โครงงานวชิ า การศกึ ษาค้นควา้ และสร้างองค์ความรู้ (IS๑) เรือ่ ง การปลกู ผักแบบไฮโดรโปนกิ ส์ วชิ า I๓๐๒๐๑ การศึกษาค้นควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ จดั ทาโดย นายปญั ญา แสงทวคี ริ ีกลุ เลขท่ี ๑ นายกฤตพจน์ พรหมรกั ษ์ เลขที่ ๑๒ นายเมอื งแมน เวทา เลขท่ี ๒๑ นายจริ เมธ ถาวร เลขที่ ๒๕ นายอนศุ ษิ ฏ์ ลือยศ เลขท่ี ๓๐ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕/๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ ครูท่ีปรึกษาโครงงาน นายดารงค์ คันธะเรศย์ โครงงานนเ้ี ป็นสว่ นหน่ึงของการศกึ ษา วิชา การศึกษาค้นคว้า และสรา้ งองค์ความรู้ (IS๑) โรงเรยี นปวั อาเภอปวั จงั หวดั น่าน สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาน่านมธั ยมศกึ ษา เขต ๓๗
ก ชอื่ โครงงาน โครงงานวชิ า การศึกษาคน้ คว้า และสร้างองค์ความรู้ เรอื่ ง การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ ช่อื นักเรยี น นายปัญญา แสงทวคี ริ ีกลุ , นายกฤตพจน์ พรหมรกั ษ์ ,นายเมอื งแมน เวทา นายจิรเมธ ถาวร , นายอนศุ ิษฏ์ ลอื ยศ ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕/๒ ชื่อครูท่ีปรกึ ษา นายดารงค์ คนั ธะเรศย์ โรงเรียน ปัว ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ บทคัดย่อ โครงงานวิชาการศกึ ษาค้นควา้ และสร้างองค์ความรู้ (IS๑)นีเ้ ป็นการศึกษาคน้ ควา้ โดยนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๕/๒ เรือ่ งการปลกู ผักแบบไฮโดรโปนิกส์ โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื เรียนรู้และศึกษาเก่ยี วกับ สารปลูกพชื ไร้ดิน เพ่อื ลดปัญหาเกี่ยวกบั ขอ้ จากัดในการทาการเกษตร เชน่ การไมม่ ีพืน้ ที่ทากิน ความแห้งสภาพดินไมส่ มบูรณ์ เพอ่ื สนบั สนนุ และส่งเสรมิ ให้เกษตรหันมาลดการใช้สารเคมี และยาปราบศัตรูพชื ซงึ่ จะส่งผลดีต่อผบู้ รโิ ภคได้ บรโิ ภค พชื ผักท่ีปลอดสารพิษ และเพ่ือเสรมิ ทักษะการเรยี นรู้เพ่ือจะไดน้ าไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ ในอนาคต วธิ ีดาเนนิ งาน มีการประชุมวางแผน ไปศกึ ษาเรียนรู้เรอ่ื ง การปลูกผักแบบไฮโดรโปนกิ ส์จากวิทยากร ทอ้ งถิน่ และลงมอื ปฏบิ ตั ปิ ลูกผกั แบบไฮโดรโรนิกส์ สรุปผลและรายงานโครงงาน ผลการดาเนินการ จากผล การตรวจสอบคุณภาพและประสทิ ธภิ าพการใช้งาน โดยกสารนาผกั ที่ปลกู แบบไฮโดรโปนกิ สไ์ ปรับประทานผล ปรากฏวา่ ผกั ทป่ี ลูกนนั้ มรี สชาตดิ ีและรบั ประทานได้ และการศึกษาเรียนรู้ เรื่อง ไฮโดรโปนกิ ส์ถูกวิธีและมี ประสิทธภิ าพในการบรโิ ภค
ข กิตติกรรมประกาศ โครงงานประดิษฐ์ เร่ือง การปลกู ผักแบบไฮโดรโปนกิ ส์ ได้คาปรึกษาขั้นตอนการทาโครงงานการ เขียนรายงานโครงงาน และได้รับคาแนะนาจาก คุณครู ดารงค์ คนั ธะเรศย์ ด้วยดีมาตลอด และวิทยากร ท้องถิน่ นาย ไกยศกั ดิ์ พรมรักษณ์ ทใี่ ห้ความรใู้ นเรือง การปลูกผักแบบไฮโดรโปนกิ ส์ คณะผจู้ ดั ทา ขอขอบพระคุณเป็นอยา่ งสงู ณ โอกาสนี้ด้วย คณะผูจ้ ัดทา นายปญั ญา แสงทวคี ริ ีกลุ นายกฤตพจน์ พรหมรักษ์ นายเมอื งแมน เวทา นายจิรเมธ ถาวร นายอนุศิษฏ์ ลอื ยศ
สารบญั ค เร่ือง หน้า ก บทคดั ย่อ ข กิตติกรรมประกาศ ๑-๓ บทที่ ๑ บทนา ๔-๙ บทท่ี ๒ เอกสารที่เกย่ี วข้อง ๑๐ บทท่ี ๓ อุปกรณ์และวิธีการศึกษา ๑๐ ๑๑-๑๖ อุปกรณ์และวัสดทุ ใี่ ช้ ๑๗ วธิ กี ารศกึ ษา ๑๘ บทที่ ๔ ผลการศึกษาและอภิปรายผลการศกึ ษา ๑๘ บทที่ ๕ สรุปผลของการศึกษา ๑๘ ประโยชนท์ ่ีได้จากโครงงาน ๑๙ ขอ้ เสนอแนะ เอกสารอ้างอิง
๑ บทท่ี ๑ บทนา ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ประเทศไทยเปน็ ประเทศเกษตรกรรมมาตัง้ แต่อดตี การปลูกพืชในสมยั ก่อน จะใช้วิธกี ารปลูก พชื ในดิน ซึ่งการปลกู พืชในดินก็เป็นวธิ ีท่ีนยิ มปฏิบตั กิ นั ทวั่ ไป เพราะเปน็ วธิ ที ่งี ่าย ประหยัดคา่ ใช้จา่ ยและไมต่ ้อง ดูแลรักษาเปน็ พิเศษ แตก่ ็พบปัญหามากเช่นกัน เช่น ปญั หาสภาพอากาศ มีพืน้ ท่ีไม่เพยี งพอ ดังน้นั คณะผ้จู ัดทา จงึ ได้เห็นวา่ มีวิธที ีง่ ่ายกว่าน้นั คอื การปลูกพชื แบบไฮโดรโปนกิ ส์ ซ่ึงการปลกู พืชแบบไฮโดรโปนกิ ส์ มี ประโยชน์หลัก ๒ ประการ คือ สามารถควบคมุ สิง่ แวดล้อมได้มากข้นึ สาหรับการเจริญเติบโตของพชื ประการท่ี สอง คือ พชื หลายชนิดจะให้ผลผลติ ได้มากในเวลาที่น้อยกว่าเดมิ และในบางครัง้ ก็มีคณุ ภาพทีด่ ีกว่าเดิม การ ปลกู พืชแบบไฮโดรโปนิกส์ จะใหผ้ ลกาไรแกเ่ กษตรกรมากข้นึ และดว้ ยการปลูกท่ีไม่ใช้ดินจงึ ทาใหพ้ ืชไม่มโี รคท่ี เกดิ ในดิน ไม่มีวัชพชื ไม่ต้องจัดการดิน และยังสามารถปลูกพชื ใกลก้ นั มากได้ ด้วยเหตนุ ี้ ผูจ้ ดั ทาโครงการจงึ เห็นว่าการปลกู ผักแบบไรด้ นิ เปน็ นวตั กรรมใหม่ ท่ีจะทาให้การเกษตรของบ้าน เราสามารถกา้ วไกลไปได้อกี อีกท้ังยงั สามรถทาได้โดยไมต่ ้องมีพ้นื ท่ี ทก่ี วา้ งขวางมากนัก และเป็นอกี หนึ่ง ทางเลอื กของผู้สนใจทีจ่ ะทาการเกษตรในแนวน้ี เพราะในปัจจุบนั ผบู้ รโิ ภคส่วนใหญห่ ันมาใหค้ วามสาคัญกับ การรบั ประทานพชื ผกั ทป่ี ลอดสารพิษกนั มากขน้ึ อีกท้งั ยงั เป็นการลดปัญหาส่ิงแวดล้อมและปัญหาต่อสุขภาพ ตอ่ เกษตรกรและผู้บรโิ ภคด้วย ดงั นน้ั ทางผ้จู ัดทาจงึ ได้มีวตั ถุประสงค์ในทาการเผยแพร่ความรู้ และวิธีการปลูก ผกั ไฮโดรโปนิกส์ผ่านทางเว็บไซต์SITE ในรูปแบบเวบ็ บล็อกเพอื่ หวังวา่ จะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้คนยุคใหมไ่ ด้ สนใจ
๒ วัตถุประสงค์ ๑. เพ่อื เรยี นรู้และศกึ ษาเก่ียวกบั สารปลูกพชื ไรด้ นิ ๒. เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกบั ข้อจากัดในการทาการเกษตร เช่น การไมม่ ีพ้นื ท่ีทากนิ ความแหง้ สภาพดินไม่ สมบรู ณ์ ๓. เพอ่ื สนบั สนุนและส่งเสริมให้เกษตรหนั มาลดการใชส้ ารเคมี และยาปราบศัตรูพืช ซึ่งจะส่งผลดีต่อ ผูบ้ รโิ ภคได้บรโิ ภคพชื ผักท่ีปลอดสารพิษ ๔.เพอื่ เสริมทักษะการเรียนรเู้ พื่อจะได้นาไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชพี ในอนาคต สมมติฐานของการศึกษา \"ผักท่ีปลูกโดยวธิ ีไฮโดรโปนิกส์มกี ารเจริญเตบิ โตทดี่ เี ทียบเทา่ กับการปลูกในดนิ เพาะปลูก\" ตัวแปรต้น: การปลูกผกั โดยวิธีไฮโดรโปนกิ ส์ ตวั แปรตาม: การเจริญเตบิ โตของผักโดยวิธไิ ฮโดรโปนกิ ส์ ตัวแปรควบคมุ : น้าและปริมาณธาตอุ าหารa และธาตุอาหารb
๓ ขอบเขตของโครงงาน ๑. ผักทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา คือผกั สลดั ผกั บ้งุ ต้นถั่วเขยี ว ๒. เนือ้ หาทีใ่ ช้ในการศึกษา เป็นเนอื้ หาทเี่ ลือกจากปญั หาท่พี บในโรงเรยี นหรือเรอ่ื งท่ีนักเรยี นสนใจ คือ ศึกษาวธิ ีการปลกู ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ ศึกษาการใช้โปรแกรม google site ในการพฒั นาเวบ็ ไซต์ ๓. ระยะเวลา การดาเนินงานครัง้ นใ้ี ช้ระยะเวลาต้งั แตก่ รกฎาคม เดือน ถงึ เดอื นกนั ยายน พ.ศ.๒๕๖๒ ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะได้รบั ๑.สามารถทารายได้แก่ตนเองและครอบครัวได้ ๒.สามารถฝึกใหต้ นเองเปน็ ผู้มีความรับผดิ ชอบ มวี นิ ยั และมคี วามอดทน ๓.สามารถบริโภคผกั โดยไม่ต้องกังวลวา่ จะปนเปื้อนสารเคมี
๔ บทท่ี ๒ เอกสารท่เี ก่ียวข้อง ความเป็นมา ความหมายของไฮโดรโปนิกส์ การปลกู พืชด้วยวธิ ีไฮโดรโปนิกส์ คอื การปลูกพืชในน้าทีม่ ธี าตอุ าหารพชื ละลายอยู่ หรือการปลกู พชื ใน สารละลายธาตุอาหารพืช ทดแทนการปลูกพชื ในดินที่เราใช้ในการปลกู พชื ในการเกษตรทั่วไป คาวา่ ไฮโดรโปนิกส์ (hydroponics) เป็นคาผสมระหว่างคา ๓ คา คือ ไฮโดร (hydro) หมายถึงนา้ โปโนส (ponos) เป็นคาทม่ี าจากภาษากรีก หมายถึงการทางาน และ อิกส์ (ics) หมายถึงศาสตรห์ รอื ศลิ ปะ ซง่ึ เม่ือรวมคาทง้ั ๓ คาเขา้ ดว้ ยกนั จงึ มีความหมายตามรปู ศัพทว์ ่า ศาสตร์หรือศิลปะว่าดว้ ยการทางานของน้า ที่มา:http://www.myhomeveg.com/index.php0 ความหมายของผักบุ้ง ผักบงุ้ เป็นพชื ท่ีอยู่ในวงศ์ผักบุ้ง (Convolvulaceae) พบทัว่ ไปในเขตร้อน และเปน็ ผักที่คนทอ้ งถ่ิน เชน่ ไทย เวียดนาม กมั พูชา มาเลเซยี และกานา นยิ มรับประทานเป็นอาหาร ผกั บุง้ ที่คนไทยนยิ มนามาประกอบอาหารมี ๓ สายพันธุ์ คอื ผกั บุ้งไทย ผักบงุ้ นาและผักบุ้งจีน โดยผักบุง้ ไทยมักปลกู ในนา้ เพราะเจริญเตบิ โตได้ดีกวา่ บนบก ส่วนผักบ้งุ จีนจะปลกู ในดนิ เพราะตอ้ งการธาตุอาหารจากในดนิ มากกวา่ ที่มา:https://th.wikipedia.org/wiki/ ความหมายของผักสลดั ผกั กาดหอม (ชือ่ วิทยาศาสตร์: Lactuca sativa) เป็นพชื ในวงศ์ Asteraceae ลาต้นเตยี้ แตส่ ว่ นทเ่ี จรญิ มาก ที่สุดคอื ใบ แตล่ ะสายพันธ์ุกม็ ีชว่ งฤดกู าลทเี่ หมาะสมไมเ่ หมือนกัน มีถน่ิ กาเนดิ ในทวีปเอเชียและยโุ รป ประเทศ
๕ จีนปลกู ผักกาดหอมมาตง้ั แต่ครสิ ต์ศตวรรษท่ี ๕ ผกั กาดหอมมีช่ือเรียกอ่นื ๆ อีกเช่น ผกั สลดั ผกั กาดยี พังฉา้ ย เปน็ ตน้ ทมี่ า:https://th.wikipedia.org/wiki/ แนวคดิ ของการปลกู ผกั แบบไฮโดรโปนกิ ส์ การปลูกพชื ดว้ ยระบบไฮโดรโปนกิ ส์ หรือระบบไร้ดนิ นไ้ี ด้เร่ิมข้นึ ตงั้ แตย่ ุค อรสิ โตเติล แตเ่ ข้าทางวิทยาศาสตร์ เรม่ิ ต้นประมาณ ๔๐๐ ปที ่ีผ่านมา นับตัง้ แต่ ปี ค.ศ. ๑๖๐๐ Jan Van Helmont นกั วิทยาศาสตร์ชาวเบลเยยี่ ม ได้ทดลองปลูกต้นวิลโล ( Willow Tree) ในดนิ ท่บี รรจุไว้ในท่อแลว้ รดน้าด้วยน้าฝนติดต่อกันเป็นเวลา ๕ ปี เขา พบวา่ ต้นวลิ โลมีน้าหนกั เพ่มิ จาก ๕ ปอนด์ เป็น ๑๖๙ ปอนด์ ในขณะทดี่ นิ ปลูกน้าหนกั หายไปเล็กน้อย เขา สรุปว่าพชื ไดร้ ับธาตุอาหารจากน้าในการเจริญเติบโต ในปี ค.ศ. ๑๖๙๙ นกั พฤกษศาสตร์ชาวองั กฤษช่อื John Woodward เป็นผูท้ ดลองปลูกพชื แบบไร้ดินน้โี ดยบงั เอิญ จากการทดลองถึงสารใดบ้างที่ทาให้พืชเจริญเติบโต ต่อมาในปี ค.ศ. ๑๘๖๐ Sachs และ ค.ศ. ๑๘๖๑-๑๘๖๕ Knop นกั สรรี วิทยาทางพฤกษศาสตร์ ชาวเยอรมัน เปน็ ผทู้ ่ีเรม่ิ ปลูกพชื ไฮโดรโปนิกส์ดว้ ยหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์สมยั ใหม่อย่างแท้จรงิ สามารถปลกู พืชด้วย สารละลาย โดยใชเ้ กลอื อนนิ ทรยี ์ต่าง ๆ ใส่ลงไปในน้าทีใ่ ชใ้ นการปลกู โดยมี ธาตอุ าหารต่าง ๆ ท่พี ชื ต้องการ ซึ่งถอื วา่ เป็นตน้ ตารับของสูตรธาตุอาหารทใ่ี ช้กันมาถึงปจั จุบัน โดย ในปี ค.ศ. ๑๙๒๐-๑๙๓๐ ศาสตราจารย์ ชาวอเมรกิ ัน William.F.Gericke มหาวิทยาลยั แคลิฟอร์เนยี เปน็ คนแรกที่นาเทคนิคการปลกู พืชแบบนี้ไประ ยุกตใ์ ชเ้ พื่อปลูกพืช จากการทดลอง ของเขาพบว่าวิธีน้ีสามารถปลกู พืชไดเ้ กือบทุกชนิด นอกจากจะผลิตพืช ได้มากแล้วยังสามารถใช้ปลูกพชื ได้ในพื้นท่ีท่ีไม่มดี ินเหมาะสมตอ่ การปลูกพชื เชน่ ในสภาพที่มีแต่หินบนหมู่ เกาะในมหาสมทุ รแปซิฟกิ ซ่ึงทหารชาวอเมริกนั ได้ใชว้ ธิ ีนปี้ ลูกพชื ฝกั เพื่อรบั ประทานสดไดท้ กุ วนั โดยเฉพาะทโ่ี ซ ฟุ (Chofu) ประเทศญีป่ ุ่นจากน้นั การปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์จึงแพร่หลายไปยงั ประเทศต่าง ๆ ทวั่ โลก ที่มา:http://www.clinictech.most.go.th/online/Usermanage/FinalReport/201212241125501.pdf ความสาคญั ของการปลูกผกั ไฮโดรโปนิกส์ การปลกู พชื ไร้ดนิ เป็นเทคโนโลยที างเลอื กสาหรับการเกษตร ในพืน้ ที่ท่ีมขี ้อจากัดทางการเกษตร จากปัญหา การปลูกพชื ในดินติดต่อกันเป็นเวลานาน ทาให้เกิดปัญหาต่างๆ เชน่ ดินเคม็ ดนิ เปรยี้ ว แมลงศัตรูพืช ทาให้ ตอ้ งใชส้ ารเคมีมากขน้ึ เรื่อยๆ ซ่ึงสง่ ผลกระทบต่อมนุษยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ท้งั นี้ การปลกู พืชไรด้ นิ สามารถ
๖ หลีกเลย่ี งการเกดิ ปญั หาดังกลา่ วได้ ผลผลิตที่ไดเ้ ป็นผลผลิตทสี่ ะอาดปลอดภัยต่อผผู้ ลิต ผู้บริโภค และไม่ส่งผล กระทบต่อปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม ความสาคัญของผักบุง้ ผักบุ้ง ๑๐๐ กรัมจะให้พลงั งานถึง ๒๒ กโิ ลแคลอรี และประกอบไปดว้ ยดว้ ยเส้นใย วิตามิน และแร่ธาตุอนื่ ๆ เช่น วิตามนิ เอ วิตามนิ ซี วติ ามินบี ๑ วติ ามนิ บี ๒ วติ ามนิ บี ๓ แคลเซยี ม ฟอสฟอรัส และธาตเุ หลก็ เป็นตน้ ซ่ึง ผกั บุ้งไทยนัน้ จะมวี ติ ามนิ ซีสูงและมสี รรพคณุ ทางยามากกว่าผักบุ้งจีน แต่จะมีแคลเซยี มและเบตา้ แคโรทนี น้อ ยกวา่ ผักบงุ้ จนี หากรบั ประทานแบบสด ๆ ได้ก็จะทาใหค้ ณุ ค่าของวิตามนิ และแร่ธาตุไมเ่ สยี ไปกับความร้อนอีก ด้วยแต่มีข้อยกเวน้ คือผู้ท่ีเปน็ โรคความดันโลหิตตา่ ควรหลีกเล่ียงการรบั ประทานผักบงุ้ เน่ืองจากผักบงุ้ จะมี คณุ สมบัตลิ ดความดันโลหิต จนทาให้ความดันย่ิงต่าลงไปอีก อาจจะก่อใหเ้ กดิ การเป็นตะคริวได้ง่ายและบ่อยข้ึน และทาใหร้ า่ งกายออ่ นแอด้วย ความสาคญั ของผักสลัด ผกั สลดั มีคณุ คา่ ทางโภชนาการ คอื ประกอบด้วยวติ ามินบี วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และลูเทียน (lutein) มียาง (latex) ช่ือ แลคทคู าเรียม (lactucarium) ซึง่ มีระดบั สูงมากขณะออกดอก นอกจากนัน้ ยังมวี ติ ามินบสี ูงด้วย สรรพคุณของผักกาดหอมและวธิ ใี ชผ้ ักกาดหอม น้ันมักใชเ้ ป็น ผกั สลัด มสี ารตา้ นมะเร็งและสารต้านอนุมูล อสิ ระ เช่นเดียวกบั ผักสลัดที่มีสีเขียวอ่ืน ๆ ส่วนทใี่ ช้ประโยชน์ของผกั กาดหอมคือ ใบ เมล็ด และต้น ประโยชน์ของการปลกู ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ ไฮโดรโปนิกส์นนั้ มีประโยชนห์ ลักๆ 2 ประการด้วยกนั ประการแรกคอื ชว่ ยใหม้ สี ิง่ แวดล้อมทีค่ วบคุมได้มากขึน้ สาหรับการเติบโตของพชื แทนท่ีจะเปน็ การใช้ดนิ อย่างเดมิ ทาใหก้ าจดั ตวั แปรทไ่ี ม่ทราบออกไปจากการ ทดลองได้จานวนมาก ประการท่สี องก็คือ พชื หลายชนิดจะให้ผลผลติ ไดม้ ากในเวลาที่นอ้ ยกว่าเดิมและบางครง้ั กม็ ีคุณภาพท่ีดีกว่าเดิมดว้ ย ซ่ึงในสภาพแวดลอ้ มและสภาพการเศรษฐศาสตร์หน่ึงๆ การปลกู พืชแบบไฮโดรโป นกิ สจ์ ะให้ผลกาไรแก่เกษตรกรได้มากขึน้ และด้วยการปลกู ท่ีไมใ่ ช้ดิน จึงทาให้พชื ไม่มีโรคที่เกิดในดนิ ไม่มี วชั พชื และไม่ต้องจัดการดนิ และยงั สามารถปลูกพชื ใกลก้ ันมากได้ ด้วยเหตุนี้พชื จึงใหผ้ ลผลติ ในปริมาณท่มี าก กวา่ เดมิ ขณะท่ีใชพ้ ืน้ ทจ่ี ากดั นอกจากน้ยี ังมีการใชน้ า้ นอ้ ยมาก เพราะมีการใชภ้ าชนะหรือระบบวนน้าแบบปดิ เพือ่ หมุนเวยี นน้า เมื่อเทยี บกับการเกษตรแบบเดิมแล้ว นบั วา่ ใช้น้าเพียงสว่ นน้อยนิดเท่านั้น ด้วยคณุ ภาพที่กลา่ วมาข้างต้น ทาให้ไฮโดรโปนกิ ส์มีประโยชน์กับการปลกู พืชท่ีไม้ใชว่ ธิ กี ารแบบเดิมๆ นักเขยี น นิยายวทิ ยาศาสตร์ ไดเ้ สนอมานานแล้วว่า ไฮโดรโปนิกสจ์ ะทาให้สถานีอวกาศ หรือ ยานอวกาศ
๗ สามารถปลกู พชื ไรด้ ินได้เอง และคุณสมบัติดงั กลา่ วน้ที าใหไ้ ฮโดรโปนิกสเ์ หมาะอยา่ งยงิ่ สาหรบั ผทู้ ี่ตอ้ งการปลูก พชื โดยการการควบคมุ ปัจจยั ที่เก่ียวข้องได้มากที่สุด และมีความหนาแน่นสงู สุด ๑. ผักไฮโดรโปนิกสเ์ ปน็ ผักทีม่ ีคุณคา่ ทางอาหารสูง และไมม่ สี ารเคมีทีเ่ ปน็ พิษต่อรา่ งกาย ๒. มีความปลอดภยั ต่อผูบ้ รโิ ภคสูง เนอื่ งจากการปลูกผักไร้ดินเปน็ การนาสารละลายธาตุอาหารมาละลาย โดยใช้ ธาตุอาหารท่ีเหมาะสมกบั ความต้องการพืช เช่นเดยี วกับการปลกู พืชบนดนิ แต่ตา่ งกนั ตรงที่ผักที่ปลกู ในดิน จะต้องอาศัยจลุ ินทรยี ์มาเปล่ยี นเปน็ อาหาร ทาใหบ้ างครงั้ หากในดินมธี าตุโลหะหนักทีเ่ ปน็ พษิ ต่อผู้บริโภค จุลนิ ทรียก์ ็จะเปลย่ี นให้พืชสามารถดูดธาตทุ ่ีเป็นพิษเข้าไปได้ ในขณะที่การปลกู พืชไร้ดิน จะสามารถควบคุมแร่ ธาตทุ ี่มคี วามจาเปน็ ต่อการเจริญเตบิ โตของพชื ได้ ผูบ้ รโิ ภคจงึ ได้รบั ประทานผกั สดสะอาดทมี่ ีความปลอดภยั สูง ๓. ข้อดีของการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนกิ ส์ คอื การคงคุณประโยชนท์ โ่ี ดดเด่นทีส่ ดุ ของผกั เอาไว้ได้อยา่ งเต็มท่ี เชน่ กากใยอาหาร ท่ีเป็นตัวชว่ ยในการล้างผนังลาไสแ้ ละเปน็ ตวั ชว่ ยในการขับถา่ ย ๔. มีการรบั รองว่าพืชผกั ไร้ดินจะมปี ริมาณแร่ธาตุที่เปน็ ประโยชนเ์ ทา่ กับพืชผกั ที่ปลูกบนดนิ หรือสูงกว่าเลก็ น้อย แต่พชื ผกั ไร้ดินจะมีกลิน่ ท่ีมาจากนา้ มันหอมระเหยและมรี สชาตนิ า่ ชวนชมิ มากกว่าพชื ผกั ทป่ี ลูกบนดนิ ๕. ผักไฮโดรโปนิกส์ท่นี ยิ มส่วนใหญ่จะเป็นผกั สลดั ทนี่ ามารบั ประทานสด เช่น ผกั กรนี คอส (Green Cos) เปน็ ผกั ท่ี อดุ มไปด้วยธาตเุ หลก็ ทีช่ ่วยปอ้ งกันโรคโลหติ จาง นอกจากจะใช้เป็นส่วนประกอบในสลดั แลว้ ยังนยิ มนาไปผดั นา้ มนั อีกด้วย, ผักกรีนโอ๊ค (Green Oak) หรือ ผักเรดโอ๊ค (Red Oak) เป็นผักทอ่ี ดุ มไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี โฟเลท และธาตเุ หล็ก, ผกั เรดคอรลั (Red Coral) เป็นผกั ที่อุดมไปด้วยใยอาหาร โฟเลท สารตา้ นอนมุ ลู อิสระ รวมไปถงึ เบต้าแคโรทนี , ผักบัตเตอร์เฮด (Butterhead) เป็นผักท่อี ดุ มไปด้วยโฟเลทและสารตา้ นอนุมลู อสิ ระ เปน็ ตน้ ทีม่ า: https://jaruwon.wordpress.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9 %88- ข้ันตอนการปลกู ผักแบบไฮโดรโปนกิ ส์ ๑. การเตรียมพื้นท่ีและโตะ๊ ปลูก ประกอบโต๊ะปลูกและตดิ ตัง้ ตามวิธกี ารประกอบชดุ ไฮโดรโปนกิ ส์ และนาโต๊ะ ปลกู มาวางในตาแหนง่ ท่ีได้รบั แสงแดดอย่างนอ้ ย ๖ ชัว่ โมง/วนั
๘ ๒. พนั ธแ์ุ ละเมลด็ พนั ธ์ผุ กั เมลด็ พนั ธุผ์ กั มี ๒ ชนดิ คอื ๒.๑ฉเคลอื บดินเหนยี ว เน่ืองจากเมล็ดผกั มีขนาดเล็ก ทาให้เปน็ อนั ตรายและสูญเสียได้ง่าย จงึ มกี ารเคลือบ เมล็ดดว้ ยดินเหนียว เมลด็ ที่เคลอื บจะมีอายุการเก็บรักษาส้ัน เนอ่ื งจากไดม้ ีการกระต้นุ การงอกมาแลว้ แตจ่ ะ สะดวกสาหรับการใช้งาน ๒.๒ ไมเ่ คลือบ คอื เมลด็ พันธ์ปุ กติ ๓. การเพาะตน้ กลา้ นาวัสดปุ ลูก เช่น เพอรไ์ ลท์ เวอรม์ คิ ูไลท์ ใส่ถ้วยเพาะและนาเมลด็ ผักใสต่ รงกลางถ้วย กลบเมล็ดและรดน้าให้เปียกและเกบ็ ไวใ้ นท่ีปลอดภัย รดนา้ ทุกวัน ประมาณ ๓-๕ วนั เมล็ดเร่ิมงอก และเร่ิมให้ สารละลายอ่อนๆ แทนนา้ ๔. การปลกู บนราง ขนาด 1.5 เมตร ๔.๑ ตัวอย่างเตมิ น้า 10 ลิตร และเตมิ สารอาหาร A และ B อยา่ งละ ๑๐๐ ซซี ี หรอื ๑๐ ซีซี/นา้ 1 ลิตร ๔.๒ นาตน้ กล้าท่แี ข็งแรง อายุประมาณ 2 สัปดาห์ ยา้ ยมาวางบนโต๊ะปลกู และเดินเครื่องปมั๊ นา้ ๕. การดแู ลประจาวนั ๕.๑ รักษาระดบั น้าให้อย่ใู นระดับควบคุมอยู่เสมอ เชน่ ๑๐ ลติ ร ๕.๒ ควบคมุ ค่า EC อยรู่ ะหวา่ ง ๑-๑.๘ โดยเคร่ือง EC meter ปรบั ลดโดยการเพิม่ นา้ และปรับค่า EC เพิ่มโดย การเพ่ิมปุ๋ย กรณีไม่มีเครือ่ งวดั สามารถประมาณการเตมิ สารอาหาร A และ B ดงั ตาราง ๕.๓ ควบคมุ ค่า pH อย่รู ะหว่าง 5.2-6.8 โดยเคร่ือง pH meter หรอื pH Drop test ปรับลดโดยการกรด ฟอสฟอริก หรือกรดไนตริก (pH down) และปรับคา่ pH เพมิ่ โดยการเติมโปตัสเซียมไฮดรอกไซด์ (pH up) ปรมิ าณ ๒-๓ หยด ๖. การเก็บเกยี่ ว เก็บเกยี่ วเม่ืออายุ ๔๕ วัน ทมี่ า:https://sites.google.com/site/nutnewgarden/home/index2 งานวจิ ยั เก่ียวกบั การปลกู ผักแบบไฮโดรโปนิกสใ์ นไทย สาหรบั ในประเทศไทยงานวิจยั การปลูกพืชดว้ ยวธิ ีไฮโดรโปนิกสไ์ ดเ้ รม่ิ มา ๔๐ ปี โดยภาควชิ าพฤกษศาสตร์ คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ (วฒั นา เสถียนสวัสด์ิ, ๒๕๔๖ )และไดม้ ีการปลูกผกั ในวิธี
๙ ดังกลา่ วเชิงพาณชิ ย์ของประเทศไทยเป็นเจ้าแรกโดยฟารม์ นาดตี ะ อาเภอมหาชยั จงั หวัดสมุทรสาคร (การปลกู พืชโดยไม่ใชด้ นิ , ๒๕๔๙)โดยในปัจจุบันการปลกู แบบไฮโดรโปนิกสน์ น้ั มหี ลายวิธี ซึ่งวธิ ีทไ่ี ด้รับความนยิ มและใช้ อย่างแพรห่ ลาย ไดแ้ ก่ Nutrient Film Technique (NFT) คอื การปลูกพืชโดยให้รากพืชแช่อยู่ในรางนา้ สารละลายธาตุอาหารท่ีไหล ผา่ นเปน็ ฟิลม์ บาง ๆ ประมาณ ๒-๓ มลิ ลิเมตรอย่างชา้ และต่อเน่ืองโดยสารละลายที่เหลือจะไหลกลบั ไปรวมที่ ถังท่ีมีเครื่องสบู น้าน้าไฟฟ้าสบู สารละลายหมุนเวียนมาเลี้ยงรากพชื อีก เป็นระบบที่ใช้นยิ มปลูกผกั สลดั ชนดิ ตา่ ง ๆ โดยใช้ถังรวมสารละลายท่มี ีขนาดเล็กกว่าระบบอ่นื แตถ่ า้ ระบบไฟฟ้าขัดข้องจาเป็นตอ้ งมรี ะบบไฟฟา้ หรอื เครื่องสูบน้าสารองไวแ้ กป้ ญั หาดว้ ย Deep Flow Technique (DFT) เทคนิคน้ีถูกนามาประยุกตใ์ ช้ในไทย เพราะเป็นระบบที่ลงทุนปลกู ถูกกว่า ระบบ NFT คอื การปลกู พืชโดยให้รากพชื แช่อยู่ในกระบะน้าสารละลายธาตุอาหารท่ีมรี ะดับความลึกประมาณ ๒-๑๕ ซ.ม. ระบบนี้สามารถใช้ปลกู ผกั ไทยและสลดั ได้ดี แต่จาเปน็ จะตอ้ งระวังในเร่ืองของอณุ หภมู ิของ สารละลายไม่ให้สงู เกินไป Dynamic Root Floating Technique (DRFT) คือการปลูกพชื ทม่ี ีรูปแบบผสมผสานระวา่ งNFT และ DFT โดยใหร้ ากพืชแช่อยู่ในรางน้าสารละลายธาตอุ าหารท่ีไหลผ่านโดยมีระดับความสูงของน้าในรางมากกวา่ แบบ NFT อยา่ งชา้ และตอ่ เนื่อง ซง่ึ ระบบน้ียงั มีการเพ่ิมอุปกรณ์ปรับระดบั การไหลเวยี นของอากาศและสารลายให้ สอดคล้องการเจรญิ เติบโตของพืชอีกดว้ ย โดยระบบนม้ี ักนิยมใชป้ ลกู ผักจีนและสลัดต่าง ๆ ทีม่ า:http://www.clinictech.most.go.th/online/Usermanage/FinalReport/201212241125501.pdf
๑๐ บทที่ ๓ อุปกรณ์และวธิ ีการศกึ ษา วัสดุอปุ กรณ์ ๑. เมลด็ ผกั บ้งุ และผักกาดขาว อยา่ งละ ๓ ซอง ๒. แผน่ ฟองนา้ สาเรจ็ รูปแบบตัด ๓. ขวดนา้ พลาสตกิ ๔. กลอ่ งพลาสติก ๕. ปยุ๋ ไฮโดรโปนิกส์ A และ B วธิ ดี าเนนิ งาน ๑.รวบรวมข้อมูลเบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั การปลกู ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ ๒. ทาการทดลอง ๒.๑ นาเมล็ดมาเพาะในฟองน้า 2.2นาเมลด็ ที่ใส่ในฟองน้าเเล้วนาไปแช่น้าไว้1สปั ดาห์ ๒.๓ สงั เกตกุ ารณ์เจริญเตบิ โตของเมล็ด ๒.๔ ตัดขวดน้าเปล่า ขวดขนาด500มิลลลิ ิตร ๒.๕ นาน้าเปลา่ 500มลิ ลลิ ติ รมาใสข่ วดทตี่ ดั เตรยี มไว้ ๒.๖ นาสารอาหารA,B ทเ่ี ตรียมไวม้ าลงในขวดที่มนี า้ เปลา่ ๕๐๐มลิ ลลิ ติ รขวดละ๑.๕ซซี ี ๒.๗ นาต้นออ่ นของผกั ที่เพาะไวม้ าลงใส่ขวด ๒.๘ สังเกตุและบันทกึ ผล
๑๑ วิธกี ารศึกษาค้นคว้า ๑. ประชุมวางแผน ๒. ออกปฏบิ ัติการสัมภาษณ์ผรู้ ูใ้ นทอ้ งถิน่ ๓. ค้นคว้าข้อมลู จากอนิ เตอร์เน็ต ๔. ทดลองปลกู ผักไฮโดรโปรนกิ ส์ ๕. สรปุ ผลและรายงานโครงงาน ข้ันตอนการปลูกผักแบบไฮโดรโปรนิกส์ ๑. ทาการเพาะเมลด็ โดยนาเมลด็ ผกั กาดไปเพาะในกระดาษทิชชูท่ ี่ชุบน้า ส่วนเมล็ดผักบุ้งนาไปแชน่ า้ เน่อื งจาก มเี มลด็ ท่ีใหญ่ จึงใช้เวลาในการงอกของรากนาน
๑๒ ๒ ผ่านไป ๓-๔ วนั รากจะเร่ิมงอกออกมา จึงทาการย้ายเมล็ดไปเพาะบนฟองนา้ โดยใช้ฟองนา้ ๑×๑ นว้ิ ชบุ น้าใหช้ ุ่ม แล้วปล่อยทิ้งไว้ อย่าให้โดนแดด ๓ เมอ่ื เมลด็ โตในระดบั นงึ แลว้ ทาการตดั ขวดพลาสตกิ แลว้ นาเมลด็ ท่ีเพาะในฟองนา้ ไป ไวใ้ นขวดน้า โดยขั้น ตอนนต้ี ้องระวังรากของพืชให้ดี
๑๔ ๔ ผ่านไปประมาณ ๑ สปั ดาห์ ใบจะเร่ิมแตกออก ชว่ งนี้สามารถโดนแดดได้ แต่ตอ้ งเป็นแดดออ่ นๆ และต้องนา กระดาษมาปิดขวดนา้ เพ่ือป้องกนั การเกดิ ตะไครน่ า้ ๖ ทาการผสมปยุ๋ A (สีแดงเข้ม) และปยุ๋ B (สเี ขยี วอ่อน) ผสมกับนา้ ๑ ลติ ร ๙ ตอ่ ๕๐๐ ซซี ี โดยทาการผสม ปุ๋ย A กบั น้าก่อน หลงั จากนั้นผ่านไป ๔ ช่วั โมง คอ่ ยทาการผสมปุ๋ย B เพ่ือปกป้องการเกิดการตกตะกอนของ ปุ๋ย
๑๕ ๖ ผ่านไปประมาณ ๒ -๓ สปั ดาห์ รากของเรากจ็ ะเรมิ่ ยาว
๑๖ ๗ หลงั จากน้นั ก็ตอ้ งหมน่ั ดแู ลอยา่ งสมา่ เสมอ รอวนั เติบโต
๑๗ บทที่ ๔ ผลการศึกษาและอภิปรายผลการศึกษา จากการทที่ าให้ผู้จัดทาโครงงานวิชา การศึกษาคน้ คว้า และสรา้ งองค์ความรู้ (IS๑) เรื่อง การปลกู ผักแบบไฮโดรโปนิกส์ในคร้งั น้ีทาใหผ้ ู้จัดทาโครงงานมีความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกบั การปลกู ผกั แบบไฮโดรโปนิกส์ จงึ ทาใหท้ ราบถงึ วธิ กี ารปลูก การดแู ลรกั ษาและทาให้มีความภาคภมู ใิ จกบั การปลูกผกั ไร้สารพิษดว้ ยตนเอง ไม่ ใช้สารเคมี สะอาด ปลอดภยั และสามารถต่อยอดโดยการปลูกผักไฮโดรโปนิกสข์ ายเป็นอาชพี มรี ายได้ ชีวิต รุ่งเรอื ง การปลกู ผักบุ้ง ผกั สลัด ตน้ ถว่ั เขียว ระยะเวลาทเ่ี ริม่ งอก ๑-๒ วัน ๓-๕ วนั ๑ วนั ระยะเวลาที่กาลัง ๑-๒ สปั ดาห์ ๒-๓ สปั ดาห์ ๑ สปั ดาห์ เจริญเตบิ โต ระยะเวลาท่ีโตเตม็ ท่ี ๑ เดอื น ๑ เดอื นครึง่ ๒ สปั ดาห์
๑๘ บทที่ ๕ สรุปผลการศกึ ษา สรปุ ผลการศกึ ษา ๑.จากการปลกู พชื แบบไฮโดรโปนิกสน์ ั้น สามารถทาให้พชื เจริญเติบได้เหมือนกับการปลูกพืชในดิน เพียงแตว่ ่าการปลูกพชื แบบไฮโดรโปนกิ สน์ ้ันต้องอาศยั อปุ กรณ์ทีก่ ารปลูกพชื ในดนิ ไม่ต้องใช้ สว่ นการปลกู พืช แบบไฮโดรโปนิกสไ์ มต่ ้องใช้ดิน ๒.จากการศึกษาเปน็ ทน่ี ่าพงึ พอใจ เนอื่ งจากการปลูกผักแบบไฮโดรโปนกิ สน์ ั้นมีรสชาตเิ หมือนกับผัก ท่ีปลูกตามดิน แตจ่ ะไมส่ ามารถรูถ้ ึงประโยชน์ของผกั ไฮโดรโปนิกส์เทียบเท่ากบั ผกั ทีป่ ลกู ตามดนิ หรอื ไม่ เพราะ การศึกษาครง้ั นี้มจี ดุ ประสงค์เก่ยี วกบั การปลูก ประโยชนท์ ีไ่ ดจ้ ากโครงงาน ๑. ไดเ้ รียนรู้และศึกษาเกี่ยวกับสารปลกู พืชไร้ดิน หรือการปลกู พชื แบบไฮโดรโปนิกส์ ๒. ได้ลดปญั หาเกยี่ วกบั ข้อจากัดในการทาการเกษตร เชน่ การไม่มีพ้นื ที่ทากิน ความแห้งสภาพดินไม่ สมบรู ณ์ ๓.ได้สนับสนนุ และสง่ เสรมิ ให้เกษตรหันมาลดการใชส้ ารเคมี และยาปราบศตั รูพชื ซง่ึ จะส่งผลดีต่อ ผูบ้ รโิ ภคไดบ้ รโิ ภคพชื ผักทป่ี ลอดสารพิษ ๔.ไดเ้ สรมิ ทักษะการเรียนรเู้ พอ่ื จะไดน้ าไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพในอนาคต ขอ้ เสนอแนะ ควรมีการจัดทาเนอ้ื หาของโครงงานให้หลากหลายให้ครบทุกกล่มุ สาระ การเรยี นรู้
๑๙ เอกสารอ้างอิง :http://www.myhomeveg.com/index.php0 https://th.wikipedia.org/wiki/ https://jaruwon.wordpress.com/ :http://www.clinictech.most.go.th/online/Usermanage/FinalReport/201212241125501.pdf
ภาคผนวก จลุ ินทรยี ส์ ังเคราะห์แสง
ธาตอุ าหารป๋ยุ AB
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: