หนังสือกราฟิกเบื้องต้น

77 Pen ใช้สรา้ งเสน้ Path โดยการคลกิ วางจุดแองเคอร์ Freeform Pen ใชส้ ร้างเสน้ Path แบบลากอสิ ระ Add Anchor Point ใชเ้ พิ่มจดุ แองเคอร์ Delete Anchor Point ใชล้ ดจดุ แองเคอร์ Convert Point ใช้แปลงรปู แบบของเส้นและมมุ การสรา้ งเส้น Path 1.คลกิ ที่เครอ่ื งมือ Pen Tool 2. คลิกเมาส์ดา้ นซา้ ยในตำแหน่งท่ีตอ้ งการสรา้ งเปน็ เสน้ Path หรือรูปทรงทตี่ อ้ งการ การสร้างเสน้ Path ดว้ ย Freeform Pen Tool 1.คลิกทเ่ี คร่ืองมือ Freeform Pen Tool 2. คลิกเมาสด์ า้ นซา้ ยคา้ งไวแ้ ล้วลากไปในตำแหน่งทตี่ อ้ งการสร้างเป็นเสน้ Path หรอื รปู ทรงที่ตอ้ งการ การเพิ่มจดุ แองเคอร์ดว้ ย Add Anchor Point 1.คลกิ ทเี่ คร่ืองมือ Add Anchor Tool 2. คลิกเมาส์ด้านซ้ายในตำแหน่งที่ต้องการเพิ่มจุดแองเคอร์ จากนั้นคลิกเมาส์ด้านซ้ายค้างไว้ที่ตำแหน่งจุดแอง เคอร์บดิ ไปในตำแหน่งที่ต้องการให้โค้ง

78 การลบจดุ แองเคอรด์ ว้ ย Delete Anchor Point 1. คลิกที่เครอื่ งมือ Add Anchor Tool 2. คลิกเมาส์ด้านซา้ ยในตำแหน่งที่ต้องการเพิ่มจดุ แองเคอร์ จากนั้นคลิกเมาส์ด้านซา้ ยค้างไว้ท่ีตำแหน่งจดุ แองเคอร์บิดไปในตำแหนง่ ทต่ี ้องการใหโ้ ค้ง การแปลงรูปแบบของเส้นและมมุ ด้วย Convert Point 1.คลกิ ท่เี ครอ่ื งมอื Convert Point 2. คลิกเมาสด์ า้ นซา้ ยในตำแหน่งทตี่ อ้ งการ

79 การเคล่ือนย้ายเส้น Path ด้วย Path Selection Tool 1. คลกิ ทเ่ี ครอื่ งมอื Path Selection Tool 2. คลกิ เมาสด์ า้ นซ้ายค้างไว้ท่ีตำแหน่งใด ๆ ของเสน้ Path จากนั้นลากไปวางตำแหน่งท่ีต้องการการเปล่ียนเส้น Path เป็น Selection 1.สร้างเสน้ Path 2.คลกิ ท่ี Load Path as a Selection ดา้ นล่างของพาเล็ต Paths เพอื่ ปฏบิ ตั กิ าร Selectionภาพ ดังรูป การเปล่ียนเส้น Selection เป็น Path 1. สรา้ ง Selection ภาพ 2.คลกิ ท่ี Make Work Path form Selection ดา้ นลา่ งของพาเล็ต Parhs เพ่ือปฏิบัตกิ ารสรา้ งเส้น Path ดังรปู

80 การสร้างภาพเพ่ิมในเครื่องมือ Shape การสร้างภาพเพ่ิมในเคร่ืองมือ Shape จะต้องสร้างด้วยเครอ่ื งมือสรา้ ง Path ซ่ึงมขี นั้ ตอนดังนี้ 1.สร้างเส้น Path ทต่ี อ้ งการ ยกตัวอย่างจากหวั ข้อกอ่ นหนา้ 2. คลิกที่เมนู Edit -> Define Custom Shape จะปรากฏหน้าต่างให้ใส่ชื่อ Shape ที่สร้างขึ้น จากนั้นคลิกท่ี OK 3.ทดสอบการใช้ Shape โดยคลิกทเี่ ครอ่ื งมอื Custom Shape 4.คลิกลกู ศรทต่ี วั เลือก Shape ในออปชนั บารจ์ ะปรากฏรปู ต่าง ๆ ให้คลกิ รปู ที่สรา้ งข้นึ

81 5. คลกิ เมาส์ด้านซ้ายคา้ งไว้แล้วลากบนพืน้ ท่กี ารทำงานเพื่อวาดรปู Shape ทีเ่ ลือก การใชส้ ี การใช้สเี ป็นสิ่งจำเป็นอยา่ งยิง่ ในงานด้านกราฟิก เพราะการใส่สีใหก้ ับรูปภาพหรือวัตถุเปน็ การเพิ่มสีสันให้กบั ชิ้นงาน บางสใี ชส้ ือ่ ความหมายของภาพได้อย่างลึกซึ้ง เช่น การใชส้ ดี ำแทนความสุขุมรอบคอบ หรอื ความเศร้ความ ทกุ ข์ การใชส้ ชี มพแู ทนความหมายในเร่ืองความรักท่ีอ่อนโยน การใชส้ ีขาวแทนความหมายของส่ิงที่บริสุทธิ์ แบบนี้ เป็นตน้ ดังนั้นการเลอื กใช้สคี วรคำนงึ ถึงชิ้นงานวา่ ตอ้ งการส่ือความหมายอะไร การเลอื กสี การเลอื กสเี พือ่ ใช้กับชนิ้ งานสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งมีข้นั ตอนดงั น้ี วธิ ีท่ี 1 1.คลิกท่ี Foreground ที่ทูลบ็อกซ์ 2.จะปรากฏหน้าต่าง Color Picker

82 3. คลิกท่ปี มุ่ OK วธิ ีท่ี 2 คลิกทพ่ี าเลต็ Color ปรับเลือกสตี ามต้องการ วิธที ี่ 3 คลิกท่พี าเล็ต Swatches คลิกเลือกสีตามตอ้ งการ การเติมสแี ละลวดลายดว้ ยเครอื่ งมือ Paint Bucket การเติมสดี ว้ ยเคร่ืองมือ Paint Bucket เป็นการเติม,สี Foreground หรือ Pattern ซ่ึงมขี ั้นตอนดงั นี้ การเตมิ สี 1.คลกิ ทีเ่ คร่อื งมอื Paint Bucket 2. ปรบั เปลย่ี นออปชันการใชส้ ีทอ่ี อปชนั บารซ์ ึ่งมีรายละเอียดดังน้ี

83 3. คลกิ บริเวณพื้นที่ที่ตอ้ งการ การเตมิ พื้นหลังหรอื การใส่ Pattern 1.คลกิ ท่ีเคร่ืองมือ Paint Bucket 2. คลิกที่ลูกศรที่ตัวเลอื ก Fill ในออปชันบาร์เลือกเป็น Pattern จากนั้นคลิกที่ลูกศรที่ตวั เลือก Pattern เลอื กรูปแบบภาพตตามต้องการ 3. คลิกบริเวณพ้นื ที่ทตี่ อ้ งการ การเตมิ สีดว้ ยเครอื่ งมอื Gradient เครอื่ งมอื Gradient ใชส้ ำหรับเตมิ สีแบบไลส่ ี ซง่ึ มขี น้ั ตอนดังน้ี 1.คลิกท่เี คร่ืองมอื Gradient 2.ปรับเปลย่ี นรปู แบบทอ่ี อปชันบาร์ ซงึ่ มีรายละเอยี ดดงั นี้ 3.คลกิ เมาส์ดา้ นซ้ายคา้ งไว้แลว้ ลากสใี นตำแหน่งทีต่ อ้ งการ เช่น

84 การสรา้ งสี Gradient 1.คลิกทีช่ อ่ ง Click to Edit the Gradient จะปรากฏหน้าต่าง Gradient Editor 2.จะปรากฏหนา้ ตา่ งสีใหเ้ ลอื กจากนั้นคลิกที่ปมุ่ OK จะไดส้ ตี ามตอ้ งการ

85 คำช้ีแจง 1. ขอ้ สอบเปน็ แบบปรนัยมีทั้งหมด 10 ขอ้ 10 คะแนน 2. หา้ มขีดเขียนข้อความใดๆ ลงในขอ้ สอบโดยเด็ดขาด 3. จงเลอื กคำตอบทถี่ กู ตอ้ งท่สี ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว คำส่ัง ใหน้ ักเรยี นเลอื กกากบาท ( ✘ ) ทับข้อท่ีเหน็ ว่าถูกท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว ลงในกระดาษคำตอบลงในกระดาษา 1. ถ้าเราจะเปล่ยี นเสน้ Path เหลีย่ ม ๆ ทสี่ ร้างไวใ้ หก้ ลายเปน็ เส้นโคง้ มามารถทำได้โดยเลอื กเครื่องมือใด ก. Gradient ข. Hand Tool ค. Zoom Tool ง. Eyedropper Tool จ. Convert Point Tool 2. Path เป็นเส้นแบบ Vector ทเ่ี กดิ จากการวาดภาพดว้ ยเคร่ืองมือ Pen Tool โดยเสน้ Path ที่ได้จะ คุณสมบตั ิเดน่ แตกต่างจากเส้นแบบอน่ื ๆ ตามข้อใด ก. สามทารถแก้ไขดัดโค้งไดต้ ลอดเวลา ข. เขียนลวดลายทมี่ ีความซับซอ้ นสูง ๆ ค. สามารถกำหนดความโค้งได้อย่างแมน่ ยำ ง. นำมาแก้ไขได้ตลอดเวลา จ. สามารถขยายได้ตามความพอใจ 3. ข้อใดคอื สว่ นประกอบตา่ ง ๆ ที่อย่บู นเสน้ Path ก. เสน้ Path ข. Anchor Point ค. ขาสำหรับดัดโคง้ ง. ไม่มีข้อถูก จ. ข้อ ก-ค ถูก 4. การซอ่ น-แสดงเส้น Path ทำไดโ้ ดย ก. กดปุ่ม (Ctrl+H) บนคีย์บอรด์ ข. กดปุม่ (Ctrl+แดรกเมาส์) ค. กดปมุ่ <Ctrl+Spacebar> ง. กดปุ่ม Option ( Mac OS ) จ. กดปมุ่ <Alt+Windows>

86 5. ข้อใดไม่ใชก่ ารเลื่อนไหวแบบ Tweeing Frame ก. Position ง. Style ข. Opacity จ. ถูกทุกข้อ ค. Effect 6. เครอ่ื งมือสำหรับความคุมเส้น Path (Direct Selection Tool) เหมาะสำหรบั ใชง้ านในข้อใดใช้ตัวเลอื กข้อ 5 ตอบ= ค.Effect 7. กรณีทีต่ ้องการปรับขาสำหรบั ดัดโคง้ ทั้งสองด้านของเส้น Path พรอ้ มกันอยา่ งรวาเรว็ ทำได้ดว้ ย ก. กดปมุ่ <Shift>คา้ ง ข. กดป่มุ <Ctrl+Spacebar> ค. กดปมุ่ <Alt+Windows> ง. กดปมุ่ (Ctrl+แดรกเมาส์) จ. กดปุ่ม Option (Mac OS) 8. ข้อใดคือปัญหาที่เกดิ จากการหัดใช้ Path ก. เส้น Path ท่ีวาดอยู่หายไป ข. ไมร่ ูจ้ ะวาดเสน้ Path ต่อจากเสน้ ทม่ี อี ยู่อย่างไร ค. ใชเ้ ครอ่ื งมือไม่ถูกต้อง ง. ไมร่ ู้จกั วิธีการทำงาน จ. ขอ้ ก. และ ข. ถูก 9. ถ้าจำนวนจุดท่สี ร้างไว้ไมพ่ อสำหรบั การดดั โค้งให้เข้ากับภาพ สามารถเพิ่มจุดดว้ ยการคลิกเคร่อื งมือชนิดใด ก. Frame by Frame ง. คลิกเลอื ก Pen Tool ข. Tweening Frame จ. Add Anchor Point Tool ค. ขาสำหรบั ดดั โค้ง 10. เครอ่ื งมอื สำหรบั ควบคุมเส้น Path ( Path Selection Tool ) เหมาะสำหรบั ใช้งานในข้อใด ก. ควบคุมเสน้ ทม่ี ีจุดนอ้ ย ข. กำหนดตำแหนง่ จุดต่อไปเร่อื ย ๆ ค. สำหรับเลอื กและยา้ ยตำแหนง่ เส้น Path ทง้ั เสน้ ง. ปรบั ตำแหน่งใหเ้ สน้ โค้งเขา้ กับภาพทีเ่ ตรียมไว้ จ. สำหรับเลือกและยา้ ยตำแหน่งจุดควบคุมบนเสน้ Path

69 หน่วยที่ 8 การใชโ้ ปรแกรมกราฟิกแบบ VECTOR สาระสาคญั โปรแกรมกราฟกิ แบบVECTORใชง้ านในการจดั ภาพทซี่ อ้ นกนั อยใู่ หส้ ะดวกในการจดั วาง ภาพทว่ี างซอ้ นกนั นน้ั ใหท้ างานไดเฉ้ พาะสว่ นหรอื เฉพาะชน้ั ทเรี่ าเลอื กไดอ้ ยา่ งอสิ ระตอ่ กนั ไมม่ ี ผลกระทบกนั สว่ นอน่ื หรอื ชน้ั อนื่ ๆซงึ่ ผเู้รยี นจาเปน็ จะตอ้ งเรยี นรกู้ ารทางานของโปรแกรม VสาEรCะTกOารRเรไียดนม้รู้ากยง่ิ ขนึ้ 1. การตดิ ตง้ั โปรแกรม Adobe Illustrator 2. การเรยี กใช้กลุม่ เครอ่ื งมอื จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายโปรแกรม Adobe Illustrator 10 ได้ 2. สามารถตดิ ตง้ั โปรแกรมดว้ ยตนเอง 3. รู้วธิ กี ารใช้เครอ่ื งมอื

70 หนว่ ยที่ 8 การใชโ้ ปรแกรมกราฟิกแบบ VECTOR โปรแกรม Adobe Illustrator 10 เปน็ โปรแกรมที่นยิ มใช้ในการวาดภาพ เชน่ การวาดภาพการต์ นู การ สรา้ งโลโก การออกแบบฉลากผลติ ภณั ฑ์ ออกแบบปกหนงั สอื ป้ายโฆษณา เปน็ ต้น ซ่งึ โปรแกรมสามารถใช้งาน ไดง้ ่ายเนอ่ื งจากมเี ครอื่ งมือที่อำนวยความสะดวกในการสรา้ งภาพแตล่ ะชนดิ ไว้มากมาย การตดิ ตั้งโปรแกรม Adobe Illustrator 10 1.นำแผ่น CD โปรแกรม Adobe Illustrator 10 ใสใ่ น CD - ROW Drive 2.ดบั เบิลคลกิ ท่ีไอคอน My Computer 3.ดบั เบิลคลกิ ท่ี CD - ROW Drive 4.ดับเบิลคลกิ ที่โฟลเดอร์ Adobe Illustrator 10 5. ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ SERIAL No.TXT จะปรากฏหน้าต่าง Serial Number (รหัสผลิตภัณฑ์) ให้เลือก CD Key หรอื Serial number จากน้ันคลกิ เมาส์ดา้ นขวาเลอื กคำส่ัง Copy 6.ดับเบิลคลิกท่ีไอคอน Setup จะปรากฏหน้าตา่ งการติดตัง้ Wizard 7.จากน้นั จะปรากฏหนา้ ต่างการติดตง้ั โปรแกรม Adobe Illustrator 10 คลิกท่ปี มุ่ Next 8.จะปรากฏหน้าตา่ งเตือนก่อนติดตั้งโปรแกรมให้ปิดโปรแกรมประยุกตข์ อง Adobe โปรแกรมก่อนกอ่ ดำเนินการ ติดตงั้ โปรแกรม คลกิ ท่ปี ุ่ม OK 9.จะปรากฏหนา้ ตา่ งให้เลอื กเวอรช์ นั ทต่ี อ้ งการ Upgrade ให้คลิกเวอร์ชนั 9_0_2 จากน้ันคลิกท่ีปมุ่ Next 10.จ ะ ป ร า ก ฏ ห น ้ า ต ่ า ง ถ า ม ย ื น ย ั น ก า ร ติ ด ต ั ้ ง ใ ห ้ เ ล ื อ ก ที่ Search local hard drive (s) for prior installation จากน้นั คลิกที่ป่มุ Next 11.จะปรากฏหน้าตา่ งใหค้ ลกิ เลือกภาษาท่ตี อ้ งการติดตง้ั โดยคลิกท่ีภาษา US English จากนนั้ คลิกท่ีปมุ่ Next 12.จะปรากฏหนา้ ตา่ งแสดงเงอื่ นไขการตดิ ตั้งโปรแกรมให้คลิกทป่ี ่มุ Yes เพื่อยอมรบั เงอื่ นไขการตดิ ตั้งโปรแกรม 13.จะปรากฏหนา้ ต่างแสดงตำแหน่งทีต่ ดิ ตงั้ โปรแกรม ใหค้ ลกิ ที่ปุม่ Next 14.จากนนั้ จะปรากฏหน้าต่างใหเ้ ลือกรปู แบบการตดิ ต้ัง ดงั นี้ แบบ Typical เป็นการตดิ ตัง้ แบบธรรมดาเหมาะสำหรับผ้ใู ชท้ วั่ ไป แบบ Compact เปน็ การติดต้งั แบบประหยัดพน้ื ท่ี แบบ Custom เป็นการติดตั้งแบบเลือกส่วนที่ต้องการใช้งานได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับผู้ใช้โปรแกรม แบบชัน้ สูง คลกิ เลอื กท่ปี ุ่ม Typical จากนั้นคลกิ ที่ป่มุ Next 15.จะปรากฏหน้าต่างให้กรอบรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบและคลิกที่ช่อง Serial Number จากนั้นคลิกเมาส์ ดา้ นขวาเลอื กท่คี ำสงั่ Paste เพอ่ื วางหมายเลขผลติ ภณั ฑ์ แล้วคลิกทป่ี มุ่ Next 16.จะปรากฏหน้าต่างแจง้ ให้ทราบรายละเอยี ดขอ้ มูลท่ีกรอก ใหค้ ลกิ ที่ปุ่ม Yes 17.จะปรากฏหนา้ ตา่ งแจ้งให้ทราบวา่ จะมกี ารคัดลอกไฟลเ์ พอ่ื ติดตง้ั โปรแกรม ใหค้ ลิกทปี่ ุ่ม Next 18.จะปรากฏหน้าตา่ งการคดั ลอกไฟลถ์ ึง 80%

71 19.จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างแจ้งให้ทราบว่าไม่ได้ติดตั้ง Quit Time 4.1 ให้คลิกที่ปุ่มOK จากนั้นโปรแกรมจะ ทำการติดตง้ั ตอ่ จนครบ 100% 20.จะปรากฏหน้าตา่ งถามวา่ ตอ้ งการจะ Restart เครื่องหรอื ไม่ เพ่ือให้การตดิ ต้ัง Wizard เสร็จสมบูรณใ์ หค้ ลิกท่ี ปุ่ม Finish การเขา้ /ออกโปรแกรม Adobe Illustraton 10 1.คลกิ ที่ Start -> Program -> Adobe Illustrator 10 หรอื ดับเบิลคลกิ ทีไ่ อคอนบนหนา้ ตา่ งเดาก์ทอ็ ป 2.จะปรากฏหน้าต่างให้เลอื กการจดทะเทยี น ดังนี้ I want to register online. I have an Internet connection. กรณีที่ต้องการจดทะเบียนผ่านระบบ เครอื ข่าย โดยมีการเชอ่ื มตอ่ อนิ เทอรเ์ น็ต I want to print out my registration foem to be mailed or faxed. กรณีที่ต้องการจดทะเบียนโดยการ ใช้จดหมายหรือแฟกซ์ Do not display this dialog again. กรณีที่ไม่ต้องการให้แสดงหน้าที่นี้อีกคลิกเลือกท่ีDo not display this dialog again. จากน้นั คลิกท่ีปุ่ม Continue 3.รอสกั ครจู่ ะปรากฏหนา้ ต่างของโปรแกรม Adobe Illustrator 10 การออกจากโปรแกรม Adobe Illustrator 10 มวี ิธีการออกจากโปรแกรม Adobe Illustrator 10 อยู่ 2 วธิ ี คือ 1.คลกิ ท่ปี มุ่ Close ที่มมุ ขวาบนของหนา้ ตา่ งหลักหรอื 2.คลิกทเี่ มนู File -> Exit สว่ นประกอบของโปรแกรม Adobe Illustrator 10 ไตเตลิ บาร์ ไตเตลิ บารม์ ีหน้าที่แสดงชื่อโปรแกรม ซงึ่ มุมด้านขวาจะมปี ุ่มยอ่ / ขยายและป่มุ ออกจากโปรแกรม เมนูบาร์ เป็นเครื่องมือที่เก็บรวบรวมคำสั่งไว้เป็นหมวดหมู่ เพื่อใช้จัดการกับรูปภาพ และปรับค่าต่างๆ ซ่ึง ประกอบด้วย เมนู File มีหนา้ ทจ่ี ัดการเกีย่ วกบั การสร้าง การปิด การบันทึกและการตง้ั ค่าตา่ งๆ เมนู Edit มหี น้าทจี่ ดั การยกเลกิ การคดั ลอก การปรับเปลีย่ นต่างๆ เมนู Object มีหนา้ ท่เี กี่ยวกบั การปรับเปลี่ยนวัตถตุ ่างๆ เมนู Type มีหน้าทเ่ี กีย่ วกบั การจดั การกบั ขอ้ ความ เมนู Select มหี นา้ ทเี่ กี่ยวกับการเลือกพืน้ ทแ่ี ละการยกเลกิ การเลอื ก เมนู Filter มหี น้าทีเ่ กีย่ วกับการใสล่ ักษณะพิเศษตา่ งๆ ใหก้ ับวัตถุ เมนู Effect มหี นา้ ทเ่ี กย่ี วกับการใส่เอฟเฟก็ ต์ต่างๆ ใหก้ บั วัตถุ เมนู View มีหนา้ ทจี่ ัดการมุมมองหน้าต่างการทำงาน เมนู Window มีหน้าทเ่ี ปิด/ปิด พาเล็ตต่างๆ

72 เมนู Help มีหนา้ ท่แี นะนำการใช้เครือ่ งมือต่าง ๆ กล่องเครอื่ งมอื กล่องเคร่ืองมือหรือทูลบ็อกซ์นั้นประกอบด้วยเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานมากมาย โปรแกรม Adobe Illustrator 10 จึงได้จัดกลุ่มให้เครื่องมือต่างๆ ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกนั อยู่ในกลุ่มเดียวกัน โดยเครื่องมอื ที่จัดกลุ่มจะมีรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ ตรงมุมขวาล่าง การเรียกใช้เครื่องมือที่อยูใ่ นกลุ่มให้คลกิ ที่เครื่องมือทีต่ ้องการ คลกิ โดยคา้ งไว้สกั พักจะปรากฏกลุม่ เคร่ืองมอื ซึ่งมรี ายละเอยี ดดงั นี้ การเรียกใช้กลุ่มเครื่องมอื 1. คลิกเมาส์ด้านซ้ายค้างไว้ที่เครื่องมือที่ต้องการ จากนั้นจะปรากฏกลุ่มเครื่องมมือย่อยๆ ถ้าต้องการ แสดงกลุ่มย่อยของกล่องเครื่องมือให้คลิกที่ลูกศร จะปรากฏกลุ่มเครื่องมือย่อยแยกออกมาพาเล็ตต่าง ๆ เป็น หน้าต่างที่ใช้สำหรับประกอบการทำงานต่างๆ ซึ่งแต่ละพาเล็ตมีหน้าที่การทำงานที่แตกต่างกัน เช่น พา เล็ต Color ใช้สำหรับเลือกสี, พาเล็ต Appearance ใช้ใส่สีพื้น (Fill) และสีเส้น (Stroke), พา เล็ต Brushes ใช้สำหรับเลือกรปู แบบของหัวพู่กัน เป็นต้น ยกตัวอย่างการเรียนใช้พาเล็ตถ้าต้องการเรียกใช้พา เลต็ Color ให้คลิกที่เมนู Windows -> Color ถ้าต้องการปดิ พาเลต็ ใหท้ ำตามขนั้ ตอนขา้ งต้น

73 คำช้แี จง 4. ข้อสอบเปน็ แบบปรนยั มที ้ังหมด 10 ข้อ 10 คะแนน 5. หา้ มขดี เขียนข้อความใดๆ ลงในขอ้ สอบโดยเด็ดขาด 6. จงเลือกคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งที่สดุ เพียงคำตอบเดียว คำสัง่ ให้นักเรียนเลอื กกากบาท ( ✘ ) ทบั ข้อท่เี ห็นวา่ ถกู ทส่ี ุดเพียงขอ้ เดียว ลงในกระดาษคำตอบลงในกระดาษา 1. ข้อใดคอื การกำหนดมุมมองแสดงภาพแบบเต็มจอโดยไม่มแี ถบเมนบู าร์ ก. Standard Mode ข. Full Screen Mode with Menu Bar ค. Full Screen Mode ง. Full Screen Mode with Tool Box จ. Full Screen 2. ข้อใดคือการกดคีย์ลดั เพื่อซูมดูภาพใกล้ ๆ เมื่อใชเ้ คร่ืองมือ ก. <Alt>+<+> ข. <Ctrl>+<-> ค. <Shift>+<+> ง. <Alt>+คลกิ บนภาพ จ. <Ctrl>+<+> 3. ขอ้ ใดคอื การแสดงภาพเทา่ กบั หนา้ ต่างที่เปดิ อยู่ ก. Zoom In ข. Zoom OUT ค. Acrtual Pizels ง. Fit on Screen จ. Zoom Eztra 4. เรานิยมใชเ้ คร่ืองมือในข้อใดเพ่อื เล่ือนดภู าพภายในหน้าจอโดยไมต่ ้องอาศยั แถบเลือ่ น ก. Hand Tool ข. Scroll var ค. Zoom Tool ง. Move Tool จ. Tool bar

74 5. ขอ้ ใดคือการจดั เรียงหนา้ ตา่ งไฟลภ์ าพแบบซ้อนทับกนั ก. Cascade ง. Arrange Icons ข. Tile Horizontally จ. Vertically ค. Tile Vertically 6. จากภาพข้อใดท่ีไม่เกย่ี วข้องกบั การย่อ/ขยายภาพ ก. สว่ น A , B , C , D ข. ส่วน B , C , D ค. ส่วน A , E ง. ส่วน A จ. สว่ น E 7. หากตอ้ งการสร้างจานสีสว่ นตัวเพอ่ื ใชง้ านสีทตี่ ้องใชบ้ ่อย ๆ จะสร้างได้ในข้อใด ก. Color Picker ข. Swatches Palette ค. Color Palette ง. Default Colot จ. Pencil Tool 8. ขอ้ ใดคอื เครื่องมือท่ใี ชเ้ ทสีแบบไล่เฉดสี ก. Paint Bucket Tool ข. Pencil Tool ค. Gradient Tool ง. Brush Tool จ. Default Color 9. ขอ้ ใดคือการเลอื กเทสีดว้ ยการใสล่ วดลาย ก. Foreground ง. Normal ข. Pattern จ. Defult ค. Linear Gradient 10. หากเราตอ้ งการลบพื้นหลังภาพท่ีเปน็ สีเดียวกนั ให้เป็นส่วนที่โปรง่ ใสควรใช้เครื่องมอื ในข้อใดดีท่สี ดุ ก. Eraser Tool ข. Background Eraser Tool ค. Magic Eraser Tool ง. Canvas Easer Tool จ. BaclEraser Tool.

69 การสร้างข้อความ การปรับรูปทรงภาพ และ การใช้พาเลต็ PATHFINDER สาระสาคญั สอนการใช้งาน Photoshop CS5 เป็นการเขียนข้อความบนเส้นพาธตามรูปทรงภาพปัจจุบัน ด้านต่างๆ ได้นำข้อความกราฟิกมาช่วยเพิ่มสีสันในการสื่อสารข้อมูลให้น่าสนใจยิ่งขึ้น โปรแกรม Adobe Illustrator 10 ได้เตรียมเครื่องมือไว้ใช้สร้างข้อความไว้เป็นจำนวนมากและสามารถปรับ รปู แบบให้สวยงามได้ง่าย สาระการเรียนรู้ 1. การใช้เครอ่ื งมอื Type ในการสรา้ งข้อความ 2. การใช้เคร่ืองมือ Vertical Type 3. การปรบั รปู ทรงภาพดว้ ยคำส่งั Scale 4. การทำงานในสว่ นของ Shape Modes จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. สามารถใช้เคร่ืองมอื Type ในการสร้างข้อความ 2. สามารถใช้เครื่องมอื Vertical Type 3. สามารถปรบั รปู ทรงภาพดว้ ยคำส่งั Scale 4. สามารถทำงานในส่วนของ Shape Modes

70 หนว่ ยที่ 9 การสรา้ งขอ้ ความ การปรบั รูปทรงภาพ และการใช้พาเลต็ PATHFINDER สอนใชง้ าน Photoshop CS5 ตอนที่ 40 - เขยี นขอ้ ความบนเส้นพาธตามรูปทรงภาพ ปัจจุบันงานด้านต่างๆ ได้นำข้อความกราฟิกมาช่วยเพิ่มสีสันในการสื่อสารข้อมูลให้น่าสนใจยิ่งขึ้น โปรแกรม Adobe Illustrator 10 ได้เตรียมเครื่องมือไว้ใช้สร้างข้อความไว้เป็นจำนวนมากและสามารถปรับรูปแบบให้ สวยงามได้ง่าย การสร้างข้อความดว้ ยเครือ่ งมือกลุ่ม Type การใช้เครื่องมือ Type ในการสรา้ งขอ้ ความ เป็นเครอื่ งมอื ท่ีใช้สรา้ งตวั อกั ษรในแนวนอนซึ่งขน้ั ตอนดงั น้ี 1. คลิกท่เี ครือ่ งมือ Type Tool จากนน้ั คลิกเมาสด์ ้านซา้ ยบรเิ วณท่ตี ้องการพมิ พ์ขอ้ ความ จากนั้นพิมพ์ข้อความท่ี ต้องการ 2. คลิกที่เมนู Window -> Type -> Character เพ่อื แสดงพาเลต็ Character 3. ปรับเปลี่ยนรูปแบบตามต้องกการใช้เครื่องมือ Area Typeเป็นเครื่องที่ใช้สร้างตัวอีกษรในพื้นที่ที่กำหนดหรือ ในวัตถุท่ีสรา้ งข้ึนซึ่งมขี ้นั ตอนดงั น้ี 1. สรา้ งวัตถทุ ีต่ อ้ งการพมิ พ์ข้อความ 2. คลิกท่เี ครือ่ งมอื Area Type Tool จากน้นั คลิกเมาส์ดา้ นซ้ายบรเิ วณภายในวัตถทุ ต่ี อ้ งการพมิ พ์ขอ้ ความ จากนน้ั พมิ พ์ข้อความทตี่ ้องการ การใชเ้ คร่ืองมอื Path Type เป็นเครือ่ งมอื ท่ีใช้สรา้ งตัวอักษรแนวนอนตามเส้น Pen ท่สี ร้างขึ้นดว้ ยเคร่อื มอื Pen ซง่ึ มีขนั้ ตอนดังน้ี 1.สรา้ งเส้น Path ทีต่ ้องการพิมพ์ข้อความดว้ ยเครอ่ื งมือ Pen 2. คลกิ ท่ีเครื่องมือ Path Type Tool จากนั้นคลกิ เมาสด์ ้านซา้ ยบนเสน้ Path ท่ตี อ้ งการพิมพ์ข้อความ จากนนั้ พิมพข์ อ้ ความท่ีตอ้ งการ การใชเ้ ครื่องมอื Vertical Type เปน็ เครื่องมือท่ใี ช้สร้างตวั อกั ษรในแนวต้งั ซึ่งมขี น้ั ตอนดงั นี้ 1. คลกิ ท่เี ครอ่ื งมือ Vertical Type Tool จากน้นั คลกิ ทเ่ี มาส์ด้านซ้ายบริเวณทต่ี ้องการพิมพ์ข้อความ จากน้ันพิม์ ขอ้ งความทตี่ อ้ งการการใชเ้ คร่ืองมือ Vertical Area Typeเป็นเครอื่ งมอื ท่ใี ช่สรา้ งตวั อักษรในพนื้ ที่ท่ีกำหนดหรือใน วตั ถทุ สี่ รา้ งขน้ึ ในแนวตัง้ ซึง่ มขี ้ันตอนดังนี้ 1. สร้างวัตถทุ ตี่ อ้ งการพิมพ์ข้อความ 2. คลลกิ ทีเ่ ครอ่ื งมือ Vertical Area Type Tool จากน้ันคลกิ เมาส์ด้านซ้ายบรเิ วณภายในวัตถุท่ีต้องการ พิมพ์ข้อความ จากนั้นพิมพ์ข้อความที่ต้องการ การใช้เครื่องมือ Vertical Path Type เป็นเครื่องมือที่ใช้สร้าง ตวั อักษรแนวตัง้ ตามเสน้ Path ท่ีสรา้ งขึ้นดว้ ยเครื่องมอื Pen ซงึ่ มขี ัน้ ตอนดังนี้ 1. สรา้ งเส้น Path ทตี่ ้องการพิมพ์ขอ้ ความด้วยเครือ่ งมือ Pen 2. คลิกที่เครื่องมือ Vertical Path Type Tool จากนั้นคลิกเมาส์ด้ายซ้ายบนเส้นPath ที่ต้องการพิมพ์ ข้อความ จากนั้นพมิ พข์ อ้ ความทีต่ ้องการ

71 การสรา้ งข้อความแบบหลายบรรทัดและการจัดการข้อความ การสรา้ งขอ้ ความแบบหลายบรรทดั 1. คลิกที่เครื่องมือ Type Tool จากนั้นคลิกเมาส์ด้านซ้ายค้างไว้ตรงจุดเริ่มต้นที่ต้องการพิมพ์ข้อความ จากนน้ั ลากเมาสไ์ ปยังตำแหน่งสิ้นสดุ ของขอบเขตที่ต้องการพิมพ์ข้อความ 2. พมิ พ์ข้อความทต่ี ้องการ โดยใหพ้ ิมพ์ไปเรอ่ื ยๆ เม่อื ถึงขอบสนิ้ สดุ จะตดั ขนึ้ บรรทัดใหมใ่ หอ้ ตั โนมัติ แต่ถ้า ต้องการขึ้นยอ่ หนา้ ใหม่ใหก้ ด Enter การจดั ขอ้ ความ 1. คลกิ เลอื กขอ้ ความที่ต้องการปรับเปลีย่ น 2. คลิกท่ีเมนู Window -> Type -> Paragraph เพอื่ แสดงพาเล็ต Paragraph 3. สงั เกตขอ้ ความที่เปลี่ยนแปลงตามที่ปรับเปล่ยี น การปรับรปู ทรง 1. คลกิ ทีเ่ ครื่องมอื Selection จากนน้ั คลกิ ทว่ี ัตถุท่ตี อ้ งการ 2. ถ้าต้องการยอ่ /ขยายให้คลกิ เมาส์ด้านซ้ายคา้ งไว้ทม่ี ุมใดๆ ของวัตถุ จากน้นั ลากไปมาเพ่อื ยอ่ /ขยาย 3. ถา้ ต้องการหมนุ วัตถใุ หค้ ลิกทเ่ี ครื่องมือ Rotate จากนัน้ คลิกเมาสด์ ้านซ้ายคา้ งไว่ทีบ่ ริเวณรูปแบบแล้วปรับหมุน ตามต้องการ การปรบั รปู ทรงภาพดว้ ยคำส่งั Scale คำสง่ั Scale เปน็ การปรบั รูปทรงภาพให้อยูใ่ นลักษณะแนวตั้งหรือแนวนอน หรือแนวทแยง ซ่ึงมีข้ันตอน ดังน้ี 1. คลิกท่ีเลือกวัตถุทตี่ ้องการปรบั รูปทรง 2. คลกิ ท่ีเมนู Object -> Transform -> Scale จะปรากฏหนา้ ต่าง Scale 3. คลิกท่ีป่มุ OK สงั เกตการณเ์ ปลีย่ นแปลงของวตั ถุ การใช้พาเล็ต Align และพาเลต็ Pathfinder การใช้พาเล็ต Align พาเล็ต Align เปน็ พาเลต็ ทีใ่ ชจ้ ดั ตำแหน่งของวตั ถุตง้ั แต่ 2 ชิน้ ขึน้ ไปให้อยู่ในตำแหนง่ ท่ตี ้องการ ซ่ึงมี ขั้นตอนดงั น้ี 1. คลิกที่เมนู Window -> Align เพ่ือแสดงพาเลต็ Align 2. คลกิ เลอื กวตั ถุทตี่ ้องการจัดตำแหนง่ 3. ทดสอบจัดตำแหน่งโดยคลิกที่ Horizontal Align Center เพื่อจัดให้วัตถุอยู่ตำแหน่งกึ่งกลาง แนวนอนในตวั เลอื ก Align Object 4. ทกสอบจัดตำแหน่งโดยคลิกที่ Vertical Distribute Center เพื่อจัดให้วัตถุอยู่ตำแหน่งกึ่งกลาง แนวต้งั ในตวั เลือก Distribute Object การใช้พาเล็ต Pathfinder พาเล็ต Pathfinder เป็นพาเล็ตท่ใี ชจ้ ดั การลักษณะของวัตถทุ ี่เรียงซ้อนกัน ซง่ึ มลี ักษณะการทำงาน อยู่ 2 สว่ นคอื Shape Modes และ Pathfinders ซ่งึ มีขั้นตอนดังนี้ การทำงานในส่วนของ Shape Modes 1. คลกิ ท่ีเมนู Window -> Pathfinder เพ่อื แสดงพาเลต็ Pathfinder

72 2. คลิกเลือกวัตถุทง้ั หมด 3. คลิกที่เครื่องมือ Add to Shape area เป้นการรวมวัตถุที่เรียงซ้อนกันเข้าด้วยกันโดยสีจะ เปล่ียนเปน็ ไปตามสีที่เลือกไว้ 4. สรรา้ งวตั ถเุ พมิ่ ตามต้องการ 5. คลกิ เลือกวัตถุทั้งหมด 6. คลิกทีเ่ ครอื่ งมือ Subtract from shape area เพื่อตดั ส่วนทว่ี ัตถุทบั กันออกโดยวัตถุที่ถูกต้องตัด จะยังคงสีเดมิ 7. สรา้ งวัตถทุ ี่ตอ้ งการ 8. คลกิ เลอื กวัตถุท้ังหมด 9. คลิกที่เครื่องมือ Interaect shape area เพื่อตัดพื้นที่วัตถุส่วนที่ไม่ทับกันออกโดยวัตถุที่ได้สีจะ เปลี่ยนเปน็ สที ี่เลือกไว้ 10. นำภาพมาวางรวมกันเพ่อื สร้างชิ้นงานตามตอ้ งการ 11. สร้างวัตถทุ ีต่ ้องการจากน้ันคลิกเลอื กวตั ถทุ ัง้ หมด 12. คลิกที่เครื่องมือ Exclude overlapping shape area เพื่อตัดพื้นที่วัตถุส่วนที่ทับกันออกโดย วัตถุทไี่ ดส้ จี ะเปลีย่ นตามสวี ัตถุทอ่ี ยู่ดา้ นหนา้ 13. คลกิ ทเี่ ครือ่ งมือ Expand เพือ่ รวมวัตถใุ ห้เปน็ ชิ้นเดียวกนั 14. ทดสอบตกแตง่ ชิ้นงานโดยคลกิ ทีเ่ มนู Filter -> Stylize -> Drop Shadow เพ่ือสร้างเงาให้วตั ถุ 15. จะปรากหน้าตา่ งการทำงานของ Drop Shadow ให้คลกิ ท่ปี ุม่ OK จะไดผ้ ลลพั ธ์ การทำงานในส่วนของ Pathfinders เป็นเครื่องมือที่ใช้จัดการกับวัตถุที่เรียงซ้อนดันเช่นกันกับเครื่องมือในกลุ่มของ Shape Mode แต่ เมอ่ื ตัดหรอื รวมวตั ถุแลว้ จะเปลี่ยนวตั ถใุ ห้รวมกนั เป็นรูปเดียวทนั ที ซ่ึงมีข้ันตอนดังน้ี การใช้เคร่อื งมอื Divide 1. สร้างวตั ถทุ ต่ี อ้ งการ 2. คลิกเลือกวัตถุทงั้ หมด 3. คลกิ ที่เครื่องมอื Divide เพื่อตดั วตั ถุท่ที ับกนั ออกเปน็ สว่ นๆ 4. คลิกที่เครื่องมือ Direct Selection จากนั้นคลิกที่บริเวณวัตถุที่ต้องการคลิกเลือกสีที่ต้องการ เปลย่ี นหรอื กดปุม่ Delete ที่คียบ์ อรด์ เพ่อื ลบวัตถสุ ่วนทไ่ี มต่ ้องการ การใชเ้ คร่อื งมอื Trim 1. สรา้ งวตั ถทุ ่ตี อ้ งการ 2. คลกิ เลอื กวัตถทุ ้งั หมด 3. คลกิ ท่เี ครอื่ งมอื Trim เพือ่ ตดั วตั ถุทท่ี ับกนั ออกโดยวัตถุดา้ นหลังยังคงเดิม 4. คลกิ ทเี่ คร่ืองมือ Direct Selection จากนั้นคลิกทวี่ ตั ถุด้านบนแล้วลากออกจะสังเกตเห็นวัตถุถูด ตัดส่วนท่ที บั กนั ออกไป ปรังแต่งวัตถุตามตอ้ งก การใช้เครอื่ งมือ Merge

73 ต่างกนั 1. สร้างวตั ถทุ ี่ต้องการ ของวัตถุ 2. คลกิ เลอื กวัตถุทง้ั หมด 3. คลิกที่เครื่องมือ Merge เพื่อรวมวัตถุที่มีสีเหมือนกันเข้าด้วยกันและตัดวัตถุออกจากกันเมื่อสี 4. คลิกที่เครื่องมือ Direct Selection จากนั้นคลิกที่วัตถุแล้วลากออก สังเกตความเปลี่ยนแปลง การใช้เครอื่ งมือ Crop 1. สรา้ งวัตถุทีต่ อ้ งการ 2. คลิกเลอื กวตั ถทุ งั้ หมด 3. คลิกที่เครื่องมือ Crop เพื่อตัดวัตถุส่วนที่ไม่ทับกันออกและคงสีของวัตถุด้านล่างหรือส่วนที่ตัด ออกไว้ การใชเ้ คร่อื มือ Outline 1. สร้างวตั ถุทต่ี อ้ งการ 2. คลกิ เลือกทว่ี ัตถทุ ั้งหมด 3. คลิกที่เคร่ืองมือ Outline เพอ่ื ปรับวัตถใุ หแ้ สดงเฉพาะเสน้ โดยลบสพี ้ืนออก 4. คลกิ ปรับขนาดของเส้นทพี่ าเล็ต Stroke ตามขนาดท่ตี อ้ งการ การใชเ้ คร่อื งมอื Minus Back 1. สรา้ งวัตถทุ ี่ตอ้ งการ 2. คลิกเลอื กวัตถทุ ง้ั หมด 3. คลิกที่เครื่องมือ Minus Back เพื่อตัดวัตถุด้านหน้าออกโดยใช้วัตถุด้านหลังในการตัด จากนั้นตกแต่ง

68 คำช้ีแจง 1. ขอ้ สอบเปน็ แบบปรนยั มีทั้งหมด 10 ขอ้ 10 คะแนน 2. ห้ามขีดเขียนข้อความใดๆ ลงในข้อสอบโดยเด็ดขาด 3. จงเลอื กคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพยี งคำตอบเดยี ว คำสงั่ ให้นกั เรยี นเลือกกากบาท ( ✘ ) ทับข้อท่เี ห็นวา่ ถูกทส่ี ดุ เพียงขอ้ เดียว ลงในกระดาษคำตอบลงในกระดาษา 1. การปรับแตง่ ภาพแต่ไมไ่ ดเ้ ลือกพ้ืนท่เี ฉพาะเจาะจงหมายความว่าอยา่ งไร ก. ต้องการปรับแตง่ ภาพเฉพาะบางจุด ข. ตอ้ งการปรบั แตง่ ภาพทง้ั ภาพ ค. ตอ้ งการปรบั แตง่ ภาพทั้งภาพ ง. ตอ้ งการปรบั แตง่ ภาพเฉพาะภาพบิตแมปเทา่ นั้น จ. ถกู ทุกข้อ 2. ขอ้ ใดเปน็ สง่ิ ทีต่ ้องรกู้ ่อนใชเ้ คร่อื งมือ Selection ก. Guide ข. Ruler ค. Grid ง. Eracer จ. ถูกทุกข้อ 3. ข้อใดคอื ประโยชนข์ อง Guide Grid และ Ruler ก. ชว่ ยอำนวยความสะดวกในการจัดวางงาน ข. ใชบ้ อกตำแหน่งตวั ชเี้ มาส์ ค. เครอ่ื งมือวัดต่าง ๆ ง. ชว่ ยบอกคำสง่ั ในการทำงาน จ. ถูกท้งั ข้อ ก. และ ค. 4. ขอ้ ใดไม่ใชค่ ำสง่ั เปลย่ี นหนว่ ยงานวดั ไมบ้ รรทัด ก. คลกิ ขวาแถบไม้บรรทดั ข. ดบั เบลิ คลิกบนแถบไมบ้ รรทดั ค. Edit >> Preferences >> Units & Ruler ง. คลกิ บนแถบไมบ้ รรทดั จ. ถกู ทุกข้อ

69 5. Snap เป็นคำสงั่ ประเภทใด ง. Ctrl+ P ก. ชว่ ยสร้างความแมน่ ยำในการ Selection จ. Ctrl+X ข. Crop ภาพ ค. การจัดเรียงวัตถุต่าง ๆ ง. Distort ง. Crop ภาพ จ. Grid จ. ถูกทุกข้อ 6. Crop Tool หมายถึงข้อใด ก. การเลอื กภาพบางสว่ น ข. การตัดภาพบางสว่ น ค. การตัดภาพทัง้ ภาพ ง. การ Crop ภาพตน้ ฉบบั จ. ถูกทง้ั ข. และ ค. 7. คำส่ังในข้อใดใชใ้ นการย่อภาพ หมนุ ภาพ ก. Ctrl+V ข. Ctrl+T ค. Ctrl+O 8. คำสง่ั ในข้อใดใช้บิดเบอื นภาพให้เพย้ี นจากความจริง ก. Skew ข. Rotate ค. Scale 9. คำส่งั ในข้อใดใช้หมนุ ภาพแบบ 90 องศา ทวนเขม็ นาฬิกา ก. Edit>>Transfrom>>rotate 90 องศา ข. Edit>>Transfrom>>rotate 90 องศา CW ค. Edit>>Transfrom>>rotate 90 องศา CCW ง. Edit – Transfrom - rotate 900 องศา จ. ถูกทุกข้อ 10. เครื่องมอื Quick Masd Mode หมายถึงข้อใด ก. รูปแบบหนึง่ ของการเลือก ข. ไมใ่ ห้ทำการปรบั แต่งภาพบริเวณนั้น ค. แยกความแตกต่างพนื้ ท่ีถูกเลอื กและไม่ถูกเลอื ก ง. คำสั่งลัดในการเปลย่ี นเมณูรูปภาพ

69 ถูกทุกข้อ

70 การสรา้ งภาพเคลื่อนไหว สาระสาคญั ภาพเคลอ่ื นไหวหมายถงึ ภาพกราฟฟกิ ทมี่ กี ารเคลอื่ นไหวเพอื่ แสดงขน้ั ตอนหรอื ปรากฏการณต์ า่ งๆทเกี่ ดิ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งโดยการนาภาพนง่ิ มาเรยี งกนั เปน็ ชดุ ๆเพอื่ แสดงบน จอทลี ะภาพดว้ ยความเรว็ สงู ในการฉายภาพแตล่ ะภาพจะตอ่ เนอ่ื งกนั ใหด้ เหู มอื นวา่ เคลอื่ นไหว จรงิ ซง่ึ อาจเปน็ ภาพทไ่ี ดจ้ ากภาพวาดภาพถา่ ยหรอื ภาพคนสตั วส์ ง่ิ ของกไ็ ดไ้ มจ่ าเปน็ ตอ้ ง สเฉาพราะะกเจาาระเรจยงี แนตรภ่ ู้ าพการต์ ูนเทา่ น้นั 1. ความหมายภาพเคลอ่ื นไหว 2. การเก็บข้อมลู ภาพเคลอื่ นไหว 3. ประโยชนข์ องภาพเคลอ่ื นไหว จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. รคู้ วามหมายของภาพเคลอ่ื นไหว 2. สามารถทาแบบภาพเคลอื่ นไหว 3. เก็บข้อมลู ภาพเคลอื่ นไหว 4. มปี ระโยชนต์ อ่ ในการนาเสนองาน

71 หนว่ ยที่ 10 การสร้างภาพเคลอ่ื นไหว ความหมายภาพเคลื่อนไหว ภาพเคลื่อนไหว หมายถึง ภาพกราฟฟิกที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อแสดงขั้นตอนหรือปรากฏ การณ์ต่างๆ ที่เกิดข้ึน อย่างต่อเนื่อง โดยการนำภาพนิ่งมาเรียงกันเป็นชุดๆเพื่อแสดงบนจอทีละภาพด้วยความเรว็ สูง ในการฉายภาพแต่ ละภาพจะต่อเนื่องกันให้ดูเหมือนว่าเคลื่อนไหวจริง ซึ่งอาจเป็นภาพที่ได้จากภาพวาด ภาพถ่าย หรือภาพคน สัตว์ ส่ิงของกไ็ ด้ ไมจ่ ำเป็นต้องเฉพาะเจาะจงแต่ภาพการ์ตนู เท่าน้นั ประเภทของภาพเคล่อื นไหว ภาพเคลอื่ นไหวแบ่งได้เปน็ 2 ประเภทคอื 1.แบบ 2 มติ ิ (2D Animation) ภาพเคล่อื นไหวแบบ 2 มติ ิ มองเห็นไดท้ ั้งความสงู และความกวา้ ง ซ่งึ จะมคี วามเหมือนจรงิ พอสมควรและ การสรา้ งจะไม่สลบั ซับซอ้ นมากนกั เช่น ภาพเคล่ือนไหวทปี่ รากฏตามเว็บต่างๆ รวมทั้ง Gif Animation 2.แบบ 3 มิติ (3D Animatio) ภาพเคลอ่ื นไหวแบบ 3 มติ ิ มองเห็นไดท้ ้ังความสูง ความกวา้ ง และความลึก ภาพทเ่ี หน็ จะมีความสมจริง มากถึงมากท่สี ุด เช่น ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง NEMO เปน็ ตน้ รปู แบบของภาพเคลือ่ นไหว มี 3 แบบ คือ 1.Traditional Animation หรือ Hand Drawing Animation หรอื 2D Animation คอื ภาพเคลอื่ นไหวท่ีเกดิ จาก การวาดภาพที่ละภาพหลายๆ พันภาพ และฉายภาพเหล่านั้นผ่านกล้องโดยใช้เวลาไม่กี่วินาที เช่น 1 วินาที ใช้รูป 24 เฟรม เป็นภาพเคลื่อนไหวสมัยแรกเริ่มที่มักจะใช้การวาดด้วยมือ งานประเภทนี้พบเห็นได้ทั่วไปในการทำ ภาพเคลื่อนไหวยุคแรกๆ ซึ่งใช้เทคนิคการวาดด้วยมือทีละแผ่น ข้อดีของการทำภาพเคลื่อนไหวชนิดนี้คือ มีความ เป็นศิลปะ สวยงาม น่าชม แต่มีข้อเสียคือ ต้องใช้เวลาในการผลิตมาก ต้องใช้ผู้สร้างภาพเคลื่อนไหว (Animator) จำนวนมากและตน้ ทนุ การผลิตสงู 2.Stop Motion หรือเรียกว่า Model Animation ภาพเคลื่อนไหวประเภทน้ี ผู้สร้างภาพเคลื่อนไหวตอ้ งเข้าไปทำ การเคลื่อนไหวโดยตรงกับแบบจำลอง (Model) และทำการถ่ายภาพเอาไว้ทีละเฟรมๆ แบบจำลองนี้อาจจะเป็น ของเล่นหรอื อาจจะสรา้ งจากดนิ น้ำมนั การทำ Stop Motion นีต้ ้องอาศยั เวลาและความท่มุ เทมาก 3.Computer Animation เป็นภาพเคลื่อนไหวที่มักพบกันได้บ่อยในยุคปัจจุบัน เนื่องจากการใช้โปรแกรมเป็นไป ได้ง่ายและมีการนำหลักการแบบ 2D เข้ามาผสมผสานกับตัวโปรแกรม ซึ่งทำได้ง่ายและสะดวกในการแก้ไขและ การแสดงผล ปัจจุบันมีซอฟแวร์ต่างๆ ที่สามารถช่วยในการทำภาพเคลื่อนไหว เช่น โปรแกรม 3DS Max, Maya, Adobe flash เป็นต้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ประหยัดเวลาและลดต้นทุนการผลิตเป็นอย่างมาก จึงเป็นชนิดที่นิยมทำกัน มาก

72 การเก็บข้อมูลภาพเคล่ือนไหว ในปัจจบุ นั ข้อมลู ทีจ่ ัดเกบ็ เปน็ ภาพเคลื่อนไหวมี 2 รูปแบบ คือ 1.แบบอนาลอก 2.แบบดจิ ิตอล รูปแบบในการจัดเก็บขอ้ มูล รปู แบบในการจดั เก็บขอ้ มูลลงในแฟม้ ขอ้ มูลท่เี ปน็ มาตรฐาน และได้รับความนิยมมดี ังนี้ 1.AVI (Audio Video Interface) เป็นรูปแบบมาตรฐานบนระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows เมื่อผู้ใช้ ต้องการแสดงภาพเคลื่อนไหวซึ่งถูกจัดเก็บในรูปแบบAVI สามารถทำได้โดยการใช้ซอฟต์แวร์Microsoft Media Player แฟม้ ขอ้ มูลรูปแบบนีจ้ ะมสี ่วนต่อขยายของแฟ้มขอ้ มูลเป็น.avi 2.Quicktime Movie เป็นรูปแบบมาตรฐานบนระบบคอมพิวเตอร์จากบริษัทApple Computer เมื่อผู้ใช้ต้องการ แสดงภาพเคลื่อนไหวซึ่งถูกจัดเก็บในรูปแบบ Quicktime Movie สามารถทำได้โดยการใช้ซอฟต์แวร์Quicktime Player ซึ่งทำงานบนระบบปฏิบตั ิการได้หลายระบบ เช่นMicrosoft Windows Unix MacOS แฟ้มข้อมูลรูปแบบ น้จี ะมสี ว่ นต่อขยายของแฟม้ ขอ้ มลู เป็น.mov 3.MPEG (Moving Picture Experts Group)– เป็นรูปแบบมาตรฐานท่ีใช้กันทว่ั ไปบนระบบปฏบิ ัติการต่าง ๆ และ นิยมใช้กบั เครือ่ งเลน่ ภาพเคลือ่ นไหว ประโยชน์ของภาพเคลือ่ นไหว 1.งา่ ยตอ่ การใชง้ าน 2.สามารถได้ถึงความรู้สกึ 3.สร้างเสริมประสบการณ์ 4.เพม่ิ ขีดความสามารถในการเรยี นรู้ 5.เขา้ ใจเน้ือหามากยง่ิ ข้ึน 6.คุ้มคา่ ในการลงทนุ 7.เพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการลงทุน

73 การสรา้ งภาพเคลอ่ื นไหวดว้ ย Layer 1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop CS 6 ข้นึ มา 2. ไปที่ File แล้ว Open 3.เลือกรปู ภาพทเ่ี ตรียมไว้

74 4.เลือกรปู ภาพท่ี 1 แลว้ เปล่ียนชอื่ background เป็น 1 เพอ่ื ให้ง่ายในการจำLayer

75 5. ไปที่ Create a new layer 6. เปิด Folder ภาพท่ีเตรยี มไว้ข้นึ มาลากไฟล์ท่ี 2 มาว่างทช่ี ่อื Layer 1 แลว้ กด Enter จะได้ Layer 2 เป็น ชอื่ 2

76 7. คลกิ ขวาท่ี Layer 2 แล้วไปท่ีRasterize Layer ก็จะได้แบบนี้

77 8. คลิกที่ New layer เพื่อเพิ่ม Layer ขึ้นใหม่แล้วดึงภาพ ไฟล์ที่ 3 มาใส่ลงไป ทำลงไปจนครบภาพที่เรา เตรยี มไว้ 9. จนกวา่ จะไดค้ รบ เชน่ แบบนี้

78 10. จากนนั้ เรามาทำใหเ้ ป็นถาพเคลอื นไหวเลยโดยมาคลกิ ที่ป่มุ Timeline กจ็ ะได้เปน็ รูปแบบดงั นี้

79 จากนัน้ คลกิ ที่ลกู ศรช้ีลง ท่อี ยูข่ วามอื Create Video Timeline แลว้ เลอื กcreate Frame Animation 11. จากน้ันเลอื ก create Frame Animation จะไดแ้ บบน้ี

80 12. ปิดตา layer ใหห้ มด ยกเวน้ layer ท่ี 1 จากนัน้ ไป new layer ตรงแถบ Timeline เพอ่ื เพม่ิ layer 13. ของ Animation แล้วเปิดตา layer ท่ี 2 ทำตามขั้นตอนนี้ไปจนครบ layer ถงึ layer สดุ ท้าย จะเห็นว่าแตล่ ะ layer ใน Timeline จะเป็น 0 sec. น้ันช่องใหเ้ รากำหนดความเร็วของภาพ ในทน่ี ีใ้ หเ้ ราเลือก 0.3 และเลือกเป็น Forever เพื่อให้เลน่ วนไปวนมาโดยไมห่ ยดุ จะเหน็ วา่ ตอนแรกจะเปน็ once

81 จากนน้ั เราจะไป save โดยไปท่ี File แลว้ ไปที่ save for wep... จากนั้น save ไดเ้ ลย แลว้ โปรแกรมจะใหเ้ ราเลือก folder เพื่อจดั เกบ็ ไฟล์ ท่ตี อ้ งการ save จากน้ันก็ต้ังช่อื ไฟล์ แลว้ ก็ save ได้เลย

82 จะได้รูปภาพแบบนี้

83 คำช้แี จง 11. ข้อสอบเป็นแบบปรนัยมีทั้งหมด 10 ขอ้ 10 คะแนน 12. หา้ มขีดเขยี นข้อความใดๆ ลงในข้อสอบโดยเด็ดขาด 13. จงเลอื กคำตอบทถี่ กู ตอ้ งที่สดุ เพยี งคำตอบเดียว คำส่งั ให้นักเรียนเลอื กกากบาท ( ✘ ) ทบั ขอ้ ที่เห็นวา่ ถกู ที่สุดเพียงขอ้ เดยี ว ลงในกระดาษคำตอบลงในกระดาษา 1. ขอ้ ใดคอื คณุ สมบัตขิ อง Layers Palette ก. ซ่อนรปู ภาพ ข. แสดงรูปภาพ ค. ยา้ ยตำแหนง่ รปู ภาพ ง. ลบรปู ภาพ จ. ถูกทุกข้อ 2. ถา้ Layers Palette ไม่ปรากฎขึ้นบนพ้นื ทกี่ ารทำงานเราจะสามารถเรยี กขนึ้ มาใช้งานได้โดย ก. เลือกเมณู window > Layers ข. File > Open > ชอื่ ไฟล์ ค. Layer > New > Layer From Background ง. Layer > New > Background From Layer จ. เปดิ ไอคอนรปู ตา 3. ถา้ ต้องการจะขยาย Layers Palette สามารถทำไดโ้ ดย ก. คลกิ Minimize/Maximize (Windows) ข. คลกิ Resize Box (Mas OS) ค. ลากจากจุดมุมขวาล่างเพอื่ ย่อหรอื ขยายขนาด ง. ไมม่ ีขอ้ ถกู จ. ข้อ ก - ค ถูก 4. ถา้ ต้องการลบพ้ืนทบี่ างสว่ นออกจากเลเยอร์ ทำได้โดยวิธใี ด ก. คลิกไอคอนรูปแปลง ข. คลิก Eraser Tool ค. คลกิ ไอคอลรูปตา ง. คลกิ Magic Tool จ. คลิก Tool Options Bar

84 5. ลำดับข้ันของเลเยอร์ต่าง ๆ ใน 1 รูปภาพ เรียกวา่ ง. Emboss ก. Tolerance จ. Type ข. Stacking Order ค. Background Layer ง. Emboss ง. Opacity Option จ. ถกู ทุกข้อ จ. Blending Mode Pop-up 6. ข้อใดไม่ใช้คณุ สมบตั ิของการ Link เลเยอรเ์ ขา้ ด้วยกัน ก. สามารถเคลื่อนยา้ ยเลเยอร์ได้ทีเดยี วพร้อม ๆ กนั ข. ตำแหน่งของแต่ละเลเยอรเ์ ทา่ กนั ค. ระยะห่างของแตล่ ะเลเยอร์เท่ากัน ง. สะดวกในการใชง้ านแต่ละ Layer จ. แยกแตล่ ะเลเยอร์ใหเ้ ป็นสัดส่วน 7. ขอ้ ใดไม่ใช่เอฟเฟคต์การใช้ Layers Style ก. shadow ข. Glow ค. Bevel 8. การซอ่ นเอฟเฟคตแ์ ตล่ ะค่าไวช้ ั่วคราวทำได้ด้วยวธิ ใี ด ก. คลิกไอคอนรูปแปลง ข. คลิกไอคอนรูปตา ค. คลกิ ท่ี View Menu ง. คลิกที่ Hand Tool จ. คลิก Eyedropper Tool 9. การ Flatten หมายถงึ ก. การแยกเลเยอร์ออกจากกนั โดยส้ินเชงิ ข. การใส่สที โ่ี ปร่งใสลงบนเลเยอร์ใหม่ ค. การเรียงลำดับใหม่ใหก้ ับเลเยอร์ ง. การก๊อปปี้เลเยอร์ จ. การรวมหลาย ๆ เลเยอร์ไวบ้ นเลเยอรเ์ ดียว 10. ถ้าตอ้ งการใหต้ วั หนงั สือเรืองแสง จะใชเ้ อฟเฟคตต์ วั ใด ก. Shadow ข. Glow ค. Bevel

69