Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่อง ขนมไทย

เรื่อง ขนมไทย

Published by Pornpimon Rodbun, 2021-10-05 03:39:13

Description: เรื่อง ขนมไทย

Search

Read the Text Version

ขนมไทย ปภาวดี ศักด์ิมาก 6427228001586 พรพมิ ล รอดบญุ 6427228001593 ภารดี ห่อหุ้ม 6427228001606 สิรามล ทองนา 6427228001638 สุทธินี แสงแก้ว 6427228001642 อภชิ ญา อนิ จันทร์ศรี 6427228001648 กล่มุ เรียน 64026.71 รายงานนเี้ ป็ นส่วนหนงึ่ ของวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศและการศึกษาค้นคว้า ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สุราษฎร์ธานี



ขนมไทย ปภาวดี ศักด์ิมาก 6427228001586 พรพมิ ล รอดบุญ 6427228001593 ภารดี ห่อหุ้ม 6427228001606 สิรามล ทองนา 6427228001638 สุทธินี แสงแก้ว 6427228001642 อภชิ ญา อนิ จันทร์ศรี 6427228001648 กล่มุ เรียน 64026.71 รายงานนเี้ ป็ นส่วนหนง่ึ ของวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศและการศึกษาค้นคว้า ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสุราษฎร์ธานี

ก คานา รายงานฉบบั น้ีเพ่ือเป็นส่วนหน่ึงของรายวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศและการศึกษาคน้ ควา้ โดยมีจุดประสงคเ์ พ่ือศึกษาหาความรู้ของขนมไทย ซ่ึงรายงานน้ีมีเน้ือหาความรู้เกี่ยวกบั ขนมไทย ใน เรื่องประวตั ิขนมไทย วตั ถดุ ิบของขนมไทย ประเภทขนมไทย ขนมไทย 4 ภาค ขนมไทยกบั งาน ประเพณีและขนมไทยมงคล9ชนิด ทางผจู้ ดั ทาไดท้ ารายงาน โดยรวบรวมเน้ือหาจากแหลง่ สารสนเทศตา่ งๆ ผจู้ ดั ทาตอ้ งขอขอบคุณ อาจารยส์ ุพฒั น์ สีระพดั ผใู้ หค้ วามรู้ และแนวทางการศึกษา เพ่ือนๆ ทกุ คนท่ีใหค้ วามช่วยเหลือมาโดยตลอด ผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงายฉบบั น้ีจะใหค้ วามรู้ และเป็นปะโยชน์ แก่ผอู้ า่ นทุกๆทา่ น คณะผจู้ ดั ทา 27 กนั ยายน 2564

ข สารบัญ เรื่อง หน้า คานา..................................................................................................................................................ก สารบัญ..............................................................................................................................................ข สารบญั ภาพ.......................................................................................................................................ค สารบัญตาราง....................................................................................................................................ง ประวัตขิ นมไทย................................................................................................................................1 วตั ถดุ ิบของขนมไทย........................................................................................................................3 ประเภทของขนมไทย.......................................................................................................................6 ขนมไทย 4 ภาค................................................................................................................................7 ขนมไทยกบั งานประเพณี.................................................................................................................8 ขนมไทยมงคล 9 ชนิด....................................................................................................................10 บรรณานุกรม................................................................................................................................. 11 ภาคผนวก.......................................................................................................................................13

ค สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1 ประวตั ิขนมไทย..........................................................................................................................1 2 วตั ถดุ ิบขนมไทย.........................................................................................................................3 3 ขนมไทย 4 ภาค..........................................................................................................................7 4 ขนมไทยกบั งานประเพณี...........................................................................................................8

ง สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1 ตารางแสดงขนมท่ีคนไทยชอบบริโภค………………………………………………………….7

ขนมไทย ประวัติขนมไทย ภาพที่ 1 ประวตั ิขนมไทย ท่ีมา : www.wongnai.com ขนมไทย น้นั มีเอกลกั ษณ์ท้งั ดา้ นวฒั นธรรมของชาติไทย คือ มีความละเอียดอ่อน ประณีตใน การเลือกสรรวตั ถดุ ิบ มีวธิ ีการทาที่พถิ ีพถิ นั รสชาติหอมหวาน รูปลกั ษณ์ชวนรับประทาน ความจริง แลว้ คาวา่ ขนมในภาษาไทยน้นั ไมม่ ี คาดวา่ มีการออกเสียงเพ้ยี นมาจากคาวา่ “เขา้ หนม” เนื่องจากคา วา่ “หนม” น้นั แปลวา่ หวาน แตก่ ลบั ไม่ปรากฏความหมายของ “ขนม” ในพจนานุกรมไทย และอีก ขอ้ สนั นิษฐานหน่ึงคาวา่ “ขนม” อาจมาจากคาในภาษาเขมรวา่ “หนม” หมายถึง อาหารที่ทามาจา แป้ง เมื่อลองดูแลว้ พบวา่ ขนมส่วนใหญ่ทามาจากแป้ง โดยมีน้าตาล และกะทิเป็นส่วนผสม ดงั น้นั จึง อาจกลา่ วไดว้ า่ “ขนม” เพ้ียนมาจาก “หนม” ในภาษาเขมรกเ็ ป็นได้

2 ตอ่ มาในสมยั อยธุ ยาน้นั เราเรียกไดว้ า่ เป็นยคุ เฟ้ื องฟูของขนมไทยเลยก็วา่ ได้ โดยเฉพาะใน สมยั การปกครองของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่มีการคา้ ขายกบั ชาวตา่ งชาติ เราไดร้ ับอิทธิพล ทางดา้ นขนมหวานจากคู่คา้ หลายประเทศ และบุคคลท่ีมีช่ือเสียงทางดา้ นขนมในสมยั น้ีคอื ท่าน ผหู้ ญิงวชิ าเยนทร์หรือท่ีเรารู้จกั ในชื่อวา่ “ทา้ วทองกีบมา้ ” ตน้ เคร่ืองขนม หรือของหวานในวงั โดย จุดเด่นของเธอเลยคือการนาไขข่ าว และไขแ่ ดงมาเป็นส่วนผสมสาคญั เฉกเช่นเดียวกบั ขนม โปรตุเกส ไดแ้ ก่ ขนมทองหยบิ ทองหยอด ฝอยทอง และขนมหมอ้ แกง เป็นตน้ และยงั มี “ประเพณี 4 ถว้ ย” หรือ “ขนมส่ีถว้ ย” ที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยไดย้ นิ ผา่ นหูมาบา้ งน้นั หมายถึง ไขก่ บ (เมด็ แมงลกั ) นกปลอ่ ย (ลอดช่อง) บวั ลอย (ขา้ วตอก) และอา้ ยต้ือ (ขา้ วเหนียว) ขนมท้งั ส่ีชนิดน้ีจะ รับประทานกบั น้ากะทิ และไดก้ ลายเป็นประเพณีเล้ียงขนมต้งั แต่น้นั เป็นตน้ มา ส่วนในสมยั รัตนโกสินทร์น้นั ปรากฏหลกั ฐานจากจดหมายเหตุความทรงจาของกรม หลวงนรินทรเทวี ผทู้ รงเป็นพระเจา้ นอ้ งยาเธอในสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กล่าวไว้ วา่ งานสมโภชพระแกว้ มรกต และฉลองวดั พระศรีรัตนศาสดาราม ไดม้ ีเครื่องต้งั สารับหวานสาหรับ พระสงฆ์ 2,000 รูป ประกอบดว้ ย ขนมไสไ้ ก่ ขนมฝอย ขา้ วเหนียวแกว้ ขนมผิง กลว้ ยฉาบ สงั ขยา ฝอยทอง และขนมตะไล นอกจากน้ียงั ปรากฏหลกั ฐานในกาพยห์ ่อโคลงเห่เรือชมเคร่ืองคาวหวาน บทพระราช นิพนธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั ไดพ้ ูดถึงขนมไทยไวห้ ลากหลายชนิด เช่น ขา้ ว เหนียวสงั ขยา ขนมลาเจียก ขนมผิง ขนมรังไร ขนมช่อม่วง และขนมบวั ลอย เป็นตน้ ในสมยั พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดม้ ีการพิมพต์ าราอาหารท่ีชื่อวา่ “แม่ ครัวหวั ป่ าก”์ ออกเผยแพร่เป็นคร้ังแรก จึงนบั ไดว้ า่ การทาขนมไทย และวฒั นธรรมขนมไทย เร่ิมมี การบนั ทึกเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรในสมยั รัชกาลท่ี 5 และยงั เป็นหนงั สือเก่ียวกบั อาหารไทยเลม่ แรก เขยี นโดยท่านผหู้ ญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ทา่ นยงั เป็นคนคิดริเริ่มการประดิษฐ์อาหาร และขนมใหด้ ูน่า รับประทาน เช่น การประดิษฐ์ “ลกู ชุบ” ข้ึนถวายเจา้ นาย เป็นตน้ (เอกพล อ่อนนอ้ มพนั ธุ์ และคน อื่นๆ, 2558)

3 วตั ถุดบิ ของขนมไทย ภาพท่ี 2 วตั ถุดิบของขนมไทย ท่มี า : www.wongnai.com 1. แป้งที่นิยมในการทาขนมไทย 1.1 แป้งขา้ วเจา้ (Rice Flour) เป็นแป้งที่เป็นใชเ้ ป็นหลกั มีสีขาวนวลสากมือ นาไปทาขนมที่ มีเน้ือนุ่ม แบง่ แป้งหลกั ๆ ได้ 2 ชนิด คือ แป้งขา้ วเจา้ เก่า จะดูดซึมน้าไดด้ ี เหมาะสาหรับทาขนมครก ขนมตาล และอีกประเภทคือแป้งขา้ วเจา้ ใหม่ จะมีกลิ่นหอม แต่ดูดซึมน้าไดน้ อ้ ย เพราะแป้งมี ความช้ืนอยมู่ าก เหมาะสาหรับการทาขนมเปี ยกปูน ขนมตม้ ขาว ขนมอาลวั เป็นตน้ 1.2 แป้งขา้ วเหนียว (Glutinous Rice Flour) มีลกั ษณะเป็นผงสีขาว จบั แลว้ สากมือเลก็ นอ้ ย เม่ือนาไปทาใหส้ ุกจะมีลกั ษณะขน้ เหนอะหนะ พอแป้งถูกความร้อนจะจบั ตวั เป็นกอ้ นค่อนขา้ ง เหนียว แบง่ เป็น 2 ชนิดหลกั คอื แป้งขาวเหนียวขาว นิยมนามาทาบวั ลอย ขนมบา้ บ่ิน และขนมไข่ หงส์ เป็นตน้ และอีกชนิดคือแป้งขา้ วเหนียวดา ถา้ ใชม้ าทาขนมจะมีเน้ือกระดา้ ง ไม่นุ่มนวล มกั จะ ผสมแป้งขา้ วเหนียวขาว เนื่องจากแป้งจะมีสีดามาก และช่วยใหข้ นมเน้ือนุ่มมากข้ึน นิยมทาขนม สอดไส้ และขนมถว่ั แปบ

4 1.3 แป้งทา้ วยายม่อม (Arrowroot Flour) ทามาจากตน้ ทา้ วยายม่อม เป็นพืชประเภทหวั นามาผา่ นกระบวนการจนแป้งมีลกั ษณะเป็นเมด็ เลก็ ๆ สีขาว เมื่อใชท้ าขนมจะคงตวั ไดด้ ี ทาใหข้ นม มีสีสนั สดใส เหมาะกบั การทาขนมช้นั ทบั ทิมกรอบ กะละแม และขา้ วเกรียบปากหมอ้ เป็นตน้ 1.4 แป้งมนั สาปะหลงั (Tapioca Flour) มีลกั ษณะเน้ือเนียนละเอียด ล่ืน สีขาวนวล เมื่อสุก แลว้ จะเหนียวใส นิยมใชท้ าเตา้ ส่วน ลอดช่องสิงคโปร์ หรือนาไปผสมร่วมกบั แป้งชนิดอื่นเพ่ือเพมิ่ ความเหนียว และใสยง่ิ ข้ึน เช่น ครองแครง ขนมช้นั และสังขยา เป็นตน้ 1.5 แป้งขา้ วโพด (Corn Flour) ลกั ษณะเน้ือเนียนละเอียด ลื่น คลา้ ยกบั แป้งมนั สาปะหลงั มกั นาไปผสมกบั แป้งชนิดอื่น ๆ เพือ่ เพม่ิ ความทรงตวั ความเงาวาว และความนุ่มของขนม เช่นขนม ช้นั และสงั ขยา เป็นตน้ 1.6 แป้งถวั่ เขียว (Mung Bean flour) จะมีลกั ษณะเป็นผงละเอียด มีคณุ สมบตั ิในการทรงตวั ไดด้ ี และมีความใส นิยมนาไปผสมกบั แป้งชนิดอื่น ๆ เช่น ซ่าหริ่ม ตะโก้ และขนมลืมกลืน เป็นตน้ 2. นา้ ตาลท่ีนิยมในการทาขนมไทย 2.1 น้าตาลทราย เป็นสารใหค้ วามหวานที่ผลิตมาจากออ้ ย แบง่ ออกเป็น 2 ชนิด ไดแ้ ก่ - น้าตาลทรายขาว (Granulated Sugar) คือน้าตาลทรายท่ีผา่ นการฟอกสีมาแลว้ มกั นามา ทาขนมไทยที่ตอ้ งการใหส้ ีขนมสวย ใส เช่นการทาน้าเชื่อมของขนมทองหยบิ ทองหยอด - น้าตาลทรายแดง (Granulated Brown Sugar) ลกั ษณะเป็นผงละเอียด สีน้าตาลออ่ นถึง แดง ใหร้ สกบั กล่ินที่หอมหวาน และสีท่ีเขม้ จากออ้ ยอยา่ งชดั เจน น้าตาลชนิดน้ีเน่ืองจากไมผ่ า่ น กระบวนขดั สีจึงใหม้ ีรสท่ีหวานนอ้ ยกวา่ น้าตาลทรายขาว และยงั มีความช้ืนสูงทาใหบ้ างคร้ังจบั ตวั เป็นกอ้ น มกั นาไปขนมท่ีตอ้ งผา่ นการกวน 2.2 น้าตาลโตนด (Palm Sugar) ทามาจากน้าหวานของตน้ ตาล นิยมนาทาเป็นกอ้ น จะมี กลิ่นหอมของตน้ ตาล มีรสหวานแหลม มกั นาไปทาน้าเช่ือมขน้ สาหรับหยอดหนา้ ขนม ทาไสข้ นม สังขยา ปลากริมไข่เต่า เป็นตน้

5 2.3 น้าตาลมะพร้าว (Coconut Sugar) ทามาจากน้าหวานของตน้ มะพร้าว มีลกั ษณะท้งั เป็น กอ้ น และเหลว มีกล่ินหอมหวานตามธรรมชาติ เช่นทาไส้ขนม น้ากะทิลอดช่อง ขนมหมอ้ แกง เป็น ตน้ 2.4 แบะแซ (Glucose Syrup) มีลกั ษณะขน้ เหนียว สีใสเหมือนน้า มกั นามาทาขนมที่ ตอ้ งการใหม้ ีรูปทรงคงตวั หรือเป็นกอ้ น เช่น ลูกชุบ ถวั่ กวน กะละแม เป็นตน้ 3. มะพร้าวทน่ี ยิ มในการทาขนมไทย 3.1 มะพร้าวหา้ ว (Ripe Coconut) คอื มะพร้าวท่ีแก่จดั นามาขดู แลว้ ค้นั เป็นกะทิ โดยจะได้ น้ากะทิออกมาเป็นสองส่วนคือ หวั กะทิ จะมีลกั ษณะเขม้ ขน้ และหางกะทิ มีลกั ษณะเจือจาง เหมาะ กบั ขนมที่ตอ้ งเห็นเน้ือขนมชดั เจน เช่น ขนมสอดไส้ ครองแครง และบวั ลอย เป็นตน้ 3.2 มะพร้าวทึนทึก (Semi Ripe Coconut) เป็นมะพร้าวกลางออ่ นกลางแก่ สงั เกตไดจ้ าก กะลาเป็นสีน้าตาลอ่อน เปลือกสีขาว นิยมนามาขดู ดว้ ยมือแมวสาหรับทาเป็นไสข้ นม หรือโรยหนา้ ขนม เช่น ขนมถวั่ แปบ ขนมมนั มะพร้าวแกว้ เป็นตน้ 3.3 มะพร้าวอ่อน (Young Coconut) คอื มะพร้าวเปลือกบางมีสีขาว เน้ือมะพร้าวจะนุ่ม มกั ใชท้ ้งั น้ามะพร้าว และเน้ือ เช่นวุน้ น้ากะทิมะพร้าวอ่อน ขา้ วเหนียวเปี ยก สาคูเปี ยกมะพร้าวอ่อน เป็น ตน้ 3.4 มะพร้าวกะทิ (Gelatinous Coconut) คอื มะพร้าวท่ีมีเน้ือในผลหนา 2 - 3 ซม. ออ่ นน่ิม เน้ือหนาเป็นปยุ ขาว น้าจะขน้ หนืดเป็นยาง รสชาติเน้ือจะหวานมนั นิยมรับประทานกนั สด ๆ หรือคู่ กบั น้าเชื่อม หรือนาไปเป็นส่วนผสมของขนม เช่น ทบั ทิมกรอบ (4) ไข่ที่นยิ มในการทาขนมไทย 4.1 ไขไ่ ก่ เป็นท่ีนิยมใชใ้ นการทาขนมไทยมากท่ีสุด เน่ืองจากกลิ่นคาวนอ้ ย เช่น ขนมปุย ฝ้าย เมด็ ขนุน ทองเอก 4.2 ไขเ่ ป็ด น้นั จะมีกลิ่นคาวมากกวา่ ไขไ่ ก่ มกั ใชก้ บั ขนมทตี่ อ้ งการสีสนั เช่น ฝอยทอง ทองหยบิ ทองหยอด

6 ประเภทของขนมไทย 1. ขนมไทยประเภทไข่ คอื ขนมไทยที่มีวตั ถุดิบหลกั ในการทาคือไข่ เช่น ทองหยบิ ทองหยอด และฝอยทอง 2. ขนมไทยประเภทน่งึ คือ ขนมไทยที่น่ึง หรือสุกดว้ ยไอน้าร้อนโดยใชล้ งั ถึง บางชนิดเท ส่วนผสมลงในถว้ ยตะไลแลว้ น่ึง บางชนิดใส่ถาด หรือห่อดว้ ยใบตอง เช่น ขนมช้นั ขนมน้าดอกไม้ และขนมใส่ไส้ 3. ขนมไทยประเภทต้ม คือ ขนมไทยท่ีตม้ ในน้าเดือด จนสุกแลว้ ตกั ข้นึ นามาคลุกหรือโรย มะพร้าว เช่น ขนมตม้ ถว่ั แปบ 4. ขนมไทยประเภทน้า คอื ขนมไทยท่ีนิยมนามาตม้ กบั กะทิ หรือใส่แป้งผสมเป็นขนมเปี ยก หรือขน้ และขนมที่กินกบั น้าเช่ือม หรือน้ากะทิ เช่น กลว้ ยบวชชี สาคเู ปี ยก ลอดช่อง และซ่าหริ่ม 5. ขนมไทยประเภทกวน คือ ขนมไทยที่ทาใหส้ ุกดว้ ยการกวนบนกระทะ โดยส่วนมากนิยม ใชก้ ระทะทอง กวนไปในทิศทางเดียวกนั ต้งั แต่เป็นน้าจนงวด แลว้ เทใส่ภาชนะรอใหเ้ ยน็ เช่น ตะโก้ ขนมลืมกลืน ขนมเปี ยกปนู และผลไมก้ วนตา่ ง ๆ 6. ขนมประเภทอบ คือ ขนมไทยที่ทาใหร้ ้อน หรือสุกดว้ ยไอน้า โดยท่ีความร้อนน้นั ไม่ สามารถระบายออกไปได้ เช่น ขนมกลีบลาดวน ขนมหมอ้ แกง ขนมหนา้ นวล ท้งั น้ีรวมถึงขนมท่ีสุก โดยใชค้ วามร้อนบนเตาอยา่ ง ขนมเบ้ือง ขนมครก และขนมเกสรลาเจียก 7. ขนมประเภททอด คือ ขนมไทยท่ีเราทาใหส้ ุก โดยการใส่ลงในกระทะที่มีนา้้มนั ร้อน ๆ ทอดจนกระท้งั ขนมมีสีเหลืองสวยตามท่ีตอ้ งการ เช่น ขนมกง ขนมฝักบวั และขนมนางเลด็ 8. ขนมประเภทปิ้ ง คือ ขนมไทยท่ีทาใหส้ ุกโดยวางขนมท่ีตอ้ งการปิ้ งไวเ้ หนือไฟ มีตะแกรง รองรับ ปิ้ งจนขนมสุก เช่น ขนมจาก ขา้ วเหนียวปิ้ ง และมนั ทิพย์ 9. ขนมประเภทเช่ือม คือ ขนมไทยที่ใส่ลงไปในน้าเชื่อมท่ีกาลงั เดือด เช่ือมจนกระท้งั ขนม สุก จะมีรสชาติหวาน และถือวา่ เป็นการถนอมอาหารวธิ ีหน่ึง เช่น กลว้ ยเช่ือม เมด็ ขนุน และสาเก เชื่อม

7 ตารางขนมที่คนไทยชอบบริโภค ชื่อขนม ประเภทของขนม ขนมที่สุกดว้ ยการกวน ขนมตะโก้ ขนมลืมกลืน ขนมเปี ยกปูน ขนมศิลาอ่อน ขนมท่ีสุกดว้ ยการน่ึง ขนมช่อมว่ ง ขนมช้นั ขา้ วตม้ มดั สังขยา ขนมที่สุกดว้ ยการเช่ือม ทองหยอด ทองหยบิ ฝอยทอง เมด็ ขนุน ขนมท่ีสุกดว้ ยการทอด กลว้ ยทอด ขา้ วเมา่ ทอด ขนมกง ขนมฝักบวั ขนมท่ีสุกดว้ ยการอบ ขนมหมอ้ แกง ขนมหนา้ นวล ขนมกลีบลาดวน ขนมทองมว้ น ขนมที่สุกดว้ ยการตม้ ขนมถวั่ แปป กลว้ ยบวชชี ลอดช่อง ซาหริ่ง ตารางที่ 1 ตารางแสดงขนมท่ีคนไทยชอบบริโภค ขนมไทย 4 ภาค ภาพท่ี 3 ขนมไทย 4 ภาค ท่มี า : www.wongnai.com

8 1. ขนมไทยภาคเหนือ มกั ทาขนมมาจากขา้ วเหนียว และจะผา่ นกรรมวิธีการตม้ เป็นส่วน ใหญ่ ขนมที่นิยมทาในงานบุญเกือบทุกเทศกาลคือ ขนมเทียน หรือขนมจ๊อก หรือขา้ วเหนียวแดง ขนมเกลือ ขา้ วแต๋น ขา้ วอีตู เป็นตน้ 2. ขนมไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มกั เป็นขนมท่ีทากนั งา่ ยๆ ไมพ่ ิถีพถิ นั มาก ไดแ้ ก่ ขา้ วจี่ บายมะขาม ขา้ วโป่ ง นอกจากน้นั มกั เป็นขนมในงานบญุ พิธี ที่เรียกวา่ ขา้ วประดบั ดิน ส่วนใน งานบุญต่างๆจะนิยมทาขนมปาด คลา้ ยขนมเปี ยกปนู ลอดช่อง เป็นตน้ 3. ขนมภาคกลาง โดยส่วนมากขนมจะทามาจากขา้ วเจา้ เช่น ขา้ วตงั นางเลด็ ขา้ วเหนียวมูน และขนมที่ไดร้ ับอิทธิพลมาจากในวงั เช่น ขนมกลีบลาดวน ลูกชุบ หมอ้ ขา้ วหมอ้ แกง ฝอยทอง ทองหยบิ เป็นตน้ 4. ขนมภาคใต้ ชาวใตม้ ีความเช่ือในเทศกาลประเพณีสารทเดือนสิบ จะทาบุญดว้ ยขนมที่มี เฉพาะในภาคใตเ้ ทา่ น้นั เช่น ขนมลา ขนมพอง ขา้ วตม้ ห่อดว้ ยใบกะพอ้ ขนมบา้ ขนมดีซา ขนมเจาะ หู ขนมไขป่ ลา ขนมแดง เป็นตน้ ขนมไทยกบั งานประเพณี ภาพที่ 4 ขนมไทยกบั งานประเพณี ทมี่ า : www.wongnai.com

9 ในงานประเพณีต่าง ๆ ของไทยแตเ่ ดิมมกั จะมีการทาบุญเสมอ ๆ ขนมท่ีใชใ้ นพธิ ีบญุ และ รับประทานกนั ในงานบญุ ประเพณีของไทยท่ีสาคญั มีดงั น้ี (เอกพล อ่อนนอ้ มพนั ธุ์ และคนอ่ืนๆ, 2558). 1. ประเพณีวนั สงกรานต์ เป็นเทศกาลเนื่องในวนั ข้ึนปี ใหม่ของไทย ขนมไทยที่ทาข้นึ สาหรับนาไปทาบญุ ถวายพระ ไดแ้ ก่ กะละแม ขนมเปี ยก และขา้ วเหนียวแดง 2. ประเพณสี ารทไทย เป็นเทศกาลทาบุญในวนั สิ้นเดือน 10 คาวา่ “สารท” แปลวา่ เก่ียวกบั หรือเกิดในฤดูใบไมร้ ่วง ไทยไดร้ ับประเพณีน้ีมากจากศาสนาพุทธในอินเดีย ส่วนในไทยมี จุดประสงคเ์ พื่อทาบุญอทุ ิศส่วนกศุ ลใหแ้ ก่ผทู้ ี่ล่วงลบั ไปแลว้ โดยขนมท่ีใชค้ อื กระยาสารท ขา้ วยาคู ขา้ วทิพย์ ขนมลา ขนมเจาะรู ขนมบา้ ขนมกง เป็นตน้ 3. ประเพณีเข้าพรรษา ตรงกบั วนั แรม 1 ค่า เดือน 8 หรือเดือนกรกฎาคม ขนมท่ีนิยมนามา ทาบุญถวายพระคอื “ขา้ วตม้ ปัด” ท่ีหลาย ๆ คนเช่ือวา่ ชื่อน้นั มาจากคาวา่ ปัดรังควาน ลกั ษณะขนม น้นั จะทาจากขา้ วเหนียวห่อดว้ ยใบมะพร้าวอ่อนมดั ใหแ้ น่น แลว้ นาไปตม้ จนสุก นอกจากน้ียงั นา ขนมไทยมงคล มาทาบุญร่วมดว้ ย 4. ประเพณีออกพรรษา ตรงกบั วนั ข้นึ 15 ค่า เดือน 11 หรือเรียกวา่ “วนั เทโวโรหนะ” จะ เรียกการทาบุญตกั บาตรในวนั น้ีวา่ ตกั บาตรเทโว ขนมที่มกั นามาทาบุญในวนั น้ีคอื ขา้ วตม้ ผดั ขา้ วตม้ ปัด และขา้ วตม้ ลกู โยน 5. ประเพณีทอดกฐิน จะทาข้ึนภายหลงั จากออกพรรษาจนถึงกลางเดือน 12 ขนมที่นิยม นาไปถวายพระ หรือทากินในงานทอดกฐิน ไดแ้ ก่ ขา้ วเม่าทอด กลว้ ยแขก

10 ขนมไทยมงคล 9 ชนดิ 1.ทองหยบิ เป็นขนมที่มีลกั ษณะคลา้ ยดอกไมส้ ีทอง เชื่อวา่ หากนาขนมทองหยบิ ไปใช้ ประกอบพิธีมงคล หรือให้เป็นของขวญั จะทาใหเ้ กิดความมงั่ คงั่ ร่ารวย มีเงินมีทอง 2. ทองหยอด เป็นขนมที่มีลกั ษณะเป็นกอ้ นกลม เปรียบเสมือนใหท้ องคาแก่กนั แทนคาอวย พรใหร้ ่ารวยมีเงินมีทองใชจ้ ่ายอยา่ งไมร่ ู้หมดสิ้น 3. ฝอยทอง เป็นขนมที่มีลกั ษณะเป็นเส้นยาว ๆ นิยมใชก้ นั ในงานมงคลสมรส เปรียบไดว้ า่ จะครองชีวิตคไู่ ดอ้ ยา่ งยนื ยาว 4. เมด็ ขนุน เป็นขนมที่รูปร่างคลา้ ยกบั เมด็ ขนุน ไสด้ า้ นในทาดว้ ยถวั่ เขียวบด เปรียบเสมือน มีคนคอยช่วยเก้ือหนุน สนบั สนุนในการดาเนินชีวิตและในหนา้ ท่ีการงานท่ีไดก้ ระทาอยู่ 5. ขนมทองเอก เป็นขนมท่ีใชค้ วามพิถีพิถนั ในการทา มีทองคาเปลวติดไวท้ ่ีดา้ นบนของ ขนม คาวา่ “เอก” หมายถึง การเป็นที่หน่ึง จึงนิยมใชม้ อบเป็นของขวญั ในงานฉลองการเลื่อนยศ เล่ือนตาแหน่ง 6. ขนมดาราทอง หรือขนมทองเอกกระจงั เป็นขนมที่ชนะการประกวดในงานฉลองปี ใหม่ สมยั จอมพล ป. พบิ ูลสงคราม โดย คณุ หญิงเจือ นครราชเสนี หนา้ ตาขนมเหมือนเครื่องหมายดารา ในเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ ลกั ษณะคลา้ ย ๆ มงกฏุ ฝร่ัง เปรียบไดถ้ ึงความสง่างาม ไดอ้ ยตู่ าแหน่งสูงสุด มีช่ือเสียงเกียรติยศ 7. ขนมเสน่ห์จนั ทร์ คนโบราณนาความมีเสน่ห์ของผลจนั ทน์ที่มีผลสุกสีเหลือง สวยงาม และมีกล่ินหอม มาประยกุ ตท์ าเป็นขนมใหช้ ่ือวา่ “ขนมเสน่ห์จนั ทน์” จะทาใหม้ ีเสน่ห์คนรักคนหลง ดงั เสน่ห์ของผลจนั ทน์ นิยมนามาใชใ้ นงานพธิ ีมงคลสมรส และใหเ้ ป็นของขวญั แทนความรัก 8. ขนมช้ัน เป็นขนมไทยท่ีตอ้ งหยอดขนมใหไ้ ด้ 9 ช้นั เพราะเช่ือวา่ เลข 9 น้นั หมายถึงความ เจริญกา้ วหนา้ นิยมมอบใหเ้ พือ่ แสดงความยนิ ดีท่ีไดเ้ ล่ือนช้นั เล่ือนยศฐาบรรดาศกั ด์ิใหส้ ูงส่งยงิ่ ๆ ข้นึ ไป 9. ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองเฟ่ื องฟู ลกั ษณะเด่นของขนมถว้ ยฟู คอื ตอ้ งมี กล่ินหอมจากการอบร่าดอกไมส้

บรรณานุกรม

บรรณานุกรม เอกพล ออ่ นนอ้ มพนั ธุ์, นฤมล นนั ทรักษ,์ ราตรี เมฆวิลยั , นวลเพญ็ ธรรมษา, มนฤทยั ศรีทองเกิด, นุชนาฏ กลุ วิทย,์ และอรอนงค์ ทองมี. (2558). ขนมไทย 2 (ขนมไทยพืน้ บ้านและขนมไทย ร่วมสมัย). สืบคน้ จาก https://www.wongnai.com/food-tips/thai-dessert-101

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก ภาพประกอบ




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook