รายงานการสอนออนไลน์ ของครูวลัยพรรณ ทองดอนเหมือน

ระหว่างวันที่ 13 กันยายน 2564 ท 23101 ภาษาไทย นางสาววลัยพรรณ ทองดอนเหมอื น 1 ห้อง จำนวน 28 คน ขน้ึ นำ - ครูเกร่ินนำพดู คยุ ถงึ ป้ายช่อื ร้านค้า ฮัง่ ซ้ง แลว้ ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตอบ วา่ มาจากภาษาอะไร - ครูให้นักเรียนชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งคำภาษาอืน่ ๆ ข้ึนมาอกี แลว้ ช่วยกนั วเิ คราะห์ทม่ี าของคำมาจากภาษาอะไร - นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด ขนั้ สอน - ครูใหน้ ักเรยี นศึกษา Power Point การใช้คำภาษาตา่ งประเทศ คำที่ยมื มาจากภาษาบาล-ี สันสกฤต คำทย่ี ืมมาจากภาษาเขมร คำท่ียมื มาจากภาษาจนี คำที่ยมื มาจากภาษาชวา มลายู คำทย่ี ืมมาจากภาษาอังกฤษ ขน้ั สรุป - ครูให้นักเรยี นทำแบบฝึก เรอื่ ง คำท่มี าจากภาษาต่างประเทศ - นกั เรยี นทำแบบฝกึ เร่ือง คำทีม่ าจากภาษาต่างประเทศส่งครตู รวจ - ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ เรื่อง คำท่มี าจากภาษาต่างประเทศ วา่ มีหลักการใช้ และการสงั เกตอย่างไรบา้ ง

กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนำ - ครูสนทนากับนักเรียนเก.ียวกับป้ายช.ือร้านค้าในท้องถ.นิ ของนักเรียน แล้วให้นักเรียน ช่วยกันยกตวั อย่าง - นักเรียนร่วมกันวเิ คราะห์ช.ือร้านค้าว่าเป็ นคาํ ท.มี าจากภาษาใดบ้าง และช่วยกันบอกท.มี า ของภาษานันI ๆ ในภาษาไทย - นักเรียนตอบคาํ ถามกระตุ้นความคดิ

ข้ันสอน ให$นักเรยี นศึกษา Power Point การใชค$ ำภาษาตา= งประเทศดงั นี้ - ศึกษาเร่อื ง คำท่ียมื มาจากภาษาบาล-ี สันสกฤต - ศกึ ษาเร่อื ง คำที่ยืมมาจากภาษาเขมร - ศึกษาเร่ือง คำที่ยมื มาจากภาษาจีน - ศึกษาเรอ่ื ง คำที่ยมื มาจากภาษาชวา มลายู - ศกึ ษาเรื่อง คำที่ยืมมาจากภาษาองั กฤษ

ข้นั สรปุ - นกั เรียนแตล= ะคนทำแบบฝกT เร่อื ง คำทม่ี าจากภาษาตา= งประเทศ เสร็จแล$วนำส=งครตู รวจ - นกั เรียนรว= มกนั สรปุ ความร$ูเรือ่ ง คำภาษาต=างประเทศในภาษาไทย ตามประเด็นความรู$ ดงั น้ี 1) หลกั การสงั เกตคำทมี่ าจากภาษาตา= งประเทศ 2) หลักการใชค$ ำภาษาต=างประเทศในภาษาไทย - นักเรยี นตอบคำถามกระตน$ุ ความคิด ข$อ 1-2 1) นกั เรียนคดิ วา= คำทยี่ ืมมาจากภาษาตา= งประเทศ เรายืมภาษาใดมาใช$มากทส่ี ุด เพราะเหตใุ ด (ภาษาบาลี-สนั สกฤต เพราะเปน^ ภาษาทเ่ี ขา$ มาพรอ$ มกบั ศาสนา) 2) ป_จจบุ ันเรายืมศพั ท`ประเภทใด เขา$ มาใชม$ ากทีส่ ุด (ศัพท`ที่เกี่ยวกับเทคโนโลย)ี

บันทึกหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นรู$ นักเรยี นร)อยละ 98 มคี วามสนใจตั้งใจฟง: ในเร่อื งท่คี รูอธบิ าย เขา) เรยี นออนไลนทD ุกตรัง้ ตามตารางเรยี น สามารถทำกิจกรรมทค่ี รกู ำหนดให)ไดอ) ยาJ งดี ใช)ภาษาไดอ) ยาJ งถกู ตอ) ง สามารถตอบคำถามได) ผาJ นเกณฑDทค่ี รู กำหนด มีนักเรียนร)อยละ 2 ทีย่ งั ไมเJ ข)าใจ ไมสJ ามารถตอบคำถามได) และใช)ภาษาไมถJ ูกต)อง ทำให)ไมJผJานเกณฑทD ีค่ รู กำหนด ป_ญหาและอปุ สรรค มนี กั เรยี นรอ) ยละ 2 ทย่ี งั ไมJเข)าใจ ไมสJ ามารถตอบคำถามได) และใช)ภาษาไมJถกู ตอ) ง ทำใหไ) มJผาJ นเกณฑDที่ ครกู ำหนด แนวทางการแก$ปญ_ หา ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมใหแ) กJนกั เรียนที่ยงั ใช)ภาษาไมถJ กู ตอ) ง และให)ฝกU ทำแบบฝกU โดยมเี พื่อนแนะนำใน ลกั ษณะเพ่ือนชJวยเพอื่ น และมีครูคอยดูแลจนสามารถใช)ภาษาไดอ) ยJางถกู ต)อง เมอ่ื เขา) ใจดีแลว) กใ็ หท) ำแบบทดสอบ อกี คร้งั จนผJานเกณฑทD ่คี รกู ำหนด ลงชื่อ ผู)รายงาน (นางสาววลัยพรรณ ทองดอนเหมอื น) 13 กนั ยายน 2564

ÀÒ¤¼¹Ç¡ - วฒุ ิบตั ร ผา่ นการอบรม เร3ืองทกั ษะความเข้าใจ และใช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั (Digital Literacy) - แผนการสอน - สอื3 การสอน

วุฒบิ ตั ร ผ่านการอบรม เร3ืองทกั ษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั (Digital Literacy)

แผนการจัดการเรียนร้ทู 0ี 1 คำภาษาตา่ งประเทศ 1 ชัว่ โมง ในภาษาไทย 1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การศึกษาเร่ืองการใช)คำในภาษาไทย จะตอ) งจำแนกและใช)คำภาษาตาJ งประเทศท่ใี ชใ) นภาษาไทยถูกตอ) ง 2. ตวั ช้ีวดั /จุดประสงคก` ารเรยี นรู$ 2.1 ตวั ชีว้ ดั ท 4.1 ม.3/1 จำแนกและใช)คำภาษาตJางประเทศทีใ่ ชใ) นภาษาไทย 2.2 จุดประสงคก` ารเรียนรู$ - จำแนกและใช)คำภาษาตJางประเทศที่ใชใ) นภาษาไทยได) 3. สาระการเรยี นร$ู 3.1 สาระการเรยี นรแู$ กนกลาง - คำท่ีมาจากภาษาตJางประเทศ 3.2 สาระการเรยี นรู$ท$องถิ่น (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศึกษา) 4. สมรรถนะสำคัญของผ$เู รยี น 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการจำแนกประเภท 2) ทกั ษะการเปรียบเทียบ 4.3 ความสามารถในการใชท$ กั ษะชวี ิต

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค` 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเd รยี นร)ู 3. มงJุ มนั่ ในการทำงาน 4. รักความเปeนไทย 6. กจิ กรรมการเรียนร$ู ขน้ั นำ - ครสู นทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกับปาf ยชื่อรา) นค)าในทอ) งถนิ่ ของนักเรยี น แล)วใหน) ักเรียนชวJ ยกนั ยกตวั อยาJ ง - นกั เรียนรวJ มกันวเิ คราะหDชื่อรา) นค)าวาJ เปeนคำท่ีมาจากภาษาใดบา) ง และชJวยกันบอกทมี่ าของภาษาน้ันๆ ในภาษาไทย - นกั เรียนตอบคำถามกระตุน) ความคิด ข้ันสอน ใหน) ักเรยี นศึกษา เพาเวอรDพอ) ย การใช)คำภาษาตJางประเทศดังนี้ - ศึกษาเร่อื ง คำที่ยืมมาจากภาษาบาลี-สนั สกฤต - ศึกษาเรือ่ ง คำทย่ี ืมมาจากภาษาเขมร - ศกึ ษาเรอ่ื ง คำที่ยมื มาจากภาษาจนี - ศึกษาเร่อื ง คำทย่ี มื มาจากภาษาชวา มลายู - ศึกษาเร่อื ง คำที่ยืมมาจากภาษาองั กฤษ ข้นั สรุป - นักเรยี นแตลJ ะคนทำใบงานที่ เร่ือง คำท่มี าจากภาษาตJางประเทศ เสรจ็ แลว) นำสJงครูตรวจ - นักเรยี นรJวมกันสรุปความรเ)ู ร่อื ง คำภาษาตJางประเทศในภาษาไทย ตามประเดน็ ความร)ู ดังน้ี 1) หลกั การสงั เกตคำทีม่ าจากภาษาตJางประเทศ 2) หลกั การใชค) ำภาษาตJางประเทศในภาษาไทย - นักเรยี นตอบคำถามกระตุน) ความคดิ ขอ) 1-2 1) นักเรียนคิดวJา คำท่ียืมมาจากภาษาตJางประเทศ เรายมื ภาษาใดมาใชม) ากท่ีสดุ เพราะเหตใุ ด (ภาษาบาลี-สันสกฤต เพราะเปนe ภาษาท่ีเขา) มาพรอ) มกับศาสนา) 2) ปจ: จุบันเรายืมศพั ทDประเภทใด เขา) มาใชม) ากที่สดุ (ศัพทDท่เี กยี่ วกับเทคโนโลย)ี

7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ` วิธกี าร แบบทดสอบกJอนเรยี น (ประเมนิ ตามสภาพจริง) ตรวจแบบทดสอบกอJ นเรียน ตรวจใบงาน ใบงาน รอ) ยละ 60 ผJานเกณฑD ตรวจแบบบนั ทกึ การอJาน แบบบันทึกการอJาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผJาน สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล เกณฑD สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุมJ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผาJ น รายบคุ คล เกณฑD สังเกตความมวี ินยั ใฝเd รยี นร)ู มJุงม่นั ในการ ทำงานและรักความเปeนไทย แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลJุม ระดับคุณภาพ 2 ผJาน เกณฑD แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคD ระดบั คุณภาพ 2 ผาJ น เกณฑD 8. สื่อ/แหลง= การเรียนร$ู 8.1 ส่ือการเรยี นร$ู 1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ) าษา ม.3 2) แบบฝกU เรือ่ ง คำทีม่ าจากภาษาตาJ งประเทศ 8.2 แหล=งการเรยี นร$ู 1) ห)องสมุด 2) แหลJงขอ) มูลสารสนเทศ - http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1377 - http://www.oknation.net/blog/print.php?id=480569

แบบฝึ ก คาํ ท,มี าจากภาษาต่างประเทศ คาํ ชีแ: จง ให้นกั เรียนเขียนตวั อยา่ งคําที6มาจากภาษาตา่ งประเทศ ภาษาละ @A คํา ลงในตาราง คาํ ท,มี าจาก ตวั อย่างคาํ ศัพท์ ภาษาบาล-ี สนั สกฤต ภาษาเขมร ภาษาจีน ภาษาชวา-มลายู ภาษาองั กฤษ (พิจารณาตามคําตอบของนกั เรียน โดยให้อยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผ้สู อน) คาํ ชีแ: จง ให้นกั เรียนตอบคําถามตอ่ ไปนี R 1. คําที6มาจากภาษาเขมร มีหลกั การสงั เกตอยา่ งไร คําท6ีมาจากภาษาเขมรมีหลกั การสงั เกต ดงั นี R @) มกั เป็นภาษาคําโดด V) มีลกั ษณะการสะกดไมต่ รงกบั ภาษาไทย W) เป็นคําท6ีไมม่ ีรูปวรรณยกุ ต์ Y) เป็นคําแผลง [) มกั นํามาใช้เป็นคําราชาศพั ท์ 2. ภาษาบาลสี นั -สกฤตเข้ามาในภาษาไทยได้อยา่ งไร ภาษาบาล-ี สนั สกฤตเข้ามาพร้อมกบั การเข้ามาค้าขายของชาวอินเดีย นอกจากจะนําสนิ ค้ามา ขายแล้ว พอ่ ค้าชาวอินเดียยงั ได้นําศาสนาและวฒั นธรรมเข้ามาด้วย ภาษาบาลเี ป็นภาษาที6ใช้ใน พระพทุ ธศาสนา ภาษา สนั สกฤตเป็นภาษาที6ใช้ในศาสนาพราหมณ์จงึ เข้ามาในภาษาไทยด้วย 3. ภาษาจีนที6นํามาใช้ในภาษาไทย มีลกั ษณะอยา่ งไร ภาษาจีนในภาษาไทยมีลกั ษณะ ดงั นี R @) เป็นคําท6ีมีเสยี งวรรณยกุ ต์ตรีหรือจตั วา V) เป็นคําที6ผสมด้วยสระเสยี งสนัR เอียะ และ อวั ะ W) เป็นคําท6ีมีพยญั ชนะต้นเป็นอกั ษรกลางมากกวา่ พยญั ชนะต้นอ6ืนๆ

4. ภาษาชวา-มลายู เข้ามาในภาษาไทยในสมยั ใด พร้อมกบั วรรณคดีเรื่องใด ภาษาชวา-มลายู เขา้ มาในภาษาไทยในสมยั กรงุ ศรีอยุธยาตอนปลาย พร้อมกบั วรรณคดเี ร่อื งดา หลงั และอเิ หนา 5. คำท่ยี มื มาจากภาษาอังกฤษเขา้ มาใช้ในภาษาไทย มขี อ้ สงั เกตอย่างไร คำท่ยี มื มาจากภาษาอังกฤษเข้ามาใช้ในภาษาไทยมีข้อสังเกต ดงั น้ี 1) เป็นคำทีม่ หี ลายพยางค์ 2) ไม่มกี ารเปลย่ี นแปลงรูปไวยากรณ์ 3) มีเสยี งพยัญชนะท่ไี มม่ รี ะบบเสียงในภาษาไทย

ส่อื การสอน











ขอบคุณคะ่