เชื่อมอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ 2

ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 1 18

คารบอน (C) ชวยเพ่ิมความแข็งแกเหล็กกลา เมื่อมี ปริมาณคารบอนผสมอยูสูงข้ึน เหล็กกลาจะมีความสามารถ ในการชุบแข็ง ตานทานตอแรงดึงจะสูงขึ้น แตความเหนียว และความสามารถในการเชื่อมจะลดลง แมงกานีส (Mn) เปนธาตุที่ชวยเพิ่มความสามารถ ชุบแข็งและความแข็ง แตจะมีผลนอยกวาธาตุคารบอน แมงกานีสจะเปนธาตุท่ีชวยเรงอัตราการแทรกซึมของ คารบอนขณะที่ทําการอบเติมคารบอน และมีผลตอการ ตกแตง ผวิ สําเรจ็ กํามะถัน (S) จะชวยเพ่ิมความสามารถในการตัดแตง ของเหล็กกลา แตจะไปลดความออนในแนวขวาง ความ ตานทานตอแรงกระแทก และความสามารถในการเชื่อม กํามะถนั จะทําใหแ นวเชอ่ื มเกดิ แตกรา วไดง า ยในขณะรอ น ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 2 19

ฟอสฟอรัส (P) จะมีผลทําใหเหล็กกลามีความแข็งแรง สูงข้ึน แตความตานทานตอแรงกระแทกจะลดลง โดยเฉพาะ ในเหล็กกลาเกรดคารบอนสูง ในเหล็กกลาเกรดคารบอนต่ํา ฟอสฟอรัสจะชวยเพิ่มความสามารถในการตัดแตง และความ ตา นทานตอ การกดั กรอ นของบรรยากาศไดด ี ซิลิคอน (Si) เปนธาตุท่ีชวยลดออกซิเจนในเหล็กกลา ซ่ึงจะเตมิ ลงไปในขณะทําการผลติ เหล็กกลา ทองแดง (Cu) เปนธาตุท่ีมีคุณสมบัตปิ รับปรุงความ ตานทานการกัดกรอนจากบรรยากาศ ถาเติมทองแดงจนถึง 0.50% จะไมม ผี ลตอ ความสามารถในการเชอ่ื ม ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 3 20

การแบงชนิดของเหล็กกลาคารบอน โดยท่ัวไปจะ แบงตามปริมาณของคารบอนท่ีผสม ซึ่งจะแบงไดดังนี้ เหล็กกลาคารบอนตํ่า มีคารบอนไมเกิน 0.30% เหล็กกลา คารบอนปานกลาง มีคารบอนระหวาง 0.30-0.45% และ เหล็กกลาคารบอนสูง มีคารบอนมากกวา 0.45% เหล็กกลา คารบอนต่ําจะแบงเปน เหล็กกลาคารบอนตํ่ามาก มีคารบอน ไมเกิน 0.15% และเหลก็ กลา ละมนุ มคี ารบ อน 0.15-0.30% ความสามารถในการเชื่อมของเหล็กกลาคารบอนต่ํา เหล็กกลาคารบอนตํ่ าจะมีธาตุคารบอนผสมอยูไมเกิน 0.30% ซ่ึงจะมีความสามารถในการเช่ือมไฟฟาที่ดี นิยม นํามาใชทําภาชนะ ฐานเครื่องจักร เหล็กกลาคารบอนต่ําท่ีมี คารบอนประมาณ 0.13% สามารถใชในงานเชื่อมไดดี แตจ ะ เช่อื มไดไ มด นี กั เมอื่ เช่อื มดว ยความเรว็ สงู ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 4 21

เหล็กกลาท่ีมีคารบอนผสมอยูระหวาง 0.25-0.30% จะมีความสามารถในการเช่ือมที่ดีแตถามีธาตุผสมบางตัวสูง เกินคาที่จํากัด การเช่ือมเหล็กกลาคารบอนต่ํานี้ ไมตองให ความรอนกอนการเชื่อม แตถาช้ินงานมีความหนาต้ังแต 5 เซนตเิ มตรขน้ึ ไป ควรอนุ ชน้ิ งานกอ นการเชอ่ื ม ความสามารถในการเชื่อมของเหล็กกลาคารบอน ปานกลางและเหล็กกลาคารบอนสูง การชุบแข็งของเหล็กกลาจ ะเพิ่มขึ้ นเม่ื อเหล็กกลา มีปริมาณคารบอนเพ่ิมข้ึน เหล็กกลาคารบอนปานกลาง และคารบอนสูงจึงเหมาะกับการใชงานท่ตี องการความแข็ง ความตานทานตอการสึกหรอดี และความแข็งแรงสูง จะนิยม ใชทาํ แผนกันสกึ สปรงิ และชน้ิ สว นรถไฟ ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 5 22

ความรอนจากการเชื่อมจะทําใหโครงสรางของโลหะ งานและโลหะเชื่อมเกิดการเปล่ียนแปลง ซ่ึงจะมีโอกาส เกิดข้ึนไดทั้งขณะเช่ือมและหลังจากงานเช่ือมเย็นตัวลงแลว ข ณ ะ ท่ี เ กิ ด ก า รอ า ร  ก ร ะ ห ว  า งล ว ด เ ช่ื อ ม แ ล ะ ช้ิ น ง า น จ ะ มี อุณหภูมิประมาณ 1,500 C เมื่อเหล็กรอนถึงอุณหภูมิ วิกฤต โครงสรางเกรนความแข็งความแข็งแรงของโลหะ จะเปลย่ี นแปลง ดังแสดงในรปู ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 6 23

การเชื่อมยึดชิ้นงาน (Tack Welding) วางช้ินงานควํ่า โดยใหรอยบากอยูดานลาง มี ระยะหางของช้ินงาน (Root Opening) ประมาณ 3 มิลลิเมตร (เทากับขนาดความโตของลวดเชื่อม) และเผื่อใหช้ินงาน แอนขึ้นเล็กนอย เมื่อเชื่อมเสร็จชิ้นงานจะถูกดึงกลับ จะทําให ชน้ิ งานไมบ ดิ เบ้ียว ขอควรระวัง ถาเวนระยะหางนอยเกินไป จะมผี ลทําใหร อยเชอ่ื ม ไมเ กดิ การซมึ ลกึ ทด่ี ี ถาเวน ระยะหา งมากเกนิ ไป จะมผี ลทําใหร อยเชอ่ื ม เกิดทะลุ การซมึ ลกึ จะมากเกนิ ไป ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 7 24

เชื่อมยึดชิ้นงานดานหลังใหแนวเชื่อมยึดนั้นยาว ประมาณ 10 มลิ ลเิ มตร ทง้ั สองดา น เคาะสแลกออกจากรอยเชื่อมยึดใหสะอาด โดยใช แปรงลวดขดั ใหส ะอาด ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 8 25

การเชื่อมชิ้นงาน การเชื่อมแนวซึมลึก (Root Pass) ใชลวดเช่ือม E 6010 ขนาด 3.2 มิลลิเมตร ปรับกระแสไฟฟาประมาณ 125-130 แอมแปร (40 x ความโตของแกนลวดเช่ือม) ใชไฟ D C E P (ลวดเชื่อมตอกับขั้วบวก) เรม่ิ ตน ทําการเชื่อมจากขอบชิ้นงาน ดานซายมือไปทางดานขวามือ ใหระยะอารกหางจากชิ้นงาน ประมาณ 3.2 มลิ ลเิ มตร (เทา กบั ขนาดความโตลวดเชอ่ื ม) ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 9 26

ขณะเช่ือมตองสรางคีโฮล (Key Hold) ใหเทากัน ตลอดทง้ั แนวเชอ่ื ม ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด 27วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 10

การเดินลวดเชื่อมควรใชเทคนิคการเดินถอยหลัง- เดนิ หนา เมื่อเชื่อมแนวแรกเรียบรอยแลว เคาะสแลกออก จากแนวเช่ือมใหสะอาด ขณะเช่ือมจะเกิดเม็ดโลหะกระเด็น มาก ตอ งใชส กดั ตอกทาํ ความสะอาดออกจนหมด ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด 28วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 11

การเช่ือมแนวเติม (Hot Pass) การเชื่อมแนวเติมแนวที่ 2 ใชล วดเชอ่ื ม E 7016 ขนาด 3.2 มิลลิเมตร ใชกระแสไฟฟาประมาณ 125-130 แอมแปร ใชไ ฟฟา DCEP (ลวดเชอ่ื มตอ กบั ขว้ั บวก) วางชิ้นงานอยูในตาํ แหนง ทาระดับ ขณะเคลื่อนลวดเช่ือม ใหลวดเช่ือมทํามุมประมาณ 75 องศา ควรใหร ะยะอารก สน้ั ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด 29วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 12

การตอลวดเชื่อมตองตออยางรวดเร็วขณะบอหลอม ละลายยังรอนแรง จะทําใหรอยตอหลอมละลายเขากันได อยางสมบูรณ หลังจากเช่ือมแนวท่ี 2 แลว ใหเช่ือมแนวที่ 3 ระหวาง แนวเชื่อมท่ี 2 และขอบช้ินงาน ดานบน โดยใชมุมลวดเช่ือม เหมือนกับการเชื่อมแนวที่ 2 ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด 30วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 13

การเชื่อมแนวปกคลุม (Cover Pass) การเช่ือมแนวปกคลุม ใชลวดเชื่อม E 7016 ขนาด 3.2 มิลลิเมตร ใชกระแสไฟฟา 125-130 แอมแปร วางช้ินงานอยูในตําแหนงทาระดับการเชื่อมจะไมใชเทคนิค การสายลวดเช่ือม ขณะเคล่ือนลวดเช่ือมใหลวดเชื่อมทํามุม ประมาณ 75 องศา ลขิ สทิ ธิ์เปนของบริษัท สาํ นกั พมิ พเ อมพนั ธ จาํ กัด 31วชิ า งานเชอ่ื มโลหะ 2 บทที่ 2 แผนที่ 14