Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือปฐมนิเทศนักศึกษา กศน.อำเภอหลังสวน

คู่มือปฐมนิเทศนักศึกษา กศน.อำเภอหลังสวน

Published by สกร.อำเภอหลังสวน, 2020-05-25 02:36:23

Description: คู่มือปฐมนิเทศนักศึกษา กศน.อำเภอหลังสวน

Search

Read the Text Version

ค1 คู่มือการปฐมนิเทศออนไลน์เล่มนี้เป็นเอกสารท่ีจัดทาขึ้นเพื่อให้นักศึกษานอระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอาเภอหลังสวน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ได้ศึกษาเป็นแนวทางในการเตรียมตัวศึกษาเรียนรู้ ทั้งรูปแบบ วิธีเรียน โครงสร้างหลักสูตร เกณฑ์การจบหลักสูตร ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์เก่ียวข้องกับนักศึกษา โดยตรง จึงจาเป็นอย่างย่ิงที่นักศึกษาจะต้องศึกษาคู่มือเล่มนี้ให้เข้าใจ ถ้าสงสัยหรือไม่เข้าใจประการใด ควร สอบถามครูที่ปรึกษาทันที เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดอันจะนาไปสู่การปฏิบัติท่ีไม่ถูกต้อง และจะเกิดผลเสียแก่ตัว นกั ศกึ ษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอหลังสวน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์แก่บุคลากร ครู และนักศีกษาในการนาไปศึกษาเพ่ือใช้ในการเรียน การสอน การจบหลักสูตร อยา่ งมคี ณุ ภาพ ต่อการจัดการเรียนของ กศน.ตอ่ ไป โสภณ พรหมเจรญิ ผอ.กศน.อาเภอหลังสวน

ญ 2 เร่ือง หนา้ โครงสร้างหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พ.ศ.2551 3 แผนการลงทะเบียนเรยี น ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 4 แบบประเมินคุณธรรมตามพฤตกิ รรมบง่ ชี้รายภาคเรยี น 6 คณุ ธรรม พฤติกรรมบ่งชี้ หลัก/ยอ่ ย 7 หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานพุทธศักราช 2551 11 รปู แบบและวิธกี ารเรียนรู้ 14 การวัดผลและประเมินผลหลกั สตู รการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พ.ศ. 2551 15 การปฎบิ ัติตนในการสอบ 18 เกณฑ์การจบหลักสตู ร 19

โค ้ ข้ ื้ ฐ ท 2551 3 ี ในแต่ละระดับใช้เวลาเรียน 4 ภาคเรียน ยกเว้นกรณีท่ีมีการเทียบโอนผลการเรียน ผู้เรียนต้อง ลงทะเบยี นเรียนในสถานศกึ ษาอย่างน้อย 1 ภาคเรียน : ใชเ้ วลาเรยี น 40 ชวั่ โมง มคี า่ เทา่ กับ 1 หน่วยกิต ท่ี ี ้ ปถ ้ ป คื คื คื 1 ทักษะการเรยี นรู้ 5 5 5 2 ความรู้พ้ืนฐาน 3 การประกอบอาชพี 12 16 20 4 ทักษะการดาเนินชวี ิต 5 การพัฒนาสงั คม 8 8 8 5 5 5 รวม 6 6 6 กิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ 36 12 40 16 44 32 48 หนว่ ยกติ 56 หนว่ ยกติ 76 หนว่ ยกติ 200 ชั่วโมง 200 ชั่วโมง 200 ช่ัวโมง : วิชาเลือกในแตล่ ะระดับ สถานศกึ ษาตอ้ งจดั ให้ผเู้ รียน เรยี นร้จู ากการทาโครงงาน จานวนอย่างน้อย 3 หนว่ ยกิต

ผ ที ี โป ปถ . ค ทกั ษะการเรยี นรู้ 5 ทร21001 ทักษะการเรยี นรู้ ทร11001 ภาษาไทย 3 พท21001 ภาษาไทย พท11001 ชอ่ งทางการเข้าสูอ่ าชพี 2 อช21003 พฒั นาอาชพี ใหม้ ีความ อช11001 ค (36 ) 10 ืค 2 สค22020 ประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย 2 สค12024 ประวัติศาสตรช์ าติไทย1 พท23017 หลักการใช้ภาษาไทย ื ค( ) ื ี (โป ) ื ี( ) 0 ท้ ้ 12 จานวนหน่วยกิตท่ีลงทะเบียนเรยี น คอื ประถม ลงได้ไมเ่ กนิ 14 ของแต่ละภาคเรยี น ม.ตน้ ลงได้ไมเ่ กนิ 16-17 หนว่ ย ของแต่ละภ ม.ปลาย ลงไดไ้ มเ่ กนิ 20-23 หนว่ ย ของแต่ละภ

ข้ ื้ ฐ ท 2551 4 ค ี ท่ี 1 (1/63) ป . ้ 5 . 5 2 มเขม้ แข็ง 5 ทร31001 ทักษะการเรยี นรู้ 4 พท31001 ภาษาไทย 12 2 อช31003 พฒั นาอาชพี ใหม้ คี วามมนั่ คง 3 11 3 ย2 3 สค32034 ประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย 2 3 3 5 2 พท33015 หลักไทย 20 ทร02006 โครงงานเพอ่ื พัฒนาทักษะการเรียนรู้ 16 ภาคเรยี น ภาคเรยี น

ผ ที ี โป ปถ ฒี . ้ ค ทกั ษะการเรยี นรู้ 5 ทร21001 ทกั ษะการเรยี นรู้ ทร11001 ภาษาไทย 3 พท21001 ภาษาไทย พท11001 ช่องทางการเข้าสู่อาชีพ 2 อช21003 พัฒนาอาชพี ให้มีความเข้มแข็ง อช11001 ค (36 ) 10 ืค สค12024 ประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย1 2 สค22020 ประวัติศาสตร์ชาติไทย2 การขายและการตลาด ื ค( ) 2 ื ี (โป ฒ ี) อช23478 ื ี( ) 0 ท้ ้ 12 จานวนหน่วยกิตที่ลงทะเบียนเรยี น คอื ประถม ลงได้ไมเ่ กิน 14 ของแตล่ ะภาคเรียน ม.ตน้ ลงได้ไม่เกิน 16-17 หนว่ ย ของแต่ละภา ม.ปลาย ลงไดไ้ ม่เกิน 20-23 หนว่ ย ของแต่ละภา

ข้ ้ื ฐ ท 2551 5 ค ี ที่ 1 (1/63) ป . . 5 ทร31001 ทกั ษะการเรยี นรู้ 4 พท31001 ภาษาไทย 5 2 อช31003 พัฒนาอาชพี ใหม้ คี วามมนั่ คง 5 2 11 12 3 สค32034 ประวัตศิ าสตรช์ าติไทย 3 3 3 3 อช32001 การพัฒนาแผนและโครงการอาชพี อช02003 การทาสวนยางพารา 3 3 3 6 17 21 าคเรยี น าคเรยี น

ป คณ ค ี ที่......... ช่อื -ชือ่ สกุล(นาย,นาง,นางสาว).....................................................รหัสประจาตัวนักศกึ ษา... ช่ือสถานศกึ ษา ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอหลังสวน จังห ค 1.ใหท้ าเครื่องหมาย √ เมอื่ ผ่าน หรือ ไมผ่ า่ นการประเมิน 2. คะแนนประเมินแต่ละข้อ คอื 100 คะแนน 3. หลกั ฐานการประเมิน เชน่ การสังเกตพฤติกรรม ณฑ ป หมายถึง ผเู้ รยี นมีพฤติกรรมตามตังบง่ ชี้ รอ้ ยละ 90 ขนึ้ ไป ของ ดมี าก หมายถึง ผู้เรียนมีพฤติกรรมตามตังบง่ ชี้ รอ้ ยละ 70-89 ของพฤ ดี หมายถึง ผเู้ รียนมีพฤติกรรมตามตังบง่ ช้ี ร้อยละ 50-69 ของพฤ พอใช้ หมายถงึ ผู้เรยี นมีพฤติกรรมตามตงั บง่ ชี้ ร้อยละ 0-49 ของพฤต ปรบั ปรุง

ฤ ้ี ค ี 6 ...../......................... .......................... ............... หวดั ชุมพร งพฤติกรรมบง่ ชี้ในแตล่ ะคุณธรรม ฤติกรรมบง่ ชใี้ นแตล่ ะคณุ ธรรม ฤติกรรมบ่งช้ใี นแตล่ ะคุณธรรม ตกิ รรมบ่งชีใ้ นแต่ละคณุ ธรรม

7 คณ ฤ ี้ / 1. 1.1 รักษาความสะอาดของร่างการ/เคร่ืองแต่งกาย 1.2 รักษาความสะอาดของที่อย่อู าศยั /สถานทีพ่ บกลมุ่ /ศูนยก์ ารเรยี น 1.3 รักษาความสะอาดของทีส่ าธารณะ 1.4 มจี ิตใจแจ่มใส 2. 2.1 แสดงกริ ิยาทา่ ทางสุภาพ อ่อนนอ้ ม ถ่อมตน ต่อผอู้ น่ื ด้วยความมั่นใจในตนเอง 2.2 วาจาสภุ าพ กล่าวคาขอบคุณหรือขอโทษด้วยอยา่ งเหมาะสมตามสถานการณ์ 2.3 สามารถควบคุมอารมณ์ทไี่ มพ่ งึ ประสงค์ ในสถานการณ์ตา่ งๆได้ 2.4 มีสมั มาคารวะและวางตัวในสงั คมได้อย่างเหมาะสมกับความเป็นไทย ป

8 คณ ฤ ี้ / 3. ญญ ที 3.1 ดแู ล/ช่วยเหลอื หรอื ให้การอุปการะเอาใจใส่บิดามารดา ผมู้ ีพระคณุ 3.2 ตอบแทนบญุ คุณ อาสาชว่ ยเหลือ ครูอาจารยส์ ถานศกึ ษา 3.3 มีส่วนร่วมชว่ ยเหลือพฒั นาชุมชน สงั คม และประเทศชาติ 3.4 ปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองดขี องประเทศชาติ 4. ข 4.1 รว่ มกิจกรรม การเรยี นรู้ การทางานด้วยความ ตง้ั ใจ มคี วามเพยี รพยายาม กระตือรอื รน้ 4.2 ทางานที่ไดร้ บั มอบหมายได้ถกู ต้องและเสร็จทันตามกาหนด 4.3 แสวงหาความรู้อย่างต่อเนอื่ งสามารถแกป้ ญั หาไดด้ ว้ ยตนเอง 4.4 ใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ 5. ป 5.1 มกี ารออม 5.2 ทาบัญชี รบั -จา่ ยของตนเองโดยใชจ้ ่ายเงนิ อย่างมีเหคไุ มฟ่ ุ่มเฟือย 5.3 ใช้ทรัพยส์ นิ ส่ิงของของสถานศกึ ษา และสาธารณะอยา่ งประหยดั 5.4 ใช้ทรพั ยากรอย่างคุ้มค่าเหมาะสมกบั งาน ป

9 คณ ฤ ้ี / 6.ซื่ 6.1ไม่คดั ลอกหรือนาผลงานของผู้อืน่ มาเป็นของตนเองและไม่เอาส่ิงของของคนอื่นมาเปน็ ของตนเอง 6.2 ตรงตอ่ เวลา ทัง้ ต่อตนเองและผอู้ น่ื 6.3 ไมท่ ุจริต ประพฤติ ปฏบิ ตั ิตรงต่อหนา้ ที่ 6.4 พดู ความจริงปราศจากความลาเอียงหรืออคติ 7. คคี 7.1 รว่ มกิจกรรมกับหมู่คณะด้วยความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกนั 7.2 เปน็ ผมู้ ีเหตผุ ลยอมรบั ความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย 7.3 มภี าวะการเป็นผู้นาและผตู้ ามท่ีดี 7.4 ยอมรับในบทบาทหน้าทข่ี องตนเอง และของผู้อ่ืน ตลอดจนยอมรับการตดั สินใจของกลมุ่ 8. ี ้ ใ 8.1 มีความจรงิ ใจไมเ่ ห็นแก่ตวั มคี วามออื้ เฟ้ือเผ่ือแผ่เอ้อื อาทร 8.2 ให้ความชว่ ยเหลอื เอาใจใส่ให้ความสนใจในชีวติ ความเปน็ อยู่ของผอู้ ืน่ ที่เดอื ดร้อน 8.3 เสยี สละเพ่อื ช่วยเหลือผอู้ นื่ 8.4 รว่ มสรา้ งสรรคส์ ง่ิ ท่ดี ีงามให้เกิดขึน้ ในชมุ ชน ป

10 คณ ฤ ี้ / 9. 9.1 ปฏิบตั ติ นตามกฎ ระเบยี บ ข้องบงั คับและข้อตกลงของสถานศึกษาและสังคม 9.2 เข้าร่วมกจิ กรรมหรอื ปฏบิ ตั งิ านท่ไี ด้รับมอบหมาย และตรงต่อเวลา 9.3 ปฏบิ ัติตนถูกตอ้ งตามศีลธรรมทด่ี งี าม 9.4 เป็นผูท้ ม่ี ีความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ชมุ ชนและสังคม 10. ค ป็ ไท 10.1 การปฏบิ ัตติ นตามหลักศาสนา 10.2 มีความรักศรทั ธาและเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 10.3 ภาคภมู ใิ จและดารงความเปน็ ไทย 10.4 รว่ มกจิ กรรมสาคัญทางศาสนา 11. ่ ใ ถี ี ปค ป ปไ ี ท ป็ ป ข 11.1 ยึดมัน่ ศรทั ธาในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ 11.2 ธารงรกั ษาไวซ้ ึง่ ความปกครองตามระบอบประชาธิปไตย 11.3 ประพฤติตนในภาวะผูน้ าและผู้ตามท่ีดี 11.4 ยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ ป

ข้ ้ื ฐ ท 2551 11 ฒ คณ ี คื ไ กจิ กรรม พฒั นาคณุ ภาพชีวติ หรือ กพช. หมายถงึ กจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ สนับสนนุ ให้นกั ศกึ ษาเป็นผูร้ ู้จักคิด รู้จักทา เปน็ ผ้คู ิดเปน็ ทาเปน็ และแก้ปัญหาเปน็ โดยนักศึกษาสามารถเลือกทากิจกรรมพฒั นาคุณภาพชวี ติ ไดต้ ามความสนใจ หรอื ความถนดั เน้นการนาความรู้ ทกั ษะ และประสบการณท์ ี่ได้จากการศึกษาเรียนรไู้ ปส่กู ารปฏบิ ตั ทิ ส่ี อดคล้องกบั วิถี ชวี ติ เพอื่ พัฒนาตนเอง ครอบครวั ชุมชน สงั คม และสง่ิ แวดล้อม รวมถงึ มกี ารปลูกฝังคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ในแต่ละระดบั การศึกษาจะตอ้ งปฏิบตั ิกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตรวมแล้วไม่น้อย กว่า 200 ชวั่ โมง โดยมขี อบขา่ ยเนื้อหาท้งั ใน ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ีค ป็ ไ กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชวี ิตเปน็ เง่ือนไขในการจบหลกั สตู ร ซึง่ กาหนดไว้ไม่น้อยกวา่ 200ชั่วโมงในแต่ละระดบั ถป ค วัตถปุ ระสงค์ของการจดั กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ติ มดี งั นี้ 1. เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รียนมีโอกาสใชก้ ระบวนการกล่มุ แลกเปลีย่ นความรู้ ประสบการณ์ โดยฝึกทักษะการคดิ การแกป้ ญั หา และ ความมีเหตุผล 2. เพ่อื ปลูกฝงั ให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรม และสามารถอยู่ร่วมกันกบั ผู้อ่ืนได้อยา่ งมีความสุข 3. เพ่ือส่งเสริมให้ผู้เรยี นได้พัฒนาตนเองและมสี ่วนร่วมในการพัฒนา ครอบครวั ชมุ ชน และสงั คม ทาให้เกิดความรสู้ ึก ผกู พนั เป็นส่วนหนง่ึ ของชุมชนและสังคม คป ฒ คณ ี ประกอบดว้ ย 1. ความร้พู น้ื ฐาน เปน็ กจิ กรรมการเรยี นรูท้ ี่มีขอบข่ายเนื้อหาเกี่ยวกบั o โครงสรา้ งและประโยชน์ของ กพช. o แนวทางการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สังคม o กระบวนการกล่มุ o กระบวนการคดิ เป็น ทาเป็น แกป้ ัญหาเป็น และการนาไปใช้ในการดาเนินชวี ติ o การประสานเครือข่าย o การเป็นผู้นา ผตู้ าม o การวางแผน และประโยชน์ของการวางแผน o มนษุ ยสัมพนั ธ์

o การเขยี นโครงการ 12 2. กจิ กรรมโครงการ เปน็ กิจกรรมการเรียนรู้ที่ใหผ้ ู้เรยี นไดล้ งมือปฏบิ ตั จิ รงิ ในการทากจิ กรรม โครงการทเี่ กย่ี วกับการ พฒั นาตนเอง ครอบครวั ชุมชน และสังคม ณ ฒ คณ ี แบง่ เปน็ 2 ประเภท ดงั น้ี 1. ี ้ที่ ้ ฒ ท ี ข ค ค โดยใชก้ ระบวนการเรียนรูแ้ บบมีสว่ นร่วม ของผูเ้ รียน และตอ้ งพิจารณาในประเด็นสาคัญๆ ดงั นี้  ประโยชน์ท่ีตนเอง ครอบครวั ได้รับ ซงึ่ เปน็ กิจกรรมท่ีสามารถสร้าง/พฒั นาทักษะการดาเนินชีวิตให้ตนเอง / ครอบครัวอยไู่ ด้อย่างมีความสุข  การมสี ่วนร่วมของผู้เรยี นและครอบครวั เป็นกจิ กรรมท่ีดาเนินการแลว้ ผเู้ รียนและครอบครัวเหน็ ความสาคัญและให้ ความรว่ มมอื  การใช้กระบวนการกลมุ่ เป็นกจิ กรรมที่ทาให้เกิดความรว่ มมอื ในการดาเนนิ งาน มกี ารประสานงาน ความรับผิดชอบ เสยี สละ และจติ บรกิ าร  ความเหมาะสมในการใชร้ ะยะเวลาในการปฏิบตั งิ านตามโครงการ  ปจั จัยทเ่ี อ้ือต่อความสาเร็จ ได้แก่ ความรู้ แหลง่ ข้อมลู วสั ดุ งบประมาณและการเลอื กใชท้ รพั ยากรได้อยา่ งเหมาะสม ประหยดั  ความคดิ ริเร่มิ สร้างสรรค์ เปน็ การคดิ ส่งิ ใหมๆ่ ทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาตนเองและครอบครัว 2. ี ้ท่ี ้ ฒ ค โดยใช้กระบวนการมสี ่วนร่วมของชุมชน และพจิ ารณาใน ประเด็นสาคญั ๆ ดงั น้ี  ประโยชนท์ ่ชี ุมชนและสังคมจะไดร้ บั หรือบริการทช่ี ่วยเสริม หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตทางดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง การปกครอง ตลอดจนสนับสนนุ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย และอ่นื ๆ ท่ีตอบสนอง นโยบายการพฒั นาประเทศ  การมสี ่วนรว่ มของคนในชุมชน เปน็ กจิ กรรมที่ดาเนินการแลว้ คนในชุมชนเห็นความสาคัญและใหค้ วามรว่ มมือ ทงั้ ด้าน ความคิด แรงงาน วสั ดุอุปกรณ์ และอ่นื ๆทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง  การใช้กระบวนกลุม่ เป็นกิจกรรมท่ที าใหเ้ กดิ ความร่วมมอื ในการทางาน เสยี สละ จติ บริการตามวิถปี ระชาธิปไตย  การใชร้ ะยะเวลาในการปฏบิ ัติงาน เป็นกจิ กรรมทใ่ี ช้ระยะเวลาในการปฏบิ ตั งิ านให้มคี วามเหมาะสมกับกจิ กรรม โครงงานท่นี าเสนอ  ปัจจัยท่เี อื้อต่อความสาเร็จในการจดั กจิ กรรม เชน่ บุคคลากร วสั ดุ งบประมาณ และการใช้ทรพั ยากรทม่ี ีอยใู่ นชุมชน ใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งประหยดั และประยุกตใ์ ช้อย่างเหมาะสม  มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ เป็นการคิดส่ิงใหม่ๆ ทีเ่ ป็นประโยชน์และทาให้เกดิ การพฒั นาได้อยา่ งต่อเนอ่ื งและอยา่ ง ยง่ั ยนื

ข้ ฒ คณ ี มขี นั้ ตอนดงั นี้ 13 1. ผเู้ รยี นลงทะเบยี นกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิต (แบบ กพช 1) 2. ผเู้ รียนดาเนนิ การตามโครงการ พรอ้ มทัง้ บันทึกกิจกรรม หรอื การปฏิบตั งิ านเปน็ รายบุคคล 3. ผเู้ รยี นจัดทาเอกสารรายงานผลการดาเนินงานตามโครงการส่งเมื่อสิน้ สดุ โครงการ ณฑ ผ ฒ คณ ี 1. ผเู้ รียนตอ้ งเขา้ รว่ มกิจกรรมพฒั นาคุณภาพชีวติ และปฏบิ ัติโครงการไมน่ ้อยกวา่ 200 ช่วั โมง 2. โครงการต้องบรรลุวัตถปุ ระสงค์ โดยมีช้ินงาน ร่องรอย และหรอื เอกสารรายงาน 3. เกณฑ์การพจิ ารณาตดั สินการประเมนิ โครงการพัฒนาคุณภาพชวี ิตผู้เรยี นต้องได้คะแนนรวมไม่นอ้ ยกวา่ 70 จึงจะถอื วา่ “ผา่ น” ใบลงทะเบยี นกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต สามารถดาวน์โหลดไดท้ ี่ แบบฟอร์มตา่ งๆ

ป ี ี้ 14 1. ี ไ - เรียนผ่านระบบออนไลนด์ ว้ ยตนเองผ่านชอ่ งทางตา่ ง ๆ ได้แก่ ETV และ ระบบทวี ดี จิ ิทัล ชอ่ ง 52 (เรม่ิ ออกอากาศ วันท่ี 18 พฤษภาคม 2563) - เรยี นด้วยห้องเรยี น Google Site 2. ี - เรยี นตามความพร้อมของผู้เรยี นและบรบิ ทของพ้ืนที่ ได้แก่ การพบกลุม่ ย่อย การพบผ้เู รยี นรายบคุ คล - เรียนตามความเหมาะสมของเนอ้ื หา

ผป ผ ข้ ื้ ฐ . . 2551 ปผ 15 1. การวดั และประเมนิ ผลรายวชิ า 2. การประเมนิ คณุ ธรรม 3. การประเมินกิจกรรม กพช. 4. การประเมนิ คณุ ภาพการศึกษานอกระบบระดับชาติ ค ระหวา่ งภาคเรียน 60 คะแนน และปลายภาคเรียน 40 คะแนน ผู้เรียนต้องเข้าสอบปลายภาคเรยี น และมคี ะแนนสอบปลายภาคเรยี นรวมกับคะแนนระหว่างภาคเรียนผา่ นเกณฑข์ ้นั ตา่ คือ ร้อยละ 50 ไไ้ ป ค ี ใ ้ถื ผ ี ้ ป็ “0” ป ค ี (60 ค ) วัตถปุ ระสงค์ เป็น การประเมนิ เพ่ือทราบความก้าวหนา้ ทัง้ ด้านความรู้ ทักษะ เจตคติ และพฤติกรรมการเรียนรู้ การรว่ มกิจกรรม ผลงาน จะประเมินในระหวา่ งภาคเรียน คิดเป็นร้อยละ 60 โดยประเมนิ จาก 3 สว่ น คอื 1. การทาแบบฝกึ หดั 20 คะแนน 2. การทาบันทึกการเรียนรู้ 20 คะแนน 3. การทารายงาน/โครงงาน 20 คะแนน การทาแบบฝึกหดั ไดแ้ ก่ แบบฝกึ หดั ท้ายบทเรียนในสือ่ การเรยี นรรู้ ายวชิ าต่างๆ หรอื เป็นแบบฝึกหัดทชี่ ่วยเสรมิ ให้เกิด ทักษะการเรียนรู้ และเข้าใจในบทเรยี นตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ในแตล่ ะบทเรียน บันทกึ การเรียนรู้ คอื เอกสารทีผ่ เู้ รยี นจดั ทาขน้ึ เพ่ือแสดงให้เหน็ กระบวนการเรยี นรู้ของผูเ้ รียน และประโยชน์ทผ่ี เู้ รียน ไดร้ บั จากการเรยี นรทู้ ัง้ ในสว่ นขององค์ความรู้และการ นาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวนั

สว่ นประกอบบันทึกการเรยี นรู้ อาจมอี งค์ประกอบดงั ตอ่ ไปนี้ 16 1. ปก 2. ปกใน 3. รายละเอยี ดเก่ยี วกบั ตวั ผู้เรียน 4. สว่ นบนั ทกึ การเรยี นรู้ ประกอบด้วยหวั ขอ้ ดังต่อไปนี้ 4.1 สาระการเรยี นรู้ และรายวิชาทีศ่ ึกษา 4.2 หัวข้อทีศ่ กึ ษา หรือท่ีครูมอบหมายให้มาศกึ ษา 4.3 จดุ ประสงค์ทีศ่ ึกษาในหัวข้อน้นั 4.4 ข้ันตอนการศึกษา 4.5 สรปุ เน้ือหาทีเ่ รยี นรแู้ บบยอ่ 4.6 ผลการเรยี นรู้ 4.7 การนาไปประยุกตใ์ ช้ในรายวิชาอน่ื ๆ หรอื ในชีวิตประจาวนั 4.8 ความคดิ เห็นของครู รายงานหรือโครงการ การทารายงาน หมายถงึ การศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้จากแหลง่ ความรู้ต่างๆ หรอื จากการทดลอง การ สงั เกตการณ์ การสมั ภาษณ์ ของผู้เรยี น ที่นาสารสนเทศดังกลา่ วมาประเมนิ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้ถกู ต้องและเรยี บเรยี ง อย่างมีแบบแผนท่ีกาหนด อาจศึกษาค้นคว้าในเรื่องใดเรือ่ งหนง่ึ โดยวธิ ใี ดวิธีหนึ่งท่ผี เู้ รยี นสนใจ อาจทาเปน็ รายบุคคล หรือ เป็นกลุ่มก็ได้ โครงงาน หมายถึง การเรียนรู้ทเี่ กดิ จากความสนใจของผูเ้ รยี น ที่ตอ้ งการศึกษาคน้ คว้าเกยี่ วกบั ส่งิ ใดสง่ิ หนึง่ หรอื หลายๆส่ิงทส่ี งสยั และตอ้ งการรคู้ าตอบใหล้ ึกซ้งึ ชัดเจน หรอื ตอ้ งการเรยี นรู้ในเร่ืองน้ันๆให้มากข้ึนกวา่ เดมิ โดยใช้ความรู้ หลายๆด้านและทักษะกระบวนการที่ต่อเนอ่ื ง มีการวางแผนฝนการศึกษา และรับผิดชอบปฏบิ ตั ิตามแผนจนได้ขอ้ สรุป หรือผลการศกึ ษา หรือคาตอบเกย่ี วกบั เรือ่ งนั้นๆอย่างเปน็ ระบบ เร่อื งที่จะทาควรเป็นเรื่องทผ่ี ู้เรยี นสนใจ และสอดคล้อง ตามสาระการเรยี นรตู้ ามรายวิชา ป ผ ป ค ี (40 ค ) วตั ถุประสงค์เพื่อทราบผลการเรียนรโู้ ดยรวมของผเู้ รียนในแต่ละรายวชิ า สดั สว่ นคะแนนทีก่ าหนดคือ รอ้ ยละ 40

17 ป คณ ประเมนิ ต่อเน่ืองตลอดภาคเรียน โดยประเมนิ จากผลงาน เนน้ พฤติกรรมบง่ ชี้ คุณธรรมทั้ง 9 ได้แก่ ความสะอาด สุภาพ กตญั ญูกตเวที ความขยนั ประหยดั ซอ่ื สัตย์ สามัคคี มนี า้ ใจ มีวินัย โดยตอ้ งผ่านระดบั พอใช้ขน้ึ ไป ป. ผเู้ รยี นต้องปฏบิ ตั กิ ิจกรรมพัฒนาคุณภาพชวี ติ ไม่นอ้ ยกว่า 200 ช่วั โมง โดยมีขอบขา่ ยเน้ือหาท้งั ในภาคทฤษฎแี ละ ภาคปฏิบตั ิ ป คณ ผ้เู รยี นเขา้ รับการประเมินคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับชาติ ในภาคเรยี นสุดท้ายของการจบหลักสูตร และ ดาเนินการก่อนสอบปลายภาคของภาคเรยี นนัน้ ๆ โดยไม่มีผลต่อการสอบได้ หรือ สอบตกของผเู้ รียน

ปฎ ใ 18 ปฎ ใ ค ป็ Online 1. นกั ศึกษานาโทรศัพทท์ ี่มแี บตเทอรีเต็ม และมี Internet พรอ้ ม 2. การแต่งกายในการสอบให้เปน็ ไปตามขอ้ ตกลงของสถานศกึ ษา - ผหู้ ญิงใสเ่ ส้ือช้อป กระโปรง รองเท้าหุ้มสน้ - ผชู้ ายใส่เสอ้ื ช้อป กางเกงผ้าแลคสดี าหรือสีกรม รองเท้าผา้ ใบ ปฎ ใ ปค 1. การแต่งกายในการสอบให้เปน็ ไปตามขอ้ ตกลงของสถานศกึ ษา - ผูห้ ญิงใส่เส้ือช้อป กระโปรง รองเท้าหุ้มสน้ - ผ้ชู ายใส่เสื้อชอ้ ป กางเกงผา้ แลคสีดาหรือสีกรม รองเท้าผ้าใบ 2. สง่ิ ที่ต้องเตรยี มในการเข้าห้องสอบ คือ ดินสอ 2B ปากกา ยางลบ บัตรนกั ศึกษา 3. เข้าสอบตามวนั เวลา ทกี่ าหนด 4. ไมส่ ่งเสียงดังในห้องสอบ ไม่ลอกขอ้ สอบ : ถ้าบตั รนกั ศึกษาหาย ใหใ้ ชบ้ ตั รประชาชน ใบขับข่ี หรอื ใหค้ รู กศน.ตาบล เปน็ ผู้รบั รองการเป็นนักศึกษา

ณฑ 19 ผเู้ รยี นท้ังระดับ ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มีเกณฑ์การจบหลกั สูตร ดังน้ี 1. ต้องสอบผ่านในรายวิชา ตามโครงสรา้ งหลกั สูตร คือ - ระดบั ประถมศึกษา ไม่น้อยกวา่ 48 หน่วยกิต แบง่ เปน็ วชิ าบังคับ 36 หน่วยกิต และวชิ าเลือกไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกติ - ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น ไม่น้อยกว่า 56 หน่วยกติ แบ่งเป็นวิชาบงั คับ 40 หนว่ ยกติ และวิชาเลอื กไม่นอ้ ย กวา่ 16 หน่วยกติ - ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ไม่นอ้ ยกวา่ 76 หน่วยกติ แบ่งเปน็ วชิ าบังคับ 44 หนว่ ยกติ และวิชาเลือกไม่ นอ้ ยกว่า 32 หนว่ ยกิต 2. ตอ้ งผา่ นกระบวนการประเมินกิจกรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิต (กพช.) ไมน่ ้อยกวา่ 200 ชั่วโมง โดยแบ่งเปน็ ภาค เรียนละ 50 ชว่ั โมง 3. ต้องผ่านกระบวนการประเมนิ คณุ ธรรม ในระดับพอใชข้ ึ้นไป 4. เขา้ รบั การประเมนิ คุณภาพการศกึ ษานอกระบบระดบั ชาติ (N-net) เพราะถา้ หากผู้เรยี นไม่เขา้ สอบ N-net จะมี ผลทาใหไ้ ม่จบหลักสตู ร หมายเหตุ 1. ในสว่ นของการจัดการเรียนการสอนรายวชิ า ผ้เู รียนทุกคนจะต้องลงทะเบยี นเรยี นรายวิชา เลือกบังคับอย่างน้อย คนละ 6 หน่วยกิต และผู้เรียนทุกคนจะต้องผ่านการทาโครงงานใน รายวิชาเลอื ก อยา่ งน้อย 3 หน่วยกิต 2. ต้องผ่านการอบรม กพช.(ภาคทฤษฎ)ี จานวน 10 ชว่ั โมง

“ LIFFLONG LEARNING