การศกึ ษาคน้ คว้าองคค์ วามรู้เร่อื ง ที่ขดั รองเท้าจากผงถา่ นกะลามะพร้าว Shoe polish from coconut shell charcoal powder คณะผู้จดั ทา นางสาว สชุ านันท์ คดงว้ น ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 21 นางสาว ศศศิ รา อรินทร์ ชน้ั ม.5/1 เลขที่ 28 นางสาว ทักษยา พนั ชน ชนั้ ม.5/1 เลขที่ 29 นางสาว นยั นา แสนทรงสริ ิ ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 30 นางสาว กญั ญาพชั ท์ ช่างเหล็ก ชั้น ม.5/1 เลขที่ 31 ครทู ่ปี รึกษา ครดู ารงค์ คันธะเรศย์
เอกสารฉบับนเ้ี ปน็ สว่ นหนึ่งของการศึกษาค้นควา้ และสร้างองค์ความรู้ (IS1) โรงเรยี นปัว อาเภอปัว จังหวัดนา่ น สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 37 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563
การศกึ ษาค้นควา้ องคค์ วามร้เู รือ่ ง ทขี่ ัดรองเท้าจากผงถ่านกะลามะพร้าว Shoe polish from coconut shell charcoal powder คณะผู้จดั ทา นางสาว สุชานนั ท์ คดง้วน ชัน้ ม.5/1 เลขท่ี 21 นางสาว ศศิศรา อรนิ ทร์ ชัน้ ม.5/1 เลขท่ี 28 นางสาว ทักษยา พนั ชน ชั้น ม.5/1 เลขที่ 29 นางสาว นัยนา แสนทรงสิริ ชัน้ ม.5/1 เลขที่ 30 นางสาว กัญญาพชั ท์ ชา่ งเหลก็ ชัน้ ม.5/1 เลขท่ี 31 ครทู ่ปี รึกษา ครูดารงค์ คันธะเรศย์ เอกสารฉบับน้เี ป็นสว่ นหนง่ึ ของการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) โรงเรยี นปวั อาเภอปัว จังหวัดน่าน
สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 37 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
ช่ือเรือ่ ง : ทขี่ ดั รองเท้าจากผงถ่านกะลามะพรา้ ว ผู้จดั ทา : นางสาว สุชานันท์ คดง้วน นางสาว ศศิศรา อรินทร์ นางสาว ทกั ษยา พนั ชน นางสาว นัยนา แสนทรงสิริ นางสาว กัญญาพัชท์ ชา่ งเหล็ก ท่ปี รกึ ษา : ครดู ารงค์ คนั ธะเรศย์ ปีการศึกษา : 2563 บทคัดย่อ เร่อื ง ทขี่ ดั รองเทา้ จากผงถ่านกะลามะพรา้ ว มีจุดมงุ่ หมายเพ่อื 1. เพ่อื ศึกษาวา่ ผงถา่ นกะลามะพรา้ วสามารถนามาทาท่ีขัดรองเท้าไดจ้ ริง 2. เพือ่ ทดสอบประสิทธภิ าพของน้ายาขดั รองเท้าทที่ าจากผงถา่ นกะลามะพร้าว 3. เพื่อลดค่าใช้จ่าย และใช้ทรพั ยากรธรรมชาติอย่างคุ้มคา่ ผลการศึกษาคน้ ควา้ ปรากฏว่า 1.ที่ขดั รองเท้าจากวัสดธุ รรมชาติทีม่ าจากผงถา่ นของกะลามะพรา้ วทส่ี ามารถมาใช้ได้จริง และมีประสทิ ธภิ์ าพ คล้ายกบั ทีข่ ดั รองเท้าท่ขี ายอยู่ตามทอ้ งตลาดหรอื ตามห้างท่วั ไป คือ ขดั แล้วมคี วามมนั วาว ข้นึ เงาและมีสดี า สนทิ 2.จากการศึกษาเรื่องทข่ี ัดรองเท้าท่ที าจากผงถา่ นของกะลามะพรา้ วสามารถขดั รองเทา้ ให้ความมันวาว กลา่ ว โดยสรุปว่า จากการศกึ ษาเรอื่ ง ที่ขดั รองเท้าจากผงถา่ นของกะลามะพร้าว สามารถนามาทาผลิตภัณฑ์ขัด รองเท้าไดจ้ ริง แตเ่ นอื่ งจากท่ีขดั รองเท้าทามาจากผงถ่านกะลามะพร้าว จงึ ทาให้ตัวท่ีขดั รองเท้ามีสีดา จึงทาให้ มขี อ้ จากดั คือ สามารถขัดไดแ้ ค่รองเทา้ ท่ีมีสีดาเพียงเท่านน้ั ไม่สามารถขดั รองเทา้ สีอื่นได้
กติ ตกิ รรมประกาศ การศึกษาคน้ คว้าการทาโครงงาน เรอ่ื ง ที่ขัดรองเท้าจากผงถ่านกะลามะพรา้ ว ในครั้งนี้สาเรจ็ ลุล่วงไป ด้วยดี คณะผู้จดั ทาขอขอบพระคณุ อาจารย์ท่ปี รกึ ษาโครงงานคอมพิวเตอร์ คณุ ครูดารงค์ คันธะเรศย์ คณุ ครู และบคุ ลากรกลุ่มสาระการเรียนร้แู ละโรงเรยี นปัวทกุ ท่านทไ่ี ด้ให้คาปรกึ ษา แนะนาแนวทางในการทางาน เออ้ื เฟ้อื อปุ กรณ์ และสถานท่ีในการทาโครงงานครัง้ นี้ คณะผจู้ ัดทาหวังเปน็ อยา่ งยงิ่ ว่าการศกึ ษาค้นควา้ การทาโครงงาน เรอ่ื ง ท่ขี ดั รองเท้าจากผงถา่ น กะลามะพรา้ ว ในคร้ังนี้ จะเป็นประโยชนต์ ่อผูท้ ส่ี นใจ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวันไดไ้ มม่ ากก็นอ้ ย นางสาว สุชานันท์ คดง้วน นางสาว ศศิศรา อรินทร์ นางสาว ทกั ษยา พันชน นางสาว นัยนา แสนทรงสริ ิ นางสาว กญั ญาพัชท์ ช่างเหลก็
สารบัญ หนา้ เรื่อง ค บทคัดยอ่ ง กติ ติกรรมประกาศ จ สารบญั 1 บทท่ี 1 บทนา 1.1 ความเปน็ มา 1.2 วัตถปุ ระสงค์ 1.3 ขอบเขต 1.4 ประโยชนท์ ี่ได้รบั บทท่ี 2 ทฤษฎที ่เี กีย่ วข้อง 2.1 ผงถา่ น 2.2 กะลามะพร้าว 2.3 สารใหค้ วามวาว 2.4 สารซดู านเรด 2.5 ทขี่ ัดรองเท้า บทท่ี 3 วิธีดาเนนิ งาน 3.1 วิธีการดาเนนิ งาน บทที่ 4 ผลการศึกษาคน้ คว้า บทที่ 5 สรปุ ผลการดาเนินงาน 5.1 สรุปผลการทดลอง 5.2 ปญั หาและอุปสรรคในการศกึ ษาคน้ คว้า 5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา
บรรณานกุ รม ประวตั ิผศู้ กึ ษา บทที่ 1 บทนา 1. ความเปน็ มา จากการสังเกตรองเทา้ ของเพือ่ นนกั เรียนหญิงในหอ้ งพบวา่ รองเท้าของเพ่ือนๆ พบว่ารองเทา้ ไม่คอ่ ยมันวาว พวกเราจงึ ไดท้ าการสารวจถามเพอื่ นๆ พบวา่ สาเหตทุ ่ีรองเท้าไม่คอ่ ยมันวาว เพราะ ไมอ่ ยากจะซอ้ื กวี ขี ัด รองเท้าทีม่ ีราคาแพง และประกอบกับปจั จบุ ันนผ้ี ลิตภัณฑ์บางอยา่ งอาจมสี ารเคมี จากการศกึ ษาข้อมลู เราพบ การวจิ ยั ของหนว่ ยงานนานาชาตดิ า้ นการวิจยั พบวา่ สารซดู าน เรด มีผลตอ่ การทาลาย DNA ส่งผลให้เกิดเนอ้ื งอกได้ ซ่ึงสารพิษชนดิ นี้ สามารถสรู่ า่ งกายของคนเราได้ ดว้ ยการรับประทาน การสดู การดม หรือการสัมผสั ดงั นั้น คณะผจู้ ัดทาจึงคิดหาวิธกี ารทาที่ขัดรองเท้าจากวัสดตุ ามธรรมชาตทิ ี่มีอยู่ในทอ้ งถน่ิ เพราะจะทาใหเ้ ราใช้ ทรพั ยากรธรรมชาติในทอ้ งถนิ่ อย่างค้มุ คา่ เปน็ การชว่ ยประหยดั คา่ ใช้จ่ายในการซือ้ ทีข่ ัดรองเทา้ และสามารถ นาความร้ไู ปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้ คณะผ้จู ดั ทาจึงนากะลามะพรา้ วมาทาทข่ี ัดรองเท้า โดยผูท้ ่ีสนใจโครงงานนี้ สามารถมาศกึ ษาขอ้ มูลจากส่ือตา่ งๆ และสามารถนาสื่อเหล่าน้ีไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ 2. วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เพอ่ื ศกึ ษาว่าผงถ่านกะลามะพรา้ วสามารถนามาทาท่ีขัดรองเทา้ ไดจ้ รงิ 2.2 เพ่ือทดสอบประสทิ ธิภาพของน้ายาขดั รองเท้าท่ที าจากผงถ่านกะลามะพร้าว 2.3 เพื่อลดค่าใช้จ่าย และใช้ทรัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ งคุ้มค่า 3. ขอบเขต
3.1 สถานท่ี ภายในโรงเรยี นปัว และทบ่ี า้ นของ นางสาวทักษยา พันชน 3.2 ระยะเวลา 1 ตุลาคม 2563 - วันที่ 7 พฤศจกิ ายน 2563 3.3 ตัวแปรต้น คือ สาร/วัสดุท่ีเราจะนามาทาเปน็ แว๊กซข์ ัดรองเทา้ 3.4 ตวั แปรตาม คือ ความวาวของรองเท้าเม่อื ขัดเสร็จ 3.5 ตัวแปรควบคมุ คือ ปริมาณของสว่ นผสม 4. ประโยชน์ที่ได้รับ 1.สามารถทานา้ ยาขดั รองเทา้ ใชไ้ ดด้ ้วยตนเอง และไดท้ ข่ี ัดรองเทา้ ทีไ่ ม่มีกลน่ิ ฉนุ จะไดก้ ลิน่ น้าหอม ตามทใี่ ส่ 2.เป็นการใช้ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นทอ้ งถน่ิ ท่ีหางา่ ยมาใช้ประโยชน์และช่วยลดค่าใช้จ่ายใน ชวี ติ ประจาวนั ได้ 3. ได้น้ายาขดั รองเท้าท่ไี ม่มีสารเคมที ่ีเป็นสารตกค้างท่เี ป็นอนั ตรายต่อสุขภาพและร่างกาย
บทที่ 2 ทฤษฎีที่เกยี่ วขอ้ ง ในการศกึ ษา เรือ่ ง ท่ีขดั รองเท้าจากผงถ่านกะลามะพรา้ วน้ี ผจู้ ัดทาโครงงานได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎี และหลกั การตา่ งๆจากเอกสารทเ่ี กีย่ วขอ้ งดงั ต่อไปน้ี 2.1 ผงถา่ น ทใี่ ช้ในการทาดินปนื พรานสมัยกอ่ นนยิ มนาถา่ นทไ่ี ดม้ าจากต้นพริกปา่ กงิ่ พุทรา ต้นพรกิ ต้นปอปา่ เพราะมีความเช่อื ว่าเม่ือสัตวโ์ ดนยงิ จะทาให้ไดร้ บั ความเจบ็ ปวดมาก และหนไี ปไดไ้ มไ่ กล หรือการนาเปลือก ผลไม้ชนิดต่างๆเช่น เปลือกมงั คดุ เปลือกกล้วย ฯลฯ นาไปตากใหแ้ ห้งสนิท จากนัน้ นามาตาหรอื บดใหล้ ะเอยี ด 2.2 กะลามะพรา้ ว
มะพร้าว เปน็ พืชยนื ต้นชนิดหนึง่ อยใู่ นตระกูลปาล์ม เปน็ พชื ท่ีสามารถใช้ประโยชนไ์ ดห้ ลากหลาย วสั ดุ เหลือใช้อย่างหนง่ึ ของมะพร้าวคือ “กะลามะพรา้ ว” กะลามะพรา้ ว คอื ส่วนแข็งๆท่ีอยู่ในผลมะพร้าว ในอดตี เมอื่ เอาเนอ้ื ออกใช้ประโยชน์หมดแล้วก็เปน็ เศษวัสดทุ ่ีไมค่ ่อยมีราคาสักเท่าไร คนสมัยก่อนมักนาไปใช้ทา เชื้อเพลิง หรอื ทาเครือ่ งใชใ้ นครวั เรือน เชน่ กระบวยตกั นา้ ทัพพี ถว้ ย ชาม ฯลฯ ความสาคัญของ กะลามะพร้าวในสมัยกอ่ นมีคา่ ไม่มากนกั และมักจะมกี ารเปรียบเปรยคนทใี่ ช้ชีวติ อย่างไร้คณุ ค่า ว่าเหมอื นกบั กะโหลกกะลา ทางภาคใตผ้ ู้ทชี่ อบเถลไถลไม่ประกอบอาชพี อะไรเปน็ หลกั แหล่ง มักจะถกู เรยี กขานวา่ “ไอพ้ ลก ไอ้ตอ้ ” ซึ่งเปน็ การบง่ บอกถงึ ความไรค้ า่ เสมอเหมือนด่ังกะลา ต่อมาภมู ปิ ัญญาไทยจากหลายแหลง่ ทั่วทกุ ภาค ของประเทศ ไดค้ ดิ ประดษิ ฐโ์ ดยการนากะลามะพร้าวมาเป็นวสั ดเุ พอ่ื เพม่ิ คุณค่า จากกะลาที่ไร้คา่ จงึ ไดร้ บั การ พฒั นามาเป็นผลิตภัณฑ์ทไ่ี ดร้ บั ความสนใจจากผู้คน ในรปู แบบเคร่อื งใช้ในครวั เรอื นเครื่องตกแตง่ บา้ น อาทิ โคมไฟ ตะเกียงเจา้ พายุ ฯลฯ เครอื่ งประดับ เครือ่ งแต่งกายสุภาพสตรี อาทิ กระเป๋าถือ เขม็ ขดั เขม็ กลัด ปิ่น ปักผม สรอ้ ย ฯลฯ ซง่ึ ผลิตภัณฑเ์ หล่านเ้ี ปน็ ท่นี ิยมของชาวไทย และชาวต่างชาตใิ นปัจจุบนั นบั เปน็ การสร้าง รายได้ให้แกค่ นไทยทม่ี ชี ีวิตเก่ียวข้องกับมะพร้าวได้เปน็ อย่างดี 2.3 สารให้ความวาว เป็นคาเรยี กของปฏิกริ ยิ าของสารในการสะทอ้ นแสงทุกรูปแบบของวัตถทุ ี่มกี ารสะทอ้ นแสงได้ทง้ั แบบ บานพน้ื ผิวและภายในของวัตถุ โดยเปน็ ปฏกิ ริ ยิ าระหว่างแสงกบั ผวิ ของผลกึ ทงั้ บนพืน้ ผวิ และภายในผลกึ ทัง้ การหกั เหจากผลึกและการสะทอ้ นภายในผลกึ และภายนอกผลกึ มรี ากศพั ทม์ าจากคาว่า lux ในภาษาลาตนิ ซึง่ มีความหมายว่า ความสว่าง และโดยทั่วไปมคี วามหมายวา่ ความสวา่ งไสว ความวาว 2.4 สารซดู าน เรด เป็นสียอ้ มในตระกลู ซดู าน มีต้งั แตซ่ ูดาน 1 จนถึงซูดาน 4 ซง่ึ ซูดาน 1 จะมีสแี ดง จงึ เรยี กว่า ซดู าน เรด จะใช้ในอตุ สาหกรรม เชน่ เปน็ สีผสมใน พลาสตกิ ยาขัดพ้นื ยาขัดรองเท้า เปน็ ตน้ สารซดู านมคี ณุ สมบตั ทิ ่ี มีสสี ดใส ติดทนนาน แต่ผลการวิจัยพบว่า สารซูดาน เรด เป็นสารก่อมะเร็งโดยหน่วยงานนานาชาตดิ า้ นการ วจิ ยั ซูดานเรดอันตรายอยา่ งไร ไมว่ ่าจะเป็นซูดาน 1 ถงึ 4 ก็เปน็ สารทีก่ อ่ ให้เกิดมะเร็งทงั้ นั้น จากการวจิ ัยพบ วา่ เม่ือเรากินสีซดู านเขา้ ไป มันจะแตกตวั เปน็ เอมนี (amine) ซึ่งเอมนี บางตัวถูกจัดเปน็ สารก่อมะเร็ง หนว่ ยงานนานาชาตดิ า้ นการวจิ ัยเกย่ี วกับมะเร็งระบวุ ่าซดู านเรดอาจมีผล ตอ่ การทาลาย DNA ซง่ึ การทาลาย ดังกล่าวสามารถสง่ ผลใหเ้ กิดเนื้องอกทร่ี ้ายแรง (malignant tumors) ไดแ้ ตไ่ มจ่ าเป็นท่ีความเสียหายของ DNA จะก่อให้เกดิ เซลล์มะเร็ง
2.5 ทขี่ ัดรองเทา้ เปน็ ผลิตภัณฑท์ ่นี ามาใช้ขดั รองเท้าเพื่อให้เกิดความวาว ชนิดของนา้ ยาขดั และเคลือบเงา 1. แวก็ ซ์ แวก็ ซ์ส่วนใหญจ่ ะใช้ขี้ผง้ึ หรือขผ้ี ้งึ คารน์ ูบาเปน็ ฐาน พวกมันเหนยี วและมาในภาชนะที่มฝี าปดิ การขัดดว้ ยแวก็ ซ์ ทาใหเ้ กิดความเงางามเหมือนแก้วซ่งึ มักจะสังเกตเห็นได้ชดั เจน มันจะแพร่กระจายบนรองเทา้ หนังไดอ้ ย่าง ง่ายดายและตอ้ งการปริมาณเพียงเลก็ น้อยเพือ่ ใหร้ องเท้าของคณุ ดูเงางาม อย่าใช้ผลิตภณั ฑท์ ม่ี ากเกินไป มิ ฉะน้นั แวก็ ซอ์ าจแหง้ และหลุดลอ่ น แวก็ ซ์ท่ใี ชข้ ้ีผง้ึ สามารถทาใหร้ องเท้าของคุณทนต่อนา้ ไดม้ าก มนั ทาไดโ้ ดย การสร้างช้นั แวก็ ซ์รอบ ๆ รองเทา้ เมือ่ ทาแลว้ คุณจะสังเกตเหน็ วา่ น้ากอ่ ตัวเปน็ เม็ด ๆ บนพนื้ ผิว แต่ไมท่ าให้ รองเท้าหนงั เปยี ก อยา่ งไรกต็ ามการขัดดว้ ยแว๊กซไ์ ม่สามารถปอ้ งกนั รองเทา้ ของคุณเปียกหากจมลงไปในน้า สิ่ง หนง่ึ ที่คุณตอ้ งคานงึ ถึงเมื่อจดั การกับผลิตภณั ฑ์ขดั เงาแบบแว็กซ์ก็คอื ภายในบรรจภุ ัณฑ์จะขยายตัวและหดตัว ดว้ ยความร้อนและเย็น ดงั นนั้ จงึ อาจทาให้เกดิ รอยแตกข้นึ มาได้ แต่จะไมส่ ง่ ผลต่อประสิทธิภาพแตอ่ ยา่ งใด 2. ครมี แบบครีมน้ันใช้ฐานเปน็ นา้ มนั ทามาเพ่ือความเงางาม ปรับสภาพและปกปอ้ งรองเท้าของคณุ ในเวลาเดยี วกนั และมักจะใช้กันบ่อยทสี่ ุด ผลิตภัณฑข์ ดั รองเทา้ แบบครีมใหผ้ ลลัพธท์ ่ีเงางามแบบแมตต์ท่ดี ูดีมาก ขอ้ ดอี ย่างหนง่ึ ทีม่ มี ากกวา่ แวก็ ซ์ขดั เงาคือครีมสามารถซมึ ลึกเขา้ ไปในหนังและบารุงไดด้ ี นอกจากน้แี มว้ า่ คณุ จะทาครมี ขัดเงา มากเกินไป แต่กจ็ ะเปียกชุ่มไปในหนงั และไม่ทาให้รองเทา้ ของคณุ เสยี หาย 3. น้า น้ายาขดั รองเท้าสูตรน้าไม่ใชผ่ ลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ความแตกต่างอยู่ในสตู ร สูตรนา้ นี้ทาข้ึนเพอื่ ให้รองเทา้ หนัง ดเู ปลง่ ปลง่ั ในทนั ที ทข่ี ัดรองเท้าสูตรนา้ นจ้ี ะมสี ว่ นผสมอย่างขี้ผ้ึงและน้ามนั หอมระเหยทั่วไป แตม่ ีความบางเบา เหมอื นนา้ แพคเกจของมนั จะมาพร้อมกับฟองน้าในตวั ทฝี่ าเสมอ สงิ่ ท่ีคุณตอ้ งทาคอื เชด็ หนงั ด้วยผ้าสะอาดแล้ว ทาน้ายาขัดเงาโดยใชฟ้ องนา้ ในตัว น้ายาขัดจะซึมเข้าไปในหนงั สง่ิ นีม้ ปี ระโยชน์อย่างยง่ิ เม่ือคุณเดนิ ทางบ่อย
หรือทางานท่ีมีฝุ่นสะสมอยา่ งรวดเร็วบนรองเท้าหนังของคณุ เพยี งพกยาขัดรองเท้าทาสูตรน้าน้ไี ปแลว้ ใชก้ ับ รองเทา้ ของคุณได้ทกุ ที่ทกุ เวลา
บทท่ี 3 วธิ ีศกึ ษาค้นคว้า ในการจัดทาโครงงาน เร่ือง ท่ีขดั รองเทา้ จากผงถา่ นกะลามะพรา้ ว น้ี ผจู้ ดั ทาโครงงานมีวธิ ดี าเนนิ การ ตามข้นั ตอนดงั ต่อไปน้ี วิธีดาเนินงาน วสั ดุ อุปกรณ์ 1.กะลามะพรา้ ว 2.วาสลนี 3.เทยี นหอม 4.น้ามันเครือ่ ง 5.หวั เชือ้ นา้ หอม ข้นั ตอนการทา 1.นากะลามะพร้าวมาเผาเพอ่ื ทาเปน็ ผงถา่ น 2.นากะลามะพร้าวทเี่ ผามาตา หรือบดใหล้ ะเอยี ด เพ่ือทาให้เปน็ ผงถา่ น 3.ตัง้ หม้อพร้อมใส่น้ามันเครอื่ ง 4.ใส่วาสลีนลง 5.ใส่เทียนหอม 6.ใสผ่ งถ่านพรอ้ มคนใหเ้ ข้ากันรอจนเดือด 7.ใส่หวั เชอื้ น้าหอม และคนให้เข้ากนั 8.จากนน้ั ยกออกจากเตาแลว้ พกั ท้งิ ไว้ใหอ้ ่นุ 9.ตักใสภ่ าชนะทง้ิ ไวใ้ ห้แหง้ ใชเ้ วลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงจะพร้อมใช้งาน
บทที่ 4 ผลการศกึ ษาค้นควา้ การจดั ทาโครงงาน ที่ขดั รองเทา้ จากผงถ่านกะลามะพร้าวนี้ มวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ค้นควา้ เรอ่ื งท่สี นใจ เกีย่ วกับท่ีขดั ขัดรองเท้า เพอ่ื ให้ผจู้ ัดทาโครงงานสามารถนามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรยี นรู้ของตนเองมาก ย่งิ ขึ้น ตลอดจนสามารถตดิ ตอ่ สอ่ื สารกนั ไดร้ ะหว่างครู เพอื่ นและผู้สนใจทว่ั ไป ซ่ึงมีผลการดาเนนิ การ ดังนี้ ได้ท่ีขดั รองเทา้ จากวัสดธุ รรมชาติท่ีมาจากผงถา่ นของกะลามะพรา้ วทส่ี ามารถมาใชไ้ ดจ้ ริง และมี ประสิทธิ์ภาพคลา้ ยกับทีข่ ัดรองเท้าทขี่ ายอยู่ตามท้องตลาดหรือตามห้างทว่ั ไป คอื ขัดแลว้ มีความมันวาว ขึน้ เงา และมสี ดี าสนิท ที่ขดั รองเทา้ จากผงถา่ นกะลามะพร้าวช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อท่ขี ดั รองเท้า ต้นทุนตา่ สามารถทาแจกจ่ายกันไดห้ ลายคน และยงั ใชท้ รพั ยากรในธรรมชาติไดอ้ ยา่ งคุ้มค่าอกี ด้วย
บทที่ 5 สรุป อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรปุ ผลการทดลอง จากการทดลองในครั้งนี้ทข่ี ัดรองเท้าจากผงถ่านกะลามะพร้าวสามารถนาไปขดั รองเทา้ นักเรียนหญงิ และรองเทา้ ทางานได้ มปี ระสิทธภิ าพเทียบเท่ากับทขี่ ัดรองเทา้ ทม่ี ีจาหน่ายตามทอ้ งตลาดทัว่ ไป และยงั มี ตน้ ทนุ ท่ใี ช้ในการผลิตต่า สามารถนาแจกจ่ายกันได้ทาให้ประหยดั เงิน แถมยงั ใชท้ รัพยากรในทอ้ งท่ีอย่างค้มุ คา่ มากอกี ด้วย ในการขดั รองเทา้ หากตอ้ งการให้ข้ึนเงามาก ใหถ้ ูหรือขัดจนกวา่ จะขนึ้ เงาอยา่ งที่ต้องการได้ สรปุ ได้วา่ การทดลองสอดคล้องกบั ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั ทีต่ ้ังไวค้ ือ 1.สามารถทาท่ีขดั รองเทา้ ใช้ไดด้ ้วยตนเอง และได้ ท่ีขัดรองเทา้ ทไี่ มม่ ีกล่ินฉนุ จะไดก้ ลิน่ น้าหอมตามทใี่ ส่ 2.เปน็ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถน่ิ ทห่ี าง่ายมาใช้ ประโยชน์และชว่ ยลดคา่ ใช้จา่ ยในชีวติ ประจาวนั ได้ 3. ได้ท่ขี ัดรองเท้าทไ่ี มม่ สี ารเคมีท่ีเปน็ สารตกค้างที่เปน็ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพและรา่ งกาย 5.2 ปญั หาและอุปสรรคในการศึกษาค้นควา้ ในการศึกษาค้นคว้า สอดคล้องกับทางทฤษฏที ี่ว่าทีข่ ัดรองเท้าเป็นผลติ ภณั ฑ์ทนี่ ามาใชข้ ัดรองเทา้ เพอื่ ใหเ้ กิดความวาว ในการทดลองนีท้ ่ีขดั รองเทา้ มีลกั ษณะเปน็ เน้อื ครีมแว็กซ์ ท่ีตอ้ งขดั และถวู นจนกว่าจะขนึ้ เงาตามคุณสมบตั ิของสว่ นประกอบในที่ขดั รองเท้า โดยปัญหาท่ีพบคอื 1.อปุ กรณ์บางอย่างตอ้ งซอ้ื มา ไม่ สามารถหาได้ในท้องทว่ั ไป 2.เนื่องจากที่ขดั รองเท้าทามาจากผงถา่ นกะลามะพรา้ ว จงึ ทาให้ตัวทีข่ ัดรองเท้ามีสี ดา จึงทาใหม้ ขี อ้ จากัดคือ สามารถขัดไดแ้ คร่ องเท้าที่มีสีดาเพยี งเท่านน้ั ไมส่ ามารถขัดรองเทา้ สอี นื่ ได้ 3.การที่ เพิ่มส่วนประกอบท่สี ามารถละลายได้หากอุณหภูมิสงู เยอะมากเกนิ ไป จะทาให้ตัวทข่ี ดั รองเทา้ เซ็ตตัวได้ยาก หรือชา้ มากยิ่งขึ้น 5.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา 1. ควรหาข้อมลู และทาการทดลองในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากนีเ้ พ่ิมข้ึน
2. ควรมกี ารอิงกับหลกั วิทยาศาสตร์มากข้ึน 3. การทดลองครั้งต่อไปควร ทดลองโดย ใช้ผงถ่านเปน็ ตัวแปรต้น 4.ผศู้ ึกษาสามารถเปลีย่ นจากถ่านกะลามะพรา้ วเปน็ อย่างอื่นไดต้ ามทอ้ งท่ี ทมี่ ีอย่ขู องผู้ศกึ ษาเอง 5.ผศู้ กึ ษาสามารถนาไปต่อยอดเปน็ ทข่ี ดั อย่างอ่ืนได้ เช่น ท่ีขัดเบาะหนัง หรืออนื่ ๆ บรรณานุกรม กะลามะพร้าว.(ออนไลน)์ .(2556)สบื คน้ จาก : https://piyanuch2811numod.wordpress.com ขดั รองเท้าจากผงถ่านกะลามะพร้าว(ออนไลน)์ .(2556)สบื ค้นจาก : https://25110.blogspot.com ครมี ขดั รองเทา้ จากกาบมะพร้าว(ออนไลน์).(2558)สืบค้นจาก : https://sites.google.com
ประวัติผ้จู ดั ทา ช่อื เร่ือง ท่ีขดั รองเทา้ จากกะลามะพรา้ ว 1. สชุ านันท์ คดงว้ น ประวัตสิ ว่ นตวั เกิดวันที่ 7 เมษายน 2546 อายุ17ปี ทอี่ ยู่ (ปัจจบุ ัน) 134 ม.8 ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน 55120 ประวตั กิ ารศึกษา ปี พ.ศ.2558 ชัน้ ป.6 ร.ร.บา้ นปรางค์ ปี พ.ศ.2561 ช้นั ม.3 ร.ร. ปัว ปี พ.ศ. 2563 ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 21 2. นางสาว ศศิศรา อรนิ ทร์
ประวตั สิ ว่ นตวั เกิดวนั ที่ 11 กนั ยายน 2546 อายุ 17 ปี ท่อี ยู่ (ปจั จบุ ัน) 138 ม.5 ตาบล ศิลาแลง อาเภอปัว จังหวัดนา่ น ประวัติการศึกษา ปี พ.ศ. 2558 ช้นั ป.6 ร.ร. ไตรประชาวทิ ยา ปี พ.ศ. 2561 ชัน้ ม.3 ร.ร. ปวั ปี พ.ศ. 2563 ชั้น ม.5/1 เลขที่ 28 3. นางสาวทกั ษยา พนั ชน ประวัตสิ ่วนตวั เกดิ วันที่ 1 เดือนมนี าคม ป2ี 546 อายุ 17 ปี ทอี่ ยู่ (ปัจจบุ ัน) 55 ม.3 ต.ไชยวฒั นา อ.ปวั จ.นา่ น 55120 ประวัตกิ ารศกึ ษา ปี พ.ศ.2558 ชน้ั ป.6 ร.ร.บา้ นปรางค์ ปี พ.ศ.2561 ชน้ั ม.3 ร.ร. ปัว ปี พ.ศ. 2563 ชนั้ ม.5/1 เลขท่ี 29 4. นางสาวนัยนา แสนทรงสิริ ประวตั สิ ่วนตวั เกิดวนั ท2ี่ 9 เดือนพฤษภาคม ป2ี 547 อายุ 16 ปี ที่อยู่ (ปัจจบุ ัน) 198 ม.6 ต.ปา่ กลาง อ.ปัว จ.นา่ น 55120 ประวตั กิ ารศกึ ษา ปี พ.ศ.2558 ชน้ั ป.6 ร.ร.วรนคร ปี พ.ศ.2561 ชนั้ ม.3 ร.ร. ปวั
ปี พ.ศ. 2563 ช้นั ม.5/1 เลขที่ 30 5. นางสาว กัญญาพัชท์ ช่างเหล็ก ประวตั ิส่วนตัว เกิดวันที่ 28 พฤศจกิ ายน 2546 อายุ 17 ท่อี ยู่ (ปจั จุบนั ) 50/7 ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.นา่ น ประวัติการศกึ ษา ปี พ.ศ.2558 ช้นั ป.6 ร.ร.วรนคร ปี พ.ศ.2561 ชัน้ ม.3 ร.ร.ปัว ปี พ.ศ. 2563 ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 32
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: