Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก

สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก

Description: สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก

Search

Read the Text Version

สิง่ ​ด​ีทส่ี ดุ ส​ ำหรบั ​ลกู ชยสาโร ภกิ ขุ พิมพแ​์ จกเ​ปน็ ​ธรรม​บรรณาการด​ ้วย​ศรทั ธาข​ อง​ญาตโิ ยม​ ห​ ากท​ ่านไ​ม​่ได้​ใช้​ประโยชน์​จากห​ นังสือ​นี​แ้ ล้ว​ ​โปรด​มอบ​ใหก​้ บั ​ผอ​ู้ ืน่ ​ท​่ีจะไ​ด​้ใช้​​จะ​เป็น​บญุ ​เป็น​กุศลอ​ ย่าง​ยิ่ง​

สง่ิ ​ดที​ ีส่ ดุ ส​ ำหรับ​ลูก ชยสาโร ภกิ ขุ พิมพแ​์ จกเ​ปน็ ​ธรรมท​ าน ส​ งวนลขิ สทิ ธ์ิ หา้ มคัดลอก ตัดตอน หรอื นำไปพมิ พ์จำหน่าย หากทา่ นใดประสงค์จะพมิ พ์แจกเปน็ ธรรมทาน โปรดตดิ ต่อ กองทุนสื่อธรรมะทอสี และมูลนธิ ิปญั ญาประทีป ​๑๐๒๓/๔๖ ซอยปรดี พี นมยงค์ ๔๑ สขุ มุ วทิ ๗๑ เขตวฒั นา กทม. ๑๐๑๑๐ โทรศัพท์ ๐-๒๗๑๓-๓๖๗๔ www.thawsischool.com, www.panyaprateep.org ​​พิมพ์​ครงั้ ท​ ี​่ ๑​ ​- ๔ กุมภาพันธ ์ - กันยายน ๒๕๕๑ จำนวน ๑๖,๐๐๐ เลม่ ​พิมพค​์ รงั้ ท​ ่​ี ​๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ จำนวน ๕,๐๐๐ เลม่ ขอขอบคุณและอนุโมทนา คุณจนั ทร์เพ็ญ ศิวะพรชยั ผู้ถอดเทป คุณชนนิ ทร แยม้ สอาด ผตู้ รวจทาน ศลิ ปกรรม วชิ ชุ เสรมิ สวสั ดศ์ิ รี จ​ ดั ​ทำโ​ดย​กองทุนส่อื ธรรมะทอสี และมูลนิธิปัญญาประทปี ด​ ำเนนิ การพิมพโ์ ดย บรษิ ัท ควิ พริ้นท์ แมเนจเม้นท์ จำกัด โทรศพั ท์ ๐-๒๘๐๐-๒๒๙๒ โทรสาร ๐-๒๘๐๐-๓๖๔๙

คำนำ​ ​ ​ หนงั สอื เ​รอื่ ง​“​ส​ งิ่ ด​ ท​ี สี่ ดุ ส​ ำหรบั ล​ กู ”​​เ​ปน็ ธ​ รรมเ​ทศนาท​ ​ี่ พระอ​ าจ​ ารย​ ช์ ยส​ าโร​เมตตาแ​ สดงใ​หแ​้ กผ​่ ป​ู้ กครอง​คณะค​ ร​ูแ​ ละ ญ​ าตโิ ยมท​ ว่ั ไป​ท​ โ​่ี รงเรยี นท​ อส​ ​ี ใ​นว​ นั ท​ ​่ี๗​ ​ม​ กราคม​๒​ ๕๕๑​ซ​ ง่ึ ​ เปน็ ​วนั ​คลา้ ยว​ ัน​เกดิ ค​ รบ​๕​ ๐​ป​ ข​ี อง​พระอ​ าจารย์​ ​ เ​ราท​ กุ ค​ นผ​ เ​ู้ ปน็ พ​ อ่ แ​ ม​่ ต​ า่ งป​ รารถนาท​ จ​่ี ะใ​หส​้ ง่ิ ด​ ท​ี สี่ ดุ ​ กบั ล​ กู ห​ ลานข​ องเ​รา​​แ​ ตอ​่ ะไร ค​ อื ส​ ง่ิ ด​ ท​ี ส่ี ดุ ​?​ ​ค​ วามร​ ​ู้ เ​งนิ ท​ อง​ สมบตั พ​ิ ัสถาน​​ชื่อเ​สียง​​เกยี รตย​ิ ศ​?​ ​ ​ ท​ กุ ว​ นั น​ เ​ี้ ราต​ า่ งท​ ำงานห​ นกั จ​ นไ​มม่ เ​ี วลาใ​หก​้ บั ล​ กู ​เ​พอ่ื ​ จะห​ าเงนิ ห​ าท​ องม​ าเ​พอ่ื ส​ ง่ เ​สยี ใ​หล​้ กู เ​รยี นใ​นโ​รงเรยี นท​ ด​่ี ท​ี สี่ ดุ ​ และใ​ หส​้ งู ท​ ส่ี ดุ ​​แ​ ตล​่ กู ย​ งั ก​ ลบั ว​ า้ เหว​่ โ​ดดเ​ดยี่ ว​โ​หยห​ าความ​ รกั จ​ ากท​ กุ ค​ น​​ค​ วามร​ ผ​ู้ า่ นร​ ะบบก​ ารศ​ กึ ษาท​ ไ​ี่ ดร​้ บั ​ท​ ำใหเ​้ ขา​ มคี​ วาม​สขุ ​ขน้ึ ​บ้างห​ รอื ​ไม่​​?​​เ​กดิ ​อะไร​ขน้ึ ​กับ​วธิ ีค​ ิด​​วิธป​ี ฏิบัติ​ ของค​ น​ผู้เ​ปน็ พ​ อ่ แ​ ม​ใ่ น​ปัจจบุ นั ​

​ ​ใน​หนังสือ​เล่ม​นี้​ ​จะ​มี​คำ​ตอบ​ซึ่ง​เป็น​เสมือน​เข็ม​ทิศ​ หรือ​แผนท่ี​​ท่​เี ราจ​ ะม​ นั่ ใจไ​ด​ว้ ่า​ส​ งิ่ ท​ ีเ่​รา​จะใ​ ห้ก​ ับล​ กู ​น้ัน​เ​ป็น​ สิ่ง​ท่ี​ถูก​ต้อง​และ​ดี​งาม​ ​​ที่​จะ​ไม่​เป็น​ไป​เพ่ือ​สร้าง​ความ​ทุกข์​ ความ​เดือด​ร้อน​ ​ ​แต่​เป็น​ไป​เพ่ือ​สร้าง​ประโยชน์​และ​ความ​ สุข​ทั้ง​แก่​ตนเอง​และ​สังคม​ ​ทั้ง​ใน​ปัจจุบัน​และ​อนาคต​ ​และ​ จะเ​ป็นส​ ง่ิ ​ทีม​่ ี​คณุ ค่าย​ ่ิงก​ บั ช​ ีวิตข​ องผ​ ้​ทู ​ี่เราร​ ัก​ท่สี ดุ ​ ​ คณะ​ผู้​จัด​พิมพ์​ขอก​ราบ​ขอบพระคุณพระ​อาจารย์ ​ ที่​เมตตา​อบรม​ส่ัง​สอน​ ​ให้​กำลัง​ใจ​และ​ให้การ​สนับสนุน​ บุญ​กุศล​อัน​ใด​ที่​เกิด​จาก​การ​พัฒนาการ​ศึกษา​วิถี​พุทธ​ให้​ เจรญิ ​กา้ วหนา้ ​​ซ่ึง​จะย​ ัง​ความ​สงบร​ ม่ เยน็ ใ​ ห​้เกดิ ข​ นึ้ ใ​ นส​ งั คม​ และ​การ​ให้​ธรรมะ​เป็น​ทาน​ ​ขอ​น้อม​ถวาย​เป็น​อา​จา​ริย​บูชา​ เพ่ือ​ระลึกถ​ ึง​พระคุณข​ อง​ท่าน​ทม่ี​ ีต​ อ่ ล​ ูก​ศษิ ย์​ตลอด​มา​ ​ ค​ ณะศ​ ิษยานุศษิ ย์​ ก​ มุ ภาพันธ​์ ๒​ ๕๕๑​

7 ส่งิ ด​ ที​ ่ีสุดส​ ำหรบั ​ลกู ​ ​ธรรม​เทศนา​พ​ ระอ​ าจารย​์ ช​ ยส​ าโร​​ ​โรงเรยี น​ทอ​สี​๗​ ​ม​ กราคม​​๒๕๕๑​ ​ ​ ​ถา้ ​ม​ใี คร​ถาม​วา่ ​เรา​ตอ้ งการ​อะไร​ให​ก้ บั ​ลกู ​หลาน​ ของ​เรา​ ​ทุก​คน​ก็​ต้อง​ตอบ​เสียง​เดียวกัน​ว่า​ต้องการ​ส่งิ ​ ท่ี​ดี​ท่ีสุด​ ​แต่​ปัญหา​อยู่​ท่ี​การ​ตัดสิน​ว่า​อะไร​คือ​ส่ิง​ท่ี​ดี​ ทส่ี ดุ ​เ​จตนาท​ ​ด่ี ค​ี วาม​หวงั ​ด​ี ​ความร​กั ก​ ​ม็ อ​ี ยแ​ู่ ลว้ แ​ นน่ อน​ แต่​ถ้า​เจตนา​น้ัน​ขาด​ปัญญา​ ​อาจ​จะ​นำ​ไป​สู่​ส่ิง​ท่ี​ไม่​ ปรารถนา​กไ็ ด​้ ​หรอื ​แมแ้ ต​ส่ ง่ิ ​ตรง​ขา้ ม​กบั ​ท​ต่ี น​ปรารถนา​ กไ็ ด​้ ใ​น​พระพทุ ธ​ศาสนา​จงึ ​เนน้ ​อยเ​ู่ สมอ​วา่ จ​ ติ ใจ​ของ​เรา​ ตอ้ ง​ประกอบ​ดว้ ย​นำ้ ใจ​​ดว้ ย​ความ​บรสิ ทุ ธ​ใ์ิ จ​​และ​ดว้ ย​ ปญั ญา​เปน็ เ​ครอ่ื งก​ ำกบั ​ ​

8 ​ ​ใน​การ​ศึกษา​ก็​เช่น​เดียวกัน​ ​เรา​ต้องการ​ให้​ ลูก​หลาน​ได้​รับ​การ​ศึกษา​ท่ี​ดี​ท่ีสุด​ ​แล้ว​การ​ศึกษา​ ที่​ดี​ท่ีสุด​มัน​เป็น​อย่างไร​ ​ใน​เร่ือง​นี้​ก็​มี​หลาย​ความ​ เห็น​ ​ใน​ยุค​ปัจจุบัน​เรา​อยู่​ใต้​อิทธิพล​ของ​ความ​คิด​ท่ี​ ยก​เร่อื ง​เศรษฐกิจเ​ปน็ ​ใหญ่​​ลูก​จะ​ได​้ประโยชนอ์​ ะไร​ก​ ็​ ไมส​่ ำคญั เ​ทา่ กบั ท​ จ​่ี ะไ​ดค​้ วามร​ ท​ู้ จ​่ี ะใ​ ชใ​้ นก​ ารป​ ระกอบ​ อาชีพต​ อ่ ไ​ป​น​ ี่​ก็เ​ป็นค​ วามเ​ช่อื ​เ​ปน็ ค​ วามค​ ิดท​ ี่​เราค​ วร​ จะก​ ลนั่ ก​ รองค​ วร​จะท​ บทวน​อีก​ที​​ ​ เ​มอื่ เ​ราไ​ดห​้ าข​ อ้ มลู ใ​ นเ​รอ่ื งก​ ารร​ บั ค​ นเ​ขา้ ท​ ำงาน​ แล้ว​ป​ รากฏว​ า่ ​ผใู้ หญ​ห่ รือเ​จ้าของบ​ ริษทั ​ตา่ ง​ๆ​ ​ม​ ักจ​ ะ​ บน่ ว​ า่ ค​ วามร​ข​ู้ องค​ นท​ เ​ี่ พง่ิ จ​ บก​ ารศ​ กึ ษาไ​มท่ นั ก​ บั ค​ วาม​ เปลี่ยนแปลง​ต่างๆ​ ​อย่าง​เช่น​เรื่อง​ ​Software​ ​ที่​ใช้​ใน​ บริษัท​C​ omputer​​ไม่​กเี​่ ดือนม​ นั ​ก​เ็ ปลย่ี นไ​ปแ​ ลว้ ​อ​ งค​์ ความ​รู้​ท่ี​ได้​จาก​การ​เรียน​ใน​ระดับ​อุดมศึกษา​จะ​หมด​

9 ความห​ มายภ​ ายในไ​มก​่ ป​ี่ ​ี ​เ​มอ่ื เ​ทคโนโลยเ​ี ปลยี่ นแปลง​ รวดเร็ว​ ​สังคม​เปลี่ยนแปลง​รวดเร็ว​ ​โลก​ทั้ง​โลก​ก็​ เปลย่ี นแปลง​อย่าง​รวดเร็ว​อ​ ย่าง​เชน่ ​เรอื่ ง​ท​ีน่ ่า​กลัว​คือ​ ภาวะ​โลก​ร้อน​​เปน็ ตน้ ​​ ​ ถ​ า้ เ​ปน็ อ​ ยา่ งน​ ​้ีเ​ราค​ วรถ​ ามต​ วั เ​องว​ า่ ​ใ​นเ​มอ่ื เ​ราอ​ ย​ู่ ในส​ ง่ิ แ​ วดลอ้ มท​ เ​่ี ปลย่ี นแปลงอ​ ยา่ งร​ วดเรว็ ​แ​ ละเ​ปลย่ี น​ ในท​ ศิ ทางท​ เ​่ี ราป​ ระมาณห​ รอื ค​ าดล​ ว่ งห​ นา้ ไ​ดย​้ าก​อ​ ะไร​ คอื ส​ ง่ิ ท​ ส​่ี ำคญั ท​ ส่ี ดุ ห​ รอื ด​ ท​ี ส่ี ดุ ท​ ล​่ี กู ห​ รอื ห​ ลานเ​ราค​ วรจ​ ะ​ ไดร​้ บั ​​ตรง​จดุ น​ จ​้ี ะเ​หน็ ​ทา่ ทข​ี องพ​ ทุ ธ​ศาสนา​ทช​่ี ดั เจน​วา่ ​ ไม​ไ่ ด​เ้ รม่ิ ​ตน้ ​ดว้ ย​ปรชั ญา​​ไม​ไ่ ด​เ้ รม่ิ ​ตน้ ​ดว้ ย​สง่ิ ​ท​ม่ี อง​ไม่​ เห็น​หรือ​ส่งิ ​ท่​ีต้อง​รับ​ด้วย​ความ​เช่อื ​อย่าง​เดียว​ ​แต่​เร่มิ ​ ตน้ ด​ ว้ ยค​ วามจ​ รงิ ​ของช​ วี ติ ​เทา่ ​ทเ​่ี รา​เหน็ ไ​ด​้ ​ ​ ​เรื่อง​ภาวะ​โลก​ร้อน​ ​เร่ือง​ความ​เปลี่ยนแปลง​ ของ​เทคโนโลยี​ไม่ใช่​เรื่อง​ท่ี​จะ​ต้อง​ไป​เชื่อ​เนื่องจาก​ว่า​

10 เป็น​คำ​สอน​ของ​พระ​ศาสนา​ ​แต่​เป็นการ​สรุป​จาก​ส่ิง​ ท่ี​เป็น​ข่าว​ ​ส่ิง​ที่​เรา​เห็น​รอบ​ตัว​อยู่​ตลอด​เวลา​ ​คำ​สอน​ ของ​พระพุทธ​ศาสนา​เป็น​คำ​สอน​ที่​ตั้ง​ไว้​บน​ฐาน​แห่ง​ สจั ธ​ รรม​ค​ วามจ​ รงิ ท​ เ​ี่ ปน็ กล​ าง​โ​ดยถ​ อื วา่ ไ​มใ่ ชข​่ องใ​ คร​ ของศ​ าสนาใ​ด​โ​ดยถ​ อื วา่ เ​มอื่ ธ​ รรมชาต​ิ เ​มอ่ื ช​ วี ติ เ​ราเ​ปน็ ​ อย่าง​นี้​ ​เรา​ควร​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​อย่างไร​มัน​จึง​จะ​ดี​ท่ีสุด​​ และ​สิ่ง​ที่​ดี​ท่ีสุด​นั้น​ ​ท่ี​ท่าน​ให้​ชื่อ​ว่า​ ​จริยธรรม​ ​คือ​การ​ ประพฤตป​ิ ฏบิ ตั ท​ิ ต​่ี รงส​ อดคลอ้ งก​ บั ค​ วามจ​ รงิ ข​ องช​ วี ติ ​ โดยถ​ อื วา่ ม​ นษุ ยเ​์ ราท​ กุ ค​ นต​ อ้ งการค​ วามส​ ขุ ​ไ​มต​่ อ้ งการ​ ความ​ทุกข​์ ส​ ำหรบั ส​ ตั ว​์ท​ตี่ อ้ งการ​ความ​สุข​ไม​ต่ ้องการ​ ความ​ทุกข์​แล้ว​ ​เมื่อ​ชีวิต​เป็น​อย่าง​นี้​ ​เมื่อ​โลก​ที่​เรา​อยู่​ อาศัยเ​ป็นอ​ ยา่ งน​ ้​ี อ​ ะไรค​ ือส​ ง่ิ ​ท่ี​ดี​ที่สุดท​ ีเ​่ รา​ควรจ​ ะ​หวัง​ สำหรับ​ตัวเ​อง​ส​ ำหรับ​ครอบครวั ​ส​ ำหรับล​ กู ​หลาน​ ​ ความ​เห็น​ของ​อาตมา​ก็ค​ ือว​ ่าว​ ชิ าค​ วามร​ ​ตู้ ่าง​ๆ​ ​

11 เ​ปน็ ส​ ่วนส​ ำคัญข​ อง​ชวี ติ ​เ​รา​จะเ​ห็น​ชัด​ว่า​พทุ ธ​ศาสนา​ ไม่​เคย​มอง​ข้าม​ ​หรือ​ดูแคลน​ความ​สำคัญ​ของ​เรื่อง​ น้ี​ ​ซึ่ง​มี​หลัก​ฐาน​ที่​ชัดเจน​ท้ัง​ใน​มงคล​สูตร​ ​มี​หลัก​ฐาน​ ท่ี​ชัดเจน​ของ​การ​เป็นสุ​ตะ​หรือ​พหูสูต​ ​เป็น​ผู้​เล่า​เรียน​ ศึกษา​มาก​ ​เป็น​ผู้​ท่ี​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​ใน​พระ​ศาสนา​ และ​สุ​ตะ​น้ัน​ ​ผู้​ได้ยิน​ได้​ฟัง​มาก​มี​ความ​รู้มาก​ ​ก็​เป็น​ เอกลักษณ์​ ​หรือ​ข้อ​ธรรม​ข้อ​หน่ึง​ที่​เห็น​ชัด​ใน​พระ​ โสดาบ​ ัน​ห​ รือพ​ ระอ​ ริยะเ​จ้าใ​ น​ระดับแ​ รก​​​สรุปว​ ่า​วิชา​ ความ​รู้​ต่าง​ ​ๆ​ ​เป็น​ส่ิง​สำคัญ​ ​ส่ิง​จำเป็น​ใน​ชีวิต​ ​แต่​ อาตมา​เห็น​ว่า​เรา​ต้อง​จัด​ลำดับ​ความ​สำคัญ​ใหม่​โดย​ เอา​สิ่ง​สูงสุด​หรือ​ส่ิง​ที่​เป็น​เป้า​หมาย​ชีวิต​เป็น​ตัว​ตัดสิน​ ว่าค​ วร​จะเ​นน้ ใ​ น​ส่วนไ​หน​ใน​การศ​ กึ ษา​​ ​ พ​ ระพุทธ​ศาสนาเ​ป็นศ​ าสนาท​ ​ีพ่ เิ ศษ​​ไม่​เหมอื น​ ใคร​ ​เมื่อ​เดือน​ท่ี​แล้ว​อาตมา​ได้​ไป​ประชุม​ท่ี​ประเทศ​

12 มาเลเซีย​พ​ ระ​เถระผ​ ู้ใหญ่ร​ ูปห​ นึง่ ไ​ด้ต​ ้ังข​ อ้ ส​ งั เกต​ว่า​ใน​ สารานกุ รมศ​ าสนาท​ ใ​่ี ชเ​้ ปน็ ห​ นงั สอื อ​ า้ งองิ ท​ ว่ั โ​ลก​ม​ ค​ี ำ​ จำกดั ค​ วาม​คำ​ว่า​ศาสนา​อย​ู่ ๑​ ๐​​ข้อ​ป​ รากฏ​วา่ ไ​ม่มข​ี ้อ​ ไหน​ตรง​กับ​พุทธ​ศาสนา​แม้แต่​ข้อ​เดียว​ ​ตาม​มติ​ ​หรือ​ คำ​นิยาม​ของ​นัก​วิชา​การ​ตะวัน​ตก​พุทธ​ศาสนา​ไม่ใช่​ ศาสนา​ ​หรือ​ไม่ใช่​ ​Religion​ ​ชาว​ตะวัน​ตก​มัก​จะ​มอง​ พทุ ธศ​ าสนาแ​ บบง​ ง​ๆ​ ​บ​ างทเ​ี ขาจ​ ะถ​ ามว​ า่ พ​ ทุ ธศ​ าสนา​ เป็น​ ​ศาสนา​ ​หรือ​เป็น​ ​ปรัชญา​ ​หรือ​เป็น​วิถี​ชีวิต​แบบ​ หนึง่ ​​เปน็ ต้น​​ ​ ถา้ เ​ราต​ อบต​ ามท​ เ​่ี ขาถ​ ามก​ ไ​็ มถ​่ กู ต​ อ้ ง​น​ กั ป​ ราชญ​์ จะร​ด​ู้ ว​ี า่ ​​เมอ่ื ใ​คร​ถามส​ ง่ิ ใ​ดไ​มจ​่ ำเปน็ ​ตอ้ ง​ตอบต​ าม​ท​เ่ี ขา​ ถาม​​เพราะก​ ารต​ อบ​ตามท​ เ​่ี ขาถ​ าม​​เปน็ การ​ยอมรบั ​อย​ู่ ในต​ วั ว​ า่ เ​หน็ ด​ ว้ ยก​ บั ม​ มุ ม​ องข​ องเ​ขาว​ า่ ศ​ าสนาก​ ต​็ อ้ งเ​ปน็ ​ อยา่ งท​ เ​่ี ขาใ​หค​้ ำน​ ยิ าม​ป​ รชั ญาก​ ต​็ อ้ งเ​ปน็ อ​ ยา่ งน​ ​้ีว​ ถิ ช​ี วี ติ ​

13 ก​็ตอ้ ง​เปน็ ​อยา่ ง​น​้ี ​ศาสนา​พทุ ธ​ม​ีบาง​สว่ น​ท​่จี ะ​มอง​เปน็ ​ ศาสนา​ได​้ ​บางส​ ว่ นม​ อง​เปน็ ​วทิ ยาศาสตรไ​์ ด​้ ​แต​ม่ องใ​น​ บาง​แง​บ่ าง​มมุ ​เปน็ ​จติ ​ศาสตร​ก์ ไ็ ด​้ ​มอง​ใน​บาง​มมุ ​ก​เ็ ปน็ ​ ปรชั ญาไ​ด​้เ​ราไ​มไ​่ ดแ​้ ยกแยะแ​ บบน​ น้ั ​เ​พราะข​ องเ​ราเ​ปน็ ​ ระบบอ​ งค​ร์ วม​​ ​ แต่​ถ้า​จะ​ให้​สรุป​เป็น​คำ​เดียว​ ​ศัพท์​เดียว​ก็​ต้อง​ เรียก​ว่า​เป็น​ระบบ​การ​ศึกษา​ ​ท่ี​เรียก​ว่า​เป็น​ระบบ​การ​ ศึกษา​เพราะ​ถือว่า​คำ​สอน​ใน​ศาสนา​ ​มีหน้า​ท่ี​ช่วย​คน​ พฒั นาต​ นเองใ​หพ​้ น้ จ​ ากท​ กุ ขท​์ งั้ ป​ วง​ใ​หเ​้ ขา้ ถ​ งึ ค​ วามส​ ขุ ​ ทแ่ี ทจ​้ รงิ ​ค​ ำส​ อนท​ ท​ี่ า่ นบ​ อกว​ า่ ม​ ​ี ๘​ ๔,๐๐๐​ข​ อ้ น​ น้ั ล​ ว้ น​ แตเ​่ ปน็ ว​ ธิ ก​ี ารเ​ปน็ เ​ครอื่ งม​ อื ท​ จ​ี่ ะช​ ว่ ยช​ ำระก​ ายว​ าจาใ​จ​ การ​ทำให้​ส่ิง​ที่​ไม่​ดี​ไม่​งาม​ลด​น้อย​ลง​ ​หรือ​หาย​ไป​จาก​ ชีวติ ​​ทำส​ ่งิ ท​ ีด่​ ี​งาม​ใหเ​้ กดิ ข​ น้ึ ​ใ​ หเ​้ จริญง​ อกงามใ​ หถ้​ งึ ที่​ สดุ ​ต​ อ้ งเ​รยี กว​ า่ การศ​ กึ ษา​ก​ ารศ​ กึ ษาท​ อ​ี่ งคส​์ มเดจ็ พ​ ระ​

14 สัมมา​สัม​พุทธ​เจ้า​ได้​ทรง​ประทาน​ให้​พวก​เรา​น้ัน​ต้อง​ เรียก​ว่า​เป็นการ​ศึกษา​ท่ี​สมบูรณ์​บริบูรณ์​ ​ผู้​ใด​ปฏิบัติ​ ถงึ ข​ นั้ ท​ เ​ี่ รยี กว​ า่ จ​ บก​ ารศ​ กึ ษาก​ เ​็ ปน็ พ​ ระอ​ รห​ นั ต​ ​์ ผ​ ย​ู้ งั ไ​ม​่ ถงึ ข​ นั้ พ​ ระอ​ รห​ นั ต​ เ​์ รยี กว​ า่ เ​ปน็ ผ​ ท​ู้ ย​ี่ งั ต​ อ้ งการก​ ารศ​ กึ ษา​ ยงั ไ​ม​่จบ​การศ​ ึกษา​​ ​ ใน​ระบบ​การ​ศึกษา​ทั่วไป​ ​เช่น​การ​ศึกษา​ของ​ โรงเรียน​ ​แน่นอน​ว่า​เรา​ไม่​ได้​มุ่ง​จะ​ให้​เด็ก​นักเรียน​ เปน็ ​พระ​อร​หนั ​ต์​​ไมต่​ อ้ งการ​ใหค้​ รเู​ปน็ ​พระอ​ ร​หันต​ ์​​แต่​ ถือว่า​เม่ือ​มี​หลัก​ใหญ่​ใน​อริย​มรรค​มี​องค์​แปด​ ​ซึ่ง​เป็น​ ระบบ​การ​ศึกษา​ท่ี​สมบูรณ์​ท่ีสุด​ท่ี​เคย​ปรากฏ​ใน​โลก​ มนุษย์​ ​เมื่อ​เรา​จับ​หลัก​ใหญ่​น้ี​ได้​แล้ว​ ​เรา​สามารถ​ดึง​ ออก​ได้​หลาย​ข้อ​ ​ทำ​เป็น​ระบบ​การ​ศึกษา​สำหรับ​คน​ ธรรมดา​ที่​อยู่​ใน​โลก​ใน​ลักษณะ​ท่ี​สอดคล้อง​เป็น​อัน​ หนง่ึ อ​ นั เ​ดยี วกนั ก​ บั ห​ ลกั ใ​หญ​่ ก​ ารท​ เ​ี่ ราจ​ ะพ​ ฒั นาร​ ะบบ​

15 การ​ศึกษา​แนว​พุทธ​น้ัน​ก็​อยู่​ท่ี​การ​จับ​หลัก​ใหญ่​ ​แล้ว​ ประยกุ ตใ​์ ชก​้ บั ค​ วามต​ อ้ งการข​ องร​ ะบบก​ ารศ​ กึ ษา​โ​ดย​ มบ​ี างส​ ว่ นท​ ต​่ี อ้ งเ​นน้ ม​ ากน​ อ้ ย​อ​ ยา่ งเ​ชน่ ​เ​รอ่ื งสต​ุ ะ​เ​รอ่ื ง​ การเ​รยี นร​ต​ู้ า่ งๆ​แ​ ละอ​ าจจ​ ะม​ บ​ี างส​ ว่ นท​ เ​ี่ นน้ น​ อ้ ย​อ​ ยา่ ง​ เชน่ ​เ​รื่อง​สมาธิ​ว​ ปิ ัสสนา​​ธรรมะข​ ั้นส​ งู ​​ ​ อยา่ งไรก​ ต็ าม​ถ​ งึ แ​ มจ​้ ะไ​มไ​่ ดเ​้ อาใ​นท​ กุ ๆ​ ข​ อ้ ​ห​ รอื ​ ในท​ กุ ๆ​ ขนั้ ​ก​ ย​็ งั ถ​ อื ห​ ลกั ว​ า่ การพ​ ฒั นาม​ นษุ ยท​์ จ​ี่ ะไ​ดผ​้ ล​ ต้อง​มี​ส่วน​การ​ฝึก​อบรม​ท้ัง​ทาง​พฤติกรรม​ ​หรือ​กาย​ วาจา​ ​ท้ัง​ทาง​จิตใจ​และ​ปัญญา​พร้อม​ๆ​กัน​ไป​ ​แม้แต่​ ใน​การ​ศึกษา​เล่า​เรียน​วิชา​ความ​รู้​ต่าง​ ​ๆ​ ​เรา​น่า​จะ​ เห็น​ได้​ว่า​ไม่ใช่​เร่ือง​ไอ​คิว​ ​หรือ​ความ​ฉลาด​อย่าง​เดียว​ พฤติกรรม​และ​อารมณ์​ของ​เด็ก​นักเรียน​มี​ผล​ต่อ​การ​ ศึกษา​อย​ตู่ ลอด​เวลา​เ​อาง​ า่ ย​​ๆ ถ​ ้าเ​ดก็ ​นกั เรยี น​นอน​ ไมเ​่ ปน็ เ​วลา​ก​ นิ ไ​มเ​่ ปน็ เ​วลา​ไ​มส​่ ำรวมอ​ นิ ทรยี ​์ เ​วลาจ​ ะ​

16 เรยี นห​ นงั สอื ก​ ง​็ ว่ งห​ รอื ว​ า่ จ​ ติ ใจฟ​ งุ้ ซ​ า่ นว​ นุ่ ว​ าย​ก​ เ​็ รยี นไ​ม​่ คอ่ ยไ​ด​้ อ​ นั ​นง​้ี า่ ย​สดุ ​เหน็ ไ​ดช้ ดั ​ ​ เรอื่ งอ​ ารมณก​์ เ​็ ชน่ เ​ดยี วกนั ​เ​ดก็ ห​ ลายค​ นอ​ าจจ​ ะ​ ฉลาด​แ​ ตเ​่ พราะว​ า่ จ​ ติ ใจเ​ศรา้ ห​ มองบ​ างทก​ี ม​็ ค​ี วามซ​ มึ ​ เศรา้ ​บ​ างทก​ี ต​็ ดิ เ​พอ่ื นม​ ากเ​กนิ ไ​ป​ม​ อ​ี ารมณโ​์ กรธ​อ​ จิ ฉา​ เป็น​เด็ก​ที่รัก​สวย​รัก​งาม​ ​ชอบ​เท่ียว​ชอบ​สนุก​ ​อารมณ์​ เหลา่ น​ ค​้ี รอบงำจ​ ติ ใจแ​ ลว้ ​ส​ ตป​ิ ญั ญาค​ วามฉ​ ลาดต​ า่ ง​ๆ​ ​ ก็​ไม่มี​โอกาส​ทำ​หน้าท่ี​ของ​มัน​ได้​ ​เพราะ​ส่ิง​เหล่า​นี้​ไม่​ สามารถ​แยก​ส่วน​ออก​จาก​กัน​ได้​ใน​ชีวิต​ของ​คน​ ​เม่ือ​ อ่าน​ตำรา​เร่ือง​วิทยาศาสตร์​ ​หรือ​ศาสตร์​นั้น​ศาสตร์​น้ี​ ก็​ไมไ่​ด​ก้ ล่าว​ถึงอ​ ารมณข์​ อง​ผ้เ​ู รยี น​ไ​ม​ไ่ ด้ก​ ล่าว​ถงึ ช​ ีวติ ​ ครอบครัวห​ รอื ว​ ่า​นิสัย​ใจคอ​ของ​ผู้​เรียน​​แต่ใ​ นช​ ีวิตจ​ รงิ ​ ของค​ น​​เราก​ ต​็ ้อง​ยอมรับว​ ่าเ​ร่อื ง​นม​ี้ ี​ส่วนส​ ำคัญ​ ​ เมอ่ื เ​ราเ​หน็ เ​ชน่ น​ แ​้ี ลว้ ​เ​ราน​ า่ จ​ ะส​ รปุ ว​ า่ ​แ​ มแ้ ตใ​่ น​

17 เรอ่ื งก​ ารเ​รยี นใ​นค​ วามห​ มายท​ วั่ ไป​ก​ ารใ​หค​้ วามส​ ำคญั ​ กับ​คุณ​ธรรม​และ​การ​รู้​เท่า​ทัน​อารมณ์​ ​การ​รู้จัก​ปล่อย​ วาง​อารมณ์​ท่ี​เศร้า​หมอง​ ​การ​ฝึก​ให้​มี​สติ​ ​การ​บริหาร​ จัดการ​อารมณ์​ต่าง​ ​ๆ​ ได้​ ​การ​พยายาม​ที่​จะ​ละ​สิ่ง​ท่ี​ ไม่​ดี​ ​เพ่ิม​ส่ิง​ที่​ดี​ก็​มี​ผล​โดยตรง​ต่อ​การ​เรียน​ ​ไม่ใช่​การ​ เสยี เ​วลา​ทค​่ี วร​จะใ​ ห้​แก​ก่ าร​เรยี น​​นัน่ ก​ ็​เป็น​ส่วนส​ ำคญั ​ ของ​การ​เรียน​​หาก​เปรียบ​เทยี บก​ บั ​การ​พกั ​ผ่อน​ถ​ ้าเ​รา​ ทำงาน​ ​หรือ​ทำ​หน้าที่​ต่าง​ ​ๆ​ของ​เรา​ ​ก็​ยัง​ต้อง​มี​เวลา​ ท่พี กั ผ​ อ่ น​บา้ ง​ถ​ ้าท​ ำ​แลว้ ​ไม่ร้​จู กั ​พัก​ผอ่ น​ก็​เครียด​​ ​ ปัญหา​ใหญ่​ของ​คน​ทุก​วัน​นี้​ก็​คือ​ความเครียด​ ความเครยี ดก​ ​็ม​สี าเหตุ​​บางทีเ​กิดข​ ึน้ ​เพราะ​เราร​ บั ​งาน​ เกนิ ต​ วั ​แ​ ตบ​่ างทก​ี เ​็ กดิ เ​พราะว​ า่ เ​ราบ​ รหิ ารจ​ ติ ใจไ​มเ​่ ปน็ ​ ถ้า​เรา​ศึกษา​และ​ปฏิบัติ​ตาม​แนวทาง​พระพุทธเจ้า​ ​มี​ ปัญญา​ท่ี​จะ​รู้​ความ​พอดี​กับ​ตัว​เอง​ ​รู้จัก​ผ่อน​คลาย​

18 อารมณ์​ใน​ทาง​ท่ี​เป็น​ธรรมชาติ​โดย​ไม่​ต้อง​ไป​กิน​เหล้า​ ไปเ​ทยี่ วห​ รอื ห​ าท​ างล​ ดั อ​ นื่ ๆ​ ​เรยี กว​ า่ ม​ ท​ี างท​ จ​ี่ ะอ​ ยก​ู่ บั ต​ วั ​ เราเ​องต​ ลอด​เวลาโ​ดย​ไม่​ตอ้ ง​พงึ่ พาป​ ัจจัย​ภายนอก​​ ​ อาตมา​เช่ือ​ว่า​ ​คน​ส่วน​มาก​ที่​อยู่​ใน​เมือง​ไทย​ มอง​ระบบ​การ​ศึกษา​ของ​ตะวัน​ตกว่า​ดี​กว่า​ที่​เป็น​จริง​ อาตมาส​ นใจศ​ กึ ษาห​ าความร​ เ​ู้ กย่ี วก​ บั ร​ ะบบก​ ารศ​ กึ ษา​ ของ​ตะวัน​ตก​อยู่​ตลอด​เวลา​ ​พยายาม​อ่าน​ข้อความ​ ต่าง​​ๆ​​แลว้ ​กอ็​ า่ น​ที่​พวกค​ ร​ู ​อาจารยม์​ หาวทิ ยาลยั ​เขา​ เขียน​ประสบการณ์​ใน​การ​สอน​ ​ผล​ดี​ผล​เสีย​ ​ก็​สรุป​ได้​ ง่าย​ ​ๆ​ ​ว่า​ระบบ​การ​ศึกษา​ของ​ตะวัน​ตก​ไม่​ได้​ประสบ​ ความส​ ำเรจ็ ​เ​ราไ​มค​่ วรจ​ ะส​ บั สนร​ ะหวา่ งค​ วามก​ า้ วหนา้ ​ ทาง​เทคโนโลยี​ของ​ตะวัน​ตก​กับ​วิชา​อ่ืน​ ​ๆ​ ​โดย​เฉพาะ​ วชิ า​ทเ่​ี ก่ยี ว​กบั ​มนษุ ย​โ์ ดยตรง​​ ​ นัก​วิชา​การ​ชาว​ตะวัน​ตก​จะ​เก่ง​มาก​ใน​ส่วน​

19 ที่​เก่ียว​กับ​สิ่ง​ไม่มี​ชีวิต​ ​แต่​ที่​เก่ียว​กับ​ส่ิง​ที่​มี​ชีวิต​ไม่​ ค่อย​เก่ง​เท่าไร​ ​ดู​จาก​สภาพ​สังคม​ก็ได้​ ​ถ้า​เรา​คิด​ ว่า​ชาติ​ตะวัน​ตก​ไม่​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ เรา​จะ​เอา​ อะไร​เป็น​เคร่ือง​ตัดสิน​หรือ​ว่า​มี​เหตุผล​อย่างไร​ที่​จะ ว​ พ​ิ ากษว​์ จิ ารณอ​์ ยา่ งน​ น้ั ​อ​ าตมาว​ า่ เ​อาค​ วามส​ ขุ ห​ รอื ว​ า่ ​ ความเ​ปน็ อ​ ยใ​ู่ นส​ งั คมท​ ว่ั ไปเ​ปน็ ห​ ลกั ก​ ไ็ ด​้ ทกุ ว​ นั น​ ห​้ี นง่ึ ​ ส่วน​ส่ี​ของ​ประชากร​ของ​คน​อังกฤษ​ใน​แต่ละ​ปี​ต้อง​ไป​ หา​หมอ​เพราะ​มี​ปัญหา​ทาง​จิตใจ​ ​ไม่​เก่ียว​กับ​ร่างกาย​ จะเ​ปน็ ด​ ว้ ยเ​รอื่ งเ​ครยี ด​น​ อนไ​มห​่ ลบั ​ว​ ติ กก​ งั วล​ค​ ดิ มาก​ ซมึ เ​ศร้า​​หรอื ​โรคอ​ ืน่ ๆ​ ท​ ่เี​ช่อื ม​โยงก​ บั ภ​ าวะ​จิตใจ​ ​ เพียง​สถิติ​แค่​นี้​อาตมา​ว่า​พอ​จะ​เป็นการ​ฟ้อง​ ว่า​ถ​ ้าร​ ะบบก​ ารศ​ กึ ษา​เขาด​ ี​ ​ทำไมค​ นเ​ปน็ ​อยา่ งน​ ี​้ ถ​ ้า​ เขา​สร้าง​สังคม​ให้​เป็น​อย่าง​น้ี​ ​หรือ​ว่า​วิถี​ชีวิต​เขา​เป็น​ ไป​ใน​ทาง​ท่ี​ทำให้​เขา​รู้สึก​อย่าง​น้ี​ ​ใน​ ​๑๐​ ​ปี​ที่​ผ่าน​มา​

20 ก็​มี​ข้อมูล​เพิ่ม​มาก​ข้ึน​ว่า​วัย​รุ่น​ซึม​เศร้า​มาก​ ​พอ​ต่อ​มา​ ไม่​กี่​ปี​ ​เด็ก​ประถม​เร่ิม​ซึม​เศร้า​ ​ตอน​นี้​ก็​มี​เด็ก​อนุบาล​ ท่ี​ซมึ ​เศร้า​ดว้ ย​แลว้ ​โ​รคซ​ มึ เ​ศรา้ เ​ป็นโ​รค​ท​ีก่ ำลงั ร​ ะบาด​ ทาง​สหประชาชาติ​ก็​ประเมิน​ว่า​ภายใน​ ​๕​​ปี​ข้าง​หน้า​ โรคท​ เ​่ี ปน็ อ​ นั ดบั ห​ นงึ่ ข​ องโ​ลกก​ ค​็ อื โ​รคห​ วั ใจ​อ​ นั ดบั ส​ อง​ คอื โ​รค​ซึมเ​ศร้า​​ ​ ต้อง​ถาม​ว่า​เรา​พัฒนา​เศรษฐกิจ​ ​พัฒนา​อะไร​ ต่ออ​ ะไรเ​พื่ออ​ ะไร​ท​ ำไมเ​ราป​ ล่อย​ให้​เศรษฐกิจก​ ลาย​ เป็น​เป้า​หมาย​ใน​ตัว​ของม​ ันเ​อง​​ถ้าบ​ อก​ว่าเ​ศรษฐกิจ​ ดี​ ​โต​เร็ว​ ​แล้ว​คน​จะ​อยู่ดี​กิน​ดี​ ​มี​ความ​สุข​ ​จริง​หรือ​ เปล่า​​ที่ไหน​ป​ ระเทศไ​ หนเ​ป็น​อย่างน​ ั้น​ข​ อห​ ลักฐ​ าน ​สนับสนุน​ความ​คิด​อย่าง​นี้​ด้วย​ ​อาตมา​พูด​ต​รง ๆ​ ว่า​ความ​คิด​แบบ​นี้​เป็น​ความ​คิด​งมงาย​ ​ ​ถ้า​เชื่อ​ อย่าง​นั้น​ให้​เอา​หลัก​ฐาน​มา​ดู​ ​ ​อาตมา​ยัง​หาไม่​เจอ​

21 ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​อัตรา​ความ​เจริญ​เติบโต​ทาง​ เศรษฐกิจ​ ​และ​ความ​เจริญ​อยู่ดี​มี​สุข​ของ​ประชาชน​ เมื่อ​เป็น​อย่าง​นั้น​แล้ว​เรา​จะ​ให้การ​ศึกษา​เป็น​ไป​ใน​ ลักษณะใ​ ด​​ ​ อาตมา​เชื่อ​ว่า​ถ้า​เรา​จัดการ​ศึกษา​ใน​ลักษณะ​ ที่​เด็ก​เป็น​คน​ตั้ง​มั่น​อยู่​ใน​ศีล​ ​มี​ความ​เคารพ​นับถือ​ ตัว​เอง​ ​มี​ความ​เคารพ​นับถือ​คน​อื่น​ ​ไม่​เบียดเบียน​ ใคร​ด้วย​กาย​ด้วย​วาจา​ ​และ​เป็น​ผู้​ที่​คิด​จะ​ช่วย​เหลือ​ เกื้อกูล​สังคม​เท่า​ที่​จะ​ทำได้​ด้วย​ ​นั่น​ก็​จะ​น่า​จะ​เป็น​ ข้อ​หนึ่ง​ใน​เรื่อง​ศีล​ธรรม​ ​ถ้า​เรา​พูด​แต่​ใน​เรื่อง​ของ​ ศีล​ห้า​​เป็นต้น​ม​ ี​แต่ว​ ่า​งด​เว้นจ​ ากเ​รื่อง​นั้น​​จาก​เรื่อง​ นี้​ ​จะ​พูด​แต่​ใน​ทาง​ลบ​ส่วน​ใหญ่​ ​แต่​ใน​ทาง​บวก​ก็​ มี​ ​คือ​นอกจาก​ว่า​ไม่​เบียดเบียน​ใคร​แล้ว​ ​เรา​ต้อง​มี​ อุดมการณ์ใ​ นก​ าร​สร้างป​ ระโยชน์​ให้​คนอ​ ื่น​ด้วย​ ​ ถ​ ้า​

22 เอาแ​ ค่​ไม่​เบียดเบียนใ​ คร​อ​ ันน​ ี้ก​ ็​ยัง​ไม่ถ​ ึง​ขั้นส​ มบูรณ​์ ด้วย​ศีล​​ ​ ใน​ความ​เห็น​ของ​อาตมา​​​ต้อง​ปลูก​ฝัง​ให้​เด็ก​มี​ ความ​เป็น​ห่วง​ต่อ​เพื่อน​มนุษย์​ ​มี​ความ​เป็น​ห่วง​ต่อ​ส่ิง​ แวดล้อม​ ​มี​ความ​เป็น​ห่วง​ต่อ​อนาคต​ของ​สังคม​ ​ของ​ ประเทศ​ชาติ​ ​มี​ความ​คิด​ที่​จะ​เสีย​สละ​เพื่อ​ส่วน​รวม​​ อาตมาถ​ อื วา่ เ​ปน็ เ​อกลกั ษณข​์ องม​ นษุ ยท​์ ส​ี่ มบรู ณ​์ เ​ปน็ ​ สิ่ง​ท่ี​น่า​ภาค​ภูมิใจ​ ​ท่ี​เรา​สามารถ​ที่​จะ​ปลูก​ฝัง​สำนึก​ อยา่ งน​ ไ​้ี ด​้ แ​ ลว้ ก​ จ​็ ะท​ ำใหป​้ ระเทศช​ าตป​ิ ลอดภยั ไ​ดด​้ ว้ ย​ ผท​ู้ ม​ี่ อ​ี ดุ มการณใ​์ นก​ ารช​ ว่ ยเ​หลอื ค​ นอ​ น่ื น​ อกจากว​ า่ จ​ ะ​ สรา้ งป​ ระโยชนแ​์ กส​่ งั คมไ​ดแ​้ นน่ อนแ​ ลว้ ​ก​ ย​็ งั จ​ ะม​ ค​ี วาม รู้สกึ ​เคารพ​นับถือต​ ัวเ​อง​ม​ ​คี วาม​สขุ ​ม​ จ​ี ติ ใจ​เปน็ ​บุญ​​ ​ อาตมาค​ ดิ ว​ า่ เ​รยี นห​ นงั สอื แ​ ลว้ ​ม​ แ​ี ตข​่ อ้ มลู ค​ วาม​ รต​ู้ า่ ง​ๆ​ เตม็ ต​ วั ​แ​ ตจ​่ ติ ใจย​ งั ต​ กตำ่ ​ย​ งั เ​ปน็ ค​ นเ​หน็ แ​ กต​่ วั ​

23 เอาแตส​่ ง่ิ ท​ ช​่ี อบ​ไ​มท​่ ำใ​นส​ งิ่ ท​ ไ​ี่ มช​่ อบ​ท​ ง้ั ท​ อ​่ี าจเ​ปน็ ส​ งิ่ ท​ ​่ี ด​ีไ​มอ​่ ดทน​ไ​มส่ ​ู้ก​ ก​็ ลายเ​ปน็ การผ​ ลติ ค​ นท​ ไ​ี่ มม่ ค​ี ณุ ภาพ​ ทกุ ว​ นั ​นเ​ี้ ราเ​หน็ ​ใชไ​่ หม​ใน​สังคม​​ผ​ ูห​้ ลัก​ผใู้ หญ่​จำนวน​ ไม่​น้อย​ ​มี​ความ​รู้มาก​มาย​ ​แต่​เป็น​คน​ไม่มี​คุณภาพ​ ในค​ วามห​ มายข​ องพ​ ระศ​ าสนา​ข​ อพ​ ดู ต​ รง​ๆ​ ว​ า่ เ​ปน็ ค​ น​ ทไ่ี​มม่ ค​ี ณุ ภาพ​​​ ​ ทกุ ว​ นั น​ ถ​้ี า้ ค​ นย​ งั ท​ จุ รติ ไ​ด​้ ย​ งั ใ​ ชค​้ วามฉ​ ลาดข​ อง​ ตัว​เอง​เอา​รัด​เอา​เปรียบ​คน​อื่น​ได้​ ​เรียก​ว่า​เป็น​คน​ไม่มี​ คณุ ภาพ​​เ​รา​ตอ้ ง​ถาม​ว่า​ทำอ​ ย่างไร​เรา​จึงจ​ ะน​ ำ​ความ​ เจริญ​มา​สู่​ประเทศ​ชาติ​ได้​ ​แทนที่​จะ​นั่ง​ส่าย​หน้า​เร่ือง​ นกั การเ​มอื งไ​มส​่ จุ รติ ​ค​ นน​ นั้ ก​ ไ​็ มด​่ ​ี ค​ นน​ ก​้ี ไ​็ มด​่ ​ี เ​ราก​ ต​็ อ้ ง​ ไป​ดูท​ ​เี่ หตปุ​ ัจจัย​​ขอ้ ท​ ีส่​ ำคัญ​ก็​อย่​ทู ่​ีจติ ใจ​ของค​ น​​ท่​คี า่ ​ นยิ ม​ของค​ น​เ​รา​ปล่อย​ให​ค้ ่าน​ ยิ มข​ อง​สงั คมไ​ทยเ​พยี้ น​ จากส​ มั มา​ทิฐิ​ไป​มาก​​เรา​จึง​มคี​ วามข​ ัด​แย้ง​อยู่​ในต​ ัว​​

24 ​ ถ้า​ถาม​คน​ที่​บอก​ว่า​ตัว​เอง​เป็น​ชาว​พุทธ​ ​ถาม​ ว่า​เขา​เห็น​ว่า​อะไร​เป็น​สิ่ง​ท่ี​ดี​ที่สุด​ที่​ตัว​เอง​จะ​ได้​จาก​ ชีวิต​ ​เขา​อยาก​จะ​ได้​อะไร​จาก​ชีวิต​ ​เขา​แสวงหา​อะไร​ ในช​ วี ติ ​​เ​ขาป​ ฏบิ ตั อ​ิ ยา่ งไรก​ บั ค​ นร​ อบข​ า้ ง​​เ​ราม​ กั จ​ ะไ​ด​้ คำต​ อบท​ ต​ี่ รงก​ นั ข​ า้ มก​ บั ห​ ลกั ค​ ำส​ อนข​ องพ​ ระพทุ ธเจา้ ​ คำต​ อบส​ ว่ นใ​ หญจ​่ ะเ​นน้ ท​ ก​่ี ารม​ ท​ี รพั ยส​์ นิ เ​งนิ ท​ อง​ว​ ตั ถ​ุ เสพต​ า่ งๆใ​หม​้ ากท​ สี่ ดุ ​ค​ วามค​ ดิ ท​ จ​่ี ะข​ ดั เกลาจ​ ะพ​ ฒั นา​ ตวั ​เอง​เ​พือ่ ป​ ระโยชนส์​ ขุ ข​ อง​ตน​​และ​ทำ​ประโยชนเ์​พอื่ ​ สว่ น​รวมไ​ม่ค​ ่อย​จะ​เหน็ ​​​ ​ ถา้ เ​ปน็ ศ​ าสนาท​ ย​ี่ กค​ วามเ​ชอื่ แ​ ละศ​ รทั ธาใ​นพ​ ระ​ ศาสดาเ​ปน็ ห​ ลกั ใ​หญอ​่ าจจ​ ะเ​ปน็ อ​ กี เ​รอื่ งห​ นง่ึ ​เ​พราะว​ า่ ​ ถา้ ค​ วาม​เชอื่ เ​ปน็ เ​ง่ือนไขส​ ำคญั ​ท่จ​ี ะ​กำหนด​วา่ ถ​ ้า​ตาย​ แล้ว​เรา​ขึ้น​สวรรค์​หรือ​ตก​นรก​ ​พฤติกรรม​การ​กระทำ​ ของ​มนุษย์​ก็​มี​ความ​สำคัญ​น้อย​ลง​ ​พุทธ​ศาสนา​ถือว่า​

25 ความ​เช่ือ​มี​ส่วน​สำคัญ​เหมือน​กัน​ ​แต่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​ การ​กระทำ​ ​ทุก​วัน​น้ี​จะ​เห็น​ว่า​โลก​มัน​วุ่น​วาย​เพราะ​ ความเ​ชอื่ ​ค​ วามเ​ชอื่ อ​ ยา่ งแ​ รงก​ ลา้ ใ​นห​ ลกั ศ​ าสนาท​ ำให​้ คน​กล้า​ฆ่า​คน​ได้​ ​ฆ่า​คน​เพื่อ​สิ่ง​ที่​ตน​ถือว่า​สูงสุด​หรือ​ ศกั ด์​ิสิทธ์ิ​​ ​ พระพุทธ​ศาสนา​จึง​สอน​ให้​เรา​ระมัดระวัง​เร่ือง​ ความ​เช่ือ​ ​ความ​เชื่อ​เป็น​พลัง​ก็​จริง​ ​แต่​เป็น​พลัง​ที่​ ต้อง​ควบคุม​ ​กำกับ​ด้วย​ปัญญา​ ​ความ​เชื่อ​ที่​นำ​ไป​สู่​ การ​เบียดเบียน​คน​อื่น​ ​เป็นการ​สร้าง​ความ​ทุกข์​ความ​ เดอื ดร​ อ้ นแ​ กค​่ นอ​ นื่ ​พ​ ทุ ธศ​ าสนาว​ า่ เ​ปน็ ค​ วามเ​ชอ่ื ท​ เ​ี่ ปน็ ​ พิษ​เป็น​ภัย​ ​ไม่​ถูก​ต้อง​ ​เรา​จึง​ต้องการ​เน้น​ให้​เด็ก​ ​ให้​ ลูก​ ​ให้​หลาน​มี​ปัญญา​ ​เพราะ​ว่า​คน​ที่​เห็น​สิ่ง​ทั้ง​หลาย​ ทง้ั ป​ วงต​ าม​ความเ​ป็น​จริง​​ย่อมไ​ม​ท่ ำ​บาง​ส่ิง​บางอ​ ยา่ ง​ และ​ยอมท​ ำบ​ างส​ ิง่ ​บาง​อย่าง​​

26 ​ สง่ิ ท​ ค​่ี นท​ เ​ี่ หน็ อ​ ะไรต​ ามค​ วามเ​ปน็ จ​ รงิ แ​ ลว้ ไ​มท​่ ำ​ สิ่ง​นนั้ ​เรา​เรียก​วา่ ช​ ัว่ ​ส​ ่งิ ​ท​ี่นกั ป​ ราชญ์ท​ งั้ ห​ ลาย​เหน็ ​ตาม​ ความ​เปน็ จ​ ริงแ​ ลว้ ท​ ำ​เราเ​รียก​ว่า​​ความ​ดีห​ รอื เ​ป็นบ​ ญุ ​ เปน็ ​กศุ ล​​ขอย​ ้ำใ​ นจ​ ดุ ​นี้ว​ ่า​ไมใ่ ช่ว​ า่ ​ใคร​จะบ​ ัญญัต​ิวา่ ส​ ิง่ ​ นั้นด​ ี​ส​ ิ่ง​น้ัน​ช่ัว​​พ​ ระพุทธเจ้า​ตอ้ งการใ​ หเ​้ รา​ทำ​อยา่ งน​ ​้ี พระพุทธเจ้า​ไม่​ต้องการ​ให้​เรา​ทำ​อย่าง​น้ี​ ​ ​ ​อัน​น้ี​ไม่ใช่​​ พระพทุ ธอ​ งคต​์ อ้ งการใ​หเ​้ ราล​ มื ห​ ล​ู มื ตาด​ ค​ู วามจ​ รงิ ​เ​มอื่ ​ เราล​ ืมห​ ​ลู ืมตาแ​ ล้ว​​เ​ห็น​ชัด​แล้วว​ า่ ​ชีวติ ข​ องค​ นเ​ราเ​ป็น​ อยา่ งไร​เ​ราก​ เ็​ห็น​ว่า​เราก​ ับ​เขาก​ ็ไ​มต​่ ่างอ​ ะไรก​ นั เ​ลย​​​ ​ สี​ผิว​ไม่​เหมือน​กัน​ ​ภาษา​ไม่​เหมือน​กัน​ ​ชนชั้น​ วรรณะ​ก็​ไม่​เหมือน​กัน​ ​แต่​ใน​ส่ิง​สำคัญ​นี่​เหมือน​กัน​ คือ​ ​ทุก​คน​รัก​สุข​ ​เกลียด​ทุกข์​ ​เหมือน​กัน​ ​เรา​เป็น​ มนุษย์​ที่​มี​การ​เกิด​แก่​เจ็บ​ตาย​เป็น​ธรรมดา​เหมือน​ กัน​ ​นั่น​ไม่ใช่​ปรัชญา​ ​แต่​เป็น​ความ​รู้​ท่ี​เกิด​ขึ้น​จาก​

27 การ​ลืม​หู​ลืมตา​ต่อ​ความ​เป็น​จริง​ของ​การ​เป็น​มนุษย์​ เม่ือ​เรา​ได้​ซาบซ้ึง​ใน​ความ​เป็น​อัน​หน่ึง​อัน​เดียวกัน​ แล้ว​ ​โอกาส​ท่ี​เรา​จะ​ฆ่า​สัตว์​ ​เบียดเบียน​ ​ลัก​ขโมย​ ประพฤติ​ผิด​ใน​กาม​ ​จะ​โกหก​หลอก​ลวง​มัน​เป็น​ไป​ได้​ ยาก​เ​พราะ​เรา​เห็น​ความจ​ ริง​ไ​ม่ใช่​วา่ ​ศลี ​มา​กอ่ น​แ​ ล้ว​ ค่อย​​ๆ​​พัฒนา​ไป​หาความ​จริง​ ​แต่​การ​เห็น​ความ​จริง​ ใน​ระดับ​หนึ่ง​ ​ย่อม​นำ​ไป​สู่​การ​กระทำ​ใน​ระดับ​หนึ่ง​ ​ ฉะนน้ั ส​ ง่ิ ท​ เ​่ี ราถ​ อื วา่ ส​ งู สดุ ​ท​ เ​ี่ ราต​ อ้ งการใ​หก​้ บั ต​ วั ​ เอง​ใ​ ห​้กับค​ น​อ่นื ​​และ​พุทธ​ศาสนาม​ ​ใี ห​้ก็​คือ​​ป​ ัญญา​ การ​ให้​ลูก​หลาน​มี​ปัญญา​น่ี​ดี​ท่ีสุด​ ​มี​ปัญญา​ใน​ระดับ​ ต้น​ๆ​ ​​ก​็คือร​ ้​ูวา่ ​อะไรค​ วร​อะไรไ​ม​่ควร​อ​ ะไร​เหมาะ​​อะไร​ ไม่​เหมาะ​ ​แต่​สิ่ง​ท่ีมา​พร้อม​กับ​ปัญญา​น้ัน​ ​ถ้า​เป็น​ ปัญญา​ท่ีถ​ ูก​ตอ้ ง​คอื ​ตอ้ ง​ม​ีความเ​ข้ม​แข็ง​ ค​ วาม​อดทน​​ ไม่ใช​เ่ พียง​แคว​่ า่ ​ร้ว​ู ่าอ​ ะไร​ควร​ไม​ค่ วร​แค่น​ นั้ ​ไมพ​่ อ​​เม่อื ​

28 เราร​ ว​ู้ า่ ส​ ง่ิ ใ​ดค​ วร​เ​ราก​ ต​็ อ้ งม​ ค​ี วามก​ ลา้ ท​ จ​ี่ ะท​ ำใ​นส​ ง่ิ น​ น้ั ​รู้​ว่า​สิ่ง​น้ี​ไม่​ควร​ ​เรา​ก็​ต้อง​กล้า​ปฏิเสธ​ ​กล้า​และ​หนัก​ แนน่ ม​ น่ั คงใ​ นก​ ารง​ ดจ​ ากส​ งิ่ น​ น้ั ​ม​ ท​ี ง้ั จ​ ติ ใจแ​ ละป​ ญั ญา​ ทำงานไ​ป​ด้วย​กัน​​แ​ ต​เ่ นน้ ใ​ หป​้ ญั ญาเ​ปน็ ต​ ัวนำ​​ ​ เมื่อ​เป็น​เช่น​น้ัน​ใน​อนาคต​โลก​น้ี​เปล่ียนแปลง​ อย่างไร​​เรา​ก็​มี​ความ​พอใจ​ว่า​ลูก​เรา​เตรียม​พร้อม​ ​ถ้า​ โลก​มัน​เป็น​อย่าง​น้ี​ต่อ​ไป​เขา​ก็​ทำได้​ ​เขา​ก็​ประสบ​ ความ​สำเร็จ​ได้​ใน​ระดับ​ใด​ระดับ​หน่ึง​ ​แต่​ถ้า​โลก​ เรา​เปลี่ยน​ ​และ​โอกาส​ที่​จะ​เปล่ียน​มี​มาก​กว่า​ท่ี​จะ​ ไม่​เปลี่ยน​ ​และ​การ​เปลี่ยน​ใน​แบบ​ท่ี​เรา​ยัง​คาด​ไม่​ ถึง​ก็​มี​โอกาส​เกิด​ขึ้น​มาก​กว่า​ที่​เรา​จะ​คาด​ถึง​ ​และ​ สิ่ง​ท่ี​เปล่ียนแปลง​ใน​ ​๑๐​-​๒๐​ ​ปี​ท่ี​ผ่าน​มา​ ​ ​ไม่​ว่า​ ต้ัง​แต่​ตอน​อาตมา​เป็น​เด็ก​นักเรียน​ ​ตอน​ที่​มี​เคร่ือง​ อัด​เทป​ออก​มา​ครั้ง​แรก​ต่ืน​เต้น​มาก​ ​ต่อ​มา​ก็​มี​นั่น​มี​

29 นี่​ ​มี​เครื่อง​คอมพิวเตอร์​ ​มี​ ​PC​ ​ตอน​หลงั ​ก​็ม​ีโทรศพั ท์​ มอื ​ถอื ​แ​ ละโ​ทรศพั ท​ท์ ​เ่ี ปน็ ค​ อมพวิ เตอร​ด์ ว้ ย​ ​ แตล่ ะอ​ ยา่ งม​ นั ​ไมใ่ ช​ข่ องท​ เ​่ี ปน็ ​กลาง​ๆ​​มนั ทำให​้ ชีวิต​เรา​เปล่ียน​ ​การ​ส่ือสาร​ระหว่าง​ครอบครัว​ เปล่ียนแปลง​ด้วย​โทรศัพท์​มือ​ถือ​มาก​ ​การ​ใช้ อ​ นิ เ​ตอร์​เนต็ ก​ ​็นำ​ไปส​ ​ูก่ ารเ​ปลยี่ นแปลง​ในโ​ลก​มาก​​แต​่ แค่​ ​๒๐​ ​ปี​ที่​แล้ว​จะ​มี​ใคร​พยากรณ์​ได้​ว่า​ภายใน​ ​๕​ ​ปี​ ข้าง​หน้า​จะ​มี​สิ่ง​ใด​ส่ิง​หนึ่ง​เรียก​ว่า​อิน​เตอร์​เน็ต​ ​ซ่ึง​จะ​ นำ​ไป​สู่​ความ​เปลี่ยนแปลง​อย่าง​น้ัน​อย่าง​น้ี​ ​เรา​คง​คิด​ ไมอ​่ อก​ท​ กุ ว​ นั น​ ค​้ี นเ​ราก​ ค​็ ดิ ไ​มอ​่ อกว​ า่ ​๕​ -​๑​ ๐​ป​ ข​ี า้ งห​ นา้ ​ จะเ​ป็นอ​ ยา่ งไร​​ ​ ตอน​น้ี​เรา​กำลัง​จะ​เกิด​วิกฤติ​เรื่อง​สิ่ง​แวดล้อม​ และ​พลงั งาน​​กเ​็ ปน็ ไ​ปไ​ดภ​้ ายใน​​๕​​ป​ขี า้ งห​ นา้ ​ค​ า่ นำ้ ม​ นั ​ อาจ​จะถ​ ึง​๒​ ๐๐​ด​ อล​ล่าร​ ​์ ​๑๐​​กว่า​ปี​ท่แ​ี ลว้ ​ค​ งไ​ม่มี​ใคร​

30 นกึ ​น​ กั เ​ศรษฐศาสตรท​์ ร​่ี บั ร​ างวลั โ​นเบลไ​มม่ ใ​ี ครค​ ดิ เ​ลย​ วา่ ค​ า่ นำ้ ม​ นั จ​ ะ​เกนิ ​​​๔๐-​๕​ ๐​ด​ อลล​ า่ ​ร​์ ​ตอนน​ ก​้ี ​็ ​๑๐๐​ ดอล​ล่า​ร​ต์ อ่ ​บาร์เรล​แลว้ ​​ถ้า​เปน็ ​๓​ ๐๐​จ​ ะ​เปน็ อ​ ย่างไร​ แล้ว​ทำไม​จะ​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ ​ภาวะ​โลก​ร้อน​ตอน​น้ี​มัน​ก็​ ดำเนิน​ไป​อย่าง​น้ี​ ​แต่​ว่า​อัตรา​ความ​เปล่ียนแปลง​หรือ​ ผลก​ ระทบอ​ าจจ​ ะถ​ ข​ี่ นึ้ เ​รว็ ข​ นึ้ ก​ ไ็ ด​้ ภ​ ายใน​๒​ ๐-​๓​ ๐-​๔​ ๐​ ปี​ข้าง​หน้า​ ​กรุงเทพมหานคร​อาจ​จะ​จม​น้ำ​ ​กรุงเทพฯ​ จมน​ ำ้ จ​ ะเ​ปน็ อ​ ยา่ งไร​แ​ ลว้ อ​ ะไรจ​ ะช​ ว่ ย​ว​ ชิ าค​ วามร​ ก​ู้ จ​็ ะ​ ชว่ ยใ​นส​ ว่ นห​ นง่ึ ​แ​ ตค​่ นท​ ม​ี่ ป​ี ญั ญา​ค​ นท​ ม​ี่ จ​ี ติ ใจเ​ขม้ แ​ ขง็ ​ คนท​ ​ี่ม​ีสติค​ วบคุมอ​ ารมณ์ไ​ด ​้ ไม​่ตระหนกต​ กใจ​เม่ือ​ เกิดก​ าร​เปลี่ยนแปลงท​ คี​่ าด​ไมถ​่ งึ ​ ​จติ ใจ​มี​ความต​ งั้ ม​ น่ั ​ อย​ู่ใน​สงิ่ ท​ ​่ถี ูก​ต้อง​น​ แี​่ หละ​จะเ​ป็น​ผ้นู ำ​ใน​อนาคต​​ผู้นำ​ ทส่ี​ ังคม​เราต​ อ้ งการ​​ ​อาตมา​เชื่อ​ม่ัน​ว่า​โรงเรียน​วิถี​พุทธ​เป็น​โรงเรียน​

31 ที่ส​ ามารถส​ ร้าง​ผู้​ที่​จะเ​ป็น​ผนู้ ำ​สงั คมต​ ่อไ​ป​​ผนู้ ำ​สงั คม​ ใน​ที่​นี้​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​จะ​เป็น​รัฐมนตรี​ ​เป็น​นายก​ รัฐมนตรี​เสมอ​ไป​ ​อาจ​จะ​เป็น​ไป​ได้​ ​แต่​หมาย​ถึงว่า​ เป็น​ผู้นำ​ใน​ระดับ​ต่าง​ ​ๆ​ ​ใน​สังคม​ ​ใน​แวดวง​ของ​ตัว​ เอง​ ​เพราะ​ว่า​ต่อ​ไป​ความ​สำคัญ​ของ​ผู้​มี​คุณ​ธรรม​ต้อง​ เพม่ิ ม​ ากข​ นึ้ ​​เพราะต​ ่อ​ไปป​ ัญหาข​ อง​โลก​ต้องเ​พมิ่ ม​ าก​ พวก​เรา​อายุ​ ​๔๐​-​๕๐​-​๖๐​ ​ ​พวก​เรา​สบาย​ ​พวก​เรา​ได้​ รบั ​ประโยชน​์จาก​การ​พฒั นา​แบบ​น​้ี ​แต​่ขอ​พดู ​ตรง​​ๆ​ว่า​ เหมอื นก​ บั ว​ า่ พ​ วกเ​ราเ​ปน็ ผ​ ส​ู้ รา้ งก​ รรม​ใ​ชท​้ รพั ยากรข​ อง​ โลก​อยา่ งก​ อบโกย​​หาความ​สุข​ในร​ ะยะส​ ั้น​​ๆ​​ ​ ถ้า​มนุษย์​เรา​เก่ง​จริง​​ทำไม​ใน​ระยะ​เวลา​​๒๐๐​ กว่า​ปี​ ​เรา​พัฒนา​เศรษฐกิจ​ตาม​หลัก​ทุนนิยม​เพียง​ชั่ว​ ระยะเ​วลา​​๒๐๐​​ป​ี ก​ ท​็ ำใหโ้​ลก​มนษุ ยท​์ อ​่ี ย​มู่ าไ​ดห​้ ลาย​ ล้าน​ปี​ ​แทบ​จะ​หมด​อนาคต​ ​ถ้า​อย่าง​น้ัน​ ​มนุษย์​เรา​

32 เก่ง​จริง​หรือ​ท่ี​เรา​ทำลาย​โลก​ที่​เรา​อยู่​อาศัย​โดย​ไม่รู้​ตัว​ เพยี งเ​พราะต​ อ้ งการใ​หม​้ นั ส​ นกุ สนาน​ด​ ค​ู นท​ เ​ี่ รยี นเ​กง่ ๆ​ ​ ม​คี วาม​ร​ู้สงู ๆ​ ​ท​ ​่จี บจ​ าก​​Harvard​​จาก​Y​ ale​จ​ าก​​MIT​ จาก​มหาวิทยาลัย​ช้ัน​นำ​ของ​โลก​ ​หลาย​สิบ​เปอร์เซ็นต์​ ไป​ทำงาน​อะไร​รู้​ไหม​ ​ไป​สร้าง​อาวุธ​ ​ไป​ใช้​ความ​คิด​ สรา้ งสรรคใ​์ น​การ​ท​จ่ี ะผ​ ลติ อ​ าวธุ ​ทท​่ี นั ​สมยั ​​ม​รี ายไ​ดส​้ งู ​ๆ​ ไป​ทำงานใ​ น​กระทรวงก​ ลาโหม​​CIA​​​เป็นต้น​ ​ นอกจากน​ นั้ ​ท​ เ​ี่ สยี ดายม​ ากอ​ กี เ​รอื่ ง​ค​ นท​ ม​่ี ส​ี มอง​ ด​ี เ​รยี นเ​กง่ ๆ​ ​จ​ ำนวนไ​มน​่ อ้ ยไ​ปท​ ำงานโ​ฆษณา​ส​ ำหรบั ​ อาตมาเ​สยี ดายส​ ตป​ิ ญั ญาข​ องค​ นเ​หลา่ น​ ​ี้ ​เ​ราเ​อาค​ นท​ ​่ี เกง่ ท​ สี่ ดุ ไ​ปท​ ำงานแ​ บบน​ ​้ี ส​ ดุ ทา้ ยไ​ดอ​้ ะไร​ก​ ไ็ ดใ​้ ชค​้ วาม​ สามารถ​กระตุ้น​ความ​อยาก​ของ​คน​ ​ทำให้​อยาก​ซื้อ​ อยาก​บริโภค​ ​อาตมา​คิด​ว่า​ไม่ใช่​ว่า​ผิด​ศีล​อะไร​หรอก​ แตเ​่ สยี ดายส​ ตป​ิ ญั ญาข​ องค​ น​ค​ อื ค​ นเ​กง่ ข​ องเ​ราม​ ม​ี าก​

33 อยู่​ก็​จริง​ ​ ​แต่​คน​เก่ง​ที่​ใช้​ความ​เก่ง​ให้​เป็น​ประโยชน์​ และ​เป็น​บุญ​เป็น​กุศล​ต่อ​ส่วน​รวม​ต่อ​คน​ส่วน​ใหญ่​ ยังม​ ี​น้อย​​ ​ อาตมา​เช่ือ​ว่า​ชาว​พุทธ​ผู้​ได้​รับ​การ​ศึกษา​แนว​ พุทธ​ ​น่า​จะ​เป็น​ชาว​พุทธ​ที่​มี​ความ​รับ​ผิด​ชอบ​ต่อ​ส่วน​ รวม​​เพราะม​ ี​ฉนั ทะใ​ นก​ าร​สร้าง​ประโยชน​์ ส​ ร้าง​ความ​ สขุ ​ช​ นะค​ วามเ​หน็ แ​ กต​่ วั แ​ ลว้ ร​ จู้ กั ค​ วามห​ มายข​ องค​ ำว​ า่ ​ พอ​ก​ ส​็ ามารถม​ ค​ี วามส​ ขุ ไ​ดโ​้ ดยไ​มต​่ อ้ งฟ​ งุ้ เ​ฟอ้ ​แ​ ตค​่ วาม​ พอ​ของ​แต่ละ​คน​ก็​ไม่​เหมือน​กัน​และ​ไม่มี​มาตรฐาน​ ตายตวั ​วา่ อ​ ย่างน​ น้ั ไ​ม​่ได​น้ ะ​​ตอ้ ง​อยา่ งน​ ี​้ ​​อย่างน​ ​ี้ ​ไมใ่ ช่​ แลว้ แ​ ตแ่​ ต่ละ​คน​จะ​หาความพ​ อดส​ี ำหรับ​ตัวเ​อง​​แต​่ท​ี่ เราต​ ้องการก​ ​ค็ ือ​​ตอ้ งการ​ให้​เดก็ ​สขุ ง​ า่ ย​​ทุกข​ย์ าก​​ ​ ถ้า​ระบบ​การ​ศึกษา​ของ​เรา​ผลิต​คน​ออก​มา​ที่​มี​ คุณสมบัติ​ ​ทุกข์​ง่าย​ ​สุข​ยาก​ ​ผิด​หวัง​อะไร​นิด​หน่อย​

34 ใครพ​ ดู อ​ ะไรไ​มถ​่ กู ใจน​ ดิ ห​ นอ่ ยก​ โ​็ กรธ​เ​สยี ใจ​น​ อ้ ยใจ​ก​ ​็ ทำใหค​้ รอบครวั ไ​มม​่ น่ั คง​ส​ ามภ​ี รรยาอ​ ยด​ู่ ว้ ยก​ นั ​ป​ ​ี ส​ อง​ ป​ี ท​ ะเลาะ​กัน​ห​ รอื ​ว่าม​ อี​ ะไร​ผิดใจก​ ันก​ ห​็ ยา่ ก​ ันแ​ ล้ว​​ก็​ มผ​ี ล​กระทบ​ต่อต​ ัวเ​ขาเ​อง​มาก​​ม​ีลูกห​ ลาน​ก​็มปี​ ญั หาท​ ี​่ เปน็ ​ลกู โซต​่ ่อ​ไป​​ ​ ทุก​วัน​นี้​คน​มี​ความ​อดทน​น้อย​ ​มี​ความ​หวัง​ใน​ ความ​สุข​มาก​ ​เรียก​ว่า​รัก​กัน​ ​แต่​มัก​จะ​เป็น​ความ​รัก​ กนั แ​ บบ​สมัย​บรโิ ภค​​แบบ​สมยั ​เหน็ ​แกต​่ วั ​​ตราบใ​ด​ท​ค่ี ณุ ​ ให​ค้ วามส​ ขุ ​แบบ​ทฉ​่ี นั ​ต้องการ​​ฉัน​ก็​รัก​​ถา้ ​เม่ือไรค​ ณุ ​ไม่​ สามารถท​ จ​่ี ะใ​หค​้ วามส​ ขุ ท​ ฉ​ี่ นั ต​ อ้ งการ​ฉ​ นั ก​ ไ​็ มร​่ กั ​ไ​มร​่ กั ​ แล้ว​ก็​ไม่​ต้องการ​ ​ไป​หา​คน​ใหม่​ ​อัน​น้ี​เป็นการ​มอง​ทุก​ อย่าง​วา่ ​เป็นการ​บรโิ ภค​​มอง​ว่าต​ ัวเ​อง​เปน็ ​ผบ้​ู รโิ ภค​ผ​ ้​ู บรโิ ภคว​ ตั ถ​ุ ผ​ บ​ู้ รโิ ภคป​ ระสบการณ​์ ท​ กุ ส​ ง่ิ ท​ กุ อ​ ยา่ งม​ อง​ เป็น​ผ้​ูบริโภค​ ​เป็น​มะเร็ง​ของ​สังคม​ท่​ีเรา​ต้อง​พยายาม​

35 แกไ้ ข​​แต​เ่ รา​จะ​ไม​แ่ กไ้ ข​แบบ​หา้ ม​หรอื ​ลงโทษ​หรอื ​อะไร​ เรา​จะ​แกไ้ ข​จะ​ชนะ​ด้วย​วิถี​พุทธ​ ​ด้วย​การ​สอน​ให้​คน​ดู​ ความจ​ รงิ ​​ ​อาตมา​เช่ือ​ม่ัน​ว่า​ถ้า​ใคร​สนใจ​ศึกษา​ชีวิต​ ​ ​ฝึก​ ให้​เขา​สามารถ​อยู่​กับ​ตัว​เอง​ ​ดู​ตัว​เอง​ ​เรียน​รู้​จาก​ ประสบการณ์​ตัว​เอง​ ​และ​มี​ศักยภาพ​มี​สติ​ปัญญา​ ​มี​ ความ​เก่ง​อยู่​ใน​ตัว​พอท่ี​จะ​เลือก​ส่ิง​ท่ี​ดี​ ​และ​ออก​จาก​ สิ่ง​ท่ี​ไม่​ดี​ได้​ ​แต่​ก่อน​ที่​จะ​ถึง​ข้ัน​น้ัน​ก็​ต้อง​มี​การ​พัฒนา​ ใน​ทุก​ด้าน​ ​ใน​ด้าน​พฤติกรรม​ ​รู้จัก​งด​เว้น​รู้จัก​ควบคุม​ รู้จกั ​ชนะใ​ จต​ วั เ​อง​​​ฝกึ ​ใหเ้​ป็นผ​ มู้​ ส​ี ต​ิ ม​ ี​ความ​สันโดษ​​มี​ ความอ​ ดทน​ม​ ค​ี วามข​ ยนั ​ม​ จ​ี ติ ใจท​ รี่ กั ก​ ารส​ เ​ู้ พอ่ื ส​ ง่ิ ท​ ถ​ี่ กู ​ ต้อง​ต​ ้อง​มีก​ าร​พฒั นา​ใน​ทุก​​ๆ​​ด้าน​​ ​ เรา​ต้องการ​ให้​คิด​ ​ต้อง​มี​การ​ฝึก​ให้​คน​คิด​เป็น​ พุทธ​ศาสนา​สอน​ให้​เรา​สงบ​แต่​ไม่ใช่​ว่า​ไม่​ให้​คิด​ ​สงบ​

36 ใน​เวลา​ท​ค่ี วร​สงบ​เ​วลา​คดิ ก​ ​็คดิ ​ใหเ้​ป็น​​คิด​ให​้เก่ง​ค​ ิด​ ให้​ดี​ ​ ​ฟัง​อะไร​ก็​สามารถ​จับ​ความ​ได้​ ​สรุป​ได้​ ​ขยาย​ ความไ​ด​้ เ​ปรยี บ​เทียบ​กับ​ความค​ ดิ ​อย่าง​อ่นื ไ​ด้​​บรู ณ​า​ การไ​ด​้ ​คดิ ​วเิ คราะห​ป์ ัญหาว​ ่า​เกดิ จ​ าก​เหตุป​ ัจจัยอ​ ะไร​ ได​้ แ​ ยกแยะไ​ด​้ว่าเ​หต​ปุ จั จัยอ​ ะไร​เราต​ อ้ งย​ อมรบั ​เ​หตุ​ ปัจจัย​อะไร​ควร​จะ​ปรับปรุง​ ​เหตุ​ปัจจัย​ไหน​เรา​ควร​จะ​ แก​ก้ ่อน​แ​ ก้ท​ หี ลงั ​ ​ ​เมื่อ​เรา​กำหนด​ปัญหา​แล้ว​ ​ก็​ระดม​ความ​คิด​ ระดม​สมอง​​คิดส​ ร้างสรรค​์ ​หาข​ อ้ แ​ กป​้ ญั หา​พอได​้แล้ว​ ก็​ผ่าน​วาระ​ของ​ความ​คิด​สร้างสรรค์​ ​กลับ​ไป​หา​วาระ​ ของ​การ​คิด​แยกแยะ​ ​การ​คิด​วิเคราะห์​ ​ว่าที่​เรา​คิด​ สรา้ งสรรคน​์ ั้น​ใชไ้ ด้ม​ าก​นอ้ ยแ​ คไ​่ หน​​​มผ​ี ล​กระทบ​ตอ่ ​ ตวั เ​องค​ นอ​ น่ื ใ​นร​ ะยะส​ นั้ ​ร​ ะยะย​ าวอ​ ยา่ งไรบ​ า้ ง​ข​ อ้ ดข​ี อ้ ​ เสยี ม​ อ​ี ะไร​บ้าง​ค​ ุณ​กบั ​โทษ​อยต​ู่ รงไ​หน​เ​ลอื ก​ข้อ​ใด​ขอ้ ​

37 หนง่ึ ​​ลอง​ทำ​​​ระหว่าง​ลองท​ ำก​ ค็​ อยท​ บทวนอ​ ย่​ูตลอด​ เวลา​ว่า​ดี​ไหม​ ​หรือ​ทำ​อย่างไร​ให้​ดี​กว่า​น้ี​ ​ทำ​อย่างไร​ ให้​ดี​ท่ีสุด​ ​มี​ข้อ​บกพร่อง​อย่าง​ไหน​ก็​หา​ทาง​ท่ี​จะ​แก้ไข​ อยู่ต​ รง​น้นั ​​น​่เี ปน็ ​หนา้ ทขี่​ องค​ วาม​คิด​ ​ ถ้า​คน​ที่​สงบ​ได้​ ​สามารถ​ปล่อย​วาง​ขยะ​สมอง​ การ​คิด​ท่ี​วก​เวียน​ไม่​เกิด​ประโยชน์​ ​ท่ี​เป็น​ขยะ​ที่​อยู่​ใน​ สมอง​ออกไ​ปแ​ ล้ว​ค​ วาม​คดิ อ​ ยา่ งน​ เ​้ี ป็นไ​ด​้ง่าย​เ​พราะ​ ไม่มี​อะไร​ท่ี​ทำให้​จิตใจ​เขว​ออก​ไป​ตาม​อารมณ์​ ​ทาง​ พทุ ธศ​ าสนาส​ อนใ​ หเ​้ ราส​ งบด​ ว้ ย​แ​ ละส​ อนใ​ หเ​้ ราป​ ลอ่ ย​ วาง​ความ​คิด​ได้​ด้วย​ ​และ​รู้จัก​ความ​สุข​ของ​จิตใจ​ท่ี​ไม่​ ต้อง​คิด​ ​ ​ใน​ขณะ​เดียวกัน​ก็​ถือว่า​จิตใจ​ที่​สงบ​ได้​เป็น​ จิตใจ​ที่​เม่ือ​จะ​คิด​ ​เม่ือ​สมควร​จะ​คิด​ ​จะ​มี​สมรรถภาพ​ มี​ประสิทธภิ าพใ​ นค​ วามค​ ดิ ​ทส​่ี งู ม​ าก​​ ​ ความ​สงบ​ไม่ใช่​ว่า​อยู่​เฉย​ ​ๆ​ ​เคลิบเคลิ้ม​ไป​อยู่​

38 ใน​อีก​โลก​หน่ึง​ ​มัน​ไม่ใช่​ยา​ระงับ​ประสาท​แต่​ว่า​มัน​ เป็น​เง่ือนไข​ใน​การ​ใช้​ปัญญา​ของ​ตัว​เอง​ให้​ได้​ผล​ ​จึง​ ถอื วา่ ค​ วรจ​ ะเ​ปน็ ส​ ว่ นห​ นง่ึ ข​ องก​ ารศ​ กึ ษาข​ องค​ นท​ กุ ค​ น​ ต้องการ​ให้​เด็ก​ได้​สัมผัส​ความ​สงบ​ภายใน​บ้าง​ ​ดู​จาก​ พทุ ธป​ ระวตั ก​ิ จ​็ ะเ​หน็ ว​ า่ ​ห​ ลงั จ​ ากพ​ ระพทุ ธอ​ งคไ​์ ดเ​้ จรญิ ​ การป​ ฏบิ ตั แ​ิ บบท​ รมานก​ ายถ​ งึ ​๖​ ​ป​ ​ี ท​ า่ นก​ ท​็ บทวนส​ รปุ ​ ว่า​ไม่ใช่​หนทาง​ ​ ​แต่​จะ​เอา​อย่างไร​ดี​ ​สรุป​แล้ว​ท่าน​ ก็​ระลึก​ได้​ว่า​ตอน​อายุ​ ​๗​ ​ขวบ​ ​ท่าน​เคย​นั่ง​สมาธิ​ใต้​ ต้นไม​้ แ​ ล้ว​จิตใจ​สงบ​​เกิด​ความ​รู้สึก​วา่ ใ​ ช​่แลว้ ​​นา่ จ​ ะ​ เปน็ ​หนทาง​ทีถ่​ ูกต​ ้อง​ ​ พระพุทธอ​ งค์​จึงเ​สด็จ​ไปน​ ั่งใ​ ต้​ต้น​โพธิ์​แ​ ละ​ได้​ บรรลุ​พระ​สัมมา​สัม​โพธิ​ญาณ​ใน​คืน​นั้น​ ​สำคัญ​ที่​ว่า​ พระองค์​เคย​มี​ประสบการณ์​ใน​การ​นั่ง​สมาธิ​เล็ก​ ​ๆ​ ​น้อย​​ๆ​ต​ อน​เด็ก​ฝ​ ังล​ ึกอ​ ยู่ใ​ นใ​ จ​​​ถึง​เวลา​ที่​เหมาะส​ ม

39 จิต​ใจ​สุกงอม​​เด็ก​นักเรียนอ​ นุบาล​​หรือ​​ประถม​ไม่ใช่​ ว่า​จะ​ให้​นั่ง​สมาธิ​เป็น​ชั่วโมง​ ​เรา​ไม่​ได้​หวัง​ถึง​ขนาด​ นั้น​แ​ ต่​อย่างน​ ้อยก​ ็อ​ ยากจ​ ะ​ให้เ​ขาเ​ห็นว​ ่า​เป็นท​ างไ​ ป​ สู่​ความส​ งบไ​ ด้​เ​ป็นท​ างท​ ี่ด​ ี​แ​ ละอ​ ย่างน​ ้อยก​ ็​เป็นการ​ หว่านเ​มล็ด​ที่จ​ ะเ​กิด​ผลด​ ี​ในช​ ีวิตต​ ่อ​ไป​​ ​ เป็น​อันว่า​ต้องการ​จะ​ได้​จับ​หลัก​ใหญ่​ ​แล้ว​ก็​ พยายาม​ให้​ใช้​ใน​ระดับ​ที่​เหมาะ​สม​กับ​พวก​เรา​ ​ทั้ง​ผู้​ท่ี​ เปน็ น​ กั ศ​ กึ ษาใ​ นร​ ะดบั ค​ ร​ู ร​ ะดบั ผ​ ป​ู้ กครอง​แ​ ละ​ส​ ำคญั ​ ทสี่ ดุ ค​ อื น​ กั ศ​ กึ ษาร​ ะดบั น​ กั เรยี น​เพราะเ​ราท​ กุ ค​ นก​ ก​็ ำลงั ​ ศกึ ษา​เ​ราศ​ กึ ษาใ​นส​ ง่ิ ท​ ด​่ี ท​ี ส่ี ดุ ​ถ​ า้ เ​ราเ​ปน็ ค​ รก​ู เ​็ ปน็ ค​ รท​ู ด​ี่ ​ี ท่สี ุด​​เ​รา​เป็นผ​ ู้​ปกครอง​ท​ ำ​อย่างไร​เรา​จึง​เปน็ ​พ่อ​เปน็ ​ แมท​่ ด​่ี ท​ี ส่ี ดุ ท​ จ​่ี ะเ​ปน็ ไ​ด​้ ถ​ า้ เ​ราเ​ปน็ น​ กั เรยี นก​ ต​็ อ้ งการใ​ห​้ เป็น​นกั เรยี นท​ ด​ี่ ​ีทีส่ ดุ ท​ ่​ีเปน็ ไ​ป​ได้​​ไม​ต่ ้อง​แขง่ ​ขันก​ บั ​ใคร​ แต​ม่ ​คี วาม​มงุ่ ม​ น่ั ​ทจ​่ี ะ​ชนะต​ วั เ​อง​ท​จ่ี ะท​ ำใหต​้ วั ​เองด​ ท​ี ส่ี ดุ ​

40 ​ ถ้า​หากว่า​คน​มี​อุดมการณ์​ท่ี​จะ​ทำให้​ตัว​เอง​ดี​ ที่สุด​อยู่​ตลอด​เวลา​แล้ว​ ​ ​ไม่​ต้อง​เป็น​ห่วง​ใน​เรื่อง​ที่​จะ​ เข้าไป​ใน​ระบบก​ ารแ​ ข่ง​ขัน​​ไมแ​่ พห้​ รอก​เ​พราะ​ไม​่ตอ้ ง​ ไป​คิด​ว่า​คน​นั้น​เป็นคู่​แข่ง​คน​น้ี​เป็น​คู่​แข่ง​ ​ก็​ถือว่า​แข่ง​ กับ​ตัว​เอง​ ​พยายาม​จะ​ทำ​ของ​เรา​ให้​ดี​ที่สุด​ก็​เป็นการ​ แขง่ ก​ บั ค​ นอ​ น่ื อ​ ยใ​ู่ นต​ วั อ​ ยแ​ู่ ลว้ ​ร​ ะบบก​ ารแ​ ขง่ ข​ นั ก​ ไ​็ มใ่ ช​่ ส่ิงท​ ี​ต่ ายตัวเ​สมอไ​ป​ม​ นั ​ก​เ็ ปลีย่ นแปลง​​และ​ถ้า​แม้​ใน​ โลก​ปัจจุบัน​ ​ระบบ​การ​แข่ง​ขัน​ใน​อังกฤษ​ห​รือ​อเม​ริกา​ กับ​ระบบ​การ​แข่ง​ขัน​ใน​ยุโรป​ก็​ไม่​เหมือน​กัน​ ​มี​ความ​ แตก​ต่าง​กัน​ ​ ​ ​ไม่ใช่​ว่า​พวก​เรา​เป็น​เหย่ือ​ของ​สังคม​ ตลอดไ​ป​เ​ราก​ ม​็ ส​ี ว่ นห​ นง่ึ ท​ ส​่ี ามารถก​ ำหนดอ​ นาคตข​ อง​ สงั คม​ได​้ ​ ​ ถ้า​เรา​ถือว่า​ระบบ​การ​แข่ง​ขัน​ทุก​วัน​นี้​รุนแรง​ มาก​ไ​ ม่ใช่ว​ ่าเ​ราต​ ้องท​ ำใจก​ ับค​ วามร​ ุนแรงน​ ั้น​แ​ ต่ว​ ่า​

41 บางที​เรา​อาจ​จะ​ต้อง​เปลี่ยน​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​จะ​ให้​ ระบบ​การ​แข่ง​ขัน​เกิด​ผล​ดี​ที่สุด​โดยที่​พยายาม​ทำให้​ โทษข​ องม​ ันน​ ้อยล​ ง​ค​ ือไ​ ม่ใช่ว​ ่าเ​ราต​ ้องย​ อมรับท​ ุกส​ ิ่ง​ ทุก​อย่าง​ที่​ปรากฏ​อยู่​ใน​สังคม​ ​เพราะ​เรา​ไม่ใช่​ว่า​ถูก​ กำหนด​โดย​สังคม​ ​ ​แต่​เรา​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​กำหนด​สังคม​ ใน​บางเ​รื่องไ​ ด้ด​ ้วย​​ ​ วัน​นี้​อาตมา​ก็ได้​ให้​ข้อคิด​บาง​ส่ิง​บาง​อย่าง​ อาตมา​ได้​ออก​จาก​หน้าที่​ต่าง​ ​ๆ​ ​ที่​วัด​ป่า​นานาชาติ​ ได้​หลาย​ปี​แล้ว​ ​ ​มี​อุดมการณ์​ท่ี​จะ​สร้าง​ประโยชน์​ตน​ ประโยชน์​คน​อ่ืน​เหมือน​เดิม​ ​แต่​ว่า​รูป​แบบ​ของ​การ​ สร้าง​ประโยชน์​เปล่ียนแปลง​ไป​ ​การ​สร้าง​ประโยชน์​ ตน​ก็​เลือก​ที่​จะ​อยู่​องค์​เดียว​ ​เลือก​ที่​จะ​ทำความ​เพียร​ ได้​เต็ม​ท่ี​ ​และ​ก็ได้​สถาน​ที่​เหมาะ​สม​ ​ได้​สิ่ง​ท่ี​ตัว​เอง​ ต้องการ​ด้วย​น้ำใจ​ด้วยศ​ รัทธาข​ อง​ลกู ​ศิษย์​ ซ​ ่ึง​อาตมา​

42 ระลึก​ถึง​ด้วย​ความ​ขอบคุณ​ ​ด้วย​ความ​ซาบซ้ึง​ใน​บุญ​ คณุ อ​ ยูต​่ ลอด​เวลา​​ ​ ใน​ขณะ​เดียวกัน​ ​ถ้า​อาตมา​เอาแต่​การ​ทำ​กิจ​ ส่วน​ตัวอย่าง​เดียว​ ​ก็​ถือว่า​ชีวิต​คง​ยัง​ไม่​สมบูรณ์​ ​ ​ถ้า​ จะ​สมบูรณ์​ต้อง​ทำ​สิ่ง​ท่ี​เป็น​ประโยชน์​แก่​คน​อื่น​ด้วย​​ และ​ส่ิง​ท่ี​ทำให้​เกิด​ฉันทะ​อยู่​ใน​จิตใจ​อาตมา​อยู่​ตลอด​ เวลา​ ​อาตมา​คิด​ว่า​เมื่อ​จะ​ต้อง​เลือก​สิ่ง​ใด​ส่ิง​หนึ่ง​ท่ี​จะ​ ได้​ประโยชน์​มาก​ท่ีสุด​กับ​สังคม​ ​มาก​ท่ีสุด​กับ​ประเทศ​ ชาติ​แล้ว​ ​การ​ศึกษา​แนว​พุทธ​น่า​จะ​ดี​ที่สุด​ ​อาตมา​จึง​ เลือกม​ า​ทำงานท​ าง​ด้าน​น​้ี ​ ​ อาตมาห​ วงั ว​ า่ พ​ วกเ​ราท​ ง้ั ห​ ลาย​ผ​ เ​ู้ ปน็ ค​ รอ​ู าจารย​์ ผู้​ปกครอง​ ​ผู้​หวัง​ดี​ทุก​ ​ๆ​ ​คน​ ​ก็​คงจะ​เห็น​ด้วย​ว่า​เร่ือง​ นี้​ไม่ใช่​เรื่อง​เล็ก​น้อย​ ​ ​เป็น​เร่ือง​สำคัญ​ ​เป็น​เร่ือง​ของ​ ครอบครัว​ของ​เรา​ทุก​คน​ ​หวัง​ว่า​จะ​มี​ผล​ต่อ​สังคม​ต่อ​

43 ไป​ด้วย​ ​จะ​เป็น​มาตรฐาน​เป็น​เครื่อง​พิสูจน์​ว่าการ​ ศึกษา​แนว​พุทธ​น้ี​ดี​อย่างไร​ ​ให้​ความ​หวัง​กับ​สังคม​กับ​ ประเทศ​ชาติ​ได้​อย่างไร​ต่อ​ไป​ ​ให้​คน​อ่ืน​ใน​สถาบัน​อื่น​ มาด​ ม​ู าเ​หน็ ​เ​หน็ เ​ดก็ น​ กั เรยี นท​ จ​่ี บจ​ ากโ​รงเรยี นว​ ถิ พ​ี ทุ ธ​ แล้ว​ ​เออ​.​.​อยาก​ให้​ลูก​ของ​ฉัน​เป็น​อย่าง​นี้​บ้าง​ ​เรา​ก็​ เลยี้ งล​ กู ข​ องเ​ราด​ ด​ี ว้ ย​แ​ ละส​ รา้ งป​ ระโยชนใ​์ หก​้ บั ค​ นอ​ นื่ ​ ดว้ ย​ใ​ ห​ล้ กู ​เรา​เป็นต​ ัวอยา่ ง​​เรา​เป็น​ผปู้​ กครอง​ตัวอย่าง​ คร​ูตัวอย่าง​​นีเ่​ปน็ ส​ ิ่ง​ท้าทายท​ ีจ่​ ะข​ อ​ฝากไ​ว้ก​ ับพ​ วกเ​รา​ ในว​ ัน​น้​ี

ชยสาโร ภิกขุ น​าม​ เ​​ดมิ​ ฌอ​น ​ชิเว​ อร​์ต​นั ​(S​hau​ n C​h​i​vert​on)​ ​พ.ศ.​๒๕​๐๑​​ เกดิ​ ​ท​่ีปร​ะเ​​ทศอังกฤ​ ษ พ.ศ​.​​๒๕๒๑​ ​ ได​ พ้ บก​ ับ​พร​ ะอาจา​รย์สเุ ม​ โ​ธ (พระราชสุเมธาจารย์ วัดอมราวดี ประเทศอังกฤษ) ที่วหิ ารแฮมสเตด ประเทศอังกฤษ ถือเพศเปน็ อนาคารกิ (ปะขาว) อยกู่ ับพระอาจารย์สุเมโธ ๑ พรรษา แลว้ เดินทางมายังประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒ บรรพชาเป็นสามเณร ทว่ี ดั หนองปา่ พง จังหวดั อบุ ลราชธานี พ.ศ. ๒๕๒๓ อปุ สมบทเป็นพระภกิ ษุ ท่วี ดั หนองป่าพง โดยมี พระโพธิญาณเถร (หลวงพอ่ ชา สุภทั โท) เปน็ พระอปุ ัชฌาย์ พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๔ ร​ กั ษาการเจา้ อาวาส วดั ป่านานาชาติ จงั หวดั อุบลราชธานี พ.ศ. ๒๕๔๕ - ปัจจบุ ัน ​​ ​ พำนัก ณ สถานพำนกั สงฆ์ จงั หวัดนครราชสมี า

มลู นธิ ​ปิ ญั ญาป​ ระทปี ความ​เป็น​มา​ ​ ​มลู นธิ ​ิปญั ญา​ประทปี ​​​จดั ​ตง้ั ​โดย​คณะ​ผ​้บู รหิ าร​โรงเรยี น​ทอ​ส​ี ​ดว้ ย​ความรว่ ม​มอื ​ จาก​คณะ​ครู​ ​ ​ผู้​ปกครอง​และ​ญาติโยม​ซึ่ง​เป็น​ลูก​ศิษย์​พระ​อาจารย์​ชย​สา​โร​ ​ ​กระทรวง​ มหาดไทย​อนุญาต​ให้​จด​ทะเบียน​เป็น​นิติบุคคล​อย่าง​เป็น​ทางการ​ ​เลข​ที่​ทะเบียน​ กท​.​๑​ ๔๐๕​​ตั้งแต่ว​ ัน​ที่​​๑​เ​มษายน​​๒​ ๕๕๑​ ​ ว​ ตั ถปุ ระสงค์​ ​​​​​​​ ​ ​๑​)​ ​ ​สนับสนุน​การ​พัฒนา​สถาบัน​การ​ศึกษา​วิถี​พุทธ​ที่​มี​ระบบ​ไตรสิกขา​ของ​ พระพุทธ​ศาสนา​เป็นห​ ลัก​​ ​ ๒​ )​​​​เผยแผ่​หลัก​ธรรม​คำ​สอนผ​ ่านก​ าร​จัดการ​ฝึกอ​ บรม​​และ​ปฏิบัติธ​ รรม​​และ​ การ​เผยแผ่​สอ่ื ธ​ รรมะร​ ปู ​แบบต​ า่ ง ๆ​​โดยแ​ จกเ​ป็น​ธรรมท​ าน​ ​ ​ ​๓​)​​เ​พิ่มพูน​ความเ​ข้าใจใ​ น​เรื่องค​ วามส​ ัมพันธ์​ระหว่างม​ นุษย์​​และส​ ิ่ง​แวดล้อม​ สนับสนุนก​ ารพ​ ัฒนาท​ ี่​ยั่งยืน​​ และ​ส่ง​เสริม​การ​ดำเนินช​ ีวิตต​ าม​หลักป​ รัชญา​เศรษฐกิจ​ พอเ​พียง​ ​ ๔​ )​​​​รว่ ม​มอื ก​ บั ​องคก์ ร​การ​กศุ ลอ​ น่ื ๆ ​ ​เพอ่ื ด​ ำเนนิ ​กิจการท​ ี่เ​ป็นส​ าธารณประโยชน์​ ​

ค​ ณะ​ท​่ีปรึกษา​ ​ ​พระ​อาจารย์​ชย​สา​โร​เป็น​องค์​ประธาน​ที่​ปรึกษา​​ ​โดย​มี​คณะ​ที่​ปรึกษา​เป็น​ ผู้ทรงค​ ุณวุฒิใ​ นส​ าขาต​ ่าง ๆ​​อ​ าทิ​​ด้านน​ ิเวศวิทยา​พ​ ลังงานท​ ดแทน​​ส​ ิ่งแ​ วดล้อม​เ​กษตร​ อินทรีย์​​เ​ทคโนโลยีส​ ารสนเทศ ​วิทยาศาสตร์​สุขภาพ​​​การเ​งิน​​ก​ ฎหมาย​​​การส​ ื่อสาร​ การ​ละคร​​​ดนตรี​​ว​ ัฒนธรรม​​​ศิลปกรรม​​​ภ​ ูมิปัญญา​ท้องถ​ ิ่น​ ​ ​คณะ​กรรมการ​บรหิ าร​ ​ ​มูล​นิธิฯ​ ​ได้​รับ​เกียรติ​จาก​รอง​ศาสตราจารย์​นาย​แพทย์​ปรีดา​ ​ทัศน​ประดิ​ษฐ​​ เป็น​ประธาน​คณะ​กรรมการ​บริหาร​​แ​ ละม​ ีค​ ุณ​บุบ​ผาส​ วัสดิ์​​​รัช​ชต​ าต​ ะ​นันท์​​ผ​ ู้​อำนวยก​ าร​ โรงเรียนท​ อส​ ีเ​ป็นเ​ลขาธิการฯ​ ​ ​การด​ ำเนนิ ก​ าร​ ​ •​ ​​ม​ ลู น​ ธิ ฯิ ​เ​ปน็ ผ​ จ​ู้ ดั ต​ งั้ โ​รงเรยี นม​ ธั ยมป​ ญั ญาป​ ระทปี ​​ใ​ นร​ ปู แ​ บบโ​รงเรยี นบ​ ม่ เ​พาะ​ ชีวิตเ​พื่อด​ ำเนิน​กิจกรรมต​ ่างๆ​​​ด้าน​การ​ศึกษาว​ ิถี​พุทธ​ให้​บรรลุว​ ัตถุประสงค์ข​ อง​มูลน​ ิธิฯ​ ข้าง​ต้น​​โ​รงเรียน​นี้ต​ ั้งอ​ ยู่​ที่​​​บ้าน​หนองน​ ้อย​​​อำเภอ​ปากช่อง​​จังหวัดน​ ครราชสีมา​ ​ •​ ​มูล​นิธิฯ​ร​ ่วมม​ ือก​ ับ​โรงเรียน​ทอส​ ี​​​​ใน​การผ​ ลิต​และเ​ผยแผ่​สื่อ​ธรรมะแ​ จกเ​ป็น​ ธรรมท​ าน​ โดย​ในส​ ว่ น​ของ​โรงเรียนท​ อ​สฯี ​ไ​ด้ด​ ำเนินก​ ารต​ ่อเ​นอ่ื งต​ ั้งแต​่ ​ป​ี พ​ ​.ศ​ .​​๒​ ๕๔๕​




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook