Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการสอนของครูวิศนี ใจฉกาจ

รายงานการสอนของครูวิศนี ใจฉกาจ

Published by benjamas, 2021-09-15 18:53:55

Description: รายงานการสอนของครูวิศนี ใจฉกาจ

Search

Read the Text Version

วันท่ี 3 กันยายน 2564 ท 32101 ภาษาไทย นางสาววิศนี ใจฉกาจ ม.5/8 จำนวน 42 คน ข้ันนำ 1. ครสู นทนากบั นักเรยี นเรอ่ื งความสำคัญของการพดู แลว< ใหน< กั เรียนรว? มกนั แสดง ความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั การพดู โน<มน<าวใจเร่ือง การพดู โตว< าที 2. ครูใหน< ักเรียนดูสอื่ ประกอบการโตว< าที จาก youtube แล<วร?วมกันอภปิ ราย ขน้ั สอน 1. ครูแบง? นักเรียนเปนQ กลุ?ม กล?ุมละ 7-9 คน แลว< ใหน< กั เรียนแต?ละกล?มุ ร?วมกันศึกษา ความร<เู รื่อง การพูดโนม< น<าวใจ และมารยาทในการพูด จากหนงั สอื เรียน และ แหลง? ขอ< มูลสารสนเทศ power point เร่อื ง การพูดโตว< าที โดยให<สมาชกิ แต?ละคน ในกลุม? เลอื กศึกษาหัวข<อตามประเดน็ ทก่ี ำหนด 2. นักเรยี นแต?ละกล?ุมเร่มิ พดู โต<วาทีตามญตั ตทิ ก่ี ลุ?มของตนเองกำหนด ของการพดู แลว< ให<นกั เรียนรว? มกันแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั การพูดโนม< น<าวใจเรื่อง การพดู โต<วาที ขั้นสรุป 1. ครูชแ้ี จงคะแนนนกั เรียนแตล? ะกล?มุ ตามเกณฑทb ีก่ ำหนด 2. ครูและนักเรยี นร?วมกนั สรุปความรู< เรื่องการโนม< น<าวใจ จากการโตว< าที

ขัน้ นำ 1. ครสู นทนากับนกั เรยี นเรอื่ งความสำคัญของการพูด แล<วให<นกั เรยี นร?วมกันแสดงความ คดิ เหน็ เกยี่ วกับการพูดโน<มน<าวใจเรื่อง การพดู โต<วาที 2. ครูให<นักเรยี นดูส่อื ประกอบการโตว< าที จาก youtube แลว< รว? มกนั อภิปราย

ขัน้ สอน 1. ครแู บง? นักเรียนเปQนกล?มุ กลุม? ละ 7-9 คน แลว< ให<นักเรียนแต?ละกล?มุ ร?วมกันศึกษาความรู< เร่ือง การพดู โนม< นา< วใจ และมารยาทในการพดู จากหนงั สอื เรยี น และแหล?งข<อมูลสารสนเทศ power point เรือ่ ง การพูดโต<วาที โดยให<สมาชิกแต?ละคนในกลม?ุ เลอื กศึกษาหัวขอ< ตามประเด็นท่กี ำหนด 2. นักเรยี นแต?ละกลุ?มเริม่ พูดโตว< าทีตามญัตติท่กี ลมุ? ของตนเองกำหนด การพด ตว้ าที



ข้นั สรปุ 1. ครูช้แี จงคะแนนนกั เรียนแต?ละกลมุ? ตามเกณฑbที่กำหนด 2. ครูและนกั เรยี นรว? มกันสรุปความรู< เร่อื งการโนม< นา< วใจ จากการโตว< าที

บนั ทึกหลังสอน ผลการจดั การเรยี นรู/ นกั เรยี นรอ) ยละ 98 มคี วามกระตือรือร)นและสนใจในเรอ่ื งทคี่ รูอธิบาย เข)าเรยี นออนไลนBทกุ ตามตาราง เรียน สามารถโต)วาทใี นหัวข)อทคี่ รูกำหนดให)ได)อยIางดีเยยี่ ม แสดงความคิดเหน็ ไดอ) ยIางมีเหตและผล ใช)ภาษาได) อยาI งถกู ตอ) ง ผาI นเกณฑBทีค่ รกู ำหนด มีนกั เรียนรอ) ยละ 2 ทยี่ งั ไมกI ลา) พดู โตว) าทีและแสดงความคดิ เห็นทำใหไ) มIผIาน เกณฑBที่ครูกำหนด ป1ญหาและอุปสรรค มีนกั เรยี นรอ) ยละ 2 ทยี่ ังไมกI ลา) พูดโต)วาทแี ละยงั แสดงความคดิ เหน็ ไมIตรงประเดน็ ทำให)ไมผI าI นเกณฑBที่ ครกู ำหนด แนวทางการแกป/ ญ1 หา นักเรียนท่ียังไมสI ามารถพดู โตว) าทีให)ตรงประเดน็ ทีก่ ำหนด ใหฝ) Uกพดู กบั เพื่อนรIวมทมี เพิ่มเวลาฝกU ซอ) มใน ลกั ษณะเพื่อนชวI ยเพอื่ น โดยมีครคู อยให)คำแนะนำอยIางใกล)ชดิ เม่ือพร)อมแลว) ใหพ) ดู โต)วาทอี ีกคร้ัง จนผาI นเกณฑBที่ ครูกำหนด ลงช่อื วิศนี ผูร) ายงาน (นางสาววิศนี ใจฉกาจ) 15 กนั ยายน 2564

ภาคผนวก - แผนการสอน - วฒุ ิบตั ร ผา่ นการอบรม เร5ืองทกั ษะความเข้าใจ และใช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั (Digital Literacy) - สอ5ื การสอน

แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่องที่ 1 หลกั การพูดโน้มน้าวใจ 1 ช่วั โมง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั ท 3.1 ม.4-6/5 พูดในโอกาสตา่ งๆ พูดแสดงทรรศนะ โตแ้ ย้ง โนม้ น้าวใจ และเสนอแนวคิดใหมด่ ว้ ยภาษา ถูกตอ้ ง เหมาะสม ม.4-6/6 มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การพูดโน้มนา้ วใจประเภทต่างๆ ควรใชภ้ าษาที่ถูกต้องเหมาะสมในการเสนอแนวคิดใหม่ และมีมารยาทใน การพดู 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 1) การพดู ในโอกาสต่างๆ เชน่ - การพดู โนม้ นา้ วใจ 2) มารยาทในการพูด 3.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่ (พิจารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา) 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 4) ทกั ษะการประเมิน 5) ทักษะการนำความรไู้ ปใช้ 4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการพดู 2) ทักษะการเชือ่ มโยง 3) ทักษะการให้เหตุผล 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 1. มวี นิ ัย 6. ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การแสดงบทบาทสมมติ การพดู โนม้ น้าวใจประเภทต่างๆ 7. การวัดและการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 8 เรื่อง การพูดโน้มนา้ วใจ 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1) ประเมินการพูดโตว้ าที 2) ประเมินการนำเสนอผลงาน 3) สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล 4) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 5) สังเกตคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.3 การประเมินหลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 8 เรอ่ื ง การพดู โนม้ นา้ วใจ 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - สงั เกตการแสดงบทบาทสมมติ การพดู โน้มน้าวใจประเภทตา่ งๆ 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำ 1. ครูสนทนากับนกั เรียนเรอ่ื งความสำคญั ของการพดู แล้วใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การพูดโน้มนา้ วใจเร่ือง การพดู โตว้ าที 2. ครใู ห้นักเรยี นดสู อ่ื ประกอบการโต้วาที จาก youtube แล้วร่วมกนั อภปิ ราย ขน้ั สอน 1. ครแู บง่ นักเรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 7-9 คน แลว้ ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศึกษาความรู้เรอื่ ง การพดู โนม้ นา้ วใจ และมารยาทในการพูด จากหนงั สอื เรียน และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ power point เรื่อง การพดู โตว้ าที โดยให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มเลือกศกึ ษาหัวข้อตามประเดน็ ทก่ี ำหนด

2. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ เร่มิ พูดโตว้ าทีตามญตั ติทก่ี ลุ่มของตนเองกำหนดของการพูด แลว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การพูดโน้มน้าวใจเรอ่ื ง การพดู โตว้ าที ข้ันสรุป 1. ครูช้ีแจงคะแนนนักเรยี นแต่ละกลุ่มตามเกณฑ์ทกี่ ำหนด 2. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้ เรอ่ื งการโน้มนา้ วใจ จากการโตว้ าที 9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรียน ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.5 2) ใบงานท่ี 8.1 เร่อื ง หลักการพดู โน้มน้าวใจ 3) power point การโตว้ าที 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.learners.in.th/blogs/posts/412950 - http://oftheincentive.blogspot.com/2011/05/blog-post_31.html

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 8 เรื่อง การพดู โนม้ นา้ วใจ คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 5. การพดู ข้อความนี้ ผพู้ ดู ใชก้ ลวิธใี ดในการโนม้ นา้ วใจ 1. การโน้มนา้ วใจ หมายความว่าอยา่ งไร ก. การแสดงใหเ้ หน็ ผลดี ก. ความพยายามในการทำให้บุคคลอนื่ เปลีย่ นแปลง ทศั นคติ ข. ความต้องการใหผ้ อู้ ่ืนมีความคดิ เห็นและการกระทำ ข. การสรา้ งความนา่ เชอื่ ถือในตัวผู้พูด ตามทีต่ นต้องการ ค. การทำให้ผ้ฟู งั เกดิ อารมณ์ความรสู้ กึ ร่วมกนั ค. ความคิดท่ีจะให้ผูอ้ ืน่ รว่ มมือกับตนกระทำในสงิ่ ท่ี ตนเอง ต้องการเปลี่ยนแปลง ง. การแสดงใหเ้ หน็ ความหนักแนน่ ของเหตุผล ง. การกระทำโดยวิธกี ารต่างๆ เพื่อเปลย่ี น 6. สจฺจํ เว อมตา วาจา คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย ความเชือ่ ทัศนคติ ค่านิยมและการกระทำของบคุ คล อ่านข้อความต่อไปนี้ แลว้ ตอบคำถาม ขอ้ 2-5 พุทธภาษติ บทนสี้ อนให้มีคณุ ลักษณะอยา่ งไรในการพดู ก. จรรยาในการพูด ข. มารยาทในการพูด ค. จริยธรรมในการพูด ง. คุณธรรมในการพูด “เมืองไทยมีสงิ่ มหศั จรรยท์ ร่ี อทา่ นคน้ หาอกี มากมาย ทั้ง 7. การพดู ใดไม่สอดคลอ้ งกับการแสดงความนับถอื ผฟู้ ัง ธรรมชาติ ศลิ ปวัฒนธรรม ผู้คนทม่ี มี ิตรไมตรี ยงิ่ ท่องเทย่ี ว ย่งิ เรียนรู้ ย่ิงรักเมอื งไทย ร่วมภาคภูมใิ จ ในความเปน็ ไทย แลว้ ท่านไดเ้ ดนิ ทาง ก. รกั ษาเวลาในการพดู ไปสัมผัสความมหัศจรรยข์ องเมอื งไทยแล้วหรือยงั คะ” ข. ใช้คำสภุ าพในการพูด ค. รจู้ ักกล่าวคำปฏสิ นั ถาร 2. ข้อความนเี้ ปน็ การพูดในลกั ษณะใด ง. พูดในสงิ่ ท่เี ป็นประโยชน์ ก. การพดู โตแ้ ยง้ ข. การพูดโฆษณา 8. การพดู โดยยกประโยชน์ ขอ้ ดี ข้อเสียของสง่ิ นั้นๆ ใหผ้ รู้ บั สาร ค. การพดู เชญิ ชวน ง. การพูดขอรอ้ งวงิ วอน ทราบ เป็นการพดู โน้มนา้ วใจประเภทใด 3. วธิ ีการพูดจากคำตอบท่ีถูกตอ้ งในข้อ 2 มีจุดมุ่งหมายอย่างไร ก. การพดู โต้แยง้ ข. การพดู โฆษณา ก. เพ่ือหักลา้ งเหตผุ ลของอีกฝ่าย ค. การพดู เชิญชวน ง. การพดู ขอรอ้ งวงิ วอน ข. เพือ่ ใหผ้ ูอ้ ่ืนร้สู กึ เห็นอกเหน็ ใจ 9. การโตว้ าที จัดเป็นการพูดโนม้ น้าวใจประเภทใด ค. เพอ่ื ชกั จงู ใหก้ ระทำหรอื เลิกกระทำตามทตี่ อ้ งการ ก. การพูดโฆษณา ข. การพดู โตแ้ ยง้ ง. เพือ่ ใหผ้ ู้ฟังมคี วามร้สู ึกอยากกระทำตามเจตนาผพู้ ดู ค. การพูดเชญิ ชวน ง. การพูดขอร้องวงิ วอน 4. จุดรว่ มในการพดู น้ี คือประเดน็ ใด 10. ขอ้ ใดแสดงมารยาทในการพดู ได้ถูกต้องและเหมาะสม ก. เป็นคนไทยเหมือนกัน ก. แป้ง พดู กบั เพือ่ นในท่สี าธารณะด้วยถอ้ ยคำสุภาพ ข. รักการทอ่ งเที่ยวเหมอื นกนั ข. ปอ พูดถงึ ปมด้อยของป่านเพือ่ ให้เกิดความสนกุ สนาน ค. มีความภาคภูมใิ จในความเป็นไทยเหมอื นกนั ค. ปยุ้ พดู ขยายขอ้ บกพร่องของเพอ่ื นทนี่ ำเสนอผลงาน ง. มคี วามช่นื ชมในศลิ ปวฒั นธรรมไทยเหมอื นกัน เสร็จก่อน ง. ปราง กลา่ วทักทายคณะครทู ่ีมาตรวจเยีย่ มโรงเรียน อยา่ งเป็นกันเอง

วุฒบิ ตั ร ผ่านการอบรม เร3ืองทกั ษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั (Digital Literacy)












Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook