Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1 ประเด็นที่ฉันสนใจ

หน่วยที่ 1 ประเด็นที่ฉันสนใจ

Published by penpooh69, 2020-06-29 05:08:25

Description: หน่วยที่ 1 ประเด็นที่ฉันสนใจ

Search

Read the Text Version

หนว่ ยที่ 1 ประเด็นที่ฉนั สนใจ IS BY KRU PAYU

การต้งั ประเดน็ ปญั หาหรอื ตง้ั คาถาม

ความสาคญั ของการตงั้ ประเดน็ ปัญหาหรอื ตง้ั คาถาม 01 การถามเปน็ สว่ นหนึง่ ของกระบวนการเรยี นรู้. 02 ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นสร้างความรู้ ความเขา้ ใจ และพัฒนาความคดิ ใหม่ ๆ 03 กระบวนการถามจะชว่ ยขยายทักษะการคดิ การเช่ือมโยงระหว่างความคดิ ต่าง ๆ . 04 ส่งเสรมิ ความอยากรอู้ ยากเหน็ และเกดิ ความทา้ ทาย

การต้ังปญั หา เป็นอะไร? เกิดขึ้นเมอ่ื ไร? เกดิ ขนึ้ ทไี่ หน? เกดิ ขึน้ ไดอ้ ยา่ งไร? ทาไมจงึ เปน็ เช่นนนั้ ?  \"แสงแดดมสี ว่ นเกยี่ วขอ้ งกบั การเจรญิ งอกงามของตน้ หญา้ หรอื ไม่\"  \"แบคทเี รยี ในจานเพาะเชอื่ เจรญิ ชา้ ไม่งอกงามถา้ มรี าสเี ขียวอยใู่ นจาน เพาะเชอ้ื นั้น\"  “นกั เรยี นมาสายทาใหเ้ ขตพนื้ ทไี่ มส่ ะอาด\"  “เด็กนักเรยี นทไี่ มช่ อบทานอาหารเชา้ ทาใหส้ ขุ ภาพไมแ่ ขง็ แรง”  “นักเรยี นทไ่ี มร่ บั ผดิ ชอบทาการบา้ นทาใหต้ ดิ 0”  “นกั เรยี นทห่ี นีเรยี นบอ่ ยทาใหส้ อบตก”

ระดบั ของการต้งั คาถาม 2) คาถามระดบั สงู 1) คาถามระดบั พืน้ ฐาน 2.1) คาถามใหอ้ ธบิ าย 2.2) คาถามให้เปรยี บเทยี บ 1.1) คาถามใหส้ งั เกต 2.3) คาถามใหว้ เิ คราะห์ 1.2) คาถามทบทวนความจา 2.4) คาถามใหย้ กตวั อยา่ ง 1.3) คาถามทใี่ หบ้ อกความหมายหรอื คา 2.5) คาถามให้สรปุ จากดั ความ 1.4) คาถามบ่งช้หี รอื ระบุ

คาถามระดบั พ้นื ฐาน คาถามใหส้ งั เกต คาถามทบทวน คาถามทใี่ หบ้ อกความหมาย คาถามบง่ ชห้ี รอื ระบุ ความจา หรอื คาจากัดความ เป็นคาถามที่ใหผ้ ้เู รียน เป็นคาถามทใ่ี ห้ คิดตอบจากการสังเกต เปน็ คาถามทใี่ ช้ เปน็ การถามความ ผู้เรียนบง่ ชห้ี รือระบุ เปน็ คาถามทต่ี ้องการ ทบทวนความรเู้ ดิม เขา้ ใจ โดยการให้ คาตอบจากคาถาม ให้ผเู้ รียนใชป้ ระสาท ของผเู้ รยี น เพอ่ื ใช้ บอกความหมายของ ให้ถูกตอ้ ง ตัวอย่าง สมั ผัสท้งั ห้าในการสืบ เชื่อมโยงไปสคู่ วามรู้ ขอ้ มูลต่าง ๆ คาถาม คน้ หา ใหมก่ ่อนเร่ิมบทเรียน

คาถามระดบั สูง คาถามให้อธบิ าย คาถามใหเ้ ปรียบเทียบ คาถามใหว้ ิเคราะห์ คาถามใหย้ กตวั อย่าง เป็นการถามโดย. เป็นการต้ังคาถามให้ผู้เรยี น. เป็นคาถามให้ผเู้ รียน . เป็นการถามให้ผู้เรยี นใช้ . ใหผ้ ู้เรียนตีความหมาย สามารถจาแนกความ วิเคราะห์ แยกแยะปญั หา ความสามารถในการคิด ขยายความ โดยการให้ เหมือน – ความแตกต่าง จดั หมวดหมู่ วิจารณ์ นามายกตวั อยา่ ง อธบิ าย ของข้อมูลได้ แนวคดิ หรือบอก ตวั อยา่ งคาถาม ความสัมพันธ์และเหตผุ ล

1. ตัง้ ประเด็นปญั หา แนวทางการเปลี่ยน ความสงสัยให้เปน็ 2. สรา้ งสมมตฐิ าน ความรู้ 3. สืบคน้ ข้อมลู สารสนเทศ 4. จัดระบบข้อมูล 5. สรุปองคค์ วามรู้ 6. นาเสนอความรู้

แนวทางการเลอื กประเดน็ ปัญหา ตรงกับความสนใจหรอื ข้อ มีความเหมาะสม สงสัย มคี วามเปน็ ไปได้ สอดคลอ้ งกับความรู้ ความสามารถ คานงึ ถึงปจั จยั สนับสนนุ ตา่ งๆ นามาใช้ประโยชนไ์ ด้ใน ปัจจุบัน

รปู แบบการเขยี น 1.เขยี นแบบคาถาม ประเด็นปัญหา 2.เขยี นแบบบอกเล่า 3.เขยี นเปน็ ประโยคบอกเล่า แล้วตามดว้ ยประโยคคาถาม 4.เขียนแบบสมมติฐาน

สมมติฐาน ประเภทของสมมตฐิ าน 1. สมมติฐานทางการวิจยั 2. สมมตฐิ านทางสถติ ิ = เขยี นข้ึนในลักษณะของ ข้อความอธิบายความสมั พันธ์ = เขียนขนึ้ ในลกั ษณะของ โครงสรา้ งทางคณติ ศาสตร์ โดยใช้ ของตวั แปรที่ศึกษา สัญลกั ษณท์ ่ีเรียกวา่ พารามเิ ตอร์ มาเขียนอธิบายความสมั พนั ธ์ของ 1. สมมตฐิ านแบบมที ิศทาง ตวั แปร 2.สมมตฐิ านแบบไม่มีทิศทาง

ความแตกตา่ งของสมมตฐิ านกบั การ พยากรณ์ การตงั้ สมมติฐาน คอื การทานายผลลว่ งหนา้ โดยไม่ ทราบ ความสัมพันธเ์ กี่ยวข้องระหว่างขอ้ มูล การพยากรณ์ คอื การทานายผลลว่ งหน้าโดยการ ทราบความสัมพันธ์ระหว่างขอ้ มลู ทเี่ กี่ยวขอ้ งในการ ทานายลว่ งหนา้

หลักการตง้ั สมมุติฐาน 1) เกยี่ วขอ้ งกบั ประเดน็ ปญั หา = มุ่งเน้นการอธบิ ายคาตอบของประเดน็ ปัญหา โดยใช้หลักเหตุผลในการ คาดคะเน 2) มคี วามสัมพันธร์ ะหวา่ งตัวแปร = อธบิ ายให้เหน็ ถึงความสมั พนั ธร์ ะหว่างตวั แปรหน่งึ กับตัวแปรหนึง่ เพ่อื ทาให้สมมตฐิ านมคี วามหนกั แน่น น่าเชือ่ ถอื 3) สอดคล้องกับจุดมงุ่ หมาย = อธบิ ายให้เป็นไปในทิศทางเดยี วกันกับจุดมุ่งหมายของประเด็นปัญหา 4) ทดสอบได้ = สามารถทดสอบเพื่อพิสูจนข์ อ้ เท็จจรงิ ได้และสามารถทดสอบซา้ ได้ 5) มีขอบเขตทเ่ี หมาะสม = ควรมขี อบเขตในการคาดคะเนทีเ่ หมาะสม ๆม่แคบหรือกวา้ งจนเกินไป 6) นาไปใชส้ รุปอ้างองิ = สามารถนาไปใชอ้ า้ งองิ ในงานวจิ ัยในลกั ษณะเดยี วกนั ได้

การตั้งสมมตฐิ านที่ดี ควรมีลักษณะดงั นี้ 1. สอดคลอ้ งกบั จดุ มงุ่ หมายของประเดน็ ปญั หา 2. สมมตฐิ านแต่ละข้อควรตอบเพียงประเดน็ เดยี ว 3. สามารถตรวจสอบไดด้ ว้ ยข้อมลู หลกั ฐาน 4. มขี อบเขตที่เหมาะสมไมแ่ คบหรอื กวา้ งเกนิ ไป 5. มพี ลังในการคาดการณส์ งู 6. สามารตอบประเดน็ ปญั หาได้ทกุ ประเด็น 7. สอดคลอ้ งกบั สภาพสงั คมไมข่ ดั ต่อวัฒนธรรม 8. มีทฤษฎี หลักการ หรอื เหตุผลรองรบั 9. ใชภ้ าษาในการสอื่ สารทเี่ หมาะสม และเขา้ ใจงา่ ย 10. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ของตัวแปรได้อยา่ งชดั เจน

ตวั อยา่ งการตงั้ สมมตฐิ าน 1) ขอ้ สงสัย/ข้อสังเกต/ปัญหา : “ความเรว็ รถข้นึ อยู่กบั ปัจจัยอะไรบ้าง” ประเด็นปญั หา : “ขนาดของยางรถยนต์มีผลต่อความเร็วของรถยนต์หรือไม่” สมมติฐาน : “เมอ่ื ขนาดของยางรถยนตใ์ หญข่ ึ้น ความเร็วของรถยนต์จะลดลง” 2) ขอ้ สงสยั /ข้อสงั เกต/ปญั หา : “นกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/6 ชอบอา่ นหนงั สือประเภทใด” ประเด็นปัญหา : “ศึกษาพฤติกรรมการเลือกอ่านหนังสือของนักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ...” สมมติฐาน : “ถา้ นกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ……. มนี ิสัยชอบเพ้อฝัน ดังน้นั นกั เรียน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี…..ชอบอา่ นหนังสือนวนยิ าย” 3) ข้อสงสัย/ข้อสงั เกต/ปญั หา : “ทาไมหญ้าบรเิ วณใตต้ ้นไม้จึงไมง่ อกงามเท่าหญา้ ท่ีอยู่กลางแจง้ ” ประเด็นปญั หา : “แสงแดดมีสว่ นเก่ียว0ข4้อง0ก3ับก0า2รเจริญงอกงามของตน้ หญ้าหรือไม่” สมมติฐาน : “ถา้ แสงแดดมสี ่วนเก่ียวข้องกับการเจริญงอกงามของต้นหญา้ ดังนั้น ต้นหญา้ บรเิ วณทีไ่ ม่ได้รับแสงแดดจะไม่งอกงามหรอื ตายไป” หรือ “ถ้าแสงแดดมสี ่วนเก่ียวขอ้ งกับการเจริญงอกงามของต้นหญ้า ดงั นน้ั ตน้ หญา้ บรเิ วณทไ่ี ด้รบั แสงแดดจะเจรญิ งอกงาม

ประโยชน์ของสมมติฐาน 1. ทาหน้าทเี่ หมือนทิศทาง และแนวทางใน การวิจยั 2. สมมตฐิ านต้องตอบวตั ถปุ ระสงคข์ องการ วจิ ยั ไดอ้ ย่างครบถว้ น 3. สามารถทดสอบและวัดได้ด้วยขอ้ มูล และวิธกี ารทางสถิติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook