ก คู่มอื ดำเนนิ การขับเคล่อื นศูนยก์ ารเรยี นรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดา้ นการศกึ ษา (ศรร.) กลุ่มนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษาชลบรุ ี ระยอง
ข คำนำ “เศรษฐกจิ พอเพียง”เป็นปรัชญาทีช่ ีน้ ำแนวการดำรงอยแู่ ละปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในทุก ระดับ ตั้งแตร่ ะดับครอบครวั ระดับชุมชน จนถึงระดับภาครฐั ท้งั ในการพฒั นาและบรหิ ารประเทศ ใหด้ ำาเนนิ ไป ในทางสายกลางโดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกจิ เพื่อใหก้ ้าวทนั ต่อโลกยุคโลกาภวิ ตั น์ ความพอเพียง หมายถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล รวมถึงความจำเป็นทจ่ี ะต้องมีระบบ ภมู ิคุม้ กันในตัวท่ีดี พอสมควรตอ่ การมี ผลกระทบใดๆ อันเกดิ จากการเปล่ยี นแปลงท้ังภายนอกและ ภายใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเข้าพระ ราชหฤทัยในความเปน็ ไปของเมืองไทยและคนไทย อย่างลกึ ซ้ึงและกว้างไกล ไดท้ รงวางรากฐานในการพฒั นา ชนบทและชว่ ยเหลอื ประชาชนให้สามารถ พ่ึงตนเองได้มคี วาม \"พออยูพ่ อกนิ \" และมีความอสิ ระที่จะอยู่ไดโ้ ดย ไม่ต้องติดยึดอยู่กับเทคโนโลยีและ ความเปล่ยี นแปลงของกระแสโลกาภวิ ัฒน์ สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา มธั ยมศึกษา ชลบรุ ี ระยอง ได้จัดทำยุทธศาสตรข์ บั เคล่อื นหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสสู่ ถานศึกษาโดยกำหนดให้ สถานศกึ ษานำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกตใ์ ชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน การจัดกจิ กรรม การพฒั นาผู้เรยี น และการ บรหิ ารจัดการสถานศึกษา เพ่ือใหเ้ กดิ ผลในการปฏิบัตใิ น ทุกระดับได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลเกิดการปรับเปล่ยี นกระบวนทัศน์ในการดำเนินชวี ติ บน พื้นฐานของหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง อยา่ งตอ่ เน่ือง ผู้จัดทำหวงั ว่าคมู่ อื ดำเนินการขับเคลอื่ นศูนย์การเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งดา้ นการศึกษา(ศรร.) เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผบู้ ริหารสถานศึกษา และครูที่จะ นำไปใชป้ ระเมินสถานศึกษา พอเพียงเพอื่ เป็นศนู ยก์ ารเรียนร้ตู ามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้าน การศกึ ษา (ศรร.) อกี ทั้งเปน็ คู่มอื สำหรบั สถานศกึ ษานำไปใช้ในการพัฒนาการจัดกระบวนการเรยี น การสอนและการบริหารจดั การตามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพและ ยงั่ ยนื สืบไป นายณรงค์ศักดิ์ สาลี ศกึ ษานิเทศก์
สารบัญ ค สว่ นที่ 1 หน้า ความ- เวปตั น็ ถมปุ าระสงค์ 1 2 - ความสำคญั 2 สว่ นท่ี 2 5 เกณ-ฑวก์ ธิ าีกราปรรปะรเมะเินมนิ 5 10 - แผนภาพสรปุ การประเมนิ 11 ส่วนที่ 3 14 16 -ปฏกทิ านิรถกอารดปบรทะเเรมยี นิ น 17 - วเิ คระห์คำสำคัญ - ตวั อย่างคำถาม 19 ภาคผนวก 21 32 แบบประเมินตนเอง เกณฑก์ ารประเมนิ ตวั อยา่ งการประเมิน
1 ความเป็นมา สว่ นที่ 1 ศูนย์ การเรยี นรู้ฯ สถานศึกษาพอเพียง ต้นแบบ สถานศึกษาพอเพียง สถานศึกษาทัว่ ไป สถานศกึ ษาทว่ั ไป : สถานศกึ ษาทีเ่ ร่ิมน้อมนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ในการจดั การ สถานศึกษา ตั้งแต่การบริหารสถานศกึ ษา การสรา้ งวฒั นธรรมองค์กร การจดั สภาพแวดลอ้ ม และการ จัดการเรยี นรู้ ผ่านหลักสตู รการเรียนการสอนและกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น สถานศึกษาพอเพียง : สถานศึกษาทั่วไปทผ่ี า่ นการประเมนิ สถานศกึ ษาพอเพียงซ่งึ เป็นแบบอยา่ งใน การจดั กระบวนการเรียนการสอน และการบรหิ ารจัดการสถานศึกษาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ตามเกณฑป์ ระเมินสถานศกึ ษาพอเพียงของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ศธ.) สถานศึกษาพอเพยี งต้นแบบ : สถานศึกษาพอเพียงทเ่ี ป็นแหล่งการเรียนรูท้ ม่ี ีคุณภาพ พรอ้ มเปน็ แหลง่ ศกึ ษาดงู านของสถานศึกษาอน่ื ๆ ในการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาจดั การ สถานศึกษา ศนู ยก์ ารเรยี นร้ตู ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงดา้ นการศกึ ษา : สถานศกึ ษาพอเพียง ตน้ แบบทมี่ ีศกั ยภาพในการเป็นแหลง่ เรยี นรู้และพี่เลย้ี งให้แกส่ ถานศึกษาทวั่ ไปทตี่ ้องการพฒั นาสคู่ วาม เป็นสถานศกึ ษาพอเพยี ง วัตถุประสงค์ 1. เปน็ แหล่งเรียนรู้ศกึ ษาดงู านและเปน็ เครอื ขา่ ยขยายผลการขับเคลื่อน หลกั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง แกส่ ถานศกึ ษาทั่วไปได้อยา่ งท่ัวถึง
2 ความสำคญั กระทรวงศึกษาธิการเปน็ หน่วยงานหลกั ที่รับผดิ ชอบการจดั การดา้ นศึกษา เพ่อื พัฒนา เยาวชนและประชาชนคนไทยใหม้ ีความสมดุลท้งั ด้านรา่ งกาย ความรู้ คณุ ธรรม มจี ิตสำนึกในความ เป็นพลเมืองเมืองไทยและพลเมอื งโลก จากวกิ ฤตปญั หาของชาตทิ างดา้ นเศรษฐกิจและสังคมในอดตี ท่ี ผา่ นมา รัฐบาลได้นอ้ มนำหลักปรัชญาพระราชทาน “เศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อย่หู วั มาประยุกต์ใชใ้ นการบริหารจัดการพัฒนาประเทศ โดยกำหนดในรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 76 และมาตรา 83 (1) และกำหนดเปน็ กลยุทธ์ใน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 9, 10 และอยูใ่ นยกรา่ งฉบับท่ี 11 ด้วย ซ่งึ กระทรวงศกึ ษาธิการได้กำหนดนโยบายในการขบั เคล่ือนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสสู่ ถานศกึ ษา เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เปน็ ตน้ มา โดยมีขอบขา่ ยการขับเคล่อื นส่สู ถานศึกษา 4 ด้าน คือ 1. ดา้ นการบริหารจัดการ 2. ดา้ นหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน 3. ดา้ นการจดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 4. ด้านพฒั นาบุคลากรของสถานศกึ ษา โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐานพุทธศกั ราช 2551 ไดก้ ำหนด คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ข้อที่ 5 ในจำนวน 8 ขอ้ คือ “อยู่อยา่ งพอเพียง” สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐานเป็นหน่วยงานในสังกดั กระทรวงศึกษาธิการ ท่รี ับผิดชอบในการจัดการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน มสี ถานศึกษาในสงั กัดกระจายทัว่ ประเทศ ตระหนกั เห็น ความสำคัญอยา่ งยิ่งในการพัฒนาผูเ้ รยี นให้เกิดกระบวนการคดิ ปลกู ฝังการดำเนินชวี ติ ตามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จึงได้กำหนดเป็นจุดเน้นที่สำคญั โดยกำหนดในกลยทุ ธท์ ี่ 2 ปลกู ฝัง คณุ ธรรม ความสำนึกในความเป็นชาตไิ ทย และวิถีชวี ิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือ เปน็ กรอบแนวทางให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสงั กัดใชเ้ ปน็ แนวทางในการขบั เคลื่อนสสู่ ถานศกึ ษา ซ่ึงมรี ะบบการกำกบั ตดิ ตามการดำเนินงานระบชุ ดั เจนในคำรบั รองการปฏิบตั ริ าชการ อีกทัง้ นวัตกรรม การจัดการศกึ ษา แนวทางการจดั การเรยี นรู้ โรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School) ไดก้ ำหนดในสาระการเรียนรู้สคู่ วามเป็นโรงเรยี นมาตรฐานสากล สาระการเรียนรโู้ ลกศึกษา (Global Education) คือ เรียนร้ถู ิ่นฐาน สืบสานวิถีไทย มองไกลศึกษาโลก สืบโชคชะตามนุษย์ ซง่ึ ลว้ นแล้วแต่เป็นการประยุกต์หลักคดิ จากปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในการพัฒนาผู้เรยี นทั้งส้ิน ท่ีสำคญั อีกประการหนง่ึ คือ นโยบายในการปฏริ ูปการศึกษารอบท่ี 2 (พ.ศ. 2552 – 2561) การปฏิรูป การศกึ ษาในทศวรรษท่ี 2 (พ.ศ. 2552 – 2561) เปน็ การปฏริ ปู ใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย พัฒนา คณุ ภาพคนไทยยคุ ใหม่ พัฒนาคุณภาพครยู ุคใหม่ พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหลง่ เรียนร้ยู คุ ใหม่ และพฒั นาคณุ ภาพการบริหารจัดการใหม่
3 จากการดำเนินการที่ผา่ นมากระทรวงศึกษาธิการไดจ้ ัดทำเครอื่ งมือประเมิน สถานศกึ ษาแบบอยา่ ง การจัดกระบวนการเรยี นการสอนและการบรหิ ารจัดการตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง เพอ่ื เป็นแบบอย่างในการขยายเครือขา่ ยการขบั เคล่ือนหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสสู่ ถานศึกษาอ่นื โดยความรว่ มมือของโครงการวิจัยเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานทรัพย์สนิ สว่ นพระมหากษตั รยิ ์ และมูลนิธิสยามกัมมาจล ทำให้มโี รงเรยี นทผี่ า่ นการประเมนิ สถานศึกษา แบบอยา่ งในปี 2550 จำนวน 135 โรง และปี 2552 จำนวน 1,126 โรง ซึ่งในจำนวนนเ้ี ปน็ โรงเรียนใน สังกดั สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน จำนวน 999 โรงเรยี น ในปี 2554 เปน็ ปีมหามงคล เพ่ือเปน็ การเฉลิมฉลองการเทิดพระเกียรติเนื่องใน วโรกาสที่พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ผู้ทรงพระราชทานหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ ประชาชนชาวไทยทง้ั มวล ทรงมีพระชนม์มายุครบ 84 พรรษา สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐานจึงมุ่งเน้นทีจ่ ะพัฒนาสถานศกึ ษาในสงั กัดใหส้ ามารถผ่านการประเมินเป็นสถานศึกษาพอเพียง จำนวน 9,999 แห่ง เพื่อให้บรรลผุ ลตามเปา้ หมายดังกล่าวน้ี จึงได้จัดทำคมู่ อื เล่มนข้ี น้ึ เพือ่ เป็น แนวทางให้สถานศกึ ษาดำเนินการพัฒนาตนเอง และเป็นเครอ่ื งมือสำหรับคณะกรรมการประเมนิ สถานศกึ ษาพอเพยี ง นำไปใชป้ ระกอบการประเมนิ เพ่ือให้บรรลผุ ลสำเร็จอย่างมคี ุณภาพต่อไป เครอื ขา่ ยดำเนนิ งาน 1. กระทรวงศึกษาธกิ าร 2. สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน 3. โครงการวจิ ยั เศรษฐกิจพอเพยี ง สำนักงานทรัพยส์ นิ ส่วนพระมหากษัตรยิ ์ 4. สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา 5. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
4
5 ส่วนท่ี 2 เกณฑ์การประเมิน ศรร.เกณฑ์กา้ วหนา้ ได้คะแนนเฉล่ยี 4 ขน้ึ ไป ทุกด้าน 1. บคุ ลากร 2. การจัดการสภาพแวดล้อมทางกายภาพ 3. ความสมั พันธก์ บั หน่วยงานภายนอก 1. ด้าน บคุ ลากร 4 ตัวบ่งชี้ 1.1 ผ้บู รหิ าร 1.2 ครู 1.3 นกั เรียน 1.4 คณะกรรมการสถานศึกษา 2. ด้าน การจัดการสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ 2 ตัวบ่งชี้ 2.1 อาคาร สถานทแ่ี ละส่ิงแวดล้อม 2.2 ฐานการเรยี นรู้ ปศพพ. และ/หรือกจิ กรรมการเรียนรู้ ปศพพ 3. ดา้ นความสัมพนั ธ์กับหนว่ ยงานภายนอก 2 ตวั บ่งชี้ 3.1 ความสมั พันธก์ บั สถานศึกษาอืน่ ในการขยายผลการขบั เคล่อื น ปศพพ. 3.2 ความสมั พันธ์กบั หนว่ ยงานทส่ี ังกดั และ/หรือหน่วยงานภายนอก คณะกรรมการประเมนิ ศรร. ศกึ ษาธิการภาค เปน็ ผมู้ ีอำนาจสรรหาและแตง่ ตัง้ คณะกรรมการประเมนิ ศรร. ดงั น้ี 1. จำนวนคณะกรรมการประเมิน แห่งละ 5 คน ท้ังนี้ ไมน่ บั รวม ผ้รู ่วมคณะเดินทาง ผู้ตดิ ตาม ฯลฯ องคป์ ระกอบของคณะกรรมการประเมนิ ศรร. ตอ้ งเปน็ ไปตามเกณฑค์ ุณสมบตั ิ และ เกณฑ์สังกัด ท่ี กำหนด องคป์ ระกอบคณะกรรมการประเมนิ ศรร 1. ผทู้ รงคณุ วุฒิ ทำหน้าท่ีประธาน/รองประธาน (ตอ้ งผ่านการอบรม และได้รบั การประกาศแต่งตัง้ โดย ศธ.) 2.– 3. ผู้แทนจาก ศธ. / ศธภ. / ศธจ. 2 คน ทำหน้าที่ ประธาน/รองประธาน และเลขานุการ (อยา่ งนอ้ ย 1 คน ตอ้ งผ่านการอบรม และได้รับการประกาศ แต่งตัง้ โดย ศธ.) 4. ผ้แู ทนจากตน้ สงั กดั ของสถานศึกษาทร่ี บั การประเมนิ 5. ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ศรร. ในวนั ท่ี ศรร. น้นั ได้รบั การประเมนิ เป็นศูนย์การเรียนรู้ฯ
6 ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพยี ง เปน็ ปรัชญาช้ถี งึ แนวการดำรงอยแู่ ละปฏบิ ัตติ นของประชาชนในทุกระดับ ตง้ั แตร่ ะดบั ครอบครวั ระดับชุมชน จนถึงระดบั รฐั ท้งั ในการพฒั นาและบรหิ ารประเทศให้ดำเนนิ ไป ในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกจิ เพื่อให้ก้าวทนั ตอ่ โลกยุคโลกาภวิ ตั น์ ความพอเพียง หมายถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล รวมถงึ ความจำเป็นที่จะต้องมรี ะบบภูมคิ ุ้มกันในตัวทด่ี ี พอสมควร ตอ่ การกระทบใดๆ อนั เกิดจากการเปลีย่ นแปลงทั้งภายในภายนอก ทง้ั นี้ จะต้องอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอยา่ งย่ิงในการนำวชิ าการตา่ งๆ มาใชใ้ นการวางแผน และการดำเนนิ การ ทุกข้นั ตอน และขณะเดยี วกัน จะตอ้ งเสริมสรา้ งพน้ื ฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหนา้ ท่ขี องรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกจิ ในทุกระดับ ใหม้ ีสำนึกในคุณธรรม ความซอ่ื สัตย์ สจุ ริต และให้มีความรอบรูท้ เี่ หมาะสม ดำเนนิ ชวี ิตดว้ ยความอดทน ความเพยี ร มีสติ ปญั ญา และ ความรอบคอบ เพอื่ ให้สมดลุ และพร้อมต่อการรองรบั การเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเรว็ และกว้างขวาง ท้ัง ด้านวตั ถุ สังคม สงิ่ แวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เปน็ อย่างดี
7
8
9
10
11
12 ปฏิทินการการประเมนิ สถานศกึ ษาพอเพยี ง ด้านการศึกษา --------------------------------------------------------- รอบที่ 1 วนั ที่ 16 พฤษภาคม ถงึ วันท่ี 10 ตุลาคม ของทุกปี รอบที่ 2 วันที่ 1 พฤศจกิ ายน ถึง วนั ท่ี 31 มนี าคม ของทุกปี รายการ/กิจกรรม ระยะเวลา ขนั้ ตอนประเมนิ หน่วยงานท่ี รบั ผิดชอบ ขั้นตอน วนั เดอื น ปี 1. ประเมนิ 1.สมคั ร 1. ชว่ ง 1-31 พ.ค. 1. สถานศกึ ษาประเมิน 1 สถานศึกษาที่ สถานศึกษา และ 1-30 พ.ย. ตนเอง ขอรบั การ แบบอย่างการ 2.ประเมิน ของทกุ ปี 2. สถานศึกษาสมคั ร ประเมิน จัดการเรยี นรู้ และ 2. ชว่ ง 1-31 ก.ค. ขอรบั การประเมนิ 2 และ 3 บริหารจัดการ ตาม 3.รายงานผล และ 10-31 ม.ค. 2.1 ส่งเอกสารสมัคร สำนักงาน หลักปรัชญาของ ของทุกปี (คำขอคัดกรอง) มายัง ศกึ ษาธิการ เศรษฐกิจพอเพยี ง 3. ช่วง 1-10 ต.ค. หน่วยงานต้นต้นสงั กดั จังหวดั (สถานศึกษา และ 1-10 เม.ย. 2.2 หน่วยงานตน้ สงั กัด พอเพียง) (สถพ.) ของทุกปี รวบรวมเอกสารสมคั ร 2. ประเมนิ 1. สมัคร 1. ช่วง 1-31 พ.ค. แล้วสง่ ใหส้ ำนกั งาน 1 สถานศึกษาที่ สถานศกึ ษา และ 1-30 พ.ย. ศกึ ษาธิการจงั หวดั ขอรบั การ พอเพยี งที่มผี ลการ 2. คดั กรอง 2562 2.2.1 สงั กัด สพฐ./ ประเมิน ปฏิบัติท่เี ปน็ เลศิ 2. ช่วง 1-15 ม.ิ ย. สอศ./กศน./สช./อปท./ 2 ,3 และ 4 ระดบั จงั หวดั และ 3. ประเมิน และ 1-15 ธนั วาคม รร.กีฬา... ส่งหน่วยงาน สำนกั งาน ระดับชาติ (สปล.) ของทกุ ปี ต้นสงั กดั ศกึ ษาธิการ 4. รายงานผล 3. ชว่ ง 1-31 ส.ค. 2.2.2 สงั กดั ตชด. ส่ง จังหวดั และ 1-28 ก.พ. ของ ใหก้ องกำกับตำรวจ ทุกปี ตะเวนชายแดน 4. ช่วง 1-10 ต.ค. 2.2.3 สงั กดั อน่ื ๆ และ 1-10 เม.ย. ของ ส่งผา่ นตน้ สังกัดรวบรวม ทุกปี สง่ ให้ สสก.สป. 3. ประเมินศนู ย์ 1. สมัคร 1. ชว่ ง 1-31 พ.ค. 3. สำนกั งานศกึ ษาธกิ าร 1 สถานศกึ ษาที่ การเรยี นรตู้ ามหลกั และ1-30 พ.ย. ของ จังหวัดแต่งตง้ั ขอรับการ ปรัชญาของ 2. คัดกรอง ทกุ ปี ประเมนิ
13 รายการ/กจิ กรรม ระยะเวลา ข้ันตอนประเมนิ หน่วยงานท่ี รบั ผิดชอบ ขั้นตอน วัน เดือน ปี เศรษฐกิจพอเพียง 2. ช่วง 1-15 มิ.ย. คณะกรรมการและ 2 สำนักงาน (ศรร.) 3. ประเมนิ และ1-15 ธนั วาคม ดำเนนิ การประเมิน ศกึ ษาธิการ ของทุกปี 4. สำนกั งานศกึ ษาธกิ าร จงั หวดั 4. รายงานผล 3. ชว่ ง 1-30 ก.ย. จังหวัดตรวจ พิจารณา 3 และ 4 และ 1-28 ก.พ. ของ คัดกรอง รายงานการ สำนักงาน ทุกปี ประเมนิ ส่งให้ ศธ. (ตาม ศกึ ษาธิการภาค 8 4. ชว่ ง 1-10 ต.ค. จำนวนรอบ) และ 1-10 เม.ย. ของ 5. ประกาศ สถพ. สปล. ทกุ ปี ศรร. 4. ประกาศ ประกาศส่ง ภายในเดอื น ------------------------- สำนักส่งเสริม สถานศกึ ษา หน่วยงานต้น พฤษภาคม *** ยกเว้น การ กจิ การการศึกษา พอเพยี งทุกระดบั สังกดั ประเมินใน สำนกั วนั หยดุ ราชการ และวัน ปลัดกระทรวง ปิดภาคเรียน *** ศกึ ษาธิการ หมายเหตุ ศรร. ยอ่ มาจาก ศนู ยก์ ารเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ดา้ นการศึกษา สปล. ย่อมาจาก สถานศกึ ษาพอเพียงที่มีผลการปฏิบัตทิ ีเ่ ปน็ เลศิ (Best Practice) สถพ. ยอ่ มาจาก สถานศึกษาแบบอย่างการจัดการเรยี นรแู้ ละบรหิ ารจัดการ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (สถานศึกษาพอเพียง)
14 ส่วนท่ี 3 ถอดบทเรียนการออกแบบหน่วยการเรียนรู้เพ่อื เสริมสรา้ งอุปนิสัยพอเพยี ง เร่ือง....................................................กลมุ่ สาระ............................................ ตวั อย่างการวิเคราะห์ 2 เงื่อนไข 3 หลกั การ 4 มิติ เงอ่ื นไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม ................................................................................ ................................................................................ ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................ ................................................................................ ................................................................................ ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. พอประมาณ …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… มเี หตุผล มีภมู คิ ุม้ กนั …………………………………………… ………………………………………………… …………………………………………… ………………………………………………… …………………………………………… ………………………………………………… …………………………………………… ………………………………………………… ………………………………………….. ……………………………………………….. มิตดิ า้ นวัตถุ มิติดา้ นสงั คม มติ ิดา้ นวฒั นธรรม มติ ิด้านสง่ิ แวดล้อม ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
15 ตัวอยา่ ง 2 เงอ่ื นไข 3 หลกั การ 4 มิติ 2 เง่อื นไข 3 หลักการ 4 มติ ิ
16 วิเคราะหค์ ำสำคัญ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพือ่ การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในชวี ติ ----------------------------------------------------------------------------------- เง่อื นไขความรู้ = พจิ ารณาความรู้ที่ต้องรู้ และความร้ทู ่ีควรรู้ ในการตดั สินใจ เงื่อนไขคุณธรรม = พจิ ารณาคณุ ธรรมท่ี ต้องใช้ และคณุ ธรรมควรใช้ สำหรับตัดสินใจ หลกั เหตผุ ล = พจิ ารณความต้องการ และความจำเป็น อย่างไรประกอบการตดั สินใจ หลักพอประมาณ = พจิ ารณาความพอเหมาะ ความพอดี สอดคล้อง ระหวา่ งสิ่งใด กับส่งิ ใดบา้ ง เพ่ือ ตดั สนิ ใจ หลกั การมีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ท่ดี ี = พิจารณาการจดั ระบบ และการมีกฎระเบยี บรองรับ เพื่อวางแผน ตัดสินใจ ������ มิตวิ ตั ถุ = ตนเองไดร้ ับประโยชน์อะไรบ้างจากการตัดสนิ ใจ ������ มติ ิสงั คม = ผูอ้ ืน่ ได้รบั ประโยชน์อะไรบ้างจากการจัดสินใจ ������ มติ สิ ิง่ แวดลอ้ ม = เกิดสิ่งแวดลอ้ มทดี่ ีอยา่ งไรบ้างจากการตดั สนิ ใจ ������ มิติวัฒนธรรม = อนรุ กั ษ์รากเหง้าความเป็นไทยอย่างไรบ้าง จากการตดั สนิ ใจ
17 คำถามท่สี ำคัญในการประเมิน ศรร. 1. เมอื่ โรงเรยี นไดร้ ับการประเมนิ ผ่านแลว้ สามารถให้ความรกู้ บั ผู้ทมี่ าดงู านใน เรอื่ งใด .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 2. เอกลักษณข์ อง ศรร.ของโรงเรยี นเรา คอื อะไร .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 3. กิจกรรมทท่ี ำมกี ารขยายผลอยา่ งไร มีรอ่ งรอยครบทกุ ด้าน .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 4. ผ้เู รยี น ครู ผ้บู รหิ าร มีเรอื่ งเล่าเรา้ พลงั ทตี่ รงตามหลักการของ ศรร. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................
18 ช่อื โครงการ..... 1. หลกั การและเหตุผล = หลักเหตผุ ล Thinks Pair Share 2. วัตถปุ ระสงค์ = 4 มิติ วัตถุ สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม 3. เป้าหมาย = หลกั พอประมาณ 4. วิธดี ำเนนิ โครงการ = หลักภูมคิ ุ้มกันในตัวที่ดี 5. กิจกรรมดำเนินการ = เงอ่ื นความรู้ + เงอ่ื นคณุ ธรรม 6. สถานท่ีดำเนนิ การ = หลักพอประมาณ 7. ระยะเวลาดำเนินการ = หลกั พอประมาณ 8. งบประมาณดำเนนิ การ = หลกั พอประมาณ 9. ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ = หลักพอประมาณ 10. การวดั และประเมนิ ผล = เง่อื นความรู้ + เงอ่ื นคุณธรรม
19 ภาคผนวก
20 ศศร.01 แบบประเมินตนเอง เพื่อเป็นศนู ย์การเรียนรู้ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ดา้ นการศกึ ษา ชือ่ สถานศึกษา …………………………...................…………..........................................................… สังกดั ………………………...........………..............….…จังหวัด........................................................ ตวั ชวี้ ัด คะแนนประเมนิ คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ ๑. บุคลากร คะแนนรวม (คะแนนเฉลยี่ รายดา้ น) ๓๕ (๕) ๑.๑ ผบู้ ริหาร ๑๐ ๑๐ ๑.๒ ครู ๑๐ ๕ ๑.๓ นกั เรียน ๑๐ (๕) ๑.๔ คณะกรรมการสถานศกึ ษา ๕ ๕ ๒. การจัดการสภาพแวดล้อมทางกายภาพ คะแนนรวม (เฉล่ยี รายดา้ น) ๑๐ (๕) ๒.๑ อาคาร สถานทแ่ี ละสง่ิ แวดลอ้ ม ๕ ๒.๒ ฐานการเรียนรู้ ปศพพ. และ/หรือกจิ กรรมการเรยี นรู้ ปศพพ. ๕ ๓. ความสัมพนั ธก์ บั หนว่ ยงานภายนอก คะแนนรวม (เฉล่ียรายดา้ น) ๓.๑ ความสมั พนั ธก์ ับสถานศึกษาอ่นื ในการขยายผลการขับเคลือ่ น ปศพพ. ๓.๒ ความสัมพันธ์กบั หนว่ ยงานท่ีสังกดั และ/หรอื หน่วยงานภายนอก (ภาครัฐ ภาคเอกชน และชมุ ชน) (ลงชอ่ื ).......................................................................ผปู้ ระเมนิ (.............................................................................) ตำแหน่ง ......................................................................................... วันที่ ................. เดือน .................................. พ.ศ. .......................
เกณฑ์การประเมินศูนยก์ ารเรียนร้ตู ามหลักป องคป์ ระกอบ ระดบั 1 ระดับ 2 ระดับคณุ ภาพ มีความรู้ ความเขา้ ใจใน - ตามระดบั ๑ และ - ตามระด 1. บุคลากร หลกั ปรัชญาของ - ปฏบิ ัตติ นตาม ปศพพ. - สามารถ 1.1 ผู้บรหิ าร เศรษฐกจิ พอเพยี ง และ ประสบกา (ปศพพ.) อยา่ งถูกต้อง - นำ ปศพพ. มาใชใ้ น มาใชใ้ นสถ การบริหารจดั การ - มงุ่ มนั่ ใน สถานศกึ ษา ปศพพ. ใน 1.2 ครู - รอ้ ยละ ๒๕ ของ - ตามระดับ ๑ และ - ตามระด จำนวนครใู นสถานศึกษา - ปฏิบัตติ นตาม ปศพพ. - ครถู ่ายท มคี วามรู้ ความ เข้าใจ มี และ ให้ เพือ่ นค สื่อและ/หรือ นวตั กรรม - ครูนำ ปศพพ. มาใช้ จนมี ครูท การเรยี นรู้เกย่ี วกบั ออกแบบและจดั ทุกกลุ่มสา ปศพพ. และอธิบาย กิจกรรมการ เรียนรู้ท่ี กิจกรรม ก ปศพพ. ได้อยา่ งถูกต้อง รับผดิ ชอบจนเหน็ ผล ปศพพ. จน และ
21 ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ดา้ นการศกึ ษา ระดบั 3 ระดบั 4 ระดับ 5 ดบั ๒ และ - ตามระดับ ๓ และ - ตามระดับ ๔ และ ถถ่ายทอด - ขยายผลการขับเคล่ือน - ชุมชนหรอื หน่วยงาน ารณ์การน ปศพพ. ปศพพ. สู่ภายนอก ภายนอก เหน็ คุณคา่ ถานศึกษา และ สถานศึกษา เชน่ ชุมชน ยอมรับ และให้ความ นการขับ เคลือ่ น สถานศกึ ษาอ่ืน ฯลฯ ร่วมมอื ในการขยายผล นสถานศึกษา การขบั เคลื่อน ปศพพ. สู่ ภายนอกสถานศึกษา ดบั ๒ และ - ตามระดับ ๓ และ - ตามระดบั ๔ และ ทอดประสบการณ์ - มคี รแู กนนำนำบทเรียน - ครมู ากกว่ากง่ึ หนึ่งจดั ครูในสถานศกึ ษา ความสำเร็จในการจัดการ กิจกรรมการเรยี นรู้ตาม ทกุ ระดบั ชั้น และ เรยี นรตู้ าม ปศพพ. จากการ ปศพพ. อยา่ งต่อเน่ือง าระการเรยี นรู้จดั ถอดบทเรียนของตนมา และ การเรียนรู้ตาม จัดทำ เป็นสอ่ื ขยายผล สู่ - ครใู นสถานศกึ ษารว่ มมือ น เห็นผล ภายนอก สถานศึกษาจน ใน การขยายผลการ เห็นผล ขับเคล่ือนสภู่ าย นอก
องค์ประกอบ ระดบั 1 ระดบั 2 ระดับคณุ ภาพ - ครใู ช้สือ่ และ/หรือ นวตั กรรม การเรียนรู้ เกีย่ วกับ ปศพพ. ใน การ จดั กจิ กรรมการเรียนรูจ้ น เหน็ ผล ๑.๓ นักเรยี น มีนกั เรยี นแกนนำทมี่ ี - ตามระดบั ๑ และ - ตามระด ความรู้ ความเขา้ ใจ และ - นักเรยี นแกนนำเกิด - นักเรียน อธิบาย ปศพพ. ได้อยา่ ง การ เรียนรู้ และปฏบิ ตั ิ ใน การขับ ถูกต้อง ตนตาม ปศพพ. จนเหน็ ใน สถานศ ผล เห็น คณุ ค่า และเกดิ ทม่ี ี คุณสม ศรทั ธา พอเพยี ง จ ๑.๔ คณะกรรมการ รับรู้การขับเคล่ือน - ตามระดบั ๑ และ - ตามระด สถานศกึ ษา ปศพพ. ของ สถานศึกษา - มีความสนใจและมสี ่วน - เหน็ คุณค รว่ ม ในการขบั เคลื่อน การขับเคล ปศพพ. ของสถานศึกษา สถานศึกษ
22 ระดับ 3 ระดบั 4 ระดับ 5 สถานศกึ ษาอย่าง สมำ่ เสมอ - ครนู ำส่อื และ/หรอื นวตั กรรม ท่ีพัฒนาตาม ระดับ ๔ มาใช้ ขยายผลสู่ ภายนอก สถาน ศึกษา จน เห็นผล ดับ ๒ และ - ตามระดับ ๓ และ - ตามระดับ ๔ และ นแกนนำมีส่วนร่วม - นกั เรยี นแกนนำมีส่วนรว่ ม - นกั เรยี นแกนนำเป็นหลกั บเคลอื่ น ปศพพ. ใน การขับเคลอ่ื น ปศพพ. สู่ ใน การจัดกิจกรรม ศึกษาจนมีนักเรยี น ภายนอกสถานศกึ ษา และ ขบั เคล่อื น ปศพพ. ภายใน มบัตอิ ยู่อยา่ ง - นักเรียนแกนนำได้นำ สถานศึกษา และ/หรือ จดั จำนวนเพิ่มขนึ้ ปศพพ. มาพฒั นาตนเอง กจิ กรรมขยายผล ปศพพ. อย่างต่อเน่อื ง สู่ภายนอกสถานศึกษา ดบั ๒ และ - ตามระดบั ๓ และ - ตามระดับ ๔ และ คา่ และศรัทธาใน - สนบั สนุนกจิ กรรมการ - สนับสนนุ กจิ กรรมการ ล่ือน ปศพพ. ของ ขบั เคลื่อน ปศพพ.ของ ขยาย ผลการขับเคล่ือน ษา สถานศกึ ษาจนเหน็ ผล ปศพพ. สภู่ ายนอกจนเห็น ผล
องคป์ ระกอบ ระดับ 1 ระดับ 2 ระดับคณุ ภาพ - ตามระดับ ๑ และ ๒. การจดั การสภาพแวดล้อมทางกายภาพ - มีแผนงาน/โครงการ งบประมาณ และ ๒.๑ อาคาร สถานที่ มีผรู้ ับผิดชอบการใช้ ผูร้ บั ผดิ ชอบในการปรับ - ตามระด ใช้ อาคารสถานที่ - มีศูนย์รว และ ส่งิ แวดล้อม ปรับปรุง ดแู ล รักษา สภาพแวดล้อมใหเ้ ป็นไป ขับเคล่ือน ตาม ปศพพ. สถานศกึ ษ อาคารสถานทีแ่ ละ - มแี ผนผงั - ตามระดบั ๑ และ เรยี นรู/้ ฐา จดั การสภาพแวดล้อม - มสี ื่อประกอบการ เรยี นรู้ ปศ เรียนรู้ ประจำแหล่ง/ สถานศึกษ สำหรับ การเรยี นรู้อยา่ ง ฐาน/กจิ กรรม การ สภาพแวด เรียนรู้ ปศพพ. ท่ี เรียนรตู้ าม เหมาะสม สะอาด ร่ม ฯลฯ ๒.๒ แหล่งเรียนร/ู้ ฐาน มแี หลง่ เรยี นรู้ หรอื ฐาน - ตามระด การเรยี นรู้ และ/หรือ เรยี นรู้ หรอื กจิ กรรมการ - มวี ทิ ยาก กิจกรรมการเรยี นรู้ เรยี นรู้ เพื่อ เสริมสร้าง การ เรียน เพ่ือ เสรมิ สรา้ งอปุ นสิ ยั อุปนสิ ัยอยู่อยา่ ง สามารถ อ อยู่ อย่างพอเพียง พอเพียงภายใน และ/ อย่างถูกต มีแผนการ หรอื ภายนอก
23 ระดบั 3 ระดับ 4 ระดบั 5 ดับ ๒ และ - ตามระดบั ๓ และ - ตามระดบั ๔ และ วมข้อมลู การ - ครูและนักเรยี นมสี ว่ นรว่ ม - ชมุ ชน หรอื หน่วยงานอ่นื น ปศพพ. ของ ใน การดูแลรักษา ได้ ใชป้ ระโยชน์ และมี ษา และ สิ่งแวดลอ้ ม อาคาร สถานที่ สว่ นรว่ ม ในการส่งเสริม งแสดงแหล่ง ใหเ้ อื้อต่อ การเรยี นรูต้ าม สนับสนนุ การ ดูแลรกั ษา านกจิ กรรมการ ปศพพ. และพฒั นาอาคาร สถานท่ี ศพพ. ใน สภาพแวดล้อมของ ษา และ มี สถานศึกษาอย่าง ดล้อมทเี่ อ้ือต่อการ สมำ่ เสมอ ม ปศพพ. เชน่ มรน่ื ปลอดภัย ดบั ๒ และ - ตามระดบั ๓ และ - ตามระดบั ๔ และ กรรบั ผดิ ชอบฐาน บุคลากรในสถานศึกษา - มีการประเมนิ ผลการใช้ นรู้ ปศพพ.ที่ สามารถเป็นวทิ ยากรอธบิ าย แหลง่ / ฐาน/กิจกรรมการ อธบิ ายความได้ การใชป้ ระโยชนจ์ ากแหลง่ / เรยี นรู้ ปศพพ. อย่างเปน็ ต้อง ชัดเจน และ - ฐาน/กิจกรรมการเรียนรู้ รูปธรรม และ รจัดการเรียนรขู้ อง ปศพพ. ในการเสรมิ สรา้ ง
องคป์ ระกอบ ระดบั 1 ระดบั 2 ระดับคณุ ภาพ สถานศกึ ษาท่ี สอดคลอ้ ง สามารถสื่อความได้ แหล่ง/ฐาน เรยี นรู้ ปศ กับภูมสิ ังคมของ ถูกต้อง ถูกต้องแล สถานศกึ ษาและมีการ - ตามระด - สามารถ จัดการ อย่างพอเพยี ง รองรบั การ จาก สถาน ๓. ความสมั พนั ธ์กบั หนว่ ยงานภายนอก กระทบ ภ สถานศกึ ษ ๓.๑ ความสัมพันธก์ บั มเี ครอื ขา่ ยการเรียนรู้ - ตามระดบั ๑ และ สถานศึกษาอื่นในการ ปศพพ. - มีประสบการณ์ในการ ขยายผลการขบั เคลอื่ น รับ สถานศกึ ษาอืน่ มา ปศพพ. ศึกษา ดูงาน
24 ระดับ 3 ระดบั 4 ระดบั 5 น/กจิ กรรมการ อุปนิสยั อยู่ อย่างพอเพยี งได้ - มีการพฒั นาแหล่ง/ฐาน/ ศพพ. ได้อยา่ ง อยา่ งถูกต้อง และชดั เจน กจิ กรรมการเรียนรู้ ละชดั เจน ปศพพ. อยา่ งต่อเนือ่ ง ดบั ๒ และ - ตามระดับ ๓ และ - ตามระดบั ๔ และ - สามารถเป็นพีเ่ ลี้ยงใน ถบริหารจดั การเพือ่ - เปน็ สถานศึกษาแกนนำ การ พฒั นาสถานศึกษาอน่ื ให้เป็น สถานศึกษา รขอศึกษาดงู าน ของ เครือข่ายขบั เคล่ือน พอเพียงได้อย่าง นอ้ ย ๑ แห่ง นศึกษาอ่นื โดยไม่ ปศพพ. ภารกิจหลักของ ษา
องค์ประกอบ ระดบั 1 ระดบั 2 ระดับคุณภาพ - ตามระดับ ๑ และ ๓.๒ ความสมั พันธก์ ับ มคี วามสัมพนั ธอ์ ันดีกบั - ประสานความร่วมมือ - ตามระด กบั หน่วยงานต่าง ๆ - สามารถ หน่วยงานทสี่ งั กัดและ/ หนว่ ยงานต่าง ๆ เพือ่ ให้ และ/หรือ รบั ความสัมพ การสนบั สนุน เพือ่ การ ต่าง ๆ ในก หรือหน่วยงาน ขับเคลือ่ น ปศพพ. ปศพพ. ได และมปี ระ ภายนอก (ภาครฐั ภาคเอกชน และ ชุมชน)
25 ระดับ 3 ระดบั 4 ระดบั 5 ดบั ๒ และ - ตามระดบั ๓ และ - ตามระดบั ๔ และ ถบริหารจดั การ พนั ธ์กับหนว่ ยงาน - ได้รับการยอมรบั และ - ประสานความร่วมมือกบั การขับเคลื่อน ด้อย่างเหมาะสม ความ รว่ มมอื จากหน่วยงาน หนว่ ยงานตา่ ง ๆ จน ะสิทธิภาพ ตา่ ง ๆ ในการขยายผลการ สามารถ พัฒนา ขบั เคล่อื น ปศพพ. สู่ สถานศกึ ษาอ่นื ใหเ้ ป็น หน่วยงานภายนอก สถานศึกษาพอเพยี งได้ อยา่ ง น้อย ๑ แห่ง
ศศร.0226 ขอ้ มูลประกอบการคดั กรองศนู ย์การเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการศึกษา คำชี้แจง ให้สถานศึกษาพอเพียง ที่มคี วามประสงค์ ขอรับการประเมินเปน็ ศูนยก์ ารเรียนรู้ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจ พอเพยี ง ดา้ นการศึกษา จัดทำรายงานข้อมลู ตามหัวข้อด้านล่างประกอบการคดั กรองความยาวไมเ่ กิน ๒๐ หน้า กระดาษ เอ ๔ (ไม่รวมภาคผนวก) โดยขอให้มขี ้อมูลท่ีเกี่ยวขอ้ งใหค้ รบทุกข้อ กรณีปีการศกึ ษาให้ปรบั ตามปที ่ีสง่ ประเมินและปรับ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ระดบั ช้ัน ตามบริบทของระดบั การศึกษา เชน่ อาชีวศกึ ษา / กศน. ชือ่ สถานศกึ ษา............................................................................สงั กัด …………….…….…………………..……………… สถานทต่ี ้ัง ถนน..................................... ตำบล/แขวง............................... อำเภอ/เขต……………..……..………. จงั หวัด............................................... รหสั ไปรษณีย์................................................ โทรศัพท์...............................................โทรสาร....................................................... Website............................................................................................................. ช่อื –สกุลผอู้ ำนวยการสถานศึกษา……………………………………………. โทรศัพท.์ ............................................... ช่อื –สกลุ รองผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา............................................. โทรศัพท.์ .............................................. ชอ่ื –สกุลครแู กนนำ............................................................................ โทรศพั ท.์ ........................................... ๑. เหตผุ ลท่ีสถานศกึ ษาขอรับการประเมนิ เปน็ ศนู ย์การเรยี นรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการศกึ ษา ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................
27 ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. ๒. ขอ้ มูลทั่วไป ประกอบด้วย ๒.๑ จำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษา (รวมครูอัตราจ้าง) ปีการศึกษา....................... กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ จำนวนจำแนกตามระดบั การศึกษา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ ตำ่ กวา่ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาตรี ปริญญาโท สงู กว่าปริญญาโท รวม ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมฯ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ศลิ ปะ การงานอาชีพ ฯ ภาษาต่างประเทศ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น บคุ คลากรทางการศึกษา รวมทงั้ ส้ิน ๒.๒ จำนวนนักเรยี นจำแนกตามระดับช้ัน ปีการศกึ ษา..................................
28 ระดบั ชนั้ ทั้งหมด จำนวนนกั เรยี น จำนวนนักเรยี น นกั เรยี นท่มี ีคณุ ลักษณะอยู่ แกนนำ ระดับปฐมวัย อย่างพอเพียง(จำนวนคน/ ขับเคล่ือน ชั้นเตรียมอนุบาล ชน้ั อนุบาลปที ่ี 1 ร้อยละ) ชั้นอนุบาลปที ่ี 2 ชนั้ อนบุ าลปีที่ 3 รวม ระดบั ชั้นประถมศึกษา ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 รวม ระดบั มัธยมศึกษา มัธยมศึกษาปีท่ี 1 มัธยมศึกษาปที ่ี 2 มัธยมศึกษาปที ี่ 3 มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 รวม ระดับประกาศนยี บัตรวิชาชพี ปวช.1 ปวช.2 ปวช.3 รวม ระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชน้ั สูง
29 ระดับชัน้ ทง้ั หมด จำนวนนกั เรยี น จำนวนนักเรยี น นักเรยี นท่มี ีคณุ ลักษณะอยู่ แกนนำ ปวส.1 อยา่ งพอเพยี ง(จำนวนคน/ ขับเคลื่อน ปวส.2 รวม ร้อยละ) รวมทั้งสิ้น ๒.๓ บริบทของสถานศึกษา / ลกั ษณะชมุ ชน / ภูมสิ งั คม ๒.๔ เอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา / อตั ลกั ษณ์ของนักเรียน ๒.๕ แหลง่ เรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (มีอะไรบ้าง / ใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไร ๓. แนวทางในการดำเนินการในด้านต่างๆ ซ่งึ สมควรได้รับการประเมนิ ผ่านเป็นศูนยก์ ารเรียนรู้ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งดา้ นการศกึ ษา ๓.๑ การบรหิ ารจดั การ ๓.๒ บคุ ลากร ๓.๓ งบประมาณ ๓.๔ แหล่งเรยี นรู้ ๓.๕ วธิ กี ารพฒั นาสถานศึกษาพอเพยี งใหเ้ ป็นศูนย์การเรยี นรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ด้านการศึกษา ๔. ข้อมูลดา้ นบุคลากร ๔.๑ ผบู้ รหิ าร (อธิบายรายละเอยี ดการดำเนนิ งานและผลลพั ธท์ เี่ กดิ ขนึ้ ) ๔.๑.๑ ความรู้ ความเขา้ ใจหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๔.๑.๒ การปฏิบตั ิตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงทเ่ี ปน็ แบบอย่างที่ดี ๔.๑.๓ ความสามารถในการบริหารจัดการการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๔.๑.๔ วสิ ยั ทศั น์ ในการบรหิ ารจัดการการศึกษาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๔.๑.๕ การสรา้ งความสัมพันธ์กับครู บุคลากรทางการศึกษา นกั เรียน ผ้ปู กครองและชุมชน ๔.๒ ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา (อธบิ ายรายละเอียดการดำเนินงานและผลลพั ธท์ ีเ่ กดิ ข้นึ ) ๔.๒.๑ ความรู้ ความเข้าใจหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๔.๒.๒ การพัฒนาและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งท่ีเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี ๔.๒.๓ ความสามารถในการพัฒนาหลกั สตู ร หน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรยี นรตู้ าม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
30 ๔.๒.๔ พฤตกิ รรมการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ือ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลัก ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงท่หี ลากหลาย เปน็ แบบอย่างท่ีดีได้ ๔.๒.๕ การสร้างความสมั พันธ์กบั เพ่ือนครู นกั เรียน ผปู้ กครอง และชุมชน ๔.๒.๖ ครูแกนนำทุกกลุ่มสาระ เขยี นตัวอย่างเรือ่ งเลา่ ของครใู นการนำปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ น การจดั การเรยี นร/ู้ ตัวอยา่ งการออกแบบการเรียนรู้เพอื่ เสรมิ สรา้ งหลกั คิด พอเพียงให้แก่นกั เรียน โดยจัดทำเปน็ เอกสารแนบในภาคผนวก ๔.๒.๖.๑ มวี ิธีการอยา่ งไรในการสอดแทรกในเน้ือหา/บูรณาการในรปู แบบ กระบวนการในข้นั นำ ข้ันสอน ขั้นสรุป หรอื การทำโครงการ/โครงงาน หรอื ในวถิ ี ชวี ิต ๔.๒.๖.๒ มเี ครอื่ งมือช่วยสรา้ งการเรยี นรูข้ องผ้เู รยี นอะไรบ้าง เชน่ ใบงาน ชุด คำถาม การทบทวน การทำงานหลงั การปฏิบัติ การถอดบทเรียนความสำเร็จ/ ล้มเหลว ผงั มโนทศั น์ หรอื อนื่ ๆ ๔.๒.๖.๓ มวี ธิ ีตรวจสอบวดั ผล/ประเมนิ ผลอยา่ งไร จึงทำให้ครมู ่นั ใจว่านกั เรียนได้ เรยี นรแู้ ล้วเขา้ ใจ และนำไปใช้จรงิ ได้ ๔.๓ นักเรียน (อธบิ ายรายละเอยี ดการดำเนินงานและผลลัพธท์ เ่ี กิดข้นึ ) สถานศกึ ษามวี ิธกี ารอยา่ งไร ในการพัฒนานักเรียนใหเ้ กดิ อุปนสิ ยั อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๔.๓.๑ มีความเข้าใจในหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๔.๓.๒ มีความสามารถในการเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๔.๓.๓ มคี วามรู้ คณุ ลักษณะอย่อู ยา่ งพอเพียงตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็น แบบอย่างท่ดี ี ๔.๓.๔ มคี วามสำเรจ็ ท่ีเกิดจากการนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติ ๔.๓.๕ มสี ว่ นร่วมในการพัฒนาสถานศึกษาและชุมชนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๔.๔ คณะกรรมการสถานศึกษา (อธบิ ายรายละเอยี ดการดำเนนิ งานและผลลัพธ์ทเ่ี กิดขึน้ ) ๔.๔.๑ ความรู้ ความเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๔.๔.๒ บทบาทในการให้การสนับสนุน ส่งเสรมิ สถานศกึ ษาในการขบั เคลือ่ นปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ๕. ขอ้ มูลด้านอาคารสถานท่ี / แหลง่ เรยี นรู้ / ส่ิงแวดล้อม ๕.๑ ความพรอ้ มของอาคารสถานทท่ี ่เี ออ้ื อำนวยต่อการจัดการเรียนร้แู ละกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียนตาม หลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ๕.๒ มแี หล่งเรียนรู้หลากหลายเพอื่ สรา้ งเสรมิ อปุ นสิ ยั อย่อู ย่างพอเพยี งอยา่ งเหมาะสมและเพยี งพอกับ จำนวน นักเรยี น ๕.๓ สิ่งแวดล้อมทีเ่ อ้อื อำนวยต่อการจดั การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
31 ๖. ด้านความสมั พนั ธก์ ับชุมชนและหนว่ ยงานภายนอก ๖.๑ การวางแผนและดำเนนิ การสร้างเครือข่ายการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของ สถานศึกษา ๖.๒ ชุมชนให้ความไว้วางใจ ให้การสนบั สนนุ สง่ เสรมิ และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงส่สู ถานศึกษา ๖.๓ สถานศึกษามีส่วนรว่ มและให้การสนบั สนนุ ชมุ ชน และหนว่ ยงานอ่ืนในการขับเคล่ือนปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง ๖.๔ สถานศกึ ษาบรหิ ารจัดการการศึกษา และจัดการเรยี นการสอนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง จนสามารถเป็นแบบอยา่ งแก่สถานศึกษาและหน่วยงานอื่นได้ ๖.๕ ผลความสำเรจ็ ที่เกิดจากความรว่ มมอื กันระหวา่ งสถานศึกษากบั ชมุ ชนหรือหนว่ ยงานอน่ื ๗. ภาคผนวก ใหจ้ ัดทำเป็น CD พร้อมคำบรรยายประกอบ ความยาวไมเ่ กิน 15 นาที ในประเด็นต่อไปนี้ ๗.๑ วธิ กี ารพฒั นาสถานศึกษาพอเพยี งให้เปน็ ศูนยก์ ารเรยี นรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดา้ นการศึกษา (บรบิ ทสถานศึกษาแหล่ง/ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารพัฒนาสถานศึกษาพอเพยี งให้เปน็ ศูนย์ การเรยี นรู)้ ๗.๒ เรือ่ งเลา่ ของครเู กยี่ วกบั เรอื่ งการออกแบบการเรยี นร้เู พ่ือเสรมิ สร้างอุปนิสยั พอเพียง ๗.๓ เรอื่ งเล่าของนกั เรยี นแกนนำ ไดร์ฟรวมงานตวั อยา่ งทัง้ หมด https://drive.google.com/drive/folders/17kKXMdqSXGJUXyYJczdAsyX6jLSj8IPF?usp=sharing
32 ตวั อย่างผลการดำเนนิ งานของโรงเรยี น http://tps.comsci.info/suf/index.html http://www.bhk.ac.th http://web.tpp.ac.th/60/?p=11581 สำนักบรู ณาการกิจการการศกึ ษา เอกสารการประเมนิ ศูนย์การเรยี นร้ตู ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง http://www.biea.moe.go.th https://sites.google.com/a/nsws.ac.th/sersthkic-phx-pheiyng/
33
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: