ชุดกจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์วชิ าวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง พชื น่ารู้ เลมที่ 1 โครงสรา งของพืชกลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 4 นายเอกรกั ษ ชยั วงค ตาํ แหนง ครู วิทยฐานะ ครูชาํ นาญการ โรงเรยี นเทศบาลสันปา ยางหลวง สงั กัดกองการศกึ ษา เทศบาลเมืองลําพูน จงั หวัดลาํ พูน
ชุดกจิ กรรมอิเล็กทรอนิกสวิชาวทิ ยาศาสตร เร่อื งพชื นารู ของนักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 4 โรงเรียนเทศบาลสนั ปายางหลวง เทศบาลเมอื งลาํ พูน จังหวดั ลาํ พูน คําชี้แจงในการใชชดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนิกส เลมท่ี 1 โครงสรา งของพชื ชุดกิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส เลมท่ี 1 โครงสรา งของพชื เปนชดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสร ายวชิ าวิทยาศาสตร รหัสวชิ า ว 14101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ 4 กลุมสาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร มสี าระการเรียนรูตามหลักสตู รการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ใชเ วลาในการศึกษาและปฏบิ ตั ิกจิ กรรมจํานวน 2 ช่ัวโมงมาตรฐานการเรียนรู มาตรฐาน ว 1.1 เขา ใจหนวยพน้ื ฐานของสิ่งมีชวี ติ ความสมั พนั ธข องโครงสรา งและหนา ทขี่ องระบบตาง ๆ ของส่งิ มีชีวติ ทที่ ํางานสมั พันธกัน มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู สื่อสารสิ่งท่ีเรียนรูแ ละนําความรไู ปใชในการดาํ รงชวี ิตของตนเองและดแู ลส่ิงมชี ีวิตตวั ชีว้ ัด มฐ.ว 1.1 ป. 4/1 ทดลองและอธบิ ายหนา ที่ของทอลาํ เลียงและปากใบของพืชจุดประสงคการเรยี นรู 1. บอกโครงสรางภายนอกของพชื ได (K) 2. สังเกตโครงสรา งภายนอกของพชื ชนดิ ตา งๆ ในทองถน่ิ ได (P) 3. เปน ผใู ฝเ รยี นรู ชางสังเกต ชา งคดิ ชา งสงสัย และเปน ผทู ี่มีความกระตือรอื รนในการเสาะ แสวงหาความรู (A)
ชุดกิจกรรมอเิ ล็กทรอนิกสวิชาวทิ ยาศาสตร เรอ่ื ง พืชนา รูโดยใชกระบวนการสบื เสาะหาความรู (5Es) ชัน้ ประถมศกึ ษาปท่ี 4มรี ายละเอยี ดดังน้ี1. ชุดกิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สว ทิ ยาศาสตรมีทั้งหมด 8 เลม ดังน้ี เลม ท่ี 1 เรือ่ ง โครงสรา งภายนอกของพชื เลม ที่ 2 เรือ่ ง การดดู นํา้ ของรากพชื เลม ที่ 3 เรอ่ื ง การลําเลียงของพืช เลม ที่ 4 เรอ่ื ง การคายนํา้ ของพชื เลม ท่ี 5 เรอื่ ง ปจจัยท่ีมผี ลตอ การเจรญิ เติบโตของพืช เลมที่ 6 เรอ่ื ง การสรางอาหารของพชื เลมท่ี 7 เรือ่ ง ปจ จัยทม่ี ผี ลตอ การสงั เคราะหด วยแสงของพืช เลม ที่ 8 เร่อื ง การตอบสนองตอสงิ่ เรา ของพชื2. ชดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนกิ สวิทยาศาสตรแ ตล ะชุดมสี วนประกอบ ดงั น้ี 2.1 คาํ แนะการใชชดุ กิจกรรมสาํ หรบั ครู 2.2 บทบาทของครู 2.3 บทบาทของนกั เรยี น 2.4 สาระสําคัญ ผลการเรยี นรูท่คี าดหวัง 2.5 แบบทดสอบกอนเรียน 2.6 ใบความรู 2.7 ใบกิจกรรม 2.8 แบบทดสอบหลงั เรียน
สว นประกอบของชดุ กจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกส มีดงั น้ี1. คาํ ชี้แจงในการใชช ดุ กจิ กรรมอิเล็กทรอนกิ ส2. บทบาทครู3. บทบาทนกั เรยี น4. ขั้นตอนการใชช ดุ กจิ กรรม5. แบบทดสอบกอนเรยี น ชดุ กจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ชดุ ท่ี 16. ใบความรทู ่ี 1.1 โครงสรางของพืช7. ใบกจิ กรรมที่ 1.1 โครงสรางของพืช8. ใบความรูท่ี 1.2 หนาที่ของราก9. ใบกิจกรรมที่ 1.2 หนา ทข่ี องราก10. แบบทดสอบหลงั เรียน ชุดกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส ชดุ ที่ 111. เฉลยแบบทดสอบกอนเรยี น ชุดกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชุดท่ี 112. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ชุดกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชดุ ที่ 113. แนวคําตอบใบกจิ กรรมท่ี 1.1 โครงสรางของพชื14. แนวคาํ ตอบใบกจิ กรรมท่ี 1.2 หนาท่ขี องรากการประเมนิ ผลการเรียนรู1. ประเมนิ ผลดานความรู 1.1 ทดสอบกอนเรยี นและหลังเรียน 1.2 ตรวจใบกจิ กรรมที่ 1.1 โครงสรา งของพืช2. ประเมนิ ดา นทักษะกระบวนการ 2.1 ตรวจใบกิจกรรมที่ 1.2 หนา ทีข่ องราก 2.2 ประเมินพฤติกรรมการทาํ งานกลมุ3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค 3.1 ซือ่ สัตย สุจริต 3.2 มีวินยั 3.3 ใฝเรยี นรู 3.4 มงุ มน่ั ในการทาํ งาน 3.5 มจี ิตสาธารณะ
บทบาทครูชดุ กจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชุดท่ี 1 โครงสรา งของพืช ใชเวลาในการศกึ ษา และปฏิบตั ิกจิ กรรม จาํ นวน 2ช่ัวโมงสิ่งท่คี รคู วรปฏบิ ตั ิ กอ น-หลัง และขณะใชชุดกิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส มดี งั น้ี1. ครูควรศกึ ษา และทําความเขาใจวธิ ีการใชช ุดกจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสแลวปฏบิ ัติตามขนั้ ตอนในการใชช ุดกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนกิ สใ หถกู ตอ ง ตามลาํ ดบั ขน้ั ตอนการดาํ เนนิ กจิ กรรม การใชสอื่ และอปุ กรณ รวมถงึ วธิ ีวัดและประเมินผลของชดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ สใ หช ดั เจน2. ครคู วรศกึ ษาแผนการจัดการเรยี นรู และปฏิบัตกิ จิ กรรมตามแผนการจดั การเรยี นรู ใหครบทุกข้นั ตอน3. ครูควรเตรยี มการจดั กจิ กรรมการเรยี นรลู ว งหนา และเตรยี มสถานทต่ี ลอดจนส่ือตา งๆ ใหพ รอมกอนใชชุดกิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส4. ครูควรเตรียมส่ือตา งๆ ท่ีใชในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรตู ามแผนการจัดการเรยี นรู แตละแผนไวล ว งหนา5. ครคู วรตรวจสอบวัสดอุ ุปกรณตางๆ ทม่ี อี ยูใ นชุดกิจกรรมอิเล็กทรอนกิ สใ หเรยี บรอยท้ังกอ น และหลงั ใชช ดุกิจกรรมอิเลก็ ทรอนกิ สท กุ คร้ัง6. การจัดชน้ั เรียน จดั นักเรียนนัง่ เปนกลุม กลมุ ละ 4-5 คน โดยแตล ะกลุมใหมีนกั เรียนเกง ปานกลาง ออนตามความเหมาะสมเพอ่ื ฝกทักษะการทางานกลมุ ทกั ษะกระบวนการรวมกับผอู ่ืน7. ครคู วรชแี้ จงบทบาทของนักเรียน เวลาทใี่ ชใ นการปฏิบัติกจิ กรรม แตละกจิ กรรมหรือ แตละแผนการจดั การเรียนรใู หน ักเรยี นทราบ8. ครคู วรแจง จดุ ประสงคการเรียนรใู หน ักเรยี นทราบ9. ครใู หน ักเรียนทําแบบทดสอบกอ นเรยี นเปนรายบุคคล เพ่อื ประเมนิ ความรเู ดมิ ของนกั เรียน กอ นเรม่ิ เรยี นในแตละชุด10. ครูแจกชดุ กจิ กรรมอเิ ล็กทรอนิกสใ หน ักเรยี นศึกษา และแนะนาํ ขนั้ ตอนการใชช ุดกจิ กรรม การเรยี นรู เพ่ือนกั เรียนจะไดปฏิบตั ไิ ดอ ยา งถกู ตอ ง11. ครูดําเนนิ การสอนตามกจิ กรรมการเรยี นรูทก่ี าํ หนดไวใ นแผนการจดั การเรยี นรู12. ครคู วรใหก ารดแู ลขณะทีน่ กั เรียนปฏบิ ตั กิ ิจกรรมอยา งทั่วถงึ และใหค ําแนะนาํ กรณี ท่ีนักเรียนไมเ ขาใจในกจิ กรรมตา งๆ และตอ งพยายามกระตุน ใหนักเรยี นปฏิบตั ิกจิ กรรมดว ยตนเองมากท่ีสดุ13. หากมีนกั เรยี นคนใดเรียนไมทนั ครูอาจมอบหมายงานใหศึกษาเพ่ิมเตมิ ในเวลาวา ง14. ครใู หนกั เรยี นทาํ แบบทดสอบหลังเรยี นเปน รายบุคคล หลังจากท่นี กั เรียนใช ชดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สเสร็จเรยี บรอย15. นกั เรยี นทําแบบทดสอบกอนเรยี น ทําใบกิจกรรม ครคู วรตรวจคาตอบแลว แจง คะแนนใหนักเรยี นทราบทนั ที และเมอ่ื เรียนจบเน้ือหาใหน กั เรยี นทําแบบทดสอบหลงั เรียน เม่ือครตู รวจคาํ ตอบแลว แจงคะแนนใหนกั เรยี นทราบ เพอ่ื ดูความกาวหนา ของตนเอง หากมนี ักเรียน ไมผานเกณฑ ครูควรใหน กั เรียนรับชดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสช ุดท่ไี มผา นเกณฑไปศกึ ษาเพ่ิมเติม นอกเวลาเรียน16. ครคู วรสรปุ ผลการใชช ดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนกิ ส สภาพปญ หา และขอเสนอแนะ หลงั จากใชช ดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสแตละคร้งั เพือ่ นาไปปรับปรงุ ในการใชช ดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ สในครั้งตอ ไป
บทบาทนักเรียนชดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนกิ ส เลมที่ 1 โครงสรา งของพชื ใชเ วลาในการศกึ ษา และปฏบิ ัตกิ จิ กรรม จาํ นวน 2ช่ัวโมง โดยนักเรียนปฏบิ ัตดิ ังตอไปน้ี1. นักเรียนอา นคาํ ชแ้ี จงการใชช ดุ กจิ กรรมอเิ ล็กทรอนกิ สบทบาทของนกั เรยี นใหเ ขาใจกอน ศึกษาชดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส2. นกั เรียนอานขนั้ ตอนการใชช ุดกจิ กรรมอเิ ล็กทรอนิกส3. นักเรียนศกึ ษาชุดกิจกรรมอิเล็กทรอนิกสด ว ยตนเอง โดยปฏิบตั ติ ามขน้ั ตอนทรี่ ะบไุ วใ นขนั้ ตอนการใชช ดุกจิ กรรม4. นกั เรยี นทาํ แบบทดสอบกอนเรยี น และแบบทดสอบหลงั เรียนเปนรายบุคคลสว นการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมในชดุกิจกรรมอเิ ล็กทรอนิกสใ หน กั เรยี นทําเปน กลุม5. การทาํ กิจกรรมตามชดุ กจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สท ุกชุด ขอใหน กั เรียนทําดวยความตั้งใจ และใหค วามรว มมอืมคี วามซอ่ื สตั ยต อ ตนเองและผูอนื่ ไมเปด ดูเฉลยกอนเปน อันขาด เพราะจะทําใหน กั เรียนไมไดใ ชท กั ษะในการคดิวเิ คราะห6. การทําแบบทดสอบกอ นเรียน ทาํ แบบบันทึกกิจกรรมนกั เรียนควรใหค รตู รวจคาํ ตอบแลวรอผลคะแนนสอบทนั ที และเมอ่ื เรียนจบเนื้อหาใหน ักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น เมอื่ ครูตรวจคาตอบแลว ใหน กั เรยี นรอผลคะแนนสอบ เพื่อดูความกาวหนา ของตนเอง หากนกั เรียนไมผ านเกณฑ ใหน กั เรยี นรบั ชดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนกิ สชุดทีไ่ มผ า นเกณฑไปศกึ ษาเองเพมิ่ เตมิ นอกเวลาเรียน เพือ่ ทบทวนความรูแลวจึงทําแบบทดสอบใหมอ กี ครัง้7. หลงั จากทาํ กิจกรรมเสรจ็ เรยี บรอ ยแลว ใหนกั เรียนเกบ็ วสั ดุอุปกรณใหเรียบรอย8. หากนักเรียนคนใดเรียนไมทนั หรอื เรยี นไมเขาใจ ใหรับชุดกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกสไปศึกษาเพมิ่ เตมิ นอกเวลาเรียน เพื่อใหเขาใจมากยง่ิ ขน้ึ
ในกรณีท่ไี มมีการแบงกลมุ1. นกั เรยี นทกุ คนปฏบิ ัติกิจกรรมดว ยความต้งั ใจ และไมช วนเพือ่ นคยุ หรือเลน กันขณะทป่ี ฏิบัตกิ จิ กรรม2. นกั เรยี นปฏิบตั ิตามข้ันตอนในการทํากจิ กรรมใหเ สร็จ และทนั เวลาที่กาํ หนด3. นักเรยี นควรต้งั ใจตอบคาํ ถามอยางเตม็ ความสามารถ และยกมือซกั ถามเมื่อพบปญหาหรอื ขอ สงสยั4. นกั เรียนควรทําแบบฝก หัดดว ยตนเองอยางเต็มความสามารถ ไมล อกเลยี นแบบของผูอ่นื5. นักเรียนควรตัง้ ใจในการทาํ แบบทดสอบท้ังกอนเรยี นและหลงั เรียนดว ยตนเอง6. เมอื่ นกั เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมเสรจ็ ใหช วยกนั เกบ็ และทาํ ความสะอาดวสั ดุ อปุ กรณ สื่อการเรียนการสอนแลวจัดโตะกับเกาอใี้ หอ ยใู นสภาพทเ่ี รียบรอ ยในกรณที ่ีมกี ารแบง กลุม1. บทบาทของผนู าํ กลุม มหี นาท่ดี งั นี้ 1.1 ควบคุมการดาํ เนินกจิ กรรมภายในกลุมใหเ ปนไปดวยความเรยี บรอ ย 1.2 เปนผูนําในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมของกลมุ 1.3 เปน ผูต ดิ ตอกบั ครูเมือ่ พบปญ หาหรือขอ สงสยั 1.4 รายงานหรอื แจงใหค รูทราบเมอ่ื ปฏิบตั กิ จิ กรรมเสร็จ 1.5 หลังจากสมาชิกภายในกลมุ ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรเู สรจ็ เรียบรอยแลว ใหเ ก็บ รวบรวมแบบบนั ทึกกิจกรรม และกระดาษคาตอบสง ครตู ามเวลาทกี่ าํ หนด2. บทบาทของสมาชกิ ภายในกลมุ มหี นา ท่ีดังน้ี 2.1 ปฏิบตั กิ ิจกรรมดว ยความตัง้ ใจใหท นั เวลาโดยไมช วนเพือ่ นคยุ หรือเลน 2.2 ตง้ั ใจตอบคาํ ถามอยา งเตม็ ความสามารถและปฏิบตั ติ ามข้นั ตอนในการทํากจิ กรรม 2.3 ไมค วรปรกึ ษากันเสียงดังเกินไปจนรบกวนกลมุ อ่นื ๆ 2.4 ชว ยกันเก็บ และทาํ ความสะอาดวสั ดุ อุปกรณ สือ่ การเรียนการสอน แลว จัดโตะ กับเกา อ้ี ใหอยูใน สภาพที่เรียบรอ ย
ขนั้ ตอนการใชชดุ กิจกรรมอิเลก็ ทรอนิกส 1. นักเรยี นศกึ ษาคาํ ชแ้ี จงการใชช ดุ กจิ กรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส เลม ท่ี 1 โครงสรา งของพืช ใหเ ขา ใจ 2. นักเรียนทาํ แบบทดสอบกอ นเรียนเปนรายบุคคล ชุดกจิ กรรมอเิ ล็กทรอนิกส ชดุ ที่ 1 จาํ นวน 10 ขอโดยใชเ วลา 10 นาที เมื่อทาํ แบบทดสอบเสรจ็ แลว เกบ็ รวบรวมใหค รตู รวจคาตอบ รอฟง ผลการประเมนิ ความรูเดมิ ของนักเรียน 3. นกั เรียนศึกษาใบความรทู ่ี 1.1 โครงสรางของพชื จากนัน้ ทาํ ใบกจิ กรรมท่ี 1.1 โครงสรา งของพชืเมื่อทาํ เสร็จเรียบรอยแลว ครกู ับนักเรียนเฉลยคําตอบรวมกันโดยตรวจคาํ ตอบในแนวคําตอบใบกิจกรรมท่ี 1.1โครงสรา งของพชื 4. นักเรยี นศกึ ษาใบความรทู ี่ 1.2 หนา ที่ของราก จากน้นั ทาํ ใบกิจกรรมที่ 1.2 หนา ที่ของราก เม่ือทําเสรจ็ เรียบรอยแลว ครกู บั นกั เรยี นเฉลยคาํ ตอบรวมกนั โดยตรวจคาํ ตอบในแนวคาํ ตอบใบกิจกรรมท่ี 1.2หนา ท่ขี องราก 5. นักเรยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรยี นเปน รายบุคคล ชุดกิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส ชุดที่ 1 จํานวน 10 ขอโดยใชเ วลา 10 นาที เมือ่ นักเรยี นทําแบบทดสอบเสรจ็ แลว เก็บรวบรวมใหครูตรวจคาํ ตอบเพือ่ ประเมนิ ความรูหลังจากใชช ดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนกิ ส
แบบทดสอบกอนเรียน ชุดกิจกรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส ชุดที่ 1เร่ือง โครงสรางของพชื กลุมสาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตรชั้นประถมศกึ ษาปที่ 4 เวลา 10 นาทีคําชแ้ี จง ขอ สอบชดุ น้ีเปนขอ สอบปรนัย จํานวน 10 ขอ คะแนน 10 คะแนนคําสง่ั ใหนกั เรยี นเลอื กคําตอบที่ถูกตองทส่ี ดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี วแลวนําอกั ษรหนาคาํ ตอบ เติมลงใน แบบบนั ทกึผลการทดสอบ1. โครงสรา งภายนอกของพืชทสี่ าํ คัญทีส่ ุด คือขอ ใด ก. ราก ลําตน ใบ ข. ลําตน ใบ ดอก ค. ดอก ผล เมล็ด ง. ราก ทอลาํ เลยี งน้ํา ทอ ลาํ เลียงอาหาร2. สว นประกอบใดของพชื ซึ่งมีหนา ทย่ี ดึ ลําตน ของพืชใหต ั้งตรงอยบู นพื้นดนิ ก. กิง่ ไม ข. ลําตน ค. ใบไม ง. ราก3. สวนประกอบใดของพชื ซึง่ มหี นาทีล่ าํ เลยี งนาํ้ และธาตุอาหารไปสสู ว นตางๆ ก. ราก ข. ลําตน ค. ใบไม ง. ผลไม4. หนา ทีห่ ลกั ของรากพืชคือขอ ใด ก. ชวยในการขยายพนั ธุ ข. สะสมอาหารท่อี ยใู ตด ิน ค. ดูดนํ้าและธาตุอาหารจากพนื้ ดนิ ง. ทาํ หนาทห่ี ายใจและแลกเปลย่ี นกาซ
5. รากท่งี อกออกจากเมล็ดถัว่ เขยี วจัดเปนรากชนดิ ใด ก. รากฝอย ข. รากแกว ค. รากแขนง ง. รากคํ้าจุน6. ลําตน ของพืชชนิดใดอยูใตด ินทัง้ หมด ก. ชมพู ขาว ขาวโพด ข. เผอื ก แหว มนั ฝร่งั ค. มะมวง มะพรา ว มะละกอ ง. ดอกเข็ม ดอกมะลิ ดอกกหุ ลาบ7. หวั มนั ฝรงั่ มหี นาท่สี าํ คญั อยางไร ก. ยดึ ลาํ ตน ใหต้ังตรง ข. ชว ยในการขยายพนั ธุ ค. สะสมอาหารทอ่ี ยใู ตดนิ ง. ลาํ เลยี งนา้ํ และธาตอุ าหาร8. ขอใดมหี นา ทีห่ ลกั เกี่ยวกบั การขยายพันธขุ องพืช ก. ราก ข. ลาํ ตน ค. กง่ิ ไม ง. ดอกไม9. ขอ ใดจดั เปนพืชท่มี ี รากค้ําจุนท้งั หมด ก. กลว ยไม ไทร โกงกาง ข. ขา วโพด โกงกาง ไทรยอย ค. โกงกาง แพงพวยน้ํา ผกั กระเฉด ง. กระชาย มนั แกว มนั สาํ ปะหลงั
10. ขอใดคอื หนา ทส่ี ําคัญของใบพชื ก. การสรา งอาหาร ข. การสะสมอาหาร ค. ลาํ เลียงนา้ํ และธาตอุ าหาร ง. หายใจและแลกเปลีย่ นกา ซ
แบบบนั ทึกผลแบบทดสอบกอนเรยี น ชดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ชุดที่ 1ช่อื -สกลุ .....................................................ช้ัน..................... เลขที่................. ขอ ท่ี คาํ ตอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนท่ีได. ............คะแนน
ใบความรทู ่ี 1.1 โครงสรา งของพชื พืชมีโครงสรา งภายนอก ไดแ ก ราก ลําตน ใบ ดอก และ ผล โครงสร้ าง ภายนอกของพืช มอี ะไรบ้างนะ ภาพท่ี 1.1 โครงสรา งของพืช ทมี่ า : http://www.trueplookpanya.com/learning/detail/32034-044624ซ่ึงมโี ครงสรางท่ีสาํ คญั ดังน้ี 1. ราก เปน โครงสรางของพชื ท่ีทาํ หนาที่หลกั ในการยดึ ลาํ ตน ของพืชใหตง้ั อยูบนดิน รวมถึง ชว ยในการดูดนํา้ และธาตุอาหาร จากพนื้ ดินขน้ึ สลู ําตนและใบ มอี ยู 3 ชนิด ไดแ ก รากแกว ราก แขนง และรากฝอย 2. ลําตน เปนเปน โครงสรา งของพชื ทีท่ ําหนา ท่ีในการลาํ เลยี งน้ําและธาตอุ าหารจากรากไปสู ใบ และลําเลียงอาหารทส่ี รา งจากใบไปสูสวนตางๆของพืช 3. ใบ เปนโครงสรา งของพืชท่ีทาํ หนาท่สี ังเคราะหดว ยแสง สรา งอาหารของพืช 4. ดอก เปน โครงสรา งของพืชท่ที ําหนาท่ใี นการสืบพนั ธุโดยการถา ยละอองเรณจู ากเกสรตวั ผู ไปยงั เกสรตวั เมยี ทาํ ใหเกิดการสมั ผัสกนั ระหวา ง เซลลส บื พันธุเพศผู กับ เซลลส ืบพันธุ ของเพศเมีย 5. ผล เปน โครงสรางของพชื ที่ทาํ หนาท่ใี นการขยายพันธุ โดยผลเจรญิ มาจากรังไข ดา นใน ของผลจะมีเมล็ดซึง่ พืชใชข ยายพันธุ
ใบกิจกรรมที่ 1.1 เร่ือง โครงสร้างของพืชชื่อ-สกลุ ...............................................................................................ช้นั ...........................เลขท่ี..................คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพความคิดบอกหนา้ ท่ีโครงสร้างของพชื (10 คะแนน)หน้าท่ขี องดอก หน้าท่ขี องใรบาก................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................หน้าท่ขี องลาํ ต้น หน้าท่ขี องผล................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................ หน้าท่ขี องราก โครงสร้ างภายนอก ของพชื มหี น้าที่ ................................................................ อะไรบ้างครับ ................................................................ ................................................................ ................................................................
ใบความรทู ี่ 1.2 หนา ท่ีของรากนอกจากรากของพชื จะหนาท่ีหลักในการยึดลาํ ตน ของพชื ใหต ้ังอยูบ นดนิ ชวยในการดูดน้ําและธาตุอาหาร รากพชื บางชนดิ อาจทาํ หนาท่พี ิเศษอื่นๆเชน- รากคํา้ จุน ทาํ หนาท่ี ชวยพยุงและคาํ้ จนุ ลาํ ตน ไดแก รากเตย ลาํ เจยี ก ขา วโพด ยาง อินเดีย โกงกาง และไทรยอ ย เปน ตนภาพท่ี 1.2 รากคาํ้ จนุที่มา : http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/root03.html - รากสังเคราะหแ สง เปน รากทแี่ ตกออกจากขอของลําตน หรอื กิ่งแลว หอ ยลงมาใน อากาศ มีสีเขยี วของคลอโรฟลลจงึ สงั เคราะหแสงได ไดแ ก ตน กลวยไม ตน ไทร ตน โกงกาง เปนตนภาพที่ 1.3 รากสงั เคราะหแ สงที่มา : http://www.dnp.go.th/botany/BFC/root_modified.html - รากหายใจ เปนรากทชี่ ปู ลายรากขนึ้ มาเหนอื พ้นื ดินบางทีก็ลอยตามผวิ น้าํ เพื่อชว ยใน การหายใจได ไดแ ก ลาํ พู แสม โกงกาง แพงพวยนํา้ และผักกระเฉด เปนตน รากพืชมีหน้าท่ี พิเศษอะไรอีกบ้างภาพที่ 1.4 รากหายใจที่มา : http://mineroot.blogspot.com/p/blog-page_13.html
- รากยึดเกาะ เปนรากทแ่ี ตกออกมาจากสวนขอ ของลําตน แลวเกาะตดิ กับสง่ิ ยดึ เกาะ เชนเสาหรอื หลกั เพื่อพยงุ ลําตน ใหตดิ แนน และชูสว นของลาํ ตนใหส งู ขึน้ ไป ไดแ ก พลู พลดู าง พริกไทย และกลว ยไม เปน ตนภาพที่ 1.5 รากยึดเกาะท่มี า : http://www.panpikthai.com/photo481.html - รากกาฝาก เปนรากของพืชท่ไี ปเกาะตน พืชชนิดอนื่ แลว แทงลงไปในลาํ ตน จนถงึ ทอ ลาํ เลียงเพอ่ื แยง อาหาร ไดแก รากฝอยทอง กาฝาก เปนตนภาพท่ี 1.6 รากกาฝากที่มา : http://puechkaset.com/กาฝาก - รากสะสมอาหาร ทาํ หนาท่สี ะสมอาหารพวกแปง ไขมนั และโปรตีน ไดแ ก รากกระชาย หัวผักกาด มนั เทศ มนั แกว มันสาํ ปะหลงั เปน ตนภาพที่ 1.7 รากสะสมอาหารท่ีมา : https://sites.google.com/site/fahsky09/khorngsrang-khxng-phuch รากพเิ ศษแต่ละชนิด มหี น้าท่อี ะไรบ้างนะ
ใบกิจกรรมที่ 1.2 เร่ือง หน้าทร่ี ากของพืชช่ือ-สกลุ ...............................................................................................ช้นั ...........................เลขที่..................คาํ ช้ีแจง ใหน้ กั เรียนบอกหนา้ ที่และชนิดของพชื ท่ีมีรากพเิ ศษ ต่อไปน้ี1. รากหายใจ ทาํ หนา ท่.ี .................................................................................................. ไดแ ก.......................................................................................................................................2. รากค้าํ จุน ทาํ หนาที.่ ................................................................................................................ ไดแ ก.......................................................................................................................................3. รากยึดเกาะ ทาํ หนา ท.่ี .................................................................................................. ไดแ ก. ......................................................................................................................................4. รากสงั เคราะหแสง ทําหนาที.่ .................................................................................................. ไดแ ก. ......................................................................................................................................5. รากสะสมอาหาร ทําหนา ท.ี่ .................................................................................................. ไดแก. ......................................................................................................................................6. รากกาฝาก ทาํ หนาท่.ี .................................................................................................. ไดแ ก....................................................................................................................................... พืชท่มี ีรากพิเศษ ทน่ี กั เรียนรู้จกั มีอะไรบ้างครับ
แบบทดสอบหลังเรยี น ชดุ กจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชุดที่ 1เร่ือง โครงสรา งของพชื กลมุ สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตรชน้ั ประถมศึกษาปที่ 4 เวลา 10 นาทีคําชแ้ี จง ขอ สอบชดุ นเี้ ปนขอสอบปรนัย จํานวน 10 ขอ คะแนน 10 คะแนนคําสง่ั ใหน ักเรยี นเลอื กคาํ ตอบทีถ่ กู ตองทส่ี ดุ เพยี งคาํ ตอบเดียวแลวนําอกั ษรหนาคาํ ตอบ เติมลงใน แบบบันทกึผลการทดสอบ1. ขอ ใดคอื หนาทสี่ ําคัญของใบพืช ก. การสรา งอาหาร ข. การสะสมอาหาร ค. ลาํ เลียงนาํ้ และธาตอุ าหาร ง. หายใจและแลกเปลยี่ นกาซ2. รากทง่ี อกออกจากเมล็ดถั่วเขยี วจัดเปนรากชนดิ ใด ก. รากฝอย ข. รากแกว ค. รากแขนง ง. รากคํา้ จนุ3. ขอใดมหี นา ที่หลกั เกีย่ วกับการขยายพนั ธขุ องพชื ก. ราก ข. ลาํ ตน ค. กิ่งไม ง. ดอกไม4. สวนประกอบใดของพชื ซึง่ มีหนาทล่ี ําเลียงนา้ํ และธาตุอาหารไปสสู ว นตางๆ ก. ราก ข. ลาํ ตน ค. ใบไม ง. ผลไม
5. สว นประกอบใดของพืชซ่ึงมีหนา ทย่ี ดึ ลาํ ตนของพืชใหต ั้งตรงอยบู นพ้ืนดนิ ก. ก่ิงไม ข. ลาํ ตน ค. ใบไม ง. ราก6. หนาท่หี ลกั ของรากพืชคือขอ ใด ก. ชว ยในการขยายพนั ธุ ข. สะสมอาหารทอ่ี ยใู ตดนิ ค. ดดู นา้ํ และธาตุอาหารจากพน้ื ดิน ง. ทําหนา ท่หี ายใจและแลกเปลีย่ นกาซ7. ลําตนของพชื ชนิดใดอยใู ตดนิ ทั้งหมด ก. ชมพู ขา ว ขา วโพด ข. เผอื ก แหว มนั ฝร่งั ค. มะมวง มะพราว มะละกอ ง. ดอกเข็ม ดอกมะลิ ดอกกหุ ลาบ8. โครงสรางภายนอกของพืชที่สําคญั ทีส่ ุด คอื ขอใด ก. ราก ลาํ ตน ใบ ข. ลาํ ตน ใบ ดอก ค. ดอก ผล เมลด็ ง. ราก ทอ ลาํ เลยี งนา้ํ ทอ ลาํ เลยี งอาหาร9. หวั มนั ฝรงั่ มีหนา ท่สี าํ คญั อยา งไร ก. ยึดลาํ ตนใหต ั้งตรง ข. ชวยในการขยายพันธุ ค. สะสมอาหารทีอ่ ยใู ตด นิ ง. ลาํ เลียงนา้ํ และธาตอุ าหาร
10. ขอใดจัดเปน พชื ท่ีมี รากค้ําจุนทง้ั หมด ก. กลว ยไม ไทร โกงกาง ข. ขาวโพด โกงกาง ไทรยอ ย ค. โกงกาง แพงพวยน้ํา ผกั กระเฉด ง. กระชาย มนั แกว มันสาํ ปะหลงั
แบบบนั ทึกผลแบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ กิจกรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชดุ ท่ี 1ช่อื -สกุล.....................................................ชน้ั ..................... เลขท่ี................. ขอที่ คาํ ตอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนทไี่ ด. ............คะแนน
เฉลยแบบทดสอบกอนเรยี นชดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส ชดุ ท่ี 1 ขอ ที่ คําตอบ 1ก 2ง 3ข 4ค 5ข 6ข 7ค 8ง 9ข 10 ก
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี นชุดกิจกรรมอเิ ล็กทรอนิกส ชดุ ท่ี 1 ขอที่ คําตอบ 1ก 2ข 3ง 4ข 5ง 6ค 7ข 8ก 9ค 10 ข
แนวคาํ ตอบใบกจิ กรรมที่ 1.1 เรื่อง โครงสร้างของพืชชื่อ-สกลุ ...............................................................................................ช้นั ...........................เลขที่..................คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพความคิดบอกหนา้ ท่ี โครงสร้างของพืช (10 คะแนน)หน้าท่ขี องดอก หน้าท่ขี องใรบากทาํ หนา ที่ในการสืบพนั ธโุ ดยการถา ยละอองเรณจู ากเกสรตัวผไู ปยงั เกสร .ท...าํ ..ห...น...า..ท...ีส่...ัง..เ.ค...ร..า...ะ..ห...ด...ว ..ย...แ..ส...ง....ส..ร...า ..ง....ตัวเมยี ทาํ ใหเ กิดการสมั ผสั กนั .อ..า...ห...า..ร..ข...อ..ง...พ...ืช........................................ระหวา ง เซลลส บื พนั ธเุ พศผู กบัเซลลส บื พันธขุ องเพศเมีย ................................................................ ................................................................หน้าท่ขี องลาํ ต้น หน้าท่ขี องผลทาํ หนา ทใี่ นการลําเลยี งนาํ้ และธาตุ ทําหนา ท่ีในการขยายพันธุ โดยผลอาหารจากรากไปสูใ บ และลําเลยี ง เจรญิ มาจากรงั ไข ดานในของผลอาหารทสี่ รา งจากใบไปสสู วนตา งๆ จะมีเมล็ดซึ่งพืชใชข ยายพันธุของพชื หน้าท่ขี องราก ทาํ หนาท่ีหลักในการยดึ ลาํ ตน ของ พืชใหต ้ังอยูบนดิน รวมถงึ ชวยใน การดูดนํา้ และธาตุอาหาร จาก พื้นดนิ ขน้ึ สูลําตนและใบ
แนวคาํ ตอบใบกจิ กรรมท่ี 1.2 เรื่อง หน้าทรี่ ากของพืชคาํ ช้ีแจง ใหน้ กั เรียนบอกหนา้ ท่ีและชนิดของพชื ท่ีมีรากพเิ ศษ ต่อไปน้ี1. รากหายใจ ทําหนาท่ี เปน รากท่ชี ูปลายรากขึ้นมาเหนอื พืน้ ดนิ บางทกี ็ลอยตามผวิ นํ้า เพ่อื ชวย ในการหายใจได ไดแก ลาํ พู แสม โกงกาง แพงพวยน้าํ และผกั กระเฉด เปนตน2. รากคาํ้ จุน ทําหนา ที่ ชวยพยุงและคํ้าจนุ ลําตน ไดแก รากเตย ลําเจยี ก ขาวโพด ยางอินเดยี โกงกาง และไทรยอย เปนตน3. รากยึดเกาะ ทาํ หนา ที่ เปน รากทแ่ี ตกออกมาจากสว นขอ ของลาํ ตน แลวเกาะตดิ กบั สง่ิ ยดึ เกาะ เชน เสาหรอื หลกั เพ่อื พยุงลาํ ตนใหตดิ แนน และชสู วนของลําตนใหส งู ขึ้นไป ไดแก พลู พลูดา ง พรกิ ไทย และกลว ยไม เปน ตน4. รากสังเคราะหแสง ทําหนาท่ี เปน รากท่ีแตกออกจากขอของลาํ ตนหรอื ก่งิ แลว หอยลงมาใน อากาศ มีสเี ขยี วของคลอโรฟลลจ งึ สงั เคราะหแสงได ไดแก ตนกลว ยไม ตน ไทร ตนโกงกาง เปน ตน5. รากสะสมอาหาร ทําหนา ที่ สะสมอาหารพวกแปง ไขมนั และโปรตนี ไดแก รากกระชายหวั ผักกาด มนั เทศ มนั แกว มันสําปะหลัง เปน ตน6. รากกาฝาก ทาํ หนาท่ี เปนรากของพชื ที่ไปเกาะตนพืชชนิดอ่นื แลว แทงลงไปในลําตนจนถงึ ทอ ลาํ เลียงเพ่ือแยง อาหาร ไดแก รากฝอยทอง กาฝาก เปนตน
บรรณานุกรมนนั ทนา สาํ เภา.รากคํ้าจนุ .สบื คน เมอ่ื 15 เมษายน 2558, จาก http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/root03.html.บุษณีย เอ่ืยมสีดา.กาฝาก.สืบคน เม่ือ 15 เมษายน 2558, จาก http://puechkaset.com/กาฝาก.รากพริกไทยยึดเกาะ.สบื คนเมื่อ 15 เมษายน 2558, จาก http://www.panpikthai.com/photo481.html.รากสังเคราะหแ สง.สบื คนเมอื่ 15 เมษายน 2558, จาก http://www.dnp.go.th/botany/BFC/root_modified.html.รากหายใจ.สบื คนเมอ่ื 15 เมษายน 2558, จาก http://mineroot.blogspot.com/p/blog-page_13.html.วฒั นาพานิช สาํ นักพิมพ. โครงสรางของพชื .สบื คน เมอ่ื 15 เมษายน 2558, จาก http://www.trueplookpanya.com/learning/detail/32034-044624.สถาบันพฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) แผนการจัดการเรยี นรู วิทยาศาสตร ป.4 บรษิ ทั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จํากัด .กรงุ เทพมหานคร.สุจริ า ทองศรนี ุน.รากสะสมอาหาร.สืบคน เมอื่ 15 เมษายน 2558, จาก https://sites.google.com/site/fahsky09/khorngsrang-khxng-phuch.เอกรินทร สม่ี หาศาล และคณะ.ส่ือการเรียนรู รายวิชาพื้นฐาน ชดุ แมบทมาตรฐาน Smart O-NET วทิ ยาศาสตร ป.4 .อกั ษรเจรญิ ทัศน กรุงเทพมหานคร.
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: