๔๘ มะไฟ
๔๙ เตาไฟ
๕๐ ไถนา
๕๑ กาไล
๕๒ ไชโย
๕๓ ไซ
๕๔ ไอ
๕๕ ไห
๕๖ ไฟ
๕๗ ไฝ แผนการจัดการเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย (รายวิชา ท๑๒๑๐๑) ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒
แผนการจัดการเรียนการเรยี นรเู้ ชงิ รกุ (Active Learning) ๕๘ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ท่ี ๘ โลกรอ้ น เวลาเรยี น ๑๕ ชวั่ โมง เร่อื ง รู้จกั คำนำเร่ือง (๑) เวลา ๑ ชัว่ โมง วันท.ี่ .........เดอื น....................พ.ศ. ............... ครูผูส้ อน นายดวงรัตน์ ชัยสมภาร ........................................................................................................................................................ 1. สาระการเรยี นร/ู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคดิ เพอื่ นำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดำเนนิ ชวี ิต และมีนสิ ัยรักการอ่าน สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความร้สู ึก ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชว้ี ดั ท ๑.๑ ป. ๒/๑ อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง ท ๑.๑ ป. ๒/๒ อธิบายความหมายของคำและขอ้ ความที่อ่าน ท ๑.๑ ป. ๒/๘ มีมารยาทในการอา่ น ท ๓.๑ ป. ๒/๑ ฟังคำแนะนำ คำสั่งท่ีซับซอ้ น และปฏบิ ตั ิตาม ท ๓.๑ ป. ๒/๖ พดู สอ่ื สารได้ชดั เจนตรงตามวตั ถุประสงค์ 2. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด สาระสำคัญ ทกั ษะการฟังเปน็ การสรา้ งประสบการณ์อยา่ งหนึ่ง ทที่ ำใหม้ คี วามรจู้ ากสง่ิ ทฟี่ งั สามารถเลา่ เรือ่ งและตอบคำถามจากเร่ืองได้ถกู ต้อง 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงคท์ ่วั ไป หรือ จุดประสงค์ปลายทาง (มุง่ หวงั ใหเ้ กิดกบั ผเู้ รยี นในการเรียนรแู้ ต่ละเรอ่ื ง) ๑. สามารถอ่านและบอกความหมายของคำในเรอื่ งได้ถูกต้อง จุดประสงค์นำทาง (เชิงพฤติกรรม) ๑. นกั เรียนสามารถเลา่ เร่ืองท่ีฟงั ได้ถูกต้อง ๒. นกั เรยี นมมี ารยาทในการอ่าน 4. สาระการเรียนรู้ ๑. รจู้ กั คำนำเร่ือง “โลกรอ้ น” ๒. เนือ้ เรอ่ื ง “โลกรอ้ น”
๕๙ 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A) วิธกี ารวดั ผู้ประเมนิ -สังเกต -ครู ภาระงาน/ชนิ้ งาน พฤติกรรม -นกั เรยี น ๑. ซื่อสัตย์สุจริต ๒. มวี นิ ัย ๓. ใฝเ่ รียนรู้ ๔. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (BBL 5 ขน้ั ) 1. ขนั้ เตรียมความพรอ้ ม (Preparation) 1. ร่วมกันเคล่ือนไหวทา่ ทางโดยการทำ Brain Gym (cup song) เชน่ - ดม่ื นม (ตบมือบน 2 คร้งั จับแกว้ เคาะ 2 ครัง้ ) - ฝนตก (แบมอื ซา้ ย จบั แก้วเคาะมือ) - ปลกู ผัก (ตบโต๊ะ ตบไขว้ ตบโต๊ะ แบมอื ซ้ายพร้อมมือขวาตบ) - จบั ใจ (จับหวั จบั หู จับไหล.่ ..จับไหล่ จับหู จับหวั .......) 2. นักเรียนทำ Brain Gym ตามท่วงท่าจนคล่อง - ออกกำลัง (เพลง...ดูแลด้วยใจ) สำนกั ยุทธศาสตร์การแพทย์ 2. ข้ันนำเสนอความรู้ (Present) 1. ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ให้นกั เรยี นทราบ 2. ทดสอบก่อนเรยี น 3. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกับข่าว “โลกร้อน” โดยดูภาพแล้วถามนักเรยี นว่า เป็นเพราะอะไร 4. ครแู ละนกั เรยี นร้องเพลง “ไกย่ า่ ง” และปรบมือประกอบ 5. ครรู ่วมกนั สนทนาเกีย่ วกบั ภาพในบทเรยี น โดยดรู ูปภาพ แลว้ โยงไปเรือ่ ง “โลกร้อน” 6. นักเรียนฟังครูอ่านเร่ืองหรือเลา่ เรือ่ ง “โลกร้อน” จากบทเรียนโดยเนน้ มารยาทในการฟัง 3. ข้นั ลงมอื เรยี นรู้-ฝึกฝน-ฝกึ ทำ (Lear-Practice) 1. นกั เรียนทุกคนฝึกอ่านคำจากภาพและจากบัตรความรู้ “รจู้ กั คำ นำเร่อื ง” อ่านตามครพู รอ้ มกนั
๖๐ หรือ อา่ นตามเพอ่ื นทีส่ ามารถอ่านได้ โดยฝึกอา่ นจนคล่อง ซึง่ ครูนำบัตรคำและบัตรภาพมาให้ นกั เรยี นได้อา่ นร่วมกันในชน้ั เรียน แลว้ นำตดิ กระดานแม่เหล็ก 2. นักเรียนจับคู่ฝึกอา่ นทบทวนบทเรียนอ่านคำ “ ร้จู ักคำ นำเรอื่ ง” ในชว่ งที่ครกู ำหนดให้จากเร่ือง โดยเปล่ียนกันฝึกในคตู่ นเองจนคล่อง 4. ขน้ั สรปุ ความรู้ (summary) 1. นักเรยี นอา่ นเปน็ คู่และบอกความหมายตามความเหมาะสมกับเวลา 2. มอบหมายให้นักเรียนไปฝึกอา่ นคำจากหนงั สือภาษาพาทีในชว่ ง “รู้จักคำ นำเร่ือง” ในชว่ งต่อไปเป็นการบา้ น 5. ข้ันประยกุ ต์ใช้ความรู้ (Apply) 1. การปฏิบัติตนขณะอยู่ในโรงเรียนเพอื่ เป็นส่วนหนึ่งของการลดภาวะโลกรอ้ น เช่น การไมท่ ้ิงขยะเรยี่ ราด การประหยดั น้ำ (แปรงฟนั ใต้ตน้ ไม)้ การประหยดั ไฟ (ปดิ ไฟเม่ือไม่ใช)้ ฯลฯ 2. นำคำศพั ทม์ าแต่งประโยค หรอื นำคำศัพทต์ ่าง ๆ มา แล้วใหส้ ร้างเนือ้ เร่อื งโดยมีคำศัพทเ์ หล่านั้น ปรากฏในเน้ือหาด้วย 8. สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ - Brain gym (คลปิ ) - แกว้ น้ำ (cup song) - บตั รภาพ / บัตรคำ - ภาพประกอบโลกร้อน (ภาพก่อนและปัจจุบนั / ภาพอนาคต) 9. การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี ารวัด ผู้ประเมนิ ความรู้ (K) -สงั เกต -ครู พฤติกรรม -นกั เรยี น ภาระงาน/ชนิ้ งาน -ตรวจคำถาม -ครู -นักเรยี น ๑. อ่านและบอกความหมาย ของคำในเรื่องได้ถูกตอ้ ง ๒. ตอบคำถามปากเปลา่
๖๑ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ กี ารวดั ผู้ประเมิน ภาระงาน/ชิน้ งาน -สังเกตพฤตกิ รรม -ครู ๑. กระบวนการทำงาน -นกั เรียน ๒. กระบวนการกลมุ่ -สังเกตพฤตกิ รรม -ครู ๓. กระบวนการ นำเสนอผลงาน -นกั เรียน ๔. การระดมความคดิ -สงั เกตรปู แบบและ -ครู วิธกี ารนำเสนอ -นักเรยี น -สังเกตพฤติกรรม -ครู -นักเรียน
๖๒ 10. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี) ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... 11. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ด้านทักษะ ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ดา้ นเจตคติ ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ปญั หาที่พบ ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................. ..................................................................................... ลงชอื่ .............................................ผู้สอน (นายดวงรัตน์ ชยั สมภาร) ตำแหนง่ ครู ชำนาญการพเิ ศษ วันที่...........เดือน..........................พ.ศ. ...................... บันทกึ ความเห็นของผู้บรหิ ารโรงเรียน ............................................................................................................................. .......................................... ................................................................................................................................................................. ...... ............................................................................................................................ ........................................... ลงชอ่ื ......................................................... (นายสมบูรณ์ ติ๊บเตปนิ ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบา้ นมว่ งโตน วนั ท่ี...........เดอื น..........................พ.ศ. ......................
๖๓ ภาพประกอบโลกร้อน ภาพก่อนและปัจจุบนั ภาพในอนาคต
แบบทดสอบก่อนกำรเรียน-หลงั เรียน ๖๔ หน่วยที่ ๘ เรื่อง โลกร้อน คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว ๑. จำกเร่ืองภูเขำน้ำแขง็ จะละลำยเพรำะสำเหตุใด ก. อณุ หภมู ิในโลกลดลง ข. กระแสน้ำเปลี่ยนแปลงไป ค. อุณหภูมิในโลกเพม่ิ ข้ึน ๒. สิ่งใดเป็นสำเหตุสำคญั ทำใหโ้ ลกร้อนข้ึน ก. สัตว์ ข. คน ค. พชื ๓. อำกำศแปรปรวนส่งผลตอ่ คนในขอ้ ใดมำกที่สุด ก. ทำใหเ้ จ็บป่ วยงำ่ ยข้ึน ข. ทำใหช้ ีวิควำมเป็นอยลู่ ำบำก ค. ทำใหไ้ ดร้ ับอนั ตรำยจำกภยั ธรรมชำติ ๔. ในครอบครัวจะสำมำรถช่วยกนั ประหยดั โลกร้อนอยำ่ งไร ก. ช่วยกนั ประหยดั น้ำ ข. ช่วยกนั ประหยดั ไฟฟ้ำ ค. ถูกทุกขอ้ ๕. ขอ้ ใดเป็นกำรช่วยลดถุงพลำสติกไดด้ ีที่สุด ก. แมใ่ ชต้ ะกร้ำไปจ่ำยกบั ขำ้ ว ข. พใ่ี ชก้ ลอ่ งโฟมใส่ขนม ค. นอ้ งใชก้ ระดำษห่อของขวญั ๖. ขอ้ ใดเป็นกำรช่วยประหยดั พลงั งำนไฟฟ้ำที่ดี ก. สมชำยขี่จกั รยำนยนตไ์ ปตลำด ข. สมศรีขี่จกั รยำนไปตลำด ค. สมศกั ด์ิขบั รถยนตไ์ ปตลำด ๗. “ ดอกสวยกลำงน้ำ ใบกวำ้ งเทำ่ ถำด” ขอ้ ใดตอบคำปริศนำไดถ้ กู ตอ้ ง ก. ดอกผกั ตบชวำ ข. ดอกจอก ค. ดอกบวั ๘. ใหเ้ ติมคำท่ีมีสระอวั ลดรูป ลงในประโยคต่อไปน้ี “ เลขขอ้ น้ีตอ้ งใชว้ ิธี.......... จึงจะถกู ตอ้ ง” ก. ลบ ข. บวก ค. หำร ๙. พ-อวั -ก ประสมกนั ไดข้ อ้ ใดถกู ตอ้ ง ก. พวก ข. พกั ค. พวกั ๑๐. ขอ้ ใดมีคำท่ีประสมกบั สระอวั ก. ทอ้ งป่ อง ข. กระสอบ ค. ตวั สวย
๖๕ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ ๘ ๑ค ๒ข ๓ค ๔ค ๕ก ๖ข ๗ค ๘ข ๙ก ๑๐ ค
๖๖ ๑. รู้จกั คำ นำเร่ือง ถงุ จอ หอ้ ง โลก พงั ผกั ตม้ ทะเล สฟี า้ ปลกู ตะเกียบ โรงงาน
๖๗ เปลวไฟ หลอดไฟ ลกุ ไหม้ จมกู เสอื้ กนั หนาว หอ้ งสมดุ ทอ่ ไอเสีย อตุ สาหกรรม (อดุ -สา-หะ-กา)
๖๘ แผนการจัดการเรยี นการเรยี นรู้เชิงรกุ (Active Learning) กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย แผนการจดั การเรียนรู้ ที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง เร่ือง ชนดิ ของคำ ( คำนาม ) วันที่ 29 เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ.2564 ครู วรรภา ชันแกว้ ผู้สอน 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชีว้ ัด มาตรฐาน มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคิดเพื่อนำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการ ดำเนินชีวติ และมนี ิสยั รกั การอา่ น มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลัง ของ ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ ตัวช้วี ดั มาตรฐาน ท 1.1 ป.3/1 อ่านออกเสยี งคำ ข้อความ เรอ่ื งส้ันๆ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ ได้ถูกต้อง คล่องแคลว่ มาตรฐาน ท 1.1 ป.3/6 อธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภมู ิ มาตรฐาน ท 4.1 ป.3/1 เขยี นสะกดคำและบอกความหมายของคำ มาตรฐาน ท 4.1 ป.3/2 ระบุชนิดและหนา้ ท่ขี องคำในประโยค 2. สาระสำคัญ การเรยี นรู้ การเขยี น การอ่าน และหลักการใช้คำนามจึงจะสามารถนำคำไปใช้ได้ถูกตอ้ งตามสถานการณ์ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สามารถอา่ นคำนามได้ 2. สามารถบอกไดว้ า่ คำนามมีลกั ษณะอยา่ งไร 3. สามารถนำคำนามไปใช้ได้ถูกต้อง 4. สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1. การสะกดคำ การแจกลกู และการอา่ นเปน็ คำ 2. การอ่านข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมิ 3. ชนดิ และหน้าท่ีของคำ ได้แก่ คำนาม คำสรรพนาม และคำกริยา
๖๙ 4. การอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ท่ี ประกอบดว้ ยคำพ้นื ฐานเพิ่มจาก ป.2 ไม่น้อยกวา่ 1,200 คำ 5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - มวี นิ ัย - ใฝ่เรยี นรู้ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ( BBL 5 ขนั้ ) 1. ขั้นเตรยี มความพร้อม 1. คุณครใู ห้นักเรียนท่องและเคล่อื นไหวประกอบบทเพลง “ไขพ่ ะโล้” ตามจังหวะ 2. จบั คกู่ บั เพื่อนเคลื่อนไหวประกอบตามจังหวะและเน้ือเพลง เชน่ หันหนา้ เข้าหาเพื่อน ชูมอื ขึน้ สองขา้ ง มือขวากำ มือ ซ้ายแบ แลว้ สลบั เป็น มือซ้ายกำ มอื ขวาแบ ตามจังหวะ เพลง เมื่อถงึ คำวา่ โปะ๊ ให้ตบมือเพ่อื นทั้งสองมือ 2. ขัน้ นำเสนอความรู้ 1. คณุ ครตู ดิ ชาร์ตคำนามไว้บนกระดาน 2. คณุ ครูอธบิ ายวา่ คำนาม คืออะไร มีลักษณะอย่างไร 3. คณุ ครพู านกั เรียนชีอ้ า่ นคำบนชารต์ จนคลอ่ ง 4. คณุ ครูชี้บนชารต์ แล้วใหน้ กั เรียนอา่ นเอง 5. ใหน้ กั เรียนชี้อา่ นคำนาม ในหนังสอื เรยี นพร้อมกันทงั้ ห้อง 3. ขน้ั ลงมอื เรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน (การทำแบบฝึกหดั คุณครสู ามารถใหน้ กั เรียนแบ่งทำได้ตาม ความ เหมาะสม) 2. คุณครแู จกบัตรคำศัพท์คำนาม หมวดหมู่ตา่ งๆ ตามจำนวนนกั เรยี น 3. เขยี นบนกระดานเป็นหัวข้อ ดังนี้ ชอื่ คน สตั ว์ สิง่ ของ สถานท่ี และอาการตา่ งๆ 4. ให้นกั เรียนนำบตั รคำศพั ท์ท่ีตนเองได้ ไปตดิ บนกระดานใหต้ รงกบั หมวดหมู่
๗๐ 5. เม่ือนกั เรยี นติดบตั รคำศพั ท์ครบทุกคนแลว้ คุณครูช้ีคำบนกระดาน ใหน้ ักเรียนอ่านพรอ้ มกันทั้งหอ้ ง 4. ข้ันสรุปความรู้ 1. คณุ ครแู จกใบงาน “สมุดคำนาม” ใหน้ ักเรียนทุกคน เพ่ือใหน้ ักเรยี นฝึกอา่ นและเขียนคำนามลงใน หมวดหมู่ตา่ งๆ เนอ่ื งจากคำนามนั้นมคี วามหมายครอบคลมุ อยู่หลายอยา่ ง 2. เมอื่ นกั เรียนทำใบงานเสรจ็ แล้ว ให้คณุ ครูเฉลยพรอ้ มกันในห้องเรียน และติดใบงานลงในสมดุ 5. ข้ันประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ 1. แบง่ นักเรียนออกเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 3 คน จากนน้ั แจกกระดาษเอสใี่ ห้นักเรียนกลุ่มละ 1 แผน่ 2. ให้นักเรยี นสรุปคำนามในรูปแบบของแผนผังความคดิ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใชห้ ัวข้อในการสรปุ เหมอื นกัน สรุปลงในกระดาษเอสีม่ คี ุณครแู จกให้ 3. เม่อื สรุปเสร็จทุกกลุม่ แล้ว คณุ ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ ออกไปนำเสนอหน้าห้องเรียน 4. เขียนท่ีนกั เรยี นสรปุ ในกลุ่มของตนเอง ลงในสมุด 8. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ชารต์ บทเพลง “ไขพ่ ะโล้” 2. ชาร์ตคำนาม 3. บัตรคำศัพทค์ ำนามหมวดต่างๆ 4. หนังสือเรยี นอา่ นออกเขยี นได้ ป.3 เลม่ 3 5. ใบงาน “สมดุ คำนาม” 9. การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการอ่าน / การออกเสยี ง / การสะกดคำ ของนักเรียน 2. ประเมนิ ผลจากคะแนนการทำแบบฝึกหดั ของนักเรยี น (การวดั และการประเมินผล คุณครสู ามารถปรับเปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม บางช้ันเรยี นอาจมกี าร ทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน การเขยี นตามคำบอก การทดสอบการอ่าน ฯลฯ) 10. กจิ กรรมเสนอแนะ ( ถ้ามี ) - 11. บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ - นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเร่อื งคำนาม สามารถบอกคำนามชนิดต่างๆไดถ้ ูกตอ้ ง ด้านทักษะ - นกั เรียนมที ักษะการเขียน โดยเขียนคำนามต่างๆไดถ้ ูกต้อง และนักเรียนมีทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ บอกลักษณะ ชนิดของคำนามได้ถูกต้อง ดา้ นเจตคติ - นักเรยี นมีเจตคติที่ดี มีความใฝเ่ รียนรู้
๗๑ ปญั หาท่ีพบ - ขอ้ เสนอแนะ - ลงช่อื ........................................ผสู้ อน ( นางวรรภา ขนั แก้ว ) ตำแหน่ง ครชู ำนาญการ วันท่ี 29 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 บนั ทึกความเห็นของผบู้ รหิ ารโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ............................................. ( นายสมบูรณ์ ติ๊บเตปิน ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านม่วงโตน วันท่ี 29 เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ.2564
๗๒ แผนการจดั การเรียนการเรียนรเู้ ชงิ รุก (Active Learning) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ พัฒนาทักษะการอา่ น เวลาเรยี น 10 ชั่วโมง แผนที่ ๑ เรือ่ ง พืน้ ฐานการอ่านจับใจความสำคัญ เวลา ๑ ช่ัวโมง วันท่.ี .........เดือน....................พ.ศ. ............... ครผู ู้สอน นางสาวกฤษณา สุภามงคล โรงเรยี นบ้านม่วงโตน เครอื ขา่ ยรตั นมติ ร ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระการเรยี นร้/ู มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวดั สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ ดำเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น ตวั ช้ีวดั ท่ีท ๑.๑ ม.๑/๒ จบั ใจความสำคญั จากเรื่องทอ่ี า่ น 2. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด การอ่านจับใจความเป็นการอ่านระดับพื้นฐาน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการศึกษาหาความรู้มี วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับข้อความหรือเรื่องราวที่อ่าน ผู้ที่มีทักษะการอ่านจับใจความสูงจะ สามารถเข้าใจเนื้อหาที่ปรากฏในข้อความหรือเรื่องที่อ่านอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการ วิเคราะห์หรอื ตีความเร่ืองราวนนั้ ๆ ต่อไป 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนสามารถอธิบายหลกั การอ่านจับใจความสำคญั ได้ (K) ๒. นักเรียนสามารถเขียนจบั ใจความสำคัญจากเรอื่ งทอ่ี ่านได้ (P) ๓. นักเรียนเหน็ ความสำคญั ของการอ่านจบั ใจความสำคัญ (A) 4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง การอา่ นจับใจความจากวรรณคดีและวรรณกรรมในหนังสือเรยี นรวมท้งั บทเรยี นจากกลมุ่ สาระการ เรยี นร้อู ื่น ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพูด
๗๓ 2. ความสามารถในการคิด - การวเิ คราะห์ - การประยกุ ต์/การปรับปรุง - การสรปุ ความรู้ 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ชีว้ ัดที่ ๔.๑ ตัง้ ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ รกั ความเปน็ ไทย ตวั ชี้วัดท่ี ๗.๒ เห็นคุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการสือ่ สารได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (BBL 5 ขั้น) 1. ขน้ั เตรยี มความพรอ้ ม (Preparation) ๑. ขออาสาสมัครนักเรยี นออกมาหนา้ ช้ันเรียน 4 คน โดยยนื เขา้ แถวเรียงหนา้ กระดาน ให้นักเรยี นคน แรกมาอ่านข้อความทคี่ รเู ตรียมไวโ้ ดยอ่านในใจ ดังนี้ เกม กระซบิ สง่ สาร “พีช่ ายถบี รถจักรยานให้น้องสาวนง่ั ซ้อนท้าย ท้ังสองชมธรรมชาติเพลนิ ไปจงึ เกือบชนเด็กท่ี เดนิ อยู่ขา้ งหน้า” จากนน้ั ให้คนแรกกระซบิ บอกขอ้ ความท่อี ่านกับเพ่ือนคนต่อไปเป็นทอด ๆ จนถงึ คนสุดท้าย แล้วใหค้ นสดุ ท้ายบอกข้อความทไี่ ด้ฟงั กบั เพ่ือนในชัน้ เรยี น หลงั จากนัน้ จึงใหค้ นแรกบอกข้อความทอ่ี ่านจากครู ใหท้ ุกคนฟงั วา่ ตรงกนั หรือไม่ ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นออนไลน์ เร่ืองการอ่านจบั ใจความสำคัญ 10 ข้อ ในเวบ็ ไซต์ ห้องเรียนภาษาไทย เร่ืองการอ่านจบั ใจความสำคัญ ๓. ครูอธบิ ายใหน้ กั เรยี นฟังว่า การอา่ นจบั ใจความสำคญั เป็นทกั ษะเบื้องตน้ ของการอา่ นหนงั สอื และ เป็นหวั ใจของการอา่ น เพราะถ้าจบั ใจความสำคญั ไม่ได้ก็ยอ่ มไม่เข้าใจเรื่องท่ีอ่าน หากเราต้องใชป้ ระโยชน์จาก เรือ่ งที่อ่าน กต็ ้องกลบั มาอา่ นใหม่ ทำใหเ้ สยี เวลา 2. ข้นั นำเสนอความรู้ (Present) ๑. นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาความรูเ้ รอื่ ง การอา่ นจบั ใจความ ดว้ ยบันได 6 ขั้น สูค่ วามสำเร็จในการอา่ น จบั ใจความสำคัญ โดยใช้สื่อการสอน เพลง การอา่ นจบั ใจความสำคัญด้วยบันได 6 ข้นั
๗๔ จากน้ันใช้สอื่ เวบ็ ไซต์การอา่ นจับใจความสำคัญ เสนอความรใู้ ห้นกั เรียนได้เรียนรู้พร้อมกัน แลว้ ร่วมกันสรปุ ความรู้ความเข้าใจ ๒. นักเรียนรว่ มอ่านอ่านบทความตอ่ ไปนี้ 3. นกั เรียนชว่ ยกันตัง้ คำถามทส่ี นใจเก่ียวกับบทความ ครบู ันทกึ คำถามเหลา่ น้นั บนกระดาน เช่น - แอปเปิล้ ควรทานอย่างไร - แอปเปลิ้ มีประโยชนอ์ ยา่ งไร นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคำถามทช่ี ว่ ยกันตง้ั คำถามดงั กล่าว พรอ้ มบันทึกลงสมุด
๗๕ 3. ขน้ั ลงมือเรยี นรู้-ฝกึ ฝน-ฝึกทำ (Learn-Practice) 1. นกั เรยี น ทำแบบฝกึ ทักษะ เรอื่ ง การอ่านจับใจความสำคัญ ด้วยแบบฝกึ ทักษะ liveworksheets ในเว็บไซต์การอา่ นจับใจความ ทงั้ หมด 5 แบบฝึก แล้วรว่ มกนั เฉลยใบงาน 4. ข้นั สรปุ ความรู้ (summary) ๑. ใหน้ กั เรียนและครรู ว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั นี้ - การอ่านจับใจความเป็นการอ่านระดับพื้นฐาน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการศึกษา หาความรู้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับข้อความหรือเรื่องราวที่อ่าน ผู้ที่มีทักษะการอ่านจับ ใจความสูงจะสามารถเข้าใจเนื้อหาที่ปรากฏในข้อความหรือเรื่องที่อ่านอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจะเป็น พื้นฐานในการวิเคราะห์หรือตคี วามเรื่องราวนนั้ ๆ ต่อไป ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนออนไลน์ เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ 10 ข้อ ในเว็บไซต์ ห้องเรียนภาษาไทย เรอ่ื งการอา่ นจบั ใจความสำคัญ 5. ขน้ั ประยกุ ต์ใช้ความรู้ (Apply) ๑. นกั เรยี นสามารถบอกความสำคญั ของการอ่านจับใจความสำคัญหรอื การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ไดอ้ ย่างนอ้ ยคนละ ๓ ตัวอยา่ ง 8. สอื่ และแหลง่ เรียนรู้ ๑. เพลง การอ่านจับใจความสำคัญ ๒. เว็บไซต์ ห้องเรียนภาษาไทยครกู ุง๊ ก๊ิง เรือ่ ง การอ่านจับใจความสำคัญ ๓. แบบฝกึ ทกั ษะ เรื่อง การอ่านจบั ใจความสำคญั 9. การวดั ผลและประเมนิ ผล รายการประเมิน วธิ ีการประเมนิ เครือ่ งมือการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ ๑. นักเรยี นสามารถอธบิ ายหลกั การ - ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ เร่ือง การ - แบบฝกึ ทกั ษะ เรื่อง การ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ อา่ นจบั ใจความสำคัญได้ (K) อ่านจบั ใจความสำคญั อา่ นจบั ใจความสำคญั ๒. นักเรียนสามารถเขยี นจับใจความ - ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ เรอ่ื ง การ - แบบฝกึ ทักษะ เร่ือง การ ระดบั คณุ ภาพ 2 สำคญั จากเรื่องที่อา่ นได้ (P) อา่ นจับใจความสำคัญ อา่ นจบั ใจความสำคัญ ผ่านเกณฑ์ - ประเมนิ จากการตอบคำถาม - แบบสงั เกตการตอบคำถาม ๓. นักเรียนเห็นความสำคญั ของการ ระดับคณุ ภาพ 2 อา่ นจับใจความสำคัญ (A) - สังเกตสมรรถนะสำคญั ของ - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ผ้เู รยี น สำคัญของผเู้ รยี น ระดับคณุ ภาพ 2 1. ความสามารถในการสือ่ สาร ผา่ นเกณฑ์ 2. ความสามารถในการคดิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - สังเกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ - แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอัน ระดบั คณุ ภาพ 2 1. ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ ม่ันในการทำงานเห็น 3. รักความเป็นไทย คุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการ พึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์ ส่อื สารไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม
๗๖ 10. กิจกรรมเสนอแนะ (ถา้ ม)ี ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. 11. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................. ............................ ...................................................................................................... ........................................................................ ด้านทักษะ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ด้านเจตคติ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาท่ีพบ ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ข้อเสนอแนะ ............................................................................................ .................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ.............................................ผสู้ อน (นางสาวกฤษณา สุภามงคล) ตำแหน่งครูผชู้ ่วย โรงเรยี นบา้ นมว่ งโตน วันท่.ี ..........เดอื น..........................พ.ศ. ......................
๗๗ บันทึกความเห็นของผบู้ ริหารโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ............................ ลงชอื่ ......................................................... (นายสมบรู ณ์ ติบ๊ เตปิน) ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นม่วงโตน วันที่...........เดอื น..........................พ.ศ. ......................
๗๘ ใบงาน เรอ่ื ง การอา่ นจับใจความสำคญั ตวั ชีว้ ัดที่ท ๑.๑ ม.๑/๒ จับใจความสำคญั จากเรือ่ งทอ่ี ่าน ตอนที่ ๑ คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนอธิบายหลกั การอ่านจบั ใจความสำคัญ ตอนท่ี ๒ คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนจับใจความสำคัญจากเร่ืองทีอ่ า่ น 1. ฟอรม์ าลนิ หรือสารละลายฟอรม์ ัลดีไฮด์ ชาวสวนชาวไรน่ ิยมใช้ฆ่าเชือ้ จุลินทรยี แ์ ละเช้ือราในดิน ใช้ ทำปุ๋ยและป้องกันการเน่าเสียของพืชผักผลไม้แต่ส่วนใหญ่เราจะรู้จักในฐานะเป็นส่วนผสมของน้ำยาทำ ความสะอาด นำ้ ยาลา้ งจาน น้ำยาปรบั ผ้านุ่ม นำ้ ยาทำความสะอาดพรม แมก้ ระทง่ั ในพลาสติกและโฟมท่ีมี ส่วนผสมของฟอร์มาลนิ อยู่ดว้ ยเชน่ กัน ในโรงงานทอผา้ ก็จะใชเ้ พือ่ ใหผ้ า้ ที่ทอน้ันไม่ยับ ตามโรงพยาบาลจะ ใชเ้ พอื่ ฆ่าเชือ้ ดับกลน่ิ และทำใหศ้ พไม่เนา่ ใจความสำคัญ คือ .............................................................................................................................. 2. ชาวอาหรับโบราณเชื่อว่าไข่มุกเป็นน้ำตาของเทพเจ้า ชาวโรมันเชื่อว่าไข่มุกก่อรูปร่างมาจากผลึก ของน้ำค้างและหอยกินเข้าไป บางตำนานเชื่อว่าไข่มุกมาจากหยาดหยดน้ำตาของเทพธิดาองค์หนึ่งซ่ึง สงสารประชาชนผู้ทกุ ข์ยาก สว่ นชาวอินเดียเชือ่ กันว่าเกิดจากฟนั ของมารตนหนึ่งทีร่ ว่ งหล่นพร่างพรายลงสู่ มหาสมุทรและกลายสภาพเป็นไข่มุกมีความงามประกายวาววามด่งั แสงเดือนทสี่ าดใส่ไปคืนเดือนเพญ็ ใจความสำคญั คือ ............................................................................................................................. . 3. การทำนำ้ ตาลโตนดเรม่ิ จากทุก ๆ เช้าชาวบ้านจะเกบ็ กระบอกไมไ้ ผท่ ่รี องนำ้ หวานมาท้ังคนื จากช่อ ดอกของต้นศาลหรือทีเ่ รียกวา่ งวงตาล จากนัน้ นำน้ำหวานมากรองเอาเปลือกไม้พะยอมออกก่อนทจ่ี ะนำ ใบเคยี่ วเมือ่ เค่ียวน้ำตาลจนงวดไดท้ ่ี ก็มาถงึ ข้นั ตอนการกวนและตเี พ่ือให้นำ้ ตาลขึ้นตัว แล้วจึงหยอดลงเบา้ หรอื พมิ พ์ เรามักเห็นกบั ในรูปคร่ึงวงกลมคล้ายถว้ ย ชาวบา้ นจะเรยี กรปู แบบนีว้ ่าน้ำตาลปกึ แตห่ ากใส่ใน ภาชนะต่าง ๆ ก็จะมีชอื่ เรยี กตามภาชนะที่ใส่ เช่น น้ำตาลปบี๊ นำ้ ตาลหม้อ เป็นต้น ใจความสำคัญ คือ ...............................................................................................................................
๗๙ เฉลยใบงาน เรือ่ ง การอา่ นจับใจความสำคัญ ตวั ชวี้ ดั ทที่ ๑.๑ ม.๑/๒ จบั ใจความสำคัญจากเร่ืองที่อ่าน ตอนท่ี ๑ คำชี้แจง ให้นักเรยี นอธิบายหลักการอ่านจับใจความสำคัญ 1. อา่ นเรือ่ งให้จบแลว้ ตง้ั คาถาม 2. หาคาสาคัญ 3. ตดั สว่ นขยายความสาคญั 5W1H 4. เติมคาเชื่อมหาส่วนขยาย 5. สงั เกตคาเชอื่ มแสดงความ 6. หาใจความสาคัญได้ทุกบท ใจความสาคัญ ขัดแย้ง อ่าน ตอนที่ ๒ คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นจบั ใจความสำคญั จากเรอื่ งทีอ่ ่าน 1. ฟอรม์ าลนิ หรือสารละลายฟอรม์ ลั ดไี ฮด์ ชาวสวนชาวไร่นยิ มใชฆ้ ่าเชื้อจุลินทรียแ์ ละเช้ือราในดิน ใช้ ทำปุ๋ยและป้องกันการเน่าเสียของพืชผักผลไม้แต่ส่วนใหญ่เราจะรู้จักในฐานะเป็นส่วนผสมของน้ำยาทำ ความสะอาด นำ้ ยาลา้ งจาน นำ้ ยาปรบั ผ้านุม่ น้ำยาทำความสะอาดพรม แม้กระทง่ั ในพลาสติกและโฟมที่มี ส่วนผสมของฟอร์มาลนิ อยู่ด้วยเช่นกัน ในโรงงานทอผ้าก็จะใชเ้ พื่อให้ผา้ ท่ีทอนั้นไม่ยับ ตามโรงพยาบาลจะ ใชเ้ พือ่ ฆา่ เช้อื ดบั กล่ินและทำให้ศพไมเ่ น่า ใจความสำคัญ คือ ประโยชน์ของฟอร์มาลิน 2. ชาวอาหรับโบราณเชื่อว่าไข่มุกเป็นน้ำตาของเทพเจ้า ชาวโรมันเชื่อว่าไข่มุกก่อรูปร่างมาจากผลึก ของน้ำค้างและหอยกินเข้าไป บางตำนานเชื่อว่าไข่มุกมาจากหยาดหยดน้ำตาของเทพธิดาองค์หนึ่งซ่ึง สงสารประชาชนผูท้ ุกขย์ าก ส่วนชาวอินเดียเช่ือกันว่าเกิดจากฟันของมารตนหน่ึงที่ร่วงหลน่ พร่างพรายลงสู่ มหาสมทุ รและกลายสภาพเปน็ ไข่มกุ มีความงามประกายวาววามดั่งแสงเดือนที่สาดใส่ไปคนื เดือนเพญ็ ใจความสำคญั คือ ความเช่อื เรอ่ื งไข่มกุ 3. การทำนำ้ ตาลโตนดเร่มิ จากทกุ ๆ เชา้ ชาวบา้ นจะเก็บกระบอกไม้ไผท่ ่ีรองนำ้ หวานมาท้ังคืนจากช่อ ดอกของต้นศาลหรอื ทีเ่ รียกว่า งวงตาล จากน้นั นำน้ำหวานมากรองเอาเปลือกไม้พะยอมออกก่อนท่จี ะนำ ใบเคยี่ วเมอื่ เค่ยี วน้ำตาลจนงวดไดท้ ี่ ก็มาถึงขั้นตอนการกวนและตเี พ่ือใหน้ ำ้ ตาลข้นึ ตัว แล้วจงึ หยอดลงเบ้า หรือพิมพ์ เรามักเหน็ กบั ในรปู ครง่ึ วงกลมคล้ายถว้ ย ชาวบา้ นจะเรยี กรปู แบบนวี้ ่านำ้ ตาลปึก แต่หากใส่ใน ภาชนะตา่ ง ๆ ก็จะมชี อื่ เรียกตามภาชนะท่ใี ส่ เช่น นำ้ ตาลปบ๊ี น้ำตาลหม้อ เป็นต้น ใจความสำคญั คือ ขัน้ ตอนวธิ ีการทำนำ้ ตาลโตนด
๘๐
๘๑
๘๒
๘๓
๘๔ ภาพกิจกรรมกอ่ นการพฒั นา กุญแจดอกที่ ๑ โรงเรยี นบ้านมว่ งโตน
๘๕ ภาพกิจกรรมหลงั การพฒั นา กุญแจดอกที่ ๑ โรงเรยี นบ้านมว่ งโตน
๘๖ ภาพกิจกรรมหลงั การพฒั นา กุญแจดอกที่ ๑ โรงเรยี นบ้านมว่ งโตน
๘๗ ภาพกิจกรรมกอ่ นการพฒั นา กุญแจดอกที่ ๒ โรงเรยี นบ้านมว่ งโตน
๘๘ ภาพกิจกรรมหลงั การพฒั นา กุญแจดอกที่ ๒ โรงเรยี นบ้านมว่ งโตน
ภาพกิจกรรมกอ่ นการพฒั นา กุญแจดอกที่ ๓ ๘๙ โรงเรยี นบ้านมว่ งโตน
ภาพกิจกรรมหลงั การพฒั นา กุญแจดอกที่ ๓ ๙๐ โรงเรยี นบ้านมว่ งโตน
ภาพกิจกรรมหลงั การพฒั นา กุญแจดอกที่ ๓ ๙๑ โรงเรยี นบ้านมว่ งโตน
ภาพกิจกรรมหลงั การพฒั นา กุญแจดอกที่ ๓ ๙๒ โรงเรยี นบ้านมว่ งโตน
ภาพกจิ กรรมกอ่ นการพัฒนา กญุ แจดอกท่ี ๔ และ ๕ ๙๓ โรงเรียนบ้านม่วงโตน
๙๔ ภาพกจิ กรรมหลังการพัฒนา กญุ แจดอกท่ี ๔ และ ๕ โรงเรียนบ้านม่วงโตน
๙๕ ภาพกจิ กรรมหลังการพัฒนา กญุ แจดอกท่ี ๔ และ ๕ โรงเรียนบ้านม่วงโตน
ภาพกจิ กรรมหลังการพัฒนา กญุ แจดอกท่ี ๔ และ ๕ ๙๖ โรงเรียนบ้านม่วงโตน
๙๗ ภาพกจิ กรรมหลังการพัฒนา กญุ แจดอกท่ี ๔ และ ๕ โรงเรียนบ้านม่วงโตน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106