สิง่ ดีทส่ี ดุ ส ำหรบั ลกู ชยสาโร ภกิ ขุ พิมพแ์ จกเปน็ ธรรมบรรณาการด ้วยศรทั ธาข องญาตโิ ยม ห ากท ่านไม่ได้ใช้ประโยชน์จากห นังสือนีแ้ ล้ว โปรดมอบใหก้ บั ผอู้ ืน่ ท่ีจะได้ใช้จะเป็นบญุ เป็นกุศลอ ย่างยิ่ง
สง่ิ ดที ีส่ ดุ ส ำหรับลูก ชยสาโร ภกิ ขุ พิมพแ์ จกเปน็ ธรรมท าน ส งวนลขิ สทิ ธ์ิ หา้ มคัดลอก ตัดตอน หรอื นำไปพมิ พ์จำหน่าย หากทา่ นใดประสงค์จะพมิ พ์แจกเปน็ ธรรมทาน โปรดตดิ ต่อ กองทุนสื่อธรรมะทอสี และมูลนธิ ิปญั ญาประทีป ๑๐๒๓/๔๖ ซอยปรดี พี นมยงค์ ๔๑ สขุ มุ วทิ ๗๑ เขตวฒั นา กทม. ๑๐๑๑๐ โทรศัพท์ ๐-๒๗๑๓-๓๖๗๔ www.thawsischool.com, www.panyaprateep.org พิมพ์ครงั้ ท ี่ ๑ - ๔ กุมภาพันธ ์ - กันยายน ๒๕๕๑ จำนวน ๑๖,๐๐๐ เลม่ พิมพค์ รงั้ ท ่ี ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ จำนวน ๕,๐๐๐ เลม่ ขอขอบคุณและอนุโมทนา คุณจนั ทร์เพ็ญ ศิวะพรชยั ผู้ถอดเทป คุณชนนิ ทร แยม้ สอาด ผตู้ รวจทาน ศลิ ปกรรม วชิ ชุ เสรมิ สวสั ดศ์ิ รี จ ดั ทำโดยกองทุนส่อื ธรรมะทอสี และมูลนิธิปัญญาประทปี ด ำเนนิ การพิมพโ์ ดย บรษิ ัท ควิ พริ้นท์ แมเนจเม้นท์ จำกัด โทรศพั ท์ ๐-๒๘๐๐-๒๒๙๒ โทรสาร ๐-๒๘๐๐-๓๖๔๙
คำนำ หนงั สอื เรอื่ ง“ส งิ่ ด ที สี่ ดุ ส ำหรบั ล กู ”เปน็ ธ รรมเทศนาท ี่ พระอ าจ ารย ช์ ยส าโรเมตตาแ สดงใหแ้ กผ่ ปู้ กครองคณะค รูแ ละ ญ าตโิ ยมท ว่ั ไปท โ่ี รงเรยี นท อส ี ในว นั ท ่ี๗ ม กราคม๒ ๕๕๑ซ ง่ึ เปน็ วนั คลา้ ยว ันเกดิ ค รบ๕ ๐ป ขี องพระอ าจารย์ เราท กุ ค นผ เู้ ปน็ พ อ่ แ ม่ ต า่ งป รารถนาท จ่ี ะใหส้ ง่ิ ด ที สี่ ดุ กบั ล กู ห ลานข องเราแ ตอ่ ะไร ค อื ส ง่ิ ด ที ส่ี ดุ ? ค วามร ู้ เงนิ ท อง สมบตั พิ ัสถานชื่อเสียงเกยี รตยิ ศ? ท กุ ว นั น เี้ ราต า่ งท ำงานห นกั จ นไมม่ เี วลาใหก้ บั ล กู เพอ่ื จะห าเงนิ ห าท องม าเพอ่ื ส ง่ เสยี ใหล้ กู เรยี นในโรงเรยี นท ด่ี ที สี่ ดุ และใ หส้ งู ท ส่ี ดุ แ ตล่ กู ย งั ก ลบั ว า้ เหว่ โดดเดยี่ วโหยห าความ รกั จ ากท กุ ค นค วามร ผู้ า่ นร ะบบก ารศ กึ ษาท ไี่ ดร้ บั ท ำใหเ้ ขา มคี วามสขุ ขน้ึ บ้างห รอื ไม่?เกดิ อะไรขน้ึ กับวธิ ีค ิดวิธปี ฏิบัติ ของค นผู้เปน็ พ อ่ แ มใ่ นปัจจบุ นั
ในหนังสือเล่มนี้ จะมีคำตอบซึ่งเป็นเสมือนเข็มทิศ หรือแผนท่ีท่เี ราจ ะม นั่ ใจไดว้ ่าส งิ่ ท ีเ่ราจะใ ห้ก ับล กู น้ันเป็น สิ่งท่ีถูกต้องและดีงาม ที่จะไม่เป็นไปเพ่ือสร้างความทุกข์ ความเดือดร้อน แต่เป็นไปเพ่ือสร้างประโยชน์และความ สุขทั้งแก่ตนเองและสังคม ทั้งในปัจจุบันและอนาคต และ จะเป็นส ง่ิ ทีม่ ีคณุ ค่าย ่ิงก บั ช ีวิตข องผ ้ทู ี่เราร ักท่สี ดุ คณะผู้จัดพิมพ์ขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ ที่เมตตาอบรมส่ังสอน ให้กำลังใจและให้การสนับสนุน บุญกุศลอันใดที่เกิดจากการพัฒนาการศึกษาวิถีพุทธให้ เจรญิ กา้ วหนา้ ซ่ึงจะย ังความสงบร ม่ เยน็ ใ ห้เกดิ ข นึ้ ใ นส งั คม และการให้ธรรมะเป็นทาน ขอน้อมถวายเป็นอาจาริยบูชา เพ่ือระลึกถ ึงพระคุณข องท่านทม่ี ีต อ่ ล ูกศษิ ย์ตลอดมา ค ณะศ ิษยานุศษิ ย์ ก มุ ภาพันธ์ ๒ ๕๕๑
7 ส่งิ ด ที ่ีสุดส ำหรบั ลกู ธรรมเทศนาพ ระอ าจารย์ ช ยส าโร โรงเรยี นทอสี๗ ม กราคม๒๕๕๑ ถา้ มใี ครถามวา่ เราตอ้ งการอะไรใหก้ บั ลกู หลาน ของเรา ทุกคนก็ต้องตอบเสียงเดียวกันว่าต้องการส่งิ ท่ีดีท่ีสุด แต่ปัญหาอยู่ท่ีการตัดสินว่าอะไรคือส่ิงท่ีดี ทส่ี ดุ เจตนาท ด่ี คี วามหวงั ดี ความรกั ก ม็ อี ยแู่ ลว้ แ นน่ อน แต่ถ้าเจตนาน้ันขาดปัญญา อาจจะนำไปสู่ส่ิงท่ีไม่ ปรารถนากไ็ ด้ หรอื แมแ้ ตส่ ง่ิ ตรงขา้ มกบั ทต่ี นปรารถนา กไ็ ด้ ในพระพทุ ธศาสนาจงึ เนน้ อยเู่ สมอวา่ จ ติ ใจของเรา ตอ้ งประกอบดว้ ยนำ้ ใจดว้ ยความบรสิ ทุ ธใ์ิ จและดว้ ย ปญั ญาเปน็ เครอ่ื งก ำกบั
8 ในการศึกษาก็เช่นเดียวกัน เราต้องการให้ ลูกหลานได้รับการศึกษาท่ีดีท่ีสุด แล้วการศึกษา ที่ดีท่ีสุดมันเป็นอย่างไร ในเร่ืองนี้ก็มีหลายความ เห็น ในยุคปัจจุบันเราอยู่ใต้อิทธิพลของความคิดท่ี ยกเร่อื งเศรษฐกิจเปน็ ใหญ่ลูกจะได้ประโยชนอ์ ะไรก ็ ไมส่ ำคญั เทา่ กบั ท จ่ี ะไดค้ วามร ทู้ จ่ี ะใ ชใ้ นก ารป ระกอบ อาชีพต อ่ ไปน ี่ก็เป็นค วามเช่อื เปน็ ค วามค ิดท ี่เราค วร จะก ลนั่ ก รองค วรจะท บทวนอีกที เมอื่ เราไดห้ าข อ้ มลู ใ นเรอ่ื งก ารร บั ค นเขา้ ท ำงาน แล้วป รากฏว า่ ผใู้ หญห่ รือเจ้าของบ ริษทั ตา่ งๆ ม ักจ ะ บน่ ว า่ ค วามรขู้ องค นท เี่ พง่ิ จ บก ารศ กึ ษาไมท่ นั ก บั ค วาม เปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างเช่นเรื่อง Software ที่ใช้ใน บริษัทC omputerไม่กเี่ ดือนม นั กเ็ ปลย่ี นไปแ ลว้ อ งค์ ความรู้ท่ีได้จากการเรียนในระดับอุดมศึกษาจะหมด
9 ความห มายภ ายในไมก่ ปี่ ี เมอ่ื เทคโนโลยเี ปลยี่ นแปลง รวดเร็ว สังคมเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โลกทั้งโลกก็ เปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็วอ ย่างเชน่ เรอื่ งทีน่ ่ากลัวคือ ภาวะโลกร้อนเปน็ ตน้ ถ า้ เปน็ อ ยา่ งน ้ีเราค วรถ ามต วั เองว า่ ในเมอ่ื เราอ ยู่ ในส ง่ิ แ วดลอ้ มท เ่ี ปลย่ี นแปลงอ ยา่ งร วดเรว็ แ ละเปลย่ี น ในท ศิ ทางท เ่ี ราป ระมาณห รอื ค าดล ว่ งห นา้ ไดย้ ากอ ะไร คอื ส ง่ิ ท ส่ี ำคญั ท ส่ี ดุ ห รอื ด ที ส่ี ดุ ท ล่ี กู ห รอื ห ลานเราค วรจ ะ ไดร้ บั ตรงจดุ น จ้ี ะเหน็ ทา่ ทขี องพ ทุ ธศาสนาทช่ี ดั เจนวา่ ไมไ่ ดเ้ รม่ิ ตน้ ดว้ ยปรชั ญาไมไ่ ดเ้ รม่ิ ตน้ ดว้ ยสง่ิ ทม่ี องไม่ เห็นหรือส่งิ ท่ีต้องรับด้วยความเช่อื อย่างเดียว แต่เร่มิ ตน้ ด ว้ ยค วามจ รงิ ของช วี ติ เทา่ ทเ่ี ราเหน็ ได้ เรื่องภาวะโลกร้อน เร่ืองความเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องท่ีจะต้องไปเชื่อเนื่องจากว่า
10 เป็นคำสอนของพระศาสนา แต่เป็นการสรุปจากส่ิง ท่ีเป็นข่าว ส่ิงที่เราเห็นรอบตัวอยู่ตลอดเวลา คำสอน ของพระพุทธศาสนาเป็นคำสอนที่ตั้งไว้บนฐานแห่ง สจั ธ รรมค วามจ รงิ ท เี่ ปน็ กล างโดยถ อื วา่ ไมใ่ ชข่ องใ คร ของศ าสนาใดโดยถ อื วา่ เมอื่ ธ รรมชาติ เมอ่ื ช วี ติ เราเปน็ อย่างนี้ เราควรจะดำเนินชีวิตอย่างไรมันจึงจะดีท่ีสุด และสิ่งที่ดีท่ีสุดนั้น ท่ีท่านให้ชื่อว่า จริยธรรม คือการ ประพฤตปิ ฏบิ ตั ทิ ต่ี รงส อดคลอ้ งก บั ค วามจ รงิ ข องช วี ติ โดยถ อื วา่ ม นษุ ยเ์ ราท กุ ค นต อ้ งการค วามส ขุ ไมต่ อ้ งการ ความทุกข์ ส ำหรบั ส ตั ว์ทตี่ อ้ งการความสุขไมต่ ้องการ ความทุกข์แล้ว เมื่อชีวิตเป็นอย่างนี้ เมื่อโลกที่เราอยู่ อาศัยเป็นอ ยา่ งน ้ี อ ะไรค ือส ง่ิ ท่ีดีที่สุดท ีเ่ ราควรจ ะหวัง สำหรับตัวเองส ำหรับครอบครวั ส ำหรับล กู หลาน ความเห็นของอาตมาก็ค ือว ่าว ชิ าค วามร ตู้ ่างๆ
11 เปน็ ส ่วนส ำคัญข องชวี ติ เราจะเห็นชัดว่าพทุ ธศาสนา ไม่เคยมองข้าม หรือดูแคลนความสำคัญของเรื่อง น้ี ซึ่งมีหลักฐานที่ชัดเจนท้ังในมงคลสูตร มีหลักฐาน ท่ีชัดเจนของการเป็นสุตะหรือพหูสูต เป็นผู้เล่าเรียน ศึกษามาก เป็นผู้ท่ีได้รับการยกย่องในพระศาสนา และสุตะน้ัน ผู้ได้ยินได้ฟังมากมีความรู้มาก ก็เป็น เอกลักษณ์ หรือข้อธรรมข้อหน่ึงที่เห็นชัดในพระ โสดาบ ันห รือพ ระอ ริยะเจ้าใ นระดับแ รกสรุปว ่าวิชา ความรู้ต่าง ๆ เป็นส่ิงสำคัญ ส่ิงจำเป็นในชีวิต แต่ อาตมาเห็นว่าเราต้องจัดลำดับความสำคัญใหม่โดย เอาสิ่งสูงสุดหรือส่ิงที่เป็นเป้าหมายชีวิตเป็นตัวตัดสิน ว่าค วรจะเนน้ ใ นส่วนไหนในการศ กึ ษา พ ระพุทธศาสนาเป็นศ าสนาท ีพ่ เิ ศษไม่เหมอื น ใคร เมื่อเดือนท่ีแล้วอาตมาได้ไปประชุมท่ีประเทศ
12 มาเลเซียพ ระเถระผ ู้ใหญ่ร ูปห นึง่ ได้ต ้ังข อ้ ส งั เกตว่าใน สารานกุ รมศ าสนาท ใ่ี ชเ้ ปน็ ห นงั สอื อ า้ งองิ ท ว่ั โลกม คี ำ จำกดั ค วามคำว่าศาสนาอยู่ ๑ ๐ข้อป รากฏวา่ ไม่มขี ้อ ไหนตรงกับพุทธศาสนาแม้แต่ข้อเดียว ตามมติ หรือ คำนิยามของนักวิชาการตะวันตกพุทธศาสนาไม่ใช่ ศาสนา หรือไม่ใช่ Religion ชาวตะวันตกมักจะมอง พทุ ธศ าสนาแ บบง งๆ บ างทเี ขาจ ะถ ามว า่ พ ทุ ธศ าสนา เป็น ศาสนา หรือเป็น ปรัชญา หรือเป็นวิถีชีวิตแบบ หนึง่ เปน็ ต้น ถา้ เราต อบต ามท เ่ี ขาถ ามก ไ็ มถ่ กู ต อ้ งน กั ป ราชญ์ จะรดู้ วี า่ เมอ่ื ใครถามส ง่ิ ใดไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งตอบต ามทเ่ี ขา ถามเพราะก ารต อบตามท เ่ี ขาถ ามเปน็ การยอมรบั อยู่ ในต วั ว า่ เหน็ ด ว้ ยก บั ม มุ ม องข องเขาว า่ ศ าสนาก ต็ อ้ งเปน็ อยา่ งท เ่ี ขาใหค้ ำน ยิ ามป รชั ญาก ต็ อ้ งเปน็ อ ยา่ งน ้ีว ถิ ชี วี ติ
13 ก็ตอ้ งเปน็ อยา่ งน้ี ศาสนาพทุ ธมีบางสว่ นท่จี ะมองเปน็ ศาสนาได้ บางส ว่ นม องเปน็ วทิ ยาศาสตรไ์ ด้ แตม่ องใน บางแงบ่ างมมุ เปน็ จติ ศาสตรก์ ไ็ ด้ มองในบางมมุ กเ็ ปน็ ปรชั ญาได้เราไมไ่ ดแ้ ยกแยะแ บบน น้ั เพราะข องเราเปน็ ระบบอ งคร์ วม แต่ถ้าจะให้สรุปเป็นคำเดียว ศัพท์เดียวก็ต้อง เรียกว่าเป็นระบบการศึกษา ท่ีเรียกว่าเป็นระบบการ ศึกษาเพราะถือว่าคำสอนในศาสนา มีหน้าท่ีช่วยคน พฒั นาต นเองใหพ้ น้ จ ากท กุ ขท์ งั้ ป วงใหเ้ ขา้ ถ งึ ค วามส ขุ ทแ่ี ทจ้ รงิ ค ำส อนท ที่ า่ นบ อกว า่ ม ี ๘ ๔,๐๐๐ข อ้ น น้ั ล ว้ น แตเ่ ปน็ ว ธิ กี ารเปน็ เครอื่ งม อื ท จี่ ะช ว่ ยช ำระก ายว าจาใจ การทำให้ส่ิงที่ไม่ดีไม่งามลดน้อยลง หรือหายไปจาก ชีวติ ทำส ่งิ ท ีด่ ีงามใหเ้ กดิ ข น้ึ ใ หเ้ จริญง อกงามใ หถ้ งึ ที่ สดุ ต อ้ งเรยี กว า่ การศ กึ ษาก ารศ กึ ษาท อี่ งคส์ มเดจ็ พ ระ
14 สัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงประทานให้พวกเราน้ันต้อง เรียกว่าเป็นการศึกษาท่ีสมบูรณ์บริบูรณ์ ผู้ใดปฏิบัติ ถงึ ข นั้ ท เี่ รยี กว า่ จ บก ารศ กึ ษาก เ็ ปน็ พ ระอ รห นั ต ์ ผ ยู้ งั ไม่ ถงึ ข นั้ พ ระอ รห นั ต เ์ รยี กว า่ เปน็ ผ ทู้ ยี่ งั ต อ้ งการก ารศ กึ ษา ยงั ไม่จบการศ ึกษา ในระบบการศึกษาทั่วไป เช่นการศึกษาของ โรงเรียน แน่นอนว่าเราไม่ได้มุ่งจะให้เด็กนักเรียน เปน็ พระอรหนั ต์ไมต่ อ้ งการใหค้ รเูปน็ พระอ รหันต ์แต่ ถือว่าเม่ือมีหลักใหญ่ในอริยมรรคมีองค์แปด ซึ่งเป็น ระบบการศึกษาท่ีสมบูรณ์ท่ีสุดท่ีเคยปรากฏในโลก มนุษย์ เมื่อเราจับหลักใหญ่น้ีได้แล้ว เราสามารถดึง ออกได้หลายข้อ ทำเป็นระบบการศึกษาสำหรับคน ธรรมดาที่อยู่ในโลกในลักษณะท่ีสอดคล้องเป็นอัน หนง่ึ อ นั เดยี วกนั ก บั ห ลกั ใหญ่ ก ารท เี่ ราจ ะพ ฒั นาร ะบบ
15 การศึกษาแนวพุทธน้ันก็อยู่ท่ีการจับหลักใหญ่ แล้ว ประยกุ ตใ์ ชก้ บั ค วามต อ้ งการข องร ะบบก ารศ กึ ษาโดย มบี างส ว่ นท ต่ี อ้ งเนน้ ม ากน อ้ ยอ ยา่ งเชน่ เรอ่ื งสตุ ะเรอ่ื ง การเรยี นรตู้ า่ งๆแ ละอ าจจ ะม บี างส ว่ นท เี่ นน้ น อ้ ยอ ยา่ ง เชน่ เรื่องสมาธิว ปิ ัสสนาธรรมะข ั้นส งู อยา่ งไรก ต็ ามถ งึ แ มจ้ ะไมไ่ ดเ้ อาในท กุ ๆ ข อ้ ห รอื ในท กุ ๆ ขนั้ ก ย็ งั ถ อื ห ลกั ว า่ การพ ฒั นาม นษุ ยท์ จี่ ะไดผ้ ล ต้องมีส่วนการฝึกอบรมท้ังทางพฤติกรรม หรือกาย วาจา ท้ังทางจิตใจและปัญญาพร้อมๆกันไป แม้แต่ ในการศึกษาเล่าเรียนวิชาความรู้ต่าง ๆ เราน่าจะ เห็นได้ว่าไม่ใช่เร่ืองไอคิว หรือความฉลาดอย่างเดียว พฤติกรรมและอารมณ์ของเด็กนักเรียนมีผลต่อการ ศึกษาอยตู่ ลอดเวลาเอาง า่ ยๆ ถ ้าเดก็ นกั เรยี นนอน ไมเ่ ปน็ เวลาก นิ ไมเ่ ปน็ เวลาไมส่ ำรวมอ นิ ทรยี ์ เวลาจ ะ
16 เรยี นห นงั สอื ก ง็ ว่ งห รอื ว า่ จ ติ ใจฟ งุ้ ซ า่ นว นุ่ ว ายก เ็ รยี นไม่ คอ่ ยได้ อ นั นง้ี า่ ยสดุ เหน็ ไดช้ ดั เรอื่ งอ ารมณก์ เ็ ชน่ เดยี วกนั เดก็ ห ลายค นอ าจจ ะ ฉลาดแ ตเ่ พราะว า่ จ ติ ใจเศรา้ ห มองบ างทกี ม็ คี วามซ มึ เศรา้ บ างทกี ต็ ดิ เพอ่ื นม ากเกนิ ไปม อี ารมณโ์ กรธอ จิ ฉา เป็นเด็กที่รักสวยรักงาม ชอบเท่ียวชอบสนุก อารมณ์ เหลา่ น ค้ี รอบงำจ ติ ใจแ ลว้ ส ตปิ ญั ญาค วามฉ ลาดต า่ งๆ ก็ไม่มีโอกาสทำหน้าท่ีของมันได้ เพราะส่ิงเหล่านี้ไม่ สามารถแยกส่วนออกจากกันได้ในชีวิตของคน เม่ือ อ่านตำราเร่ืองวิทยาศาสตร์ หรือศาสตร์นั้นศาสตร์น้ี ก็ไมไ่ดก้ ล่าวถึงอ ารมณข์ องผ้เู รยี นไมไ่ ด้ก ล่าวถงึ ช ีวติ ครอบครัวห รอื ว ่านิสัยใจคอของผู้เรียนแต่ใ นช ีวิตจ รงิ ของค นเราก ต็ ้องยอมรับว ่าเร่อื งนมี้ ีส่วนส ำคัญ เมอ่ื เราเหน็ เชน่ น แ้ี ลว้ เราน า่ จ ะส รปุ ว า่ แ มแ้ ตใ่ น
17 เรอ่ื งก ารเรยี นในค วามห มายท วั่ ไปก ารใหค้ วามส ำคญั กับคุณธรรมและการรู้เท่าทันอารมณ์ การรู้จักปล่อย วางอารมณ์ท่ีเศร้าหมอง การฝึกให้มีสติ การบริหาร จัดการอารมณ์ต่าง ๆ ได้ การพยายามที่จะละสิ่งท่ี ไม่ดี เพ่ิมส่ิงที่ดีก็มีผลโดยตรงต่อการเรียน ไม่ใช่การ เสยี เวลาทค่ี วรจะใ ห้แกก่ ารเรยี นนัน่ ก ็เป็นส่วนส ำคญั ของการเรียนหากเปรียบเทยี บก บั การพกั ผ่อนถ ้าเรา ทำงาน หรือทำหน้าที่ต่าง ๆของเรา ก็ยังต้องมีเวลา ท่พี กั ผ อ่ นบา้ งถ ้าท ำแลว้ ไม่ร้จู กั พักผอ่ นก็เครียด ปัญหาใหญ่ของคนทุกวันนี้ก็คือความเครียด ความเครยี ดก ็มสี าเหตุบางทีเกิดข ึน้ เพราะเราร บั งาน เกนิ ต วั แ ตบ่ างทกี เ็ กดิ เพราะว า่ เราบ รหิ ารจ ติ ใจไมเ่ ปน็ ถ้าเราศึกษาและปฏิบัติตามแนวทางพระพุทธเจ้า มี ปัญญาท่ีจะรู้ความพอดีกับตัวเอง รู้จักผ่อนคลาย
18 อารมณ์ในทางท่ีเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องไปกินเหล้า ไปเทยี่ วห รอื ห าท างล ดั อ นื่ ๆ เรยี กว า่ ม ที างท จี่ ะอ ยกู่ บั ต วั เราเองต ลอดเวลาโดยไม่ตอ้ งพงึ่ พาป ัจจัยภายนอก อาตมาเช่ือว่า คนส่วนมากที่อยู่ในเมืองไทย มองระบบการศึกษาของตะวันตกว่าดีกว่าที่เป็นจริง อาตมาส นใจศ กึ ษาห าความร เู้ กย่ี วก บั ร ะบบก ารศ กึ ษา ของตะวันตกอยู่ตลอดเวลา พยายามอ่านข้อความ ต่างๆแลว้ กอ็ า่ นที่พวกค รู อาจารยม์ หาวทิ ยาลยั เขา เขียนประสบการณ์ในการสอน ผลดีผลเสีย ก็สรุปได้ ง่าย ๆ ว่าระบบการศึกษาของตะวันตกไม่ได้ประสบ ความส ำเรจ็ เราไมค่ วรจ ะส บั สนร ะหวา่ งค วามก า้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีของตะวันตกกับวิชาอ่ืน ๆ โดยเฉพาะ วชิ าทเ่ี ก่ยี วกบั มนษุ ยโ์ ดยตรง นักวิชาการชาวตะวันตกจะเก่งมากในส่วน
19 ที่เก่ียวกับสิ่งไม่มีชีวิต แต่ที่เก่ียวกับส่ิงที่มีชีวิตไม่ ค่อยเก่งเท่าไร ดูจากสภาพสังคมก็ได้ ถ้าเราคิด ว่าชาติตะวันตกไม่ประสบความสำเร็จ เราจะเอา อะไรเป็นเคร่ืองตัดสินหรือว่ามีเหตุผลอย่างไรที่จะ ว พิ ากษว์ จิ ารณอ์ ยา่ งน น้ั อ าตมาว า่ เอาค วามส ขุ ห รอื ว า่ ความเปน็ อ ยใู่ นส งั คมท ว่ั ไปเปน็ ห ลกั ก ไ็ ด้ ทกุ ว นั น ห้ี นง่ึ ส่วนส่ีของประชากรของคนอังกฤษในแต่ละปีต้องไป หาหมอเพราะมีปัญหาทางจิตใจ ไม่เก่ียวกับร่างกาย จะเปน็ ด ว้ ยเรอื่ งเครยี ดน อนไมห่ ลบั ว ติ กก งั วลค ดิ มาก ซมึ เศร้าหรอื โรคอ ืน่ ๆ ท ่เีช่อื มโยงก บั ภ าวะจิตใจ เพียงสถิติแค่นี้อาตมาว่าพอจะเป็นการฟ้อง ว่าถ ้าร ะบบก ารศ กึ ษาเขาด ี ทำไมค นเปน็ อยา่ งน ี้ ถ ้า เขาสร้างสังคมให้เป็นอย่างน้ี หรือว่าวิถีชีวิตเขาเป็น ไปในทางท่ีทำให้เขารู้สึกอย่างน้ี ใน ๑๐ ปีที่ผ่านมา
20 ก็มีข้อมูลเพิ่มมากข้ึนว่าวัยรุ่นซึมเศร้ามาก พอต่อมา ไม่กี่ปี เด็กประถมเร่ิมซึมเศร้า ตอนนี้ก็มีเด็กอนุบาล ท่ีซมึ เศร้าดว้ ยแลว้ โรคซ มึ เศรา้ เป็นโรคทีก่ ำลงั ร ะบาด ทางสหประชาชาติก็ประเมินว่าภายใน ๕ปีข้างหน้า โรคท เ่ี ปน็ อ นั ดบั ห นงึ่ ข องโลกก ค็ อื โรคห วั ใจอ นั ดบั ส อง คอื โรคซึมเศร้า ต้องถามว่าเราพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาอะไร ต่ออ ะไรเพื่ออ ะไรท ำไมเราป ล่อยให้เศรษฐกิจก ลาย เป็นเป้าหมายในตัวของม ันเองถ้าบ อกว่าเศรษฐกิจ ดี โตเร็ว แล้วคนจะอยู่ดีกินดี มีความสุข จริงหรือ เปล่าที่ไหนป ระเทศไ หนเป็นอย่างน ั้นข อห ลักฐ าน สนับสนุนความคิดอย่างนี้ด้วย อาตมาพูดตรง ๆ ว่าความคิดแบบนี้เป็นความคิดงมงาย ถ้าเชื่อ อย่างนั้นให้เอาหลักฐานมาดู อาตมายังหาไม่เจอ
21 ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราความเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ และความเจริญอยู่ดีมีสุขของประชาชน เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วเราจะให้การศึกษาเป็นไปใน ลักษณะใ ด อาตมาเชื่อว่าถ้าเราจัดการศึกษาในลักษณะ ที่เด็กเป็นคนตั้งมั่นอยู่ในศีล มีความเคารพนับถือ ตัวเอง มีความเคารพนับถือคนอื่น ไม่เบียดเบียน ใครด้วยกายด้วยวาจา และเป็นผู้ที่คิดจะช่วยเหลือ เกื้อกูลสังคมเท่าที่จะทำได้ด้วย นั่นก็จะน่าจะเป็น ข้อหนึ่งในเรื่องศีลธรรม ถ้าเราพูดแต่ในเรื่องของ ศีลห้าเป็นต้นม ีแต่ว ่างดเว้นจ ากเรื่องนั้นจากเรื่อง นี้ จะพูดแต่ในทางลบส่วนใหญ่ แต่ในทางบวกก็ มี คือนอกจากว่าไม่เบียดเบียนใครแล้ว เราต้องมี อุดมการณ์ใ นก ารสร้างป ระโยชน์ให้คนอ ื่นด้วย ถ ้า
22 เอาแ ค่ไม่เบียดเบียนใ ครอ ันน ี้ก ็ยังไม่ถ ึงขั้นส มบูรณ์ ด้วยศีล ในความเห็นของอาตมาต้องปลูกฝังให้เด็กมี ความเป็นห่วงต่อเพื่อนมนุษย์ มีความเป็นห่วงต่อส่ิง แวดล้อม มีความเป็นห่วงต่ออนาคตของสังคม ของ ประเทศชาติ มีความคิดที่จะเสียสละเพื่อส่วนรวม อาตมาถ อื วา่ เปน็ เอกลกั ษณข์ องม นษุ ยท์ สี่ มบรู ณ์ เปน็ สิ่งท่ีน่าภาคภูมิใจ ท่ีเราสามารถที่จะปลูกฝังสำนึก อยา่ งน ไ้ี ด้ แ ลว้ ก จ็ ะท ำใหป้ ระเทศช าตปิ ลอดภยั ไดด้ ว้ ย ผทู้ มี่ อี ดุ มการณใ์ นก ารช ว่ ยเหลอื ค นอ น่ื น อกจากว า่ จ ะ สรา้ งป ระโยชนแ์ กส่ งั คมไดแ้ นน่ อนแ ลว้ ก ย็ งั จ ะม คี วาม รู้สกึ เคารพนับถือต ัวเองม คี วามสขุ ม จี ติ ใจเปน็ บุญ อาตมาค ดิ ว า่ เรยี นห นงั สอื แ ลว้ ม แี ตข่ อ้ มลู ค วาม รตู้ า่ งๆ เตม็ ต วั แ ตจ่ ติ ใจย งั ต กตำ่ ย งั เปน็ ค นเหน็ แ กต่ วั
23 เอาแตส่ ง่ิ ท ช่ี อบไมท่ ำในส งิ่ ท ไี่ มช่ อบท ง้ั ท อ่ี าจเปน็ ส งิ่ ท ่ี ดีไมอ่ ดทนไมส่ ู้ก ก็ ลายเปน็ การผ ลติ ค นท ไี่ มม่ คี ณุ ภาพ ทกุ ว นั นเี้ ราเหน็ ใชไ่ หมในสังคมผ ูห้ ลักผใู้ หญ่จำนวน ไม่น้อย มีความรู้มากมาย แต่เป็นคนไม่มีคุณภาพ ในค วามห มายข องพ ระศ าสนาข อพ ดู ต รงๆ ว า่ เปน็ ค น ทไ่ีมม่ คี ณุ ภาพ ทกุ ว นั น ถ้ี า้ ค นย งั ท จุ รติ ได้ ย งั ใ ชค้ วามฉ ลาดข อง ตัวเองเอารัดเอาเปรียบคนอื่นได้ เรียกว่าเป็นคนไม่มี คณุ ภาพเราตอ้ งถามว่าทำอ ย่างไรเราจึงจ ะน ำความ เจริญมาสู่ประเทศชาติได้ แทนที่จะนั่งส่ายหน้าเร่ือง นกั การเมอื งไมส่ จุ รติ ค นน นั้ ก ไ็ มด่ ี ค นน ก้ี ไ็ มด่ ี เราก ต็ อ้ ง ไปดูท เี่ หตปุ ัจจัยขอ้ ท ีส่ ำคัญก็อย่ทู ่ีจติ ใจของค นท่คี า่ นยิ มของค นเราปล่อยใหค้ ่าน ยิ มข องสงั คมไทยเพยี้ น จากส มั มาทิฐิไปมากเราจึงมคี วามข ัดแย้งอยู่ในต ัว
24 ถ้าถามคนที่บอกว่าตัวเองเป็นชาวพุทธ ถาม ว่าเขาเห็นว่าอะไรเป็นสิ่งท่ีดีที่สุดที่ตัวเองจะได้จาก ชีวิต เขาอยากจะได้อะไรจากชีวิต เขาแสวงหาอะไร ในช วี ติ เขาป ฏบิ ตั อิ ยา่ งไรก บั ค นร อบข า้ งเราม กั จ ะได้ คำต อบท ตี่ รงก นั ข า้ มก บั ห ลกั ค ำส อนข องพ ระพทุ ธเจา้ คำต อบส ว่ นใ หญจ่ ะเนน้ ท ก่ี ารม ที รพั ยส์ นิ เงนิ ท องว ตั ถุ เสพต า่ งๆใหม้ ากท สี่ ดุ ค วามค ดิ ท จ่ี ะข ดั เกลาจ ะพ ฒั นา ตวั เองเพือ่ ป ระโยชนส์ ขุ ข องตนและทำประโยชนเ์พอื่ สว่ นรวมไม่ค ่อยจะเหน็ ถา้ เปน็ ศ าสนาท ยี่ กค วามเชอื่ แ ละศ รทั ธาในพ ระ ศาสดาเปน็ ห ลกั ใหญอ่ าจจ ะเปน็ อ กี เรอื่ งห นง่ึ เพราะว า่ ถา้ ค วามเชอื่ เปน็ เง่ือนไขส ำคญั ท่จี ะกำหนดวา่ ถ ้าตาย แล้วเราขึ้นสวรรค์หรือตกนรก พฤติกรรมการกระทำ ของมนุษย์ก็มีความสำคัญน้อยลง พุทธศาสนาถือว่า
25 ความเช่ือมีส่วนสำคัญเหมือนกัน แต่สำคัญที่สุดคือ การกระทำ ทุกวันน้ีจะเห็นว่าโลกมันวุ่นวายเพราะ ความเชอื่ ค วามเชอื่ อ ยา่ งแ รงก ลา้ ในห ลกั ศ าสนาท ำให้ คนกล้าฆ่าคนได้ ฆ่าคนเพื่อสิ่งที่ตนถือว่าสูงสุดหรือ ศกั ด์ิสิทธ์ิ พระพุทธศาสนาจึงสอนให้เราระมัดระวังเร่ือง ความเช่ือ ความเชื่อเป็นพลังก็จริง แต่เป็นพลังที่ ต้องควบคุม กำกับด้วยปัญญา ความเชื่อที่นำไปสู่ การเบียดเบียนคนอื่น เป็นการสร้างความทุกข์ความ เดอื ดร อ้ นแ กค่ นอ นื่ พ ทุ ธศ าสนาว า่ เปน็ ค วามเชอ่ื ท เี่ ปน็ พิษเป็นภัย ไม่ถูกต้อง เราจึงต้องการเน้นให้เด็ก ให้ ลูก ให้หลานมีปัญญา เพราะว่าคนที่เห็นสิ่งทั้งหลาย ทง้ั ป วงต ามความเป็นจริงย่อมไมท่ ำบางส่ิงบางอ ยา่ ง และยอมท ำบ างส ิง่ บางอย่าง
26 สง่ิ ท ค่ี นท เี่ หน็ อ ะไรต ามค วามเปน็ จ รงิ แ ลว้ ไมท่ ำ สิ่งนนั้ เราเรียกวา่ ช ัว่ ส ่งิ ที่นกั ป ราชญ์ท งั้ ห ลายเหน็ ตาม ความเปน็ จ ริงแ ลว้ ท ำเราเรียกว่าความดีห รอื เป็นบ ญุ เปน็ กศุ ลขอย ้ำใ นจ ดุ นี้ว ่าไมใ่ ช่ว า่ ใครจะบ ัญญัติวา่ ส ิง่ นั้นด ีส ิ่งน้ันช่ัวพ ระพุทธเจ้าตอ้ งการใ หเ้ ราทำอยา่ งน ้ี พระพุทธเจ้าไม่ต้องการให้เราทำอย่างน้ี อันน้ีไม่ใช่ พระพทุ ธอ งคต์ อ้ งการใหเ้ ราล มื ห ลู มื ตาด คู วามจ รงิ เมอื่ เราล ืมห ลู ืมตาแ ล้วเห็นชัดแล้วว า่ ชีวติ ข องค นเราเป็น อยา่ งไรเราก เ็ห็นว่าเราก ับเขาก ็ไมต่ ่างอ ะไรก นั เลย สีผิวไม่เหมือนกัน ภาษาไม่เหมือนกัน ชนชั้น วรรณะก็ไม่เหมือนกัน แต่ในส่ิงสำคัญนี่เหมือนกัน คือ ทุกคนรักสุข เกลียดทุกข์ เหมือนกัน เราเป็น มนุษย์ที่มีการเกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดาเหมือน กัน นั่นไม่ใช่ปรัชญา แต่เป็นความรู้ท่ีเกิดขึ้นจาก
27 การลืมหูลืมตาต่อความเป็นจริงของการเป็นมนุษย์ เม่ือเราได้ซาบซ้ึงในความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน แล้ว โอกาสท่ีเราจะฆ่าสัตว์ เบียดเบียน ลักขโมย ประพฤติผิดในกาม จะโกหกหลอกลวงมันเป็นไปได้ ยากเพราะเราเห็นความจ ริงไม่ใช่วา่ ศลี มากอ่ นแ ล้ว ค่อยๆพัฒนาไปหาความจริง แต่การเห็นความจริง ในระดับหนึ่ง ย่อมนำไปสู่การกระทำในระดับหนึ่ง ฉะนน้ั ส ง่ิ ท เ่ี ราถ อื วา่ ส งู สดุ ท เี่ ราต อ้ งการใหก้ บั ต วั เองใ ห้กับค นอ่นื และพุทธศาสนาม ใี ห้ก็คือป ัญญา การให้ลูกหลานมีปัญญาน่ีดีท่ีสุด มีปัญญาในระดับ ต้นๆ ก็คือร ู้วา่ อะไรค วรอะไรไม่ควรอ ะไรเหมาะอะไร ไม่เหมาะ แต่สิ่งท่ีมาพร้อมกับปัญญาน้ัน ถ้าเป็น ปัญญาท่ีถ ูกตอ้ งคอื ตอ้ งมีความเข้มแข็ง ค วามอดทน ไม่ใชเ่ พียงแคว่ า่ ร้วู ่าอ ะไรควรไมค่ วรแค่น นั้ ไมพ่ อเม่อื
28 เราร วู้ า่ ส ง่ิ ใดค วรเราก ต็ อ้ งม คี วามก ลา้ ท จี่ ะท ำในส ง่ิ น น้ั รู้ว่าสิ่งน้ีไม่ควร เราก็ต้องกล้าปฏิเสธ กล้าและหนัก แนน่ ม น่ั คงใ นก ารง ดจ ากส งิ่ น น้ั ม ที ง้ั จ ติ ใจแ ละป ญั ญา ทำงานไปด้วยกันแ ตเ่ นน้ ใ หป้ ญั ญาเปน็ ต ัวนำ เมื่อเป็นเช่นน้ันในอนาคตโลกน้ีเปล่ียนแปลง อย่างไรเราก็มีความพอใจว่าลูกเราเตรียมพร้อม ถ้า โลกมันเป็นอย่างน้ีต่อไปเขาก็ทำได้ เขาก็ประสบ ความสำเร็จได้ในระดับใดระดับหน่ึง แต่ถ้าโลก เราเปลี่ยน และโอกาสที่จะเปล่ียนมีมากกว่าท่ีจะ ไม่เปลี่ยน และการเปลี่ยนในแบบท่ีเรายังคาดไม่ ถึงก็มีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่าที่เราจะคาดถึง และ สิ่งท่ีเปล่ียนแปลงใน ๑๐-๒๐ ปีท่ีผ่านมา ไม่ว่า ต้ังแต่ตอนอาตมาเป็นเด็กนักเรียน ตอนที่มีเคร่ือง อัดเทปออกมาครั้งแรกต่ืนเต้นมาก ต่อมาก็มีนั่นมี
29 นี่ มีเครื่องคอมพิวเตอร์ มี PC ตอนหลงั ก็มีโทรศพั ท์ มอื ถอื แ ละโทรศพั ทท์ เ่ี ปน็ ค อมพวิ เตอรด์ ว้ ย แตล่ ะอ ยา่ งม นั ไมใ่ ชข่ องท เ่ี ปน็ กลางๆมนั ทำให้ ชีวิตเราเปล่ียน การส่ือสารระหว่างครอบครัว เปล่ียนแปลงด้วยโทรศัพท์มือถือมาก การใช้ อ นิ เตอร์เนต็ ก ็นำไปส ูก่ ารเปลยี่ นแปลงในโลกมากแต่ แค่ ๒๐ ปีที่แล้วจะมีใครพยากรณ์ได้ว่าภายใน ๕ ปี ข้างหน้าจะมีสิ่งใดส่ิงหนึ่งเรียกว่าอินเตอร์เน็ต ซ่ึงจะ นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอย่างน้ันอย่างน้ี เราคงคิด ไมอ่ อกท กุ ว นั น ค้ี นเราก ค็ ดิ ไมอ่ อกว า่ ๕ -๑ ๐ป ขี า้ งห นา้ จะเป็นอ ยา่ งไร ตอนน้ีเรากำลังจะเกิดวิกฤติเรื่องสิ่งแวดล้อม และพลงั งานกเ็ ปน็ ไปไดภ้ ายใน๕ปขี า้ งห นา้ ค า่ นำ้ ม นั อาจจะถ ึง๒ ๐๐ด อลล่าร ์ ๑๐กว่าปีท่แี ลว้ ค งไม่มีใคร
30 นกึ น กั เศรษฐศาสตรท์ ร่ี บั ร างวลั โนเบลไมม่ ใี ครค ดิ เลย วา่ ค า่ นำ้ ม นั จ ะเกนิ ๔๐-๕ ๐ด อลล า่ ร์ ตอนน ก้ี ็ ๑๐๐ ดอลล่ารต์ อ่ บาร์เรลแลว้ ถ้าเปน็ ๓ ๐๐จ ะเปน็ อ ย่างไร แล้วทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ภาวะโลกร้อนตอนน้ีมันก็ ดำเนินไปอย่างน้ี แต่ว่าอัตราความเปล่ียนแปลงหรือ ผลก ระทบอ าจจ ะถ ขี่ นึ้ เรว็ ข นึ้ ก ไ็ ด้ ภ ายใน๒ ๐-๓ ๐-๔ ๐ ปีข้างหน้า กรุงเทพมหานครอาจจะจมน้ำ กรุงเทพฯ จมน ำ้ จ ะเปน็ อ ยา่ งไรแ ลว้ อ ะไรจ ะช ว่ ยว ชิ าค วามร กู้ จ็ ะ ชว่ ยในส ว่ นห นง่ึ แ ตค่ นท มี่ ปี ญั ญาค นท มี่ จี ติ ใจเขม้ แ ขง็ คนท ี่มีสติค วบคุมอ ารมณ์ได ้ ไม่ตระหนกต กใจเม่ือ เกิดก ารเปลี่ยนแปลงท คี่ าดไมถ่ งึ จติ ใจมีความต งั้ ม น่ั อยู่ในสงิ่ ท ่ถี ูกต้องน แี่ หละจะเป็นผ้นู ำในอนาคตผู้นำ ทส่ี ังคมเราต อ้ งการ อาตมาเชื่อม่ันว่าโรงเรียนวิถีพุทธเป็นโรงเรียน
31 ที่ส ามารถส ร้างผู้ที่จะเป็นผนู้ ำสงั คมต ่อไปผนู้ ำสงั คม ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นรัฐมนตรี เป็นนายก รัฐมนตรีเสมอไป อาจจะเป็นไปได้ แต่หมายถึงว่า เป็นผู้นำในระดับต่าง ๆ ในสังคม ในแวดวงของตัว เอง เพราะว่าต่อไปความสำคัญของผู้มีคุณธรรมต้อง เพม่ิ ม ากข นึ้ เพราะต ่อไปป ัญหาข องโลกต้องเพมิ่ ม าก พวกเราอายุ ๔๐-๕๐-๖๐ พวกเราสบาย พวกเราได้ รบั ประโยชน์จากการพฒั นาแบบน้ี แต่ขอพดู ตรงๆว่า เหมอื นก บั ว า่ พ วกเราเปน็ ผ สู้ รา้ งก รรมใชท้ รพั ยากรข อง โลกอยา่ งก อบโกยหาความสุขในร ะยะส ั้นๆ ถ้ามนุษย์เราเก่งจริงทำไมในระยะเวลา๒๐๐ กว่าปี เราพัฒนาเศรษฐกิจตามหลักทุนนิยมเพียงชั่ว ระยะเวลา๒๐๐ปี ก ท็ ำใหโ้ลกมนษุ ยท์ อ่ี ยมู่ าไดห้ ลาย ล้านปี แทบจะหมดอนาคต ถ้าอย่างน้ัน มนุษย์เรา
32 เก่งจริงหรือท่ีเราทำลายโลกที่เราอยู่อาศัยโดยไม่รู้ตัว เพยี งเพราะต อ้ งการใหม้ นั ส นกุ สนานด คู นท เี่ รยี นเกง่ ๆ มคี วามรู้สงู ๆ ท ่จี บจ ากHarvardจากY aleจ ากMIT จากมหาวิทยาลัยช้ันนำของโลก หลายสิบเปอร์เซ็นต์ ไปทำงานอะไรรู้ไหม ไปสร้างอาวุธ ไปใช้ความคิด สรา้ งสรรคใ์ นการทจ่ี ะผ ลติ อ าวธุ ทท่ี นั สมยั มรี ายไดส้ งู ๆ ไปทำงานใ นกระทรวงก ลาโหมCIAเป็นต้น นอกจากน นั้ ท เี่ สยี ดายม ากอ กี เรอื่ งค นท ม่ี สี มอง ดี เรยี นเกง่ ๆ จ ำนวนไมน่ อ้ ยไปท ำงานโฆษณาส ำหรบั อาตมาเสยี ดายส ตปิ ญั ญาข องค นเหลา่ น ี้ เราเอาค นท ่ี เกง่ ท สี่ ดุ ไปท ำงานแ บบน ้ี ส ดุ ทา้ ยไดอ้ ะไรก ไ็ ดใ้ ชค้ วาม สามารถกระตุ้นความอยากของคน ทำให้อยากซื้อ อยากบริโภค อาตมาคิดว่าไม่ใช่ว่าผิดศีลอะไรหรอก แตเ่ สยี ดายส ตปิ ญั ญาข องค นค อื ค นเกง่ ข องเราม มี าก
33 อยู่ก็จริง แต่คนเก่งที่ใช้ความเก่งให้เป็นประโยชน์ และเป็นบุญเป็นกุศลต่อส่วนรวมต่อคนส่วนใหญ่ ยังม ีน้อย อาตมาเช่ือว่าชาวพุทธผู้ได้รับการศึกษาแนว พุทธ น่าจะเป็นชาวพุทธที่มีความรับผิดชอบต่อส่วน รวมเพราะม ีฉนั ทะใ นก ารสร้างประโยชน์ ส ร้างความ สขุ ช นะค วามเหน็ แ กต่ วั แ ลว้ ร จู้ กั ค วามห มายข องค ำว า่ พอก ส็ ามารถม คี วามส ขุ ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งฟ งุ้ เฟอ้ แ ตค่ วาม พอของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันและไม่มีมาตรฐาน ตายตวั วา่ อ ย่างน น้ั ไม่ไดน้ ะตอ้ งอยา่ งน ี้ อย่างน ี้ ไมใ่ ช่ แลว้ แ ตแ่ ต่ละคนจะหาความพ อดสี ำหรับตัวเองแต่ที่ เราต ้องการก ค็ ือตอ้ งการให้เดก็ สขุ ง า่ ยทุกขย์ าก ถ้าระบบการศึกษาของเราผลิตคนออกมาที่มี คุณสมบัติ ทุกข์ง่าย สุขยาก ผิดหวังอะไรนิดหน่อย
34 ใครพ ดู อ ะไรไมถ่ กู ใจน ดิ ห นอ่ ยก โ็ กรธเสยี ใจน อ้ ยใจก ็ ทำใหค้ รอบครวั ไมม่ น่ั คงส ามภี รรยาอ ยดู่ ว้ ยก นั ป ี ส อง ปี ท ะเลาะกันห รอื ว่าม อี ะไรผิดใจก ันก ห็ ยา่ ก ันแ ล้วก็ มผี ลกระทบต่อต ัวเขาเองมากมีลูกห ลานก็มปี ญั หาท ี่ เปน็ ลกู โซต่ ่อไป ทุกวันนี้คนมีความอดทนน้อย มีความหวังใน ความสุขมาก เรียกว่ารักกัน แต่มักจะเป็นความรัก กนั แ บบสมัยบรโิ ภคแบบสมยั เหน็ แกต่ วั ตราบใดทค่ี ณุ ใหค้ วามส ขุ แบบทฉ่ี นั ต้องการฉันก็รักถา้ เม่ือไรค ณุ ไม่ สามารถท จ่ี ะใหค้ วามส ขุ ท ฉี่ นั ต อ้ งการฉ นั ก ไ็ มร่ กั ไมร่ กั แล้วก็ไม่ต้องการ ไปหาคนใหม่ อันน้ีเป็นการมองทุก อย่างวา่ เป็นการบรโิ ภคมองว่าต ัวเองเปน็ ผบู้ รโิ ภคผ ู้ บรโิ ภคว ตั ถุ ผ บู้ รโิ ภคป ระสบการณ์ ท กุ ส ง่ิ ท กุ อ ยา่ งม อง เป็นผู้บริโภค เป็นมะเร็งของสังคมท่ีเราต้องพยายาม
35 แกไ้ ขแตเ่ ราจะไมแ่ กไ้ ขแบบหา้ มหรอื ลงโทษหรอื อะไร เราจะแกไ้ ขจะชนะด้วยวิถีพุทธ ด้วยการสอนให้คนดู ความจ รงิ อาตมาเช่ือม่ันว่าถ้าใครสนใจศึกษาชีวิต ฝึก ให้เขาสามารถอยู่กับตัวเอง ดูตัวเอง เรียนรู้จาก ประสบการณ์ตัวเอง และมีศักยภาพมีสติปัญญา มี ความเก่งอยู่ในตัวพอท่ีจะเลือกส่ิงท่ีดี และออกจาก สิ่งท่ีไม่ดีได้ แต่ก่อนที่จะถึงข้ันน้ันก็ต้องมีการพัฒนา ในทุกด้าน ในด้านพฤติกรรม รู้จักงดเว้นรู้จักควบคุม รู้จกั ชนะใ จต วั เองฝกึ ใหเ้ป็นผ มู้ สี ติ ม ีความสันโดษมี ความอ ดทนม คี วามข ยนั ม จี ติ ใจท รี่ กั ก ารส เู้ พอ่ื ส ง่ิ ท ถี่ กู ต้องต ้องมีก ารพฒั นาในทุกๆด้าน เราต้องการให้คิด ต้องมีการฝึกให้คนคิดเป็น พุทธศาสนาสอนให้เราสงบแต่ไม่ใช่ว่าไม่ให้คิด สงบ
36 ในเวลาทค่ี วรสงบเวลาคดิ ก ็คดิ ใหเ้ป็นคิดให้เก่งค ิด ให้ดี ฟังอะไรก็สามารถจับความได้ สรุปได้ ขยาย ความได้ เปรยี บเทียบกับความค ดิ อย่างอ่นื ได้บรู ณา การได้ คดิ วเิ คราะหป์ ัญหาว ่าเกดิ จ ากเหตุป ัจจัยอ ะไร ได้ แ ยกแยะได้ว่าเหตปุ จั จัยอ ะไรเราต อ้ งย อมรบั เหตุ ปัจจัยอะไรควรจะปรับปรุง เหตุปัจจัยไหนเราควรจะ แกก้ ่อนแ ก้ท หี ลงั เมื่อเรากำหนดปัญหาแล้ว ก็ระดมความคิด ระดมสมองคิดส ร้างสรรค์ หาข อ้ แ กป้ ญั หาพอได้แล้ว ก็ผ่านวาระของความคิดสร้างสรรค์ กลับไปหาวาระ ของการคิดแยกแยะ การคิดวิเคราะห์ ว่าที่เราคิด สรา้ งสรรคน์ ั้นใชไ้ ด้ม ากนอ้ ยแ คไ่ หนมผี ลกระทบตอ่ ตวั เองค นอ น่ื ในร ะยะส นั้ ร ะยะย าวอ ยา่ งไรบ า้ งข อ้ ดขี อ้ เสยี ม อี ะไรบ้างค ุณกบั โทษอยตู่ รงไหนเลอื กข้อใดขอ้
37 หนง่ึ ลองทำระหว่างลองท ำก ค็ อยท บทวนอ ยู่ตลอด เวลาว่าดีไหม หรือทำอย่างไรให้ดีกว่าน้ี ทำอย่างไร ให้ดีท่ีสุด มีข้อบกพร่องอย่างไหนก็หาทางท่ีจะแก้ไข อยู่ต รงน้นั น่เี ปน็ หนา้ ทขี่ องค วามคิด ถ้าคนที่สงบได้ สามารถปล่อยวางขยะสมอง การคิดท่ีวกเวียนไม่เกิดประโยชน์ ท่ีเป็นขยะที่อยู่ใน สมองออกไปแ ล้วค วามคดิ อ ยา่ งน เ้ี ป็นได้ง่ายเพราะ ไม่มีอะไรท่ีทำให้จิตใจเขวออกไปตามอารมณ์ ทาง พทุ ธศ าสนาส อนใ หเ้ ราส งบด ว้ ยแ ละส อนใ หเ้ ราป ลอ่ ย วางความคิดได้ด้วย และรู้จักความสุขของจิตใจท่ีไม่ ต้องคิด ในขณะเดียวกันก็ถือว่าจิตใจที่สงบได้เป็น จิตใจที่เม่ือจะคิด เม่ือสมควรจะคิด จะมีสมรรถภาพ มีประสิทธภิ าพใ นค วามค ดิ ทส่ี งู ม าก ความสงบไม่ใช่ว่าอยู่เฉย ๆ เคลิบเคลิ้มไปอยู่
38 ในอีกโลกหน่ึง มันไม่ใช่ยาระงับประสาทแต่ว่ามัน เป็นเง่ือนไขในการใช้ปัญญาของตัวเองให้ได้ผล จึง ถอื วา่ ค วรจ ะเปน็ ส ว่ นห นง่ึ ข องก ารศ กึ ษาข องค นท กุ ค น ต้องการให้เด็กได้สัมผัสความสงบภายในบ้าง ดูจาก พทุ ธป ระวตั กิ จ็ ะเหน็ ว า่ ห ลงั จ ากพ ระพทุ ธอ งคไ์ ดเ้ จรญิ การป ฏบิ ตั แิ บบท รมานก ายถ งึ ๖ ป ี ท า่ นก ท็ บทวนส รปุ ว่าไม่ใช่หนทาง แต่จะเอาอย่างไรดี สรุปแล้วท่าน ก็ระลึกได้ว่าตอนอายุ ๗ ขวบ ท่านเคยนั่งสมาธิใต้ ต้นไม้ แ ล้วจิตใจสงบเกิดความรู้สึกวา่ ใ ช่แลว้ นา่ จ ะ เปน็ หนทางทีถ่ ูกต ้อง พระพุทธอ งค์จึงเสด็จไปน ั่งใ ต้ต้นโพธิ์แ ละได้ บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณในคืนนั้น สำคัญที่ว่า พระองค์เคยมีประสบการณ์ในการนั่งสมาธิเล็ก ๆ น้อยๆต อนเด็กฝ ังล ึกอ ยู่ใ นใ จถึงเวลาที่เหมาะส ม
39 จิตใจสุกงอมเด็กนักเรียนอ นุบาลหรือประถมไม่ใช่ ว่าจะให้นั่งสมาธิเป็นชั่วโมง เราไม่ได้หวังถึงขนาด นั้นแ ต่อย่างน ้อยก ็อ ยากจ ะให้เขาเห็นว ่าเป็นท างไ ป สู่ความส งบไ ด้เป็นท างท ี่ด ีแ ละอ ย่างน ้อยก ็เป็นการ หว่านเมล็ดที่จ ะเกิดผลด ีในช ีวิตต ่อไป เป็นอันว่าต้องการจะได้จับหลักใหญ่ แล้วก็ พยายามให้ใช้ในระดับที่เหมาะสมกับพวกเรา ทั้งผู้ท่ี เปน็ น กั ศ กึ ษาใ นร ะดบั ค รู ร ะดบั ผ ปู้ กครองแ ละส ำคญั ทสี่ ดุ ค อื น กั ศ กึ ษาร ะดบั น กั เรยี นเพราะเราท กุ ค นก ก็ ำลงั ศกึ ษาเราศ กึ ษาในส ง่ิ ท ด่ี ที ส่ี ดุ ถ า้ เราเปน็ ค รกู เ็ ปน็ ค รทู ดี่ ี ท่สี ุดเราเป็นผ ู้ปกครองท ำอย่างไรเราจึงเปน็ พ่อเปน็ แมท่ ด่ี ที ส่ี ดุ ท จ่ี ะเปน็ ได้ ถ า้ เราเปน็ น กั เรยี นก ต็ อ้ งการให้ เป็นนกั เรยี นท ดี่ ีทีส่ ดุ ท ่ีเปน็ ไปได้ไมต่ ้องแขง่ ขันก บั ใคร แตม่ คี วามมงุ่ ม น่ั ทจ่ี ะชนะต วั เองทจ่ี ะท ำใหต้ วั เองด ที ส่ี ดุ
40 ถ้าหากว่าคนมีอุดมการณ์ท่ีจะทำให้ตัวเองดี ที่สุดอยู่ตลอดเวลาแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องที่จะ เข้าไปในระบบก ารแ ข่งขันไมแ่ พห้ รอกเพราะไม่ตอ้ ง ไปคิดว่าคนนั้นเป็นคู่แข่งคนน้ีเป็นคู่แข่ง ก็ถือว่าแข่ง กับตัวเอง พยายามจะทำของเราให้ดีที่สุดก็เป็นการ แขง่ ก บั ค นอ น่ื อ ยใู่ นต วั อ ยแู่ ลว้ ร ะบบก ารแ ขง่ ข นั ก ไ็ มใ่ ช่ ส่ิงท ีต่ ายตัวเสมอไปม นั กเ็ ปลีย่ นแปลงและถ้าแม้ใน โลกปัจจุบัน ระบบการแข่งขันในอังกฤษหรืออเมริกา กับระบบการแข่งขันในยุโรปก็ไม่เหมือนกัน มีความ แตกต่างกัน ไม่ใช่ว่าพวกเราเป็นเหย่ือของสังคม ตลอดไปเราก ม็ สี ว่ นห นง่ึ ท ส่ี ามารถก ำหนดอ นาคตข อง สงั คมได้ ถ้าเราถือว่าระบบการแข่งขันทุกวันนี้รุนแรง มากไ ม่ใช่ว ่าเราต ้องท ำใจก ับค วามร ุนแรงน ั้นแ ต่ว ่า
41 บางทีเราอาจจะต้องเปลี่ยนอะไรบางอย่างที่จะให้ ระบบการแข่งขันเกิดผลดีที่สุดโดยที่พยายามทำให้ โทษข องม ันน ้อยล งค ือไ ม่ใช่ว ่าเราต ้องย อมรับท ุกส ิ่ง ทุกอย่างที่ปรากฏอยู่ในสังคม เพราะเราไม่ใช่ว่าถูก กำหนดโดยสังคม แต่เรามีสิทธิ์ที่จะกำหนดสังคม ในบางเรื่องไ ด้ด ้วย วันนี้อาตมาก็ได้ให้ข้อคิดบางส่ิงบางอย่าง อาตมาได้ออกจากหน้าที่ต่าง ๆ ที่วัดป่านานาชาติ ได้หลายปีแล้ว มีอุดมการณ์ท่ีจะสร้างประโยชน์ตน ประโยชน์คนอ่ืนเหมือนเดิม แต่ว่ารูปแบบของการ สร้างประโยชน์เปล่ียนแปลงไป การสร้างประโยชน์ ตนก็เลือกที่จะอยู่องค์เดียว เลือกที่จะทำความเพียร ได้เต็มท่ี และก็ได้สถานที่เหมาะสม ได้สิ่งท่ีตัวเอง ต้องการด้วยน้ำใจด้วยศ รัทธาข องลกู ศิษย์ ซ ่ึงอาตมา
42 ระลึกถึงด้วยความขอบคุณ ด้วยความซาบซ้ึงในบุญ คณุ อ ยูต่ ลอดเวลา ในขณะเดียวกัน ถ้าอาตมาเอาแต่การทำกิจ ส่วนตัวอย่างเดียว ก็ถือว่าชีวิตคงยังไม่สมบูรณ์ ถ้า จะสมบูรณ์ต้องทำสิ่งท่ีเป็นประโยชน์แก่คนอื่นด้วย และส่ิงท่ีทำให้เกิดฉันทะอยู่ในจิตใจอาตมาอยู่ตลอด เวลา อาตมาคิดว่าเมื่อจะต้องเลือกสิ่งใดส่ิงหนึ่งท่ีจะ ได้ประโยชน์มากท่ีสุดกับสังคม มากท่ีสุดกับประเทศ ชาติแล้ว การศึกษาแนวพุทธน่าจะดีที่สุด อาตมาจึง เลือกม าทำงานท างด้านน้ี อาตมาห วงั ว า่ พ วกเราท ง้ั ห ลายผ เู้ ปน็ ค รอู าจารย์ ผู้ปกครอง ผู้หวังดีทุก ๆ คน ก็คงจะเห็นด้วยว่าเร่ือง นี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นเร่ืองสำคัญ เป็นเร่ืองของ ครอบครัวของเราทุกคน หวังว่าจะมีผลต่อสังคมต่อ
43 ไปด้วย จะเป็นมาตรฐานเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการ ศึกษาแนวพุทธน้ีดีอย่างไร ให้ความหวังกับสังคมกับ ประเทศชาติได้อย่างไรต่อไป ให้คนอ่ืนในสถาบันอื่น มาด มู าเหน็ เหน็ เดก็ น กั เรยี นท จ่ี บจ ากโรงเรยี นว ถิ พี ทุ ธ แล้ว เออ..อยากให้ลูกของฉันเป็นอย่างนี้บ้าง เราก็ เลยี้ งล กู ข องเราด ดี ว้ ยแ ละส รา้ งป ระโยชนใ์ หก้ บั ค นอ นื่ ดว้ ยใ หล้ กู เราเป็นต ัวอยา่ งเราเป็นผปู้ กครองตัวอย่าง ครูตัวอย่างนีเ่ปน็ ส ิ่งท้าทายท ีจ่ ะข อฝากไว้ก ับพ วกเรา ในว ันน้ี
ชยสาโร ภิกขุ นาม เดมิ ฌอน ชิเว อร์ตนั (Shau n Chiverton) พ.ศ.๒๕๐๑ เกดิ ท่ีประเทศอังกฤ ษ พ.ศ.๒๕๒๑ ได พ้ บก ับพร ะอาจารย์สเุ ม โธ (พระราชสุเมธาจารย์ วัดอมราวดี ประเทศอังกฤษ) ที่วหิ ารแฮมสเตด ประเทศอังกฤษ ถือเพศเปน็ อนาคารกิ (ปะขาว) อยกู่ ับพระอาจารย์สุเมโธ ๑ พรรษา แลว้ เดินทางมายังประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒ บรรพชาเป็นสามเณร ทว่ี ดั หนองปา่ พง จังหวดั อบุ ลราชธานี พ.ศ. ๒๕๒๓ อปุ สมบทเป็นพระภกิ ษุ ท่วี ดั หนองป่าพง โดยมี พระโพธิญาณเถร (หลวงพอ่ ชา สุภทั โท) เปน็ พระอปุ ัชฌาย์ พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๔ ร กั ษาการเจา้ อาวาส วดั ป่านานาชาติ จงั หวดั อุบลราชธานี พ.ศ. ๒๕๔๕ - ปัจจบุ ัน พำนัก ณ สถานพำนกั สงฆ์ จงั หวัดนครราชสมี า
มลู นธิ ปิ ญั ญาป ระทปี ความเป็นมา มลู นธิ ิปญั ญาประทปี จดั ตง้ั โดยคณะผ้บู รหิ ารโรงเรยี นทอสี ดว้ ยความรว่ มมอื จากคณะครู ผู้ปกครองและญาติโยมซึ่งเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์ชยสาโร กระทรวง มหาดไทยอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลอย่างเป็นทางการ เลขที่ทะเบียน กท.๑ ๔๐๕ตั้งแต่ว ันที่๑เมษายน๒ ๕๕๑ ว ตั ถปุ ระสงค์ ๑) สนับสนุนการพัฒนาสถาบันการศึกษาวิถีพุทธที่มีระบบไตรสิกขาของ พระพุทธศาสนาเป็นห ลัก ๒ )เผยแผ่หลักธรรมคำสอนผ ่านก ารจัดการฝึกอ บรมและปฏิบัติธ รรมและ การเผยแผ่สอ่ื ธ รรมะร ปู แบบต า่ ง ๆโดยแ จกเป็นธรรมท าน ๓)เพิ่มพูนความเข้าใจใ นเรื่องค วามส ัมพันธ์ระหว่างม นุษย์และส ิ่งแวดล้อม สนับสนุนก ารพ ัฒนาท ี่ยั่งยืน และส่งเสริมการดำเนินช ีวิตต ามหลักป รัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง ๔ )รว่ มมอื ก บั องคก์ รการกศุ ลอ น่ื ๆ เพอ่ื ด ำเนนิ กิจการท ี่เป็นส าธารณประโยชน์
ค ณะท่ีปรึกษา พระอาจารย์ชยสาโรเป็นองค์ประธานที่ปรึกษา โดยมีคณะที่ปรึกษาเป็น ผู้ทรงค ุณวุฒิใ นส าขาต ่าง ๆอ าทิด้านน ิเวศวิทยาพ ลังงานท ดแทนส ิ่งแ วดล้อมเกษตร อินทรีย์เทคโนโลยีส ารสนเทศ วิทยาศาสตร์สุขภาพการเงินก ฎหมายการส ื่อสาร การละครดนตรีว ัฒนธรรมศิลปกรรมภ ูมิปัญญาท้องถ ิ่น คณะกรรมการบรหิ าร มูลนิธิฯ ได้รับเกียรติจากรองศาสตราจารย์นายแพทย์ปรีดา ทัศนประดิษฐ เป็นประธานคณะกรรมการบริหารแ ละม ีค ุณบุบผาส วัสดิ์รัชชต าต ะนันท์ผ ู้อำนวยก าร โรงเรียนท อส ีเป็นเลขาธิการฯ การด ำเนนิ ก าร • ม ลู น ธิ ฯิ เปน็ ผ จู้ ดั ต งั้ โรงเรยี นม ธั ยมป ญั ญาป ระทปี ใ นร ปู แ บบโรงเรยี นบ ม่ เพาะ ชีวิตเพื่อด ำเนินกิจกรรมต ่างๆด้านการศึกษาว ิถีพุทธให้บรรลุว ัตถุประสงค์ข องมูลน ิธิฯ ข้างต้นโรงเรียนนี้ต ั้งอ ยู่ที่บ้านหนองน ้อยอำเภอปากช่องจังหวัดน ครราชสีมา • มูลนิธิฯร ่วมม ือก ับโรงเรียนทอส ีในการผ ลิตและเผยแผ่สื่อธรรมะแ จกเป็น ธรรมท าน โดยในส ว่ นของโรงเรียนท อสฯี ได้ด ำเนินก ารต ่อเนอ่ื งต ั้งแต่ ปี พ .ศ .๒ ๕๔๕
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: