Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 4

บทที่ 4

Published by pan1300201254226, 2021-01-25 07:02:22

Description: เฉลยบทที่ 4

Search

Read the Text Version

ข้อสอบบทท่ี 4 1.ข้อใดไมใ่ ช่วิธกี ารศึกษาประเด็นปัญหาทีเ่ กดิ ขึน้ ในองคก์ ร ก. ตรวจสอบผลลพั ธท์ ่ีไดก้ บั เกณฑท์ ีก่ าหนดไว้ ข. สงั เกตพฤตกิ รรมของพนักงานในองค์กร ค. ศกึ ษาจากรายงานสถิติต่าง ๆ ขององคก์ ร ง. ศึกษาสิ่งแวดลอ้ ม 2.การศึกษาประเดน็ ปญั หาที่เกดิ ขน้ึ ในองคก์ รมีกอ่ี งค์ประกอบ ก. 1 องคป์ ระกอบ ข. 2 องคป์ ระกอบ ค. 3 องค์ประกอบ ง. 4 องค์ประกอบ 3.ขอ้ ใดไม่ใชอ่ งค์ประกอบการศึกษาประเดน็ ปัญหาทเี่ กิดขึ้นในองคก์ ร ก. การนยิ ามปญั หา ข. การกาหนดขอบเขตของปัญหา ค. การกาหนดเป้าหมายในการแก้ปัญหา ง. สงั เกตจากรายงาน 4.ขอ้ ใดคือความหมายการศึกษาสถานภาพของระบบปัจจุบนั ก. เปน็ ขนั้ ตอนของการรวบรวมข้อเทจ็ จรงิ ทไ่ี ดจ้ าการศกึ ษาระบบ งานในปจั จบุ นั เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจกระบวนการ ทางานทง้ั หมด ข. เพ่ือระบถุ งึ ปญั หาที่เกดิ ขน้ึ กาหนดทางเลือกในการ แก้ปัญหา และเลือกวิธีการแกไ้ ขปญั หา ค. เพ่อื ใหเ้ กิดความรแู้ ละความเขา้ ใจขนั้ ตอนการสารวจเบอ้ื งต้น

ง. เป็นการประเมนิ วา่ ระบบใหม่ทจี่ ะเกิดพฒั นาจาเปน็ ตอ้ งลงทุนและได้รบั ผลตอบแทนจากการลงทนุ มากนอ้ ย เพียงใด 5.ขอ้ ใดไม่ใช่แนวทางการแก้ไขปญั หาระบบงานปจั จบุ ัน ก. ยังคงใชร้ ะบบเดมิ ท่ีมอี ยู่แล้ว ข. ปรับปรงุ ระบบเดมิ ค. พัฒนาระบบใหม่ ง. ศกึ ษาความเป็นไปไม่ได้ 6.ข้อใดคือความหมายของ แบบจาลองของระบบปัจจุบนั ในเชิงกายภาพ ก. เพอื่ นาเสนอแตล่ ะฟงั ก์ชน่ั วา่ มีเทคนิคการทางานอย่างไร ไม่วา่ จะเป็นการทางานด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ การทางานดว้ ยมอื หรือการผสมผสานกันทง้ั 2 รูปแบบ ข. เปน็ การแปลงรายละเอยี ดจากแบบจาลองเชงิ กายภาพไปสู่แบบจาลองเชงิ ตรรกะ ค. เป็นผลกระทบดา้ นบวกทเ่ี กดิ ขึ้นจากส่งิ แวดล้อมภายในองค์กร ซงึ่ ถอื ว่าไดเ้ ปรียบในการดาเนินงาน ง. เป็นผลกระทบดา้ นลบทเ่ี กิดข้นึ จาดสิ่งแวดลอ้ มภายในองคก์ รที่ก่อใหเ้ กิดผลเสยี 7.ขอ้ ใดคอื ความหมายของ แบบจาลองของระบบใหม่เชิงตรรกะ ก. เปน็ การนารายละเอียดจากแบบจาลองเชงิ ตรรกะของปัจจุบัน มาใชเ้ ป็นพื้นฐานร่วมกบั ขอ้ มูลความตอ้ งการ ใชง้ านระบบทีร่ วบรวมไดจ้ ากผ้ทู ม่ี ีสว่ นเกีย่ วข้อง ข. เพ่ือนาเสนอแตล่ ะฟงั กช์ น่ั วา่ มีเทคนิคการทางานอยา่ งไร ไมว่ า่ จะเปน็ การทางานดว้ ยระบบคอมพวิ เตอร์ การทางานด้วยมอื หรอื การผสมผสานกนั ทง้ั 2 รูปแบบ ค. เปน็ ผลกระทบด้านบวกทเ่ี กิดขน้ึ จากส่ิงแวดลอ้ มภายในองคก์ ร ซง่ึ ถือว่าได้เปรียบในการดาเนินงาน ง. ข้อใดคอื ความหมายของ แบบจาลองของระบบใหม่เชงิ ตรรกะ 8. ข้อใดคือความหมายของการศกึ ษาความเปน็ ไปได้

ก. การพจิ ารณาถึงความเหมาะสมและประโยชน์ทจ่ี ะไดร้ บั เมอ่ื เปรียบเทยี บกบั ทรพั ยากรทใ่ี ชไ้ ป ข. ทาใหอ้ งค์กรสามารถตดั สนิ ใจกาหนดทางเลอื กในการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ค. การตัดสนิ ใจเลอื กศึกษาอยา่ งใดอย่างหนงึ่ ง. ถกู ทั้งข้อ ก และ ข 9. ข้อใดไมใ่ ชป่ ระโยชน์ของการศกึ ษาความเป็นไปได้ ก. เขา้ ใจถงึ นิยามและขอบเขตของปญั หา รวมทงั้ เป้าหมายในการพัฒนาระบบอยา่ งชัดเจน ข. รู้ถงึ ข้อดที เ่ี กดิ ขึ้นภายในองคก์ ร ค. พัฒนาระบบท่ีเหมาะสมกบั องคก์ รได้ ง. ลดความเสีย่ งจากการประมาณการท่ผี ดิ พลาด 10. หลกั การศกึ ษาการเป็นไปได้แบง่ ออกเปน็ ก่ดี า้ น ก. 3 ด้าน ข. 5 ด้าน ค. 4 ด้าน ง. 6 ด้าน 11. ขอ้ ใดไมใ่ ชห่ ลักการศึกษาความเปน็ ไปได้ ก. ด้านเทคนคิ ข. ด้านการดาเนินงาน ค. ดา้ นเศรษฐศาสตร์ สงั คม การปกครอง ง. ดา้ นระยะเวลาการดาเนนิ งาน

12. ข้อใดไม่ใช่ประเด็นในการพจิ ารณาความเปน็ ไปไดด้ ้านการดาเนนิ งาน ก. ผลการดาเนินงาน, สารสนเทศ ข. การประเมิน ค. ประสิทธภิ าพ, การควบคุม ง. การบริการ 13. ขอ้ ใดไม่ใชก่ ลุ่มตน้ ทนุ ที่จบั ตอ้ งได้ ก. ตน้ ทนุ มใี่ ช้ในด้านธรุ กิจ และครัวเรอื น ข. ต้นทุนเกย่ี วกบั การศกึ ษาระบบงานเดิมและวเิ คราะหร์ ะบบงานใหม่ ค. ตน้ ทนุ เก่ียวกับการจดั หาและบารงุ รักษาซอฟตแ์ วร์ทจี่ าเป็นตอ้ งใชง้ าน ง. ถกู ทัง้ ข้อ ข และ ค 14. ตน้ ทุนท่ีจับต้องไดแ้ บ่งออกได้กก่ี ลมุ่ ก. 3 กล่มุ ข. 4 กล่มุ ค. 5 กลุม่ ง. 6 กลมุ่ 15.ขัน้ ตอนของการจดั ทาแผนการดาเนินโครงการมกี ขี่ ้นั ตอน ก. 2 ขนั้ ตอน ข.3 ข้นั ตอน ค. 4 ขนั้ ตอน ง. 5 ข้ันตอน 16. ข้อใดคือขั้นตอนแรกของการจดั ทาแผนการดาเนนิ โครงการ ก.การกาหนดขอบเขตโครงการ ข.การวางแผนการใช้ทรพั ยากร ค.การกาหนดกจิ กรรม ง.การวิเคราะห์ความเส่ียง 17.เรยี งลาดบั การจดั ทาแผนการดาเนนิ โครงการใหถ้ กู ต้องตามขนั้ ตอน

ก.การวางแผนการใช้ทรพั ยากร การกาหนดกจิ กรรมและระยะเวลาการทางาน การวิเคราะห์ความเส่ียง การจดั ทาข้อกาหนดของงาน การกาหนดขอบเขตโครงการ ข.การกาหนดขอบเขตโครงการ การวางแผนการใชท้ รพั ยากร การกาหนดกิจกรรม และระยะเวลาการทางาน การวิเคราะหค์ วามเส่ียง การจดั ทาขอ้ กาหนดของงาน ค.การกาหนดขอบเขตโครงการ การวางแผนการใช้ทรพั ยากร การกาหนดกจิ กรรม และระยะเวลาการทางาน การวเิ คราะหค์ วามเสี่ยง การจดั ทาข้อกาหนดของงาน ง.การกาหนดกิจกรรมและระยะเวลาการทางาน การวเิ คราะห์ความเส่ียง การจดั ทาขอ้ กาหนดของงาน การกาหนดขอบเขตโครงการ การวางแผนการใช้ทรพั ยากร 18.ปจั จยั ทีอ่ าจกอ่ ใหเ้ กิดความเสยี่ งสาหรบั การพฒั นาระบบมีอะไรบ้าง ก.ลกั ษณะของโครงการ ข.เทคโนโลยที ี่นามาใชใ้ นโครงการ ค.ทศั นคติของผูใ้ ชก้ บั การพฒั นาระบบ ง.ขนาดของโครงการ ลักษณะของโครงการ เทคโนโลยที ่นี ามาใช้ในโครงการ ทศั นคตขิ องผใู้ ชก้ บั การพฒั นาระบบ 19.แผนยุทธศาสตร์ของการพฒั นาระบบมีทง้ั หมดก่ีด้าน อะไรบา้ ง ก. 3 ด้าน ยุทธศาสตรด์ า้ นผลผลติ เอกสารด้านความแตกตา่ ง ยุทธศาสตรด์ ้านการจดั การ ข. 2 ดา้ น ยุทธศาสตร์ดา้ นความแตกตา่ ง ยทุ ธศาสตรด์ ้านการจัดการ ค. 1 ด้าน ยุทธศาสตรด์ า้ นผลผลติ ง. 4 ด้าน ยุทธศาสตรด์ า้ นผลผลิต ยุทธศาสตร์ด้านความแตกต่าง ยทุ ธศาสตรด์ ้านการจัดการ ยทุ ธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ดา้ นการพฒั นา 20.ขอ้ ใดคอื ขัน้ เตรียมการขัน้ ตอนแรกของโครงการจัดทาแผนการดาเนินโครงการ

ก.จดั ทาแผนการดาเนนิ งาน ข.กาหนดประเดน็ ปญั หา ค.ศกึ ษาสถานภาพปจั จบุ ัน ง.ศึกษาความเปน็ ไปได้ 1……/…..การกาหนดประเดน็ ปญั หา เป็นกิจกรรมทสี่ าคัญมาก เนอื่ งจากเป็นจุดเร่มิ ต้นของกระบวนการพฒั นา ระบบทงั้ หมด 2……/…..วิธกี ารศึกษาประเดน็ ปญั หาทเี่ กิดขน้ึ ในองคก์ ร 1 ตรวจสอบผลลพั ธท์ ี่ไดก้ บั เกณฑท์ ี่กาหนดไว้ 2 สงั เกต พฤตกิ รรมของพนกั งานในองคก์ ร 3 ศึกษาจากรายงานสถติ ติ ่างๆ ขององคก์ ร 4 สงั เกตจากผลสะทอ้ นกลบั จาก ภายนอกองคก์ ร 3……X…..การศึกษาประเด็นปญั หาทเ่ี กิดขนึ้ ในองคก์ รประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ 4……/…..การศกึ ษาสถานภาพของระบบปจั จุบนั เปน็ ขน้ั ตอนของการรวบรวมข้อเทจ็ จริงท่ีไดจ้ ากการศกึ ษา ระบบงานในปจั จบุ นั 5. ……/….การสร้างแบบจาลองของปัจจุบนั ประกอบด้วย 1.แบบจาลองของระบบปจั จบุ ันในเชิงกายภาพ 2. แบบจาลองของระบบปจั จุบันในเชงิ ตรรกะ 6. ……/….การสร้างแบบจาลองของระบบใหม่ ประกอบดว้ ย 1.แบบจาลองของระบบใหม่ในเชิงตรรกะ 2.แบบจาลองของระบบใหมใ่ นเชิงกายภาพ 1. …..X…..หลักการศึกษาการเปน็ ไปได้มีทง้ั หมด 5 ดา้ นใชห่ รอื ไม่ 2……/….. การศกึ ษาการเปน็ ไปไดห้ มายถงึ การพิจารณาถึงความเหมาะสมและประโยชน์ทจ่ี ะไดร้ บั เมื่อเปรียบเทียบ กับทรัพยากรที่ใช้ไป ทาให้องค์กรสามารถตัดสินใจกาหนดทางเลือกในการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3……X….. ต้นทนุ ที่จับต้องไดแ้ บ่งออกได้ทัง้ หมด 4 กล่มุ 4……/….. ความหมายของต้นทนุ ทจ่ี บั ตอ้ งได้หมายถงึ ตน้ ทนุ ทส่ี ามารถวัดคา่ ในเชิงตัวเลขได้

5……/….. ความหมายของตน้ ทนุ ทีจ่ ับตอ้ งไมไ่ ด้คือต้นทุนท่ไี ม่สามารถวัดคา่ ในเชิงตัวเลขได้ 6. .....X…..ผลตอบแทนที่เก่ยี วข้องกับการพัฒนาระบบมี 3 ประเภท 7. ...../.....ผลตอบแทนทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั การพฒั นาระบบประกอบไปดว้ ย ผลตอบแทนทจี่ บั ตอ้ งไดแ้ ละ ผลตอบแทนที่ จับตอ้ งไมไ่ ด้ 15......X.....การวางแผนการใชท้ รพั ยากรเป็นขนั้ ตอนแรกของการจักทาแผนโครงการ 16...../......ทัศนคติของผู้ใช้กับการพฒั นาระบบ เปน็ ปจั จยั ทที่ าใหเ้ กดิ ความเสีย่ งตอ่ การพฒั นาระบบ 17...../......แผนยทุ ธศาสตรข์ องการพฒั นาระบบมที งั้ หมด 3 ด้าน 18...../......ยุทธศาสตรด์ ้านการพัฒนา ไมใ่ ช่การพฒั นาระบบของแผนยุทธศาสตร์ 19......X.....การศกึ ษาความเป็นไปได้ ไม่ได้อยู่ในขน้ั เตรียมการของโครงการ 20.....X.....ข้ันตอนการเตรีมการมที งั้ หมด 4 ขนั้ ตอน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook