Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore aแนวทางป้องกันโรคติดต่อ

aแนวทางป้องกันโรคติดต่อ

Description: aแนวทางป้องกันโรคติดต่อ

Search

Read the Text Version

วธิ กี ารเลอื กใช้หนา้ กากอนามัย 1. หนา้ กากอนามยั แบบเยือ่ กระดาษ 3 ชนั้ มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นได้ดี สามารถ ป้องกันของเหลวซึมผ่านได้ ป้องกันการแพร่กระจาย เชื้อโรคจากการไอหรือจาม สามารถป้องกันผู้สวมใส่ จากเช้ือโรคได้ในจำพวกเชื้อแบคทีเรีย หรือเช้ือรา แต่ หากเป็นเช้ือไวรัสซ่ึงมีอนุภาคขนาดเล็กมากในระดับ ไมครอน อาจจะไม่สามารถป้องกันได้และไม่ควรนำมา ใช้ซำ้ ควรเปล่ยี นใหม ่ 2. หนา้ กากอนามัยที่ผลติ จากผา้ ฝา้ ย เน้นใช้สำหรับป้องกันฝุ่นละออง และ ป้องกันการกระจายของน้ำมูกหรือน้ำลายจากการไอ จาม แต่ไม่สามารถกรองเช้ือโรคที่มีขนาดเล็กมากๆได้ เช่นเดียวกับหน้ากากอนามัยกระดาษและสามารถซัก ทำความสะอาดดว้ ยนำ้ ยาซกั ผ้าหรือผงซกั ฟอกแล้ว ตากแดดใหแ้ ห้งนำกลบั มาใชใ้ หม่ได้ 3. หนา้ กากอนามยั ชนิด N 95 เป็นหน้ากากอนามัยท่ียอมรับกันในขณะน้ีว่า สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ดีที่สุด เพราะป้องกันได้ทั้งฝุ่น ละอองและเชือ้ โรคที่มขี นาดเล็กถงึ 0.3 ไมครอน และปัจจุบนั บุคลากรทางการแพทย์ใช้ในการป้องกันโรคติดเช้ือ ท่ีอาจ กระจายในอากาศ แต่ผู้ใช้อาจรู้สึกอึดอัดเมื่อสวมใส่เน่ืองจาก วสั ดุทใ่ี ชก้ รองอากาศมคี วามละเอียดมาก 51

วธิ ที ำหนา้ กากอนามัยใชเ้ อง ประหยดั แถมปลอดโรคหวดั หนา้ กากอนามยั เป็นเคร่ืองมือสำคัญอย่างหน่ึงที่สามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากผู้ป่วยโรคติดเช้ือ ระบบทางเดินหายใจไปสู่บุคคลอ่ืนได้ หน้ากากอนามัยที่แนะนำควรเป็นชนิดใช้แล้วท้ิง ซ่ึงมีความ ปลอดภัยสามารถช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อโรคผ่านทางละอองน้ำมูก น้ำลาย เสมหะจากการไอ จามได้ เราอาจทำหน้ากากอนามัยไว้ใช้เองได้ง่ายๆ โดยใช้วัสดุท่ีทำจากผ้าและสามารถนำกลับมา ใชใ้ หม่ได้ดว้ ย โดยนำมาซักล้างดว้ ยน้ำยาซักผา้ หรอื ผงซักฟอก แลว้ ตากแดดให้แหง้ เตรียมวสั ดอุ ปุ กรณ์ดังน้ี 1. กรรไกรตดั ผา้ 2. ดา้ ยและเขม็ เย็บผา้ 3. ผา้ ฝา้ ย ผ้ายืด ผา้ สาลูเนื้อแน่นกว้าง 6 นวิ้ ครึง่ ยาว 7 น้วิ จำนวน 2 ช้นิ 4. ยางยืดหรอื ไส้ไก่สำหรับทำหู ความยาว 7 นว้ิ จำนวน 2 เส้น ขน้ั ตอนการทำหนา้ กากอนามยั 1. นำผ้าทเ่ี ตรียมไว้มาพบั ครง่ึ ตามความยาวผ้า แลว้ พบั จบั จบี ทวิช 1 นว้ิ ตรงกลางผ้ากลัด ดว้ ยเขม็ หมดุ หรือ เนาตรงึ ไว้ (ตามภาพที่ 1−5) และ ทำอกี ชิน้ เช่นเดียวกัน 2. นำผ้าท่ีพับไว้มาวาง โดยหันด้านนอกข้ึน และนำยางยืดมาวางที่มุมผ้าด้านกว้างข้างบน และข้างล่าง ด้านละ 1 เสน้ กลดั เขม็ หมดุ หรือ เนาตรงึ ไว้ (ตามภาพท่ี 6) 3. นำผ้าท่ีพับไว้อีกช้ันมาวางซ้อนกับผ้าชิ้นแรกท่ีตรึงยางยืดไว้ โดยหันผ้าด้านนอกชนกัน แล้วเย็บจักร หรือ ด้นถอยหลังรอบผ้าส่ีเหล่ียม ให้ห่างจากริมผ้า ด้านละคร่ึงเซนติเมตร โดยเว้น ชอ่ งวา่ งไวก้ ลับตะเขบ็ ประมาณ 1 นิ้ว (ตามภาพที่ 7) 4. ขลิบผา้ ตรงมมุ ทัง้ 4 มุม ใหใ้ กล้กับรอยเยบ็ เพือ่ เวลากลับตะเข็บจะไดเ้ รียบรอ้ ยสวยงาม (ตามภาพท่ี 8) แล้ว กลับตะเขบ็ ตรงช่องทเี่ วน้ ไว้ 5. สอยปดิ ชอ่ งวา่ งที่เว้นไว้ให้เรียบรอ้ ย (ตามภาพท่ี 9) 52

วิธที ำสายผกู แบบไสไ้ ก่แทนยางยืด 1. ตัดผา้ เปน็ ชิ้นยาว 15−16 นิ้ว กวา้ ง 1นว้ิ คร่งึ จำนวน 4 ชิน้ 2. พับรมิ ผ้าเขา้ หากันตามความกวา้ งแลว้ ทบอกี คร้งั 3. เยบ็ ตามแนวยาวตลอดจนสดุ ผ้า 4. นำผ้าทไี่ ดท้ ั้ง 4 เส้น มาเย็บติดมุมทัง้ 4 มุมแทนยางยืด วธิ ีทำหน้ากากอนามัยแบบ 3 จีบ วสั ดุอปุ กรณ์ 1. ผ้าลาย สำหรบั ดา้ นหน้า 1 ช้นิ 2. ผ้าพ้นื สำหรบั ด้านหลัง 1 ช้นิ 3. ยางยดื ขนาด กวา้ ง 0.5 ซม. ยาว 7 นว้ิ 2 เส้น 4. ไม้บรรทดั กระดาษทำแบบ ทกี่ ลงิ้ ผ้า กระดาษคารบ์ อน กรรไกร ดา้ ย เขม็ หมุด เข็มสอย หมายเหตุ : ผ้าท่ีนำมาใช้ควรมีเน้ือแน่น ไม่ระคายผิวหน้า ไม่ก่ออาการแพ้ หากใช้ผ้า 3 ช้ัน จะเพิ่มประสิทธิภาพการกรองของหนา้ กากอนามยั วธิ ีทำ 1. สร้างแพทเทิร์นหน้ากากขนาด สี่เหลยี่ มจตั ุรัส ขนาดกว้างคูณยาว ด้านละ 7.5 น้วิ วดั เส้นเพอื่ ทำจีบจากด้านบนลงมา 2 น้วิ 1 นิว้ 0.5 น้ิว 1 นิ้ว 0.5 น้วิ 1 น้วิ ตามลำดับ 53

2. นำแพทเทิร์นไปวางตัดบน ผ้าลาย 1 ช้ิน ผา้ พ้นื 1 ช้นิ โดยไม่ต้องเผือ่ ตะเข็บ กล้ิงตามรอยเส้นจีบ ทั้ง 2 ช้ิน (หากไมม่ ีอปุ กรณ์กลง้ิ ผา้ วาดแบบลงบนผ้า ดว้ ยดินสอไดเ้ ลยแต่ตอ้ งวาดดา้ นหลงั ผ้า) 3. พับจับจีบที่ช่องกว้าง 1 น้ิว (สีฟ้า) จากด้านบนลงมา ให้ครบทั้ง 3 จีบ กลัดเข็มหมุดหรือเนาไว้และนำไปรีดเพ่ือให้ จบี อยู่ตวั ทำแบบเดียวกันทัง้ 2 ช้ิน 4. นำยางยืดมาวางที่มุมผ้าด้าน ทีม่ ลี าย ตรงดา้ นกวา้ ง ให้ห่างจากดา้ นริมผ้า ด้านบนและด้านล่าง 1.5 ซม. ทำอีกเส้น เช่นเดียวกัน แล้วเนาหรอื ตรงึ ไว้ใหแ้ น่น 54

5. นำผ้าพื้นที่จับจีบเรียบร้อย แล้วมาวางทับผ้าลายที่ติดยางยืดไว้ กลัด เข็มหมุดหรือเนาไว้ แล้วตีเส้นเป็นรอยเย็บ ใหห้ ่างจากริมผ้า 0.5 ซม. เยบ็ รอบด้วยจกั ร หรือด้นถอยหลัง และเว้นช่องไว้สำหรับ กลับผา้ ประมาณ1.5 นิว้ 6. เมื่อเย็บเสร็จแล้วขลิบท่ีมุมผ้าท้ัง 4 มุมให้ใกล้รอยเย็บ เพื่อเวลากลับผ้าออกมาจะได้มี มุมที่สวยงาม เมื่อขลิบผ้าเรียบร้อยแล้วให้กลับผ้าด้านในออกมาตรงช่อง 1.5 น้ิว ที่เราเว้นไว้ตอน เย็บรอบ 7. เม่ือกลบั ผ้าออกมาแลว้ สอยช่องวา่ งทีเ่ ว้นไว้ แลว้ นำไปรีดใหเ้ รียบร้อย หากตอ้ งการใหม้ ี ความสวยงามเพ่ิมขน้ึ ก็สามารถตกแตง่ ดว้ ยดอกไม้ต่างๆ ไดต้ ามใจชอบ 55

วธิ ีการสวมหนา้ กากอนามัย 1. เลือกขนาดของหน้ากากอนามยั ให้พอดีกับใบหนา้ 2. กอ่ นสวมหน้ากากอนามัย ควรล้างมอื ให้สะอาดด้วยนำ้ และสบหู่ รอื แอลกอฮอลเ์ จลล้างมอื 3. สวมหน้ากากอนามัยให้คลุมทั้งจมูกและปาก ปรับสายหน้ากากให้พอดีกับใบหน้า หน้ากากควรมคี วามกระชบั และไมม่ ีชอ่ งวา่ งระหวา่ งใบหน้ากับหน้ากาก กรณที ีห่ น้ากากมโี ครงเหล็กหรอื แผ่นพลาสตกิ ให้เอาด้านทม่ี ีโครงเหลก็ ไวด้ า้ นบนและควรดัดใหก้ ระชบั กบั สันจมกู 4. หลังจากการใช้ หน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้าสามารถนำไปซักเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การซักควรซกั ใหส้ ะอาดดว้ ยนำ้ และผงซกั ฟอก และนำไปตากแดดให้แหง้ 5. หากใช้หน้ากากที่ทำจากกระดาษควรเปลี่ยนทุกวัน และท้ิงหน้ากากท่ีใช้แล้วลงถังขยะ ทมี่ ีฝาปดิ 6. หากหน้ากากมกี ารปนเปอ้ื นหรอื ชำรุด ควรเปลีย่ นอนั ใหมท่ ันที 7. ควรลา้ งมอื ให้สะอาดทกุ ครงั้ หลังการถอดหน้ากาก หรือภายหลงั จากการเปล่ียนหน้ากาก 56

แบบบันทกึ สุขภาพ 57

แบบบนั ทึกประวตั กิ ารได้รบั วคั ซนี ศูนย์เดก็ เล็ก / โรงเรยี น ........................................................................................................................ ตำบล ................................................... อำเภอ..................................... จังหวัด................................... ด.ช./ ด.ญ. ................................................................ อายุ..............ปี................. เดอื น........................ วัคซนี พ้ืนฐานทเ่ี ดก็ ตอ้ งได้รับ อายุ วคั ซนี ป้องกันโรค วนั ทีไ่ ด้รับ หมายเหตุ แ รกเกดิ - วณั โรค (บีซจี ี) 2 เดือน - ไวรสั ตบั อกั เสบบี 4 เดือน - คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตบั อกั เสบบี คร้ังที่ 1 6 เดอื น - โปลโิ อ ครั้งที่ 1 9 เดอื น - คอตบี -บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอกั เสบบี ครั้งที่ 2 1 ปีครง่ึ - โปลิโอ ครง้ั ท่ี 2 - คอตบี -บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอกั เสบบี คร้งั ที่ 3 2 ปีคร่งึ - โปลิโอ ครัง้ ท่ี 3 4 ปี - หัด หรือ หัด-คางทมู -หดั เยอรมัน ครง้ั ที่ 1 ป . 1 - คอตบี -บาดทะยัก-ไอกรน คร้งั ท่ี 4 - โปลโิ อ ครัง้ ที่ 4 - ไข้สมองอักเสบเจอีครง้ั ท่ี 1 และครัง้ ท่ี 2 ป. 6 - ไข้สมองอักเสบ เจอี ครัง้ ที่ 3 วคั ซีนอน่ื ๆ - คอตบี -บาดทะยัก-ไอกรน ครัง้ ท่ี 5 - โปลโิ อ ครง้ั ท่ี 5 - หดั -คางทูม-หัดเยอรมนั ครงั้ ที่ 2 - วัณโรค (บซี ีจี) * - คอตีบ –บาดทะยกั ** - โปลิโอ ** - คอตบี บาดทะยัก อายุ วคั ซีนป้องกนั โรค วันท่ไี ดร้ บั หมายเหต ุ หมายเหตุ * หมายถึง ให้ในกรณีท่ีไม่มีหลักฐานว่าเคยได้รับเม่ือแรกเกิดและไม่มีแผลเป็น (หากมีบันทึกหลักฐานว่าเคยได้รับมาก่อน ไม่จำเป็นต้องให้ซ้ำแม้ไม่มีแผลเป็น บริเวณทีไ่ ด้รับการฉดี ) ** หมายถงึ ให้เฉพาะผู้ทไี่ ด้รับวัคซีน คอตบี -บาดทะยัก-ไอกรน และ โปลิโอ ไมค่ รบ 5 ครั้ง 58

แบบคัดกรองอาการปว่ ยรายหอ้ งเรยี น ชอื่ ศนู ยเ์ ดก็ เล็ก........................................................................... ช่อื ครผู ู้ดูแลเดก็ ................................................ จำนวนเดก็ ทีร่ บั ผดิ ชอบ............คน ช่ือ (ด.ช.หรอื ด.ญ.)... - สกลุ ... อายุ นน./ ประจำเดือน.....................................................พ.ศ. ........................................ ลำดบั (ป)ี สว่ นสงู 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 59 หมายเหตุ : สัญลักษณใ์ นการบันทกึ ขอ้ มลู หวัด หมายถงึ มีไขต้ ่ำๆ ร่วมกบั มีน้ำมูกไหล หรอื ไอ หรอื คดั จมูก จาม อาจมี 1. โรคทพี่ บบ่อย : หวดั = C มอื เทา้ ปาก = H อจุ จาระร่วงเฉียบพลัน = D อาการเจ็บคอเล็กน้อย มือ เท้า ปาก หมายถงึ มีอาการไข้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลยี ร่วมกบั มจี ุดหรอื ตุ่มแดง 2. การแยกเดก็ ปว่ ย : ไม่มกี ารแยกนอนแยกเล่น = 0 แยกนอน = 1 แยกเลน่ = 2 อักเสบท่ีลิ้น เหงือกและกระพุ้งแก้ม หรือพบตุ่มหรือผื่นนูนหรือตุ่มพองใส บริเวณ 3. ไม่มาเรยี นใหท้ ำเครอ่ื งหมาย x หากหยุดเรยี นใหใ้ สส่ ญั ลกั ษณ์โรค/ ระบโุ รค รอบๆ อกั เสบและแดงทฝ่ี ่ามือฝา่ เทา้ 4. กรณีเดก็ ได้ยารกั ษามาจากบ้าน ใหเ้ ขียนวงกลมลอ้ มรอบสัญลักษณโ์ รค อุจจาระร่วง หมายถึง มอี าการถา่ ยอจุ จาระเหลว ตัง้ แต่ 3 ครง้ั ข้นึ ไปใน 1 วนั 5. กรณมี ีคนทบี่ ้านปว่ ยด้วยโรคเดยี วกันก่อนเด็กป่วย ให้ทำเครื่องหมาย * หรือถา่ ยมีมูกเลือดอย่างน้อย 1 ครงั้ หรอื ถา่ ยเปน็ นำ้ จำนวนมากกวา่ 1 ครั้งขึน้ ไป ตวั อย่างการบนั ทกึ C* = หยุดเรียนดว้ ยหวัดและมีคนที่บ้านป่วยกอ่ นเดก็ มอี าการ ใน 1 วัน D *12 = อุจจาระแต่มาเรยี นโดยมยี ามาจากบา้ น มีคนทบ่ี ้านปว่ ยก่อนเด็กมอี าการ ครไู ดแ้ ยกเดก็ นอนและแยกเลน่

แบบบนั ทกึ ปญั หาสุขภาพและการดูแลเบอื้ งตน้ ด.ช./ด.ญ. ............................................................ ศูนยเ์ ด็กเลก็ ............................................................ วันท่ี อาการและการเจบ็ ปว่ ย/ การดแู ลรกั ษา/ ผใู้ หก้ ารรักษา/ ปญั หาสุขภาพท่ีพบ การแนะนำ หน่วยงาน หมายเหต ุ : 1. แบบบันทึกปัญหาสุขภาพและการดูแลเบ้ืองต้น ใช้กรณีเด็กมีการเจ็บป่วยหรือได้รับ วคั ซีนไมค่ รบถ้วน 2. แบบบันทึกปัญหาสุขภาพและการดูแลเบื้องต้น ควรอยู่ด้านหลัง/คู่กับแบบบันทึก ประวตั ิการไดร้ บั วคั ซีน 3. ควรนำแบบบันทึกปัญหาสุขภาพและการดูแลเบ้ืองต้น ให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที ่ สาธารณสขุ ที่ให้การรักษาบันทกึ ทุกครั้ง 60

รายนามผู้เข้ารว่ มประชุมพจิ ารณาจัดทำ แนวทางการดำเนินงานป้องกนั ควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ในศูนยเ์ ดก็ เลก็ วันที่ 21-22 กมุ ภาพนั ธ์ 2554 ณ ห้องประชุมนครอินทร์ โรงแรมเดอะริช จงั หวดั นนทบุรี ------------------------------ คณะจัดทำ 1. แพทย์หญงิ ประมวญ สุนากร ท่ีปรกึ ษากรมควบคมุ โรค 2. ศ.คลินกิ (พิเศษ) พญ.สจุ ติ รา นิมมานนิตย ์ ท่ปี รกึ ษากรมควบคุมโรค 3. สตั วแพทย์หญงิ อภริ มย์ พวงหตั ถ ์ สำนกั โรคติดต่อทวั่ ไป 4. นางสาววัชรี สารบี ตุ ร สำนักโรคตดิ ต่อท่ัวไป 5. นางรัชน ี ธรี วทิ ยเลิศ สำนักโรคตดิ ต่อท่ัวไป 6. นางสาวอาจาร ี อิงคะวณชิ สำนกั โรคตดิ ตอ่ ท่ัวไป 7. นางจงกล พวงนาค สำนกั โรคติดต่อทั่วไป 8. นางอนงนาฏ มโนภิรมย์ สำนักโรคตดิ ต่อทัว่ ไป 9. นางสาวสุรสั วด ี กลิน่ ชัน้ สำนักโรคตดิ ตอ่ ทั่วไป 10. นางประภาภรณ ์ จงั พาณิช กรมอนามยั 11. แพทยห์ ญงิ รัศม ี ตนั ศิริสิทธกิ ุล คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ด ี 12. ดร.พรทิพย์ จอมพุก ศูนย์ประสานงานโครงการกวาดล้างโปลิโอและโรคหัด ตามพันธะสญั ญานานาชาต ิ 13. นางดุษณี บุญพทิ ักษ์สกุล สำนกั งานปอ้ งกันควบคุมโรคที่ 4 ราชบรุ ี 14. นายสมร สมอบา้ น สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี 15. นางสาวปณิษรา จันทรวิมูล สำนกั งานป้องกนั ควบคมุ โรคที่ 8 นครสวรรค ์ 16. นางสาวสมจิตร บญุ ชัยยะ สำนักงานปอ้ งกันควบคมุ โรคที่ 9 พษิ ณุโลก 17. นายอดุลย์ศักดิ์ วจิ ติ ร สำนักงานปอ้ งกันควบคุมโรคที่ 10 เชยี งใหม่ 18. นางลัดดา จิรตั น์ฐิกุล สำนักงานปอ้ งกันควบคุมโรคท่ี 11 นครศรธี รรมราช 19. นางบงกช เช่ียวชาญยนต ์ สำนักงานปอ้ งกนั ควบคุมโรคที่ 12 สงขลา 20. นางทพิ วมิ ล ชนะสงคราม สำนกั งานสาธารณสุขจังหวดั นนทบรุ ี 21. นางสภุ าพร อุตทะปา สำนกั งานสาธารณสขุ จงั หวัดเชียงราย 22. นางเพ็ญศร ี วงค์พุฒ โรงพยาบาลแมจ่ ัน จงั หวดั เชียงราย 23. นางจินดา ธรี ะกุล สำนกั งานสาธารณสขุ อำเภอบ้านนาสาร 24. นางยศสราวด ี กรงึ ไกร ศนู ย์พฒั นาเด็กเล็กโรงเรยี นวัดน้อย เทศบาลตำบลอรัญญกิ จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา 25. นางสวุ รรณยี ์ แตงทอง ศูนยพ์ ฒั นาเด็กเล็ก เทศบาลเมอื งอโยธยา จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา 61

คณะทำงาน อยูเ่ จริญ สำนกั โรคตดิ ตอ่ ทัว่ ไป วรินทรเ์ สถียร สำนักโรคตดิ ตอ่ ทวั่ ไป 1. นายแพทย์พรศักดิ์ เลิศสุโภชวณชิ ย์ สำนกั โรคติดตอ่ ท่ัวไป 2. นางพอพิศ ตันตทิ ววี ัฒน ์ สำนักโรคตดิ ต่อท่วั ไป 3. นางสมนึก ชอบธรรม สำนกั โรคติดต่อท่วั ไป 4. แพทย์หญิงธนาวดี วหิ ารทอง สำนักโรคตดิ ตอ่ ท่ัวไป 5. นายเผดจ็ ศกั ด ิ์ ประสาทพร สำนักโรคติดตอ่ ทั่วไป 6. นางสาวนพรัตน์ พานบวั สำนกั โรคติดตอ่ ท่ัวไป 7. นางผกา มว่ งรชั สำนกั โรคตดิ ตอ่ ท่วั ไป 8. นางสาวระพีพร 9. นางสาวพนารัตน ์ อยเู่ จรญิ สำนกั โรคตดิ ตอ่ ท่ัวไป ตนั ติทวีวฒั น ์ สำนักโรคตดิ ตอ่ ทัว่ ไป บรรณาธิการ 1. นายแพทยพ์ รศกั ดิ ์ 2. แพทยห์ ญิงธนาวดี 62

บนั ทึกเดก็ ด ี 63

บนั ทึกเดก็ ด ี 64


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook