Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore aอาหารบำรุงตามศาสตร์ของจีน

aอาหารบำรุงตามศาสตร์ของจีน

Description: aอาหารบำรุงตามศาสตร์ของจีน

Search

Read the Text Version

หนา ที่ 0 . อาหารบํารุงตามหลกั ของศาสตรจนี • แนวปฏบิ ัตเิ พื่อชีวติ ท่ียง่ั ยนื • อาหารบาํ รงุ ช่ี, หยนิ , หยาง และเลอื ด และตาํ รับอาหารตา งๆ • บําบดั โรคตามอาหารธาตุ • อาหารรอ นเยน็ ตามธาตทุ ้งั หา • โภชนะบําบัดตามหลักแพทยแผนจีน • ตํารับยาบาํ รุง, ยาตุน และยาดองเหลา เอกสารวชิ าการ ดร. ยอดยิ่ง เทพธรานนท (ไมสงวนลิขสิทธ)์ิ ศนู ยวจิ ัยแบคทีเรียและไวรสั (BVRC) 1515 January 2012 มกราคม 2555

หนาที่ 1 ‘กรุณาอานตรงน้ีกอน’ ผูเขียนไดรับคําถามมากมายเกี่ยวกับอาหารท่ีควรรับประทานสําหรับผูปวยมะเร็ง เนื่องจากผูปวยมะเร็งไดรับ ขอมลู ทส่ี บั สน จนไมก ลา รบั ประทานอะไร เชน หา มกินเนื้อสัตว เพราะจะกระตุนการเจริญเติบโตของมะเร็งบาง หามกิน ปลาไมมีเกล็ดบาง และหามไปจนกระท่ังผูปวยผายผอม เพราะไมรูจะกินอะไรไดบาง จึงไดจัดพิมพเอกสารที่เปน วิทยาศาสตรต ามหลักโภชนาการเรอื่ ง ‘โภชนาการของผูปวยมะเร็ง’ แจกจายใหผูปวย เพ่ือใหเกิดความเขาใจที่ถูกตอง ซึ่ง เปน ทถ่ี ูกอกถกู ใจของผปู ว ย และเรมิ่ กินอาหารไดอ รอย เอกสารฉบับนี้ ไดร วบรวมอาหารบํารุงตามหลักของศาสตรจีน ซ่ึงมีมายาวนาน และมีช่ือเสียงโดงดัง จนมีคําพูด กันไปท่ัววา ‘บานฝร่ัง อาหารจีน’ ไดจัดแบงอาหารบํารุงไวเปนหมวดหมู เพื่องายตอการเขาใจ ชี้แจงสรรพคุณ และขอ หา มตา งๆ เทา ที่คนควาจากเอกสารตา งๆ ได การปองกันโรค โดยการเลือกรับประทานอาหารใหเหมาะสําหรับบุคคล (Food therapy) เปนส่ิงที่ชาวจีน ประพฤติปฏิบัติกันมานาน ทําใหชาวจีนมีอายุยืน (แตปจจุบันเปลี่ยนไป) ขงจื้อไดบันทึกคําสอนเก่ียวกับสุขภาพไวใน คัมภรี ลี่จ้ิง (Li Ching) เม่ือสองพนั กวาปก อ นวา คนเราจะมสี ุขภาพดีไดน้ัน ตองมาจากส่ิงดๆี 4 อยา ง คอื 1) ตองมีกําเนิดทีด่ ี คอื สขุ ภาพแรกเกิดดี 2) ตอ งกนิ อาหารดมี ปี ระโยชนตอ รางกาย 3) ตอ งอยใู นส่ิงแวดลอ ม และเครอื ญาติทดี่ ี 4) ตองมีภาวะอารมณจิตใจท่ีดี เอกสารฉบับนี้ไดรวบรวมเรื่องอาหารท่ีมีประโยชนตอรางกาย ตลอดจนอาหารที่ใชเปนยา แตถาจะเขียนเรื่องนี้ คงจะไดหนังสือเลมหนาๆ หลายเลม จึงตัดตอนยกตัวอยางมาใหอาน ผูเขียนและรวบรวมตองขอขอบคุณหลายๆ ทานที่ ไดรวบรวมเอกสารท่ีมีความเก่ียวของหลายทาน เชน ทาน เภสัชกรวิเชียร ตั้งธนานุวัฒน, ดร.หวัง หมิง จู, คุณมิ่งมิตร นวรัตน, คุณอดุลย รตั นม่นั เกษม เปน ตน ซง่ึ ตองขออนุญาตใชบางสว นขอเขยี นของทานทั้งหลายดังกลาวมาประกอบจน เปนเอกสารฉบบั นี้ ซึง่ เปนเอกสารซึง่ ไมไดจ ัดทําเพือ่ จําหนาย แตเ ปน การใหค วามรูกับผูปวย และผูท่ีตองการบํารุงรางกาย ทว่ั ๆ ไป ดงั น้ันจงึ ‘ไมสงวนลิขสิทธิ’์ เชน เคย อาจมีคาํ ผดิ พลาดเกดิ ข้ึนบา ง ซงึ่ ก็ตองขออภยั ไว ณ ทนี่ ีด้ ว ย ดว ยความปรารถนาดี ดร.ยอดย่ิง เทพธรานนท ศูนยวิจัยแบคทีเรีย และไวรัส มหาชัย 15 มกราคม 2555 15 January 2012

สารบัญ หนา ที่ 2 วถิ ีชีวติ หา รปู แบบที่ทําใหอายุส้ัน หนา 20 แนวปฏบิ ัตเิ พอื่ ชวี ิตทย่ี ่ังยืนแบบจีน 9 แนวปฏบิ ัติเพ่อื ชีวิตที่ยง่ั ยนื แบบตะวันตก 1 คําอธบิ าย และอาหารบาํ รงุ หยนิ หยาง ช่ี และเลอื ด 1-2 2 อาหาร และสมนุ ไพรบาํ รุงชี่ (ลม) 3-5 หมวดเนอ้ื สัตว หมวดพืชผัก และผลไม 6-10 หมวดสมุนไพร 10-15 15-19 ตาํ รับอาหาร และสมุนไพรบํารงุ ชี่ (ลม) 20-25 อาหาร และสมนุ ไพรบาํ รงุ เลอื ด 26-27 หมวดเน้ือสัตว 28-29 หมวดพืชผกั และผลไม 29-33 หมวดสมนุ ไพร 33-40 ตาํ รบั อาหาร และสมนุ ไพรบาํ รงุ เลือด 40-43 อาหาร และสมนุ ไพรบาํ รุงหยิน 43-45 45-47 หมวดเนอื้ สตั ว 47-57 หมวดพืชผัก หมวดสมุนไพร 57-58 ตํารบั อาหาร และสมุนไพรบาํ รงุ หยนิ 58 อาหาร และสมนุ ไพรบํารุงหยาง หมวดเน้ือสัตว 58-60 หมวดพชื ผัก 60-64 65-66 หมวดสมุนไพร 67-68 ตาํ รับอาหาร และสมุนไพรบาํ รุงหยาง บําบัดโรคตามอาหารธาตุ 69-70 โภชนะบาํ บัดตามหลักแพทยแ ผนจนี 70-73 ตาํ รับอาหาร และยาจนี อ่ืนๆ 73 ตํารับยาบาํ รุง 74-75 ตาํ รบั ยาตุน ตํารบั ยาดองเหลา อาการของผปู ว ย และสมุนไพรที่เกยี่ วของ 15 January 2012

หนา ที่ 3 ใน ‘หวงต้เี นย จ้งิ ’ คัมภรี โ บราณเม่อื สองพนั ปกอ น มกี ารกลาวถึงวิธี หรือแนวปฏิบัติเพ่ือใหอายุยืนยาว และส่ิงหา สิง่ หรอื วิถีชีวติ หารปู แบบทีท่ าํ ใหอ ายุสั้น ส่ิงหา สง่ิ น้เี รยี กวา ‘หวหู นาน’ (Wu Nan) หวหู นานหา ส่ิงทีท่ าํ ใหอ ายุสัน้ นี้ มบี ันทึกไวใ นภาคทีส่ องของคมั ภีรหวงต้ีเนยจ้งิ ในสวนท่เี รยี กวา ‘หลิงซู’ Wu Nan วถิ ีชวี ิตหารูปแบบท่ที าํ ใหอายุส้ัน 1. 2. การทบ่ี ุคคลมีจติ ใจทะเยอทะยาน มกั ใหญอยูเปนนิจ อายจุ ะไมย นื 3. การที่บคุ คลมอี ารมณโ กรธรุนแรง หรือมกั สนกุ สนานจนเกินพอดี อายุจะไมย นื 4. 5. การทบ่ี คุ คลของเกี่ยวกับเรอ่ื งเพศมากจนเกินไป เชน มีเซ็กซบ อย ตั้งครรภบอ ย ทาํ แทง บอย หรืออกหกั ผดิ หวงั บอ ย พวกนี้อายุจะไมย นื การที่บคุ คลรบั ประทานแตอาหารไมม ีคุณประโยชน อายุจะไมย นื การท่ีบุคคลคิดกังวลมากจนเกนิ เหตุ ฟงุ ซานหาความสงบไมได อายุจะไมยนื ใครก็ตามที่มีวิถีชีวิตประกอบดวย หวูหนานทั้งหาน้ี จิตใจมักไมสงบ ซ่ึงสงผลโดยตรงตอตัวกําหนดอายุขัย คือ เชน (Shen, ดูรายละเอยี ดใน ช่ี จ้ิง เชน สามพิทกั ษ) เม่ือเชนถกู รบกวน จะสง ผลตอ จ้งิ (Jing) ที่เปนรูปมวล และ ช่ี (Qi) ที่ เปนพลังชีวิต ผลแหงการไมสมดุลของจิ้งและชี่ จะสงผลรายใหญหลวงตามมา จะทําใหเกิดโรครายขึ้น และอายุสั้นลง หวูหนาน จึงเปนส่ิงท่ีชาวจนี ผรู ทู งั้ หลาย ตองพึงระลึกถงึ และละเพอื่ ใหตนมอี ายุยืนยาว 20 แนวปฏิบตั ิเพ่อื ชีวติ ทีย่ ่ังยนื ตามแบบจนี วถิ กี ารดํารงชวี ิตเพื่อใหอายุยืนยาว ตามหลกั การแพทยจนี นนั้ มีผูสรปุ ออกมาได 20 วธิ ี ดงั น้ี 20 แนวปฏบิ ัตเิ พ่ือชีวติ ท่ียัง่ ยนื แบบจีน 1. ดาํ รงตนและกจิ กรรมของตนใหเ หมาะกับฤดูกาล เชน แตง กายใหเ หมาะสมกับสภาพอากาศ เปนตน 2. ไมเ รมิ่ รับประทานอาหารมือ้ เชา เร็วเกนิ ไป (กอ น 8 นาฬิกา) 3. เวลาที่เหมาะสมทสี่ ดุ ในการรบั ประทานอาหารเชา คอื 8-9 นาฬกิ า 4. อาหารมอ้ื เชา ควรเปนธัญญาหาร และผลไมท ี่มลี ักษณะออ นนุม 5. เพ่ิมพลงั ชวี ติ (ช่ี) โดยการออกกําลังกายแบบ Breathing Exercise เชน ฝก ช่กี ง ไทชี่กวน หรือไทเก็ก และ บรหิ ารกลา มเน้ือเฉพาะสว น โดยการนวดหนา นวดเหงอื ก ออกแรงขบฟน เบาๆ 6. ปดปากเสมอเม่อื เคย้ี วอาหาร และไมควรคุยขณะรับประทานอาหาร 7. ขบฟน เบาๆ และไมพดู ขณะปส สาวะ โดยเฉพาะผชู ายเพ่ือสงวน จ้ิง โดยเชื่อวาการอาปากขณะปสสาวะ จะ ทาํ ใหท วารบนและทวารลางเปด กวา ง จะสญู เสียจิ้งไปกับน้าํ ปส สาวะ ซึ่งถอื วา เปน การสูญเสียจิ้งโดยใชเหตุ (ใชทฤษฎีหลอดกาแฟอธิบายไดคือ จิ้งในรางกายก็เหมือนกับน้ําท่ีคางอยูในหลอดกาแฟ ถาเราอุดดานบน ของหลอดเอาไว นํ้าในหลอดกจ็ ะไมไหลทง้ิ แตถ าเราเลกิ อุดดา นบน และเปดดานลางของหลอดกาแฟ นํ้าที่ คา งในหลอดกจ็ ะไหลทิ้งจนหมด) 8. เมื่อรูสึกวารา งกาย หรือจติ ใจเครยี ด ใหบ รรเทาโดยการนวดเบาๆ ทด่ี วงตา และบรเิ วณโดยรอบ 15 January 2012

หนาที่ 4 9. ด่ืมซุปที่ปรุงจากกระดูกสัตวเม่ืออายุมากข้ึน เปนการบํารุงรางกาย รวมถึงการใสนํ้าสมสายชูเล็กนอยใน อาหารดวย เพื่อบาํ รงุ กระดกู ตามหลักการแพทยแผนจีน ซึง่ เหมาะสําหรับคนสูงอายุมาก 10. ออกกําลังกายแบบ Breathing Exercise ทุกวนั เพ่อื ขับพิษ (ดีท็อก) และเพิม่ พลงั ช่ี 11. การออกกาํ ลังกายแบบบรหิ ารกลา มเน้อื ควรทําในเวลาบายหรอื เยน็ เทา นัน้ 12. แปรงผมนานๆ เพ่อื เปน การบริหารหนังศรี ษะ ชวยลดอาการปวดศรี ษะ และชวยใหน อนหลับไดงา ย 13. บริหารกลามเน้ือรอบดวงตาโดยการกรอกตาไปโดยรอบ และมองในมุมกวาง ไมเพงหรือจองวัตถุเปน เวลานานๆ 14. กลนื น้าํ ลาย อยา ถมนา้ํ ลาย เปน การรักษาสภาพระบบยอ ยอาหารใหปกติ 15. ปกปองหยางช่ี โดยการสวมใสเ ส้ือผา และทําใหหลังอบอุนเสมอ เพราะหลังคือ หยาง 16. ลูบทองเบาๆ บอยๆ เพื่อให ช่ีของกระเพาะ (Stomach Qi) เปนปกติ จะชวยใหระบบดูดซึม และลําเลียง อาหารทํางานไดดขี ้นึ 17. กลว้ั ปาก ทาํ ความสะอาดชอ งปากใหดี และสวนลางลาํ ไสถ าทาํ ได 18. เคลอ่ื นไหวและบรหิ ารขอ ตอ เพื่อใหก ารเคลื่อนไหวของขอตอ และกลา มเนือ้ เปน ปกติ 19. ใชม อื อ่นื ๆ หรือวัสดุนมุ ๆ นวดทัง้ ตัว เพอ่ื ใหเ ลือดลมเดนิ สะดวก 20. กระทําตนตามแบบเตา ไมซ ้ึง ไมเครียด ไมโ ลภ ไมอ ยาก และไมหลง ถาสังเกตแนวทางทั้งยี่สิบนี้ใหดี จะพบวาสวนใหญเปนการบํารุง และรักษาตามหลักหวูชิ่ง (ธาตุท้ังหา) โดยเนน ใหความสําคญั กบั การดแู ลอวัยวะรบั สมั ผัสทง้ั หา ซึ่งถอื วา เปนทวาร และแหลง แสดงออกถงึ การทํางานของอวัยวะหยินท้ัง หาท่ีอยภู ายในรา งกาย ซง่ึ อวยั วะหยินทงั้ หานี้ ถอื เปนอวยั วะแหง ชีวิต หากไมม กี ารหลอเล้ียงบํารุงท่ีดีแลว ก็ยากที่จะมีชีวิต ท่ียืนยาวได และนอกจากน้ีบางสวนเปนแนวทางการปฏิบัติเพื่อเสริมสรางพลังชีวิตคือ ช่ี บํารุงจ้ิง และเพ่ิมเสถียรภาพให เชน เม่ือท้ังชี่ จ้งิ และเชน ดํารงสภาพอยอู ยา งสมดุลมน่ั คงแลว ชวี ิตกจ็ ะยนื ยาวได 9 แนวปฏิบัตเิ พอื่ ชีวิตทีย่ ง่ั ยนื ตามแบบตะวันตก 9 แนวปฏิบัติเพ่ือชวี ติ ทีย่ งั่ ยนื แบบตะวันตก 1. รบั ประทานอาหารทุกมอื้ ไมควรอด และควรรบั ประทาน 3 ม้ือตอ วัน 2. ตอ งรบั ประทานอาหารเชา 3. ออกกําลังกายอยางนอ ย 2-3 ครงั้ ตอสัปดาห แตไ มค วรออกกาํ ลงั กายหักโหม 4. นอนหลับพักผอ นวันละ 7-8 ช่วั โมง 5. งดสบู บุหรี่ หรอื ถา สูบอยกู ็พยายามเลกิ ใหเ ร็วที่สุด 6. รบั ประทานอาหาร หรือเครื่องดม่ื ทมี่ ีแอลกอฮอลแ ตนอย 7. พยายามควบคมุ น้ําหนกั ใหพ อดีอยเู สมอ 8. รักษาชีวิตเซก็ ซใหส มดลุ 9. คบเพื่อนดี และสรางครอบครวั แสนสขุ 15 January 2012

หนาท่ี 5 ในทางการแพทยของจีน ‘ชี่’ หมายถึง ‘ลม’ เปนส่ิงที่คุมครองพลังชีวิตในรางกาย เชน อาหาร น้ํา อากาศ มี บันทึกศาสตรแพทยจีนกลาวไววา ‘ช่ี ทําใหคนเรามีชีวิตอยูได’ ‘ชี่’ เปนพลังซ่ึงมีอยูท่ัวรางกาย เปนตัวนําพาสารอาหาร ไปบํารุงสมรรถภาพการทํางานของอวัยวะตางๆ ใหเปนปกติ หากรางกายมีช่ีท่ีดีอยู ‘ชี่ราย’ ก็ไมสามารถแทรกเขาไปได แตเ มอื่ มี ‘ชีร่ า ย’ มากขึ้นพลังของชี่กย็ อมจะพรองไป นน่ั คือถามีชี่ดีพอ และเพียงพอ โรครายก็ไมสามารถเขาสูรางกายจน เจ็บปวยได คนที่มีสุขภาพออนแอควรรบั ประทานอาหารที่บํารงุ ช่ี (ลม) ซ่ึงสามารถเพ่ิมพลัง ‘ชี่’ ได ถารางกายมีช่ีเพียงพอ กจ็ ะมีสุขภาพดี แข็งแรง และอายยุ ืน อาหารบาํ รงุ ‘ชี่’ : เน้ือวัว เนื้อแพะ ขาวเหนยี ว พทุ ราจีน โสมเกาหลี กระเพาะวัว เนื้อไก ขาวฟา ง มะพรา ว โสมไทจ ื่อเซยี ม ไตหมู นกกระทา เกาลดั ล้ินจี่ โสมตงั เซยี ม กระเพาะหมู ปลาหลีฮือ้ ลูกบัว ถวั่ ลสิ ง อ้ึงค้ี (ปลาไน) หวยซวั เลือดเปนของเหลวท่ีไหลเวียนอยูภายในรางกายไมมีวันหยุดตราบเทาท่ียังมีชีวิตอยู เพื่อแจกจายสารอาหารแก อวัยวะสวนตางๆ ของรางกาย การไหลเวียนของเลือดตองอาศัย ‘ช่ี’ หรือลม ‘ชี่เปนตัวนําเลือด ถาชี่ไหลเวียนดี เลือดก็ ไหลเวยี นดี ถา ชไี่ หลเวียนตดิ ขัด เลอื ดก็ไหลเวยี นไมสะดวกดว ย’ อยา งไรกต็ ามการทํางานของ ‘ชี่’ ก็ตองพ่ึงพาสารอาหาร จากเลือด ดังนั้น ‘เลือดเปนแมของชี่’ เลือดกับ ‘ช่ี’ (ลม) มีความเก่ียวพันกัน และพ่ึงพาอาศัยกัน เชน ถามีเลือดค่ัง (หอ เลือด) ก็ตองชวยใหเ ลอื ดไหลเวียน และยังตองขับ ‘ชี่’ (ลม) ใหไหลเวียนดวย ถาเลือดจางก็ตองบํารุงเลือด และตองบํารุง ‘ช’ี่ ไปพรอ มๆ กนั จงึ ทําให ‘เลือดและลม’ ไดส มดลุ สุขภาพกแ็ ขง็ แรงไปดว ย อาหารบาํ รงุ เลอื ด : ตบั หมู ตับไก แครอท ตังกุย หวั ใจหมู ปลาเกา ลาํ ไย เกา ค่ี เอน็ ววั ปลาดาบเงนิ องนุ หอซิวโอว เสก็ ตี่ ‘มีแตหยางยอมไมโต มีแตหยินยอมไมเกิด’ เปนขอความที่ปราชญจีนโบราณบันทึกไว และแพทยจีนปจจุบันก็ ทองจาํ ขึ้นใจไวท ุกคน สรรพส่งิ ท้ังปวงแบงออกเปน ‘หยิน’ กับ ‘หยาง’ เมอื่ ทัง้ สองส่ิงสอดประสานกันดี ก็จะ ‘เกิด’ และ ‘เจรญิ เติบโต’ ผลดิ อกออกผล สําหรับคนเราน้ันเพศชายจัดเปน ‘หยาง’ และเพศหญิงเปน ‘หยิน’ โรคาพยาธิก็แบงเปน ‘หยนิ หยาง’ เชนเดียวกนั จึงจาํ เปนตอ งใหส่ิงท่ีรา งกายขาดไป เม่อื บํารงุ แลวรางกายจะแขง็ แรงดงั เดิม การท่ีรางกายมีสารเหลวประเภท ‘หยิน’ ไมเพียงพอ จะทําใหมีไขต่ํา, โหนกแกมแดง, รอนอุงมือและเทา, เหง่ือ ออกขณะนอนหลบั , ปากเปน แผลเนา เปอ ย, คอแหง, ปสสาวะนอย, หนาแดง, ทองผูก, ล้ินแดงไมมีฝา, ชีพจรเตนออนแตถี่ 15 January 2012

หนา ท่ี 6 เร็ว เปนตน ถามีสารเหลว ‘หยิน’ นอย ทําใหมีสีหนาหมนหมองไมเปลงปล่ัง, ซึมเซา, ไมกระตือรือรน, เหน่ือยเพลีย, แขนขาเย็น, หอบ, ไมอยากพดู จา, คอไมแหง, ปส สาวะใส, อจุ จาระเหลว, ล้ินซีดขาว, ชีพจรเตน ออนไมมแี รง เปนตน อาหารบํารุง ‘หยนิ ’ : เนือ้ หมู นกพริ าบ เน้ือหาน เห็ดหูหนูขาว ซวั เซยี ม ปอดหมู เน้อื เปด ปลงิ ทะเล ออย (โสมซาเซยี มก็เรยี ก) ตนี หมู (คากิ) นกเปด นํา้ กระเพาะปลา งา ไผห ยก (เหง็กเตก) เนอื้ กระตาย ไกดํา รังนก ถัว่ ดํา เหด็ หลินจือ ตงั ถง่ั แหเชา การท่รี า งกายของคนมี ‘หยางชี่’ ไมพอ หรือ ‘หยางช่ี’ ในรางกายพรองไป จะทําใหรางกายเย็น (ความเย็นจัดเปน ‘หยิน’ ความรอนจัดเปน หยาง’) เกิดอาการกลัวหนาว, มือเทาไมอุน, แขนขาเย็นในตอนเชา, ออนเปล้ียไมมีแรง, มีเหงื่อ มาก, เหงื่อออกเวลานอนหลบั , ปส สาวะใส, อจุ จาระเหลว, ลน้ิ เปนฝา ขาวอมชมพู, ชีพจรเตนออ นไมมแี รง ในทางตรงกัน ขาม ถารางกายมี ‘หยางช’ี่ มาก จะเกิดอาการหนาแดง, ตัวรอน, หงุดหงิด, กระสับกระสาย, หายใจแรง, เสียงดัง, พูดมาก, กระหายน้ํา, ปสสาวะสีแดงเขม, อุจจาระแข็ง, ล้ินเปนฝาเหลือง, ชีพจรเตนเร็วและแรง ซึ่งก็มีขอเสียเชนเดียวกัน ดังนั้น ถา ‘หยาง’ พรอง ก็ใหรับประทานอาหารประเภทบํารุงหยาง ถา ‘หยาง’ มากเกินไปก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารบํารุงหยาง ดังกลา ว อาหารบํารงุ ‘หยาง’ : เนอ้ื แพะ กยุ ชา ย เน็กฉง ยง สอเอี๊ยง กงุ โตว ตง ปาเก็ก (รากยอจีน) สมนุ ไพรท่มี ีฤทธอิ์ ุน : ซ่วิ โอว ตังกุย อ้งึ ค้ี เปลอื กอบเชย โปยกั๊ก อ๊ังจอ สกตว ง โสม ฉงั่ ฉิก โตวตง เฮงย้งิ เส็กต่อี งึ๊ ปาเกก็ สมุนไพรทม่ี ฤี ทธิเ์ ยน็ : ดอกไมจนี เอ๊ยี ะบอเชา เกกฮวย แชตี่ เมากงึ ชวงปวยบอ เจยี กเอี๊ยะ บกั หม่ีฮวย ใบปแ ป โชยเตียจว้ั อุกกิม เทียงหม่ึงตัง แบะตงั ซัวเซียม 15 January 2012

หนา ที่ 7 สมุนไพรทม่ี ีฤทธก์ิ ลาง : เกาค่ี เหด็ หอม กําเชา หวยซัว ตังเซียม เห็ดหูหนูขาว เห็ดหหู นู ฮกเหล็ง ถั่งเชา หงูฉ ัก แปะกว ย กานา แปะฮะ เข่ียมซกิ 15 January 2012

หนา ท่ี 8 อาหาร และสมนุ ไพรบํารุงช่ี (ลม) หมวดเน้อื สตั ว เน้อื ววั หรือ เนือ้ ควาย (Bos Taurus or Bubalus bubalis) เน้ือวัวดีกวาเน้ือควาย เพราะบํารุงชี่ไดดีกวา เน้ือวัวมีรสหวานกลมกลอม มีฤทธิ์อุน สวนเน้ือควายมีรสหวาน และมีฤทธ์ิปานกลาง เน้ือวัวและควาย มีสวนประกอบคือ โปรตีน ไขมัน วิตามิน B1 และ B2 แคลเซ่ียม ฟอสฟอรัส เหล็ก คอเลสเตอรอล เนื้อววั 100 กรมั ใหโ ปรตีน 20.1 กรมั สรรพคณุ : บาํ รงุ กระเพาะอาหารและตบั บาํ บดั อาการทองรวง ไมม เี ร่ียวแรง ซบู ผอม และอาการบวมนา้ํ บํารงุ - เลือด ปวดเม่ือยตามเสนเอ็น เนื้อวัวเสริมสราง ‘ช่ี’ ในรางกาย บํารุงและเสริมการทํางานของมาม และกระเพาะอาหาร เสริมสรา งกระดกู และเสนเอน็ ใหแข็งแรงขึน้ ขอ หา ม : เนอื้ วัวมฤี ทธ์ิอนุ ไมเ หมาะสาํ หรับคนที่มอี าการรอนใน และมีเสมหะ กระเพาะววั สว นผา ขี้รว้ิ มีรสหวาน และออกฤทธ์ปิ านกลาง ประกอบดวย โปรตนี ไขมัน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน B1 และ B2 เปน ตน 15 January 2012

หนา ที่ 9 สรรพคณุ : บํารุงเลอื ดลม รกั ษาแผลในกระเพาะอาหาร และบาํ รงุ กระเพาะ บาํ บัดอาการอาหารไมย อย ชว ยเจริญ อาหาร แกอาการแนนทอง ทองเฟอ บํารุงเด็กผอมแหง เปนอาหารท่ีเหมาะกับผูเปนโรคกระเพาะ อาหารเร้ือรัง ขอ หา ม : เนอ่ื งจากกระเพาะววั คอ นขา งเหนยี ว ผทู เ่ี ปนโรคกระเพาะ หรอื ลําไสเ ลก็ จึงควรนาํ ไปตนุ ใหเปอย แลว รับประทานนาํ้ ซุป ไตหมู หรอื เซง จ๊ี มีรสเค็ม ฤทธิ์ปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส แคลเซี่ยม เหล็ก วิตามิน B1, B2 และกรด นโิ คตินิค (nicotinic acid) สรรพคณุ : บํารุงไต หากมีอาการปวดเมื่อยบรเิ วณเอว ฝน เปย ก หูอือ้ หตู ึง ขัดเบา บวมนํ้า ควรใชตนุ เครอ่ื งยาจนี และรับประทานไดท ัง้ น้าํ ซปุ และเนือ้ เซงจ๊ี ขอหาม : ไมเหมาะสําหรับผทู ีม่ คี อเลสเตอรอลสงู หรือกระเพาะปสสาวะเปนกรดรับประทาน และหามผทู ม่ี ี ความดนั โลหติ สูงดวย กระเพาะหมู มีฤทธ์ิอุน และรสหวาน มีสวนประกอบเปนโปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส แคลเซี่ยม เหล็ก วิตามิน B1, B2 และ B รวม 15 January 2012

หนาที่ 10 สรรพคุณ : บาํ รงุ กระเพาะอาหาร และมา ม ชว ยใหเ ลอื ดลมดีขึน้ บําบัดอาการทองรวง ปส สาวะบอย ซูบผอม ไมมีแรง ปวดทอง ชวยยอยอาหาร และแกอาการทองอืดทองเฟอ เหมาะสําหรับผูที่มีโลหิตจาง (anemia) ถา รับประทานเปน ประจําทาํ ใหเ มด็ เลือดแดงเพมิ่ ขึ้น ขอหา ม : ไมเ หมาะสําหรบั ผูท่กี ระเพาะอาหารไมแ ขง็ แรง ควรนาํ ไปตนุ ใหเปอย และรบั ประทานทงั้ เน้อื และนํา้ ซุป เนื้อแพะ (Capra aegagrus hircus) มีรสเผ็ด และมีฤทธอิ์ นุ มสี ว นประกอบเปน โปรตีน ไขมนั ฟอสฟอรสั แคลเซ่ยี ม เหล็ก วิตามนิ B1 และ B2 สรรพคณุ : บํารงุ กระเพาะอาหาร และมาม บําบัดอาการอาหารไมย อย แขนขาไมมแี รง แกป วด สตรที ี่มีประจํา - เดอื นมามาก หรือเคยแทง บุตร หรอื เม่ือมีประจําเดือนแลวรูสึกรางกายเย็น ใหด่ืมนํ้าซุป เน่ืองจากเน้ือ แพะมีฤทธ์ิอนุ จงึ เหมาะสําหรับผูท่มี โี ลหิตจาง เวลาทาํ นาํ้ ซปุ ใหปรุงรสดว ยตน หอม และขงิ ขอ หาม : หามผูทมี่ ีอาการรอนในรบั ประทาน เน้ือไก (Gallus gallus) มีฤทธ์ิอุน รสหวานอมเปรี้ยว เค็มเล็กนอย มีสวนประกอบเปน โปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส แคลเซี่ยม เหล็ก โพแตสเซี่ยม โซเดี้ยม ซัลเฟอร แม็กนีเซ่ียมอ็อกไซด เฟอรัสอ็อกไซด แคลเซี่ยมอ็อกไซด วิตามิน A, B1, B2, B รวม, C และ E 15 January 2012

หนาที่ 11 สรรพคุณ : บาํ รุงกระเพาะอาหารและมาม เหมาะสาํ หรับผทู ี่รับประทานอาหารไดนอ ย ไมม เี รี่ยวแรง ปวดกระเพาะอาหาร บวมน้ํา บํารุงเลือด เพ่ิมพูนสารอาหาร บํารุงรางกายท่ีออนแอ บําบัดอาการ วิงเวียน หูอื้อ บํารุงเลือดลม สําหรับสตรีท่ีมีรางกายออนแอ หลังคลอด หรือไมมีน้ํานม เหมาะ สําหรับผูที่มีเลือดลมผิดปกติ ปากขม ฝนเปยก นอนไมหลับ ออนเพลียงาย อิดโรย ไมแจมใส ตาลาย ไอเร้ือรัง บํารุงไต บํารุงลม บําบัดอาการกามตายดาน หูตึง ปสสาวะบอยท้ังกลางวัน และกลางคืน ชวยบรรเทาอาการผูปวยวัณโรคปอด ที่มีอาการไขตอนกลางวัน และเหงื่อออกเวลานอนหลับ เสริม ภูมคิ มุ กัน เนอ้ื ไกตัวเมีย (ไกบา น) ใชบ ําบดั อาการปสสาวะบอ ย อ้ันไมอยู บํารงุ ไขกระดูก (คัมภรี ปง เชา กังปก ) ขอหาม : ในคัมภีรปงเชากังมักอธิบายวา ‘ไกตอนที่ขันไดน้ันมีพิษ’ ไมควรรับประทานเน้ือไกมากเกินไป จะทํา ใหเ จบ็ ปวยไมสบาย เจบ็ ชาบริเวณขา และเทา (เกาท) รับประทานคกู ับเนือ้ กระตา ย และน้าํ ปลาไมไ ด นกกระทา (Francolinus pintadeanus) มีรสหวาน ฤทธ์ิปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส แคลเซ่ียม เหล็ก วิตามิน B1, B2, E ไขน กกระทามโี ปรตนี และคอเลสเตอรอลสูง 15 January 2012

หนา ท่ี 12 สรรพคณุ : บํารุงตบั ไต มา ม ปอด เสรมิ กําลังวังชา ชว ยใหกระดูกและเสน เอ็นแข็งแรงขึน้ ทาํ ใหร างกายทนความ รอนหนาวได แกรอนใน บํารุงมามและกระเพาะอาหาร บําบัดอาการเบ่ืออาหาร เสริมกําลังสวนเอว และหัวเขา นอกจากน้ียังเหมาะสําหรับผูท่ีมีอาการประสาทออน หลอดเลือดแข็งตัว ความดันโลหิต สูง วัณโรคปอด หลอดลมอักเสบ เบาหวาน สตรีท่ีมีเลือดประจําเดือนนอย ประจําเดือนมาผิดปกติ และผูท่มี ีสขุ ภาพออนแอ เจบ็ ออดๆ แอดๆ ผทู มี่ ีอาการแขนขาไมมแี รง บาํ รงุ สายตา ฯลฯ ขอ หาม : ผูท ่ีเปนหวดั มอี าการรอ นใน หามรบั ประทานในชวงทม่ี อี าการกาํ เรบิ ปลาหลีฮ้ือ (ปลาไน) (Cyprinus carpio) มีรสหวาน ฤทธิ์อนุ ประกอบดวยโปรตีน ไขมัน คารโบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน A, B1 และ B2 สรรพคณุ : บํารุงและเสรมิ สุขภาพรา งกายใหแข็งแรง บําบดั รักษาผูท ม่ี อี าการออ นเพลยี ซบุ ผอม ไมมีแรง ภมู ติ า นทานต่าํ บาํ รงุ กระเพาะอาหารและมาม บําบัดอาการเบื่ออาหาร อาหารไมยอย อาเจียน นํ้านม- นอย มดลูกหยอน แขนขาไมมีแรง ชวยขับปสสาวะ บําบัดอาการบวมนํ้า ใชไดผลดีกับผูที่มีอาการ บวมนาํ้ เน่ืองจากไตอกั เสบ โรคขาดสารอาหาร บาํ รุงลม (ช่ี) ขอหา ม : ไมม ี หมวดพชื ผกั และผลไม ขา วเหนยี ว (Oryza sativa var. glutinosa) มรี สหวาน ฤทธ์ิอุน ประกอบดว ยคารโบไฮเดรต โปรตนี แคลเซีย่ ม เหล็ก ฟอสฟอรัส ไขมัน วิตามิน B1, B2 และ B รวม 15 January 2012

หนา ที่ 13 สรรพคุณ : บาํ รงุ กระเพาะอาหาร มา ม ช่ี (ลม) บาํ บัดอาการทองรวงจากบดิ เบอ่ื อาหาร คล่นื เหียน ชวยทาํ ใหมา ม และกระเพาะอาหารอบอุนขนึ้ แกอ าการเยน็ บาํ บัดอาการเหงอื่ และปสสาวะออกมาก รับประทานแต นอ ยจะเปน ประโยชน ขอหา ม : รบั ประทานมากจะทําใหเลยี่ น และอว น ขาวฟา ง (Sorghum bicolor (L.) Moench.) ขาวฟางพันธุเหลือง มีรสหวานอมเค็ม ฤทธิ์เย็น ขาวฟางพันธุแดง มีรสหวาน ฤทธ์ิอุน ประกอบดวย โปรตีนที่ เปน กรดอะมิโนหลายชนิด เชน กลูตามิค (glutamic) มไิ ธโอนิน (methionine) ซึ่งมคี ุณคา ทางอาหารมาก สรรพคุณ : ขา วฟา งแดง บํารุงมาม และกระเพาะอาหาร ขาวฟา งเหลอื ง บาํ รงุ กระเพาะอาหาร ขับรอน บาํ บัดอาการคอแหง แกกระหายน้ํา อาการอาหารไมยอย มอื เทา ปวดเมอื่ ย ออ นแรง ขอหาม : ขา วฟา งที่เกบ็ ไวน าน ไมค วรนาํ มารับประทาน 15 January 2012

หนา ท่ี 14 ลกู เกาลดั (Sterculia monosperma Vent.) รสหวานอมเค็ม ฤทธ์ิอุนไมมีพิษ ประกอบดวยโปรตีน 5.7% ไขมัน 2% วิตามิน A, B1, B2 และ C เอ็นซัยม ไลเปส (lipase) แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส และเหล็ก สรรพคุณ : บาํ รงุ ไต อาการปวดเมื่อยบรเิ วณเอว ขาออนปวกเปย ก ปสสาวะบอย เสรมิ สรา งกลามเนอ้ื กระเพาะ- อาหาร และลาํ ไส เหมาะสาํ หรบั ผทู ม่ี ีอาการทอ งรวง ขอ หา ม : ลูกเกาลดั ท่เี สยี ดวยการถูกหนอนกดั กนิ หรอื เปน เชอ้ื รา หามรับประทาน ถา รับประทานมากจะไมย อ ย ผูทมี่ ีอาการรอนใน หนา ตาบวม และผูท ่ีเปน โรคไขขอ อักเสบ หา มรับประทาน ลูกบวั (Nelumbo nucifera Gaertn.) ในที่นี้หมายถึงเมล็ดบัว มีรสหวานอมฝาด ฤทธิ์ปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน คารโบไฮเดรต ฟอสฟอรสั และเหลก็ 15 January 2012

หนา ท่ี 15 สรรพคณุ : บํารงุ เลอื ดในหัวใจ ตับ ปอด ไต มาม เปน อาหารท่ีดีสําหรบั ผทู ม่ี ีรา งกายออ นแอ และตอ งการบาํ รงุ ตาํ ราจนี โบราณ ‘ส่ิงลงปงเชา’ บันทึกไววา ‘ลูกบัวเพิ่มกําลังได บํารุงหัวใจ บําบัดอาการนอนไมหลับ ใจสัน่ บํารงุ กระเพาะอาหาร และมา มใหแข็งแรง บําบัดอาการทองรวง และบดิ เรอ้ื รงั ตาํ รา ‘ปง เชากังมัก’ กลา วถึงสรรพคณุ ของลูกบัววา บํารุงไต แกอาการฝนเปยก ปสสาวะบอย หนอง- ใน ตกขาว ขอ หา ม : ผูที่เรม่ิ มีอาการหวดั ทองผกู เปน ไขจบั ส่นั เดก็ ท่ีเปนโรคซาง และตาลขโมย พุทราจนี (Ziziphus zizyphus (L.) H. Karst.) มีรสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน น้ําตาล กรดอินทรีย สารเหนียว แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามนิ A, B1, B2 และ C สรรพคุณ : - บาํ รุงกระเพาะอาหารและมาม บําบดั อาการไมเจรญิ อาหาร ทองรว ง - บํารงุ และเพม่ิ พูนเลอื ด บําบัดอาการฮิสทีเรยี ในสตรี โรคโลหิตจางประเภทตา งๆ โรคเกล็ดเลอื ด (thrombocytopenia) สรา งความชุมชน่ื ใหแกร า งกาย - ชว ยลดฤทธิ์ยา เมอื่ ใชตํารับยาท่มี ีตวั ยามฤี ทธิร์ นุ แรง ขอ หา ม : ผทู ่ีมอี าการรอ นใน ไมค วรรบั ประทาน มะพรา ว (Cocos nucifera L.) มีรสหวาน ฤทธิ์อุน ไมมีพิษ ประกอบดวย โปรตีน โกลบูลิน คารโบไฮเดรต น้ําตาล วิตามิน B1, B2, C และ น้ําตาล 15 January 2012

หนาท่ี 16 สรรพคณุ : เนื้อมะพรา วใชบ ํารงุ ลม และขบั ลม (เกยี อิว๋ โปงจปู ง เชา) ขอหาม : รับประทานมากเกินไป ทําใหหงดุ หงดิ และโมโหงาย (ไหเอี๊ยะปง เชา) ล้นิ จ่ี (Litchi chinensis Sonn.) รสหวานออกเปรีย้ วเลก็ นอ ย ฤทธอ์ิ นุ ไมมพี ิษ ประกอบดวย โปรตีน ไขมนั กลโู คส ซูโครส วิตามิน A, B และ C กรดซติ รกิ (citric acid) สรรพคุณ : บําบดั อาการทองรวง บาํ รุงตับและเลอื ด บาํ บดั โรคโลหิตจาง และสตรีมเี ลือดออกในชองคลอด ระงับอาการปวด รกั ษาอาการปวดไสเ ลือ่ น ปวดกระเพาะ และตับ ขอหาม : ลน้ิ จ่อี อกฤทธอิ์ นุ จงึ ไมค วรรับประทานมาก ผูท ่มี อี าการคอแหง เจบ็ คอ มเี ลือดกาํ เดา ปวดฟน ทอ งผูก หา มรบั ประทาน 15 January 2012

หนาท่ี 17 ถัว่ ลสิ ง (Arachis hypogaea L.) มีรสหวาน ฤทธ์ิปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน กรดอะมิโน เลซิติน (lecithin) อัลคาลอยด (alkaloid) วิตามนิ A, B1, B2 และ C แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก ถ่ัวลิสงมีโปรตีนเกือบ 2 เทา ของโปรตีนในเนื้อหมู เนื้อวัว และ ปลา สรรพคณุ : - บํารงุ มา ม และกระเพาะอาหาร (ปง เชา กังมกั ) จึงเหมาะสาํ หรับผูท อี่ าหารยอ ยยาก ถ่ัวลิสงค่ัว บําบัด อาการคล่นื เหยี น สตรีมรี ะดูขาวมาก - บํารงุ เลอื ด และหามเลอื ด เปลอื กบางๆ ทห่ี มุ เมลด็ ใชบ าํ รุงเลอื ด รกั ษาโลหิตจางได เพราะชวยเพิ่ม เกล็ดเลือด แกไ ขความบกพรองในการแขง็ ตัวของเลอื ด - ชว ยใหปอดชุมชื้น ละลายเสมหะ ถัว่ ลิสงตม นํา้ เกลอื ออ นๆ จะชว ยใหปอดทํางานดีขึน้ ถวั่ ลสิ งดบิ ชวยละลายเสมหะ - เพมิ่ น้ํานม สาํ หรบั สตรที ่กี าํ ลงั ใหน มบุตร ขอหาม : ไมควรรบั ประทานคราวละมากๆ เพราะทาํ ใหทองอืด หงดุ หงดิ มเี สมหะ ผทู ่ีทอ งรวง ไมควร รบั ประทาน ระวงั ถว่ั ลสิ งที่ขึ้นรา เพราะจะมีสารอลั ฟาท็อกซนิ (α-toxin) ซึง่ ทําใหเ กดิ มะเรง็ ตับ หมวดสมนุ ไพร นอกจากอาหารบํารุงลม (ชี)่ ทีก่ ลา วมาแลว ก็ยังมสี มุนไพร ซึ่งในทนี่ ีจ้ ะกลาวสมุนไพรจีน ซึ่งนํามาปรุงอาหารได หลายชนิด และเปนอาหารบํารุงชี่ เปนสมุนไพรซึ่งสวนใหญนํามาทําเปนน้ําซุป ซ่ึงคุนเคยกันดีในหมูคนท่ีชอบ รับประทานอาหารจีน 15 January 2012

หนา ที่ 18 1. โสมเกาหลี (โสมหยิง่ เซียม), Panax ginseng Panax มาจากคําวา ‘pan’ แปลวาท้ังหมด + ‘axos’ แปลวายา Panax ก็คือ ‘ยาครอบจักรวาล’ มีฤทธิ์อุน รส หวานอมขมเล็กนอย มีพิษนอยมาก แมจะรับประทานมากก็ไมเปนอันตราย ‘กรดโสม’ เปนสารผสมของกรดตางๆ เชน Palmitic acid, Stearic acid, Oleic acid, Linoleic acid มีวิตามิน B1, B2 วิตามิน B รวม Choline 0.1-0.2% ซง่ึ เปน สว นประกอบลดความดนั โลหติ นอกจากน้กี ม็ นี าํ้ มันหอมระเหย Panacene ซ่งึ ทาํ ใหโ สมมกี ลน่ิ หอมเฉพาะตวั สรรพคุณ : โสมมตี วั เรงเรงการเผาผลาญสารอาหารในรางกาย เสรมิ ภมู ิคุม กันโรค และมสี ารสกดั ชนดิ หนึ่ง สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลลมะเร็ง ลดน้ําตาลในเลือด บํารุงกระเพาะอาหาร กระตุน ประสาท เสริมสมรรถภาพทางเพศ เหมาะสําหรับผูที่มีรางกายออนแอ รอนใน แขนขาไมมีแรง หายใจขัด บําบัดโลหิตจาง และเลือดลมผิดปกติไดผลดี ปองกันอาการช็อกเพราะภูมิแพ โสมออก ฤทธิ์ตอ ประสาทสว นกลาง ทาํ ใหส มองสว น cerebral cortex ตื่นตวั จึงชว ยแกอาการออนเพลีย ทํา ใหร สู กึ กระปรี่กระเปรา แกอ าการปวด นอนไมห ลบั นอกจากนั้นยังใหผลทางบําบัดความดันโลหิตสูง กลามเน้ือหัวใจขาดเลือด ถารับประทานนอย จะชวยเพ่ิมความดันโลหิต แตถารับประทานมากกลับชวยลดความดันโลหิต โสมชวยลดนํ้าตาลใน ปสสาวะ และเหมาะสาํ หรบั ผูท เี่ ริ่มเปน เบาหวาน ใน ‘Compendium of Materia Medica’ ของจีน ไดบรรยายสรรพคุณของโสมวา ‘บํารุง หวั ใจ ตับ มา ม ปอด ไต รบั ประทานเปนประจําทําใหอ ายยุ นื ยาว’ นอกจากนน้ั ยังชว ยบาํ บัดอาการตัว รอน เหงือ่ ออกงาย วิงเวียน หนามืด ตาลาย คลื่นไส อาเจียน ทองรวง ปสสาวะบอย ออนเพลีย ชํ้าใน ไอเปน เลอื ด อาเจยี นเปน เลือด มีเลือดออกในชอ งคลอด และโรคตางๆ ในสตรีทั้งกอนคลอดและหลัง คลอด เพ่ิมกําลังสวนเอวและหัวเขา ลมหายใจแผวเบา ชีพจรออน ฯลฯ นับวาโสมเปนยา ครอบจักรวาลอยางแทจริง 15 January 2012

หนา ที่ 19 ขอ หาม : หา มใชร ว มกับหัวไชเทา (เพราะหวั ไชเทา ลางยา), ถ่ัวดํา ทําใหโ สมเสอ่ื มสรรพคณุ หา มใชใ นคนทม่ี ี อาการรอน ปวดแนนทรวงอก ทองผูก มีพยาธิ ทองมาน หามปรุงในภาชนะเหล็ก (เหล็ก stainless ใชได) 2. โสมเอยี่ เซยี ม, (Panax quinquefolium) มีรสขมอมหวาน มฤี ทธเ์ิ ยน็ สรรพคณุ : บาํ บัดอาการหอบ ปากแหง ไมม แี รง คอแหง เสียงแหบแหง ไอแหง เสมหะ หา มเลอื ด บําบัดอาการ ไอเร้ือรงั เสมหะมเี ลอื ดติด วัณโรคปอด ขอ หาม : เนื่องจากมฤี ทธิ์เย็น ผูป วยที่รา งกายออ นแอ ทองรว ง ปวดทอง หา มรบั ประทาน 3. โสมตงั เซยี ม, Codonopsis pilosula มีรสหวาน ฤทธเ์ิ ปนกลาง ไมมีพษิ ประกอบดวยโปรตีน นํา้ ตาลกลูโคส, ซูโครส, แปง , สาร Insulin, อลั คาลอยด วิตามนิ B1, B2, สารจาํ พวก saponin และนํา้ มันหอมระเหย 15 January 2012

หนาท่ี 20 สรรพคุณ : ปรบั การทํางานของกระเพาะอาหาร บาํ รุงเลอื ดลม ลดความดนั โลหิต ชวยเพิ่มเม็ดเลอื ดขาว สําหรับ ผูปวย Leukopenia หายใจลําบาก หนาซีด เหง่ือออกมาก เน่ืองจากการทํางานของปอดเสื่อม ในตํารา ‘ปงเชาเจียหึง’ กลาวถึงสรรพคุณของโสมตังเซียมวา ‘บํารุงมาม เสริมการทํางานของ กระเพาะอาหาร สรางความชุมชื้นใหปอด แมจะมีสรรพคุณนอยกวาโสมแตไมตางกันมากนัก แต ดีกวาโสมคือกินแลวไมรอนใน จึงใชแทนโสมได ในตํารา ‘ปงเชาฉงชิง’ บันทึกวา ‘บํารุงลม ปรับ การทํางานของมาม และกระเพาะอาหาร แกกระหาย’ และในตํารา ‘ตงเอียะไชชิงแฉะ’ ไดบรรยาย สรรพคุณวา ‘รักษาอาการชํ้าใน รางกายออนเพลีย บํารุงมามและกระเพาะอาหาร รักษาอาการ ทอ งรวง หอบ กระหายนํ้า มีไข เหงื่อออก ประจําเดือนมามากผิดปกติ และตกเลือด’ นอกจากนั้นยัง ชว ยเร่ืองการเบ่อื อาหาร ชวยใหเ ลือดไหลเวยี นดีขน้ึ เปนอาหารบํารุงดีที่สุด สาํ หรบั ผูปวยท่ีไดรับการ รกั ษาแผลในกระเพาะอาหาร และลําไสเล็ก (โดยตม กบั ขา วฟาง) ขอ หา ม : หามสําหรับผทู เ่ี ปนไขห วัด และมีอาการรอ นใน หา มใชรว มกับหวั ไชเทา 4. อง้ึ คี้ หรือปกค,ี้ Astragalus membranaceus Bge. var. monglolicus (Milkvetch root) มีรสหวาน ฤทธิ์อุน ไมมีพิษ ประกอบดวย นํ้าตาลกลูโคส (glucose), ซูโครส (sucrose), กรดอะมิโนหลาย ชนิด, มวิ ซิน (mucin), โคลีน (choline), เบทาอีน (betaine) และกรดโฟลิค (folic acid) เปนตน สรรพคุณ : บํารุงหัวใจ บํารุงเลือดลม เสรมิ ภมู ติ านทานโรค เสริมสรา งกลา มเนอื้ แกห นา ซีด หอบ ออ นลาไมม ี แรง ระงับเหง่ือ ขับปส สาวะ มดลูกหยอน ทองรวง บวมนํ้า ไตอักเสบเรื้อรัง เบาหวาน ชวยขับหนอง โดยเฉพาะแผลเร้ือรังในชองปาก เหมาะอยางย่ิงสําหรับใชบํารุงรางกายคนชรา และผูมีรางกาย ออ นแอ เพราะกระตนุ การไหลเวียนของน้ําในรางกาย และลดความดนั โลหิต (ชงนํ้า ดม่ื ) ตําราเภสัชของจีน จัดอึ้งค้ีไวเปนยาที่เทียบกับโสม ‘อึ้งคี้เปนยาบํารุงภายนอก สวนโสมเปนยา บํารุงภายใน หากใชรวมกับโสม จะชวยบํารุงรางกายไดอยางสมบูรณ’ อ้ึงค้ีสดจะสรางเนื้อเย่ือ และ บาํ บดั อาการทเี่ ห็นภายนอก สว นอึ้งคี้รมควันจะใชบ ํารุงอวยั วะภายใน 15 January 2012

หนา ท่ี 21 ตํารา ‘ปงเชาหวยง้ัง’ กลาวถึงสรรพคุณอ้ึงคี้วา ‘บํารุงปอด และมาม ระงับเหง่ือ ขับลมและพิษ ขบั หนอง บํารุงกระดูก, เสนเอ็น และสรางเนอื้ เยอ่ื ’ ขอหา ม : ผูท่เี ปนหวัด รอ นใน ทอ งอดื แนนเฟอ หา มรบั ประทาน 5. หว ยซวั , Dioscorea opposita มีฤทธ์ิปานกลาง รสหวาน ไมมีพิษ ประกอบดวย แปง, โปรตีน, saponin mucilage, โคลีน (choline), กรด- อะมโิ นอสิ ระ ไอโอดีน วิตามนิ C แมนแนน (mannan) และ phytic acid สรรพคุณ : เสริมสรางรา งกาย ชวยยอ ยอาหาร แกท อ งรว ง ลดเหงอ่ื บํารุงไต ไดผลดสี าํ หรับบรรเทาอาการ โรคเบาหวาน เชน กระหายน้ํา ซูบผอม ปสสาวะมาก รวมทั้งอาการไอ ฝนเปยก ปสสาวะรดท่ีนอน เด็กเลก็ มอี าการเหง่ือออกมาก นอนไมหลับ ก็รับประทานไดเชนกัน บํารุงมาม บํารุงปอด ผูที่มีโรค เรื้อรัง และสุขภาพทรุดโทรม บํารุงกระเพาะอาหารและไต ชวยระบายของเสียทั้งปสสาวะ และ อุจจาระ เสริมสรางกระดูก กลามเน้ือ ปองกันหวัด แกรอนใน ในคัมภีร ‘ปงเชาฉงซง’ บันทึกวา ‘หวยซัว บํารุงปอด มาม แกอาการรอนในทั้งปอดและมาม’ สวน Compendium of Materia Medica บันทึกวา ‘หวยซัวใชบํารุงกระเพาะอาหาร และลําไส เพิ่มสมรรถภาพทางเพศไดดี’ สวน ‘สิ่วลงปงเชาเก็ง’ ไดกลาวถึงสรรพคุณของหวยซัววา ‘ใชบํารุงรางกาย แกทองอืด แนนเฟอ เสริม- สรา งกลามเน้อื ทําใหหไู ว และตาดี’ จากการทดลองวิจัยทางเภสชั วิทยาศาสตรพ บวา หว ยซัวมีสรรพคุณบํารุงรางกาย บํารุงไต ทําให กลามเน้ือ และกระดูกแข็งแรง กระตุนการหลั่งนํ้ายอย ชวยยอยอาหาร เหมาะสําหรับคนข้ีหลงข้ีลืม ดว ย ขอ หาม : หา มผูท่ีมีอาการรอน เชน ไขหวัด เปน ไข มไี ขสงู โรคหดั รับประทาน 15 January 2012

หนา ที่ 22 ตํารบั อาหาร และสมนุ ไพรบํารุงชี่ (ลม) หมวดเน้ือสตั ว เนอ้ื ปรุงรับประทานแตเน้ืออยางเดียว หรือจะผัดใสผักก็ได การตุนใสปกค้ีเพื่อบํารุงลมก็เปนวิธีท่ีนิยมกัน จึงไมขอ เขยี นไวเพราะมีวิธีการรบั ประทานมากมาย กระเพาะวัว 1. กระเพาะวัวตนุ กระเพาะวัว 240 กรัม จี่ขกั คัว่ 12 กรัม ซาย้งิ (ผลเรว) 4.5 กรัม น้าํ 5 ชาม ตนุ จนกระเพาะวัวเปอยนุม ชอนกาก ยาสมนุ ไพรทง้ิ ใหด่มื น้ําแกง จะไมร บั ประทานกระเพาะวัวก็ได 2. ขาวตมกระเพาะววั ชาวจีนแคะเอากระเพาะวัวมาตุนขาวตม ใชบํารุงเด็กผอมแหง ทองอืดเฟอ เหมาะจะใชเปนอาหารโภชนาบําบัด สาํ หรบั คนทม่ี ีโรคกระเพาะเรื้อรัง หรือแผลท่ีหัวลาํ ไสเล็ก 3. ผดั กระเพาะววั กระเพาะวัวผัดเปนอาหารรสเลิศจานหนึ่ง กระเพาะวัวผัดน้ํากากเหลา และยอดกระเพาะวัวเปร้ียวหวาน ก็เปน อาหารท่ขี นึ้ ชอ่ื ของจีน สรรพคณุ : กระเพาะวัวนนั้ โดยตัวมันเองแลว ก็มคี ุณคาทางอาหารอยมู ากเหลือเกนิ จึงใชบาํ รงุ กระเพาะอาหารได ตามหลักการแพทยจีนทว่ี า อวัยวะใดตองการบํารงุ ก็ใหใชอ วัยวะสว นนัน้ (ของสตั ว) มาบํารงุ ขอ หาม : กระเพาะววั มเี นือ้ คอ นขางเหนยี ว จึงหา มมใิ หค นท่เี ปนโรคกระเพาะอาหารหรือมีแผลที่หัวลาํ ไสเล็ก รับประทานเนอ้ื กระเพาะวัว ควรใหด่ืมนํา้ แกง หรือรับประทานขา วตม ท่เี อาเนื้อออกแลว ไตหมู 1. ไตหมตู นุ ยาจนี ใชยาจีนซัวยูเน็ก 9 กรัม ฮะทอเน็ก 9 กรัม โตวตง 9 กรัม โปวกุกจี 9 กรัม ปาเก็กเทียง 9 กรัม ไตหมู 1-2 ลูก ผาเอาพงั ผดื ขา งในออก แลวลางนํา้ ใหสะอาด ใสน ํา้ 6 ชาม ลงไปตนุ จนเหลือนาํ้ 2 ชาม ตักเอากากทงิ้ ดื่มแตน ้ําแกง 15 January 2012

หนาท่ี 23 2. ไตหมูตนุ ถว่ั ดํา ผทู มี่ ีอาการปวดเมอ่ื ยบรเิ วณเอว กระดูกสวนเอวท่ีไดรับบาดเจ็บ เสียบแปลบบริเวณเอว ใหใชไตหมูและหางหมู อยางละคู ถั่วดํา 60 กรัม เห็ดหูหนู 15 กรัม ใสนํ้า 5 ชาม ตุนจนถั่วเปอยนุม เอากากยาจีนออกแลว รับประทานทั้งเน้ือ และถ่วั สรรพคณุ : บํารุงไต หากมอี าการปวดเม่ือยบริเวณเอว ฝนเปยก หูตึง หอู ื้อ ขดั เบา บวมน้าํ ฯลฯ ขอหา ม : ผูที่มีความดันโลหิตสงู หรอื มีอาการเปนกรดในกระเพาะปส สาวะ หามรบั ประทาน และยงั ไมเหมาะ สาํ หรบั ใหผปู วยท่ีมคี อเลสเตอรอลในไตสงู รบั ประทาน กระเพาะหมู 1. ขา วตม กระเพาะหมูตนุ ยาจีน ใชกระเพาะหมู 1 อัน ลางนํ้าใหสะอาดแลวหั่นเปนชิ้น หวยซัว 240 กรัม ขาวสาร 120 กรัม ขิงสดพอ ประมาณ ตุน จนเปนขาวตมโจก สรรพคุณ : บํารุงกระเพาะอาหารและมาม บาํ บัดอาการทอ งรวง ไมม เี รย่ี วแรง 2. ซุปกระเพาะหมยู าจีน ใชก ระเพาะหมู 1 อัน ซายง้ิ (ผลเรว ) 9 กรัม จขี่ ัก 9 กรัม ลา งกระเพาะหมูใหสะอาด แลวนําเคร่ืองยาจีนตางๆ ท่ี กลาวมาแลวใสใ นกระเพาะหมู ใสน ํา้ 6 ชาม กับขงิ อีกเลก็ นอ ย ตุนจนเปอ ยนุม รับประทานทงั้ เน้อื และนํา้ สรรพคุณ : เหมาะสาํ หรบั ผทู มี่ รี างกายออ นแอ ไมมีเรยี่ วแรง มีกอ นในทอง ทงั้ ชว ยยอ ยอาหาร และแกอาการทอ งอืด 3. กระเพาะหมพู ริกไทย ใชกระเพาะหมู 1 อัน พรกิ ไทยขาว 9 กรัม ลางกระเพาะหมใู หส ะอาด แลวเอาพริกไทยใสใ นกระเพาะหมู ใสนํ้า ลงตนุ จนเปอยนมุ ตกั กระเพาะหมขู น้ึ มาหัน่ เปน ช้นิ เพอ่ื เอาพริกไทยออก รับประทานเน้อื และนํ้า สรรพคุณ : บํารุงกระเพาะอาหารและมาม ชวยใหเลือดลมไหลเวยี นดีข้นึ เหมาะสาํ หรับผทู มี่ ีอาการโลหิตจาง เพราะการรับประทานกระเพาะหมูเปน ประจํา จะชว ยเพิม่ เม็ดเลือดแดงใหมากขน้ึ ขอ หาม : ไมเ หมาะสาํ หรับผทู กี่ ระเพาะอาหารไมแข็งแรง 15 January 2012

หนาที่ 24 เนอ้ื แพะ 1. เนอื้ แพะตุน อบเชย เนอื้ แพะ 240 กรมั อบเชย 9 กรมั โปยกั๊ก 18 กรัม ขิงสด 15 กรัม นําเครื่องยาจีนเนื้อแพะใสรวมกันแลวตมจน เปอ ยนมุ ตกั เอากากยาจีนทงิ้ ไป รับประทานเน้ือและนา้ํ สรรพคณุ : บาํ รุงกระเพาะอาหารและมา ม แกป วด และจะเห็นผลมากขึน้ ในรายที่ธาตุพิการ อาหารไมย อ ย 2. ขา วตมเนื้อแพะหวยซัว เนื้อแพะ 480 กรัม หวยซัว 15 กรมั ถวั่ แระควั่ 15 กรมั ขา วสาร 150 กรัม ขิง 120 กรัม นําเครื่องปรุงทุกอยาง ใสห มอกระเบื้องเคลอื บ ตมเปนขา วตม สรรพคุณ : บาํ รงุ ชีใ่ นกระเพาะอาหารและมา ม ชวยยอยอาหาร และเปนอาหารบาํ รงุ รางกายท่ีดีอยา งหน่ึง เนื้อแพะเปนอาหารที่มีฤทธ์ิอุนรอน จึงเหมาะสําหรับผูท่ีมีอาการโลหิตจาง เวลารับประทานใหปรุง รสดว ยขิงและตน หอม จะย่ิงมีรสชาติอรอ ยนา รบั ประทานขนึ้ ขอหาม : หา มผูท่ีมีรางกายรอ นรับประทาน เนื้อไก 1. ซุปเน้อื ไกตงั กยุ ใชเนื้อไกในปริมาณพอเหมาะ ซิวโอว 18 กรัม ตังกุย (โกฐเชียง) 12 กรัม เกาคี่ 9 กรัม นําเนื้อไกมาลางให สะอาดแลวหัน่ เปน ชิ้น ใสเคร่ืองยาจีนตางๆ ลงไปตม พรอ มกนั ผูท ่ดี ื่มเหลา ได จะเติมเหลาจีนลงไปสกั เลก็ นอยก็ได สรรพคณุ : เหมาะสําหรบั ผูทม่ี ีเลอื ดลมผดิ ปกติ มีอาการวิงเวยี น หูออ้ื ปากขม ฝนเปย ก นอนไมหลบั หรือผูที่ออ นเพลยี งาย อดิ โรยไมแจมใส 2. ซุปเน้ือไกถ ัง่ เชา ใชเนื้อไกในปริมาณพอเหมาะ ตังถ่ังเชา 9 กรัม เอาเครื่องท้ังสองอยางมาตมรวมกัน เมื่อเน้ือสุกแลวใหใส เครือ่ งปรุงรส สรรพคุณ : เหมาะสําหรับผทู ม่ี รี างกายออนแอ บําบดั อาการวงิ เวียน ตาลาย เพลียงาย ไอเร้ือรัง 15 January 2012

หนา ท่ี 25 3. เนื้อไกต นุ เน็กฉงยง ไกร นุ กระทงตัวผู 1 ตัว เน็กฉง ยง 30 กรัม นาํ ไกมาฆา ถอนขนแลวเอาเคร่ืองในออกใหห มด ลางใหสะอาด แลว นาํ ไปใสใ นหมอ ตนุ ใสเ นก็ ฉง ยง เหลาจีน พอประมาณ ตุนนาน 2 ชวั่ โมง สรรพคณุ : เหมาะสําหรับใชบ าํ รงุ ไต บาํ รุงลม ใชบ ําบดั อาการกามตายดา น หตู งึ ปสสาวะบอ ย ปสสาวะในตอน กลางคนื ขอหาม : เนือ้ ไกจะรบั ประทานคูกับโอวลิ่ง เม็ดมสั ตารด เนื้อนาก เนื้อกระตาย น้ําปลาไมไ ด นกกระทา 1. ซปุ นกกระทาตงั เซยี ม นกกระทา 1 ตวั โสมตงั เซยี ม 15 กรมั หว ยซัว 30 กรัม ใสน้ําลงตม ทําน้าํ ซปุ สรรพคณุ : บํารุงมา มและกระเพาะอาหาร ชว ยยอยอาหาร เหมาะสําหรบั ผทู ่มี อี าการแขนขาไมมเี รยี่ วแรง 2. ซปุ นกกระทาเกาค่ี เกาค่ี 30 กรัม นกกระทา 1 ตัว ผาเอาเคร่ืองในออกลางใหสะอาด ใสเคร่ืองยาจีน และนํ้าพอประมาณ ลงตม ทาํ ซปุ สรรพคณุ : บาํ รงุ สายตา บํารุงไต ชว ยเสรมิ กาํ ลังบริเวณเอว ขอหาม : ผูทเ่ี ปนหวัด มีอาการรอนใน หา มรบั ประทานในชว งที่อาการกาํ เริบ ปลาหลฮี อ้ื (ปลาไน) 1. ขาวตม ปลาหลีฮือ้ ปลาหลีฮ้ือ 1-2 ตัว นํ้าหนัก 480 กรัมข้ึนไป พุทราจีน 8-10 ลูก ขิงสด 9 กรัม ขาวเหนียว 120 กรัม ขอด เกลด็ ปลาแลว ผา ลา งใหส ะอาด ทอดพอใหออกเหลืองเล็กนอย ปรุงรสดวยนํ้ามันและเกลือ ลางขาวเหนียวใหสะอาด ใส เครื่องปรุงท้ังหมดลงในหมอแลวเติมนํ้าพอประมาณ ตมจนเปนโจกขาวตม เอากางปลาและเม็ดในพุทราจีนออก รบั ประทานขา วตมและนาํ้ ขาว สรรพคุณ : บาํ รงุ มาม กระเพาะอาหาร ชี่ (ลม) เสริมสขุ ภาพรางกาย 15 January 2012

หนาที่ 26 2. ซุปปลาหลฮี อ้ื ใชปลาหลีฮ้ือ 1-2 ตัว อึ้งค้ี 30 กรัม จีขักค่ัว 1 กรัม ขิงสดเล็กนอย เคร่ืองปรุงรส ขอดเกล็ดปลาแลวผาลางให สะอาด ทอดใหห อมกอน ใสเครื่องยาจีนตางๆ แลวเติมนํ้าพอประมาณ ตมจนปลาเปอยยุย ไดน้ําซุปขน รับประทานเน้ือ ปลาและนํ้าซุป หมวดพืชผัก เน่อื งจากพชื ผักและผลไม ตามหวั ขอท่ไี ดกลาวมาแลว สามารถนําไปทําอาหารตางๆ ไดมากมายหลายชนิด จึงไม ขออธิบายในทนี่ ี้ สวนสรรพคุณ และขอ หาม ไดอ ธิบายไวกอ นหนา น้แี ลว อาหาร และเคร่อื งด่มื ทีป่ รุงงา ย จากสมุนไพรบํารุง ‘ชี่’ 1. โสมเกาหลี 1.1 โสม 9 กรมั , แบะตง 15 กรัม, โหงวบจ่ี ้ี 12 กรัม ใสน้ํา 3 ชาม ตมจนเหลอื น้ํา 80% สรรพคณุ : บาํ รุงลม ลดเหงอ่ื บํารุงประสาท บาํ บดั อาการใจส่นั หอบ มเี หงือ่ ออก ปากแหง ชีพจรออ น ความดนั โลหิตต่าํ โรคหัวใจ 1.2 โสม 6 กรมั , ใสตังเซียม 9 กรมั , อุกกิม (วานนางคาํ ) 9 กรัม, แบะตง 6 กรมั , โหงวบ่ีจ้ี 6 กรัม ใสนํ้า 3 ชาม ตมจนเหลอื 1 ใน 3 สรรพคุณ : บํารงุ ปอด และหวั ใจ บํารงุ ประสาท เลอื ดไหลเวยี นดขี ึ้น โดยเฉพาะผูมอี าการแนน หนา อก ทีเ่ กิดจากโรคหวั ใจ 2. โสมเอยี่ เซียม 2.1 โสมเอ่ียเซียม 6 กรัม, ซัวเซียม 12 กรัม, ชวงปวยบอ 9 กรัม, แปะฮวก 12 กรัม น้ํา 4 ชาม ตมจนน้ําเหลือ 25% รบั ประทานได 2 ครั้ง สรรพคณุ : ละลายเสมหะ หามเลือด บาํ บดั อาการไอเร้ือรัง เสมหะมเี ลอื ดติด คอแหงผาก ไมมแี รง 2.2 โสมเอย่ี เซียม 9 กรัม, เนอื้ หมู (เน้ือแดง) 120 กรัม เปลือกสมแหง 1 ช้ิน สรรพคุณ : ปอ งกนั เปนหวัด เจบ็ คอ เสียงแหบ 15 January 2012

หนาที่ 27 3. โสมตังเซยี ม 3.1 ซุบโสมตังเซียมต่ัวจอ : โสมตังเซียม 15 กรัม, พุทราจีน 10 ลูก, น้ํา 3 ชาม ตมจนเหลือนํ้า 1 ชาม ด่ืมวันละ 1 คร้ัง 3.2 บะหม่ีราดหนา : บะหม่ี, ตังเซียม 15 กรัม (น่ึงใหน่ิม) เน้ือหมู, วัว หรือไก ผักคะนา ไขไก มะเขือเทศ ซีอิ้ว นํา้ ตาล เหลา จีน ซอสมะเขอื เทศ กระเทยี มสับ ขิงสับ หอมซอย เปนอาหารบํารงุ ช่ีท่ีดมี าก และอรอย 3.3 ตังเซยี ม เกาคี่ และหวยซัว ตมกบั เนอ้ื หมู สาํ หรบั ผทู ่มี โี ลหิตจาง 4. อึ้งคี,้ ปกคี้ 4.1 ซุปอ้ึงคี้ต่ัวจอ : อ้ึงคี้ 30 กรัม, ตังกุย (โกฐเชียง) 9 กรัม, พุทราจีน 10 ลูก ตมนํ้า 4 ชาม ใหเหลือ 1 ชามครึ่ง ด่มื วันละ 2 ครั้ง สรรพคุณ : สาํ หรบั ผทู ีม่ ีรางกายซบู ผอม โลหิตจาง 4.2 อ้ึงค้ีตุนไกดํา : อึ้งค้ี 30 กรัม ไกดํา 1/2 ตัว ตมน้ํา 4 ชาม ใชเวลาตุน 1 ชั่วโมง 20 นาที รับประทานท้ังเนื้อ และนา้ํ ซปุ 4.3 คากิ (นว้ิ หมู) ตุน อ้ึงคต้ี งั กยุ : คากิ 2 อัน, องึ้ ค้ี 21 กรัม, ตงั กยุ 9 กรัม ตุนจนเปอ ย นมุ สรรพคณุ : บาํ รุงเลือดลม ชวยเพิ่มน้ํานมสาํ หรับมารดาหลังคลอดบุตร และไมม ีนาํ้ นม 4.4 ซุปอ้ึงคี้แปะตุก : อ้ึงค้ี 24 กรัม, แปะตุก 12 กรัม, หกเหล็ง 30 กรัม, เจ็กเส่ีย 9 กรัม ฮวงจี 9 กรัม, อบเชย 9 กรัม ตมน้าํ 5 ชาม จนเหลอื 1 ชามครงึ่ แบงด่มื 2 ครงั้ สรรพคณุ : บํารุงลม ขบั ปส สาวะ แกอ าการบวม เหมาะสําหรบั ผูท ่ีมีอาการบวมนาํ้ ปส สาวะนอ ย ไมม ีแรงเบง ปส สาวะ อุจจาระ 5. หวยซวั 5.1 ซุปหวยซัวตับเหล็ก : หวยซัว 30 กรัม, แปะฮะ 18 กรัม ใสนํ้า 3 ชาม ตมจนไดกล่ินยา, ใสตับเหล็กหมู 1 เสน สกุ แลว รบั ประทานทั้งตับ และนาํ้ ซุป 5.2 ซุปหวยซวั เข่ียมซิก และซวั เซยี ม : หวยซัว 15 กรัม, เขี่ยมซิก 15 กรัม, ซัวเซียม 12 กรัม ใสนํ้า 4 ชาม ตม จนเหลือ 1 ชาม ด่มื ขณะกาํ ลังอุน สรรพคุณ : ผูท มี่ อี าการหอบ ปากแหง อุจจาระเหลว 15 January 2012

หนา ท่ี 28 อาหาร และสมุนไพรบํารงุ เลอื ด หมวดเนื้อสตั ว ตบั หมู ตับหมูมีรสหวาน ฤทธ์ิอุน ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน เกลือแร ฟอสฟอรัส เหล็ก แคลเซ่ียม วิตามิน A, B2, B รวม, C มโี ปรตนี มากถึง 20% สรรพคณุ : บํารุงตบั บํารุงไต บาํ รุงสายตา บาํ บัดอาการตาบอดสี ตาลาย สายตาเสื่อม โลหติ จาง หนาเหลอื ง ซีดเซยี ว บวมนาํ้ โลหติ จาง และระงบั อาการปวดศีรษะ หัวใจหมู หัวใจหมูมีรสเค็ม ฤทธ์ิปานกลาง ประกอบดวยโปรตีน ไขมัน เกลือแร ฟอสฟอรัส เหล็ก แคลเซ่ียม วิตามิน B1, B2, B รวม, C สรรพคุณ : บาํ รงุ เลอื ด บาํ รงุ ประสาท บํารงุ หวั ใจ บาํ บดั อาการใจสนั่ นอนไมหลับ ไมมแี รง สหี นาไมส ดใส เอ็นวัว เอ็นวัวที่กลาวถึง เปนเอ็นวัวบริเวณขอเทาเหนือกีบวัว เปนเสนเอ็นสีขาว เมื่อตมจะใส ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน และแคลเซีย่ ม สรรพคณุ : บาํ รงุ เลอื ด (เซลลเ มด็ โลหิตแดงนอย) บําบัดอาการออ นแอเน่ืองจากโลหิตจาง บาํ รงุ ตับ, เสน เอน็ ขอหา ม : ผูท่รี ะบบการยอ ยอาหารไมดี ควรรับประทานแตนอย จะตอ งตนุ จนเปอ ยนุมจงึ รบั ประทานได ไมควร รบั ประทานกบั ถัว่ ลสิ ง ตบั ไก ตับไกมีรสหวาน ฤทธิ์อุน ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน คารโบไฮเดรต ฟอสฟอรัส เหล็ก แคลเซ่ียม โซเดี้ยม วิตามิน A, B1 และ B2 สรรพคุณ : บํารุงตับ บํารุงเลือด บําบัดตาบอดกลางคืน ตาฝาฟาง บํารุงไต บํารุงครรภ บําบัดอาการปสสาวะรด ทน่ี อน บํารงุ ประสาท เสรมิ สมรรถภาพทางเพศ บาํ รงุ สขุ ภาพ 15 January 2012

หนา ที่ 29 ปลาเกา (Epinephelus malabaricus) ปลาเกาเปนปลาทะเล รสหวานอมขม ฤทธ์ิอุน ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน คารโบไฮเดรต ฟอสฟอรัส เหล็ก และวิตามนิ หลายชนดิ สรรพคณุ : บาํ บัดอาการนอนไมห ลบั ใจสัน่ ขี้หลงขี้ลมื บํารงุ เลือดลม เปน โภชนาบาํ บดั ของผทู ่มี ีโลหติ จางเปน เวลานานๆ ปลาดาบเงิน (Trichiurus lepturus L.) เปนปลาทะเล ตัวแบน ยาว ผิว ลําตัวเปนสีเงิน ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน แคลเซ่ียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และ ไอโอดนี วติ ามนิ B1, B2 และ B รวม สรรพคณุ : บาํ รุงเลอื ด บํารุงตับ บํารงุ น้ํานม และโลหิตจาง หลังคลอดบุตร เสริมการทํางานของตบั แกอาการตับอักเสบอันเกดิ จากโลหิตจาง 15 January 2012

หนา ท่ี 30 หมวดพืชผกั และผลไม แครอท (Daucus carota L.) แครอทมีรสหวานอมเผ็ด ฤทธิ์อุนเล็กนอย มีวิตามินหลายชนิด เชน วิตามิน A, B1, B2, C, D และ K กรดโฟลคิ ฟอสฟอรสั โซเด้ียม โปตัสเซี่ยม เหล็ก ทองแดง สงั กะสี นา้ํ ตาล ไขมัน น้าํ มนั หอมระเหย สรรพคุณ : บํารุงเลือด บํารุงตับ บํารุงสายตา กระเพาะอาหาร มาม ชวยยอยอาหาร เหมาะสําหรับผูมีธาตุพิการ อาหารไมยอย ใชไดท ง้ั บํารงุ และรกั ษา ลําไย (Dimocarpus longan L.) ลาํ ไยมรี สหวาน ฤทธปิ์ านกลาง ประกอบดว ย นํ้าตาล กลโู คส, ซโู ครส, วติ ามิน A, B, โปรตีน, ไขมัน สรรพคณุ : ใชบํารงุ เลือด บํารุงหวั ใจ บํารุงตบั บํารงุ ไต บาํ รุงประสาท บาํ บดั อาการใจสัน่ นอนไมห ลบั เสยี เลือด หลงั คลอด โลหิตจางหลงั ผาตดั เหงอื่ มาก ประจาํ เดอื นนอ ย ประจําเดือนมาไมปกติ บํารุงรางกายหลัง ฟนไข ขับเสมหะ แกหนอง บํารุงเลือดในสมอง บําบัดอาการวิงเวียนศีรษะเปนประจํา ตาลาย ใจเตนแรง ใชไดผลดที ี่สุดสาํ หรับผทู ่ขี ี้หลงขล้ี มื ขอหาม : ผทู เ่ี ปน ไขหวดั มีไข เสมหะเหลือง ทอ งผกู 15 January 2012

หนา ที่ 31 องุน (Vitis vinifera L.) มีรสหวาน ฝาด ฤทธ์ิปานกลาง ประกอบดวย น้ําตาล ฟรุคโตส (fructose) โปรตีน วิตามิน A, B1, B2, B รวม, C, แคลเซย่ี ม, ฟอสฟอรสั , เหล็ก, โปตัสเซ่ียม, โซเด้ียม สรรพคุณ : บาํ รุงรา งกาย, บํารุงเลือด, บาํ รงุ สมอง เปน อาหารดีทสี่ ุด สาํ หรับผมู ีรา งกายและประสาทออ นแอ, สตรี มอี าการตกเลือด, ประจําเดือนมาก จนหนาตาซีดเซียว ปสสาวะแดง เจ็บขณะถายปสสาวะ ปสสาวะ- นอ ย หมวดสมนุ ไพร ตังกยุ (Angelica sinensis) มีฤทธิ์อุน รสเผ็ดอมหวาน ประกอบดวย น้ํามันหอมระเหย นํ้าตาลซูโครส อัคคาลอยด วิตามิน B12 วิตามิน A มี กรดหลายชนิด เชน Nicotinic, Palmitic, Stearic, Myristic, กรดไขมันไมอ่มิ ตวั และ phytosterol 15 January 2012

หนา ที่ 32 สรรพคณุ : เปนตัวยาสําคญั ในการบํารุงเลือด และบําบดั อาการโลหติ จางทุกชนิด บํารุงตับ ชวยใหเลือดไหล เวียนดีขึ้น เพิ่มเลือด บําบัดอาการมีประจําเดือนผิดปกติ ปวดประจําเดือน เลือดออกในมดลูก โลหิต จาง แกบ วม สรา งความชมุ ช้นื และหลอลน่ื ลําไส หา มเลือด ใชร ะงบั ประสาท ใน Compendium of Materia Medica บันทึกวา ‘ตังกุยใชบําบัดอาการปวดศีรษะ อาการปวดตางๆ ในทอง และหนาอก ชวยหลอล่ืนลําไส บํารุงเสนเอ็น กระดูก และผิวหนัง รักษาแผลฝ ขจัดหนอง ระงับปวด และบํารุง เลือด’ นอกจากนั้น ยังชวยบําบัดอาการปวดทองจากโรงกระเพาะอาหาร และหัวลําไสเล็ก เรอ และ สะอกึ เปน ประจาํ ขอ หาม : เน่อื งจากตงั กุยมฤี ทธิ์อุน ผทู มี่ อี าการรอ น ทองรวง ทองเฟอ เบอื่ อาหาร หา มรบั ประทาน เกาคี่ (Lycium barbarum L.) เกาค่ีมีรสหวาน ฤทธ์ิปานกลาง ประกอบดวย แคโรทีน (carotene), กรดนิโคตินิค (nicotinic acid), วิตามิน A, B1, B2, C, กรดไลโนเลอิก (linoleic acid), β-sitosterol, betaine, zeexanthine, phy-salein, นํ้าตาล และ โปรตีน สรรพคุณ : แกไ อ, เจบ็ รอ นผา วในลําคอ, จมกู และปากแหง, วิงเวียน และปวดศรี ษะ, หนามดื , ตาลาย, ตาบอด- กลางคืน, หูอ้ือ, บํารุงไต, เลือด, ตับ และสายตา, ประสาทออน, บํารุงเลือดลม, รางกายออนแอ, ซูบผอม, ปวดเอว, เส่อื มสมรรถภาพทางเพศ, กระตุนการทํางานของลําไสเล็ก และลําไสใหญ, กลอม ประสาท, ชวยใหนอนหลับไดดี, ลดนํ้าตาลในเลือด, บําบัดอาการน้ํากามไหลเองโดยไมรูตัว Compendium of Materia Medica บันทึกวา ‘เกาคี่ บํารุงไต บํารุงปอด บํารุงสายตา’ ในตํารา ‘ปงเชาหวยง้ัง’ บันทึกไวละเอียดวา ‘เกาค่ี ใชเสริมกําลังวังชา บํารุงประสาท บํารุงเลือด ลดไข บํารุง สายตา บาํ บดั อาการไขร มู าตคิ เปนยาบาํ รงุ ท่มี ีสรรพคณุ ครบครนั ’ ขอหาม : ผทู ่อี จุ จาระเหลว ทอ งรว ง ผูท มี่ แี ผลฝต ามผิวหนัง เด็กที่ออกหัดยังไมหายดี ไมค วรรบั ประทาน ผูป วยมีไขส งู หนาแดง คอแหง หงดุ หงิด มีปสสาวะสีเหลอื งเขม ควรรบั ประทานแตนอ ย 15 January 2012

หนา ท่ี 33 หอซิวโอว (Polygonum multiforum) รสหวานอมขม ฝาดเล็กนอย ฤทธ์ิอุนเล็กนอย ประกอบดวยสาร Anthraquinone เชน chrysophanic acid, chrysophanol, emodin และยังมีสาร rhein, chrysophanic acid, anthrone, มีแปง 45.8%, ไขมัน 3.1%, lecithin 3.7% สรรพคณุ : บาํ รุงตบั , ไต, เลือด ขบั ลม ผมหงอกกอ นวยั วิงเวียน นอนไมห ลับ หูอ้ือ ตาฟางตาลาย ฝนเปยก ตกขาว ทองรวงเรื้อรงั ตับอกั เสบเร้อื รัง ฝฝกบัว ฝประคํารอย ริดสีดวงทวาร ปวดเมื่อยเอวและหัวเขา หนองใน แกก อ นวยั ลดไขมันในเลือด ลดความดนั โลหิต เหมาะสําหรับใชลดความดันโลหิตสูง โรค หลอดเลอื ดแดงหวั ใจตบี แข็ง โรคไขมนั ในเสน เลอื ดสงู ชวยระบายทอ ง บําบดั อาการทองผูก วิงเวียน ในคนชรา และหญงิ หลงั การคลอดบุตร กระตุนการบีบตัวของลําไส จึงชวยทําความสะอาดลําไส ทํา ใหลาํ ไสย อ ย และดดู ซมึ ไดด ีข้นึ บํารุงไขกระดูก ทําใหผมดําสลวย บําบัดวัณโรค ตอมน้ําเหลืองที่คอ บวม ใชร บั ประทานเปน อาหารหรอื เปนยาก็ได ‘ฮอซิงโอวลก’ บันทึกวา ‘หอซิวโอว ใชบําบัดริดสีดวงทวาร โรคปวดเม่ือยเอว เสริมสรางกลามเน้ือ เพ่ิมพูนกําลังวังชา เจริญอาหาร บํารุงผิว ชวยใหอายุยืนยาว’ ‘ไคปอปงเชา’ ก็บันทึกไวเชนกันวา ‘หอซิวโอว ใชบําบัดฝประคํารอย บรรเทาอาการบวมจากริดสีดวงทวาร บําบัดอาการเจ็บหัวใจ บํารุง เลอื ด ทาํ ใหผมดํามนั ขลบั บาํ รงุ ผวิ และอาการตา งๆ ในสตรหี ลังคลอด และตกขาว’ ขอ หาม : ผทู มี่ ีอาการทอ งรว ง เหนือ่ ยเพลีย รับประทานอาหารไดนอ ย หามรับประทาน และหา มรับประทานพรอมกบั หวั ผกั กาด (หัวไชเทา ) ตนหอม กระเทียม และหา มปรุงในภาชนะเหล็ก (หมอ stainless ใชได) เส็กต่ีอ้ึง (Rehmannia glutinosa (Gaertn.) Libosch) มีรสหวาน ฤทธ์ิอุนเล็กนอย ประกอบดวยธาตุเหล็ก น้ําตาล mannitol และมีสาร Rehmannin อยูมาก มี วิตามิน A กรดอะมิโน อัลคาลอยด และกรดไขมนั (fatty acid) 15 January 2012

หนาท่ี 34 สรรพคุณ : บาํ รุงเลือด ไต เสรมิ สรางไขกระดกู บําบดั อาการประสาทออ น หลงั (ชวงเอว) และหวั เขาออ นลา ไมมแี รง ไอ รอนในจนมไี ข โลหิตจาง วงิ เวียน หอู ้ือ หอบหืด หายใจขัด ทอ งผกู ปสสาวะบอย และมี สีเขม บําบัดอาการฝนเปยก และหลั่งเร็วไดผลดี รวมท้ังสตรีที่มีรอบเดือนผิดปกติ เชน มาไมตรง กําหนด มามากไปหรือนอยไป และยังใชบํารุงเสนผมใหสลวย ดําเปนเงางามอีกดวย ใน Compendium of Materia Medica บันทึกไววา ‘เส็กตี่ใชเสริมสรางไขกระดูก สรางกลามเน้ือ เลือด และสารเหลวในรางกาย (สารจิ้ง) บํารุงหัวใจ ตับ มาม ปอด ไต ชวยการไหลเวียนของเลือด บํารุงสายตาและหู ชวยใหผมดําขึ้น บําบัดอาการตรากตรําจนอวัยวะภายในเสื่อมสมรรถภาพ โดยเฉพาะไต อนั กอใหเกิดอวยั วะเพศฝอ ไมแขง็ ตวั มนี ้ําอสุจไิ หลโดยไมรูตัว น้ําอสุจินอย อวัยวะเพศ อับช้ืน ปสสาวะถี่ หรือกระปริดกระปรอย รวมทั้งอาการมีของเหลวคลายเลือดไหลออกจากชอง คลอดระหวางต้ังครรภ รอบเดอื นไมปกติ และโรคตางๆ หลงั คลอด’ ขอ หา ม : ผูท ่มี อี าการเบ่ืออาหาร ทอ งเฟอ ลนิ้ เปนฝาหนา หามรบั ประทานรวมกับหวั ผักกาด (หวั ไชเทา) ตน หอม กระเทียม เลือดหมู กยุ ชายขาว และหามปรุงในภาชนะเหลก็ ดอกไมจ ีน (จาํ ฉา ย, กิมจําเชา ), (Day lily – Hemerocallis fulva) คนจีนเรยี กดอกไมจนี วา ‘หญาลืมทกุ ข’ เพราะกินแลวชวยใหจิตใจสบายแจมใส ลืมความทุกขไดไมตองกังวลวา จะเจ็บไขไดป วย มฤี ทธ์ิเย็น รสหวาน ไมมีพิษ อุดมดวยแคโรทีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก โปตัสเซ่ียม โปรตีน ไขมัน สาร Asparagene 15 January 2012

หนาที่ 35 สรรพคุณ : แกร อนใน ถอนพษิ ชวยขยายกระบงั ลม บรรเทาอาการปอดบวม บาํ บัดอาการปสสาวะขุน มีเลอื ดปน ริดสีดวงทวาร อุจจาระมีเลือดปน ไอและอาเจียนเปนเลือด ดีซาน มีไขกระหายนํ้า นอนไมหลับ กระสับกระสาย ในคนที่ตับทํางานหนักเกินไป ใหใชดอกไมจีนตมกับเน้ือรับประทาน ผูที่เปนโรค ตับอักเสบ ก็ควรรับประทานเชนกัน Compendium of Materia Medica บันทึกถึงจําฉายวา ‘มี ประสิทธิภาพดี ขับปสสาวะ’ เกสรท่ีมีอยูมากมายในดอกไมจีน ชวยบํารุงประสาท บํารุงเลือด และ เพ่มิ การคัดหลั่งฮอรโมน ทําใหร า งกายแข็งแรงกระปร่ีกระเปรา ขอหาม : ไมม ีขอ หามใดๆ อาหาร และสมุนไพรบาํ รุงเลือด หมวดเน้ือสตั ว ตับหมู 1. ซปุ ตับหมปู วยเลง ตับหมู 90 กรัม ผักปวยเลง 240 กรัม ตมใหเดอื ดจะตมนานไมได มฉิ ะนั้นจะสูญเสียสารอาหารไป สรรพคุณ : บาํ บดั อาการตาบอดกลางคืน ผทู ่ีมีโรคโลหติ จาง รับประทานเปนประจาํ จะชวยบํารุงได 2. ซปุ ไขต บั หมู ตบั หมู 60 กรมั ใบเกาคสี่ ด 40 กรัม ไขไก 1 ฟอง ขงิ เล็กนอย ตมแคใหน ้ําเดือด สรรพคณุ : บาํ รุงตับ ไต สายตา ระงบั อาการปวดศรี ษะ หวั ใจหมู 1. ซปุ หัวใจหมูพุทราจีน หวั ใจหมู 1 อนั พทุ ราจนี 10 ลกู ลา งหวั ใจหมใู หสะอาดแลวห่ันเปนแผน พุทราจีนใหแคะเอาเม็ดออก ใสนํ้า 3 ชาม ตมเหลอื 2 ชาม รบั ประทานเน้อื และนํ้าซุป สรรพคณุ : เหมาะสาํ หรับใชบาํ รงุ เลือด บํารุงหัวใจ บําบดั อาการใจสัน่ ไมม เี ร่ียวแรง สีหนา ไมส ดใส ขอหา ม : หา มตมหัวใจหมกู ับโงจยู ู รบั ประทาน 15 January 2012

หนาท่ี 36 เอน็ วัว 1. ซปุ เอ็นวัวถ่ัวลสิ ง เอ็นวัว 120 กรัม ถั่วลิสงแดง 150 กรัม นําเคร่ืองท้ังสองใสน้ํา 4-5 ชาม ตมจนเปอยนุม จะรับประทานเปลาๆ หรือเปน กับขา วกไ็ ด 2. ซุปเอน็ ววั โปวกุกจี เอ็นวัว 60 กรัม โกยเน็กต๊ิง 30 กรัม โปวกุกจี 12 กรัม นํ้า 5 ชาม ตมจนเปอย แลวเอากากยาออก รับประทาน เอ็นววั กบั นํา้ ซุป สรรพคณุ : มสี รรพคุณเสรมิ สรางเลอื ด บาํ บดั อาการโลหิตจาง ขอ หาม : ผูทีร่ ะบบการยอ ยอาหารไมด ี ควรจะรบั ประทานแตนอ ย จะตอ งตุน จนเปอ ยนมุ ถงึ จะรบั ประทานได และไมควรรับประทานกับถั่วลิสงคราวละมากๆ จนอิ่มเกินไป เพ่ือมิใหกระทบกระเทือนถึงการยอย อาหาร ตับไก 1. ซุปตบั ไก ตบั ไก 1 ชุด ตม เปนซุปด่ืม สรรพคุณ : บาํ รงุ เลอื ด บาํ รงุ ประสาท 2. ขาวตมตบั ไก ขาวเจา 60 กรัม นํามาตม พอจวนจะสุก ก็ใสตับไก 1 ชุด (ซ่ึงลางสะอาด และหั่นเปนช้ินแลว) ลงไป เติม เครอื่ งปรงุ เลก็ นอ ย ทําเปนขาวตมตบั ไก สรรพคณุ : เหมือนขอ 1 3. ซุปตับไกโถวซจี ี้ ตับไก 1 ชดุ โถวซจี ี้ (ฝอยทอง) 15 กรัม ใสน า้ํ 3 ชาม ตม ใหเ หลือ 1 ชาม รับประทานตบั ไกแ ละนํา้ ซุป สรรพคณุ : บํารงุ เลอื ด เสริมสมรรถภาพทางเพศ รบั ประทานเปน ประจาํ จะชวยใหส ุขภาพสมบูรณแ ข็งแรง 15 January 2012

หนาท่ี 37 1. ปลาเกาฮือ้ ตนุ แปะฮะ ปลาเกา ฮื้อ ปลาเกาฮื้อ 240 กรัม แปะฮะ 60 กรัม ผาปลาลางใหสะอาด ใสแปะฮะ นํ้าสะอาด 2 ชามลงตุน ใสนํ้ามันและ เกลอื ปรุงรส สรรพคุณ : บาํ บัดอาการนอนไมห ลบั ใจสัน่ หลงลมื เปน ตน 2. ซุปปลาเกา ฮอื้ ตวั่ จอ ปลาเกาฮ้ือ 240 กรัม ต่ัวจอ 10 ลูก ถั่วลิสง 30 กรัม ผาปลาลางใหสะอาด ต่ัวจอใหแคะเอาเม็ดในออก ใส ถ่ัวลิสง นํา้ สะอาด 5 ชาม ลงตม ทําซุปสัก 2 ชั่วโมง รบั ประทานเนอื้ และน้ําซปุ สรรพคุณ : บาํ รงุ เลอื ดลม สําหรบั คนที่มอี าการโลหติ จาง ใหรับประทานนานๆ เปน โภชนาบาํ บัดได ปลาดาบเงนิ 1. ซปุ ปลาดาบเงินมะละกอ ปลาดาบเงนิ สดๆ 240 กรัม มะละกอเขียว 300 กรัม ผาปลาเอาไสออก ลางใหสะอาดแลวหั่นเปนทอนๆ ปอก เปลือกมะละกอเอาเม็ดในออก หั่นเปนเสน นํามาใสรวมกันแลวใสนํ้า 5 ชาม ตมจนเปอยนุม ปรุงรสดวยนํ้ามัน เกลือ รับประทานนาํ้ ซปุ และเน้ือมะละกอ สรรพคณุ : ปลาดาบเงิน บํารงุ เลอื ด ตับ บํารงุ นา้ํ นม และโลหติ จางหลงั คลอด 2. ซปุ ปลาดาบเงนิ นึงเจง็ จ้ี ปลาดาบเงิน 240 กรัม นึงเจ็งจี้ 18 กรัม นํ้าปลามาผาเอาไสปลาและเหงือกออกแลวลางใหสะอาด ห่ันเปนทอน นําไปน่ึงใหสุกกอน จากน้ันตักเอาน้ํามันช้ันบนออก นํานึงเจ็งจี้มาผสม ใสนํ้า 2 ชาม ลงตุน 20 นาที เอากากยาท้ิง รับประทานเนือ้ ปลา สรรพคุณ : บาํ รงุ เลือด ตบั เสรมิ การทํางานของตับ แกอ าการตับอักเสบอนั เกดิ จากโลหติ จาง 15 January 2012

หนาที่ 38 หมวดผัก และผลไม แครอท 1. ซุปแครอทตับหมู แครอท 240 กรัม ตับหมู 180 กรัม ลางแครอทใหสะอาด หั่นเปนช้ิน ลางตับหมูใหสะอาดห่ันเปนช้ินเชนกัน ใสแ ครอทกับน้ํา 3 ชาม ตมจนเปอ ยนมุ ใสตบั หมูลงไปพอใหสุก รับประทานไดท ั้งหมด สรรพคุณ : บาํ รงุ เลอื ด ตบั บํารุงสายตา 2. ซุปแครอทหวยซวั แครอท 240 กรมั หว ยซัว 30 กรัม ไหลก มิ 6 กรัม นาํ แครอทมาขูดเอาเปลอื กออก ลางใหสะอาด ห่ันเปนชิ้น ใส รวมกับหวยซัว ไหลกมิ พรอมนาํ้ 3 ชาม ตม จนเปอยนมุ รบั ประทานน้าํ ซุป แครอท และหว ยซวั สรรพคณุ : บํารงุ เลอื ด กระเพาะอาหาร มาม ชว ยยอยอาหาร เหมาะสาํ หรับผูทธ่ี าตุพกิ าร อาหารไมย อย ซปุ นีใ้ ชท ัง้ บาํ รุง และบาํ บดั รักษาก็ได ลําไย 1. น้ําลาํ ไยตั่วจอ ลําไย 50 กรัม ตั่วจอ 10 ลูก เนื้อแดง 120 กรัม ใสน้ําสะอาด 5 ชาม พรอมดวยตัวยาตางๆ ลงตม 2 ชั่วโมง รบั ประทานลําไย และนํ้า สรรพคณุ : เหมาะสาํ หรับใชบาํ รงุ เลอื ด หัวใจ บําบัดอาการใจสั่น นอนไมห ลับ เสียเลือดหลังคลอด โลหติ จาง หลังผาตดั 2. น้าํ ลาํ ไยลกู บวั ลาํ ไย 12 กรัม ลกู บัว (แคะไสอ อกแลว ) 12 กรมั เขย่ี มซิก 9 กรัม ฮกซ้ิง 9 กรัม หัวใจหมู 1 อัน นํามาผาลางให สะอาด ใสต ัวยาตางๆ ที่กลา วมาแลวพรอมนํ้า 5-6 ชาม ตม 2 ช่ัวโมง รับประทานเน้ือและนํ้าซุป สรรพคุณ : บํารุงหัวใจ บํารงุ ประสาท บาํ บดั อาการใจสนั่ เหงอ่ื มาก 3. ซุปพิราบตุนลําไย ลําไย 18 กรัม ตังเซียม 30 กรัม นกพิราบ 1 ตัว ถอนขนและเอาเคร่ืองในออก ลางใหสะอาด ใชนกท้ังตัว ใส ลําไย ตังเซียม นา้ํ 6 ชาม ตมนาน 2 ช่วั โมง รบั ประทานเนื้อและนา้ํ ซุป 15 January 2012

หนาที่ 39 สรรพคณุ : บาํ รุงหัวใจ เลอื ดลม ประสาท บาํ รุงรางกายหลังฟน ไข 4. ลาํ ไยนึ่งโสม โสมเอ่ียเซียม 6 กรัม นํ้าตาลทรายขาวเล็กนอย ลําไย 30 กรัม นําเคร่ืองยาท้ังสามอยางใสจาน เติมน้ําลงไปครึ่ง จาน ใชกระดาษปดคลมุ ไว นําไปนง่ึ สกั 1 ชว่ั โมงจนสกุ ลอกกระดาษทิ้งไป รับประทานลําไย โสม นํ้าซุป สรรพคณุ : บาํ รงุ ประสาท หวั ใจ เลือด เหมาะสาํ หรบั หญงิ หลงั คลอดบุตร ผทู ม่ี เี ลอื ดลมไมพอ ขอหา ม : ผทู ีเ่ พิ่งเรม่ิ เปนไขหวัด มไี ขไ มลด เสมหะเหลอื ง ทองผูก หา มรบั ประทาน จะรบั ประทานไดก ็ตอ เมื่อ หายจากอาการหวดั และไมมไี ขแลว องุน 1. นํ้ารวมมติ ร นํ้าองุน 1 ถวย น้ํารากบัว 1 ถวย นํ้าต่ีอึ้งสดครึ่งถวย นํ้าผ้ึง 1 ชอนโตะ ใสน้ําท้ังสามอยางในจานหรือถวย กระเบอ้ื ง วางนึง่ บนขา วสวย แบงรบั ประทานเปน 2-3 คร้ังใหหมด สรรพคณุ : บําบดั หญิงทม่ี อี าการตกเลอื ด ประจําเดอื นมมี ากจนหนาตาซีดเซียว สีหนาหมนหมอง ปส สาวะแดง เจ็บขณะถายปสสาวะ ปสสาวะนอย หากดมื่ น้าํ นีแ้ ลวจะเหน็ ผล 2. ซปุ องนุ เกาค่ี เนอื้ แดง 240 กรัม องุนแหง (ลูกเกด) 60 กรัม เกาค่ี 30 กรัม ลางองุนแหง เกาคี่ และเน้ือแดง ใหสะอาด นําไป ใสใ นหมอ กระเบ้ืองเคลอื บเตมิ นํา้ 4-5 ชาม ตมจนเหลือน้าํ 1 ชามครึง่ แบงดืม่ เปน 1-2 คร้งั สรรพคุณ : บํารุงรางกาย เลือด สมอง เพิ่มพูนสติปญญา เปนอาหารบํารุงท่ีดีที่สุดสําหรับผูที่มีรางกาย หรือ ประสาทออนแอ อาหาร และซุปท่ีปรงุ จากสมนุ ไพรบํารุง ‘เลอื ด’ 1. ตงั กุย ตังกยุ ใชป รงุ อาหาร หรือแชสุราด่ืมก็ได ตังกุยแชอ่ิมในยุโรป รูจักกันดีในหมูชาวจีน โดยใชตังกุยมาตม กับนํา้ ตาลที่ใชทาํ ขนมเคก หรือใชตงั กยุ ตม กับไกใ สเ หลา (เหลา เสาซง่ิ ) และเกลือ มีรสชาตอิ รอยมาก 15 January 2012

หนา ท่ี 40 1.1 ซุปตังกยุ เน้อื หมู : ตงั กุย 15 กรมั ดอกไมจนี 15 กรมั หมเู นอ้ื แดง 150 กรมั นาํ้ 5 ชาม นําเครอื่ งมาใสรวมกัน ตุนประมาณ 2 ช่ัวโมง รับประทานเน้อื และน้ําซปุ สรรพคณุ : บาํ รงุ เลอื ด ชว ยใหเลอื ดไหลเวียนดขี น้ึ บําบดั อาการประจําเดอื นขาดหายในสตรี ผูท มี่ รี า งกาย- ออนแอ ประสาทออ น วิงเวียน และปวดศรี ษะเปนประจาํ 1.2 ซปุ ตังกยุ ซี่โครงหมู : ตงั กยุ 18 กรมั ซีโ่ ครงหมู 360 กรมั ปรงุ รสดว ยเกลอื ใสน ้าํ 4 ชาม ตม จนมีกลน่ิ หอม และซ่โี ครงหมนู ุมดี รับประทานขณะกาํ ลังอุน สรรพคณุ : บํารุงตับ ไต เสรมิ สรางเสนเอน็ และกระดูก บาํ บดั อาการปวดเมอื่ ย โลหิตจาง เปนตน 1.3 ตังกุยตุนเน้ือแพะ : เนือ้ แพะ 240 กรัม ขงิ สด 30 กรัม ตังกยุ 15-18 กรมั เน้ือแพะลางสะอาดห่นั เปนช้นิ ขูด เปลือกขงิ หัน่ เปนแวน ใสน้ําพอประมาณ ตุน จนเน้ือนุม รับประทานเน้อื และน้าํ ซุป สรรพคุณ : บาํ รุงเลือด บาํ บัดอาการปวดประจําเดือน ชว ยเจรญิ อาหาร ปวดกระเพาะอาหารหลังคลอดบตุ ร วงิ เวียนศรี ษะ ทอ งอดื เฟอ ปวดทอ งจากโรคกระเพาะอาหาร และหวั ลาํ ไสเ ล็ก เรอและสะอกึ เปน ประจาํ หญิงมปี ระจาํ เดอื นผิดปกติ ผทู ม่ี ีหนา ขาวซีด เหมาะทจ่ี ะรบั ประทานอาหารชดุ น้ี บาํ รงุ รา งกาย 2. เกา ค่ี 2.1 ขา มตม เกา ค่ี : เกา คี่ 30 กรัม ขา วสาร 90 กรมั ใสน ํา้ ซุปกระดูกหมู 3 ชาม เมอ่ื ตมจวนขาวจะสุกใหเ ตมิ เกลือ เล็กนอย เม่ือสกุ แลวจะใสต นหอมห่ันฝอยเลก็ นอ ยก็ได สรรพคณุ : บาํ รงุ ตับและไต บําบดั อาการวิงเวยี น ตาฝาฟาง หอู ้อื นอนไมห ลับ ฝนเปย ก ปวดเมอื่ ยเอว และหวั เขา 2.2 ซุปตะพาบนา้ํ เกา ค่ี : เกา ค่ี 20 กรัม หว ยซัว 25 กรมั ตะพาบน้าํ 1.5 กก. ลางตะพาบน้าํ ใหส ะอาด สับเปนช้นิ ใสร วมกันลงในหมอตุน เตมิ ซีอ้วิ ขาว และเกลือเล็กนอ ย ตนุ จนเนอื้ ตะพาบนมุ รบั ประทานท้งั เน้ือ และนํ้าซปุ 2.3 ไกต นุ เกาค่ี : เกาค่ี 12 กรมั หอ ซวิ โอว 18 กรัม ไกบา นหรอื ไกด าํ 1 ตวั (ขนาดยอม) สับไกเ ปนชนิ้ หรอื ตุน ท้ังตัวก็ได ปรงุ รสดวยซีอ้วิ ขาว เกลือ พรกิ ไทยดํา ตนุ จนเนื้อไกน ุม รับประทานท้งั เนื้อ และ นํ้าซุป สรรพคุณ ของขอ 2.2 และ 2.3 เปนอาหารบํารงุ ตับ บํารงุ ไต บาํ รงุ เลือดลม บาํ บดั อาการโลหิตจาง ประสาทออ น วงิ เวียน บาํ รุงสายตา เปนอาหารบํารุงรางกายช้นั เยีย่ ม 15 January 2012

หนา ท่ี 41 2.4 นํา้ เกก็ ฮวยเกา ค่ี : เกา คี่ 9 กรัม เกก็ ฮวย 6 กรัม ไขไ ก 1 ฟอง ลา งเกา ค่ี และเก็กฮวยใหสะอาด ใสน ํ้า 2 ชาม ตม จนไดกลิ่นยาออกหอม ตอกไขใสลงไป ปรงุ รสดวยเกลอื คนใหเ ขา กัน สรรพคุณ : บํารุงตบั ไต และสายตา ผทู ี่มอี าการวิงเวียน ตาลาย หูอือ้ นอนไมหลบั ปวดเม่ือยเอวและเขา ฝน เปย ก ใหร ับประทานบอ ยๆ จะชว ยบํารุงรา งกายโดยไมเกิดอาการรอ นใน 3. หอซิวโอว 3.1 ซปุ หอ ซวิ โอวใสไข : หอซวิ โอว 60 กรมั ไขไก 2 ฟอง นํ้าสะอาด 3 ชาม ตม หอซวิ โอว 10 นาที แลว ตอกไข ใสล งไป ตม ตอ ไปอีก 10 นาที จะไดกลิ่นหอม รับประทานไขและนํ้าซุป วันละ 1 คร้ัง หลายๆ วันตอ กนั สรรพคณุ : บาํ รุงตับ ไต และเลือด บาํ บดั อาการวงิ เวยี น ตาลาย ฝนเปย ก แกก อ นวัย 3.2 ซุปหอ ซิวโอวซัวจา : หอซิวโอว 15 กรัม ซวั จา 12 กรมั ใสน ํ้า 2 ชาม ตม ใหเ หลอื 1 ชาม ดื่มขณะกาํ ลังอุน วนั ละ 1 ขนาน สรรพคุณ : บาํ รงุ ตับไต ลดไขมนั ในเลอื ด ลดความดนั โลหิต โรคหลอดเลือดหวั ใจตบี 3.3 ซปุ หอ ซิวโอวฉงยง : หอ ซิวโอว 15 กรัม เน็กฉงยง 15 กรมั หมเู นอ้ื แดง 120 กรมั ใสนํา้ 4 ชาม ตมจนกล่นิ - หอม และเนอื้ หมูสุกนุม รับประทานเนอ้ื และนาํ้ ซุป สรรพคณุ : บาํ รงุ ตบั ไต ชว ยระบายทอง บําบดั อาการทอ งผกู วิงเวยี นในคนชรา หญิงหลังคลอดบุตร 4. เส็กต่ี หรือเสก็ ตี่อึง้ 4.1 ผัดเส็กตีเ่ นอ้ื หมู : เส็กต่ี 15 กรัม เน้ือหมู 300 กรัม แครอท ½ หัว พริกเขียว 1 ลูก ขิง 2 แวน เอาเส็กต่ีแชนํ้า เติมเหลา จีน (ฮวยเตียว) เล็กนอย หมักเนื้อหมูดวยเกลือ และแปงขาวโพด เอาขิงลงเจียวในนํ้ามันรอนๆ ใส เนอ้ื หมผู ดั ใหส กุ เติมนา้ํ แชเ ส็กตี่ และแครอทลงผัด สกุ แลวจงึ ใสพ ริก ปรงุ รสดวยซีอว้ิ นํ้าตาล และเหลา จีน สรรพคณุ : เสรมิ สรางรา งกาย บาํ รุงเลอื ดลม กระตุน สมรรถภาพทางเพศ 4.2 สุราเส็กตี่ : เส็กต่ี 120 กรัม เกาคี่ 60 กรัม ไมจันทน (ถ่ังเฮียง) 2 กรัม เหลาขาวอยางดี 1500 ซีซี ฝานเส็กตี่ เปนช้ินๆ โขลกเกาค่ีใหแหลก ใชผาขาวบางหอตัวอยางท้ัง 2 อยาง ผูกใหแนน นําไปแชเหลา ผนึกขวดหรือ ฝาใหส นทิ เก็บไวในท่ีรม, แหง เขยาขวดวันละหลายๆ ครั้ง เปนเวลา 2 สัปดาห ด่ืม 2 ครั้ง เชาและเย็น คร้ัง ละ 10-25 ซซี ี สรรพคุณ : บาํ รงุ เลอื ด ตบั และไต แกโลหติ จาง ปวดเม่ือยหลังและเอว แกส มรรถภาพทางเพศเส่อื ม ออนแอ ไมมีแรง ชะลอความชรา 15 January 2012

หนาที่ 42 หมายเหตุ : ถาใสตม่ิ เฮยี ง 6 กรมั ดวย จะชว ยเสรมิ ประสิทธภิ าพมากข้ึนอีก เส็กตี่ เกาค่ี บํารุงตับ ไต เลือด สายตา ต่ิมเฮียง บํารุงไตและลม เม่ือเอาสมุนไพรท้ัง 3 มาดอง ดว ยกัน จะชวยบาํ รุงเลอื ดลม และชวยใหเ ลอื ดไหลเวียนดีข้ึน บําบัดอาการหลงลืม และเปนหมัน ในสตรีได 5. ดอกไมจ ีน (จําฉาย) 5.1 แกงจดื ดอกไมจีน : 1) ดอกไมจนี 15 กรัม ปอดหมู และเน้ือหมูอยา งละ 90 กรมั วุนเสน 15 กรมั ไขไ ก 1 ฟอง ขิง 1 แวน ตมนํา้ แกงรับประทาน โดยใสเ ครอ่ื งปรงุ รส 2) ดอกไมจ นี 30 กรมั ใสน าํ้ 2 ชาม ตม กับเน้ือหมู 30 กรัม รับประทานวนั ละคร้ัง สรรพคุณ : แกอาการอึดอัด แนนหนาอก กระสับกระสาย นอนไมหลับ แกรอนใน มีไข กระหายนํ้า ปวด บวม อาหาร และสมุนไพรบํารงุ หยิน หมวดเน้อื สตั ว เนื้อหมู เน้ือหมมู รี สหวานอมเค็ม ฤทธ์เิ ยน็ เลก็ นอย ประกอบดวยโปรตีน คารโบไฮเดรต ไขมัน น้ํา แคลเซ่ียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โปตสั เซีย่ ม สรรพคุณ : บาํ บดั อาการเจ็บหนา อก ตบั อกั เสบเรือ้ รัง อาการวิงเวียน หนามดื ตาลาย ปวดเมอื่ ยบรเิ วณเอว ปวดกลามเน้ือ บํารุงไต แกทองเฟอ ขอหาม : ไมม ี ปอดหมู รสหวาน ฤทธิเ์ ย็นเลก็ นอย ประกอบดว ย โปรตนี ไขมนั แคลเซ่ยี ม ฟอสฟอรสั เหล็ก วิตามนิ B1, B2 และ B รวม สรรพคณุ : บํารุงปอด บําบดั และปอ งกันอาการไอ และหอบหดื จากหลอดลม ตนี หมู (คาก)ิ มรี สหวานอมเคม็ ฤทธเิ์ ย็น มสี ว นประกอบเปน โปรตีน ไขมัน สรรพคณุ : บํารุงเลือดลม ขับนาํ้ นม 15 January 2012

หนาที่ 43 เนอื้ กระตาย รสหวาน ฤทธ์ิเย็น ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน นํ้าตาล กรดแทนนิค แคลเซี่ยม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามิน A, B และ C สรรพคุณ : บาํ รงุ ตบั บาํ รงุ สายตา บําบัดอาการตาบอดกลางคนื บาํ บัดอาการคอแหง ไมมีแรง ซบู ผอม โรคเบาหวาน ขอหา ม : 1) เนอ้ื กระตายมฤี ทธ์ิเย็น ผทู ม่ี อี าการแนนทอ ง ปวดทอ ง ทองรว งเร้ือรงั อุจจาระเหลว ควรรับประทาน แตนอ ย 2) ไมค วรรับประทานเนอื้ กระตายกับหัวใจไก ตับไก ผกั กาดเขียว อาจทําใหไมส บายได เน้อื นกพิราบ เนื้อนกพริ าบมรี สเคม็ ฤทธิ์ปานกลาง มีสวนประกอบเปน โปรตีน และไขมันเปน หลกั สรรพคุณ : บําบัดอาการหอบ ไมมีแรง เหงือ่ มาก กระหายนาํ้ รบั ประทานอาหารไดนอ ย และโรคเบาหวาน ขอ หา ม : ไมม ี เน้ือเปด เน้อื เปดมีรสหวาน ฤทธ์ิเย็น ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน คารโบไฮเดรต แคลเซ่ียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน B1 และ B2 สรรพคุณ : ชว ยแกรอนใน ขับรอน ผทู ่ีมีรา งกายออนแอ สามารถรบั ประทานเปนประจําได เพราะเปนอาหาร บาํ รงุ ไมทําใหร อ น ชว ยบาํ รงุ ตับ บํารุงช่ี (ลม) และสารหยิน ขอหาม : ไมม ี นกเปดน้าํ เนื้อนกเปดน้ํามีรสหวาน ฤทธ์ิเย็น ประกอบดวยโปรตีน ไขมัน นํ้าตาล แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน B1 และ B2 สรรพคุณ : บาํ รงุ สารหยิน อาการเบื่ออาหาร กระหายน้าํ ไมม แี รง ซบู ผอม ออ นเปลยี้ เพลยี แรง ธาตุพกิ าร อาหารไมย อ ย ขบั ปส สาวะ แกบวม เปนโภชนาบําบัดสาํ หรับผปู ว ยโรคไตอักเสบเร้ือรัง ขอหาม : ไมม ี 15 January 2012

หนา ที่ 44 ไกดาํ ทีไ่ ดชอ่ื วาไกดํา เพราะขน เนือ้ และกระดูกมีสีดาํ ท้ังหมด มีรสหวาน ฤทธ์ิปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน แคลเซ่ียม ฟอสฟอรสั เหล็ก โซเดยี้ ม โปตัสเซย่ี ม แมก็ นีเซีย่ ม วิตามนิ B1, B2, B6 และ B12 สรรพคณุ : บํารุงลม เสริมสขุ ภาพ เหมาะอยา งยิ่งสําหรับผูมอี าการหอบ ไมม แี รง เหงอ่ื ออกงา ย มไี ขต า่ํ ปากแหง รอนองุ มืออุงเทา ทองผกู ปสสาวะนอ ย และเหลือง บํารุงมาม ไต บําบัดอาการตกขาวในสตรี หนอง- ใน และอาการฝน เปยกในผูช าย ขอหาม : ผทู ีม่ ีอาการรอน ทองผกู ถา ยยาก ควรรบั ประทานแตนอย ขอแนะนํา : สรรพคุณของไกดาํ ตวั เมยี ดกี วา ตวั ผู ทงั้ รสอรอ ยกวาอกี ดว ย เน้ือหา น เน้ือหานมีรสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน A, B1, B2 และ C (มีโปรตนี 10.8%) สรรพคุณ : บํารงุ สารหยนิ บําบดั อาการปวดเมื่อยเอว และหวั เขา หลงลมื ซูบผอม ขอหา ม : เน้อื หา นออกฤทธไิ์ ปทางเย็น ผูม อี าการถา ยเหลวงาย ไขขออกั เสบมาก ควรรับประทานแตนอ ย ปลงิ ทะเล ปลิงทะเลมีรสหวานอมเค็มเล็กนอย ฤทธิ์อุน ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน คารโบไฮเดรต ฟอสฟอรัส เหล็ก ไอโอดีน สรรพคณุ : บาํ รงุ ไต บาํ บัดอาการกามตายดาน ปส สาวะบอ ย บํารงุ เลอื ด และสารหยิน บําบัดอาการวิงเวียน ปวดเม่อื ยเอว คอแหง หงุดหงดิ รักษาโรคความดันโลหติ สงู หลอดเลือดแดงตีบแขง็ ขับรอ น ระบายทอ ง แกท อ งผูก ขอหาม : ผูท ่มี อี าการทอ งรว ง และถา ยเหลวเปน ประจาํ หามรบั ประทานปลงิ ทะเล กระเพาะปลา กระเพาะปลามีรสเค็ม ฤทธิป์ านกลาง ประกอบดวยโปรตีนเปน สว นใหญ สรรพคณุ : กระเพาะปลามีสรรพคณุ ตา นมะเร็ง ใชบําบดั มะเร็งในกระเพาะอาหาร และมะเร็งหลอดอาหาร (จากผลงานวิจยั ของแพทย และนักวทิ ยาศาสตรจนี ) นอกจากน้นั ยังใชบาํ รุงเลือด บาํ บัดอาการมเี ลือด กําเดา จ้าํ เลือดอันเกิดจากเกล็ดเลือดนอย 15 January 2012

หนาที่ 45 ขอหาม : กระเพาะปลามเี นอ้ื เหนยี ว ผทู ่ีมกี ารยอยอาหารไมดี ไมควรรบั ประทานมาก รังนก รังนกเปนน้ําลายของนกนางแอน มีรสหวาน ฤทธ์ิปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน น้ําตาล เสนใย แคลเซ่ียม ฟอสฟอรัส โปตสั เซย่ี ม และกํามะถนั สรรพคณุ : บาํ รุงปอด แกรอ นใน แกไอ หามเลือด ชวยบําบัดวัณโรคปอด บาํ บัดอาการรอ นใน มเี หงื่อออกเวลา นอนหลบั บํารงุ ไต ขบั เสมหะ หอบหืด ไมม ีแรง หมวดพืช ผกั และผลไม เหด็ หูหนูขาว (Tremella fusiformis Berk.) มีรสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน เสนใย ฟอสฟอรัส เหล็ก โซเด้ียม กํามะถัน แม็กนีเซี่ยม โปตัสเซย่ี ม แคลเซี่ยม วติ ามนิ B1, B2 และน้าํ ตาล สรรพคณุ : เห็ดหหู นูขาวระงบั ไอ ชว ยบําบดั อาการไอแหง ไอเปนเลอื ด ความดนั โลหิตสูง หลอดเลือดแดง ตบี แขง็ วณั โรคปอด ขับรอน คอแหง ทอ งผูก ออย (Saccharum officinarum L.) 15 January 2012

หนาที่ 46 มีรสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง ประกอบดวย นํ้าตาล โปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส แคลเซย่ี ม เหลก็ ซีลีเนี่ยม กรดอะมิโน หลายชนิด กรคซัคซินิค (succinic acid) กรดมาลิค (malic acid) วติ ามิน B1, B2, B6 และ C สรรพคณุ : แกไ อ บําบดั อาเจยี น หรอื อาเจยี นเพราะแพท อง แกไ อแหง คอแหง ไอมเี สมหะนอ ย ดบั รอ น ขบั ปสสาวะ แกกระกาย ปสสาวะเหลอื ง งา (Sesamum indicum L.) งามีรสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน กรดโฟลิค (folic acid) กรดนิโคตินิค (nicotinic acid) วติ ามิน E เลซติ นิ (lecithin) และทองแดง สรรพคุณ : เหมาะสําหรบั ผูมีรา งกายออนแอ ทอ งผูก ผิวเหย่ี วยน สีหนาไมเ ปลง ปลัง่ เพราะชวยบาํ รุงไต บํารุงผวิ พรรณ และเสริมสรา งสขุ ภาพ ถวั่ ดํา (Vigna mungo) 15 January 2012

หนาที่ 47 ถ่ัวดํามีรสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง ประกอบดวย โปรตีน ไขมัน นํ้าตาล แอนโธไซยานิน (anthocyanin) โซเดี้ยม โปตัสเซยี่ ม แคลเซ่ียม ฟอสฟอรสั เหลก็ ทองแดง วิตามิน A, B1 และ B รวม สรรพคณุ : ระงบั เหง่อื บําบัดอาการมเี หง่อื ออกเวลานอนหลับ บํารุงเลอื ดลม ตบั ไต อาการวงิ เวียน ปวดศีรษะ หูออ้ื ขบั ปสสาวะ แกอาการบวมน้าํ บําบัดอาการบวมนา้ํ เน่ืองจากการขาดสารอาหาร (ascites) สตรที ี่ออนเพลยี และโลหติ จางหลงั คลอดบตุ ร หมวดสมนุ ไพร เหงก็ เตก็ (Polygonum odoratum) เหง็กเต็ก หรือไผมรกต มักพบเสมอในอาหารตุนเน้ือสัตว มีรสหวาน ออกฤทธ์ิปานกลาง ประกอบดวย สาร- อลั คาลอยด มวิ คัส (สารเหนยี ว) และนาํ้ ตาล เปนตน สรรพคณุ : บาํ รงุ รา งกาย ทําใหอายุยืนไมแกเ ร็ว เสริมสรา งพละกําลัง ระงบั ประสาท บําบดั อาการเซ่อื งซึม ไอ มเี หง่อื มาก บํารงุ หวั ใจ ชวยใหเลอื ดไหลเวียนดี แกปวด ใจสัน่ เจบ็ หนาอก ขอหาม : สมุนไพรชนิดน้แี พเ กลอื และผงพะโล หามใชก บั ภาชนะเหลก็ เนอ่ื งจากมีประสิทธภิ าพในการบํารงุ สารหยนิ ผูท่มี ีเสมหะมากไมควรรบั ประทาน ซวั เซยี ม (Adenophora tetraphylla (Thunb.) Fisch) 15 January 2012

หนาท่ี 48 ซวั เซียมมี 2 ชนดิ คอื ปก ซัวเซยี ม และหนํ่าซัวเซียม มีลักษณะทางพฤกษศาสตรท่ีคลายคลึงกัน นําเอาสวนรากมา ใช มีสรรพคุณคลายกัน มีรสหวานอมขมเล็กนอย ใหฤทธ์ิเย็น ประกอบดวย สาร Triterpenoid saponins, Xan- thotoxin แปง นาํ้ มนั หอมระเหย วานลิ ลา และอัลคาลอยด สรรพคณุ : ปก ซัวเซียมใหฤทธ์ิเย็นกวาหนํ่าซวั เซียม ใชบ าํ รุงปอด กระเพาะอาหาร สรางสารเหลวในรา งกาย ขับเสมหะ ไอเรื้อรังเน่ืองจากรางกายออนแอ ผูท่ีไอแหง เสมหะนอย คอแหง ปากแหง ก็ใชได เหมาะสําหรับผูที่มีอาการรอนใน Compendium of Materia Medica หรือ ‘ปงเชากังมัก’ ก็ บันทึกวา ‘ซัวเซียมใชขบั อาการรอนในปอด บาํ บดั อาการไอเร้ือรงั ปอดออนแอ อักเสบ’ สวนใน ‘หยิก ฮัวจ่ือปงเชา’ ระบุวา ‘ใชบํารุงรางกายที่ออนแอ ชวยใหหัวใจและปอดทํางานดีข้ึน บําบัดแผลฝ กลาก เกลือ้ นทุกชนดิ รวมถึงอาการคนั ตามตัว ใชข ับหนอง แกพษิ บวม’ ขอ หาม : เนอื่ งจากซวั เซยี มมีฤทธเิ์ ย็น ผทู ีม่ อี าการไอเรื้อรัง เน่ืองจากรา งกายเยน็ ไมค วรรับประทาน เหด็ หลนิ จือ (Ganoderma lucidium (Curtis) P. Karst) เห็ดหลินจือ หรือ เห็ดหม่ืนป มีรสหวาน ฤทธ์ิชื้น เห็ดหลินจือแดง มีรสขม ฤทธิ์ปานกลาง เห็ดหลินจือดํา มีรส เคม็ ฤทธปิ์ านกลาง เหด็ หลนิ จอื เขียว มีรสเปรี้ยว ฤทธิ์ปานกลาง มีสวนประกอบเปน น้ําตาล โปรตีน กรดอินทรีย ยางไม อัลคาลอยด และเอน็ ซัยม สาร triterpenoid, polysaccharide และ phytosterols สรรพคุณ : บํารุงหวั ใจ ลดไขมันในเลือด ทําใหก ลา มเนอื้ หวั ใจแขง็ แรง ใหพลังชวี ิต ใชบ าํ รุงรา งกาย ทาํ ใหมกี ําลัง มีความจําดีขึ้น ประสาทสัมผัสดี ชวยใหการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ผิวพรรณเปลงปล่ัง แจมใส ชะลอความแก รักษาและตานมะเร็ง โรคตับ ความดันโลหิตสูง ขับปสสาวะ ปรับความดันเลือดทั้ง สูงและต่ํา อาการเส่ือมสมรรถภาพทางเพศ โรคภูมิแพ โรคประสาท ลมบาหมู เสนเลือดอุดตันใน สมอง อัมพาต อัมพฤกษ ปวดเม่ือย ปวดขอ โรคเกาท เสนเลือดหัวใจตีบตัน ตับแข็ง ตับอักเสบ ปวด ประจาํ เดือน ริดสีดวงทวาร อาหารเปน พษิ แผลในกระเพาะอาหาร บาํ รุงสายตา ขอ หา ม : ผทู ี่เริ่มเปนไขหวดั หามรับประทาน 15 January 2012

หนา ที่ 49 ตงั ถ่ังแหเ ชา ตังถั่งแหเชา หรือ ถ่ังเชา แปลเปนไทยวา ‘ฤดูหนาวเปนหนอน ฤดูรอนเปนหญา หรือหญาหนอน’ ประกอบดวย 2 สวน คือ เปนตัวหนอนของผีเสื้อ, Hepialus armoricanus Oberthiir และในตัวหนอนมีเห็ดชนิดหนึ่งคือ Cordyceps sinensis (Berk.) Sacc. เจริญเติบโตอยู ถ่ังเชามีรสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง กลิ่นหอม จัดเปนยาบํารุงที่ฤทธ์ิ ไมรอน ประกอบดวย โปรตีน 25.32% คารโบไฮเดรต 28.90% เสนใย 18.50% นํ้า 10.84% มีกรด Cordyceptic acid, Asenic acid และวิตามิน B12 สรรพคุณ : มสี รรพคณุ คลายโสม (หยง่ิ เซยี ม) ใชบ ํารงุ รางกายผทู มี่ ีรา งกายออนแอ หรือเพง่ิ ฟน ไข แกไ อ ละลาย เสมหะ หอบหืด ไอเรื้อรัง หยอนสมรรถภาพทางเพศ หลั่งนํ้าอสุจิโดยไมรูตัวเสมอๆ เขาออน เอว ออน การทดลองวิจัยทางเภสัชพบวา ทําใหหลอดเลือดขยายตัว (vasodilators) และยับย้ังการ เจรญิ เติบโตของแบคทีเรียไดหลายชนดิ ตาํ รบั อาหาร และสมนุ ไพรบาํ รุงหยิน หมวดเนอื้ สตั ว เนอ้ื หมู 1. ซปุ เห็ดเนอื้ หมู เนือ้ หมู (เนอื้ แดง) 240 กรัม เห็ดหอมแหง 60 กรัม ลางเนื้อหมูใหสะอาด หั่นเปนช้ิน ใสนํ้า 4 ชาม ตมประมาณ 1 ชวั่ โมง 20 นาที สรรพคุณ : บดั อาการเจบ็ หนาอก ทอ งเฟอ ตบั อักเสบเรือ้ รัง ขอหา ม : หา มรบั ประทานเนื้อหมกู ับบว ยแหง 2. ซุปเน้อื หมูหว ยซัว หมูเนื้อแดง 240 กรัม เกาคี่ 15 กรัม หวยซัว 15 กรัม เกลือเล็กนอย ลางเน้ือหมูหั่นเปนช้ิน ลางเกาค่ี ใสนํ้า 5 ชาม พรอ มหวยซวั ลงตม 1 ชัว่ โมง 20 นาที 15 January 2012


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook