Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กรุงรัตนโกสินทร์ สำเร็จ - Copy

กรุงรัตนโกสินทร์ สำเร็จ - Copy

Published by hongyook.ty2331, 2018-11-15 03:24:00

Description: กรุงรัตนโกสินทร์ สำเร็จ - Copy

Search

Read the Text Version

ลดั เลาะรอบกรงุ รตั นโกสนิ ทร์

คานา หนงั สืออิเล็กทรอนกิ สเ์ ลม่ นจี้ ดั ทาขนึ้ เพ่อื ใหค้ วามสะดวกสบายตอ่ ผทู้ ี่ตอ้ งการหาสถานทที่ อ่ งเทย่ี วรอบกรงุ รตั นโกสินทรห์ วงั ว่าหนงั สือเลม่ นี้จะให้ประโยชนไ์ มม่ ากก็นอ้ ยหากผดิ พลาดประการตอ้ งขออภยั มา ณ ท่นี ี้ นางสาวกชกร ชะเอมจนั ทร์ 15 พฤศจกิ ายน 2561

สารบญั 0 1มารจู้ กั กรงุ รตั นโกสนิ ทรก์ นั เถอะ 3พระที่นงั่ อนนั ตสมาคม 5ชมุ ชนบา้ นบาตร 7ตกึ ถาวรวตั ถุ 9นทิ รรศนร์ ตั นโกสนิ ทร์ป้ อมพระสเุ มรแุ ละสวนสนั ตชิ ยั ปราการ

มารจู้ กั กรงุ รตั นโกสินทรก์ นั เถอะสถานที่ดงั้ เดิมของกรงุ เทพฯเดิมสถานท่ที ่สี รา้ งกรงุ รตั นโกสินทรน์ น้ั สมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ าฯ ไดจ้ าลองแบบผงัเมืองมาจากอยธุ ยา และอาณาเขตของกรงุ เทพฯ ก็ไม่ไดก้ วา้ งขวางอย่างปัจจุบันนี้อาณาเขตของกรงุ รัตนโกสินทรถ์ กู กาหนดขนึ้ โดยแม่นา้ เจา้ พระยาท่ีไหลเขา้ มาเป็ นกาแพงกน้ั พระนครอย่ดู า้ นหนง่ึ และมคี ลองอีก 3 สายท่ีรายลอ้ ม เนอื่ งจากสภาพพ้ืนทท่ี ีม่ นี า้ ลอ้ มรอบถึง 3 ชนั้ ทาใหด้ คู ลา้ ยกับเกาะ จึงเป็ นที่มาของ คาว่า “เกาะรัตนโกสินทร์” และในสมัยรัชกาลท่ี 4 ไดเ้ ปลี่ยนช่ือกรงุ เทพฯ เป็ น “กรงุ เทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรา ยธุ ยามหาดิลก นพรัตนราชธานี บุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สัก กะทัตติยะ วิษณกุ รรมประสิทธ์ิ” ซึ่งเป็ นชอื่ เมืองหลวงทีม่ ีความยาวทสี่ ดุ ในโลก ปัจจบุ ัน พ.ศ. 2547 หรือรัตนโกสินทรศ์ ก ( ร.ศ.) 222 โฉมหนา้ ของกรงุ เทพฯ ได้ เปล่ียนไปท้ังรปู ลักษณ์ และอาณาเขต เรียกไดว้ ่าเป็ นเมืองที่ผสมผสานไปดว้ ย วฒั นธรรมดงั้ เดิมแบบไทยๆ และวฒั นธรรมสมยั ใหม่จากตะวนั ตก และในวันท่ี 21 เมษายน พ.ศ. 2547 กรงุ เทพฯ มอี ายคุ รบ 222 ปี เต็ม บรรณานกุ รม “ทอ่ งเทีย่ ว-อาหาร” ผจู้ ดั การ (5 เม.ย. 2547 ) หนา้ 32 บทความโดย ชตุ มิ า เรืองอดุ ม ขา่ วรามคาแหง ปี ที่ 34 ฉบบั ที่ 6 วนั ที่ 31พฤษภาคม-6 มถิ นุ ายน 2547

พระที่นงั่ อนนั ตสมาคม

พระท่ีนงั่ อนนั ตสมาคมธรรมศาลาแห่งราชอาณาจกั รไทยเป็ นแบบอย่างท่ีดีสาหรบัผทู้ ่ีมีสว่ นเกี่ยวขอ้ งในการดารงชีพของพระพทุ ธศาสนา . ป.ช. เป็ นอีกรปู แบบหนึ่งของลาซาลกั ษณะของพระที่นงั่ อนนั ตสมาคมอยใู่ นชว่ งเวลาของการกอ่ สรา้ งอาคารท่ีมีรปู แบบท่ีทาจากทองแดงมีขนาดใหญ่อย่ตู รงกลางและโดมเล็ก ๆ อยู่รายรอบอีก 6 โดมดว้ ยส่ิงที่ ช่วยเสริมความงามของสภุ าพสตรีเหล่าน้ีคือหินโขลกท่ีมีคุณภาพสูงและมีคุณภาพสูงติดตั้งเป็ นรูปเรือนแพและประดับประดาด้ว ยพระทนี่ งั่ อนนั ตสมาคมธรรมศาลาแห่งราชอาณาจกั รไทยเป็ นแบบอย่างท่ีดีสาหรับผทู้ ่ีมีสว่ นเก่ียวขอ้ งในการดารงชีพของพระพทุ ธศาสนา . ป.ช. เป็ นอีกรปู แบบหน่ึงของลาซาลกั ษณะของพระทีน่ งั่ อนนั ตสมาคมอยใู่ นชว่ งเวลาของการกอ่ สรา้ งอาคารที่มีรปู แบบท่ีทาจากทองแดงมีขนาดใหญ่อย่ตู รงกลางและโดมเล็ก ๆ อยู่รายรอบอีก 6 โดมดว้ ยส่ิงที่ ช่วยเสริมความงามของสภุ าพสตรีเหล่าน้ีคือหินโขลกท่ีมีคุ ณ ภ า พ สู ง แ ล ะ มี คุ ณ ภ า พ สู ง ติ ด ต้ั ง เ ป็ น รู ป เ รื อ น แ พ

ชมุ ชนบา้ นบาตร

กลม่ ุ อนรุ กั ษไ์ ทยและภมู ิปัญญาไทย (ชมุ ชนบา้ นบาตร)ชา่ งทาบาตรของท่ีน่ี มีกระบวนการทาบาตรดว้ ยวิธีด้ังเดิม คือการต่อเหล็กและตีขน้ึ เป็ นรปู บาตรดว้ ยมือ นบั เป็ น งานบุ ของไทยแขนงหนึ่ง เรียกกนั ว่า \"บาตรบ\"ุบาตรของท่นี จี่ ะมรี าคาสงู เนอ่ื งจากใชช้ า่ งฝี มือระดบั ต่างๆกนั ประกอบดว้ ย ชา่ งตีขอบ ชา่ งตอ่ บาตร ช่างแลน่ ชา่ งลาย ชา่ งตี และชา่ งตะไบ คณุ สมบัติของบาตรจะมีความคงทน มีความหลากหลายในรปู ทรงท่ีสืบทอดภมู ิปัญญามาแต่โบราณ และถกู ตอ้ งตามพระธรรมวินยั ของพระพทุ ธศาสนาอีกดว้ ย

ตกึ ถาวรวตั ถุ

ตกึ สวยเดน่ ดว้ ยลกั ษณะอาคารยอดปรางค์ 3 ยอด บริเวณถนนหนา้ พระธาตใุ กลส้ นามหลวง ชวนใหเ้ ขา้ ไปเย่ียมชมความงดงามมชี อ่ื วา่ ตกึ ถาวรวตั ถุ หรือที่รจู้ กั กนั ในชอ่ื “ตึกแดง” ซ่ึงแตเ่ ดิมตกึ น้ี เคยเป็ นหอสมดุ แหง่ ชาติ โดยรชั กาลที่5 ไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ตง้ั ขนึ้ เมื่อวนั ที่ 12 ตลุ าคม พ.ศ. 2448 เพื่อใหเ้ ป็ นท่ีเลา่ เรียนของพระสงฆฝ์ ่ ายมหานกิ าย จนในเวลาตอ่ มาไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ง้ั มหาธาตวุ ิทยาลยั ขน้ึ ณ วดั มหาธาตยุ วุ ราชรงั สฤษฎ์ิ ปัจจบุ ันทนี่ จี่ งึ กลายเป็ นทจี่ ดัแสดงนทิ รรศการพระราชประวตั ิ และพระราชกรณียกจิ ในรชั กาลท่ี 5 ซ่ึงภายในแบ่งสว่ นนทิ รรศการออกเป็ น 7 สว่ นไดแ้ ก่ สว่ นที่ 1 “หอ้ งปิ ยมหาราช” จดั แสดงเนอื้ หา ภาพพระราชประวตั ิ และพระราชกรณียกจิ ที่สาคญั รวมทง้ั อญั เชญิพระบรมราโชวาทในวาระตา่ งๆ มาไวใ้ นสว่ นนี้ สว่ นที่ 2 “หอ้ งราชเคียงประชา” จดั แสดงพระราชกรณียกจิ ทยี่ งั ผลให้คนไทยมคี วามเสมอภาคในสงั คม โดยเฉพาะการเลิกทาส ทาใหร้ าษฎรไทยเป็ นไทแกต่ วั สว่ นที่ 3 “หอ้ งธารงเอกราช”จดั แสดงพระบรมราชวิเทโศบาย ในการเจริญพระราชไมตรกี บั ตา่ งประเทศ ชว่ ยใหช้ าตไิ ทยผา่ นพน้ วิกฤตการณท์ างการเมือง จากยคุ ลา่ อาณานคิ ม สว่ นท่ี 4 “หอ้ งสยามใหม”่ จดั แสดงการวางรากฐานกจิ การดา้ นสาธารณปู โภคของไทย พน้ื ฐานสาคญั ในการพฒั นาชาติ สว่ นที่ 5 “หอ้ งมรดกสถาปัตยกรรมแห่งสยาม” จดั แสดงอาคารจาลอง 3 มติ ิของสถาปัตยกรรมสาคญั 5 แหง่ ทเี่ กิดขน้ึ ในสมยั รชั กาลท่ี 5 สว่ นที่ 6 “หอ้ งมรดกความทรงจาแห่งโลก” จดั แสดงเอกสารทางประวตั ิศาสตรข์ องพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ที่เกย่ี วกบั การพฒั นาและการเปล่ียนแปลงประเทศไทยระหว่าง พ.ศ. 2411 - 2453 ซ่ึงองคก์ ารยเู นสโกประกาศใหเ้ ป็ นมรดกความทรงจา แห่งโลก เมอ่ื ปี พ.ศ.2552 ซ่ึงสามารถเลือกหยิบหนงั สอื มาอ่านและอา่ นสาเนาเอกสารบางสว่ น ดว้ ยระบบหนงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์ (E-Book)ได้ และสว่ นท่ี 7 “ปิ ยมหาราชรฤก” จดั แสดงภาพถ่ายสว่ นพระองคท์ ่ีหาดไู ดย้ ากยิ่งในปัจจบุ นั กอ่ นจะแวะซ้ือของทีร่ ะลึกเก็บเป็ นความประทบั ใจ อย่างโปสตก์ ารด์ ภาพยอ้ นอดีตเกย่ี วกบั ประวตั คิ วามเป็ นมาของไทยกลบั บา้ นไดด้ ว้ ยท่ ีตั้ง : ถนนหนา้ พระธาตุ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เปิ ดทาการวันพธุ - วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์ - อังคาร และวนั หยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 09.30 - 16.00 น. ไมเ่ สียค่าใชจ้ า่ ยใดๆ ในการเขา้ ชม สอบถามขอ้ มูลเพ่มิ เติมไดท้ ่ ี โทร.0 2222 4867, 0 2221 6830

นทิ รรศนร์ ตั นโกสินทร์

อาคารบริเวณถนนราชดาเนนิ กลาง เป็ นงานสถาปัตยกรรมท่ีเป็ นสว่ นหนงึ่ ของประวตั ศิ าสตรก์ รงุ เทพมหานคร นบั ตง้ั แตม่ พี ระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั (รชั กาลที่ ๕) ใหต้ ดั ถนนราชดาเนนิ จากพระราชวงั ดสุ ติ ไปยงั พระบรมมหาราชวงั โดยจดั วางรปู แบบตามลกั ษณะของ Champs Elysees ในประเทศฝรงั่ เศสการกอ่ สรา้ งถนนราชดาเนนิ เร่ิมตง้ั แตป่ ี พ.ศ. ๒๔๔๒ สว่ นอาคารตลอดแนวถนนราชดาเนนิ กลางไดเ้ ร่ิมดาเนนิ การในปี พ.ศ. ๒๔๘๐ โดยการเวนคืนท่ีดินทง้ั สองฝัง่ ถนนขา้ งละ ๔๐ เมตร และออกแบบโดยสถาปนกิหลายทา่ น ไดแ้ ก่ มล.ป่ ุม มาลากลุ , คณุ หมิว อภยั วงศ์ ซึ่งใช้แนวความคิดในการออกแบบจาก Champ Elysees ตามพระราชดาริเดมิของพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู วังานกอ่ สรา้ งอาคารบนถนนราชดาเนนิ กลาง ใชเ้ วลาระหว่างปี พ.ศ.๒๔๘๐ ถึง ๒๔๙๑ มีอาคารจานวน ๑๕ หลงั ใชง้ บประมาณกอ่ สรา้ ง ๑๐ลา้ นบาท โดยจา้ งผรู้ บั เหมากอ่ สรา้ ง อาทเิ ชน่ บรษิ ทั สงา่ วรรณดศิจากดั , บริษทั คริสเตียนแี อนดเ์ นลสนั จากดั และในขณะเดยี วกนั ได้กอ่ สรา้ งอนสุ าวรียป์ ระชาธปิ ไตยในปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ดว้ ย

ป้ อมพระสเุ มรแุ ละสวนสนั ตชิ ยั ปราการ

“ป้ อมพระสเุ มร”ุ เป็ น 1 ใน 14 ป้ อมทถี่ กู สรา้ งขน้ึ ในสมยัพระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ าจฬุ าโลก รชั กาลที่ 1กอ่ นทป่ี ้ อมตา่ งๆจะทรดุ โทรมลงตามกาลเวลาบวกกบั การพฒั นาเมอื งทมี่ กี ารสรา้ งถนนหนทาง ทาใหป้ ้ อมหลายป้ อมถกู ร้ือทง้ิ เหลือเพียงป้ อมมหากาฬและป้ อมพระสเุ มรทุ ี่ยงั คงสภาพค่อนขา้ งสมบรู ณป์ รากฏใหเ้ ห็นจนถึงปัจจบุ นันอกจากมปี ้ อมพระสเุ มรทุ ตี่ ง้ั ตระหงา่ นอย่บู ริเวณจดุ ตดัของถนนพระอาทิตยแ์ ละถนนพระสเุ มรแุ ลว้ ยงั มีสถาปัตยกรรมทเ่ี รียกว่า “พระทีน่ งั่ สนั ติชยั ปราการ”พลบั พลาท่ีสรา้ งขนึ้ เนอ่ื งในวโรกาสเฉลมิ พระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เมอื่ วนั ท่ี 5 ธนั วาคม 2542 ซึ่งก็ไดร้ บัพระราชทานนามจากพระองคท์ า่ นเชน่ กนันอกจากจะเป็ นสวนสาธารณะสาหรบั พกั ผอ่ นหยอ่ นใจแลว้ สวนสนั ติชยั ปราการยงั เป็ นสถานท่ีสาหรบั จดั กจิ กรรมตา่ งๆ เชน่เทศกาลลอยกระทง เทศกาลสงกรานต์ เป็ นตน้ หรือการจดัแสดงมหกรรมการแสดงทางวฒั นธรรม เนอื่ งในงานใตร้ ม่ พระบารมี 235 ปี กรงุ รตั นโกสินทร์ เมือ่ 20 – 25 เมษายน2559 ทีผ่ า่ นมาก็ไดใ้ ชส้ วนแหง่ นเ้ี ป็ นหนงึ่ ในสถานท่ีจดั งาน

บรรณานกุ รม“ทอ่ งเที่ยว-อาหาร” ผจู้ ดั การ (5 เม.ย. 2547 ) หนา้ 32บทความโดย ชตุ ิมา เรืองอดุ มขา่ วรามคาแหง ปี ท่ี 34 ฉบับท่ี 6 วนั ที่ 31พฤษภาคม-6 มถิ นุ ายน 2547https://thestandard.co/ananta-samakhom-palace/http://www.banbatt.com/https://thai.tourismthailand.org/http://www.nitasrattanakosin.com/home.phphttps://pantip.com/topic/36409544

นางสาวกชกร ชะเอมจนั ทร์ชน้ั ปวส. 2/4แผนกวิชา การโรงแรมวิทยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี

อาจารยว์ ิลาวลั ย์ วชั โรทยัครผู สู้ อน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี(3001-2001)ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2561

วทิ ยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook