ด้านที่-๑การปฏิบัติตน

สรปุ การประเมินการเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอยา่ งเขม้ ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย ครง้ั ที่ ๒ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ น ๑. วนิ ยั และการรกั ษาวนิ ยั ๑.๑ การแสดงออกทางอารมณ์ กรยิ า ท่าทาง และการสือ่ สารไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะต่อผ้เู รยี น ๑.๒ การแสดงออกทางอารมณ์ กรยิ า ทา่ ทาง และการส่ือสารไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะต่อ ผู้บงั คบั บัญชาเพื่อนร่วมงาน ผปู้ กครอง และบุคคลอืน่ ๑.๓ การมีเจตคตเิ ชงิ บวกกับประเทศชาติ ๑.๔ การปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบียบหลักเกณฑท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกับความเปน็ ข้าราชการ ๑.๕ การปฏิบัติตามกฎ ระเบียบหลกั เกณฑ์ท่ีเกยี่ วข้องกบั ความเป็นข้าราชการครู ๑.๖ การปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย

๑.๑ การแสดงออกทางอารมณ์ กรยิ า ทา่ ทาง และการสอ่ื สารไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะตอ่ ผเู้ รยี น ข้าพเจ้าแสดงออกทางอารมณ์ กริยา ท่าทาง พูดจาสุภาพ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ ปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรม เช่น เสียสละ มีน้าใจ ความเกรงใจ ความยุติธรรม ความเห็นอกเห็นใจ มี มารยาททง่ี ดงาม ใหค้ วามรกั และความเมตตาตอ่ ลกู ศิษยท์ ุกคน

๑.๒ การแสดงออกทางอารมณ์ กรยิ า ทา่ ทาง และการส่ือสารไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะต่อผบู้ งั คบั บญั ชาเพอ่ื น รว่ มงาน ผปู้ กครอง และบคุ คลอน่ื ข้าพเจา้ แสดงออกทางอารมณ์ กริยา ทา่ ทาง และการสื่อสารได้เหมาะสมกับกาลเทศะต่อ ผูบ้ งั คบั บัญชา เพื่อนร่วมงาน ผปู้ กครอง และบุคคลอ่ืน เชน่ ปฏิบตั ิตนเป็นผ้มู คี ณุ ธรรมจริยธรรม เสยี สละ มี น้าใจ ความเกรงใจ ความยุติธรรม ความเห็นอกเหน็ ใจ มีมารยาทท่งี ดงาม เช่อื ฟังและปฏิบตั ิตามคาสงั่ ของ ผบู้ งั คบั บัญชา เคารพผูท้ ีอ่ าวโุ สกว่าและวยั เดยี วกนั ด้วยการแสดงความเคารพทุกครง้ั ท่ีเจอกนั ๑.๓ การมเี จตคติเชงิ บวกกบั ประเทศชาติ ขา้ พเจา้ ปฏิบัตติ วั ในระบอบประชาธิปไตยและเคารพกฎหมาย เคารพ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ มกี ารจดั ปา้ ยนิเทศภายในช้นั เรียนเกยี่ วกับชาติ ศาสนาพระมหากษตั ริย์ และเข้ารว่ มถวายพระพรออนไลนเ์ นื่อง ในวนั เฉลิมพระชนพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จวชริ เกล้าเจ้าอย่หู ัว และวันเฉลมิ พระชนมพรรษา สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนินนี าถ พระบรมราชชนนพี ันปีหลวง และวนั แมแ่ ห่งชาติ

๑.๔ การปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบยี บหลักเกณฑท์ ่ีเกยี่ วขอ้ งกับความเปน็ ขา้ ราชการ ขา้ พเจ้าปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมาย ระเบยี บแบบแผน หลักเกณฑ์และวิธปี ฏิบตั ิราชการ รกั ษาระเบียบ วินัยในการเป็นข้าราชการท้ังในเวลาราชการและเวลานอกราชการ รกั ษาระเบียบวนิ ยั ในดา้ นการครองตน เชน่ ปฏิบัตหิ น้าท่คี รเู วรประจาวนั แตง่ กายสภุ าพเรียบร้อย ถูกต้องตามระเบยี บ การครองคน (ดูแลเอาใจใส่ นักเรยี นท่ีปรกึ ษาและทีจ่ ัดการเรียนการสอนพรอ้ มท้ังให้ค้าปรึกษากับนักเรียนท่ีตอ้ งการความชว่ ยเหลอื ) การ ครองงาน (รับผดิ ชอบงานที่ได้รบั มอบหมายเต็มความสามารถ ๑.๕ การปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบยี บหลักเกณฑท์ ี่เกย่ี วขอ้ งกับความเปน็ ขา้ ราชการครู ข้าพเจ้าปฏบิ ตั ติ นตามปฏิบัติตนตามระเบยี บ แบบแผน ข้อบงั คับ ข้อกาหนดเพื่อให้งานบรรลุ เป้าหมายโดยการมาทางานตรงตอ่ เวลา เขา้ ร่วมประชมุ แต่งกายถูกต้องเหมาะสมแตง่ กายดว้ ยความเหมาะสม กบั การทางานราชครู มีความรบั ผิดชอบ ไมล่ ะท้งิ หนา้ ที่ท่ีไดร้ บั มอบหมายและพรอ้ มปฏบิ ตั งิ านน้นั ๆใหส้ าเร็จ ตามเป้าหมายที่กาหนด

๑.๖ การปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ข้าพเจา้ รักษาวนิ ยั ทเ่ี ปน็ ข้อหา้ มและข้อปฏบิ ตั ิอย่างเคร่งครดั โดยศกึ ษาพระราชบัญญตั ิระเบียบ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๗ เพอ่ื เตือนตนไมใ่ หก้ ระทาความผิดทางวนิ ยั ราชการ และ ปฏิบตั ิตนตามข้อกาหนดของกฎหมายในฐานะพลเมืองของประเทศ

สรปุ การประเมินการเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอย่างเขม้ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ครงั้ ท่ี ๒ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ น ๒. คุณธรรม จรยิ ธรรม ๒.๑ การปฏบิ ตั ิตนตามหลักศาสนาทนี่ บั ถอื อยา่ งเครง่ ครัด ๒.๒ การเข้ารว่ ม ส่งเสริม สนบั สนุนศาสนกจิ ของศาสนาท่ีนับถอื อยา่ งสม่าเสมอ ๒.๓ การเห็นความสาคญั เข้ารว่ ม ส่งเสริม สนบั สนนุ เคารพกิจกรรมทแ่ี สดงถึง จารีตประเพณี วฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ หรือชุมชน ๒.๔ การเหน็ ความสาคญั เข้ารว่ ม ส่งเสรมิ สนับสนุน กิจกรรมทแี่ สดงถึง จารีตประเพณี วัฒนธรรม ของชาติ ๒.๕ การมจี ติ บริการ และจติ สาธารณะ ๒.๖ การตอ่ ต้านการกระทาของบุคคล หรือกล่มุ บุคคลทส่ี ง่ ผลตอ่ ความม่ันคง ของชาตหิ รือผลกระทบ เชงิ ลบตอ่ สงั คมโดยรวม

๒.๑ การปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ศาสนาทน่ี บั ถอื อยา่ งเครง่ ครดั ข้าพเจา้ มีความยดึ มนั่ และศรัทธาพระพทุ ธศาสนา ปฏิบัตติ นตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ เปน็ ผู้มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม เพ่ือการเปน็ ครูท่ีประกอบด้วยคุณงามและความดี ทาบญุ ตักบาตรเปน็ ประจา ซ่ึงกระทาดว้ ยความสานึกในจิตใจ ๒.๒ การเข้ารว่ ม สง่ เสริม สนบั สนนุ ศาสนกจิ ของศาสนาทน่ี บั ถอื อย่างสม่าเสมอ ขา้ พเจ้าดารงตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และเข้ารว่ มศาสนกจิ ของศาสนาพุทธ ปฏิบัตติ าม ขนบธรรมเนียมประเพณี ตลอดจนคา่ นิยมของสงั คม ทาให้ขา้ พเจา้ สามารถอย่รู ว่ มกับผู้อ่ืนในสงั คมไดอ้ ย่างมี ความสขุ เชน่ เขา้ วดั ทาบญุ ตักบาตร และร่วมกจิ กรรมทางศาสนาในวันสาคญั

๒.๓ การเหน็ ความสาคญั เขา้ รว่ ม สง่ เสรมิ สนบั สนนุ เคารพกจิ กรรมทแ่ี สดงถงึ จารีตประเพณี วฒั นธรรม ท้องถน่ิ หรือชมุ ชน ข้าพเจา้ เข้ารว่ มและให้ความร่วมมอื กบั ชมุ ชนและเขา้ รว่ มกิจกรรมต่าง ๆ ที่ชุมชนจัดข้ึน เช่นการ ทาบุญวัด งานพิธบี าเพญ็ กุศลศพ วันสาคัญทางพระพุทธศาสนา งานตา่ ง ๆ ที่ชมุ ชนุ จัดข้ึน ฯลฯ ๒.๔ การเหน็ ความสาคญั เขา้ รว่ ม ส่งเสรมิ สนบั สนนุ กจิ กรรมทแี่ สดงถึง จารตี ประเพณี วฒั นธรรมของชาติ ข้าพเจ้ารักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทย เขา้ ร่วมงานประเพณีตา่ ง ๆ

๒.๕ การมีจิตบรกิ าร และจติ สาธารณะ ข้าพเจา้ ให้มคี วามเต็มใจทีจ่ ะให้บริการด้านสาธารณประโยชน์ ชว่ ยเหลือผเู้ รียน งานโรงเรยี น เพอื่ นรว่ มงานร่วมงานโดยไม่หวังผลประโยชน์และสิง่ ตอบแทนใด ๆ ทั้งสนิ้ และเต็มใจบรกิ ารผทู้ ี่มาตดิ ต่อ ราชการผู้ปกครอง ๒.๖ การตอ่ ตา้ นการกระทาของบคุ คล หรือกลมุ่ บคุ คลทสี่ ง่ ผลต่อความมั่นคง ของชาตหิ รอื ผลกระทบเชงิ ลบตอ่ สงั คมโดยรวม ขา้ พเจา้ ติดตามข่าวสารจากรัฐบาลโดยตรง และไม่หลงเชอ่ื ขา่ วปลอมจากแหลง่ ขา่ วอน่ื ในการปอ้ งกนั ไวรัสโควดิ – 19 เพื่อไม่สงั คมหลงเชอ่ื ข่าวปลอมๆ

สรปุ การประเมนิ การเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอย่างเขม้ ตาแหน่งครูผชู้ ว่ ย ครง้ั ท่ี ๒ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ น ๓. พฒั นาวชิ าชพี และบคุ ลิกภาพอยา่ งตอ่ เนื่อง ๓.๑ การพฒั นาวิชาชีพและบุคลกิ ภาพอย่างต่อเนอื่ ง ๓.๒ การมวี สิ ัยทัศน์ ร้แู ละเขา้ ใจ สนใจ ติดตามความเปลี่ยนแปลงด้านวทิ ยาการ เศรษฐกิจ สังคม การเมืองของไทย และนานาชาตใิ นปัจจุบนั ๓.๓ การไมอ่ าศัยวิชาชีพแสวงหาผลประโยชนท์ ไ่ี มถ่ ูกต้อง ๓.๔ การมุง่ มั่นต่อการพัฒนาความรู้ความสามารถของผเู้ รยี น ๓.๕ การให้ความสาคญั ต่อการเข้ารว่ ม สง่ เสรมิ สนบั สนนุ กิจกรรมทเ่ี กี่ยวข้อง กบั วชิ าชีพครูอยา่ ง สมา่ เสมอ ๓.๖ รกั เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ สนบั สนนุ ใหบ้ รกิ ารผู้เรียนทกุ คน ดว้ ยความเสมอภาค ๓.๗ การประพฤติปฏบิ ตั ติ น เปน็ ทีย่ อมรบั ของผ้เู รียนผ้บู รหิ าร เพอื่ นร่วมงานผปู้ กครอง และชุมชน ๓.๘ การไมป่ ฏบิ ัติตนทสี่ ่งผลเชงิ ลบ ต่อกายและใจของผเู้ รียน ๓.๙ การทางานกับผ้อู ่นื ได้โดยยดึ หลกั ความสามคั คเี กื้อกลู ซึง่ กนั และกนั ๓.๑๐ การใช้ความรคู้ วามสามารถทมี่ ีอยู่นาให้เกิดความเปล่ยี นแปลง ในทางพัฒนาใหก้ ับผ้เู รยี น โรงเรียน หรือชุมชนในดา้ นใดดา้ นหนง่ึ ๓.๑๑ การยึดมัน่ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ

๓.๑ การพฒั นาวชิ าชพี และบคุ ลิกภาพอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ขา้ พเจ้าปฏิบัติตนเหมาะสมกับความเปน็ ครตู ามจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู สรา้ งบคุ ลิกภาพทีด่ ที ง้ั ด้านการแต่งกายเรยี บร้อย การใชว้ าจาท่สี ุภาพและด้านจิตใจท่ีมองส่งิ รอบข้างในดา้ นบวกและมีการศึกษา คน้ ควา้ ในการพัฒนาวิชาชพี ของตนเองอยู่ตลอด เข้ารว่ มการอบรม แลกเปล่ียนเรียนรู้กับเพอื่ นครู คณาจารย์ ทงั้ ในและนอกสถาบนั ๓.๒ การมวี สิ ยั ทัศน์ รแู้ ละเขา้ ใจ สนใจ ตดิ ตามความเปลย่ี นแปลงดา้ นวทิ ยาการ เศรษฐกจิ สงั คม การเมอื ง ของไทย และนานาชาตใิ นปจั จบุ นั ข้าพเจา้ มีการกาหนดเปา้ หมายในการปฏิบัติงานเปน็ ลาดบั ขนั้ ตอน ศึกษาค้นควา้ และติดตามข้อมูล ข่าวสารเพือ่ พัฒนาความร้ขู องตนเอง ในดา้ นเทคโนโลยกี ารเรยี นรู้ เศรษฐกิจ สังคม การเมืองของไทย และ นานาชาตใิ นปัจจุบันเพ่ือจะได้นามาวางแผน และปรบั ตัวเพื่อความกา้ วหนา้ ในวชิ าชพี และพฒั นาการเรียนการ สอนใหม้ ีความทันต่อเหตกุ ารณย์ คุ ปจั จบุ ัน

๓.๓ การไมอ่ าศยั วชิ าชีพแสวงหาผลประโยชนท์ ่ไี มถ่ กู ตอ้ ง ขา้ พเจา้ เห็นคุณค่าและความสาคัญของการ เปน็ ครูทีด่ ีอยู่เสมอ โดยมคี วามรักและศรัทธาในวชิ าชีพครู พงึ กระทาตนใหเ้ ป็นแบบอยา่ งทด่ี ีต่อ ศิษยท์ ้ังทางตรงและทางอ้อม ๓.๔ การมงุ่ มน่ั ตอ่ การพฒั นาความรู้ความสามารถของผเู้ รยี น ข้าพเจา้ ปฏิบตั งิ านสอนดว้ ยความรับผดิ ชอบ เต็มใจ เต็มกาลังความสามารถ ปฏบิ ัติหน้าทด่ี ้วยความ วิริยะอุตสาหะ เสียสละทงั้ เวลา แรงกาย และทุนทรัพยส์ ่วนตัว เพ่ือพัฒนาผูเ้ รียนให้เกดิ กระบวนการเรยี นรตู้ าม เป้าหมายท่ีกาหนดไว้

๓.๕ การให้ความสาคญั ตอ่ การเขา้ รว่ ม ส่งเสรมิ สนับสนนุ กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วข้อง กบั วชิ าชพี ครอู ย่างสม่าเสมอ ขา้ พเจา้ เข้ารว่ มการประชมุ กับคณะครแู ละผู้บริหารทกุ ครั้งและเข้าร่วมการอบรมความรู้ทีเ่ ก่ียวข้องกบั การศึกษาอยเู่ สมอ เมื่อเสรจ็ สิ้นการจดั กิจกรรมขา้ พเจา้ ทาแบบทึกและสรุปผลการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๓.๖ รกั เมตตา เอาใจใส่ ชว่ ยเหลอื สนบั สนนุ ใหบ้ รกิ ารผเู้ รยี นทกุ คน ดว้ ยความเสมอภาค ขา้ พเจา้ ศึกษานักเรยี นเป็นรายบุคคล ดแู ลช่วยเหลือนกั เรียนทุกดา้ นด้วยความเสมอภาค สร้างเสริม ทักษะชวี ติ และปลกู ฝงั คุณธรรมจรยิ ธรรมทกุ ครั้งในกิจกรรมการเรยี นการสอน

๓.๗ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ น เปน็ ทยี่ อมรบั ของผเู้ รยี นผบู้ รหิ าร เพื่อนรว่ มงานผปู้ กครอง และชมุ ชน ข้าพเจ้าดารงตนดว้ ยความสภุ าพอ่อนน้อมสารวมในกิริยามารยาท และการแสดงออกดว้ ยปิยวาจา แตง่ กายสะอาดเรียบร้อยถูกต้องตามกาลเทศะ ไม่เบยี ดบงั เวลาของทางราชการไปทาธรุ กิจอน่ื ใด ปฏิบัตงิ านท่ี ไดร้ บั มอบหมายตามตาแหน่งและงานอืน่ ๆ ทไ่ี ด้รบั มอบหมายได้สาเร็จลลุ ว่ งและมีคุณภาพบรรลตุ ามเปา้ หมาย ตามทกี่ าหนด ให้บรกิ ารด้วยความเตม็ ใจและเสมอภาคโดยไมเ่ รียกรับหรอื ยอมรับผลประโยชน์จากการใช้ ตาแหนง่ หน้าที่ขา้ ราชการโดยมิชอบ ๓.๘ การไมป่ ฏบิ ตั ติ นทส่ี ง่ ผลเชงิ ลบ ต่อกายและใจของผเู้ รยี น ขา้ พเจ้าไดส้ รา้ งทัศนคตเิ ชงิ บวกใหก้ บั ผู้เรยี นการเสริมแรงทางบวกทง้ั ทางกายและทางวาจาแสดงออก ผา่ นทางกาย ดว้ ยสหี น้า ทา่ ทาง โดยการยิ้ม การปรบมือ การให้รางวลั เป็นสิ่งตอบแทนเม่อื ทาดีหรือทางาน สาเรจ็ แสดงออกผา่ นทางวาจาโดยให้กาลงั ใจผา่ นทางคาพูด กลา่ วยกย่องชมเชยดว้ ยความรกั ความเมตตาและ ความจริงใจ

๓.๙ การทางานกบั ผ้อู น่ื ไดโ้ ดยยดึ หลกั ความสามคั คเี กอื้ กลู ซ่งึ กนั และกนั ขา้ พเจ้าปฏบิ ัติงานต่าง ๆ โดยการให้ความร่วมมอื และให้การช่วยเหลือกบั คณะครใู นการทากจิ กรรม ตา่ ง ๆ ทงั้ ในและนอกสถานศึกษาดว้ ยความเต็มใจเสมอ โดยมีคตทิ ี่วา่ ทุกคนคอื เพ่ือนร่วมบรกิ าร ให้ความรกั ความเมตตา ปรารถนาดีต่อกัน ตามหลกั พรหมวหิ ารธรรมจึงเป็นเหตใุ หก้ ารทาเกิดความสามัคคแี ละมคี วามสขุ ในการทางาน ๓.๑๐ การใชค้ วามรู้ความสามารถทม่ี ีอยนู่ าใหเ้ กดิ ความเปลย่ี นแปลง ในทางพฒั นาให้กบั ผเู้ รียน โรงเรยี น หรอื ชมุ ชนในดา้ นใดดา้ นหนงึ่ ขา้ พเจา้ เปน็ แบบอย่างท่ีดีใหแ้ ก่ผ้เู รยี น ในด้าน กริ ิยามารยาท การไหวผ้ ้ใู หญ่ การใชค้ าพูดท่ี สภุ าพ รวมถงึ การใช้ภาษาอย่างถกู ต้อง

๓.๑๑ การยดึ มน่ั ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน สอดแทรกความรู้เรื่องระบอบประชาธิปไตยในกิจกรรมการเรียน การสอน และยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของคุณครทู กุ ท่านในการประชมุ

สรปุ การประเมินการเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอยา่ งเขม้ ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย ครง้ั ท่ี ๒ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ น ๔. การดารงชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๔.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๔.๒ มกี ารนาหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งไปปรับประยกุ ต์ใช้ กับการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน ๔.๓ มกี ารนาหลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงไปปรบั ประยุกต์ใช้ กับภารกจิ ท่ไี ดร้ บั มอบหมายอ่นื ๔.๔ มกี ารนาหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงไปปรบั ประยุกต์ใช้ กับการดารงชวี ิตของตนเอง ๔.๕ เปน็ แบบอยา่ งในการนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรบั ประยุกตใ์ ช้กบั ภารกจิ ตา่ ง ๆ หรือการดารงชีวติ ของตน

๔.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ข้าพเจ้าตระหนักถึงคุณค่าของการดาเนินชีวิตตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียงตามหลักทางสายกลาง พอประมาณ มเี หตุผลมภี มู ิคุ้มกันโดยนอ้ มนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นชวี ิตประจาวันทาให้ เกดิ ความสขุ ท่คี งทนในปัจจบุ ันและอนาคต ๔.๒ มกี ารนาหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรบั ประยกุ ตใ์ ช้ กบั การจดั การเรยี นรใู้ นหอ้ งเรยี น ข้าพเจา้ นาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาจัดการเรยี นการสอนทส่ี ร้างจติ สานกึ ให้แก่ผู้เรยี นร้จู ัก ความพอเพียง สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นรจู้ ักการออม และลดคา่ ใชจ้ า่ ยใหก้ บั ผูป้ กครอง โดยการให้นักเรยี นทาบัญชี รายรบั รายจา่ ยประจาวัน

๔.๓ มกี ารนาหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรบั ประยกุ ตใ์ ช้ กบั ภารกิจทไี่ ดร้ บั มอบหมายอนื่ ขา้ พเจา้ ดาเนินชีวิตโดยยดึ หลักเศรษฐกจิ พอเพยี งสุจรติ ใช้ส่ิงของอยา่ งคุ้มค่า ทางานดว้ ยความ ถกู ต้องและมีประสิทธภิ าพ เช่น นากลอ่ งนมสร้างสรรคเ์ ป็นชนั้ วางนิทานใหแ้ กน่ ักเรียน ๔.๔ มกี ารนาหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรบั ประยกุ ตใ์ ช้ กบั การดารงชวี ติ ของตนเอง ขา้ พเจา้ ดาเนินชีวติ โดยยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาเป็นแนวทางในการดาเนินชีวิตโดย การจัดบัญชีเงินออมเพ่ืออนาคตจึงทาให้มีความสุขในการดาเนินชวี ิตมคี วามพอเพยี งเลี้ยงชีพได้ และทาข้าว กลอ่ งมารับประทานทโ่ี รงเรียนเปน็ ประจาเพื่อลดค่าใชจ้ า่ ย

๔.๕ เปน็ แบบอยา่ งในการนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรบั ประยุกตใ์ ชก้ บั ภารกจิ ตา่ ง ๆ หรือการ ดารงชวี ติ ของตน ขา้ พเจา้ ปฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอย่างที่ดีแกล่ กู ศิษย์ ใชช้ วี ิตบนสายกลาง ยึดหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ิตและเปน็ ผใู้ ฝร่ ู้ ใฝ่เรยี น และใฝพ่ ฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เน่ือง รายรับ-รายจ่าย 1500 2000 3767 435900600 1000 1500 ค่าผอ่ นรถ 5000 ค่าอาหาร ใหพ้ อ่ แม่ ค่าน้ามนั รถ ค่าบริการอินเทอร์เนต็ ชาระกบข. ค่าอุปกรณ์การศกึ ษา เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจา

สรปุ การประเมินการเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอยา่ งเขม้ ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย ครงั้ ที่ ๒ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ น ๕. จติ วญิ าณความเปน็ ครู ๕.๑ การเขา้ สอนตรงเวลาและ สอนเตม็ เวลา ๕.๒ การตระหนักในความรู้และทกั ษะทถ่ี ูกต้องรวมถงึ สิ่งที่ดี ๆ ให้กับผู้เรียน ๕.๓ การสรา้ งความเสมอภาคเป็นธรรมกบั ผูเ้ รยี นทุกคน ๕.๔ การรู้จักให้อภัย ปราศจากอคติ ช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนประสบความสาเร็จตาม ศักยภาพ ความสนใจหรอื ความตั้งใจ ๕.๕ การเป็นท่พี ง่ึ ให้กับผูเ้ รยี นได้ตลอดเวลา ๕.๖ การจดั กิจกรรมส่งเสรมิ การใฝร่ ู้ ค้นหา สรา้ งสรรค์ ถ่ายทอด ปลูกฝังและเปน็ แบบอย่างที่ดีของ ผเู้ รียน

๕.๑ การเขา้ สอนตรงเวลาและ สอนเตม็ เวลา ขา้ พเจา้ ปฏิบัตหิ น้าทท่ี ่ีได้รับมอบหมายอยา่ งเต็มความสามารถ เตม็ เวลา เขา้ สอนตรงเวลา เอาใจใสต่ ่อ การปฏิบตั หิ นา้ ท่ีอยา่ งสมา่ เสมอ โดยมีการวางแผนการสอนล่วงหน้า จัดทาและจัดหาสื่อ จัดกจิ กรรมโดยเน้น ผู้เรยี นเป็นสาคัญ มีการปรับปรงุ พฒั นางานการสอนอยเู่ สมอ ๕.๒ การตระหนักในความรแู้ ละทกั ษะทถ่ี กู ตอ้ งรวมถงึ สงิ่ ทด่ี ี ๆ ให้กบั ผเู้ รียน ข้าพเจ้าจัดเตรยี มส่ือการสอน อบรม ส่งั สอน เมื่อศิษย์ต้องการคาแนะนาหรือการชว่ ยเหลือ และศึกษา ค้นคว้าความรเู้ พือ่ นาความรู้มาถา่ ยทอดให้นักเรียน

๕.๓ การสรา้ งความเสมอภาคเป็นธรรมกบั ผเู้ รียนทุกคน ข้าพเจ้าเรียนรู้และศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคล เพื่อจะได้ทราบความต้องการ และนาผลที่ได้ไปใช้ใน การจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียนเป็นรายบุคคล ทาให้นักเรียนมีพัฒนาการทางการเรียนที่ดีขึ้น และไมล่ าเอยี งให้ความรกั ตอ่ นกั เรียนทุกคนเทา่ เทยี มกนั ๕.๔ การรู้จักใหอ้ ภัย ปราศจากอคติ ช่วยเหลือ ส่งเสรมิ สนับสนุนให้ผู้เรียนประสบความสาเร็จตามศักยภาพ ความสนใจหรือความตง้ั ใจ ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่ในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ นักเรียน เพ่ือให้นักเรียนประสบความสาเร็จ ตามศกั ยภาพของผู้เรยี น

๕.๕ การเปน็ ทพี่ ึ่งใหก้ ับผเู้ รยี นไดต้ ลอดเวลา ขา้ พเจ้าได้ปฏิบตั ิตนในการถ่ายทอดความรู้ อบรมสงั่ สอน พร้อมใหค้ าปรกึ ษาในดา้ นต่าง ๆ ดา้ นครอบครัว สงั คม การใชช้ ีวิตในวยั เรยี น และเรอื่ งตา่ ง ๆ ทง้ั ในเวลาราชการและนอกราชการ โดยได้สรา้ ง กลุ่มทาง LINE เป็นชอ่ งทางในการใหค้ าแนะนา ปรึกษา ปฏสิ มั พนั ธ์และติดต่อสอ่ื สารกับผู้ปกครอง ๕.๖ การจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การใฝร่ ู้ คน้ หา สรา้ งสรรค์ ถา่ ยทอด ปลกู ฝังและเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ีของผเู้ รยี น ข้าพเจา้ ปฏิบตั ิหนา้ ทีด่ ้วยจติ วิญญาณ ทาหนา้ ท่ดี ว้ ยใจซง่ึ ทาใหเ้ กดิ ความรัก ศรัทธาและยึดมนั่ ใน อุดมการณ์แห่งวิชาชีพ มุ่งมน่ั ทมุ่ เทในการทางาน ปฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอย่างที่ดี เอาใจใส่ ดูแล และหวังดีต่อ ศษิ ย์

๕.๗ การทุ่มเทเสยี สละในการจดั การเรียนรู้ให้กบั ผเู้ รยี น ขา้ พเจา้ อุทิศเวลาให้กับราชการ เมอ่ื อยู่ในเวลาราชการก็ปฏิบัติงานอยา่ งเตม็ ศักยภาพ ค้นควา้ วางแผน ออกแบบ และพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนเพอ่ื ใหน้ ักเรียนมีความรูอ้ ย่างเตม็ เปี่ยม สละเวลา และทนุ ทรัพย์ สว่ นตัว เพอื่ ผลจะเกดิ กบั ผูเ้ รียน

สรปุ การประเมนิ การเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอย่างเขม้ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ครงั้ ที่ ๒ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ น ๖. จติ สานึกความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชีพ ๖.๑ การมเี จตคติเชงิ บวกกบั วิชาชพี ๖.๒ การมุ่งม่ัน ทมุ่ เทในการสร้างสรรค์ นวัตกรรมใหม่ ๆ เพ่อื ใหเ้ กิดการพฒั นาวิชาชพี และให้สงั คม ยอมรบั ๖.๓ ประพฤติปฏิบตั ิตนในการรกั ษาภาพลกั ษณใ์ นวิชาชพี ๖.๔ การปกป้อง ป้องกันมิให้มีผู้ร่วมวิชาชีพประพฤติปฏิบัติในทางที่จะเกิดภาพลักษณ์เชิงลบต่อ วชิ าชีพ ๖.๕ การจดั กิจกรรมสง่ เสรมิ การใฝร่ ู้ คน้ หาสรา้ งสรรค์ ถ่ายทอดปลูกฝงั และเป็นแบบอย่างที่ดขี อง เพือ่ นรว่ มงานและสังคม

๖.๑ การมเี จตคตเิ ชงิ บวกกบั วชิ าชีพ ขา้ พเจา้ ปฏบิ ตั ติ นเป็นครทู ด่ี ี ไม่ดูหมิ่นเหยยี ดหยามผู้รว่ มประกอบวิชาชพี คนอ่นื ๆ ทาหน้าที่ของครู ดว้ ยความภาคภมู ิใจ และศรัทธาในวิชาชพี ท่ีตนเองไดป้ ฏบิ ตั ิ ๖.๒ การมงุ่ มน่ั ทมุ่ เทในการสรา้ งสรรค์ นวตั กรรมใหม่ ๆ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การพฒั นาวชิ าชีพและใหส้ งั คมยอมรบั ขา้ พเจา้ ไดศ้ ึกษาหาความรูเ้ พ่ิมเติมจากแหลง่ เรียนรตู้ ่าง ๆอย่เู สมอ เพื่อพัฒนานวัตกรรมการเรยี นรู้ ใหม่ โดยเริม่ พัฒนาสื่อการเรียนรอู้ อนไลน์ วิชาภาษาไทย และวชิ าอ่นื ๆ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย เพ่อื เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ สาหรับนักเรยี นในสถานการณ์แพรร่ ะบาดโควิด ๑๙

๖.๓ ประพฤติปฏิบัตติ นในการรกั ษาภาพลักษณใ์ นวิชาชีพ ข้าพเจ้าประพฤติตนเป็นสมาชิกทด่ี ีและมีความรับผิดชอบต่อสังคม มจี ิตสาธารณะ ไม่หวังสิง่ ตอบแทน ใด ๆ ยดึ หลักคณุ ธรรมและจรรยาบรรณในการยึดเหนีย่ วจิตใจในการปฏบิ ัตติ ิงาน ๖.๔ การปกปอ้ ง ปอ้ งกันมิให้มผี ู้ร่วมวชิ าชีพประพฤติปฏิบตั ใิ นทางทีจ่ ะเกิดภาพลักษณเ์ ชิงลบต่อวชิ าชีพ ขา้ พเจา้ และผู้รว่ มวชิ าชีพปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณ วิชาชพี ครู ใหค้ าปรึกษา แนะนา ผรู้ ่วมวิชาชีพ ประพฤติปฏิบัตติ นเปน็ แบบอย่างทด่ี ีและยึดมนั่ ปฏบิ ัตติ าม จรรยาบรรณวชิ าชพี ครอู ยา่ งเคร่งครดั

๖.๕ การจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การใฝร่ ู้ คน้ หาสรา้ งสรรค์ ถา่ ยทอดปลกู ฝงั และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ขี องเพ่ือน รว่ มงานและสงั คม ข้าพเจา้ ประพฤตติ นเป็นแบบอยา่ งทีด่ ี ปฏบิ ัตหิ นา้ ทด่ี ้วยใจ ซ่งึ ทาใหเ้ กิดความรัก ศรัทธาและยดึ ม่นั ใน อดุ มการณแ์ หง่ วิชาชพี และยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของเพื่อนร่วมงาน และปรับปรงุ ใหด้ ีข้ึน