Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore a อาหารบำบัดสำหรับผู้ป่วยไตเรื้อรัง

a อาหารบำบัดสำหรับผู้ป่วยไตเรื้อรัง

Description: a อาหารบำบัดสำหรับผู้ป่วยไตเรื้อรัง

Search

Read the Text Version

วธิ ีคดิ ปริมาณเกลอื ทใี่ ช้ปรุงรสในอาหาร 1 วนั เกลือ NaCl มี Na อยู่ 23 x 100 = 40% 58.5 อาหารหลกั ธรรมชาติมิไดป้ รุงแต่ง ที่กาหนดแลว้ มี Na ( โดยเฉลี่ย ) หมู่ขา้ ว 6 x 7 = 42 มิลลิกรัม หม่เู น้ือสัตว์ 3.5 x 25 = 87.5 มิลลิกรัม หมู่ผกั 2 x 15 = 30 มิลลิกรัม หมู่ผลไม้ 3x2 = 6 มิลลิกรัม รวมโซเดียมท่ีไดร้ ับจากอาหารหลกั = 165.5 มิลลิกรัม * ใชผ้ กั ท่ีมีโซเดียมปานกลางและคิดโดยเฉล่ียถา้ ใชผ้ กั ที่มีโซเดียมสูง จะไดร้ ับโซเดียมจากอาหารหลกั มากกวา่ น้ี

วธิ ีคดิ ปริมาณเกลอื ทใี่ ช้ปรุงรสในอาหาร 1 วนั (ต่อ) ในวนั หน่ึงกาหนดใหไ้ ดร้ ับโซเดียม 2000 มิลลิกรัม ควรไดร้ ับโซเดียมจากเครื่องปรุงรส = 2000- 165.5 มิลลิกรัม = 1834.5 มิลลิกรัม โซเดียมปริมาณน้ีมาจาก NaCl (เกลือ) = 1834.5x14000 มิลลิกรัม = 4585 = 4.6 กรัม วนั หนึ่งจึงควรได้รับเกลอื ป่ น = 4.6 กรัม คอื ประมาณ = 54 ช้อนชา ถจะา้ ใตชอ้ ซ้งแอบส่งถเว่ักเลหือลปือ่ นงซ54่ึงมชีเกอ้ ลนือชปารอะอมกาเปณ็น203%ส่วกนจ็ เะทใ่าชๆไ้ กดนัป้ ใรชะป้มราุงณรวสนั อลาะหา4รช3อ้ นมช้ือา หหรือมใาชยป้เหรตุงุอาถหา้ ใารชซ้3อมส้ือปมร้ือุงรลสะท1่ีม31ีเกลชืออ้ นนอ้ชยา จะใชไ้ ดป้ ริมาณมากกวา่ ใชเ้ กลือป่ น

รวมปริมาณอาหารหลกั ทก่ี นิ ท้งั วนั เพอื่ ให้ได้ พลงั งาน 1800 กโิ ลแคลอรี่ โปรตีน 36 กรัม ไขมนั ให้พลงั งานไม่เกนิ 630 กโิ ลแคลอรี่ มดี งั นี้ :- เน้ือสตั ว์ 3.5 ส่วน ขา้ ว 6 ส่วน วนุ้ เสน้ 1 กาเลก็ ผกั 2 ส่วน ผลไม้ 3 ส่วน ไขมนั 12 ส่วน ขนมทาจากแป้ งปลอดโปรตีน และน้าตาล 2 ถว้ ย ขนมสาหรับผปู้ ่ วยรายน้ีควรจะทาจากแป้ งปลอดโปรตีน 5 ชอ้ นโต๊ะ 3 ชอ้ นโต๊ะ กบั น้าตาลทราย รวมให้แป้ ง 40 กรัม นา้ ตาล 36 กรัม

กระจายอาหารหลกั หมู่ต่างๆ ไปใน 3 มอื้ เช้า กลางวนั เยน็ ปริมาณอาหารหลกั ที่ไดร้ ับใน 1 วนั คิดเป็นส่วน และกระจายออกไป ใน 3 ม้ือ - เชา้ - กลางวนั และเยน็ เช้า กลางวัน เยน็ หมู่ เนือ้ สัตว์ 3.5 ส่วน 1 1 1.5 หมู่ ข้าว 6 ส่วน 3 - 3 หมู่ ปลอดโปรตีน วุ้นเส้น 2 ส่วน (1 กาเลก็ ) - 2 - - 1 1 หมู่ ผกั 2 ส่วน 1 1 1 หมู่ ผลไม้ 3 ส่วน 4 4 4 หมู่ ไขมนั 12 ส่วน ขนมจากหม่แู ป้ งปลอดโปรตีน แป้ งปลอดโปรตีน 5 ชอ้ นโตะ๊ ใชน้ ้าตาลทราย 3 ชอ้ นโต๊ะ * ถา้ ผปู้ ่ วยเป็นเบาหวาน จะกินขนมท่ีใส่น้าตาลไม่ไดต้ อ้ งใชน้ ้าตาลเทียมแทน พลงั งานท่ีไดจ้ ากขนมจะต่าลงมาก ** ขนมท่ีทาจากหมู่แป้ งปลอดโปรตีน กบั น้าตาลทราย ไม่มีขนาดมาตรฐานตายตวั เพราะจะมากจะนอ้ ย ข้ึนอยกู่ บั พลงั งานท่ียงั ขาดอยู่

ตวั อย่างแผ่นพบั แสดงปริมาณอาหารทผ่ี ู้ป่ วยควรได้รับในวนั หน่ึง

ตวั อย่างแผ่นพบั แสดงปริมาณอาหารทผ่ี ู้ป่ วยควรได้รับในวนั หน่ึง

ตวั อยา่ งการทาเมนูอาหารจากอาหารหลกั ที่กาหนดแลว้ รายการอาหารมอื้ เช้า อาหารม้ือเชา้ ขา้ วไก่ผดั กระเพรา ขนม มะละกอ ขา้ วผดั กระเพรา ประกอบดว้ ย ขา้ ว 3 ส่วน = ขา้ วสุก 3 ทพั พี เน้ือสตั ว์ คือ เน้ือไก่ 1 ส่วน = เน้ือไก่ 2 ชอ้ นโตะ๊ ผกั - ส่วน ใชผ้ กั สมุนไพรคือ กระเพราเลก็ นอ้ ย (ไม่ตอ้ งคิดคานวณ) น้ามนั รา ใช้ 4 ส่วน = 4 ชอ้ นชา ขนม 1 ถว้ ย = 1 ชอ้ นโตะ๊ + 1 ชอ้ นชา มะละกอสุก 100 กรัม ขนม 1 ถว้ ย หมายถึง ขนมท่ีทาจากแป้ งปลอดโปรตีนกบั น้าตาล ใชป้ ริมาณแป้ งและน้าตาลตามท่ีคานวณได้

รายการอาหารมอื้ เช้า ข้าวไก่ผดั กระเพรา ขนม และมะละกอ หมู่ ข้าว 3 ส่วน หมู่เนือ้ สัตว์ 1 ส่วน ขนม (ข้าวสุก 3 ทพั พ)ี เนือ้ ไก่ 2 ช้อนโต๊ะ ทาจากแป้ งปลอด หมู่ ผกั - ส่วน โปรตนี และนา้ ตาล (ใช้ผกั สมุนไพร เลก็ น้อย) ไขมนั 4 ส่วน ผลไม้ 1 ส่วน นา้ มนั ราข้าว มะละกอสุก ( 1 ช้อนโต๊ะ+1 ช้อนชา ) (8 ชิ้นคา)

รายการอาหารมอื้ กลางวนั อาหารม้ือกลางวนั วนุ้ เสน้ ผดั ขนม ผลไม้ วนุ้ เส้นผดั ประกอบดว้ ย วนุ้ เสน้ แหง้ 2 ส่วน = 1 กาเลก็ (ประมาณ 40 กรัม) กงุ้ สด 1/2 ส่วน = กงุ้ สดตวั ขนาดกลาง 3 ตวั (1 ช.ต.) ไขข่ าว 1/2 ส่วน = ไข่ขาวของไขไ่ ก่ 1 ฟอง ผกั 1 ส่วน = ผกั กาดขาว, ค่ึนไช่, แครอทเลก็ นอ้ ย น้ามนั รา = 4 ส่วน = 4 ชอ้ นชา (1 ชอ้ นโตะ๊ + 1 ชอ้ นชา ขนม 1 ถว้ ย ผลไม้ สบั ปะรด

รายการอาหารมอื้ กลางวนั ว้นุ เส้นผดั ขนม, สับปะรด หมู่ เนือ้ สัตว์ 1 ส่วน ก้งุ สด 3 ตัว ไข่ขาว 1 ฟอง วุ้นเส้น 2 ส่วน ~ 40 กรัม หมู่ผกั 1 ส่วน ไขมนั 4 ส่วน นา้ มนั ราข้าว (1 กาเลก็ ) ผกั กาดขาว, คน่ึ ไช่, แครอท 1 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา ขนมจากแป้ งปลอดโปรตีน ผลไม้ 1 ส่วน และนา้ ตาล สับปะรด (6 ชิ้นคา)

รายการอาหารมอื้ เยน็ อาหารม้ือเยน็ ขา้ วสวย *แกงสม้ ไข่เจียว** ผลไม้ ขา้ วสุก 3 ส่วน = 3 ทพั พี เน้ือสตั ว์ เน้ือปลา 1/2 ส่วน = 1 ชอ้ นโตะ๊ (ทาแกงสม้ ) ไขข่ าว 1 ส่วน = เท่ากบั ไข่ขาว 2 ฟอง (ทาไข่เจียว) ผกั 1 ส่วน ใชผ้ กั 3 ชนิด ดอกแค, มะละกอดิบ ใส่แกงส้ม ฟักทอง (ใส่ไขเ่ จียว) น้ามนั ราขา้ ว ใช้ 4 ส่วน = 4 ชอ้ นชา (ทาไขเ่ จียว) ผลไม้ แตงหอม * แกงสม้ ไม่ใส่กะปิ ปรุงรสเปร้ียวๆ หวานๆ (เติมน้าตาลเลก็ นอ้ ย ** ปรุงรสไข่เจียวดว้ ยซิอ๊ิวขาว 1 ชอ้ นชา

รายการอาหารมอื้ เยน็ ข้าว แกงส้ม (นา้ น้อย) ไข่เจียว ผลไม้ หมู่เนือ้ สัตว์ 1.5 ส่วน เนือ้ ปลา 1/2 ส่วน ไข่ขาว 1 ส่วน ( 1ช้อนโต๊ะ ) ( 2 ฟอง ) ข้าว 3 ส่วน หมู่ผกั 1 ส่วน ผลไม้ 1 ส่วน (ข้าวสุก 3 ทพั พ)ี ดอกแค มะละกอดบิ ฟักทอง แตงหอม ( 6 ชิ้นคา) ไขมนั 4 ส่วน นา้ มนั ราข้าว 1 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา * ใชน้ ้ามนั ราขา้ ว ในการผดั ทอด โดยไม่ใชไ้ ฟแรง

ข้อสังเกต 1) การทาอาหารใหผ้ ปู้ ่ วยโรคไตเร้ือรังที่ตอ้ งจากดั โซเดียม จะตอ้ งดดั แปลง สูตรอาหาร เช่น น้าพริกแกงสม้ ตอ้ งงดกะปิ ซ่าหร่ิมตอ้ งไม่ใส่กะทิ ใส่น้าเช่ือม ถา้ เป็น DM ตอ้ งใชน้ ้าตาลเทียม 2) ปริมาณโซเดียมในอาหารหลกั ที่กาหนด หากเป็นอาหารโปรตีนต่า หรือคอ่ นขา้ งต่า เช่นไม่เกินวนั ละ 40 กรัม ปริมาณโซเดียมในอาหาร หลกั ท่ีมิไดแ้ ปรรูปจะไม่เกิน 300 มิลลิกรัม (โซเดียมมีในอาหารหลกั หมู่เน้ือสัตว์ มากกวา่ ในพวกพืชเมื่อจากดั โปรตีน อาหารหม่เู น้ือสัตวก์ ถ็ กู จากดั ลง โซเดียมจึงต่า )

ข้อปฏิบตั ิเพม่ิ เติมในการเลอื กอาหาร ในภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

ข้อปฎิบตั ิเมอื่ ผู้ป่ วยมรี ะดับกรดยูริคในเลือดสงู พวิ รีน พวิ รีน ในอาหารทาใหเ้ กิดกรดยรู ิค ถา้ กรดยรู ิคในเลือดสูง ( ค่าปกติ 2-7 มก./ดล. ) ต้องจากดั พวิ รีน และกนิ อาหารไขมนั ตา่ ไปพร้อมๆ กนั แหล่งอาหารทมี่ ีมาก และควรงด งด ตบั ไต ตบั อ่อน ปี กสตั ว์ เช่น ปี กไก่ ปลาซาร์ดีน ปลากะตกั (น้าปลา) ปลาเคม็ ของฝรั่ง ( แอนโชว่ี ) กะปิ น้าตม้ เน้ือ น้าสกดั จากเน้ือสตั ว์ ซุปใส ฯลฯ ยอดผกั อ่อน ๆ เช่น ยอดตาลึง ยอดฟักแมว้ หน่อไมฝ้ ร่ัง หน่อไมไ้ ทย ใบข้ีเหลก็ ฯลฯ ( ดูรายละเอียดในเอกสารประกอบ )

ข้อปฏิบตั ิเมอื่ ผูป้ ่ วยมรี ะดับกรดยูริคในเลือดสงู อาหารทท่ี ไี ขมนั สูงจะเป็ นเหตุให้กรดยรู ิค ถูกขบั ถ่ายทางปัสสาวะได้น้อย จากดั ไขมนั ในอาหาร โดย งด อาหารทอดอมน้ามนั (ควรเลอื กชนิดไม่อมน้ามนั ) อาหารผัดใส่น้ามันมาก (ควรผดั ใส่น้ามันน้อย) อาหารพวกพฟั หรือพาย กนิ อาหารทไี่ ม่ใส่น้ามันบ้าง เช่น พวกยา ส้มตา ฯลฯ แกงเลยี ง แกงส้ม แกงเหลือง แกงป่ า อาหารทห่ี ุงต้มด้วยวิธี ต้ม น่ึง (เช่น ปลาน่ึงกบั ผกั ) ย่าง เผา ( เช่น ปลาเผา มะเขอื เผา ฯลฯ ) (ในแต่ละม้อื ต้องมนี ้ามันอย่ดู ้วย เช่น 2 – 3 ช้อนชา)

ข้อปฏิบตั ิเมอื่ ผู้ป่ วยมีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสงู สูงกวา่ 200 มิลลิกรัม/เลือด 100 เดซิลิตร โคเลสเตอรอล (อาจมี HDL ต่าร่วมดว้ ย) ( ถา้ ในเลือดมีระดบั สูง ทาใหเ้ กิด ATHEROSCLEROSIS ได้ ) ข้อปฏิบตั ิ 1. จากดั โคเลสเตอรอลในอาหาร ให้ < 300 มิลลิกรัม/วนั 2. จากดั ไขมนั ท้งั หมด และจากดั ไขมนั อิ่มตวั โดยใชน้ ้ามนั ราขา้ ว (60 – 70 กรัม/วนั ) แหล่งอาหารทม่ี โี คเลจสะเชต่วยอใรหอไ้ ดลส้ มดั าสก่วนแขลอะงกครวดรไขงมดนั ที่ดี ช่วยลด LDL โดยไม่ลด HDL ปู กงุ้ ห*อสยูงท( ้เงั ชC่นHหOอLยนทาง้งั รPมO)4ฯ- -ล-*ฯ งด มนั สมองสตั ว์ *ไข่แดง ไข่ปลา ตบั ไต ปลาหมึก จากดั ไขมนั อิ่มตวั (SFA) จากพชื โดย :งดกะทิ น้ามนั มะพร้าว นา้ มันปาล์ม ฯลฯ จากดั SFA จากสัตว์ โดยงด มนั หมู (ใต้หนังหมู เช่น หมูสามช้ัน) มนั ไก่ (เช่น ใต้หนังไก่) ฯลฯ เนยแท้ (จากนม) งด ไขมนั ทม่ี กี รดไขมนั ชนิดทรานซ์ เช่น เนยเทยี ม เนยขาว และอาหารทท่ี าจากเนยเทยี ม และเนยขาว (คุกกี้ เค้ก แป้ งพายกรอบ ครัวซองก์)

ข้อปฏิบตั ิเมอ่ื ผู้ป่ วยมรี ะดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสงู ไตรกลเี ซอไรด์ ( TG ) ถ้าระดบั ไตรกลเี ซอไรด์ ในเลอื ดสูง มากกว่า 150 มิลลกิ รัม/ 100 เดซิลติ ร • เมื่อมีระดบั TG สูง – กินอาหารไขมนั ปานกลาง(25-30% Kcal) (ถา้ ต่ามากเกินไป CH2O) จะตอ้ งสูง จะเป็นเหตุให้ TG สูง - เลือกอาหารไขมนั ที่มี SFA ต่า โดยเลือกเน้ือสตั วท์ ่ีไม่ติดมนั เช่น เน้ือ ปลา และไข่ขาว (ถา้ กินไก่ ใหล้ อกหนงั ออก) - กินน้าตาลนอ้ ย (เพราะน้าตาลจะทาให้ TG ข้ึน) - กิน refine carbohydrate (เช่น แป้ งที่เอา fiber ออก) นอ้ ย • กินเน้ือปลาทะเลน้าลึกบา้ ง เช่น ปลาทู ปลาซาบะ ปลาทูน่า ปลาโอ ฯลฯ มีกรดไขมนั PUFA ชนิดโอเมกา้ 3 (EPA และ DHA) อยมู่ าก จะช่วยลดไตรกลีเซอร์ไรดใ์ นเลือดได้ • กินน้าตาลใหน้ อ้ ย ( ปฏิบตั ิค่อนขา้ งยากเพราะเป็นแหล่งของพลงั งานเสริม )

ข้อปฏิบตั ิเมอื่ ผู้ป่ วยมีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสงู • งดแอลกอฮอล์ เพราะเป็นเหตุใหไ้ ตรกลีเซอไรดส์ ูงได้ ภาวะไตรกลีเซอไรดใ์ นเลือดสูง กเ็ ป็นปัจจยั เสี่ยงใหเ้ กิด ATHEROSCLEROSIS ถา้ สูงท้งั CHOL และ TG จะยงิ่ เพ่มิ ความเส่ียงต่อการเกิด ATHEROSCLEROSIS อนั เป็นเหตุอยา่ งหน่ึงใหไ้ ตเส่ือม ท้งั ยงั เป็นเหตุใหเ้ กิด cardio และ / หรือ cerebro vascular disease เช่น หวั ใจ และสมองขาดเลือด

ข้อปฏิบตั ิผู้ป่ วยมรี ะดับฟอสเฟตในเลือดสงู ( > 4.8 มิลลิกรัม/ เดซิลิตร ) ฟอสเฟต ตอ้ งจากดั ฟอสเฟตในอาหาร < 800 มก./วนั (ดว้ ยการงดอาหารท่ีมีฟอสเฟตมาก) ข้อปฏบิ ตั ิ ยา มักจะต้องให้ยาจับฟอสเฟต (สารประกอบแคลเซียม) ร่วมกบั จากดั อาหาร แหล่งอาหารทีม่ ฟี อสเฟตมาก และควรงด (ดูในแผ่นพบั ในภาคผนวก) งด ไข่แดง (ควรกินแต่ส่วนไขข่ าว) นมทุกรูปแบบ ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต เนยแขง็ เมลด็ พชื เช่น เมลด็ แตงโม เมลด็ ดอกทานตะวนั ฯลฯ ลูกนัท เช่น เมลด็ มะม่วงหิมพานต์ ถว่ั เมลด็ แหง้ เช่น ถวั่ เหลือง ถวั่ แดง ถว่ั เขียว ฯลฯ ผลิตภณั ฑจ์ ากถว่ั เช่น นมถว่ั เหลือง เต้าหู้ ฟองเตา้ หู้ ถวั่ กวน ถวั่ ตดั ฯลฯ งด อาหารท่ีใช้ยสี ต์ เช่น ขนมปังปอนด์ แป้ งซาลาเปา หม่านโถว โดนทั (เพราะยสี ตม์ ีฟอสเฟตอยมู่ าก)

ข้อปฏิบตั ิเมอ่ื ผูป้ ่ วยมรี ะดับโพแทสเซียมในเลือดสงู โพแทสเซียม จะจากดั หรือไม่สุดแต่ระดับโพแทสเซียมในเลอื ด ถา้ < 3.5 mEq/L อาจตอ้ งเสริม 3.5-5.0 mEq/L ปกติไม่ตอ้ งจากดั อาหาร > 5.0 mEq/L ตอ้ งจากดั โดยงดอาหารท่ีมีโพแทสเซียมมาก + ยาจบั โพแทสเซียมในอาหาร (แพทยส์ ั่ง) แพทยอ์ าจส่ัง งด ผลไมช้ ว่ั คราว หรือ งด ผลไมโ้ พแทสเซียมสูง กินผลไมโ้ พแทสเซียมต่า ดูในแผน่ พบั งด ผกั โพแทสเซียมสูง กินผกั ที่มีโพแทสเซียมต่า ในภาคผนวก ข้อควรระวงั ระวงั มิใหท้ อ้ งผกู เพราะโพแทสเซียมมีโอกาสจะถกู ดดู ซึม เขา้ สู่ร่างกายไดม้ ากข้ึน

สรปุ ช่วงเวลาของการเป็ นโรคไตเรื้อรังน้ัน ระยะเวลาก่อนฟอกเลอื ด (Pre-dialysis) นับว่าเป็ นช่วงยาวทสี่ ุด การปฏิบตั ติ นของผู้ป่ วยในช่วงนีจ้ ึงมีผลกระทบอย่างสาคญั ต่อช่วงรับการบาบดั ทดแทนไต อนั เป็ นช่วงสุดท้ายของชีวติ ถ้าได้รับการวนิ ิจฉัยโรค และต้งั ต้นปฏบิ ัตติ นโดยเฉพาะอย่างยงิ่ ด้านอาหารบาบัดอย่างถูกต้อง สมา่ เสมอเสียแต่ ระยะแรกของโรค ย่อมมโี อกาสจะชะลอความเสื่อมของไตไว้ได้มาก ยดื เวลาทจ่ี ะรับ การบาบดั ทดแทนไตออกไปให้ช้าทส่ี ุด และแม้จะต้องเข้ารับการบาบัดดังกล่าว การ ปฏิบตั ติ นด้านอาหารบาบดั ทถี่ ูกต้อง สมา่ เสมอในช่วง Pre-dialysis ย่อมจะรักษาภาวะ โภชนาการของผ้ปู ่ วยไว้ได้ดี มผี ลให้ผ้ปู ่ วยก้าวเข้าสู่การบาบัดระยะสุดท้ายด้วยร่างกาย ทม่ี ีภาวะโภชนาการดี ย่อมลดความเส่ียงต่อการเกดิ ภาวะแทรกซ้อน และอตั ราตายลง ได้มาก ท้งั ยงั จะช่วยเพมิ่ คุณภาพชีวติ ให้กบั ผ้ปู ่ วยในช่วงเวลาดงั กล่าวได้อกี ด้วย สมควรทผ่ี ู้ป่ วยจะได้รับความรู้อย่างถูกต้อง และได้รับการจูงใจให้ปฏบิ ตั ติ นอย่าง เหมาะสมท้งั ด้านการใช้ยา และอาหารบาบัด จากบุคลากรในทมี ผ้ใู ห้การรักษาทุกฝ่ าย