รายวชิ าพลศกึ ษาเพอื่ พัฒนาสขุ ภาพ กฬี าแบดมนิ ตนั ประวัตแิ บดมนิ ตนั ประวัตแิ บดมนิ ตนั ไทย ความเป็ นมาแบดมนิ ตนั โดย ครสู ดใส หวงั อารี แผนกสามัญสมั พันธ์ วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาเพชรบรุ ี
ประวตั แิ บดมนิ ตัน ประวตั แิ บดมนิ ตนั ไทย ความเป็ นมาแบดมนิ ตนัประวตั แิ บดมนิ ตนั ประวตั กิ ฬี าแบดมนิ ตนั ในประเทศไทย ประวัตแิ บดมนิ ตันตา่ งประเทศ มารยาทการรับชมกฬี าแบดมนิ ตนั ประวตั คิ วามเป็ นมากฬี าแบดมนิ ตัน ประโยชนข์ องแบดมนิ ตนั และ มารยาททดี่ ใี นการเลน่ และชมแบดมนิ ตนัประวตั แิ บดมนิ ตนั ประวัตกิ ฬี าแบดมนิ ตนั มคี วามเป็ นมาอยา่ งไร มตี น้ กาเนดิ อยา่ งไร ไมป่ รากฏหลักฐานชดั เจนถงึ ตน้ ตอ แตจ่ ากหลักฐานบางชนิ้ ในอดตี ไดบ้ ง่ ชใ้ี หท้ ราบทมี่ าของกฬี าประเภทนี้ ดงั นี้ครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 7 ในประเทศจนี จากหลักฐานของภาพวาดเกา่ ๆ ซงึ่ บง่ บอกวา่ มกี ารใชข้ นไก่ มาทาเป็ นลกูขนไกใ่ ชใ้ นการเลน่ โดยชาวจนี นาอแี ปะทมี่ รี ู แลว้ ใชข้ นไกห่ ลายเสน้ เสยี บผา่ นรอู แี ปะสองสาม อนั ใหอ้ แี ปะเป็ นตัวถว่ งน้าหนัก ใช ้ เชอื กมดั ตรงปลายเอาไวไ้ มใ่ หห้ ลดุ เวลาเลน่ จะตัง้ วง เลน่ กนั ตัง้ แตส่ องคนขนึ้ ไป หรอืจะเลน่ พรอ้ มกนั 3-4 คน ใชเ้ ทา้ เตะกนั ไปมาทานองเดยี วกนั กบั ทคี่ นไทยเลน่ ตะกรอ้ ลอ้ มวงครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 13 ปรากฏหลักฐานวา่ ชาวอนิ เดยี นแดงในทวปี อเมรกิ าใชข้ นไกห่ รอื ขนนก เสยี บมดั ตดิ กบักอ้ นกลม ใหป้ ลายหางของขนไกช่ ไ้ี ปทางเดยี วกนั เป็ นพกู่ ระจายออกดา้ นหลงั เวลาเลน่ ใชม้ อื จับกอ้ นกลมแลว้ปาไปยังผเู ้ ลน่ อน่ื ๆ ใหช้ ว่ ยกนั จับ ตลอดจนชว่ งทก่ี ลา่ วมาน้ี ยังไมม่ กี ารใชแ้ ร็กเกตหรอื อปุ กรณ์อน่ื ๆ ตปี ะทะลกู ขนไก่ แตใ่ ชม้ อื หรอื อวยั วะอน่ื ๆ แทน จนกระท่งั ในศตวรรษที่ 14 ชาวญปี่ ่ นุ ไดม้ กี ารใชข้ นไก่ อเมรกิ าตอนใตใ้ ชห้ ญา้ ฟางพนั ขมวดเขา้ ดว้ ยกนั จนเป็ นกอ้ นกลม แลว้ ใชข้ นไกห่ รอื ขนนกเสยี บผกู ตดิ กบั หวั ไม ้ แลว้ ใชไ้ ม ้แป้นทที่ าจากไมก้ ระดาน สลกั ดว้ ยลวดลายหรอื รปู ภาพหวดเจา้ ลกู ขนไกไ่ ปมา นับวา่ เป็ นววิ ัฒนาการในรปู ลกั ษณ์ของการเลน่ แบดมนิ ตันทใี่ กลเ้ คยี งกบั ยคุ ปัจจบุ นั มากทส่ี ดุ โดยมกี ารใชแ้ ร็กเกตตลี กู ขนไกแ่ ทนการใชอ้ วยั วะของรา่ งกายครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 14 ชาวญป่ี ่ นุ ไดม้ กี ารใชข้ นไก่ หรอื ขนนกเสยี บผกู ตดิ กบั หวั ไม ้ และใชไ้ มต้ ลี กู ขนไกน่ ัน้โดยไมท้ ใ่ี ชต้ ที ามาจากไมก้ ระดาน ตลี กู ขนไกไ่ ปมานับวา่ เป็ นววิ ฒั นาการในรปู ลกั ษณข์ องการเลน่ แบดมนิ ตันทใ่ี กลเ้ คยี งกบั ยคุ ปัจจบุ นั มากทสี่ ดุ โดยมกี ารใชแ้ ร็กเกตตลี กู ขนไกแ่ ทนการใชอ้ วยั วะของรา่ งกาย
ครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 17 ตอนปลาย โดยเฉพาะใน ประเทศองั กฤษ จากภาพน้ามนั หลายภาพไดย้ นื ยนั วา่ กฬี าแบดมนิ ตนั เลน่ กนั อยา่ งแพรห่ ลายใน พระราชวงศข์ องราชสานักตา่ งๆ ในทวปี ยโุ รป โดยอาจเรยี กชอื่ ตา่ ง ๆกนั อาทิ พระราชนิ คี รสิ ตนิ าแหง่ สวเี ดนทรงจาลองไมแ้ บดมนิ ตนั มาจากแร็กเกตในกฬี าเทนนสิ และใชข้ นไก่หรอื ขนนกเสยี บตดิ กบั หวั ไมก้ อ๊ ก เจา้ ฟ้าชายเฟรดเดอรคิ มงกฎุ ราชกมุ ารแหง่ เดนมารก์ ทรงแบดมนิ ตนั ในลักษณะเดยี วกนั แตใ่ นตอนนัน้ เรยี กแบดมนิ ตันวา่ “แบตเทลิ ดอรก์ บั ลกู ขนไก”่สมยั ศตวรรษท่ี 18 กษัตรยิ ข์ องปรัสเซยี เฟรดเดอรคิ มหาราช และพระเจา้ หลานเธอเฟรดเดอรคิ วลิ เลยี มท่ีสองไดท้ รงแบดมนิ ตนั อยา่ งสมา่ เสมอ ซงึ่ เกมการเลน่ มลี กั ษณะเดยี วกนัประวัตกิ ฬี าแบดมนิ ตนัประวัตขิ องกฬี าแบดมนิ ตนั บนั ทกึ ไดแ้ นน่ อนในปี พ.ศ. 2413 (1870) ในประเทศองั กฤษ โดยมเี รอ่ื งเลา่ วา่นายทหารคนหนง่ึ ทไ่ี ปประจาการอยใู่ นเมอื งปนู า ประเทศอนิ เดยี (Poona เป็ นเมอื งเล็กๆ หา่ งจากเมอื งบอมเปยป์ ระมาณ 50 ไมล)์ ไดเ้ ห็นกฬี าทร่ี วมการเลน่ สองอยา่ งเขา้ ดว้ ยกนั คอื การเลน่ ปนู าของประเทศอนิ เดยีและการเลน่ ไมต้ กี บั ลกู ขนไก่ (Battledore Shuttle Cock) ของยโุ รป ในระยะแรกๆ การเลน่ จะเลน่ กนั เพยี งแต่ในหมนู่ ายทหารของกองทพั และสมาชกิ ชนชนั้ สงู ของอนิ เดยี จนกระท่งั นายทหารองั กฤษทไี่ ปประจาการอยทู่ ่ีเมอื งปนู า นากลับไปเลน่ ในองั กฤษ ณ คฤหาสน์ “แบดมนิ ตนั ” ของดยคุ แหง่ บวิ ฟอรด์ ทกี่ ลอ๊ สเตอรเ์ ชอร์ ในปีพ.ศ. 2416 (ค.ศ. 1873) เกมกฬี าตลี กู ขนไกจ่ งึ ถกู เรยี กวา่ “แบดมนิ ตนั ” ตามชอื่ ของสถานทนี่ ับตงั้ แตน่ ัน้ มา
กฬี าแบดมนิ ตนั เรมิ่ แพรห่ ลายในประเทศแถบภาคพน้ื ยโุ รป เพราะเป็ นเกมทค่ี ลา้ ยเทนนสิ แตส่ ามารถเลน่ ได ้ภายในตวั ตกึ โดยไมต่ อ้ งกงั วลตอ่ ลมหรอื หมิ ะในฤดหู นาว ชาวยโุ รปทอี่ พยพไปสทู่ วปี อเมรกิ า ไดน้ ากฬี าแบดมนิ ตนั ไปเผยแพร่ รวมทงั้ ประเทศตา่ งๆ ในทวปี เอเชยี และออสเตรเลยี ทอี่ ยภู่ ายใตอ้ าณานคิ มขององั กฤษเนเธอรแ์ ลนด์ ตา่ งนาเกมแบดมนิ ตนั ไปเลน่ ยังประเทศของตนอยา่ งแพรห่ ลาย เกมกฬี าแบดมนิ ตนั จงึ กระจายไปสสู่ ว่ นตา่ งๆ ของโลก รวมทัง้ ประเทศไทยดว้ ยการเลน่ แบดมนิ ตันในระยะแรกๆ มไิ ดม้ กี ฎเกณฑ์ แตเ่ ป็ นเพยี งตโี ตล้ กู กนั ไปมาไมใ่ หล้ กู ตกพน้ื เทา่ นัน้ เสน้ แบง่แดนกใ็ ชต้ าขา่ ยผกู โยงระหวา่ งตน้ ไมส้ องตน้ ไมไ่ ดค้ านงึ ถงึ เรอื่ งตา่ สงู เลน่ กนั ขา้ งละไมน่ อ้ ยกวา่ 4 คน สว่ นมาจะเลน่ ทมี ละ 6 ถงึ 9 คน ผเู ้ ลน่ แตง่ ตวั ตามสบาย สภุ าพสตรสี วมกระโปรงยาวทงั้ ชดุ ใสห่ มวกตดิ ผา้ ลาย ลกู ไม ้สภุ าพบรุ ษุ แตง่ สากลผกู โบวไ์ ทด์ เพราะกฬี าแบดมนิ ตนั ไดร้ ับความนยิ มแพรห่ ลายออกไปตามบา้ นขา้ ราชการพอ่ คา้ คหบดี และประชาชนจนกระทงั่ ปี พ.ศ. 2436 (ค.ศ. 1893) ไดม้ กี ารจัดตงั้ สมาคมแบดมนิ ตันแหง่ ประเทศองั กฤษขนึ้ ซงึ่ นับเป็ นสมาคมแบดมนิ ตนั แหง่ แรกของโลก มกี ารจัดแขง่ ขนั แบดมนิ ตนั ชงิ ชนะเลศิ แหง่ ประเทศองั กฤษ หรอื ทเ่ี รยี กกนัวา่ ออลองิ แลนด์ ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) เป็ นตน้ มา ไดต้ งั้ กฎเกณฑข์ องสนามมาตรฐานขน้ึ คอืขนาดกวา้ ง 22 ฟตุ ยาว 45 ฟตุ (22 x 45) เป็ นสนามขนาดมาตรฐานประเภทคทู่ ใ่ี ชใ้ นปัจจบุ นั ตัง้ แตน่ ัน้ มาการปรับปรงุ ดัดแปลงในเรอื่ งอปุ กรณก์ ารเลน่ ไดก้ ระทาใหด้ ขี น้ึ เป็ นลาดับ ตอ่ มาไดร้ ับความนยิ มแพรห่ ลายไปทั่วโลกประเทศในเอเซยี อาคเนยท์ มี่ กี ารเลน่ กฬี าแบดมนิ ตนั และไดร้ ับความนยิ มสงู สดุ คอื อนิ โดนีเซยี มาเลเซยี และประเทศไทย นอกจากประเทศองั กฤษแลว้ การเลน่ ทน่ี ่าดมู ขี นึ้ ทป่ี ระเทศแคนาดาและเดนมารก์ ดว้ ยเหตผุ ลท่ีควรสนใจอยา่ งกวา้ งขวางท่ัวโลกในกฬี าประเภทนี้ การแขง่ ขนั ระหวา่ งประเทศจงึ ไดจ้ ัดใหม้ ขี น้ึ ในปี พ.ศ.2445 (ค.ศ. 1902) และตลอดเวลาหลายปีทผ่ี า่ นมา จานวนประเทศทเ่ี ขา้ รว่ มแขง่ ขันกฬี าแบดมนิ ตันระหวา่ งประเทศมมี ากวา่ 31 ประเทศ
แบดมนิ ตนั ไดก้ ลายเป็ นเกมกฬี าทเี่ ลน่ กนั ระหวา่ งชาติ โดยมกี ารยกทมี ขา้ มประเทศเพอื่ แขง่ ขนั ระหวา่ งชาตใิ นทวปี ยโุ รป ในปี พ.ศ. 2468 กลมุ่ นักกฬี าของประเทศองั กฤษไดแ้ ขง่ ขนั กบั กลมุ่ นักกฬี าประเทศแคนาดา หา้ ปีหลังจากนัน้ พบวา่ ประเทศแคนาดามสี โมสรสาหรับฝึกแบดมนิ ตนั มาตรฐานแทบทกุ เมอื งในปี พ.ศ. 2477 (ค.ศ. 1934) สมาคมแบดมนิ ตนั ของประเทศองั กฤษเป็ นผนู ้ าในการกอ่ ตงั้ สหพนั ธแ์ บดมนิ ตนัระหวา่ งประเทศ โดยมชี าตติ า่ งๆ อกี 8 ชาตคิ อื แคนาดา เดนมารก์ องั กฤษ ฝรั่งเศส ไอรแ์ ลนด์ เนเธอรแ์ ลนด์นวิ ซแี ลนด์ สกอ๊ ตแลนด์ และเวลล์ โดยมศี นู ยก์ ลางอยทู่ กี่ รงุ ลอนดอน ปัจจบุ นั มปี ระเทศทอี่ ยใู่ นเครอื สมาชกิกวา่ 60 ประเทศทข่ี น้ึ ตอ่ สหพนั ธแ์ บดมนิ ตันระหวา่ งประเทศ (I.B.F.) สหพันธม์ บี ทบาทสาคัญในการกาหนดและควบคมุ กตกิ าระเบยี บขอ้ บงั คับตา่ งๆ ของการแขง่ ขนั กฬี าแบดมนิ ตนั ทว่ั โลกในปี พ.ศ. 2482 Sir George Thomas นักแบดมนิ ตนั อาวโุ สชาวองั กฤษเป็ นผมู ้ อบถว้ ยทองราคา 5,000ปอนด์ เพอ่ื มอบเป็ นรางวัลใหแ้ กผ่ ชู ้ นะเลศิ ประเภทชายในการแขง่ ขนั แบดมนิ ตันระหวา่ ง ประเทศ ซง่ึ สหพนั ธ์แบดมนิ ตนั ไดร้ ับไวแ้ ละดาเนนิ การตามประสงคน์ ้ี แมว้ า่ ตามทางการจะเรยี กวา่ การแขง่ ขันชงิ ถว้ ยชนะเลศิแบดมนิ ตนั ระหวา่ งประเทศ แตน่ ยิ มเรยี กกนั วา่ โธมัสคพั (Thomas Cup) การแขง่ ขนั จะจัดขนึ้ ทกุ ๆ 3 ปี โดยสหพันธไ์ ดแ้ บง่ เขตการแขง่ ขนั ของชาตสิ มาชกิ ออกเป็ น 4 โซน คอื 1. โซนยโุ รป 2. โซนอเมรกิ า 3. โซนเอเชยี 4. โซนออสเตรเลเซยี (เดมิ เรยี กวา่ โซนออสเตรเลยี )วธิ กี ารแขง่ ขนั จะแขง่ ขนั ชงิ ชนะเลศิ ภายในแตล่ ะโซน ขนึ้ กอ่ น แลว้ ใหผ้ ชู ้ นะเลศิ แตล่ ะโซนไปแขง่ ขันรอบอนิ เตอรโ์ ซนเพอ่ื ใหผ้ ชู ้ นะเลศิ ทงั้ 4 โซนไปแขง่ ขนั ชงิ ชนะเลศิ กบั ทมี ของชาตทิ คี่ รอบครองถว้ ยโธมสั คพั อยู่ซง่ึ ไดร้ ับเกยี รตไิ มต่ อ้ งแขง่ ขนั ในรอบแรกและรอบอนิ เตอรโ์ ซน ชดุ ทเ่ี ขา้ แขง่ ขนั ประกอบดว้ ยผเู ้ ลน่ อยา่ งนอ้ ย 4คน การทจ่ี ะชนะเลศิ นัน้ จะตดั สนิ โดยการรวมผลการแขง่ ขนั ของประเภทชายเดยี่ ว 5 คู่ และประเภทชายคู่ 4 คู่รวม 9 คู่ และใชเ้ วลาการแขง่ ขัน 2 วนั การแขง่ ขันชงิ ถว้ ยโธมัสคัพครัง้ แรก จัดใหม้ ขี นึ้ ระหวา่ งปี พ.ศ. 2491-2492ตอ่ มาในการแขง่ ขนั แบดมนิ ตนั โธมสั คัพ ครัง้ ที่ 8 ปีพ.ศ. 2512-2513 สหพนั ธไ์ ดเ้ ปลย่ี นแปลงวธิ กี ารแขง่ ขนัเล็กนอ้ ย โดยใหช้ าตทิ คี่ รอบครองถว้ ยอยนู่ ัน้ เขา้ รว่ มแขง่ ขนั ในรอบอนิ เตอรโ์ ซนดว้ ย โดยวธิ กี ารจับสลากแลว้แบง่ ออกเป็ น 2 สาย ผชู ้ นะเลศิ แตล่ ะสายจะไดเ้ ขา้ แขง่ ขนั ชงิ ชนะเลศิ โธมสั คัพรอบสดุ ทา้ ยตอ่ ไป สาเหตทุ ี่สหพันธเ์ ปลยี่ นแปลงการแขง่ ขนั ใหมน่ ี้ เนอ่ื งจากมบี างประเทศทช่ี นะเลศิ ไดค้ รอบครองถว้ ยโธมัสคัพไมร่ ักษาเกยี รตทิ ี่ ไดร้ ับจากสหพนั ธไ์ ว ้ โดยพยายามใชช้ นั้ เชงิ ทไ่ี มข่ าวสะอาดรักษาถว้ ยโธมัสคพั ไวค้ รัง้ แลว้ ครัง้ เลา่สหพนั ธจ์ งึ ตอ้ งเปลย่ี นขอ้ บงั คบั ใหช้ าตทิ คี่ รอบครองถว้ ยอยนู่ ัน้ ลงแขง่ ขันใน รอบอนิ เตอรโ์ ซนดงั กลา่ วดว้ ย
กฬี าแบดมนิ ตนั ไดแ้ พรห่ ลายขนึ้ แมก้ ระท่งั ในกลมุ่ ประเทศสงั คมนยิ มก็ไดม้ กี ารเลน่ เบดมนิ ตนั อยา่ งกวา้ งขวางและ มกี ารบรรจแุ บดมนิ ตันเขา้ ไวใ้ นการแขง่ ขนั เอเชยี นเกมส์ เซยี พเกมส์ (ซเี กมสใ์ นปัจจบุ นั ) การแขง่ ขนั กฬี าของประเทศในเครอื จักภพสหราชอาณาจักร รวมทงั้ การพจิ ารณาแบดมนิ ตนั เขา้ สกู่ ารแขง่ ขนั กฬี าโอลมิ ปิกลว้ นแตเ่ ป็ นเครอื่ งยนื ยนั วา่ แบดมนิ ตนั ไดก้ ลายเป็ นกฬี าสากลแลว้ อยา่ งแทจ้ รงิ ประวตั แิ บดมนิ ตนั ประวัตกิ ฬี าแบดมนิ ตนัประวตั ผิ รู ้ เิ รมิ่ กฬี าแบดมนิ ตนัจอหน์ ลอเรน บอลดว์ นิ ผรู ้ เิ รม่ิ กฬี าแบดมนิ ตนั ขนึ้ เป็ นครัง้ แรกโดยจัดการเลน่ ท่ี คฤหาสนแ์ บดมนิ ตนั(Badminton House) ในปราสาทของทา่ นดยคุ แหง่ บวิ ฟอรด์ ในกลอสเตอรช์ าร์ ประเทศองั กฤษ บอลดว์ นิ มคีวามคดิ รเิ รมิ่ เมอ่ื ใดไมป่ รากฏแน่ชดั แตว่ า่ กนั ประมาณ 60 ปีกวา่ ของครสิ ตศ์ ตวรรษทแ่ี ลว้บอลดว์ นิ เกดิ เมอ่ื พ.ศ. 2352 ไดร้ ับการศกึ ษาในมหาวทิ ยาลยั ออ๊ กซฟ์ อรด์ เขาสนใจกฬี าครกิ เกต และละครมาก เขามคี วามชานาญในกฬี าหลายชนดิ และไดก้ อ่ ตัง้ สโมสรในกรงุ ลอนดอน (London) หลายแหง่ จนไดช้ อ่ืวา่ “ราชาสโมสร” ไดม้ นี ติ ยสารฉบบั หนงึ่ ชอ่ื “แวนติ แ้ี ฟร”์ ไดก้ ลา่ ววา่ “เป็ นเวลากวา่ ครงึ่ ศตวรรษทเี ดยี วท่ีชอื่ เสยี งของเขายงิ่ ใหญใ่ นวงการสงั คม สโมสร ซงึ่ ทกุ คนเชอ่ื ฟังโดยความเคารพ และเขาเกง่ ไมม่ ใี ครเทา่เทยี มได ้ ในการสรา้ งขอ้ บงั คบั และเป็ นผชู ้ ขี้ าดเกยี่ วกบั ปัญหาทัว่ ไป และกาลงั อยรู่ ะหวา่ งปรับปรงุ ขอ้ มลู ตา่ งๆจากลักษณะดงั กลา่ วน้ี เราจะคดิ ไมไ่ ดห้ รอื วา่ เขาเป็ นผวู ้ างกฎขอ้ บงั คบั กฬี าแบดมนิ ตนั ขน้ึ เป็ นครัง้ แรกสดุถงึ แมว้ า่ จะไมป่ รากฏเป็ นลายลักษณอ์ กั ษรก็ตาม” แวนติ แ้ี ฟร์ บอกใหท้ ราบวา่ “เขาเป็ นสหายคนสาคญั ของทา่ นดยคุ แหง่ บวิ ฟอรด์ ” ชวี ติ ในระยะหลงั บอลดว์ นิ ไดไ้ ปอาศัยอยใู่ กลๆ้ กบั วหิ าร Tintern Abbey หา่ งจากคฤหาสนแ์ บดมนิ ตนั ไปทางตะวนั ตกประมาณ 32 กโิ ลเมตร เมอ่ื อยทู่ นี่ ่ันเขาไดร้ ับขนานนามวา่ ทา่ นบดิ าแหง่ทนิ เทนิ ขณะนัน้ เขาแกล่ งมาก ความชราก็ไมไ่ ดท้ าใหเ้ ขาลดหยอ่ นงานอนั เป็ นทรี่ ักเลยแมแ้ ตน่ อ้ ย
ประวตั แิ บดมนิ ตนั ในประเทศไทยการเลน่ แบดมนิ ตันไดเ้ ขา้ มาสปู่ ระเทศไทยในราวปี พ.ศ. 2456 โดยเรม่ิ เลน่ กฬี าแบดมนิ ตันแบบมตี าขา่ ย โดยพระยานพิ ทั ยกลุ พงษ์ ไดส้ รา้ งสนามขนึ้ ทบ่ี า้ น ซงึ่ ตัง้ อยรู่ มิ คลองสมเด็จเจา้ พระยาธนบรุ ี แลว้ นยิ มเลน่ กนั อยา่ งแพรห่ ลายออกไป สว่ นมากเลน่ กนั ตามบา้ นผดู ้ มี ตี ระกลู วงั เจา้ นาย และในราชสานัก การเลน่ แบดมนิ ตันครัง้นัน้ นยิ มเลน่ ขา้ งละ 3 คนกนั มาก ประมาณปี พ.ศ. 2462 สโมสรกลาโหมไดเ้ ป็ นผจู ้ ัดแขง่ ขนั แบดมนิ ตันทวั่ ไปขน้ึ เป็ นครัง้ แรก โดยจัดการแขง่ ขัน 3 ประเภทไดแ้ กป่ ระเภทเดยี่ ว ประเภทคู่ และประเภทสามคน ปรากฏวา่ ทมีแบดมนิ ตนั บางขวางนนทบรุ ี (โรงเรยี นราชวทิ ยาลยั บางขวางนนทบรุ )ี ชนะเลศิ ทกุ ประเภท นอกจากน้ี มีนักกฬี าแบดมนิ ตนั ฝี มอื ดเี ดนิ ทางไปแขง่ ขนั ยงั ประเทศใกลเ้ คยี งอยบู่ อ่ ยๆตอ่ มาปี พ.ศ. 2494 พระยาจนิ ดารักษ์ไดก้ อ่ ตัง้ ขน้ึ เป็ นสมาคมชอื่ วา่ “สมาคมแบดมนิ ตนั แหง่ ประเทศไทย” เมอื่แรกตงั้ มอี ยู่ 7 สโมสร คอื สโมสรสมานมติ ร สโมสรบางกอก สโมสรนวิ บอย สโมสรยนู ติ ้ี สโมสร ส.ธรรมภักดีสโมสรสงิ หอ์ ดุ ม และ สโมสรศริ บิ าเพ็ญบญุ ซงึ่ ในปัจจบุ นั นเี้ หลอื เป็ นสโมสรสมาชกิ ของสมาคมอยเู่ พยี ง 2สโมสร คอื สโมสรนวิ บอย และสโมสรยนู ติ เ้ี ทา่ นัน้ และในปีเดยี วกนั สมาคมแบดมนิ ตนั แหง่ ประเทศไทยก็ได ้สมคั รเขา้ เป็ นสมาชกิ ของสหพันธแ์ บดมนิ ตนั นานาชาตดิ ว้ ย สมาคมแบดมนิ ตนั แหง่ ประเทศไทยมนี ักกฬี าแบดมนิ ตนั ทมี่ ฝี ี มอื ดอี ยมู่ าก และจากการทไ่ี ดเ้ ขา้ แขง่ ขนั ในรายการตา่ งๆของโลกไดส้ รา้ งชอ่ื เสยี งใหก้ บัประเทศไทยเป็ นอยา่ งมาก ทงั้ โธมัสคพั อเู บอรค์ ัพ และการแขง่ ขนั ออลองิ แลนด์ ซงึ่ วงการแบดมนิ ตนั ถอื วา่เป็ นการแขง่ ขนั ชงิ ชนะเลศิ ของโลกประเภทรายบคุ คล ซง่ึ นักกฬี าของประเทศไทยกเ็ คยไดต้ าแหน่งรองชนะเลศิ ทงั้ ประเภทชายเดยี่ ว และชายคมู่ าแลว้ วงการแบดมนิ ตนั ของไทยยกยอ่ ง นายประวัติ ปัตตพงศ์(หลวงธรรมนูญวฒุ กิ ร) เป็ นบดิ าแหง่ วงการแบดมนิ ตนั ของประเทศไทยปัจจบุ นั กฬี าแบดมนิ ตนั ใน ประเทศไทยเป็ นทนี่ ยิ มกนั มาก เลน่ กนั ทวั่ ประเทศทงั้ เด็ก ผใู ้ หญ่ ผหู ้ ญงิ ผชู ้ าย มีการเรยี นการสอนในโรงเรยี นในสถาบนั อดุ มศกึ ษา มสี นามแบดมนิ ตนั อยทู่ วั่ ประเทศ มอี ปุ กรณ์ทไี่ ดม้ าตรฐานซง่ึ ผลติ ไดเ้ อง มกี ารอบรมฝึกสอนกฬี าแบดมนิ ตนั โดยองคก์ รทมี่ มี าตรฐาน มผี ฝู ้ ึกสอนทงั้ ในประเทศ และตา่ งประเทศทท่ี างานเต็มเวลา มกี รรมการผตู ้ ัดสนิ ทเ่ี ป็ นมาตรฐาน มรี ายการแขง่ ขนั ภายในประเทศทจี่ ัดขน้ึ ในแตล่ ะปีไมน่ อ้ ยกวา่ 20 รายการ มนี ักกฬี าทม่ี คี วามสามารถตดิ อนั ดับ 1 ใน 10 ของโลก ทงั้ ชายและหญงิภายใตก้ ารทางานของสมาคมแบดมนิ ตนั แหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภท์ จ่ี รงิ จัง และเขม้ แข็ง เชอื่ วา่อกี ไมน่ านประเทศไทยคงจะกา้ วหนา้ ไปเป็ นผนู ้ าในกฬี าแบดมนิ ตนั ของโลกใน โอกาสขา้ งหนา้ อยา่ งแน่นอน
ประวตั สิ มาคมแบดมนิ ตนั แหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชนูปถมั ภ์สมาคมแบดมนิ ตนั แหง่ ประเทศไทยกอ่ ตงั้ ขน้ึ เมอื่ ปี พ.ศ.2493โดยมผี มู ้ ใี จรักกฬี าแบดมนิ ตันกลมุ่ หนง่ึ อาทิหลวงธรรมนูญวฒุ กิ ร (นายประวตั ิ ปัตตพงศ)์ นายยง อทุ ศิ กลุ นายณัติ นยิ มวานชิ ไดร้ ว่ มกอ่ ตงั้ สมาคมฯ ขนึ้พรอ้ มกบั เรยี นเชญิ พระยาจนิ ดารักษ์ (นายจาลอง สวัสดชิ โู ต) มาเป็ นนายกสมาคมแบดมนิ ตนั แหง่ ประเทศไทยคนแรก จดทะเบยี นเป็ นสมาชกิ ของสหพันธแ์ บดมนิ ตนั นานาชาติ ไอบเี อฟ. ในปี พ.ศ. 2494 เป็ นสมาชกิอนั ดบั ท่ี 19 ของโลก และสมาคมฯ ไดร้ ับพระมหากรณุ าธคิ ณุ โปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหอ้ ยใู่ นพระบรมราชปู ถมั ภเ์ มอื่ ปี พ.ศ. 2498 นายกสมาคมฯ ทผี่ า่ นมาตอ่ จากพระยาจนิ ดารักษ์ คอื นายเลอ่ื น บวั สวุ รรณ, นายจรุ นิ ทร์ ลา่ ซา, พลตารวจโทตอ่ ศักดิ์ ยมนาค, พลตารวจเอกประเสรฐิ รจุ วิ งศท์ า่ นผหู ้ ญงิ วจิ ติ รา ธนะรัชย์ (อยู่ในตาแหน่งไมค่ รบวาระ), นายชานาญ ยวุ บรู ณ,์ พลตารวจพชิ ยั กลุ ละวณชิ ย,์ พลตารวจเอกชมุ พล โลหะชาละ, พลเอกเทยี นชยั สริ สิ มั พนั ธ,์ นายเพยี รศักดิ์ ซอโสตถกิ ลุ , ฯพณฯ กร ทพั พะรังส,ี และ ศาสตราจารยเ์ จรญิวรรธนะสนิ สมาคมฯ ไดร้ ับพระมหากรณุ าธคิ ณุ ทย่ี งิ่ ใหญเ่ มอื่ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว และสมเด็จพระนางเจา้ พระบรมราชนิ ีนาถ ไดท้ รงมอบถว้ ยพระราชทานทอ่ี อกแบบเป็ นพเิ ศษโดยชา่ งฝี มอื เยยี่ มของประเทศแหง่ยคุ สมัย ใหแ้ กส่ มาคมฯ สาหรับผคู ้ รองตาแหน่งชนะเลศิ แบดมนิ ตนั ชายเดยี่ วและหญงิ เดยี่ วแหง่ ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2497 และถว้ ยพระราชทานของทงั้ สองพระองค์ ยงั เป็ นถว้ ยรางวลั กฬี าทสี่ วยงามแมเ้ วลาจะผา่ นมารว่ มครง่ึ ศตวรรษ สมาคมฯ ในฐานะองคก์ รแบดมนิ ตันแหง่ ชาติ ไดม้ กี ารพฒั นาวงการแบดมนิ ตนั อยา่ งตอ่ เน่ืองมาโดยตลอด จนกลายเป็ นองคก์ รแหง่ ชาตทิ ส่ี หพันธแ์ บดมนิ ตนั นานาชาติ ไอบเี อฟ.ถอื วา่ เป็ น สมาคมฯ ระดบั แนวหนา้ ทม่ี ศี กั ยภาพในการเป็ นเจา้ ภาพจัดการแขง่ ขันแบดมนิ ตนั ระดับโลกสาคญั ๆ ตา่ งๆ อาทิ การแขง่ ขนั โธมสั -อเู บอรค์ พั รอบชงิ ชนะเลศิ กรังดป์ รซี เ์ ซอรโ์ ลก และการแขง่ ขนั ไทยแลนดโ์ อเพน่ ประจาปี ชงิ เงนิรางวัลหลายลา้ นบาทตงั้ แตป่ ี พ.ศ.2527 จนถงึ ปัจจบุ นัในปี พ.ศ. 2502 สมาคมฯ เป็ นสมาชกิ กอ่ ตงั้ ของ สมาพนั ธแ์ บดมนิ ตนั แหง่ เอเชยี (Asian BadmintonConfederation) และมบี ทบาทสาคญั ในองกรแหง่ นมี้ าแตต่ น้ ตอ่ มา ศาสตราจารย์ เจรญิ วรรธนะสนิ ไดร้ ับการเลอื กตงั้ จากสมาชกิ ในชาตเิ อเชยี ใหท้ าหนา้ ทเี่ ป็ นเลขาธกิ ารของสมาพันธฯ์ ระหวา่ งปี ค.ศ. 1987-1990 และรองประธานสมาพนั ธใ์ นปี ค.ศ. 1990-1992 ซงึ่ ชว่ งนไ้ี ดม้ กี ารใชก้ ารตลาดเขา้ มาสกู่ ฬี าแบดมนิ ตนั แหง่ เอเชยีจนสามารถมคี วามเป็ นปึกแผน่ ดา้ นการเงนิ และตอ่ มา ฯพณฯกร ทัพพะรังสี ไดร้ ับเลอื กตัง้ ใหด้ ารงตาแหน่งประธานสมาพนั ธฯ์ ตงั้ แตป่ ี ค.ศ. 1997-2000 และประเทศไทยไดเ้ ป็ นเจา้ ภาพจัดการแขง่ ขนั แชมป์ เป้ียนแบดมนิ ตนั แหง่ เอเชยี หลายครัง้ มาตรฐานการเลน่ แบดมนิ ตนั ของประเทศไทย สหพนั ธแ์ บดมนิ ตนั นานาชาติจัดใหอ้ ยใู่ นระดบั แนวหนา้ ของโลก (จาก Statute Bookของสหพนั ธฯ์ ) เคยเขา้ รอบชงิ ชนะเลศิ ประเภททมีชายของโลก 2 ครัง้ ในประเภทรายบคุ คล นักแบดมนิ ตนั ไทยหลายรนุ่ ยงั ครองตาแหน่งแชม เปี้ยน ประเภทบคุ คลในประเทศตา่ ง ๆ นับตงั้ แตก่ ารแขง่ ขนั แบดมนิ ตนั ออล-องิ แลนด์ ซง่ึ ถอื วา่ เป็ นการแขง่ ขันชงิ แชมเปี้ยนโลกอยา่ งไมเ่ ป็ นทางการ นักแบดมนิ ตนั ไทยก็เคยเขา้ ถงึ รอบชงิ ชนะเลศิ ทัง้ ประเภทชายเดย่ี วและประเภทชายคู่ และเคยครองแชมเป้ียนทงั้ ชายเดย่ี ว หญงิ เดยี่ ว และชายคใู่ นการแขง่ ขันแบดมนิ ตันระหวา่ งชาติ และแชมป์ เป้ียนของชาตติ า่ ง ๆ ทว่ั โลกในหลายประเทศรวมทงั้ มหกรรมกฬี าเอเชยี นเกมส์ ซเี กมส์ ตลอดระยะเวลาทผี่ า่ นมา นักแลดมนิ ตนั ไทยไดค้ รองเหรยี ญทอง เหรยี ญเงนิ และเหรยี ญทองแดงแตล่ ะ่ ยคุ สมยั ในปี ค.ศ. 2000 ศาสตราจารยเ์ จรญิ วรรธนะสนิ ไดร้ ับการยกยอ่ งเขา้ สทู่ าเนยี บเกยี รตคิ ณุ Hall of Fame ของสหพันธแ์ บดมนิ ตันนานาชาติ ไอบเี อฟ และในปี ค.ศ. 2001 ฯพณฯ กรทัพพะรังสี ไดร้ ับเลอื กตงั้ จากสมาชกิสหพันธ์ 141 ชาตใิ หเ้ ป็ นประธานสหพันธแ์ บดมนิ ตนั นานาชาติ ไอบเี อฟ นับเป็ นเกยี รตสิ งู สดุ ของวงการแบดมนิ ตนั ไทยทไ่ี ดร้ ับจากนานาประเทศทวั่ โลก
ในปี พ.ศ.2546-2547 ศาสตราจารยเ์ จรญิ วรรธนะสนิ นายกสมาคมฯ ไดร้ เิ รมิ่ นาเอา Software การจับฉลากแบง่ สายดว้ ยระบบคอมพวิ เตอรจ์ ากยโุ รปมาใชเ้ ป็ นแหง่ แรก ในประเทศไทย โดยมนี ายสรุ ศักดิ์ สง่ วรกลุ พันธ์กรรมการอานวยการสมาคมฯ ผชู ้ านาญการคอมพวิ เตอร์ ไดป้ ระสานงานพฒั นาจนทาใหซ้ อฟทแ์ วรใ์ ชเ้ ป็ นภาษาไทยได ้ ทาการจับฉลากแบง่ สายนอกจากจะเทย่ี งตรง ยตุ ธิ รรม และโปรง่ ใสแลว้ การจับฉลากแบง่ สายการแขง่ ขันทม่ี นี ักกฬี ามากกวา่ หนงึ่ พนั แมทช์ สามารถกระทาไดภ้ ายในเวลาเพยี งครงึ่ ชวั่ โมง แมน บญุ ศกั ดิ์ พลสนะ อดตี ยอดนักกฬี าแบดมนิ ตันชาย ทมี ชาตไิ ทยลกั ษณะของการเลน่ กฬี าแบดมนิ ตันแบดมนิ ตนั มกี ารเลน่ กนั อยู่ 5 ประเภท คอื 1. ประเภทชายเดย่ี ว กาหนดการเลน่ ไวเ้ กมละ 21 คะแนน 2. ประเภทหญงิ เดย่ี ว กาหนดการเลน่ ไวเ้ กมละ 21 คะแนน 3. ประเภทชายคู่ กาหนดการเลน่ ไวเ้ กมละ 21 คะแนน 4. ประเภทหญงิ คู่ กาหนดการเลน่ ไวเ้ กมละ 21 คะแนน 5. ประเภทคผู่ สม (ชาย – หญงิ ) กาหนดการเลน่ ไวเ้ กมละ 21 คะแนนประเภทเดย่ี วจะมผี เู ้ ลน่ ขา้ งละ 1 คน และประเภทคจู่ ะมผี เู ้ ลน่ ขา้ ง 2 คนเกร็ดอน่ื ๆ สาหรับกฬี าแบดมนิ ตันประเภท 3 คน มเี พยี งประเทศไทยแหง่ เดยี วในโลกทเ่ี คยมเี กมการแขง่ ขนัและนยิ มเลน่ ในประเภทนี้ประโยชนข์ องกฬี าแบดมนิ ตันแบดมนิ ตนั กเ็ ชน่ เดยี วกบั กฬี าชนดิ อนื่ ๆทม่ี ปี ระโยชนม์ ากสาหรับผเู ้ ลน่ ซง่ึ สามารถสรปุ ไดเ้ ป็ นขอ้ ๆ ดังนี้ 1. ทาใหม้ พี ลานามยั สมบรู ณแ์ ข็งแรงทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ 2. ทาใหม้ สี ายตาและการเคลอ่ื นไหวทร่ี วดเร็ววอ่ งไว 3. ทาใหเ้ ป็ นผทู ้ มี่ กี ารคาดการณล์ ว่ งหนา้ ได ้ 4. ทาใหเ้ ป็ นผทู ้ สี่ ามารถตดั สนิ ใจไดอ้ ยา่ งรวดเร็วทันเวลา 5. ทาใหร้ จู ้ ักแบง่ หนา้ ทแ่ี ละรักษาหนา้ ท่ี มกี ารรว่ มมอื กบั ผอู ้ นื่ ไดด้ ี 6. สามารถเขา้ กบั คนอน่ื ได ้ และมมี นุษยส์ มั พนั ธท์ ด่ี ี 7. ทาใหเ้ ป็ นผทู ้ มี่ นี ้าใจเป็ นนักกฬี ารแู ้ พร้ ชู ้ นะและรจู ้ ักใหอ้ ภยั 8. ทาใหเ้ ป็ นผทู ้ รี่ จู ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็ นประโยชน์
นอ้ งเมย์ รชั นก อนิ ทนนท์ ยอดนักกฬี าแบดมนิ ตนั หญงิ ทมี ชาตไิ ทยมารยาทในการเลน่ และการแขง่ ขนั กฬี าแบดมนิ ตนักฬี าแบดมนิ ตนั เป็ นกฬี าทมี่ ผี นู ้ ยิ มเลน่ กนั มากชนดิ หนงึ่ เมอ่ื มกี ารแขง่ ขนั จะมผี ชู ้ มเป็ นจานวนมาก เพราะฉะนัน้ผเู ้ ลน่ ควรจะแสดงกริ ยิ าทา่ ทางทส่ี ภุ าพ ไมแ่ สดงออกในทา่ ทไ่ี มด่ ี ควรมนี ้าใจเป็ นนักกฬี า รจู ้ ักแพ ้ รจู ้ ักชนะไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ความวนุ่ วาย รวมทงั้ ผชู ้ มกฬี าแบดมนิ ตันก็ตอ้ งมมี ารยาทเชน่ กนั ไมค่ วรทาอะไรทเี่ ป็ นการรบกวนสมาธขิ องนักกฬี าขณะทาการแขง่ ขัน สาหรับการเลน่ และการแขง่ ขันกฬี าแบดมนิ ตันมมี ารยาทและสงิ่ ทจี่ ะตอ้ งประพฤตปิ ฏบิ ตั อิ ยหู่ ลายประการผชู ้ ม แตง่ กายใหส้ ภุ าพ เรยี บรอ้ ย เป็ นการใหเ้ กยี รตแิ กก่ ารแขง่ ขนั นัน้ ๆ ใหเ้ กยี รตแิ กน่ ักกฬี าทงั้ 2 ฝ่ าย ดว้ ยการปรบมอื เมอื่ มกี ารแนะนาคแู่ ขง่ ขนั ไมก่ ลา่ ววาจาทไ่ี มส่ ภุ าพ และไมเ่ ชยี รฝ์ ่ ายใดฝ่ ายหนง่ึ จนไมน่ ่าดู ขณะการแขง่ ขนั ยังดาเนนิ อยไู่ มค่ วรรบกวนสมาธขิ องผแู ้ ขง่ ขันหรอื ผชู ้ มดว้ ยกนั เชน่ การลกุ เดนิ ไปมา หรอื ตะโกนบอกลกู ดหี รอื ลกู ออก รวมทงั้ การสอนผเู ้ ลน่ ดว้ ย การนงิ่ เงยี บ ในขณะทนี่ ักกฬี ากาลงั เลน่ ถอื เป็ นมารยาททด่ี ขี องผชู ้ ม ควรปรบมอื เมอื่ ผเู ้ ลน่ ฝ่ ายใดฝ่ ายหนงึ่ เลน่ ไดด้ ี สวยงาม และกระทาเมอ่ื ลกู ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นการเลน่ ไมแ่ สดงออกดว้ ยกริ ยิ าหรอื วพิ ากษ์วจิ ารณ์การตัดสนิ ของกรรมการขณะทาการแขง่ ขัน แมว้ า่ จะมี ขอ้ ผดิ พลาดอยา่ งไร กค็ วรใหอ้ ภยั และยอมรับ เมอื่ การแขง่ ขนั สนิ้ สดุ ลง ควรปรบมอื เป็ นเกยี รตแิ กค่ แู่ ขง่ ขนั ทัง้ 2 ฝ่ าย ประวัตแิ บดมนิ ตนั ประวตั กิ ฬี าแบดมนิ ตนั ในประเทศไทย ความเป็ นมาแบดมนิ ตนั
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: