ชุดกจิ กรรมอเิ ล็กทรอนิกส์วชิ าวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง พชื น่ารู้ เลมท่ี 3 การลําเลียงของพืชกลุมสาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตร ช้นั ประถมศกึ ษาปที่ 4 นายเอกรกั ษ ชยั วงค ตาํ แหนง ครู วทิ ยฐานะ ครูชาํ นาญการ โรงเรียนเทศบาลสนั ปายางหลวง สงั กัดกองการศึกษา เทศบาลเมอื งลาํ พูน จงั หวดั ลําพูน
ชดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สวิชาวทิ ยาศาสตร เรื่องพืชนา รู ของนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ 4 โรงเรียนเทศบาลสนั ปายางหลวง เทศบาลเมอื งลาํ พนู จงั หวดั ลําพนู คาํ ชี้แจงในการใชช ุดกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส เลม ที่ 3 การลาํ เลียงของพืชชดุ กจิ กรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส เลม ที่ 3 การลาํ เลยี งของพืช เปน ชดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สรายวิชาวทิ ยาศาสตรรหสั วิชา ว 14101 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 4 กลมุ สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตร มีสาระการเรียนรู ตามหลักสตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ใชเวลาในการศกึ ษา และปฏิบตั ิกิจกรรม จํานวน 2 ช่วั โมงมาตรฐานการเรียนรู มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหนว่ ยพืน้ ฐานของสง่ิ มชี ีวิต ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบตา่ ง ๆ ของส่ิงมชี ีวิตท่ีทํางานสมั พนั ธ์กนั มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สอ่ื สารสิง่ ท่ีเรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในการดาํ รงชีวิตของตนเองและดแู ลส่ิงมีชีวิต ตวั ชีว้ ัด มฐ.ว 1.1 ป.4/1 ทดลองและอธิบายหน้าท่ีของท่อลาํ เลียงและปากใบของพืชจุดประสงคก ารเรยี นรู 1. บอกความหมายของทอ่ ลําเลียงของพชื ได้ (K) 2. อธิบายทิศทางการลําเลยี งนํา้ และอาหารของพืชได้ (K) 3. วาดภาพแบบจําลองระบบทอ่ ลําเลยี งในพืชได้ (P) 4. เป็นคนใฝ่เรียนรู้ ชา่ งสงั เกต ช่างคดิ ชา่ งสงสยั และเป็นผ้ทู ี่มคี วามกระตอื รือร้นในการ เสาะแสวงหาความรู้ (A)
ชุดกิจกรรมอิเล็กทรอนกิ สว ทิ ยาศาสตร เรือ่ ง พชื นา รู โดยใชก ระบวนการสืบเสาะหาความรู (5Es)ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 4 มีรายละเอียดดงั นี้1. ชุดกิจกรรมอิเลก็ ทรอนกิ สว ทิ ยาศาสตรมที ้ังหมด 8 เลม ดังน้ี เลมท่ี 1 เรอ่ื ง โครงสรา งภายนอกของพชื เลม ที่ 2 เรื่อง การดูดน้าํ ของรากพชื เลม ที่ 3 เร่อื ง การลําเลยี งของพืช เลมที่ 4 เร่อื ง การคายนาํ้ ของพชื เลม ที่ 5 เรอ่ื ง ปจจัยที่มีผลตอ การเจริญเตบิ โตของพืช เลม ท่ี 6 เรอ่ื ง การสรา งอาหารของพืช เลมท่ี 7 เรื่อง ปจ จัยทมี่ ผี ลตอ การสังเคราะหด ว ยแสงของพืช เลม ที่ 8 เรอ่ื ง การตอบสนองตอ สง่ิ เรา ของพชื2. ชุดกิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ สว ิทยาศาสตรแตละชุดมสี ว นประกอบ ดงั นี้ 2.1 คาํ แนะการใชชดุ กิจกรรมสาํ หรับครู 2.2 บทบาทของครู 2.3 บทบาทของนักเรียน 2.4 สาระสําคญั ผลการเรียนรูทคี่ าดหวงั 2.5 แบบทดสอบกอนเรยี น 2.6 ใบความรู 2.7 ใบกิจกรรม 2.8 แบบทดสอบหลังเรียน
สวนประกอบของชุดกจิ กรรม มีดงั น้ี1. คําช้แี จงในการใชช ดุ กจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส2. บทบาทครู3. บทบาทนักเรยี น4. ขนั้ ตอนการใชชดุ กจิ กรรมอิเล็กทรอนกิ ส5. แบบทดสอบกอ นเรียน ชดุ กจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชุดที่ 36. ใบความรทู ี่ 3.1 ระบบทอ ลาํ เลียงในพืช7. ใบกิจกรรมที่ 3.1 ระบบทอลําเลยี งในพืช8. ใบความรทู ี่ 3.2 ทศิ ทางการลาํ เลียงนํา้ และอาหารของพืช9. ใบกจิ กรรมท่ี 3.2 ทิศทางการลาํ เลยี งน้าํ และอาหารของพืช10. แบบทดสอบหลังเรียน ชดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส ชุดที่ 311. เฉลยแบบทดสอบกอนเรียน ชดุ กิจกรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส ชดุ ที่ 312. เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น ชุดกิจกรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส ชุดท่ี 313. แนวคาํ ตอบใบกิจกรรมที่ 3.1 ระบบทอลาํ เลยี งในพชื14. แนวคาํ ตอบใบกจิ กรรมท่ี 3.2 ทิศทางการลาํ เลียงนา้ํ และอาหารของพชืการประเมนิ ผลการเรียนรู1. ประเมินผลดา นความรู 1.1 ทดสอบกอ นเรยี นและหลงั เรียน 1.2 ตรวจใบกจิ กรรมที่ 3.1 ระบบทอลาํ เลยี งในพชื2. ประเมนิ ดา นทกั ษะกระบวนการ 2.1 ตรวจใบกจิ กรรมที่ 3.2 ทิศทางการลาํ เลียงน้ําและอาหารของพืช 2.2 ประเมินพฤติกรรมการทาํ งานกลมุ3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค 3.1 ซอื่ สัตย สุจรติ 3.2 มีวินัย 3.3 ใฝเรยี นรู 3.4 มงุ ม่ันในการทาํ งาน 3.5 มีจติ สาธารณะ
บทบาทครูชดุ กิจกรรมอิเล็กทรอนิกส เลมที่ 3 การลาํ เลยี งของพชื ใชเ วลาในการศกึ ษา และปฏิบตั กิ ิจกรรมจาํ นวน 2 ชว่ั โมงส่งิ ท่คี รคู วรปฏบิ ตั ิ กอน-หลัง และขณะใชชุดกจิ กรรมอิเล็กทรอนกิ ส มีดังน้ี1. ครคู วรศกึ ษา และทําความเขาใจวธิ กี ารใชช ดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสแ ลวปฏิบัตติ ามข้ันตอนในการใชชดุกิจกรรมอิเล็กทรอนิกสใ หถกู ตอง ตามลาํ ดบั ขน้ั ตอนการดาํ เนนิ กิจกรรม การใชส อ่ื และอุปกรณ รวมถงึ วธิ วี ดัและประเมินผลของชดุ กจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสใ หช ัดเจน2. ครคู วรศกึ ษาแผนการจดั การเรยี นรู และปฏิบัตกิ จิ กรรมตามแผนการจดั การเรยี นรู ใหค รบทกุ ขน้ั ตอน3. ครูควรเตรยี มการจดั กจิ กรรมการเรยี นรลู วงหนา และเตรยี มสถานทตี่ ลอดจนสอ่ื ตา งๆ ใหพรอ มกอนใชชุดกจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกส4. ครูควรเตรยี มส่อื ตา งๆ ที่ใชในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรตู ามแผนการจดั การเรียนรู แตละแผนไวลวงหนา5. ครคู วรตรวจสอบวสั ดอุ ปุ กรณตางๆ ท่มี อี ยใู นชุดกิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสใ หเรียบรอยทัง้ กอน และหลงั ใชช ดุกิจกรรมอิเลก็ ทรอนิกสท กุ ครง้ั6. การจัดช้นั เรียน จัดนักเรียนนงั่ เปน กลมุ กลมุ ละ 4-5 คน โดยแตละกลมุ ใหม นี ักเรียนเกง ปานกลาง ออ นตามความเหมาะสมเพอ่ื ฝกทักษะการทางานกลมุ ทักษะกระบวนการรว มกบั ผอู นื่7. ครคู วรช้ีแจงบทบาทของนักเรยี น เวลาท่ใี ชใ นการปฏิบัติกิจกรรม แตละกิจกรรมหรือ แตล ะแผนการจดั การเรยี นรูใหนกั เรียนทราบ8. ครูควรแจง จดุ ประสงคการเรยี นรใู หนกั เรยี นทราบ9. ครใู หน ักเรยี นทาํ แบบทดสอบกอนเรยี นเปนรายบุคคล เพอ่ื ประเมนิ ความรูเ ดมิ ของนักเรยี น กอนเริ่มเรยี นในแตละชดุ10. ครูแจกชดุ กจิ กรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสใหนักเรียนศึกษา และแนะนาํ ข้นั ตอนการใชช ดุ กจิ กรรม การเรยี นรู เพ่ือนกั เรียนจะไดปฏิบตั ไิ ดอยา งถกู ตอง11. ครูดาํ เนนิ การสอนตามกจิ กรรมการเรยี นรทู ี่กาํ หนดไวในแผนการจดั การเรียนรู12. ครคู วรใหการดแู ลขณะทน่ี ักเรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมอยางท่ัวถึง และใหคําแนะนาํ กรณี ที่นักเรียนไมเ ขา ใจในกิจกรรมตา งๆ และตอ งพยายามกระตนุ ใหน กั เรยี นปฏิบตั กิ ิจกรรมดว ยตนเองมากท่ีสุด13. หากมนี กั เรียนคนใดเรียนไมทัน ครูอาจมอบหมายงานใหศกึ ษาเพม่ิ เตมิ ในเวลาวา ง14. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลงั เรียนเปนรายบุคคล หลงั จากทนี่ กั เรยี นใช ชดุ กจิ กรรมอิเล็กทรอนิกสเสร็จเรยี บรอ ย15. นกั เรยี นทาํ แบบทดสอบกอ นเรยี น ทําใบกิจกรรม ครูควรตรวจคาตอบแลวแจงคะแนนใหนกั เรยี นทราบทนั ที และเมื่อเรยี นจบเน้ือหาใหน ักเรยี นทําแบบทดสอบหลงั เรยี น เมอ่ื ครูตรวจคาํ ตอบแลว แจงคะแนนใหนักเรียนทราบ เพอ่ื ดคู วามกาวหนา ของตนเอง หากมนี กั เรยี น ไมผานเกณฑ ครคู วรใหน กั เรียนรบั ชุดกิจกรรมอิเล็กทรอนกิ สช ดุ ทไ่ี มผ านเกณฑไ ปศึกษาเพมิ่ เตมิ นอกเวลาเรยี น16. ครูควรสรปุ ผลการใชช ุดกิจกรรมอิเล็กทรอนกิ ส สภาพปญ หา และขอเสนอแนะ หลังจากใชช ดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ สแ ตล ะคร้งั เพอ่ื นาไปปรับปรงุ ในการใชช ดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สใ นครั้งตอไป
บทบาทนักเรียนชุดกจิ กรรมอเิ ล็กทรอนิกส เลม ที่ 3 การลาํ เลียงของพืช ใชเวลาในการศกึ ษา และปฏิบัตกิ จิ กรรม จาํ นวน 2ชั่วโมง โดยนกั เรยี นปฏบิ ัตดิ งั ตอ ไปน้ี1. นักเรยี นอานคําชีแ้ จงการใชช ดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนิกสบ ทบาทของนักเรียนใหเ ขา ใจกอน ศกึ ษาชดุ กจิ กรรมอิเล็กทรอนกิ ส2. นกั เรียนอา นข้นั ตอนการใชช ุดกจิ กรรม3. นักเรยี นศกึ ษาชดุ กจิ กรรมอิเล็กทรอนกิ สด ว ยตนเอง โดยปฏบิ ตั ิตามขัน้ ตอนทรี่ ะบุไวในขนั้ ตอนการใชช ุดกจิ กรรม4. นักเรียนทาํ แบบทดสอบกอนเรยี น และแบบทดสอบหลังเรียนเปนรายบคุ คลสว นการปฏิบัติกิจกรรมในชดุกจิ กรรมอิเล็กทรอนกิ สใ หน กั เรยี นทาํ เปน กลมุ5. การทาํ กิจกรรมตามชดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ สท ุกชุด ขอใหน กั เรียนทําดวยความตง้ั ใจ และใหค วามรว มมอืมคี วามซอื่ สตั ยต อ ตนเองและผูอนื่ ไมเปด ดเู ฉลยกอนเปนอนั ขาด เพราะจะทําใหน ักเรยี นไมไ ดใชท กั ษะในการคดิวเิ คราะห6. การทําแบบทดสอบกอ นเรยี น ทําแบบบนั ทกึ กิจกรรมนกั เรียนควรใหครตู รวจคาํ ตอบแลวรอผลคะแนนสอบทันที และเม่ือเรยี นจบเนื้อหาใหน กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน เม่ือครูตรวจคาตอบแลว ใหน ักเรยี นรอผลคะแนนสอบ เพ่อื ดูความกาวหนาของตนเอง หากนกั เรยี นไมผ า นเกณฑ ใหนักเรียนรบั ชดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกสชุดทไ่ี มผานเกณฑไปศึกษาเองเพ่มิ เตมิ นอกเวลาเรยี น เพ่ือทบทวนความรูแลวจงึ ทําแบบทดสอบใหมอ ีกครั้ง7. หลงั จากทํากิจกรรมเสรจ็ เรียบรอ ยแลว ใหน กั เรยี นเกบ็ วสั ดอุ ปุ กรณใหเรียบรอย8. หากนักเรียนคนใดเรยี นไมท ันหรอื เรียนไมเขา ใจ ใหรบั ชดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ สไปศึกษาเพมิ่ เตมิ นอกเวลาเรยี น เพื่อใหเ ขาใจมากยง่ิ ข้ึน
ในกรณีท่ไี มมีการแบงกลมุ1. นกั เรยี นทกุ คนปฏบิ ัติกิจกรรมดว ยความต้งั ใจ และไมช วนเพือ่ นคยุ หรือเลน กันขณะทป่ี ฏิบัตกิ จิ กรรม2. นกั เรยี นปฏิบตั ิตามข้ันตอนในการทํากจิ กรรมใหเ สร็จ และทนั เวลาที่กาํ หนด3. นักเรยี นควรต้งั ใจตอบคาํ ถามอยางเตม็ ความสามารถ และยกมือซกั ถามเมื่อพบปญหาหรอื ขอ สงสยั4. นกั เรียนควรทําแบบฝก หัดดว ยตนเองอยางเต็มความสามารถ ไมล อกเลยี นแบบของผูอ่นื5. นักเรียนควรตัง้ ใจในการทาํ แบบทดสอบท้ังกอนเรยี นและหลงั เรียนดว ยตนเอง6. เมอื่ นกั เรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมเสรจ็ ใหช วยกนั เกบ็ และทาํ ความสะอาดวสั ดุ อปุ กรณ สื่อการเรียนการสอนแลวจัดโตะกับเกาอใี้ หอ ยใู นสภาพทเ่ี รียบรอ ยในกรณที ่ีมกี ารแบง กลุม1. บทบาทของผนู าํ กลุม มหี นาท่ดี งั นี้ 1.1 ควบคุมการดาํ เนินกจิ กรรมภายในกลุมใหเ ปนไปดวยความเรยี บรอ ย 1.2 เปนผูนําในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมของกลมุ 1.3 เปน ผูต ดิ ตอกบั ครูเมือ่ พบปญ หาหรือขอ สงสยั 1.4 รายงานหรอื แจงใหค รูทราบเมอ่ื ปฏิบตั กิ จิ กรรมเสร็จ 1.5 หลังจากสมาชิกภายในกลมุ ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรเู สรจ็ เรียบรอยแลว ใหเ ก็บ รวบรวมแบบบนั ทึกกิจกรรม และกระดาษคาตอบสง ครตู ามเวลาทกี่ าํ หนด2. บทบาทของสมาชกิ ภายในกลมุ มหี นา ท่ีดังน้ี 2.1 ปฏิบตั กิ ิจกรรมดว ยความตัง้ ใจใหท นั เวลาโดยไมช วนเพือ่ นคยุ หรือเลน 2.2 ตง้ั ใจตอบคาํ ถามอยา งเตม็ ความสามารถและปฏิบตั ติ ามข้นั ตอนในการทํากจิ กรรม 2.3 ไมค วรปรกึ ษากันเสียงดังเกินไปจนรบกวนกลมุ อ่นื ๆ 2.4 ชว ยกันเก็บ และทาํ ความสะอาดวสั ดุ อุปกรณ สือ่ การเรียนการสอน แลว จัดโตะ กับเกา อ้ี ใหอยูใน สภาพที่เรียบรอ ย
ขั้นตอนการใชชุดกิจกรรม 1. นกั เรียนศึกษาคาํ ชแ้ี จงการใชชุดกจิ กรรมอิเล็กทรอนกิ ส เลม ที่ 3 การลาํ เลยี งของพชื ใหเ ขาใจ 2. นกั เรียนทําแบบทดสอบกอ นเรยี นเปนรายบคุ คล ชุดกิจกรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชุดที่ 3 จาํ นวน 10 ขอโดยใชเวลา 10 นาที เมอ่ื ทาํ แบบทดสอบเสรจ็ แลว เกบ็ รวบรวมใหครตู รวจคาตอบ รอฟงผลการประเมนิ ความรูเดิมของนกั เรยี น 3. นกั เรยี นศกึ ษาใบความรทู ่ี 3.1 ระบบทอ ลาํ เลียงในพชื จากนั้นทาํ ใบกจิ กรรมท่ี 3.1 ระบบทอลําเลียงในพชื เม่อื ทาํ เสรจ็ เรียบรอ ยแลว ครกู ับนกั เรียนเฉลยคําตอบรว มกันโดยตรวจคาํ ตอบในเฉลยใบกจิ กรรมท่ี 3.1 การลาํ เลียงของพืช 4. นกั เรียนศกึ ษาใบความรูที่ 3.2 ทศิ ทางการลาํ เลียงนํ้าและอาหารของพชื จากน้นั ทาํ ใบกจิ กรรมท่ี3.2 ทศิ ทางการลาํ เลียงนาํ้ และอาหารของพชื เมอ่ื ทาํ เสร็จเรยี บรอ ยแลว ครูกบั นักเรียนเฉลยคาํ ตอบรวมกนัโดยตรวจคาํ ตอบในแนวคาํ ตอบใบกจิ กรรมท่ี 3.2 ทิศทางการลาํ เลียงน้ําและอาหารของพืช 5. นักเรียนทําแบบทดสอบหลงั เรยี นเปนรายบุคคล ชดุ กจิ กรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชุดที่ 3 จํานวน 10 ขอโดยใชเ วลา 10 นาที เมอื่ นักเรยี นทําแบบทดสอบเสร็จแลว เก็บรวบรวมใหค รตู รวจคาํ ตอบเพอ่ื ประเมินความรูหลงั จากใชช ดุ กจิ กรรมอเิ ล็กทรอนิกส
แบบทดสอบกอนเรียน ชุดกิจกรรมอิเล็กทรอนิกส ชุดท่ี 3เรอ่ื ง การลําเลียงของพชื กลมุ สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตรชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ 4 เวลา 10 นาทีคาํ ชแ้ี จง ขอ สอบชดุ นเ้ี ปนขอ สอบปรนัย จาํ นวน 10 ขอ คะแนน 10 คะแนนคาํ สงั่ ใหน กั เรยี นเลือกคาํ ตอบทีถ่ กู ตองท่สี ดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี วแลว นาํ อกั ษรหนา คําตอบ เตมิ ลงใน แบบบันทกึผลการทดสอบ1. พชื ลาํ เลยี งนา้ํ และอาหารไดอ ยา งไร ก. ผา นทางราก ข. ผานทางลําตน ค. ผานทางปากใบ ง. ผา นทางทอลําเลียง2. โครงสรา งของพืชสวนใดท่ีเกยี่ วขอ งกับการลาํ เลียงนา้ํ และอาหาร มากท่สี ุด ก. กิ่งและใบ ข. ลําตน และใบ ค. รากและลาํ ตน ง. ใบและปากใบ3. เนอ้ื เย่อื ลําเลียงน้ํา ในระบบทอลําเลยี ง คือขอใด ก. ไซเลม็ ข. โฟลเอม็ ค. ปากใบ ง. คลอโรฟลล4. เนอื้ เย่อื ลําเลยี งอาหาร ในระบบทอลาํ เลียง คอื ขอ ใด ก. ไซเล็ม ข. โฟลเอ็ม ค. ปากใบ ง. คลอโรฟลล
5. ไซเลม็ เปน กลุม เซลลท ่ีเรียงตอ กนั ตามขอใด ก. การลาํ เลียงจึงเรมิ่ ตน จากราก ลําตน กิง่ และใบ ตามลําดบั ข. การลาํ เลียงจงึ เริม่ ตน จาก ลําตน กง่ิ ใบ และดอก ตามลําดับ ค. การลาํ เลียงจึงเรม่ิ ตนจากใบ กง่ิ ลาํ ตน และราก ตามลําดบั ง. การลําเลียงจึงเริ่มตน จากดอก ใบ กง่ิ และลาํ ตน ตามลําดับ6. ทอ ลําเลยี งนา้ํ และอาหารของพืชมลี กั ษณะอยางไร ก. เปน จุดๆ ภายในโครงสรางพชื ต้งั แต ราก ลําตน และใบ ข. เปน จดุ ๆ ภายในโครงสรางพืชต้งั แต ลาํ ตน ใบ และกง่ิ ค. เปน ทอยาวภายในโครงสรา งพืชตง้ั แต ราก ลาํ ตน และใบ ง. เปน ทอยาวภายในโครงสรา งพืชตั้งแต ลาํ ตน ใบ และกิ่ง7. เพราะเหตใุ ดจึงมีการลาํ เลียงอาหารจากใบไปสสู ว นตาง ๆ ของพชื ก. เพราะมีการลาํ เลียงนา้ํ ลําเลียงจากราก ลําตน กิ่งและใบ ข. เพราะมีการจดั เรยี งตัวเปนวงของเนื้อเยอ่ื ลาํ เลยี งนา้ํ และอาหารในลําตนพืช ค. เพราะมีการจัดเรียงตัวแบบกระจายของเนือ้ เย่อื ลาํ เลียงน้าํ และอาหารในลําตน พืช ง. เพราะพชื มกี ารสรางอาหารโดยผานกระบวนการสังเคราะหดว ยแสงซง่ึ มักเกิดขนึ้ ท่ีใบ8. การจัดเรียงตัวของเนือ้ เยอ่ื ลําเลยี งนํา้ และอาหารในลําตน พืชใบเลย้ี งคเู ปนแบบใด ก. การจดั เรียงตวั เปน วง ข. การจัดเรียงตวั แบบกระจาย ค. การจัดเรยี งตวั เปน จุดๆทั่วไป ง. การจดั เรียงตวั แบบไมเปนระเบียบ9. ขอใดสรุปความหมายของคําวาทอ ลาํ เลียงไดถ ูกตอง ก. ราก ลําตน กง่ิ และใบ ข. การจัดเรียงตัวของเนอ้ื เย่ือลําเลียงนา้ํ และอาหาร ค. ทอยาวภายในโครงสรา งพืชตัง้ แต ลาํ ตน ใบ และก่ิง ง. กลุม เซลลของพชื ท่ีทาํ หนา ท่ลี าํ เลยี งน้าํ และอาหาร
10. ทิศทางการลําเลียงอาหารของพชื ขอใดถูกตอง ก. ราก → ลําตน → กิ่ง → ใบ ข. ลาํ ตน → ก่งิ → ใบ → ดอก ค. ใบ → กง่ิ → ลําตน → ราก ง. ดอก → ใบ → กง่ิ → ลาํ ตน
แบบบันทึกผลแบบทดสอบกอนเรยี น ชดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ชดุ ที่ 3ช่อื -สกุล.....................................................ชั้น..................... เลขที่................. ขอท่ี คาํ ตอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนทีไ่ ด. ............คะแนน
ใบความรูท่ี 3.1 ระบบท่อลาํ เลียงในพชืทอ่ ลาํ เลียงเป็นกลมุ่ เซลล์ของพืชท่ีทําหน้าท่ีลําเลียงนํา้ และอาหาร ผ่านเนือ้ เยื่อที่ทอดยาวอย่ภู ายในรากและลาํ ต้นมีลกั ษณะเป็นกลมุ่ เซลล์ที่มลี กั ษณะคล้ายทอ่ และทําหน้าทล่ี ําเลยี งนํา้ และอาหารภาพท่ี 3.1 ภาพตดั ตามยาวและตามขวางของราก และลาํ ต้นพชื ใบเลยี ้ งคู่ทมี่ า : http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/stem.html
โครงสรา งท่ีสาํ คัญในการลําเลียงน้ําและอาหารของพชื มีดังนค้ี อื - เน้อื เยอ่ื ลําเลียงนํา้ (ไซเลม็ : xylem) เปน กลุม เซลลท ่ีเรียงตอกนั ต้ังแตร าก ลําตน ก่งิ จนถึงใบ การลําเลียงจงึ เรมิ่ ตน จากราก ลําตน กงิ่ และใบ ตามลาํ ดับ เพอ่ื ลําเลยี ง นํา้ ไปใชในการสงั เคราะหดวยแสง - เนื้อเย่ือลําเลียงอาหาร (โฟลเอม็ : phloem) เปนกลมุ เซลลที่เรยี งตวั ตอ เน่ืองจากใบไป ตามกิ่ง ลําตน และราก การลาํ เลียงจงึ เร่ิมตนจากใบ กิ่ง ลาํ ตน และราก ตามลาํ ดบั เพ่ือลําเลียงอาหารไปเลี้ยงสวนตา ง ๆ ของพชืภาพท่ี 3.2 ภาพมดั ทอ ลาํ เลยี งของพืชใบเลยี้ งเด่ยี ว ภาพท่ี 3.3 ภาพมดั ทอ ลาํ เลยี งของพืชใบเลย้ี งคูที่มา : http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/stem.html
ใบกิจกรรมที่ 3.1 เร่ือง ระบบท่อลาํ เลียงในพชืชื่อ-สกลุ ...............................................................................................ช้นั ...........................เลขท่ี..................คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนวาดภาพแบบจาํ ลอง โครงสร้างท่ีสาํ คญั ในการลาํ เลียงน้าํ และอาหารของพชืใบเล้ียงคู่ (10 คะแนน)เนอื้ เย่อื ไซเลม็ (xylem) มีหนา้ ที่ .................................................................................................…………………………………………………………………………………………………..เน้ือเยอื่ โฟลเอ็ม (phloem) มีหนา้ ที............................................................................................…………………………………………………………………………………………………..
ใบความรทู ี่ 3.2 ทิศทางการลาํ เลียงน้าํ และอาหารของพชืการลาํ เลียงน้าํ และอาหารของพชื มดี ังนค้ี อื - ทิศทางการลาํ เลยี งน้าํ และแรธาตผุ า นทางเนอื้ เย่อื ไซเล็มตั้งแตร าก ลําตน กง่ิ จนถึงใบ ราก → ลาํ ตน → ก่ิง → ใบ (การลําเลยี งจึงเรมิ่ ตน จากราก ลาํ ตน กิ่ง และใบ ตามลาํ ดบั ) เพือ่ ลําเลยี งนํ้าและแรธ าตไุ ปใชใ นการสงั เคราะหดว ยแสง - การลาํ เลยี งอาหารผา นทางเนอื้ เยอื่ โฟลเอม็ เรม่ิ จากใบไปตาม ก่ิง ลาํ ตน และราก ใบ → กิ่ง → ลําตน → ราก (การลําเลยี งจึงเรมิ่ ตนจากใบ ก่ิง ลาํ ตน และราก ตามลําดับ) เพอื่ ลาํ เลยี งอาหารไปเลี้ยงสวนตา ง ๆ ของพชืทศิ ทางการลาํ เลยี งนํา้ ทศิ ทางการลาํ เลยี งอาหาร ก่ิง ใบ ใบราก ลาํ ต้น ก่งิ - ลาํ ต้น รากภาพท่ี 3.4 ภาพโครงสรางของพชืทม่ี า : http://mkumthorngmailcom.blogspot.com/2011/03/blog-post_18.html
ใบกิจกรรมที่ 3.2 เร่ือง ทิศทางการลาํ เลียงน้าํ และอาหารของพชืช่ือ-สกลุ ...............................................................................................ช้นั ...........................เลขท่ี.................. คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนวาดภาพแสดงทิศทางการลาํ เลียงน้าํ และอาหารของพืช (10 คะแนน)ทิศทางการลาํ เลียงน้าํ ทิศทางการลาํ เลียงอาหาร
แบบทดสอบหลังเรยี น ชดุ กิจกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส ชุดท่ี 3เร่อื ง การลําเลียงของพืช กลมุ สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตรช้นั ประถมศกึ ษาปที่ 4 เวลา 10 นาทีคาํ ชี้แจง ขอสอบชดุ น้เี ปนขอสอบปรนยั จํานวน 10 ขอ คะแนน 10 คะแนนคําสั่ง ใหน กั เรยี นเลอื กคาํ ตอบที่ถกู ตองท่สี ดุ เพยี งคาํ ตอบเดยี วแลว นาํ อกั ษรหนาคําตอบ เติมลงใน แบบบันทกึผลการทดสอบ1. ทอลําเลียงน้ําและอาหารของพืชมลี ักษณะอยางไร ก. เปนจดุ ๆ ภายในโครงสรางพืชตัง้ แต ราก ลําตน และใบ ข. เปนจุดๆ ภายในโครงสรา งพืชตง้ั แต ลําตน ใบ และกิ่ง ค. เปนทอยาวภายในโครงสรา งพืชตง้ั แต ราก ลาํ ตน และใบ ง. เปน ทอยาวภายในโครงสรางพชื ตั้งแต ลําตน ใบ และกง่ิ2. เพราะเหตใุ ดจงึ มกี ารลําเลียงอาหารจากใบไปสูสว นตา ง ๆ ของพชื ก. เพราะมีการลาํ เลยี งนา้ํ ลําเลียงจากราก ลาํ ตน กิ่งและใบ ข. เพราะมกี ารจดั เรียงตัวเปนวงของเน้ือเย่อื ลาํ เลียงนา้ํ และอาหารในลาํ ตนพืช ค. เพราะมกี ารจดั เรยี งตัวแบบกระจายของเนื้อเยอ่ื ลาํ เลียงนํา้ และอาหารในลาํ ตนพืช ง. เพราะพชื มกี ารสรา งอาหารโดยผานกระบวนการสังเคราะหด ว ยแสงซงึ่ มกั เกดิ ข้นึ ทใ่ี บ3. การจดั เรยี งตวั ของเนือ้ เย่อื ลาํ เลียงนํ้าและอาหารในลําตนพชื ใบเลย้ี งคูเปน แบบใด ก. การจัดเรยี งตวั เปนวง ข. การจดั เรียงตัวแบบกระจาย ค. การจดั เรยี งตัวเปน จุดๆทัว่ ไป ง. การจดั เรยี งตัวแบบไมเ ปนระเบียบ4. โครงสรา งของพชื สว นใดที่เกย่ี วขอ งกบั การลําเลยี งน้ําและอาหาร มากทส่ี ดุ ก. กงิ่ และใบ ข. ลําตน และใบ ค. รากและลําตน ง. ใบและปากใบ
5. เน้อื เย่อื ลาํ เลยี งนํ้า ในระบบทอลําเลยี ง คอื ขอ ใด ก. ไซเล็ม ข. โฟลเอ็ม ค. ปากใบ ง. คลอโรฟลล6. ทิศทางการลาํ เลยี งอาหารของพืชขอใดถูกตอง ก. ราก → ลาํ ตน → ก่ิง → ใบ ข. ลาํ ตน → กง่ิ → ใบ → ดอก ค. ใบ → กิง่ → ลาํ ตน → ราก ง. ดอก → ใบ → กิ่ง → ลาํ ตน7. พืชลาํ เลียงนา้ํ และอาหารไดอ ยา งไร ก. ผานทางราก ข. ผา นทางลําตน ค. ผานทางปากใบ ง. ผา นทางทอ ลําเลียง8. เน้ือเยอื่ ลําเลียงอาหาร ในระบบทอ ลําเลียง คือขอ ใด ก. ไซเลม็ ข. โฟลเอ็ม ค. ปากใบ ง. คลอโรฟลล9. ไซเลม็ เปน กลมุ เซลลท ่เี รยี งตอกนั ตามขอ ใด ก. การลําเลียงจงึ เริ่มตนจากราก ลาํ ตน ก่ิง และใบ ตามลําดบั ข. การลาํ เลียงจงึ เรม่ิ ตนจาก ลาํ ตน ก่ิง ใบ และดอก ตามลาํ ดับ ค. การลาํ เลยี งจงึ เรม่ิ ตนจากใบ กง่ิ ลาํ ตน และราก ตามลําดับ ง. การลําเลียงจงึ เรม่ิ ตน จากดอก ใบ กงิ่ และลําตน ตามลําดบั
10. ขอใดสรปุ ความหมายของคาํ วา ทอลําเลยี งไดถ กู ตอ ง ก. ราก ลําตน กง่ิ และใบ ข. การจัดเรยี งตัวของเนื้อเย่ือลําเลยี งนาํ้ และอาหาร ค. ทอ ยาวภายในโครงสรา งพืชตั้งแต ลําตน ใบ และก่งิ ง. กลมุ เซลลข องพชื ที่ทําหนาทล่ี ําเลยี งนาํ้ และอาหาร
แบบบนั ทึกผลแบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ กิจกรรมอิเลก็ ทรอนิกส ชดุ ท่ี 3ช่อื -สกุล.....................................................ชน้ั ..................... เลขท่ี................. ขอที่ คาํ ตอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนทไี่ ด. ............คะแนน
เฉลยแบบทดสอบกอนเรยี นชดุ กิจกรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส ชุดท่ี 3 ขอ ที่ คําตอบ 1ง 2ค 3ก 4ข 5ก 6ค 7ง 8ก 9ง 10 ค
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี นชุดกิจกรรมอเิ ล็กทรอนิกส ชดุ ท่ี 3 ขอที่ คําตอบ 1ค 2ง 3ก 4ค 5ก 6ค 7ง 8ข 9ก 10 ง
แนวคาํ ตอบใบกิจกรรมที่ 3.1 เร่ือง ระบบท่อลาํ เลียงในพืชช่ือ-สกลุ ...............................................................................................ช้นั ...........................เลขท่ี..................คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนวาดภาพแบบจาํ ลอง โครงสร้างท่ีสาํ คญั ในการลาํ เลียงน้าํ และอาหารของพืชใบเล้ียงคู่ (10 คะแนน)เนือ้ เยือ่ ไซเลม็ เนอื้ เยือ่ ไซเล็มเนือ้ เยอ่ื โฟลเอม็ เนื้อเยอ่ื โฟลเอ็มเน้อื เยอื่ ไซเล็ม (xylem) มีหนา้ ท่ี ลาํ เลยี งนา้ํ และแรธ าตุ จากราก ลําตน กิ่ง ไปถงึ ใบ เพ่ือใชในการสงั เคราะหด ว ยแสงเนอ้ื เย่อื โฟลเอ็ม (phloem) มีหนา้ ท่ี ลาํ เลยี งอาหาร จากใบ กิ่ง ลําตน จนถงึ ราก เพอ่ื ไปเลย้ี งสวนตางๆ ของพชื
แนวคาํ ตอบใบกิจกรรมท่ี 3.2 เร่ือง ทิศทางการลาํ เลียงน้าํ และอาหารของพืชคาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนวาดภาพแสดงทิศทางการลาํ เลียงน้าํ และอาหารของพืช (10 คะแนน)ทิศทางการลาํ เลียงน้าํ ทิศทางการลาํ เลียงอาหารราก → ลํา ตน → ่ิกง → ใบ ใบ → กิ่ง → ลําตน → ราก
บรรณานุกรมนันทนา สําเภา.ลําตน .สบื คนเม่ือ 18 เมษายน 2558, จาก http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/stem.html.ม.กาํ ธร จรญู เลศิ กจิ จา.โครงสรา งของพชื .สบื คนเมอ่ื 18 เมษายน 2558, จาก http://mkumthorngmailcom.blogspot.com/2011/03/blog-post_18.html.สถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) แผนการจดั การเรียนรู วทิ ยาศาสตร ป.4 บริษทั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) จาํ กัด .กรงุ เทพมหานคร.สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร.(2554). หนังสอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี 4 .องคการคา คุรสุ ภา กรุงเทพมหานครเอกรนิ ทร สี่มหาศาล และคณะ.สือ่ การเรียนรู รายวิชาพื้นฐาน ชุดแมบ ทมาตรฐาน Smart O-NET วทิ ยาศาสตร ป.4 .อักษรเจรญิ ทศั น กรุงเทพมหานคร.
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: