Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ebook พร้อมแบบฝึกหัด

ebook พร้อมแบบฝึกหัด

Published by supapornthongkum37, 2023-02-20 14:38:46

Description: ebook พร้อมแบบฝึกหัด

Search

Read the Text Version

เร่ือง เคร่ืองยนต์ 2 จงั หวะ จดั ทำโดย นำยธนำกร ทองชู นำงสำวสุภำพร ทองคำ มหาวทิ ยาลยั บรู พา คณะศึกษาศาสตร์ สาขาเทคโนโลยอี ตุ สาหกรรมศกึ ษา กลุ่มวิชาเทคโนโลยกี ารผลติ

หลกั การทำงานของเครอื่ งยนต์2จงั หวะ ภาพการทำงานของเคร่อื งยนตร์ ถจักรยานยนต์ 2 ช่วงชัก เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (Two-stroke engine ) คือเครื่องยนต์ที่ทำงาน 2 ช่วงชัก คือช่วง ชักที่ 1 คือช่วงชักดูดกบั อัด และ ช่วงชักท่ี 2 คือช่วงชักระเบิดและคาย และเครื่องยนต์ 2 ชว่ งชักจะไมม่ ีวาล์วเปิดปิดไอดีไอเสีย แตจ่ ะใชล้ ูกสบู เปน็ ตวั เปิดปิดไอดีไอเสียแทน ซ่ึง เครื่องยนต์ 2 ช่วงชักจะทำงานรอบจัดกว่าเครื่องยนต์ 4 ช่วงชัก และการเผาไหม้ก็มี ประสิทธิภาพดอ้ ยกว่าดว้ ย ภาพการทำงานของเครื่องยนต์ 2 ช่วงชัก

ชว่ งชกั การทำงานของเครอ่ื งยนต์ 2 ชว่ งชัก สามรถอธิบายโดยละเอยี ดได้ดังน้ี ช่วงชกั ที่ 1 ดูด/อดั :ลกู สูบเคลื่อนทลี่ งจากศนู ย์ตายบนสศู่ นู ย์ตายลา่ ง ในขณะทลี่ กู สบู เคลือ่ นที่ ลงมานนั้ จะจะทำใหช้ ่องพอร์ตไอดเี ปิดไอดีถกู อดั จาก ห้องแครง้ คผ์ ่านเขา้ มาบรรจใุ นหอ้ ง เผาไหมใ้ นตอนนชี้ อ่ งพอรต์ ไอเสยี จะเปิดออก ดว้ ยเชือ้ เพลงิ ท่ีเข้ามาจะชว่ ยขบั ไอเสียจาก การเผาไหม้ดว้ ย ในการทำงานดงั กลา่ วเพลาข้อเหวยี่ งทำงาน1/2 รอบ (ครึง่ รอบ)

ช่วงชักที่ 2 ระเบิด/คาย:ลกู สบู จะเคลอ่ื นที่ขึน้ จากศนู ยต์ ายลา่ งขน้ึ สู่ศนู ยต์ ายบนทำ ให้ชอ่ ง พอร์ตไอดแี ละพอร์ตไอเสียปิดอัดเอาเชือ่ เพลิงใหม้ ปี รมิ าตรเล็กลงใน หอ้ งเผาไหม้ หวั เทียนสง่ ประกายไฟจดุ ระเบดิ เชื้อเพลงิ ลกู สูบเคลื่อนทล่ี งเพราะแรงระเบิดทำ ใหล้ ูกสูบอัด เชื่อเพลิงในหอ้ งแครง้ คแ์ ล้วถกู อดั เข้ามาเมื่อลูกสูบเคล่อื นทลี่ งจนพอร์ตไอดแี ละพอรต์ ไอ เสียเปดิ เชือ้ เพลิงจะขบั ไล่ไอเสยี ออกดว้ ย เพลาขอ้ เหวยี่ งหมนุ ครบ 1 รอบ พอดี เครอ่ื งยนต์ 2 จงั หวะ ( 2 Cycle Engine ) เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (Cycle Engine) เป็นเครื่องยนต์แบบง่าย การทำงาน และชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ มีความยุง่ ยากน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ การนำเอากาศดีเข้าไปในกระบอกสูบและปล่อยอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้ ออกจากกระบอกสูบเกิดขึ้นโดยการเปิดและปิดของลูกสูบเอง เครื่องยนต์ชนิดนี้จึงไม่ จำเป็นต้องมีลน้ิ และกลไกเกีย่ วกบั ลิน้

ลักษณะของเครือ่ งยนต์ 2 จงั หวะ มดี ังน้ี 1. อ่างน้ำมันเครอื่ งปิดสนทิ แตเ่ ครอ่ื งยนตบ์ างแบบมชี อ่ งใหอ้ ากาศหรือไอดีเขา้ เพื่อผ่าน ขึ้นไปในกระบอกสบู 2. ไม่มีเครอื่ งกลไกของล้นิ ลกู สบู จะทำหนา้ ทเ่ี ปน็ ล้นิ เอง 3. กระบอกสูบอย่ใู นลกั ษณะตงั้ ตรง 4. มีชอ่ งไอดี (Inlet Port) เป็นทางใหอ้ ากาศเขา้ ไปภายในกระบอกสูบ โดยอาจจะมี เคร่อื งเปา่ อากาศชว่ ยเป่าเขา้ ไป 5. มีชอ่ งไอเสยี (Exhaust Port) เป็นทางให้อากาศเสยี ท่ีเกดิ จากการเผาไหมอ้ อกไป จากกระบอกสบู การทำงานของเครอื่ งยนต์ 2 จังหวะ มดี ังน้ี 1. จังหวะคายและดูด ลูกสบู จะเคลอ่ื นทจ่ี ากจุดศนู ย์ตายบนลงมาเร่ือยๆ จน ผ่านชอ่ งไอเสยี ไอเสียกจ็ ะผา่ นออกไปทางชอ่ งนี้เมอ่ื ลูกสูบเคลอื่ นตอ่ ไปอีกเล็กนอ้ ย ชอ่ งไอดีกจ็ ะเปดิ ให้อากาศเขา้ ไปในกระบอกสูบและไลไ่ อเสยี ออกไปจนหมดสน้ิ ลกู สูบ จะเคล่อื นลงจนถึงจุดศนู ยต์ ายล่าง 2. จังหวะอัดและระเบิด ลูกสูบจะเคลื่อนจากศูนย์ตายล่างขึ้นไปเรื่อยๆ จนปิด ช่องไอดีและช่องไอเสียตามลำดับ พร้อมกับอัดอากาศไปด้วยเมื่อลูกสูบเคลื่อนเข้าใกล้ จุดศูนยต์ ายบน หวั ฉีดก็จะทำการฉีดน้ำมันเชือ้ เพลิงให้แตกเป็นฝอยเล็กๆ เขา้ ไปกระทบ กับอากาศที่ถูกอัดจนร้อน ทำให้เกิดการเผาไหม้และระเบิดดันลูกสูบให้ทำงาน ใน ขณะเดียวกันไอเสียกจ็ ะมีความดนั สูงดว้ ย เมื่อลูกสูบเคลอ่ื นท่ีลงมาเปิดชอ่ งไอดี อากาศ ก็จะเข้ามาและทำการขับไล่ไอเสียออกไปทางช่องไอเสียเหลือไว้เพียงแต่ไอดใี นห้องเผา ไหมจ้ ะเหน็ ได้วา่ เม่อื เครือ่ งยนต์ทำงานครบ 2 จงั หวะ เพลาขอ้ เหวี่ยงจะหมุนไปได้หน่ึง รอบเม่ือลกู สูบอยู่ท่ตี ำแหน่งศูนย์ตายลา่ งในจังหวะดูด ภายในกระบอกสูบจะมีปริมาตร ทบ่ี รรจสุ ว่ นผสมน้ำมนั และอากาศหรอื อากาศเพียงอย่างเดียว เมอ่ื ลูกสูบเคลอ่ื นท่ีข้ึนใน

จังหวะอัด ปรมิ าตรนี้จะถกู อดั ให้ลดลงตรงส่วนของลูกสูบ เมอ่ื ลูกสบู เคลอื่ นทถี่ ึงจดุ ศูนย์ ตายบนปริมาตรจะมขี นาดเลก็ ทีส่ ดุ บริเวณท่ีมปี รมิ าตรเลก็ นี้ถกู เรยี กว่าห้องเผาไหม้ ช้ินส่วนและหนา้ ท่สี ำคญั ของเครื่องยนต์ ฝาสูบ (Cylinder Head) ทำหนา้ ทีป่ ิดสว่ น Q ของกระบอกสูบ เป็นสว่ นหนึง่ ของ ห้องเผาไหม้ เปน็ ที่ตดิ ตั้งของหวั เทยี น ฝาสบู สว่ นใหญจ่ ะมาจากอะลูมเิ นียมผสม (Aluminium Alloy) เสื้อสูบและกระบอกสบู (Jacket And Cylinder) เปน็ ส่วนประกอบเขา้ ดว้ ยกัน โดยกระบอกสบู จะสวมอัดอยู่ในเส้ือสูบ ทำหนา้ ที่เป็นส่วนหนงึ่ ของหอ้ งเผาไหมแ้ ละ ประคองการเคลื่อนท่ีขนึ้ ลงของลกู สูบ ลกู สบู (Piston) เป็นชน้ิ สว่ นทีเ่ คลื่อนที่ขนึ้ ลงภายในกระบอกสบู เปน็ ส่วนหนึ่ง ของห้องเผาไหม้ ทำหนา้ ทีร่ ับเร่งทเ่ี กิดจากการเผาไหม้สง่ ไปยังก้านสบู ไปยังเพลาขอ้ เหวยี่ ง

แหวนลกู สูบ (Piston Ring) ประกอบอยู่ในร่องสว่ นบน ร่องสว่ นบนของลกู สบู ทำหน้าทปี่ อ้ งกนั การไหลของแก๊สภายในกระบอกสบู ไมใ่ ห้ร่วั ไหลลงสู่หอ้ งเพลาข้อเหวยี่ ง และยงั ช่วยลดการเสยี ดสีระหว่างลูกสบู กบั กระบอกสูบให้นอ้ ยลง สลักสูบ (Piston Pin) ทำหนา้ ทยี่ ึดระหว่างลกู สบู กบั ก้านสบู ใหเ้ ช่ือมตอ่ กนั เพ่ือ ถา่ ยถอดกำลังงาน กา้ นสบู (Connecting Rod) ทำหน้าทถ่ี ่ายทอดกำลังจากลูกสูบในแนวตรง แลว้ สง่ ไปยังเพลาขอ้ เหวี่ยง เพลาขอ้ เหวย่ี ง (Crankshaft) ทำหน้าทร่ี ับกำลังออกจากลกู สูบแลว้ เปลี่ยนการ เคลื่อนท่ใี นแนวเส้นตรงจากก้านสบู ให้เปน็ การเคลอื่ นทีใ่ นแนววงกลมเพอื่ สง่ ไปใชง้ าน ล้อแมเ่ หล็ก (Flywheel Magneto) ในรถจกั ยานยนตส์ ว่ นใหญ่จะใชล้ อ้ แม่เหลก็ เป็นลอ้ ช่วยแรง ประกอบดว้ ยแม่เหล็กถาวร 2 คู่ เพอ่ื หมุนตดั กับขดลวดผลติ กระแสไฟฟา้ และทำหนา้ ท่ตี ุนกำลงั งานจากการหมุนของเพลาขอ้ เหว่ียง เพ่อื ใชใ้ น จังหวะท่เี ครื่องยนต์ไม่มกี ำลงั การบำรงุ รกั ษาเคร่อื งยนต์ 2 จงั หวะ มอเตอร์ไซด์ 2 จังหวะทุกๆคนั น้นั เมื่อใช้ไปสักระยะหนงึ่ จะเกิดการสึกหลอตาม อายกุ ารใชง้ าน ส่งผลทำใหก้ ารใช้งานของชิน้ ส่วนดังกลา่ ว คลาดเคลือ่ นไมถ่ ูกตอ้ ง ส่งผล ให้ประสิทธภิ าพในการขับขีล่ ดน้อยลง ซง่ึ หากปล่อยเลยตามเลยโดนไม่มกี ารบำรงุ รกั ษา ตามระยะเวลาที่กำหนดมาจากโรงงาน กส็ ง่ ผลใหช้ ิ้นส่วนต่างๆในมอเตอร์ไซด์ 2 จงั หวะ สึกหรอไดห้ รือเสยี ใหใ้ นเวลาที่รวดเรว็ ดงั น้ัน การบำรงุ รกั ษา จึงเปน็ ส่งิ ทีจ่ ำเปน็ อย่างย่งิ สำหรบั มอเตอรไ์ ซดท์ ุกคนั น้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ เพื่อช่วยให้เกียร์และครัชทำงานอย่างมา ประสิทธิภาพอยู่เสมอ ควรจะดูแลระดับนำ้ มันเกียร์ให้อยู่ในระดับที่ถกู ต้อง และเปลี่ยน ถ่ายตามระยะการบำรงุ รกั ษา และถา้ ใช้รถในขณะทมี่ ีนำ้ มันเกยี ร์นอ้ ย หรอื ใช้นำ้ มันเกียร์

คณุ ภาพตำ่ หรอื น้ำมันเกียรท์ ี่สกปรก จะทำใหเ้ ฟืองเกียร์และครัตชส์ ึกหรอไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว หรอื ทำให้ครตั ชห์ รือเกยี ร์ไหม้ อาจทำให้เกดิ อนั ตรายในการขบั ขีไ่ ด้ หัวเทียน ถ้าหัวเทียนมีคราบเขม่าจับมากให้ทำความสะอาดโดยใช้เครื่องล้างหัวเทียน แล้วนำไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำมันเบนซิน แล้วปัดด้วยแปรงทองเหลือพร้อมวัด ระยะห่างของเขี้ยวตามค่าที่กำหนดมากับรถ ถ้าเขี้ยวแกนกลางสึกหรอมาก หรือ กระเบ้อื งฉนวนแตกรา้ ว ใหเ้ ปลี่ยนหวั เทียนใหม่

หม้อกรองอากาศ ใส้กรองอากาศที่สกปรกหรอื อดุ ตัน จะทำให้สิ้นเปลอื งน้ำมันเชอ้ื เพลิง เครอื่ งยนต์ไม่มกี ำลงั และหัวเทียนบอดงา่ ย ใส้กรองอากาศจะต้องทำความสะอาดและ เปลีย่ นตามระยะเวลาท่ีกำหนดในตารางบำรุงรักษาของรถมอเตอรไ์ ซด์คนั นน้ั ๆ ถ้าใช้รถ ในทางที่มฝี ุ่นมากจะตอ้ งทำความสะอาดไส้กรองอากาศให้บอ่ ยขนึ้ ถ้าไส้กรองฉกี ขาด จะตอ้ งเปล่ยี นใหมท่ นั ที สายคนั เร่ง สายเร่งจะทำหนา้ ท่เี ร่งและเบาเครื่องยนตแ์ ละปัน้ นำ้ มนั หลอ่ ล่ืนใหท้ ำงาน สมั พันธ์กนั กับความเร็วรอบของเครอื่ ง ควรจะปรับต้งั และตรวจเช็คสายคันเร่ง ตาม ตารางระยะเวลาการบำรุงรักษา

การตรวจเช็คสายคนั เรง่ - ตรวจดปู ลายของปลอกสายคนั เร่งว่า ประกอบเขา้ ท่ีอยูใ่ นร่องชุดปรับตัวทค่ี ารบ์ เู รเตอร์ หรือไม่ - ตรวจเชค็ ระยะฟรีของปลอกคันเรง่ ขณะปดิ คันเรง่ จะตอ้ งมีระยะฟรี 2-3 มม.ถา้ ผดิ จาก นตี้ อ้ งปรบั ต้ังใหม่ การปรบั ระยะฟรี - คลายนอ๊ ตลอ๊ ก A ที่สายคันเรง่ และหมุนน๊อตปรบั B จนกระทง่ั ได้ระยะฟรี 2-3 มม. ขนั น๊อต A ใหแ้ น่น สายเร่งปม้ั น้ำมนั หลอ่ ล่ืน - เชค็ ดปู ลอกนอกของสายปั๊มวา่ สวมอยู่ในบ่าของตวั ปรับถกู ตอ้ งหรอื ไม่ และตรวจดสู าย เรง่ ปั๊มว่าสวมอย่ใู นรอ่ งของแขนคนั เร่งป๊ัมเรียบร้อยหรอื แนน่ หรอื ไม่ - เช็คดูความสมั พนั ธข์ องปั๊มน้ำมันกบั คาร์บูเรเตอรข์ ณะเดินเบาเครื่องยนตโ์ ดนการบดิ คันเรง่ ชา้ ๆและฟงั เสียงเครือ่ งยนต์ เม่ือเครอ่ื งเร่ิมเรง่ ให้ถอนคนั เร่ง - ไม่ตอ้ งบิดคันเรง่ และตรวจดูมาร์คท่ีคันเรง่ ปั๊มกับมาร์คทเ่ี สอ้ื ปั๊ม จะตอ้ งตรงกนั ถ้าไม่ ตรงกนั ต้องทำการปรับต้องใหม่ การปรบั ต้งั ปั๊ม - ตดิ เคร่ืองยนต์

- คลายนอ็ ตลอ้ กที่ต้งั ปรบั ต้งั ทส่ี ายเรง่ ปั๊ม และหมุนตวั ปรับจนกระทง้ั เคร่ืองหมายมาร์ค บนคันเร่งปั๊มตรงกบั มารค์ ท่ีเสอ้ื ป๊ัมในขณะทเี่ คร่อื งยนต์เรม่ิ เร่ง - ขันน็อตใหแ้ นน่ - ตรวจเช็คระยะฟรขี องปลอกคนั เร่ง - ปดิ ฝาครอบป๊ัม คารบ์ ูเรเตอร์ ขน้ั ตอนตอ่ ไปน้จี ะเป็นวธิ ีการตรวจเช็คความเรว็ รอบเดนิ เบาของเครอื่ งยนต์ ซ่ึงจะ กระทำเมื่อทำการตรวจซอ่ มบำรุงรกั ษา ตามตารางการบำรงุ รักษา หรือิ เมือ่ เครื่องยนต์มี อาการเดนิ เบาผิดปกติ เม่อื เครื่องยนตเ์ ดนิ เบารอบต่ำเกนิ ไปจะทำใหเ้ ครอ่ื งยนตด์ บั ไดง้ า่ ย ถา้ เครอื่ งยนตเ์ ดินเบารอบสงู เกินไปก็จะทำให้สน้ิ เปลืองนำ้ มนั เชือ้ เพลิง และผลทีต่ ามมา คือทำให้การควบคุมรถขณะขบั ขยี่ ากมากขึ้น

การตรวจเช็คคารบ์ ูเรเตอร์ - ติดเครอ่ื งยนตแ์ ละอนุ่ เครือ่ งยนตไ์ ว้ 5 นาที - ความเร็วรอบเครือ่ งเดินเบาส่วนใหญ่อยู่ที่ 1200-1300 รอบ/นาที - ถ้าความเรว็ รอบเดนิ เบาตา่ งไปจากนี้ใหท้ ำการปรบั ตงั้ ใหม่โดยการหมุนสกรูปรบั เดนิ เบา ทค่ี ารบ์ ูเรเตอร์ ครตั ช์ ควรตรวจการสกึ หรอของแผน่ คลัตชแ์ ละปรับตง้ั สายคลัตช์เมื่อใช้รถเป็นระยะเวลานานๆ คลัตช์ควรไดร้ ับการตรวจเชค็ ตามตารางระยะเวลาการบำรงุ รักษา คำเตือน : ระวังความรอ้ น ไม่ควรแตะเคร่ืองยนต์ , ท่อไอเสยี ในระหวา่ งทีป่ รับตัง้ คลตั ช์ ขณะเครื่องรอ้ น ขั้นตอนการตรวจเช็คคลัตช์ - เชค็ ระยะฟรีของสายคลตั ช์ให้อยู่ชว่ ง 2-3 มม. - ถ้าระยะฟรขี องคลัตชไ์ มถ่ กู ต้องใหป้ รบั ตั้งใหม่

เคร่ืองยนต์ 2 จงั หวะ สามารถแบ่งไดเ้ ปน็ 4 แบบ คอื 1. แบบลูกสูบ (Piston Valve Type)เคร่อื งยนตแ์ บบนี้ การบรรจไุ อดี และการถ่ายไอ เสีย จะใชส่ ่วนบนและล่างของลกู สบู เปน็ ตวั กำหนด เวลาชอ่ งปดิ เปดิ ชอ่ งไอดี-ไอเสีย ดงั นั้นตำแหนง่ การบรรจุไอดี และคายไอเสียจงึ คงทต่ี ลอดเวลา 2. แบบรีดวาลว์ (Reed Valve)เคร่อื งยนตแ์ บบน้ไี ดม้ กี ารปรบั ปรงุ เพือ่ ปอ้ งกันสาเหตุท่ีไอ ดสี ามารถไหลยอ้ นกลับไปทางคารบ์ ูเรเตอร์ โดยกการตดิ ตั้งล้ินกบั กลบั ทเี่ รียกวา่ \"รดี วาล์ว\" (Reed \"Valve) ซึ่งทำจากแผน่ เหลก็ สปริงทีม่ คี วามเหนยี วและแข็งแรงตอ่ แรง กระแทกได้ดี 3. แบบโรตาร่ี (Rotary Valve)เคร่ืองยนต์แบบนี้การคายไอเสยี จะใช้สว่ นบนของลกู สบู เปิดหรอื ปิดช่องไอเสยี การบรรจุไอดีเข้าห้องเพลาขอ้ เหวย่ี งจะใช้แผน่ โรตารี่วาลว์ เปดิ หรอื ปิดช่องไอดี ดังนั้นการบรรจไุ อดีเพม่ิ หรอื ลดจึงทำไดโ้ ดยงา่ ย อัตราแร่งและกำลงั ของ เครอ่ื งยนตจ์ ะมมี ากทค่ี วามเร็วต่ำและสงู 4. แบบเพาเวอรร์ ีด (Power Reed)เคร่ืองยนต์แบบนจ้ี ะเป็นการทำงานร่วมกันระหวา่ ง แบบลกู สบู กับแบบรีดวาลว์ ซง่ึ ทำใหป้ ระสิทธิภาพของเครือ่ งยนตส์ งู ทั้งขณะที่ เครื่องยนต์มคี วามเร็วรอบตำ่ และสูง 5. แบบแครง้ ค์เคสรดี วาลว์ (Crank Case Reed Valve)เครอ่ื งยนต์แบบน้จี ะใหไ้ อดีไหล เข้าในห้องเพลาขอ้ เหวี่ยงโดยตรง (ไม่ผ่านเส้อื สบู ) และใช้รดี วาลว์ เป็นอุปกรณป์ ้องกนั การไหลกลับการไหลของไอดีเช่นเดยี วกนั กบั แบบรดี วาล์ว ทำใหร้ ะยะทางการไหลของไอ ดสี ้ันลงทำใหส้ ามารถบรรจุไอดีเข้าสู่หอ้ งเผาไหม้ได้อยา่ งรวดเรว็ ซึ่งมผี ลใหร้ ถมีอัตราเรง่ ดีขนึ้

แบบฝึกหัด 1. ฝาสูบ (Cylinder Head) มีหน้าที่อะไร ………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… 2. เพลาข้อเหวย่ี ง (Crankshaft ) มหี นา้ ที่อะไร ………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ลูกสบู (Piston) มหี นา้ ที่อะไร ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… 4. กา้ นสูบ (Connecting Rod ) มหี นา้ ท่ีอะไร ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… 5. เสอื้ สูบและกระบอกสบู (Jacket And Cylinder ) มหี นา้ ท่ีอะไร ………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………

แบบฝึกหัด 1.เครอ่ื งยนต์ 2 จังหวะแบ่งเป็นกแ่ี บบ และมีอะไรบา้ ง ................................................................................................................................ ........................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... 2.นักเรยี นคิดว่าการบำรงุ รักษาเครอ่ื งจักรยานยนต์เลก็ สำคญั หรือไม่เพราะอะไร ................................................................................................................................ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 3.หลกั การทำงานเครอ่ื งยนต์ 2 จังหวะ มีก่ชี ่วงชักและอธิบายมาพอสังเขป ................................................................................................................................ ........................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................

แบบฝกึ หัด 1. ภาพนี้คอื การทำงานของชว่ งชักที่เทา่ ไหร่ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 2.การตรวจเชค็ คาบูเรเตอร์ทำอยา่ งไร ................................................................................................................................ ........................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................

บรรณานกุ รม หลักการทำงานของเคร่ืองยนต์2จงั หวะ http://technologyengineworks.blogspot.com/2015/09/2.html การบำรงุ รกั ษาเคร่ืองยนต์ http://xn--2-6wfc9jta5ad.blogspot.com/2013/08/blog-post.html


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook