ตารางวิเคราะหข์ อ้ สอบมาตรฐานปลายภาค วิชาประวัติศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ชดุ ท่ี 2 มาตรฐาน / ตวั ช้วี ดั ขอ้ ส. 4.1 ส. 4.2 ส. 4.3 123121 23 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 มาตรฐาน / ตวั ชวี้ ัด ขอ้ ส. 4.1 ส. 4.2 ส. 4.3 123121 23 26 27 28 1
29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 ขอ้ สอบมาตรฐานปลายภาค /รายปี ชุดที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม วชิ าประวตั ศิ าสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 50 ขอ้ คาชแี้ จง ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดหรือเหมำะสมทีส่ ุดเพยี งคำตอบเดียว 1. เพรำะเหตใุ ดจึงตอ้ งใชว้ ธิ ีกำรทำงประวตั ศิ ำสตรเ์ พื่อศึกษำประวัติศำสตร์ ก. เข้ำใจขั้นตอนในกำรศกึ ษำประวตั ศิ ำสตร์ ข. หำควำมจรงิ จำกข้อเท็จจรงิ ทำงประวัติศำสตร์ ค. จดั หมวดหมู่ข้อมูลจำกหลักฐำนทำงประวัตศิ ำสตร์ ง. หำจุดประสงค์ของผสู้ รำ้ งหลกั ฐำนทำงประวตั ศิ ำสตร์ 2
2. หลกั ฐำนทำงประวัติศำสตร์ที่เป็นลำยลักษณ์อักษรมคี วำมสำคญั อย่ำงไรในกำรศึกษำ ประวัตศิ ำสตร์ ก. เป็นหลักฐำนท่ใี ห้ข้อมูลทำงประวัติศำสตร์ ข. เป็นหลักฐำนท่ีมอี ยเู่ ป็นจำนวนมำก สะดวกในกำรรวบรวม ค. เปน็ หลักฐำนทใี่ ห้ขอ้ มูลซึง่ เขำ้ ใจง่ำยกว่ำหลักฐำนที่ไม่เป็นลำยลกั ษณ์อักษร ง. เป็นหลักฐำนทีน่ ำ่ เชื่อถือที่สุดเม่ือเทียบกบั หลกั ฐำนที่ไม่เปน็ ลำยลักษณอ์ ักษร 3. ขอ้ ใดเปน็ กล่มุ ของหลักฐำนท่ีเปน็ ลำยลกั ษณ์อักษรทใี่ ชศ้ ึกษำเรอื่ งรำวเกีย่ วกบั พฒั นำกำรของ อำณำจักรอยุธยำทงั้ หมด ก. พระรำชพงศำวดำรฉบับบรติ ิชมวิ เซียม ไทยรบพม่ำ พงศำวดำรเหนือ อภินิหำรบรรพบุรุษ และ ปฐมวงษ์ ข. ประชมุ ศิลำจำรึกภำคที่ 1 จดหมำยเหตุลำลูแบร์ บันทกึ ของเมนเดส ปินโต หนังสือแสดง กจิ จำนุกิจ ค. พงศำวดำรวนั วลิต สำเภำกษตั รยิ ์สุลัยมำน บนั ทึกของโจว ต้ำ กวน จดหมำยเหตุหลวง- อุดม สมบัติ ง. จดหมำยเหตลุ ำลแู บร์ คำให้กำรชำวกรุงเกำ่ พระรำชพงศำวดำรฉบบั จกั รพรรดิพงศ์ (จำด) พระรำชพงศำวดำรกรุงเก่ำฉบบั หลวงประเสรฐิ ฯ (แพ ตำละลักษณ)์ 4. ในคำให้กำรขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม (เอกสำรจำกหอหลวง) ระบวุ ่ำ “ครน้ั ถึงระดูลมสำเภำ พดั เข้ำมำในกรงุ เปนมรสุมเทศกำลพวกลูกค้ำพำนิชสำเภำจนี แลลูกค้ำแขกสลปุ ลูกค้ำฝรัง่ กำปนั่ ลูกค้ำแขกกุศรำช แลพวกลูกค้ำแขกสรุ ัด แขกชวำมลำยู แขกเทศ ฝรง่ั เศส ฝรงั่ โลสง โปร ตุเกศ วลิ ันดำ อิศปันยอน องั กฤษ แลฝร่งั ดำ ฝรงั่ เมืองลงั กำนี แขกเกำะ เปนพ่อค้ำพำนชิ คมุ สำเภำสลปุ กำป่นั แลน่ เข้ำมำทอดสมออย่ทู ้ำยคู ขนสนิ คำ้ ข้ึนมำไวบ้ นตึกห้ำงในกำแพงพระนคร กรงุ ศรีอยุทธยำ ตำมท่ีของตนซือ้ แลเช่ำตำ่ งๆกนั เปดิ ร้ำนห้ำงตึกขำยตำมเพศตำมภำษำ” อาจบ่ง บอกว่า กรุงศรีอยุธยามคี วามมงั่ คง่ั ทางการค้า เนือ่ งจากมพี ่อคา้ วาณิชเดินทางเข้ามาค้าขาย อยา่ งไม่ขาดสาย ขอ้ ควำมที่เป็นตวั เอน น่ำจะเป็นขั้นตอนใด ก. กำรรวบรวมหลกั ฐำน ข. กำรประเมินคณุ ค่ำของหลกั ฐำน ค. กำรวิเครำะห์ สังเครำะห์ และกำรจัดหมวดหมู่ข้อมูล ง. กำรเรียบเรียงและกำรนำเสนอ 5. ข้อใดแยกแยะระหว่ำงควำมจรงิ กับขอ้ เท็จจริงของหลักฐำนทำงประวัติศำสตรใ์ นเหตุกำรณ์ ตอนเสีย กรุงศรีอยุธยำครงั้ ท่ี 2 พ.ศ. 2310 ได้ถูกต้อง (1) ควำมจริง คอื กำรเสยี กรุงศรีอยุธยำใน พ.ศ. 2310 (2) ควำมจริง คือ กำรกอบกเู้ อกรำชของพระเจ้ำตำกสินมหำรำช (3) ควำมจริง คือ กำรท่ีกองทัพพม่ำวำงแผนเขำ้ โจมตรี ำชอำณำจักรอยุธยำอยำ่ งเข้มแข็งและ รัดกมุ (4) ข้อเท็จจริง คอื สำเหตุของกำรเสียกรงุ คือ ผู้นำอ่อนแอ ระบบไพร่เสือ่ ม เกดิ กำรจลำจล เกดิ สงครำมท่ียืดเย้อื มำต้งั แต่ พ.ศ. 2307-2310 กำรขำดแคลนอำวธุ (5) ขอ้ เทจ็ จรงิ คือ กำรตฝี ่ำวงล้อมพม่ำของพระยำตำก (สนิ ) (6) ข้อเท็จจริง คือ พม่ำมีกษัตริย์ท่ีเขม้ แข็งกวำ่ อยธุ ยำ ก. ขอ้ (1),(4) ข. ขอ้ (3),(6) ค. ขอ้ (1),(6) ง. ข้อ (2),(5) 3
6. ข้อใดเปน็ เหตุผลท่ีอธบิ ำยว่ำอยธุ ยำตั้งอยใู่ นชยั ภมู ทิ ่ีดี ก. อยใู่ กลแ้ หล่งดนิ ประสวิ ใชท้ ำดินปืน ข. มแี ม่น้ำล้อมรอบซึง่ เปน็ คเู มอื งปอ้ งกันข้ำศกึ ค. มีแนวภูเขำโดยรอบยำกแกก่ ำรรกุ รำนของขำ้ ศึก ง. อย่ใู กล้ทะเล สำมำรถขอควำมชว่ ยเหลือจำกอำณำจักรตำ่ งๆ ได้สะดวก 7. ข้อใดไม่ใช่รำชวงศ์ของพระมหำกษัตริยท์ ีป่ กครองอำณำจักรอยุธยำ ก. บ้ำนพลูหลวง ข. อ่ทู อง ค. ศรธี รรมำโศกรำช ง. สุพรรณภมู ิ 8. กรงุ ศรีอยธุ ยำไดน้ ำวิธีกำรปกครองแบบเทวรำชำมำใชเ้ น่อื งจำกเหตุผลใด ก. ได้รับอทิ ธิพลมำจำกเขมร ข. เปน็ กำรให้อำนำจแก่พระมหำกษตั ริย์มำกขึน้ ค. ไม่ตอ้ งกำรใช้รูปแบบกำรปกครองแบบสุโขทัย ง. มคี วำมเหมำะสมเนือ่ งจำกอำณำจกั รมีพื้นท่ีกว้ำงขวำงมำกขึ้น 9. ยทุ ธศำสตร์แรกที่ผู้นำคนไทยปฏิบตั ิกอ่ นท่ีจะสถำปนำกรุงศรีอยธุ ยำเป็นรำชธำนคี อื อะไร ก. ส่งทูตไปติดตอ่ ขอซ้อื อำวุธจำกจีน ข. ขับไลป่ ระชำชนในพน้ื ที่เมืองอโยธยำเดิมออกไป ค. อำศยั กำลังสนับสนุนจำกเมืองสพุ รรณบรุ ีและเมอื งลพบุรีทีเ่ ปน็ เครอื ญำติ ง. สร้ำงวัดพนญั เชงิ เพอื่ เป็นจดุ ศูนย์รวมจิตใจของประชำชน 10. เหตผุ ลที่รำชธำนีต้องส่งเช้อื พระวงศไ์ ปปกครองดูแลเมืองหนำ้ ด่ำนเพรำะอะไร ก. เพื่อเป็นท่ีฝึกหัดว่ำรำชกำรงำนเมอื ง ข. อยู่ไกลรำชธำนีจงึ มักเกิดกบฏบอ่ ยครั้ง ค. เพื่อชว่ ยกำกบั ดูแลเมืองประเทศรำชอีกชน้ั หนง่ึ ง. เอำไว้เป็นเมืองป้องกนั ข้ำศึกก่อนท่ีข้ำศึกจะจู่โจมมำถงึ รำชธำนี 11. ขอ้ ใดเปน็ ของป่ำทีก่ รงุ ศรอี ยุธยำส่งออกไปขำยกบั ต่ำงชำติ ก. หมำก พลู พลอย หรดำล ข. สำรสม้ ไมแ้ กดำ อำพัน ไม้ฝำง ค. นอแรด งำช้ำง ไมก้ ฤษณำ ไมจ้ นั ทร์ ง. กระวำน นกยงู นกแกว้ ห้ำสี น้ำตำล 12. สถำนะของไพร่ในสงั คมอยุธยำมหี ลำยประกำรยกเว้นข้อใด ก. รบั ใชก้ ษัตริย์และขนุ นำง ข. เป็นทหำรเมอื่ เกิดสงครำม ค. ถูกเกณฑ์แรงงำนให้แกท่ ำงรำชกำร ง. เผยแผ่พระพุทธศำสนำเหมือนนกั บวช 13. กำรเจริญสัมพนั ธไมตรีกบั ชำติต่ำงๆ ในสมยั อยธุ ยำไดใ้ ห้ข้อคิดหลำยประกำรยกเว้นขอ้ ใด ก. ทุกชำตติ ่ำงแสวงหำประโยชนจ์ ำกอยุธยำ ข. กำรเจรญิ สัมพนั ธไมตรีต้องใช้หลำยวธิ ี ค. ลกั ษณะควำมสัมพนั ธ์ขึ้นอยู่กบั ผลประโยชน์ ง. ชำตติ ะวันตกต่ำงหวังผลประโยชน์ทำงกำรคำ้ 14. ข้อใดคอื สำเหตุหนงึ่ ของกำรเสียกรงุ ศรีอยุธยำครง้ั ที่ 2 พ.ศ. 2310 4
ก. นโยบำยกดี กันชำวตะวันตก ข. กำรต้ังตนเปน็ อิสระของหวั เมอื งมอญ ค. ควำมเหินหำ่ งระหวำ่ งพระมหำกษัตริย์กบั รำษฎร ง. กรงุ ศรีอยุธยำขำดศนู ย์รวมอำนำจอันแท้จริงในกำรปกครอง 15. ผลงำนด้ำนภูมปิ ัญญำและวัฒนธรรมไทยในสมัยอยุธยำในข้อใดท่ีสะท้อนถึงเอกลักษณ์สมัย อยธุ ยำได้อย่ำงเดน่ ชดั ก. พระรำชวงั บำงปะอิน ข. พระนำรำยณ์รำชนเิ วศน์ ค. พระพุทธรปู ทรงเคร่ือง วดั หน้ำพระเมรุ ง. เจดีย์ใหญ่ 3 องค์ วัดพระศรีสรรเพชญ์ 16. ปัจจัยสำคญั ทชี่ ่วยทำใหไ้ ทยกอบก้เู อกรำชกลบั คนื มำได้ในเวลำอนั รวดเร็ว นำ่ จะมำจำกอะไร ก. แม่ทพั ไทยฝีมอื ดี ข. พม่ำเปลี่ยนตัวผู้นำ ค. มอญชว่ ยโจมตพี ม่ำ ง. ได้พ่อค้ำต่ำงชำตชิ ่วย 17. สำเหตุทีท่ ำให้กรุงธนบุรปี ระสบปัญหำทำงเศรษฐกิจเกิดจำกอะไร ก. มศี ัตรูพืชทำลำยไร่นำ ข. ประสบกับภำวะแหง้ แลง้ ค. จำ่ ยเงนิ ซอื้ อำวธุ เปน็ จำนวนมำก ง. ผลจำกกำรเสยี กรงุ ศรอี ยุธยำคร้ังท่ี 2 พ.ศ. 2310 18. ในสมยั ธนบุรีไดม้ ีกำรกวดขันกำรขึ้นทะเบยี นไพร่อย่ำงเขม้ งวด ท้ังนีเ้ พอ่ื อะไร ก. เกณฑพ์ ลง่ำยยำมมศี ึกสงครำม ข. ปอ้ งกนั กำรทำจำรกรรม ค. เอำไว้เป็นแรงงำนในกำรทำนำ ง. มคี วำมสะดวกในกำรจัดเกบ็ ภำษี 19. สภำพควำมวุ่นวำยในสมัยตอนปลำยกรงุ ธนบรุ ีเกดิ จำกอะไร ก. ขุนนำงบำงคนก่อกบฏ ข. รำษฎรประสบภำวะอดอยำก ค. ถกู พมำ่ บุกโจมตีอยำ่ งหนกั ง. พระมหำกษัตริย์ถกู ลอบปลงพระชนม์ 20. ขอ้ ใดมใิ ช่จุดมงุ่ หมำยของพม่ำในกำรยกทัพเข้ำมำโจมตีกรุงธนบุรี ก. ตอ้ งกำรเอำเปน็ เมืองข้ึน ข. เอำไว้เปน็ ฐำนเพอ่ื โจมตีเขมร ค. ขดั ขวำงมิให้ไทยฟน้ื ตัวได้ ง. หวงั เปน็ ใหญใ่ นดินแดนแถบน้ี 21. เหตกุ ำรณท์ น่ี ำไปสกู่ ำรจลำจลในกรุงธนบรุ ีเปน็ ลำดบั แรกคอื เหตกุ ำรณ์ใด ก. จวนเจำ้ เมอื งกรุงเก่ำถกู ปล้น ข. พระยำสรรคน์ ำกำลงั เขำ้ ยึดวงั ค. กำรปรำบปรำมกลุ่มเจ้ำพระฝำง ง. สมเดจ็ พระเจำ้ ตำกสนิ มหำรำชทรงผนวช 22. สมเด็จพระเจ้ำตำกสนิ มหำรำชทรงยินยอมใหส้ ำเร็จโทษพระองค์ทง้ั นเ้ี พรำะทรงมีเหตผุ ลใด ก. มใิ หบ้ ้ำนเมอื งแตกแยก ข. พม่ำจะได้เลิกรุกรำนไทย ค. ทรงเหน็ สัจธรรมในชีวติ ง. เพอ่ื จะไดพ้ น้ จำกโรคร้ำย 5
23. ขอ้ ใดคอื ภูมปิ ัญญำและวัฒนธรรมไทยด้ำนศิลปกรรมสมัยธนบรุ ที ้งั หมด ก. วดั อนิ ทำรำม โรงพระแก้ว พระตำหนักเก๋งคู่ เทวำลัยเกษตรพิมำน ข. ปอ้ มวไิ ชยประสทิ ธ์ิ วัดอรุณรำชวรำรำม วัดสลัก ทอ้ งพระโรงพระรำชวงั เดมิ ค. สมุดภำพไตรภูมิ วดั รำชบพิธสถิตมหำสมี ำรำม ตูล้ ำยรดนำ้ วัดบำงหวำ้ ใหญ่ ง. วัดหงสอ์ ำวำสวิหำร พระแท่นบรรทมของสมเด็จพระเจำ้ กรุงธนบรุ ี พระแท่นสำหรบั ประทบั เจรญิ วปิ ัสสนำกัมมฏั ฐำน 24. สมเด็จพระรำมำธบิ ดที ่ี 1 (อู่ทอง) ทรงปกครองกรุงศรีอยธุ ยำโดยยดึ หลักใด ก. สมมตเิ ทพ ข. ธรรมรำชำ ค. ทศพธิ รำชธรรม ง. พ่อปกครองลูก (ปติ ลุ ำธปิ ไตย) 25. ข้อใดคือพระรำชกรณียกจิ ท่สี ำคัญของสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนำถ ก. กำรปฏริ ปู ระบบกำรปกครองแผ่นดิน ข. ทรงมนี โยบำยในกำรควบคมุ กัมพูชำให้อยู่ในอำนำจของไทยอย่ำงถำวร ค. ทรงถ่ำยแบบปรำสำทนครธมมำสร้ำงจำลองไว้ภำยในพระบรมมหำรำชวัง ง. โปรดให้ชะลอพระมงคลบพติ ร ซ่งึ อยู่ทำงทศิ ตะวันออก นอกพระรำชวงั มำไว้ทำงทศิ ใต้ของ กรงุ ศรีอยุธยำ 26. กำรสร้ำงควำมสมัครสมำนสำมคั คีระหว่ำงคนไทยท่สี โุ ขทยั กบั อยธุ ยำเป็นพระรำชกรณยี กิจ สำคัญของพระมหำกษัตริย์พระองค์ใด ก. สมเด็จพระนเรศวรมหำรำช ข. สมเด็จพระนำรำยณม์ หำรำช ค. สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนำถ ง. สมเด็จพระรำมำธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) 27. สมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำชทรงใชว้ ิธีกำรใดในกำรก้เู อกรำชใหแ้ กแ่ ผน่ ดนิ ไทย ก. อย่เู ฉยๆ แต่ไมย่ อมส่งเครอื่ งรำชบรรณำกำรอีกตอ่ ไป ข. รวบรวมกำลงั คนให้พรง่ั พร้อม แลว้ ยกทัพไปโจมตีพมำ่ ค. ประกำศอิสรภำพ ไมย่ อมตกเป็นเมืองประเทศรำชของใคร ง. ประกำศท้ำรบ หำกผู้ใดชนะจะได้ครองดินแดนของผ้แู พ้ 28. เพรำะเหตใุ ดสมเดจ็ พระนำรำยณม์ หำรำชจงึ พยำยำมกระชับสัมพันธไมตรกี ับฝร่งั เศส ก. ตอ้ งกำรถ่วงดลุ อำนำจกับฮอลนั ดำ ข. ตอ้ งกำรเรยี นรเู้ ทคโนโลยสี มยั ใหม่ ค. ต้องกำรผลกำไรทำงกำรค้ำเรือสำเภำ ง. ตอ้ งกำรควำมช่วยเหลอื ทำงกำรทหำร 29. ขอ้ ใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกีย่ วกบั พระรำชประวตั ิของสมเด็จพระเพทรำชำ ก. เปน็ ปฐมกษตั ริย์แหง่ รำชวงศ์บ้ำนพลหู ลวง ข. เดิมเป็นขุนนำงผูใ้ หญใ่ นรชั สมัยสมเด็จพระนำรำยณม์ หำรำช ค. ในรชั กำลของพระองค์มีกบฏเกิดข้ึนตำมเมืองต่ำงๆ หลำยคร้งั ง. โปรดให้มีพระรำชพิธเี ฉลิมฉลองจุลศักรำช 1000 (พ.ศ. 2181) อย่ำงใหญ่โตตำมธรรม เนยี มพรำหมณ์ 30. ข้อใดคือบทบำทสำคัญของออกญำโกษำธิบดี (ปำน) ก. เปน็ รำชทตู ของสหรัฐอเมริกำท่ีมำเจริญสัมพันธไมตรีกับไทย ข. เป็นนำยแพทย์ประจำขบวนเรอื ของบริษัทอีสทอ์ ินเดยี ของเนเธอร์แลนด์ (VOC) 6
ค. เปน็ รำชทตู ในกำรออกไปเจริญสมั พนั ธไมตรกี ับฝรงั่ เศสในสมยั พระเจำ้ หลุยส์ท่ี 14 ง. เปน็ รำชทูตจำกรำชสำนกั พระเจ้ำหลยุ ส์ท่ี 14 ทีเ่ ขำ้ มำเจรญิ สมั พนั ธไมตรีกับไทย 31. ข้อใดกล่ำวไมถ่ ูกตอ้ งเกย่ี วกับลำลูแบรแ์ ละเยเรเมียส ฟำน ฟลตี ก. เปน็ ผเู้ ขยี นจดหมำยเหตลุ ำลูแบรแ์ ละพงศำวดำรกรงุ ศรีอยุธยำฉบับวนั วลติ ข. ฟำน ฟลตี เคยเป็นพนกั งำนในบรษิ ทั อนิ เดยี ตะวนั ออกของฮอลันดำทเี่ มืองปัตตำเวีย ค. ผลงำนของลำลแู บร์ทำใหช้ ื่อเสยี งของอำณำจักรสยำมเป็นท่ีรูจ้ กั แพรห่ ลำยในทวีปยุโรป ง. บุคคลทงั้ 2 เปน็ ผู้แนะนำขนมทองหยบิ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมผงิ ทองโปร่ง ทองพลุ ให้กบั คนไทย 32. พระรำชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชทม่ี ีคณุ คำ่ ยง่ิ ต่อชำติไทยคอื อะไร ก. กอบกูเ้ อกรำชของชำติ ข. สรำ้ งรำชธำนีแห่งใหม่ ค. กำรฟ้ืนฟพู ระพุทธศำสนำ ง. กำรขยำยพระรำชอำณำเขต 33. ขอ้ ใดกล่ำวถึงบทบำทของสมเด็จเจ้ำพระยำมหำกษตั รยิ ศ์ ึก (ทองดว้ ง) ไดถ้ กู ตอ้ ง ก. เปน็ แม่ทัพในกำรปรำบชุมนมุ เจ้ำพระฝำง ข. เปน็ แม่ทัพคู่พระทัยสมเดจ็ พระเจ้ำตำกสินมหำรำช ค. เปน็ พระสหำยของกรมพระรำชวงั บวรมหำสรุ สงิ หนำท (บุญมำ) ง. เปน็ ผทู้ ีม่ งุ่ มน่ั ในกำรรวบรวมดินแดนและฟื้นฟูควำมเปน็ รำชอำณำจกั รอยุธยำขน้ึ มำ ใหมอ่ ีกครัง้ 34. เพรำะเหตุใดเจ้ำพระยำสุรสีห์ (บุญมำ) จงึ ไดร้ บั กำรยกย่องใหเ้ ปน็ ประดุจดั่งพระกรข้ำงซำ้ ย ของสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำช ก. เปน็ ผูป้ รำบชมุ นุมต่ำงๆ ทเ่ี ปน็ ใหญ่หลงั เสียกรงุ ศรีอยธุ ยำ ข. เคยเปน็ บตุ รบุญธรรมของสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำช ค. ดำรงตำแหนง่ สมุหนำยกในรัชกำลสมเดจ็ พระเจ้ำตำกสนิ มหำรำช ง. เปน็ แมท่ พั คู่พระทยั สมเดจ็ พระเจ้ำตำกสินมหำรำชเชน่ เดยี วกับพระเชษฐำ 35. ภมู ิภำคเอเชยี ตะวันออกมีลกั ษณะภูมิประเทศเป็นอยำ่ งไร ก. มลี ักษณะเป็นเทอื กเขำสงู ข. มลี ักษณะเปน็ คำบสมทุ รยื่นลงไปในทะเล ค. มลี กั ษณะเปน็ ภูเขำ ทะเลทรำย และหมูเ่ กำะ ง. มีลกั ษณะเป็นทะเลทรำย และมีเทือกเขำโอบลอ้ มรอบ 36. เพรำะเหตุใดกำรศึกษำอำรยธรรมจีนจงึ มีขอ้ มูลให้ศกึ ษำมำกกว่ำอำรยธรรมอ่นื ก. อำรยธรรมจนี มีพืน้ ท่ีมำกกว่ำอำรยธรรมอ่ืนจึงมีขอ้ มูลมำกกว่ำ ข. ชำวจีนมกี ำรจดบนั ทกึ เร่ืองรำวในอดีตและเกบ็ รักษำไวเ้ ปน็ อยำ่ งดี ค. ชำวจนี มีจำนวนมำกกว่ำชนชำติอ่นื ๆ จึงมขี อ้ มูลใหศ้ ึกษำมำกกว่ำ ง. ชำวจีนเปน็ คนช่ำงคิดช่ำงทำจงึ มีเร่ืองรำวใหศ้ ึกษำมำกกว่ำชนชำติอนื่ ๆ 37. เพรำะเหตใุ ดระบบเศรษฐกจิ จีนจึงพฒั นำเข้ำสู่ระบบอตุ สำหกรรมมำกขึ้น ก. อิทธพิ ลจำกลัทธคิ อมมิวนสิ ต์ ข. ผลกระทบจำกโลกยคุ สงครำมเยน็ ค. กำรเข้ำมำของจักรวรรดนิ ยิ มตะวันตก ง. ผ้นู ำประเทศมคี วำมตื่นตวั ทจ่ี ะต้องกำรรับเอำวิทยำกำรใหม่ๆ 38. เหตผุ ลที่ทำให้ลักษณะทำงวัฒนธรรมของประชำกรในเอเชยี ตะวันออกมีควำมคล้ำยคลึงกนั คือ ขอ้ ใด 7
ก. บริโภคอำหำรประเภทเดยี วกัน ข. อำศัยอยูใ่ นเขตภมู ิอำกำศเดียวกัน ค. ไดร้ บั อำรยธรรมจำกแหลง่ เดยี วกนั ง. เรมิ่ ก่อตง้ั ประเทศในเวลำใกลเ้ คียงกัน 39. ในอำรยธรรมอินเดีย คนวรรณะต่ำจะมวี รรณะสงู ข้นึ ด้วยวิธใี ด ก. สอบเข้ำรบั รำชกำร ข. แต่งงำนกับคนวรรณะสงู ค. สร้ำงควำมชอบในสงครำม ง. เปน็ สิง่ ตำยตัว ไมส่ ำมำรถเปลยี่ นแปลงได้ 40. ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นขอ้ ใดซงึ่ เป็นท่ีต้องกำรของชำวเอเชียตะวนั ตกเฉยี งใตม้ ำกท่ีสุด ก. ทรพั ยำกรน้ำ ข. ทรพั ยำกรน้ำมัน ค. ทรัพยำกรสัตว์น้ำ ง. ทรพั ยำกรสัตว์ป่ำ 41. บรเิ วณใดของภูมิภำคเอเชียตะวนั ตกเฉียงใต้ทีเ่ ป็นสถำนที่ท่เี ป็นแหลง่ ต้ังถนิ่ ฐำนของผู้คนอย่ำง หนำแนน่ มำตง้ั แต่อดตี ก. บรเิ วณลมุ่ แม่น้ำสินธุ ข. บรเิ วณทะเลเมดิเตอรเ์ รเนยี น ค. บริเวณลุ่มแมน่ ้ำไทกริส-ยูเฟรทีส ง. บริเวณทะเลดำและทะเลแคสเปยี น 42. ขอ้ ใดกล่ำวไม่ถกู ตอ้ งเกย่ี วกบั สภำพเศรษฐกิจในภูมิภำคเอเชยี กลำง ก. มที รัพยำกรธรรมชำติท่ีสำคัญ เช่น นำ้ มนั ดบิ แก๊สธรรมชำติ ป่ำไม้ เป็นตน้ ข. มีกำรเปล่ยี นแปลงทำงเศรษฐกิจที่สำคญั เมื่อชำติตะวนั ตกให้ควำมชว่ ยเหลือ ค. เปน็ บรเิ วณทีม่ คี วำมสำคญั เนอ่ื งจำกเป็นสว่ นหนง่ึ ของเสน้ ทำงสำยแพรไหม ง. ประชำชนส่วนใหญป่ ระกอบอำชีพเลย้ี งสัตว์ เช่น แกะ แพะ มำ้ และทำกสกิ รรม 43. อำรยธรรมจนี ในเรื่องใดที่มีอิทธิพลต่อกำรสอ่ื สำรของมนษุ ย์ในปัจจบุ ัน ก. ระบบตวั อักษรย่อ ข. กำรผลติ กระดำษและน้ำหมึก ค. กำรผลิตวัตถุนำพำเคล่ือนสัญญำณ ง. กำรคิดค้นระบบสง่ สัญญำณระยะไกล 44. กำรสรำ้ งกำแพงเมืองจนี ของจักรพรรดิจิน๋ ซฮี ่องเตม้ ีจดุ มุ่งหมำยเพ่อื อะไร ก. สร้ำงงำนให้แก่ประชำชน ข. สร้ำงไวเ้ ป็นอนุสรณ์แก่คนร่นุ หลงั ค. ปอ้ งกนั กำรรุกรำนของข้ำศกึ ศัตรู ง. แสดงถึงควำมยง่ิ ใหญ่และเขม้ แข็งของจักรพรรดิ 45. ควำมเจริญท่ีโดดเด่นของอำรยธรรมลมุ่ แม่นำ้ สนิ ธคุ อื อะไร ก. ระบบคมนำคม ข. เชอื่ ในพระเจ้ำองค์เดียว ค. ระบบกำรสุขำภบิ ำล ง. กำรสร้ำงท่ีอยูอ่ ำศัยในทส่ี งู 8
46. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ผลงำนด้ำนศลิ ปกรรมของอำรยธรรมอนิ เดยี สมยั ประวัตศิ ำสตร์ ก. ทัชมำฮัล ข. สถปู สำญจี ค. หวั เสำอโศกที่สำรนำถ ง. เมอื งฮำรปั ปำและเมืองโมเฮนโจ-ดำโร 47. ข้อใดแสดงถึงกำรนับถอื เทพเจ้ำประจำเมืองของชำวซเู มเรยี ก. กำรสร้ำงพีระมดิ ข. กำรสร้ำงซิกกูแรต ค. กำรสร้ำงเทวรปู เหมอื นคน ง. กำรสรำ้ งสวนลอยแห่งบำบโิ ลน 48. เหตุใดปรชั ญำขงจ๊ือจึงมีอทิ ธพิ ลตอ่ ชำวจนี มำกกวำ่ ปรชั ญำอ่ืน ก. มีกำรสอนในโรงเรียน ข. เข้ำใจง่ำยกวำ่ ปรัชญำอื่น ค. จกั รพรรดจิ ีนใหก้ ำรสนับสนุน ง. กลำ่ วถึงหลักควำมสมั พันธข์ องคนในสังคม 49. “เทอื กเขำทำงภำคตะวันออกเฉียงใต้ของจอร์แดนสงู สุดหล่ันกันและเต็มไปด้วยถ้ำ จึงเป็น สถำนท่ซี ่ึงชำวเนบำตำเอ้ียนจะยดึ เปน็ ท่พี ำนกั อำศัย และตอ่ มำก็ขุดเจำะหน้ำผำสร้ำงเปน็ เมือง ทำ่ มกลำงหบุ เขำอันทรุ กันดำรอันน่ำฉงนข้ึนมำ” จำกข้อควำมดงั กล่ำวแสดงใหเ้ ห็นถึงแหลง่ มรดก โลกทำงวัฒนธรรมในภมู ิภำคเอเชียในขอ้ ใด ก. เมอื งเพตรำ ข. เมืองโบรำณสมำร์รำ ค. สสุ ำนของโคจำ อำหเ์ หม็ด ยำซำวี ง. ภมู ิทัศน์วฒั นธรรมและโบรำณสถำนแห่งหบุ เขำบำมิยนั 50. ขอ้ ใดไม่ใช่แหลง่ มรดกโลกทำงวัฒนธรรมในภูมิภำคเอเชียใต้ ก. ถ้ำอชันตำ ประเทศอินเดยี ข. เจดีย์รุวันเวลิ ประเทศศรีลงั กำ ค. หุบเขำกำฐมำณฑุ ประเทศเนปำล ง. วดั มหำโพธิหรือมหำโพธวิ ิหำระ (พุทธคยำ) ประเทศอินเดยี เฉลยขอ้ สอบมาตรฐานปลายภาค /รายปี วิชาประวัติศาสตร์ ม.2 ชดุ ที่ 2 1. ข. 11. ค. 21. ก. 31. ง. 41. ค. 2. ค. 12. ง. 22. ก. 32. ก. 42. ข. 3. ง. 13. ก. 23. ง. 33. ข. 43. ข. 4. ค. 14. ง. 24. ก. 34. ง. 44. ค. 5. ก. 15. ค. 25. ก. 35. ค. 45. ค. 6. ข. 16. ก. 26. ค. 36. ข. 46. ง. 7. ค. 17. ง. 27. ค. 37. ค. 47. ข. 9
8. ข. 18. ก. 28. ก. 38. ค. 48. ง. 9. ค. 19. ก. 29. ง. 39. ง. 49. ก. 10. ง. 20. ข. 30. ค. 40. ก. 50. ข. แนวเฉลยละเอยี ดข้อสอบมาตรฐานปลายภาค /รายปี วิชาประวัติศาสตร์ ม.2 ชดุ ที่ 2 1. ตอบ ข. กำรศกึ ษำประวตั ิศำสตร์เป็นดังเชน่ กำรศกึ ษำศำสตรอ์ ่นื ๆ กล่ำวคือ เปน็ กำรศึกษำที่มี ขัน้ ตอน มเี หตุมผี ล พิสจู น์ได้ เชน่ เดียวกบั วธิ กี ำรทำงวิทยำศำสตร์ ซงึ่ มีหลกั กำรสำคัญ ไดแ้ ก่ กำรสะสมข้อมลู กำรคดั เลอื กข้อมูลทั้งข้อมลู ทเี่ กย่ี วข้องโดยตรงและขอ้ มูลทเ่ี ป็น สว่ นประกอบ กำรประเมนิ ควำมสำคัญของข้อมลู กำรแจกแจงขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ไี ดจ้ ำกข้อมูล ว่ำ มีควำมสัมพันธ์กนั อย่ำงไร กำรตีควำม กำรเรียบเรยี ง และกำรนำเสนอข้อมูล ซึ่งกำร ใช้ วธิ ีทำงประวัตศิ ำสตรใ์ นกำรศึกษำประวัตศิ ำสตร์กเ็ พือ่ ค้นหำควำมจรงิ จำก ขอ้ เทจ็ จริงทำงประวัติศำสตร์ เพอ่ื ให้ได้ข้อมูลใกลเ้ คยี งกับควำมเปน็ จริงมำกทส่ี ุด 2. ตอบ ค. หลกั ฐำนทำงประวตั ศิ ำสตร์ท่เี ปน็ ลำยลักษณอ์ ักษร ไดแ้ ก่ หลักฐำนทเี่ ป็นตัวหนังสือ เชน่ ศลิ ำจำรึก ตำนำน พงศำวดำร จดหมำยเหตุ หรือบนั ทึกขอ้ ควำมเก่ยี วกบั เร่ืองรำวของ เหตกุ ำรณ์ทผ่ี ่ำนมำ ซ่งึ อำจปรำกฏบนแผ่นกระดำษหรือวสั ดุอน่ื เชน่ แผน่ ดินเหนียว แผน่ โลหะ ใบลำน ผำ้ แผน่ หนงั ผนังถ้ำ หรอื ผนงั โบสถ์ วิหำร เป็นต้น ดงั กล่ำวเป็น หลกั ฐำนที่ใหข้ ้อมลู ทีง่ ่ำยต่อกำรตีควำม และสำมำรถเข้ำใจได้ง่ำยกว่ำหลักฐำนประเภท อื่นๆ 3. ตอบ ง. 10
จดหมำยเหตลุ ำลแู บร์ คำใหก้ ำรชำวกรุงเก่ำ พระรำชพงศำวดำรฉบบั จกั รพรรดิพงศ์ (จำด) และพระรำชพงศำวดำรฉบับหลวงประเสริฐฯ เป็นหลักฐำนทำงประวตั ศิ ำสตรท์ ่ีใช้ ศึกษำเร่อื งรำวทำงประวัติศำสตร์อยุธยำ และหลักฐำนดังกล่ำวบำงชนิ้ อำจมีกำรชำระกัน ในสมยั กรงุ ธนบุรจี นถึงสมัยรตั นโกสินทร์ตอนต้นเพ่ือควำมถูกต้องและชัดเจนของข้อมลู 4. ตอบ ค. จำกขอ้ ควำมในคำให้กำรขนุ หลวงหำวัดประดู่ทรงธรรม (เอกสำรจำกหอหลวง) ระบุถึง ควำมม่ังคงั่ ทำงกำรคำ้ ของกรงุ ศรีอยุธยำ เน่ืองจำกมีพ่อค้ำวำณิชเดินทำงเข้ำมำค้ำขำย อยำ่ ง ไมข่ ำดสำย สมกับท่นี ักเดินทำงชำวต่ำงชำติขนำนนำมใหเ้ ป็นนครเวนิสตะวนั ออก จัดเป็นข้นั ตอนในกำรวิเครำะห์ สงั เครำะห์ และกำรจัดหมวดหมูข่ ้อมูลจำกขอ้ เท็จจริงและ ควำมจรงิ ที่ถกู ระบุไวใ้ นตัวหลกั ฐำนน้ันๆ เชน่ จดั อย่ใู นกลมุ่ ประวัตศิ ำสตร์เศรษฐกจิ อยธุ ยำ และเป็นกำรตีควำมและวิเครำะหจ์ ำกคนหลำกหลำยชำติพนั ธ์ุทเี่ ดินทำงเข้ำมำ คำ้ ขำยในเกำะเมืองพระนครศรอี ยธุ ยำ 5. ตอบ ก. ขอ้ มลู จำกหลักฐำนทำงประวัติศำสตร์ต่ำงๆ เรียกว่ำ ข้อเท็จจริง ส่วนคำว่ำ ข้อเทจ็ จริง แยกออกเป็น ข้อเทจ็ กับควำมจรงิ ซ่ึงเรื่องรำวทำงประวัตศิ ำสตรจ์ ะประกอบด้วย ขอ้ เทจ็ จรงิ กับควำมจรงิ เชน่ เร่อื งรำวกำรเสียกรุงศรีอยุธยำครัง้ ท่ี 2 (พ.ศ. 2310) ควำมจรงิ คือ ไทยเสียกรุงศรีอยุธยำครงั้ ที่ 2 ใน พ.ศ. 2310 ส่วนข้อเท็จจริง คือ ข้อมูล ทเ่ี ป็นคำอธิบำยที่ปรำกฏในหลกั ฐำนทง้ั หลำยว่ำเพรำะเหตุใดไทยจึงเสียกรุงศรอี ยุธยำ 6. ตอบ ข. กำรท่ีกรุงศรีอยุธยำมีสภำพเปน็ เกำะ มแี ม่น้ำล้อมรอบ โดยเฉพำะรอบตวั เมืองเป็นท่ีลุ่ม จึงทำใหม้ ีน้ำทว่ มท่ัวบรเิ วณในฤดนู ้ำหลำก ซึ่งเหมำะแก่กำรปอ้ งกันเมืองจำกกำรโจมตี ของขำ้ ศึกศัตรไู ดอ้ ย่ำงหนึ่ง 7. ตอบ ค. รำชวงศศ์ รธี รรมำโศกรำช เปน็ รำชวงศ์ทส่ี ำคัญทำงภำคใต้ของประเทศไทย มีหน้ำท่ีสง่ ผหู้ ญงิ เข้ำถวำยตัวแดพ่ ระมหำกษัตรยิ ์แหง่ กรงุ ศรีอยุธยำ แสดงถึงกำรยอมรับอำนำจ ร่วมกบั อกี 3 รำชวงศ์หลัก คอื อ่ทู อง สโุ ขทยั (พระร่วง) และสพุ รรณภูมิ ดงั นน้ั จึงไม่ นบั วำ่ เปน็ รำชวงศข์ องกษตั ริยท์ ี่ปกครองอำณำจักรอยธุ ยำ 8. ตอบ ข. อยธุ ยำไดร้ บั แบบอยำ่ งกำรปกครองจำกเขมรมำผสมผสำนกบั กำรปกครองของสุโขทัย คือ พระมหำกษตั รยิ ์ทรงมอี ำนำจสงู สุด ดำรงฐำนะเปน็ เทวรำชำ เพ่อื แสดง แสนยำนภุ ำพและอำนำจบำรมีของพระมหำกษตั ริย์องค์น้ันๆ 9. ตอบ ค. อำณำจักรอยธุ ยำเกิดจำกกำรรวมตัวของแควน้ สุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี) และแควน้ ละโว้ (ลพบรุ )ี โดยแคว้นสพุ รรณภูมิมีอำนำจอยู่ทำงภำคตะวนั ตกของแมน่ ้ำเจ้ำพระยำแถบ เมืองนครชยั ศรี รำชบรุ ี เพชรบรุ ี ส่วนแควน้ ละโว้มศี ูนย์กลำงอย่ทู ่ีลพบรุ ี สมเด็จพระ 11
รำมำธบิ ดี ที่ 1 (อทู่ อง) ทรงรวม 2 แควน้ เข้ำด้วยกันเน่ืองจำกพระองค์สืบเชอ้ื สำยมำ จำกแคว้นละโว้และทรงอภเิ ษกสมรสกบั พระรำชธิดำของกษัตริย์แควน้ สพุ รรณภมู ิ 10. ตอบ ง. เมอื งหน้ำด่ำนทำหน้ำทป่ี อ้ งกนั ข้ำศกึ ก่อนท่ีข้ำศึกจะจู่โจมเขำ้ มำถึงรำชธำนี พระมหำกษัตริยจ์ ึงมอบหมำยใหเ้ ชื้อพระวงศ์ท่ีทรงไว้วำงพระทัยไปปกครอง โดยสังเกต ได้ในสมยั สมเด็จพระรำมำธิบดที ี่ 1 (อทู่ อง) โปรดให้พระรำเมศวร พระรำชโอรสไป ครองเมอื งลพบุรี ซ่ึง เปน็ เมอื งหน้ำดำ่ นทำงเหนือ และโปรดให้ขุนหลวงพง่วั ซงึ่ เปน็ พระ เชษฐำของพระมเหสี ไปครองเมอื งสุพรรณบรุ ี ซ่งึ เปน็ เมอื งหน้ำด่ำนทำงด้ำนตะวนั ตก 11. ตอบ ค. สินคำ้ ของป่ำทเี่ ป็นทตี่ ้องกำรมำกท่สี ุด ได้แก่ ไม้ฝำง ไม้กฤษณำ หนังกวำง งำชำ้ ง นอระมำด ไมจ้ นั ทร์ ครั่ง กำยำน ขีผ้ ึง้ ทง้ั ชำวจีนและชำวอนิ เดยี ต้องกำรซือ้ ไม้กฤษณำ เพรำะเป็นไมห้ อม ส่วนทำงญ่ีปนุ่ นั้นตอ้ งกำรไมฝ้ ำง ซงึ่ สำมำรถนำมำสกัดทำสยี ้อมผ้ำ 12. ตอบ ง. 13. ตอบ ไพร่ คอื รำษฎรทั่วไปทั้งชำยและหญิงที่มิได้เป็นเจ้ำนำย ขุนนำง ทำส และพระสงฆ์ 14. ตอบ ต้อง รบั ใช้รำชกำรแผน่ ดิน ไพรเ่ ปน็ ชำยฉกรรจ์ทกุ คนที่มีควำมสงู เสมอไหล่ 2 ศอกคร่ึง 15. ตอบ ตอ้ งไปขึ้นทะเบียนสังกัดมูลนำยเพอ่ื เป็นกำรแลกเปลย่ี นกับกำรท่ีได้รับควำมคุม้ ครองตำม กฎหมำย ก. กำรเจริญสมั พันธไมตรีกับชำติต่ำงๆ ในสมัยอยธุ ยำ ได้แสดงให้เหน็ ว่ำชำติตะวันตกมี จดุ ประสงค์เพ่ือเดนิ ทำงเข้ำมำคำ้ ขำยเปน็ หลักและเผยแผศ่ ำสนำดว้ ย และกำรเจริญ สมั พันธไมตรอี ำจตอ้ งใชห้ ลำยวธิ ี หลำยเทคนิค ส่วนข้อ ก. ที่ว่ำทุกชำตติ ่ำงแสวงหำ ประโยชนจ์ ำกอยธุ ยำ อำจไม่เปน็ จริงเสมอไปทุกชำติ เพรำะบำงชำติมจี ุดประสงค์เพียง แคเ่ ดนิ ทำงเข้ำมำเจริญสัมพันธไมตรี เผยแผ่ศำสนำ และรบั รำชกำรในรำชสำนักเท่ำนั้น ง. ชว่ งทีก่ รุงศรอี ยุธยำขำดผู้นำหรือพระมหำกษตั ริย์ทม่ี คี วำมสำมำรถ ส่งผลทำใหเ้ จ้ำนำย ขุนนำงทีเ่ ปน็ กลไกในกำรบริหำรกำรปกครองมคี วำมแตกแยกกัน ศูนยร์ วมอำนำจอัน แทจ้ ริงจงึ ถูกแบง่ กระจำยออกไปตำมผคู้ ุมขุมกำลังทั้งในรำชธำนีและหวั เมืองที่พร้อมจะ สมทบกบั ผทู้ ี่ตนสนับสนนุ ควำมอ่อนแอของรำชอำณำจักรจงึ เกิดข้ึน และเปน็ กำรสูญเสีย ระบบป้องกันตนเองในที่สดุ ค. พระพุทธรูปทรงเคร่อื ง ประดิษฐำนภำยในพระอุโบสถวัดหนำ้ พระเมรุ จงั หวัด พระนครศรอี ยธุ ยำ สันนษิ ฐำนวำ่ สร้ำงขึน้ ในสมัยสมเด็จพระเจำ้ ปรำสำททอง เปน็ ศิลปะ แบบอยุธยำแท้ ทรงเครื่องใหญ่ ฐำนพระพุทธรปู เปน็ รปู แบบโค้งเรอื สำเภำ เปน็ พระพุทธรปู แสดงเหตุกำรณ์ตอนที่พระพุทธเจ้ำทรงปรำบพญำมำรชมพูบดี ด้วยพญำ มำรอวดตนม่งั ค่งั ร่ำรวย แต่งกำยสวยงำม พระพุทธเจ้ำจึงเนรมติ พระองค์ให้มีควำมงำม 12
กว่ำพญำมำร ดงั นั้นพญำมำรจงึ ยอมรบั พระพุทธเจ้ำ เปน็ กำรปรำบมำรในรูปแบบหนงึ่ นัน่ เอง 16. ตอบ ก. กำรกอบกู้เอกรำชอย่ำงรวดเรว็ ของคนไทยเกิดจำกกำรมีผ้นู ำและบรรดำแม่ทัพนำยกองท่ี มีฝีมอื ควำมสำมำรถและมคี วำมรักชำติ ไม่ต้องกำรอยู่ใต้กำรปกครองของพม่ำนำน ที่ สำคัญ คือ ควำมสำมัคคีร่วมแรงรว่ มใจกันสู้ จงึ ทำให้ก้เู อกรำชได้ 17. ตอบ ง. ผลจำกกำรเสียกรุงศรีอยุธยำแก่พม่ำในวันท่ี 7 เมษำยน พ.ศ.2310 ปรำกฏวำ่ บ้ำนเมอื งมี สภำพคล้ำยเมอื งร้ำง บำ้ นเรือน เรือกสวนไรน่ ำถูกทอดท้งิ รำษฎรจำนวนนอ้ ยที่เหลือ รอดจำกควำมตำยและกำรกวำดตอ้ นของพม่ำอยู่ในสภำพอดอยำกหิวโหย ขำดแคลนท้งั อำหำรและเคร่ืองนุ่งห่ม ส่งิ เหลำ่ น้ีเปน็ ปัญหำทส่ี มเด็จพระเจำ้ ตำกสนิ มหำรำชต้องเผชญิ และแกไ้ ขโดยรบี ด่วนพร้อมกันไป 18. ตอบ ก. ชีวิตควำมเปน็ อยู่ของคนไทยสมัยกรุงธนบรุ ี กล่ำวได้ว่ำมีกำรควบคมุ กนั อย่ำงเขม้ งวด เพรำะบำ้ นเมืองตกอยใู่ นภำวะสงครำม ตอ้ งต่อสู้กับพม่ำข้ำศึกอยตู่ ลอดเวลำ กำรเกณฑ์ พลเรอื นเข้ำรบั รำชกำรไพรโ่ ดยกำรสกั เลกอนั เป็นธรรมเนยี มมำแตโ่ บรำณน้นั ได้มกี ำร กวดขันเปน็ พเิ ศษโดยเฉพำะกำรลงทะเบียนชำยฉกรรจ์เป็นไพรห่ ลวง ท้งั น้เี พ่ือป้องกันกำร หลกี เลย่ี งและหลบหนี จึงได้มีกำรออกพระรำชกำหนดบทลงโทษต่ำงๆ 19. ตอบ ก. พระยำสรรค์ได้ร่วมกอ่ กำรกบฏขึ้นเมือ่ พ.ศ. 2325 โดยเปน็ แม่ทพั ยกมำตีกรงุ ธนบุรี 20. ตอบ ข. กำรติดต่อเก่ยี วข้องกบั พม่ำในสมยั กรุงธนบุรีเปน็ ไปในลักษณะควำมขัดแย้งตลอดรชั กำล โดยพม่ำตอ้ งกำรยดึ ครองไทยเปน็ เมอื งข้ึน และหวงั เป็นใหญ่ในแถบน้ี รวมถงึ ขัดขวำงมิให้ ไทยฟน้ื ตัวข้นึ ได้อีกครง้ั จำกกำรสลำยตัวของอำณำจักรอยุธยำ ดังนั้น ข้อ ง. จึงไม่ ถูกต้อง 21. ตอบ ก. ในตอนปลำยรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชได้เกิดกบฏขึ้นท่ีกรงุ เก่ำ พวกกบฏ ไดท้ ำกำรปลน้ จวนพระยำอินทรอภยั ผู้รักษำกรุงเก่ำจนตอ้ งหลบหนีมำยงั กรุงธนบรุ ี 22. ตอบ ก. เมื่อสมเดจ็ เจ้ำพระยำมหำกษัตริย์ศึกทรำบขำ่ วจลำจลในกรุงธนบุรจี งึ รบี ยกทัพกลบั และ ไดส้ อบสวนเรื่องรำวควำมยุ่งยำกที่เกดิ ข้ึน และจบั กุมผู้ก่อกำรกบฏมำลงโทษ รวมทง้ั ให้ ขำ้ รำชกำรปรึกษำพิจำรณำควำมท่ีมผี ู้ฟ้องร้องกล่ำวโทษสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำช ในฐำนะที่เปน็ ตน้ เหตุควำมยุ่งยำกในกรงุ ธนบุรี และมีควำมเหน็ ใหส้ ำเรจ็ โทษ เพื่อมิใหเ้ กดิ ปัญหำย่งุ ยำกอีกต่อไป สมเด็จพระเจ้ำตำกสนิ มหำรำชจึงถกู สำเรจ็ โทษและสวรรคตใน พ.ศ. 2325 และมีพระรำชดำรัสสุดท้ำยว่ำ “สิ้นบญุ พ่อแลว้ อยำ่ ไดย้ ำกแก่ไพรเ่ ลย” 13
23. ตอบ ง. วัดหงสอ์ าวาสวหิ าร ปจั จุบนั คือ วัดหงส์รตั นำรำมรำชวรวิหำร พระแทน่ บรรทมของสมเดจ็ พระเจ้ากรุงธนบุรี ทำด้วยกระดำน 2 แผ่น ประกอบกนั กว้ำง 1.76 เมตร ยำว 2.48 เมตร หนำ 5 เซนตเิ มตร มีลูกกรงเปน็ เงำ มี เสำพระสูตรพรอ้ ม ปจั จุบันประดษิ ฐำนอยใู่ นวิหำรเล็ก วัดอนิ ทำรำม ฝั่งธนบุรี พระแทน่ สาหรบั เจรญิ วิปัสสนากมั มฏั ฐาน กวำ้ ง 7 ฟตุ ยำว 20 ฟุต ทำ ดว้ ยไม้แผน่ เดยี ว ปจั จบุ ันประดษิ ฐำนอยูใ่ นวิหำรเล็ก หน้ำพระปรำงคว์ ัดอรุณรำชวรำรำม ฝั่งธนบรุ ี ดงั กลำ่ วคือภมู ปิ ญั ญำและวัฒนธรรมไทยดำ้ นศิลปกรรมสมยั ธนบุรี 24. ตอบ ก. สมเด็จพระรำมำธบิ ดีท่ี 1 (อู่ทอง) ทรงรบั คติควำมเชอ่ื แบบเทวรำชำหรอื สมมติเทพจำก กัมพูชำมำใช้ผสมกับลกั ษณะกำรปกครองบ้ำนเมอื งตำมแบบอยำ่ งของสโุ ขทยั เพื่อทำให้ สถำบนั พระมหำกษตั ริยเ์ ป็นศูนยร์ วมแหง่ อำนำจและเปน็ หลกั ยึดเหน่ยี วจิตใจของรำษฎร ในอำณำจักร 25. ตอบ ก. สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนำถทรงปฏิรูปกำรปกครอง โดยทรงตัง้ อัครมหำเสนำบดี 2 ตำแหนง่ ได้แก่ สมุหพระกลำโหม มีหน้ำที่รบั ผิดชอบกิจกำรฝ่ำยทหำรทัว่ รำชอำณำจกั ร และสมุหนำยกมีหน้ำที่รับผิดชอบกิจกำรฝ่ำยพลเรอื นท่ัวรำชอำณำจักรรวมทง้ั จตุสดมภ์ นอกจำกน้ี ยังทรงแบ่งหัวเมืองออกเปน็ หัวเมอื งชั้นใน หัวเมอื งชน้ั นอก และหัวเมอื ง ประเทศรำช มกี ำรแบง่ หัวเมอื งใหญ่เล็กเป็นหัวเมอื งช้ันเอก ชัน้ โท ชนั้ ตรี ชัน้ จัตวำ ตำมลำดับควำมสำคัญ และแบ่งกำรปกครองท้องที่ออกเป็นหมู่บำ้ น ตำบล แขวง และ เมือง เพ่อื ควำมสะดวกในกำรควบคมุ ดแู ลกำลงั คน 26. ตอบ ค. โดยพระองค์เสด็จไปประทับที่เมืองพิษณุโลก ซึ่งเคยเปน็ เมืองลกู หลวงของสโุ ขทัยมำกอ่ น ทั้งยังทรงออกผนวชที่วัดจุฬำมณี ทำให้สุโขทัยกบั อยุธยำรวมกันเป็นปึกแผน่ 27. ตอบ ค. พระรำชกรณียกิจที่สำคญั ของสมเด็จพระนเรศวรมหำรำชลว้ นเป็นงำนรำชกำรสงครำม ป้องกันพระรำชอำณำจักรและขยำยอำณำเขตของรำชอำณำจักรอยธุ ยำ ก่อนที่พระองค์ เสด็จข้ึนครองรำชย์ทรงทำสงครำมประกำศอสิ รภำพพ้นจำกกำรเปน็ ประเทศรำชของ พมำ่ ใน พ.ศ. 2127 ได้ด้วยนำ้ พระทัยอันกล้ำหำญ 28. ตอบ ก. เนอ่ื งจำกในชว่ งเวลำน้นั อยุธยำถูกฮอลันดำคุกคำมอย่ำงหนักจนถงึ กบั สง่ เรือรบมำปดิ อ่ำวไทย จนไทยตอ้ งเปิดกำรเจรจำและทำสญั ญำระหว่ำงกัน จำกกำรกระทำของ ฮอลนั ดำ ทำให้อยุธยำตอ้ งหันไปกระชบั ควำมสัมพนั ธ์กับฝร่ังเศสให้มำกข้ึนเพอ่ื มำถ่วงดุล 14
29. ตอบ อำนำจกบั ฮอลันดำ จนกระท่งั ฮอลันดำไดล้ ดปรมิ ำณกำรคำ้ และถอนตวั ออกจำกอยุธยำใน 30. ตอบ ท่ีสุด 31. ตอบ ง. กำรจัดให้มีพระรำชพิธีเฉลิมฉลองจุลศกั รำช 1000 (พ.ศ. 2181) อย่ำงใหญ่โตตำมธรรม เนียมพรำหมณ์ และกำรบำเพ็ญพระรำชกุศลทำงพระพุทธศำสนำเปน็ เวลำ 3 วนั รวมทง้ั โปรดให้สรำ้ งพระมหำปรำสำทช่อื ว่ำ พระวิหำรสำเร็จ ขนึ้ เม่อื พ.ศ. 2186 เป็น พระรำชกรณยี กิจสำคัญของสมเด็จพระเจำ้ ปรำสำททองแห่งรำชวงศป์ รำสำททอง ค. บทบำทสำคัญของออกญำโกษำธบิ ดี (ปำน) คอื ดำรงตำแหนง่ รำชทูตทม่ี ีบทบำทใน ควำมสมั พันธ์ทำงกำรทตู กับรำชสำนักของพระเจ้ำหลยุ ส์ที่ 14 แหง่ ฝรั่งเศสในสมยั สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช โดยขณะอยทู่ ่ีฝรัง่ เศสก็ได้บนั ทกึ เรื่องต่ำงๆ ของฝรัง่ เศสให้ สมเดจ็ พระนำรำยณ์มหำรำชทรงทรำบ และในสมัยสมเดจ็ พระเพทรำชำได้เล่ือนยศเปน็ เจำ้ พระยำ พระคลังหรือเจำ้ พระยำโกษำธบิ ดี (ปำน) ดูแลดำ้ นกำรต่ำงประเทศ ง. ผูท้ ่แี นะนำขนมทองหยบิ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมผงิ ทองโปรง่ ทองพลุ ให้กบั คนไทย คือ ภรรยำของคอนสแตนติน ฟอลคอน (ออกญำวิไชยเยนทร์) ทม่ี ีชอื่ ว่ำ มำรี กี-มำร์ (Marie Gimard) หรือทรี่ จู้ ักกันว่ำ ท้ำวทองกบี ม้ำ 32. ตอบ ก. พระรำชกรณยี กิจที่สำคัญของสมเดจ็ พระเจำ้ ตำกสินมหำรำช คอื เหตกุ ำรณ์ตอนที่ พระองคน์ ำกองกำลงั บกุ โจมตีคำ่ ยพม่ำท่ีธนบุรี และทโ่ี พธส์ิ ำมต้นจนแตกพ่ำยไป สำมำรถ กอบก้อู ิสรภำพของชำตไิ ทยกลับคืนมำได้สำเร็จ 33. ตอบ ข. โดย เปรียบดั่งพระกรข้ำงขวำของสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำช ทรงเปน็ แมท่ ัพข้ึนไป ปรำบชมุ นมุ เจ้ำพมิ ำยเปน็ ครั้งแรก เป็นแม่ทัพไปตดี ่ำนขุนทด แขวงเมอื งนครรำชสีมำ และปรำบเมืองกัมพูชำ ตไี ด้เมอื งพระตะบอง และเมอื งเสยี มรำฐ เป็นแม่ทัพไปตีหัวเมอื ง ลำวฝำ่ ยเหนือ ไดเ้ มืองเวียงจันทน์ พรอ้ มหัวเมืองข้นึ และเมอื งหลวงพระบำงมำขึน้ ตอ่ กรุง ธนบรุ ี และได้อญั เชิญพระแกว้ มรกตกับพระบำงมำถวำยสมเด็จพระเจำ้ ตำกสินมหำรำช ซึ่งพระองค์ทรงโสมนสั มำกถงึ พระรำชทำนสงั วำลทองคำประดบั เนำวรัตน์หนง่ึ สำยให้ เป็นควำมชอบ 34. ตอบ ง. เจ้ำพระยำสุรสีหเ์ ป็นแม่ทัพคพู่ ระทัยของสมเดจ็ พระเจำ้ ตำกสนิ มหำรำชมำกอ่ นหลวง ยกกระบัตร (ด้วง) พช่ี ำย ในครำวที่ดำรงพระยศเป็นพระมหำมนตรีได้นำทพั หนำ้ โจมตี กองทัพพม่ำท่ีค่ำยบำงก้งุ เมืองสมุทรสงครำม และได้รับชยั ชนะประเดิมตำแหนง่ เป็น ครง้ั แรก จนเป็นที่โปรดปรำนของสมเด็จพระเจ้ำกรงุ ธนบุรีเปน็ อยำ่ งมำก และในครำวท่ี ดำรงพระยศเปน็ นำยสุดจนิ ดำ ไดเ้ ปน็ ผเู้ ชญิ สมเด็จพระพนั ปีหลวงในสมเดจ็ พระเจ้ำตำก สนิ มหำรำชมำพักอยูน่ อกเมืองจันทบรุ ี เพื่อให้พ้นจำกเงื้อมมอื ของพม่ำ ทำให้ไดร้ ับควำม ดคี วำมชอบเป็นอย่ำงมำก 15
35. ตอบ ค. เอเชียตะวนั ออกประกอบด้วย ดนิ แดนภำคพื้นทวีปทม่ี ที ิวเขำต่ำงๆ เชน่ ทวิ เขำคนุ ลุนและ ทวิ เขำเทยี นซำน และมีทะเลทรำยโกบีแถบจนี มองโกเลีย สว่ นท่อี ย่บู นคำบสมุทรเกำหลี คือ เกำหลเี หนอื และเกำหลีใต้ ส่วนทีเ่ ป็นหมู่เกำะ คอื ไต้หวนั ญ่ีปนุ่ ท้ังนี้ ภูมภิ ำคเอเชยี ตะวันออกมีเน้ือที่ขนำดใหญ่ทส่ี ุดเมื่อเทียบกับภูมภิ ำคอื่นของทวีปเอเชยี 36. ตอบ ข. สำเหตุที่ทำใหอ้ ำรยธรรมจีนมขี ้อมลู ใหศ้ ึกษำมำกกว่ำอำรยธรรมอื่น เพรำะว่ำชำวจีนให้ ควำมสำคญั ต่อกำรจดบันทึกเรื่องรำวในอดีตและมีกำรเก็บรกั ษำบนั ทึกประวัตศิ ำสตร์ไว้ เปน็ อย่ำงดี 37. ตอบ ค. 38. ตอบ กำรเข้ำมำของชำตติ ะวันตกทำใหเ้ ศรษฐกจิ จนี เข้ำสู่ระบบอุตสำหกรรมมำกข้นึ มีกำรตัง้ 39. ตอบ โรงงำนอตุ สำหกรรมหนัก เชน่ กำรต่อเรอื เหล็กกลำ้ อุตสำหกรรมเบำ เช่น ผ้ำฝ้ำย 40. ตอบ เปน็ ต้น 41. ตอบ ค. 42. ตอบ อำรยธรรมดังกล่ำว คอื อำรยธรรมจนี ซึ่งมีประวัตคิ วำมเปน็ มำและมคี วำมเจริญรุ่งเรอื ง 43. ตอบ มำยำวนำนย้อนไปไดเ้ กอื บ 4,000 ปี จงึ ไดถ้ ำ่ ยทอดอำรยธรรมให้แก่ภมู ภิ ำคต่ำงๆ ใน เอเชียรวมถึงเอเชียตะวันออก ง. ชนช้นั วรรณะเปน็ สิ่งตำยตัว เปลีย่ นแปลงไม่ได้ ดังนัน้ คนวรรณะต่ำจงึ ต้องทำหน้ำที่ตำม วรรณะของตนใหด้ เี พ่ือจะได้มวี รรณะทีส่ ูงข้ึนในชำติหน้ำ ก. เพรำะพืน้ ท่ีสว่ นใหญ่ของเอเชียตะวนั ตกเฉยี งใตเ้ ป็นทะเลทรำย และมีอำกำศร้อนแหง้ แลง้ ฝนตกน้อย ดงั นัน้ น้ำจึงเปน็ ทรพั ยำกรธรรมชำติที่ชำวเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ต้องกำรมำกเพ่ือใช้ในกำรดำรงชีวติ ค. เพรำะดินตำมฝงั่ แมน่ ำ้ ไทกริส-ยูเฟรทสี เป็นดินทีม่ คี วำมอดุ มสมบูรณจ์ ำกกำรท่ีนำ้ พัดพำ เอำโคลนตมมำทบั ถมชำยฝัง่ ท้งั สอง จงึ เหมำะสมแก่กำรต้ังถ่ินฐำน จำกหลักฐำนทำง โบรำณคดีพบวำ่ ชำวซูเมเรียอพยพเข้ำมำต้งั ถิน่ ฐำนเปน็ หลักแหลง่ แหง่ แรกบรเิ วณปำก แม่น้ำไทกริส- ยูเฟรทสี ซง่ึ เรยี กกนั ในเวลำต่อมำว่ำ ดินแดนซูเมอร์ ข. ภมู ิภำคเอเชียกลำงไม่มที ำงออกทะเลสู่มหำสมุทร มีแต่ทะเลแคสเปยี นเทำ่ น้ัน ทำให้ ควำมเจรญิ จำกภำยนอกเข้ำไปยงั เอเชยี กลำงได้ยำก ดินแดนแถบนีจ้ งึ ยังไม่เจริญก้ำวหน้ำ ทำงเศรษฐกิจมำกนัก ดังนน้ั ขอ้ ง. จึงไม่ถูกต้อง ข. 16
ชำวจีนผลิตกระดำษและน้ำหมกึ ข้ึนใช้ในกำรเขยี นสือ่ สำรกัน ซ่งึ มนษุ ยใ์ นปัจจบุ ันยงั คง ส่อื สำรกันดว้ ยตัวอกั ษรจมุ่ น้ำหมึกบนกระดำษ 44. ตอบ ค. กำแพงเมอื งจนี ถูกสร้ำงขึน้ เพ่อื ปอ้ งกนั กำรรุกรำนจำกพวกอนำรยชนทำงตอนเหนอื ของ ประเทศจีน 45. ตอบ ค. อำรยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุมีกำรสร้ำงระบบสุขำภิบำลและดูแลเรอื่ งควำมสะอำด มีท่อ ระบำยนำ้ เสียนำน้ำไปทิ้งนอกเมอื ง ทอ่ ระบำยน้ำสร้ำงด้วยอิฐที่แข็งแรง ส่วนหอ้ งน้ำมไี ว้ บนบำ้ นช้นั บนด้วย ท่อส่งน้ำสกปรกได้จดั ทำท่อเก็บสิง่ สกปรกไว้เป็นช่วงตอนเพ่อื ควำม สะดวกในกำรทำควำมสะอำดทอ่ 46. ตอบ ง. กำรขุดคน้ ทำงโบรำณคดีท่ีเมอื งฮำรปั ปำและเมอื งโมเฮนโจ-ดำโร เปน็ หลักฐำนสำคัญท่ี ชว่ ยให้รู้วัฒนธรรมควำมเจริญของชำวดรำวเิ ดยี น ผู้สร้ำงอำรยธรรมอินเดยี สมัยก่อน ประวัตศิ ำสตร์ และด้วยเหตุท่ีเมืองท้ัง 2 น้ีอยบู่ ริเวณที่รำบลุ่มแม่น้ำสินธุ จึงมีกำรตง้ั ช่อื วำ่ อำรยธรรมลมุ่ แม่น้ำสนิ ธุ 47. ตอบ ข. ชำวซูเมเรียสร้ำงซิกกแู รต เพือ่ ให้เปน็ เทวสถำนในกำรบูชำพระเจ้ำหรอื เทพเจำ้ ประจำ เมอื งเพอื่ มใิ ห้พระองค์ทรงขุ่นเคืองและลงทัณฑม์ นุษย์ดว้ ยภัยตำ่ งๆ 48. ตอบ ง. ปรชั ญำขงจ๊ือกล่ำวถงึ กำรปฏบิ ตั ิต่อบุคคลในสงั คมตำมสถำนภำพ ซง่ึ ถือว่ำเปน็ ส่วนหนงึ่ ในชวี ติ ประจำวันของชำวจนี จึงมอี ิทธิพลต่อชำวจีนมำกกวำ่ ปรัชญำอื่นซ่ึงเป็นเรือ่ งของ แนวคิด 49. ตอบ ก. เมืองเพตรำสรำ้ งขึ้นตั้งแต่สมัยก่อนประวัตศิ ำสตร์ โดยตง้ั อยรู่ ะหว่ำงทะเลแดงและทะเล เดดซี ประเทศจอร์แดน เพตรำเช่ือมระหว่ำงอำระเบยี อยี ปิ ต์ และซเี รยี เป็น 1 ในเมอื ง โบรำณทม่ี ชี อ่ื เสียงของโลก เปน็ สถำนท่ีซ่ึงวฒั นธรรมตะวันออกโบรำณผสมผสำนกบั สถำปัตยกรรมกรีกยุคเฮเลนิสติก 50. ตอบ ข. เจดีย์รุวันเวลิ ประเทศศรีลังกำ เป็นเจดีย์ที่มีช้ำงอยลู่ ้อมรอบฐำนและได้ถ่ำยทอดรปู แบบ ทำงศิลปกรรมให้แก่กำรสร้ำงเจดยี ์ของไทย เชน่ เจดียว์ ัดชำ้ งล้อม วัดสรศักดิ์ จังหวัด สโุ ขทัย เจดียว์ ัดช้ำงรอบ จังหวดั กำแพงเพชร และพระบรมธำตุเจดยี ์ วัดพระมหำธำตุ วรมหำวิหำร จงั หวัดนครศรีธรรมรำช เปน็ ตน้ ซึง่ เจดยี ์รุวันเวลิองคน์ ้ไี ม่ได้รับกำรขนึ้ ทะเบยี นเปน็ แหลง่ มรดกโลกจำกองค์กำรยูเนสโก 17
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: