กล่มุ ส่งเสริมผลติ ภณั ฑ์การทาํ ฆ้องบ้านทรายมูล นายเปรมวทิ ย์ จิระสญั ญาณสกลุ ต.ทรายมูล อ.พบิ ูลมงั สาหาร จ.อบุ ลราชธานี รหสั ประจาํ ตวั 615220002-1 สาขาวฒั นธรรม ศิลปกรรม และการออกแบบ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น
ฆ้อง (น.) หมายถงึ เคร%ือง ตีใหเ้ กิดเสียงอยา่ งหน%ึง ทาํ ดว้ ยโลหะผสม รูปร่างเป็น แผน่ วงกลม มีขอบยน%ื ลง มารอบตวั เรียกวา่ ใบฉตั ร มีป่ ุมตรงกลางสาํ หรับตี มี หลายชนิด เช่น ฆอ้ ง กระแต ฆอ้ งชยั ฆอ้ งวง เป็นตน้ (พจนานุกรม ราชบณั ฑิตยสถาน)
ความสําคญั ของ “ฆ้อง” ในบ้านทรายมูล • เป็นภูมิปัญญาทอ้ งถ1ินที1สืบต่อกนั มาชา้ นาน โดยผจู้ ดั ทาํ ไดท้ าํ การสมั ภาษณ์ พอ่ สุ พนั ธ์ เจริญพนั ธ์ ชาวบา้ นอยุ 57 ปี ชาวบา้ นทรายมูลไดก้ ล่าววา่ “ทาํ มาตKงั แต่พ.ศ. 2524 โดยประมาณ โดยผสู้ ูงอายใุ นหมู่บา้ นเป็นคนพาทาํ เพราะเมื1อก่อนไดไ้ ปรับ ฆอ้ งมาขายจากร้านสงั ฆภณั ฑ์ เมื1อผา่ นไปสกั พกั จึงอยากลองทาํ เอง เพื1อจะไดช้ ่วย สร้างรายไดใ้ หแ้ ก่ชาวบา้ นในหมู่บา้ น จนเกิดเป็นภูมิปัญญาประจาํ ทอ้ งถิ1นที1ไดร้ ับ การยอมรับในระดบั จงั หวดั ไปจนถึงระดบั ประเทศ และไดร้ ับการพฒั นามาเร1ือยๆ จากอดีตจนถึงปัจจุบนั ”
พืน# ทศ'ี ึกษา (ภาพกว้าง) : แผนทจี' งั หวดั อบุ ลราชธานี (สืบค้นจาก https://sites.google.com/site/ubonr000/c-xublrachthani/0-3-phaenthi- canghwad-xublrachthani) เมื'อวนั ที' 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561
แผนทอ&ี าํ พบิ ูลมงั สาหาร จงั หวดั อบุ ลราชธานี (สืบคน้ จาก http://www.lib.ubu.ac.th/html/ub_info/map/piboon_map.html) เมื,อวนั ท,ี 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561
การเดนิ ทาง • กลุ่มส่งเสริมผลิตภณั ฑก์ ารทาํ ฆอ้ งบา้ นทรายมูล ต<งั อยทู่ >ี 347 หมู่ 2 ถ. พบิ ูล-โขงเจียม ต.ทรายมูล อ.พบิ ูลมงั สาหาร จ.อุบลราชธานี • วธิ ีการเดนิ ทาง เร-ิมจากอาํ เภอพบิ ูลมงั สาหาร เดินทางตามถนน หมายเลข 222 ถนนพบิ ูล-โขงเจียม จากน<นั จะพบป้ายองคก์ ารบริหาร ส่วนตาํ บลทรายมูลอยทู่ างซา้ ยมือ ใหเ้ ล<ียวขวาเขา้ สู่ภายในหมู่บา้ น ทรายมูล (ทางเขา้ หมู่บา้ นจะอยฝู่ >ังตรงขา้ ม)
(สืบคน้ จาก http://earth.google.com) เม,ือวนั ท,ี 29 สิงหาคม พ.ศ. 1561
พืน# ทบี' ริเวณโดยรอบของหมู่บ้าน
ผลติ ภณั ฑ์ (Product) 1. รูปแบบในการผลติ • ฆอ้ งในบา้ นทรายมูลจะมีรูปแบบพเิ ศษที9เป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะ คือ มี ทBงั หมด 9 จูม (จูม หมายถึง ส่วนท9ีนูนตรงกลางของฆอ้ ง) ซ9ึงในอดีตแต่ ก่อนฆอ้ งที9บา้ นทรายมูลจะมีเพยี งแค่ 1 จูม ตามลกั ษณะโบราณ ส่วน สาเหตุท9ีเป็น 9 จูม นBนั ผจู้ ดั ทาํ ไดท้ าํ การสมั ภาษณ์ พอ่ ประยงค์ ไชยรักษ์ อบต.ประจาํ หมู่ 10 ไดก้ ล่าววา่ “ผเู้ ฒ่าผแู้ ก่อยากใหล้ งเลข 9 ซ9ึงถือวา่ เป็นเลขมงคล โดยมีคามเชื9อวา่ การงานจะกา้ วไปขา้ งหนา้ และตรงกบั รัชกาลที9 9 ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในตอนนBนั ดว้ ย” จึงเป็น ที9มาของเลข 9 ซ9ึงหมายถึงการมี 9 จูมในปัจจุบนั • ลกั ษณะของลายฆอ้ งในอดีตจะเป็นลายโบราณ ซ9ึงส่วนใหญ่จะเป็นใบ โพธYิ และในปัจจุบนั ไดร้ ับการปรุงปรุงเร9ือยๆจนมีลายท9ีหลากหลาย ยกตวั อยา่ งเช่น ลายไทย ลายธรรมจกั ร ลายอาเซี9ยน เป็นตน้
ตวั อยา่ งของลวดลายฆอ้ ง ในลกั ษณะต่างๆ
2.วสั ดุทแี( ละอุปกรณ์ทใ(ี ช้ในการผลติ • ในอดีตชาวบา้ นใชท้ องเหลืองในการ นาํ มาตีฆอ้ ง ส่วนในปัจจุบนั ส่วน ใหญ่จะใชเ้ ป็นเหลก็ ส่วนอุปกรณ์ ต่างๆไดแ้ ก่ คอ้ น, คอ้ นจิก, เครืGองอ๊ อก, เครGืองดดั
กระบวนการในการผลติ 1. ตดั เหลก็ เป็นวงกลม โดยใชว้ งเวยี นในการวดั เสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง ตามขนาดท>ีตอ้ งการ จากนAนั ตดั เหลก็ เป็นส>ีเหล>ียม ความยาวเท่ากบั เสน้ รอบวงของวงกลม เพือ> นาํ มาเช>ือมเป็นขอบ
• ในกรณีที(เป็นฆอ้ งใหญ่ จะต่างกวา่ ฆอ้ งเลก็ เพียงเลก็ นอ้ ย นน(ั กค็ ือ จะตดั เหลก็ เป็นสี(เหลี(ยมขนาดใหญ่ จากนBนั จึงจะตดั เหลก็ มาเช(ือมใส่ใหเ้ ป็น วงกลม หลงั จากนBนั จึงตดั เหลก็ เสน้ เพ(ือมาเชื(อมเป็นขอบ
• ในสมยั ก่อนท,ียงั ไม่มีเคร,ืองเช,ือมเหลก็ ชาวบา้ นไดใ้ ช้ ไฟในการหลอมเชื,อมเหลก็ โดยจะมีอุณหภูมิท,ี พอเหมาะไม่ร้อนมากจนเกินไป ซ,ึงในปัจจุบนั ไม่นิยม ใชว้ ธิ ีดงั กล่าวแลว้
2. ตีเคาะจูม โดยจะเริ/มจากจูมใหญ่ตรงกลาง และโดยรอบ อีก 8 จูม รวมท=งั หมดเป็น 9 จูม โดยการตีจะตีกบั ดินทราย ตามความชาํ นาญของแต่ละบุคคล หรือนาํ แผน่ เหลก็ ไปตีใน “เบา้ ” เพอื/ ใหไ้ ดจ้ ูมท/ีตอ้ งการ
ลกั ษณะต่างๆของเบา้
3. หงายข'ึน แลว้ ตีเป็นขอบ โดยพอ่ สุพนั ธ์และพอ่ ประยงคไ์ ดอ้ ธิบายวา่ ขอบของฆอ้ งเป็นตวั เข่งเอา เสียง (ต'งั เสียง) โดยสามารถตีเอาไดท้ 'งั เสียงสูงและ เสียงตHาํ มีวธิ ีตีเฉพาะส่วนตวั บุคคล เพอHื ไล่หาเสียง ใหเ้ พราะตามทHีตอ้ งการ ส่วนคอ้ นทีHใชต้ ีฆอ้ งจะ ข'ึนอยกู่ บั ขนาดฆอ้ ง กล่าวคือ ฆอ้ งตวั เลก็ ใชค้ อ้ นเลก็ ส่วนฆอ้ งตวั ใหญ่จะใชค้ อ้ นตวั ใหญ่
4. นาํ ไปวาดเป็นลวดลายต่างๆตามตอ้ งการ โดยลายท8ีไดร้ ับความนิยมคือ ลายกงจกั ร โดยพอ่ ประยงคจ์ ะเรียกวา่ ลายทางวดั ตาม แบบอีสาน
การใช้งาน / การจาํ หน่าย 1. คนไทยส่วนใหญ่จะนาํ ไปใชใ้ นวดั เพ8ือตีเป็นสญั ญาณแก่พระสงฆแ์ ละญาติโยม หรือใช้ในการประดบั วดั 2. ชาวต่างชาตินิยมซIือไปเป็นของตกแต่งบา้ น ของฝาก หรือท8ีระลึก
3. ชาวบา้ นนาํ ไปจาํ หน่ายผา่ นร้านคา้ OTOP และร้านคา้ ในชุมชน เพ:อื สร้างรายไดใ้ หแ้ ก่หมู่บา้ น
สรุปผลและวเิ คราะห์ • จากการศึกษาถึงการทาํ ฆอ้ งของบา้ นทรายมูลน7นั ถือ วา่ เป็นภูมิปัญญาทอ้ งถAินทAีทาํ สืบต่อกนั มาชา้ นาน โดย ชาวบา้ นมีนโยบายจะอนุรักษไ์ วต้ ลอดสืบจนรุ่นลูกรุ่น หลาน ถือเป็นเอกลกั ษณ์ประจาํ หมู่บา้ น รวมไปจนถึง เป็นเอกลกั ษณ์ประจาํ จงั หวดั ซAึงผวู้ จิ ยั มีความเห็นวา่ ภูมิปัญญาน7ีควรค่าแก่การทีAจะไดร้ ับการอนุรักษแ์ ละ พฒั นาต่อยอดสืบต่อไปในภายภาคหนา้
ผู้ให้ข้อมูล นายบุญรัก สมเทพ อายุ 57 ปี ผใู้ หญ่บา้ นตาํ บลทรายมูล
นายประยงค์ ไชยรักษ์ อายุ 56 ปี อบต.ประจาํ หมู่ 10 บา้ นทรายมูล 2 สมยั
นายสุพนั ธ์ เจริญพนั ธ์ อายุ 57 ปี ชาวบา้ นตาํ บลทรายมูล
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: