Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรการทอผ้าไหมครูทัศน์พล

หลักสูตรการทอผ้าไหมครูทัศน์พล

Published by varapon104, 2021-07-07 04:02:55

Description: หลักสูตรการทอผ้าไหมครูทัศน์พล

Search

Read the Text Version

๑ หนังสือรับรองเหน็ ชอบหลักสตู ร หลกั สตู รการทอผ้าไหม จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอเกษตรวิสยั ตามท่ี ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอเกษตรวิสยั มคี วามประสงค์ จะดำเนินการจัดฝึกอบรมประชาชน โดยการจัดกิจกรรมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดกิจกรรม การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง ทีม่ เี นอื้ หาเก่ียวกับกจิ กรรมการเรียนการสอน กลุ่มอาชพี ระยะส้ัน หลกั สูตรการทอผ้าไหม จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง เพอ่ื ใหก้ ลุ่มเปา้ หมายประชาชนมคี วามรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ ของบุคคล เพ่อื ใหบ้ ุคคลสามารถประกอบอาชีพ และเปน็ การสร้างความมั่นคงทางอาหารในการดำเนินชีวิต เพ่ือใหป้ ระชาชนได้รบั ความรู้ มีเจตคติและทักษะทจ่ี ำเป็นสำหรบั การดำรงชีวิตในสังคมปจั จุบนั จึงได้จัดทำ หลักสูตรการทอผ้าไหม เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑโ์ ครงการศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชนของสถานศึกษา สังกัด สำนักงาน กศน. ตามหนงั สอื กรมบญั ชีกลาง ด่วนทีส่ ดุ ท่ี กท ๐๔๐๖.๔/๐๖๖๐๖ ลงวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ และหนงั สือสำนกั งาน กศน. ที่ ศธ ๐๒๑๐.๑๑๗/๓๑๙๘ ลงวันท่ี ๑๕ มนี าคม ๒๕๕๙ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอเกษตรวิสัย จึงขอเสนอหลักสูตรการทอ ผา้ ไหม จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง เพ่ือขอความเห็นขอบใหด้ ำเนนิ การตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป ลงชอ่ื ผูเ้ สนอหลกั สตู ร ( นายทัศน์พล พละพนั ธ์) ครู กศน.ตำบล ลงชอ่ื ผ้เู หน็ ชอบหลักสูตร ( นางสาวมยรุ ี ถนดั คา้ ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ลงชอ่ื ผูอ้ นุมัตหิ ลกั สตู ร ( นางมยรุ ี สตั ยไพศาล ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเกษตรวสิ ยั

๒ ชอ่ื หลักสตู รการทอผา้ ไหม จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง กศน.ตำบลดงคร่งั ใหญ่ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอเกษตรวิสยั ความเป็นมา การจดั การศกึ ษาอาชพี ในปัจจุบนั มคี วามสำคัญมาก เพราะจะเป็นการพฒั นาประชากร ของประเทศ ให้มคี วามรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชพี เป็นการแกป้ ญั หาการว่างงาน และส่งเสริมความ เขม็ แขง็ ใหแ้ ก่เศรษฐกิจชมุ ชน ซง่ึ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารได้กำหนดยทุ ธศาสตร์ ๒๕๖๑ ภายใตก้ รอบเวลา ๒ ปี ที่ จะพฒั นา ๕ ศกั ยภาพของพื้นที่ใน ๕ กลมุ่ อาชีพใหม่ ให้สามารถแขง่ ขนั ไดใ้ น ๕ ภมู ภิ าคหลกั ของโลก “รู้เขา รู้เรา เทา่ ทนั เพ่ือแขง่ ขันได้ในเวทีโลก “ ตลอดจนกำหนดภารกิจที่จะ ยกระดบั การจดั การศึกษาเพื่อ เพิ่มศกั ยภาพและขีดความสามารถ ใหป้ ระชาชนไดม้ อี าชพี ที่สามารถ สรา้ งรายได้ ทมี่ น่ั คง โดยเนน้ การบูรณา การใหส้ อดคล้องกบั ศักยภาพด้านตา่ งๆ มุง่ พัฒนาคนไทยให้ ได้รับการศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาอาชีพและการมงี านทำ อยา่ งมีคุณภาพ ทว่ั ถึงและเท่าเทยี มกัน ประชาชนมี รายไดม้ ่ันคง มัง่ ค่ังและมงี านทำอยา่ งยั่งยืน มี ความสามารถเชงิ การแข่งขันท้งั ในระดับภูมภิ าค อาเซียน และระดบั สากล ซงึ่ จะเปน็ การจัดการศึกษาตลอด ชวี ติ ในรูปแบบใหมท่ ส่ี ร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชน และประเทศชาติ สภาพสังคมในปจั จุบันมนษุ ยเ์ ราได้รบั ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในดา้ นตา่ งๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ การเมือง สงั คมและส่ิงแวดล้อมเป็นอยา่ งมาก ประชากรเพมิ่ ข้ึนเรื่อยๆ แตท่ รพั ยากรมี นอ้ ยลง จึงมีความ จำเป็น ต้องใชท้ รพั ยากรที่มีอยอู่ ย่างจำกัดใหม้ ีความคมุ้ คา่ ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างย่ิงเรื่องของการประกอบ อาชีพดา้ นความคดิ สรา้ งสรรค์ มีความจำเป็นทจี่ ะต้องใช้ประโยชนจ์ ากการประกอบอาชีพให้มีความ คมุ้ คา่ ย่ิงขนึ้ อาชพี การทอผา้ ไหม จึงเป็นอีกอาชีพหนึง่ ทจี่ ะเป็นทางเลอื กในการสร้างรายไดแ้ ละการมีงาน ทำ อยา่ งยั่งยืนของประชาชน หลักการของหลกั สูตร การจดั การศึกษาเพือ่ การพัฒนา อาชีพเพื่อการมีงานทำ กำหนดหลักการไว้ดังนี้ ๑.เปน็ หลกั สูตรที่เน้นการบรู ณาการใหส้ อดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพด้านต่างๆ ๕ ดา้ น ได้แก่ ศกั ยภาพของ ทรพั ยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ ศกั ยภาพของพื้นที่ ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพภูมิ ประเทศและทำเล ท่ตี ้งั ของแต่ละประเทศ ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีิชวี ิตของแตล่ ะพ้ืนทแี่ ละศกั ยภาพของ ทรพั ยากรมนษุ ยใ์ นแตล่ ะพื้นท่ี ๒. มุ่งพฒั นาคนไทยให้ได้รบั การศึกษาเพ่อื พัฒนาอาชีพและการมีงานทำอยา่ งมีคุณภาพท่ัง ถึงและเทา่ เทยี มกัน สามารถสร้างรายได้ท่ีม่ังคง และเปน็ บุคคลท่มี ีวินยั เปร่ยี มไปดว้ ยคุณธรรม จริยธรรม มจี ติ สำนกึ ความ รับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อ่นื และสังคม ๓.สง่ เสริมให้มคี วามรว่ มมือในการดำเนนิ งานร่วมกับภาคีเครอื ขา่ ย ๔. เน้นการฝึกปฏิบัตจิ รงิ เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำไปประกอบ อาชพี ให้ เกดิ รายไดท้ ี่ม่นั คง มง่ั คัง่ และยั่งยืนในอาชีพส่งเสริมให้มีการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ เขา้ สู่หลักสตู ร การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน

๓ จดุ ม่งุ หมาย ๑.เพื่อใหผ้ ู้เรียนยนี เกิดทักษะความรู้ความเข้าใจ เทคนิคการทอผ้าไหม สามารถนำไปใชใ้ นการ ประกอบอาชพี ได้ ๒.เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นสามารถออกแบบการมัดลาย การย้อมสี ที่สอดคลอ้ งกับความต้องการของตลาด ๓.เพ่ือเปน็ การอนุรักษ์ภมู ิปัญญาท้องถิน่ และอาชีพดง้ั เดิมของบรรพบุรุษ ๔.เพ่ือเป็นการสบื สานวฒั นธรรมการทอผา้ ไหม กลุ่มเปา้ หมาย กลมุ่ เป้าหมายคอื ประชาชนทสี่ นใจเรยี นการทอผา้ ไหม ๑. ผทู้ ไี่ ม่มอี าชีพ ๒. ผูม้ อี าชีพและตอ้ งการพัฒนาอาชีพ ๓. ควรเปน็ ผมู้ ีใจรักในการทอผา้ ไหมและมีความอดทน ระยะเวลา ๔๐ ชั่วโมง ทฤษฎี ๑๐ ชว่ั โมง ปฏบิ ตั ิ ๓๐ ช่วั โมง โครงสร้างหลกั สตู ร ๑.ชอ่ งทางการประกอบอาชพี การทอผ้าไหม ๑.๑ ความสำคัญของการประกอบอาชีพการทอผ้าไหม ๑.๒ ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชีพการทอผา้ ไหม ๑.๒.๑ การวางแผนและบริหารจัดการ ๑.๒.๒ แหล่งเงนิ ทุนและการจัดหาเงนิ ทนุ ๑.๒.๓ความตอ้ งการของตลาด ๑.๒.๔ช่องทางการจดั จำหน่าย ๑.๓ ศกึ ษาความรู้จากแหล่งเรียนร้ทู ่ีเกี่ยวข้อง ๑.๓.๑ ศูนย์อนุรักษผ์ า้ ด้าย ๑.๓.๒ สถานประกอบการเกย่ี วกบั การทอผ้าไหม ๑.๓.๓ รา้ นค้าหรือตวั แทนในการจำหน่ายผลผลติ ๑.๓.๔ เครือชว่ ยยกลุ่มทอผา้ ไหม ๑.๔ การตดั สินใจในการเลือกอาชพี ๑.๔.๑ ความต้องการของตลาด ๑.๔.๒ สถานประกอบการเครือข่าย กลมุ่ องคก์ ร ทป่ี ระสบผลสำเรจ็ ๒.ทกั ษะการประกอบอาชีพการทอผา้ ไหม ๒.๑ ความรเู้ บื้องต้นเก่ยี วกับการทอผา้ ไหม - ประวัติความเป็นมาวฒั นธรรมการทอผ้าไหม - กระบวนการและรปู แบบการทอผ้าไหม - ความสำคญั และประโยชน์ของการประกอบอาชพี การทอผา้ ไหม ๒.๒ การเตรยี มวัตถดุ บิ และสว่ นประกอบ - ขั้นตอนในการเตรยี มดา้ ยสำหรับการทอ - การเลอื กเส้นด้าย - วตั ถดุ บิ และสว่ นประกอบ

๔ ๒.๓ การฟอกด้าย - วตั ถปุ ระสงค์ของการฟอกดา้ ย - วสั ดแุ ละอุปกรณ์ของการฟอกดา้ ย - ขัน้ ตอนการฟอก - ขอ้ ควรระวงั ในการฟอกด้าย ๒.๔ การกวักด้าย/การแกว่งดา้ ย - จดุ ประสงคข์ องการกวักดา้ ย/การแกวง่ ดา้ ย - วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ - วธิ กี ารกวักด้าย/การแกวง่ ดา้ ย - ขอ้ ควรระวังในการกวักด้าย/การแกวง่ ด้าย ๒.๕ การเตรียมเส้นด้ายพ่งุ /ดา้ ยยนื - ข้ันตอนการเตรยี มเส้นดา้ ยพงุ่ /ยืน - การออกแบบลวดลาย - การรอ้ ยหลอดเลก็ เป็นพวง ๒.๖ การค้นเส้นดา้ ย - จดุ ประสงคข์ องการคน้ ด้าย - วัสดแุ ละอปุ กรณ์ - วธิ ีการคน้ ดา้ ย - ขอ้ ควรระวงั ในการค้นด้าย ๒.๗ การกรอเส้นด้ายยนื /ด้ายพุง่ - จดุ ประสงค์ของการกรอดา้ ย - วัสดแุ ละอปุ กรณ์ - วธิ ี/ข้ันตอนการกรอดา้ ย - ข้อควรระวังในการกรอด้าย ๒.๘ การมว้ น/ปั่นดา้ ย - จดุ ประสงค์ของการมว้ น/ปัน่ ด้าย - วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ - วิธกี ารการมว้ น/ปน่ั ด้าย - ข้อควรระวงั ในการการม้วน/ปั่นดา้ ย ๒.๙ การเกบ็ ตะกอ - จุดประสงค์ของการเกบ็ ถกั ตะกอ - วัสดุและอุปกรณ์ - วธิ ี/ข้ันตอนการเก็บตะกอ - ขอ้ ควรระวังในการเกบ็ ตะกอ

๕ ๒.๑๐ การทอผา้ ไหม - ข้นั ตอนการทอผา้ ไหมพน้ื เมืองแบบ ๒ เส้น - การเตรยี มกี่ - การน าหลอดพุง่ ใส่กระสวย - การเหยยี บตะกอ - การพุง่ กระสวย - การจัดลวดลายและแตง่ ริมขอบผา้ - การกระแทกฟืม - การขึงหน้าผ้าใหต้ ึง - การต่อเส้นดา้ ยยืนและเส้นดา้ ยพุ่งเม่ือเส้นด้ายขาด - การปรับและปลอ่ ยเสน้ ดา้ ยยืน - การหวีเสน้ ยนื ขณะทอผ้า - การเก็บกี่เมอื่ หยุดพกั การทอผ้าไหม ๒.๑๑ การประยกุ ต์รูปแบบการขายเปน็ ผ้าแบบต่างๆทส่ี ามารถนำไปใช้ได้อยา่ งหลากหลาย - การทอผ้าไหมคลมุ ไหล่ - การทอผ้าไหมพนั คอ - การทอผา้ ไหมรปู แบบอนื่ ๆเชน่ ผ้าปโู ตะ๊ ผ้าตกแตง่ ผนัง และอนื่ ๆ ๓. การบรหิ ารจัดการอาชพี ๓.๑ การบริหารจดั การอาชพี การทอผ้าไหม ๓.๑.๑ การดแู ลรักษาคณุ ภาพของผา้ ๓.๑.๒ การลดต้นทุนในการผลตขิ องผา้ ๓.๑.๓ การเพ่มิ มูลคา่ สนิ ค้า - การแปรรูป - การออกแบบ - การประยุกตใ์ ช้ ๓.๒ การจัดการตลาด ๓.๒.๑ การทำฐานขอ้ มลู ลูกค้าท่ีใช้บริการ/คแู่ ข่งทางการตลาด ๓.๒.๒ ประชาสัมพันธ์ ๓.๒.๓ สง่ เสรมิ การขายและการบริการ ๓.๒.๔ การขอมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ ๓.๓ การจัดการความเสี่ยง ๓.๓.๑ การวเิ คราะห์ศักยภาพในการประกอบอาชีพการทอผา้ ไหม ๓.๓.๒ แกป้ ัญหาความเสยี่ งในการประกอบอาชพี การทอผ้าไหม ๔.โครงการประกอบอาชีพ ๔.๑ ความสำคัญของโครงการประกอบอาชพี การทอผ้าไหม ๔.๒ ประโยชน์ของโครงการประกอบอาชีพการทอผา้ ไหม ๔.๓ องคป์ ระกอบในแตล่ ะองค์ประกอบของอาชพี การทอผ้าไหม ๔.๔ การเขยี นโครงการการทอผา้ ไหม

๖ การจดั กระบวนการเรียนรู้ ๑. ศึกษาข้อมูลจากเอสาร/ภูมิปัญญา ๒. ฟงั วิทยากรบรรยายให้ความรู้ ๓. การศกึ ษาดงู านจากแหลง่ เรียนรู้ ๔. แลกเปล่ียนเรียนรู้ ๕. ทำใบความรู้ละใบงาน ๖. ฝกึ ปฏบิ ัติด้วยตนเองเพิ่มเตมิ อย่างตอ่ เนื่อง ๗. ฝกึ ปฏบิ ตั จิ ริงและทดสอบผ่านเกณฑท์ ก่ี ำหนดไว้ อาชพี การทอผา้ ไหม

๗ โครงสรา้ งหลกั สตู ร ท่ี เร่ือง จดุ ประสงคก์ าร เรียนรู้ เน้อื หา การจดั จำนวนชั่วโมง กระบวนการ ทฤษฎี ปฏบิ ัติ ๑ ชอ่ งทางการ ประกอบ สามารถอธบิ าย ชอ่ ง ๑.ความสำคญั อาชีพการ ทอผา้ ทางการ ประกอบอาชีพ ของการ ประกอบ เรียนรู้ ๒ การทอผ้าไหม อาชีพ การทอผา้ วทิ ยากรอธิบาย ๒ ๒.ทกั ษะการ ประกอบ ไหม๑.๒ ความ ความสำคัญของ ๒ ๓๐ อาชพี การ ทอผ้า สามารถบอก ลักษณะของ เป็นไปได้ใน การ การประกอบ ๓ ๒. ทกั ษะการ ประกอบ ประกอบ อาชีพ อาชีพการทอผา้ ๓ ๓ ๓.การบริหารจัดการ อาชพี การทอผ้าไหม การทอผ้า ไหม อาชีพ ๒.ทักษะการ สามารถการบรหิ าร ประกอบอาชีพ วิทยากรอธิบาย ๔ ๔.โครงการประกอบ จดั การอาชพี ทอผ้าได้ การทอผ้าไหม ทกั ษะการ อาชีพ ประกอบอาชีพ สามารถอธิบาย โครงการ วธิ กี ารบริหาร การทอผา้ ไหม ประกอบอาชพี จัดการอาชพี การ วิทยากรอธิบาย ๑ ความสำคญั ของ ทอผา้ ไหม วธิ ีการบรหิ าร โครงการ ประกอบอาชีพ จัดการอาชีพการ การทอผา้ ไหม ๔.โครงการ ทอผา้ ๒ ประโยชน์ ของโครงการ ประกอบอาชีพ วทิ ยากรอธบิ าย ประกอบอาชพี การทอผา้ โครงการประกอบ ไหม ๓ องคป์ ระกอบ ใน อาชพี การประเม แตล่ ะ องค์ประกอบ ของ นคิ วาม เหมาะสม อาชีพการ ทอผ้า และ สอดคล้อง ๔ การเขยี น โครงการการ ของ โครงการทอ ทอผ้า ผา้ ไหม ๕ การประเมนิ ความ เหมาะสม และสอดคลอ้ ง ของโครงการ การทอผ้า ไหม

๘ สอ่ื การเรียนรู้ ๑. ส่ือเอกสาร ๒. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ ๓. ใบงาน ๔. ใบความรู้ ๕. ภมู ิปัญญา ๖. สถานประกอบ การวดั และประเมนิ ผล ๑. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎีระหว่างเรียนและจบหลกั สตู ร ๒. การประเมนิ ผลงานการปฏิบัติระหวา่ งเรยี นความสำเรจ็ ของการปฏิบตั ิและจบหลกั สตู ร การจบหลักสูตร ๑. มีเวลาเรียนและฝึกปฏบิ ตั ติ ามหลกั สูตร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ๒. มผี ลการประเมินผา่ นตลอดหลกั สตู ร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ๓. มีผลงานทม่ี ีคณุ ภาพจงึ จะได้รับวุฒิบตั ร เอกสารหลกั ฐานการศึกษา ๑. หลักฐานการประเมนิ ผล ๒. ทะเบียนคุมวุฒิบัตร ๓. วฒุ ิบตั รออกโดยสถานศกึ ษา การเทียบโอน ผู้เรยี นท่ีจบหลักสตู รนีส้ ามารถนำไปเทยี บโอนผลการเรียนรู้กับหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ในสาระการประกอบอาชพี วชิ าเลือกท่สี ถานศกึ ษาได้จดั ทำข้นึ

๙ บทท่ี ๑ ความหมายของอาชพี อาชพี คอื การทำมาหากินของมนษุ ย์ เปน็ การแบ่งหนา้ ที่การทำงานของคนในสังคม และทำให้ดำรงอาชีพในสงั คมได้ บคุ คลทป่ี ระกอบอาชพี จะไดค้ า่ ตอบแทน หรือรายไดท้ จ่ี ะนำไปใช้จา่ ยในการ ดำรงชวี ติ และสร้างมาตรฐานทด่ี ใี หแ้ กค่ รอบครวั ชมุ ชน และประเทศชาติ ความจำเป็นของการประกอบอาชพี มดี ังนี้ ๑. เพื่อตนเอง การประกอบอาชีพทำให้มรี ายได้มาจบั จา่ ยใช้สอยในชวี ิต ๒. เพ่อื ครอบครัว ทำใหส้ มาชิกของครอบครวั ได้รบั การเล้ยี งดูทำให้มีคุณภาพชวี ติ ทีด่ ีขน้ึ ๓. เพอื่ ชุมชน ถ้าสมาชิกในชมุ ชนมีอาชีพและมรี ายได้ดจี ะสง่ ผลใหส้ มาชิกมีความเป็นอย่ดู ี ข้ึน อยู่ดีกนิ ดี ส่งผลให้ชมุ ชนเขม้ แข็งและพัฒนาตนเองได้ ๔. เพอ่ื ประเทศชาติ เพื่อประชากรของประเทศมีการประกอบอาชพี ท่ดี ี มรี ายไดด้ ี ทำใหม้ รี ายไดท้ ีเ่ สียภาษีให้กบั รฐั บาลมีรายได้ไปใชบ้ รหิ ารประเทศตอ่ ไป มนษุ ยไ์ ม่สามารถผลติ สง่ิ ต่างๆมาสนองความตอ้ งการของตนเองไดท้ กุ อยา่ งจำตอ้ งมกี าร แบง่ กันทำและเกิดความชำนาญ จงึ ทำใหเ้ กดิ การแบ่งงานและแบง่ อาชีพต่างๆขน้ึ สาเหตุทต่ี อ้ งมีการแบง่ อาชพี มดี งั น้ี ๑. ความรคู้ วามสามารถของแตล่ ะคนแตกตา่ งกัน ๒. ตำแหนง่ ทางภมู ศิ าสตร์และภมู ิประเทศที่แตกตา่ งกนั ๓. ได้รบั มอบหมายใหท้ ำหนา้ ท่ที ่ีแตกต่างกนั การแบ่งงานและอาชีพให้เกดิ ประโยชน์ ดังนี้ ๑. สามารถตอบสนองความต้องการซ่ึงกันและกันได้ ๒. ไดท้ ำงานทีต่ นเองถนัด ๓. ทำให้เกดิ การขยายตวั ของธุรกิจในด้านตา่ งๆ

๑๐ การประกอบอาชีพของคนไทย การทำมาหากนิ ของคนไทยสมัยก่อน คอื การทำไร่ ทำนา ทอผ้า ทำเครื่องจกั สานไวใ้ ช้ท่ี เหลือกจ็ ะจำหน่ายในชมุ ชน คนไทยบางกลุ่มจะเปน็ ขา้ ราชการเมือ่ บรษิ ทั ตา่ งชาติมาลงทุนในประเทศไทย ทำ ใหม้ ีการจ้างงาน และมีอาชีพให้คนไทยเลอื กทำมากข้ึน ลกั ษณะอาชพี ของคนไทย ๑. งานเกษตรกรรม เช่น ปลูกพชื เลย้ี งสัตว์ การประมง ๒. งานอตุ สาหกรรม เป็นงานท่ีเก่ียวขอ้ งกับความถนดั ดา้ นช่างสาขาต่างๆ และเครื่องจักร เพ่อื ผลิตสนิ ค้าและบริการตา่ งๆ ๓. งานธุรกิจ เป็นงานด้านการคา้ ขาย การทำบญั ชี การจัดการธรุ กจิ การติดตอ่ ส่ือสาร เทคโนโลยสี ารสนเทศ ๔. งานคหกรรม เปน็ งานที่เก่ยี วขอ้ งกับการประกอบอาหาร เยบ็ ปักถักรอ้ ย ตกแตง่ บา้ น ๕. งานศิลปกรรม เปน็ งานทมี่ คี วามละเอียดออ่ น ความคิดสร้างสรรคด์ า้ นศิลปกรรมของ ไทย เช่น งานหัตถกรรม ประตมิ ากรรม จิตรกรรม

๑๑ บทท่ี ๒ การทอผา้ ไหม ๑. การเตรียมเสน้ ด้าย จะตอ้ งนำเส้นมาคัดเส้นดา้ ยทม่ี ีขนาดเส้นสม่ำเสมอ และมกี ารตกแตง่ ไจด้ายท่เี รียบร้อย คอื เสน้ ดา้ ยจดั เรียงแบบสานกันเป็น ตาข่ายหรอื เรยี กช่ือทางวิชาการวา่ ไดมอนด์ครอส มีการทำไพประมาณ ๔-๖ ตำแหนง่ ขนาดน้ำหนักด้ายต่อไจโดยประมาณ ๘๐-๑๐๐ กรมั ท้ังนี้เพื่อเปน็ การเพิ่มประสิทธภิ าพของการปฏบิ ตั งิ านในขน้ั ตอนการลอกกาว ย้อมสี และการกรอเส้นดา้ ย การเตรียมเสน้ ดา้ ยทำผ้าไหม

๑๒ การตกแตง่ ไจดา้ ยทีเ่ รยี บร้อย คอื เส้นด้ายจัดเรยี งแบบสานกันเป็นตาขา่ ยหรือเรียกช่อื ทางวิชาการว่าไดมอนด์ครอส การตกแต่งไจดา้ ยทีเ่ รยี บรอ้ ย คือ เส้นดา้ ยจดั เรียงแบบสานกันเปน็ ตาข่ายหรือเรยี กช่ือทางวิชาการว่าไดมอนดค์ รอส

๑๓ การตกแตง่ ไจดา้ ยทเี่ รยี บรอ้ ย คือ เส้นดา้ ยจัดเรียงแบบสานกันเปน็ ตาข่ายหรือเรยี กชื่อทางวิชาการว่าไดมอนดค์ รอส

๑๔ ๒. การลอกกาวเสน้ ด้ายทัง้ เสน้ พุ่งเส้นยืน โดยวิธีการใช้สารธรรมชาติ การเตรียมสารลอกกาวธรรมชาติ นำกาบตน้ กลว้ ยมาทำการเผาไฟจนกระทั่งเป็นขี้เถ้า นำขเ้ี ถ้าไปแชน่ ้ำใชไ้ มค้ นให้ ทว่ั ปลอ่ ยทิง้ ไวใ้ หข้ เ้ี ถา้ ตกตะกอนแบง่ ชน้ั นำ้ และตะกอน ทำการกรองนำ้ ใสทอี่ ยสู่ ว่ นบนช้ันตะกอนด้วยผ้าบาง สารท่ีได้ คือสารลอกกาวธรรมชาติ นำเสน้ ดา้ ยท่ไี ด้เตรยี มไว้แลว้ มาทำการต้มลอกกาวดว้ ยสารลอกกาวธรรมชาติดงั กล่าวโดยใชใ้ น สดั สว่ นของสารลอกกาวต่อเส้นด้ายโดยประมาณ๓๐:๑ ในระหว่างการตม้ ลอกกาวจะมีการควบคมุ อุณหภูมใิ หอ้ ยูใ่ นระดับ ๙๐-๙๕ องศาเซลเซียส เปน็ เวลาประมาณ ๙๐ นาที ในระหวา่ งการตม้ ลาวกาว ให้ทำการกลับเส้นดา้ ยในหม้อตม้ ลาว อย่างสม่ำเสมอ เพอ่ื ให้กระบวนการลอกกาวเสน้ ด้ายสมบรู ณ์ นำเส้นด้ายท่ที ำการลอกกาวเสร็จเรยี บรอ้ ยออกจากหม้อตม้ นำไปล้างน้ำรอ้ นนำ้ อุ่น แล้วบีบน้ำออกจากเสน้ ดา้ ย นำเส้นดา้ ยไปตากผงึ่ แห้งที่ราวตาก ทั้งน้ใี หท้ ำการกระตกุ เส้นดา้ ย เพอ่ื ใหม้ กี ารเรียงเส้นด้ายในแตล่ ะไจ อยา่ งเรียบรอ้ ย น่ันคอื การลอกกาวเส้นด้าย เราก็จะไดเ้ สน้ ดา้ ยทพ่ี ร้อมจะยอ้ มสี เพือ่ นำไปทอผ้าตอ่ ไป

๑๕

๑๖ ๔. การยอ้ มเส้นดา้ ยยืน เตรียมน้ำย้อมสีเส้นดา้ ย โดยท่ัวไปผา้ แพรวาในสมยั โบราณเสน้ ยนื จะใช้สแี ดง ท่มี าจากครง่ั นำคร่ังมาตำให้ละเอียด จากนั้นนำไปแช่น้ำนานประมาณ ๑ คืน ทำการกรองน้ำยอ้ มสดี ว้ ยผา้ บาง ปรมิ าณคร่ังท่ี ใชใ้ นการเตรียมน้ำยอ้ มประมาณ ๕ กิโลกรัมตอ่ นำ้ ๒๐ ลิตรต่อเสน้ ด้าย ๑ กโิ ลกรมั นำเสน้ ดา้ ยทีเ่ ตรียมไว้มาทำ การย้อม โดยเร่มิ จากการการย้อมเยน็ เพ่ือให้น้ำย้อมสสี ามารถซึมเขา้ ไปในเส้นดา้ ยได้อย่างท่ัวถงึ และสมำ่ เสมอ ปอ้ งกนั การเกิดสดี ่างบนเส้นด้าย เม่อื นำ้ ยอ้ มได้ซึมเขา้ เสน้ ด้ายจนท่ัวแลว้ กใ็ ห้ยกหม้อตม้ ยอ้ มข้ึนตง้ั บนเตาเพื่อ เพิม่ ความรอ้ นจนกระทั่งอุณหภูมอิ ยู่ที่ระดับ ๙๐ องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ ๓๐ นาที หรือสังเกตได้จากการ ท่ีนำ้ ย้อมจะใส จากนั้น ให้นำเส้นด้ายทีย่ ้อมสเี รยี บร้อยแลว้ ไปล้างนำ้ สะอาด ๒-๓ ครั้ง แลว้ ทำการบบี นำ้ ให้แห้ง ทำการตากผ่งึ ใหแ้ หง้

๑๗

๑๘ ๕. การเตรยี มเส้นยืน นำเสน้ ด้ายยนื ท่ที ำการย้อมสีด้วยสีแดงเข้มของครั่ง มาทำการค้นเครือหกู หรือท่ีเรียกวา่ การคน้ เสน้ ยนื โดยใช้ หลักเฝอื เป็นอุปกรณใ์ นการค้นเสน้ ยืน การเตรียมคน้ เส้นยืนจะเริ่มตน้ โดยการนำเส้นดา้ ยไปสวมเข้าในกง เพื่อทำการกรอเส้นดา้ ยเข้าอัก จากน้ันกท็ ำการคน้ เสน้ ยืน โดยมหี ลกั การนับ คือ รอบละ๒เส้น ๒รอบเปน็ ๔เส้น เรยี กวา่ ๑ ความ ๑๐ความ เทา่ กบั ๑ หลบ การนบั จำนวนความจะใช้ซไ่ี มม้ าคัน่ เพือ่ ปอ้ งกันความผดิ พลาดที่อาจจะเกดิ ข้นึ ได้ ดังน้นั ๑ หลบจะมเี สน้ ดา้ ย ๔๐ เสน้ หลบ คอื หน้ากว้าง ในสมยั โบราณนยิ มทอผา้ สไบหน้ากวา้ งจะใช้ ๘ หลบ ตอ่ มามกี ารขยายหน้า กวา้ งเพม่ิ เช่น ๒๒ หลบ ๓๔ หลบ เปน็ ตน้ ท้ังนี้ข้ึนอยู่กับการออกแบบตง้ั แต่เริ่มแรก

๑๙ การนบั จำนวนความจะใช้ซไี่ มม้ าค่ันเพ่อื ป้องกันความผดิ พลาดที่อาจจะเกิดข้นึ ได้

๒๐ ๖. การตอ่ เส้นยนื การต่อเสน้ ยืนคือการนำเส้นดา้ ยเส้นยนื มาผูกต่อกับเส้นด้ายในซีฟ่ ันหวีโดยทำการตอ่ ทลี่ ะเสน้ จนหมดจำนวนเส้นยืน เช่น หากหน้ากว้างของผา้ เทา่ กบั ๒๒ หลบ ก็จะต้องทำการตอ่ เสน้ ยืนเท่ากับ ๑,๗๖๐ เส้น เป็นตน้ เม่ือต่อเส้นดา้ ยเข้ากับ เสน้ ดา้ ยทอี่ ยู่ในซ่ีฟนั หวเ่ี รียบร้อยแล้ว ก็ใหท้ ำการม้วนเส้นยืนด้วยแผ่นไม้ พร้อมทง้ั การจัดเรยี งระเบียบของเส้นดา้ ยตาม ช่องฟันฟืมใหเ้ ปน็ ระเบียบเรียบร้อย จากน้ัน กท็ ำไปติดตง้ั เข้ากบั หกู ทอผ้าหรือกี่ทอผ้า เพ่ือการเก็บเขาลายหรือตะกอตอ่ ไป ก่อนทำก เพ่อื ทำให้เส้นกลม มีความแขง็ แรง เสน้ ดา้ ยไมแ่ ตกเป็นขนเน่ืองจากกระทบกบั ชอ่ งฟันฟืมเวลาทอผา้

๒๑ เมือ่ ตอ่ เส้นดา้ ยเข้ากับเส้นด้ายที่อยใู่ นซ่ีฟนั หวีเ่ รยี บรอ้ ยแล้ว กใ็ หท้ ำการมว้ นเสน้ ยืนด้วยแผ่นไม้ ๗. การเตรยี มเสน้ พงุ่ ทที่ ำการยอ้ มสีตา่ งๆ การเตรยี มนำ้ ย้อมสีเส้นด้าย โดยท่ัวไปผา้ แพรวาโบราณจะมจี ำนวนสีหลากหลายสีในแตล่ ะลายหลัก ซ่งึ สีท่นี ิยม ใช้กนั มากกจ็ ะเปน็ สีเขม้ เช่น สเี หลือง สีน้ำเงนิ เข้ม สีเขยี ว สีแดง เป็นต้น ซึ่งแต่ละสีกจ็ ะไดม้ าจากช้นิ สว่ นของพืช และสตั ว์ ดงั นี้ (๑) สเี หลือง เป็นสที ี่ไดม้ าจากแก่นเข วิธีการเตรียม คอื นำแก่นเขมาทำใหเ้ ป็นชิ้นเล็กๆก่อนทำการตม้ กับน้ำ การตม้ ให้ตม้ เดือดนานป ส่วนของน้ำย้อมสีกบั กากเหลือของแก่นเขออกจากกนั นำเส้นด้ายเส้นพุ่งท่ีตอ้ งการยอ้ มสีเหลืองมาทำการย้อม โดยเรม่ิ ตน้ การยอ้ มโด การเพ่ิมอณุ หภูมปิ ระมาณ ๙๐-๙๕ องศาเซลเซียส ยอ้ มนานประมาณ ๓๐ นาที จากนั้นนำเส้นด้ายทยี่ ้อมเสรจ็ แล้วมาทำการล้างด้วย นำเส้นด้ายท่ลี ้างน้ำแลว้ บีบน้ำออกแลว้ นำไปผ่ึงตากใหแ้ หง้ (๒) สนี ้ำเงิน เป็นสที ี่ไดม้ าจากเน้ือคราม วิธกี ารเตรียม คือจะตอ้ งมีการก่อหม้อครามก่อนเพือ่ ท่ีนำนำ้ ย้อมสี ครามน้นั มาใชใ้ นการเตรยี มน้ำย้อมสีคราม เมอ่ื ไดน้ ำ้ ยอ้ มสีนำ้ เงนิ แลว้ นำเส้นพ่งุ ท่ีตอ้ งการย้อมสีน้ำเงิน มาทำการย้อม โดยกรรมวิธกี ารย้อมสีครามจะเปน็ การย้อมเย็น โดยการนำเสน้ ด้ายลงย้อมในน้ำย้อม แล้วใช้มอื

๒๒ บีบนวดเสน้ ดา้ ยเพือ่ ให้สีสามารถซึมเขา้ ได้ทัว่ ถงึ การย้อมครามอาจจะต้องทำการย้อมซ้ำ ๒-๓ คร้ังข้ึนอยูก่ ารการติด สขี องครามและระดบั ความเข้มของสีท่ตี ้องการ (๓) สแี ดง เป็นสีท่ีไดจ้ ากครั่ง วิธีการเตรยี มนำ้ ย้อมสีแดงท่มี าจากคร่ัง นำคร่งั มาตำให้ละเอยี ด จากน้ันนำไปแช่นำ้ นานประมาณ ๑ คนื ทำการกรองน้ำย้อมสีด้วยผา้ บาง ปรมิ าณครั่งที่ใช้ในการเตรยี มนำ้ ย้อมประมาณ ๕ กิโลกรมั ต่อนำ้ ๒๐ ลติ รต่อเสน้ ดา้ ย ๑ กโิ ลกรมั นำเสน้ ดา้ ยทเ่ี ตรยี มไว้มาทำการยอ้ ม โดยเริม่ จากการการย้อมเย็น เพื่อให้ น้ำยอ้ มสสี ามารถซึมเข้าไปในเสน้ ด้ายไดอ้ ยา่ งทัว่ ถงึ และสม่ำเสมอ ป้องกันการเกิดสดี ่างบนเส้นดา้ ย เมื่อนำ้ ยอ้ ม ได้ซึมเขา้ เสน้ ด้ายจนทวั่ แลว้ ก็ใหย้ กหม้อต้มย้อมขนึ้ ตัง้ บนเตาเพ่ือเพิ่มความร้อนจนกระทัง่ อณุ หภูมอิ ยู่ที่ ระดบั ๙๐-๙๕ องศาเซลเซียส ใชเ้ วลาประมาณ ๓๐ นาที หรอื สังเกตไดจ้ ากการทีน่ ำ้ ย้อมจะใส จากนั้น ใหน้ ำเส้นดา้ ยท่ียอ้ มสเี รียบรอ้ ยแล้วไปลา้ งนำ้ สะอาด ๒-๓ ครั้ง แล้วทำการบบี นำ้ ใหแ้ หง้ ทำการตามผึ่งใหแ้ หง้ (๔) สีเขยี ว เป็นสที ี่ไดจ้ ากการใชส้ ี ๒ สี คอื สีเหลอื งจากแก่นเข และสีน้ำเงินจากคราม นำเส้นพุ่งที่ ต้องการจะย้อมสเี ขยี วมาทำการย้อมสีเหลืองก่อน และล้างสสี ว่ นเกนิ ออกให้หมดกจ็ ะได้เส้นด้ายท่ี ย้อมสีเหลอื ง ให้นำเส้นดา้ ยสเี หลอื งที่เตรียมไวไ้ ปยอ้ มทับดว้ ยสีนำ้ เงินก็จะทำใหเ้ ส้นท่ียอ้ มเปน็ สีเขยี ว นำเส้นดา้ ยท่ีย้อมสเี สร็จเรยี บรอ้ ยแล้วมาทำการลา้ งสีส่วนเกนิ ออกให้หมด โดยล้างนำ้ ๒-๓ ครัง้ จากนั้นบีบนำ้ ออก ทำการผงึ่ ตากแหง้ ซ่งึ ทุกครัง้ จะตอ้ งทำการกระตกุ เส้นด้ายให้เรยี งกันเรยี บร้อย ๘. การกรอเสน้ พงุ่ เข้าหลอด การกรอเส้นพุ่งเขา้ หลอด นำเส้นด้ายทยี่ อ้ มสตี ่างๆแลว้ มาเข้ากง แลว้ ทำการกรอเส้นด้ายเข้า หลอด เพือ่ เตรียมเป็นเส้นพงุ่ เพ่ือใช้ในการเกาะลาย และใส่กระสวยในการทอขดั

๒๓ ๙. การเก็บเขาลาย / การเก็บตะกอลายขัด เทคนิคการทอผ้าไหมด้ายแพรวา การทำลายบนผนื ผ้าแพรวา ใชไ้ ม้เกบ็ ขิดมลี กั ษณะแบนกวา้ งประมาณ ๗-๘ เซนติเมตร ยาว๑ เมตร ปลายแหลม ในการเกบ็ ขิดลายผา้ แพรวาโบราณในแตล่ ะผืนจะมีจำนวนลายหลักแตผ่ นื ไม่เท่ากัน อย่างผ้าแพรวาท่ีกำลังทอผืนนีจ้ ะมหี ลายหลกั อยู่ ๑๐ ลายหลกั ประดว้ ยไม้ลายหรอื ตะกอกวา่ ๑,๐๐๐ เขา /ตะกอ ซง่ึ การทำลายบนผืนผา้ แพรวาโบราณจะทำโดยใชไ้ ม้ เกบ็ ขิดลายเกบ็ ลายกอ่ น แล้วใช้ไมย้ กลายหรือไมเ้ ผา่ สอดเข้าจนหมดหนา้ ฟืม โดยใหย้ กไมย้ กลายทส่ี อดเข้าไปให้อยู่ในแนวต้งั จากนัน้ ใช้น้ิวกอ้ ยในการลว้ งเกาะเส้นดา้ ยสีตา่ งๆตามลายทกี่ ำหนด ไปจนสดุ ขอบผา้ แลว้ จึงเหยียบไมเ้ หยยี บตะกอฟืมเพ่ือ สอดกระสวย แลว้ ใชฟ้ ืมกระทบเส้นด้ายเพื่อให้ผืนผา้ แน่น ไมห้ น่ึงเกาะ ๒ เท่ียว เพ่อื ใหล้ ายนูนเด่น ในการทอผา้ ไหมแพรวา จะต้องมกี ารเก็บลายไปตลอดการทอ การทอผา้ ไหมแพรวาลวดลายผา้ จะอย่ดู า้ นลา่ งของกีท่ อผา้ ซ่ึงจะมคี วามแตกต่างจาก การทอผา้ ไหมมัดหมห่ี รอื ผา้ อนื่ ๆ และด้านลา่ งของผืนผา้ แพรวา จะมที ่อนไม้เลก็ ๆ แบนๆดนั ยึดรมิ ผ้าทง้ั ๒ดา้ นให้ตรงและตึง ตลอดเวลาเรยี กว่าไม้คันผงั โดยมหี น้าท่ยี ึดผ้าท่ที อใหข้ อบผืนผ้าตรงและตงึ ตลอดเวลา ทำให้ลวดลายบนผา้ สวยงามผ้าแพร วาชนดิ นี้ เรยี กว่า แพรวาเกาะ ซ่ึงเปน็ แพรวาทีม่ ีความสวยงามมาก คอ่ นขา้ งทำยาก และใชเ้ วลาในการทอค่อนขา้ ง นาน ส่งผลทำใหต้ ้นทุนการผลิตสูงตามไปดว้ ย การเกบ็ เขาลาย / การเกบ็ ตะกอลายขัด

๒๔ ยกไมย้ กลายท่ีสอดเข้าไปให้อยูใ่ นแนวตั้ง จากนัน้ ใชน้ ว้ิ กอ้ ยในการล้วงเกาะเส้นดา้ ยสี ต่างๆตามลายที่กำหนด ๑๐. การทอผ้าไหมแพรวาแบบประยกุ ต์

๒๕ ปจั จบุ ันการทอผา้ ไหมแพรวาไดม้ กี ารประยกุ ต์เพอื่ ให้เหมาะกับสภาพการของเศรษฐกิจและความต้องการของตลาด เช่น ผ้าแพรวาชนดิ แพรวาล่วง คอื ใชก้ ระสวยพุ่งตามลายทไ่ี ดเ้ ก็บขดิ ลายไว้ ส่วนใหญ่แพรวาชนิดน้ีจะมสี ี๒สี คอื สีพื้น สลี วดลาย บนผืนผา้ หรอื หากจะมีการเพ่มิ สสี ันกจ็ ะมกี ารเตมิ ลายเลก็ ๆหรอื ลายที่เป็นลายเกสรเล็กๆเพอ่ื เพิ่มสสี ันให้มคี วามสวยงาม ทัง้ นีเ้ พ่ือเป็นการประหยดั เวลา ทำไดง้ ่าย สามารถลดต้นทนุ การผลิตไดด้ ้วยซึ่งผ้าแพรวาชนิดน้เี รียกวา่ แพรวาจก

๒๖ ภาพกจิ กรรมการเรยี นการสอนภาคปฏบิ ตั ิ

๒๗ ภาพกจิ กรรมการเรยี นการสอนภาคปฏบิ ตั ิ

๒๘ การจัดการและการตลาด การคิดตน้ ทนุ และการกำหนดราคาขาย การประกอบธุรกจิ ใด ๆ ก็ตาม ผู้ประกอบธรุ กจิ จะต้องคำนึงถึงกำไรหรือรายได้ แตก่ ารจะคิดถงึ กำไรได้ น้ัน ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องไมล่ ืมสิ่งท่ีสำคญั ยิง่ คอื ตน้ ทนุ ดงั นัน้ ตน้ ทนุ สินค้าจงึ เปน็ หวั ใจสำคญั ของผปู้ ระกอบ ธรุ กจิ การคิดต้นทุนและคำนวณราคาขาย ใชส้ ตู รในการคดิ ดงั น้ี คอื ตน้ ทนุ การผลิต + คา่ ใชจ้ ่าย + กำไร = ราคาขาย การจัดจำหนา่ ย การจดั จำหนา่ ยขนมใหไ้ ปถึงมอื ของกลมุ่ ลกู ค้าสามารถทำได้หลายวธิ ี โดยการจำหน่ายตรง จำหน่ายแบบ ฝากขาย และจำหน่ายแบบขายสง่ แตล่ ะวิธีจะมีความแตกต่างกนั ดงั นี้ ๑. การจำหนา่ ยแบบตรง วางขายหน้าบ้านหรอื เปดิ รา้ นจำหน่ายเองโดยขายปลีกบรรจุใส่ถงุ และบรรจุกล่อง ๒. การจำหน่ายแบบฝากขาย โดยนำไปฝากขายตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ร้านคา้ สหกรณ์ ศูนยก์ ารคา้ ฯลฯ โดยมกี ารจา่ ยค่าตอบแทนแกผ่ ชู้ ่วยจำหนา่ ย คดิ เป็นรอ้ ยละของราคาของ ๓. การจำหน่ายแบบขายส่ง โดยมีผมู้ ารับซ้ือเพือ่ ไปจำหนา่ ย ซ่ึงมีส่วนดไี ม่ต้องรับผิดชอบขนมท่ีเหลือ การทำบัญชีรับจ่ายเบ้อื งตน้ การทำบญั ชรี ับจ่ายเบอ้ื งตน้ ช่วยใหท้ ราบถึงผลการดำเนินงานธรุ กิจตา่ งๆ วา่ มกี ำไร ขาดทนุ มากน้อย เท่าใด เพือ่ จะไดน้ ำผลการปฏบิ ตั งิ านมาปรบั ปรงุ แก้ไขต่อไป

๒๙ กจิ กรรมที่ ๑ ใหผ้ ู้เรียนฝกึ เทคนคิ ในการทอผา้ ไหม โดยให้วทิ ยากรเปน็ ผู้รับรองตามแบบประเมนิ ดงั น้ี แบบประเมนิ การฝึกเทคนคิ ในการทอผ้าไหม ชื่อ........................................................สกุล............................................................................ ท่ี เทคนิค อธบิ ายเทคนคิ ในการทำขนมไทย ผลการปฏบิ ัติ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ขอ้ เสนอแนะ ๑ ทักษะการประกอบ ………………………....................……….. อาชพี การทอผ้าไหม ………………………….................……….. ๒ การกวกั ด้าย …………………………….................…….. ………………………................………….. ๓ การคน้ เส้นดา้ ย ……………………………................…….. …………………………................……….. การทอผ้าไหม ......................................................... ๔ ลงช่ือผ้ปู ระเมนิ ...........................................

๓๐ กิจกรรมที่ ๒ ใหผ้ ู้เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ ๒ กลมุ่ ๆละ ๓ คน โดยฝึกปฏิบตั กิ ารการทอผ้าไหม โดยมกี ารจดบนั ทกึ ข้ันตอนการทำ และใหว้ ทิ ยากรเป็นผตู้ รวจประเมนิ ผล และเสนอแนะ แบบประเมินการทอผา้ ไหม กลมุ่ ............................................................... ที่ หลักเกณฑ์การพิจารณา เกณฑ์การใหค้ ะแนน ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ๑ การจดั เตรียมอปุ กรณ์ ๒ การใชอ้ ุปกรณ์ ๓ ขน้ั ตอนการทำ ๔ การบรรจุภณั ฑ์ ๕ การมีสว่ นรว่ ม ขอ้ เสนอแนะของวทิ ยากร............................................................................................................. ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...............................ชอื่ ผตู้ รวจ

๓๑ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ รยี นตอ่ การเรยี นรู้ หลกั สตู รการทอผา้ ไหม จำนวน ๔๐ ชั่วโมง วันท่ี..........เดอื น..............พ.ศ.............ถึงวันท่ี..........เดอื น..............พ.ศ............. สถานทจี่ ัด ณ ............................หมทู่ ี่..............ตำบลกู่กาสงิ ห์ อำเภอเกษตรวิสยั จงั หวัดร้อยเอ็ด ท่ี ประเด็นการถาม ระดบั ความพึงพอใจ ๕ ๔๓ ๒ ๑ ดมี าก ดี พอใช้ ต้อง ต้องปรบั ปรุง ปรับปรุง ดว่ น ๑ เน้อื หาวชิ าที่จัดการเรยี นร้ตู ามความต้องการของท่านเพยี งใด ๒ วิทยากรมาใหค้ วามรตู้ รงตามเวลา ๓ วิทยากรให้ความรู้ครบตามหลกั สูตรกำหนด ๔ ความสามารถในการถา่ ยทอดความร้ขู องวทิ ยากร ๕ จำนวนสอื่ /อุปกรณ์การฝกึ ประกอบการเรยี นเพียงพอเพยี งใด ๖ ทา่ นที่ได้รบั ความรแู้ ละฝึกทกั ษะได้ตามท่คี าดหวังมากน้อย เพยี งใด ๗ ความรทู้ กั ษะทีไ่ ด้สามารถนำไปใชป้ ระกอบอาชีพได้เพยี งใด ๘ สถานทเี่ รียนเหมาะสมเพียงใด ๙ ท่านไดร้ ับโอกาสในการเรียนรู้เท่าเทียมกนั เพยี งใด ๑๐ ระยะเวลาในการเรียน/กิจกรรมเหมาะสมเพยี งใด ๑๑ ความรทู้ ่ไี ด้รบั คุ้มคา่ กับเวลาและความตั้งใจเพยี งใด ๑๒ ทา่ นพงึ พอใจต่อหลกั สูตรนีเ้ พียงใด ข้อคิดเห็นอืน่ ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................

๓๒ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ รยี นตอ่ การเรียนรู้ หลกั สตู รการทอผา้ ไหม จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง วนั ที่..........เดอื น..............พ.ศ.............ถึงวันท่ี..........เดอื น..............พ.ศ............. สถานท่ีจัด ณ ............................หมู่ที่..............ตำบลก่กู าสงิ ห์ อำเภอเกษตรวสิ ัย จงั หวดั รอ้ ยเอ็ด ที่ ประเดน็ การถาม ระดับความพึงพอใจ ๕ ๔๓ ๒ ๑ ดมี าก ดี พอใช้ ต้อง ตอ้ งปรบั ปรุง ปรบั ปรุง ดว่ น ๑ เน้อื หาวิชาท่ีจัดการเรียนรู้ตามความตอ้ งการของท่านเพยี งใด ๒ วิทยากรมาให้ความร้ตู รงตามเวลา ๓ วทิ ยากรให้ความรคู้ รบตามหลกั สตู รกำหนด ๔ ความสามารถในการถา่ ยทอดความรขู้ องวทิ ยากร ๕ จำนวนสอ่ื /อปุ กรณ์การฝึกประกอบการเรยี นเพยี งพอเพยี งใด ๖ ทา่ นทีไ่ ด้รับความรแู้ ละฝึกทักษะไดต้ ามทีค่ าดหวงั มากนอ้ ย เพียงใด ๗ ความร้ทู ักษะทไี่ ดส้ ามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้เพยี งใด ๘ สถานทีเ่ รยี นเหมาะสมเพียงใด ๙ ทา่ นได้รบั โอกาสในการเรยี นรเู้ ทา่ เทยี มกนั เพียงใด ๑๐ ระยะเวลาในการเรียน/กิจกรรมเหมาะสมเพยี งใด ๑๑ ความรทู้ ไ่ี ด้รับคมุ้ ค่ากบั เวลาและความตง้ั ใจเพยี งใด ๑๒ ท่านพงึ พอใจต่อหลักสตู รนเี้ พยี งใด ขอ้ คดิ เห็นอน่ื ๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................

๓๓ แบบรายงาน การนเิ ทศกลุม่ อาชพี

๓๔ แบบสำรวจความตอ้ งการเรียนรู้ ส่วนท่ี ๑ ข้อมูลส่วนตวั 1. ชื่อ (นาย,นาง,นางสาว)....................................................นามสกุล................................................ 2. อาชีพปัจจบุ ัน  ไม่มี  มี ระบอุ าชีพ............................................................................... 3. วฒุ ิการศึกษา................................................................................................................................... 4. ท่ีอยูป่ จั จุบัน หม่บู ้าน...........................บา้ นเลขท.ี่ ............หมทู่ ่.ี .............ตำบล......................... อำเภอ.......................จงั หวดั ........................รหัสไปรษณยี ์.................เบอร์โทรศัพท.์ ................................. ส่วนท่ี ๒ มคี วามตอ้ งการเรยี นรแู้ ละฝึกอาชพี  การทอผ้าไหม  ผลติ ภณั ฑก์ ระเปา๋ หนัง  นวดแผนไทย  การทำข้าวแตน๋  ผลิตภัณฑจ์ ากเชือก  การทำปุ๋ยหมัก  คอมพวิ เตอรช์ ั้นสงู  การทำจุลินทรยี จ์ าวปลวกแบบนำ้  ช่างซอ่ ม โทรศพั ทม์ ือถือ  การสานตะกรา้ จากไหมพลาสตกิ  จักสานอัดเม็ด  การทำปุ๋ย  ชา่ งซอ่ มพัดลม  การสานตะกร้ามดั เชอื กฟาง  การขยายพนั ธุ์พชื  ชา่ งซ่อมแอร์  การถกั โครเชต์  การเพาะเหด็  ชา่ งซ่อมรองเทา้  ดอกไม้ประดิษฐ์  ดอกไมผ้ า้ ใยบวั  ชา่ งไฟฟา้ เบือ้ งตน้  การจัดดอกไม้สด  เย็บผา้ อเนกประสงค์  ชา่ งซอ่ มมอเตอรไ์ ซค์  การทำบายศรใี บตอง  พวงหรีดผา้ ช่างเชือ่ มโลหะเบ้อื งต้น  เดคูพาจ  การทำ ดอกไม้จนั ทน์ ช่างแต่งหน้า  การทำอาหาร-ขนม  การทำเบเกอร่ี ชา่ งเสริมสวย  ชา่ งตัดผมชาย  การทำซูชิ เพ้นทเ์ ลบ็  การทำอิฐบล็อก  อื่นๆ................ สว่ นท่ี ๓ วนั และเวลาทส่ี ะดวกตอ่ การเข้าเรียนอาชพี กับ กศน.  วันจันทร์-ศุกร์ เวลา ( ) ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ( ) ๑๓.๐๐-๑๖.๓๐ น. ( ) ๑๗.๐๐-๒๐.๐๐ น.  วนั ……………… เวลา ( ) ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ( ) ๑๓.๐๐-๑๖.๓๐ น. ( ) ๑๗.๐๐-๒๐.๐๐ น.  วันหยุดเสาร์-อาทติ ย(์ ) ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ( ) ๑๓.๐๐-๑๖.๓๐ น. ( ) ๑๗.๐๐-๒๐.๐๐ น. อืน่ ๆ โปรดระบุ.......................................................................................... สว่ นที่ ๔ เหตผุ ลของความตอ้ งการเรยี นรู้อและฝกึ ทกั ษะ ต้องการมรี ายไดเ้ สริม ตอ้ งการมีอาชีพ ตอ้ งการไดร้ ับการพฒั นา ใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์  อน่ื ๆ (โปรดระบุ)............................................................... หมายเหตุ สถานศกึ ษาสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม

๓๕ บัญชลี งเวลาผเู้ ขา้ ร่วม หลักสูตรการทอผา้ ไหม จำนวน ๔๐ ชั่วโมง วนั ท่ี ...............เดอื น ...................พ.ศ. ................... กศน.ตำบล................................................. ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอเกษตรวิสัย ท่ี ช่ือ-สกลุ เวลามา ลายมือชื่อ เวลากลบั ลายมือช่อื ๐๘.๐๐น. ๑๖.๐๐น.

๓๖ แบบ กศ.ตน.๑ ใบลงทะเบยี นผสู้ มคั รเรียนหลกั สตู รการจดั การศกึ ษาต่อเน่ือง ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอเกษตรวสิ ัย จังหวดั รอ้ ยเอด็ หลักสูตรหลกั สูตรการทอผา้ ไหม จำนวน ๔๐ ชั่วโมง วันท่ี.............เดอื น....................... พ.ศ. ............. สถานทีจ่ ัด ณ ...............................หมู่ท่ี ........ตำบล................อำเภอเกษตรวสิ ัย จังหวดั ร้อยเอ็ด ที่ ชือ่ -สกลุ เลขบัตรประชาชน อายุ วฒุ ิ อาชพี ท่อี ยปู่ จั จุบนั หมาย การศกึ ษา เหตุ ลงชอ่ื ....................................................... ( นายทัศน์พล พละพนั ธ์ ) ครู กศน.ตำบล

๓๗ ใบสำคัญผูผ้ ่านการฝึกอบรม เลขท.่ี ............... ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอ ใบสำคัญฉบับนใี้ ห้ไวเ้ พ่ือแสดงว่า .............................................................. ผ่านการฝกึ อบรมหลกั สตู ร.................................... จำนวน............ช่วั โมง/วัน เมอื่ วันที่.................................... ถึง วันที.่ ................................... ขอให้มคี วามสุขความเจริญ .................................. ................................. (นายทะเบยี น) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอ/เขต........... หลัง ลายมือช่ือผู้รบั ใบสำคญั .................................... ...........................เขียน วนั รบั ใบสำคัญ……………………………………………. ……………………….ทาน ............................ตรวจ (นายทะเบยี น) แบบรายงานผลการจดั โครงการ กศน.ตำบลดงครง่ั ใหญ่ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอเกษตรวสิ ยั

๓๘ ๑. โครงการ ๖๐ ปีขึ้นไป รวม รวมทง้ั สน้ิ ๒. ช่อื วทิ ยากร ชญ ชญ ๓. พ้นื ท่ดี ำเนินการ ๔. ระยะเวลาดำเนนิ การ ๕.. จำนวนผเู้ รยี นและผผู้ า่ นการเรียน/อบรม จำแนกตามอายุและเพศ เพศ ต่ำกว่า ๑๕ ๑๕-๓๙ ปี ๔๐-๕๙ ปี อายุ ปี ชญ ชญ ชญ จำนวนผ้เู รยี น จำนวนผู้ผา่ น ๖. จำนวนผูเ้ รียนและผผู้ า่ นการฝึกอบรม จำแนกตามกลมุ่ อาชีพและเพศ เพศ รับ พนักงาน ค้าขาย เกษตรกรรม รับจ้าง อ่ืนๆ โปรด รวม รวม อายุ ราชการ รัฐวิสาหกจิ ระบุ ทัง้ สนิ้ จำนวนผู้เรยี น จำนวนผผู้ ่าน ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ชญชญชญชญ ๗. จำนวนผู้เรยี นและผู้ผ่านการฝกึ อบรม จำแนกตามกลุม่ เปา้ หมายและเพศ เพศ ผ้นู ำ อบต. ผู้ต้องขงั ทหารกอง แรงงาน แรงงาน เกษตรกร อสม. กลุม่ รวม รวม อายุ ท้องถิ่น ประจำการ ไทย ต่างดา้ ว สตรี ทงั้ สน้ิ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญช ญช ญ จำนวนผู้เรยี น จำนวนผผู้ ่าน ๘. จำนวนผู้เรยี นและผู้ผ่านการฝกึ อบรม แยกตามระดบั การศึกษาและเพศ (สอดคลอ้ งกับ แบบ กศ.ตน. ๒ ๒) เพศ ต่ำกวา่ ป.๔ ประถม ม.ต้น ม.ปลาย สูงกว่า รวม รวม อายุ ป.๔ ปรญิ ญาตรี ทง้ั ส้นิ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ชญ ญช ช ญ จำนวนผ้เู รียน จำนวนผู้ ผา่ นการฝกึ อบรม ๙. การติดตามผ้ผู า่ นการฝกึ อบรม ๙.๑ มีการตดิ ตามผ้ผู า่ นการฝึกอบรม

๓๙ ( ) ไมม่ ี เพราะ .................................................................................................................................................... ( √ ) มี ดำเนินการอย่างไร เย่ยี มบา้ น/สอบถาม พดู คุย ๙.๒ ผลการประเมินความพึงพอใจในเรยี นหลักสูตรการเลยี้ งไกพ่ นื้ บา้ นอยูใ่ นระดบั ใด ดีมาก ๙.๓ ผู้ผ่านการฝึกอบรมได้นำความรไู้ ปใชจ้ รงิ เพมิ่ รายได้ คน นำไปประกอบอาชพี คน พัฒนาคุณภาพชีวติ คน ใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ คน  อ่นื ๆ ระบ.ุ ...........คน

๔๐ บันทึกการนิเทศการจัดโครงการ กศน.อำเภอเกษตรวสิ ยั สำนักงาน กศน.จงั หวัดร้อยเอด็ ตอนที่ ๑ ขอ้ มูลท่ัวไป ๑. หลกั สูตร/โครงการ ๒. รูปแบบกิจกรรม ๓. ดำเนนิ การ ๔. สถานที่ ตอนท่ี ๒ การจัดการเรยี นการสอนโดยมคี ู่มอื ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทีพ่ บ ขอ้ นเิ ทศ ๑. มกี ารจัดตามแผนการจดั การเรยี นรู้หรอื ไม่อย่างไร ๒. แผนการจดั การเรยี นรู้สอดคล้องกบั หลักสูตรหรือไม่ ๓. วิทยากรและผเู้ รยี นมกี ารออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ร่วมกันหรือไม่ ๔.วิทยากรใช้ส่อื /วัสดุอุปกรณ์ ประกอบกิจกรรมการเรยี นรู้อยา่ งเหมาะสม หรอื ไม่ ๕ การถา่ ยทอดความรูแ้ ละการประสบการณ์ของวทิ ยากร ๖. ผูเ้ รยี นมีสว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมหรือไม่อย่างไร ๗. เครอื ขา่ ยมีสว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมหรือไม่ ๘. การวัดผล ประเมนิ ผล ท้ังทฤษฎีและปฏิบตั ิ เปน็ อย่างไรเหมาะสมหรือไม่ ๙. อ่นื ๆ......................... -- ข้อเสนอแนะเพอ่ื การพัฒนา .............................................................................................................................................................................. รายชื่อผูน้ เิ ทศภายใน ลงช่ือ ..................................ประธานกรรมการ ( นางมยุรี สตั ยไพศาล ) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเกษตรวสิ ยั ลงช่อื ..................................กรรมการ ( นายทัศนพ์ ล พละพนั ธ์ ) ครู กศน.ตำบล ลงชอ่ื ..................................ผู้นิเทศ ( นางสดุ ถวลิ จันทะแสน ) ครูอาสาสมัคร กศน. ................./................/.............

๔๑ ภาคผนวก

๔๒ คณะผูจ้ ดั ทำ ทป่ี รกึ ษา ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเกษตรวสิ ยั ประธานกรรมการสถานศึกษา นางมยรุ ี สัตยไพศาล ครู ผชู้ ว่ ย นางสาวมยุรี ถนดั ค้า ครู ผ้ชู ว่ ย นางสาวอาภาภรณ์ มะลิซ้อน นางสาวกมลพัชร คงทพั ครอู าสาสมัครฯ วิทยากรหลกั สูตรการทอผ้าไหม ผจู้ ัดทำ นายทศั น์พล พละพันธ์ ครอู าสาสมคั รฯ คณุ ครู นางรงั ศรี ขันทอง พมิ พ์รปู เล่ม นายทัศน์พล พละพันธ์

๔๓ แบบติดตามผจู้ บหลักสูตร โครงการฝึกอบรมเรียนรู้อาชพี กลุ่มชั้นเรยี นวชิ าชีพ วิชาการทอผา้ ไหม จำนวน ๔๐ ชั่วโมง กลุม่ อาชีพตามโครงการฝกึ อบรมเรียนรอู้ าชพี วชิ าการทอผ้าไหม จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง หลกั สตู รอาชพี .........................................................................จำนวน.....................ชัว่ โมง ซ่ึงดำเนินการใน ระหว่างวันที่ ....................เดอื น...............................พ.ศ...................ถึงวนั ที.่ ................เดอื น............................ พ.ศ. ...........................สถานท่จี ัดกจิ กรรมบ้าน.................................................................หมู่ที่........................... ตำบล..................................อำเภอเกษตรวสิ ยั จงั หวดั รอ้ ยเอด็ โดยมนี าย/นาง/นางสาว................................................................................................เป็นวิทยากรผู้สอน มีสมาชกิ กล่มุ จำนวน.........................คน คำชแี้ จง โปรดกรอกรายละเอียดและทำเครอ่ื งหมาย / ลงในชอ่ ง ชอื่ ............................................นามสกลุ ..........................................อาย.ุ ..........ปี ตำแหน่ง ........................................................................................................................................ ๑.ผรู้ บั บริการไดร้ ับประโยชนจ์ ากเรยี นรู้อาชพี นอ้ ยทีส่ ุด ปานกลาง มาก มากที่สดุ ๒.ผู้รับบริการสามารถประกอบอาชีพได้ น้อยทสี่ ุด ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด ๓.ผรู้ ับบรกิ ารสามารถนำความรู้ ทกั ษะอาชีพไปเผยแพรต่ อ่ ผอู้ ื่น และชมุ ชนอื่นได้ น้อยทีส่ ดุ ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ ๔.ผู้รับบรกิ ารสามารถประกอบอาชีพได้และมรี ายได้วนั ละ ๒๐๐บาท ๓๐๐ บาท ๔๐๐บาท ๕๐๐บาท ขึ้นไป ๕.ผรู้ บั บริการมคี วามต้องการอยากเรียนรอู้ าชีพอะไรบา้ ง ในครง้ั ต่อไป ๕.๑ อาชีพ........................................................................... ๕.๒ อาชีพ........................................................................... ๕.๓ อาชีพ........................................................................... ๕.๔ อาชีพ........................................................................... ๕.๕ อาชีพ...........................................................................

๔๔ คำนำ เอกสารหลักสูตรโครงการฝกึ อบรมเรยี นรอู้ าชีพ วิชาการทอผา้ ไหม กลุ่มชนั้ เรยี นวิชาชีพ หลกั สูตร ๔๐ ชวั่ โมง จดั ทำข้ึนเพื่อใหเ้ ป็นข้อมูลการจัดกิจกรรมโครงการฝกึ อบรมเรียนรู้อาชีพปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โดยได้ จดั ทำหลกั สตู รการทอผา้ ไหม และมีการนเิ ทศตดิ ตามตรวจเยยี่ มผู้เรียนที่จบหลกั สูตรอาชีพเพอ่ื ติดตามผลการ จดั กจิ กรรม และขอ้ เสนอแนะเพ่ือนำไปเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรม กศน.ใหก้ ับกลมุ่ กล่มุ เปา้ หมาย อีกทั้ง เกิดประโยชนส์ งู สดุ ต่อผูเ้ รียนและผู้รับบริการใน กศน.อำเภอเกษตรวิสยั ตอ่ ไป ขอขอบพระคณุ ทา่ นผอู้ ำนวยการมยุรี สตั ยไพศาล ผอู้ ำนวยการกศน.อำเภอเกษตรวสิ ยั และวิทยากร ทีไ่ ด้ใหค้ ำปรกึ ษา ขอ้ แนะนำ ตลอดในการทำงานจนสำเร็จเกิดประสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธิผล และขอขอบคุณคณะ ครู กศน.ทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ นางสาวชนิดาภา นพใหม่ ครู กศน.ตำบล

๔๕ สารบญั เร่อื ง หน้า ความเปน็ มาของหลกั สตู รการทอผา้ ไหม ๒ โครงสร้างหลกั สตู ร ๗ บทที่ ๑ ความหมายของอาชีพ ๑๐ บทท่ี ๒ การทอผ้าไหม ๑๒ การจดั การและการตลาด ๒๙ แบบรายงานนิเทศกลมุ่ อาชีพ ๔๑ แบบตดิ ตามผู้จบหลกั สตู ร ๔๔ ภาคผนวก (ภาพกจิ กรรมกลุ่มอาชีพ)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook