หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เหล็กกลา้ รปู พรรณ
เหล็กกล้ารูปพรรณ เหล็กกล้ารูปพรรณ (Steel Description) คือ เหล็กท่ีผลิตออกมามีหน้าตัดเป็นรูปลักษณะต่าง ๆ สาหรับใช้ในงาน โครงสรา้ ง แบ่งการผลิตออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ เหล็กรูปพรรณรีดร้อน และเหล็กรูปพรรณรดี เย็น ข้อดีของเหลก็ กลา้ รปู พรรณ 1. มีกาลงั ตอ่ นาหนักสงู เหมาะในการกอ่ สรา้ งอาคารที่มีระยะช่วงทย่ี าวมาก ๆ และอาคารสูง 2. มีสมบัติทางกลสม่าเสมอ สามารถออกแบบงานสถาปัตยกรรมได้หลากหลาย เช่นดัดโค้ง ทาโครงสร้างโปร่ง หรือทา ส่วนยื่นไดม้ าก 3. มคี วามยืดหยนุ่ สงู ลดการเสยี รูปอย่างถาวร 4. มอี ายกุ ารใช้งานท่ียาวนาน ถา้ ดแู ลเหมาะสมและถูกต้อง 5. มีความเหนียว เปล่ยี นแปลงรูปรา่ งทส่ี งู กอ่ นการเสียหาย 6. กอ่ สรา้ งได้งา่ ย และรวดเร็ว 7. กอ่ สร้างในที่จากัดไดส้ ะดวก ไม่กอ่ ใหเ้ กิดมลภาวะฝุน่ 8. สามารถรับแรงสนั่ สะเทอื นและแผ่นดนิ ไหวไดด้ ีกวา่ โครงสรา้ งระบบอน่ื 9. ดดั แปลง ตอ่ เติม หรือรือไปสร้างใหม่ได้ ไมต่ อ้ งทบุ ทิง 10. สามารถนาวสั ดุมาหมุนเวยี นได้ 100%
เหล็กกลา้ รูปพรรณ ขอ้ เสยี ของเหลก็ กล้ารูปพรรณ 1. มีค่าดแู ลรักษาสูง หากออกแบบไม่เหมาะสมกบั การใชง้ าน 2. มีค่าใชจ้ า่ ยในการพ่นกนั ไฟ กาลงั ของเหลก็ ค่าลดลงมากในกรณีทเี่ กิดไฟไหม้และเหล็กเป็นส่ือนาความร้อนได้ดี 3. เกดิ การโก่งเดาะได้งา่ ย ในองค์อาคารเหลก็ ท่ีรับแรงกดอดั และมีความชะลดู สงู เนอื่ งจากเหลก็ มกี าลังท่คี อ่ นข้างสูง 4. อาจเสียหายโดยการล้า หากออกแบบไม่เหมาะสมและถกู ใชง้ านในที่อณุ หภูมิตา่ และถกู แรงกระทาซา 5. อาจเสียหายโดยการแตกหักแบบเปราะ เมื่อโครงสร้างเหล็กอยู่ในพืนที่ท่ีมีอุณหภูมิต่ามาก ๆ เหล็กกล้ารูปพรรณ แต่ ละประเภทจะมีลกั ษณะทตี่ า่ งกัน ดังนี
เหลก็ กลา้ รปู พรรณรดี ร้อน เหล็กกลา้ รูปพรรณรีดร้อน (Hot Rolled Structural Steel) มีทังเหล็กกล้ารูปพรรณรีดร้อนขนาดใหญ่ และเหล็กรูปพรรณ รีดร้อนขนาดเล็ก ขนาดใหญจ่ ะมีความกวา้ งมากกว่า 200 มม. ขนาดเลก็ จะมีความกวา้ งนอ้ ยกวา่ 200 มม. ด้วยกระบวนการ หลอมและหล่อขึนรูปเป็นเหล็กแท่งในขันต้น จากนันใช้ความร้อนเพื่อทาการรีด โดยการลดขนาดและขึนรูปอีกครัง เหล็ก โครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน มีการผลิตใช้งานในต่างประเทศมายาวนาน เน่ืองจากผลิตได้รวดเร็ว และเป็นที่นิยมอย่าง กว้างขวางรวมถึงประเทศไทยที่เริ่มมีโรงงานผลิตเพิ่มมากขึน เหล็กเหล่านีมีหน้าตัดหลายประเภทและมีหลายเกรด (ชัน คณุ ภาพ) รวมถึงมมี าตรฐานทก่ี าหนดโดยประเทศนัน ๆ ด้วย อาทิ ASTM (มาตรฐานอเมรกิ า) JIS (มาตรฐานประเทศญีป่ ่นุ ) เปน็ ต้น เดิมสว่ นใหญแ่ ล้วประเทศไทยนาเขา้ จากประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันสามารถผลิต และกาหนดมาตรฐานเองภายในประเทศ แล้ว ซ่ึงได้แก่ 1. เหล็กเส้นกลม (Round Bars) สาหรับงานคอนกรตี เสรมิ เหล็กและงานก่ออฐิ ท่วั ไป โดยใช้ในการเพม่ิ ความสามารถในการรับแรงกับโครงสร้าง โดยท่ัวไป จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดต่าง ๆ เช่น RB6 (หมายถึง Round Bar ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มิลลิเมตร, RB9, RB12, RB15, RB19, RB25 เน่ืองจากผิวเหล็กท่ีมีลักษณะกลมเรียบจึงทาให้แรงยึดเหนี่ยวระหว่างเหล็กกับคอนกรีตไม่ดีจึง ต้องมีการงอขอเพื่อทจ่ี ะสามารถถ่ายแรงได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
เหลก็ กล้ารูปพรรณรีดร้อน ขอ้ พิจารณาเม่อื เลือกซ้ือเหล็กเส้นกลม - ผวิ ของเหล็กตอ้ งเรยี บ เกลยี ง ไม่มลี ูกคลน่ื ไม่มปี กี ไมม่ รี อยแตก หน้าตดั ตอ้ งกลม ไม่เบียว - เส้นผ่านศูนย์กลางและนาหนักต้องถูกต้อง เช่น เหล็ก SR24 ขนาด 9 มม. เม่ือวัดเส้นผ่าศูนย์กลางต้องได้ 9 มม. นาหนักต้องได้ 0.499 กก./ 1 เมตร ความยาวทังเส้นตามมาตรฐานต้องยาว 10 เมตร เป็นตน้ - เม่อื ดดั โค้งงอต้องไม่ปรแิ ตกและหักงา่ ย - เหล็กต้องไม่เป็นสนิมกินเข้าไปในเนือเหล็ก แต่หากเป็นสนิมบ้างบนผิวเหล็ก อาจเป็นเร่ืองของสภาพอากาศของ เมืองไทย ไมต่ อ้ งกงั วล ลักษณะการใชง้ านเหลก็ เส้นกลม - ใชส้ าหรับงานก่อสร้างที่รบั แรงไม่มากนกั - ใช้ทาปลอกเสายาว 10 เมตร เปน็ ต้น - ใชส้ าหรับงานกอ่ สร้างทรี่ บั แรงไมม่ ากนกั - ไม่นิยมสาหรับงานยึดเกาะ เช่น ปูน เพราะเหล็กมีผิวเรียบ มน ไมเ่ หมาะกบั งานยึดเกาะ ลักษณะของเหลก็ เสน้ กลม ดังแสดงในรูป แสดงลกั ษณะเหล็กเสน้ กลม
เหล็กกล้ารูปพรรณรดี รอ้ น 2. เหล็กเสน้ ข้อออ้ ย (Deformed Bars) จดั เปน็ เหลก็ เสน้ กลมเชน่ กัน สาหรับงานคอนกรตี เสรมิ เหล็กและงานก่ออฐิ ทวั่ ไป เหลก็ ข้ออ้อยจะมีขนาดหน้าตัดประมาณ ตังแต่ 10 - 32 มิลลิเมตร เหล็กเส้นกลมผิวเรียบและเหล็กข้ออ้อย จะมีการใช้งานท่ีแตกต่างกันโดยจะใช้เหล็กข้ออ้อยเป็น หลักเนื่องจากรับแรงได้ดีกว่า และใช้เหล็กเส้นกลม ขนาดหน้าตัดเล็กกว่าเป็นเหล็กปลอกรัดรอบเหล็กข้ออ้อยเป็นระยะ ๆ สังเกตง่าย ๆ คือ ในเสาแนวตัง จะใช้เหล็กข้ออ้อยเป็นเหล็กยืน (ตังตลอดแนวเสา) และใช้เหล็กเส้นกลมเป็นเหล็กปลอกรัด รอบเหล็กยืนเป็นระยะ ๆ ในคานแนวนอน จะใช้เหล็กข้ออ้อยเป็นเหล็กนอน (ยาวตลอดแนวคาน) และใช้เหล็กเส้นกลมเป็น เหลก็ ปลอกรัดรอบเหลก็ นอกเป็นระยะ ๆ โดยปกติจะมีขนาดเส้นผ่านศนู ย์กลางหลายขนาด เชน่ DB10 (หมายถึง Deformed Bar ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 มิลลิเมตร ) DB12, DB16, DB20, DB25, DB28, DB32 ผิวของเหล็กเส้นจะมีลักษณะเป็น ปลอ้ งเพ่ือเพมิ่ แรงยึดเหนี่ยวใหเ้ หล็กกบั คอนกรีตมากขึนลกั ษณะของเหล็กเสน้ กลม ดังแสดงในรูป แสดงลกั ษณะข้อออ้ ย
เหลก็ กล้ารปู พรรณรดี ร้อน 3. เหล็กเอชบมี (H-Beam) เหล็กเอชบมี เหมาะสาหรบั งานโครงสรา้ งคาน เสา และโครงหลังคา เหล็กเอชบีม หรือเรียกว่า H-Beam ในภาษาอังกฤษ เปน็ เหล็กรปู พรรณรีดร้อน สาหรับงานโครงสรา้ งเหลก็ โดยเฉพาะและมีรูปรา่ งสวยงามในงานก่อสร้างอีกทังยังให้ความคงทนสูง เพราะมีความแข็งแรงมากลกั ษณะพเิ ศษของเหลก็ เอชบมี คือ ความสูงจะเทา่ กบั ความกว้าง (HXB) งานส่วนใหญ่สาหรับเหล็ก ชนิดนี คอื นาไปใช้เป็นโครงหลังคา เสา หรือคาน แทนการใช้เหล็กเสน้ งานคอนกรตี เพราะใหน้ าหนักท่ีเบากว่าและสร้างเสร็จ รวดเร็วกวา่ สามารถรองรบั นาหนักได้ดีมาก หากใช้ทาเสาหรืออาคารต่าง ๆ โดยไม่ต้องหล่อเสาปูนซ่ึง สามารถใช้แทนกันได้ และก็มีความยาวมากถึง 3 ขนาด คือ 6 เมตร 9 เมตรและ 12 เมตร ทาให้ง่ายต่อการใช้งานและประหยัดเวลามากขึน ลักษณะของเหล็กเอชบมี ดังแสดงในรปู แสดงลกั ษณะเหลก็ เอชบมี
เหลก็ กล้ารูปพรรณรีดรอ้ น 4. เหลก็ ไวด์แฟรงค์ (Wide Flange Beam) เหล็กไวด์แฟรงค์มีลักษณะรูปทรงที่คล้ายกับเหล็กเอชบีม และเหล็กไอบีม แต่เหล็กไวด์แฟรงค์ จะมีความกว้างของแผ่น ตรงกลาง มากกว่าปีกทัง 2 ข้าง และมีขนาดบางกว่า แต่ยังคงความแข็งแรง ทนทาน สามารถรองรับนาหนักได้ดี เหมาะ สาหรบั การทาเสา คาน โครงหลงั คา ลกั ษณะของเหลก็ ไวดแ์ ฟรงค์ดังแสดงในรูป แสดงลกั ษณะเหล็กเอชบีม
เหลก็ กลา้ รูปพรรณรดี ร้อน 5. เหล็กไอบีม (I-Beam) เหล็กไอบีม หรือที่เรียกกันแบบตรง ๆ เลยก็คือ I-Beam ใน ภาษาอังกฤษ เป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อน สาหรับงาน โครงสร้างเหล็ก โดยเฉพาะ และมีรปู ร่างสวยงามในงานก่อสรา้ งอกี ทังยงั ใหค้ วามคงทน สูงเพราะมีความแข็งแรงมากลักษณะพิเศษของไอบีม ต่างจากไวด์ แฟรงคค์ อื ความแตกต่างของปกี เหลก็ และโคนปีก โดยที่โคนจะมีความ หนากว่าปีก สังเกตได้จากรัศมี R ของไอบีมจะมี 2 รัศมี การท่ีโคน เหล็กมีปีกหนา ทาให้การรับนาหนักการส่ันสะเทือนดี นิยมใช้ในการ ทาเคร่อื งจักร รางสาหรับเครนในโรงงานผลิต ลักษณะของเหล็กไอบีม ดงั แสดงในรูป แสดงลักษณะเหลก็ ไอบมี
เหล็กกล้ารปู พรรณรดี ร้อน 6. เหลก็ ฉาก (Equal Angle) เหล็กฉาก อยู่ในกลุ่มเหล็กรูปพรรณรีดร้อน ซ่ึงมีด้าน เท่ากัน 2 ด้าน โดยใช้ในงานตบแต่งส่วนใหญ่ เช่น ทาชัน เช่ือมชันวางของต่าง ๆ หรือชันวางสินค้า เป็นต้น แต่ในงาน โครงสร้างก็เป็นที่นิยมใช้ ทาโครงสร้างหลังคาโดยจะใช้เหล็ก ฉากขนาดใหญ่ เหมาะสาหรับงานโครงสร้างหลังคา เสาส่ง ไฟฟ้าแรงสูง เสาส่งวิทยุ เสาโทรศัพท์ เป็นต้น ลักษณะของ เหลก็ ฉาก ดงั แสดงในรปู แสดงลกั ษณะเหล็กไอบมี
เหล็กกล้ารปู พรรณรดี รอ้ น 7. เหลก็ รางน้า (Channel) เหล็กรางนา เป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน เหมาะสาหรับงานโครงสร้างบ้านหลังคาโรงงาน โครงป้ายโฆษณา ขนาดใหญ่ เสาไฟฟ้าแรงสงู และงานโครงสร้างขนาดเลก็ โดยท่วั ไปลักษณะของเหล็กรางนา เป็นรูปตัว U ขาสองข้างความหนา จะเท่ากนั เกรดเหล็กมีหลายขนาดให้เลือกตามลักษณะการใชง้ านนิยมเรยี กขนาดเปน็ นิว ตังแตข่ นาด 2 นิวขึนไปจนถึงขนาด 12 นิว ความยาวปกติท่ีใช้ทั่วไปคือ 6 เมตร เหมาะสาหรับทาคานรองรับส่วนต่าง ๆ เช่น บันได คานขอบนอก เป็นต้น ลกั ษณะของเหล็กรางนา ดงั แสดงในรปู ที่ แสดงลกั ษณะเหล็กรางน้า
เหล็กกล้ารปู พรรณรีดร้อน 8. เหล็กแผ่นหรือเหล็กแผน่ ดา้ (Steel Plate) เหล็กแผ่นหรือเหล็กแผ่นดา ทาจากเหล็กแผ่นม้วนคุณภาพสูงเป็นชนิดหน่ึงของเหล็กแผ่น เหล็กแผ่นดาจะมีลักษณะเป็น แผ่นสีเหลี่ยมผืนผ้า ผิวเรียบ มีหลายขนาดและความหนา การใช้งานเหล็กแผ่น สาหรับงานโครงสร้างทั่วไป การปูพืน การเช่อื มตอ่ โครงสรา้ งยานยนต์ งานตอ่ เรือ สะพาน มีหลายขนาดและความหนาตามแต่การใช้งาน ลักษณะของเหล็กแผ่น ดัง แสดงในรูป แสดงลกั ษณะเหลก็ แผน่
เหลก็ กลา้ รปู พรรณรดี รอ้ น 9. เหล็กเพลากลม (Steel Round Bars) เหล็กเพลากลม แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ เหล็กเพลาดา บางครังเรียกว่า เพลาหัวแดง (S45C) หรือเพลาหัวฟ้า (SCM440) เพ่ือแยกประเภทเกรดของเนือเหล็กเพลาอีกชนิดหน่ึง คือ เหล็กเพลาขาว นิยมใช้สาหรับงานที่เน้นความกลม นาไปขึนรปู กลงึ ทาชนิ งาน นอ็ ต สกรู ใชเ้ ปน็ ชินส่วนเครือ่ งจักร เพลารถ เพลาเครื่องจกั ร โดยเกรดที่ใชก้ ันทว่ั ไปตามทอ้ งตลาด คือ SS400 S20C S45C SCM440 เหล็กเพลาขาว มีช่ือเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Cold Drawn Bar ซึ่งเรียกตามการผลิตที่ เกิดขึนจากการนาเหล็กเส้นกลมหรือเหล็กเพลาดา ไปดึงเย็นอีกครังหนึ่ง เหล็กท่ีถูกนาไปดึงเย็นมาแล้วจะเปล่ียนสมบัติทาให้ เหล็กเปลยี่ นจากสเี ทาดาเป็นสีเทาเงิน ๆ จึงเรียกว่าเหล็กเพลาขาวตามลักษณะของเหล็ก เหล็กเพลาขาวนีจะมีคุณสมบัติแข็ง กวา่ เหลก็ เพลาดา แต่จะมีการยดื หยุ่นนอ้ ยกว่า ลักษณะเหลก็ เพลากลม ดงั แสดงในรปู แสดงลกั ษณะเหล็กเพลากลม
เหล็กกลา้ รูปพรรณรดี รอ้ น 10. เหลก็ สี่เหลี่ยมตัน (Steel Square Bars) เหลก็ ส่เี หลยี่ มตนั มลี ักษณะเป็นรปู ทรงสี่เหลยี่ มจัสตรุ สั ขนาดแต่ละด้านเท่ากัน มีค่าทนทานเสียดสีสูง มีขนาดความหนา ให้เลอื กตังแต่ 10 - 75 มม. มคี ุณสมบตั ิ แข็งแรง ทนทาน ถา่ ยเทนาหนกั ไดด้ ีเยี่ยม การน้าไปใชง้ าน เหล็กสี่เหล่ียมตัน (Steel Square Bars) เหมาะสาหรับงานโครงสร้างท่ัว ๆ ไป นิยมนาไปใช้ทาเหล็กดัดหน้าต่าง รัว เหล็กดดั กนั ขโมย ระเบียงเหล็ก ทาลูกศรเเหลม และยังสามารถนาไปใช้ทารางเครน หรือรางรถไฟได้ หรืองานเครื่องจักร ทา ชินส่วนต่าง ๆ ตามตอ้ งการ ลกั ษณะเหล็กส่ีเหลีย่ มตัน และการใช้งาน ดงั แสดงในรปู แสดงลกั ษณะเหล็กสเี่ หลีย่ ม แสดงลกั ษณะการใช้งานเหล็กสี่เหล่ยี ม
เหล็กกลา้ รูปพรรณรดี เยน็ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดเย็น (Cold formed structural steel) คือ กระบวนการขึนรูป เหล็กกล้าท่ีมีลักษณะเป็นแผ่น ในอณุ หภูมปิ กติ ซง่ึ วตั ถุดบิ ในการขึนรปู คอื เหลก็ แผน่ รีดรอ้ นหรอื เหล็กแผ่นชุบสังกะสี ซง่ึ ไดแ้ ก่ 1. เหล็กตวั ซี (Light Lip Channel) เหล็กชนิดหนึ่งท่ีถูกนามาแปรรูปด้วยขันตอนการรีดให้ได้สัดส่วน เหล็กตัวซีนันมีความยาวตามมาตรฐานคือ 6 เมตร ประโยชน์ของเหล็กตัวซีหลัก ๆ คือ จะใช้สาหรับงานทาโครงหลังคา แปหลังคา เสาคายันท่ีไม่ต้องรับนาหนักมาก เป็นต้น ลักษณะเหล็กตัวซีดงั แสดงในรปู แสดงลักษณะเหล็กตวั ซี
เหลก็ กลา้ รปู พรรณรดี เย็น 2. ทอ่ กลมดา้ (Carbon Steel Tubes) เหล็กท่อกลมดา หรือท่ีนิยมเรียกกันว่าเหล็กท่อดา แป๊บดา แป๊บกลมผลิตจากเหล็กกล้าแผ่นคุณภาพสูง ผ่านการขึนรูป ด้วยเคร่ืองจักรประสิทธิภาพมาตรฐาน มีความยาว 6 เมตรต่อเส้น ท่อกลมดาใช้สาหรับเป็นท่อลาเลียง ท่อการประปา ท่อ ชลประทาน และใช้เปน็ โครงสร้างท่วั ไป มีลักษณะเปน็ เหลก็ ท่อดา เหลก็ ยาว มีความสามารถในการรับแรงดัน มีความแข็งแรง ทนทาน แต่นาหนักเบา ตะเข็บเรียบ สะดวกในการเชื่อมต่อ ท่อกลมดา นิยมนาไปใช้เป็นท่อนาสาหรับอาคารสูง งานขึนรูป โครงสร้างต่าง ๆ เพราะรูปท่อเหล็กกลมจึงทนต่อแรงลมแรงเสียดทานต่าง ๆ ได้ดี รวมถึงนาไปประยุกต์ใช้ในงานทั่วไป เช่น ร้อยทอ่ สายไฟ รวั ประตู หรอื งานตกแต่งท่ัวไป เหล็กท่อดาทกุ ขนาดสามารถนาไปชบุ กลั วาไนซแ์ ละสงั กะสไี ด้ เพอื่ ความความ แข็งแรงทนทานและมีความสวยงาม ใช้งานได้เป็นเวลานานไม่ทาให้เกิดสนิมและรอยแตกเวลาเช่ือม โดยทั่วไปขนาดวงนอก ของท่อดาจะใหญก่ วา่ วงใน ตามขนาดที่ระบุไว้ ลกั ษณะท่อกลมดา ดงั แสดงในรปู แสดงลกั ษณะทอ่ กลมด้า
เหล็กกลา้ รูปพรรณรดี เย็น 3. เหลก็ กลอ่ งสเี่ หล่ียม (Carbon Steel Square Tube) เหลก็ กลอ่ งส่ีเหลยี่ มมสี องแบบ คือ เหลก็ กลอ่ งแบบสเี่ หลี่ยมจตุรสั และเหล็กกล่องแบนเหล็กกล่องเหล่ียม (Carbon Steel Square Tube) เป็นเหล็กรูปพรรณ มักใช้ทาโครงสร้างรองรับนาหนักงานแปหลังคา งานประกอบท่ัวไป งานเฟอร์นิเจอร์ มี ขนาดมาตรฐานหลายขนาด บางครังเรียกในท้องตลาดว่า แป๊บโปร่ง กล่อง เหล็กกล่อง เหล็กหลอดเหลี่ยม เหล็กรูปพรรณ เหล่านี ทาให้งานก่อสร้างเสร็จได้รวดเร็วกว่างานคอนกรีต และทาให้ได้โครงสร้างท่ีมีช่วงกว้างกว่า และมีนาหนักเบากว่า เหล็กกล่องส่ีเหลี่ยม หรือ เหล็กแป๊บโปร่ง (Square Steel Tube) เหล็กกล่องสี่เหลี่ยม หรือ เหล็กแป๊บโปร่ง (Square Steel Tube) เปน็ เหล็กโครงสร้างรปู พรรณกลวงแบบสี่เหลยี่ มจตั รุ ัส มคี วามยาว 6 เมตรต่อเส้น มีลักษณะเป็นท่อส่ีเหล่ียม มีมุมฉาก ท่ีเรียบคม ไม่มนได้มุมฉาก 90 องศา ผิวเรียบไม่หยาบขนาดต้องเท่ากันทุกเส้น เหล็กกล่องส่ีเหลี่ยม เหมาะสาหรับงาน โครงสร้างทั่วไปทไ่ี ม่รบั นาหนกั ลักษณะเหลก็ กล่องส่เี หลย่ี มดังแสดงในรูป แสดงลกั ษณะเหลก็ กล่องสีเ่ หลี่ยม
เหล็กกลา้ รปู พรรณรดี เยน็ เหล็กกล่องสเี่ หล่ียมแบน หรือเหลก็ แป๊บแบน (Rectangular Steel Tube) เหล็กกล่องส่ีเหล่ียมแบน หรือเหล็กแป๊บแบน (Rectangular Steel Tube) เป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณกลวงแบบ สี่เหล่ียมผืนผ้า มีความยาว 6 เมตรต่อเส้น เหล็กแป๊บแบน มีลักษณะเป็นท่อสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผิวเรียบไม่หยาบ ขนาดต้อง เทา่ กันทุกเส้น เหล็กกล่องสเี่ หลี่ยมแบน เหมาะสาหรบั งานก่อสร้างสร้างทั่วไปท่มี ีขนาดเลก็ และขนาดกลาง ลักษณะเหล็กกล่อง สีเ่ หล่ียมแบน ดังแสดงในรูป แสดงลกั ษณะเหล็กกลอ่ งสีเ่ หลย่ี มแบน
เหล็กกลา้ รูปพรรณรดี เย็น 4. ท่อเหลก็ อาบสงั กะสี (Galvanized Steel Pipe) ทอ่ เหลก็ ชบุ สงั กะสี คือ โดยนาเอาท่อดาไปชุบสังกะสี เพ่ือป้องกันการเกิดสนิม ผุกร่อน แถมยังมีความทนทาน และยังมี อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าท่อเหล็กดา ท่อเหล็กท่ีเคลือบสังกะสีนันนิยมใช้ในงานเกี่ยวกับท่ีมีการผุกร่อนของเหล็กสูง เช่น เคร่ืองจักรภายในโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ โรงงานที่ผลิตเกี่ยวกับสารเคมีภัณฑ์ และส่ิงปลูกสร้างบริเวณริมทะเล ท่อ เหล็กชุบสังกะสีนนั จะมีราคาจาหน่ายที่สูง และมีต้นทุนการผลิตในราคาท่ีสูงกว่าท่อดา การใช้งานเหมาะสาหรับงานนาประปา ท่อระบายนา ลกั ษณะท่อเหลก็ อาบสังกะสี ดงั แสดงในรูป แสดงลักษณะท่อเหล็กอาบสงั กะสี
เหลก็ กล้ารปู พรรณรดี เย็น นอกจากเหล็กรูปพรรณท่ีใช้กันมากในอุตสาหกรรมแล้ว ยังมีเหล็กรูปพรรณชนิดอ่ืน ๆ อีกท่ีนิยมใช้ เช่น เหล็กฉากพับ ทอ่ เฟอรน์ เิ จอร์ เหล็กรางพับ ทอ่ API (ท่อส่งนามนั ทอ่ ส่งแกส๊ ) เปน็ ตน้ ลกั ษณะของเหลก็ รปู พรรณอื่น ๆ ดงั แสดงในรูป แสดงลกั ษณะฉากพับ แสดงลักษณะท่อเฟอรน์ ิเจอร์ แสดงลักษณะเหลก็ รางพับ แสดงลักษณะท่อ API
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: