Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 1 จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

บทที่ 1 จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

Published by สกร.อำเภอหลังสวน, 2020-01-16 23:33:16

Description: บทที่ 1 จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

Search

Read the Text Version

จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ Ethics in Information Technology

ความหมายของ จรยิ ธรรม (ethics) • หลักศีลธรรมจรรยาท่ีกาหนดขน้ึ เพ่ือใช้เป็นแนวทางปฏิบัติหรอื ควบคุมการใชร้ ะบบ คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศ • หลกั ของความถูกตอ้ งและความผิดท่ีบุคคลใชเ้ ป็นแนวทางในการปฏิบัติ • สรุป เป็นหลกั เกณฑ์ท่ีประชาชนตกลงร่วมกันเพ่อื ใช้เปน็ แนวทางในการปฏิบตั ิรว่ มกันในสงั คม

จรยิ ธรรมในการใชง้ านคอมพิวเตอร์ จรยิ ธรรมเกย่ี วกับการใช้เทคโนโลยี คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศ จะกล่าวถึงใน 4 ประเด็น ในลักษณะตวั ย่อวา่ PAPA • 1.ความเปน็ สว่ นตัว (Privacy) • 2.ความถกู ต้อง (Accuracy) • 3.ความเปน็ เจ้าของ (Property) • 4.การเขา้ ถึงข้อมูล (Data accessibility)

ความเป็นสว่ นตวั (Information Privacy) •สิทธใิ นการควบคุมขอ้ มลู ของตนเองในการเปดิ เผยใหก้ ับผู้อนื่ •การละเมิดความเปน็ สว่ นตัว • เข้าไปอา่ น e-mail , ใช้คอมพวิ เตอร์ตรวจจบั การทางานของพนักงาน, รวบรวมขอ้ มลู สว่ นบุคคลสร้างเป็นฐานข้อมลู แล้วเอาไปขาย • ทาธุรกิจผา่ นเว็บไซตเ์ พือ่ รวบรวมข้อมูลไปขาย เช่น บรษิ ทั doubleclick , enage • ใชโ้ ปรแกรม sniffer วเิ คราะห์การใช้ internet ตดิ ตามผูใ้ ช้เพ่อื ทาการส่ง e-mail ขายสนิ คา้ ทาใหเ้ กดิ อีเมลข์ ยะ (junk mail) ท่ีผู้รบั ไมต่ อ้ งการ เรียกวา่ สแปม

ความถูกตอ้ ง information accuracy •ความถกู ตอ้ งขึ้นอยกู่ บั ความถกู ต้องในการบันทึกขอ้ มลู •ต้องมีผูร้ บั ผิดชอบในเร่ืองความถกู ตอ้ ง •ตอ้ งมีการตรวจสอบความถกู ตอ้ งกอ่ นการบันทึก •เชน่ ถ้าให้ลกู ค้าปอ้ นขอ้ มลู เอง ตอ้ งให้สิทธิในการเขา้ ไป ตรวจสอบความถูกตอ้ งด้วยตนเอง •ข้อมลู ตอ้ งมคี วามทนั สมัยอยู่เสมอ

ความเป็นเจา้ ของ Intellectual Property (IP) • กรรมสิทธิในการถือครองทรัพยส์ นิ โดยทรัพยส์ ินแบง่ เป็น ▫ จบั ตอ้ งได้ คอมพวิ เตอร์ รถยนต์ ▫ จบั ต้องไมไ่ ดแ้ ต่บันทกึ ลงในสอื่ ตา่ งๆ ได้ (ทรพั ย์สนิ ทางปัญญา) บท เพลง โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ • ได้รับความคมุ้ ครองสิทธิภายใต้กฎหมาย ▫ ความลับทางการค้า เกย่ี วกับสตู ร กรรมวธิ ีการผลิต รูปแบบสนิ ค้า ▫ ลิขสทิ ธ์ิ สทิ ธิในการกระทาใดๆ เกี่ยวกับ งานเขยี น ดนตรี ศิลปะ ค้มุ ครองในเรือ่ งการคดั ลอกผลงานหรอื ทาซา้ โดยคุ้มครอง 50 ปี หลงั จากไดแ้ สดงผลงานครั้งแรก ▫ สทิ ธิบัตร หนงั สอื ที่คุ้มครองเกยี่ วกบั ส่ิงประดษิ ฐ์ หรือ ออกแบบ ผลติ ภัณฑ์ มีอายุ 20 ปี นบั ตงั้ แตว่ นั ท่ีขอรับสทิ ธิ

ความเป็นเจา้ ของ Intellectual Property (IP) ตอ่ • สทิ ธิความเปน็ เจา้ ของ หมายถึง กรรมสิทธใ์ิ นการถอื ครอง ทรัพยส์ นิ ที่จับตอ้ งได้ หรอื อาจเป็นทรัพย์สินทางปัญญา • ความเปน็ เจ้าของดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ มักจะหมายถึง ลขิ สทิ ธซ์ิ อฟต์แวร์ ประเภท Software สิทธิในการใชง้ าน -ผู้ใชต้ ้องซื้อสิทธ์มิ า จงึ จะมสี ทิ ธิใ์ ชไ้ ด้ software license -ผู้ใชส้ ามารถทดลองใช้กอ่ นทจี่ ะซื้อ shareware freeware -ใช้งานได้ฟรี และเผยแพรใ่ หผ้ ูอ้ นื่ ได้

การเขา้ ถงึ ขอ้ มูล Data Accessibility •กาหนดสทิ ธิตามระดบั ผู้ใช้งาน •ปอ้ งกันการเขา้ ไปดาเนนิ การต่างๆ กบั ขอ้ มูลของผทู้ ี่ไมเ่ กีย่ วขอ้ ง •ต้องมีการออกแบบระบบรักษาความ ปลอดภัยในการเขา้ ถงึ ข้อมูลของผู้ใช้

บัญญัติ 10 ประการ ของการใช้อนิ เตอรเ์ นต็ 1. ตอ้ งไมใ่ ชค้ อมพวิ เตอร์ทาร้าย 6. ต้องไม่คดั ลอกโปรแกรมของผู้อืน่ ที่มลี ขิ สิทธิ์ หรือ ละเมดิ ผอู้ น่ื 7. ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ 2. ต้องไม่รบกวนการทางานของผ้อู ่นื โดยท่ีตนเองไม่มสี ิทธิ์ 3. ตอ้ งไม่สอดแนม แก้ไข หรอื เปดิ ดู 8. ต้องไมน่ าเอาผลงานของผู้อนื่ มาเป็นของตน 9. ตอ้ งคานงึ ถงึ สง่ิ ทจี่ ะเกดิ ขึ้นกบั สังคม แฟ้มขอ้ มูลของผู้อน่ื 4. ตอ้ งไมใ่ ช้คอมพวิ เตอรเ์ พือ่ การโจรกรรม ทเี่ กดิ จากการกระทาของท่าน 10. ตอ้ งใชค้ อมพวิ เตอร์โดยเคารพกฎระเบยี บ ข้อมูลข่าวสาร 5. ตอ้ งไม่ใช้คอมพิวเตอรส์ ร้างหลักฐาน กติกา และมมี ารยาท ทเ่ี ป็นเท็จ อาจารยย์ ืน ภูว่ รวรรณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

จาไว้ 3 ขอ้ “พ.ร.บ.ลขิ สทิ ธิ์” •หลัก 3 ประการของการไมล่ ะเมดิ กฎหมายลขิ สทิ ธ์ิ คอื หน่ึง... “ขออนญุ าต” สอง...“ให้เครดิต” และ สาม...“หา้ มดัดแปลง” •สาหรบั ผ้ใู ชท้ วั่ ไปเนน้ ทส่ี องข้อหลัง

ลขิ สิทธ์คิ อื อะไร • สทิ ธิแตผ่ ู้เดยี ว(Exclusive rights) • คมุ้ ครองเฉพาะรปู แบบของการแสดงออกของความคิด (expression of ideas) ไม่ คุม้ ครองถึงตัวความคิดซ่งึ ยังไม่ไดถ้ ่ายทอดปรากฏออกมา • งานลขิ สิทธิ์ไม่จาเป็นต้องมีความใหม่ (novelty) ขอเพยี งแต่ให้เกดิ จากความคดิ รเิ รมิ่ ของตนเอง (original) ไมล่ อกเลยี นแบบใคร • กฎหมายคมุ้ ครองเจา้ ของลิขสิทธิ์มใิ หผ้ ู้อืน่ ลอกเลยี นแบบหรอื ทาซา้ ตลอดจนห้ามมใิ หม้ ี การใชป้ ระโยชน์จากรปู แบบของการแสดงออกของความคิดของผสู้ รา้ งสรรค์โดยไม่ได้ รบั อนุญาต • อายุการคุ้มครองของลิขสิทธิ์จงึ มีระยะเวลายาวนานกวา่ การคมุ้ ครองการประดษิ ฐ์ ภายใต้กฎหมายสิทธิบัตร

งานใดบ้างทก่ี ฎหมายลขิ สิทธิ์ใหค้ วามคุ้มครอง • งานสรา้ งสรรคป์ ระเภทวรรณกรรมและศิลปกรรม 9 ประเภท (1) วรรณกรรม เช่น หนังสอื หรอื สง่ิ พมิ พต์ า่ งๆ สุนทรพจน์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (software) ฯลฯ (2) นาฏกรรม เชน่ ท่ารา ท่าเตน้ การแสดงโดยวธิ ีใบ้ ฯลฯ (3) ศิลปกรรม เชน่ ภาพเขยี น ภาพวาด ภาพถา่ ย รปู ป้นั สิ่งปลูกสร้าง เปน็ ตน้ (4) ดนตรีกรรม ได้แก่ งานเพลงตา่ งๆ คารอ้ ง ทานอง และการเรยี บเรียงเสยี งประสาน (5) โสตทัศนวสั ดุ เช่น วดิ ีโอเทป (6) ภาพยนตร์และเสียงประกอบของภาพยนตร์ (7) ส่ิงบนั ทึกเสยี ง เชน่ แผน่ เสยี ง เทป แผน่ ซีดี เป็นต้น (8) งานแพร่เสยี งแพร่ภาพ หมายถึงการกระจายเสียงทางวิทยกุ ระจายเสยี ง และการกระจายภาพและ เสียงทางวทิ ยโุ ทรทัศน์ (9) งานอนื่ ใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์หรือแผนกศิลปะ

สิ่งใดบ้างทไ่ี ม่ถือเปน็ งานอันมลี ขิ สิทธ์ิ • การค้มุ ครองลิขสทิ ธ์ิไม่ครอบคลุมถงึ ความคิด ข้นั ตอน กรรมวธิ ี ระบบ วิธีใช้หรือวธิ ีทางาน แนวความคดิ หลกั การ การคน้ พบ หรอื ทฤษฎที างวทิ ยาศาสตรห์ รอื คณติ ศาสตร์ • ขา่ วประจาวนั และข้อเทจ็ จรงิ ต่างๆ ท่มี ีลกั ษณะเปน็ เพียงขา่ วสาร ไมใ่ ช่ลักษณะของงานรเิ ร่มิ สร้างสรรคใ์ น แผนกวรรณคดี แผนกวทิ ยาศาสตร์ หรอื แผนกศลิ ปะ • รฐั ธรรมนญู และกฎหมาย • ระเบยี บ ข้อบังคับ ประกาศ คาสั่ง คาชแี้ จง และหนังสอื โตต้ อบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหนว่ ยงาน ของรฐั หรอื ของทอ้ งถ่นิ • คาพพิ ากษา คาส่ัง คาวนิ จิ ฉัยและรายงานของทางราชการ • คาแปลและการรวบรวมสงิ่ ต่างๆ ขา้ งตน้ ทกี่ ระทรวง ทบวง กรมหรอื หนว่ ยงานอน่ื ใดของรัฐหรอื ของ ทอ้ งถิน่ จดั ทาข้นึ • ตวั อยา่ งของสิ่งท่ไี ม่ถือเป็นงานลิขสทิ ธิ์ เชน่ รายชือ่ ของผู้ใช้โทรศัพท์(จาก ก-ฮ)ในสมุดโทรศัพท์ ช่อื ทั่วไป ชือ่ เรือ่ ง วลีสน้ั ๆ คาขวญั เปน็ ตน้

อายกุ ารคุ้มครองลิขสทิ ธิ์ • กฎหมายให้การค้มุ ครองลขิ สทิ ธิใ์ นงานท่วั ไปตลอดอายขุ องผสู้ รา้ งสรรค์ และตอ่ ไปอกี 50 ปี หลังจากผูส้ ร้างสรรค์เสียชวี ติ • งานภาพถา่ ย โสตทัศนวสั ดุ ภาพยนตร์ ส่ิงบนั ทึกเสยี ง หรอื งานแพร่เสียงแพรภ่ าพ จะมี อายกุ ารคมุ้ ครอง 50 ปี นับตง้ั แต่วนั ท่ีสร้างสรรค์ • หากมีการนางานออกโฆษณา โดยความยนิ ยอมของเจา้ ของลิขสิทธ์ิ ลขิ สิทธจิ์ ะมีอายุ 50 ปี นบั ตง้ั แต่การโฆษณาครัง้ แรก ซึ่งนบั ในกรณีทผี่ ้สู ร้างสรรค์เป็นนติ บิ คุ คล ผสู้ ร้างสรรค์ใช้ นามแฝง หรือกรณีของงานภาพถ่ายโสตทัศนวสั ดุ ภาพยนตร์ สงิ่ บันทกึ เสยี ง งานแพร่เสยี ง แพรภ่ าพ งานศลิ ปะประยกุ ต์ หรืองานสรา้ งสรรค์โดยการจ้างหรือตามคาสง่ั ของกระทรวง ทบวง กรม หรอื หน่วยงานอน่ื ใดของรัฐ หรอื ทอ้ งถน่ิ หรือกรณีท่ผี ู้สรา้ งสรรคถ์ งึ แก่ความ ตายก่อนที่จะไดม้ ีการโฆษณาน้ัน

การละเมิดลขิ สิทธ์ิ ความหมาย: การท่บี ุคคลใดกระทาการใดแกง่ านลิขสทิ ธซ์ิ งึ่ กฎหมายกาหนดว่าเปน็ สิทธแิ ต่เพยี งผเู้ ดียว ของเจา้ ของลขิ สิทธ์ิที่จะกระทาได้ โดยไมไ่ ด้รับอนญุ าตจากเจ้าของลขิ สิทธ์กิ ่อน แบง่ ออกไดเ้ ป็น (1) การละเมิดลิขสิทธโ์ิ ดยทางตรง (1) การทาซ้า ดัดแปลง (2) การเผยแพรต่ ่อสาธารณชนซ่งึ ในกรณขี องโสตทศั นวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบนั ทึกเสียง และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมถึง (3) การใหเ้ ช่าต้นฉบบั หรือสาเนางานดังกลา่ วโดยไมไ่ ด้รบั อนุญาตด้วย (2) การละเมดิ ลขิ สิทธ์ิโดยอ้อม ได้แกก่ ารทร่ี หู้ รอื มเี หตุอนั ควรรอู้ ยู่แล้ววา่ งานใดได้ทาข้ึนโดยละเมดิ ลขิ สิทธิ์ของผู้อ่ืน แตย่ ังกระทาการเพ่ือหากาไรจากงานน้นั การกระทาดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ (1) การขาย มีไวเ้ พอื่ ขาย เสนอขาย ใหเ้ ช่า เสนอให้เช่า ใหเ้ ช่าซอื้ หรอื เสนอให้เช่าซอ้ื (2) การเผยแพรต่ อ่ สาธารณชน (3) แจกจา่ ยในลักษณะทีอ่ าจก่อใหเ้ กิดความเสยี หายแก่เจ้าของลขิ สิทธ์ิ (4) การนาเข้ามาในราชอาณาจกั รเพอ่ื การใดๆ นอกจากเพื่อใชเ้ ป็นการส่วนตัว

มาตรา 32 การกระทาอยา่ งใดอย่างหนง่ึ แก่งานอนั มลี ขิ สทิ ธ์ิตามวรรคหนึ่งมใิ หถ้ อื วา่ เป็นการละเมิดลิขสิทธ์ิ ถา้ ไดก้ ระทา ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) วจิ ัยหรือศกึ ษางานน้นั อนั มใิ ชก่ ารกระทาเพอ่ื หากาไร (2) ใชเ้ พอื่ ประโยชน์ของตนเอง หรือเพอื่ ประโยชนข์ องตนเองและบุคคลอ่ืนในครอบครวั หรอื ญาติสนทิ (3) ตชิ ม วจิ ารณ์ หรือแนะนาผลงานโดยมกี ารรับรถู้ งึ ความเปน็ เจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนน้ั (4) เสนอรายงานข่าวทางส่ือมวลชน โดยมีการรบั รู้ถึงความเป็นเจา้ ของลขิ สทิ ธิใ์ นงานนนั้ (5) ทาซา้ ดดั แปลง นาออกแสดง หรือทาใหป้ รากฏ เพื่อประโยชน์ในการพจิ ารณาของศาลหรอื เจ้าพนกั งาน ซ่งึ มอี านาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการพิจารณาดงั กลา่ ว (6) ทาซ้า ดัดแปลง นาออกแสดง หรือทาใหป้ รากฏโดยผ้สู อน เพอื่ ประโยชนก์ ารสอนของตน อนั มิใช่การ กระทาเพื่อหากาไร (7) ทาซ้า ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตดั ทอนหรือทาบทสรปุ โดยผู้สอนหรือสถาบนั การศกึ ษา เพ่อื แจกจ่ายหรอื จาหน่ายแก่ผูเ้ รยี นในช้นั เรียนหรือในสถาบันการศกึ ษา ทง้ั น้ีตอ้ งไมเ่ ป็นการกระทาเพื่อหากาไร (8) นางานนั้นมาใช้เปน็ สว่ นหนงึ่ ในการถามและตอบในการสอบ

ข้อยกเวน้ การละเมิดลิขสทิ ธ์ิ • มาตรา ๓๓ การกล่าว คดั ลอก เลียน หรืออ้างอิงงานบางตอนตามสมควรจากงานอันมีลิขสทิ ธิ์ตาม พระราชบัญญัตินี้ โดยมีการรับรู้ถงึ ความเปน็ เจ้าของลขิ สิทธ์ใิ นงานน้ัน มิใหถ้ ือวา่ เปน็ การละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ ถ้าไดป้ ฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๓๒ วรรคหนึง่ • มาตรา ๓๔ การทาซ้าโดยบรรณารกั ษข์ องห้องสมุดซึง่ งานอนั มีลิขสิทธต์ิ ามพระราชบญั ญัติน้ี มใิ หถ้ ือว่า เป็นการละเมดิ ลขิ สทิ ธห์ิ ากการทาซา้ นน้ั มิได้มีวัตถปุ ระสงคเ์ พื่อหากาไร และไดป้ ฏบิ ัติตามมาตรา ๓๒ วรรคหนึง่ ในกรณดี ังต่อไปนี้ (๑) การทาซ้าเพอื่ ใช้ในหอ้ งสมดุ หรอื ใหแ้ ก่ห้องสมดุ อนื่ (๒) การทางานบางตอนตามสมควรให้แกบ่ คุ คลอน่ื เพื่อประโยชนใ์ นการวจิ ยั หรอื การศกึ ษา