การออกแบบการจดั การเรยี นรกู้ ลุ่มสาระสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รายวชิ า พลศกึ ษา รหสั วิชา พ15101 ระดบั ประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 จัดทาโดย นางสาวนงลกั ษณ์ เทพปะนะ ตาแหนง่ พเี่ ล้ียงเดก็ พิการ โรงเรียนราชประชานเุ คาระห์31 ตาบลช่างเคงิ่ อาเภอแม่แจม่ จงั เชียงใหม่ สานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ชอื่ หน่วย การออกกาลังกาย การเล่นเกม และกิจกรรมนันทนาการ รายวชิ า พลศกึ ษา รหัสวชิ า พ 15101 กลุม่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 จานวน 20 ชัว่ โมง ครผู สู้ อน นางสาวนงลกั ษณ์ เทพปะนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มที กั ษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา พ 3.2 รกั การออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ัติเป็นประจาอยา่ งสม่าเสมอ มีวินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี าใจนกั กีฬา มจี ิตวิญญาณในการแขง่ ขนั และช่ืนชมในสุนทรยี ภาพของการกฬี า ตัวช้ีวดั พ 3.1 ป.5/2 เล่นเกมนาไปส่กู ฬี าท่ีเลือกและกิจกรรมการเคลื่อนไหวแบบผลัด พ 3.1 ป.5/6 อธิบายหลักการ และเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ อยา่ งนอ้ ย 1 กิจกรรม พ 3.2 ป.5/1 ออกกาลงั กายอยา่ งมรี ูปแบบ เล่นเกมที่ใชท้ กั ษะการคดิ และตดั สินใจ พ 3.2 ป.5/3 ปฏบิ ัติตามกฎกตกิ า การเลน่ เกม กีฬาไทย และกฬี าสากล ตามชนดิ กีฬาท่ีเลน่ พ 3.2 ป.5/4 ปฏิบัติตนตามสิทธิของตนเอง ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิผู้อ่นื และยอมรบั ในความแตกต่าง ระหว่างบุคคลในการเล่นเกม และกฬี าไทย กฬี าสากล 2. สาระสาคญั การออกกาลังกายเปน็ การเคล่อื นไหวรา่ งกายด้วยท่าทางต่างๆ เพ่ือให้รา่ งกายแข็งแรง การออกกาลงั - กายอยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสมกับตนเองอยา่ งสม่าเสมอจะทาให้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี การเลน่ เกม เป็นกจิ กรรมที่ทาให้เกิดความสนกุ สนาน รา่ เรงิ ช่วยผ่อนคลายความเครยี ด และทาใหร้ ่างกายแขง็ แรง สร้าง ความสามัคคีในหมคู่ ณะ กิจกรรมนันทนาการเป็นการปฏิบัตกิ จิ กรรมตามความชอบ เปน็ การใช้เวลาวา่ งให้ เกดิ ประโยชน์ แลว้ ส่งผลดตี ่อรา่ งกาย จิตใจ สติปัญญา และสงั คม 3. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ 1. การออกกาลังกาย 2. สนกุ กบั การเลน่ เกม 3. กจิ กรรมนันทนาการ
ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ การจาแนก การใหเ้ หตผุ ล การสรปุ ความรู้ การจดั ระบบความคดิ เป็นแผนภาพ การปฏิบัติ/การสาธิต คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน รักความเปน็ ไทย ซื่อสตั ย์สุจริต 4. ชน้ิ งานและภาระงาน 1. ใบกิจกรรมเรื่อง สนุกกับการเลน่ เกม 2. ใบกิจกรรมเร่อื ง เร่อื ง กิจกรรมนันทนาการ 3. ใบกจิ กรรมแผนผังความคิด เร่อื ง ข้อดี ขอ้ เสยี ของเกม 5. การวัดและประเมนิ ผล ใบกิจกรรมเร่อื ง สนกุ กบั การเลน่ เกม เกณฑก์ าร ระดบั คะแนน ประเมนิ 4 32 1 (10 คะแนน) (5-6 คะแนน) (9 คะแนน) (7-8 คะแนน) เลน่ เกมและ เล่นเกมและการละเล่น เลน่ เกมและ เลน่ เกมและ เลน่ เกมและ การละเล่น พนื เมอื งและบนั ทึกผล การละเล่นพนื เมอื ง การละเล่นพืนเมือง การละเลน่ พนื เมอื งและ การเล่นลงในแบบบนั ทกึ และบนั ทกึ ผลการ และบันทกึ ผลการ พืนเมืองและ บันทึกผลการ ได้สมั พนั ธก์ บั หัวข้อท่ี เล่นลงในแบบบันทึก เล่นลงในแบบ บันทึกผลการเลน่ เล่นลงในแบบ กาหนดและแตกต่างจาก ได้สัมพนั ธ์กบั หัวข้อ บันทกึ ได้สมั พนั ธ์ ลงในแบบบันทกึ บันทึก ทค่ี รูยกตัวอยา่ งมีการ ทกี่ าหนดและ กบั หวั ขอ้ ทก่ี าหนด ได้สัมพันธ์กบั เช่อื มโยงให้เหน็ ถึง แตกต่างจากที่ครู ตามทค่ี รู หวั ขอ้ ที่กาหนด ความสัมพันธก์ บั ตนเอง ยกตัวอย่างแต่ ยกตัวอยา่ งแตม่ ี ตามท่ีครู และผู้อื่น เชือ่ มโยงใหเ้ หน็ การดดั แปลงให้ ยกตัวอยา่ ง เฉพาะตนเอง แตกตา่ ง
ใบกจิ กรรมเรอื่ ง เรื่อง กิจกรรมนนั ทนาการ เกณฑ์การ 4 ระดับคะแนน 1 ประเมิน (10 คะแนน) 32 (5-6 คะแนน) (9 คะแนน) (7-8 คะแนน) บันทึกขอ้ มลู การ บนั ทึกข้อมูล บันทึกข้อมูลการปฏบิ ตั ิ บนั ทกึ ขอ้ มลู การ บันทึกข้อมลู การ ปฏิบตั ิกิจกรรม นนั ทนาการท่ี การปฏิบตั ิ กิจกรรมนนั ทนาการที่ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ปฏิบตั ิกจิ กรรม สอดคล้องกับหลัก ปรชั ญาเศรษฐกจิ กจิ กรรม สอดคล้องกบั หลัก นันทนาการที่ นันทนาการท่ี พอเพยี งลงใน แบบบนั ทึกได้ นันทนาการท่ี ปรัชญาเศรษฐกิจ สอดคล้องกบั หลกั สอดคล้องกับหลกั สมั พันธ์กับหัวขอ้ ท่กี าหนดตามทค่ี รู สอดคลอ้ งกับ พอเพยี งลงในแบบ ปรชั ญาเศรษฐกิจ ปรชั ญาเศรษฐกิจ ยกตวั อย่าง หลักปรชั ญา บันทกึ ได้สัมพนั ธก์ ับ พอเพยี งลงในแบบ พอเพยี งลงในแบบ เศรษฐกิจ หวั ข้อทก่ี าหนดและ บันทกึ ไดส้ ัมพนั ธ์กบั บนั ทกึ ไดส้ มั พันธ์ พอเพยี งลงใน แตกตา่ งจากที่ครู หวั ข้อทกี่ าหนดและ กับหัวข้อที่กาหนด แบบบันทกึ ยกตัวอยา่ งมีการ แตกตา่ งจากที่ครู ตามทีค่ รู เชอื่ มโยงใหเ้ หน็ ถงึ ยกตัวอย่างแต่ ยกตวั อย่าง แต่มี ความสัมพันธก์ บั ตนเอง เชอ่ื มโยงให้เห็น การดดั แปลงให้ และผู้อื่น เฉพาะตนเอง แตกต่าง 6. การจดั การเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ 1 ทดสอบกอ่ นเรยี น จานวน 1 ชวั่ โมง ครชู แี จงจดุ ประสงคก์ ารเรียนรใู้ นการเรยี นการสอนเสรจ็ แลว้ จากนันครใู หน้ กั เรยี นทดสอบ กอ่ นการจดั การเรยี นโดยใช้เวลาในการทดสอบ 50 นาที หลงั การทดสอบครูนัดหมายนักเรยี นในการ จดั การเรยี นการสอนในชวั่ โมงถัดไป ช่ัวโมงที่ 2 การออกกาลังกาย (1) จานวน 1 ช่วั โมง ครูและนกั เรียนรว่ มกันสนทนาเกย่ี วกบั การออกกาลังกายโดยครใู ช้คาถาม ดังนี นกั เรียนเคย ดกู ารแขง่ ขันกฬี าประเภทใดบ้าง,นกั เรียนชอบกีฬาชนิดใดมากท่สี ุด,นักเรียนคิดว่า ได้ประโยชนอ์ ะไร จากการเล่น จากนนั ให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับหลกั การออกกาลังกาย โดยครใู ช้ คาถาม ดงั นนี ักเรยี นควรออกกาลังกายอย่างน้อยก่ีนาที,นกั เรียนมีวธิ กี ารเลือกออกกาลงั กายให้ เหมาะสมได้อยา่ งไรจากนัน ครูสรปุ คาตอบของนกั เรียนทเ่ี ก่ยี วกับหลักการออกกาลังกายเป็นแผนภาพ ความคดิ ดงั นี
ชัว่ โมงที่ 3-4 การออกกาลงั กาย (2) จานวน 2 ชัว่ โมง 1. ครอู ธิบายเก่ยี วกับรปู แบบการออกกาลงั กาย ไดแ้ ก่ การออกกาลงั กายแบบอยูก่ ับท่ี แบบ เคล่อื นท่ี และการออกกาลังกายแบบผสมผสานให้นักเรยี นฟงั 2. ให้นักเรยี นอบอุ่นร่างกายด้วยท่าบริหารร่างกายประมาณ 5-6 ท่าทาง จากนันครูสาธติ การออกแบบตา่ งๆ ให้นักเรยี นดู และใหน้ กั เรยี นฝกึ ปฏบิ ตั ิตาม ดังนี 1) นั่งแยกขากม้ ตวั แตะสลับ 2) ยืนแตะปลายเทา้ 3) กระโดดตบมือ 4) การวง่ิ 5) การเขยง่ 6) การกระโดดเชอื ก 7) การโยนลูกบอลสลับมอื 3. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับรูปแบบการออกกาลงั กาย โดยครใู ช้ คาถาม ดังนี - การออกกาลงั กายมีก่รี ปู แบบ อะไรบ้าง (3 รปู แบบ คือ การออกกาลังกายแบบอยู่กบั ท่ี การออกกาลงั กายแบบเคลอ่ื นท่ี การออกกาลังกายแบบผสมผสาน) - การออกกาลังกายแบบอยู่กบั ทมี่ กี ารออกกาลังกายแบบใดบา้ ง (น่งั แยกขาก้มตวั แตะสลบั ยนื แตะปลายเท้า กระโดดตบมอื ) - การออกกาลังกายแบบเคลือ่ นที่มีการออกกาลังกายแบบใดบา้ ง (การว่งิ การเขยง่ ) - การออกกาลงั กายแบบผสมผสานมีการออกกาลังกายแบบใดบา้ ง (กระโดดเชือก โยนลกู บอลสลับมอื ) 4. ให้นักเรยี นฝกึ ปฏิบัตกิ ารออกกาลังกายรูปแบบตา่ งๆ จากนนั จบั คู่กบั เพ่อื น แลกเปล่ยี นกัน 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั นี การออกกาลังกายในรปู แบบตา่ งๆ ควรเลือกให้ เหมาะสมกับตนเอง เพอ่ื ความปลอดภยั และความสมบูรณแ์ ขง็ แรงของรา่ งกาย 6. ครูใหน้ ักเรยี นไปหาคาตอบโดยครใู ช้คาถามท้าทาย ดังนี ถา้ นกั เรียนไม่เคยออกกาลงั กาย เลยจะส่งผลต่อสุขภาพอยา่ งไร แลว้ ให้มาตอบในชั่วโมงเรียนหน้า ช่วั โมงท่ี 5 ทดสอบการออกกาลงั กาย จานวน 1 ชัว่ โมง ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนทาการสอบการออกกาลังกายแบบอยกู่ บั ทีม่ ีทไ่ี ด้เรยี นมาแบบ รายบุคคล
ชัว่ โมงที่ 6-7 สนกุ กบั การเลน่ เกม (1) จานวน 2 ช่ัวโมง 1. ใหผ้ แู้ ทนนักเรยี นออกมานาเพือ่ นๆ อบอนุ่ รา่ งกายร่วมกบั ครูประมาณ 10 นาที เพ่อื เตรียมความ พรอ้ มของกลา้ มเนอื 2. ครอู ธบิ ายและสาธติ การเลน่ เกมยีราฟ หรอื กระตา่ ยน้อยใหน้ กั เรียนฟงั จากนันใหน้ ักเรยี นฝกึ เล่น เกมยรี าฟหรอื กระต่ายน้อย 3. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับการเล่นเกมยรี าฟหรอื กระต่ายนอ้ ย โดยครใู ช้ คาถาม ดงั นี การเลน่ เกมยีราฟหรอื กระต่ายนอ้ ยมีประโยชนอ์ ย่างไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ทาให้มีความ สนุกสนาน รา่ เริง ชว่ ยผอ่ นคลายความเครยี ด) . การเลน่ เกมยีราฟหรือกระตา่ ยนอ้ ยมวี ธิ ีการเล่นอย่างไร (1. ให้ผู้เล่นทุกคนยืนเปน็ วงกลมแล้วเลอื กผเู้ ลน่ หนง่ึ คนมาอย่กู ลางวงกลมเพื่อเป็นคนทายลักษณะ ทา่ ทางของเพ่อื น โดยใช้ผ้าปิดตาไว้ 2. ผู้เล่นคนอน่ื จะตอ้ งร้องบอกยีราฟ กระตา่ ยนอ้ ย สลับกนั แต่เวลาทาท่าทางจะต้องทาใหต้ รงกัน ขา้ มกับที่บอก ถ้าบอกยรี าฟผู้เลน่ รอบวงกลมจะต้องทาทา่ น่ัง ถา้ บอกกระต่ายน้อยผ้เู ลน่ รอบวงกลมทาทา่ ยืน 3. เมอื่ เริม่ เล่น ผู้เล่นรอบวงกลมจะตอ้ งร้องบอกวา่ ยรี าฟและกระตา่ ยน้อย สลบั กนั 3-4 ครงั ผู้ เล่นที่ถูกปดิ ตาจะต้องจาเสยี งบอกครังสุดท้ายให้ไดว้ า่ เป็นยรี าฟหรอื กระต่ายน้อย 4. ให้ผู้เล่นท่ีปดิ ตาเดนิ ไปยนื หน้าผ้เู ล่นคนใดคนหนึง่ รอบวงกลมแล้วบอกว่าผเู้ ลน่ คนนนั อยทู่ ่ายืน หรือน่งั ตามความเป็นจรงิ ถา้ ทายถกู ผเู้ ลน่ ที่ถกู ทายจะต้องถกู ปิดตาแทนในเกมถดั ไป) 4.ครูใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ วา่ กิจกรรมท่ีจัดขึนมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร ชั่วโมงท่ี 8 -9 สนกุ กบั การเลน่ เกม (2) จานวน 2 ชั่วโมง 1. ใหผ้ ู้แทนนักเรยี นออกมานาเพื่อนๆ อบอุน่ รา่ งกายรว่ มกบั ครูประมาณ 10 นาที เพ่อื เตรียมความ พร้อมของกล้ามเนือ 2. ครอู ธิบายและให้ผ้แู ทนนกั เรยี นออกมาร่วมสาธติ การเล่นเกมเตะบอลขา้ มแดนและใหน้ ักเรยี นฝึก เลน่ เกมเตะบอลข้ามแดน 3. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั เกมเตะบอลข้ามแดน โดยครใู ช้คาถาม ดังนี - การเล่นเกมนาไปส่กู ฬี าแตกต่างกับเกมเบ็ดเตลด็ อย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ เปน็ เกมท่มี ี กฎและกตกิ ามากกวา่ เกมเบด็ เตล็ด) - การเลน่ เกมนาไปสกู่ ฬี ามีประโยชนอ์ ยา่ งไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ชว่ ยฝึกการเคลือ่ นไหว ความ คลอ่ งตวั ความแข็งแรงและการทางานของกลา้ มเนอื ให้ประสานกนั ไดด้ ี) การเล่นเกมเตะบอลขา้ มแดนมีวิธีเล่นอยา่ งไรบา้ ง ( 1. เตรียมสนามขนาด 5x10 เมตร มีเสน้ แบง่ แดนและเสน้ แบ่งเขต ซง่ึ หา่ งจากเสน้ แบง่ แดนขา้ ง ละ 3 เมตร
2. แบ่งผู้เลน่ ออกเปน็ 2 ฝา่ ยเทา่ ๆ กนั ให้เข้าแถวตอนลึกอยใู่ นแดนแต่ละแดนหลงั เส้นแบง่ เขต 3. ให้ฝ่ายใดฝา่ ยหน่ึงเป็นผูเ้ รมิ่ เล่นก่อน โดยให้คนที่อยู่หวั แถวเตะลูกบอลไปแดนตรงขา้ มแล้ว ว่งิ ไปตอ่ ทา้ ยแถว คนทีอ่ ยูถ่ ัดไปจะเปน็ ผ้เู ตะต่อ 4. ผู้เล่นอีกฝ่ายจะตอ้ งรับโดยเตะลกู บอลกลับไปในแดนตรงขา้ มแล้วกลับไปตอ่ ทา้ ยแถว เหมอื นขอ้ 3 5. เมอ่ื ผเู้ ลน่ ทเ่ี ป็นฝ่ายรุกเตะลูกบอลเขา้ ไปในแดนฝา่ ยตรงข้ามแลว้ ฝา่ ยตรงขา้ มไมส่ ามารถ เตะกลับมาในแดนได้ หรือเตะออกนอกสนามในแดนของฝ่ายตนเองผู้เล่นทเ่ี ปน็ ฝา่ ยรุกจะได้ 1 คะแนน ผลัด กนั เป็นฝา่ ยรุกและฝา่ ยรบั ฝ่ายใดได้ 10 คะแนนก่อนชนะ) 4. ให้นักเรียนวาดภาพการเล่นเกมท่ีนักเรยี นปฏิบัตไิ ดด้ ีมา 1 เกมพร้อมระบายสีใหส้ วยงาม 5. นกั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั นี การเลน่ เกมเปน็ กิจกรรมท่ีทาใหเ้ กิดความสนกุ สนาน ชว่ ย ผ่อนคลายความเครยี ด เป็นการออกกาลงั กายท่ีทาใหร้ ่างกายแขง็ แรง และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ ชวั่ โมงที่ 10 -11 สนกุ กบั การเล่นเกม (3) จานวน 2 ชั่วโมง 1. ครูให้ผูแ้ ทนนักเรยี นออกมานาเพอ่ื นๆ บรหิ ารรา่ งกายดว้ ยทา่ ทางต่างๆ ประมาณ 5-6 ทา่ 2. ครอู ธบิ ายและสาธิตวธิ กี ารเลน่ เกมส่งสลบั ร่วมกบั ผู้แทนนกั เรยี น และให้นกั เรยี นซกั ถาม วิธีการเล่นจนกวา่ จะเข้าใจ 3. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั การเล่นเกมแบบผลัด โดยครใู ช้คาถาม ดังนี - เกมแบบผลัดเป็นเกมทีม่ ีลักษณะอย่างไร (ตัวอยา่ งคาตอบ เป็นการเล่นเกมทแ่ี ตล่ ะทมี มี จานวนผเู้ ล่นเทา่ กันและผูเ้ ล่นภายในทีมจะผลัดกนั เล่นตังแตค่ นแรกจนถงึ คนสดุ ท้าย ฝ่ายใดทาไดเ้ สร็จ กอ่ นและปฏิบัตติ ามกฎกตกิ าเป็นฝ่ายชนะ) -การเล่นเกมสง่ สลบั มีวธิ ีการเล่นอย่างไร ( 1. แบ่งผู้เล่นออกเป็น 3 – 4 แถว แต่ละแถวมีจานวนคนเทา่ กนั 2. แต่ละแถวยนื เขา้ แถวตอน ยืนแยกเท้า คนหัวแถวถือลกู บอล 3. เมื่อไดย้ นิ สัญญาณคนหวั แถวส่งลกู บอลด้วยมอื ข้ามศีรษะ คนท่สี องรับลูกบอล จากคนแรก แลว้ สง่ ลอดใต้ขาดว้ ยมอื ทงั สอง คนที่สามรับลกู บอลแลว้ สง่ ขา้ มศีรษะให้คนท่สี ี่ ให้ ปฏิบตั เิ ช่นนจี นถึงคนสดุ ท้าย คนสดุ ท้ายของแถววง่ิ สลับฟันปลาระหว่างคนในแถวมาท่ขี ้างหนา้ แถว แลว้ ส่งลกู บอลข้ามศรี ษะให้คนถดั ไปปฏิบัติสลับไปแบบนีจนครบทกุ คน 4. แถวใด รับสง่ ลกู บอลและวง่ิ สลับฟันปลาขนึ มาตงั แถวใหม่ครบทกุ คนก่อนจะชนะ หมายเหตุ ถ้าเกิดกรณีลกู บอลหลุดมอื ให้คนทท่ี าลกู บอลตกว่งิ ไปเกบ็ ลูกบอลแลว้ กลับไป ยนื ท่ขี องตนก่อนจงึ ส่งต่อไปได)้ 4. ใหน้ ักเรยี นฝึกเล่นเกมสง่ สลบั จากนันใหน้ กั เรยี นบนั ทึกผลการเล่นเกมส่งสลบั ลงในแบบบนั ทึก ดงั ตวั อยา่ ง
แบบบันทึกการเล่นเกมสง่ สลับ 1. เกมแบบผลดั ทนี่ กั เรียนเล่นช่ือเกมอะไร __________________________________ 2. การเล่นเกมนีมีผู้เล่น _______________ ทีม ทีมละ_____________________คน 3. ขณะเล่นเกมมีผเู้ ล่นทาผดิ กตกิ าหรอื ไม่ อยา่ งไร ____________________________ 4. ถา้ เกดิ กรณีลูกบอลหลดุ มอื นกั เรยี นจะทาอยา่ งไร ___________________________ 5. ทมี ของนักเรยี นมีเทคนิคการส่งบอลอย่างไร _______________________________ 6. นักเรียนไดป้ ระโยชน์อะไรจากการเลน่ เกมนี_______________________________ __________________________________________________________________ 5. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สนทนาแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับการเลน่ เกมตามกฎกตกิ า โดย ครใู ช้คาถาม ดังนี การเล่นเกมตามกฎ กตกิ า จะส่งผลอย่างไร (ตวั อยา่ งคาตอบ เล่นเกมอยา่ งราบรื่น สนกุ สนาน ไม่เกิดอนั ตราย ไม่ทะเลาะกัน) ถ้าไม่ปฏบิ ัตติ ามกฎ กตกิ า การเล่นเกมจะเกดิ ผลอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ เกดิ อนั ตรายในการเลน่ เกดิ การทะเลาะวิวาท) 6. นักเรียนและครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ดังนี การเลน่ เกมแบบผลัด เปน็ การเล่นเกมเป็นทมี ทีม่ ีจานวนผ้เู ลน่ เท่ากัน และให้ผูเ้ ลน่ แต่ละทมี ผลดั กนั เลน่ ทาใหเ้ กิดความสนุกสนาน การเลน่ เปน็ ประจาจะทาให้มีสุขภาพเขง็ แรง และจติ ใจแจ่มใสรวมทงั เปน็ การสรา้ งความสามัคคใี นหมูค่ ณะ 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ าถามทา้ ทาย ดังนี - การละเลน่ พนื เมอื งอะไรบ้าง ท่มี ีวิธกี ารเลน่ แบบผลัด ชั่วโมงที่ 12-13 สนุกกับการเลน่ เกม (3) จานวน 2 ชัว่ โมง 1. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั การละเลน่ พืนเมอื ง : งูกินหาง โดยครู ใช้คาถาม ดงั นี - นักเรียนเคยเลน่ การละเล่นพนื เมือง : งูกนิ หางหรือไม่ อย่างไร (ตัวอยา่ งคาตอบ เคย โดย เคยเล่นกบั เพื่อนๆ) -นกั เรียนรู้สึกอย่างไรเมือ่ ไดเ้ ลน่ การละเลน่ พนื เมอื ง: งูกนิ หาง (ตวั อยา่ งคาตอบ สนุกสนาน เพลดิ เพลิน) 2. ครูและนักเรยี นร่วมกันรอ้ งบทพูดโต้ตอบของการละเลน่ พนื เมอื ง: งกู นิ หาง จานวน 1 รอบ แลว้ ให้นักเรยี นแบ่งออกเปน็ 2 กลุ่มแต่ละกลุ่มเลอื กผูแ้ ทนนกั เรียนท่ีเป็นพ่องู แม่งู และให้คนท่ี เหลอื เป็นลกู งู จากนันครอู ธิบายกตกิ าและวิธกี ารเลน่ ให้นกั เรยี นฟังและสาธิตการเล่นงูกนิ หางให้ นกั เรยี นดู แลว้ ให้นกั เรยี นทัง 2 กลมุ่ รว่ มกันเล่นการละเล่นพนื เมอื ง: งกู ินหาง
3. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับการเลน่ การละเลน่ พนื เมือง : งูกินหาง ของนกั เรียน โดยครใู ช้คาถาม ดังนี - นักเรียนเลน่ เป็นพ่องู แม่งู หรือลูกงู (ตัวอย่างคาตอบ แม่งู) - นกั เรยี นมกี ารเคลอื่ นไหวประกอบบทร้องโต้ตอบหรือไม่ (ตัวอยา่ งคาตอบ มีการ เคล่อื นไหว) - นักเรียนใชส้ ่วนใดของร่างกายในการเคลื่อนไหวบ้าง (ขา แขน ลาตวั ศีรษะ) - ผ้เู ลน่ ที่เปน็ ลูกงูควรทาอย่างไร เพอ่ื ไม่ใหพ้ อ่ งูจบั ตัวได้ (ตวั อยา่ งคาตอบ เคล่อื นไหว อย่างรวดเรว็ เปน็ ระเบยี บมไี หวพรบิ ) - ผูท้ เี่ ล่นเปน็ แม่งูควรทาอย่างไรเพ่อื ไม่ใหล้ ูกงถู ูกจับได้ (ตัวอย่างคาตอบ ป้องกันและ เปลยี่ นทศิ ทางหัวแถวอย่างรวดเร็ว) - การละเล่นพนื เมอื ง งกู นิ หางเปน็ การฝกึ ทักษะของรา่ งกายด้านใด (ตัวอยา่ งคาตอบ ความแขง็ แรง ความคลอ่ งแคล่ววอ่ งไว) 4. นกั เรียนและครูร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเพ่อื สรุปเกย่ี วกบั การละเล่นพนื เมอื ง การเล่น งกู นิ หาง โดยครใู ช้คาถาม ดังนี การละเลน่ พืนเมอื ง งูกินหางมีประโยชนต์ ่อนักเรยี นดา้ นร่างกายอยา่ งไร (ตัวอยา่ ง คาตอบ เปน็ การออกกาลงั กายทาให้ร่างกายแขง็ แรง) การเลน่ การละเล่นพืนเมอื งมีผลตอ่ วัฒนธรรมไทยอย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ เปน็ การ อนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทยใหค้ งอยู่คสู่ งั คมไทย) การเลน่ พนื เมอื ง งกู นิ หาง มปี ระโยชน์ต่อนกั เรยี นด้านจิตใจอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ เป็นการสรา้ งความสนกุ สนาน เพลดิ เพลิน) การละเล่นพืนเมอื ง งกู ินหาง มีประโยชนต์ อ่ นกั เรยี นด้านสงั คมอยา่ งไร (ตวั อย่าง คาตอบ เป็นการสรา้ งสัมพันธภาพท่ดี ีระหว่างเพ่อื น) การละเล่นพืนเมือง งูกนิ หาง มปี ระโยชน์ต่อนักเรยี นดา้ นสติปัญญาอยา่ งไร (ตัวอยา่ ง คาตอบ เปน็ การฝึกคิดวิธเี อาตัวรอดจากการถูกจับตัวไดแ้ ละวธิ กี ารจับตวั ลูกงูใหเ้ ร็วท่ีสุด) 6. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี การละเลน่ พืนเมอื งเป็นการละเลน่ งา่ ยๆ ทสี่ ืบ ทอดกนั มาตงั แต่ ปยู่ ่าตายาย มกั เล่นกันในทอ้ งถิ่นซงึ่ สะท้อนให้เห็นวฒั นธรรม ทาให้เกิดความ สนกุ สนานเพลิดเพลนิ สุขภาพรา่ งกายแขง็ แรง จิตใจรา่ เริงแจม่ ใส และสรา้ งความสามัคคีในหม่คู ณะ 7. ให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็นโดยครูใช้คาถามทา้ ทาย ดังนี -การละเลน่ พืนเมืองสง่ ผลต่อวฒั นธรรมอยา่ งไร 8. ใหน้ กั เรียนทาใบกจิ กรรมเร่ือง สนกุ กับการเลน่ เกม
ชัว่ โมงท่ี 14 สนุกกับการเล่นเกม (4) จานวน 1 ชั่วโมง ครใู ห้นกั เรียนสรุปองคค์ วามรทู้ ไ่ี ดเ้ รียนในเรือ่ งสนุกกับการเลน่ เกม พร้อมทังบอกถงึ ความ แตกตา่ ง ขอ้ ดี ข้อเสยี ระหว่างเกมที่ได้เรียนมากับเกมคอมพวิ เตอร์ ชวั่ โมงท่ี 15 กิจกรรมนนั ทนาการ (1) จานวน 1 ชวั่ โมง 1. ใหน้ กั เรียนดูภาพเดก็ ประดิษฐ์งานฝมี ือ แล้วร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คาถามดังนี -นักเรยี นคดิ วา่ เด็กประดิษฐง์ านฝมี ือ เปน็ กจิ กรรมนนั ทนาการหรอื ไม่ (ตัวอย่างคาตอบ เปน็ ) -นักเรยี นคิดวา่ กิจกรรมนนั ทนาการคืออะไร (ตวั อยา่ งคาตอบ การปฏิบัติกิจกรรมตาม ความชอบ ความถนดั หรอื ความสนใจในชว่ งเวลาว่าง ซึ่งเปน็ กจิ กรรมที่มปี ระโยชน์ทาแล้วส่งผลดีตอ่ ร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และสงั คม) 2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั ประเภทของกิจกรรมนนั ทนาการ โดยครใู ช้ คาถามดังนี กจิ กรรมนนั ทนาการมกี ่ปี ระเภท อะไรบ้าง ครสู รุปคาตอบของนักเรยี นเป็นแผนภาพความคิด ดงั นี จากนันครูถามคาถามดงั นี กิจกรรมนนั ทนาการทชี่ ว่ ยสรา้ งเสรมิ ความรสู้ ึกและอารมณ์ไดแ้ ก่กจิ กรรมอะไรบา้ ง (ตวั อยา่ ง คาตอบ ดภู าพยนตร์ ฟังเพลง) กิจกรรมนนั ทนาการทีช่ ่วยสรา้ งเสริม ความรู้ความสามารถทางดา้ นรา่ งกาย และสติปัญญา ไดแ้ กก่ ิจกรรมอะไรบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ การเตน้ รา การทางานฝมี ือ) 3. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรดู้ งั นี กิจกรรมนนั ทนาการเปน็ กิจกรรมที่ปฏิบัตใิ นเวลาว่าง เป็นกจิ กรรมทม่ี ีประโยชน์ กอ่ ให้เกิดการพัฒนาทงั ทางด้านร่างกาย จิตใจ สตปิ ญั ญา และสงั คม 4. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คาถาม ดงั นีการเล่นการพนันเป็นกิจกรรม นันทนาการหรือไม่ อย่างไร
ชว่ั โมงที่ 16-17 กจิ กรรมนนั ทนาการ (2) จานวน 2 ชั่วโมง 1. ครูและนักเรียนรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกบั กจิ กรรมนันทนาการแลว้ ให้นักเรยี นร่วมกนั แสดง ความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ าถาม ดงั นี - นกั เรียนเคยเลน่ หรอื ทากิจกรรมนันทนาการอะไรบ้าง (ตัวอยา่ งคาตอบ การเลน่ เกม เล่น กีฬา ไปเทย่ี ว ดูหนงั ฟังเพลง) - นักเรยี นชอบกจิ กรรมนนั ทนาการกจิ กรรมใดมากท่ีสุด (ตวั อยา่ งคาตอบ การเล่นกีฬา) 2. ให้นกั เรยี นจาแนกกจิ กรรมนนั ทนาการกลางแจง้ กบั กจิ กรรมนนั ทนาการในร่ม โดยใหต้ อบวา่ กจิ กรรมท่ีครบู อกเปน็ กจิ กรรมนนั ทนาการกลางแจ้งหรอื กจิ กรรมนันทนาการในร่ม ตัวอยา่ งกิจกรรม นันทนาการ ไดแ้ ก่ การปลูกพืช การเทย่ี วสวนสตั ว์ การเลน่ หมากรกุ หมากฮอส สะสมแสตมป์ รอ้ งเพลง โดย ครูใช้คาถามดังนี - นักเรียนคดิ ว่ากจิ กรรมใดเปน็ กิจกรรมนนั ทนาการกลางแจ้ง (การปลกู พืช การเท่ียวสวนสัตว์) - นักเรียนคิดวา่ กิจกรรมใดเป็นกิจกรรมนนั ทนาการในรม่ (การเลน่ หมากรุก หมากฮอส สะสม แสตมป์ ร้องเพลง) 3. ครนู าตารางหมากฮอส หรอื ภาพตารางหมากฮอสมาแสดงให้นักเรียนดู แล้วใหน้ กั เรียน รว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คาถาม ดงั นี - นกั เรียนรจู้ กั เกมหมากฮอสหรือไม่ (ตัวอยา่ งคาตอบ รู้จกั ) - นกั เรยี นเคยเล่นเกมหมากฮอสหรอื ไม่ (ตัวอยา่ งคาตอบ เคยเลน่ ) - นักเรียนเล่นเกมหมากฮอสแลว้ ร้สู ึกอย่างไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ร้สู ึกสนกุ สนาน) - นกั เรียนคิดว่าเกมหมากฮอสฝึกทกั ษะทางดา้ นใด (ตัวอย่างคาตอบ ฝกึ สมาธิ) - เกมหมากฮอสมวี ิธกี ารเล่นอยา่ งไร (ตวั หมากผ้เู ลน่ แตล่ ะฝ่ายต้องกินหมากของฝ่ายตรงข้าม ใหห้ มดทกุ ตัว ฝ่ายใดหมากหมดกระดานก่อนเปน็ ฝา่ ยแพ้) 4. ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั สนทนาแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับ การเล่นหมากฮอส โดยครใู ช้คาถาม ดังนี - อุปกรณท์ ี่ใช้ในการเลน่ หมากฮอสมอี ะไรบา้ ง (กระดานท่ีเป็นตารางจานวน 64 ช่องเทา่ ๆ กนั (กระดานหมากฮอส) ตวั หมากจะมี 2 ฝา่ ย ฝ่ายละ 8 ตัว ตวั หมากแต่ละฝ่ายต้องต่างกัน) - อุปกรณแ์ ต่ละชนดิ มีความสาคัญอย่างไรบ้าง (กระดานใช้สาหรับวางตัวหมาก สว่ นตวั หมาก ก็ตอ้ งมีเพราะถ้าไมม่ กี ไ็ ม่สามารถเดินหมากได้) - กตกิ าในการเลน่ หมากฮอสเปน็ อย่างไร (ผเู้ ล่นแตล่ ะฝ่ายตอ้ งกนิ หมากของฝ่ายตรงขา้ มให้ หมดทุกตวั ฝ่ายใดตัวหมากหมดกระดานกอ่ นเปน็ ฝา่ ยแพ)้ - กติกาในการเลน่ หมากฮอสเหมอื นกบั กจิ กรรมนันทนาการอน่ื ๆ หรอื ไม่ เพราะอะไร (ตัวอยา่ ง คาตอบ ไม่เหมือน เพราะว่ากจิ กรรมนนั ทนาการอื่นๆ อาจไมต่ อ้ งมีกตกิ ามากเหมอื นกบั การเล่นหมากฮอส)
- กตกิ าในการเลน่ หมากฮอสมีความสาคญั อย่างไร (ตวั อย่างคาตอบ มคี วามสาคัญเพราะวา่ ถ้า ไม่เล่นตามกติกาก็จะไมม่ ีการแพ้การชนะ ไม่มกี ฎ กติกา และก็เป็นการควบคมุ เกมการเล่นใหอ้ ยใู่ นกฎเกณฑ์ท่ี กาหนดไว)้ - นักเรียนมวี ิธีการเลน่ หมากฮอสอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ต้องพยายามหาทางให้ตัวหมากเข้า ฮอสให้ได้ ถ้าเขา้ ฮอสได้มากโอกาสชนะก็จะมมี ากดว้ ย) -การเดนิ หมากมคี วามสาคญั อยา่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ มีความสาคญั คอื ถ้าเดนิ แบบไม่ได้ วางแผนก็จะทาใหฝ้ ่ายตรงขา้ มข้าฮอสไดม้ ากกวา่ โอกาสชนะของเราก็จะนอ้ ยกว่า) - ข้อเสนอแนะในการเล่นมคี วามสาคญั ตอ่ การเล่นหมากฮอสหรือไม่ เพราะอะไร (ตวั อยา่ ง คาตอบ มีความสาคญั เพราะถา้ เราทาได้กจ็ ะมีโอกาสจะชนะมากกวา่ ) 5. ให้นกั เรียนจับคู่กนั เล่นหมากฮอส โดยกาหนดใหเ้ ลน่ 3 เกม ผู้ที่เลน่ ชนะ 2 ใน 3 เกม จะเป็นฝ่ายชนะ 6. ใหน้ กั เรยี นและครูร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั การเล่นหมากฮอส โดยครูใช้ คาถาม ดงั นี - ขณะเล่นหมากฮอสนักเรยี นพบอปุ สรรคหรือปัญหาอะไรบ้าง (ตวั อยา่ งคาตอบ การเดนิ หมาก แล้วตวั หมากถกู กิน 2 ต่อหรอื 3 ต่อ) - นกั เรยี นจะมวี ธิ พี ัฒนาการเล่นหมากฮอส ให้ดีขึนได้อย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ ตอ้ งระวังโดย ตัวฮอสจะตอ้ งไมอ่ ยูต่ ดิ กับตัวหมากทจี่ ะนาไปต่อในแนวเดินของฝา่ ยตรงข้าม) 7. นักเรยี นและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดังนี การเล่นหมากฮอสเป็นกจิ กรรมนันทนาการทชี่ ว่ ย ฝึกทักษะการคดิ แกป้ ญั หา การวางแผนปฏิบตั งิ าน การฝกึ สมาธแิ ละเปน็ การใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ 8. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คาถามทา้ ทาย ดงั นี - มเี กมอะไรอีกบ้างที่ใช้ ตารางเปน็ อปุ กรณ์การเล่นเหมือนหมากฮอส ช่วั โมงท่ี 18 กจิ กรรมนนั ทนาการ (3) จานวน 1 ชว่ั โมง 1. ครูและนักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับประโยชน์ของกิจกรรมนนั ทนาการ โดยครูใช้คาถาม ดังนี - กจิ กรรมนันทนาการอะไรบ้างทีท่ าให้เกิดความสามัคคี (ตวั อยา่ งคาตอบ ชักเย่อ วอลเลย์บอล) - กจิ กรรมนนั ทนาการอะไรทที่ าให้เกดิ ความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ (ตวั อยา่ งคาตอบ การ เตน้ รา) 2. ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ 4 กลมุ่ โดยให้แต่ละกลุม่ ชว่ ยกนั อภปิ รายวา่ กิจกรรม นนั ทนาการแต่ละประเภทมปี ระโยชน์อยา่ งไรบ้าง แล้วนาผลมาสรุปเปน็ แผนภาพ จากนนั ออกมา นาเสนองานหน้าชนั เรียนพรอ้ มทงั แสดงแผนภาพ
3. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั ประโยชน์ของกิจกรรมนนั ทนาการเปน็ แผนภาพ ความคดิ บนกระดาน ดงั นี 4. นกั เรียนและครูร่วมกันสรุปความร้ดู ังนี การปฏบิ ตั ิกิจกรรมนันทนาการส่งผลดตี ่อร่างกายและ จิตใจโดย ทาให้อารมณแ์ จม่ ใสเบกิ บาน สรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกายและกอ่ ให้เกิดความสามคั คีในหมู่คณะ 5. ให้นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นโดยครูใช้คาถามทา้ ทาย ดังนี - กิจกรรมนนั ทนาการชว่ ยสรา้ งเพื่อนใหมใ่ ห้นกั เรียนไดอ้ ย่างไร 6. ให้นักเรียนทาใบงานท่ี 8 เรื่อง กจิ กรรมนันทนาการ ชั่วโมงท่ี 19 สรปุ องคค์ วามรู้ จานวน 1 ชั่วโมง ครูและนักเรียนสรุปองคค์ วามรู้ท่ไี ด้เรยี นมาตลอดการจดั กจิ กรรมการเรียนร้ใู นภาคเรยี นที่ 1 จนไดข้ อ้ สรปุ วา่ 1. การออกกาลงั กายเปน็ การเคลอื่ นไหวร่างกายดว้ ยท่าทางตา่ งๆ เพื่อให้ร่างกายแขง็ แรง การออกกาลงั กายอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับตนเองอยา่ งสม่าเสมอจะทาให้มีสุขภาพกายและสขุ ภาพจิตดี 2. การเล่นเกมเปน็ กจิ กรรมทท่ี าให้เกิดความสนกุ สนาน รา่ เริง ช่วยผอ่ นคลายความเครียด และทาใหร้ ่างกายแขง็ แรง สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ 3. กิจกรรมนนั ทนาการเป็นการปฏิบตั กิ จิ กรรมตามความชอบ เปน็ การใช้เวลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ แลว้ ส่งผลดีตอ่ รา่ งกาย จิตใจ สติปญั ญา และสังคม ช่วั โมงท่ี 20 ทดสอบหลังเรียน จานวน 1 ช่ัวโมง ครูใหน้ กั เรยี นทดสอบหลงั การจดั การเรยี นโดยใช้เวลาในการทดสอบ 50 นาที หลังการ ทดสอบครนู ัดหมายใหน้ กั เรียนทีส่ อบไมผ่ า่ นในกจิ กรรมต่างๆทไ่ี ด้เรียนมาสามารถทาการสอบซอ่ มหรอื สอบ เพอื่ แก้ไขคะแนนใหด้ ีขึนไดโ้ ดยหาเวลาวา่ ง
7. ส่ือการเรยี นรู้ 1. แบบบันทึกการออกกาลังกาย 2. ลูกบอล 3. ตารางหมากฮอส 4. ตวั หมาก 5. ใบกจิ กรรม เรือ่ ง สนกุ กับการเลน่ เกม 6. ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง กจิ กรรมนันทนาการ 7. ใบกิจกรรมแผนผงั ความคิด เร่อื ง ข้อดี ขอ้ เสียของเกม
8.แบบบนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ แบบบันทึกผลการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ชือ่ หน่วย การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และกจิ กรรมนันทนาการ เรอื่ ง ………………………………………………………………………………………………………………………… วันทส่ี อน ………………………………………………………………… ระดบั ชนั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ผลการจัดการเรยี นรู้ นักเรยี นทังหมดจานวน ……………………… คน คิดเปน็ ร้อยละ 100 มาเรยี นจานวน ……………………… คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ……………………… ไม่มาเรียนจานวน ……………………… คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ……………………… หลังจาการจัดการเรียนรู้ นกั เรยี นอย่ใู นระดับ ดมี าก จานวน ……………… คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ……………… ระดบั ดี จานวน ……………… คน คดิ เปน็ ร้อยละ ……………… ระดบั พอใช้ จานวน ……………… คน คิดเป็นรอ้ ยละ ……………… ระดับปรบั ปรุง จานวน ……………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………… ปญั หาและอปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ส่ิงท่คี วรนาไปปรบั ปรุง/แก้ไขในครง้ั ตอ่ ไป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นางสาวนงลกั ษณ์ เทพปะนะ) ครูผูส้ อน / /……………………… ……………………… ………………
ภาคผนวก
แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre - Test) ช่อื _____________________ นามสกุล________________ เลขท่ี___ ชัน้ _____ ใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย x ทบั ตวั อักษรหน้าคาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง 1. ถา้ ต้องการฝึกการมสี มาธิควรเลือกกิจกรรมนนั ทนาการในขอ้ ใด ก. ไปเทยี่ วกับครอบครัว ข. ทาความสะอาดบ้าน ค. เลน่ หมากฮอส ง. เลน่ ตะกรอ้ 2. ขอ้ ใดเปน็ ประโยชนข์ องการเข้ารว่ มกจิ กรรมนนั ทนาการ ก. ทาให้เพอ่ื นๆ รกั ข. ครอบครวั อบอุน่ ค. ทาใหเ้ ปน็ ผู้มชี ื่อเสียง ง. ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ 3. การกระโดดตบมือเปน็ การออกกาลงั กายในรูปแบบใด ก. แบบเคลื่อนที่ ข. แบบอย่กู บั ท่ี ค. แบบผสมผสานอุปกรณ์ ง. แบบใช้แรงผสมผสานรับแรง 4. การเลน่ เปน็ ลกู งใู นการละเลน่ พืนเมอื งงกู ินหางควรปฏบิ ตั ิตามข้อใด ก. จบั เอวแมง่ หู รือลูกงูคนอืน่ ใหแ้ น่น ข. พยายามถอยหนีให้หา่ งจากแม่งูมากที่สดุ ค. ว่ิงหนีพอ่ งใู ห้เรว็ ทีส่ ดุ ง. ร้องพดู โต้ตอบกับพอ่ งูเสยี งดัง 5. การเลน่ เกมประเภททีม ควรปฏิบตั ิตามข้อใดเพ่ือให้การเล่นราบร่ืน ก. ข่มขทู่ ีมอนื่ ก่อนจะลงเลน่ ข. บอกเพอ่ื นว่าตอ้ งชนะเทา่ นนั ค. ใหอ้ ภัยเมือ่ เพ่ือนทาผิดพลาด ง. ทาร้ายร่างกายฝา่ ยตรงขา้ มเพื่อใหท้ ีมชนะ 6. ขอ้ ใดเปน็ การปฏบิ ัตทิ ีถ่ ูกตอ้ งในการเล่นเกม ก. ไม่เล่นตามกตกิ าเพือ่ ให้ชนะ ข. ให้อภัยเพอ่ื นเมือ่ กระทบกระทง่ั กัน ค. ต่อว่าเพอ่ื นเมอ่ื ทาผดิ พลาด ง. เยาะเยย้ ฝา่ ยตรงขา้ มเมอื่ ฝ่ายตนชนะ
7. การเลน่ เกมเตะบอลขา้ มแดน ผ้เู ลน่ ฝ่ายรุกควรปฏบิ ัติอยา่ งไร ก. ใช้เทา้ เตะลกู บอลไปยงั ฝ่ายตรงข้ามใหเ้ รว็ และแรง ข. โต้กลบั โดยการเปลย่ี นทิศทางของการเตะบอล ค. เตรยี มพรอ้ มทจี่ ะรับลกู บอลอยเู่ สมอ ง. มองหาพืนทว่ี า่ งในทมี ตรงขา้ มแล้วตีลกู บอลให้ลงพืนท่วี ่าง 8. การเลน่ เกมสง่ สลับ ผู้เลน่ ทที่ าลูกบอลหลุดมือต้องปฏิบตั ิอยา่ งไร ก. ต้องออกจากการแขง่ ขัน ข. ไปตอ่ ท้ายแถวของทมี ตนเอง ค. ไปยนื เปน็ คนแรกของแถวแล้วเร่มิ ส่งลูกบอลใหม่ ง. วิ่งไปเกบ็ ลกู บอลแลว้ กลบั มาสง่ ลูกบอลตอ่ 9. การเล่นเกมยีราฟหรอื กระตา่ ยน้อยในขอ้ ใดผิดกติกา ก. ผเู้ ลน่ ในแถววงกลมจะนัง่ ลงเมือ่ ร้องบอกยรี าฟ ข. ถ้ารอ้ งบอกกระต่ายนอ้ ยผู้เล่นในแถววงกลมจะตอ้ งทาท่ายนื ค. หากผ้เู ล่นท่ีปิดตาทายท่าทางผู้เลน่ คนใดในวงกลมถกู จะตอ้ งถูกปดิ ตาแทน ง. ผู้เลน่ ท่ีถูกปิดตาจะเปิดผ้าปิดตาออกเพ่อื ทายลักษณะท่าทางผเู้ ลน่ คนอนื่ ในวงกลม 10. การเลน่ เกมใหป้ ลอดภยั ควรปฏบิ ัตติ ามขอ้ ใด ก. เลือกเลน่ เกมทตี่ ้องออกแรงและกาลังมาก ข. เลน่ เกมตามกฎกติกาอย่างเคร่งครัด ค. เล่นเกมขณะท่ีเจ็บป่วยอยู่ ง. เลน่ เกมในที่คบั แคบ
แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post - Test) ชื่อ ______________________ นามสกุล________________ เลขท่ี________ ชัน ________ ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย ��� ทับตัวอกั ษรหน้าคาตอบที่ถกู ต้อง 1. การเลน่ เกมเตะบอลข้ามแดน ผูเ้ ล่นฝ่ายรกุ ควรปฏิบตั ิอย่างไร ก. เตรยี มพร้อมท่ีจะรับลูกบอลอยู่เสมอ ข. โต้กลับโดยการเปลี่ยนทศิ ทางของการเตะบอล ค. ใช้เทา้ เตะลูกบอลไปยังฝา่ ยตรงข้ามใหเ้ รว็ และแรง ง. มองหาพืนทว่ี า่ งในทีมตรงข้ามแลว้ ตีลกู บอลใหล้ งพนื ทวี่ ่าง 2. การเลน่ เกมส่งสลบั ผ้เู ลน่ ท่ีทาลูกบอลหลดุ มอื ต้องปฏบิ ตั ิอยา่ งไร ก. ต้องออกจากการแข่งขัน ข. ไปต่อท้ายแถวของทมี ตนเอง ค. วิง่ ไปเกบ็ ลูกบอลแลว้ กลับมาส่งลูกบอลตอ่ ง. ไปยืนเปน็ คนแรกของแถวแลว้ เร่ิมส่งลกู บอลใหม่ 3. ถ้าต้องการฝกึ การมสี มาธิควรเลือกกิจกรรมนันทนาการในขอ้ ใด ก. เล่นตะกรอ้ ข. เล่นหมากฮอส ค. ไปเที่ยวกบั ครอบครวั ง. ทาความสะอาดบา้ น 4. ขอ้ ใดเปน็ ประโยชน์ของการเข้ารว่ มกจิ กรรมนนั ทนาการ ก. ใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ ข. ทาใหเ้ ป็นผมู้ ีช่อื เสยี ง ค. ครอบครัวอบอ่นุ ง. ทาใหเ้ พือ่ นๆ รัก 5. การกระโดดตบมือเป็นการออกกาลงั กายในรูปแบบใด ก. แบบอยกู่ บั ท่ี ข. แบบเคลอื่ นที่ ค. แบบผสมผสานอุปกรณ์ ง. แบบใชแ้ รงผสมผสานรบั แรง 6. การเลน่ เป็นลกู งูในการละเล่นพืนเมืองงกู ินหางควรปฏิบัตติ ามข้อใด ก. วง่ิ หนพี อ่ งใู หเ้ รว็ ทสี่ ุด ข. รอ้ งพูดโต้ตอบกบั พอ่ งเู สียงดงั ค. จบั เอวแมง่ หู รอื ลูกงคู นอ่นื ให้แน่น ง. พยายามถอยหนีใหห้ ่างจากแม่งูมากท่ีสุด
7. การเล่นเกมยีราฟหรอื กระต่ายน้อยในขอ้ ใดผดิ กติกา ก. ผูเ้ ล่นในแถววงกลมจะน่ังลงเมอ่ื รอ้ งบอกยรี าฟ ข. ถา้ รอ้ งบอกกระต่ายนอ้ ยผ้เู ล่นในแถววงกลมจะตอ้ งทาท่ายืน ค. หากผเู้ ล่นท่ีปดิ ตาทายท่าทางผู้เล่นคนใดในวงกลมถกู จะต้องถูกปดิ ตาแทน ง. ผู้เลน่ ทถ่ี กู ปิดตาจะเปิดผ้าปดิ ตาออกเพ่ือทายลักษณะท่าทางผูเ้ ล่นคนอ่ืนในวงกลม 8. การเลน่ เกมใหป้ ลอดภยั ควรปฏิบัติตามขอ้ ใด ก. เลือกเล่นเกมทีต่ อ้ งออกแรงและกาลงั มาก ข. เล่นเกมตามกฎกตกิ าอย่างเครง่ ครดั ค. เล่นเกมขณะที่เจ็บปว่ ยอยู่ ง. เลน่ เกมในที่คับแคบ 9. การเลน่ เกมประเภททีม ควรปฏบิ ัตติ ามขอ้ ใดเพื่อให้การเล่นราบรืน่ ก. ทาร้ายรา่ งกายฝ่ายตรงขา้ มเพื่อใหท้ มี ชนะ ข. ขม่ ขทู่ ีมอน่ื ก่อนจะลงเล่น ค. บอกเพอ่ื นว่าต้องชนะเทา่ นัน ง. ใหอ้ ภยั เมอ่ื เพอ่ื นทาผิดพลาด 10. ขอ้ ใดเปน็ การปฏิบัติทถี่ กู ต้องในการเลน่ เกม ก. ไม่เลน่ ตามกติกาเพื่อให้ชนะ ข. ตอ่ ว่าเพื่อนเม่ือทาผิดพลาด ค. ให้อภัยเพ่ือนเมอ่ื กระทบกระทัง่ กนั ง. เยาะเย้ยฝา่ ยตรงขา้ มเมอื่ ฝ่ายตนชนะ
แบบทดสอบก่อนเรยี น เฉลยแบบทดสอบ ข้อท่ี เฉลย 1. ค แบบทดสอบหลงั เรยี น 2. ง ขอ้ ที่ เฉลย 3. ข 1. ค 4. ก 2. ค 5. ค 3. ข 6. ข 4. ก 7. ก 5. ก 8. ง 6. ค 9. ง 7. ง 10. ข 8. ข 9. ง 10. ค
แบบบนั ทกึ สรปุ ผลการเรียนรสู้ าหรบั ผเู้ รยี น ช่อื -นามสกุล...................................... เลขท่ี ............................................ ชัน .................................. วนั ที่ ................................................ เดือน ........................................................... พ.ศ. .................. คาชแี จง ให้นกั เรยี นบันทึกสรุปผลการเรียนรจู้ ากหนว่ ยการเรยี นรนู้ ี
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: