สารบญั หนา้ เร่อื ง 1 1 สภาพท่วั ไปของจังหวัดเชียงใหม่ 1 1. ประวตั เิ มอื งเชียงใหม่ 2 2. ขนาดพืน้ ที่และอาณาเขตการปกครอง 4 4 2.1 ขนาดพ้ืนที่ 5 2.2 อาณาเขตตดิ ตอ่ 5 3. ลักษณะภูมิประเทศ 5 4. ลกั ษณะภูมอิ ากาศ 8 5. การปกครองและการเมือง 9 5.1 การปกครอง 11 5.2 การเลอื กตัง้ 13 6. ประชากร 17 7. สภาพเศรษฐกจิ 18 8. การทอ่ งเทย่ี ว 19 9. การเกษตร 19 10. การอุตสาหกรรม 19 11. การพาณิชยกรรม 21 12. แรงงาน 21 12.1 ภาวะการมงี านทา 21 12.2 แรงงานต่างดา้ ว 24 13. สภาพทางสงั คม 27 13.1 ภาษา 28 13.2 ศาสนา 29 13.3 ประเพณสี าคัญจงั หวัดเชยี งใหม่ 29 13.4 การศึกษา 30 13.5 บรกิ ารสาธารณสขุ 14. การคมนาคม 1) ทางรถยนต์ 2) ทางรถไฟ
-2- หนา้ สารบญั (ตอ่ ) 32 32 เรอ่ื ง 32 33 3) ทางอากาศ 34 15. การสาธารณูปโภค 34 35 15.1 ไฟฟา้ 36 15.2 ประปา 36 15.3 โทรศัพท์ 36 15.4 ไปรษณยี ์ 37 16. ทรพั ยากรป่าไม้ 38 17. สถานที่ทอ่ งเทยี่ ว 39 17.1 สถานท่ที ่องเทย่ี วทางธรรมชาติ 40 17.2 สถานที่ทอ่ งเทย่ี วทว่ั ไป 18. ด้านการต่างประเทศ 41 18.1 การงานกงสุลตา่ งประเทศ 41 18.2 ความสมั พนั ธบ์ า้ นพ่ีเมอื งน้อง 42 18.3 บริการหนังสือเดินทาง 42 43 ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาจงั หวัดเชยี งใหม่ 43 1. แผนพฒั นาจังหวดั เชยี งใหม่ 44 2. ศักยภาพ และโอกาสในการพัฒนา 44 3. จุดแขง็ จังหวัดเชยี งใหม่ 45 4. จดุ ออ่ นของจงั หวดั เชียงใหม่ 45 5. ปจั จัยท่ีเป็นโอกาสของจังหวดั เชียงใหม่ 6. ปจั จัยทีเ่ ปน็ อุปสรรคของจังหวัดเชยี งใหม่ 7. วสิ ยั ทศั นก์ ารพัฒนาจงั หวัดเชยี งใหม่ 8. เปา้ ประสงค์หลัก 9. ประเดน็ ยุทธศาสตร์ - ประเด็นยุทธศาสตรท์ ี่ 1
-3- สารบัญ (ตอ่ ) เรื่อง หนา้ - ประเดน็ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 2 49 - ประเด็นยทุ ธศาสตรท์ ี่ 3 53 - ประเด็นยทุ ธศาสตร์ท่ี 4 54 - ประเดน็ ยุทธศาสตร์ท่ี 5 56
ตราประจาจงั หวดั เชยี งใหม่ รปู ชา้ งเผือกหนั หนา้ ตรงในเรอื นแกว้ ช้างเผือก หมายถึง ชา้ งทเ่ี จา้ ผ้คู รองนครเชยี งใหม่ นาทลู เกลา้ ถวายแด่ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หล้านภาลัย และไดข้ ึน้ ระวางเป็นชา้ งเผือกเอก ในรัชกาลพระองค์ เรือนแกว้ หมายถงึ ดินแดนทีพ่ ระพทุ ธศาสนาไดม้ าตัง้ มั่นเจรญิ รงุ่ เรือง จนเคยเปน็ สถานที่สาหรับทาสงั คายนา (คือการชาระตรวจสอบความถกู ต้อง) พระไตรปิฎก เมื่อ พ.ศ. 2020 คาขวัญของจงั หวัดเชียงใหม่ “ดอยสเุ ทพเปน็ ศรี ประเพณีเป็นสงา่ บปุ ผชาติล้วนงามตา นามลาคา่ นครพิงค์” ธงประจาจงั หวดั สปี ระจาจงั หวดั : สฟี ้าเข้ม กลมุ่ จงั หวัด : กล่มุ จังหวัดภาคเหนอื ตอนบน ดอกไมแ้ ละต้นไม้ประจาจังหวัด : ตน้ ทองกวาว/ดอกทองกวาว
แผนที่จงั หวัดเชยี งใหม่
1 สภาพทว่ั ไปของจงั หวดั เชยี งใหม่ 1. ประวตั ิเมืองเชียงใหม่ เมอื งเชยี งใหม่ มชี ่ือทป่ี รากฏในตานานวา่ \"นพบุรีศรนี ครพงิ คเ์ ชียงใหม่\" เป็นราชธานีของอาณาจกั รล้านนาไทยมาตั้งแต่พระยามงั รายได้ทรงสร้างข้ึน เมอ่ื พ.ศ.1839 ซึ่งมี อายคุ รบ 710 ปี ในปี พ.ศ.2549 และเมอื งเชยี งใหมไ่ ดม้ ีวิวัฒนาการ สบื เน่อื งกนั มาในประวตั ิศาสตรต์ ลอดมา เชียงใหม่มีฐานะเปน็ นครหลวงอิสระ ปกครอง โดยกษตั รยิ ร์ าชวงศม์ งั ราย ประมาณ 261 ปี (ระหวา่ ง พ.ศ.1839-2100) ในปี พ.ศ.2101 เชียงใหม่ได้เสยี เอกราชให้แก่กษัตริยพ์ มา่ ชอ่ื บุเรงนอง และได้ตกอยภู่ ายใตก้ ารปกครอง ของพมา่ นานรว่ มสองรอ้ ยปี จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช และ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช ได้ทรงช่วยเหลอื ล้านนาไทยภายใต้ การนาของพระยากาวิละและพระยาจา่ บ้านในการทาสงครามขบั ไล่พมา่ ออกไปจาก เชยี งใหม่และเมอื งเชียงแสนได้สาเรจ็ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช สถาปนาพระยากาวลิ ะเป็นเจ้าเมอื งเชยี งใหม่ ในฐานะเมืองประเทศราชของ กรงุ เทพมหานคร และมีเชื้อสายของพระยากาวิละ ซงึ่ เรยี กวา่ ตระกลู เจ้าเจ็ดตน ปกครองเมอื งเชยี งใหม่ เมืองลาพูนและลาปางสบื ต่อมาจนกระทัง่ ในรัชสมยั ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ฯ ได้โปรดใหป้ ฏิรปู การปกครอง หัวเมือง ประเทศราช ได้ยกเลกิ การมีเมืองประเทศราชในภาคเหนอื จัดตง้ั การปกครองแบบ มณฑลเทศาภิบาล เรยี กวา่ มณฑลพายพั และเม่อื ปี พ.ศ.2476 พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยูห่ ัวไดป้ รับปรงุ การปกครองเป็นแบบจังหวัด เชียงใหม่จงึ มีฐานะเปน็ จงั หวดั จนถงึ ปจั จุบนั 2. ขนาดพ้นื ที่และอาณาเขตการปกครอง 2.1 ขนาดพ้นื ท่ี - จงั หวดั เชยี งใหม่ต้งั อยู่ทางทิศเหนอื ของประเทศไทย เสน้ รงุ้ ที่ 16 องศาเหนอื และ เสน้ แวงที่ 99 องศาตะวันออก สงู จากระดับนา้ ทะเลประมาณ 1,027 ฟุต (310 เมตร) ห่างจากกรงุ เทพมหานคร 696 กโิ ลเมตร
2 - มพี ้นื ท่ีประมาณ 20,107.057 ตารางกิโลเมตร หรอื ประมาณ 12,566,910 ไร่ ใหญเ่ ป็นอนั ดับ 1 ของภาคเหนอื และใหญเ่ ป็นอนั ดับ 2 ของประเทศ จาแนกเป็น พน้ื ทีป่ ่าไม้ 69.92 % (8,787,656 ไร)่ พน้ื ทท่ี าการเกษตร 12.82 % (1,835,425 ไร)่ พน้ื ทอ่ี ยอู่ าศัยและอนื่ ๆ 17.26 % (2,167,971 ไร)่ 2.2 อาณาเขตตดิ ตอ่ ทิศเหนอื รัฐฉานของสหภาพพมา่ โดยมดี อยผีปันน้าของดอยคา ดอยปกกลา ดอยหลกั แต่ง ดอยถา้ ปอ่ ง ดอยถ้วย ดอยผาวอก และดอยอ่างขางอนั เป็นส่วนหนึง่ ของทวิ เขาแดนลาว เป็นเสน้ กั้นอาณาเขต ทิศใต้ อาเภอสามเงา อาเภอแมร่ ะมาด และอาเภอท่าสองยาง (จงั หวดั ตาก) มรี ่องนา้ แม่ตื่นและดอยผปี ันนา้ ดอยเรยี่ ม ดอยหลวงเปน็ เสน้ กน้ั อาณาเขต ทิศตะวันออก อาเภอแม่ฟ้าหลวง อาเภอเมืองเชยี งราย อาเภอแมส่ รวย อาเภอเวยี งปา่ เป้า(จังหวัดเชยี งราย) อาเภอเมืองปาน อาเภอ เมอื งลาปาง(จงั หวัดลาปาง) อาเภอบ้านธิ อาเภอเมืองลาพูน อาเภอปา่ ซาง อาเภอเวยี งหนองล่อง อาเภอบา้ นโฮ่ง และ อาเภอล้ี(จงั หวัดลาพูน) ส่วนที่ตดิ จังหวดั เชียงรายและลาปาง มีร่องน้าลึกของแมน่ า้ กก สันปันนา้ ดอยซาง ดอยหลมุ ขา้ ว ดอยแมว่ วั นอ้ ย ดอยวงั ผา และดอยแมโ่ ตเปน็ เส้นก้ันอาณาเขต ส่วนที่ตดิ จงั หวดั ลาพูนมีดอยขนุ ห้วยหละ ดอยชา้ งสงู และ ร่องน้าแม่ปงิ เป็นเสน้ กนั้ อาณาเขต
3 ทศิ ตะวันตก อาเภอปาย อาเภอเมอื งแมฮ่ อ่ งสอน อาเภอขนุ ยวม อาเภอ แม่ลาน้อย อาเภอแม่สะเรียง และอาเภอสบเมย(จังหวดั แม่ฮ่องสอน) มีดอยผปี นั นา้ ดอยกวิ่ แดง ดอยแปรเมือง ดอยแมย่ ะ ดอยอังเกตุ ดอยแมส่ ุรินทร์ ดอยขนุ ยวม ดอยหลวง และรอ่ งแมร่ ดิ แม่ออย และดอยผีปันน้า ดอยขุนแมต่ นื่ เปน็ เส้นก้นั อาณาเขต จงั หวัดเชยี งใหมม่ ีชายแดนติดตอ่ กบั ประเทศพม่าเพยี งประเทศเดียว และมี พ้นื ท่ีติดตอ่ ใน 5 อาเภอ ได้แก่ 1) อาเภอแม่อาย : 4 ตาบลไดแ้ ก่ ตาบลแมอ่ าย ตาบลมะลกิ า ตาบลแมส่ าว ตาบลท่าตอน เมอื งทต่ี ดิ ตอ่ คอื เมืองยอน รฐั ฉาน 2) อาเภอฝาง : 2 ตาบลไดแ้ ก่ ตาบลมอ่ นปนิ่ และตาบลแมง่ อน เมืองทต่ี ิดตอ่ คอื บ้านโป่งป่าแขม เมืองตว่ น รฐั ฉาน 3) อาเภอเชียงดาว : 1 ตาบลไดแ้ ก่ ตาบลเมืองนา เมืองที่ติดต่อคอื บา้ นนา้ ยมุ เมอื งตว่ น รัฐตองยี 4) อาเภอเวยี งแหง : 3 ตาบลไดแ้ ก่ ตาบลเปียงหลวง ตาบลเมอื งแหง ตาบล แสนไห เมอื งทต่ี ดิ ต่อคือ บ้านบางใหมส่ ูง บา้ นปางเสอื เฒ่า บา้ นกองเฮือบนิ เมืองต่วน รฐั ตองยี 5) อาเภอไชยปราการ : 1 ตาบลได้แก่ ตาบลหนวงบวั เมืองทต่ี ดิ ต่อคือ บ้าน โปง่ ปา่ แขม เมืองต่วน รัฐฉาน รวมระยะทางทง้ั สิน้ 227 กโิ ลเมตร พนื้ ทเ่ี ขตแดนส่วนใหญเ่ ป็นปา่ เขา ทาใหไ้ ม่ สามารถปักหลักเขตแดนไดอ้ ยา่ งชัดเจน จงึ เกิดปัญหาเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ บอ่ ยครัง้
4 3. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ โดยทว่ั ไปมสี ภาพพน้ื ทีเ่ ปน็ ภเู ขาและปา่ ละเมาะ มที ร่ี าบอยตู่ อนกลางตามสอง ฟากฝ่งั แมน่ ้าปงิ มีภูเขาสงู ทสี่ ดุ ในประเทศไทย คอื \"ดอยอนิ ทนนท\"์ สงู ประมาณ 2,575 เมตร อยใู่ นเขตอาเภอจอมทอง นอกจากนยี้ งั มีดอยอ่นื ๆ ที่มี ความสูงรองลงมาอีก หลายแหง่ เชน่ ดอยฟ้าหม่ ปก สูง 2,285 เมตร ดอยหลวงเชียงดาว สงู 2,170 เมตร ดอยสุเทพ สูง 1,601 เมตร สภาพพื้นทแี่ บ่งออกได้เปน็ 2 ลกั ษณะ คือ พน้ื ทภ่ี ูเขา ส่วนใหญอ่ ย่ทู างทิศเหนือและทิศตะวันตกของจังหวัด คดิ เปน็ พ้นื ท่ี ประมาณ 80% ของพ้นื ที่จังหวัด เป็นพนื้ ทป่ี ่าต้นน้าลาธารไมเ่ หมาะตอ่ การเพาะปลกู พ้นื ที่ราบลุ่มนา้ และทร่ี าบเชิงเขา กระจายอยู่ทวั่ ไประหวา่ งหุบเขาทอดตัวใน แนวเหนอื -ใตอ้ นั ได้แก่ ทร่ี าบลมุ่ น้าปงิ ลมุ่ น้าฝาง และลมุ่ นา้ แม่งัด เป็นพนื้ ท่ีทีม่ คี วาม อุดมสมบรู ณเ์ หมาะสมตอ่ การเกษตร 4. ลกั ษณะภมู ิอากาศ เชียงใหมเ่ ปน็ จังหวดั ทมี่ สี ภาพอากาศคอ่ นขา้ งเยน็ เกือบตลอดทงั้ ปี มอี ณุ หภมู ิ เฉลี่ยท้งั ปี 25.4 องศาเซลเซยี ส โดยมีค่าอณุ หภมู ิสูงสุดเฉลี่ย 31.8 องศาเซลเซียส อณุ หภูมิต่าสุดเฉลี่ย 20.1 องศาเซลเซียส มปี ริมาณน้าฝนเฉลยี่ 1,100-1,200 มลิ ลิเมตร สภาพภมู อิ ากาศจงั หวดั เชียงใหมอ่ ยภู่ ายใต้อทิ ธิพลมรสุม 2 ชนิด คอื ลมมรสุมตะวันตก เฉยี งใต้ และลมมรสมุ ตะวันออกเฉยี งเหนอื แบง่ ภูมอิ ากาศออกไดเ้ ปน็ 3 ฤดู ไดแ้ ก่ - ฤดูฝน เริ่มตัง้ แตก่ างเดอื นพฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคม - ฤดหู นาว เร่ิมตง้ั แตเ่ ดอื นพฤศจกิ ายนไปจนถงึ กลางเดอื นกุมภาพันธ์ - ฤดรู อ้ น เร่ิมตง้ั แตเ่ ดอื นกุมภาพนั ธถ์ งึ กางเดือนพฤษภาคม
5 5. การปกครองและการเมอื ง 5.1 การปกครอง - แบง่ เขตการปกครอง ออกเปน็ 25 อาเภอ 204 ตาบล และ 2,066 หมู่บา้ น - มีหนว่ ยงานทตี่ ั้งอยใู่ นพื้นท่ี ดังน้ี 1) หน่วยงานบริหารราชการส่วนกลาง จานวน 166 หนว่ ยงาน 2) หนว่ ยงานบรหิ ารราชการส่วนภมู ภิ าค จานวน 34 หน่วยงาน 3) หนว่ ยงานบรหิ ารราชการส่วนทอ้ งถ่ิน จานวน 211 แห่ง ประกอบด้วย องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั จานวน 1 แห่ง เทศบาลนคร จานวน 1 แห่ง เทศบาลเมือง จานวน 4 แห่ง เทศบาลตาบล จานวน 100 แหง่ องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล จานวน 105 แหง่ หมายเหตุ ขอ้ มูล ณ เดือนกันยายน 2555 - รายนามผ้บู รหิ ารหนว่ ยงานราชการสว่ นท้องถิน่ ทีส่ าคัญ 1) นายบุญเลศิ บรู ณุปกรณ์ นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั เชยี งใหม่ 2) นายทศั นัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรนี ครเชียงใหม่ 3) นายปยิ ะศักด์ิ ยโสธนชยั นายกเทศมนตรเี มืองแม่โจ้ 4) นายจรสั ไชยยา นายกเทศมนตรเี มืองเมอื งแกนพัฒนา 5) นายศภุ คิน วงษ์ษา นายกเทศมนตรเี มืองต้นเปา 6) นายธนวฒั น์ ยอดใจ นายกเทศมนตรเี มืองแมเ่ หียะ 5.2 การเลือกตงั้ 1) การเลอื กตง้ั สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร - ขอ้ มูลเขตเลือกตัง้ จงั หวัดเชยี งใหม่มีเขตเลือกตงั้ 10 เขต มจี านวน ส.ส. ได้ ท้งั สิ้น 10 คน
6 - ผลการเลือกตงั้ เมือ่ วนั ท่ี 3 กรกฎาคม 2554 จังหวดั เชยี งใหมม่ ีผมู้ ีสทิ ธิ เลือกต้ังท้ังสิน้ 1,205,955 คน และมีผมู้ าใช้สิทธิ 1,002,549 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 83.13 (อนั ดับ 2 ของประเทศ) มบี ตั รเสีย รอ้ ยละ 7.69 มผี ้ไู ดร้ ับเลอื กเปน็ ผู้แทนราษฎร จานวน 10 คน ดังนี้ 1. เขต 1 ได้แก่ นางสาวทศั นีย์ บรู ณุปกรณ์ (พรรคเพ่อื ไทย ) พน้ื ท่ี อาเภอเมอื งเชียงใหม่ (เฉพาะตาบลชา้ งเผือก ตาบลแม่เหียะ ตาบลสุเทพ ตาบลศรีภมู ิ ตาบลชา้ งม่อย ตาบลพระสิงห์ ตาบลปา่ ตัน ตาบลหายยา และตาบลช้างคลาน) 2. เขต 2 ได้แก่ นายกฤษดาภรณ์ เสียมภักดี (พรรคเพือ่ ไทย) พื้นที่ อาเภอเมอื งเชียงใหม่ (เฉพาะตาบลวดั เกต ตาบลฟา้ ฮ่าม ตาบลหนองหอย ตาบลทา่ ศาลา ตาบลหนองปา่ ครง่ั และตาบลปา่ แดด) และอาเภอสารภี 3. เขต 3 ไดแ้ ก่ นางสาวชินณชิ า วงศส์ วัสด์ิ(พรรคเพื่อไทย) พนื้ ท่ี อาเภอดอยสะเกด็ อาเภอสันกาแพง และอาเภอแมอ่ อน 4. เขต 4 ได้แก่ นายวิทยา ทรงคา (พรรคเพอื่ ไทย) พนื้ ที่ อาเภอสันทราย อาเภอพรา้ ว และอาเภอแมแ่ ตง(เฉพาะตาบลแม่หอพระ) 5. เขต 5 ได้แก่ นายประสิทธ์ิ วฒุ นิ นั ชยั (พรรคเพอ่ื ไทย) พื้นที่ อาเภอแมอ่ าย และอาเภอฝาง (ยกเวน้ ตาบลแมข่ ่า) 6. เขต 6 ได้แก่ นายจุลพันธ์ อมรววิ ัฒน์ (พรรคเพ่ือไทย) พน้ื ที่ อาเภอเชยี งดาว อาเภอเวยี งแหง อาเภอไชยปราการ และอาเภอฝาง (เฉพาะตาบลแมข่ ่า) 7. เขต 7 ได้แก่ นายบญุ ทรง เตรยิ าภริ มย์ (พรรคเพือ่ ไทย) พื้นท่ี อาเภอแม่ริม และอาเภอแมแ่ ตง (ยกเว้นตาบลแม่หอพระ) และ อาเภอเมอื งเชยี งใหม่ (เฉพาะตาบลสนั ผีเส้อื ) 8. เขต 8 ไดแ้ ก่ นายนพคุณ รัฐผไท (พรรคเพอ่ื ไทย) พื้นท่ี อาเภอหางดง อาเภอสันปา่ ตอง และอาเภอสะเมงิ (เฉพาะตาบลสะเมิงใต้ และตาบลสะเมงิ เหนือ)
7 9. เขต 9 ได้แก่ นายสรุ พล เกียรติไชยากร (พรรคเพอ่ื ไทย) พ้ืนที่ อาเภอแมว่ าง อาเภอจอมทอง อาเภอดอยหลอ่ อาเภอกลั ยาณิวัฒนา อาเภอแม่แจม่ (เฉพาะตาบลแมน่ าจร) และอาเภอสะเมิง (ยกเว้น ตาบลสะเมิงใต้ และตาบลสะเมิงเหนือ) 10. เขต 10 ได้แก่ นายศรีเรศ โกฎคาลอื (พรรคเพื่อไทย) พืน้ ที่ อาเภอแมแ่ จ่ม (ยกเวน้ ตาบลแมน่ าจร) อาเภอฮอด อาเภอดอยเตา่ และอาเภออมกอ๋ ย ผลการเลอื กต้งั ซอ่ มสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร เขต 3 เม่ือวันท่ี 2 มถิ ุนายน 2555 (อาเภอดอยสะเกด็ /อาเภอสนั กาแพง/อาเภอแมอ่ อน) ผ้มู ีสทิ ธเิ ลอื กตั้ง จานวน 136,273 คน มีผู้มาใชส้ ทิ ธิ 100,363 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 73.65 มบี ตั รเสยี รอ้ ยละ 1.81 ผู้ได้รบั การเลือกตงั้ เป็นผแู้ ทนราษฎร จานวน 1 คน คือ นายเกษม นิมมลรตั น์ พรรค เพื่อไทย 2) การเลอื กตั้งสมาชิกวฒุ ิสภา - ขอ้ มูลเขตเลือกตัง้ จังหวัดเชยี งใหมเ่ ป็นเขตเลือกตง้ั สมาชกิ วุฒิสภาเป็นการ ทัว่ ไป พ.ศ. 2551 มสี มาชิกวุฒิสภาไดจ้ านวน 1 คน - ผลการเลอื กตั้งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2551 มผี มู้ าใชส้ ิทธิ 818,101 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 70.12 มีบัตรเสยี รอ้ ยละ 4.63 มผี ู้ได้รบั เลือกเป็นวฒุ สิ ภาจังหวดั เชยี งใหม่ จานวน 1 คน ได้แก่ นายชูชยั เลศิ พงศ์อดศิ ร 3) การเลอื กตงั้ นายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั เชยี งใหม่ เมอ่ื วนั ที่ 23 มถิ นุ ายน 2555 จงั หวัดเชยี งใหม่มผี ้มู สี ทิ ธเิ ลอื กต้งั ทง้ั สนิ้ จานวน 1,183,316 คน มีผูม้ าใช้ สิทธิ 802,264 คน คดิ เป็นร้อยละ 67.80 มีบัตรเสีย ร้อยละ 5.25 มผี ไู้ ด้รับการเลือกตั้ง เป็นนายกองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั เชยี งใหม่ คือ นายบญุ เลิศ บรู ณุปกรณ์ สมาชกิ องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัดเชยี งใหม่ มีจานวน 42 คน
8 6. ประชากร จงั หวัดเชยี งใหม่มีประชากรรวมทัง้ สิน้ 1,651,988 คน แยกเป็น ชาย 805,154 คน หญิง 846,834 คน ความหนาแน่นเฉลยี่ 82.16 คน/ตร.กม. (ข้อมลู ณ วนั ที่ 28 กนั ยายน 2555) ประชากรชนกลมุ่ นอ้ ยในจังหวัด (ขอ้ มูล ณ 30 กรกฎาคม 2554) มี จานวน 72,791 คน กระจายตามอาเภอตา่ ง ๆ ใน 17 อาเภอ โดยแยกเปน็ 1) บุคคลบนพ้ืนทส่ี ูง จานวน 7,184 คน 2) อดีตทหารจนี คณะชาติ จานวน 643 คน 3) จนี ฮ่ออพยพ จานวน 204 คน 4) จนี ฮอ่ อิสระ จานวน 1,950 คน 5) ผู้พลัดถน่ิ สญั ชาตพิ ม่า จานวน 366 คน 6) ผหู้ ลบหนีเขา้ เมอื งจากพม่า (มถี ่นิ ทอี่ ยถู่ าวร) จานวน 1,785 คน 7) ผูห้ ลบหนเี ข้าเมอื งจากพม่า (อยกู่ ับนายจา้ ง) จานวน 3,331 คน 8) ไทยลอ้ื จานวน 266 คน 9) ชมุ ชนบนพ้ืนทส่ี งู ที่เปน็ ชาวเขา จานวน 3,728 คน 10)ชมุ ชนบนพนื้ ทส่ี งู ท่ีไม่ใช่ชาวเขา จานวน 35,490 คน 11)บุตรของชนกลมุ่ นอ้ ยกลุม่ ต่างๆ จานวน 17,844 คน อาเภอท่มี ปี ระชากรชนกลุ่มนอ้ ยมากท่สี ดุ ได้แก่ อาเภอฝาง รองลงมา ไดแ้ ก่ อาเภอเชียงดาว อาเภอแม่อาย และอาเภอเวยี งแหง
9 7. สภาพเศรษฐกจิ 1) ผลิตภัณฑ์มวลรวมจงั หวดั (GPP) ปี 2553 ณ ราคาประจาปี มมี ูลค่า 147,561 ลา้ นบาท เพิม่ ข้นึ จากปกี ่อน 18,035 ล้านบาท - ภาคเกษตร 34,956 ล้านบาท (23.7%) - นอกภาคเกษตร 112,605 ลา้ นบาท (76.3%) 2) รายไดส้ ว่ นใหญ่ขน้ึ อยู่กบั ภาคนอกการเกษตร สาขาการผลิตทส่ี าคัญ อนั ดับ 1 สาขาการเกษตร รอ้ ยละ 23.7 มลู ค่า 34,956 ลา้ นบาท อันดับ 2 สาขาการขายสง่ ขายปลกี ร้อยละ 12.6 มลู คา่ 18,628 ลา้ นบาท อนั ดบั 3 สาขาอตุ สาหกรรม รอ้ ยละ 9.8 มูลคา่ 14,468 ลา้ นบาท อับดับ 4 สาขาการศึกษา ร้อยละ 7.8 มูลค่า 11,567 ลา้ นบาท อนั ดบั 5 สาขาบรกิ ารด้านอสงั หารมิ ทรพั ย์ รอ้ ยละ 7.4 มลู คา่ 10,900 ลา้ นบาท อันดบั 6 สาขาบริหารราชการฯ ร้อยละ 7.4 มลู ค่า 10,862 ลา้ นบาท 3)อตั ราการขยายตวั ทางเศรษฐกิจ เฉลยี่ รอ้ ยละ 3.7 ปรบั ตัวดขี ้นี จากท่ี ขยายตวั ร้อยละ 0.5 ในปีก่อน 4) รายไดป้ ระชากรต่อหัว เฉลย่ี 92,110 บาท/คน/ปี อยู่ท่อี ันดบั ท่ี 3 ของ ภาคเหนอื รองจากจังหวดั ลาพูน และจงั หวัดกาแพงเพชร ทีม่ า : สานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ 5) รายไดป้ ระชากรในเขตชนบท เฉลย่ี 53,092 บาท/คน/ปี (จปฐ. ปี 2554) - อาเภอทม่ี รี ายได้เฉล่ยี ต่าทส่ี ุด (จนที่สดุ ) คอื อ.อมก๋อย 29,198 บาท/คน/ปี - อาเภอท่รี ายไดส้ งู สดุ คอื อ.ฝาง 110,593 บาท/คน/ปี 6) ผลิตภัณฑ์ OTOP จังหวัดเชียงใหม่ (ปี 2555) รายไดจ้ ากการจาหนา่ ย ผลิตภัณฑ์ OTOP จานวน 5,432,857,880 บาท
10 สาหรับกล่มุ ผลติ ภณั ฑ์ OTOP ในทกุ อาเภอ มจี านวน 985 กลุม่ แบ่ง เปน็ 5 ระดับ ดงั นี้ 6.1) ระดับ 5 ดาว จานวน 55 กลุ่ม 6.2) ระดบั 4 ดาว จานวน 149 กลมุ่ 6.3) ระดบั 3 ดาว จานวน 157 กลุ่ม 6.4) ระดบั 2 ดาว จานวน 139 กลมุ่ 6.5) ระดบั 1 ดาว จานวน 17 กลุ่ม 6.6) ไม่มดี าว จานวน 468 กลุม่ โดยในปี 2555 มผี ูผ้ ลิตและผูป้ ระกอบการ OTOP ลงทะเบยี น OTOP จาแนกตามประเภทผู้ผลติ /ผู้ประกอบการ จานวน 25 อาเภอ มี 3 ประเภท รวม 1,195 ราย ดงั น้ี 1) กล่มุ ผูผ้ ลติ ชุมชน จานวน 447 ราย 2) กลุ่มผู้ประกอบการทเี่ ป็นเจา้ ของรายเดยี ว จานวน 712 ราย 3) กลมุ่ SMEs จานวน 36 ราย และแยกตามประเภทผลิตภัณฑ์ มี 5 ประเภท จานวน 3,319 ผลติ ภัณฑ์ ดังนี้ 1) ประเภทอาหาร จานวน 460 ผลติ ภัณฑ์ 2) ประเภทผ้าและเครอ่ื งแต่งกาย จานวน 1,263 ผลิตภัณฑ์ 3) ประเภทสมุนไพรท่ไี มใ่ ช่อาหารและยา จานวน 259 ผลติ ภณั ฑ์
11 8. การท่องเที่ยว ปี 2551 - จานวนนกั ทอ่ งเท่ียว 5,313,352 คน ชาวไทย 3,842,549 คน (72.31%) ตา่ งประเทศ 1,470,802 คน (27.69%) - รายได้ 38,135.33 ลา้ นบาท ชาวไทย 22,928.84 ล้านบาท (47.97%) ตา่ งประเทศ 15,206.49 ลา้ นบาท (52.03%) ลดลงจากปี 2550 จานวน 758.92 ล้านบาท หรือ 1.95% (ปี 2550 มี รายได้ 38,894.25 ล้านบาท) - ระยะเวลาพักเฉลี่ย 2.65 วัน ปี 2552 - จานวนนักท่องเทย่ี ว 4,343,090 คน ชาวไทย 3,101,790 คน (71.42%) ต่างประเทศ 1,241,300 คน (28.58%) - รายได้ 32,605.79 ลา้ นบาท ชาวไทย 19,112.02 ลา้ นบาท (58.61%) ต่างประเทศ 13,493.77 ลา้ นบาท (41.39%) ลดลงจากปี 2551 จานวน 5,529.54 ลา้ นบาท หรอื 14.50% - ระยะเวลาพกั เฉล่ีย 3.503 วนั - จานวนโรงแรมทพี่ กั 418 แหง่ หอ้ งพกั 20,816 หอ้ ง ปี 2553 - จานวนนักทอ่ งเทีย่ ว 5,040,917 คน เพ่มิ ข้ึนจากปี 2552 จานวน 697,827 คน หรือ 16.07% แยกเปน็ ชาวไทย 3,345,629 คน (66.37%) ต่างประเทศ 1,695,288 คน (33.63%) ชาวต่างประเทศที่เดินทางเขา้ มาจงั หวดั เชียงใหม่ 3 อันดับแรก ไดแ้ ก่ นักทอ่ งเที่ยวประเทศสหรัฐอมริกา ประเทศญป่ี นุ่ และ ประเทศอนื่ ๆ - รายได้ 39,507.03 ลา้ นบาท เพ่ิมขึน้ จากปี 2552 จานวน 6,901.24 ลา้ นบาท หรือ 21.17% แยกเป็น ชาวไทย 20,975.55 ล้านบาท (53.09%) ตา่ งประเทศ 18,531.48 ล้านบาท (46.91%) - ระยะเวลาพกั เฉลีย่ 3.39 วัน - ห้องพกั 29,750 หอ้ ง
12 ปี 2554 - จานวนนกั ทอ่ งเท่ียว 5,661,673 คน เพ่ิมขน้ึ จากปี 2553 จานวน 620,756 คน หรือ 12.31% แยกเป็น ชาวไทย 3,622,511 คน (63.98 %) ต่างประเทศ 2,039,162 คน (36.02 %) ชาวต่างประเทศท่เี ดนิ ทางเข้ามาจังหวัดเชยี งใหม่ 3 อันดบั แรก ได้แก่ นักทอ่ งเทย่ี วประเทศสหรัฐอมรกิ า ประเทศฝรง่ั เศส และ ประเทศญีป่ ่นุ - รายได้ 43,070.24 ลา้ นบาท เพิม่ ขน้ึ จากปี 2553 จานวน 3,563.21 ลา้ นบาท หรือ 9.02% แยกเปน็ ชาวไทย 23,973.93 ล้านบาท (55.66%) ต่างประเทศ 19,096.31 ล้านบาท (44.34%) - ระยะเวลาพักเฉล่ยี 3.19 วัน - ห้องพัก 36,884 ห้อง
13 9. การเกษตร 1) พื้นท่ีการเกษตรของจังหวัด มปี ระมาณ 1,835,425 ไร่ (รอ้ ยละ 12.82 ของ พนื้ ท่ีจงั หวดั ) แยกเป็น • พืน้ ท่ีปลกู ขา้ ว 491,617 ไร่ • ปลูกพืชไร่ 286,211 ไร่ • ปลูกพืชสวน 609,505 ไร่ • อื่น ๆ 367,105 ไร่ 2) พ้นื ทกี่ ารเกษตรในเขตชลประทาน จานวน 642,979 ไร่ คดิ เป็นร้อยละ 35 ของพ้นื ทีก่ ารเกษตร และพนื้ ทีเ่ กษตรนอกเขตชลประทาน 1,192,446 บาท คิดเปน็ รอ้ ยละ 65 ของพ้ืนทก่ี ารเกษตรทั้งจงั หวัด 3) การชลประทาน จังหวดั เชยี งใหมเ่ ป็นพนื้ ที่ตอนบนของประเทศ มแี หล่งกกั เกบ็ นา้ เปน็ จานวนมาก สาหรับใช้ในการชลประทาน การเกษตร และการอปุ โภคบริโภค เขอ่ื นเกบ็ น้าขนาดใหญใ่ นจังหวดั เชียงใหม่ มจี านวน 2 แหง่ ได้แก่ 3.1) เขอ่ื นแม่งัดสมบูรณช์ ล ตง้ั อยู่ทต่ี าบลชอ่ แล อาเภอแมแ่ ตง มคี วามจทุ ี่ ระดบั เกบ็ กัก จานวน 265 ล้านลกู บาศก์เมตร มีพน้ื ทช่ี ลประทาน ประมาณ 100,000 ไร่ (พืน้ ทช่ี ลประทานของอา่ งเก็บน้าแมง่ ัดสมบูรณช์ ล 30,000 ไร่ และ พน้ื ท่ชี ลประทานของฝายแมแ่ ฝก 70,000 ไร)่ 3.2) เขื่อนแม่กวงอดุ มธารา ตง้ั อยูท่ ต่ี าบลลวงเหนือ อาเภอดอยสะเก็ด มีความ จทุ ี่ระดบั เกบ็ กกั จานวน 263 ล้านลกู บาศก์เมตร มพี ้นื ท่ีชลประทาน ประมาณ 175,000 ไร่ นอกจากน้ี ยังมีโครงการชลประทานขนาดใหญ่ ประเภทฝายทดนา้ จานวน 1 แหง่ คือ ฝายแมแ่ ตง ทต่ี าบลแมแ่ ตง อาเภอแมแ่ ตง มพี น้ื ทีช่ ลประทาน 99,298 ไร่
14 อ่างเก็บน้าขนาดกลางในจงั หวัดเชยี งใหม่ มีจานวน 12 แหง่ ดังนี้ ที่ โครงการ ตาบล อาเภอ ความจุ พน้ื ท่ี (ลา้ น ลบ.ม.) ชลประทาน 1 อา่ งเกบ็ นา้ แม่ออน ออนเหนอื แม่ออน 4.530 (ไร่) 2 อา่ งเก็บนา้ แมต่ ะไคร้ ทาเหนือ แม่ออน 0.850 4,310 3 อ่างเก็บนา้ แม่จอกหลวง ดอนแก้ว แมร่ มิ 1.100 600 4 อ่างเกบ็ นา้ แม่โกน๋ ป่าไหน่ พรา้ ว 5.530 5 อา่ งเก็บนา้ ห้วยมะนาว บ้านกาด สนั ป่าตอง 4.300 - 6 อ่างเก็บนา้ โปง่ จ้อ สันติสขุ ดอยหลอ่ 2.600 7,971 7 อ่างเก็บนา้ หว้ ยเดื่อ แมง่ อน ฝาง 4.276 2,044 8 อา่ งเกบ็ น้าแม่แหลงหลวง แมอ่ าย แมอ่ าย 3.641 13,700 9 อา่ งเก็บนา้ แม่ตูบ โปง่ ท่งุ ดอยเตา่ 39.000 3,200 10 อ่างเก็บน้าสนั หนอง ชา่ งเค่งิ แม่แจ่ม 1.450 2,959 11 อา่ งเกบ็ นา้ แมข่ ้อน เมืองงาย เชยี งดาว 4.080 7,592 ไชย 1,100 12 อ่างเก็บน้าแมท่ ะลบหลวง แม่ทะลบ ปราการ 15.300 5,000 รวมจานวน 12 แห่ง 86.657 9,000 57,476
15
16 4) จานวนครัวเรอื นเกษตรกร 176,118 ครวั เรือน (ณ วนั ที่ 30 กนั ยายน 2555) 5) ผลผลติ พืชเศรษฐกจิ สาคัญ ปี 2554/55 ของจงั หวัดเชยี งใหม่ ได้แก่ ข้าว พื้นทีป่ ลูก 491,617 ไร่ ผลผลติ เฉล่ีย 596 ไร่ คดิ เปน็ เงินประมาณ 3,662,546,650 บาท ลาไย พ้ืนทปี่ ลกู 315,457 ไร่ ผลผลิตเฉล่ยี 897 ไร่ คดิ เป็นเงนิ ประมาณ 4,490,549,066.25 บาท ลิน้ จี่ พ้นื ทปี่ ลูก 56,779 ไร่ ผลผลิตเฉล่ีย 570 ไร่ คิดเป็นเงนิ ประมาณ 770,439,565.20 บาท กระเทยี ม พื้นทีป่ ลูก 37,038 ไร่ ผลผลิตเฉล่ยี 3,490 ไร่ คดิ เป็นเงิน ประมาณ 1,225,409,637.60 บาท หอมแดง พืน้ ทีป่ ลูก 14,930 ไร่ ผลผลิตเฉล่ีย 3,506 ไร่ คิดเป็นเงิน ประมาณ 654,830,695.80 บาท หอมหวั ใหญ่ พนื้ ท่ปี ลกู 8,985 ไร่ ผลผลติ เฉลี่ย 4,612 ไร่ คดิ เปน็ เงนิ ประมาณ 291,729,292.80 บาท สม้ เขียวหวาน พ้นื ท่ีปลูก 33,535 ไร่ ผลผลิตเฉลยี่ 2,438 ไร่ คิดเป็นเงิน ประมาณ 1,787,364,162.36 บาท
17 10. การอตุ สาหกรรม 1) จานวนโรงงาน 1,420 แห่ง เงินทุน 32.732 ลา้ นบาท จา้ งแรงงาน 8,128 คน (ข้อมูล ณ วันท่ี 30 กนั ยายน 2555) 2) อุตสาหกรรมทส่ี าคัญ ได้แก่ อตุ สาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมผลิตภัณฑโ์ ลหะ อตุ สาหกรรมอโลหะ 3) อตุ สาหกรรมทไี่ ดก้ ารส่งเสริมการลงทนุ (BOI) ปี 2554 จานวน 23 โครงการ เงินลงทนุ 409.2 ล้านบาท จา้ งแรงงาน 770 คน โครงการที่ไดร้ ับการส่งเสรมิ การลงทนุ ปี 2555 หมวด จานวน เงนิ ลงทุน การจ้าง เกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร โครงการ (ลา้ นบาท) งาน(คน) เหมืองแรแ่ ละเซรามกิ ส์ อุตสาหกรรมเบา 6 167.2 329 เคร่อื งจักรและอุปกรณ์ - - - อิเล็กทรอนิกส์ - - - 2 57 เคมภี ัณฑ์และกระดาษ 7 33.5 106 บรกิ าร 29.3 1 30 รวม 7 0.9 248 23 178.3 770 409.2 4) การลงทนุ จากตา่ งประเทศผา่ น BOI ภาคเหนือ ประเทศที่มกี ารลงทนุ ในจังหวดั เชยี งใหม่ มีจานวน 9 ประเทศ ดงั นี้ 4.1) ประเทศญปี่ ่นุ จานวน 3 โครงการ เงินลงทนุ 22.2 ล้านบาท (โครงการรว่ มทนุ กับประเทศสวติ เซอร์แลนด์ 1 โครงการ) 4.2) ประเทศเนเธอร์แลนด์ จานวน 2 โครงการ เงนิ ลงทนุ 3.9 ลา้ นบาท 4.3) ประเทศรสั เซีย จานวน 1 โครงการ เงินลงทุน 19.9 ล้านบาท (โครงการรว่ มทุนประเทศยเู ครน) 4.4) ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ จานวน 1 โครงการ เงินลงทนุ 120 ล้านบาท
18 4.5) ประเทศสหรัฐอเมริกา จานวน 1 โครงการ เงนิ ลงทนุ 2 ลา้ นบาท 4.6) ประเทศอังกฤษ จานวน 1 โครงการ เงนิ ลงทุน 6 ล้านบาท 4.7) ประเทศออสเตรเลีย จานวน 1 โครงการ เงนิ ลงทนุ 1.1 ลา้ นบาท 11. การพาณิชยกรรม ในปี 2555 มนี ิตบิ ุคคลจดทะเบียนตง้ั ใหม่ จานวน 1,148 ราย แยกเปน็ บรษิ ทั จากัด 675 ราย หา้ งห้นุ สว่ นจากดั 468 ราย และหา้ งหุ้นสว่ นสามญั นิติบคุ คล 5 ราย จดทะเบยี นเลกิ จานวน 376 ราย แยกเปน็ บรษิ ทั จากดั 143 ราย หา้ งหนุ้ สว่ นจากัด 226 ราย และ ห้างหุน้ สว่ นสามัญนิตบิ คุ คล 7 ราย มีนติ ิบคุ คลทย่ี งั คงอยู่ ณ วนั ที่ 31 สิงหาคม 2555 จานวน 12,270 ราย แยก เปน็ บรษิ ทั จากัด 6,846 ราย ห้างหนุ้ ส่วนจากดั 5,376 ราย และหา้ งหุ้นส่วนสามญั นิติ บุคคล 48 ราย ธุรกิจท่ีจดทะเบียนมากทส่ี ดุ ได้แก่ 1. ธรุ กิจรับเหมาก่อสร้าง จานวน 1,389 ราย 2. ธรุ กจิ การให้เช่าขายการซอ้ื การดาเนนิ การดา้ นอสังหาริมทรัพย์ จานวน 853 ราย 3. ธุรกิจการขายสง่ สนิ คา้ ทีใ่ ช้ในครัวเรือน จานวน 820 ราย 4. ธรุ กิจการขายปลกี สนิ คา้ ใหม่ในร้านเฉพาะอยา่ งสินค้านั้น ๆ จานวน 789 ราย ธรุ กจิ ที่จดทะเบียนรองลงมา ไดแ้ ก่ 1. ธุรกิจโรงแรม สถานท่ีอยู่อาศัยอื่น ๆ จานวน 642 ราย 2. ธรุ กจิ การขายสง่ สินคา้ ขัน้ กลางทมี่ ิใชส่ นิ ค้าทางการเกษตรและของทไี่ ม่ใช้แลว้ จานวน 614 ราย 3. ธรุ กิจการขายสง่ วตั ถดุ บิ ทางการเกษตร สัตวม์ ีชวี ติ อาหารและเคร่ืองดม่ื จานวน 537 ราย 4. ธุรกจิ บริหารท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั การขนสง่ และบรกิ ารด้านการท่องเทยี่ ว จานวน 451 ราย
19 12. แรงงาน 12.1 ภาวะการมงี านทา 1) กาลงั แรงงาน (ปี 2555) 971,540 คน (ประมาณ 72.83 % ของ ประชากรเชียงใหม่) - มงี านทา 962,207 คน - วา่ งงาน 9,333 คน - ผู้รอฤดูกาล 1,396 คน 2) อตั ราการวา่ งงานเฉลย่ี 1.0% 3) อัตราค่าจา้ งแรงงาน 251 บาท/วนั (ทม่ี า : การสารวจสภาการณ์ทางานของประชากร สานักงานสถิตแิ หง่ ชาติ กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร ณ ไตรมาส 2 (เมษายน – มิถนุ ายน 2555) 12.2 แรงงานตา่ งดา้ ว 1. แรงงานตา่ งดา้ วหนเี ขา้ เมอื งสญั ชาตพิ มา่ ลาว และกมั พชู า 1.1 จานวนแรงงานตา่ งดา้ ว 76,932 คน - ชาวพมา่ 76,692 คน - ลาว 193 คน - กัมพชู า 47 คน 1.2 สว่ นใหญ่ประกอบอาชพี รับจา้ งงานในกจิ การ - งานกอ่ สร้าง 30,947 คน - งานเกษตรและปศสุ ัตว์ 22,158 คน - การใหบ้ รกิ ารตา่ งๆ 8,176 คน - ผูร้ ับใชใ้ นบา้ น 5,157 คน - อนื่ ๆ 10,464 คน
20 2. แรงงานตา่ งดา้ วบนพนื้ ท่สี งู (มาตรา 13) 2.1 จานวนแรงงานตา่ งด้าว 24,580 คน 2.2 ส่วนใหญป่ ระกอบอาชีพรบั จา้ งงานในกิจการ - งานกอ่ สร้าง 9,973 คน - งานเกษตรและปศสุ ตั ว์ 4,010 คน - ผรู้ ับใช้ในบ้าน 1,001 คน - อน่ื ๆ 9,596 คน 3. แรงงานตา่ งด้าวตามข้อตกลงตาม MOU 3.1 จานวนแรงงานตา่ งด้าว 13 คน - ลาว 13 คน 3.2 ส่วนใหญ่ประกอบอาชพี รับจ้างงานในกิจการ - ผลิตอลมู เิ นยี มและกระจก 3 คน - ผลิตเฟอร์นเิ จอร์ 1 คน - ร้านอาหาร 1 คน - ผู้รับใชใ้ นบ้าน 6 คน - รบั เหมากอ่ สรา้ ง 1 คน - โรงงานเย็บผ้า 1 คน 4. คนตา่ งดา้ วเขา้ มาทางานในราชอาณาจักรตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการ สง่ เสรมิ การลงทนุ (BOI) มาตรา 12 จานวน 322 คน 5. คนตา่ งด้าวมถี ิ่นทีอ่ ยใู่ นราชอาณาจกั รหรือไดร้ บั อนญุ าตให้เข้ามาใน ราชอาณาจกั รเป็นการชวั่ คราวตามกฎหมายวา่ ดว้ ยคนเข้าเมือง มาตรา 9,11 จานวน 3,688 คน
21 13. สภาพทางสงั คม 13.1 ภาษา ภาษาราชการทใี่ ช้ในจงั หวัดเชียงใหม่ ใชภ้ าษาไทยเปน็ หลัก และมภี าษา ท้องถน่ิ ซงึ่ เรยี กวา่ “ภาษาคาเมอื ง” ซง่ึ แต่ละทอ้ งถนิ่ ของภาคเหนือมีลักษณะของภาษา ทีค่ ลา้ ยๆกนั จะแตกตา่ งกนั เฉพาะสาเนยี งและศพั ทบ์ างคา 13.2 ศาสนา ประชากรจงั หวัดเชียงใหมม่ ผี ู้นบั ถอื ศาสนาพุทธ 91.80 % ศาสนาอสิ ลาม 1.17% ศาสนาคริสต์ 5.60% ศาสนาพราหมณ์ ฮนิ ดู ซิกส์ 0.02% ศาสนาอื่น ๆ 1.41% วัดที่สาคญั ในเชยี งใหม่ ตามหลกั ทักษาเมอื ง มจี านวน 9 วดั ไดแ้ ก่ 1) ศนู ยก์ ลางเมือง หรือ เกตเุ มอื ง คือ วดั เจดยี ห์ ลวงวรวหิ าร(โชตกิ าราม) อ.เมืองฯ 2) มลู เมือง อยทู่ างดา้ นทศิ ตะวันออก คอื วัดบพุ พาราม อ.เมอื งฯ 3) อุตสาหะเมอื ง อย่ทู างดา้ นทศิ จะออกเฉียงใต้ คอื วดั ชยั มงคล อ.เมืองฯ 4) มนตรเี มือง อยูท่ างด้านทศิ ใต้ คอื วดั นนั ทาราม อ.เมอื งฯ 5) กาลกณิ เี มือง อยู่ทางด้านทศิ ตะวนั ตกเฉียงใต้ คอื วัดรา่ เปิง (ตโปทาราม) อ.เมอื งฯ 6) บริวารเมอื ง อยู่ทางดา้ นทิศตะวันตก คือ วัดสวนดอก พระอารามหลวง (บปุ ผาราม) อ.เมอื งฯ 7) อายุเมือง อย่ทู างดา้ นทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนือ คอื วัดเจด็ ยอด พระอาราม หลวง (โพธารามมหาวหิ าร) อ.เมืองฯ 8) เดชเมอื ง อยูท่ างด้านทศิ เหนือ คอื วดั เชียงยนื (ทีฆวสั สาราม) อ.เมืองฯ 9) ศรีเมือง อย่ทู างด้านทิศตะวนั ออกเฉยี งเหนอื คอื วัดชยั ศรภี มู ิ อ.เมืองฯ วดั ตามหลักความเชือ่ (ช่อื เปน็ ศริ ิมงคล) ไดแ้ ก่ 1) วัดดบั ภยั อ.เมอื งฯ จ.เชียงใหม่ 2) วัดลอยเคราะห์ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ 3) วดั เชยี งมั่น อ.เมอื งฯ จ.เชยี งใหม่
22 4) วดั เชยี งยืน อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ 5) วดั ดวงดี อ.เมอื งฯ จ.เชยี งใหม่ 6) วัดชัยมงคล อ.เมอื งฯ จ.เชียงใหม่ 7) วัดหม่ืนเงินกอง อ.เมืองฯ จ.เชยี งใหม่ 8) วดั หม่ืนลา้ น อ.เมอื งฯ จ.เชยี งใหม่ 9) วัดชัยพระเกยี รต์ิ อ.เมืองฯ จ.เชยี งใหม่ วัดท่ีมคี วามสาคญั ทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละการทอ่ งเทีย่ ว ไดแ้ ก่ 1) วดั พระธาตดุ อยสเุ ทพราชวรวหิ าร อ.เมืองฯ 2) วดั พระสงิ ห์วรมหาวหิ าร อ.เมืองฯ 3) วดั เจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมอื งฯ 4) วัดพระธาตศุ รจี อมทองวรวิหาร อ.จอมทอง 5) วดั เจด็ ยอด พระอารามหลวง อ.เมอื งฯ 6) วดั ปา่ ดาราภริ มย์ พระอารามหลวง อ.แม่รมิ 7) วดั สวนดอก พระอารามหลวง อ.เมอื งฯ 8) วัดทา่ ตอน พระอารามหลวง อ.เมืองฯ 9) วัดศรีโสดา พระอารามหลวง อ.เมืองฯ 10) วัดพระธาตดุ อยสะเก็ด พระอารามหลวง อ.ดอยสะเก็ด 11) วัดโลกโมฬี อ.เมืองฯ 12) วดั เชยี งมน่ั อ.เมืองฯ 13) วดั กูเ่ ต้า อ.เมอื งฯ 14) วดั เจดยี เ์ หลีย่ ม อ.สารภี 15) วัดบพุ พาราม อ.เมอื งฯ 16) วัดศรีสุพรรณ อ.เมอื งฯ 17) วัดพระธาตุดอยนอ้ ย อ.ดอยหล่อ 18) วดั ป่าเป้า อ.เมอื งฯ 19) วดั อุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) อ.เมืองฯ
23 20) วดั ดอยแมป่ ัง๋ อ.พรา้ ว 21) วดั ดบั ภยั อ.เมืองฯ 22) วัดลอยเคราะห์ อ.เมืองฯ 23) วดั ชยั มงคล อ.เมอื งฯ 24) วัดพระบาทสีร่ อย อ.แมร่ ิม 25) วัดพันอน้ อ.เมอื งฯ 26) วดั อนิ ทขลิ อ.เมอื งฯ 27) วดั เกตการาม อ.เมอื งฯ 28) วัดพระธาตุดอยคา อ.เมอื งฯ 29) วัดบา้ นเดน่ อ.แมแ่ ตง 30) วดั ถ้าเชยี งดาว อ.เชียงดาว 31) วดั เชียงยนื อ.เมอื งฯ 32) วดั หมื่นตมู อ.เมอื งฯ 33) วดั ผา้ ขาว อ.เมอื งฯ 34) วดั เจด็ ลนิ อ.เมืองฯ 35) วัดร่าเปิง (ตโปธาราม) อ.เมอื งฯ 36) วดั นันทาราม อ.เมืองฯ 37) วัดชยั ศรีภูมิ อ.เมอื งฯ 38) วดั ดวงดี อ.เมอื งฯ 39) วัดแสนเมืองมาหลวง (หัวขว่ ง) อ.เมอื งฯ 40) วดั ศรดี อนไชย อ.เมืองฯ 41) วัดลังกา อ.เมอื งฯ 42) วดั แสนฝาง อ.เมืองฯ
24 13.3 ประเพณ/ี เทศกาลงานสาคญั จังหวดั เชยี งใหม่ จังหวัดเชียงใหมม่ ีงานประเพณแี ละเทศกาลสาคัญในรอบ 12 เดอื น ดังน้ี เดอื น งานประเพณ/ี เทศกาลสาคญั มกราคม 1. งานไมแ้ กะสลกั บา้ นถวาย อาเภอหางดง มีการจาหนา่ ย และ สาธิตการแกะสลกั ไม้ และหัตถกรรมพื้นบา้ น 2. งานเทศกาลรม่ บอ่ สร้าง ทศี่ ูนยห์ ตั ถกรรมทารม่ บ่อสรา้ ง อาเภอ สนั กาแพง มกี ารประกวดธิดาร่มบอ่ สรา้ ง การประกวดขบวนแห่ ตกแต่งดว้ ยสนิ ค้าหตั ถกรรมบ้านต้นเปา การแสดงและจาหน่าย ผลิตภัณฑห์ ัตถกรรม การแสดงศิลปะพื้นบ้าน และการแสดงทาง วัฒนธรรมบนเวที กมุ ภาพันธ์ 1. งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ จดั ขน้ึ ในชว่ งสปั ดาหแ์ รกของ เดือนกมุ ภาพันธ์ โดยจะมพี ธิ เี ปิดงานในวันศกุ ร์ ในงานมีการจดั นทิ รรศการ/ผลงาน ณ บริเวณสวนสาธารณะบวกหาด /ขบวนแห่ รถบปุ ผาชาติในวนั เสาร์ และ มกี ารประกวดนางงามบุปผาชาติ 2. เทศกาลงานผา้ ซน่ิ ตีนจก อ.แมแ่ จม่ จะจัดขึ้นหลังจากพธิ ีเปิด งานมหกรรมไม้ดอกไมป้ ระดับจงั หวัดเชยี งใหม่แล้วหน่ึงวัน เพ่อื ส่งเสริมการทอ่ งเท่ียวและเปิดโอกาสใหก้ ลุม่ แมบ่ ้านนาสนิ คา้ ผา้ ตนี จก มาจาหนา่ ย การสาธติ การทอผา้ ตีนจก การนาสนิ ค้าหนงึ่ ผลิตภณั ฑห์ นึ่งตาบลมาแสดงและจาหนา่ ย การจดั นิทรรศการ และการแนะนาแหล่งท่องเทยี่ วสาคัญของแม่แจ่ม เมษายน 1. ปีใหมเ่ มอื ง(สงกรานต์) จดั ขน้ึ ระหว่างวนั ท่ี 13-15 เมษายน ของทกุ ปี เปน็ ประเพณที ีส่ าคัญและย่งิ ใหญ่ของชาวเชยี งใหม่ แบ่งเปน็ วนั ที่ 13 เปน็ วนั มหาสงกรานต์ มขี บวนแห่พระพุทธ สหิ งิ ค์ และพธิ สี รงน้าพระ วันที่ 14 เข้าวดั กอ่ เจดยี ์ทราย และ วนั ท่ี 15 เมษายน ประเพณีรดนา้ ดาหวั ผู้วา่ ราชการจงั หวดั และ มกี ารเลน่ สาดน้าตลอดช่วงเทศกาล
เดือน 25 เมษายน งานประเพณ/ี เทศกาลสาคัญ 2. ประเพณีแหไ่ ม้ค้าโพธ์ิ จัดข้ึนในเดือนเมษายน ในวันท่ี 15 เปน็ ต้นไป ของทกุ ปี ที่บรเิ วณตวั เมอื งจอมทอง มขี บวนรถจากชมุ ชน หา้ งรา้ น กลมุ่ ตา่ งๆกวา่ 40 ขบวน แห่ไปตามเมืองจอมทอง จนถงึ วัดพระบรมธาตุศรจี อมทองวรวหิ าร เปน็ ประเพณีที่ สบื ทอด กันมานานกวา่ 200 ปี ตามตานานเกิดขนึ้ ทีอ่ าเภอจอมทอง ถอื เปน็ แห่งแรกของประเทศไทยและแห่งเดียวในโลก ประเพณแี ห่ไม้ คา้ โพธิ์ กลายเป็นตน้ แบบของการแห่ ไมค้ ้าสะหลขี องชาวลา้ นนา จนไดร้ ับความนยิ มไปทวั่ ภาคเหนอื และเปน็ ประเพณที เ่ี รม่ิ มี ช่อื เสยี งโด่งดัง และได้รับความนิยมอยา่ งมาก พฤษภาคม 1. ประเพณเี ตียวขน้ึ ดอยวิสาขบชู า และอญั เชิญน้าสรง พระราชทาน ไหว้สาปา๋ ระมี พระบรมธาตดุ อยสเุ ทพประจาปี จดั ข้นึ ในชว่ งวนั วสิ าขบชู า โดยมรี ิว้ ขบวนพทุ ธศาสนิกชนจาก 25 อาเภอ เดนิ เทา้ แห่น้าสรงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยหู่ ัว และผ้าไตรพระราชทานของสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ ขึ้นไปยงั วัดพระธาตดุ อยสเุ ทพระยะทางกวา่ 11 กิโลเมตร เพื่อไปเวยี นเทียนในวันวิสาขบูชาอนั เปน็ ประเพณี ท่ีชาวเชยี งใหม่และใกล้เคยี งไดถ้ อื ปฏิบตั มิ าแต่คร้งั อดตี กาลจนถึง ปัจจุบนั เพอ่ื นอ้ มราลกึ ถงึ พระธรรมคาสง่ั สอนของพระพทุ ธเจ้า และครูบาเจา้ ศรวี ิชยั นักบุญแห่งลา้ นนาผบู้ กุ เบิกสรา้ งทางข้นึ ดอย สเุ ทพ 2. ประเพณีเข้าอนิ ทขิล จัดขนึ้ ในช่วงเดอื นพฤษภาคมถงึ มิถุนายน ทีว่ ัดเจดยี ์หลวง เปน็ การบูชาเสาหลักเมอื ง โดยการนาดอกไมธ้ ปู เทยี นมาใสข่ ันดอก
26 เดือน งานประเพณ/ี เทศกาลสาคญั มถิ นุ ายน 1. ประเพณีสรงน้าพระธาตุจอมทอง วดั พระธาตศุ รจี อมทอง อ.จอมทอง งานประเพณนี ้ี เกดิ ขึน้ จากตานานท่กี ลา่ วว่า พทุ ธ พฤศจิกายน สถานแห่งนเี้ ป็นวัดที่ประดษิ ฐานพระทกั ษณิ โมลธี าตุ หรอื พระธาตุ สว่ นเศียรเบื้องขวาขององค์พระสัมมาสัมพทุ ธเจ้า การประดษิ ฐาน นี้ มไิ ดเ้ ปน็ ถาวร แตส่ ามารถอญั เชญิ พระธาตุออกมาใหป้ ระชาชน ได้สกั การะอย่างใกลช้ ิดได้ จงึ ทาให้เกิดประเพณสี มโภชพระบรม สารีริกธาตเุ ข้า - ออกพรรษา ปลี ะสองคร้งั ซง่ึ นับว่าเปน็ ศาสนพิธี ประจาของวัดแห่งนี้ และเปน็ การแสดงถงึ ความศรทั ธาของ ประชาชนท้งั ใกลแ้ ละไกล ที่ตา่ งตงั้ ใจเดินทางไปสกั การะกัน ซึ่งถือ เป็นงานใหญแ่ ละสาคัญอีกงานหนึ่งของชาวจอมทอง ในการสบื สานมาอย่างช้านานกวา่ 100 ปี โดยวันทจ่ี ดั งาน จะตรงกับวนั ขึ้น 15 คา่ เดอื น 9 เหนอื (วันข้ึน 15 ค่า เดอื น 7 2. ประเพณที าบญุ เมอื งเชียงใหม่ สถานทป่ี ระกอบพิธี 10 จดุ ไดแ้ ก่ บริเวณลานพระบรมราชานสุ าวรีย์สามกษตั รยิ ์(กลางเวยี ง) ประตทู า่ แพ ประตเู ชียงใหม่ ประตูสวนปรงุ ประตสู วนดอก ประตชู า้ งเผอื ก แจ่งกเู่ ฮอื ง แจง่ ขะตา้ แจง่ ศรีภมู ิ และแจ่งหวั ริน เพอื่ ใหบ้ า้ นเมอื งเกดิ ความร่มเยน็ เป็นสขุ อีกท้ังยังเป็นการอนรุ ักษ์ และฟนื้ ฟวู ฒั นธรรมประเพณีอันดงี ามของเมืองเชียงใหมใ่ หค้ งอยู่ สบื ตอ่ ไป ประเพณยี ่เี ป็ง จัดขนึ้ ในชว่ งวนั ลอยกระทงของทกุ ปี มีการ ตกแตง่ บา้ นเรือนและสถานท่ตี า่ งๆด้วยโคมชนิดตา่ งๆ มีการปล่อย โคมลอย มกี ารลอยกระทง ประกวดกระทงเล็ก กระทงใหญ่ มี ขบวนแห่กระทง และการประกวดนางนพมาศ
27 13.4 การศกึ ษา 1) จงั หวัดเชยี งใหม่ (ปี 2555) มสี ถานศกึ ษา รวมท้ังส้นิ 1,129 แห่ง ใน จานวนน้มี ี - สถาบันการศกึ ษาระดบั อดุ มศึกษา จานวน 10 แหง่ - สถาบนั การศกึ ษาระดับอาชีวศึกษา จานวน 8 แหง่ - โรงเรียนนานาชาติ จานวน 9 แหง่ - สถาบนั การศึกษาเอกชน จานวน 139 แห่ง - สถาบนั การศกึ ษาระดับประถม/มัธยม จานวน 879 แห่ง - ศนู ย์การศกึ ษานอกโรงเรียน จานวน 25 แหง่ - โรงเรยี นตารวจตระเวนชายแดน จานวน 14 แหง่ - โรงเรยี นสังกัดเทศบาล จานวน 11 แห่ง - โรงเรยี นปริยตั ิธรรม จานวน 29 แหง่ - การศึกษาพเิ ศษ จานวน 3 แห่ง 2) คร/ู อาจารย์ รวมทั้งสน้ิ 18,846 คน และ นักเรียน นสิ ิต นกั ศึกษา 426,748 คน ซ่งึ อัตราสว่ นครู/อาจารย์ ต่อนักเรยี น นสิ ิต นกั ศกึ ษาเปน็ 1:23 จานวนนกั เรียนนักศกึ ษาในสังกดั แยกเปน็ (1) ระดับก่อนประถม จานวน 21,953 คน (2) ระดบั ประถมศึกษา จานวน 98,041 คน (3) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น จานวน 50,375 คน (4) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย/สายสามัญ จานวน 37,443 คน (5) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย/สายอาชีพ จานวน 18,685 คน (6) ระดบั อดุ มศกึ ษา จานวน 115,927 คน 3) สถาบันการศกึ ษามกี ารสอนภาษาตา่ งประเทศ (เรยี งจากมากไปหา นอ้ ย) จานวน 5 ภาษา ดังนี้ ภาษาองั กฤษ ภาษาจีน ภาษาญปี่ ่นุ ภาษาเกาหลี และ ภาษาเยอรมัน
28 13.5 บรกิ ารสาธารณสขุ 1) สถานพยาบาล มีโรงพยาบาลแผนปจั จบุ ัน ทัง้ สนิ้ 48 แห่ง 6,045 เตยี ง (อตั ราส่วน ประชากร : เตยี ง เทา่ กับ 271 คน ตอ่ 1 เตยี ง) - สงั กัดกระทรวงสาธารณสุข 24 แหง่ - สังกัดกระทรวงอ่ืน 10 แห่ง - เอกชน 14 แหง่ มโี รงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตาบล 266 แหง่ และสถานอี นามยั (โอนไป อบต.แลว้ ) 4 แหง่ 2) บคุ ลากรทางสาธารณสขุ ก) แพทย์ 1,065 คน อัตราสว่ นแพทย์ : ประชากร เท่ากับ 1: 1,540 คน ข) พยาบาล 4,812 คน อัตราส่วนพยาบาล : ประชากร เท่ากับ 1: 341 คน ค) ทันตแพทย์ 359 คน อตั ราสว่ นทันตแพทย์ : ประชากร เท่ากับ 1: 13,445 คน 3) ขอ้ มลู สุขภาพ - อตั ราการเกดิ 11.56 ต่อ 1,000 คน ตอ่ 1,000 คน - อตั ราการตาย 7.95 ตอ่ 1,000 คน - อัตราการเพิ่มตามธรรมชาติ 0.36 4) สาเหตุการปว่ ย ดว้ ยโรคต่างๆ ที่สาคัญ 10 อนั ดับของจังหวัด จงั หวัดเชียงใหม่มสี ถติ ิจานวนผปู้ ่วยรวม 5,868,028 คน สาเหตุ การปว่ ยดว้ ยโรคต่าง ๆ ทสี่ าคญั 10 อันดบั แรก ตามลาดับ ดังน้ี 1) โรคระบบทางเดนิ หายใจ 2) โรคระบบไหลเวียนโลหิต 3) โรคระบบกล้ามเนื้อรวมโครงรา่ งและเนื้อยึดเสริม 4) โรคเกย่ี วกบั ต่อมไรท้ อ่ โภชนาการ และเมตะบอลิซึมส์ 5) โรคระบบยอ่ ยอาหาร รวมโรคในชอ่ งปาก
29 6) โรคตดิ เชื้อและปรสิต 7) โรคระบบสบื พันธ์รวมปัสสาวะ 8) โรคผวิ หนังและเน้ือเยือ่ ใต้ผวิ หนัง 9) โรคตารวมสว่ นประกอบของตา 10) โรคระบบประสาท (ขอ้ มลู ณ ธนั วาคม พ.ศ. 2554) 14. การคมนาคม จังหวดั เชยี งใหม่ เปน็ เมืองหลักของภาคเหนือ เปน็ ศนู ย์กลางการพาณชิ ย์ อตุ สาหกรรมและการคมนาคม จึงมีเส้นทางคมนาคมหลักทง้ั ทางรถยนต์ รถไฟ และทาง อากาศ มีทางหลวงแผน่ ดิน ทางหลวงจังหวดั และเส้นทางมาตรฐานหลายสาย ทาให้การ เดนิ ทางตดิ ตอ่ ภายในจังหวดั การเดินทางสูจ่ งั หวดั ใกลเ้ คียงและกรงุ เทพมหานครเป็นไป ด้วยความสะดวก 1) ทางรถยนต์ การเดนิ ทางจากกรงุ เทพฯ มายงั จงั หวัดเชียงใหม่ใช้ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธนิ ) แล้วแยกเข้าทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ผ่าน จงั หวัดอยธุ ยา อา่ งทอง นครสวรรค์ แลว้ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผา่ นจังหวดั ลาปาง แยกซ้าย ผ่านจังหวัดลาพนู จนถึงจงั หวดั เชียงใหม่ การเดนิ ทางในตวั จงั หวัด การคมนาคมขนสง่ ทางรถยนต์ของจงั หวดั เชยี งใหมร่ ะหวา่ งชนบท หมู่บ้าน ตาบล อาเภอ และจงั หวดั ตา่ ง ๆ มคี วามสะดวก เพราะมีเส้นทางคมนาคมเชอ่ื มตดิ ตอ่ กนั การเดนิ ทางโดยรถยนต์ระหวา่ งจังหวัดการอาเภอ ระยะทางทไ่ี กลทสี่ ดุ คอื อาเภออมกอ๋ ย ระยะทาง 179 กิโลเมตร ใชเ้ วลาในการเดนิ ทาง 4 ชั่วโมง ระยะทางท่ีใกลท้ สี่ ดุ คอื อาเภอแมร่ มิ 8 กโิ ลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 20 นาที โดยระยะทางจากตัวจงั หวดั (อาเภอเมืองเชยี งใหม่) ไปยงั อาเภอตา่ งๆของจังหวดั เชยี งใหม่เรยี งจากใกลไ้ ปไกล ดงั นี้
30 - อาเภอแม่รมิ 8 กโิ ลเมตร - อาเภอสารภี 10 กโิ ลเมตร - อาเภอสันทราย 12 กิโลเมตร - อาเภอสนั กาแพง 13 กโิ ลเมตร - อาเภอหางดง 15 กิโลเมตร - อาเภอดอยสะเกด็ 18 กิโลเมตร - อาเภอสันปา่ ตอง 22 กิโลเมตร - อาเภอแมอ่ อน 29 กโิ ลเมตร - อาเภอดอยหลอ่ 34 กโิ ลเมตร - อาเภอแมว่ าง 35 กิโลเมตร - อาเภอแม่แตง 40 กโิ ลเมตร - อาเภอสะเมิง 54 กิโลเมตร - อาเภอจอมทอง 58 กิโลเมตร - อาเภอเชียงดาว 68 กโิ ลเมตร - อาเภอฮอด 88 กิโลเมตร - อาเภอพรา้ ว 103 กโิ ลเมตร - อาเภอดอยเต่า 121 กโิ ลเมตร - อาเภอไชยปราการ 131 กโิ ลเมตร - อาเภอเวยี งแหง 150 กโิ ลเมตร - อาเภอฝาง 154 กโิ ลเมตร - อาเภอแมแ่ จ่ม 156 กโิ ลเมตร - อาเภอกัลยาณวิ ฒั นา 157 กโิ ลเมตร - อาเภอแมอ่ าย 174 กโิ ลเมตร - อาเภออมก๋อย 179 กโิ ลเมตร สาหรบั การเดินทางในตัวจงั หวดั จะใช้การจราจรโดยรถส่วนบคุ คลหรือ รถจักรยานยนต์ รวมทัง้ จักรยาน สาหรบั ระบบมวลชนจะมรี ถสี่ลอ้ แดง ตุ๊กตกุ๊ รถเมล์ และประมาณ พ.ศ.2550 เริ่มมแี ทก็ ซี่มเิ ตอร์ให้บรกิ ารในจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถ มสี เี หลอื ง-น้าเงนิ เป็นแท็กซส่ี หกรณ์ สว่ นสแี ดง-เหลืองเปน็ แทก็ ซสี่ ว่ นบคุ คล มีสถานขี นส่งภายในตวั จังหวดั เช่อื มตอ่ อาเภอตา่ งๆ คอื สถานีขนสง่ ผู้โดยสารจงั หวัด เชียงใหม่(สถานีขนส่งชา้ งเผอื ก) และสถานีขนสง่ ระหว่างจงั หวัดคือ สถานีขนสง่ ผโู้ ดยสาร จังหวัดเชยี งใหม่ แห่งที่ 2 และ 3 (สถานีขนส่งอาเขต) 2) ทางรถไฟ การคมนาคทางรถไฟ ปจั จุบันมรี ถไฟสายเชียงใหม่ – กรงุ เทพฯ โดยผา่ นจังหวดั อยุธยา ลพบรุ ี นครสวรรค์ พษิ ณโุ ลก อตุ รดติ ถ์ แพร่ ลาปาง และลาพนู เปดิ การเดนิ รถไฟทุกวัน ๆ ละ 14 ขบวน (ไปจานวน 7 ขบวน กลับ จานวน 7 ขบวน) นอกจากน้นั การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังเปดิ การเดนิ รถไฟสายเชียงใหม่ – นครสวรรค์ จานวน 2 ขบวน (ไป-กลับ)
31 สถานีรถไฟเชียงใหม่ สรา้ งขึน้ ประมาณปี พ.ศ. 2461 เปน็ ศลิ ปกรรมแบบ ล้านนาประยุกต์ เป็นสถานรี ถไฟปลายทางของทางรถไฟสายเหนอื มรี ะยะทางหา่ งจาก กรงุ เทพฯ 751 กิโลเมตร มผี โู้ ดยสารเฉลีย่ เดนิ ทางท้ังเทยี่ วขน้ึ และเท่ียวล่อง วันละ ประมาณ 1,500 คน ในดา้ นการบริการสังคม มขี บวนรถไฟโดยสารฟรตี ามนโยบาย รัฐบาล เพือ่ บริการประชาชนเฉพาะชาวไทย คอื รถเร็วขบวนท่ี 109/102 ว่งิ ระหวา่ ง กรุงเทพฯ -เชยี งใหม่-กรงุ เทพฯ และ รถดเี ซลรางธรรมดา ขบวนท่ี 407/408 วิง่ ระหวา่ งนครสวรรค์ – เชียงใหม่ –นครสวรรค์ ตารางการเดนิ รถไฟทุกวัน สายเชยี งใหม่ –กรงุ เทพฯ - เชียงใหม่ และ สาย เชียงใหม่- นครสวรรค์ ดังน้ี ลำดับท่ี ประเภทรถไฟ ขบวน สถำนีต้นทำง เวลำออก สถำนีปลำยทำง เวลำถึง 1 รถเร็ว 109 กรุงเทพฯ 12.45 น. เชียงใหม่ 04.15 น. 2 รถเร็ว 102 เชียงใหม่ 05.45 น. กรุงเทพฯ 21.10 น. 3 รถดว่ นพิเศษ 13 กรุงเทพฯ 19.35 น. เชียงใหม่ 09.55 น. 4 รถดว่ นพิเศษ 14 เชียงใหม่ 16.00 น. กรุงเทพฯ 06.30 น. 5 รถถว่ นพิเศษ 2 เชียงใหม่ 17.00 น. กรุงเทพฯ 06.50 น. นครพิงค์ 6 รถถว่ นพเิ ศษ 1 กรุงเทพฯ 18.10 น. เชียงใหม่ 08.15 น. นครพิงค์ 7 รถดเี ซลราง 11 กรุงเทพฯ 18.00 น. เชียงใหม่ 06.20 น. ปรับอากาศ 8 รถดีเซลราง 9 กรุงเทพฯ 08.30 น. เชียงใหม่ 20.30 น. ปรับอากาศ 9 รถดเี ซลราง 10 เชียงใหม่ 21.00 น. กรุงเทพฯ 09.10 น. ปรับอากาศ 10 รถดีเซลราง 12 เชียงใหม่ 08.50 น. กรุงเทพฯ 20.25 น. ปรับอากาศ 11 รถดเี ซลราง 408 เชียงใหม่ 09.30 น. นครสวรรค์ 19.00 น. ธรรมดา 12 รถดเี ซลราง 407 นครสวรรค์ 05.00 น. เชียงใหม่ 14.30 น. ธรรมดา
32 3) ทางอากาศ การคมนาคมทางอากาศ จังหวัดเชยี งใหม่มที ่าอากาศยานนานาชาติเชยี งใหม่ ทมี่ ี ขนาดใหญเ่ ปน็ อันดับต้น รองจากสนามบินดอนเมอื งและสนามบนิ สุวรรณภูมิ มเี ส้นทาง บินไป- กลับวันละหลายเท่ียวบนิ ทง้ั สายการบนิ ภายในประเทศ และสายการบนิ ระหวา่ ง ประเทศโดยสายการบินระหว่างประเทศ มสี ายการบนิ จากเชยี งใหม่ไปยังประเทศต่างๆ ท่ัวโลก โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียมเี ท่ยี วบนิ โดยตรงจากเชยี งใหมไ่ ปยงั หลาย ประเทศ เชน่ ประเทศจีน ลาว พมา่ ไตห้ วัน เกาหลีใต้ สงิ คโปร์ ญ่ปี ุ่น เป็นต้น 15. การสาธารณูปโภค 15.1 ไฟฟ้า 1) การไฟฟา้ ของจังหวดั อยใู่ นความรับผดิ ชอบของการไฟฟา้ สว่ นภูมภิ าค เขต 1 (ภาคเหนอื ) รับซ้อื กระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝา่ ยผลิตแหง่ ประเทศไทย ณ แหลง่ ผลติ แม่เมาะ จงั หวดั ลาปาง มสี ถานคี วบคมุ การจา่ ยไฟฟา้ 15 สถานี จานวนการไฟฟ้า 6 แห่ง ปี 2553 - จานวนผใู้ ชไ้ ฟฟ้าทงั้ สิน้ 567,201 ราย - ปริมาณกระแสไฟฟ้าทใี่ ชใ้ นจังหวดั 2,299.92 ลา้ นหนว่ ย ปี 2554 - จานวนผูใ้ ชไ้ ฟฟา้ ทงั้ สน้ิ 585,408 ราย - ปรมิ าณกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในจังหวัด 2,293.31 ล้านหน่วย ปี 2555 - จานวนผใู้ ช้ไฟฟ้าทัง้ สนิ้ 597,000 ราย (ณ กรกฎาคม 2555) - ปรมิ าณกระแสไฟฟา้ ท่ใี ชใ้ นจงั หวัด 1,448.45 ล้านหนว่ ย สามารถให้บริการไฟฟา้ ได้ครอบคลุม 25 อาเภอ สาหรับหมู่บา้ นทไ่ี ม่สามารถขยายเขตระบบจาหนา่ ยไฟฟ้าได้เนอื่ งจากสาเหตุ หลายประการ ไดแ้ ก่ - กรมปา่ ไม้ยังไม่ได้อนุญาตใหด้ าเนนิ การ (เปน็ หมูบ่ า้ นท่ีอยู่ในเขตปา่ สงวน แห่งชาติ แหลง่ ต้นนา้ ลาธาร ล่มุ นา้ เขตป่าอนรุ กั ษ์ อทุ ยานแหง่ ชาติ) - ขาดงบประมาณในการดาเนนิ โครงการ (เงนิ ลงทนุ สูง) - อยู่ระหวา่ งดาเนนิ โครงการ ซึง่ หลายแห่งมกี ารตดิ ตงั้ เครอ่ื งผลิตไฟฟา้ ดว้ ยพลังงานแสงอาทิตย์
33 2) การบรกิ าร 2.1 การไฟฟ้าเปดิ บริการชาระค่าไฟฟา้ - จันทร-์ ศุกร์ ต้งั แต่เวลา 07.30 น. ถงึ เวลา 15.30 น. - เสาร-์ อาทติ ย์ ตัง้ แตเ่ วลา 09.00 น. ถงึ เวลา 15.00 น. (เฉพาะเสาร์- อาทติ ย์แรก และสุดทา้ ยของเดือน) 2.2 ไฟฟ้าขัดข้อง /ไฟฟา้ ดับ แจง้ ไดท้ ่ี หนว่ ยวเิ คราะห์และแก้ กระแสไฟฟ้าขดั ช้องจังหวัดเชียงใหม่ โทรศพั ท์ 053-241816 และ 053-241226 ตลอด 24 ช่วั โมง และทหี่ น่วยวิเคราะหแ์ ละแกก้ ระแสไฟฟา้ ขัดขอ้ งของแตล่ ะแห่ง จานวน 6 แหง่ หรือ Call Center 1129 15.2 ประปา 1. การประปาสว่ นภมู ภิ าคสาขาเชยี งใหม่ (ช้ันพเิ ศษ) มสี านกั งานประปาส่วน ภูมิภาคสาขา จานวน 7 แห่ง ได้แก่ 1) การประปาสว่ นภูมภิ าคสาขาเชยี งใหม่ 2) การประปาสว่ นภูมภิ าค สาขาแมร่ มิ 3) การประปาสว่ นภูมภิ าค สาขาสันกาแพง 4) การประปาสว่ นภูมภิ าค สาขาฮอด 5) การประปาสว่ นภูมภิ าค สาขาฝาง 6) การประปาสว่ นภมู ิภาค สาขาแมแ่ ตง 7) การประปาสว่ นภมู ิภาค สาขาจอมทอง การประปาส่วนภมู ิภาคสาขาเชียงใหม่ - มีกาลงั การผลิต รวมท้ังส้ิน 3,772,149 ล้านลกู บาศกเ์ มตร - มีปรมิ าณการใช้น้าทั้งส้นิ 2,276,603 ลา้ นลูกบาศก์เมตรตอ่ เดอื น - มีผ้ขู ออนญุ าตใชน้ ้า จานวน 83,482 ราย โดยในเขตอาเภอเมือง เชียงใหม่ มีผ้ใู ช้นา้ ประปามากท่ีสุด คดิ เปน็ รอ้ ยละ 95 ของจานวนผู้ใชป้ ระปาทัง้ หมด ของจงั หวัด และอาเภอท่ีมีผู้ใช้น้าประปาน้อยทสี่ ดุ คอื อาเภอแม่วาง
34 2. การบริการ 2.1 ชาระค่าน้าประปาไดต้ ั้งแต่ วันจนั ทร์ ถงึ วนั เสาร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. ถึงเวลา 15.30 น. (วนั จนั ทร์ ถงึ วันศกุ ร์) ระหวา่ งเวลา 08.30 น. ถึงเวลา 12.00 น. (วนั เสาร์) 2.2 ประปาขดั ขอ้ ง /ชารุด แจ้งได้ท่ี 053-233477 – 80 ต่อ 116 15.3 โทรศัพท์ จังหวดั เชียงใหม่มีจานวนเลขหมายโทรศัพท์ 307,512 เลขหมาย เป็นเลข หมายท่มี ีผู้เช่า 190,812 เลขหมาย มชี มุ สายโทรศพั ท์ 384 แห่ง แยกเป็น - บรกิ ารของบริษัท TOT จากัด (มหาชน) จานวน 175,991 เลขหมาย เป็นเลขหมายที่มีผู้เช่า 116,492 เลขหมาย มีชุมสายโทรศัพท์ 278 แห่ง ข้อมูล ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2555 - บรกิ ารของบรษิ ัท TT&T จากดั (มหาชน) จานวน 131,521 เลขหมาย เป็นเลขหมายท่ีมีผู้เช่า 74,320 เลขหมาย มีชุมสายโทรศัพท์ 106 แห่ง ข้อมูล ณ วันท่ี 31 ตลุ าคม 2555 15.4 ไปรษณีย์ มีสานักงานไปรษณีย์ จานวน 37 แห่ง ในปี 2555 มีจานวนผู้ใช้บริการ 187,200 ราย แยกเป็นบริการต่าง ๆ ดังน้ี - ประเภทจดหมาย 422,983 ฉบับ - ธนาณตั ิ 16,126 ฉบบั - พัสดุ 25,872 ชิ้น
35 16. ทรัพยากรป่าไม้ จังหวดั เชยี งใหมม่ ีป่าไมห้ ลายประเภท ประกอบด้วย ปา่ ดิบเขา ป่าดิบแลง้ ปา่ เบญจพรรณ ปา่ เต็งรงั และป่าเตง็ รังผสมป่าสนเขา และปา่ แดง เป็นตน้ พื้นทป่ี ่าไม้ ประกอบดว้ ย ปา่ ธรรมชาติ สวนป่า และป่าฟื้นฟูตามธรรมชาติ โดยมพี ้นื ท่ีปา่ ไม้อยใู่ น จงั หวัดเชยี งใหม่ 12,222,395.87 ไร(่ พื้นทป่ี ่าตามกฎกระทรวง) คดิ เปน็ ร้อยละ 69.93 ของพ้นื ทีท่ ั้งจังหวดั แบง่ เปน็ ป่าสงวนแห่งชาติ จานวน 25 แห่ง อุทยานแหง่ ชาติ 14 แห่ง เขตรักษาพันธ์ุสัตวป์ ่า 4 แหง่ และเขตหา้ มลา่ สัตว์ปา่ 1 แหง่ อทุ ยานแหง่ ชาตใิ นจังหวดั เชยี งใหม่ มจี านวน 14 แหง่ ไดแ้ ก่ o อุทยานแหง่ ชาติดอยอินทนนท์ o อุทยานแหง่ ชาติดอยสุเทพ – ปยุ o อุทยานแหง่ ชาติแม่ปิง o อุทยานแห่งชาตอิ อบหลวง o อุทยานแหง่ ชาติหว้ ยน้าดัง o อุทยานแห่งชาตศิ รีลานนา o อทุ ยานแหง่ ชาติแมต่ ะไคร้ o อุทยานแหง่ ชาตขิ นุ ขาน o อุทยานแห่งชาติแมว่ าง o อทุ ยานแหง่ ชาตแิ ม่โถ o อุทยานแหง่ ชาติฟา้ หม่ ปก o อุทยานแห่งชาตอิ อบขาน o อุทยานแหง่ ชาตดิ อยเวียงผา o อทุ ยานแหง่ ชาติผาแดง โดยมี วนอทุ ยานแหง่ ชาติ 2 แหง่ ได้แก่ วนอทุ ยานแหง่ ชาตินา้ ตกบวั ตอง-นา้ พเุ ็ด็ สี่ และ วนอทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยเวียงแก้ว จังหวดั เชยี งใหม่ มปี ญั หาดา้ นทรัพยากรป่าไม้มีปริมาณลดลง สาเหตสุ าคญั เช่น การลกั ลอบตัดไม้ การบกุ รกุ เพื่อทาการเกษตร และไฟปา่ เปน็ ต้น
36 17. สถานท่ีท่องเท่ียว 17.1 สถานทที่ อ่ งเท่ยี วทางธรรมชาติ 1) อทุ ยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อาเภอจอมทอง 2) อทุ ยานแห่งชาติดอยสเุ ทพ-ปยุ (ชุนชา่ งเคย่ี น) อาเภอเมอื งเชยี งใหม่ 3) เขตรักษาพนั ธส์ ตั วป์ า่ ดอยหลวงเชียงดาว อาเภอเชียงดาว 4) ดอยอา่ งขาง อาเภอฝาง 5) อทุ ยานแหง่ ชาติดอยผา้ ห่มปก อาเภอฝาง 6) อุทยานแหง่ ชาติหว้ ยนา้ ดงั อาเภอแมแ่ ตง 7) สวนพฤกษศาสตรส์ มเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ิต์ิ อาเภอแม่ริม 8) ปางชา้ งแม่แตง อาเภอแม่แตง 9) นา้ พรุ อ้ นสนั กาแพง อาเภอสันกาแพง 10) นา้ พรุ ้อนฝาง อาเภอฝาง 11) ทะเลสาบดอยเต่า อาเภอดอยเตา่ 12) ดอยมอ่ นจอง อาเภออมกอ๋ ย 17.2 สถานทท่ี ่องเท่ยี วทว่ั ไป 1) หมู่บา้ นบอ่ สรา้ ง อาเภอสนั กาแพง 2) บา้ นถวาย อาเภอหางดง 3) ถนนนมิ มานเหมนิ ทร์ / ถนนคนเดนิ (จดั ข้ึนหลายแห่ง) 4) เชยี งใหมไ่ นทบ์ าซาร์ อาเภอเมอื งเชียงใหม่ 5) อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อาเภอเมืองเชยี งใหม่ 6) เวียงกุมกาม อาเภอสารภี 7) พระตาหนกั ภพู ิงคราชนเิ วศน์ อาเภอเมอื งเชยี งใหม่ 8) สวนสัตวเ์ ชียงใหม่ /เชียงใหมซ่ ูอควาเลียม /เชยี งใหม่ไนทซ์ าฟารี อาเภอเมืองเชียงใหม่ 9) เวยี งทา่ กาน อาเภอสนั ป่าตอง
37 18. การตา่ งประเทศ 18.1 สถานกงสลุ ตา่ งประเทศ จงั หวัดเชยี งใหม่ เป็นสถานที่ตั้งของสถานกงสุลต่างประเทศ 18 แห่ง โดยมผี ูด้ ารงตาแหนง่ แยกเป็น - กงสุลใหญ่ จานวน 3 แห่ง - กงสลุ จานวน 1 แห่ง - กงสุลกิตติมศกั ด์ิ จานวน 14 แหง่ ดงั นี้ ทาเนียบสถานกงสุลและกงสลุ กติ ตมิ ศกั ด์ปิ ระเทศต่าง ๆ ในจังหวดั เชียงใหม่ ลาดบั สถานกงสลุ ตาแหนง่ โทรศัพท์ ที่ (053) 1 สถานกงสลุ ใหญ่แห่งสาธารณรัฐ กงสลุ ใหญ่ 276125 และ 276457 ประชาชนจีนประจาจังหวดั วีซา่ 200525 เชยี งใหม่ บรกิ ารวีซา่ เวลา 09.00-11.00 น. 2 สถานกงสุลใหญญ่ ี่ปุ่น ณ นคร กงสุลใหญ่ 203367 เชียงใหม่ บรกิ ารวีซา่ ตงั้ แตเ่ วลา 08.30- 12.00น. 3 สถานกงสุลใหญ่แหง่ กงสลุ ใหญ่ 107700 สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ บริการวซี ่าเวลา 08.00-10.30น. (เฉพาะวนั จันทร์,พุธ) 4 สถานกงสลุ อินเดยี ประจา กงสลุ 243066 จงั หวดั เชยี งใหม่ บรกิ ารวซี า่ เวลา 09.00-12.00น. 5 สถานกงสุลกติ ตมิ ศกั ด์ิ กงสุล 263015 สหราชอาณาจักรประจาจงั หวัด กิตติมศกั ดิ์ เชียงใหม่ 6 สถานกงสุลกติ ตมิ ศักด์สิ หพนั ธ์ กงสุล 838735 สาธารณรฐั เยอรมันประจา กติ ติมศกั ดิ์ จังหวดั เชียงใหม่
38 ลาดบั สถานกงสลุ ตาแหนง่ โทรศัพท์ ท่ี (053) 7 สถานกงสลุ กิตตมิ ศกั ด์ฝิ รั่งเศส กงสุล 275277 และ 281466 ประจาจงั หวัดเชยี งใหม่ กิตตมิ ศกั ด์ิ 8 สถานกงสลุ กติ ตมิ ศักดอ์ิ อสเตรเลยี บริการวซี ่าเวลา 10.00-12.00น. กงสุล ประจาจังหวดั เชยี งใหม่ กติ ตมิ ศกั ดิ์ 492480 9 สถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐ กงสลุ บรกิ ารวีซา่ เวลา 09.00-13.00น. กติ ติมศกั ดิ์ ออสเตรยี ประจาจงั หวดั เชยี งใหม่ 400231 กงสลุ 10 สถานกงสลุ กติ ตมิ ศกั ดแ์ิ คนาดา กติ ติมศกั ด์ิ 242292 ตอ่ 116 ประจาจังหวดั เชียงใหม่ กงสุล 212925 11 สถานกงสลุ กิตตมิ ศักดิ์อิตาลี กติ ติมศักดิ์ ประจาจังหวัดเชียงใหม่ 306358 กงสุล 12 สถานกงสุลกิตติมศกั ดิ์เปรู กิตติมศกั ด์ิ 213373 ประจาจงั หวัดเชียงใหม่ กงสลุ บริการวซี า่ เวลา 08.30-18.00น. 13 สถานกงสุลกิตตมิ ศักดบ์ิ งั คลา กิตตมิ ศกั ด์ิ เทศประจาจังหวดั เชียงใหม่ 298632 กงสลุ 14 สถานกงสลุ กติ ตมิ ศกั ด์ิสวเี ดน กิตตมิ ศักดิ์ 838620 ประจาจังหวดั เชียงใหม่ กงสุล 223119-23 ต่อ 204 15 สถานกงสลุ กิตตมิ ศักดิ์สาธารณรฐั กติ ตมิ ศักด์ิ 327273-4 ตอ่ 206-5 เฮเลนกิ ประจาจงั หวดั เชียงใหม่ กงสุล (กรซี ) กิตติมศกั ดิ์ 283-900 16 สถานกงสลุ กติ ติมศกั ดสิ์ าธารณรฐั กงสลุ กติ ติมศกั ดิ์ เกาหลปี ระจาจังหวัดเชียงใหม่ กงสลุ 17 สถานกงสลุ กติ ติมศกั ดฟิ์ ินแลนด์ กิตติมศกั ดิ์ ประจาจังหวัดเชียงใหม่ 18 สถานกงสลุ กิตตมิ ศักดิ์ สวิสเซอรแ์ ลนดป์ ระจาเชยี งใหม่
39 18.2 ความสมั พนั ธบ์ ้านพเ่ี มืองนอ้ ง จังหวัดเชยี งใหมไ่ ดล้ งนามสถาปนาความสัมพนั ธ์บ้านพ่เี มืองนอ้ งกบั นคร และเมอื งตา่ ง ๆ ในตา่ งประเทศ ดังนี้ 1) จังหวดั เชียงใหมก่ บั นครเซย่ี งไฮ้ สาธารณรฐั ประชาชนจีน โดยลงนาม ความสัมพันธ์ เมอ่ื วันที่ 2 เมษายน 2543 2) จังหวดั เชยี งใหม่ กับ นครชงิ เตา่ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยลงนาม ความสมั พนั ธ์ เมือ่ วนั ท่ี 16 กมุ ภาพันธ์ 2549 3) จงั หวดั เชียงใหม่ กบั จังหวัดยอ็ กยากาตาร์ สาธารณรัฐอนิ โดนีเซยี โดย ลงนามความสัมพนั ธ์ เมอ่ื วันท่ี 4 กนั ยายน 2550 4) จังหวดั เชยี งใหม่ กับ นครฉงช่ิง สาธารณรัฐประชาชนจนี โดยลงนาม ความสมั พนั ธ์ เม่ือวนั ท่ี 18 กมุ ภาพนั ธ์ 2551 ทงั้ น้ี มีหนว่ ยงานอ่นื ๆ ได้มกี ารลงนามความรว่ มมอื ในลักษณะบา้ นพ่ี เมืองนอ้ ง อกี หลายหนว่ ยงาน ไดแ้ ก่ - เทศบาลนครเชยี งใหม่ ไดล้ งนามสถาปนาความสมั พนั ธ์เมอื งพีเ่ มืองนอ้ ง กับ 1) เมอื งอโู อสึ จังหวดั โทยามา ประเทศญปี่ นุ่ เมอ่ื วันท่ี 8 สิงหาคม 2532 2) จงั หวดั ไซตามะ ประเทศญ่ีปุ่น เมือ่ วนั ที่ 9 พฤศจกิ ายน 2535 3) นครคนุ หมงิ สาธารณรัฐประชาชนจนี เมอ่ื วนั ท่ี 7 มิถนุ ายน 2542 2) นครฮาร์บ้นิ มณฑลเอยหลงเจยี ง สาธารณรฐั ประชาชนจีน เมอื่ วันท่ี 29 เมษายน 2551
40 - หอการคา้ จังหวดั เชยี งใหม่ ได้ลงนามสถาปนาความสมั พันธก์ บั ต่างประเทศ ดงั น้ี 1) ลงนามในบนั ทึกความรว่ มมอื เป็นหอการค้าคมู่ ิตรกบั หอการค้า อุตสาหกรรมเมืองลยี ง ประเทศฝรงั่ เศส เมือ่ วันท่ี 18 กมุ ภาพันธ์ 2549 2) ลงนามในบนั ทกึ ความรว่ มมอื เปน็ หอการค้าคูม่ ิตรกับหอการค้า สภาอุตสาหกรรมเมืองจติ ตะกอง ประเทศบงั คลาเทศ เมอ่ื วนั ท่ี 18 กรกฎาคม 2546 18.3 บรกิ ารหนังสอื เดินทาง (Passport) จงั หวัดเชียงใหม่ เป็นจงั หวดั ทกี่ รมการกงสลุ ได้ตั้งสานกั งานหนังสอื เดนิ ทางชว่ั คราวเชยี งใหม่ โดยมีประชาชนทว่ั ไป และขา้ ราชการ ยน่ื เรอื่ งทาเอกสาร หนงั สอื เดนิ ทางไปต่างประเทศในแตล่ ะปจี านวนมาก จากสถติ ิข้อมูลของสานักงาน หนงั สอื เดนิ ทางชั่วคราวเชยี งใหม่ ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2553 - 2555 พบว่า ปี 2553 จานวนผยู้ ่นื เรื่องทาเอกสารหนงั สือเดนิ ทาง ณ จังหวัดเชียงใหม่ จานวนท้งั สิน้ 71,818 ราย แยกเปน็ - ขา้ ราชการ จานวน 992 ราย / ทูต จานวน 7 ราย - ประชาชนทวั่ ไป จานวน 70,819 ราย ปี 2554 จานวนผยู้ ่นื เร่อื งทาเอกสารหนงั สือเดินทาง ณ จงั หวัดเชียงใหม่ จานวนทง้ั สน้ิ 74,736 ราย แยกเปน็ - ข้าราชการ จานวน 975 ราย / ทูต จานวน 4 ราย - ประชาชนทว่ั ไป จานวน 73,757 ราย ปี 2555 จานวนผยู้ ื่นเรื่องทาเอกสารหนงั สือเดนิ ทาง ณ จงั หวดั เชียงใหม่ (ระหว่างเดอื นมกราคม – กันยายน ) จานวนท้ังส้ิน 64,041 ราย แยกเปน็ - ขา้ ราชการ จานวน 1,072 ราย / ทูต จานวน 2 ราย - ประชาชนทว่ั ไป จานวน 62,967 ราย หมายเลขโทรศพั ทต์ ดิ ต่อสอบถาม 053-112891535-6
41 ยุทธศาสตร์การพฒั นาจังหวดั เชียงใหม่
42
43
44
Search