1 คมู่ ือการปฏิบัติราชการนอกสถานท่ี สานกั งานคณะกรรมการดจิ ทิ ัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดจิ ทิ ลั เพ่อื เศรษฐกิจและสงั คม
1 1. กรอบแนวคิดและหลักการ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกในยุคปัจจุบัน ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จาก เทคโนโลยดี ิจิทัลท้ังในการทำงาน และการดำเนินชีวิตได้ทุกท่ที ุกเวลา ไดส้ ง่ ผลให้รูปแบบและวฒั นธรรมการทำงาน ในองคก์ รต่าง ๆ เริม่ เปลี่ยนแปลงไป จากเดมิ ท่ีผู้ปฏบิ ัติงานจำเป็นต้องเข้ามาปฏบิ ตั ิงานประจำทุกวัน ณ สำนักงาน สู่รูปแบบที่มีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงานมากขึ้น ผู้ปฏิบัติงานสามารถปฏิบัติงานได้ทุกที่ทุกเวลาโดยมี เทคโนโลยีดิจิทัลรองรับการปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย หรือจากสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น ร้านกาแฟ ห้องสมุด สวนสาธารณะ ฯลฯ โดยไม่จำเปน็ ตอ้ งเขา้ มาปฏิบัตงิ านท่ีสำนกั งานเป็นประจำทกุ วนั การทำงานนอกสถานท่ี (Telecommute) หรือท่ีเรียกกันในชื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Telework , Work from Home , Mobile work , Remote work เป็นแนวคิดที่ในปัจจุบันองค์กรชั้นนำทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ มีการนำใช้อย่างกว้างขวาง สำหรับหน่วยงานของรัฐ ในประเทศไทย ก็สามารถนำแนวคิดดังกล่าว มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการ อันจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของข้าราชการ และบุคลากรภาครัฐ ด้วยการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว อีกทั้งยังจะมีส่วนสำคัญในการสร้างแรงจูงใจ ผ่านรูปแบบการทำงานแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย มีความสนุกสนาน และผู้ปฏิบัติงาน สามารถมีสมาธิในการปฏิบัติงาน อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสามารถกระตุ้นให้เกิดความคิด รเิ ริม่ สร้างสรรค์ ซึง่ เปน็ จดุ เร่มิ ต้นของการพัฒนานวตั กรรม นอกจากนี้ แนวคิดการทำงานนอกสถานที่ของรัฐ ยังจะเป็นส่วนสนับสนุนการลดปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหามลภาวะทางอากาศ รวมทั้งสามารถนำมาใช้ในกรณีที่มีเหตุให้ข้าราชการ และบุคลากรภาครัฐไม่สามารถเข้า มาปฏบิ ัติงานประจำ ณ สำนกั งานได้ และในระยะยาว ยังจะสามารถชว่ ยประหยัดงบประมาณจากการลดค่าใช้จ่าย ของสำนกั งาน และเปน็ การสร้างวัฒนธรรมการทำงานของรฐั รูปแบบใหม่สู่การเป็นรัฐบาลดจิ ิทลั 2. รูปแบบและแนวทางการปฏบิ ตั ิงานนอกสถานท่ี การปฏิบตั ริ าชการนอกสถานท่ี มรี ูปแบบ และแนวทางปฏิบตั งิ าน ดงั น้ี 2.1 รูปแบบการปฏิบตั ิงานนอกสถานที่ • การปฏิบัติงานนอกสถานท่ีอย่างสม่ำเสมอ โดยกำหนดให้ข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐ ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ โดยไม่ต้องเข้ามาปฏบิ ัตงิ าน ณ สำนักงาน โดยกำหนดเป็นกรอบ ระยะเวลาสม่ำเสมอ เช่น 2 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือ 4 วันต่อเดือน เป็น ระยะเวลา 12 เดอื น เป็นตน้ • การปฏิบัติงานนอกสถานที่เป็นครั้งคราว โดยกำหนดให้ข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐ ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ โดยไม่ต้องเข้ามาปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน โดยกำหนดเป็นช่วง ระยะเวลาทแ่ี น่นอน เชน่ 5 วนั ทำการ หรอื 10 วันทำการ เป็นตน้ คมู่ ือการปฏิบตั ิราชการนอกสถานท่ี
2 สำหรับเวลาการปฏบิ ัติราชการ นอกเหนือจากรูปแบบขา้ งต้น ให้ข้าราชการ และบุคลากรภาครัฐ ปฏบิ ตั งิ าน ณ สำนกั งานตามปกติ 2.2 แนวทางการปฏิบัติงานนอกสถานท่ี แนวทางการปฏิบตั ิราชการนอกสถานที่ เป็นไปได้ท้ังในลักษณะของการทำงานเด่ียว หรือการทำงาน ร่วมกันเป็นทีม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน และการวางแผนการทำงานร่วมกัน โดยในช่วงท่ีไม่ได้มาปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน ผู้ปฏบิ ตั ิงานสามารถทำงานผ่านระบบหรือช่องทางดจิ ทิ ัล เพอ่ื การประชุม การหารือ การประสานงาน กับผู้บังคบั บัญชา และผรู้ ว่ มปฏบิ ัตงิ าน โดยมแี นวทางการทำงานผา่ นระบบและช่องทางดจิ ิทัลตา่ ง ๆ อาทิ • การประชุมแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน เช่น CISCO Webex Meeting , Microsoft Team , LINE Group Call เปน็ ต้น • การประสานงานผ่านแอปพลิเคชันสนับสนุนการทำงานร่วมกันเป็นทีม เช่น CISCO Webex Team , Microsoft Team เป็นตน้ • การปฏิบัติงานร่วมกันผ่านแอปพลิชันการทำงานสำนักงานออนไลน์ เช่น Microsoft Office 365 , Google G Suite เปน็ ต้น • การปฏิบตั ิงานผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตเพ่อื ทำงานผ่านระบบหรือชอ่ งทางดิจทิ ัลทส่ี ำนักงานกำหนด 3. ลกั ษณะงาน ในการปฏิบตั ริ าชการนอกสถานท่ี สามารถจำแนกลักษณะงานได้ ดังนี้ 3.1 ลกั ษณะงานทสี่ ามารถปฏบิ ัตริ าชการนอกสถานทไ่ี ด้ทง้ั หมด หรอื บางส่วน 1) งานวิชาการในลักษณะของการศึกษาค้นคว้า คิดวิเคราะห์ การจัดทำรายงานการศึกษา การวิเคราะห์วิจัย รายงานทางวิชาการ การจัดทำข้อเสนอแนะ การออกแบบหรือพัฒนา ระบบคอมพิวเตอร์ การออกแบบด้านสถาปัตยกรรม การพิจารณาวินิจฉัยข้อกฎหมาย หรือ งานรูปแบบอื่นที่หน่วยงานต้นสังกัดเห็นว่าสามารถปฏิบัติงานได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามา ปฏิบัตงิ าน ณ สำนกั งาน 2) งานบริหาร และงานอำนวยการ ที่สามารถสื่อสาร กำกับและติดตามการดำเนินงาน กับ ผู้ปฏิบัติงานโดยผา่ นระบบหรือช่องทางดิจทิ ัลได้ 3) งานลักษณะอื่นที่สามารถเข้าถึงผ่านระบบหรือช่องทางดิจิทัล และสามารถปฏิบัติงานได้ เชน่ เดยี วกับการปฏบิ ตั ิงาน ณ สำนกั งาน 4) งานทสี่ ามารถกำหนดเปา้ หมาย และประเมินผลสำเร็จของงาน ได้อยา่ งเปน็ รูปธรรม คมู่ ือการปฏบิ ตั ิราชการนอกสถานท่ี
3 3.2 ลกั ษณะงานท่ีไมส่ ามารถปฏบิ ัติราชการนอกสถานท่ีได้ 1) งานที่เกี่ยวข้องกับการใช้เอกสาร หรือข้อมูลสำคัญที่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ ในสำนักงานท่มี มี าตรการรกั ษาความปลอดภยั อย่างรดั กุม 2) งานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการให้บริการประชาชน เช่น งานทะเบียนราษฎร์ งาน บรกิ ารทางการแพทย์ และสาธารณสขุ งานดา้ นการรักษาความปลอดภัย เป็นตน้ 3) งานทจ่ี ำเปน็ ต้องอาศยั เคร่ืองมือทางเทคนิคในการปฏบิ ัติงาน เชน่ งานด้านเทคนิคการแพทย์ งานควบคุมการจราจรทางอากาศ งานดา้ นการตรวจสอบวตั ถุอันตราย เป็นตน้ 4. คณุ ลกั ษณะของขา้ ราชการ หรอื บุคลากรภาครัฐทป่ี ฏิบตั ิราชการนอกสถานที่ ขา้ ราชการ หรือบุคลากรภาครัฐท่ีไดร้ บั อนุญาตให้ปฏิบตั ิราชการนอกสถานที่ ควรมคี ุณลักษณะ ดังนี้ • เป็นผู้มคี วามรบั ผดิ ชอบสูง มวี ินยั และมศี กั ยภาพในการทำงานใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย • เป็นผู้ที่สามารถปฏบิ ัตงิ านในหน้าทคี่ วามรับผิดชอบ โดยต้องการการกำกับดแู ลน้อย • เป็นผู้ที่มีความพร้อมสามารถเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสม่ำเสมอ และมีทักษะในการ ปฏิบตั ริ าชการผา่ นระบบหรือช่องทางดิจทิ ัล 5. ผ้มู อี ำนาจสั่งใหข้ า้ ราชการ หรอื บคุ ลากรภาครัฐปฏบิ ัตริ าชการนอกสถานที่ อำนาจในการสั่งให้ข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐ ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ เป็นอำนาจของหัวหนา้ ส่วนราชการ ระดับกระทรวง หรือระดับกรม ตามนัยของระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 ขอ้ 11 ทรี่ ะบุว่า “ในกรณจี ำเป็น หวั หน้าส่วนราชการข้ึนตรงหรือหวั หน้าส่วนราชการจะกำหนดวิธีลงเวลาการ ปฏิบัติราชการ หรือวิธีควบคุมการปฏิบัติราชการของข้าราชการที่มีการปฏิบัติราชการในลักษณะพิเศษเป็น อยา่ งอน่ื ตามที่เหน็ สมควรกไ็ ด้ แต่จะต้องมีหลกั ฐานให้สามารถตรวจสอบวันเวลาการปฏบิ ัตริ าชการไดด้ ้วย” ท้ังน้ี ให้ผู้บังคบั บัญชาชั้นต้น หรือผู้บังคับบัญชาลำดับสูงขึน้ ไปของข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐท่จี ะ ปฏิบัติงานนอกสถานที่ เป็นผู้เสนอหัวหน้าส่วนราชการเพื่อพิจารณาสั่งให้ข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐ ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ พร้อมทั้งระบุเป้าหมายของงานที่จะปฏิบัติงานในช่วงเวลาที่ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติ ราชการ ณ สำนักงาน 6. แนวทางการกำกบั และตดิ ตามการปฏบิ ตั ิงาน กอ่ นเร่มิ การปฏิบัตริ าชการนอกสถานท่ี ผ้ปู ฏิบัติงานควรมกี ารตกลงเป้าหมายการปฏบิ ัติงานในช่วงเวลา ที่ไม่ได้เขา้ มาปฏิบัติราชการ ณ สำนักงาน ร่วมกับผู้บังคับบญั ชาช้ันต้น โดยระบุเป็นผลสำเร็จของงานที่ชดั เจน เป็นรูปธรรม ทั้งนี้อาจเป็นเป้าหมายที่ตัดทอนมาจากข้อตกลงการปฏิบัติราชการของข้าราชการ ในแต่ละรอบ การประเมนิ คมู่ ือการปฏิบตั ิราชการนอกสถานท่ี
4 ในการกำกับและติดตามการปฏิบัติงานของข้าราชการ และบุคลากรภาครัฐ ในการปฏิบัติราชการนอก สถานที่ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาชั้นต้นของผู้ปฏิบัติงาน ในการกำกับและติดตามการ ดำเนินงานในช่วงที่ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติราชการ ณ สำนักงาน อย่างสม่ำเสมอ และผู้ปฏิบัติงานจะต้องรายงาน ความก้าวหน้าการดำเนินงานใหผ้ ู้บังคับบัญชาชั้นต้นทราบเป็นระยะ โดยการกำกับและติดตามการปฏบิ ัติงาน อาจดำเนินการโดยผา่ นระบบหรือช่องทางดจิ ิทัล เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ ผู้ปฏิบัติงานจะต้องรายงานผลการปฏิบัติงานต่อ ผู้บังคับบัญชาช้ันต้น โดยผู้บังคับบัญชาชั้นต้นจะเป็นผู้ประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านของข้าราชการ และบุคลากร ภาครัฐ พรอ้ มทง้ั รายงานผลสำเร็จของงานต่อหวั หนา้ สว่ นราชการ 7. กฎหมายและกฎระเบยี บท่ีเกี่ยวข้อง การปฏบิ ัติราชการนอกสถานท่ี มีกฎหมายและกฎระเบยี บที่รองรบั การปฏิบตั งิ าน ดังตอ่ ไปนี้ 7.1 พระราชบัญญตั ริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 34 บัญญัติว่า การจัดระเบียบข้าราชการพลเรือน ต้องเป็นไปเพื่อผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจ ของรัฐ ความมีประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า โดยให้ข้าราชการปฏิบัติราชการอย่างมีคุณภาพ คุณธรรม และ คณุ ภาพชีวติ ท่ีดี 7.2 ระเบียบสำนกั นายกรฐั มนตรีว่าดว้ ยการลาของขา้ ราชการ พ.ศ. 2555 ข้อ 11 กำหนดว่า เพื่อควบคุมให้เป็นไปตามระเบียบนี้ ให้ส่วนราชการจัดทำบัญชีลงเวลา การปฏิบัติราชการของข้าราชการในสังกัด โดยมีสาระสำคัญตามตัวอย่างท้ายระเบียบนี้ หรือจะใช้เครื่องบันทึก เวลาการปฏบิ ตั ริ าชการแทนก็ได้ ในกรณีจำเป็น หัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงจะกำหนดวิธีลงเวลาปฏิบัติ ราชการ หรือวิธีควบคุมการปฏิบัติราชการของข้าราชการที่มีการปฏิบัติราชการในลักษณะพิเศษอย่างอื่นตามที่ เห็นสมควรได้ แต่ท้ังนี้ จะต้องมีเหลกั ฐานให้สามารถตรวจสอบวนั เวลาการปฏบิ ัตริ าชการได้ด้วย 7.3 พระราชกฤษฎีกาเบย้ี ประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 มาตรา 14 บัญญัติว่า การประชุมของคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการ ต้องมีกรรมการหรอื คณะอนุกรรมการร่วมประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการหรืออนุกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ ประชุม และมีสิทธิเบิกเบี้ยประชุมตามพระราชกฤษฎีกานี้ เว้นแต่บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ประกาศพระบรม ราชโองการ หรือคำส่งั ทจี่ ัดให้มีคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการนั้นจะกำหนดไว้เปน็ อยา่ งอ่นื การประชุมตามวรรคหนึ่ง ให้รวมถึงการประชุมที่บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ประกาศพระบรมราช โองการ หรือคาํ สงั่ ทจ่ี ดั ให้มีคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการกำหนดให้สามารถใช้วธิ ีการติดต่อสื่อสารด้วย เทคโนโลยที ี่สามารถถ่ายทอดภาพและเสียงไดอ้ ย่างตอ่ เนือ่ ง ซ่ึงทำให้กรรมการหรอื อนุกรรมการไม่จำเป็นต้อง คมู่ อื การปฏบิ ตั ริ าชการนอกสถานที่
5 ปรากฏตัวในที่ประชุมด้วย โดยให้ถือว่ากรรมการ หรืออนุกรรมการซึ่งใช้วิธีการติดต่อสื่อสารด้วยเทคโนโลยี ดงั กลา่ ว รว่ มประชุมคณะกรรมการหรอื คณะอนกุ รรมการน้ัน และมีสิทธิไดร้ ับเบี้ยประชุม” 7.4 ประกาศคณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 74/2557 ลงวนั ท่ี 27 มิ.ย. 2557 เร่อื งการประชุม ผ่านส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ขอ้ 1 “การประชมุ ผา่ นสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์” หมายความว่า การประชุมที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องมี การประชุมที่กระทําผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยผู้ร่วมประชุมอย่างน้อยหนึ่งในสามขององค์ประชุมต้องอยู่ในที่ ประชุมแห่งเดียวกัน และผู้ร่วมประชุมทั้งหมดต้องอยู่ในราชอาณาจักรขณะที่มีการประชุม แม้จะมิได้ อยู่ใน สถานทเ่ี ดยี วกันและสามารถประชมุ ปรึกษาหารอื และแสดงความคิดเหน็ ระหว่างกันได้ผา่ น สอื่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ขอ้ 2 ประกาศคณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาตนิ ี้ไม่ใช้บงั คบั แก่ (1) การประชุมของสภาผ้แู ทนราษฎร วุฒิสภา และรฐั สภา (2) การประชมุ เพื่อจดั ทำคําพิพากษาหรือคำสง่ั ของศาล (3) การประชุมเพื่อดำเนินการตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ ราชการส่วน ทอ้ งถิ่น รฐั วสิ าหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอ่นื ของรฐั (4) การประชุมอื่นทคี่ ณะรฐั มนตรีกำหนด ข้อ 3 การประชุมตามท่ีกฎหมายบัญญตั ิให้ต้องมีการประชมุ นอกจากจะดำเนนิ การตาม วิธีการที่ บัญญัติไว้ในกฎหมายแต่ละฉบับแล้ว ผู้ทําหน้าที่ประธานในที่ประชุมจะกําหนดให้จัดการประชุม ผ่านสื่อ อเิ ลก็ ทรอนกิ สก์ ไ็ ด้ และให้มีผลเชน่ เดียวกับการประชุมตามวิธกี ารที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย หา้ มมใิ หป้ ระชุมผ่าน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในเรื่องที่มีการกำหนดชั้นความลับตามระเบียบว่าด้วย การรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ และเร่ืองอน่ื ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ข้อ 4 การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภยั ของการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ท่ีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกำหนดโดยประกาศ ใน ราชกิจจานุเบกษา 7.5 ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เร่อื ง มาตรฐานการรักษาความม่ันคง ปลอดภัยของการประชมุ ผา่ นสอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. 2557 ข้อ 4 การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้กระทำผ่านระบบควบคุมการประชุมที่มีกระบวนการ รกั ษาความมั่นคงปลอดภยั ดา้ นสารสนเทศ ซ่งึ สอดคล้องกับหลกั เกณฑ์ตามประกาศคณะกรรมการธรุ กรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของ หนว่ ยงานของรัฐ พ.ศ. 2553 หรือมาตรฐานอนื่ ท่เี ทียบเท่า ทง้ั น้ี ไม่ว่าผใู้ หบ้ ริการระบบดังกล่าวจะเป็นภาครัฐ หรือภาคเอกชนใหม้ กี ารบนั ทกึ เสยี งหรือทัง้ เสียงและภาพ แล้วแต่กรณีของผู้รว่ มประชุมทุกคนตลอดระยะเวลา คมู่ ือการปฏบิ ตั ริ าชการนอกสถานที่
6 ที่มีการประชุม รวมทั้งข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่เกิดจากการบันทึกดังกล่าว ทั้งนี้ โดยบันทึกในระบบ ควบคุมการประชุมหรอื โดยระบบอ่นื ใด การบันทึกข้อมูลตามวรรคสองจะต้องบนั ทึกในรปู ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ลงในส่ืออิเล็กทรอนกิ สท์ ่มี ี ความมนั่ คงปลอดภัยและดว้ ยวธิ ีการทเ่ี ช่อื ถอื ได้ตามข้อกำหนดแนบท้ายประกาศน้ี 8. การเตรยี มความพรอ้ มด้านเทคโนโลยสี นับสนนุ การปฏบิ ตั ิงาน ในการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีเพื่อรองรับการ ปฏิบตั งิ านท้ังในสว่ นของหนว่ ยงานของรัฐต้นสังกัดของผู้ปฏิบัตริ าชการนอกสถานท่ี และในสว่ นของตัวผู้ปฏิบัติ ราชการนอกสถานท่ี 8.1 การเตรียมความพร้อมของหน่วยงานของรัฐรองรบั การปฏบิ ตั ริ าชการนอกสถานที่ 1) จัดเตรียมโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเทคโนโลยีใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) หรือ เทคโนโลยี MPLS (Multiprotocol Label Switching) หรือ Leased Line เพื่อรองรับการ เช่ือมโยงกบั International bandwidth ภายนอกประเทศ 2) จัดเตรียมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์เครื่องที่ พร้อมกล้องวีดีโอ หูฟัง และลำโพง หรือ Device อื่น ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายภายในสำนักงานได้ สำหรบั การปฏบิ ัตงิ านรว่ มกบั ผู้ที่ปฏิบตั ริ าชการนอกสถานท่ี 3) จัดเตรียมแอปพลิเคชัน และเทคโนโลยีที่สนับสนุนการทำงานต่าง ๆ สำหรับการปฏิบัติงาน รว่ มกนั ระหว่างผู้ท่ปี ฏิบตั ิงาน ณ สำนกั งาน กบั ผทู้ ี่ปฏิบตั ิงานนอกสถานที่ อาทิ • แอปพลเิ คชนั การทำงานสำนักงานออนไลน์ เช่น Microsoft Office 365 , Google G Suite เป็นต้น • แอปพลิเคชันรองรับการติดต่อสื่อสารในลักษณะของการประชุมออนไลน์ เช่น CISCO Webex Meeting , Microsoft Team , LINE Group Call เปน็ ต้น • แอปพลิเคชันสนับสนุนการทำงานร่วมกัน เช่น Microsoft Team , CISCO Webex Team เปน็ ตน้ 4) จัดเตรียมเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network: VPN) ที่มีการป้องกันและ ความเป็นส่วนตัวที่สูงเมื่อใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ต สำหรับการเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน ระบบงานภายในหน่วยงาน ของผปู้ ฏบิ ตั ิงานจากนอกสถานท่ี 5) จัดเตรียมระบบ Cloud Server ที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อรองรับการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ แบบรวมศูนย์ คมู่ อื การปฏบิ ตั ริ าชการนอกสถานท่ี
7 8.2 การเตรียมความพร้อมของผู้ปฏิบตั ริ าชการนอกสถานที่ 1) จัดเตรียมบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเทคโนโลยีใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) หรือ เทคโนโลยอี ินเทอรเ์ น็ตไร้สาย (Mobile broadband) 2) จัดเตรียม อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์เครื่องที่ พร้อมกล้องวีดีโอ หูฟัง และลำโพง หรอื Device อน่ื ๆ ท่ีสามารถเช่อื มต่อเขา้ กับเครือขา่ ยความเรว็ สูงได้ สำหรบั การ ปฏบิ ตั ิงานร่วมกบั ผทู้ ป่ี ฏิบัตงิ าน ณ สำนักงาน 3) จดั เตรยี มโปรแกรมประยุกต์ และเทคโนโลยีท่ีสนบั สนุนการทำงานตา่ ง ๆ อาทิ • แอปพลิเคชันการทำงานสำนักงานออนไลน์ เช่น Microsoft Office 365 , Google G Suite เปน็ ต้น • แอปพลิเคชันรองรับการติดต่อสื่อสารในลักษณะของการประชุมออนไลน์ เช่น CISCO Webex Meeting , Microsoft Team , LINE Group Call เป็นต้น • แอปพลิเคชันสนับสนุนการทำงานร่วมกัน เช่น Microsoft Team , CISCO Webex Team เป็นตน้ 9. แนวทางการดำเนนิ งานสำหรบั หนว่ ยงานของรฐั การดำเนินงานสำหรับหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ สามารถแบ่งการดำเนินการ ออกไดเ้ ป็น 3 ชว่ ง ดงั นี้ 9.1 การเตรียมการกอ่ นเริ่มการปฏบิ ัติราชการนอกสถานที่ 1) หัวหน้าสว่ นราชการ ระดับกระทรวง หรือระดบั กรม กำหนดนโยบายการปฏบิ ัตริ าชการนอก สถานที่ โดยกำหนดรูปแบบและรายละเอียดการปฏบิ ัติราชการนอกสถานที่ อย่างน้อย ดังน้ี • รปู แบบ และแนวทางการปฏบิ ตั ิงานนอกสถานที่ ท่เี หมาะสมกับหน่วยงาน • ลักษณะงานของหน่วยงานทส่ี ามารถปฏบิ ตั งิ านนอกสถานท่ีได้ท้ังหมด หรือบางสว่ น และ ลกั ษณะงานทไ่ี มส่ ามารถปฏิบัตงิ านนอกสถานทไ่ี ด้ • แนวทางการคัดเลอื กผปู้ ฏบิ ตั ิราชการนอกสถานท่ี • แนวทางการกำกบั และตดิ ตามการปฏบิ ัติงาน • แนวทางการยุติการปฏบิ ตั ิราชการนอกสถานท่ี • แนวทางจริยธรรมในการปฏิบตั ิราชการนอกสถานท่ี 2) หน่วยงานของรัฐต้นสังกัดเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยี และระบบการรักษาความ ปลอดภัย รองรับการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ พร้อมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ คมู่ ือการปฏิบตั ริ าชการนอกสถานที่
8 และบริการอินเทอร์เน็ต สำหรับผู้ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ตามความจำเป็นและเหมาะสม รวมท้ังควรจดั ให้มกี ารฝึกอบรมการใช้ระบบเทคโนโลยีและชอ่ งทางดิจิทลั ทจี่ ำเป็น 3) มอบหมายส่วนงานภายในที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายบุคลากร ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น รบั ผิดชอบในการปฏิบัติใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายการปฏบิ ัติราชการนอกสถานที่ 9.2 การดำเนนิ การช่วงการปฏบิ ัติราชการนอกสถานท่ี 1) ผู้บังคับบัญชาชั้นตน้ คัดเลือกข้าราชการ หรือบุคลากรของรัฐที่จะปฏิบัติราชการนอกสถานท่ี โดยอาจใช้วิธกี ารรับสมัครตามความสมัครใจ หรือการมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติราชการ นอกสถานที่ ตามเหตุผลความจำเป็น เชน่ กรณเี กิดโรคระบาด หรอื กรณีท่ีมีเหตุให้ไม่สามารถ เข้ามาปฏิบัติราชการ ณ สำนักงานได้ เปน็ ต้น โดยคำนึงถึงลักษณะงานท่ีสามารถปฏิบัติงานนอก สถานที่ได้ 2) ผู้ทไ่ี ดร้ บั การคัดเลอื กให้ปฏิบตั ิราชการนอกสถานท่ี ตกลงเปา้ หมายการปฏิบัติงานในช่วงเวลา ทไ่ี ม่ไดเ้ ขา้ มาปฏิบัตริ าชการ ณ สำนักงาน รว่ มกบั ผู้บงั คับบญั ชาช้ันตน้ โดยระบุเป็นผลสำเร็จ ของงานที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม โดยจัดทำในรูปแบบของข้อตกลงการปฏิบัติราชการนอก สถานท่ี ทั้งนี้อาจเป็นเป้าหมายที่ตัดทอนมาจากข้อตกลงการปฏิบัติราชการของข้าราชการ ในแตล่ ะรอบการประเมิน 3) ผู้บังคับบัญชาชั้นตน้ หรือผู้บงั คับบัญชาลำดับสูงขึ้นไปของข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐที่ จะปฏบิ ัติงานนอกสถานท่ี เปน็ ผู้เสนอหวั หน้าสว่ นราชการเพื่อพิจารณาสง่ั ให้ข้าราชการ หรือ บุคลากรภาครัฐ ที่ได้รับการคัดเลือกปฏิบัติราชการนอกสถานที่ พร้อมทั้งระบุเป้าหมายของ งานท่ีจะปฏิบัติในชว่ งเวลาทีไ่ มไ่ ดเ้ ขา้ มาปฏิบัตริ าชการ ณ สำนักงาน 4) ในช่วงระหว่างการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นของผู้ปฏิบัติงานนอก สถานที่ จะเป็นผู้กำกับและติดตามการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ และผู้ปฏิบัติงานจะต้อง ปฏิบัติงานอยา่ งมีความรบั ผดิ ชอบ และรายงานความกา้ วหนา้ การดำเนนิ งานให้ผู้บงั คบั บัญชา ช้ันต้นทราบเปน็ ระยะ โดยการกำกบั และติดตามการปฏบิ ัติงานอาจดำเนินการโดยผ่านระบบ หรอื ชอ่ งทางดิจทิ ัล 5) ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือฝ่ายเทคนิค จัดให้มีช่องทางในการให้คำแนะนำ ปรึกษา และ แก้ไขปัญหาเบื้องต้นในการใช้งานระบบเทคโนโลยีและช่องดิจิทัล สนับสนุนการปฏิบัติราชการ นอกสถานที่ 6) ในกรณีที่ผู้บงั คบั บญั ชาช้ันต้น หรือผู้บังคับบญั ชาลำดบั สูงขึน้ พบว่าผู้ปฏิบัติงานนอกสถานท่ี ไมร่ ับผดิ ชอบในการปฏิบัติงาน ใหเ้ ปน็ ไปตามข้อตกลงการปฏิบัตริ าชการนอกสถานท่ี หรือไม่ คมู่ อื การปฏิบตั ิราชการนอกสถานที่
9 ปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรมในการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ ให้เสนอหัวหน้าส่วนราชการ เพือ่ พจิ ารณายุติการปฏิบัติราชการนอกสถานท่ีของผู้ปฏบิ ตั งิ าน 9.3 การดำเนินการภายหลงั ส้นิ สุดการปฏบิ ตั ริ าชการนอกสถานที่ 1) ผู้ปฏบิ ตั ิงานนอกสถานที่รายงานผลการปฏิบตั ิงานตอ่ ผ้บู ังคับบญั ชาชัน้ ต้น 2) ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นประเมินผลการปฏิบัติงาน ตามข้อตกลงการปฏิบัติราชการนอกสถานท่ี พรอ้ มท้งั รายงานผลสำเร็จของงานตอ่ หัวหนา้ ส่วนราชการ 3) ประเมินผลการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ในภาพรวมของหน่วยงาน ทั้งในมิติประสิทธิภาพ และประสิทธิผลการทำงานของหน่วยงาน และมิติความพึงพอใจของผู้ปฏิบัติงาน อย่างน้อย ปลี ะ 1 คร้ัง พร้อมทั้งถอดบทเรยี นการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ 10. แนวทางจรยิ ธรรมในการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ ข้าราชการ หรือบุคลากรภาครัฐ ที่ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ พึงปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรมในการ ปฏบิ ตั ิราชการนอกสถานท่ี ดังนี้ • ปฏิบัติราชการด้วยความมุ่งมั่นในการปฏบิ ัติงานให้บรรลุเป้าหมาย โดยอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม กฎหมาย กฎระเบียบ และประโยชน์ของทางราชการ ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว ทันเวลา และมีคณุ ภาพ • มีความรบั ผิดชอบ มวี ินยั และบริหารเวลา อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยเหน็ ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า ประโยชนส์ ่วนตน • ใหค้ วามสำคัญกบั สือ่ สารกับผบู้ งั คบั บัญชา และผ้รู ่วมงานอย่างสม่ำเสมอ ตรงต่อเวลา พร้อมยอมรับ ฟงั ความคดิ เหน็ เพอื่ ประสานประโยชน์ของงานให้เกดิ ประสิทธิภาพสูงสดุ • ปฏิบัติงานร่วมกับผูร้ ่วมงานทั้งที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ และที่ปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน ด้วย ความ เสียสละ ความเอ้อื อาทร และความเขา้ ใจ โดยไมถ่ ือวา่ การปฏิบัติราชการนอกสถานท่เี ป็นอภสิ ิทธ์ิ • ใช้ข้อมลู ขา่ วสารของทางราชการในทางท่ีเปน็ ประโยชน์ ถูกตอ้ ง ดูแลขอ้ มูลขา่ วสาร อย่างระมดั ระวัง ไม่เปดิ เผยขอ้ มลู ข่าวสารทเ่ี ปน็ ความลับของทางราชการต่อบุคคลอนื่ หรือในพ้นื ท่สี าธารณะ • มุ่งมั่นพัฒนาตนเอง ใฝ่หาความรู้ พัฒนาทักษะและความชำนาญในการปฏิบัติงาน ริเริ่มสร้างสรรค์ ส่ิงใหม่ ๆ และพรอ้ มปรบั ตัวให้ทันกบั ความเปลี่ยนแปลงทเ่ี กิดขนึ้ อย่เู สมอ คมู่ อื การปฏบิ ตั ิราชการนอกสถานที่
10 11. ปัจจัยสคู่ วามสำเร็จ • ผู้บริหาร และผู้บังคับบัญชา จะต้องมีความมุ่งมั่นในการปรับเปลี่ยนระบบการบริหาร จากการ บรหิ ารโดยการกำกับดูแล เปน็ การบรหิ ารโดยม่งุ ผลสมั ฤทธ์ิ • การคัดเลือกผู้ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ จะต้องเป็นผู้มีความรับผิดชอบ มีวินัย สามารถสร้าง แรงจูงใจและสามารถริเริ่มงานด้วยตนเอง ต้องการกำกับดูแลน้อย และมีทักษะในการปฏิบัติงาน ผ่านระบบและชอ่ งทางดจิ ทิ ลั • การกำหนดลักษณะงานที่สามารถปฏิบัติราชการนอกสถานที่ จะต้องเป็นงานท่ีเหมาะสมสามารถ ปฏบิ ัติงาน และประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านได้จรงิ อย่างเป็นรูปธรรม • ความพร้อมด้านเทคโนโลยีสนับสนุนการปฏิบัติงาน ที่เอื้อให้การปฏิบัติราชการนอกสถานที่เป็นไป อยา่ งไร้รอยตอ่ เสมอื นการปฏบิ ตั ริ าชการ ณ สำนักงาน • การสร้างการยอมรับในวัฒนธรรมการทำงานของราชการรปู แบบใหม่ โดยคำนึงผลสัมฤทธิ์ของงาน มากกว่าวธิ กี ารปฏิบตั ิงาน 12. ประโยชนท์ ีจ่ ะไดร้ บั 12.1 มติ ขิ องผู้ปฏิบตั ิ 1) เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานมีมากขึ้น เนื่องจากไม่ถูกรบกวนในระหว่างการ ทำงานที่อาจก่อให้เกิดการไขว้เขวหรือเสียสมาธิ และไม่สูญเสียเวลากับการสร้างสังคมหรือ การเมอื งในทีท่ ำงาน 2) ลดเวลาและค่าใช้จ่ายท่ีเกี่ยวข้อง เช่น คา่ เดินทาง ค่าจอดรถ คา่ อาหาร และคา่ เสอื้ ผ้า เป็นต้น 3) ความพึงพอใจในงานและขวัญกำลังใจดีขึ้น เพราะสามารถสร้างความสมดุลระหว่าง ภาระ งาน หน้าทีค่ วามรับผิดชอบอน่ื ๆ ในชีวติ ไดอ้ ย่างลงตัว 4) คุณภาพชวี ิตดีขนึ้ มีเวลามากขึน้ สำหรบั ครอบครัวและกจิ กรรมในชุมชน 12.2 มิติขององค์กร 1) ผลติ ผลขององค์กรเพม่ิ มากขึ้น 2) ลดความหนาแน่นในสำนักงาน/ มีการใช้เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย นอกจากนั้น ในระยะยาวยังสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านอาคารและสถานที่ได้ เนื่องจาก ขนาดของ สำนักงานจะเล็กลง 3) ลดค่าสาธารณูปโภค (เชน่ การใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในสำนักงาน ทง้ั จากอปุ กรณ์ไฟฟ้าและเคร่ือง ทำความเย็น) คมู่ ือการปฏบิ ตั ิราชการนอกสถานที่
11 4) สามารถธำรงรักษาเจา้ หน้าที่ที่มคี ุณภาพ อัตราการขาด ลา มาสาย และการลาออกลดลง ค่าใช้จ่าย ที่เก่ียวของลดลง (เช่น ค่าใช้จ่ายในการสรรหาและพัฒนาค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหารทำการนอก เวลา ฯลฯ) …………………………………………………………………………………… คมู่ อื การปฏิบตั ิราชการนอกสถานท่ี
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: