออกเป็น 18 ตาบล 107 หมูบ่ ้าน จังหวัดชลบรุ มี ปี ระชากร 1,509,125 คน คดิ เปน็ อนั ดับท่ี 10 ของประเทศ โดยแบง่ เป็น 1. ชาย จานวน 696,038 คน 2. หญงิ จานวน 725,387 คน ท่ีมา: สานกั ทะเบยี นกลาง กรมการปกครอง ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม พ.ศ. 2560 - อาเภอเมืองชลบรุ ี มีประชากรอาศยั อยู่ 346,838 คน แยกเป็น 1. ชาย จานวน 167,755 คน 2. หญงิ จานวน 179,183 คน ท่ีมา:ท่มี า : ระบบสถติ ิทางทะเบยี น กรมการปกครอง ณ วันท่ี 9 มนี าคม พ.ศ. 2560 3. เป็นแหลง่ ศึกษำค้นคว้ำของชุมชนสถำนศึกษำในเขตอำเภอเมืองชลบรุ ี - สงั กดั สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน (สพฐ.) จานวน 9 แห่ - สงั กัดเทศบาลเมืองชลบุรี จานวน 5 แหง่ - สังกดั สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา (สอศ.) จานวน 1 แหง่ - สังกดั กรมการศาสนา จานวน 1 แหง่ - ภาคเอกชน จานวน 11 แหง่ - มหาวทิ ยาลัยของรัฐทสี่ ังกัดสานักงานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร จานวน 3 แหง่ 4. กำรมีส่วนร่วมของเครือข่ำยห้องสมุดท่ีหลำกหลำย 1. หอสมดุ แหง่ ชาตจิ ังหวัดชลบุรี 2. โรงเรียนสงั กัดสานักงานเขตพืน้ ที่ชลบุรีเขต 1 3. โรงเรยี นสังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี 4. โรงเรียนสงั กัด อบจ. ชลบรุ ี 5. เทศบาลเมอื งชลบรุ ี 6. เทศบาลบา้ นสวน 7. ทัณฑสถานหญิงชลบรุ ี
18 8. กศน. อาเภอเมืองชลบุรี 9. หอ้ งสมดุ อาเภอสังกัด กศน.ทุกแห่ง 10.วัดใหญอ่ นิ ทราราม 11. วดั เนนิ สุทธาวาส 12. วัดต้นสน 13. วดั กาแพง 14. วดั นอก 15. วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาชลบุรี 16. อบจ. ชลบรุ ี 17. ศนู ยฝ์ กึ วิชาชีพวัดนอก 18. ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพอ่ื การศกึ ษาสระแก้ว 19. สานกั งาน กศน. จงั หวัดชลบุรี 20. จงั หวัดชลบุรี 5. กำรมสี ่วนร่วมของชุมชน - คณะกรรมการห้องสมุดประชาชนจังหวัดชลบรุ ี 1. นายอานวย พานชิ ประธานกรรมการ 2. นางอญั ชลี หนูอไุ ร กรรมการ 3. นายบรรจง โตะ๊ ชัยบรู ณ์ กรรมการ 4. นายนรนิ ทร์ สนิ เนอื่ งนอง กรรมการ 5. นายโอกาส อินทธร กรรมการ 6. นางสมหมาย บูรณะพิมพ์ กรรมการ 7. นายสมใจ เอ่ยี มเจรญิ กรรมการ 8. นายอุทิศ รักษาศลี กรรมการ 9. นายไพรตั น์ เนอ่ื งเกตุ กรรมการและเลขานุการ - คณะกรรมการคัดเลือกหนังสือและส่ือห้องสมุดประชาชนจังหวดั ชลบรุ ี 1. นายไพรตั น์ เนื่องเกตุ ประธานกรรมการ 2. น.ส.อรวดี สถิรวสิ าลกิจ กรรมการ 3. นางนิภา โชคชยั ธรรม กรรมการ 4. นางนฤมล วรรคาวิสนั ต์ กรรมการ 5. นางวราภรณ์ วนั ดา กรรมการ 6. นางจริ ภทั ร์ พมิ พส์ วรรค์ กรรมการ 7. นางกัณทิพณั กติ ติคณุ กรรมการ 8. นายเสกสรรค์ พรมศักดิ์ กรรมการ 9. น.ส.รัชดาภรณ์ ทองสนธิ กรรมการ 10. นายปัญญวชิ ญ์ สุขทวี กรรมการและเลขานุการ
19 6. จุดบรกิ ำรห้องสมุดสำขำ - บ้านหนงั สอื ชมุ ชน ทั้งหมด 29 แหง่ 7. อำสำสมคั รรักกำรอ่ำน ช่วยงำนห้องสมุด - งานเทคนิคห้องสมดุ - งานบริการหอ้ งสมุด - งานกจิ กรรมห้องสมดุ - งานอาคารสถานที่ 8. ผู้สนับสนนุ กำรอ่ำนทเี่ ข้มแขง็ - ภาครัฐ (จงั หวัด) , องค์การบริหารส่วนจงั หวดั ด้านนโยบายและงบประมาณ - ภาคเอกชน และภูมิปัญญา ด้านปจั จัยอน่ื เชน่ สิง่ ของ, สถานที่ และวทิ ยากร 9. กำรสนบั สนุนของผ้บู ริหำร กศน. - สานกั งาน กศน. จงั หวัดชลบรุ ี - กศน.อาเภอเมืองชลบรุ ี ดา้ นนโยบายและงบประมาณอย่างต่อเนื่อง กำรนำกลยทุ ธ์สกู่ ำรพัฒนำห้องสมุดให้ประสบควำมสำเรจ็ 1. กำรบริหำรและจัดกำร - ศกึ ษาข้อมูล วางแผน ลงมอื ทา ตรวจสอบการทางาน และการจดั ทาคูม่ ือการทางาน 2. กำรประชำสัมพันธ์ - ผ่านกิจกรรม วทิ ยุ ส่ือทอ้ งถิ่น และเป็นแหล่งศึกษาดงู าน 3. กำรตลำด - การตอบสนองความต้องการและการใช้โปรโมชั่น 4. กำรพฒั นำ - มุง่ ให้ผู้ปฏบิ ตั งิ านเกิดจิตสานกึ ทดี่ ี สร้างขวัญและกาลงั ใจ และพฒั นาบคุ ลากร
่2 . 2562 วสิ ัยทศั น์ คนไทยได้รบั โอกาสการศึกษาและการเรยี นรตู้ ลอดชีวิตอยา่ งมีคุณภาพ สามารถดารงชีวิตที่เหมาะสม กับชว่ งวัย สอดคลอ้ งกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และมที ักษะทจ่ี าเปน็ โลกศตวรรษท่ี 21 พันธกจิ 1. จดั และส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยทีม่ ีคุณภาพ เพอ่ื ยกระดับการศึกษา พฒั นาทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทกุ กลุม่ เป้าหมายใหเ้ หมาะสมทุกชว่ งวยั และพร้อมรับการเปล่ยี นแปลงริบท ทางสังคม และสรา้ งสังคมแห่งการเรยี นร้ตู ลอดชวี ิต 2. สง่ เสริม สนบั สนุน และประสานเครือข่ายในการมีส่วนรว่ มจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย และการเรียนรตู้ ลอดชีวติ รวมทั้งการดาเนนิ กจิ กรรมของศนู ยก์ ารเรยี นและแหล่งการเรยี นรู้อน่ื ในรปู แบบตา่ งๆ 3. สง่ เสริมและพัฒนาการนาเทคโนโลยที างการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทลั มาใชใ้ หเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ ในการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยให้กับประชาชนอยา่ งท่วั ถึง 4. พัฒนาหลักสตู ร รปู แบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ือและนวัตกรรม การวดั และประเมินผลใน ทกุ รปู แบบให้สอดคล้องกับบริบทในปจั จบุ ัน 5. พฒั นาบคุ ลากรและระบบการบริหารจดั การให้มีประสทิ ธิภาพ เพ่ือมุ่งจัดการศกึ ษาและการเรยี น ทีม่ ีคุณภาพ โดยยดึ หลกั ธรรมาภิบาล เป้ำประสงค์ 1. ประชาชนผ้ดู ้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศกึ ษา รวมทัง้ ประชาชนทว่ั ไปได้รับโอกาสทางการศกึ ษา ในรูปแบบการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน การศึกษาต่อเนอื่ ง และการศึกษาตามอัธยาศยั ท่ีมี คุณภาพอยา่ งเท่าเทยี มและทั่วถึง เป็นไปตามสภาพ ปญั หา และความต้องการของแตล่ ะกลุ่มเปา้ หมาย 2. ประชาชนได้รบั การยกระดับการศกึ ษา สร้างเสรมิ และปลูกฝงั คณุ ธรรม จริยธรรม และความเปน็ พลเมือง อนั นาไปสู่การยกระดับคุณภาพชวี ติ และเสริมสรา้ งความเข้มแขง็ ใหช้ ุมชน เพ่ือพฒั นาไปสู่ความมัน่ คง และย่ังยนื ทางด้านเศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรม ประวตั ศิ าสตร์ และสงิ่ แวดลอ้ ม
21 3. ประชาชนไดร้ ับโอกาสในการเรยี นรู้ และมเี จตคติทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยที เ่ี หมาะสม สามารถคดิ วเิ คราะห์ และประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวัน รวมทัง้ แกป้ ัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตไดอ้ ยา่ ง สร้างสรรค์ 4. ประชาชนได้รับการสรา้ งและสง่ เสรมิ ใหม้ ีนสิ ัยรกั การอ่านเพอื่ การแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง 5. ชุมชนและภาคีเครือขา่ ยทุกภาคส่วน ร่วมจดั สง่ เสริม และสนบั สนนุ การดาเนนิ งานการศกึ ษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั รวมท้ังการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรยี นรขู้ องชมุ ชน 6. หนว่ ยงานและสถานศึกษาพฒั นา เทคโนโลยที างการศกึ ษา เทคโนโลยดี จิ ิทัล มาใช้ในการยกระดบั คุณภาพในการจดั การเรยี นรู้และเพ่ิมโอกาสการเรียนรูใ้ หก้ บั ประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพฒั นาสอ่ื และการจดั กระบวนการเรียนรู้ เพ่ือแกป้ ัญหาและพัฒนา คณุ ภาพชวี ิต ทต่ี อบสนองกบั การเปลีย่ นแปลงบรบิ ทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวตั ศิ าสตร์ และส่ิงแวดลอ้ ม รวมทงั้ ตามความตอ้ งการของประชาชนและชมุ ชนในรปู แบบท่ีหลากหลาย 8. บุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รบั การพัฒนาเพ่อื เพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 9. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบรหิ ารจดั การท่ีเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ตวั ช้วี ดั ตวั ชี้วดั เชิงปริมำณ 1. จานวนผูเ้ รียนการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐานทีไ่ ดร้ บั การสนบั สนุนคา่ ใชจ้ ่าย ตามสิทธทิ ีก่ าหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเปา้ หมายตา่ งๆ ทีเ่ ขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้/ไดร้ ับบรกิ ารกิจกรรม การศึกษาต่อเนือ่ ง และการศึกษาตามอธั ยาศัย ทส่ี อดคลอ้ งกบั สภาพ ปัญหา และความตอ้ งการ 3. จานวนผู้รับบริการในพนื้ ทีเ่ ป้าหมายได้รับการส่งเสรมิ ด้านการรู้หนงั สือและการพัฒนาทกั ษะชีวิต 4. จานวนผูผ้ ่านการอบรมตามหลกั สูตรท่ีกาหนดของกจิ กรรมสร้างเครือข่ายดจิ ิทัลชุมชนระดบั ตาบล 5. จานวนประชาชนที่เขา้ รบั การอบรมตามหลกั สตู รภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสารดา้ นอาชีพ (ระยะส้ัน) สาหรบั ประชาชน ในศูนย์อาเซยี นศกึ ษา กศน. 6. จานวนประชาชนท่ีเขา้ รับการอบรมให้มคี วามรู้ในอาชพี การเกษตรทเ่ี หมาะสมกับสภาพบริบท และความต้องการของพื้นท่ี/ชมุ ชน 7. จานวนนักเรยี น นักศึกษา และประชาชนทว่ั ไปท่เี ขา้ ถงึ บรกิ ารการศึกษาตามอธั ยาศยั 8. จานวนนกั เรยี น นักศกึ ษาทไี่ ด้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ 9. ร้อยละของสถานศึกษาทม่ี ีระบบประกนั คุณภาพภายในและมกี ารจดั ทารายงานการประเมินตนเอง 10. รอ้ ยละของหนว่ ยงานและสถานศึกษาทม่ี ีการใช้ระบบเทคโนโลยดี จิ ิทัลในการจดั ทาฐานขอ้ มูล ชุมชนและการบริหารจดั การ เพื่อสนับสนุนการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั
22 11. จานวนบุคลากรของหน่วยงานและสถานศกึ ษาไดร้ ับการพฒั นาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการ ปฏบิ ัติงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 12. จานวนองคก์ รภาคส่วนตา่ ง ๆ ทง้ั ในและตา่ งประเทศ ทรี่ ว่ มเป็นภาคีเครือขา่ ยในการดาเนนิ งาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ตัวชวี้ ัดเชิงคุณภำพ 1. รอ้ ยละของกาลงั แรงงานท่ีสาเรจ็ การศกึ ษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้นหรือเทียบเท่า ได้รบั การศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลายหรอื เทียบเท่า 2. รอ้ ยละที่เพมิ่ ขนึ้ ของคะแนนเฉลีย่ ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ โรงเรียน (N-NET) 3. รอ้ ยละของนกั เรยี น/นกั ศึกษาที่มีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนในวชิ าทไ่ี ด้รับบริการติวเขม้ เต็มความรู้ เพมิ่ สงู ขึ้น 4. ร้อยละของผูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมทส่ี ามารถอ่านออกเขยี นได้และคิดเลขเป็นตามจุดมุ่งหมาย ของกจิ กรรม 5. รอ้ ยละผจู้ บหลกั สตู ร/กิจกรรมการศึกษานอกระบบท่สี ามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ ตามจดุ มงุ่ หมายของหลกั สตู ร/กจิ กรรมที่กาหนด 6. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายทีล่ งทะเบียนเข้าร่วมกจิ กรรม มีรายไดเ้ พิม่ ขนึ้ จากการพัฒนาอาชีพ ตามโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน 7. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายทีผ่ า่ นการอบรมตามหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ดา้ นอาชีพ (ระยะสนั้ ) มีความรใู้ นการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการดาเนนิ ชีวติ ได้ 8. ร้อยละของผ้เู ขา้ รบั การอบรมหลักสตู รการดูแลผ้สู งู อายุกระทรวงศึกษาธกิ าร ผา่ นเกณฑก์ ารอบรมตาม หลกั สตู รที่กาหนด 9. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายในเขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกิจจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ไดร้ ับ การพฒั นาศกั ยภาพ ทกั ษะอาชีพ สามารถมีงานทาหรอื นาไปประกอบอาชีพได้ 10. รอ้ ยละของตาบล/แขวง ทม่ี ีปรมิ าณขยะลดลง 11. ร้อยละการอา่ นของคนไทยเพมิ่ ขึ้น 12. รอ้ ยละของครู กศน. ทีส่ ามารถจัดกระบวนการเรียนรูภ้ าษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสารได้อย่าง สอดคล้องกับบริบทของผู้เรยี น 13. รอ้ ยละของคะแนนการประเมนิ คุณธรรมและความโปรง่ ใสของการดาเนนิ งานของหน่วยงาน
23 นโยบำยเร่งด่วนเพ่อื รว่ มขับเคล่ือนยุทธศำสตร์กำรพฒั นำประเทศ 1. ยทุ ธศำสตรด์ ำ้ นควำมม่ันคง 1.1 ส่งเสรมิ กำรจัดกำรเรียนรู้ตำมพระบรมรำโชบำยดำ้ นกำรศึกษำของ รัชกำลท่ี ๑๐ 1) เสริมสรา้ งความรู้ความเขา้ ใจทถ่ี ูกตอ้ งในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี พระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข มคี วามเปน็ พลเมืองดี เคารพความคิดของผู้อ่ืน ยอมรับความแตกต่างและ หลากหลายทางความคดิ และอุดมการณ์ รวมทง้ั สงั คมพหุวฒั นธรรม 2) ส่งเสรมิ การจดั กจิ กรรมการเรียนรูท้ ี่ปลกู ฝังคณุ ธรรม สร้างวนิ ัย จิตสาธารณะ และ อดุ มการณ์ความยึดมั่นในสถาบนั หลักของชาติ รวมทั้งการมีจติ อาสา ผา่ นกจิ กรรมลกู เสือ กศน. และกิจกรรมอืน่ ๆ ตลอดจนสนบั สนุนใหม้ กี ารจดั กจิ กรรมเพ่อื ปลูกฝงั คุณธรรม จริยธรรมให้กบั บุคลากรในองคก์ ร 1.2 พฒั นำกำรจดั กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั ในเขตพ้นื ที่พเิ ศษ 1) เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกิจจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ และพ้ืนที่ชายแดน 1.1) พัฒนารปู แบบการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยให้มี ความสอดคล้องกับบรบิ ทของสงั คม วัฒนธรรม และพื้นท่ี เพือ่ สนับสนนุ การแก้ไขปญั หาและพัฒนาพ้ืนท่ี 1.2) เรง่ จัดทาแผนและมาตรการดา้ นความปลอดภยั ที่ชัดเจนสาหรบั หน่วยงานและ สถานศึกษารวมท้ังบุคลากรท่ีปฏบิ ัติงานในพนื้ ที่เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยบูรณาการแผน และปฏบิ ตั ิงานรว่ มกับหน่วยงานความม่ันคงในพนื้ ที่ 1.3) ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การจัดกระบวนการเรยี นรู้ในสถาบันศึกษาปอเนาะ ใน รูปแบบตา่ งๆทหี่ ลากหลายตรงกบั ความต้องการของผูเ้ รยี น อาทิ การเพ่มิ พนู ประสบการณ์ การเปิดโลกทัศน์ การยึด ม่นั ในหลักคุณธรรมและสถาบันหลักของชาติ 1.4) สนับสนุนใหม้ ีการพัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทใหม้ สี มรรถนะทส่ี งู ขึ้น เพือ่ ให้สามารถปฏบิ ตั งิ านได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 2) เขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ และพน้ื ทร่ี ะเบียงเศรษฐกจิ พเิ ศษภาคตะวันออก (EEC) โดย สง่ เสรมิ การจดั การศึกษาเพื่อยกระดับการศึกษาและพัฒนาศกั ยภาพประชาชน สร้างงานและพัฒนาอาชพี ทีเ่ ป็นไป ตามบริบทและความต้องการของประชาชนในพ้ืนที่ 2. ยทุ ธศำสตรด์ ำ้ นกำรพฒั นำกำลงั คน กำรวจิ ัย และนวัตกรรมเพ่ือสรำ้ งขีดควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขัน ของประเทศ 2.1 ขับเคล่ือน กศน. สู่ “Smart ONIE” ในกำรจัดกำรศกึ ษำและกำรเรียนรทู้ ี่เสรมิ สร้ำงศกั ยภำพ ของประชำชนให้สอดคล้องกับกำรพัฒนำประเทศ 1) พัฒนาความรู้ความสามารถ และทักษะการใช้ภาษาองั กฤษของครูและบุคลากร กศน. เช่น Boot Camp หลักสูตรภาษาองั กฤษ การจดั หลักสตู รภาษาเพ่ืออาชีพ
24 2) พัฒนาความร้แู ละทกั ษะเทคโนโลยีดจิ ิทัล การใช้ Social Media และ Application ต่างๆเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรยี นการสอน ของครูและบคุ ลากรทางการศึกษา 2.2 พฒั นำกำลงั คนใหเ้ ปน็ “Smart Digital Persons (SDPs)” ท่มี ที ักษะด้ำนภำษำและทักษะดิจิทลั เพื่อรองรับกำรพัฒนำประเทศ 1) สง่ เสริมการจดั การเรียนรู้ด้าน Digital เพื่อให้ประชาชน มคี วามรู้พ้ืนฐานด้าน Digital และความรู้เร่ืองกฎหมายว่าดว้ ยการกระทาความผิดเก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์ สาหรับการใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวัน รวมท้ังการพัฒนาและการเข้าสู่อาชีพ นโยบายเร่งดว่ นเพ่ื2) สร้างความรูค้ วามเข้าใจและทักษะพน้ื ฐานให้กบั ประชาชน เกย่ี วกบั การทาธรุ กิจและ การค้าออนไลน์ (พาณชิ ยอ์ ิเล็กทรอนิกส์) เพอ่ื ร่วมขับเคล่อื นเศรษฐกจิ ดจิ ิทัล 3) พฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสารของประชาชนในรูปแบบต่างๆ อยา่ งเป็นรูปธรรม โดยเน้นทักษะภาษาเพ่อื อาชีพ ทัง้ ในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเทีย่ ว 3. ยทุ ธศำสตร์ด้ำนกำรพฒั นำและเสรมิ สร้ำงศกั ยภำพคนให้มีคุณภำพ 3.1 เตรียมควำมพรอ้ มกำรเขำ้ สสู่ ังคมผู้สูงอำยอุ ยำ่ งมีคณุ ภำพ (Smart Aging Society) 1) สง่ เสรมิ การจดั กิจกรรมให้กับประชาชนเพื่อสรา้ งตระหนักถึงการเตรยี มพร้อมเข้าสสู่ ังคม ผสู้ ูงอายุ (Aging Society) มีความเขา้ ใจในพัฒนาการของช่วงวัย รวมทั้งเรียนรู้และมสี ่วนรว่ มในการดแู ลรบั ผดิ ชอบ ผูส้ ูงอายุในครอบครวั และชมุ ชน 2) พัฒนาการจัดบริการการศึกษาและการเรียนรูส้ าหรบั ประชาชนในการเตรียมความพร้อม เขา้ สู่วยั สูงอายทุ เ่ี หมาะสมและมคี ุณภาพ 3) จดั การศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชวี ติ สาหรบั ผสู้ งู อายภุ ายใต้แนวคดิ “Active Aging” การศกึ ษาเพื่อพฒั นาคุณภาพชวี ิต และพัฒนาทกั ษะชีวติ ให้สามารถดูแลตนเองทง้ั สุขภาพกายและสขุ ภาพจติ และ รจู้ ักใชป้ ระโยชน์จากเทคโนโลยี 4) สรา้ งความตระหนักถงึ คุณค่าและศักดิ์ศรีของผ้สู ูงอายุ เปดิ โอกาสใหม้ ีการเผยแพรภ่ มู ิ ปญั ญาของผ้สู งู อายุ และให้มีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมด้านต่างๆ ในชุมชน เชน่ ดา้ นอาชพี กฬี า ศาสนาและวฒั นธรรม 3.2 ส่งเสริมกำรจัดกำรเรยี นร้ดู ำ้ นเกษตรกรรม (Smart Farmer : เกษตรกรปรำดเปร่อื ง) โดยใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศและนวัตกรรมในการจดั กระบวนการเรยี นรดู้ ้านเกษตรกรรมทเ่ี หมาะกบั บริบทของพน้ื ท่ี และความต้องการของชมุ ชน รวมทัง้ การเพ่มิ มลู ค่าสนิ คา้ ทางการเกษตร และสร้างชอ่ งทางการจาหน่ายสนิ คา้ ผา่ นช่องทางต่างๆ โดยตระหนกั ถงึ คุณภาพของผลผลติ ความปลอดภยั ตอ่ ระบบนิเวศน์ ชุมชน และผูบ้ รโิ ภค 3.3 ส่งเสริมให้มกี ำรจัดกำรเรยี นกำรสอนแบบ “สะเต็มศึกษำ” (STEM Education) สาหรับผู้เรียนและ ประชาชน โดยบรู ณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ควบคูก่ ับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์เพือ่ ประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวนั พัฒนาทักษะชีวติ สู่การประกอบอาชีพ
25 3.4 เพ่ิมอตั รำกำรอำ่ นของประชำชน โดยการจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่านในรูปแบบต่างๆ เช่น อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมดุ ประชาชน บ้านหนงั สือชุมชน หอ้ งสมุดเคลื่อนท่ี เพอื่ พัฒนาใหป้ ระชาชนมี ความสามารถในระดับอ่านคล่อง เขา้ ใจความ คดิ วิเคราะห์พ้ืนฐาน และสามารถรับรขู้ ้อมูลขา่ วสารทถี่ ูกต้องและทัน เหตุการณ์ รวมท้ังนาความรูท้ ี่ไดร้ ับไปใช้ปฏิบัติจริงในชีวิตประจาวัน 3.5 ศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน สู่ “วิสำหกิจชุมชน : ชุมชนพงึ่ ตนเอง ทำได้ ขำยเป็น” 1) ส่งเสริมการจัดการศึกษาอาชีพทีส่ อดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความต้องการของ ตลาดรวมทง้ั สรา้ งเครือขา่ ยการรวมกลุ่มในลักษณะวิสาหกจิ ชมุ ชน สร้างรายได้ใหก้ ับชุมชน ใหช้ มุ ชนพ่ึงพาตนเองได้ 2) สง่ เสริมการใช้เทคโนโลยใี นการสรา้ งมูลคา่ เพมิ่ ให้กับสินคา้ การทาช่องทางเผยแพร่และจา หนา่ ยผลติ ภณั ฑข์ องวิสาหกจิ ชุมชนใหเ้ ป็นระบบครบวงจร 3.6 จัดกระบวนกำรเรยี นรู้ตำมแนวทำงเกษตรธรรมชำติสกู่ ำรพัฒนำอำชีพเกษตรกรรมอยำ่ งยั่งยืน 1) พัฒนาบุคลากรและแกนนาเกษตรกรในการเผยแพรแ่ ละจดั กระบวนการเรยี นรู้ตาม แนวทางเกษตรธรรมชาติสูก่ ารพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม 2) จดั ต้ังศูนย์การเรยี นรู้ต้นแบบระดบั ตาบลดา้ นเกษตรธรรมชาตสิ ่กู ารพฒั นาอาชพี เกษตรกรรมเพ่ือถ่ายทอดความรู้ด้านเกษตรธรรมชาติส่กู ารพฒั นาอาชีพเกษตรกรรมให้กับชุมชน 3) สง่ เสริมให้มีการบูรณาการระหว่าง ศฝช. และ กศน.อาเภอ ในการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ตามแนวทางเกษตรธรรมชาติสกู่ ารพัฒนาอาชพี เกษตรกรรมใหก้ บั ประชาชน 3.7 ยกระดับคุณภำพกำรศกึ ษำนอกระบบระดับกำรศกึ ษำข้ันพืน้ ฐำน โดยพฒั นาหลักสตู ร รูปแบบ การจัดการเรยี นการสอน และกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น คณุ ภาพของสื่อและนวตั กรรม รวมการมาตรฐาน ของการวัดและประเมินผล เพ่อื สรา้ งความเช่อื ม่ันใหส้ งั คมเก่ยี วกบั คุณภาพการจดั การศึกษาของสานักงาน กศน. 4. ยุทธศำสตร์ด้ำนกำรสรำ้ งโอกำสและควำมเสมอภำคทำงกำรศกึ ษำ 4.1 สง่ เสรมิ กำรนำระบบคูปองกำรศึกษำมำใช้ เพ่ือสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ทส่ี อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของประชาชนผ้รู ับบรกิ าร 4.2 สรำ้ งกระบวนกำรเรยี นรู้ในรปู แบบ E-learning ที่ใชร้ ะบบเทคโนโลยเี ขา้ มาบริหารจัดการเรียนรู้เพ่ือ เป็นการสร้างและขยายโอกาสในการเรยี นรู้ใหก้ ับกลมุ่ เปา้ หมายได้สะดวก รวดเร็ว ตรงตามความต้องการของ ประชาชนผู้รับบรกิ าร 4.3 เพ่ิมอัตรำกำรรหู้ นงั สือและยกระดับกำรรหู้ นงั สือของประชำชน 1) เร่งจัดการศกึ ษาเพ่ือเพม่ิ อัตราการรหู้ นังสือ และคงสภาพการรูห้ นงั สือ ให้ประชาชน สามารถอ่านออก เขียนได้ และคดิ เลขเปน็ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ จังหวดั ชายแดนภาคใต้ และพืน้ ทหี่ ่างไกล โดยมกี ารวัดระดบั การรู้หนังสือ การใช้ส่อื กระบวนการ และกิจกรรมพฒั นาทกั ษะในรูปแบบตา่ งๆ ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพพ้ืนท่ีและกลมุ่ เปา้ หมาย ให้ประชาชนสามารถฟัง พดู อา่ น และเขยี นภาษาไทย เพื่อประโยชน์ในการใช้ชีวติ ประจาวันได้ 2) ยกระดบั การรู้หนังสือของประชาชน โดยจัดกจิ กรรมพัฒนาทกั ษะการรหู้ นังสอื ในรปู แบบ ต่างๆรวมทัง้ ทักษะดา้ นเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั เพื่อเป็นเครื่องมือในการเรยี นรูต้ ลอดชีวิตของประชาชน
26 4.4 ยกระดบั กำรศึกษำใหก้ ับกลมุ่ เปำ้ หมำยทหำรกองประจำกำร รวมท้ังกลุ่มเป้ำหมำยพเิ ศษอน่ื ๆ เช่น คนพิการ เด็กออกกลางคัน ให้จบการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน สามารถนาความรู้ท่ไี ด้รบั ไป พัฒนาตนเองได้อยา่ งต่อเน่ือง 4.5 พลกิ โฉม กศน. ตำบล สู่ “กศน.ตำบล 4G” 1) พัฒนาครู กศน. และบุคลากรทเี่ กย่ี วข้องกับการจดั กิจกรรมการศึกษาและการเรยี นรู้ : GoodTeacher ให้เปน็ ตวั กลางในการเช่อื มโยงความรู้กับผู้รับบรกิ าร มคี วามเป็น “ครูมอื อาชีพ” มีจติ บริการ มี ความรอบรู้และทันต่อการเปลย่ี นแปลงของสังคม เปน็ ผูจ้ ดั กจิ กรรมการเรียนรูแ้ ละบรหิ ารจัดการความรู้ที่ดี รวมทัง้ เป็นผู้ปฏบิ ตั ิงานอยา่ งมคี วามสขุ 2) พัฒนา กศน.ตาบล ให้มบี รรยากาศและสภาพแวดลอ้ มเอื้อต่อการเรยี นรู้อย่างต่อเนือ่ ง : GoodPlace Best Check-In มีความพร้อมในการใหบ้ ริการกิจกรรมการศกึ ษาและการเรียนรู้ เป็นแหล่งข้อมลู สาธารณะทง่ี า่ ยตอ่ การเข้าถงึ และสะดวกต่อการเรยี นรู้ตลอดชวี ิตอย่างสร้างสรรค์ มสี ิ่งอานวยความสะดวก ดงึ ดูด ความสนใจและมีความปลอดภัยสาหรับผรู้ ับบริการ 3) ส่งเสรมิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรภู้ ายใน กศน.ตาบล : Good Activities ให้มคี วาม หลากหลายนา่ สนใจ ตอบสนองความต้องการของชุมชน เพ่ือพฒั นาศักยภาพการเรยี นรู้ของประชาชน รวมทงั้ เปดิ โอกาสให้ชุมชนเขา้ มาจัดกจิ กรรมเพ่ือเช่อื มโยงความสัมพนั ธ์ของคนในชมุ ชน 4) เสรมิ สร้างความรว่ มมือกบั ภาคีเครือขา่ ย : Good Partnership ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ รวมทง้ั ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพ่ือสร้างความเขา้ ใจ และให้ เกิดความร่วมมือในการสง่ เสริม สนับสนุน และจดั การศึกษาและการเรียนรู้ให้กบั ประชาชนอย่างมคี ุณภาพ 4.6 ประสำนควำมรว่ มมือหนว่ ยงำน องคก์ ร หรอื ภำคส่วนต่ำงๆ ที่มแี หล่งเรยี นรอู้ นื่ ๆ เชน่ พิพิธภณั ฑ์ ศูนยเ์ รียนรู้ แหล่งโบราณคดี ห้องสมดุ เพื่อสง่ เสรมิ การจัดการศกึ ษาตามอธั ยาศัยให้มีรปู แบบทีห่ ลากหลายและ ตอบสนองความต้องการของประชาชน 5. ยุทธศำสตร์ด้ำนสง่ เสริมและจดั กำรศึกษำเพือ่ เสรมิ สร้ำงคุณภำพชีวติ ทเี่ ป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5.1 ส่งเสรมิ ให้มีกำรใหค้ วำมร้กู ับประชำชนเกีย่ วกบั การป้องกันผลกระทบและปรับตัวต่อการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมอิ ากาศและภยั พบิ ตั ิธรรมชาติ 5.2 สรำ้ งควำมตระหนกั ถึงควำมสำคัญของกำรสร้ำงสังคมสเี ขยี ว ส่งเสริมความรูใ้ ห้กับประชาชน เก่ยี วกบั การคัดแยก การแปรรูป และการกาจัดขยะ รวมท้ังการจัดการมลพิษในชุมชน 5.3 สง่ เสริมให้หน่วยงำนและสถำนศึกษำใช้พลงั งำนทเี่ ป็นมติ รกบั สงิ่ แวดล้อม รวมท้ังลดการใช้ ทรพั ยากรท่สี ่งผลกระทบต่อส่งิ แวดลอ้ ม
27 6. ยุทธศำสตรด์ ้ำนกำรพฒั นำประสทิ ธภิ ำพระบบบรหิ ำรจัดกำร 6.1 พัฒนาระบบฐานข้อมลู สารสนเทศด้านการศกึ ษาเพื่อการบรหิ ารจัดการอย่างเปน็ ระบบ และเช่ือมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศกึ ษาธิการ เพ่ือการบรหิ ารจดั การและบรู ณาการข้อมลู ของประชาชนอยา่ งเปน็ ระบบ 6.2 ส่งเสริมการใช้ระบบสานักงานอเิ ล็กทรอนิกส์ (E-office) ในการบริหารจดั การ เชน่ ระบบการลา ระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ระบบการขอใช้รถราชการ ระบบการขอใชห้ ้องประชุม เปน็ ต้น 6.3 พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือช่วยในการบรหิ ารจดั การอย่างเต็มรปู แบบ ท้ังระบบ การจัดทาแผนปฏบิ ัติการ และระบบการรายงานผลการดาเนนิ งานประจาปี รวมทั้งระบบการประกันคุณภาพ ของสถานศกึ ษา 6.4 สง่ เสรมิ การพัฒนาบุคลากรทุกระดบั ให้มคี วามรูแ้ ละทักษะตามมาตรฐานตาแหน่ง ใหต้ รงกบั สายงานหรือความชานาญ ภำรกจิ ตอ่ เนอื่ ง 1. ดำ้ นกำรจัดกำรศึกษำและกำรเรยี นรู้ 1.1 กำรศกึ ษำนอกระบบระดับกำรศกึ ษำขัน้ พน้ื ฐำน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบตงั้ แตป่ ฐมวัยจนจบการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน โดยดาเนนิ การให้ผู้เรยี นไดร้ บั การสนับสนนุ คา่ จัดซื้อหนังสอื เรยี น ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน และคา่ จดั การเรียนการ สอนอยา่ งทั่วถงึ และเพียงพอ เพ่อื เพ่ิมโอกาสในการเข้าถงึ บริการทางการศึกษาท่ีมคี ุณภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 2) จดั การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พนื้ ฐานให้กบั กลุม่ เปา้ หมายผูด้ ้อย พลาด และขาดโอกาสทาง การศกึ ษา ทง้ั ระบบการใหบ้ ริการ ระบบการเรียนการสอน ระบบการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ผ่านการเรียนแบบ เรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การพบกลุ่ม การเรยี นแบบช้นั เรียน และการจัดการศกึ ษาทางไกล 3) จดั ใหม้ ีการประเมินเพ่ือเทียบระดับการศกึ ษา และการเทยี บโอนความร้แู ละประสบการณท์ ี่มีความ โปร่งใส ยตุ ธิ รรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามที่กาหนด และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเปา้ หมายได้ อย่างมีประสิทธภิ าพ 4) จัดใหม้ ีกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผ้เู รียนที่มีคุณภาพท่ผี ู้เรยี นตอ้ งเรียนรู้และเข้าร่วมปฏบิ ัติกจิ กรรม เพอ่ื เป็นส่วนหนง่ึ ของการจบหลักสูตร อาทิ กจิ กรรมเสริมสร้างความสามัคคี กจิ กรรมเก่ียวกบั การป้องกนั และแก้ไข ปญั หายาเสพติด การบาเพ็ญสาธารณประโยชน์อยา่ งต่อเน่ือง การส่งเสรมิ การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี พระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข กจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กจิ กรรมจติ อาสา และการจัดต้ังชมรม/ ชมุ นมุ พร้อมทง้ั เปดิ โอกาสให้ผเู้ รียนนากิจกรรมการบาเพ็ญประโยชนอ์ ่ืน ๆนอกหลกั สูตร มาใชเ้ พิม่ ชว่ั โมงกิจกรรมให้ ผเู้ รียนจบตามหลกั สูตรได้
28 1.2 กำรสง่ เสริมกำรรหู้ นงั สือ 1) พฒั นาระบบฐานข้อมูลผไู้ ม่รู้หนังสอื ใหม้ คี วามครบถว้ น ถูกต้อง ทันสมัยและเป็นระบบ เดยี วกันทง้ั สว่ นกลางและสว่ นภมู ภิ าค 2) พฒั นาหลักสตู ร ส่ือ แบบเรียน เคร่ืองมือวัดผลและเครื่องมอื การดาเนนิ งานการส่งเสริม การรู้หนงั สอื ทีส่ อดคล้องกับสภาพแต่ละกลมุ่ เปา้ หมาย 3) พฒั นาครู กศน. และภาคีเครอื ข่ายที่รว่ มจัดการศึกษา ให้มคี วามรู้ ความสามารถ และ ทกั ษะการจัดกระบวนการเรยี นรใู้ หก้ ับผไู้ มร่ ้หู นงั สืออย่างมีประสทิ ธิภาพ และอาจจดั ให้มีอาสาสมัครสง่ เสรมิ การรู้ หนงั สอื ในพื้นทท่ี ี่มีความต้องการจาเปน็ เป็นพิเศษ 4) สง่ เสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การรูห้ นังสือ การคงสภาพการรู้ หนังสือการพฒั นาทักษะการรู้หนงั สือให้กบั ประชาชนเพ่ือเป็นเครอื่ งมอื ในการศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเน่อื งตลอด ชีวิตของประชาชน 1.3 กำรศกึ ษำตอ่ เน่ือง 1) จัดการศึกษาอาชพี เพ่ือการมงี านทาอย่างย่ังยนื โดยใหค้ วามสาคญั กับการจัดการศึกษา อาชีพเพือ่ การมีงานทาในกลมุ่ อาชีพเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม พาณชิ ยกรรม คหกรรม และอาชีพเฉพาะทาง หรอื การบริการ ท่สี อดคล้องกับศักยภาพของผูเ้ รียน ความต้องการและศักยภาพของแตล่ ะพื้นท่ี ตลอดจนสรา้ งความ เขม้ แข็งให้กับศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน โดยจดั ใหม้ หี น่งึ อาชพี เด่นตอ่ หน่ึงศนู ย์ฝึกอาชีพ รวมท้ังใหม้ ีการกากับ ตดิ ตาม และรายงานผลการจดั การศึกษาอาชีพเพื่อการมงี านทาอย่างเปน็ ระบบและต่อเนอ่ื ง 2) จัดการศึกษาเพ่ือพฒั นาทกั ษะชวี ิตให้กับทกุ กลุ่มเปา้ หมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ ทส่ี อดคล้องกับความต้องการจาเปน็ ของแตล่ ะบุคคล และมุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มเปา้ หมายมที ักษะการดารงชวี ิต ตลอดจนสามารถประกอบอาชพี พง่ึ พาตนเองได้ มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการชวี ติ ของตนเอง ใหอ้ ย่ใู นสงั คมได้อย่างมคี วามสขุ สามารถเผชญิ สถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเี่ กดิ ขึ้นในชวี ิตประจาวันไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ และเตรียมพร้อมสาหรับการปรับตัวใหท้ ันต่อการเปล่ียนแปลงของข่าวสารข้อมูลและเทคโนโลยี สมัยใหม่ในอนาคต โดยจดั กิจกรรมที่มเี นื้อหาสาคัญตา่ งๆ เชน่ สขุ ภาพกายและจิต การป้องกนั ภัยยาเสพติด เพศศึกษา คณุ ธรรมและค่านิยมทพ่ี ึงประสงค์ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยส์ ิน ผา่ นการศกึ ษารปู แบบตา่ ง ๆ อาทิ คา่ ยพัฒนาทักษะชวี ติ การจดั ตั้งชมรม/ชุมนมุ การส่งเสรมิ ความสามารถพิเศษตา่ ง ๆ 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสงั คมและชมุ ชน โดยใชห้ ลักสตู รและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝกึ อบรม การประชมุ สมั มนา การจัดเวทีแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ การจัดกจิ กรรม จติ อาสา การสร้างชุมชนนักปฏิบตั ิ และรูปแบบอน่ื ๆ ที่เหมาะสมกบั กลมุ่ เป้าหมาย และบรบิ ทของชมุ ชน แตล่ ะพ้ืนท่ี โดยจัดกระบวนการใหบ้ ุคคลรวมกลุ่มเพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน สรา้ งกระบวนการจติ สาธารณะ การสร้างจติ สานึกความเป็นประชาธิปไตย ความเปน็ พลเมืองดี การสง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม การบาเพญ็ ประโยชนใ์ นชุมชน การบริหารจดั การน้า การรบั มือกับสาธารณภยั การอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม ช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกันในการพฒั นาสงั คมและชุมชนอย่างยั่งยืน
29 4) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งผา่ นกระบวนการเรยี นรู้ ตลอดชีวติ ในรปู แบบต่างๆ ให้กบั ประชาชน เพื่อเสรมิ สรา้ งภูมิคุม้ กัน สามารถยนื หยดั อยู่ไดอ้ ย่างมั่นคง และมีการ บริหารจดั การความเสย่ี งอย่างเหมาะสม ตามทิศทางการพัฒนาประเทศสคู่ วามสมดลุ และยัง่ ยนื 1.4 กำรศึกษำตำมอัธยำศัย 1) ส่งเสริมให้มีการพฒั นาแหลง่ การเรียนรู้ในระดับตาบล เพื่อการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ และ จดั กจิ กรรมเพื่อเผยแพร่องค์ความร้ใู นชุมชนไดอ้ ยา่ งทัว่ ถงึ 2) จัดกิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนรูเ้ พ่อื ปลูกฝังนสิ ัยรกั การอา่ น และพฒั นาความสามารถในการ อ่านและศักยภาพการเรยี นรู้ของประชาชนทุกกลุม่ เป้าหมาย 3) สง่ เสริมใหม้ ีการสร้างบรรยากาศ และส่ิงแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการอ่านใหเ้ กิดขนึ้ ในสงั คมไทย โดยสนับสนุนการพฒั นาแหลง่ การเรยี นรใู้ หเ้ กิดขน้ึ อย่างกวา้ งขวางและท่ัวถึง เช่น พฒั นาห้องสมดุ ประชาชน ทกุ แหง่ ใหเ้ ปน็ แหล่งเรยี นรู้ตลอดชวี ิตของชุมชน ส่งเสริมและสนบั สนนุ อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้าง เครอื ข่ายสง่ เสรมิ การอ่าน จัดหน่วยบริการเคลือ่ นท่ีพร้อมอุปกรณ์เพอ่ื จัดกิจกรรมสง่ เสริมการอ่านและการเรยี นรู้ท่ี หลากหลายใหบ้ รกิ ารกับประชาชนในพื้นที่ตา่ งๆ อย่างท่ัวถึง สม่าเสมอ รวมทั้งเสรมิ สรา้ งความพร้อมในด้านสอื่ อุปกรณ์เพื่อสนบั สนุนการอา่ น และการจัดกจิ กรรมเพือ่ ส่งเสริมการอา่ นอย่างหลากหลาย 4) จดั สรา้ งและพฒั นาศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษา ให้เปน็ แหล่งเรยี นร้วู ิทยาศาสตรต์ ลอด ชีวติ ของประชาชน และเป็นแหล่งทอ่ งเทย่ี วประจาท้องถ่นิ โดยจดั ทาและพัฒนานทิ รรศการ สอื่ และกิจกรรม การศึกษาท่เี น้นการเสริมสร้างความรแู้ ละสร้างแรงบนั ดาลใจ สอดแทรกวิธกี ารคดิ และปลูกฝงั เจตคติ ทางวิทยาศาสตร์ ผ่านการฝกึ ทกั ษะกระบวนการท่ีบูรณาการความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตร์ ควบคกู่ ับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณติ ศาสตร์ รวมทงั้ สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง บรบิ ทของของชมุ ชน และประเทศ รวมทั้งการเปลย่ี นแปลงระดับภูมภิ าคและระดับโลก เพือ่ ใหป้ ระชาชนมีความรแู้ ละความสามารถใน การคดิ เชงิ วเิ คราะห์ มที กั ษะท่ีจาเป็นในโลกศตวรรษท่ี ๒๑ มคี วามสามารถในการปรบั ตัวรองรับการผลกระทบจาก การเปลีย่ นแปลงในอนาคตได้อย่างมีประสิทธภิ าพ และสามารถนาความร้แู ละทักษะไปประยุกตใ์ ช้ในการดาเนนิ ชีวติ การพัฒนาอาชพี การรักษาสงิ่ แวดลอ้ ม การบรรเทาและป้องกนั ภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ 2. ดำ้ นหลกั สูตร สอ่ื รูปแบบกำรจดั กระบวนกำรเรยี นรู้ กำรวัดและประเมินผล งำนบรกิ ำรทำงวิชำกำร และกำรประกันคณุ ภำพกำรศึกษำ 2.1 ส่งเสริมกำรพัฒนำหลักสูตร รูปแบบกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้และกิจกรรมเพื่อส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ทหี่ ลากหลาย ทันสมัย รวมทั้งหลักสูตรท้องถน่ิ ทีส่ อดคล้องกับ สภาพบริบทของพ้ืนท่ี และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและชมุ ชน 2.2 สง่ เสรมิ กำรพฒั นำสื่อแบบเรียน ส่ืออเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละสือ่ อืน่ ๆ ทเี่ ออ้ื ต่อการเรยี นรขู้ องผูเ้ รียน กลมุ่ เปา้ หมายทว่ั ไปและกล่มุ เป้าหมายพิเศษ
30 2.3 พัฒนำรปู แบบกำรจัดกำรศึกษำทำงไกลให้มคี วำมทนั สมยั ด้วยระบบห้องเรียนและการควบคุม การสอบออนไลน์ 2.4 พัฒนำระบบกำรประเมินเพอ่ื เทยี บระดับกำรศกึ ษำ และกำรเทยี บโอนควำมรแู้ ละประสบกำรณ์ใหม้ ี คุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลมุ่ เป้าหมายไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ 2.5 พัฒนำระบบกำรวดั และประเมนิ ผลกำรศึกษำนอกระบบทกุ หลักสูตร โดยเฉพาะหลกั สูตร ในระดับการศกึ ษาขนั้ พื้นฐานใหไ้ ด้มาตรฐาน โดยการนาแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Exam) มาใชอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 2.6 สง่ เสริมและสนบั สนุนกำรศึกษำวจิ ัย พฒั นาหลักสตู ร รปู แบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล และเผยแพรร่ ูปแบบการจัด ส่งเสริม และสนับสนนุ การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย เพ่ือให้มีการนาไปสกู่ ารปฏบิ ตั อิ ยา่ งกว้างขวางและมีการพัฒนาใหเ้ หมาะสมกบั บรบิ ทอย่างต่อเนอื่ ง 2.7 พัฒนำระบบประกันคุณภำพภำยในสถำนศกึ ษำใหไ้ ดม้ ำตรฐำน เพือ่ พร้อมรับการประเมนิ คณุ ภาพภายนอก โดยพฒั นาบุคลากรใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนกั ถึงความสาคัญของระบบการประกัน คณุ ภาพ และสามารถดาเนินการประกันคณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษาได้อย่างตอ่ เน่ืองโดยใชก้ ารประเมิน ภายในดว้ ยตนเอง และจดั ให้มีระบบสถานศึกษาพเี่ ลยี้ งเข้าไปสนับสนุนอยา่ งใกลช้ ิด สาหรับสถานศึกษาทีย่ ัง ไมไ่ ดเ้ ขา้ รับการประเมนิ คุณภาพภายนอก ใหพ้ ฒั นาคณุ ภาพการจดั การศึกษาให้ไดค้ ุณภาพตามมาตรฐานท่ีกาหนด 3. ดำ้ นเทคโนโลยเี พือ่ กำรศึกษำ 3.1 ผลติ และพฒั นำรำยกำรวทิ ยุและรำยกำรโทรทศั นเ์ พ่ือกำรศกึ ษำให้เชอื่ มโยงและตอบสนองต่อ การจัดกจิ กรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยของสถานศกึ ษา เพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษา สาหรับกล่มุ เปา้ หมายตา่ งๆ ใหม้ ที างเลือกในการเรียนรู้ท่หี ลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองใหร้ ู้เท่าทัน ส่ือและเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการสือ่ สาร เช่น รายการพัฒนาอาชพี เพอื่ การมงี านทารายการตวิ เขม้ เติมเตม็ ความรู้ ฯลฯ เผยแพรท่ างสถานวี ทิ ยศุ ึกษา สถานีวทิ ยุโทรทัศน์เพ่ือการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทาง อินเทอร์เนต็ 3.2 พัฒนำกำรเผยแพรก่ ำรจดั กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัย ผ่านระบบ เทคโนโลยดี ิจทิ ลั และชอ่ งทางออนไลนต์ ่างๆ เชน่ Youtube Facebook หรือ Application อื่นๆ เพื่อส่งเสรมิ ให้ครู กศน. นาเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลมาใชใ้ นการสรา้ งกระบวนการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พฒั นำสถำนวี ิทยศุ ึกษำและสถำนีโทรทศั น์เพือ่ กำรศึกษำ เพ่อื เพ่มิ ประสทิ ธิภาพการผลิต และการออกอากาศให้กลมุ่ เป้าหมายสามารถใชเ้ ปน็ ช่องทางการเรียนรูท้ ีม่ ีคุณภาพได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต โดยขยายเครือขา่ ยการรบั ฟงั ใหส้ ามารถรับฟังได้ทกุ ท่ี ทกุ เวลา ครอบคลุมพ้นื ที่ท่ัวประเทศ และเพมิ่ ชอ่ งทาง ให้สามารถรบั ชมรายการโทรทศั นไ์ ด้ท้งั ระบบ Ku - Band , C - Band และทางอินเทอรเ์ นต็ พรอ้ มท่จี ะรองรับ การพัฒนาเป็นสถานวี ิทยโุ ทรทัศน์เพื่อการศกึ ษาสาธารณะ (Free ETV)
31 3.4 พัฒนำระบบกำรใหบ้ รกิ ำรสื่อเทคโนโลยีเพื่อกำรศึกษำใหไ้ ดห้ ลายชอ่ งทางทั้งทางอินเทอรเ์ น็ต และรูปแบบอ่ืน ๆ เช่น Application บนโทรศพั ท์เคลื่อนท่ี และ Tablet, DVD, CD, VCD และ MP3 เป็นตน้ เพอ่ื ใหก้ ลมุ่ เป้าหมายสามารถเลือกใช้บริการเพื่อเขา้ ถงึ โอกาสทางการศึกษาและการเรียนรไู้ ดต้ ามความต้องการ 3.5 สำรวจ วิจยั ตดิ ตำมประเมนิ ผลด้ำนกำรใชส้ อื่ เทคโนโลยีเพ่ือกำรศกึ ษำอย่ำงต่อเนอื่ ง และนาผลมา ใชใ้ นการพัฒนางานให้มีความถกู ต้อง ทนั สมยั และสามารถส่งเสริมการศึกษาและการเรยี นรตู้ ลอดชีวิต ของประชาชนได้อยา่ งแท้จรงิ 4. ดำ้ นโครงกำรอนั เน่อื งมำจำกพระรำชดำริ หรือโครงกำรอนั เกยี่ วเน่ืองจำกรำชวงศ์ 4.1 สง่ เสริมและสนับสนนุ กำรดำเนนิ งำนโครงกำรอนั เนอ่ื งมำจำกพระรำชดำริ หรอื โครงการ อนั เกยี่ วเนอ่ื งจากราชวงศ์ 4.2 จดั ทำฐำนขอ้ มลู โครงกำรและกิจกรรมของ กศน. ทสี่ นองงานโครงการอนั เนอื่ งมาจาก พระราชดาริ หรอื โครงการอันเกี่ยวเน่ืองจากราชวงศ์ ท่สี ามารถนาไปใชใ้ นการวางแผน การติดตามประเมินผล และการพัฒนางานได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 4.3 สง่ เสริมกำรสรำ้ งเครือข่ำยกำรดำเนินงำนเพอ่ื สนับสนนุ โครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ เพ่อื ใหเ้ กิดความเข้มแขง็ ในการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั 4.4 พฒั นำศูนยก์ ำรเรยี นชมุ ชนชำวไทยภเู ขำ “แม่ฟ้ำหลวง” ให้มีความพรอ้ มในการจัดการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ตามบทบาทหน้าทีท่ ี่กาหนดไว้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 4.5 จดั และส่งเสรมิ กำรเรียนรู้ตลอดชีวิตใหส้ อดคล้องกับวถิ ีชีวติ ของประชาชนบนพื้นทีส่ ูง ถ่ินทรุ กันดาร และพื้นท่ีชายขอบ 5. ดำ้ นกำรศึกษำในจังหวัดชำยแดนภำคใต้ พน้ื ท่ีเขตเศรษฐกิจพเิ ศษ และพื้นท่บี ริเวณชำยแดน 5.1 พัฒนำกำรจดั กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั ในจงั หวดั ชำยแดนภำคใต้ 1) จัดและพฒั นาหลักสูตร และกจิ กรรมส่งเสรมิ การศึกษาและการเรียนรู้ทต่ี อบสนองปญั หา และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย รวมทง้ั อัตลักษณแ์ ละความเปน็ พหุวัฒนธรรมของพื้นท่ี 2) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พื้นฐานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อให้ผ้เู รียนสามารถนาความรู้ท่ไี ดร้ บั ไปใชป้ ระโยชน์ได้จริง 3) ให้หนว่ ยงานและสถานศึกษาจัดใหม้ มี าตรการดูแลรักษาความปลอดภยั แก่บุคลากร และนักศึกษา กศน. ตลอดจนผู้มาใช้บริการอย่างทัว่ ถงึ 5.2 พฒั นำกำรจัดกำรศึกษำแบบบรู ณำกำรในเขตพฒั นำเศรษฐกจิ พเิ ศษ 1) ประสานความรว่ มมอื กับหนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวข้องในการจดั ทาแผนการศึกษาตามยุทธศาสตร์ และบริบทของแตล่ ะจังหวัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ 2) จัดทาหลักสูตรการศึกษาตามบริบทของพ้นื ที่ โดยเนน้ สาขาทเ่ี ป็นความตอ้ งการของตลาด ให้เกิดการพฒั นาอาชพี ได้ตรงตามความต้องการของพนื้ ที่
32 5.3 จดั กำรศกึ ษำเพอ่ื ควำมมัน่ คง ของศูนยฝ์ ึกและพัฒนำอำชีพรำษฎรไทยบริเวณชำยแดน (ศฝช.) 1) พฒั นำศูนยฝ์ กึ และพัฒนำอำชพี รำษฎรไทยบริเวณชำยแดนให้เปน็ ศูนยฝ์ ึกและสาธติ การประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม และศนู ยก์ ารเรียนรูต้ ้นแบบการจัดกจิ กรรมตามแนวพระราชดาริปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี ง สาหรับประชาชนตามแนวชายแดน ดว้ ยวธิ กี ารเรียนรูท้ ่หี ลากหลาย 2) มุง่ จัดและพฒั นำกำรศึกษำอำชพี โดยใช้วิธีกำรหลำกหลำย ใชร้ ูปแบบเชิงรุกเพอื่ การ เข้าถงึ กลุ่มเปา้ หมาย เชน่ การจดั มหกรรมอาชีพ การประสานความร่วมมือกับเครือข่าย การจัดอบรมแกนนาดา้ น อาชีพท่เี นน้ เร่ืองเกษตรธรรมชาตทิ ่สี อดคล้องกับบรบิ ทของชมุ ชนชายแดน ใหแ้ กป่ ระชาชนตามแนวชายแดน 6. ดำ้ นบุคลำกร ระบบกำรบริหำรจัดกำร และกำรมสี ว่ นรว่ มของทุกภำคส่วน 6.1 กำรพฒั นำบคุ ลำกร 1) พฒั นาบุคลากรทุกระดบั ทุกประเภทให้มสี มรรถนะสูงข้ึนอย่างต่อเน่ือง ทง้ั ก่อนและ ระหวา่ งการดารงตาแหน่งเพอ่ื ให้มเี จตคติทีด่ ีในการปฏิบตั ิงาน สามารถปฏบิ ตั ิงานและบริหารจดั การการดาเนนิ งาน ของหนว่ ยงานและสถานศกึ ษาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รวมท้ังสง่ เสรมิ ให้ขา้ ราชการในสังกดั พฒั นาตนเอง เพ่อื เลื่อนตาแหน่งหรือเลอื่ นวิทยฐานะ โดยเน้นการประเมินวิทยฐานะเชิงประจักษ์ 2) พฒั นาศึกษานเิ ทศก์ กศน. ใหม้ ีสมรรถนะทีจ่ าเปน็ ครบถ้วน มคี วามเปน็ มืออาชพี สามารถ ปฏบิ ตั กิ ารนิเทศได้อย่างมีศักยภาพ เพ่ือร่วมยกระดบั คุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัยในสถานศึกษา 3) พฒั นาหัวหนา้ กศน. ตาบล/แขวง ให้มีสมรรถนะสูงขึ้น เพอ่ื การบริหารจดั การ กศน. ตาบล/แขวง และการปฏิบตั งิ านตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสทิ ธภิ าพ โดยเน้นการเปน็ นักจัดการความร้แู ละผู้ อานวยความสะดวกในการเรยี นรเู้ พือ่ ให้ผเู้ รยี นเกิดการเรยี นรู้ท่ีมปี ระสิทธิภาพอยา่ งแท้จริง 4) พฒั นาครู กศน. และบคุ ลากรท่ีเกย่ี วข้องกบั การจดั การศึกษาใหส้ ามารถจัดรูปแบบการ เรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งมคี ุณภาพ โดยสง่ เสรมิ ให้มคี วามรู้ความสามารถในการจัดทาแผนการสอน การจัดกระบวนการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล และการวิจยั เบ้อื งตน้ 5) พฒั นาศักยภาพบุคลากร ทีร่ ับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรยี นรู้ ให้มีความรู้ ความสามารถและมีความเปน็ มอื อาชพี ในการจัดบรกิ ารส่งเสริมการเรียนรตู้ ลอดชีวติ ของประชาชน 6) สง่ เสริมใหค้ ณะกรรมการ กศน. ทุกระดบั และคณะกรรมการสถานศกึ ษา มีสว่ นรว่ มใน การบรหิ ารการดาเนินงานตามบทบาทภารกจิ ของ กศน. อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 7) พฒั นาอาสาสมัคร กศน. ให้สามารถทาหน้าทส่ี นบั สนุนการจดั การศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศัยได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 8) พฒั นาสมรรถนะและเสริมสรา้ งความสมั พนั ธ์ระหว่างบคุ ลากร รวมท้ังภาคีเครือขา่ ย ทงั้ ในและตา่ งประเทศในทุกระดบั โดยจดั ให้มกี จิ กรรมเพือ่ เสริมสร้างสัมพันธภาพและเพิ่มประสิทธภิ าพในการ ทางานรว่ มกันในรูปแบบที่หลากหลายอย่างตอ่ เนื่อง
33 6.2 กำรพฒั นำโครงสร้ำงพ้ืนฐำนและอตั รำกำลงั 1) จัดทาแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและดาเนนิ การปรบั ปรุงสถานท่ี และวัสดุอุปกรณ์ ให้มคี วามพรอ้ มในการจัดการศกึ ษาและการเรียนรู้ 2) บริหารอัตรากาลังท่ีมีอยู่ ทั้งในส่วนทเี่ ป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลกู จ้าง ใหเ้ กิด ประสิทธิภาพสงู สดุ ในการปฏบิ ัติงาน 3) แสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครอื ข่ายทุกภาคส่วนในการระดมทรัพยากรเพ่ือนามาใชใ้ น การปรบั ปรุงโครงสร้างพนื้ ฐานใหม้ คี วามพร้อมสาหรบั ดาเนนิ กจิ กรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยและการสง่ เสริมการเรยี นรู้สาหรบั ประชาชน 6.3 กำรพัฒนำระบบบริหำรจดั กำร 1) พัฒนาระบบฐานข้อมลู ให้มีความครบถว้ น ถกู ต้อง ทนั สมยั และเชอ่ื มโยงกันทวั่ ประเทศ อย่างเป็นระบบเพื่อให้หน่วยงานและสถานศกึ ษาในสังกัดสามารถนาไปใช้เป็นเครื่องมือสาคญั ในการบริหาร การวางแผน การปฏบิ ัตงิ าน การตดิ ตามประเมินผล รวมทงั้ จดั บรกิ ารการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยอยา่ งมีประสิทธิภาพ 2) เพิม่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกากบั ควบคุม และ เร่งรดั การเบกิ จ่ายงบประมาณใหเ้ ปน็ ตามเป้าหมายที่กาหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมลู รวมของนักศึกษา กศน. ใหม้ คี วามครบถว้ น ถกู ตอ้ ง ทันสมัย และเชื่อมโยงกนั ทวั่ ประเทศ สามารถสบื ค้นและสอบทานไดท้ ันความต้องการเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษา ให้กบั ผเู้ รียนและการบรหิ ารจัดการอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 4) ส่งเสริมให้มีการจัดการความร้ใู นหนว่ ยงานและสถานศึกษาทกุ ระดับ รวมท้ังการศึกษา วิจัยเพือ่ สามารถนามาใชใ้ นการพฒั นาประสทิ ธิภาพการดาเนนิ งานทส่ี อดคลอ้ งกบั ความต้องการของประชาชน และชุมชนพรอ้ มทั้งพฒั นาขีดความสามารถเชงิ การแข่งขนั ของหนว่ ยงานและสถานศกึ ษา 5) สร้างความรว่ มมือของทุกภาคสว่ นท้ังในประเทศและตา่ งประเทศ ในการพฒั นาและ สง่ เสรมิ การจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั และการเรยี นร้ตู ลอดชวี ิต 6.4 กำรกำกบั นิเทศ ตดิ ตำม ประเมนิ และรำยงำนผล 1) สรา้ งกลไกการกากับ นิเทศ ตดิ ตาม ประเมนิ และรายงานผลการดาเนินงานการศกึ ษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ให้เช่ือมโยงกับหนว่ ยงาน สถานศึกษา และภาคีเครือข่ายทั้งระบบ 2) ให้หน่วยงานและสถานศกึ ษาทีเ่ ก่ียวข้องทกุ ระดับ พัฒนาระบบกลไกการกากบั ตดิ ตาม และรายงานผลการนานโยบายสกู่ ารปฏบิ ัติ ให้สามารถตอบสนองการดาเนินงานตามนโยบายในแต่ละเรื่อง ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 3) ส่งเสรมิ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร และสอ่ื อืน่ ๆ ทเ่ี หมาะสม เพื่อการกา กับนิเทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคารับรองการปฏบิ ัตริ าชการ ประจาปีของหนว่ ยงาน สถานศึกษา เพอ่ื การรายงานผลตามตัวชี้วดั ในคารบั รองการปฏิบตั ริ าชการประจาปี ของสานักงาน กศน. ให้ดาเนินไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพ เปน็ ไปตามเกณฑ์ วธิ ีการ และระยะเวลาทก่ี าหนด
34 5) ใหม้ ีการเชอ่ื มโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ท้งั หน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร ตัง้ แต่สว่ นกลาง ภมู ภิ าค กลุ่มจงั หวดั จงั หวดั อาเภอ/เขต และตาบล/แขวง เพ่อื ความเปน็ เอกภาพในการใช้ข้อมลู และการพฒั นางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั
35 นโยบำยเร่งด่วนเพอื่ รว่ มขับเคลอ่ื นยุทธศำสตร์กำรพฒั นำประเทศ ๑. ยทุ ธศำสตร์ดำ้ นควำมมนั่ คง ๑.๑ ส่งเสริมการจัดการเรยี นรตู้ ามพระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาของ รัชกาลที่ ๑๐ ๑) เสรมิ สร้างความรคู้ วามเข้าใจทถี่ ูกตอ้ งในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมี พระมหากษัตรยิ ์ ทรงเป็นประมุข มีความเปน็ พลเมืองดี เคารพความคิดของผ้อู ่นื ยอมรับความแตกต่างและ หลากหลายทางความคิด และอดุ มการณ์ รวมทง้ั สงั คมพหุวัฒนธรรม ๒) ส่งเสริมการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทป่ี ลกู ฝังคุณธรรม สร้างวินยั จิตสาธารณะ และ อุดมการณ์ ความยึดมน่ั ในสถาบันหลักของชาติ รวมท้ังการมีจิตอาสา ผ่านกจิ กรรมลูกเสอื กศน. และกิจกรรมอืน่ ๆ ตลอดจน สนบั สนนุ ให้มกี ารจัดกิจกรรมเพ่ือปลูกฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมใหก้ บั บุคลากรในองค์กร ๑.๒ พัฒนาการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ในเขตพน้ื ทีพ่ ิเศษ ๑) เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นท่ชี ายแดน ๑.๑) พฒั นารูปแบบการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ให้มีความ สอดคล้อง กับบริบทของสงั คม วัฒนธรรม และพ้นื ท่ี เพอ่ื สนบั สนุนการแก้ไขปัญหาและพฒั นาพนื้ ที่ ๑.๒) เร่งจัดทาแผนและมาตรการด้านความปลอดภัยทชี่ ดั เจนสาหรบั หน่วยงานและ สถานศึกษา รวมทั้งบุคลากรทป่ี ฏิบตั ิงานในพนื้ ท่เี ขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกจิ จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ โดยบูรณาการ แผน และปฏบิ ัติงานร่วมกบั หนว่ ยงานความม่ันคงในพน้ื ท่ี ๑.๓) สง่ เสรมิ และสนบั สนุนการจดั กระบวนการเรยี นรใู้ นสถาบนั ศึกษาปอเนาะ ในรูปแบบ ต่างๆ ทหี่ ลากหลายตรงกับความต้องการของผู้เรยี น อาทิ การเพิม่ พูนประสบการณ์ การเปิดโลกทศั น์ การยดึ มนั่ ใน หลกั คุณธรรมและสถาบนั หลักของชาติ ๑.๔) สนับสนนุ ให้มีการพฒั นาบคุ ลากรทุกระดับทกุ ประเภทใหม้ ีสมรรถนะท่สี งู ข้ึน เพื่อให้ สามารถปฏบิ ตั ิงานได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ๒) เขตพฒั นาเศรษฐกจิ พเิ ศษ และพืน้ ทีร่ ะเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยสง่ เสริม การจัดการศึกษาเพื่อยกระดบั การศึกษาและพัฒนาศกั ยภาพประชาชน สร้างงานและพัฒนาอาชีพที่เปน็ ไปตาม บรบิ ท และความตอ้ งการของประชาชนในพ้นื ที่ ๒. ยุทธศำสตรด์ ้ำนกำรพฒั นำกำลงั คน กำรวิจยั และนวัตกรรมเพื่อสรำ้ งขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขนั ของ ประเทศ ๒.๑ ขับเคลอ่ื น กศน. สู่ “Smart ONIE” ในการจดั การศึกษาและการเรียนรู้ทเ่ี สริมสร้างศักยภาพ ของ ประชาชนให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ๑) พัฒนาความรู้ความสามารถ และทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของครูและบุคลากร กศน. เช่น Boot Camp หลกั สูตรภาษาอังกฤษ การจดั หลักสตู รภาษาเพ่อื อาชพี ๒) พฒั นาความรแู้ ละทักษะเทคโนโลยดี ิจทิ ลั การใช้ Social Media และ Application ต่างๆ เพ่ือ พัฒนารูปแบบการจดั การเรียนการสอน ของครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ๒.๒ พฒั นากาลังคนใหเ้ ป็น “Smart Digital Persons (SDPs)” ทมี่ ีทักษะดา้ นภาษาและทักษะ ดิจิทลั เพ่ือ รองรับการพัฒนาประเทศ
36 ๑) สง่ เสรมิ การจัดการเรียนรู้ด้าน Digital เพือ่ ใหป้ ระชาชน มคี วามรูพ้ ื้นฐานด้าน Digital และ ความรู้ เร่ืองกฎหมายวา่ ด้วยการกระทาความผดิ เกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์สาหรับการใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั รวมทง้ั การพฒั นาและการเข้าส่อู าชีพ นโยบายเรง่ ดว่ นเพ่ือรว่ มขับเคลอื่ นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ฉบับ เผยแพรบ่ นเวบ็ ไซต์สานักงาน กศน. ๒) สร้างความรคู้ วามเขา้ ใจและทกั ษะพนื้ ฐานให้กับประชาชน เก่ียวกับการทาธุรกจิ และการคา้ ออนไลน์ (พาณชิ ย์อิเลก็ ทรอนิกส์) เพ่ือรว่ มขับเคลือ่ นเศรษฐกิจดจิ ทิ ัล ๓) พัฒนาทกั ษะภาษาอังกฤษเพอื่ การสอ่ื สารของประชาชนในรูปแบบต่างๆ อยา่ งเปน็ รูปธรรม โดย เนน้ ทกั ษะภาษาเพ่ืออาชีพ ท้ังในภาคธรุ กิจ การบริการ และการทอ่ งเทย่ี ว ๓. ยทุ ธศำสตรด์ ำ้ นกำรพัฒนำและเสรมิ สรำ้ งศกั ยภำพคนให้มีคณุ ภำพ ๓.๑ เตรยี มความพร้อมการเข้าสู่สงั คมผูส้ ูงอายุอย่างมีคุณภาพ (Smart Aging Society) ๑) สง่ เสริมการจดั กจิ กรรมให้กบั ประชาชนเพ่ือสรา้ งตระหนักถึงการเตรียมพรอ้ มเขา้ สสู่ ังคม ผ้สู งู อายุ (Aging Society) มีความเข้าใจในพฒั นาการของช่วงวยั รวมท้งั เรยี นรแู้ ละมสี ่วนรว่ มในการดูแล รบั ผดิ ชอบ ผสู้ ูงอายใุ นครอบครัวและชมุ ชน ๒) พฒั นาการจัดบริการการศึกษาและการเรยี นร้สู าหรบั ประชาชนในการเตรียมความพร้อม เข้าสู่ วัยสูงอายทุ เี่ หมาะสมและมีคุณภาพ ๓) จัดการศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาคุณภาพชีวิตสาหรบั ผูส้ ูงอายุภายใต้แนวคดิ “Active Aging” การศึกษาเพอ่ื พฒั นาคุณภาพชวี ิต และพฒั นาทกั ษะชีวติ ใหส้ ามารถดูแลตนเองทั้งสุขภาพกายและสขุ ภาพจติ และ รจู้ ักใช้ ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยี ๔) สรา้ งความตระหนักถงึ คณุ ค่าและศกั ด์ิศรขี องผสู้ งู อายุ เปดิ โอกาสให้มีการเผยแพร่ภมู ิปญั ญา ของผู้สูงอายุ และให้มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมดา้ นตา่ งๆ ในชมุ ชน เช่น ดา้ นอาชพี กฬี า ศาสนาและวฒั นธรรม ๓.๒ สง่ เสรมิ การจัดการเรยี นร้ดู า้ นเกษตรกรรม (Smart Farmer : เกษตรกรปราดเปร่อื ง) โดยใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศและนวัตกรรมในการจดั กระบวนการเรยี นรดู้ า้ นเกษตรกรรมที่เหมาะกับบรบิ ทของพ้นื ที่ และ ความต้องการของชุมชน รวมทง้ั การเพมิ่ มูลค่าสินค้าทางการเกษตร และสรา้ งช่องทางการจาหนา่ ยสนิ ค้า ผ่าน ชอ่ งทางต่างๆ โดยตระหนกั ถึงคณุ ภาพของผลผลิตความปลอดภัยต่อระบบนิเวศน์ ชมุ ชน และผ้บู รโิ ภค ๓.๓ ส่งเสรมิ ให้มกี ารจดั การเรียนการสอนแบบ “สะเตม็ ศกึ ษา” (STEM Education) สาหรับผเู้ รียน และ ประชาชน โดยบรู ณาการความรดู้ า้ นวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับเทคโนโลยี วศิ วกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เพื่อ ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจาวนั พฒั นาทักษะชีวิตส่กู ารประกอบอาชีพ ๓.๔ เพิ่มอัตราการอ่านของประชาชน โดยการจดั กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ อาสาสมคั รสง่ เสริมการอ่าน หอ้ งสมุดประชาชน บา้ นหนงั สอื ชุมชน ห้องสมุดเคลอื่ นที่ เพ่ือพฒั นาให้ประชาชน มี ความสามารถในระดับอา่ นคล่อง เขา้ ใจความ คดิ วิเคราะห์พ้ืนฐาน และสามารถรับร้ขู ้อมลู ขา่ วสารท่ถี กู ต้อง และทัน เหตุการณ์ รวมทัง้ นาความรู้ ท่ีได้รบั ไปใชป้ ฏบิ ัตจิ รงิ ในชีวติ ประจาวัน ๓.๕ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน สู่ “วิสาหกจิ ชมุ ชน: ชมุ ชนพึง่ ตนเองทาได้ ขายเป็น” ๑) สง่ เสรมิ การจดั การศึกษาอาชพี ทส่ี อดคลอ้ งกับศักยภาพของชุมชน และความต้องการของตลาด รวมทั้งสรา้ งเครือข่ายการรวมกลมุ่ ในลกั ษณะวิสาหกจิ ชมุ ชน สรา้ งรายไดใ้ ห้กบั ชมุ ชน ให้ชุมชนพ่ึงพาตนเองได้
37 ๒) สง่ เสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยใี นการสร้างมลู ค่าเพม่ิ ให้กับสนิ คา้ การทาชอ่ งทางเผยแพร่และจาหน่าย ผลิตภัณฑ์ของวิสาหกจิ ชมุ ชนให้เป็นระบบครบวงจร ๓.๖ จัดกระบวนการเรียนรูต้ ามแนวทางเกษตรธรรมชาตสิ กู่ ารพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมอยา่ งย่ังยืน ๑) พัฒนาบคุ ลากรและแกนนาเกษตรกรในการเผยแพร่และจัดกระบวนการเรียนรตู้ ามแนวทาง เกษตรธรรมชาติส่กู ารพัฒนาอาชพี เกษตรกรรม ๒) จัดตง้ั ศูนยก์ ารเรยี นรู้ต้นแบบระดบั ตาบลดา้ นเกษตรธรรมชาตสิ กู่ ารพัฒนาอาชพี เกษตรกรรม เพ่อื ถา่ ยทอดความรู้ด้านเกษตรธรรมชาติสกู่ ารพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมให้กับชมุ ชน ฉบบั เผยแพร่บนเว็บไซต์ สานักงาน กศน. ๓) สง่ เสริมใหม้ กี ารบูรณาการระหว่าง ศฝช. และ กศน.อาเภอ ในการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ตาม แนวทางเกษตรธรรมชาตสิ กู่ ารพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมให้กับประชาชน ๓.๗ ยกระดับคุณภาพการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน โดยพฒั นาหลักสูตร รูปแบบ การ จดั การเรยี นการสอน และกิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น คุณภาพของสอื่ และนวัตกรรม รวมการมาตรฐาน ของการ วัดและประเมินผล เพ่อื สรา้ งความเชื่อม่ันใหส้ ังคมเกย่ี วกับคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาของสานักงาน กศน. ๔. ยทุ ธศาสตร์ดา้ นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษา ๔.๑ สง่ เสริมการนาระบบคปู องการศึกษามาใช้ เพื่อสรา้ งโอกาสในการเขา้ ถงึ บริการการศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ท่ีสอดคล้องกบั ความตอ้ งการของประชาชนผู้รบั บรกิ าร ๔.๒ สร้างกระบวนการเรียนรูใ้ นรูปแบบ E-learning ทใี่ ชร้ ะบบเทคโนโลยเี ขา้ มาบริหารจัดการเรยี นรู้ เพ่ือ เป็นการสร้างและขยายโอกาสในการเรียนรใู้ หก้ ับกลมุ่ เปา้ หมายได้สะดวก รวดเร็ว ตรงตามความต้องการ ของ ประชาชนผู้รับบริการ ๔.๓ เพิม่ อตั ราการรหู้ นงั สอื และยกระดับการรู้หนงั สือของประชาชน ๑) เรง่ จัดการศึกษาเพ่ือเพิ่มอัตราการรู้หนงั สอื และคงสภาพการร้หู นังสือ ให้ประชาชนสามารถ อ่านออก เขยี นได้ และคดิ เลขเป็น โดยเฉพาะประชาชนในเขตพฒั นาพิเศษเฉพาะกิจจังหวดั ชายแดนภาคใต้ และ พื้นทหี่ า่ งไกล โดยมกี ารวัดระดบั การรหู้ นังสือ การใช้ส่ือ กระบวนการ และกิจกรรมพฒั นาทักษะในรปู แบบต่างๆ ท่ี เหมาะสม และสอดคลอ้ งกับสภาพพน้ื ท่ีและกลุ่มเปา้ หมาย ให้ประชาชนสามารถฟัง พูด อา่ น และเขยี น ภาษาไทย เพอ่ื ประโยชนใ์ นการใช้ชีวิตประจาวันได้ ๒) ยกระดบั การรหู้ นงั สือของประชาชน โดยจัดกจิ กรรมพัฒนาทักษะการร้หู นังสือในรปู แบบต่างๆ รวมทั้งทกั ษะด้านเทคโนโลยดี ิจทิ ัล เพอื่ เปน็ เครอ่ื งมอื ในการเรยี นร้ตู ลอดชวี ิตของประชาชน ๔.๔ ยกระดบั การศึกษาให้กบั กลุ่มเป้าหมายทหารกองประจาการ รวมท้งั กลุ่มเป้าหมายพเิ ศษอน่ื ๆ เช่น คน พิการ เด็กออกกลางคัน ให้จบการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน สามารถนาความรู้ทีไ่ ดร้ ับ ไปพฒั นา ตนเองไดอ้ ย่างต่อเน่ือง ๔.๕ พลกิ โฉม กศน. ตาบล สู่ “กศน.ตาบล 4G” ๑) พฒั นาครู กศน. และบคุ ลากรที่เกยี่ วข้องกับการจัดกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ : Good Teacher ใหเ้ ป็นตวั กลางในการเช่อื มโยงความรู้กับผรู้ ับบรกิ าร มคี วามเป็น “ครูมืออาชีพ” มจี ิตบริการ มคี วาม รอบ รู้และทันต่อการเปลย่ี นแปลงของสงั คม เป็นผู้จดั กจิ กรรมการเรียนรแู้ ละบรหิ ารจัดการความรทู้ ดี่ ี รวมทง้ั เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านอยา่ งมีความสุข
38 ๒) พัฒนา กศน.ตาบล ใหม้ บี รรยากาศและสภาพแวดล้อมเอ้ือตอ่ การเรยี นร้อู ย่างต่อเนื่อง : Good Place Best Check-In มคี วามพร้อมในการให้บรกิ ารกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เปน็ แหล่งขอ้ มูลสาธารณะท่ี ง่ายตอ่ การเขา้ ถึง และสะดวกต่อการเรียนรู้ตลอดชีวติ อย่างสร้างสรรค์ มสี ่ิงอานวยความสะดวก ดึงดูดความสนใจ และมีความปลอดภยั สาหรับผู้รบั บรกิ าร ๓) สง่ เสรมิ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรภู้ ายใน กศน.ตาบล : Good Activities ใหม้ คี วามหลากหลาย น่าสนใจ ตอบสนองความต้องการของชมุ ชน เพ่ือพัฒนาศักยภาพการเรยี นรขู้ องประชาชน รวมทั้งเปดิ โอกาส ให้ ชุมชนเข้ามาจดั กจิ กรรมเพอ่ื เชื่อมโยงความสมั พนั ธข์ องคนในชมุ ชน ฉบับเผยแพร่บนเว็บไซต์สานักงาน กศน. ๔) เสริมสรา้ งความร่วมมือกับภาคเี ครอื ขา่ ย : Good Partnership ท้งั ภาครฐั ภาคเอกชน และ องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ รวมทั้งส่งเสรมิ และสนับสนุนการมีสว่ นรว่ มของชมุ ชน เพ่ือสรา้ งความเข้าใจ และให้ เกดิ ความร่วมมอื ในการสง่ เสรมิ สนบั สนุน และจัดการศึกษาและการเรยี นรู้ให้กบั ประชาชนอย่างมีคณุ ภาพ ๔.๖ ประสานความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร หรือภาคส่วนต่างๆ ทม่ี แี หล่งเรียนรู้อื่นๆ เช่น พพิ ธิ ภณั ฑ์ ศนู ย์ เรยี นรู้ แหล่งโบราณคดี ห้องสมุด เพ่ือสง่ เสรมิ การจัดการศึกษาตามอธั ยาศัยให้มีรูปแบบท่ีหลากหลาย และ ตอบสนองความต้องการของประชาชน ๕. ยทุ ธศาสตรด์ ้านสง่ เสริมและจดั การศึกษาเพ่ือเสรมิ สร้างคุณภาพชวี ติ ท่ีเปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดล้อม ๕.๑ สง่ เสริมให้มีการให้ความรกู้ บั ประชาชนเกยี่ วกับการป้องกนั ผลกระทบและปรบั ตวั ต่อการ เปล่ยี นแปลง สภาพภมู ิอากาศและภยั พิบตั ิธรรมชาติ ๕.๒ สร้างความตระหนกั ถึงความสาคญั ของการสร้างสังคมสเี ขียว ส่งเสริมความรใู้ หก้ ับประชาชน เกีย่ วกบั การคัดแยก การแปรรูป และการกาจัดขยะ รวมทั้งการจดั การมลพิษในชุมชน ๕.๓ ส่งเสรมิ ให้หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาใช้พลังงานท่เี ป็นมิตรกับส่งิ แวดล้อม รวมทง้ั ลดการใช้ ทรพั ยากร ท่สี ่งผลกระทบต่อสง่ิ แวดล้อม ๖. ยทุ ธศาสตร์ด้านการพฒั นาประสิทธภิ าพระบบบรหิ ารจัดการ ๖.๑ พัฒนาระบบฐานขอ้ มลู สารสนเทศดา้ นการศกึ ษาเพ่อื การบริหารจดั การอย่างเป็นระบบ และเชื่อมโยง กบั ระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศกึ ษาธิการ เพ่ือการบริหารจัดการและบรู ณาการขอ้ มลู ของประชาชนอย่าง เปน็ ระบบ ๖.๒ ส่งเสรมิ การใช้ระบบสานกั งานอิเล็กทรอนกิ ส์ (E-office) ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบการลา ระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ระบบการขอใชร้ ถราชการ ระบบการขอใช้ห้องประชมุ เปน็ ต้น ๖.๓ พัฒนาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือช่วยในการบริหารจดั การอย่างเตม็ รปู แบบ ทั้งระบบการจดั ทา แผนปฏิบตั กิ าร และระบบการรายงานผลการดาเนินงานประจาปี รวมทง้ั ระบบการประกันคุณภาพของสถานศึกษา ๖.๔ สง่ เสรมิ การพัฒนาบคุ ลากรทกุ ระดบั ให้มีความร้แู ละทักษะตามมาตรฐานตาแหน่ง ให้ตรงกบั สายงาน หรือความชานาญ
39 ข. 2562 ญ คดิ เปน็ ทำเปน็ เนน้ ICT กำรศกึ ษำตลอดชีวิต ผูกมิตรกับเครอื ข่ำย กระจำยควำมรู้สู่ชมุ ชน ทุกทีทุกเวลำด้วย ICT มีอำชพี และแขง่ ขนั ในประชำคมอำเซยี นอยำ่ งย่ังยนื “ กำ้ วไปกบั ICT ” องค์กรออนไลน์ เป้าหมาย กศน.อาเภอเมืองชลบรุ ี 1. มี กศน.ตาบลเปน็ หลักแหลง่ 2. มคี อมพิวเตอร/์ อุปกรณ์ครบทุกตาบล 3. ใหท้ กุ คนมคี วามรู้ ICT 4. มรี ะบบจัดเกบ็ /รายงานผา่ นออนไลน์ 5. ภายใน 3 ปี ต้องเป็น 1-5 ของสานักงาน กศน. 6. ภายใน 1-2 ปี ตอ้ งเปน็ 1 ใน กศน.จังหวัด
40 ข 2562 ขญ “สง่ เสริมการอา่ น กจิ กรรมสร้างสรรค์ ก้าวทนั เทคโนโลย”ี หอ้ งสมุดประชาชนจงั หวดั ชลบุรจี ะเปน็ แหลง่ เรียนรู้ ตลอดชวี ิตใหบ้ ริการประชาชนทุกกลมุ่ เปา้ หมาย อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพื่อส่งเสรมิ ให้ประชาชน รกั การอา่ น และการเรียนรู้ อย่างตอ่ เน่อื งตลอดชวี ติ พ 1. การพฒั นาห้องสมุดประชาชนใหเ้ ปน็ แหลง่ เรียนรตู้ ลอดชีวติ 2. พฒั นาหอ้ งสมดุ ใหใ้ ชร้ ะบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ในการบรกิ าร 3. พฒั นาหอ้ งสมดุ ประชาชนเปน็ แหล่งเรียนรทู้ เ่ี ชอ่ื มโยง กบั แหลง่ เรยี นรอู้ ่ืน ๆ ในชมุ ชน ้ 1. พฒั นาชาวชลบุรใี ห้มนี ิสัยรักการอา่ น ใฝเ่ รียน ใฝ่รู้ และมคี วามสามารถในการอ่าน 2. ห้องสมดุ ประชาชนจังหวดั ชลบุรเี ป็นแหล่งเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ใหบ้ รกิ ารการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ทม่ี คี ุณภาพและมาตรฐาน
41 ้ 1. ศนู ย์กลางขอ้ มูลขา่ วสาร 2. ศนู ย์การเรยี นรู้ของชมุ ชน 3. ศนู ย์กลางการจดั กิจกรรมชมุ ชน 4. เครอื ขา่ ยการเรยี นรู้ชมุ ชน 1. พัฒนาระบบการใหบ้ รกิ าร 2. พฒั นาอาคารสถานท่ี 3. พัฒนาบคุ ลากรให้สามารถปฏิบตั งิ าน อยา่ งมีประสิทธิภาพ 4. พัฒนาเทคโนโลยสี ารสนเทศ 5. ประสานความรว่ มมอื กบั หอ้ งสมดุ /แหลง่ เรยี นรอู้ น่ื ๆ 6. เสรมิ สร้างศักยภาพการทางาน 7. ส่งเสรมิ การมีสว่ นร่วมของชมุ ชน 8. จดั กิจกรรมการเรียนรแู้ บบอธั ยาศยั
42 พ 1. กำรพัฒนำหอ้ งสมุดประชำชนใหเ้ ปน็ ห้องสมุดมชี ีวติ ห้องสมุดมชี ีวติ หอ้ งสมดุ ท่มี ีการบริหารจัดการทรัพยากรสารสนเทศใหท้ นั สมัยครบถว้ น สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของผใู้ ชบ้ รกิ าร เพื่อสรา้ งสงั คมแห่งการเรียนรู้และสร้างนสิ ัยรักการอ่านอย่างยง่ั ยืน สาหรับบคุ คลทกุ เพศ ทุกวัย ดว้ ยบรรยากาศท่ีมีชวี ิตชวี า มีการใชเ้ ทคโนโลยีทเี่ หมาะสมในการเรยี นรู้ สามารถ เข้าถงึ สารสนเทศ ได้อยา่ งรวดเรว็ มีบริการและกจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่านและการเรยี นรู้อย่างต่อเน่อื งตลอดชวี ิต การเปลย่ี นแปลงของห้องสมดุ นน้ั จะเหน็ ไดว้ ่ามีการเปลีย่ นแปลงในหลายๆ ดา้ นเพ่ือให้ห้องสมุดมีการพฒั นาเปน็ ห้องสมดุ ท่ีดนี ั้น ต้องคานงึ ถงึ องค์ประกอบในการพัฒนาห้องสมดุ ใน ด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. การเปลีย่ นแปลงของห้องสมุดด้านทรพั ยากรสารสนเทศ ซง่ึ ตอ้ งประกอบดว้ ยส่อื สารสนเทศ ท่ีหลากหลาย ทนั สมัย มจี านวนพอเพียงและมเี น้ือหาครอบคลุม 2. การเปลย่ี นแปลงของห้องสมดุ ด้านระบบงาน เพื่อให้การทางานเป็นไปได้อย่างสะดวก รวดเรว็ ทงั้ น้ีเพื่อประสิทธิภาพ และประสทิ ธิผลที่เกิดกับผใู้ ช้หอ้ งสมุด 3. การเปล่ยี นแปลงของห้องสมุดด้านบริการ เพ่ือส่งเสรมิ และสนับสนุนการเรียนรแู้ ก่ผูใ้ ช้ หอ้ งสมดุ ทาใหผ้ ้ใู ชส้ ามารถใช้หอ้ งสมุดเปน็ แหล่งเรยี นรู้ไดต้ ามความต้องการและตามอัธยาศัย 4. การเปลยี่ นแปลงของห้องสมดุ บุคลากร เพื่อเป็นองค์ประกอบสาคัญเพราะเป็น ผ้ทู าหน้าทใี่ หบ้ ริการและเช่อื มประสานระหว่างทรัพยากรสารสนเทศ เครอ่ื งมืออปุ กรณ์ และผ้ใู ช้หอ้ งสมดุ 5. การเปลี่ยนแปลงของห้องสมดุ ดา้ นอาคารสถานท่ี และบรรยากาศ ซง่ึ ไดแ้ ก่ ลักษณะ ของอาคารห้องสมดุ การจัดทรพั ยากรสารสนเทศ การจดั บรกิ ารออกแบบภายใน ความสวยงาม ความสะอาด และความสวยงาม 2. พฒั นำหอ้ งสมดุ ให้ใชร้ ะบบอิเลก็ ทรอนกิ สใ์ นกำรบริกำร ในปัจจบุ ันห้องสมุดทเี่ ป็นแหล่งการเรยี นรู้ ที่มีความจาเปน็ ต้องได้รบั การพัฒนาให้ทันสมัยอยู่เสมอ ด้วยเทคโนโลยี สารสนเทศ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารทเี่ หมาะสม รวมถึงการสรา้ งเครือข่าย เพื่อเชื่อมโยงระหว่างห้องสมุดบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ใหเ้ ป็นห้องสมุดอิเล็คทรอนิคส์ ห้องสมุดอเิ ลค็ ทรอนคิ ส์ เปน็ แหล่งที่รวมความรู้จานวนมหาศาลท่ีจดั การระบบงานห้องสมดุ โดยเก็บ ข้อมลู ไว้ในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์แม่ข่าย (server) และให้บริการข้อมลู ผา่ นเครือขา่ ยอนิ เตอร์เน็ต ซง่ึ ครอบคลุมถึงห้องสมุดดิจิตอล (Digital library) ทจี่ ัดการและใหบ้ รกิ ารขอ้ มูลเป็นเอกสารฉบบั เต็ม ในรปู แบบดจิ ติ อล และหอ้ งสมุดเสมือนทีร่ วมข้อมลู จากแหลง่ ความรู้ทวั่ โลก และใหบ้ รกิ ารเชอื่ มโยงขอ้ มลู ผา่ นเครอื ขา่ ยอินเตอร์เนต็ ในรปู ส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกส์
43 3. พัฒนำหอ้ งสมดุ ประชำชนเป็นแหลง่ เรยี นรทู้ เี่ ชอ่ื มโยงกบั แหล่ง เรยี นรู้อนื่ ๆ ในชมุ ชน ในปัจจุบันเปน็ ยคุ ท่กี ารส่งขอ้ มลู ทรี่ วดเรว็ มาก เทคโนโลยีเปิดโอกาสใหแ้ ต่ละบคุ คล ได้รบั รวบรวม วเิ คราะหแ์ ละส่อื สารขอ้ มูลข่าวสารไดอ้ ยา่ งละเอียดและรวดเรว็ มากกว่าทผ่ี ่านมา เป็นผลที่ทาให้ความต้องการและขอบเขตเกย่ี วกับการศกึ ษาขยายเพม่ิ มากขน้ึ เพอ่ื ทจ่ี ะช่วยผูเ้ รยี นทุกคน ไดร้ บั ทักษะทเี่ พ่มิ มากขน้ึ ดงั นนั้ หอ้ งสมดุ จงึ เปน็ สว่ นหนึง่ ของแหล่งข้อมลู ขา่ วสาร สารสนเทศ และประสบการณ์ ทสี่ นับสนนุ สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นใฝเ่ รียน ใฝ่รู้ แสวงหาความรู้ และเรียนรู้ดว้ ยตนเองตามอัธยาศยั อย่าง กวา้ งขวางและตอ่ เนือ่ ง เพือ่ เสริมสรา้ งให้ผเู้ รียนเกิดกระบวนการเรียนรู้และเปน็ บคุ คลแหง่ การเรยี นรทู้ ี่ เนน้ ผเู้ รยี นเป็นศนู ยก์ ลาง เป็นแนวคิดทม่ี ่งุ เนน้ การเรยี นรู้ของผเู้ รยี น
่ 3 / 2562 . 2562 1. ็ 2562 1. ชอ่ื โครงกำร : โครงกำรวันเดก็ แห่งชำติ ประจำปี 2562 2. ควำมสอดคล้องกบั นโยบำย นโยบายเรง่ ด่วนเพ่ือรว่ มขับเคล่ือนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ขอ้ 3.ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสรา้ งศกั ยภาพคนให้มีคณุ ภาพ 3.4 เพ่ิมอัตราการอ่านของประชาชน โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบบต่าง เช่น อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชน บ้านหนังสือชุมชน ห้องสมุดเคล่ือนที่ เพ่ือพัฒนาให้ประชาชน มีความสามารถในระดับอ่านคล่อง เข้าใจความ คิดวิเคราะห์พื้นฐาน และสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง และ ทันเหตุการณ์ รวมท้ังนาความรู้ทไ่ี ดร้ ับไปใช้ปฏบิ ตั จิ ริงในชีวิตประจาวนั ภำรกจิ ตอ่ เน่อื ง 1. ด้านการจัดการศกึ ษาและการเรียนรู้ ขอ้ 1.4 การศกึ ษาตามอัธยาศยั 3) ส่งเสริมใหม้ ีการสรา้ งบรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมที่เอ้ือตอ่ การอ่านให้เกิดขน้ึ ในสังคมไทย โดยสนับสนนุ การพฒั นาแหลง่ การเรยี นรู้ให้เกิดขน้ึ อยา่ งกว้างขวางและทั่วถึง เชน่ พฒั นาห้องสมดุ ประชาชนทุกแห่ง ใหเ้ ป็นแหล่งเรียนรูต้ ลอดชวี ิตของชุมชน ส่งเสริมและสนบั สนนุ อาสาสมคั รส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครือขา่ ย ส่งเสรมิ การอา่ น จัดหนว่ ยบริการเคล่อื นท่พี ร้อมอุปกรณเ์ พ่ือส่งเสรมิ การอ่านและการเรียนรู้ทหี่ ลากหลายออก ใหบ้ รกิ ารประชาชนในพ้นื ท่ีต่างๆ อย่างทว่ั ถึง สม่าเสมอ รวมทง้ั เสริมสร้างความพรอ้ มในดา้ นสอื่ อปุ กรณเ์ พอ่ื สนับสนุนการอ่าน และการจัดกิจกรรมเพอ่ื สง่ เสรมิ การอ่านอย่างหลากหลายนโยบายเร่งดว่ นเพ่ือรว่ มขบั เคลื่อน ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ
45 3. หลักกำรและเหตุผล ดว้ ยวันเสารท์ ีส่ องของเดอื นมกราคมของทุกปี รฐั บาลกาหนดให้เป็นวันเดก็ แหง่ ชาติ ซึง่ หนว่ ยงานต่างๆ ทง้ั ภาครฐั และเอกชนได้จดั กจิ กรรมสาหรบั เดก็ เพ่ือใหต้ ระหนักถงึ ความสาคญั ของเดก็ ซ่ึงถอื ว่าเป็นทรพั ยากรบุคคลท่ี สาคญั ยง่ิ ต่อประเทศชาติ ทจี่ ะเป็นกาลงั สาคัญในการพัฒนาชาตบิ า้ นเมืองให้เจรญิ ก้าวหน้าและม่นั คงสบื ไป เด็กจึง ควรเตรียมตัวทจ่ี ะเป็นกาลงั ของชาตดิ ว้ ยการขยันหมัน่ ศึกษาหาความรูแ้ ละใชเ้ วลาใหเ้ ปน็ ประโยชน์อยา่ งเต็มที่ ประพฤตปิ ฏบิ ัตติ นอยู่ในระเบียบวนิ ยั มีความขยนั หมั่นเพียรต้ังใจทางานด้วยความรบั ผดิ ชอบยดึ มน่ั ในความซ่ือสัตย์ สจุ ริต ตลอดจนมคี วามเมตตากรณุ าช่วยเหลอื เอ้ือเฟอื้ ผู้อ่ืน เสยี สละและบาเพญ็ ประโยชน์เพ่ือสว่ นรวม ช่วยกัน รักษาความสะอาดและอนรุ กั ษท์ รัพยากร ตลอดถึงสาธารณสมบัตสิ ว่ นรวมของชาติ หากเด็กทุกคนไดต้ ระหนกั ถงึ อนาคตของตนและของประเทศชาติ โดยพยายามประพฤติปฏบิ ตั ติ นใหเ้ หมาะสมกับวัยแล้วกจ็ ะไดช้ ื่อวา่ เปน็ “เด็ก ดี” ชาตบิ ้านเมืองก็จะเจริญมีความผาสุกรม่ เยน็ ตลอดไป ด่ังพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัวฯ พระราชทาน เน่ืองในโอกาสวันเด็กแหง่ ชาติ ต้งั แต่วนั ที่ 5 ธันวาคม พทุ ธศักราช 2534 ณ พระตาหนกั จติ รลดา รโหฐาน มีความวา่ “ คนทกุ คนมหี น้าทีต่ ้องทา แมเ้ ปน็ เดก็ ก็มหี นา้ ท่อี ย่างเด็ก คือ ศึกษาเล่าเรียน หมายความวา่ จะต้องเรยี นใหร้ ู้วชิ า ฝึกหดั ทาการงานตา่ งๆให้เป็น อบรมขัดเกลา ความประพฤตแิ ละความคิดจิตใจให้ประณีต ให้ สุจรติ แจ่มใส และเฉลยี วฉลาด มีเหตผุ ล เพ่อื จักไดเ้ ติบโตข้ึนเปน็ คนทมี่ ีความรู้ ความสามารถและมีประโยชนต์ ่อชาติ บา้ นเมือง” เด็กและเยาวชนเปน็ อีกกลุ่มเป้าหมายทม่ี ีความสาคญั ควรสง่ เสรมิ ใหเ้ กิดการเรียนรู้และ พฒั นาการ ในการแสดงออก ซงึ่ ความรู้ ความสามารถในดา้ นตา่ ง ๆ โดยจดั ให้มกี จิ กรรมในเชิงสร้างสรรค์ทห่ี ลากหลาย ทั้งนวี้ ันเดก็ แห่งชาติเป็นวนั สาคัญอีกวันหนึ่งทห่ี อ้ งสมดุ ประชาชนจงั หวัดชลบรุ ี จะจัดใหม้ ีกิจกรรมต่าง ๆ ทห่ี ลากหลายภายใตค้ วามรว่ มมอื ของทกุ ฝา่ ย ทุกแหลง่ ความรู้และของประชาชนในชมุ ชน 4. วตั ถุประสงค์ 4.1 เพ่ือส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน ได้แสดงออก กล้าคิด กล้าทา ในทางสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์และมี สว่ นร่วมในการทากิจกรรมตามความสามารถและความสนใจ 4.2 เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน ได้ยึดม่ันในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล 4.3 เพ่ือสง่ เสริมให้เดก็ เยาวชน มสี ขุ ภาพทั้งรา่ งกาย จติ ใจ สติปัญญา อารมณ์ และมีจิตสานกึ ท่ีดตี ่อสังคม และประเทศชาติ ตลอดจนมีความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ มกี ารพัฒนาตนเองและสังคมให้ก้าวหนา้ สืบไป 5. เปำ้ หมำย 5.1 เชิงปริมาณ - เด็ก เยาวชน นกั เรียน นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอเมืองชลบรุ ี และประชาชนท่วั ไป จานวน 500 คน 5.2 เชิงคณุ ภาพ - เด็ก เยาวชน นกั เรยี น นกั ศึกษา กศน.อาเภอเมอื งชลบรุ ี และประชาชนทวั่ ไป ได้แสดงออกในเชงิ สร้างสรรค์รวมท้ังได้รับความรู้ และความบันเทิงจากการสรา้ งบรรยากาศ แห่งการเรียนรแู้ ละส่งเสรมิ การแสดงออกโดยวธิ กี ารและกจิ กรรมท่หี ลากหลาย
46 6. วิธกี ำรดำเนนิ กำร กิจกรรมหลกั วัตถุประสงค์ กลุม่ เป้ำหมำย เปำ้ หมำย พื้นท่ี งบ ดำเนินกำร ระยะเวลำ ประมำณ 1. ประชุมปรึกษารปู แบบ 1.เพ่ือส่งเสรมิ ให้เดก็ และ - เดก็ เยาวชน 500 คน - บริเวณ -วันเสารท์ ่ี กจิ กรรม เยาวชนได้มีโอกาส นักเรียน สนามหน้า 12 มกราคม งบอุดหนุน 2. ตง้ั คณะทางาน แสดงออกซ่งึ นักศกึ ษา กศน. อาเภอ 2562 (กศ.พนื้ ฐาน) 3. ประสานหน่วยงาน ความสามารถในทางทด่ี ี อาเภอเมือง เมอื งชลบุรี 6,000.- สถานประกอบการ และถกู ต้อง ชลบรุ ี และ เครอื ขา่ ยและประชาชนใน 2.เพอื่ สง่ เสรมิ ใหส้ ถาบนั ประชาชนทว่ั ไป ชมุ ชนทเ่ี กี่ยวข้อง เพือ่ ขอรบั ครอบครัว และชมุ ชน การสนับสนนุ ของขวัญ รว่ มมอื กนั จัดกิจกรรม 4. ประชาสมั พันธ์ ส่งเสรมิ การเรียนรู้ 5. ดาเนินการจดั กจิ กรรม สาหรับเด็กและเยาวชน ฐำนที่ 1 กจิ กรรมรถโมบาย 3. เพอ่ื ส่งเสริม (ห้องสมดุ เคลอ่ื นที)่ พฒั นาการของเด็ก - หนงั สือ/สื่อ ใหม้ คี วามพร้อมตามวยั ท่ี - คอมพวิ เตอร์ เหมาะสม และเพอ่ื ให้ - ฉายภาพยนตร์สารคดี เดก็ เยาวชน ฐำนท่ี 2 กจิ กรรมส่งเสริม ผู้ปกครอง ไดท้ า การอ่าน กิจกรรมร่วมกัน - กิจกรรมบงิ โกอาเซยี น 4. เพื่อสง่ เสริม - กจิ กรรมจก๊ิ ซอ การศกึ ษาตามอธั ยาศัย ประวตั ศิ าสตร์ โดยใช้รูปแบบของ ชาตไิ ทย กจิ กรรมทีห่ ลากหลาย - กจิ กรรมระบายสีหรรษา - กจิ กรรมตลาดนดั หนงั สือ ฐำนที่ 3 กิจกรรม นันทนำกำร - กิจกรรมตอบคาถามฮาเฮ 6. ประเมนิ ผลโครงการ 7. สรปุ ผลการดาเนนิ งาน
Search