Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานสบู่ดอกอัญชันขมิ้น

โครงงานสบู่ดอกอัญชันขมิ้น

Published by tanapa, 2021-10-01 09:27:42

Description: โครงงานสบู่ดอกอัญชันขมิ้น

Search

Read the Text Version

โครงงาน สบ่ดู อกอัญชันและขมิน้ จัดทาโดย นางสาว สุนสิ า เสมอใจ เลขท่ี๒๒ ม.๕/๒ นางสาว กญั ชพรลือยศ เลขท่ี๒๕ ม.๕/๒ นางสาว ชนากานต์ หนอ่ ไชย เลขท่ี๒๖ ม.๕/๒ นางสาว ธนาภา สวุ รรณประชา เลขท่ี๒๗ ม.๕/๒ นางสาว ปราณปริยา ปะเกยี น เลขที่๒๘ ม.๕/๒ เสนอ ครู ดารงค์ คนั ธะเรศย์ โครงงานน้เี ป็นสว่ นหน่งึ ของวิชาการศกึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ งองค์ความรู้ I30201 โรงเรียนปัว อาเภปัวจงั หวดั นา่ น ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔โครงงาน สบสู่ มนุ ไพรจากดอกอญั ชนั และขม้นิ

ผูจ้ ดั ทา นางสาว สนุ ิสา เสมอใจ นางสาว กญั ชพร ลือยศ นางสาว ชนากานต์ หนอ่ ไชย นางสาว ธนาภา สวุ รรณประชา นางสาว ปราณปริยา ปะเกยี น อาจารย์ทปี่ รึกษา คณุ ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ ปีการศกึ ษา 2564 บทคัดย่อ โครงงานสบสู่ มุนไพรจดั ทาเพ่อื ใหไ้ ดส้ บทู่ ีม่ าจากธรรมชาตเิ นื่องจากสบจู่ าเป็นท่ีจะตอ้ งใชอ้ าบน้า ชาระลา่ งกายชวี ิตประจาวนั และปัจจุบนั เกดิ ปัญหาหามลพิษฝ่นุ pm2.5รวมถงึ เชือ้ โรค และสารปนเปื้อนตา่ ง ๆ ที่มองไมเ่ ห็นอกี มากมาย ทาใหผ้ ูค้ นเริ่มหนั มาดแู ลเร่ืองผิวพรรณเป็ นจานวนมากทง้ั เด็กและผูใ้ หญ่ โดยเฉพาะวยั รุ่นเพราะปัญหาเกดิ จากฝ่นุ ละอองในอากาศทาใหผ้ ิวหนงั เสยี ผวิ หนงั อกั เสบและแสบผวิ มีผน่ื คนั ตามตวั ปวดแสบปวดร้อน มีอาการระคายเคอื งเป็นลมพิษ ถา้ เป็นหนกั มากอาจเกดิ ลมพษิ บริเวณใบหนา้ ขอ้ พบั ขาหนีบ ทารา้ ยเซลล์ผวิ หนงั ทาใหผ้ ิวออ่ นแอ เหี่ยวยน่ งา่ ย และบางคนเกดิ ปัญหาสิว สิวทีห่ ลงั และสิว ท่กี น้ โดยเฉพาะวยั รุ่นทม่ี กั มสี วิ เกดิ ท่ีหลงั และหนา้ อกทเ่ี กดิ จากการอบั ชนื่ ของเหงื่อและมลภาวะสบจู่ าก สมุนไพรท่ที ามาจากอญั ชนั และขมิ้นจงึ เป็นตวั เลอื กทใี่ นการนามาขดั ผิวและบารุงผิวพรรณใหส้ วยงาม คณะผูจ้ ดั ทาจึงทาสบูส่ มนุ ไพรจากดอกอญั ชนั และขม้ินเป็นสมุนไพรทีม่ ีสพรรณคณุ ท่ดี หี ลากหลาย ทเี่ กย่ี วกบั การขดั ผิวและมผี ลชว่ ยใหผ้ วิ พรรณที่ดขี ้ึนปลอดภยั ตอ่ ผวิ หาไดจ้ ากธรรมชาตเิ พือ่ ชว่ ยลดปัญหา ทางดา้ นผิวตา่ งๆใชไ้ ดท้ ง้ั รา่ งกายไรส้ ารเคมีและยงั ใชไ้ ดด้ ีในทุกสภาพผิวและเพมิ่ ทางเลือกใหก้ บั ผูท้ ี่ตอ้ งการ สบสู่ มนุ ไพรการผลิตสบผู่ สมสมนุ ไพรจึงเป็นการสนบั สนุนการนาสารจากวัสดธุ รรมชาติทผ่ี ลิตไดเ้ องมาใช้ ประโยชน์อยา่ งคมุ้ คา่ ราคาถูกประหยดั และใชไ้ ดง้ า่ ยและยงั สามารถทาไปสรา้ งรายไดใ้ ชต้ วั เอง

กิตตกิ รรมประกาศ ในการทาโครงงาน เร่ืองสบูส่ มุนไพรอญั ชนั ขมิ้นจากกลีเซอรีนธรรมชาติในคร้งั น้สี าเร็จลลุ ว่ งได้ ดว้ ยความกรุณาชว่ ยเหลือ แนะนา ใหค้ าปรึกษา ตรวจสอบแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งตา่ ง ๆ ดว้ ยความเอาใจใสอ่ ยา่ ง ดยี งิ่ จาก คณุ ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ ครูผูส้ อนรายวิชาการศึกษาคน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู้ I30201 และคณะ ผูจ้ ดั ทาโครงงานไดร้ บั ความอนเุ คราะหจ์ ากบคุ คลภายนอก ไดแ้ ก พ่ อ่ และแมแ่ ละพน่ี อ้ งท่ีใหค้ าแนะนา ปรึกษาเกยี่ วกบั กลีเซอรีนธรรมชาติไดใ้ หค้ าแนะนาในเร่ืองของการทาสบู่วธิ กี ารทาสบอู่ ยา่ งถกู ตอ้ งและถูก วิธีตลอดจนอธิบายถึงการเตรียมอุปกรณ์ตา่ งๆทจ่ี าเป็นตอ้ งใชใ้ นการนามาทาสบแู่ ละสามารถนาไปลงมือ ปฏบิ ตั จิ ริงผูเ้ ขียนกราบขอบพระคณุ เป็นอยา่ งสงู ในการจดั ทาโครงงานชิ้นน้แี ละไดค้ าแนะนาปรึกษาในการทาโครงงานอยา่ งเป็นกนั เองรวมท้งั แนวคิดตลอดจนขอ้ บกพร่องตา่ งๆท่ตี อ้ งแกไ้ ข ทาใหค้ ณะผูจ้ ดั ทาสามารถแกไ้ ขปัญหาท่เี กดิ ข้ึนในการทา โครงงานชนิ้ น้ไี ด้ จนโครงงานเร่ืองน้เี สร็จสมบูรณ์ ขอขอบเพ่อื นในหอ้ งและญาตพิ น่ี อ้ งทกุ คนท่ีชว่ ยเหลอื สนบั สนุนทง้ั ดา้ นกาลงั ใจการใหค้ าปรึกษาตา่ งๆเกย่ี วกบั การทาสบูแ่ ละกาลงั ทรัพย์ดว้ ยดีตลอดมา นอกจากน้ี ยงั มผี ูท้ ี่ใหค้ วามร่วมมือชว่ ยเหลอื อีกหลายทา่ น ซ่งึ ผูเ้ ขยี นไมส่ ามารถกลา่ วนามในทน่ี ้ไี ดห้ มด จึงขอขอบคณุ ทุกทา่ นเหลา่ นน้ั ไว้ ณ โอกาสน้ดี ว้ ย คณะผูจ้ ดั ทา

สารบญั เรื่อง หนา้ บทคดั ยอ่ ก กติ ติกรรมประกาศ ข สารบญั ค-ง บทท่ี 1 1-2 ทมี่ าและความสาคญั 2 วตั ถุประสงค์ 2 สมมตฐิ านของการศึกษา 2 ขอบเขตการศกึ ษา 2 ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั บทท่ี 2 3 สบู่ 3-4 กลีเซอรีน 4 อญั ชนั 4-6 ขมนิ้ บทที่ 3 7-8 วธิ กี ารดาเนินการ บทที่ 4 9 ผลการดาเนนิ งาน บทท่ี 5 10 สรุปผล

ขอ้ เสนอแนะ 10 ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ ับ 10 บรรณานุกรม 11 ภาคผนวก 12-14

บทท่ี1 บทนา ทม่ี าและความสาคญั เนอ่ื งจากในปัจจบุ นั เกดิ ปัญหาหามลพษิ ฝ่นุ pm2.5รวมถงึ เช้อื โรค และสารปนเป้ือนตา่ ง ๆ ท่ีมองไม่ เหน็ อีกมากมาย ทาใหผ้ ูค้ นเริ่มหนั มาดูแลเรื่องผวิ พรรณเป็นจานวนมากทง้ั เด็กและผูใ้ หญโ่ ดยเฉพาะวยั รุ่น เพราะปัญหาเกดิ จากฝ่นุ ละอองในอากาศทาใหผ้ วิ หนงั เสีย ผิวหนงั อกั เสบและแสบผวิ มผี นื่ คนั ตามตวั ปวด แสบปวดรอ้ น มีอาการระคายเคอื ง เป็นลมพิษ ถา้ เป็นหนกั มากอาจเกดิ ลมพิษบริเวณใบหนา้ ขอ้ พบั ขาหนีบ ทารา้ ยเซลล์ผวิ หนงั ทาใหผ้ ิวออ่ นแอ เห่ียวยน่ ง่าย และบางคนเกดิ ปัญหาสวิ สวิ ทห่ี ลงั และสวิ ทก่ี น้ โดยเฉพาะ วยั รุน่ ท่ีมกั มีสวิ เกดิ ที่หลงั และหนา้ อกท่ีเกดิ จากการอบั ชน่ื ของเหงื่อและมลภาวะสบจู่ ากสมุนไพรท่ที ามาจาก อญั ชนั และขมนิ้ จงึ เป็นตวั เลอื กทใ่ี นการนามาขดั ผิวและบารุงผวิ พรรณใหส้ วยงาม สบสู่ มนุ ไพร คือ สบูจ่ ากกลเี ซอรีนธรรมชาติมสี ว่ นผสมทามาจากธรรมชาตทิ ง้ั ส้ินคือ ท้งั สมนุ ไพร ทง้ั สบู่ และทง้ั กลีเซอรีนไมม่ ีสารเคมปี นเป้ือนทาใหไ้ มม่ ีสารพิษตกคา้ งในร่างกายในระยะยาวและปลอดภยั สบูส่ มุนไพรทีเ่ นน้ คณุ ภาพจะใชน้ ้ามนั จากพชื เกรดพรีเมย่ี ม ซ่งึ จะมกี ลเี ซอรีนเตม็ ทกุ กอ้ น กลีเซอรีน ธรรมชาติเมื่อนามาผสมกบั สมุนไพรชนิดตา่ ง ๆเชน่ อญั ชนั ขมน้ิ จะไดส้ บสู่ มุนไพรท่ที ามาจากอญั ชนั และ ขมน้ิ ที่ใหค้ ณุ ประโยชนส์ งู ซ่งึ สามารถเลือกใชไ้ ดต้ ามความเหมาะสมกบั ผวิ สบสู่ มุนไพรจากกลเี ซอรีน นอกจากจะทาความสะอาดผวิ ไดด้ ีแลว้ ยงั สามารถบารุงผิวไดด้ อี ีกดว้ ย เมื่อกลา่ วถงึ อญั ชนั โดยทวั่ ไปมกั นึก ถงึ ดอกสนี ้าเงิน ซ่งึ เป็นที่นยิ มนามาใชป้ ระโยชนท์ างเคร่ืองสาอางดอกอญั ชนั ชว่ ยในการชะลอริ้วรอย และ ดแู ลผิวพรรณใหเ้ ตง่ ตึง กระชบั บารุงผมใหเ้ งางาม ดกดา มกั เป็นสว่ นประกอบของยาสระผม หรือครีมบารุง ผม โบราณใชอ้ ญั ชนั ในการปลูกผมและควิ้ เดก็ ออ่ น หยุดการรว่ งของหนงั ศรี ษะออ่ นแอ ยอ้ มผมหงอกให้ เป็นสีดา และเมื่อกลา่ วถงึ ขม้นิ ขม้นิ อุดมไปดว้ ยวติ ามินและแร่ธาตหุ ลายชนิด เชน่ วติ ามินเอ วิตามนิ บี 1 วิตามนิ บี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามนิ อีและขมน้ิ มีกลิ่นหอมเฉพาะตวั ชว่ ยเสริมสรา้ งภูมิคมุ้ กนั ใหผ้ วิ หนงั มสี ุขภาพดีแขง็ แรง ขมนิ้ มีสารตอ่ ตา้ นอนุมลู อสิ ระซ่งึ ชว่ ยในการชะลอวยั และชะลอการเกดิ ริ้วรอย ชว่ ยแก ้ ผื่นคนั ตามร่างกาย ชว่ ยรักษาโรคผวิ หนงั ผดผ่นื คนั ชว่ ยรักษากลาก เกลอื้ น ขมิน้ ชนั ขดั ผวิ ใชท้ าทรีตเมนต์ พอกผิวขดั ผวิ ดว้ ยขม้ิน ชว่ ยใหผ้ วิ พรรณนมุ่ นวล ขาวผอ่ งใส เตง่ ตงึ และขมน้ิ ยงั เป็นสว่ นประกอบของทรีต เมน้ ตร์ กั ษาสิวเส้ยี น สิวผด สิวอดุ ตนั

ดงั น้นั ทางคณะผูจ้ ดั ทาจงึ เหน็ วา่ ดอกอญั ชนั และขมิน้ เป็นสมนุ ไพรท่มี ีสพรรณคณุ ทด่ี ีหลากหลายที่ เกย่ี วกบั การขดั ผิวและมผี ลชว่ ยใหผ้ วิ พรรณทด่ี ขี ้ึนปลอดภยั ตอ่ ผิวหาไดจ้ ากธรรมชาตหิ าไดง้ า่ ยมรี าคาทถ่ี ูก คณะผูจ้ ดั ทาจึงนามาทาสบขู่ ดั ผิว เพ่ือใหค้ นที่มีปัญหาดา้ นผิวพรรณมลภาวะสิวทห่ี ลงั และหนา้ อกไดใ้ ช้ วตั ถุประสงค์ 1.เพอื่ ศึกษาขน้ั ตอนการทาสบจู่ ากดอกอญั ชนั และขมน้ิ 2.เพื่อทดลองคณุ ภาพของสบู่ 3.เพ่ือใหร้ ู้สพรรณคณุ ของอญั ชนั และขมิ้น 4.เพือ่ ใชว้ สั ดุธรรมชาตใิ หเ้ กดิ ประโยชน์ 5.ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ สมมตฐิ านของการศกึ ษา 1.สบูท่ ีม่ สี ว่ นผสมของอญั ชนั และขม้ินจะมีกลิม่ หอม 2.สบทู่ ม่ี ีสว่ นผสมของอญั ชนั และขม้นิ ทาใหผ้ วิ เรียบเนยี นและชว่ ยเรื่องสวิ มากกวา่ สบทู่ ว่ั ไป ขอบเขตการศึกษา ระยะเวลาในการศกึ ษา 10 กรกฎาคม 2564 ถึง 20กรกฎาคม 2564 กลมุ่ ตวั อยา่ ง คณะผูจ้ ดั ทา ผลท่คี าดว่าจะได้รบั 1.ไดเ้ รียนรู้และศึกษาการทาสบสู่ มนุ ไพร 2.ไดใ้ หผ้ ูท้ ี่มปี ัญหาเกยี่ วกบั ผิวไดใ้ ชส้ บทู่ ่ที ามาจากธรรมชาติ 3.ไดส้ บูส่ มนุ ไพรทที่ ามาจากดอกอญั ชนั และขมน้ิ

บทท่2ี เอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ ง เอกสารเกยี่ วกบั โครงงานโครงงานคอมพวิ เตอร์ สบจู่ ากดอกอญั ชนั และขมิ้น สบู่ ในทางเคมี สบคู่ ือเกลอื ของกรดไขมนั สบใู่ นบา้ นเรือนใชช้ ะลา้ ง อาบ และใชใ้ นการทาความสะอาด บา้ น โดยสบทู่ าหนา้ ท่เี ป็นสารลดแรงตงึ ผวิ และน้ามนั อมิ ลั ซไิ ฟเออร์เพื่อใหส้ บไู่ หลไปกบั น้าได้ ใน อุตสาหกรรม สบูย่ งั ใชก้ บั การป่ันผา้ และเป็นสว่ นประกอบสาคญั ของสารหลอ่ ลืน่ บางชนิด สบสู่ าหรับการ ชะลา้ งไดม้ าจากน้ามนั พชื หรือสตั ว์ และไขมนั ท่มี คี า่ เบสสูง เชน่ โซดาไฟหรือโพแทสเซยี มไฮดรอกไซด์ใน สารละลายในน้า ไขมนั และน้ามนั เป็นสว่ นประกอบของไตรกลเี ซอไรด์ กลา่ วคือ โมเลกลุ ของกรดไขมนั สามโมเลกลุ ติดกบั โมเลกลุ ของกลีเซอรอลหน่งึ โมเลกลุ สารประกอบอลั คาไลน์ท่ีมกั ถกู เรียกวา่ ไล (lye) ชกั นาใหเ้ กดิ กระบวนการการเปลี่ยนเป็นสบู่(saponification) ในปฏิกริ ิยาน้ี ไขมนั ไตรกลีเซอไรด์จะสลายดว้ ย น้า (hydrolyze) กลายเป็นกรดไขมนั อสิ ระ และกรดไขมนั อสิ ระจะรวมกบั อลั คาไลจนเกดิ เป็นสบหู่ ยาบ หรือ สว่ นผสมของเกลือสบู่ ไขมนั หรืออลั คาไลที่เกนิ มา น้า และกลีเซอรอลอสิ ระ(กลีเซอรีน) ผลพลอยไดค้ อื กลี เซอรีนสามารถคงอยใู่ นรูปผลิตภณั ฑส์ บู่ ทาหนา้ ท่ีเป็นสารทีท่ าใหอ้ อ่ นโยน หรือถูกแยกออกเพอื่ นาไปใช้ ประโยชนอ์ ยา่ งอื่น โดยคาวา่ \"สบ\"ู่ ในภาษาไทย เพ้ยี นมาจากคาวา่ \"sabão\" ในภาษาโปรตเุ กส ทง้ั น้ีเชอ่ื วา่ สบู่ เขา้ มาในประเทศไทยในสมยั อยธุ ยา พร้อมกบั ชาวโปรตุเกสท่ีเขา้ มาคา้ ขาย,รับราชการ และพานกั อยใู่ น ประเทศไทยในเวลาน้นั กลเี ซอรนี กลเี ซอรีนเป็นของเหลวท่ีไมม่ ีสี ไมม่ กี ลิ่น มีความหนืด และ มีรสหวาน โดยปกตมิ าจากน้ามนั ของ พชื ซ่ึงโดยทวั่ ไป คอื น้ามนั มะพรา้ ว และน้ามนั ปาลม์ กลีเซอรีนสามารถละลายไดด้ ีในแอลกอฮอล์และน้า แตไ่ มล่ ะลายในไขมนั เนอื่ งจากกลีเซอรีนมีคณุ สมบตั ทิ างเคมีทห่ี ลากหลายจงึ สามารถนาไปใชเ้ ป็นสารต้งั ตน้ ในการสงั เคราะห์สารเคมีอ่ืนๆได้ ดว้ ยคณุ สมบตั ทิ ส่ี ามารถละลายในแอลกอฮอล์และน้าไดน้ ีจ่ ึงนาไปใช้ ประโยชน์อยา่ งกวา้ งขวาง ซ่งึ กลเี ซอรีนบริสุทธ์ิ สามารถนาไปประยุกตใ์ ชไ้ ดใ้ นหลายรูปแบบเชน่ ใชเ้ ป็น สว่ นผสมหรือ เป็นตวั ชว่ ยในกระบวนการผลติ เคร่ืองสาอาง ผลติ ภณั ฑใ์ นหอ้ งน้าและสุขอนามยั สว่ นบคุ คล อาหาร ยาสฟี ัน ยาสระผม และนยิ มใชม้ ากในอตุ สาหกรรมสบู่ เพราะกลเี ซอรีนเป็นสว่ นชว่ ยหลอ่ ลื่นเหมอื น มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ เพอื่ ปกป้องผวิ ไมใ่ หแ้ หง้ และดดู ซบั ความชืน้ เมอ่ื สมั ผสั กบั อากาศซ่งึ จะทาใหร้ ู้สกึ วา่ ผวิ มี ความชมุ่ ชนื้ ออ่ นโยนตอ่ ผิว ขจดั ความสกปรกท่ีฝังแนน่ ไมท่ าใหอ้ ดุ ตนั รูขุมขน รวมท้งั ปลอดภยั ตอ่ ผิวหนงั การทกี่ ลเี ซอรีนเป็นสารทไี่ มม่ ีพิษ ในทุกๆ รูปแบบของการประยุกตใ์ ช้ไมว่ า่ จะใชเ้ ป็นสารต้งั ตน้ หรือ

สารเตมิ แตง่ ทาใหก้ ลีเซอรีนไดร้ บั ความสนใจและ นาไปใชป้ ระโยชนท์ างการแพทย์ดว้ ยการทายาเหนบ็ ทวาร ใชเ้ ป็นยาระบาย และยงั สามารถใชเ้ ป็นยาเฉพาะท่ีสาหรบั ปัญหาทางผวิ หนงั หลายชนดิ รวมถงึ โรง ผิวหนงั ผืน่ แผลไฟลวก แผลกดทบั และบาดแผลจากของมีคม กลเี ซอรีนถกู ใชเ้ พือ่ รกั ษาโรคเหงือกไดด้ ว้ ย เนื่องจากกลเี ซอรีนสามารถฆ่าเช้อื แบคทเี รียท่เี กย่ี วขอ้ งได้ ชว่ ยบรรเทาผวิ เบิรน์ จากการฟอกไตหรือการใหค้ ี โมของผูป้ ่วยมะเร็ง เพราะผิวจะแหง้ มากๆ กลีโชลดิ จึงชว่ ยเบาเทาผวิ เบริ ์นหรือผิวแหง้ มากไดเ้ ป็นอยา่ งดี อญั ชนั อญั ชนั (Butterfly Pea) เป็นพชื ท่ีมถี ิน่ กาเนิดอยูใ่ นแถบทวปี อเมริกาใต้นยิ มปลกู กนั ทวั่ ไปใน ประเทศเขตรอ้ นดอกอญั ชนั มลี กั ษณะกลมคลา้ ยหอยเชลล์กลีบดอกสฟี ้า น้าเงินและมว่ งเขม้ สว่ นกลางดอก มีกลบี และแตม้ สีขาวเหลอื ง ดอกอญั ชันมสี รรพคณุ ทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั คอื ภายในดอกจะประกอบไป ดว้ ยสารท่ีช่อื วา่ แอนโทไซยานนิ (Anthocyanin) ซ่งึ สารชนดิ น้มี ีสว่ นชว่ ยในการกระตนุ้ การไหลเวยี นของ โลหิต ทาใหร้ า่ งกายสามารถนาเลอื ดไปเล้ียงสว่ นตา่ งๆ ไดด้ ีข้ึน ทาใหช้ ว่ ยกระตนุ้ รากผมใหผ้ มแข็งแรง ยาว เร็วและดกดา กระตุน้ เลือดบริเวณปลายนวิ้ มอื ชว่ ยลดอาการชา นอกจากน้ยี งั มสี ว่ นชว่ ยบารุงประสาทและ สมองอีกดว้ ยเมอื่ นามารับประทาน ประเภทของดอกอญั ชนั มี3สคี ือ สมี ว่ ง สีขาว สีน้าเงิน ขมิ้น ขม้ิน\" ถือวา่ เป็นสมุนไพรทีอ่ ยูต่ ิดบา้ นและครวั เรือนไทยมานานต้งั แตส่ มยั โบราณ นอกจากจะ นามาใชป้ รุงอาหารแลว้ ขมิ้นยงั มปี ระโยชน์ตอ่ สขุ ภาพ มีสรรพคณุ เป็นยารกั ษาโรคได้เพราะอดุ มไปดว้ ย วิตามนิ และแรธ่ าตหุ ลายชนิด เชน่ วิตามนิ เอ วติ ามินบี 1 วติ ามนิ บี 2 วิตามนิ บี 3 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุ แคลเซยี มธาตุฟอสฟอรัส ธาตเุ หล็ก และเกลือแร่ตา่ งๆ รวมไปถงึ เสน้ ใย คาร์ โบไฮเดรตและโปรตนี เป็น ตน้ นอกจากน้ยี งั ชว่ ยบารุงผวิ ใหก้ ระจา่ งใส ผลดั เซลลเ์ กา่ ออกอยา่ งออ่ นโยนลดการอกั เสบของสิวและ รักษาปัญหาโรคผิวหนงั ตา่ งๆ ไดด้ ว้ ย ประเภทของขมิน้ ขมิ้นชนั เป็นพืชที่มเี หงา้ อยใู่ ตด้ ิน เนือ้ ของเหงา้ มีสีเหลืองเขม้ ไปจนถงึ สีแสด เอกลกั ษณ์ทเ่ี ด่นชดั คอื รสชาติ ท่จี ดั จา้ น สีสนั มีความสวยงาม อกี ทง้ั ยงั ไดม้ ีการนาเอาสมนุ ไพรมาประยกุ ต์ผสมผสานลงไปในอาหารไทย ทาใหไ้ ดร้ สชาติทีด่ แู ตกตา่ งแตล่ งตวั เมื่อพูดถงึ เรื่อง สมนุ ไพร ทค่ี นไทยนยิ มนามาทาอาหาร เราคงจะพลาดที่ จะเอย่ ถึง ขมิน้ ชนั ไมไ่ ด้เพราะวา่ เป็นอีกหน่ึงวตั ถุดบิ ที่ทาใหอ้ าหารมีสีสนั สะดุดตา ตลอดจนมีสรรพคณุ ทาง ยาทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ รา่ งกายเพ่ิมพูนเป็นลาดบั ถดั มาจากความอรอ่ ย ตอนน้เี ราจะมาทาความรูจ้ กั กบั

สมุนไพรชนดิ กนั ใหม้ ากข้นึ เพราะเหตุใดจงึ เป็นที่นิยม และประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากสมนุ ไพรชนดิ น้ีมีอะไรบา้ ง หากพร้อมแลว้ มาเร่ิมเรียนรู้ไปพรอ้ มๆ กนั สรรพคุณ ชว่ ยใหผ้ วิ พรรณนมุ่ นวล ขาวผอ่ งใส แลดูเนียนข้ึน ชว่ ยรักษาสิวเส้ยี น สวิ อดุ ตนั และสิวผด ชว่ ยกระชบั รูขมุ ขนใหเ้ ลก็ ลง มสี ารตา้ นอนุมูลอิสระ ลดการเกดิ ริ้วรอยกอ่ นวยั ชว่ ยสมานแผลตามร่างกายใหห้ ายเร็วยง่ิ ข้ึน ดว้ ยการนาผงขมนิ้ มาผสมกบั น้าแลว้ ทาลงบน บาดแผล มฤี ทธ์ใิ นการตอ่ ตา้ นและฆา่ เชอ้ื ราท่เี ป็นสาเหตุของโรคผวิ หนงั ขม้ินออ้ ย ขมิ้นออ้ ยเป็นพืชท่มี ถี นิ่ กาเนิดในทวปี เอเชียอกี ชนิดหน่ึง โดยเช่ือกนั วา่ ขมิน้ ออ้ ยมีถิ่นกาเนิดในแถบเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใตโ้ ดยเฉพาะประเทศตา่ งๆในแถบคาบสมุทรอินโดจีน เชน่ ไทย พมา่ ลาว กมั พชู า มาเล เชยี และอินโดนีเซยี เป็นตน้ ตอ่ มาไดม้ ีการแพรก่ ระจายพนั ธ์ุไปยงั อนิ เดยี ,เวียดนาม,จนี และไตห้ วนั สาหรับในประเทศไทยขมิน้ ออ้ ยเป็นที่รูจ้ กั ดีต้งั แตใ่ นอดตี แลว้ เพราะไดม้ ีการนามาใชป้ ระโยชนท์ างดา้ น สมุนไพรและดา้ นอาหารจนกระทงั่ ถงึ ปัจจบุ นั สรรพคุณ 1. แกไ้ ขค้ รั่นเน้อื ครนั่ ตวั 2. แกเ้สมหะ 3. แกอ้ าเจียน 4. แกห้ นองใน 5. สมานลาไส้ 6. ขบั ลม ขบั ปัสสาวะ 7. แกท้ อ้ งเสีย 8. ใชเ้ ป็นยาแกป้ วดทอ้ งแกร้ ิดสดี วงทวาร

9. แกห้ ดั หลบใน 10. แกฟ้ กช้าบวม แกเ้คล็ดอกั เสบ 11. ใชร้ ักษาแผล,ฝี 12. แกพ้ ิษโลหติ 13. บรรเทาอาการปวด 14. รักษาอาการเลอื ดคงั่ 15. เลือดลมไหลเวียนไมส่ ะดวก 16. รักษาระดูมาไมป่ กติ 17. แกร้ ะดูขาว 18. ขบั ประจาเดือน 19. เป็นยากนั เลบ็ ถอดชว่ ยบารุงผวิ 20. ชว่ ยกระจายโลหิต 21. ชว่ ยแกโ้ ลหิตเป็นพิษ แกพ้ ษิ โลหติ 22. ใชข้ บั น้าคาวปลาหลงั คลอดบตุ ร 23. ชว่ ยแกอ้ าการหืดหอบหายใจไมเ่ ป็นปกติ

บทท่ี 3 วธิ ีการดาเนนิ การ อุปกรณ์ 1.แมพ่ ิมพท์ าสบู่ 2.กลเี ซอรีนหรือ เกล็ดสบู่ 3.น้ามนั หอมระเหย 4.แอลกอฮล์ 5.ขวดสเปรย์ 6.หมอ้ สองช้นั 7.สีจากธรรมชาติ คอื สีจากดอกอญั ชนั และผงขม้นิ ข้นั ตอนการทา 1. ออกแบบสบแู่ ละวางแผนการทาสบใู่ นรูปแบบตา่ งๆและวางแผนรูปทรง 2. จดั หาอุปกรณ์และวถั ดุ ิบในการทาสบจู่ ากดอกอญั ชนั และขมน้ิ 3. เร่ิมจากการละลายกลีเซอรีนในหมอ้ สองช้นั เป็นจดุ ทส่ี าคญั ในวธิ ที าสบกู่ อ้ น ใหต้ ม้ น้าใหเ้ ดือดใน หมอ้ ใบแรก ตดั ชนิ้ สว่ นกลเี ซอรีนหรือเกลด็ สบูใ่ สใ่ นหมอ้ เล็กอกี ใบ และนาไปละลายโดยที่ใหห้ มอ้ ใบเล็กลอยอยใู่ นน้าเดือดหรือสามารถใชล้ ะลายในไมโครเวฟ

4. เมอื่ สารละลายกลีเซอรีนละลายแลว้ ใหเ้ ตมิ กล่ินวนลิ าและสจี ากธรรมชาตทิ เ่ี ตรียมไว้คอื สีจาก อญั ชนั เเละผงขมิน้ ไปเพยี ง 2 – 3 หยด เเละคนใหล้ ะลายเป็นเน้อื เดยี วกนั ผสมตอนทยี่ งั ตง้ั อยใู่ นน้า รอ้ นเพ่อื คงความหอมและสที ี่ไมเ่ พ้ยี น 5. จากใหเ้ ทลงในแมพ่ มิ พ์ทาสบู่ โดยตอ้ งนาขวดสเปรย์ใสแ่ อลกอฮอลเ์ ช็ดแผล มาฉีดใหท้ วั่ แมพ่ ิมพ์ เพื่อป้องกนั ไมใ่ หเ้ กดิ ฟองอากาศทีอ่ าจเกดิ ข้ึนในสบู่ และไมค่ วรเทลงในเเมพ่ ิมพไ์ วเกนิ ไปอาจทา ใหร้ ูปรา่ งสบอู่ อกมาไมส่ วยได้ 6. รอใหส้ บใู่ นแมพ่ ิมพเ์ ซตตวั ประมาณ 2 – 3 ชว่ั โมง จากน้นั ใหแ้ กะสบอู่ อกมาจากแมพ่ มิ พ์ หากแกะ สบไู่ มอ่ อกใหต้ บดา้ นหลงั แมพ่ มิ พ์เบา ๆ เมือ่ ทาเสร็จแลว้ ควรเกบ็ ไวใ้ นที่ที่ลมเขา้ ไมถ่ งึ

บทท่ี4 ผลการดาเนนิ งาน จากการศกึ ษาการทาสบูอ่ ญั ชนั ขมน้ิ ในคร้ังน้ีผลปรากฎวา่ สบูท่ ่ีทามาจากขมน้ิ และอญั ชนั สามารถทา ความสะอาดผวิ กายและสว่ นตา่ งๆของร่างกายไดอ้ ยา่ งสะอาดและไมเ่ กดิ อาการแพแ้ ละมีคา่ phตรงตาม มาตรฐานสบคู่ อื มีคา่ เทา่ กบั 8เป็นเบสชว่ ยใหผ้ วิ ดูดีข้นึ ไมท่ าใหผ้ ิวเกดิ อาการแหง้ ไมเ่ กดิ อาการแสบผิวใชไ้ ด้ ท้งั เดก็ และผูใ้ หญ่ ข้นั ตอนการดาเนินงาน ระยะเวลาในการทางาน ศึกษาหาขอ้ มูล 15 - 18 กรกฎาคม 2564 18 - 21 กรกฎาคม 2564 เร่ิมเขยี นเคา้ โครงของโครงงาน 30 กรกฎาคม – 2 สงิ หาคม 2564 วางแผนการดาเนนิ งาน ดาเนนิ การ 18 - 19 กนั ยายน 2564 ตรวจสอบชน้ิ งาน 22 – 23 กนั ยายน 2564

บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงาน และข้อเสนอแนะ สรปุ ผล กลีเซอรีนธรรมชาติทีน่ ามาละลายสามารสนามาผสมกบั น้าอญั ชนั และผงขมิ้นได้ เพอื่ ใหไ้ ดส้ บขู่ จดั ขามสกปรก และยงั สามมารถบารุงผวิ กาย ผวิ หนา้ และในสว่ นของสบนู่ ้นั ยงั มสี รรพคณุ มากมายและยงั เป็ น ความตอ้ งการของ ผูใ้ ช้ โดยที่ปราศจากสารเคมีตา่ งๆ ทีเ่ ป็นอนั ตรายนอ้ ยตอ่ รา่ งกายในระยะยาว ผิวหนงั ของ คนเราตา่ งกนั เราจงึ เลอื กใชส้ บทู่ ตี่ า่ งชนิดกนั จึงมสี บหู่ ลากหลายใหค้ ณุ ไดเ้ ลือกใชบ้ างคนกช็ อบใชส้ บอู่ ญั ชนั หรือสบจู่ ากผงขมิ้น ดงั น้นั เราจงึ สามารถทาเองไดโ้ ดยใชก้ ลเี ซอรีนจากธรรมชาตนิ ้ี อญั ชนั และผงขมนิ้ ตาม บา้ นเรือนของตอนเองมาทา และสง่ เสริมการหารายไดใ้ หค้ รอบครัว หรือจะทาเป็นธรุ กจิ ของตนเองได้ และ จะเป็นสนิ คา้ ของชมุ ทอ้ งถิน่ ท่มี รี าคาไมแ่ พง และยงั ใหป้ ระโยชนต์ อ่ ร่างกาย ผิวพรรณทส่ี วยงาม ข้อเสนอแนะ สบทู่ แ่ี กะออกจากพมิ พแ์ ลว้ ไมค่ วรปลอ่ ยใหโ้ ดยลมเพราะจะทาใหส้ บมู่ ีฟองนอ้ ยลงจึงควรรีบหอ่ บรรจุภณั ฑท์ นั ที ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ 1.ไดท้ าสบสู่ มนุ ไพรอญั ชนั และะขม้ินมาจากกลีเซอรีนธรรมชาติ 2.ไดร้ ูถ้ งึ วธิ ีการทาสบอู่ ยา่ งถกู ตอ้ งโดยละเอียด 3.ไดล้ งมือคน้ ควา้ หาขอ้ มลู และปฏิบตั จิ ริง 4.ไดร้ บั ความรูแ้ ละประสบการณ์จากการทาสบู 5.ไดส้ บทู่ ี่ทาจากสมุนไพรซ่งึ ปราศจากสารตกคา้ ง และสามารถนามาใชเ้ องได้ 6.ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์

บรรณานุกรม Jurairat N.//(23 ก.ค. 61 ).//10 ประโยชนด์ ๆี จาก “ดอกอญั ชนั ” ลดน้าตาลในเลือด-ตา้ นมะเร็ง.// [ออนไลน์].สืบค้นจาก https://www.sanook.com/health/4085/(วนั ทส่ี ืบคน้ : 16 กรกฎาคม 2564) เมดไทย .//( 3 กรกฎาคม 2013 ).//อญั ชนั สรรพคุณและประโยชนข์ องดอกอญั ชนั 30 ขอ้ !.// [ออนไลน]์ .สืบค้นจาก https://medthai.com// (วนั ท่สี ืบคน้ : 16 กรกฎาคม 2564) เกษตรรอบรู้.//(10 พ.ย. 2563 ).// สรรพคุณและประโยชนข์ องขมิ้น .//[ออนไลน]์ .สืบค้นจาก https://www.opsmoac.go.th/surin-local_wisdom-preview-422891791843 // (วนั ที่สืบค้น: 16 กรกฎาคม 2564) eyebanthita .//( March 30, 2021 ).//วิธีทาสบกู่ อ้ น DIY สบสู่ มุนไพร.//[ออนไลน]์ .สืบค้นจาก https://shopee.co.th/blog/how-make-own-soap/ // (วนั ทีส่ ืบคน้ : 16 กรกฎาคม 2564)

ภาคผนวก




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook