Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore aรู้ใจ

aรู้ใจ

Description: aรู้ใจ

Search

Read the Text Version

๔๔ ขอหยุดเสียที เหมอื นกบั วา่ ในขณะนี้ เรากม็ ภี ยั โรคภยั ตา่ งๆ หอ้ มลอ้ ม เราอยู่ รบั ผลเป็นทกุ ขต์ ลอดเวลา เราก็มองไปขา้ งหนา้ ถ้าเกิด อกี แลว้ เปน็ ทกุ ขเ์ หมอื นกนั กบั ชาตนิ ้ี เราจะไปทำ� ไม เชน่ เดยี วกนั ถา้ เราอยใู่ นกองไฟซงึ่ หอ้ มลอ้ มเราอยู่ เมอื่ เรากระโดดออกจาก ไฟได้แลว้ เห็นไฟกองอย่ขู ้างหน้า จะกระโดดเขา้ ไปอีกไหม ไม่ เปน็ ไปไม่ได้ มแี ต่หลบหนีอย่างเดยี ว คือไม่อยากเข้าไป สิ่งใดทเ่ี ราเปน็ ทกุ ข์ในชาตินี้ เราฝังใจอยแู่ ลว้ จะให้ไป กอ่ ทุกข์เข็ญ โดยใหไ้ ปเกิดในภพใหม่ชาตใิ หม่ มนั ไปไหม ไม่ไป ไม่ยอม ทุกข์ในชาติน้ีก็เหลือเฟือแล้ว จะไปทุกข์ชาติหน้าอีก ท�ำไม นี่คือว่า เห็นทุกข์ เป็นอย่างนั้น เขาไม่ยอมไปภพหน้า ชาตหิ น้าหรอก ขอหยุดเสียที นเี่ ปน็ ธรรมชาติของคน ของสัตว์ เม่อื เหน็ ทกุ ข์ในปจั จบุ นั ชาตินี้จนเพียงพอแล้ว ตอ่ ไปเขาจะไม่ ยอมท�ำอีก ธรรมชาตมิ นุษย์เป็นอยา่ งนนั้ ก็เหมือนกับเด็กเล็กท่ัวๆ ไป ไม่ต้องพูดถึงผู้ใหญ่ ถ้า ผใู้ หญม่ นั ชอบแกต้ ัว เอาเด็กธรรมดาๆ ทย่ี งั ไมร่ ูเ้ ดยี งสาเท่าไร

รูใ้ จ ๔๕ ขนาดก�ำลังคลานไปคลานมาตามธรรมชาติ ตามปกตแิ ลว้ เดก็ จะชอบเลน่ ไปท่วั โดยไม่รตู้ ัววา่ สงิ่ ใดจะเป็นอนั ตรายกับตวั ตวั อยา่ ง เหมอื นเดก็ กบั ไฟ เดก็ จะไมก่ ลวั เพราะไมเ่ คย รู้ถึงโทษของมัน พ่อแมจ่ ะให้เดก็ กลวั ไฟ กต็ อ้ งเอามือเด็กจ้ไี ฟ รอ้ นๆ ให้เดก็ ร้องดงั ๆ ไปเลย เดก็ จะเขด็ หลาบ เรายอมให้เดก็ เจ็บแต่น้อยเพ่ือสอนเขา จะดีกว่าเด็กท่ีไม่เคยมีประสบการณ์ อาจจะเอาไฟเผาตัวเองทัง้ เปน็ เดก็ แค่น้ี ให้มันร้อนข้นึ มา ให้ มนั รอ้ งไหเ้ สยี กอ่ น คอ่ ยเอายาทาใหม้ นั ทหี ลงั ทหี ลงั จบั มอื เขา้ ไป อกี มนั ไมเ่ อาแลว้ เห็นไฟมันกระโดดไปเลย เดก็ มนั กลัว เหน็ ไฟปบ๊ึ มนั กระโดดเลย เดก็ ไมส่ แู้ ลว้ นเ่ี หน็ โทษวา่ ไฟมนั มรี สชาติ อยา่ งไร เป็นทุกขอ์ ยา่ งไรกับเขา เขารจู้ กั เดก็ เปน็ อย่างน้ัน นี่ วธิ แี กเ้ คลด็ วธิ จี ะใหเ้ ด็กหนีจากไฟ คนเรากเ็ หมือนกัน ผู้ใหญ่แลว้ จะท�ำอย่างไรจะให้เห็น โทษในการเกดิ แก่ เจ็บ ตาย ในภพหน้าชาตหิ น้า เราตอ้ งดูใน ชาตนิ ้ี จะมวี ธิ แี กไ้ ขอยา่ งไร สว่ นมากเราไมเ่ ปน็ อยา่ งนนั้ คอื ลยุ ใส่ คอื ความหลงนั่นเอง ใครในทนี่ ี้เคยต�ำน้�ำพริก ต�ำนำ�้ พริกธรรมดาๆ นี่แหละ ถา้ นำ้� พรกิ มนั กระเดน็ เขา้ ตาสกั แปป๊ เดยี วเทา่ นน้ั แหละ แสบตา

๔๖ ขอหยดุ เสียที ขึ้นมาสักคร้ังหน่ึง คร้ังสองต้องพยายามรักษาตัวไว้ให้ดีมาก ทส่ี ดุ คอื มนั เหน็ เหน็ โทษวา่ นำ�้ พรกิ เขา้ ตาเปน็ อยา่ งไร มนั แสบ อยา่ งไรบ้าง ทหี ลังต�ำน้�ำพริกจะพยายามป้องกันเตม็ ที่ คือกลวั นำ้� พริกจะเข้าตาอีกนั่นเอง นี่คอื เห็นโทษมาแลว้ นำ้� พรกิ เป็น อยา่ งนๆี้ น่ีเหมือนกัน การเห็นทุกข์ในการเกิดมาในชาติน้ีแล้ว ชาติหน้าเราจะพยายามป้องกันให้ดีท่ีสุด หรือไม่เกิดเลยจะดี ที่สดุ คอื ว่า การเหน็ ทุกข์ โทษ ภยั ต่างๆ ในปจั จบุ นั ชาตดิ ้วย การคน้ ควา้ ดชู วี ติ ของเรา นคี่ อื การฝกึ ใจใหเ้ หน็ ทกุ ขโ์ ทษของ โลกในแงต่ า่ งๆ ว่า การเกดิ แก่ เจ็บ ตาย เป็นโทษอยา่ งไร บ้าง ต้องมองให้เห็นในปัจจุบันชาติเป็นเร่ืองใหญ่ ถ้ามอง เหน็ และสามารถเรียบเรียงได้ เราสามารถจะมองอนาคตได้ เลย ชาตหิ นา้ ก็จะเหมอื นกับชาตนิ ี้ท้ังหมดนั่นเอง ตวั อยา่ งเชน่ เราจะมคี รอบครัว คู่ผวั ตวั เมยี ก็แลว้ แต่ ก็ เหมอื นกับชาตินีท้ กุ ประการ ทางโลกทางสงสาร ใครผา่ นอะไร มาก็จะรู้จักกันดแี ลว้ ว่า เป็นอย่างนๆี้ เหมอื นเดมิ จะมคี ูผ่ วั ตัว เมียก็เท่าเดิมอีก จะมลี ูกหลานขึ้นมาก็เทา่ เดิมนน่ั แหละ จะมี เงนิ ทองกองสมบัติมากมายกก่ี อง กเ็ ท่าเดมิ นัน่ แหละ ไมม่ ีใคร

ร้ใู จ ๔๗ หนีจากความทุกข์ความตายไปได้หรอก นีล่ กั ษณะเราเห็นทั้งหมด ทกุ ข์ โทษ ภยั ต่างๆ น้นั เขา เรยี กว่า นพิ พทิ า จะเกดิ ขึน้ มาในชว่ งนัน้ นพิ พทิ า มนั จะเกิด ความเบ่ือขนึ้ มา เหนอื่ ยหนา่ ยขนึ้ มา เรียกว่า อนาลโย เปน็ ผู้ ทอดอาลยั ในอนาคตนนั้ เสยี มนั ไปนนู้ อนาลโย เปน็ นามสญั ญา ของหลวงปู่ขาว ในความหมายคำ� แปลว่า เป็นผู้ทอดอาลัยเสยี คือไมเ่ อาอีกแลว้ พูดง่ายๆ ก็คือสละทิ้งไป คือไม่ยอมกา้ วหน้า ไปหาอนาคต น้ันเป็นเพราะอะไร เพราะอนาคตก็เหมือนกับ ปัจจุบนั เราจะมองเห็นภาพทง้ั สอง อย่างหนึง่ คอื อดตี อยา่ งที่ สองคอื อนาคต จะเหมอื นปจั จบุ นั นนั่ คอื ปจั จบุ นั ทว่ี า่ มา ปจั จบุ นั เรือ่ งปญั ญากเ็ ป็นอย่างนี้ มันต้องคดิ ให้รอบคอบ พิจารณาให้รอบคอบ ในเรอ่ื ง ความแตกต่างของปัจจุบันทางปัญญากับปัจจุบันของสมาธิ ปัจจุบันทางปัญญามันแตกต่างเหมือนกับที่อธิบายมาแล้ว พยายามฝกึ ทง้ั สองอยา่ งใหม้ คี วามชำ� นาญ ถา้ เราฝกึ ในปจั จบุ นั ของสมาธิ ใหน้ กึ คำ� บรกิ รรมเอาไว้ เรานา่ จะเขา้ ใจดี แตป่ จั จบุ นั ทางปญั ญา เราเขา้ ใจแลว้ หรอื ยงั ถา้ ไมเ่ ขา้ ใจ เอาอบุ ายนไี้ ปคดิ เอาไปพจิ ารณา เอาไปปฏิบตั ิ ฝกึ ใจตัวเองอยู่เสมอๆ นนั่ แหละ

๔๘ ขอหยดุ เสยี ที คนจึงจะร้จู กั การปฏิบัตทิ างปัญญา จะรู้จักทุกข์ โทษ ภัยต่างๆ ของอนาคตเป็นว่าอย่างไรบ้าง และไม่ควรไปด้วยเหตุผล อย่างไรบ้าง ถา้ เราผกู ใจกบั อนาคตเอาไวอ้ ยา่ งนี้ คอื มคี วามผกู พนั ในสงิ่ ที่รกั อนั น้ีก็รกั อันนัน้ กย็ นิ ดี อันนี้ก็ใครก่ ็พอใจ ถา้ เรา มคี วามผกู พนั กบั ของสงิ่ ใดในอนาคต กบั สงิ่ ไหนกแ็ ลว้ ตง้ั แต่ ในปัจจุบนั นี้ นัน่ แหละทจี่ ะเปน็ ตวั เชือ่ มโยงกับภพหนา้ ชาติ หน้า เพราะว่าความผูกพันกับของสิ่งใดนั่นแหละจะท�ำภพ ชาตใิ หเ้ กดิ เอาความยดึ ตดิ ตา่ งๆ มาคลค่ี ลายซะ ทำ� ลายเชอ้ื พันธุแ์ ห่งการเกิดนั้นซะ

หงุ ขา้ วใหส้ กุ

๕๐ หุงขา้ วใหส้ ุก หลวงพอ่ เคยอา่ นนทิ านเรอื่ ง สงั ขท์ อง อนั นเี้ ปน็ ธรรมะ เมื่อพระสังข์อยู่ในคราบเงาะน้ันเป็นอย่างไร แต่เมื่อเขาเอา คราบเงาะไปเผาไฟทิ้งเป็นอย่างไร พระสังข์กลับเข้าไปในรูป เงาะอกี ไมไ่ ดแ้ ลว้ เงาะกห็ มดสภาพ ตอ้ งเปน็ สงั ขท์ องตลอดกาล น่ีคือว่าปัญญาเราอยู่ในคราบเงาะ คือใจเราเป็นตัวที่ หมกั หมมเกบ็ ความฉลาดไวอ้ ยู่ แตเ่ ราไมไ่ ดฝ้ กึ เมอื่ เราฝกึ ปญั ญา ดีแล้ว ก็เหมือนสังข์ทองออกจากคราบเงาะมานั่นเอง น่ีเป็น อุบายธรรมะทั้งหมด เราศึกษาอะไรมา ต้องมาศึกษาให้เขา้ ใจ ในสว่ นนน้ั ๆ นี่คอื ปฏิบัตติ ัวเอง ปฏิบัติใจใหม้ คี วามรูเ้ หน็ กับส่งิ น้ันๆ ชดั เจน มนั ตอ้ งสรา้ งปญั ญาขนึ้ มากอ่ นจงึ จะรเู้ หน็ ได้ ถา้ ปญั ญา ไม่มี ไมม่ ที างจะรเู้ หน็ ไดเ้ ลย เพยี งรเู้ หน็ ตามหลกั การ ตามหลกั วชิ าการเทา่ นน้ั เอง อนั นนั้ จะไปละอะไรไมไ่ ด้ จะแกป้ ญั หาอะไร กไ็ มไ่ ดเ้ ลย ตวั นนั้ เปน็ เพยี งหลกั การ มนั ตอ้ งเหน็ ดว้ ยสตปิ ญั ญา เฉพาะตัวจริงๆ จึงจะละถอนปล่อยวางอะไรได้ นี่เรียกว่า

รใู้ จ ๕๑ เกดิ ความแยบคาย พิจารณาบอ่ ยๆ พยายามตรกึ ตรองบอ่ ยๆ ใคร่ครวญบอ่ ยๆ แลว้ มันถงึ จะเกดิ ความแยบคายขน้ึ มา ใหม่ๆ กไ็ ม่ค่อยแยบคายหรอก ต้องฝึกฝนบ่อยๆ ก่อน วนั นนั้ บา้ ง วนั นบี้ า้ ง เดอื นนนั้ บา้ ง ปนี น้ั บา้ ง ตอ้ งพจิ ารณาบอ่ ยๆ เร่ืองเกา่ ๆ ซ้ำ� ๆ ซากๆ อกี สักวนั หนึ่ง จะเกดิ ความแยบคายขน้ึ กับเราจนได้ เพราะเราพยายามอยู่เป็นธรรดา เป็นธรรมชาติ อยแู่ ล้ว เรอ่ื งเหลา่ นี้ กเ็ หมือนการขบั รถ ทุกคนขับรถไม่เป็นมาก่อน เกิดมา ในชีวติ พอข้ึนรถปบั๊ สตารท์ รถวิ่งป๋ึงไปเลย มันทำ� ได้ไหม ท�ำ ไม่ได้ ต้องอาศยั ค่อยไปค่อยมา เคลื่อนไปเคลอ่ื นมา เดินหนา้ ถอยหลงั ไป มนั ตอ้ งชำ� นาญกอ่ นจงึ จะขบั ไปจรงิ ๆ เปน็ อยา่ งนนั้ น่คี อื อาศยั ความชำ� นาญ อาหารการกนิ กเ็ หมอื นกนั คนทไ่ี มเ่ คยทำ� อาหาร ทดลอง เอาอาหารให้เขาท�ำดูสิ เอาแค่ส้มต�ำอย่างเดียวก็พอ ไม่ต้อง เร่ืองผัดเรื่องทอดอะไรหรอก เอาแค่ส้มตำ� อยา่ งเดยี ว ทดลอง ดสู ิว่า ตำ� เปน็ ไหม มันมคี รบสูตรนนั่ แหละ มอี ปุ กรณ์การทำ� มี ทกุ อยา่ ง มีทั้งพรกิ ทงั้ ปลาร้า หรอื มีอะไรก็แล้วแต่ สูตรใครอาหารส้มต�ำ ท�ำดูสิว่ามันจะเหมือนที่เขาท�ำ

๕๒ หุงขา้ วให้สกุ ไหม ใหมๆ่ มนั จะไมอ่ รอ่ ยหรอก บางทกี เ็ ผด็ ไปบา้ ง บางทกี เ็ คม็ ไปบา้ ง จดื ไปบา้ ง แตถ่ า้ ท�ำบ่อยๆ ต�ำบ่อยๆ คือต�ำมาแลว้ กิน เอง ดูว่ามันอรอ่ ยไหม คำ� ว่าอรอ่ ยเราตัดสินเอง ตัดสินเองว่า อรอ่ ยไหม ตอ้ งตามหาวา่ รสมันเปน็ อย่างไร ทีต่ ำ� มามนั เปรย้ี ว ไป วันหลังตำ� ใหม่ ลดมะนาวลง ลดความเปร้ยี วลง หรอื วันนี้ มนั เผ็ดไปหนอ่ ย วันหลังลดพรกิ ลง วนั นีต้ ำ� มาแลว้ มันเค็มไป หนอ่ ย ลดน้ำ� ปลาลง ลดปลาร้าลง พยายามลดตามสดั ส่วนจน ไดท้ ีจ่ ริงๆ เออ รสชาติอันน้ีถูกต้องกบั เรา กบั ธาตขุ นั ธ์ของเรา จริงๆ อันนั้นคอื ว่าใช้ได้ บางคนกว่าจะลดอยา่ งนนั้ ได้กจ็ ะตอ้ ง ใช้เวลานาน หลายครั้งหลายหน ท�ำอาหารเหล่านี้ถึงจะท�ำ ถกู ปากตัวเองได้ นเี่ หมือนกัน คำ� วา่ แยบคาย ค�ำเดยี ว ลักษณะเดยี วกนั กวา่ จะแยบคายได้ แตล่ ะหมวด แตล่ ะขอ้ แตล่ ะอุบายตา่ งๆ ก็ ตอ้ งหลายครงั้ หลายหน ใหม้ นั พอดี พอเหมาะพอสมกบั เรา ถา้ มคี ำ� ถามวา่ อะไรเปน็ เครอ่ื งตดั สนิ ความแยบคาย ความหาย สงสยั เปน็ ตวั ตดั สนิ ถา้ หายสงสยั นน่ั แหละคอื วา่ ตดั สนิ ได้ คอื แยบคายแลว้ นเี่ ปน็ หลกั ธรรมดา เปน็ หลกั ธรรมชาตอิ ยา่ งหนงึ่ ในการปฏิบัตธิ รรม ทกุ อยา่ งมันเปน็ อย่างน้นั เหมอื นกบั อาหารการกนิ ถา้ วา่ อรอ่ ยแลว้ เราหยดุ ทนั ที

รใู้ จ ๕๓ หรือหงุ ข้าวก็เหมอื นกัน ถ้ามนั สุกกห็ ยุดหงุ ทนั ที อาหารทุก อย่างถ้าสุกก็ต้องหยุดทันที ไม่ใช่ว่าจะท�ำต่อไป น่ีคือว่า ความแยบคายเหมือนกัน ถ้ามันหายสงสัยข้ึนมาก็หยุดใน ส่วนนั้น น่คี ือแยบคายแลว้ สง่ิ ไหนทไ่ี ม่แยบคาย ก็ทำ� ต่อไป ค�ำว่าแยบคายไปแล้ว แยบคายเพยี งอนั หน่ึง ไม่ใช่วา่ แยบคายทง้ั หมด ตอ้ งแยบคายไปเปน็ เรือ่ งๆ ไปเร่ือยๆ กอ่ น น่ี ฐานของมนั ไม่ใช่เอาเร่ืองเดียวแยบคายหมด เปน็ ทเี ดียวไมไ่ ด้ ต้องค่อยเปน็ คอ่ ยไป น่ีคือหลักปฏิบัติ เราต้องฝึกสติปัญญาเฉพาะตัวให้ มากทสี่ ดุ เทา่ ทจี่ ะมากได้ เพยี งครบู าอาจารยอ์ ธบิ ายธรรมะให้ ฟงั เปน็ เพยี งบอกให้ เตอื นให้ ชแ้ี นะแนวทางใหเ้ ทา่ นน้ั เอง ทา่ น ไมส่ ามารถจะไปแกไ้ ขปญั หาใหเ้ ราไดห้ รอก เราคนเดยี วเทา่ นนั้ ที่จะแก้ปัญหาเราเองได้ เราต้องฝึกให้มากท่ีสุด การฟังธรรม จากครูบาอาจารย์เป็นอุบายวิธีในหลักการเท่านั้นเอง แต่วิธี การปฏบิ ตั เิ ปน็ หนา้ ทขี่ องเราคนเดยี ว จะฝกึ จะคดิ จะตรกึ ตรอง ใคร่ครวญเอง นี่เป็นอุบาย ให้ธรรมะเพื่อที่จะไปฝึกฝนอบรมตัวเอง ให้ดีขึน้ ขยันข้นึ เผือ่ วา่ ทุกคนจะน�ำไปปฏิบัติ เอาละทนี ี้

ร้ใู จ วตั ถปุ ระสงค ์ : เผยแพรม่ รดกธรรมของ หลวงพอ่ ทลู ขปิ ปฺ ปญฺโญ สำ� หรบั ผทู้ ป่ี รารถนาความสขุ ในชวี ติ (กามาวจร) จนถงึ ผทู้ ม่ี งุ่ หวงั มรรคผลนิพพาน (โยคาวจร) รายละเอียด : หนงั สอื ชดุ ใจ ลำ� ดบั ท่ี 3 ถอดเทปจากธรรมเทศนา ของหลวงพอ่ ทลู เมอ่ื วนั ท่ี 11 ตุลาคม 2539 ทว่ี ดั ปา่ บา้ นคอ้ จ.อุดรธานี ISBN : พิมพค์ รงั้ ที่ 1 : 20 พฤษภาคม 2556 จำ� นวนการพิมพ ์ : 10,000 เลม่ ผจู้ ดั พิมพ ์ : คณะศษิ ยานุศษิ ย์ ถอดเทป : เบญจ์ บุษราคมั วงศ์ ภาพปก : Tanawat Pisanuwongse ภาพประกอบ : ด.ช. ณฐั วชั ต์ เนาวรตั น์พงษ์ ลิขสิทธ์ิ : ขอสงวนลขิ สทิ ธิ์ในการคดั ลอกหรอื พมิ พซ์ ้ำ� เน้ือหา ในหนงั สอื เลม่ น้ี กรณุ าตดิ ตอ่ KPY USA หรอื วดั ซานฟรานธมั มาราม

ข้อมูลการติดต่อ San Fran Dhammaram Temple 2645 Lincoln Way, San Francisco, CA 94122 โทร. 1 (415) 753-0857 Website: watsanfran.org E-mail: [email protected] KPY USA 19721 Scenic Drive, Redwood Valley, CA 95470 Website: kpyusa.org E-mail: [email protected] วดั ป่ าบา้ นค้อ ต.เขอื น้�ำ อ.บา้ นผอื จ.อุดรธานี 41160 โทร. (042) 250-730-1 Website: watpabankoh.com E-mail: [email protected]

โปรดติดตามหนงั สือเล่มต่อไป “ชั่วฟ้าดินสลาย” (ขอใจ) ผใู้ ดมคี วามประสงคจ์ ะสมทบทนุ ในการจดั พมิ พห์ นงั สอื เล่มต่อไป กรณุ าติดต่อ [email protected] บญั ชีออมทรพั ย์ ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 650-0-12774-8






Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook